ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Curcuma longa Linn ช่อื ท้องถ่นิ : ขมนิ้ แกง ขมนิ้ ชัน ขมิ้นหยอก ขม้ินหัว ขมี้ ิ้น ตายอ สะยอ หมิ้น ส่วนทีใ่ ชเ้ ปน็ ยา : เหงา้ สรรพคณุ : เหง้ารสฝาดหวานเอียน แก้ไข้เบื่อดี คลั่งเพ้อ แก้ไข้เรื้อรัง ผอม เหลือง แก้โรคผิวหนัง แก้ เสมหะและดลหิต แก้ท้องร่วง สมานแผล แก้ธาตุ พิการ ขับผายลม แก้ผ่ืนคัน ขับกล่ินและสิ่งสกปรก ในร่างกาย รักษาแผลใน กระเพาะอาหาร แก้ทอ้ งร่วง แกบ้ ิด รายงานวิจยั ปจั จบุ ัน : จากการศกึ ษาพบวา่ ขม้ินมฤี ทธิ์ขับลม รักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดท้อง แนน่ จุกเสยี ด อาหารไมย่ ่อย ฆา่ เชื้อรา ปอ้ งกันตับอกั เสบ รักษาสวิ สภาพแวดล้อมทเ่ี หมาะสม : 1. ดิน ขม้ินชอบดินร่วนซุย pH ระหว่าง ๕ - ๗ มีการระบายน้าดี พ้ืนที่ท่ีมีน้าขัง หรือมีความช้ืนสูงเกินไปหรือมีการระบายน้าไม่ดีจะท้าให้เหง้า ขม้ินเน่าเสียหายได้ ดังนั้น ดินเหนียวหรือดินที่เป็นลูกรังและพ้ืนท่ีที่ค่อนข้าง แห้งแล้ง จงึ ไม่เหมาะสมตอ่ การปลูกขมนิ้ ขม้ินสามารถปลูกบนพื้นที่ท่ีสูงตั้งแต่ ระดับน้าทะเลจนกระทั่งความสูง ประมาณ ๑,๓๕๐ เมตร ปลูกกันมากท่ีระดับ ความสงู ๔๕๐ - ๙๐๐ เมตร เหนอื ระดับ น้าทะเลปานกลาง 2. น้า ขมิ้นชอบบริเวณพ้ืนที่ที่ความชื้นสูง ต้องการน้าฝนเพ่ือการ เจริญเตบิ โต ประมาณปลี ะ ๑,๐๐๐ - ๒,๐๐๐ มลิ ลิเมตร หรอื ทม่ี ีปริมาณน้าฝน
๑,๒๐๐ - ๑,๔๐๐ มิลลิเมตรต่อปีในเวลา ๑๐๐ - ๒๐๐ วัน ฉะนั้นถ้าปลูกในที่ ท่ีมีปริมาณน้าฝนน้อย ตอ้ งมรี ะบบการใหน้ า้ หรือชลประทานช่วย 3. อากาศ ขมิ้นชันขึ้นได้ดีในสภาพอากาศร้อน ไปจนถึงอบอุ่น ที่มี ความชน้ื และปริมาณน้าพอเพียง การคดั เลือกพนั ธ์ุ : ควรคัดเลือกพันธุ์ท่ีเหง้าสมบรูณ์มีอายุเก็บเก่ียวระหว่าง ๗ - ๙ เดือน หรือต้ังแต่ ๗ เดือนขึ้นไป ท้ังหัวหรือแง่งควรมีตามากกว่า ๒ - ๕ ตาข้ึน ไป มคี วามแกร่ง ไมเ่ ลก็ ลีบ ปราศจากโรคและแมลงศัตรู การขยายพันธุ์ : ขม้ินชันใช้วิธีการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เพศ โดยส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์ คอื เหง้า การปลูก : ๑. ฤดูเพาะปลูก ส่วนมากจะอยู่ในช่วงฤดูฝนหรือก่อนฤดูฝน เล็กน้อย ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม การเพาะปลูกขมิ้นในเขต ชลประทานจะใชเ้ วลางอกประมาณ ๑๕ วนั แต่ถ้าปลูกในท่ีราบอาศัยน้าฝนจะ ใช้เวลาประมาณ๑ เดือน จากนั้นอีกประมาณ ๕ - ๖ เดือน จะเป็นช่วงเวลา การเจรญิ เติบโตทางลา้ ต้นและใบ การเจริญเติบโตทางล้าต้นและใบน้ีจะส้ินสุด ลงในราวเดอื นกันยายนถึงเดือนตุลาคม ต่อไปจะเป็นการเจริญเติบโตของเหง้า และเริ่มออกดอกในชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายน แตข่ มิน้ บางตน้ และบางปีเท่าน้ันท่ีจะ มีการออกดอก ซึง่ การออกดอกของขม้ินเป็นส่ิงท่ีต้องการของเกษตรกร เพราะ มีผลท้าให้เหง้าขม้ินเจริญเติบโตและมีขนาดเล็กลง ดังน้ัน เกษตรกรจึงควรตัด ช่อดอกตั้งแตใ่ นระยะเรม่ิ แรก ๒. การเตรียมดิน การเตรียมดินปลูกขมิ้นชันจ้าเป็นต้องขุดหรือไถ พรวนเพื่อให้ดินร่วนซุยข้ึน ถ้าเป็นพื้นท่ีที่มีวัชพืชมากและหน้าดินแข็งควรไถ พรวนไม่น้อยกว่า๒ ครั้ง คือ ไถดะ เพ่ือก้าจัดวัชพืชและเปิดหน้าดินให้ร่วนซุย
แล้วตากดินไว้๑ - ๒สัปดาห์ เพ่ือท้าลายไข่แมลง เช้ือโรคในดิน และไถแปร เพื่อกลับหน้าดินท้าให้ดินร่วนซุยและละเอียดข้ึน พร้อมกับเก็บเศษไม้และ วัชพืชออกจากแปลงให้หมด ถ้าเป็นดินเหนียวจัดควรใส่ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก อัตรา ๑ ตัน/ไร่ เพ่ือปรบั ปรุงสภาพดิน การเตรียมดินควรไถพรวนก่อนต้นฤดูฝน ให้มี สภาพพรอ้ มปลกู ในต้นฤดูฝน ๓. การเตรียมพันธ์ุ ท่อนพันธ์ุที่ใช้มี๒ ชนิด คือ แง่งแม่หรือหัวที่มี ลักษณะกลมหนา ส่วนอีกชนิดหน่ึงคือ แง่งน้ิวมือมีลักษณะเรียวยาว ท่อนพันธ์ุ ท่ีใช้น้ีอาจจะใช้ทั้งท่อนยาว ๆ โดยไม่ต้องตัดหรือจะตัดเป็นท่อน ๆ ให้มีตาติด อยูป่ ระมาณ ๑ - ๒ ตา กไ็ ด้ท่อนพันธ์ุที่ได้จะน้าไปปลูกในแปลงทันทีหรือน้าไป เพาะก่อนก็ได้ แต่ถ้าท่อนพันธุ์ก่อนน้าไปปลูก ให้น้าท่อนพันธ์ุไปกองไว้ในท่ีร่ม ชื้นและเย็น น้ามูลสัตว์หรือโคลนตมคลุมท้ิงไว้ประมาณ ๓๐ วัน ท่อนพันธ์ุจะ งอกแตกหน่อขึ้นมา สามารถน้าไปปลูกใน แปลงได้ในพ้ืนท่ี ๑ ไร่ จะใช้ท่อน พันธ์ุประมาณ ๔๐๐ กิโลกรัม ท่อนพันธ์ุชนิดแง่งแม่ หรือหัวซึ่งตัดเป็นท่อน ๆ ให้มีตาประมาณ ๑ - ๒ ตา จะให้ผลผลิตสูงกว่าการปลูก ด้วยวิธีอื่น ๆ ก่อน ปลูกแช่ท่อนพันธ์ุด้วยสารเคมีป้องกันเช้ือรา และแมลง เช่น แช่ ด้วยมาลาไธ ออน หรือ คลอไพรีฟอส ๑ - ๒ ชั่วโมง ตามอัตราแนะน้า เพ่ือป้องกัน เพลี้ย หอย ๔. การเตรียมแปลง การเตรียมแปลงปลูก มี๒ รูปแบบ คือ ๔.๑ แปลงปลกู สภาพพนื้ ราบเหมาะสมกับพื้นที่ที่มีการระบายน้าดี ๔.๒ แปลง ปลกู สภาพยกสันร่อง หรอื ยกแปลงใหส้ งู จากระดับดินเดิมและมี ร่องระบายน้า เหมาะกับสภาพพนื้ ทล่ี มุ่ หรอื พืน้ ท่ีราบต้่า มีการระบายน้าไม่ดีเม่ือปลูก พืชแล้ว อาจมีนา้ ทว่ มขัง ท้าใหพ้ ืชเสียหายได้การยกสันร่อง ควรท้าสันนูนสูง ๒๐ - ๓๐ เซนติเมตร กว้าง ๔๕ - ๕๐ เซนติเมตร ในกรณียกแปลงปลูกขนาดท่ีง่ายต่อ การ ดูแลรักษาควรกว้าง ๑๐๐ - ๑๕๐ เซนติเมตร สูง ๑๕ - ๒๐ เซนติเมตร ความยาวขนึ้ อย่กู ับความเหมาะสมและขนาดของพน้ื ทีแ่ ปลง
๕. วธิ ีปลูก การปลกู ขม้นิ นิยมปลูกทง้ั แบบยกรอ่ งและไม่ยกร่อง แต่ ในเขตที่มี การชลประทานหรือมีน้าดีนิยมปลูกแบบยกร่อง เพื่อช่วยในการ ระบายน้า ร่องปลูก จะกว้างประมาณ ๕๐ - ๖๐ เซนติเมตร สูงประมาณ ๒๕ เซนติเมตร ความยาวไม่ จา้ กัดหรอื เป็นช่วง ช่วงละประมาณ ๑๐ - ๒๐ เมตร ก็ ได้เพ่ือความสะดวกในการดูแล รักษา ใช้ระยะปลูกประมาณ ๑๕ x ๑๕ เซนติเมตร ให้ฝังท่อนพันธ์ุขม้ินลึกประมาณ ๕ - ๗ เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมัก รองก้นหลุมในอัตรา ๑ กระป๋องนม (ประมาณ ๒๕๐ กรัม) ต่อหลุม คลุกเคล้าให้เขา้ กบั ดนิ กน้ หลุม น้าหวั หรอื แง่งพันธ์ทุ ี่ เตรียมไว้ลงปลูก แล้วกลบ ดินกับหน้าประมาณ ๕ - ๑๐ เซนติเมตร ฉะนั้นในร่องหน่ึง ๆ จะปลูกขมิ้นได้ ประมาณ ๓ แถว การปฏิบัตดิ ูแลรกั ษา : ๑. การคลุมแปลง หลงั จากปลูกเหง้าพันธ์ุแล้ว ควรใช้ฟางข้าวหรือ ใบหญ้าคาหรือวัสดอุ ยา่ งอนื่ ทีม่ คี ุณสมบัติเหมือนกันคลุมแปลงปลูก เพื่อลดการ ระเหยของน้าในดิน และช่วยรักษาความช้ืนในดิน ซึ่งจะมีผลดีต่อการงอกของ ขมิ้นชัน ๒. การให้น้า ขมิ้นเป็นพืชที่ต้องการความช้ืนสูง แต่ไม่ต้องการ สภาพทีช่ ื้นแฉะ หลังจากปลกู เหงา้ พันธแ์ุ ล้ว ควรรดน้าให้ชุ่มเพื่อรักษาความชื้น ของดนิ ใหเ้ หมาะสมตอ่ การงอก ล้าอยา่ งตอ่ เนื่องในระยะเริ่มปลูกจนถึงระยะที่ ต้นยังมีขนาดเล็กควรให้น้า อย่างสม้่าเสมอหรือให้น้าเมื่อเห็นว่าดินแห้ง โดย เมื่อพืชเริ่มโตการให้น้าควรลดลง หรือให้ตามความเหมาะสม โดยท่ัวไปในฤดู ฝนที่มีฝนตกสม่้าเสมอไม่จ้าเป็นต้องให้ น้าเพ่ิม และควรระมัดระวังไม่ให้มีน้า ท่วมขังในแปลงปลูกนาน ๆ เพราะจ้าท้าให้ต้น เน่าเสียหายได้และหยุดการให้
น้าในระยะที่ต้นเริ่มมีใบสีเหลืองในฤดูแล้ง ซึ่งเป็นช่วง ที่ขมิ้นชันเข้าสู่ระยะพัก ตวั ๓. การใส่ปุ๋ย ควรเร่งใส่ปุ๋ยอินทรีย์แต่ก็สามารถใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ แทนได้เช่น เดียวกัน ซึ่งการใส่ปุ๋ย N : P ที่ ๑๕ : ๑๐ ท้าให้ได้ผลผลิตและ ปริมาณสารเคอคิวมิน ในเหง้าเพิ่มมากข้ึน แต่ต้องระมัดระวังอย่าให้ปุ๋ยสัมผัส กับต้นขมิ้นท้ังล้าต้นใต้ดินและ ล้าต้นเหนือดิน ปกติไม่ควรปลูกขม้ินซ้าอยู่ในที่ เดียวกันหลาย ๆ คร้ัง ท้ังนี้เพื่อหลีก เล่ียงปัญหาการขาดแคลนความอุดม สมบรณู ์ของดนิ ซงึ่ จะมีผลท้าให้ผลผลติ ลดต้่าลง ระยะเวลาใส่ปยุ๋ ใสห่ ลังการปลูก ๑ - ๒ คร้ัง ตามความ เหมาะสม ครงั้ ที่ ๑ เมือ่ อายปุ ระมาณ ๑ - ๒ เดือน หรอื ขม้ินชนั ท่ีปลูกมกี าร งอก ๕๐ % ขนึ้ ไป ใส่ประมาณครงึ่ ช้อนแกง (ประมาณ ๑๕ กรมั ) ตอ่ ต้น หรือ ประมาณ ๕ กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ครัง้ ท่ี ๒ เมื่ออายปุ ระมาณ ๒ - ๔ เดอื น ใส่ ประมาณ ๑ ช้อนแกง (ประมาณ ๓๐ กรัม) ต่อตน้ วธิ ีใส่ปุ๋ย ควรใส่หา่ งจากโคน ตน้ ๘ - ๑๕ เซนตเิ มตร โดยขุดหลุมฝัง หรอื หวา่ นระหว่างแถวปลูกแลว้ พรวน ดินกลบ หลงั ใสป่ ยุ๋ ทุกคร้งั ตอ้ งให้นา้ ทนั ที ๔. การก้าจัดวชั พืช ควรเอาใจใส่ดแู ลกา้ จัดวัชพชื อยา่ งสมา่้ เสมอ โดยเฉพาะในชว่ งแรกหลงั ต้นงอกและระยะทตี่ น้ ยังเล็ก กรณีทีม่ วี ชั พชื ข้นึ มาก ควรใช้จอบดายหญ้าและพรวนดินเข้าโคนต้นไปพร้อม ๆ กัน บริเวณโคนควรใช้ มอื ถอนวชั พชื จะดีกวา่ ใชจ้ อบดายหญ้า เพราะอาจจะท้าความเสยี หายใหพ้ ืชท่ี เราปลูกได้ ๕. การพรวนดิน สว่ นใหญ่แล้วจะพรวนดินและดายหญ้าไปพร้อม กันหรอื พวนดินเมื่อหนา้ ดนิ แนน่ ดดู ซับน้าได้ช้า การพรวนดนิ จะท้าให้ดนิ ร่วน ซยุ ดดู ซึมซบั นา้ และสารอาหารได้ดี ซึ่งจะช่วยให้ระบบรากพืชใชน้ ้าและปุ๋ยได้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพมากข้นึ ๖. การปอ้ งกันก้าจัดโรคและแมลง
โรคของขม้ินชนั ที่พบได้แก่ โรคเหง้าและรากเน่า การให้น้ามากเกินไป หรือเกิดจากการปลูก ซ้าทีเ่ ดิมหลาย ๆ ครงั้ ท้าใหเ้ กิดการสะสมของเชื้อโรค การป้องกันก้าจัด โรคดังกล่าว เมื่อเกิดแล้วรักษายากในเบ้ืองต้น ควรถอนและท้าลายและควรป้องกันก่อนปลูก โดยการหมุนเวียน แปลงปลูก และใช้เหงา้ พันธุ์ทีป่ ราศจากโรค แมลงศัตรูพชื ได้แก่ ๑. แมลงดูดกินน้าเลียง (Scale insect หรือ Sucking insect) เช่น เพลี้ย หอย มักวางไข่ไว้ที่ผิวเปลือกเหง้าเห็นเป็นสะเก็ดสีขาว ดูดกินน้า เล้ียงท้าความเสียหายแก่ต้นและเหง้า พบได้ทั้งในแปลงและในระยะหลังเก็บ เกย่ี ว ๒. หนอนหรือแมลงกัดกินใบ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการ เจรญิ เติบโตของพชื การปอ้ งกนั ก้าจดั ในเบอ้ื งตน้ ควรทา้ ลาย การเกบ็ เกยี่ ว : การเก็บเก่ียว หลังการปลูกขมิ้นได้ประมาณ ๗ เดือน ใบล่าง ๆ ของขมิ้นจะเรม่ิ เปลยี่ นเป็นสีเหลอื ง แสดงวา่ ขม้นิ เริ่มแก่แล้ว ให้ปล่อยขม้ินไว้ใน แปลงจนมีอายุประมาณ ๙ - ๑๐ เดือน จึงเริ่มขุด ซ่ึงอยู่ในช่วงเดือน พฤศจกิ ายนถึงเดอื นธันวาคม วิธีการขุด การขุดต้องพยายามไม่ให้จอบโดนเหง้า ถ้าดินแห้ง เกินไปในขณะท่ีจะขุดก็ให้รดน้าก่อนทุกครั้ง เพ่ือให้สะดวกต่อการขุดและง่าย ต่อการเอาดนิ ออกจากหัวขมิ้น เสร็จแล้วจึงตัดใบ ราก และลา้ งนา้ ใหส้ ะอาด ผลผลิต ขม้ินกอหนึ่ง ๆ จะมีหัวประมาณ ๒ - ๘ อัน และมีแง่งนิ้ว มือประมาณ๑๐ - ๔๐ อัน ให้ผลผลิตประมาณ ไร่ละ ๓,๒๐๐ - ๓,๕๐๐ กิโลกรัม ส้าหรับบนพื้นที่ท่ีมีการชลประทาน แต่ถ้าปลูกนอกเขตพ้ืนท่ี
ชลประทานหรืออาศัยน้าฝนจะให้ผลผลิตต่้ากว่านี้ ส่วนผลผลิตจากการปลูก ขมน้ิ ชัน เปน็ พืชแซมไรอ่ ืน่ ๆ จะได้ผลผลติ สดประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐ กิโลกรัม/ ไร่ นอกจากน้ีผลผลิตของขมิ้นยังข้ึนอยู่กับระยะห่างของการปลูกพันธ์ุและ แหล่งปลูกด้วย การท้าความสะอาด คัดแยกหัวและแง่งออกจากกัน ตัดรากและ ส่วนต่าง ๆ ท่ีไม่ต้องการท้ิง อาจใช้แปรงช่วยขัดผิว คัดเลือกส่วนที่สมบรูณ์ ปราศจากโรคและแมลง น้ามาล้างด้วยน้าสะอาดหลายๆ คร้ัง จากน้ันคัดแยก ส่วนของผลผลิตที่จะนา้ ไปทา้ แหง้ และเกบ็ รกั ษาไวท้ า้ หวั พนั ธ์ุตอ่ ไป การเก็บรักษาเหง้าพันธุ์หรือเหง้าสด การเก็บเกี่ยวขม้ินชันจะเก็บ เก่ียวในช่วงฤดูแล้ง และจะเร่ิมปลูกใหม่ในต้นฤดูฝน จะมีระยะทิ้งช่วงห่าง ประมาณ ๒ - ๓ เดือน ดังน้ันการเกบ็ รักษาทีเ่ หมาะสมจะช่วยลดหรือหลกี เล่ียง ความเสียหายของเหง้าพันธุ์ได้ โดยวางเหง้าพันธุ์ผ่ึงไว้ในท่ีร่ม สะอาด ปราศจากเชื้อโรค แมลงและสัตว์ต่าง ๆรบกวน มีอากาศถ่ายเทสะดวก พื้นท่ี เก็บแหง้ และปราศจากความชื้น การท้าให้แห้ง กระท้าได้โดยน้าขม้ินไปต้มตากให้แห้งและขัด เปลือกให้สะอาด เวลาที่ใช้ต้มประมาณ ๑ - ๖ ชั่วโมง ข้ึนอยู่กับปริมาณขม้ิน การต้มมีวัตถุประสงค์เพื่อท้าให้เซลล์ของขม้ินตายและป้องกันการระเหยของ น้า เม่ือน้าไปตากแห้งแง่งขม้ินจะมีลักษณะตึงสวยและเก็บได้นาน ขมิ้นท่ีต้ม เสร็จแล้วจะมีเน้ืออ่อนนุ่ม สีเหลืองเข้ม บางแห่งนิยมแช่ขมิ้นในน้าปูนใสก่อนที่ จะน้าไปตากแห้ง เพื่อให้มีความแห้งอย่างสม่้าเสมอ จึงต้องใช้เวลาพอสมควร ซ่ึงปกติจะใช้เวลาประมาณ ๑ - ๒ สัปดาห์ อัตราการท้าแห้ง ผลผลิตสด : ผลผลติ แห้ง เท่ากบั ๖ : ๑ การบรรจุและการเก็บรักษา ขม้ินชนั ทแ่ี ห้งแล้วควรบรรจใุ น ภาชนะท่สี ะอาดปิดใหส้ นิท เกบ็ ในท่แี ห้งสะอาด หากยงั ไมไ่ ดน้ า้ ออกมาผง่ึ ในท่ี ร่มทุก ๓ - ๔ เดือนไมค่ วรเกบ็ วตั ถุดิบขมิน้ ชนั ไวน้ าน เพราะจากการศึกษา
พบวา่ ปริมาณน้ามันหอมระเหยจะลดลงประมาณ ๒๕ % เมอ่ื เกบ็ ไว้นาน ๒ ปี การจ้าหน่าย การคา้ ขม้ินระหวา่ งประเทศจะแบง่ ขม้ินออกเป็น ๓ ชนดิ คือ ขม้ินชนิดนวิ้ มือ ชนดิ ทั้งเหง้าและชนิดแตกหกั ซ่ึงขมน้ิ ชนดิ นิ้วมือมีคณุ ภาพดี ท่สี ดุ ราคาจ้าหนา่ ย หวั สดอยรู่ ะหวา่ งกโิ ลกรัมละ ๖ - ๒๐ บาท ขน้ึ อยู่ กบั ปริมาณการผลติ ส่วนหวั ขมิ้นแห้งห่ันแลว้ ๑๒๐ - ๑๕๐ บาท/กิโลกรัม คที่มา : http://puparn.rid.go.th/nineteen%20MENU/e ightteen.pdf
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: