Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 วิทยาการคอมพิวเตอร์ฯ

หน่วยที่ 1 วิทยาการคอมพิวเตอร์ฯ

Published by kamcheelong Studio, 2019-12-16 02:45:36

Description: หน่วยที่ 1 วิทยาการคอมพิวเตอร์ฯ

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่อื ดจิ ทิ ัล และเทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาเนนิ ชีวติ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอื่ ดิจทิ ัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนินชวี ิต เวลา 8 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชีวติ จริงอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และใช้ความร้ดู ้านวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สือ่ ดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศในการแกป้ ญั หา หรอื เพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรอื ผลิตภัณฑท์ ใี่ ชใ้ นชีวิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1) การนาความรดู้ า้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่อื ดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้แก้ปญั หา กับชวี ิตจรงิ ได้ 2) การเพิม่ มูลค่าให้บรกิ ารหรอื ผลิตภัณฑ์ 2.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) 3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การดารงชวี ิตในปัจจุบันได้นาเอาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล และเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มา เป็นส่วนหนง่ึ ในการดารงชีวติ เน่อื งจากส่ิงเหล่าน้ตี อบสนองความต้องการของมนุษยใ์ ห้มีความสะดวกสบายมาก ย่งิ ขึ้น และยังช่วยให้การทางานไมว่ า่ จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมลู การประมวลผลขอ้ มูล การจัดการกับข้อมลู หรือการจัดเก็บขอ้ มูลนั้นส่งผลให้การทางานสาเร็จลลุ ่วงไดใ้ นเวลาอันรวดเร็ว และมปี ระสิทธภิ าพ โดยสามารถ ยกระดับและเพมิ่ มลู คา่ ของสินคา้ และบริการให้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน - ทกั ษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปล่ยี นข้อมลู 2. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการแกป้ ญั หา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 1

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่อื ดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชีวติ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - ทกั ษะการทางานรว่ มกนั 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสบื ค้นขอ้ มูล - ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิน้ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เร่อื ง การเพิ่มมูลคา่ สนิ ค้า OTOP 6. การวัดและการประเมินผล วิธีวดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน รายการวดั 6.1 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน - ตรวจช้ินงาน/ภาระ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ 2 (รวบยอด) เร่ือง การเพิ่มมลู ค่า งาน (รวบยอด) /ภาระงาน(รวบยอด) ผ่านเกณฑ์ สนิ ค้า OTOP 6.2 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง วิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจิทัล และเทคโนโลยี สารสนเทศกับการดาเนินชวี ิต 6.3 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม การเรยี นรู้ 1) การสร้างช้ินงาน - ตรวจชิ้นงาน - แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดบั คณุ ภาพ 2 Infographic ผ่านเกณฑ์ 2) ประโยชนข์ องเทคโนโลยี - ตรวจใบงานท่ี 1.3.1 - ใบงานท่ี 1.3.1 ระดับคุณภาพ 2 สารสนเทศ ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 4) พฤติกรรมการทางานกล่มุ การทางาน การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 5) การนาเสนอผลงาน กล่มุ ระดับคุณภาพ 2 - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน การนาเสนอผลงาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ รายการวดั วิธีวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 6) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 ความรบั ผดิ ชอบ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่น อันพึงประสงค์ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ในการทางาน - แบบทดสอบหลังเรียน 6.4 การประเมินหลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 หลงั เรยี น เร่ือง วิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดิจิทลั และเทคโนโลยี สารสนเทศกับการดาเนินชวี ิต 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ิทลั และเทคโนโลยี สารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ิต เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 3

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่อื ดจิ ทิ ลั และเทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาเนนิ ชวี ติ เรื่องที่ 1 : วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์กบั การดาเนนิ ชวี ติ เวลา 2 ชว่ั โมง วธิ ีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขนั้ นา ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เพ่ือวัดความรูเ้ ดิมของนักเรยี น ก่อนเข้าสู่กจิ กรรม และถามคาถามประจาหวั ข้อเพอื่ กระตุ้นความสนใจของนักเรยี น 2. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นฟงั เพ่มิ เติมว่า“ปจั จบุ ันผู้คนในสังคมไทยต้องการอะไรที่เร็วข้ึนสะดวกข้ึน และมีประสิทธิภาพมากขนึ้ ดงั น้ันเพ่ือตอบสนองแก่ความตอ้ งการเหล่านี้จงึ ทาใหเ้ กดิ วทิ ยาการ คอมพวิ เตอร์ขึ้น เพอ่ื นาไปส่กู ารคิดค้นทฤษฎี เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหมๆ่ ” ขน้ั สอน ขัน้ ที่ 2 สารวจคน้ หา (Exploration) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนศกึ ษาความหมายของวิทยาการคอมพวิ เตอร์ และค้นหาหวั ขอ้ ทค่ี วร ศึกษาเก่ยี วกับวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก หนังสอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการ คานวณ) ม.5 หรือศึกษาเพ่ิมเตมิ จากอินเทอรเ์ น็ต ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 2. ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 คนออกมาอธบิ ายความหมายและหวั ข้อทีเ่ ก่ียวข้องกบั วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ และครถู ามกระตนุ้ ความคิดของนกั เรยี นว่า “ถ้าหากไม่มวี ทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ในสงั คมไทย จะเป็นอยา่ งไร” 3. ให้นักเรยี นทาการศึกษารายละเอยี ดเกย่ี วกับหัวข้อต่างๆทีเ่ กยี่ วข้องกบั วิทยาการคอมพวิ เตอร์ เพ่ือให้นกั เรียนได้เข้าใจวา่ การคิดค้นทฤษฎี เทคโนโลยี และนวตั กรรมตา่ งๆ มคี วามซบั ซอ้ น และเปน็ ลาดับขั้นตอน ท้ังน้กี ็เพ่อื ผลงานทีต่ รงตามความตอ้ งการ และมปี ระสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขึ้น 4. นักเรยี นจับกล่มุ กลมุ่ ละ 4 – 5 คน พร้อมส่งตวั แทนออกมาจบั สลากหัวขอ้ เร่ืองเพื่อทาการศึกษา และสืบคน้ ขอ้ มูล ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 5. นักเรียนไดท้ าการศึกษาและสบื ค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ตามหัวข้อทแี่ ตล่ ะกลมุ่ ไดร้ ับ และ ออกมานาเสนอข้อมูลหน้าช้ันเรยี น ขัน้ สรุป ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น การนาเสนอขอ้ มูล และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 2. นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ เนือ้ หาเกยี่ วกบั วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ และหวั ขอ้ อ่นื ๆ ท่เี กี่ยวข้อง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 4

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดจิ ิทลั และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนนิ ชีวติ เรื่องที่ 2 : สื่อดจิ ทิ ลั กับการดาเนนิ ชีวติ เวลา 2 ช่ัวโมง วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นา ข้นั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคาถามทา้ ทายความคิดของนกั เรียนวา่ “นักเรยี นคิดวา่ ส่ือดจิ ิทัลรูปแบบใดมีผลตอ่ การดแู ลสขุ ภาพของผ้สู ูงอายมุ ากทีส่ ุด” ข้นั สอน ข้ันที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. ครูเปดิ คลปิ วิดโี อ เรอ่ื ง สอื่ ดจิ ิทลั กบั การดาเนินชวี ิต ใหน้ ักเรยี นดูพรอ้ มถามนักเรียนวา่ “นักเรยี นเหน็ สื่อดิจิทลั ใดบา้ งในคลิปวิดโี อ” จากน้ันครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั ส่อื ดจิ ทิ ัล 2. ครูอธิบายความรเู้ สรมิ จากเน้อื หาเพอื่ ขยายความรขู้ องผ้เู รียน (Com Sci Focus) เกี่ยวกบั ดจิ ิทัลคอนเทนต์ 3. ให้นักเรียนศกึ ษาเก่ียวกบั องคป์ ระกอบของส่ือดจิ ทิ ลั และประเภทของสอ่ื ดิจิทลั ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครูสุม่ นักเรียน 2-3 คนออกมาอธบิ ายเกี่ยวกับองค์ประกอบของสื่อดิจทิ ลั และประเภทของ สอื่ ดิจิทัล โดยเพื่อนรว่ มช้ันทไ่ี มไ่ ดอ้ อกมาอธิบาย สามารถซักถามเพือ่ ขยายความเขา้ ใจได้ ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 5. ครูยกตวั อย่างส่ือดิจิทัลประเภทต่างๆ ท่ีพบเหน็ ได้ในปัจจุบันโดยมลี กั ษณะที่แตกต่างกันออกไป มาใหน้ ักเรยี นดูเพ่ือให้นักเรยี นเข้าใจมากขึน้ 6. ใหน้ ักเรยี นสร้างช้นิ งานโดยใชโ้ ปรแกรมทตี่ นเองถนดั เพื่อสร้างภาพ Infographic พร้อมรว่ มกนั อธบิ ายถงึ ข้อดี-ข้อเสียของสอ่ื ดจิ ทิ ลั 7. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการสร้างภาพ Infographic และนาตวั อยา่ งภาพ infographic มาให้ นกั เรยี นดเู พื่อให้นักเรยี นเขา้ ใจรปู แบบของการสร้างชิ้นงาน ขนั้ สรุป ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น และตรวจสอบช้ินงาน ของนกั เรียน 2. นกั เรยี นและครสู รปุ ถึงความหมาย องค์ประกอบ ประเภท และขอ้ ดี-ขอ้ เสียของสอื่ ดจิ ิทัล เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 5

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอ่ื ดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ เรื่องที่ 3 : เทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ เวลา 2 ชั่วโมง วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ข้นั นา ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) ครถู ามคาถามประจาหัวข้อเพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนว่า“เทคโนโลยีสารสนเทศ มีประโยชน์ต่อการดาเนินชีวติ อย่างไร” ขัน้ สอน ข้ันที่ 2 สารวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นศกึ ษาภายใต้หัวขอ้ เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการดาเนินชวี ิตและข้อมูลอ่ืน ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง ผ่านทางอินเทอรเ์ น็ต ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 2. ครูสุม่ นกั เรยี น 2-3 คน ออกมาอธบิ ายเกี่ยวกับสิง่ ทใี่ หไ้ ปศกึ ษา 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ “เทคโนโลยีสารสนเทศคอื การนาเอาเทคโนโลยีเขา้ มาจัดการกบั ข้อมูล และข้อมลู ในท่ีน้ีคือ ข้อความ ภาพนงิ่ ภาพเคลอื่ นไหว เสยี ง วิดีโอ เปน็ ต้น” ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 4. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นว่า “เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มามีบทบาทสาคญั ตอ่ การดาเนินชีวติ เป็นอย่างมาก และช่วยใหเ้ กิดผลดตี ่อผู้ใชง้ านไดท้ ุกระดบั ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน การทางาน หรือการใช้งานในชวี ิตประจาวัน” 5. ครซู กั ถามนักเรยี นว่ามสี ่วนไหนไมเ่ ข้าใจหรือไม่ พรอ้ มให้คาตอบเพื่อขยายความเขา้ ใจ ของนักเรยี น 6. นักเรยี นทา ใบงานที่ 1.3.1 เร่อื ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้ันสรุป ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และตรวจสอบ การทาใบงานที่ 1.3.1 2. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อการดาเนินชีวติ ประจาวัน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 6

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ิทลั และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ เรอื่ งที่ 4 : การเพิ่มมูลค่าใหก้ ับสนิ คา้ และบริการ เวลา 2 ชวั่ โมง วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขน้ั นา ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) ครูถามคาถามประจาหวั ขอ้ เพื่อกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นวา่ “การให้บรกิ ารรถโดยสาร สาธารณะควรนาเทคโนโลยีด้านใดมาชว่ ยในการเพิม่ มูลค่าของการบรกิ าร” ขน้ั สอน ขัน้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรยี นศกึ ษาเทคโนโลยีท่ีสามารถนาไปช่วยเพ่ิมมูลค่าให้กับสินค้าและบริการจากหนังสอื เรยี น ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 2. ครสู ุ่มนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาอธบิ ายเทคโนโลยที สี่ ามารถนาไปชว่ ยเพิม่ มูลค่าให้กบั สินค้า และบรกิ าร 3. ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การเพิ่มมลู ค่าใหก้ บั สินค้าและบริการวา่ “ในการเพ่ิมมลู ค่าใหก้ ับ สนิ ค้าและบรกิ ารควรคานึงถึงความทนทาน ความปลอดภัย ความเหมาะสม และความคดิ สรา้ งสรรค์ เพราะจะทาใหส้ ินค้าทไ่ี ด้พฒั นามปี ระสิทธภิ าพมากยงิ่ ข้นึ ” ข้ันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 4. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน เพือ่ ทากจิ กรรมท่สี อดคล้องกับเน้ือหาโดยใหผ้ ู้เรยี น ฝกึ ปฏบิ ตั ิเพอ่ื พัฒนาความรู้ (Com Sci activity) และใหน้ ักเรียนทาการออกแบบสินค้า และเสนอแนวคิดเพ่ือยกระดบั และเพ่มิ มูลค่าใหก้ บั สนิ ค้า OTOP ในจงั หวัดของตน พรอ้ มกบั วเิ คราะหว์ ิธีการในการเพ่ิมคุณภาพสินคา้ หรือบริการในแตล่ ะด้าน โดยสามารถ ศกึ ษาเพ่มิ ไดจ้ ากตัวอย่างในหนงั สอื เรยี น และเม่อื ทากิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหน้ กั เรยี น ส่งตวั แทนกล่มุ ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น ขนั้ สรุป ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการณต์ อบคาถาม ความสนใจในการเรียน การทางานร่วมกัน ภายในกลุม่ และการทากิจกรรมท่สี อดคลอ้ งกับเนอื้ หา 2. นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ เนอ้ื หาเก่ียวกับวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ิทลั และเทคโนโลยี สารสนเทศกบั การดาเนินชีวิตจากหนังสอื เรยี น เพื่อใหผ้ เู้ รยี นไดท้ บทวนสาระสาคัญประจา หนว่ ยการเรยี นรู้ 3. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองโดยพจิ ารณาข้อความว่าถกู หรือผดิ แล้วบนั ทึกลงใน สมดุ ประจาตัว หากพิจารณาข้อความไม่ถูกตอ้ ง ใหก้ ลบั ไปทบทวนเน้ือหาตามหัวข้อที่กาหนดให้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 7

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจทิ ัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ 4. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื งวิทยาการคอมพวิ เตอร์สอื่ ดิจิทัล และเทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การดาเนินชวี ิต 5. นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ประจาหน่วยการเรยี นรู้ และให้นกั เรียนตอบคาถามลงในสมุด และ ทาช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง การเพม่ิ มลู ค่าสินค้า OTOP โดยใหน้ กั เรยี นใช้โปรแกรม ท่ีตนเองถนดั ออกแบบฉลากผลิตภัณฑส์ ินคา้ OTOP เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้ผลติ ภณั ฑ์ นา่ สนใจมากยิง่ ขึ้นและนามาสง่ ในชว่ั โมงถัดไป 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง วิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ทิ ลั และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนินชีวิต 2) ใบงานที่ 1.3.1 เรอ่ื ง ประโยชนข์ องเทคโนโลยีสารสนเทศ 3) ตัวอยา่ งภาพ Infographic 4) คลปิ วดี โี อ เรื่อง สอ่ื ดิจิทัลกับการดาเนนิ ชีวิต 5) ตัวอยา่ งส่ือดจิ ทิ ัลประเภทต่างๆ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 8

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สอื่ ดจิ ทิ ลั และเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดต่อไปนเ้ี ปน็ แนวคิดของวิทยาการคอมพวิ เตอร์ 6. ข้อใด ไมใ่ ช่ โครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์ ก. การวิเคราะหต์ ้งั แตน่ ามธรรมไปจนถงึ รูปธรรม ก. หน่วยบารุงรักษาขอ้ มูล ข. การวิเคราะห์โดยอาศัยความคิดเชงิ ทฤษฎี ข. หน่วยรับขอ้ มูล ค. การวิเคราะหแ์ บบอปุ มาอปุ มยั ค. หน่วยแสดงผลข้อมูล ง. การใชค้ วามรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกตใ์ ช้ ง. หน่วยประมวลข้อมูล 2. ข้อใดคือภาษาทใี่ ช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ 7. ข้อใดคือประโยชน์ของการนาเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้งาน ก. ภาษาอินเตอร์พรเี ตอร์ ก. ลดทอนการได้เปรียบในการแขง่ ขนั ข. ภาษาไพทอน ข. เพ่ิมต้นทนุ ให้มคี ่าใชจ้ า่ ยท่ีสงู ขน้ึ ค. ภาษาคอมไพเลอร์ ค. เพ่มิ เวลาในการทางานเพอ่ื ใหง้ านมปี ระสทิ ธภิ าพ ง. ภาษาจาวาโค้ด ง. ช่วยในการตัดสินใจ 3. ขอ้ ใดคอื กระบวนการพัฒนาระบบสารสนเทศทเ่ี ปน็ ท่ี 8. บคุ คลใดใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศได้คุม้ คา่ มากทส่ี ุด นิยมมากท่ีสดุ ก. สมใจดูรายการทีวผี ่านทางโทรทัศน์ ก. SCLD ข. คณุ ยายรับฟังข่าวสารผ่านทางวทิ ยุ ข. SDLC ค. วรี ะใชค้ อมพิวเตอร์ในการเผยแพรข่ า่ วสารเพือ่ ชว่ ยเหลือ ค. SLDC สนุ ัขจรจัดท่ีถกู ทาร้าย ง. CLDS ง. กบผ่อนคลายสมองโดยการเลน่ เกมออนไลน์ 4. การพัฒนาโปรแกรมแบบ Waterfall Model 9. ข้อใดกลา่ วถงึ ลกั ษณะสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ มีลกั ษณะอย่างไร ไดถ้ ูกต้อง ก. มีขน้ั ตอนที่ซบั ซอ้ นยากตอ่ ความเขา้ ใจ ก. เพ่มิ ภาระงานในการทางาน ข. มกี ารดาเนินงานทุกขน้ั ตอนพรอ้ มๆกัน ข. เปล่ียนรปู แบบการบรกิ ารใหเ้ ปน็ แบบเฉพาะบคุ คล ค. มีข้นั ตอนการดาเนินงานที่ชดั เจน เปน็ ลาดบั ขั้นตอน ค. เป็นส่งิ ท่จี าเปน็ สาหรับการดาเนนิ งานของทุกหน่วยงาน ง. ไม่สามารถย้อนกลบั ไปทางานก่อนหนา้ ได้ ง. เปน็ สง่ิ ท่ชี ว่ ยในการตดั สนิ ใจของผ้บู ริหารเทา่ นน้ั 5. ครแู นนใชภ้ าพนิ่ง ภาพเคลอ่ื นไหว เสยี ง และวดิ โี อ 10. ข้อใดคอื เทคโนโลยีทช่ี ว่ ยเพิม่ มูลค่าให้กบั สนิ ค้าและบรกิ าร มาจัดการเรียนการสอนใหก้ บั นกั เรยี น ถอื ว่าครูแนน ก. เทคโนโลยที างดา้ นฮารด์ แวร์ / เทคโนโลยีทางด้าน ใช้สื่อประเภทใด ซอฟตแ์ วร์ / เทคโนโลยีด้านการจดั การข้อมลู ก. สื่อส่งิ พมิ พ์ ข. เทคโนโลยีทางดา้ นมัลแวร์ / เทคโนโลยีทางดา้ น ข. สือ่ ดิจทิ ัล ซอฟตแ์ วร์ / เทคโนโลยีทางดา้ นฮาร์ดแวร์ ค. ส่อื เคลอื่ นไหว ค. เทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูล เทคโนโลยีทางด้าน ง. ส่ือออนไลน์ มลั แวร์ / เทคโนโลยีทางด้านพีเพิลแวร์ ง. เทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ / เทคโนโลยีทางด้านพเี พิล แวร์ / เทคโนโลยที างด้านซอฟตแ์ วร์ เฉลย 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ข 6. ก 7. ง 8. ค 9. ค 10. ก เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 9

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ิทลั และเทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การดาเนนิ ชวี ติ แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ครูนนุ่ ต้องการใชส้ ่ือดจิ ทิ ลั มาจัดการเรยี นการสอน 6. ภาษาไพทอนใช้สาหรบั การทางานในขอ้ ใด ใหก้ บั นกั เรยี น ดังนั้นครนู ุน่ ควรเลอื กส่อื ในข้อใด ก. พัฒนาระบบคอมพวิ เตอร์ ก. อปุ กรณ์ทาความสะอาด ข. พัฒนาซอฟตแ์ วร์ ข. เสยี งและวิดโี อ ค. พัฒนาระบบเครอื ขา่ ย ค. หนังสือพมิ พ์ ง. พัฒนาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ง. หนงั สอื เรียน 7. ข้อใดกล่าวถึงความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. SDLC คอื กระบวนการพัฒนาระบบใด ไดถ้ ูกต้องทสี่ ดุ ก. กระบวนการพัฒนาระบบคอมพวิ เตอร์ ก. เปลีย่ นรปู แบบการบรกิ ารให้เปน็ แบบเฉพาะบคุ คล ข. กระบวนการพัฒนาระบบสารสนเทศ ข. เพิม่ ภาระงานในการทางาน ค. กระบวนการพัฒนาระบบภายในโรงเรยี น ค. เปน็ สง่ิ ทช่ี ่วยในการตดั สนิ ใจของผบู้ รหิ ารเท่านั้น ง. กระบวนการพัฒนาระบบผบู้ รหิ าร ง. เปน็ สงิ่ ที่จาเปน็ สาหรับการดาเนินงานของทุกหนว่ ยงาน 3. บุคคลใดใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ไม่คมุ้ ค่า 8. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจตรงกับขอ้ ใด ก. สมใจดูรายการทีวผี ่านทางโทรทัศน์ ก. โปรแกรมตรวจและวนิ ิจฉยั ข. คุณยายรบั ฟังข่าวสารผ่านทางวิทยุ ข. โปรแกรมจาแนกสารในอาหาร ค. สายใจใช้คอมพวิ เตอร์ในการเลน่ เกมออนไลน์ ค. โปรแกรมพยากรณอ์ ากาศ ง. ฟา้ ใสผอ่ นคลายสมองโดยการฟงั เพลง ง. โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิรด์ จากอนิ เทอรเ์ น็ต 9. ขอ้ ใดคอื ดจิ ทิ ัลคอนเทนต์ 4. ขอ้ ใดคอื โครงสรา้ งของระบบคอมพิวเตอร์ ก. โทรทศั น์ ก. Input / Process / Output ข. เครือ่ งบนั ทกึ เสยี ง ข. Output / Process / Input ค. หนงั สือพิมพ์ ค. Input / Output / Process ง. อปุ กรณก์ ารเรยี น ง. Process / Output / Input 10. เครื่องมอื ในขอ้ ใดมหี นา้ ท่ีในการเผยแพรเ่ สียงและวิดโี อ 5. แนวคิดการวิเคราะห์ตัง้ แตน่ ามธรรมไปจนถึงรูปธรรม ผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ แนวคิดตรงกับขอ้ ใด ก. วทิ ยุ ก. แนวคิดของวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ข. สมารท์ โฟน ข. แนวคิดของวทิ ยาศาสตร์ ค. พอดแคสต์ ค. แนวคดิ ของคณติ ศาสตร์ ง. แทบ็ แล็ต ง. แนวคดิ ของคอมพิวเตอรอ์ ตุ สาหกรรม เฉลย 1. ข 2. ข 3. ค 4. ก 5. ก 6. ข 7. ง 8. ค 9. ก 10. ค เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 10


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook