โลก (บาล:ี loka; องั กฤษ: world) มี ความหมายโดยปริยายหมายถงึ หมู่มนุษย์[1] รวมท้งั อารยธรรมมนุษยโ์ ดยรวมท้งั หมด โดยเฉพาะในด้าน ประสบการณ์ ประวตั ศิ าสตร์ หรือสภาพของมนุษย์ โดยท่วั ๆ ไป ท้งั น้ี คาว่า ทว่ั โลก หมายถงึ สถานท่ใี ด ๆ บนดาวเคราะห์โลก[2] ในทางปรัชญามองโลกอยู่ 2 แบบ คอื โลกท่เี ป็นเอกภพทางกายภาพท้งั หมด โลกในแบบภววิทยา
ดาวองั คาร (องั กฤษ: Mars) เป็น ดาวเคราะห์ลาดบั ท่สี ่จี ากดวง อาทติ ย์ เป็นดาวเคราะห์เลก็ ท่สี ดุ อนั ดบั ท่สี องในระบบสรุ ิยะรองจาก ดาวพุธในภาษาองั กฤษได้ช่ือตามเทพ เจ้าแห่งสงครามของโรมนั มกั ได้รับ ขนานนาม \"ดาวแดง\" เพราะมี ออกไซดข์ องเหลก็ ดาษด่นื บนพ้ืนผวิ ทาให้มีสอี อกแดงเร่ือ
ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ท่อี ยู่ใกล้ดวงอาทติ ย์มาก ท่สี ดุ และเป็นดาวเคราะห์ท่เี ลก็ ท่สี ดุ ในระบบ สรุ ิยะ ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทติ ย์ 87.969 วัน ดาวพุธมักปรากฏใกล้ หรืออยู่ภายใต้แสงจ้าของดวง อาทติ ยท์ าให้สงั เกตเหน็ ได้ยาก ดาวพธุ ไม่มีดาว บริวาร ยานอวกาศเพียงลาเดยี วท่เี คยสารวจดาวพุธ ในระยะใกล้คือยานมาริเนอร์ 10เม่อื ปี พ.ศ. 2517-2518 (ค.ศ. 1974-1975) และสามารถ ทาแผนท่พี ้ืนผวิ ดาวพธุ ได้เพียง 40-45% เท่าน้นั
ดาวพฤหสั บดี เป็นดาวเคราะห์ท่อี ยู่ ห่างจากดวงอาทติ ย์เป็นลาดบั ท่ี 5 และ เป็นดาวเคราะห์ท่มี ีขนาดใหญ่ท่สี ดุ ใน ระบบสรุ ิยะ นอกจากดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะห์แกส๊ ดวงอ่นื ๆ ในระบบ สรุ ิยะได้แก่ ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และ ดาวเนปจูน ช่ือละตินของดาว พฤหัสบดี (Jupiter) มาจากเทพ เจ้าโรมัน สญั ลักษณแ์ ทนดาวพฤหัสบดี คอื ♃ เป็นสายฟ้ าของเทพเจ้าซุส
ดาวเสาร์ (องั กฤษ: Saturn) เป็นดาวเคราะห์ดวงท่ี 6 จากดวงอาทติ ย์ ถดั จากดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์เป็นดาวแกส๊ ยกั ษ์ท่มี ีรัศมีเฉล่ียมากกว่าโลกประมาณเก้าเท่า[3][4] แม้ว่าจะมีความหนาแน่นเป็นหน่งึ ในแปดของโลกแต่มวลของมันมีมากกว่าโลกถงึ 95 เทา่[5][6][7] ดาวเสาร์ต้งั ช่ือตามเทพโรมันแห่งการเกษตร สญั ลักษณท์ างดาราศาสตร์ของดาวเสาร์ (♄) แทนเคยี วของเทพเจ้า
ดวงอาทิตยเ์ ป็นดาวฤกษ์ ณ ใจกลางระบบ สรุ ิยะ เป็นพลาสมาร้อนทรงเกอื บกลมสมบูรณ์ โดยมกี ารเคล่ือนท่พาซ่งึ ผลิตสนามแม่เหลก็ ผ่าน กระบวนการไดนาโม ปัจจุบนั เป็นแหล่งพลงั งาน สาคัญท่สี ดุ สาหรับส่งิ มชี ีวิตบนโลก มีเส้นผ่าน ศูนยก์ ลางประมาณ 1.39 ล้านกโิ ลเมตร ใหญ่ กว่าโลก 109 เทา่ และมีมวลประมาณ 330,000 เท่าของโลก คดิ เป็นประมาณ 99.86% ของมวล ท้งั หมดของระบบสรุ ิยะ มวลประมาณสามในส่ี ของดวงอาทติ ย์เป็นไฮโดรเจน ส่วนท่เี หลือเป็น ฮเี ลียมเป็นหลกั โดยมีปริมาณธาตุหนักกว่า เลก็ น้อย รวมท้งั ออกซิเจน คาร์บอน นอี อนและ เหลก็
ดาวยูเรนสั (หรือ มฤตยู) เป็นดาวเคราะห์ท่ี อยู่ห่างจากดวงอาทติ ย์เป็นลาดับท่ี 7 ในระบบ สรุ ิยะ จดั เป็นดาวเคราะห์แกส๊ มีขนาดใหญ่ เป็นอนั ดบั ท่ี 3. ต้งั ช่ือตามเทพเจ้ายูเรนัส (Ouranos) ของกรีก สญั ลักษณแ์ ทน ดาวยูเรนัส คอื หรือ (ส่วนใหญ่ใช้ในดารา ศาสตร์) ช่ือไทยของยูเรนัส คือ ดาวมฤตยู ผู้ค้นพบดาวยูเรนัส คอื เซอร์วลิ เลียม เฮอร์ เชล(Sir William Herschel) พบ ในปี พ.ศ. 2324 (ค.ศ. 1781)
ดาว เนปจูน (องั กฤษ: Neptune) มชี ่ือไทยว่า ดาวเกตุ เป็นดาว เคราะห์ในระบบสรุ ิยะลาดับสดุ ท้าย มขี นาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางใหญ่เป็น อนั ดบั ท่ี 4 รองจากดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และมมี วลเป็น ลาดบั ท่ี 3 รองจากดาวพฤหัสและ ดาวเสาร์ คาว่า \"เนปจูน\" น้นั ต้ังช่ือ ตามเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของโรมัน เหนอื (กรีก : โปเซดอน) มี สญั ลกั ษณเ์ ป็น (♆)
ระบบสุริยะ (องั กฤษ: Solar System) ประกอบด้วยดวงอาทติ ย์และวัตถุอ่นื ๆ ท่โี คจรรอบดวงอาทติ ย์เน่ืองจากแรงโน้มถ่วง ได้แก่ ดาวเคราะห์ 8 ดวงกบั ดวง จันทร์บริวารท่คี ้นพบแล้ว 166 ดวง[5] ดาวเคราะห์แคระ 5 ดวงกบั ดวงจนั ทร์บริวารท่ี ค้นพบแล้ว 4 ดวง กบั วัตถุขนาดเลก็ อ่นื ๆ อกี นับล้านช้ิน ซ่งึ รวมถึง ดาวเคราะห์ น้อย วัตถุในแถบไคเปอร์ ดาวหาง สะเกด็ ดาว และฝ่ นุ ระหว่างดาวเคราะห์ โดยท่วั ไปแล้วจะแบ่งย่านต่าง ๆ ของระบบสรุ ิยะ นับจากดวงอาทติ ยอ์ อกมาดังน้คี ือ ดาวเคราะห์ช้ันในจานวน 4 ดวง แถบดาวเคราะห์น้อยดาวเคราะห์ขนาดใหญ่รอบนอก จานวน 4 ดวง และแถบไคเปอร์ซ่ึงประกอบด้วยวตั ถุท่เี ยน็ จัดเป็นนา้ แขง็ พ้นจากแถบ ไคเปอร์ออกไปเป็นเขตแถบจานกระจาย ขอบเขตเฮลิโอพอส (เขตแดนตามทฤษฎีท่ี ซ่งึ ลมสรุ ิยะส้นิ กาลังลงเน่อื งจากมวลสารระหว่างดวงดาว) และพ้นไปจากน้ันคือย่าน ของเมฆออร์ต
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: