ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ วชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี เรอื่ ง หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 2 วัฏจักรของหิน โดย นางสาวทพิ วรรณ หลุ่งต้ี โรงเรียนวดั หนัง สานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เรอ่ื ง หินและซากดึกดาบรรพ์ : ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองวฏั จักรหิน คาแนะนาสาหรบั ครูในการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ว16101) เร่ือง หินและซากดึกดาบรรพ์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดน้ีเป็นชุดท่ี 2 เรื่อง วัฏจักร ของหิน มีจุดมุ่งหมายเพ่ือช่วยให้การดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้และมี ประสิทธิภาพ ครูควรเตรียมความพรอ้ ม และปฏบิ ตั ิตาม คาแนะนาดังต่อไปน้ี คาแนะนาสาหรบั ครูในการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และอ่านเน้ือหาอย่างละเอียดรอบครอบพร้อมท้ังทาความเข้าใจ กับเนอื้ หา ทุกชุดกอ่ นการใช้งาน 2. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ สื่อการสอนต่าง ๆ สาหรับให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมให้ครบถ้วน และเพียงพอ กบั จานวนนกั เรยี น 3. ชี้แจงให้นกั เรยี นทราบถงึ ลาดับข้ันตอนและวธิ ีการสอนโดยแบบฝึกทักษะอย่างชัดเจน และประโยชน์ ที่ไดจ้ ากการสอนโดยแบบฝกึ ทักษะ 4. ช้ีแจงให้นักเรียนทราบเกี่ยวกับบทบาทของนักเรียนในการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ เข้าใจและเนน้ ยา้ เรือ่ งความซือ่ สตั ยโ์ ดยไม่คดั ลอกเพือ่ นหรือดูเฉลยล่วงหนา้ 5. ในขณะท่ีนักเรียนกาลังศึกษาเน้ือหาหรือปฏิบัติกิจกรรม ครูควรคอยให้ความช่วยเหลือ แนะนา กระตุ้นให้นักเรียน ทากิจกรรมอย่างกระตือรือร้นและตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ระหว่างเรียนพร้อม ทั้งสังเกต และประเมนิ พฤติกรรมการทางานของนกั เรียน 6. เวลาท่ีใช้ในการเรียนจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ของนักเรียนแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ครูควรยืดหยุ่น ได้ตามความเหมาะสมกบั สถานการณ์ 7. ในกรณีที่นักเรียนคนใดขาดเรียน ให้นักเรียนศึกษาเป็นรายบุคคล จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีครู เตรียมไว้ 8. สาหรับห้องเรียนท่ีใช้ในการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ น้ันสามารถเรียนได้ทั้งในห้องเรียน และนอกหอ้ งเรยี นตามความเหมาะสมกบั สถานการณ์ 9. เมื่อนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครบถ้วน ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน แล้วนาผลทดสอบก่อน เรียนและหลงั เรียนแจง้ ให้นักเรยี นทราบความก้าวหนา้ ทางการเรยี น 10. เม่ือนักเรียนเรียนรู้จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ครบทุกเร่ืองแล้ว ให้นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผล สมั ฤทธ์ิหลงั เรียน เร่ืองหนิ และซากดกึ ดาบรรพจ์ านวน 10 ข้อ เพอื่ ทราบผลการพฒั นาในภาพรวม
คาแนะนาสาหรบั นกั เรยี นในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ตอนในการเรียนรู้มดี งั นี้ 1. อ่านคาแนะนาสาหรบั นกั เรยี นให้เขา้ ใจก่อนทีจ่ ะลงมือศึกษาชดุ การสอน 2. การศกึ ษาชุดการสอนเล่มนใ้ี ห้ทาตามลาดบั ข้ันตอนโดยดแู ผนภูมปิ ระกอบ 3. นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนเพ่ือประเมินความรู้เดิมของนักเรยี น 4. นักเรียนทาแบบประเมินก่อนเรยี น เร่ือง วัฏจกั รของหิน 5. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ เร่อื ง วัฏจักรของหิน 6. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ตอนที่ 1- 4 เรอื่ ง เรื่องวฏั จักรของหนิ 7. นกั เรียนทาแบบประเมินหลงั เรยี น เพ่ือเปรยี บเทยี บความก้าวหนา้ ในการเรียนของนกั เรียน 8. ใหส้ มาชิกแตก่ ลุ่มปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามลาดับขัน้ ตอนที่กาหนดไวใ้ นชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 9. เม่อื นักเรยี นทากจิ กรรมทุกขั้นตอนเสรจ็ แลว้ ใหร้ บั ใบเฉลยจากครูไปตรวจคาตอบ 10. ถ้านกั เรียนทดสอบหลังเรยี นไมผ่ า่ นร้อยละ 80 ควรเร่ิมตน้ ศกึ ษาชดุ การสอนใหม่อกี คร้ัง 11. นกั เรยี นควรฝึกปฏบิ ัติด้วยตนเองอยา่ งเต็มความสามารถและซอ่ื สัตย์ไม่ลอกเพื่อนไม่เปดิ ดูเฉลยก่อน ซ่ึงจะทาให้การเรียนรู้ของนักเรียนบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ สามารถสร้างองคค์ วามรู้ได้ด้วยตนเอง 12. ถา้ นกั เรยี นมีขอ้ สงสัย สามารถสอบถามหรือขอคาแนะนาจากครูได้ทนั ที
แผนภูมิการใช้ชุดการสอนสาหรับนักเรยี น นกั เรยี นอา่ นคาแนะนา นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5 ขอ้ นักเรยี นศึกษากจิ กรรมการเรยี นรู้ ซ่อมเสรมิ นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 5 ข้อ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ ทาได้ 80 เปอรเ์ ซน็ ต์ นกั เรยี นศกึ ษาชดุ ต่อไป
ผลการเรียน ผลการเรียนรู้ เปรียบเทยี บกระบวนการเกิดหนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร และอธบิ ายวฏั จักรหนิ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายวฎั จกั รการเกดิ และการเปล่ยี นแปลงของหินได้ 2. เขียนแผนภาพกระบวนการเปลย่ี นแปลงของหินแต่ละประเภทได้
แบบประเมินกอ่ นเรียน ตอนท่ี 1 คาชแี้ จง :ให้นักเรยี นทาเครือ่ งหมาย x เลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ งที่สดุ เพยี ง 1 ตัวเลอื ก 1. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง ก. หนิ อัคนเี กดิ จากการเยน็ ตัวของแมกมา ข. หนิ ตะกอนและหินแปรมีกระบวนการเกดิ เหมือนกัน ค. หนิ อัคนีและหนิ แปรมีกระบวนการเกดิ เหมือนกัน ง. หนิ ตะกอนและหนิ แปรเกิดจากการแขง็ ตวั ของแมกมา 2. ขอ้ ใดคือขน้ั ตอนการเกิดหินอัคนี ข. ตะกอน สกึ กร่อน หินอัคนี ก. หินแปร ผุพงั หนิ อคั นี ง. แมกมา เยน็ ตวั หินอัคนี ค. หินตะกอน ผพุ ัง หนิ อัคนี 3. ข้อใดไม่ใช่ปจั จยั ท่ีทาให้หินประเภทหน่ึงเปลีย่ นไปเป็นหินอกี ประเภทหนึ่ง ก. การสึกกรอ่ นและทับถม ข. การเยน็ ตวั และตกผลกึ ค. การระเหยและการกล่ันตวั ง. ความรอ้ นและความดันภายในโลก 4. ขอ้ ใดกลา่ วเก่ยี วกบั วฏั จกั รหนิ ไม่ถกู ต้อง ก. หินอัคนี หินตะกอน และหินแปรเป็นหินท่แี ปรสภาพเปน็ หินแปรได้ ข. เมื่อหินอคั นไี ดร้ ับความรอ้ น ความดันจะทาให้เปลยี่ นเป็นหินแปรได้ ค. หินแปรเม่ือเกิดการผุพัง สึกกร่อนและทบั ถม จะเปล่ียนเปน็ หินอัคนี ง. หินแปรบางชนิดเกิดจากหินตะกอนเกดิ การแปรสภาพ 5. หินชนดิ หน่ึงประกอบด้วยผลึกแรข่ นาดใหญ่ สีต่าง ๆ กัน หินชนดิ นีเ้ กิดขนึ้ ได้ตามข้อใด ก. เกิดจากความร้อนความดันที่เกดิ ขน้ึ ภายในเปลือกโลก ข. เกิดจากการทับถมของตะกอนสีตา่ ง ๆ อดั กันแน่น ค. เกดิ จากแมกมาเย็นตัวลงภายในเปลือกโลก ง. เกิดจากลาวาเย็นตวั ลงบนเปลือกโลก คะแนนท่ไี ด้.............................. เยี่ยมท่ีสดุ ขอ้ เสนอแนะจากครู.................................................................................................. ................................................................................................................................. ทาไดด้ ี ................................................................................................................................. พอใช้ ลงช่ือผปู้ กครอง.................................................รบั ทราบขอ้ เสนอแนะ ปรบั ปรุงอกี นดิ ลงชื่อนกั เรยี น....................................................รับทราบข้อเสนอแนะ
ใบความรู้ เร่อื งวัฏจกั รของหนิ นักธรณีวิทยาจาแนกหินออกตามลักษณะการเกิดได้ 3 ประเภท คือ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร เป็นหินตามธรรมชาติท่ีมีการเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมาตลอดเวลา ซึ่งหินแต่ละประเภทอาจจะมีการ เปลีย่ นแปลงจากประเภทหน่ึงไปเปน็ อกี ประเภทหนึง่ หรอื ประเภทเดมิ ได้ โดยมรี ูปแบบการเปล่ียนแปลงที่คงท่ีและ ตอ่ เนอื่ งเปน็ วฏั จักร เราเรียกว่า วฏั จักรหนิ (rock cycle) ดงั ภาพ เมอ่ื ตะกอนทับถมกนั จนได้ที่จะ เมอื่ หนิ อคั นเี กดิ การผพุ งั สกึ กรอ่ น กลายเป็นหนิ ตะกอนหรอื หินชนั้ จะกลายเปน็ หนิ ตะกอน การผพุ ัง สกึ กรอ่ น และการทับถม การทับถมและการเยน็ ตัว หินตะกอน หนิ ตะกอน ความ ้รอน และความดัน การ ุผ ัพง ึสกกร่อน การทับถม หินแปร ความรอ้ นและความดนั หินอคั นี เมือ่ หนิ ตะกอน แมกมา เมื่อหินแปรจมลงใต้ ถกู ความร้อนและ แผนภาพ วฏั จกั รหิน (rock cycle) เปลือกโลกก็จะถกู ความดนั มากระทา หลอมเหลมเยน็ ตัว จะกลายเปน็ หนิ แปร และตกผลกึ
แบบฝกึ หดั ตอนที่ 1 คาช้แี จง : ให้นักเรียนเตมิ คาลงในช่องว่างและระบุชือ่ ของหินแต่ละประเภท ใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์ ตอนที่ 2 ให้นกั เรียนอธบิ ายกระบวนการเกิดวัฏจักรของหิน ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .............................................
แบบฝึกหัด (ตอ่ ) ตอนท่ี 3 คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาขอ้ ความและนาอักษร ก – ช ไปเติมลงใน ชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง ก. การผพุ งั ข. การหลอมเหลว ค. การสะสมตัวของตะกอน และการเชื่อมประสานตะกอน ง. การแปรสภาพ จ. การเย็นตัวและตกผลึกของแมกมา ฉ. การตกผลึกหรือตกตะกอน ของสารบางชนดิ ช. การเย็นตวั และตกผลกึ ของลาวา และการเย็นตวั และแข็งตวั ของลาวา หนิ อคั นี ลาวา ตะกอน แมกมา หนิ แปร หินตะกอน ตอนท่ี 4 คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนทาเครอ่ื งหมาย หนา้ ขอ้ ความทเ่ี ลือก ขอ้ ใดตอ่ ไปนส้ี อดคลอ้ งกบั กระบวนการเกิดวัฏจกั รของหิน ................ 4.1 การเย็นตัวและตกผลึกของแมกมาใตผ้ วิ โลกเกดิ เปน็ หนิ แปร ................ 4.2 การผุพงั ของหินทุกประเภทเกิดเปน็ ตะกอน ................ 4.3 การแปรสภาพเม่ือไดร้ บั ความรอ้ นและความดนั ของหินเกิดเป็นหินแปร ................ 4.4 การเคล่ือนที่ของตะกอนโดยนา้ ลม เกดิ การประสานตะกอนเป็นหินอัคนี
แบบประเมนิ หลังเรียนเรยี น ตอนท่ี 1 คาชีแ้ จง :ให้นักเรยี นทาเครอ่ื งหมาย x เลอื กคาตอบที่ถกู ต้องท่สี ุดเพียง 1 ตวั เลอื ก 1. หนิ ชนิดหน่ึงประกอบด้วยผลึกแรข่ นาดใหญ่ สีต่าง ๆ กัน หินชนิดนี้เกดิ ขนึ้ ได้ตามข้อใด ก. เกิดจากความรอ้ นความดนั ที่เกดิ ขึน้ ภายในเปลือกโลก ข. เกดิ จากลาวาเยน็ ตวั ลงบนเปลือกโลก ค. เกิดจากแมกมาเย็นตัวลงภายในเปลือกโลก ง. เกิดจากการทับถมของตะกอนสีต่าง ๆ อัดกันแนน่ 2. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ัจจัยท่ที าให้หินประเภทหนึ่งเปล่ยี นไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่ง ก. การระเหยและการกล่ันตัว ข. การเย็นตัวและตกผลกึ ค. การสึกกร่อนและทบั ถม ง. ความร้อนและความดนั ภายในโลก 3. ขอ้ ใดคือข้ันตอนการเกิดหินอัคนี ก. หนิ แปร ผุพงั หินอัคนี ข. แมกมา เยน็ ตัว หินอัคนี ค. หนิ ตะกอน ผพุ งั หินอัคนี ง. ตะกอน สึกกรอ่ น หนิ อัคนี 4. ข้อใดกลา่ วเก่ยี วกบั วัฏจกั รหนิ ไม่ถูกตอ้ ง ก. หินแปรเม่ือเกิดการผุพัง สึกกร่อนและทบั ถม จะเปลี่ยนเป็นหินอัคนี ข. เมื่อหินอคั นไี ด้รบั ความร้อน ความดนั จะทาให้เปล่ยี นเป็นหนิ แปรได้ ค. หินอัคนี หินตะกอน และหนิ แปรเปน็ หินท่แี ปรสภาพเป็นหินแปรได้ ง. หินแปรบางชนิดเกิดจากหนิ ตะกอนเกดิ การแปรสภาพ 5. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง ก. หนิ อัคนีและหินแปรมกี ระบวนการเกดิ เหมือนกัน ข. หนิ ตะกอนและหินแปรมีกระบวนการเกดิ เหมือนกัน ค. หินอัคนเี กิดจากการเย็นตวั ของแมกมา ง. หินตะกอนและหินแปรเกดิ จากการแขง็ ตัวของแมกมา คะแนนท่ไี ด้.............................. เยีย่ มทส่ี ดุ ข้อเสนอแนะจากครู.................................................................................................. ................................................................................................................................. ทาไดด้ ี ................................................................................................................................. พอใช้ ลงชื่อผปู้ กครอง.................................................รับทราบขอ้ เสนอแนะ ปรับปรุงอกี นดิ ลงช่ือนกั เรียน....................................................รบั ทราบข้อเสนอแนะ
แบบประเมนิ กอ่ นเรียน ตอนท่ี 1 คาช้ีแจง :ให้นักเรียนทาเครือ่ งหมาย x เลอื กคาตอบทถ่ี กู ต้องท่ีสดุ เพียง 1 ตัวเลอื ก 1. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง ก. หินอัคนีเกดิ จากการเยน็ ตัวของแมกมา ข. หนิ ตะกอนและหนิ แปรมกี ระบวนการเกิดเหมือนกัน ค. หินอัคนแี ละหินแปรมีกระบวนการเกิดเหมือนกัน ง. หนิ ตะกอนและหนิ แปรเกิดจากการแข็งตัวของแมกมา 2. ขอ้ ใดคือขนั้ ตอนการเกดิ หินอัคนี ข. ตะกอน สกึ กรอ่ น หนิ อัคนี ก. หินแปร ผพุ งั หนิ อคั นี ง. แมกมา เย็นตัว หนิ อัคนี ค. หนิ ตะกอน ผพุ ัง หินอัคนี 3. ข้อใดไม่ใช่ปัจจยั ทีท่ าให้หินประเภทหน่ึงเปล่ียนไปเป็นหินอกี ประเภทหนึ่ง ก. การสกึ กร่อนและทบั ถม ข. การเยน็ ตวั และตกผลึก ค. การระเหยและการกล่ันตัว ง. ความรอ้ นและความดนั ภายในโลก 4. ขอ้ ใดกล่าวเก่ยี วกบั วัฏจักรหินไม่ถูกตอ้ ง ก. หนิ อัคนี หินตะกอน และหินแปรเปน็ หินที่แปรสภาพเป็นหินแปรได้ ข. เมื่อหินอัคนีได้รบั ความร้อน ความดันจะทาให้เปลยี่ นเป็นหนิ แปรได้ ค. หินแปรเม่ือเกิดการผุพัง สึกกร่อนและทบั ถม จะเปลี่ยนเป็นหนิ อัคนี ง. หินแปรบางชนิดเกิดจากหินตะกอนเกดิ การแปรสภาพ 5. หนิ ชนิดหน่ึงประกอบดว้ ยผลกึ แร่ขนาดใหญ่ สตี ่าง ๆ กัน หินชนดิ นเ้ี กิดขึน้ ไดต้ ามข้อใด ก. เกดิ จากความรอ้ นความดันทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายในเปลือกโลก ข. เกิดจากการทับถมของตะกอนสตี า่ ง ๆ อดั กันแนน่ ค. เกิดจากแมกมาเย็นตัวลงภายในเปลือกโลก ง. เกิดจากลาวาเย็นตวั ลงบนเปลือกโลก
แบบฝกึ หดั ตอนที่ 1 คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเติมคาลงในช่องวา่ งและระบุชื่อของหินแตล่ ะประเภท ให้ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ หนิ ตะกอน ตะกอน ได้รบั ความร้อน การผพุ งั สึกกรอ่ น หนิ แปร หนิ อัคนี หลอมละลาย การเยน็ ตวั และตกผลกึ แมกมาและลาวา ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นอธิบายกระบวนการเกดิ วัฏจักรของหนิ ........เ.ม..อ่ื..ห...นิ...ห..น...ืด..เ.ย..น็...ต..ัว..ล..ง..จ..ะ..ต...ก..ผ..ล...กึ ..ไ.ด...้เ.ป..็น...ห..ิน...อ..ัค...น..ี..เ.ม...ือ่ ..ห..ิน...อ..คั...น..ีแ..ล...ะ..ห..นิ...แ..ป..ร..ผ...า่ ..น..ก..ร..ะ..บ...ว..น..ก...า.ร..ผ..พุ...งั ... ..จ...น..ก..ล...า..ย..เ.ป..น็...ต..ะ..ก...อ..น...ส..ะ..ส..ม...ต..วั ..แ..ล..ะ..เ..ก..ดิ..ก...า.ร..แ...ข..็ง..ต..วั..ก..ล..า..ย...เ.ป..็น...ห..นิ...ต..ะ..ก...อ..น.....เ.ม..่อื..ห...นิ...ต..ะ..ก..อ...น..ไ.ด...้ร..ับ..ค..ว..า..ม.... ..ร..้อ...น..แ...ล..ะ..แ...ร..ง..ก..ด..อ...ัด..ส...ูง..จ..ะ..เ.ก...ิด..ก...า..ร..แ..ป...ร..ส..ภ...า..พ..ก...ล..า..ย..เ..ป..็น...ห..ิน...แ..ป...ร.....แ..ล...ะ..ห..ิ.น..ต...ะ..ก..อ...น..ก..ั.บ..ห...ิน..แ...ป..ร..เ..ม..ื่อ.... ..ไ..ด..ร้..บั...ค..ว..า..ม..ส...ูง.ม...า..ก..จ..น..ห...ล..อ...ม..ล..ะ..ล...า.ย...ก..็จ..ะ..ก...ล..า..ย..ส..ภ...า.พ...เ.ป...น็ ..ห...นิ ..ห...น..ดื.....ซ...่งึ .เ..ม..ื่อ..เ.ย...็น..ต..วั..ล...ง.ก...็จ..ะ..ต..ก...ผ..ล..ึก..เ..ป..็น.... ..ห...นิ...อ..คั ..น...ี ..อ..ีก...ค..ร..ั้ง..ห..น...ึง..ว..น..เ.ว..ีย...น..เ.ช..่น...น..เ้ี..ร..อื่ ..ย..ไ..ป..เ.ป...็น..ว..ัฏ...จ..ัก..ร..ข..อ...ง..ห..ิน......................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .............................................
แบบฝึกหัด ตอนที่ 3 คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นพิจารณาข้อความและนาอกั ษร ก – ช ไปเตมิ ลงใน ช่องว่างใหถ้ กู ต้อง ก. การผพุ งั ข. การหลอมเหลว ค. การสะสมตัวของตะกอน และการเชื่อมประสานตะกอน ง. การแปรสภาพ จ. การเยน็ ตวั และตกผลึกของแมกมา ฉ. การตกผลึกหรือตกตะกอน ของสารบางชนดิ ช. การเยน็ ตัวและตกผลึกของลาวา และการเย็นตัวและแข็งตวั ของลาวา หินอัคนี ลาวา ช ก ตะกอน จ งฉ แมกมา ก ข ข ก ข คก ค หินแปร ค หินตะกอน ตอนท่ี 4 คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นทาเครื่องหมาย หน้าขอ้ ความทีเ่ ลือก ขอ้ ใดต่อไปนี้สอดคล้องกับกระบวนการเกิดวฏั จกั รของหนิ ........-...... 4.1 การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของแมกมาใตผ้ ิวโลกเกิดเป็นหนิ แปร ..... .... 4.2 การผุพงั ของหนิ ทกุ ประเภทเกดิ เป็นตะกอน .... ..... 4.3 การแปรสภาพเม่อื ไดร้ ับความร้อนและความดนั ของหนิ เกดิ เปน็ หินแปร ........-...... 4.4 การเคล่ือนทขี่ องตะกอนโดยนา้ ลม เกดิ การประสานตะกอนเป็นหินอคั นี
แบบประเมินหลังเรียนเรียน ตอนที่ 1 คาชี้แจง :ให้นกั เรียนทาเคร่ืองหมาย x เลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งท่ีสดุ เพยี ง 1 ตวั เลือก 1. หนิ ชนดิ หนึ่งประกอบดว้ ยผลกึ แรข่ นาดใหญ่ สีต่าง ๆ กัน หนิ ชนิดน้ีเกดิ ข้นึ ได้ตามข้อใด ก. เกิดจากความร้อนความดันท่ีเกดิ ขนึ้ ภายในเปลือกโลก ข. เกิดจากลาวาเยน็ ตัวลงบนเปลือกโลก ค. เกิดจากแมกมาเย็นตัวลงภายในเปลือกโลก ง. เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนสีต่าง ๆ อัดกันแน่น 2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปัจจยั ท่ีทาให้หินประเภทหนึ่งเปลีย่ นไปเป็นหินอกี ประเภทหน่ึง ก. การระเหยและการกลั่นตวั ข. การเยน็ ตัวและตกผลกึ ค. การสึกกร่อนและทบั ถม ง. ความร้อนและความดันภายในโลก 3. ขอ้ ใดคือขน้ั ตอนการเกดิ หินอคั นี ข. แมกมา เย็นตวั หินอคั นี ก. หินแปร ผพุ ัง หนิ อัคนี ง. ตะกอน สกึ กรอ่ น หินอคั นี ค. หินตะกอน ผพุ ัง หนิ อคั นี 4. ข้อใดกลา่ วเก่ยี วกบั วัฏจักรหินไม่ถูกตอ้ ง ก. หนิ แปรเมื่อเกดิ การผพุ ัง สกึ กร่อนและทบั ถม จะเปล่ียนเป็นหนิ อัคนี ข. เม่ือหินอัคนไี ดร้ บั ความร้อน ความดันจะทาใหเ้ ปลี่ยนเปน็ หินแปรได้ ค. หนิ อัคนี หินตะกอน และหินแปรเป็นหินท่ีแปรสภาพเป็นหินแปรได้ ง. หินแปรบางชนดิ เกดิ จากหินตะกอนเกดิ การแปรสภาพ 5. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. หินอัคนแี ละหนิ แปรมีกระบวนการเกิดเหมือนกัน ข. หนิ ตะกอนและหนิ แปรมีกระบวนการเกิดเหมือนกัน ค. หนิ อัคนเี กดิ จากการเยน็ ตวั ของแมกมา ง. หินตะกอนและหนิ แปรเกิดจากการแข็งตวั ของแมกมา
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: