วทิ ยาการคำนวณ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 การออกแบบ วิธีการแก้ปญั หา
1 การออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา 1
2 วธิ ีการแกป้ ญั หา ปัญหาแต่ละปัญหามวี ธิ กี ารแกไ้ ขไดห้ ลายวธิ ี การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอนจะช่วยใหแ้ กป้ ัญหาได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เชน่ นกั เรยี นลมื กลอ่ งดนิ สอและตอ้ งการไดก้ ลอ่ งดนิ สอคนื การแกป้ ัญหาน้ีเรา จะตอ้ งทบทวนวา่ เราไปทไ่ี หนมาบา้ ง แตล่ ะสถานทเ่ี ราไปทาอะไร แลว้ พจิ ารณาวา่ ในสถานทน่ี นั้ ๆ เราทาอะไรกบั กล่องดนิ สอหรอื ไม่ หรอื ถา้ เราตอ้ งการลดค่าใชจ้ า่ ยประจาวนั เราตอ้ งทบทวนวา่ ในแตล่ ะ วนั เรามคี า่ ใชจ้ ่ายเรอ่ื งใดบา้ ง มเี รอ่ื งใดทส่ี ามารถตดั ออกไดบ้ า้ ง หรอื มเี รอ่ื งใดทส่ี ามารถลดคา่ ใชจ้ า่ ยใน เร่อื งนนั้ ๆ ไดบ้ า้ ง ในชวี ติ ประจาวนั นักเรยี นพบปัญหาใดบ่อยทส่ี ดุ และมวี ธิ กี ารแกป้ ัญหานนั้ อยา่ งไร คำถำมสำคญั
3 กำรใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ (logical reasoning) เป็นการใชเ้ หตุผล เงอ่ื นไข หรอื กฎเกณฑท์ ่ี เกย่ี วขอ้ งกบั ปัญหานนั้ เพอ่ื ตรวจสอบความสมเหตุสมผลหรอื ความเป็นไปไดใ้ นการแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ปัญหาบางปัญหาทม่ี คี วามซบั ซอ้ นขน้ึ ตอ้ งใชเ้ งอ่ื นไขหรอื ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะมาช่วยในการ แกป้ ัญหา เชน่ การเลน่ เกมเขาวงกต เราตอ้ งทาตามเงอ่ื นไขของเกม วธิ กี ารเล่น คอื ใชด้ นิ สอ ลากเสน้ จากตน้ ทางไปยงั ปลายทางโดยตอ้ งไมย่ กดนิ สอออกจากกระดาษ การลากเสน้ นนั้ จะตอ้ ง ใหเ้ ดนิ ทางไปยงั ปลายทางไดส้ นั้ ทส่ี ดุ และไมช่ นกบั ผนงั เกมทม่ี คี วามซบั ซอ้ นมากขน้ึ อาจเป็นเขาวงกตทซ่ี บั ซอ้ นขน้ึ หรอื มเี งอ่ื นไขทต่ี อ้ งทาตาม หลายเงอ่ื นไข เช่น เกมเขาวงกตคณิตศาสตร์ ดงั ภาพการหาเสน้ ทางจะตอ้ งใชก้ ารคดิ เชงิ คณิตศาสตรไ์ ปดว้ ย ผเู้ ลน่ ตอ้ งลากเสน้ ใหก้ ระต่ายเดนิ ทางไปกนิ แครร์ อต โดยเสน้ ทางนนั้ จะ เป็นการนบั จานวนของตวั เลขตงั้ แต่ 1 ถงึ 100
4 กำรใช้เหตผุ ล (reasoning) เป็นการคดิ และอธบิ ายความคดิ ออกมาเป็นแผนงาน โดยแสดงวธิ กี ารแกป้ ัญหา เป็นลาดบั ขนั้ ตอน ทาใหม้ องเหน็ วธิ กี ารแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งชดั เจน ซง่ึ แต่ละขนั้ ตอนจะตอ้ งพจิ ารณาเงอ่ื นไขหรอื เหตุผลประกอบดว้ ย การแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาทาไดโ้ ดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ญั ลกั ษณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำ 1. คอื การทาความเขา้ ใจปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ อยา่ งละเอยี ดแลว้ พจิ ารณาว่า มอี งคป์ ระกอบอะไรบา้ ง 2. คอื การกาหนดขนั้ ตอน วธิ กี ารแกป้ ัญหา อปุ กรณ์ เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ ในการแกป้ ัญหา และระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการแกป้ ัญหา โดยการทางานน้อี าจตอ้ งทาซ้า ๆ จนแกป้ ัญหาไดส้ าเรจ็
5
6
7 วิธีคิด
8 วีดีโอประกอบกำร สอน https://www.youtube.com/watch?v=lzgmECKO19w วีดีโอพบครผู สู้ อน https://www.youtube.com/watch?v=pKcz3Ge5S1M&rel=0
9
10
11 สปั ดาห์ที่ 3 วดิ โี อพบครผู สู้ อน https://www.youtube.com/watch?v=iiC4TDsnC-o&rel=0 ภาระงาน สปั ดาหท์ ี่ 3 แบบฝึกหดั หน้าท่ี 13 ขอ้ ท่ี 3
12
เฉลยชน้ิ งานที่ 3 เรอื่ ง วธิ กี ารแกป้ ญั หาของผึ้ง 13
การแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั 14 การดำเนนิ การต่าง ๆ ในชีวิตของเรา บางเร่อื งราวสามารถแกป้ ัญหาไดห้ ลายวธิ ี แตล่ ะวิธจี ะมี ประสทิ ธิภาพตา่ งกัน เช่น การเดนิ ทางจากสถานที่หน่ึงไปยงั สถานท่หี นึ่ง การโดยสารรถประจำทาง ในบางจังหวัดมีรถหลายสาย แต่ไปจดุ หมายปลายทางเดยี วกนั ได้ รถแตล่ ะสายจะวิ่งเส้นทางไม่ เหมือนกัน มจี ดุ จอดไมเ่ หมอื นกนั ดงั นน้ั เราตอ้ งเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับการเดินทางของเรา ตวั อยา่ ง รถยนตแ์ ตล่ ะคันอาจวิ่งด้วยความเร็วไม่เท่ากนั รถยนต์ท่วี ิ่งด้วยความเรว็ เฉลย่ี 50 กโิ ลเมตร ตอ่ ชั่วโมง หมายความว่า 1 ช่ัวโมง จะว่ิงไปได้ 50 กิโลเมตร ถา้ ระยะทาง 100 กโิ ลเมตร จะใชเ้ วลาวงิ่ 2 ชวั่ โมง
ตวั อยา่ ง 15 รถยนตแ์ ตล่ ะคันอาจว่ิงดว้ ยความเรว็ ไมเ่ ทา่ กัน รถยนตท์ ่วี ิ่งด้วยความเรว็ เฉลย่ี 50 กโิ ลเมตรตอ่ ชั่วโมง หมายความวา่ 1 ช่ัวโมง จะว่ิงไปได้ 50 กิโลเมตร ถา้ ระยะทาง 100 กิโลเมตร จะใชเ้ วลาว่ิง 2 ชัว่ โมง (ตอ่ )
16 x - +กจิ กรรมที่ 1.4 คำนวณการเดนิ ทาง รถประจำทาง 2 คัน ตอ้ งเดนิ ทางจากตน้ ทางไปยังปลายทาง มรี ะยะทางเท่ากนั คอื 180 กิโลเมตรโดยจะใชค้ นละเสน้ ทางกนั ในแต่ละเสน้ ทางจะมีจุดจอด P รถต้องจอด 20 นาที และจดุ จอด W รถตอ้ งจอด15 นาที รถคนั ท่ี 1 (เสน้ ทางสีน้ำเงิน) วิ่งด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรตอ่ ชว่ั โมง รถคนั ท่ี 2 (เสน้ ทางสแี ดง)วิ่งด้วยความเร็ว 90 กโิ ลเมตรตอ่ ชว่ั โมง โดยมเี ส้นทาง ดังภาพ รถคนั ท่ี 1 ปลายทาง ตน้ ทาง รถคนั ท่ี 2 • รถประจำทางคันท่ี 2 ใช้เวลาเดินทางเทา่ ไร
17 สปั ดาห์ที่ 4 เดก็ ๆ ใชด้ นิ สอทำกอ่ นนะคะจะไดแ้ ก้ไขได้ ภาระงาน สปั ดาหท์ ่ี 4 แบบฝกึ หดั หนา้ ท่ี 21 ขอ้ ท่ี 2
4
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: