ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณคดีกับสถาปัตยกรรม

0 ความสมั พันธ์ ระหวา่ งวรรณคดกี บั สถาปัตยกรรมไทย

1 วรรณคดี วรรณคดี หมายถึง วรรณกรรมหรืองานเขียนท่ียกยอ่ งกันวา่ ดี มีสาระ และมีคุณคา่ ทางวรรณศลิ ป์ การใชค้ ำวา่ วรรณคดีเพ่ือ ประเมินคา่ ของวรรณกรรมเกิดข้ึนในพระราชกฤษฎีกาตัง้ วรรณคดีสโมสรในสมัยรั ชกาลท่ี 6 (พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎ เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว) วรรณคดีเป็นวรรณกรรมท่ีถูกยกยอ่ งวา่ เขียนดี มีคุณคา่ สามารถทำให้ผูอ้ า่ นเกิดอารมณ์สะเทือนใจ มีความคดิ เป็นแบบแผน ใชภ้ าษาท่ีไพเราะ เหมาะแกก่ ารให้ประชาชนไดร้ ั บรู้ เพราะสามารถยกระดับจิตใจให้สูงข้ึน รู้วา่ สงิ่ ใดควรหรือไมค่ วร เเละ ทรงคุณคา่ สถาปัตยกรรม สถาปั ตยกรรม หมายถึง ศลิ ปะและความรู้เก่ียวกับการออกแบบงานกอ่ สร้าง ประกอบดว้ ยศลิ ปะลักษณะหรือ ศลิ ปะท่ี เก่ียวกับการกอ่ สร้าง ศลิ ปกรรมไทยแขนงน้ี เชน่ ปราสาท โบสถ์ วหิ าร สถูปเจดีย์ พระปรางค์ บา้ นไทย เป็นตน้ วรรณคดกี บั สถาปัตยกรรม •ความสัมพันธร์ ะหวา่ งวรรณคดีกับสถาปั ตยกรรมมองเหน็ ไดน้ ้อยท่ีสุด เพราะสถาปั ตยกรรมเป็นศลิ ปะท่ีคำนึงถึงประโยชน์ ใชส้ อยคอ่ นขา้ งสูง จึงไมอ่ าจนำวรรณคดีไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้ ยกเวน้ การสร้างสถาปั ตยกรรมดว้ ยจุดประสงคเ์ ฉพาะ เชน่ การ สร้างอาคารบา้ นชอ่ งหรือปราสาทในเทพนิยายตา่ งๆ ในสว่ นสนุกเพ่ือสร้างความบันเทงิ ต่ืนตาต่ืนใจแกเ่ ดก็ ๆ นอกจากน้ีการสร้างฉากในการถา่ ยทำภาพยนตร์บางเร่ืองอยา่ งสมจริงตามท่ีบรรยายไวใ้ นวรรณคดี หลังการถา่ ยทำ ภาพยนตร์ อาจเกบ็ ฉากเหลา่ นั น้ เป็นแหลง่ ทอ่ งเท่ียวเพ่ือให้เขา้ ชม เชน่ ฉากพราสาทราชวังของไทยจากภาพยนตร์เร่ือง The King and I ท่ีมาเลเซีย ซ่ึงเป็นสถานถา่ ยทำภาพยนตร์เร่ืองน้ี กลายเป็นสถานท่ีทอ่ งเท่ียวสำคัญแหง่ หน่ึง .

2 ลกั ษณะเดน่ อนั แสดงเอกลกั ษณข์ องศลิ ปกรรมไทย สาขาสถาปั ตยกรรม มีความออ่ นหวานละมุนละไม ศลิ ปกรรมตา่ ง ๆ ของไทยไดถ้ า่ ยทอดความออ่ นหวาน ประณีตแหง่ จิตใจ ของคนไทยเอาไวเ้ สมอ   มีลักษณะสร้างสรรค ์ คือ  รู้จักดัดแปลงธรรมชาติให้เป็น ศลิ ปกรรมอยา่ งงดงาม   มีเจตนาบริสุทธิ์และสร้างข้ึนเพ่ือจรรโลงพระพุทธศาสนาเป็นสว่ นใหญ แสดงถึง ความสงบเสง่ียมและ ความออ่ นน้อมถอ่ มตน    แสดงความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีแบบแผน มีลักษณะ ท่ีเช่ือถือ  ยอมรั บ เช่ือถือมีลักษณะสบื ตอ่ ถา่ ยทอดกันไมข่ าดสาย  นิยมความงามและการตกแตง่ มากกวา่ ปกติ   ความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษาไทยกับศลิ ปกรรมไทย  ๓.๑.ศัพทเ์ ฉพาะสถาปั ตยกรรม  ไดแ้ ก ่ ช่ือเรียก สว่ น ตา่ ง ๆ ของสถูปเจดีย ์   เรียกอาคารท่ีอยูอ่ าศัย  ซ่ึงแตกตา่ งกันไปตามแบบการกอ่ สร้าง  และระดับ ของบุคคลตามวัฒนธรรม  เชน่ ปราสาท  มณเฑียร  นิวาส อาศรม  หอ  ห้าง  บา้ น ทมิ    แพ  บรรณศาลา เพิง  ขนำ  เหยา้ ทับ  เรือน  กระทอ่ ม   กระต๊อบ  เป็นตน้ .สำนวนไทยท่ีเกิดจากศลิ ปกรรมไทย  สาขา สถาปั ตยกรรม   มีถอ้ ยคำสำนวนท่ีใชก้ ันในภาษาไทยตาม ปกติหลายคำหลายสำนวน   ท่ีมีมาดัง้ เดิมจาก วงการศลิ ปะแขนงตา่ งๆ  สาขาสถาปั ตยกรรม   เชน่    บา้ นเมืองไมม่ ีข่ือไมม่ ีแป   หมายถึง  แสดงความไมม่ ี ระเบียบ ไมม่ ีกฎหมาย ไมม่ ีหลักประกันความปลอดภั ย

3 คณุ คา่ -คุณคา่ กอ่ ให้เกิดความปี ติช่ืนชมแกม่ นุษย์ -คุณคา่ ดา้ นคุณธรรม -คุณคา่ ดา้ นแสดงชีวติ ความเป็นอยู่ สภาพสังคม และความรู้สกึ นึกคดิ ลักษณะเดน่ อันแสดงเอกลักษณ์ของศลิ ปกรรม ไทย ไดส้ ะทอ้ นให้เหน็ ชีวติ ความเป็นอยู่ สภาพสังคมและความรู้สกึ นึกคดิ ของคนไทย ไดห้ ลายประการ เชน่ •เป็นสังคมท่ียึดมั่นในพระพุทธศาสนาอยา่ งแน่นแฟ้ น •ป็นสังคมท่ีใกลช้ ิดกับธรรมชาติ •เน้นความสงบเสง่ียม ความน้อมน้อมถอ่ มตน ความมีระเบียบแบบแผน •เป็นสังคมท่ียอมรั บผูอ้ าวุโส ยอมรั บและยกยอ่ งฝี มือของครู •ผูค้ นในสังคมมีอารมณ์ออ่ นไว ละเอียดออ่ น แสดงอารมณ์ตา่ ง ๆ ออกมาอยา่ งกลั่นกรองประณีต สว่ นการท่ีวรรณคดีนำเสนอเร่ืองสถาปั ตยกรรมนั น้ จะพบไดม้ ากในบทชมเมือง บนชมปราสาทราชวัง และบท พรรณาบา้ นเรือนตา่ งๆ ผูเ้ สพวรรณคดีจะเหน็ ภาพทัง้ สถาปั ตยกรรม ภูมิสถาปั ตยกรรม รวมทัง้ มัณฑนศลิ ป์ อยา่ งครบถว้ น ดัง เชน่ บทพรรณาเมืองกุเรปั น ดาหา กาหลัง และสงิ หัดสาหรี ในบทละครเร่ือง อิเหนา