วทิ ยาการคานวณ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 อลั กอรทิ มึ และการแกป้ ัญหา (สปั ดาหท์ ่ี 2)
อลั กอริทึม (Algorithm) กระบวนการแกป้ ญั หาท่ีมีลาดบั หรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาอยา่ งเป็นขนั้ เป็นตอน และชดั เจน 1 การแสดงอลั กอริทึมด้วยขอ้ ความ • ก(Nารaใชtu้ขrอ้ aคlวLาaมnแสgดuงaขgนั้ eต)อนการทางาน มสี ่วนประกอบ 2 สว่ น คอื ลาดบั และขนั้ ตอนการทางาน
การปรุงบะหมี่ก่งึ สาเรจ็ รปู ตวั อยา่ ง การปรุงบะหม่ีก่ึงสาเรจ็ รปู การปรุงบะหมก่ี ง่ึ สาเรจ็ รูปเพอ่ื รบั ประทาน การแกป้ ัญหาน้สี ามารถ ถา่ ยทอดความคิดเป็น ขอ้ ความ ได้ ดงั น้ี วิธีที่ 1 ใช้หม้อไฟฟ้า ใส่น้าในหมอ้ ต้มน้าให้เดอื ด นาบะหมี่ใส่ลงในหม้อ แลว้ ปิ ดฝา ต้มต่ออีก 2 นาที
วิธีท่ี 2 ใช้กระติกน้าร้อนไฟฟ้า ใส่น้าในกระติกน้าร้อนไฟฟ้า เสียบปลกั๊ ไฟ รอจนน้าเดือด นาบะหมใ่ี ส่ชาม เทน้ารอ้ น ปิ ดฝา ตงั้ ทิ้งไว้ 3 นาที กิจกรรมท่ี 10 ฝึ กลาดบั ความคิด นักเรียนเขยี นลาดบั ของการทากิจกรรม ดงั นี้ 1. นักเรยี นมวี ธิ กี ารใดบา้ งในการชงนม อธบิ าย 2-3 วธิ ี
วีดีโอประกอบการสอน สปั ดาหท์ ่ี 1 https://www.youtube.com/watch?v=xKhkdHhO3ck วีดีโอพบครผู สู้ อน สปั ดาห์ที่ 1 http://youtube.com/watch?v=O8_1Z-3FNO8&rel=0
วธิ ปี ฏบิ ตั ิ กิจกรรมท่ี 1 ชอ่ื ................................................นามสกลุ ................................................ชนั้ .............................. วธิ ีที่ 1 วธิ ที ่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ? วิธีการท่ีนักเรยี นเสนอวิธีใดดีท่ีสุด เพราะเหตุใด ตอบ ................................................................................................... ..................................................................................................................... .....................................................................................................................
2 การแสดงอลั กอริทมึ ดว้ ยรหสั จาลองหรอื ซโู ดโคด้ (Pseudocode) การอธิบายด้วยรหสั เราสามารถกาหนดรหสั จาลองขน้ึ เองได้ รหสั จาลองสาหรบั การ รหสั จาลอง เดินทาง ความหมาย เดินไปทางขวา เดินไปทางซ้าย เดินขน้ึ ข้างบน เดินลงข้างลา่ ง เดินตรงแลว้ เล้ียวขวา เดินตรงแล้วเล้ยี วซ้าย เดินข้ึนขา้ งบนไปทางขวา เดินขน้ึ ข้างบนไปทางซ้ายจาไวน้ ะ..... จาไว้นะ..... สญั ลกั ษณ์นี้ ให้เดินไปทางซ้าย
การแก้ปัญหา (problem solving) เป็ นการคน้ หาคาตอบ หาวิธีแกป้ ัญหาหรือทางานนัน้ ใหส้ าเร็จ โดยเร่มิ จากการกาหนดคาถามเก่ียวกับปัญหานัน้ วา่ เราจะ แก้ปัญหาหรือทางานนั้นใหส้ าเร็จไดอ้ ยา่ งไร การใหเ้ หตผุ ล (reasoning) เป็ นการคดิ และอธิบายความคิดออกมาเป็ นแผนงาน สาหรับการ แก้ปัญหานัน้ เราอาจเสนอวิธีการแกป้ ัญหา โดยการถ่ายทอดออกมาเป็ นข้อความ ซึง่ แสดงวธิ กี ารแก้ปัญหา ออกมาเป็ นลาดับข้นั ทาให้มองเหน็ วิธกี ารแก้ปัญหาไดอ้ ย่าง ชดั เจน โดยแต่ละขน้ั จะต้องพจิ ารณาเงื่อนไขหรือเหตุผล ประกอบดว้ ย การเลือกวิธีการแก้ปัญหาทกุ ปัญหานัน้ นกั เรียนควรพิจารณาเงื่อนไขให้ ครบทกุ กรณี สาหรบั แนวทางการแก้ปัญหานัน้ นักเรยี นอาจนาเครอ่ื งมือต่าง ๆ ท่ีมอี ยู่มาช่วยไดเ้ ช่นกนั วิธีการแก้ปัญหาวิธีหนึ่งอาจจะดีสาหรบั เพือ่ นแต่ อาจไม่เหมาะสมกบั ตวั นักเรยี นกไ็ ดเ้ ช่นกนั
วดี ีโอประกอบการสอน สปั ดาหท์ ่ี 2 https://www.youtube.com/watch?v=HDS8sc0E8U0&pbjreload=101 วีดีโอพบครผู สู้ อน สปั ดาห์ท่ี 2 https://www.youtube.com/watch?v=YVHWWbfdKF0&rel=0
กิจกรรมที่ 1.2 ฝึ กลาดบั ความคิด ใครจะไปถงึ โรงเรียนก่อนกนั นกั เรยี นสงั เกตภาพเสน้ ทางการไปโรงเรียน 2 เส้นทาง แล้วตอบคาถาม ตวั อย่างการตอบคาถาม 1. เสน้ ทางในเมอื ง เป็นเสน้ ทางตรงจากบา้ นถงึ โรงเรยี นการจราจรหนาแน่น ผคู้ นมกั ใชเ้ ดนิ ทางเป็นหลกั 2. เส้นทางนอกเมือง เป็นทางเลย่ี งจากชมุ ชน ระยะทางค่อนขา้ งไกล แต่การจราจรไมห่ นาแน่น ****************************************************************************************************** แนวทางการตอบคาถาม 1. นกั เรยี นมวี ธิ เี ดนิ ทางไปโรงเรยี นวธิ ใี ดบา้ ง บอกมาหลาย ๆ วธิ ี ตอบ.....เ..ด..ิน...ไป...โ.ร..ง..เ.ร..ีย...น...ถ...บี ..จ..ก.ั ..ร..ย..า..น.............................................................................................................. .............ผ..ปู้...ก..ค...ร..อ..ง..ข..บั...ร..ถ..ไ..ป..ส...ง่ ..โ..ด..ย...ส..า..ร..ร..ถ..ป...ร..ะ..จ..า..ท..า..ง.................................................................................... 2. วธิ เี ดนิ ทางวธิ ใี ดรวดเรว็ ทสี่ ดุ เพราะเหตุใด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 3. วธิ เี ดนิ ทางวธิ ใี ดประหยดั ทส่ี ดุ เพราะเหตใุ ด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 4. วธิ เี ดนิ ทางวธิ ใี ดปลอดภยั ทส่ี ดุ เพราะเหตใุ ด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 5. หากวนั น้นี ักเรยี นต่นื เชา้ นกั เรยี นจะเดนิ ทางไปโรงเรยี นดว้ ยวธิ ใี ด และเลอื กเสน้ ทางใด เพราะเหตใุ ด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 6. หากวนั น้นี กั เรยี นตน่ื สาย นักเรยี นจะเดนิ ทางไปโรงเรยี นดว้ ยวธิ ใี ด และเลอื กเสน้ ทางใด เพราะเหตใุ ด ตอบ...........................................................................................................................................................
1 5 ระบปุ ัญหา เป็นการทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั ทดสอบและประเมินผล ปัญหาวา่ ต้องการอะไร โจทยต์ ้องการทราบ เป็นการตรวจสอบผลลพั ธท์ ี่ไดว้ ่า สามารถแก้ปัญหาที่ต้องการได้ อะไร หรือไม่ ขนั้ ตอน การแก้ปัญหา 4 2 แก้ปัญหา เป็นการเร่ิม แกป้ ัญหาตามวิธีการท่ีเลือก รวบรวมข้อมูล เป็นการรวบรวมข้อมูล นาความร้ทู ี่มีอยหู่ รือหาความรเู้ พ่ิมเติม 3 มาแกป้ ัญหานนั้ วางแผนการแกป้ ัญหา เป็นการวางแผน ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาซึ่งอาจมไี ดห้ ลายวิธี โดยเลือกวิธีการที่เหมาะสมกบั สถานการณ์ของ ตนเอง
กิจกรรมท่ี 3 เสนอวิธีการคาดการณ์ผลลพั ธจ์ ากปัญหาอยา่ งง่ายได้ นักเรยี นลองนาลูกบาศก์ 4 ลกู ทม่ี สี ตี ่างกนั มาเรยี งตอ่ กนั จะมวี ธิ เี รยี งไดก้ ่แี บบ โดยปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนการ แก้ปัญหา ดงั น้ี 1. ระบุปัญหา - โจทยต์ ้องการอะไร ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 2. รวบรวมขอ้ มลู – เราทราบอะไรมาบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 3. วางแผนการแก้ปัญหา – เราจะแกป้ ัญหาน้ีอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 4. แกป้ ัญหา - ทดลองวาดภาพและระบายสี แลว้ เรยี งไมใ่ หซ้ า้ กนั ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 5. ทดสอบและประเมนิ ผล – มวี ธิ อี ่นื นอกจากวธิ ที นี่ กั เรยี นเรยี งอกี หรอื ไม่ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………
การออกแบบขนั้ ตอนการแกไ้ ขปัญหานนั้ ควรออกแบบให้ครอบคลุมทกุ กรณีตามเง่ือนไขที่โจทยก์ าหนด และเราอาจนาขนั้ ตอนนี้ไปใช้ไดห้ ลาย ๆ ครงั้ ตามต้องการได้อีกด้วย ตวั อย่าง การสรา้ งเคร่ืองคานวณสาหรบั บวกเลขจานวนเตม็ 2 จานวน วธิ ปี ฏบิ ตั ิ 1. ระบุปัญหา โจทยต์ อ้ งการใหส้ รา้ งเครอ่ื งคานวณสาหรบั บวกเลข 2. รวบรวมขอ้ มูล เราทราบมาวา่ ขอ้ มลู ทน่ี ามาบวกกนั เป็นเลขจานวนเตม็ 2 จานวน เม่อื บวกกนั แลว้ ผลลพั ธท์ ่ไี ดจ้ ะเป็นเลขจานวนเตม็ เช่นกนั 3. วางแผนการแก้ปัญหา เราจะแกป้ ัญหาน้ีโดยรบั คา่ ตวั เลขแตล่ ะคา่ เขา้ มา ค่าแรกเกบ็ ไวใ้ น A ค่าท่ี 2 เกบ็ ไวใ้ น B จากนัน้ นาทงั้ 2 คา่ มารวมกนั แล้วเกบ็ ไวใ้ น C 4. แกป้ ัญหา อาจเขยี นลาดบั การแกไ้ ขปัญหาเป็นภาพหรอื เขยี นเป็นขนั้ ตอน ดงั น้ี เริ่มต้น นาค่าแรกเกบ็ ใน A A นาค่าท่ี 2 เกบ็ ใน B นา A กบั B มารวมกนั แล้วเกบ็ ใน C B แสดงผล C C AB จบ
5. ทดสอบและประเมินผล ลองทดสอบการบวกเลขระหว่าง 2 กบั 3 2 จากขนั้ ตอนการแก้ไขปัญหาที่ออกแบบขน้ึ ดลอง ให้ค่า 3 แรกเป็น 2 จากนนั้ ทดลองให้ค่าท่ี 2 เป็น 3 5 23 ระบบทางาน จะเหน็ ได้ว่าผลลพั ธ์ที่ไดเ้ ป็น 5 จากการออกแบบขนั้ ตอนการแกไ้ ขปัญหาวิธีนี้ จะ เหน็ ได้วา่ ขนั้ ตอนท่ีออกแบบขึน้ สามารถนาไปใช้กบั ตวั เลขต่าง ๆ ได้ และค่า ตวั เลขหรอื ข้อมลู input เปลยี่ นแปลงไป ผลลพั ธท์ ี่ไดก้ จ็ ะเปลย่ี นแปลงไปดว้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: