รายงานปฎิบัติงานภาคเรียนที่ ๒/๖๔

บันทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรียนชุมชนวัดปากตรงั สพป.สุราษฎร์ธานี เขต ๒ ท่ี วนั ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๕ เรอ่ื ง สง่ รายงานผลการประเมินตนเองเปน็ รายบคุ คล (SAR) ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรยี นชมุ ชนวดั ปากตรัง ด้วย ขา้ พเจ้า นางสาวปรัษฐา รตั นคช ตำแหนง่ ครูชำนาญการ ได้รับมอบหมายให้ ปฏิบัติหน้าท่ีงานสอน และงานพิเศษอ่ืนๆ ในภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรียนชุมชนวัดปากตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งได้สำเร็จลุล่วง ตามแผนงานประจำปี บัดน้ี ข้าพเจ้าได้จัดทำรายงานผลการประเมินตนเองเป็นรายบุคคล (Self Assessment Report : SAR) ประจำภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ เพือ่ รายงานต่อผ้บู ังคับบัญชา ตามแนวทางการประกันคุณภาพ การศึกษา มาตราที่ ๕๐ หมวด ๖ ว่าด้วยมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรฐานวิชาชีพครู การ ปฏิบัติงานตามที่โรงเรียนกำหนด ตลอดจนเป็นสารสนเทศทางการศึกษาของตนเองเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา ในโอกาสตอ่ ไปให้มคี ณุ ภาพสูงขึ้น รายละเอียดตามเอกสารท่ีสง่ มาพร้อมน้ี จงึ เรยี นมาเพ่ือทราบ (ลงชือ่ )…………………….....…………......………. นางสาวปรัษฐา รัตนคช ตำแหน่ง ครู ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียนชมุ ชนวดั ปากตรัง ……………………………………........………….……………………………………………..........…....................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... (ลงช่อื )…………….…………….......................……………. นายภกั ดี วงเดช ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวดั ปากตรงั

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน คำนำ รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) เปน็ การประเมนิ การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2545 รวมท้ัง มาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ข้าพเจ้าไดจ้ ัดทำขน้ึ เพ่ือรายงานผลการจัดการเรยี น การสอนและการ ปฏิบัติหน้าท่ีของข้าพเจ้าตามฝ่าย/กลุ่มงาน ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีได้ส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะ และคุณภาพตามระดบั มาตรฐานคุณภาพการศึกษา โรงเรยี นชุมชนวัดปากตรัง สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 2 ประจำภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 รายงานนี้ โรงเรียนสามารถนำผลการดำเนินงานไปจัดทำการประเมินคุณภาพภายในและสรุป รายงานให้ผู้บงั คับบญั ชาตามลำดับสายงาน ตลอดจนเผยแพร่ให้กบั ผู้ปกครอง นักเรียน ชุมชนในสังคม ได้ทราบผลการปฏิบัติงานของบุคลากร โรงเรียนชุมชนวัดปากตรัง สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาสุราษฎรธ์ านี เขต 2 ขอ้ มูลท่ีได้จากการประเมินในการประเมินตนเอง (SAR) ในคร้ังนี้ ข้าพเจา้ จะได้นำไปใช้เป็นแนวทาง ในการปรับปรุงเพือ่ พัฒนาการปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมาย เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรียนให้ สงู ขึ้นในทกุ ๆ ด้านตอ่ ไป ปรษั ฐา รตั นคช ตำแหนง่ ครู

สารบญั รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน เรอ่ื ง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ❖สว่ นที่ 1 ข้อมลู ท่วั ไป ๑ ❖สว่ นที่ 2 รายงานผลการปฏิบัตงิ าน ตามองคป์ ระกอบตวั ชีว้ ัด 8 ❖ส่วนที่ 3 ขอ้ มลู การปฏบิ ัตติ นในการรักษาวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ และการปฏิบตั ิงานการปฏบิ ัติตนตามมาตรฐานวชิ าชพี ครู ตามมาตรฐานการศกึ ษา การประเมินตนเองการปฏบิ ัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพครู 30 ❖สว่ นที่ 4 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ 35 ❖ภาคผนวก ก (เกียรติบัตร/รางวัล/รูปภาพ) 38

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน รายงานผลการปฏิบตั ิงานของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ครง้ั ท่ี ๑ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕) ส่วนท่ี 1 ข้อมลู ทว่ั ไป 1.1 ขอ้ มลู ทัว่ ไป 1. ข้อมลู สว่ นตวั ช่ือ นางสาวปรัษฐา นามสกุล รตั นคช ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ สถานศึกษา โรงเรียนชุมชนวดั ปากตรงั สงั กัด สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 รบั เงินเดือนในอนั ดบั คศ. 2 อัตราเงินเดือน บาท อายุ 36 ปี ปฏิบัติราชการเปน็ เวลานาน ๙ ปี ๓ เดือน ปฏบิ ตั ิการสอนกล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ถงึ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ โรงเรยี นชมุ ชนวดั ปากตรงั ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จงั หวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา สรุ าษฎรธ์ านี เขต 2 ๒. ประวัตกิ ารศึกษา ๒.๑ ระดับประถมศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 -6 โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๓๘ ตำบลวงั หนิ อำเภอบางขนั จังหวัดนครศรีธรรมราช ๒.๒ ระดับมัธยมศกึ ษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 – 6 โรงเรียนสตรีท่งุ สง ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุง่ สง จังหวดั นครศรธี รรมราช ๒.๓ ระดับปรญิ ญาตรี ศลิ ปศาสตร์บัณฑิต (ศศ.บ.) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวชิ าภาษาไทย. มหาวิทยาลัยทกั ษิณ จังหวัดสงขลา ๒.๔ ระดบั ประกาศนยี บตั รบณั ฑติ ประกาศนียบตั รบัณฑิต วิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช จงั หวดั นครศรธี รรมราช ๓. ประวัตกิ ารรับราชการ รับราชการ ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ โรงเรยี นชมุ ชนวัดปากตรัง สงั กัดสำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ปัจจบุ ันรับราชการ ตำแหน่งครู ค.ศ.๒ (๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕6๔- ปัจจบุ ัน) โรงเรียนชุมชนวดั ปากตรัง สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๔. ประวตั ิการลาราชการ ประจำครึ่งปงี บประมาณ ๒๕๖๕ (๑ ตลุ าคม ๒๕๖๔ – ๓๑ มนี านคามงสา๒วป๕ร๖ษั ฐ๕า)รตั นคช ผรู้ ายงาน รายการลา เดือน/ปี ลาปว่ ย ลากิจ ลาคลอด/ ลาเข้ารับ ลาศึกษาตอ่ ขาดราชการ/ ลาอปุ สมบท การตรวจเลือก ขาดงาน คร้ัง วัน คร้ัง วนั ครัง้ วัน คร้งั วัน ครงั้ วนั ครัง้ วนั ต.ค.-๖๔ - - - - - - - - - - - - พ.ย.-๖๔ - - - - - - - - - - - - ธ.ค.-๖๔ - - - - - - - - - - - - ม.ค.-๖๕ - - - - - - - - - - - - ก.พ.-๖๕ - - - - - - - - - - - - ม.ี ค.-๖๕ - - - - - - - - - - - - รวม - - - - - - - - - - - - ๕. ประวัติการได้รบั เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ วัน/เดือน/ปี ช้นั เอกสารอ้างอิง/ราชกิจจานเุ บกษา หลกั ฐานอ้างองิ ทีพ่ ระราชทาน เลม่ ท่ี ตอนที่ หน้า ลงวนั ท่ี - -- -- - - 1.2 ข้อมลู การปฏบิ ัติหน้าท่ี 1.2.1 ดา้ นการสอน มีหน้าทแี่ ละความรับผดิ ชอบในการสง่ เสรมิ การเรียนรู้ ทกั ษะ กระบวนการคิด การมสี ว่ นร่วมในการจัด กจิ กรรมการเรยี นการสอนของผู้เรียน ประสานความรว่ มมอื ระหว่างผปู้ กครอง ชมุ ชน และสถานประกอบการ ใกล้เคยี ง เพื่อมีสว่ นรว่ มในการพฒั นาและสง่ เสริมศักยภาพของผูเ้ รยี นตามธรรมชาตขิ องช่วงวัย และบรบิ ทของ สถานศกึ ษา โดยได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหน้าท่ใี นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย และกิจกรรมพมั นาผเู้ รียน รายละเอยี ดดังนี้

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ตารางที่ 1แสดงจำนวนรายวิชา/กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตรระดบั ชัน้ ช่วั โมงเรียนทปี่ ฏบิ ตั กิ ารสอน ปกี ารศกึ ษา 2564 ท่ี รายวิชา รหัสวชิ า ระดับชน้ั จำนวนช่ัวโมง/สปั ดาห์ 1 ภาษาไทย ท 1๕101 ป.๕ ๔ 2 ภาษาไทย ท 1๖101 ป.๖ ๔ 3 ภาษาไทย ท ๒๑101 ม.๑ ๓ 4 ภาษาไทย ท ๒๒101 ม.๒ ๓ 5 ภาษาไทย ท ๒๓101 ม.3 ๓ 6 พลศกึ ษา พ ๒๑101 ม.๑ 1 7 พลศกึ ษา พ ๒๒101 ม.๒ 1 ๘ แนะแนว ม.๑ 1 ๙ ชุมนมุ ม.๑ 1 1๐ ลกู เสือ เนตรนารี ม.๑ 1 รวมจำนวนชัว่ โมงท้ังหมด ๒๒ สรปุ ปฏิบัติการสอน จำนวน ๗ รายวชิ า ๓ กิจกรรม จำนวน ๒๒ ชั่วโมง 1.2.2 หน้าทพี่ ิเศษอ่นื ๆ ได้แก่ 1) ครูท่ปี รกึ ษาระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ จำนวนนักเรยี น ๑๘ คน 2) ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีครผู ้สู อนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ครูเวรประจำวันอังคาร 3) งานหอ้ งสมดุ 4) งานสหกรณโ์ รงเรยี น 5) โครงการเอกลกั ษณไ์ ทย 6) คำส่งั เวรยามโรงเรยี น 7) หนา้ ท่อี ่ืนๆ ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ตารางที่ 2 แสดงการปฏิบตั ิหน้าทอ่ี ื่น ๆ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ท่ี หนา้ ท่ีที่ได้รับ ปกี ารศึกษา 2564 คำสงั่ /เอกสารอา้ งองิ มอบหมาย จำนวนนักเรียน ๑๘ คน คำสั่งโรงเรยี นชมุ ชนวดั ปากตรงั 1 งานครทู ป่ี รึกษา เรือ่ ง แตง่ ต้งั บคุ ลากรปฏบิ ัติหนา้ ท่ีครูทีป่ รกึ ษา วันอังคาร ปีการศึกษา 2564 2 เวรประจำวัน คำสง่ั โรงเรยี นชุมชนวัดปากตรงั ผูก้ ำกับกองลูกเสือ-เนตร เร่อื ง แต่งตั้งบุคลากรปฏบิ ัตหิ น้าที่เวรประจำวนั 3 กจิ กรรม นารี ปกี ารศกึ ษา 2564 ลูกเสือ-เนตรนารี คำสั่งโรงเรียนชุมชนวดั ปากตรัง ระดบั ชัน้ ม.๑ เรอ่ื ง แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดำเนนิ การจดั กจิ กรรม กจิ กรรมการทำความ จำนวนนกั เรยี น ๑๘ คน พัฒนาผู้เรียน ปีการศกึ ษา 2564 ๔ สะอาดบรเิ วณ คำสั่งโรงเรยี นชุมชนวดั ปากตรัง บริเวณลานแก้ว เรื่อง แต่งตั้งบุคคลปฏิบัติหนา้ ทดี่ ูแลการปฏิบัตหิ น้าท่ี รับผดิ ชอบของนักเรยี น นักเรยี นทุกคน การทำความสะอาดบรเิ วณรับผิดชอบของนกั เรยี น นักเรียนทกุ คน ปกี ารศกึ ษา 2564 ๕ งานหอ้ งสมุด นกั เรยี นทกุ คน ดแู ลรกั ษา และอำนวยความสะดวกแกน่ กั เรยี นในการ ใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ ๖ งานสหกรณ์โรงเรียน ใหบ้ ริการนักเรียนในการใช้บริการสหกรณ์รา้ นค้า จดั ทำโครงการเอกลกั ษณ์ไทย วันสนุ ทรภู่ 7 โครงการเอกลักษณ์ วนั ภาษาไทย ไทย ข้าพเจ้า นางสาวปรัษฐา รัตนคช ตำแหน่ง ครู ครปู ระจำชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ไดร้ บั มอบหมายจาก ผู้บังคบั บัญชาใหป้ ฏิบัติหนา้ ท่ีในสถานศึกษา ทงั้ ด้านการจดั การเรยี นการสอน และงานพิเศษอืน่ ๆ ท่ไี ด้มอบหมาย โดยในการปฏบิ ตั งิ านยึดหลักการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่ศษิ ย์ ใหค้ ำปรึกษาแก่นักเรยี นในฐานะผรู้ ับบรกิ าร อย่างเทา่ เทยี มกนั รับผิดชอบต่อการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน สอนผ้เู รียนให้มีความรู้ ความสามารถ พัฒนา ทักษะอย่างรอบด้าน ตรงตามมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ตัวชี้วดั หรอื ผลการเรยี นรู้ ตลอดจนสมรรถนะ สำคญั และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี น บนพ้นื ฐานความเช่ือทีว่ า่ “ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพฒั นา ตนเองได้ตามศกั ยภาพของแตล่ ะบุคคลและธรรมชาติของช่วงวัย นอกจากน้ขี ้าพเจา้ ไดร้ บั มอบหมายให้ปฏิบตั หิ น้าทพี่ เิ ศษตามระเบียบสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน ว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๒ หมวด ๑ หน้าท่ีและการบริหารงานของสถานศึกษา โดยมี รายละเอยี ดดังนี้

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๑. งานจดั กิจกรรมการเรียนการสอน นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน มีหน้าท่แี ละความรบั ผดิ ชอบในการส่งเสริมทักษะการเรยี นรู้ กระบวนการคิดการมสี ว่ นรว่ มในการมสี ่วนร่วม ในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนของผเู้ รียน กำกับการทำแบบฝึกหัดคอยช่วยเหลอื แนะนำสำหรับนกั เรยี นกลุม่ พเิ ศษทางการเรียนรู้ จัดกจิ กรรมซอ่ มเสริมหลงั จากการจัดการเรยี นการสอนในกลุ่มพิเศษท่ีเรยี นรู้ชา้ ให้สามารถ เรียนรไู้ ดเ้ ท่าทันกับนกั เรียนกลุ่มปกติ รวมถึงการประสานความร่วมมอื ระหวา่ งผู้ปกครอง ชมุ ชน และหนว่ ยงานอืน่ ทม่ี สี ว่ นร่วมในการพฒั นาและสง่ เสรมิ ศักยภาพของผเู้ รียนตามธรรมชาติชว่ งวยั และบริบทของสถานศกึ ษา และมี การจัดการรปู แบบการเรียนการสอนใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆท่เี กดิ ข้ึน เช่น การเรยี นออนไลนใ์ นชว่ ง สถานการณ์ โควิด 19 ทีต่ ้องมีรูปแบบการสอนที่หลากหลายควบคกู่ ันไปทั้งยงั ศักยภาพในการเขา้ ถึงการสอนการ สอนรูปแบบตา่ งๆของนักเรยี น ความพร้อมในการเรียนตามรปู แบบที่จัดการเรียนการสอน 2. งานครทู ีป่ รึกษา 2.๑. การดูแลและแก้ไขปญั หาความประพฤตขิ องนกั เรยี น ศกึ ษา และวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเป็นรายบคุ คล โดยใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนภายในห้อง และ นอกหอ้ งเรียน การสมั ภาษณ์เพื่อนรว่ มห้อง สังเกตพฤติกรรม การแลกเปลย่ี นขอ้ มูลระหวา่ งครทู ี่ปรึกษาและ ผปู้ กครองนกั เรียน เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะอยู่ทบ่ี า้ นและโรงเรียน ตลอดจนรว่ มกันกำหนดแนวทางใน การแกไ้ ขปญั หา กรณีท่ี นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ และส่งเสรมิ ผู้เรยี นท่ีมีพฤติกรรมพึงประสงค์ใหม้ ีความ เปน็ เลิศตามศักยภาพ ของแต่ละบคุ คล ชว่ ยกนั สอดส่องและกำกบั ดแู ลใหน้ ักเรยี นมพี ฤติกรรมท่เี หมาะสมและดีขึ้น ช่วยซ่อมเสริมในส่วนท่ีนักเรยี นยงั ไม่สามารถเรียนร้ไู ด้ทันโดยใหผ้ ูป้ กครองรับรแู้ ละช่วยสอนเพม่ิ เติมท่ีบา้ นเพราะ นักเรียนกลุ่มเดก็ พเิ ศษทเี่ รยี นรูไ้ ด้ช้าไม่สามารถเรียนรู้ได้เลยในหอ้ งเรยี นปกติ 2.๒. การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น ดำเนินการให้นักเรียนบันทึกข้อมูลของนักเรียนลงในแบบบันทึกข้อมูลรายบุคคล เพื่อเป็นการทราบข้อมูล พ้นื ฐานของนักเรียนเบือ้ งต้นท้ังในดา้ นขอ้ มูลสุขภาพ ครอบครัว ความสามารถพิเศษ และลักษณะนสิ ัยของนกั เรียน ตลอดจนมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างครอบครัวของนักเรียนและครูท่ีปรึกษา รวมถึงการเกบ็ ขอ้ มูลสภาพจรงิ ทั้งในด้านข้อมูลครอบครัว สภาพความเป็นอยู่ของ ครอบครัว และสภาพบริบทของ ชมุ ชนใกล้เคยี ง คัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษเพ่อื ให้นกั เรียนมีโอกาสในการเข้าถงึ ทนุ การศกึ ษาสำหรบั เด็กยากจน พิเศษ กำกับ ดูแลนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – 3 ในการปฏิบัติกิจกรรมพิธีการเข้าแถวเคารพธงชาติใน ภาคเช้าอยา่ งใกล้ชิด และใหน้ กั เรยี นปฏิบัติตนเพื่อสร้างระเบยี บวินัยในตนเองใหเ้ กิดขนึ้ ตลอดจน กำกับ ดแู ล และ ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนให้ทันเวลา ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองนักเรียนที่มา สาย เพื่อรบั ทราบสาเหตุและปญั หาของการเดนิ ทางมาโรงเรียนสายของนักเรยี นและ ร่วมกันหาแนวทางการแกไ้ ข ปญั หาอย่างเป็นระบบ นอกจากน้ี เม่ือเสรจ็ ส้ินกิจกรรมพิธีการเข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว ได้ปฏิบตั ิหนา้ ทีใ่ นการอบรม ส่ังสอน หรือ พูดคุยเพื่อสร้างความไว้วางใจ ให้แก่นักเรียนในการบอกเล่าเรื่องราว หรือปัญหาท่ีเกิดขึ้นขณะท่ี นักเรียนใช้ ชีวิตประจำวันอยู่ในโรงเรียน สอดแทรกการให้ความรู้เร่ืองการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย การควบคุมอารมณ์ คุณธรรม จริยธรรม ผ่านการจัดกิจกรรม โฮมรูม (Homeroom) หากพบว่ามีนักเรียนที่มีปัญหา ดำเนินการ สอบถามข้อมูล ต้นเหตุของปัญหา และร่วมกันหาแนวทางในการแก้ปัญหา โดยขอความร่วมมือจาก ภาคีเครือข่าย อาทิเชน่ ครแู นะแนว ผู้ปกครอง และคณะผ้บู รหิ าร เป็นตน้ 1.3 รางวัลและความภาคภูมิใจ -

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน 1.4 ขอ้ มูลการพัฒนาตนเอง ปกี ารศกึ ษา 2564 1 กจิ กรรมพฒั นาตนเอง ในดา้ นการเรียนการสอน การจดั ทำแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑-3 ทกั ษะกระบวนการเรยี นรู้ท่ใี ช้จดั กิจกรรมการเรยี นรกู้ ระบวนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขน้ั (5E) การผลติ สอ่ื ,นวตั กรรม ,เทคโนโลยี ไดแ้ ก่ เอกสารประกอบการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การทำแฟ้มสะสมงานคดั สรรของครู นกั เรยี น 2 การเข้าร่วมกจิ กรรมทางวิชาการเพือ่ พัฒนาตนเอง มดี งั นี้ ตารางที่ 3 แสดงการเข้าร่วมกจิ กรรมทางวชิ าการเพื่อพฒั นาตนเอง คร้ังที่ วนั /เดือน/ปี ประชมุ อบรมสัมมนา สถานท/่ี ระยะ การเผยแพร่/ หนว่ ยงานทจี่ ัด เวลา ทศั นศึกษา ประโยชนก์ าร ดูงาน นำไปใช้ ๑ ๔ กันยายน กลยุทธ์การจัดการเรียน ออนไลน์ ๑ วัน ใชใ้ นการจดั กิจกรรม ๒๕๖๔ การสอนและการจัด การเรียนการสอน ประชุมออนไลนใ์ หม้ ปี ระ สิทธภิ า พในยุค NEXT Normal (Virtual Classroom and Meeting Guide, Steps and Best Practices in NEXT Normal) ๒ ๑๔ กันยายน การจัดการสอบดิจิทัล ออนไลน์ ๑ วนั ใชใ้ นการจัดกิจกรรม ๒๕๖๔ รองรับการเรียนการสอน การเรียนการสอน รปู แบบผสมผสานอย่าง ปลอดภัย (Secure Digital Assessment for Hybrid Learning) ๓ ๒๐ ธันวาคม การจัดการเรยี นการสอน สพป.สฎ ๒. ๑ วัน ใชใ้ นการจดั กิจกรรม ๒๕๖๔ เพ่ือนพฒั นาสมรรถนะการ การเรยี นการสอน อ่านข้นั สูง สำหรบั นกั เรยี น ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น ๔ 13 มกราคม การพฒั นาสมรรถนะครู สพป.สฎ ๒ ๓ ชั่วโมง ใช้ในการจัดกิจกรรม ๒๕๖๕ ภาษาไทยในการจดั การ การเรียนการสอน เรียนรู้แบบ Actiive learning ระดบั ชน้ั มธั ยม

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ครงั้ ท่ี วนั /เดือน/ปี ประชมุ อบรมสัมมนา สถานท/่ี ระยะ การเผยแพร่/ ทศั นศึกษา หน่วยงานท่ีจัด เวลา ประโยชน์การ ดงู าน นำไปใช้ ๔ ๒- ๔ มีนาคม อบรมหลบกั สตู ร ออนไลน์ ๓ วัน ใช้ในการคดั กรอง นกั เรยี น ๒๕๖๕ ผ้ดู ำเนินการคัดกรองคน พกิ ารทางการศกึ ษา

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน สว่ นท่ี 2 รายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน 1. ข้อมูลการวางแผนการปฏิบัติงาน (การจัดกิจกรรมการเรยี นร)ู้ และการดำเนนิ การตามแผน 1.1 การประเมนิ ศักยภาพผเู้ รยี นกอ่ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ❖ครผู สู้ อนได้ประเมนิ นกั เรียนด้วยการวเิ คราะห์นักเรยี นเป็นรายบุคคล และไดจ้ ดั การเรียนการสอน โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ และเนอื่ งจากนักเรียนแตล่ ะระดับชั้น มีความหลากหลาย ครผู สู้ อนจงึ เน้นกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีมีลกั ษณะดังน้ี 1)รปู แบบการเรียนการสอนเนน้ การทำงานเปน็ กลมุ่ เชน่ การเรยี นแบบ GI การจบั คู่ 2)เนน้ กระบวนการสบื สวนสอบสวน (5E) เพอ่ื ให้นักเรียนได้ทำงานรว่ มกนั เพ่ือผลสำเรจ็ ของ กล่มุ 3)การจัดช้ันเรยี นได้จดั ให้นักเรียนนัง่ เปน็ กลมุ่ และมีการจัดกล่มุ ใหม่ทุกเดอื นโดยเป็นการจดั แบบสุ่มด้วยการจับฉลาก ๑.๒ นำผลการประเมินศักยภาพผูเ้ รยี นไปจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ีเ่ หมาะสมในแผนจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ❖ครูผู้สอนนำผลการประเมินศักยภาพผูเ้ รียนไปจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมในแผนจัดกจิ กรรม การเรยี นรู้โดยมีการดำเนินงานดงั น้ี 1)กลุม่ เกง่ ดำเนินการโดยจัดการเรียนการสอนตามหลกั สูตรแกนกลางจดั การเรยี นการสอนท่ี เนน้ การติวเข้มเพื่อเสริมความรู้ เคลด็ ลบั 2)กลุ่มกลาง ดำเนินการโดยจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลาง จัดการเรยี นการสอนท่ี เนน้ การติวเขม้ เพอ่ื เสริมความรู้ เคล็ดลบั เปดิ โอกาสให้สอบถามความร้เู พิม่ เติม เลือก เนื้อหาท่ีนกั เรียนยงั ไมเ่ ข้าใจ และทำคะแนนได้ตำ่ จดั สอนในคาบซอ่ มเสริม และพัก กลางวนั 3)กลุ่มออ่ น ดำเนนิ การโดยจัดการเรยี นการสอนตามหลักสูตรแกนกลาง อย่างช้าๆ เน้นความรู้ ความเขา้ ใจ เลอื กเนือ้ หาท่ีนักเรยี นยงั ไมเ่ ขา้ ใจ และทำคะแนนได้ต่ำสอนต่อจากคาบ น้ันๆ หรอื คาบซอ่ มเสรมิ โดยเปิดโอกาสใหส้ อบแกต้ วั หลายๆครงั้ เพอื่ เอาคะแนนท่ดี ี ท่ีสดุ

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๑.๓ แบบตรวจสอบการวางแผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน แบบตรวจสอบการวางแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ปีการศกึ ษา 2564 แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท ๒๑101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ โรงเรยี นชมุ ชนวัดปากตรงั อำเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี ครูผสู้ อน นางสาวปรษั ฐา รัตนคช ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการ (ครูประเมนิ ตนเอง) ตารางที่ 5 แสดงแบบตรวจสอบการวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ รายการตรวจสอบ มี ( อยูใ่ นคุณภาพระดับใด ) หมาย เหตุ ท่ี ดี ดี พอใช้ ปรับ ไม่มี มาก ปรงุ 1. คำอธบิ ายรายวิชา / หนว่ ยการเรยี นรู้  2. มาตรฐานหน่วยการเรียนรู้  3. ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง 3.1ครบถ้วนตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหนว่ ยการเรยี นรู้   3.2ครอบคลมุ ทั้งด้านพุทธพสิ ัย ทกั ษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย 4. การวางแผนการเรียนรู้และผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั  4.1ความเหมาะสมของระยะเวลาทีเ่ รยี น 4.2มีการกำหนดสภาพความสำเรจ็ ของการเรยี นรู้ (ชน้ิ งาน/ผลการ  ดำเนนิ งาน) เหมาะสมกบั เวลา ,ผู้เรยี น (รูบิกหรอื เกณฑ์ระดับ คุณภาพ) 4.3สาระการเรียนรู้เหมาะสมกับเวลา ,ผู้เรยี น และครอบคลมุ  4.4กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ ไปตามระดับคุณภาพการเรียนรู้ ( จากง่าย  ไปหายาก หรอื จากคุณภาพต่ำ ไปหาคุณภาพสูงขึ้น ) 4.5ทักษะการเรียนร้ขู องผ้เู รยี นทก่ี ำหนดในกิจกรรม เหมาะสม  4.6กิจกรรมการถ่ายทอดความรู้ (Trans missioned Approach) เหมาะสม 4.7กจิ กรรมการแลกเปลี่ยนความรู้ (Transactional Approach ) 4.8กิจกรรมการแปลงรปู ความรู้ (Transformational Approach ) เหมาะสม 4.9กจิ กรรมการสรปุ รวบยอดความรู้ และการนำเสนอองคค์ วามรู้หลัง การเรยี นรู้ของผเู้ รียนเหมาะสม 4.10สื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีทีใ่ ชส้ นบั สนุนการเรียนรู้ เหมาะสม 4.11ค่าใช้จา่ ยในการเรียนรู้ต่อคน ตอ่ หน่วย เหมาะสม 4.12มกี ารใชแ้ หลง่ เรยี นรทู้ งั้ ภายใน และนอกสถานศกึ ษาเหมาะสม

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน มี (อยใู่ นคณุ ภาพระดับใด) หมา ยเหตุ ท่ี รายการตรวจสอบ ดี ดี พอ ปรบั ไม่มี มาก ใช้ ปรงุ 5. การประเมินผลตามสภาพจรงิ  5.1 มีการกำหนดเกณฑร์ ะดับคณุ ภาพ (Criteria ) สำหรบั เทยี บเคยี ง องคค์ วามรู้ชดั เจน  5.2 การมสี ว่ นรว่ มในการประเมนิ ผลของผ้เู รยี น  5.3 เครอ่ื งมือท่ใี ช้วดั / ใชป้ ระเมนิ เหมาะสม และหลากหลาย       รวม 5 1 2 0 0 สรุปตามฐานนิยม ( Mode )ระดับคุณภาพ 2 ดี

(รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน องคป์ ระกอบท่ี ๑ : การประเมนิ ประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลการปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานตำแหน่ง ดา้ นที่ ๑ ดา้ นการจัดการเรียนรู้ ๑.๑ สร้างและหรอื พฒั นาหลักสูตร ข้าพเจ้าดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หลักสูตร สถานศึกษา สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวัดหรือผลการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะและการ เรียนรู้เต็มศักยภาพ โดยมกี ารปรบั ประยุกตใ์ ห้สอดคล้องกับบริบทของสถานศกึ ษา ผ้เู รียนและทอ้ งถน่ิ และสามารถ แก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ได้ และเพ่ือจัดทำคำอธิบายรายวิชา ออกแบบหน่วยการเรียนรู้โดยให้คลอบคลุม เน้อื หาของหลกั สตู ร โดยดำเนินการจดั ทำหลกั สตู รรายวิชา ตามภาระงานสอนทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ท้ังนี้ หลักสูตรรายวิชาท่ีจัดทำขึ้นสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ตามบริบทของ สถานศกึ ษา และช่วงวัยของผู้เรียน โดยมีการบันทึกผลการใช้หลักสตู รรายวิชาเพอ่ื นำผลไปใช้ในการปรับปรุงหรือ พัฒนาหลกั สูตรในครัง้ ต่อไป ผลลัพธ์ (Outcomes) นักเรยี นไดเ้ รยี นรูต้ รงตามโครงสร้างหลกั สตู รทีก่ ำหนดอย่างมีประสิทธิภาพตามข้อตกลงที่หวงั ใหเ้ กดิ ข้ึนกับ นักเรยี น และนักเรยี นรอ้ ยละ80 มีความร้ตู รงตามหลักสตู รทก่ี ำหนดอย่างมปี ระสิทธิภาพ

(รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๑.๒ การออกแบบการจดั การเรียนรู้ นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ข้าพเจ้าได้จัดทำ กำหนดหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระสำคัญ ช่อื เร่อื ง หวั เรอ่ื ง จัดทำกำหนดการสอน และกำหนดวธิ ีการวัดผลประเมนิ ผล ดังนี้ - ศกึ ษาสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ - ศกึ ษาวิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา เนือ้ หา องคป์ ระกอบสำคัญ คอื ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมการเรียนการสอนภายใตส้ ถานการณก์ ารระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 - นำสาระการเรยี นร้มู าจัดทำกรอบเนือ้ หา เพ่อื แบง่ สาระการเรยี นร้อู อกเป็นรายแผนการจดั การเรยี นรู้ เพือ่ ประโยชนใ์ นการเขยี นผลการเรียนร้ทู ีค่ าดหวงั - นำชือ่ เรื่อง และหัวขอ้ เรอ่ื งของแผนการจดั การเรยี นรู้โดยพจิ ารณาจำนวนแผนการจัดการเรียนรู้ ขอบข่าย เน้อื หาและเวลาในการจดั การเรยี นการสอนตามที่หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานพุทธศักราช 2551 กำหนดไว้ - จัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยมีสว่ นประกอบครบสมบรู ณ์สามารถนำไปปรบั ใช้สอนได้จรงิ และมีประสทิ ธภิ าพ - เลือกใช้เอกสาร สอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอน ใหม้ ีความยืดหยนุ่ และเหมาะสม ในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบการสอนต่างๆตามสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโควิด – 19 และตามแหลง่ การเรียนร้ใู หเ้ อื้อต่อการจดั การเรียนการสอน - จดั ทำเคร่ืองมอื วดั ผลและประเมนิ ผล ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยปรับให้มคี วามเหมาะสม และผอ่ นคลายให้กบั นักเรียนแต่ละแผนการจดั การเรียนรู้ไดน้ ำจุดประสงคก์ ารเรียนรู้วธิ กี ารวัดผลด้วยวิธีที่ หลากหลาย มีความเหมาะสมกบั เนื้อหาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ให้เหมาะสมกบั การเรยี นการสอนแบบตา่ งๆ - การสรุปผลการประเมินหลงั การเรยี นทกุ แผนการจัดการเรยี นรู้ เพ่ือนำจดุ บกพร่องและจุดที่เปน็ ปัญหาต่อการเรยี นร้ขู องนกั เรียนแจ้งให้นักเรียนทราบเพอื่ นำมาปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาให้ดีขึ้น - นำผลการประเมินไปปรบั ปรงุ แก้ไข และพฒั นาตอ่ ไป ผลท่ไี ด้จากการเตรยี มการสอน มีดงั นี้ 1) ทำให้ครูมคี วามม่ันใจในการจัดการเรยี นการสอน และสามารถถ่ายทอดความรูใ้ ห้แกน่ กั เรียนได้อย่างเต็มท่ีและมปี ระสิทธิภาพ 2) สามารถสอนไดต้ ามลำดับข้ันตอน การสอนดำเนินการไปอย่างราบรน่ื ครบทกุ กระบวนการและบรรลุตามแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ตงั้ ไว้ 3) นักเรยี นมีความรบ้ ผดิ ชอบ ความตง้ั ใจเรยี น และมคี วามกระตอื รอื รน้ ในการเรียน ตระหนกั และมีทัศนคติทดี่ ีต่อการเรียนทกุ รายวชิ า ทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ 4) นักเรยี นไมเ่ กิดความเบ่ือหนา่ ยในการเรยี น 5) ผลสมั ฤทธขิ์ องนักเรียนอยู่ในระดบั มาตรฐาน

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน 6) สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ แกค่ รผู ู้สอนคนอน่ื ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้อง 7) เปน็ ตวั อยา่ งท่ีดแี ก่ครูผู้สอนคนอืน่ ๆ 8) เกดิ ผลดแี ก่สถานศึกษา คือ คุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาสูงข้ึนเปน็ ท่ียอมรับ ของผู้ปกครองและชมุ ชน ผลลพั ธ์ (Outcomes) นักเรียนผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนเปน็ ไปตามมาตรฐานท่ีสถานศกึ ษากำหนด ๑.๓ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้าพเจา้ มีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชร้ ูปแบบการจัดการเรยี นรแู้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) ท่เี นน้ วธิ ีการ ปฏิบัตแิ ละมคี วามหลากหลาย สอดคลอ้ งกับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้วี ัดและจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูใ้ น แผนการจัดการเรยี นรู้ มกี ารอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และส่งเสรมิ ผู้เรยี นได้พฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพ เรยี นรู้ และทำงานรว่ มกัน โดยมีการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ีส่ ามารถแกไ้ ขปญั หาในการจดั การเรยี นรู้ ทำให้ผเู้ รียนมี กระบวนการคิดและคน้ พบองคค์ วามร้ดู ว้ ยตนเองและสร้างแรงบันดาลใจ โดยมรี ูปแบบการจัดการเรยี นการสอน ดังน้ี ๑. การเรียนรู้แบบแลกเปลย่ี นความคดิ (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ให้ ผู้เรยี นคิดเก่ียวกับประเดน็ ที่กำหนดแตล่ ะคน ประมาณ ๒-๓ นาที (Think) จากนน้ั ให้แลกเปลย่ี นความคิดกับเพอื่ น อีกคน ๓-๕ นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเหน็ ต่อผ้เู รียนทัง้ หมด (Share) ๒. การเรยี นร้แู บบร่วมมอื (Collaborative learning group) คอื การจัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ ใ่ี ห้ ผเู้ รียนได้ทำงานร่วมกับผู้อ่ืน โดยจดั เป็นกลุม่ ๆ ละ ๓-๖ คน

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ๓. การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผ้เู รยี น (Student-led review sessions) คือการจดั กจิ กรรมการ เรียนรูท้ เี่ ปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รียนได้ทบทวนความรู้และพจิ ารณาข้อสงสัยตา่ ง ๆ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยครู จะคอยช่วยเหลือกรณีที่มปี ัญหา ๔. การเรยี นรแู้ บบใช้เกม (Games) คือการจดั กิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ผู้สอนนำเกมเขา้ บูรณาการใน การเรียนการสอน ซงึ่ ใช้ไดท้ ้งั ในขน้ั การนำเข้าสูบ่ ทเรยี น การสอน การมอบหมายงาน และหรอื ข้นั การประเมินผล ๕. การเรยี นรู้แบบแผนผงั ความคดิ (Concept mapping) คอื การจดั กิจกรรมการเรยี นร้ทู ่ีให้ ผูเ้ รยี นออกแบบแผนผังความคิด เพ่ือนำเสนอความคิดรวบยอด และความเช่อื มโยงกันของกรอบความคิด โดยการ ใช้เสน้ เป็นตวั เชอ่ื มโยง อาจจัดทำเปน็ รายบคุ คลหรืองานกลมุ่ แลว้ นำเสนอผลงานตอ่ ผู้เรียนอ่ืนๆ จากนั้นเปิดโอกาส ใหผ้ ูเ้ รยี นคนอน่ื ได้ซักถามและแสดงความคดิ เห็นเพิ่มเตมิ โดยขา้ พเจา้ มหี ลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาการใช้รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนดงั นี้ 1. พิจารณาจุดประสงค์ เนือ้ หา ทีต่ อ้ งการให้ผ้เู รียนเรียนรู้ 2. ออกแบบกจิ กรรมทีช่ ่วยส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนได้เรียนรู้ได้อย่างแทจ้ รงิ 3. ใช้กิจกรรมการเรยี นเชงิ รกุ เพ่ือกระตนุ้ ให้ผู้เรยี นเรยี น 4. ประเมินผลการเรียนอยู่เสมอ เพอื่ ตรวจสอบว่าผู้เรียนเรียนร้อู ะไรบ้างและมีประเด็นใดที่ผ้เู รียนยังสงสัย 5. หลีกเล่ยี งการสอนเพ่ือให้ครบให้ทนั รีบเร่ง เพราะจะทำให้ผู้เรียนไมอ่ ยากเรยี น ผลลพั ธ์ (Outcomes) นกั เรยี นผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นเป็นไปตามมาตรฐานที่สถานศกึ ษากำหนด ๑.๔ สรา้ งและหรือพัฒนาสอ่ื นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้ ข้าพเจ้าดำเนินการสร้างและพัฒนาส่ือการเรียนการสอนโดยใช้โปรแกรมสร้างงานนำเส นอข้อมูล (Microsoft PowerPoint) และ ใช้ส่ือการสอนออนไลน์ ผ่าน You tube live worksheets ให้นักเรียนติดตาม ในช่วงการเรียนแบบ on line , on hand , on demand และช่วยในการทบทวนบทเรียนได้ที่บ้านดว้ ยตนเอง ท่ี ว/ด/ป ช่ือสือ่ /นวตั กรรม จำนวน(ช้นิ ) 1 ๑๒ พฤศจิกายน 2564 PowerPoint การเขยี นจดหมาย 1 2 ๗ ธันวามคม ๒๕๖๔ PowerPoint บทพากยเ์ อราวณั 1 3 ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕ PowerPoint โคลงสุภาษติ 1 4 ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕ PowerPoint รามเกยี รต์ิ ตอน ศึกไมยราพณ์ 1 5 ๒ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ PowerPoint ภาษาพภู าษาเขยี น 1 ๖ ๙ มกราคม ๒๕๖๕ live worksheets บทพากยเ์ อราวณั ๑ ๗ ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ live worksheets ชนิดคำในภาษาไทย ๑

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ผลลพั ธ์ (Outcomes) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน นักเรียนร้อยละ 80 ได้รับการพัฒนาในการเรียนการสอนโดยใช้สื่อพัฒนาการอ่าน ในรายวิชาภาษาไทย ที่ มีประสิทธิภาพหลากหลาย ได้แก่ ใบงาน ใบความรู้ สื่อส่งเสริมการอ่านต่างๆและส่อื ประกอบการสอนในรูปแบบ คลปิ วีดโี อการสอนผา่ น You tube ผลลัพธ์ (Outcomes) นกั เรียนไดร้ บั การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั มีกจิ กรรมที่หลากหลายเหมาะสม ตามความแตกต่างระหว่างบคุ คล ทำใหน้ กั เรียนมีประสทิ ธิภาพผลสัมฤทธิ์ทีด่ ีข้ึนนกั เรยี นรอ้ ยละ 100ได้รบั การจัด กิจกรรมการเรยี นการสอนด้วยวิธกี ารที่หลากหลายและเหมาะสมกบั เนื้อหาสง่ ผลใหม้ ีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสงู ข้นึ ๑.๕ วดั และประเมินผลการเรียนรู้ ข้าพเจา้ ดำเนินการสร้างและพัฒนาเคร่ืองมือเพ่ือใช้ในการวดั และประเมินผลการเรียนรอู้ ย่างหลากหลาย และครอบคลมุ ท้งั ด้านพุทธิพิสัยหรือดา้ นความรู้ (K) , ดา้ นทักษะพสิ ัยหรือดา้ นทักษะ (P) และด้านเจตพสิ ัยหรือดา้ น เจตคติ (A) โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน , แบบทดสอบหลังเรียน , แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม และแบบ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สอดคล้องกับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ และ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดำเนินการวดั ปละประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง เพ่ือปรับปรุง พัฒนา ตัดสินผลการ เรียนรู้ ความก้าวหน้าและพัฒนาการของผู้เรียนท่ีสะท้อนระดับคุณภาพของผู้เรียน มีการวัดและประเมินผลการ เรียนร้ดู ้วยวิธกี ารที่หลากหลายเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนพัฒนาการเรยี นรู้อย่าง ต่อเนื่อง ประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง และนำผลการวัดและประเมินผลการเรียนรู้มาใช้แก้ไขปัญหาการ จัดการเรียนรู้ และมกี ารวัดประเมินผลทีห่ ลากหลาย เช่น 1. การวัดและประเมินผลโดยแบบทดสอบทั้งปรนยั และอตั นัย 2. การวดั ประเมนิ ผลโดยการสังเกต การสอบถามการสัมภาษณ์ผปู้ กครองนกั เรียน และผลงานนักเรียน การทำงานบ้าน หรืองานอน่ื ๆทไี่ ด้รบั มอบหมายจากครูหรอื ผู้ปกครองนกั เรยี น ผลลพั ธ์ (Outcomes) นกั เรยี นร้อยละ 100 ได้รบั การวัดประเมนิ ผลโดยใชเ้ ครอ่ื งมือและแบบประเมินตามตัวช้ีวัด (หลักสูตรต้อง รู้) ท่ีมีประสิทธิภาพนา่ เชื่อถอื และมวี ธิ กี ารท่ีหลากหลายให้ผ้เู รียนไดพ้ ัฒนาการเรียนรู้อยา่ งต่อเนือ่ ง ได้แก่ 1. การวัดและประเมนิ ผลโดยแบบทดสอบทง้ั ปรนยั และอตั นยั 2. การวัดประเมนิ ผลโดยการสังเกต การสอบถามการสมั ภาษณ์ผูป้ กครองนกั เรียน และผลงานนกั เรียน การทำงานบา้ น หรอื งานอ่นื ๆทไี่ ดร้ ับมอบหมายจากครหู รอื ผู้ปกครองนกั เรียน ๑.๖ ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพอื่ แก้ปญั หาหรอื พฒั นาการเรยี นรู้ ข้าพเจ้าได้ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ ปัญหาท่ีเกิดจากการจัดการเรียนการสอน หรือการเรียนรู้ของ ผู้เรียน โดยใช้ระบบวิธีการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน เพ่ือแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการ เรียนรู้ท่ีส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน และนำผลการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์มาใช้แก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการ จัดการเรยี นรู้ ดำเนนิ การจัดทำงานวจิ ัยปฏิบัติการในช้นั เรียน เรื่อง การพฒั นาทกั ษะการอา่ นของผ้เู รยี น กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โดยใช้แบบฝกึ การอา่ นแบบ SQ3R

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน โดยใชก้ ารแบบฝึกใหน้ ักเรยี นฝกึ อา่ นสามารถชว่ ยใหน้ ักเรียนเขา้ ใจแนวคิดของเรอื่ งท่อี ่านได้อยา่ งรวดเรว็ จดจำไดด้ ีและทบทวนเรอ่ื งราวท่ีอ่านไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ซ่ึงมขี ั้นตอนการอา่ นอยู่ 5 ขน้ั ตอน คอื การอ่านอย่าง คร่าว ๆ เพือ่ สำรวจหาใจความสำคัญของเรือ่ งที่อ่าน (S = Survey) แล้วต้ังคำถามโดยเปล่ียนจากใจความสำคญั ของ เรอื่ งใหเ้ ป็นคำถาม (Q = Question) จากนั้นใหน้ ักเรียนได้อ่านเพอื่ หาคำตอบ (R1 = Read) และนักเรียนเล่าเรอื่ ง จากคำตอบโดยใช้ภาษาของตนเอง (R2 = Recite) ขั้นสุดท้ายนกั เรียนทบทวนข้อคิดหรือข้อประเดน็ สำคัญ ๆ (R3 = Review) สง่ ผลให้เกิดการพัฒนาเพ่ิมมากขึ้นจนเกดิ ทกั ษะการอา่ นทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น ผลลัพธ์ (Outcomes) นกั เรียนรอ้ ยละ 80 มผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนท่สี ูงข้นึ จากปกี ารศึกษาท่ีผา่ นมา มีผลการพฒั นาจากการใช้ แบบฝึกทักษะการอา่ น SQ3R สงู ข้นึ มกี ารพฒั นาดา้ นทกั ษะการอ่านทสี่ ูงขน้ึ จากการใช้แบบฝึกทกั ษะการอา่ น SQ3R ๑.๗ จัดบรรยากาศทีส่ ง่ เสรมิ และพัฒนาผเู้ รียน ขา้ พเจ้าได้ดำเนินการจัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศในช้ันเรยี นท่ีส่งเสริมและเอ้ือต่อการเรียนรู้ สอดคล้อง กับความแตกต่างผู้เรียนเป็นรายบุคคล สามารถแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมและพัฒนา ผูเ้ รียนให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวติ ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรแู้ ละนวัตกรรม ทักษะดา้ นสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี กระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา อบรมบ่มนิสยั ตลอดจนส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ทักษะชีวิตจากการให้ผู้เรียนได้ลงมือทำ ปฏิบัติจริง ดำเนินกิจกรรม และ แก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้น ทักษะการทำงาน จากการปฏิบัติกิจกรรมที่มอบหมายทั้งลักษณะงานเดี่ยวและกระบวนการ ทำงานเปน็ กลุม่ เพอ่ื สง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนเกิดทกั ษะและกระบวนการคดิ ในการเรยี นรู้อย่างสงู สุด ผลลัพธ์ (Outcomes) นกั เรียนมีส่วนร่วมในการจดั บรรยากาศในชั้นเรยี นมคี วามพงึ พอใจ และได้ชว่ ยเหลือทำความสะอาด ห้องเรียนของตนเองและรว่ มจดั ทำปา้ ยนเิ ทศและผลงานตา่ งๆร่วมกัน นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 มคี วามสนใจ และ กระตอื รอื ร้นในการร่วมทำกิจกรรมสง่ ผลให้นักเรยี นมคี วามสขุ ในการเรยี นร้สู ่งผลตอ่ ทักษะดา้ นตา่ งๆของผู้เรยี น

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๑.๘ อบรมและพฒั นาคณุ ลักษณะทดี่ ขี องผูเ้ รยี น นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ขา้ พเจา้ ปลูกฝงั ค่านิยม และคุณลักษณะท่ีดี เหมาะสมกับผ้เู รียนให้เกิดขึ้นอยา่ งต่อเนื่อง โดยคำนึงถงึ ความแตกต่าง ของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล และสามารถแก้ไขปญั หาผู้เรยี นได้ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมคี ่านิยมทด่ี งี าม และปลูกฝังความเป็น ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ ตลอดจน การสง่ เสริมและเปน็ แบบอยา่ งให้ผู้เรียนเขา้ ร่วม กิจกรรมเนื่องในวนั สำคญั ต่างๆทีเ่ กี่ยวข้องกับศาสนาที่ตนนับถือ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ท้ังทีโ่ รงเรียนและชมุ ชน จดั ข้นึ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจและสง่ เสริมให้ผเู้ รียนเกิดความมนั่ ใจในการพฒั นาตนเองเตม็ ตามศกั ยภาพ เพอื่ ค้นหาความถนัดและความชอบของตน โดยคำนึงถงึ ความปลอดภัยและความสุขของผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ผลลพั ธ์ (Outcomes) นกั เรียนเป็นผมู้ ีคุณลักษณะที่ดีทงั้ ตอ่ ตนเอง ผ้อู น่ื โรงเรยี น และสังคม นกั เรียนรอ้ ยละ 100

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ดา้ นท่ี ๒ ด้านการส่งเสริมและสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ๒.๑ จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวชิ า ขา้ พเจ้ามกี ารจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวชิ า ให้เปน็ ปจั จุบนั เพื่อใชใ้ นการส่งเสริมและสนบั สนุนการ เรียนรู้และพฒั นาคุณภาพของผูเ้ รยี นให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในชน้ั เรยี น อาทเิ ชน่ ข้อมูลการวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล การจดั ทำระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน งานธรุ การในหอ้ งเรียน แบบ ปพ. ทะเบียนแสดงผลการเรยี น อืน่ ๆเป็นต้น และประสานความร่วมมอื กบั ผู้มสี ว่ นเกี่ยวขอ้ งเพ่ือพัฒนาและแกไ้ ขปัญหา ผเู้ รียน เพ่ือใชใ้ นการส่งเสรมิ สนับสนุนการเรียนรู้ แกไ้ ขปัญหาและพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน ผลลัพธ์ (Outcomes) นักเรียนมีระบบข้อมูลสารสนเทศ สะดวกต่อการใชง้ านและมปี ระสิทธิภาพ และสามารถนำข้อมูลมาใชไ้ ด้ ทันทีนกั เรยี นร้อยละ 100มขี อ้ มูลในระบบ สารสนเทศครบถ้วน ในทุกด้านเปน็ ระบบและรายบุคคล

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๒.๒ ดำเนนิ การตามระบบดูแลชว่ ยเหลอื ผู้เรยี น นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ข้าพเจ้าดำเนินการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเป็นระบบ โดยรวบรวมข้อมูลจากแบบบันทึกข้อมูลผู้เรียน รายบุคคล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูลของผู้เรียน เพ่ือแบ่งกลุ่มของผู้เรียน ประกอบด้วย กลุ่มไว้ใจ เป็นกลุ่มท่ี สง่ เสริม , กลุ่มห่วงใย และกลุ่มใกล้ชิด คือผู้เรียนที่ต้องกำกบั ดูแลพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ตลอดจนออกเย่ยี มบ้าน นักเรียน โดยเร่ิมจากกลุ่มใกล้ชิด กลุ่มห่วงใย และกลุ่มไว้ใจ เพ่ือจัดทำและใช้สารสนเทศของผู้เรียนรายบุคคล จัดทำโครงการและกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้วยวิธิการที่หลากหลาย เพื่อเสริม ป้องกัน และแก้ปัญหาของผู้เรียน รายบุคคล ผลลพั ธ์ (Outcomes) นักเรยี นระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ มีขอ้ มลู พ้ืนฐานเป็นรายบุคคล และชว่ ยเหลือในเรอ่ื งต่างๆ จากข้อมูล การเยี่ยมบ้าน จัดหาทุน การศกึ ษา นกั เรยี นยากจน นกั เรียนร้อยละ 100ไดร้ บั การดแู ลเอาใจใสต่ รงตามความ ต้องการรายบคุ คลและมีความสัมพนั ธ์อนั ดีระหวา่ งครแู ละนักเรยี น

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ๒.๓ ปฏบิ ตั ิงานวิชาการและงานอ่นื ๆ ของสถานศึกษา นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ขา้ พเจา้ ได้ ร่วมปฏิบตั ิงานทางวิชาการ และงานอน่ื ๆ ของสถานศึกษาเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการจดั การศึกษา ของสถานศึกษา โดยมกี ารวิเคราะห์หลักสูตรตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ โดย วิเคราะห์ตามตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้ ท้ังน้ีเพ่ือให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา ท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สำคญั และงานอ่ืนๆ ทผี่ บู้ งั คับบญั ชามอบหมาย ผลลัพธ์ (Outcomes) นักเรียนไดเ้ รียนรู้ในกจิ กรรมท่ีหลากหลายตามโครงการและกิจกรรมทีท่ างโรงเรยี นไดก้ ำหนดขึ้นตลอดปี การศกึ ษา นักเรยี นรอ้ ยละ 100 ไดร้ ับการพฒั นา มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมทางวิชาการท่ีโรงเรยี นจดั ขน้ึ เกดิ ประโยชนอ์ ย่างมีระบบ ตรวจสอบได้ ๒.๔ ประสานความร่วมมือกับผูป้ กครอง ภาคเี ครอื ข่ายและหรอื สถานประกอบการ ข้าพเจ้าใช้หลักกัลยาณมิตร และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาผเู้ รียน สามารถทำงานร่วมกับผู้อ่ืนไดท้ ุกกลุ่ม ทุก เพศ และทกุ วัย จึงได้รับการยอมรบั จากผู้บริหารโรงเรยี น ผู้ร่วมงาน เด็ก ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป อกี ทัง้ มี ความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ มีบุคลิกภาพท่ีดี มีความสามารถประสานงาน มีเหตุผลสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ มีเทคนิค การพูด ชักชวน เสนอแนะ ให้กำลังใจ ทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนโดยสามารถวางตัวในการเป็นผู้นำ ผู้ตาม และเป็นผู้ให้ ผูร้ ับ ทดี่ ี มีหลักในการทำงาน มีความบริสุทธ์ิยตุ ธิ รรมและทำงานอย่างโปรง่ ใส ปราศจากอคติ ยึดประโยชน์ของเด็ก และส่วนรวมเป็นท่ีตั้ง จึงประสบความสำเร็จในการทำงานเป็นทีมได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้อง เป็น แบบอย่างท่ีดตี ่อผู้ปกครอง และนักเรียน

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ผลลัพธ์ (Outcomes) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน นักเรียนไดร้ ับความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง หนว่ ยงานอืน่ ที่เกีย่ วข้องและมีขอ้ มูลในระบบสารสนเทศของ โรงเรียนนักเรียนร้อยละ 100 ไดร้ ับการดแู ลจัดสรรหาทุนการศกึ ษาทำใหน้ กั เรยี นมีคุณภาพชวี ติ ที่ข้นึ และการ เรยี นของนักเรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทส่ี ูงข้นึ 2.4ประสานความรว่ มมือกบั ผู้ปกครอง ภาคีเครอื ข่ายและหรอื สถานประกอบการ ขา้ พเจา้ ได้ประสานความรว่ มมอื กับผู้ปกครอง ภาคีเครอื ขา่ ย และหรอื สถานประกอบการ เพื่อร่วมกนั แกไ้ ข ปญั หาและพัฒนาผเู้ รยี น และเป็นแบบอย่างท่ีดี ผลลพั ธ์ (Outcomes) นักเรียนไดร้ ับความชว่ ยเหลือจากผู้ปกครอง หน่วยงานอ่นื ทเี่ ก่ยี วขอ้ งและมขี ้อมลู ในระบบสารสนเทศของ โรงเรียนนักเรยี นร้อยละ 100 ไดร้ บั การดูแลจัดสรรหาทุนการศกึ ษาทำให้นกั เรียนมคี ุณภาพชวี ิตท่ีขึ้น และการ เรยี นของนกั เรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทีส่ ูงขน้ึ 3. ดา้ นการพฒั นาตนเอง และวิชาชพี กระบวนการพฒั นาสมรรถนะและวิชาชพี ครู โดยมีแผนการพัฒนาตนเอง และดำเนินการพัฒนาตนเองตามแผนอย่าง เป็นระบบ สอดคลอ้ งกับสภาพการปฏบิ ตั ิงานความต้องการจำเป็น องคค์ วามรู้ใหม่ นโยบาย แผนกลยทุ ธข์ อง หน่วยงานการศึกษาหรือสว่ นราชการต้นสงั กดั มีการแลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ่วมกันในระดับสถานศกึ ษา หรอื ระดับ เครือข่าย หรือระดับชาติ และแสดงบทบาทในชุมชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี (Professional Learning Community : PLC) ดว้ ยความสมั พนั ธแ์ บบกัลยาณมิตร ทมี่ ีวิสัยทัศน์ คุณคา่ เป้าหมายและภารกิจรว่ มกนั ซงึ่ สง่ ผลตอ่ คุณภาพ ผเู้ รียน เพ่อื ให้เกดิ เป็นวฒั นธรรมองคก์ ร และสร้างนวตั กรรมจากการเข้าร่วมในชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวิชาชีพ 3.1 การพฒั นาตนเองอยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนอื่ ง ข้าพเจ้ามีการพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรคู้ วามสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะ อย่างย่ิงการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษา สมรรถนะ วิชาชพี ครูและความรอบรู้ในเนอื้ หาวิชาและวิธกี ารสอน และนำผลการพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพมาใช้ในการ จัดการเรียนรทู้ ี่มผี ลตอ่ คณุ ภาพผเู้ รียน ขา้ พเจ้าดำเนนิ การประเมินความรู้ ความสามารถ และทกั ษะในด้านตา่ งๆ ของตนเอง เพ่อื นำขอ้ มลู มาวิเคราะหแ์ ละ จดั ทำแผนพัฒนาตนเองทส่ี อดคล้องกับความรู้ ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะของตนเอง ตลอดจนประเมิน สภาพปัญหาหรือความต้องการท่ีจำเป็นต่อการปฏิบัติงานในสถานศึกษา ท้ังนแ้ี ผนการพัฒนาตนเอง (ID PLAN) ที่ จดั ทำข้นึ มคี วามสอดคล้องกับแผนกลยทุ ธข์ องสถานศึกษาและได้รับความเหน็ ชอบจากผบู้ งั คับตามสายงาน เข้ารับการพัฒนาตนเองตามแผนพัฒนาตนเอง (ID PLAN) ที่จัดทำข้ึน ตลอดจนนำความรู้ ทักษะ และ ประสบการณ์ตรงที่ได้รับจากการเข้ารับการพัฒนาตนเองในกิจกรรม / โครงการต่างๆ มาประยุกตใช้ในการ ปฏิบัตงิ านทงั้ ด้านภาระงานสอน และงานอนื่ ๆที่ได้รบั มอบหมาย ผลลัพธ์ (Outcomes) นกั เรียนไดร้ ับการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั มกี จิ กรรมที่หลากหลายเหมาะสม ตามความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ทำให้นักเรยี นมีประสิทธภิ าพผลสัมฤทธ์ิที่ดีขนึ้ นกั เรยี นรอ้ ยละ 100ไดร้ บั การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่หลากหลายและเหมาะสมกบั เน้อื หาสง่ ผลให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นสูงขนึ้

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) หลกั สตู รที่ใชอ้ บรมพัฒนาตัวเอง นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน คร้ังที่ วัน/เดือน/ปี เรอื่ งทรี่ บั การอบรม/พฒั นา หน่วยงานสถานที่ หลักฐาน จัดอบรม 1 ๔ กันยายน ๒๕๖๔ กลยทุ ธก์ ารจัดการเรยี นการสอน ออนไลน์ เกยี รตบิ ัตร และการจดั ประชมุ ออนไลนใ์ หม้ ี ประสทิ ธภิ า พในยคุ NEXT Normal (Virtual Classroom and Meeting Guide, Steps and Best Practices in NEXT Normal) 2 ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔ การจัดการสอบดิจิทัลรองรบั การ ออนไลน์ เกยี รติบตั ร เรยี นการสอนรปู แบบผสมผสาน อยา่ ง ปลอดภัย (Secure Digital Assessment for Hybrid Learning) ๓ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๖๔ การจดั การเรยี นการสอนเพ่อื น เกยี รตบิ ตั ร พัฒนาสมรรถนะการอ่านขนั้ สงู ออนไลน์ สำหรบั นักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษา ตอนตน้ ๔ 13 มกราคม ๒๕๖๕ การพฒั นาสมรรถนะครูภาษาไทย ออนไลน์ เกียรตบิ ัตร ในการจัดการเรียนรู้แบบ Actiive learning ระดับชั้นมัธยม ๕ ๒- ๔ มนี าคม ๒๕๖๕ อบรมหลกั สตู รผู้ดำเนินการคัด ออนไลน์ เกยี รตบิ ตั ร กรองคนพกิ ารทางการศึกษา 3.2 มสี ่วนรว่ มในการแลกเปล่ียนเรยี นรูท้ างวิชาชพี ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในระดับสถานศึกษา หรือระดับเครือข่าย หรือ ระดับชาติ และแสดงบทบาท ในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วย ความสัมพนั ธแ์ บบกัลยาณมติ ร มวี ิสยั ทัศน์ คุณคา่ เป้าหมายและภารกิจรว่ มกัน เพ่ือให้เกดิ เป็นวัฒนธรรมองค์กร และ สร้างนวัตกรรมจากการเข้าร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยนำความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการ พัฒนาวิชาชพี มาพฒั นานวัตกรรมการจดั การเรยี นรูท้ ี่สง่ ผล ต่อคณุ ภาพผ้เู รยี น ผลลัพธ์ (Outcomes) นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ได้รบั การแกไ้ ขปญั หาในการเรียน ไดเ้ หมาะสม และความแตกต่างระหว่าง บุคคลทำนักเรยี นมผี ลการเรียนท่ีดขี น้ึ รวมถึงไดร้ ับการพัฒนาจากสอ่ื นวตั กรรมการเรียนการสอนท่ีครูได้พฒั นาขึ้น และนำมาใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนร้อยละ 80 ได้รบั การแกไ้ ขเมอ่ื เกดิ ปญั หาทางการเรยี นรแู้ ละปญั หา อื่นๆ ทพี่ บเหน็ อยา่ งต่อเนื่อง เป็นระบบ มผี ลสมั ฤทธ์ทิ ีส่ งู ขนึ้ และได้รับการพัฒนา แกป้ ญั หาในการเรยี นอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน 3.3 นำความรู้ความสามารถ ทักษะ ท่ไี ด้จากการพัฒนาตนเองและวชิ าชพี มาใช้ ขา้ พเจ้ามกี ารประมวลความรู้เกย่ี วกับการอบรมพัฒนาตนเองและวิชาชีพ นำความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ ท่ีไดจ้ ากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น นำความรู้ ความสามารถ ทักษะท่ไี ดจ้ ากการพัฒนาตนเองและวิชาชพี พัฒนานวัตกรรมการจดั การเรยี นรทู้ มี่ ผี ลตอ่ คณุ ภาพผู้เรียนและเป็นแบบอย่างที่ดี ผลลพั ธ์ (Outcomes) ไดร้ บั การพัฒนาอยา่ งเต็มศกั ยภาพจากการนำความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ ท่ีได้จากการพฒั นาตนเอง ตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้เดก็ รอ้ ยละ 80 มผี ลการประเมินพัฒนาคณุ ภาพเป็นไปตาม ค่าเปา้ หมายทีโ่ รงเรียนกำหนด องค์ประกอบท่ี 2 การพฒั นางานตามประเด็นทา้ ทาย ประเดน็ ทา้ ทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านของผ้เู รียน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โดยใชแ้ บบฝึก การอ่านแบบ SQ3R 1. สภาพปญั หาของผู้เรยี นและการจัดการเรยี นรู้ การอ่านเป็นพ้ืนฐานสำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของนักเรียน เพราะนักเรียน ต้องได้รับการศึกษาเล่าเรียน การติดต่อส่ือสาร และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารท่ีหลากหลายและ กว้างขวางและข้อมูลท่ีนักเรียนได้รับจากการอ่านนั้นมีท้ังส่วนท่ีเป็นประโยชน์ และให้โทษ เพ่ือให้นักเรียนได้รับ ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด นักเรียนจึงจำเป็นต้องรู้จักอ่านแล้วคิด พิจารณา แยกแยะ และประเมินข้อมูลข่าวสาร หรือเรื่องราวเหล่านั้นได้ว่ามีความถูกต้อง มีเหตุผลน่าเชื่อถือมาก น้อยเพียงใด ดังนน้ั ในการจัดการเรยี นรูใ้ ห้แกน่ กั เรียน จึงควรส่งเสรมิ ทกั ษะดา้ นการอา่ นใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากข้นึ จากรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทย ในปีท่ีผ่านมา คะแนนเฉล่ียภาพรวมวิชา ภาษาไทยในมาตรฐาน ท 1.1 ซึ่งเปน็ มาตรฐานการเรียนรเู้ กีย่ วกับการใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิด เพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปญั หาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรกั การอ่าน มีคะแนนท่ีลดลงเม่ือเทียบกบั มาตรฐานอื่น ดังนั้นผู้เรียนควรได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในด้านทักษะการอ่านเพิ่มมากข้ึน โดยการใช้วิธีการสอนอ่าน อย่างมวี ิจารณญาณแบบSQ3R ซงึ่ เปน็ วิธีการสอนอ่านท่มี ีประสิทธิภาพ การอา่ นแบบ SQ3R เปน็ วิธีสอนของ ฟราน ซีส พี โรบินสัน (Francis P. Robinson) ผู้เช่ียวชาญด้านการอ่าน มหาวิทยาลัยโอไฮโอ ได้เสนอยุทธวิธีการสอน อา่ นแบบ SQ3R ไว้ซึ่งสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดของเร่ืองท่ีอ่านได้อย่างรวดเร็ว จดจำได้ดีและทบทวน เรื่องราวท่ีอา่ นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงมีข้ันตอนการอ่านอยู่ 5 ข้ันตอน คอื การอ่านอย่างคร่าว ๆ เพื่อสำรวจหา ใจความสำคัญของเรอ่ื งที่อ่าน (S = Survey) แล้วต้งั คำถามโดยเปลี่ยนจากใจความสำคัญของเรอ่ื งให้เป็นคำถาม (Q = Question) จากน้ันให้นกั เรยี นได้อ่านเพื่อหาคำตอบ (R1 = Read) และนกั เรยี นเลา่ เรือ่ งจากคำตอบโดยใชภ้ าษา ของตนเอง (R2 = Recite) ขั้นสุดทา้ ยนกั เรยี นทบทวนขอ้ คิดหรือข้อประเด็นสำคัญ ๆ (R3 = Review) สง่ ผลให้เกิด การพฒั นาเพิ่มมากข้นึ จนเกดิ ทกั ษะการอ่านที่มปี ระสทิ ธิภาพมากขน้ึ

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน เม่ือพบว่าผลสัมฤทธิ์รายวิชาภาษาไทย มาตรฐาน ท 1.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานการเรียนรู้เก่ียวกับการใช้ กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มีคะแนนที่ลดลงจากเดิมค่อนข้างมาก ซ่ึงการจัดการเรียนการสอน มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลายและเน้นผู้เรียนมากข้ึน แต่ยังพบว่าผลของการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนในรายวิชา ภาษาไทย โดยเฉพาะเร่ืองทักษะการอ่าน ยังไม่บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ท้ังนี้เน่ืองมาจาก นักเรียนยังขาดความรู้และความเข้าใจในการอ่าน ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการเรียนการสอน ภาษาไทย ครูจำเป็นจะต้องใช้วิธีการสอนอ่านอย่างมีวิจารณญาณแบบ SQ3R เพื่อเป็นการแก้ปัญหาด้าน ความสามารถในดา้ นการอ่านและความสนใจในการอ่านภาษาไทยของนักเรียน จึงจัดทำแบบฝึกเรื่องการอ่านอยา่ ง มีวิจารณญาณขึ้น โดยใช้การสอนอ่านแบบ SQ3R เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของ นักเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงข้นึ 2. วิธกี ารดำเนนิ การใหบ้ รรลุผล 2.1 วิเคราะห์ปญั หา วเิ คราะหห์ ลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2.2 ศึกษาหลกั การทฤษฎี แนวทางสรา้ งแบบฝึกหัด 2.3 จัดทำแบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นและเขียนคำท่ีมตี ัวสะกด สำหรับนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 2.4 ปรับปรุงแบบฝกึ ทักษะใหม้ ีคุณภาพ และนำไปใช้แก้ปัญหาและพฒั นาผ้เู รียน 2.5 วดั ผลและประเมนิ ผลการ เรยี นร้ขู องผเู้ รยี น 3. ผลลัพธก์ ารพฒั นาทีค่ าดหวงั 3.1 เชิงปริมาณ - ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ 80 มีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นท่ีสูงขน้ึ จากปีการศกึ ษาท่ผี า่ นมา - ผู้เรยี นร้อยละ 80 มผี ลการพฒั นาจากการใช้แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ น SQ3R สูงขึ้น ร้อยละ 85 - ผ้เู รยี นรอ้ ยละ 80 มผี ลพฒั นาด้านทกั ษะการอ่านท่สี ูงข้นึ จากการใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะการ อา่ น SQ3R 3.2 เชิงคณุ ภาพ - ครูไดน้ วตั กรรมการพัฒนาทกั ษะการอา่ นกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ดว้ ยรปู แบบการ อา่ นแบบ SQ3R - นกั เรียนได้รบั การพัฒนาด้านการอ่านกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ดว้ ยรูปแบบการอา่ น แบบ SQ3R

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน สว่ นที่ 3 ข้อมลู การปฏบิ ตั ิตนในการรกั ษาวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ และการปฏบิ ตั ิงานการปฏบิ ตั ติ นตามมาตรฐานวิชาชพี ครู ตามมาตรฐานการศึกษา การประเมินตนเองการปฏิบตั ติ นตามมาตรฐานวิชาชีพครู 3.1 การประเมนิ การปฏบิ ตั ิตนในการรักษาวินัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี 1. ยดึ มนั่ ในสถาบันหลกั ของประเทศ อนั ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยอนั ขา้ พเจา้ ส่งเสรมิ สนบั สนุนและพิทักษร์ กั ษาสถาบันหลกั ของประเทศ อันได้แก่การรักษา ผลประโยชนแ์ ละ ชือ่ เสยี งของประเทศชาติ การปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา การเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ รวมทัง้ ไม่ตอ่ ตา้ น การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข - แสดงออกถงึ ความภมู ิใจในชาติ และคำนึงงถงึ ผลประโยชนข์ องประเทศชาติเป็นสำคัญ - ไมแ่ สดงออกในลักษณะการดหู มิ่น เหยยี ดหยาม หรือไมก่ ระทำการอนั เปน็ การ ทำลายความมน่ั คงของ ชาติ รวมทั้งไม่กระทำการอนั เปน็ การใหร้ า้ ยหรอื ก่อให้เกดิ ความเสอ่ื มเสียต่อ ภาพลักษณ์ของประเทศ - ปฏิบตั ิตามหลักศาสนาทีต่ นนับถอื และเคารพในความแตกตา่ งของการนบั ถอื ศาสนา - แสดงออกถึงความเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ - ปฏบิ ัติตามรัฐธรรมนญู และกฎหมาย - ไมก่ ระทำการอนั เป็นการตอ่ ตา้ นการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข - มคี วามเป็นกลางทางการเมือง และไม่ใช้อำนาจหนา้ ทีเ่ ออ้ื ประโยชนต์ อ่ พรรค การเมอื งใดพรรคการเมอื ง หนงึ่ เปน็ การเฉพาะ 2. มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีจิตสำนึกท่ีดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีและต่อผู้เกี่ยวข้องในฐานะ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ข้าพเจา้ พึงปฏิบัตหิ น้าท่ีอย่างตรงไปตรงมาดว้ ยความถูกตอ้ งตามกฎหมายและ ตามทำนองคลองธรรม มี จติ สำนึกท่ีถกู ต้องในการปฏิบตั ิหน้าที่ โดยมคี วามสจุ ริตใจเปน็ ที่ตัง้ และมคี วามพร้อมทจี่ ะรับผดิ ชอบต่อผลของการ ปฏบิ ตั ิงาน - ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีด้วยความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ โดยไม่แสดงออกถงึ พฤติกรรมทีม่ นี ัย เป็นการแสวงหาประโยชนโ์ ดย มชิ อบ - ปฏบิ ตั หิ นา้ ทดี่ ้วยความรอบคอบ ถูกตอ้ ง รวดเรว็ เตม็ กำลงั ความสามารถ และ กล้ารบั ผิดชอบในความผิด พลาดที่เกิดข้ึนจากการปฏบิ ัตหิ น้าที่ รวมท้ังพร้อมรบั การตรวจสอบ - ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีดว้ ยความรับผดิ ชอบต่อสงั คม สิ่งแวดลอ้ ม และคำนงึ ถงึ หลักสากล ในการปฏิบตั ติ ามหลัก สิทธมิ นุษยชน การเปดิ เผยขอ้ มูลข่าวสารทีถ่ กู ต้อง และการใช้เทคโนโลยีสอื่ สังคมอย่างเหมาะสม

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน 3. มีความกลา้ คดิ กล้าตดั สินใจ กลา้ แสดงออก และกระทำในสิง่ ทถี่ ูกตอ้ งชอบธรรม ขา้ พเจา้ พงึ มีความกล้าในการตดั สนิ ใจปฏิบัตหิ นา้ ทดี่ ว้ ยความถกู ตอ้ งชอบธรรม และกลา้ แสดง ความคดิ เห็น หรอื คดั คา้ นในสิ่งที่ไม่ถกู ต้อง รวมท้ัง ไม่ยอมท าในสิ่งทไ่ี มเ่ หมาะสมเพยี งเพอ่ื รักษา ประโยชน์หรอื สถานภาพของ ตนเอง - กล้ายืนหยดั ทำในสง่ิ ที่ถกู ต้องชอบธรรม และกล้าคัดค้านในสงิ่ ทไี่ ม่ถกู ตอ้ ง ไมช่ อบธรรม - เปิดเผยการทุจรติ ที่พบเห็นหรือรายงานการทุจรติ ประพฤติมิชอบตอ่ ผู้บงั คบั บัญชาหรอื ผมู้ ีหนา้ ท่ี รับผดิ ชอบโดยไม่ปลอ่ ยปละละเลย - ให้ความช่วยเหลือประชาชนท่ีถกู ละเมิดหรอื ได้รบั การปฏิบัติท่ไี ม่เปน็ ธรรม - ไม่หลีกเล่ียงกฎหมายหรือใชช้ อ่ งว่างทางกฎหมายเพอ่ื เอ้อื ประโยชน์ใหแ้ ก่ตนเองหรอื ผอู้ นื่ 4. มีจติ อาสา จิตสาธารณะ มุ่งประโยชนส์ ว่ นรวม โดยคำนงึ ถงึ ประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพอ้ ง ข้าพเจา้ พึงปฏิบตั ิหนา้ ท่โี ดยคำนงึ ถึงประโยชน์สว่ นรวมอนั ไดแ้ กป่ ระโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นท่ีตง้ั มคี วามเสยี สละ และมจี ติ สาธารณะในการปฏบิ ตั ิหน้าท่เี พื่ออำนวย ประโยชน์สุขแก่ประชาชน รวมท้ังไมก่ ระทำการ อันมีลกั ษณะเปน็ การแสวงหาประโยชนท์ ับซอ้ น - สามารถแยกเรือ่ งส่วนตัวออกจากหน้าท่ีการงาน ไมแ่ สวงหาประโยชนโ์ ดยมิชอบ จากตำแหนง่ หนา้ ท่ี - มีจิตสำนึกในการใช้ทรพั ย์สิน บคุ ลากร และเวลาของหนว่ ยงาน - ไม่แสดงพฤติการณอ์ นั เป็นการเออ้ื ประโยชน์โดยมชิ อบต่อตนเองหรอื พวกพอ้ ง - ไมป่ ระกอบกจิ การหรอื เข้าไปเก่ียวขอ้ งกับผลประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของตน - มีจิตบรกิ ารที่จะปฏบิ ตั ิหน้าท่ีโดยคำนงึ ถึงความผาสุกและประโยชน์ส่วนรวม ของประชาชน 5. มุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถโดยคำนึงถึงคุณภาพ การศกึ ษาเป็นสำคัญ ขา้ พเจ้าพงึ ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีโดยคำนงึ ถึงเปา้ หมาย ประโยชน์ และความคมุ้ ค่าในการใช้ทรพั ยากร ของหน่วยงาน ด้วย การมุง่ ถงึ ความเป็นเลิศของงาน - ปฏบิ ัตงิ านด้วยความรับผดิ ชอบ เพือ่ ให้งานบรรลผุ ลสำเร็จตามเปา้ หมาย - ใช้ทรัพยากรอยา่ งคุ้มค่าและประหยัด - ให้บรกิ ารและอำนวยความสะดวกแกป่ ระชาชนดว้ ยความรวดเร็วและเตม็ ใจ - มงุ่ พฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่อง - รักษาและพฒั นามาตรฐานการทำงานท่ีดี - รบั ฟงั ความคดิ เห็น พร้อมท่ีจะตอบช้แี จง และอธิบายเหตผุ ลให้แกผ่ รู้ ว่ มงานและ ผู้มีสว่ นเก่ยี วขอ้ ง - เช่อื มน่ั ในระบบการท างานเปน็ ทมี 6. ปฏบิ ตั ิหนา้ ทอี่ ย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏบิ ตั ิ ขา้ พเจ้าพึงปฏิบตั ิหน้าท่ดี ้วยความเทยี่ งธรรม ปราศจากอคตแิ ละไม่เลือกปฏบิ ัติ โดยไม่เป็นธรรม - ปฏิบตั ิตอ่ ประชาชนด้วยความเทีย่ งธรรม - ปฏิบตั ิหน้าทโ่ี ดยปราศจากอคติ ไมน่ ำความรู้สกึ สว่ นตัว ไดแ้ ก่ ความรกั ความโกรธ ความกลัว ความหลง มาใชใ้ นการตดั สินใจปฏบิ ัตหิ น้าท่ีในเรอื่ งตา่ ง ๆ

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน - ไม่เลอื กปฏิบัติดว้ ยเหตุผลของความแตกต่างในเรื่อง เชอ้ื ชาติ ศาสนา เพศ อายุ สภาพร่างกาย หรือ สถานะทางเศรษฐกิจสังคม และความเชื่อทางการเมอื ง 7. ดำรงตนเป็นแบบอย่างทีด่ ีและรักษาภาพลกั ษณ์ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ข้าพเจา้ พงึ วางตวั เปน็ แบบอยา่ งท่ีดีในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ในการดำรงตนและการดำเนินชีวติ ดว้ ยการรกั ษา เกียรตศิ ักด์ิของความเปน็ ข้าราชการและเจา้ หน้าที่ของรัฐ - ดำรงตนเป็นขา้ ราชการและเจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐท่ีดโี ดยนอ้ มนำพระบรมราโชวาท หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักคำสอนทางศาสนา จรรยาวชิ าชพี มาใช้ในการดำเนนิ ชีวิตและ การปฏิบัตหิ นา้ ที่ - ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตย ดว้ ยการเคารพตอ่ กฎหมาย และมวี ินัย - ไม่กระทำการใด ๆ อนั อาจนำความเสอ่ื มเสียมาสู่ทางราชการ 8. เคารพศักดิ์ศรีความเปน็ มนุษย์ คำนงึ สทิ ธิเด็ก และยอมรับความแตกตา่ งของบุคคล ข้าพเจา้ ได้ปฏิบัตติ นเก่ียวกับการเอาใจใส่ช่วยเหลือผูเ้ รียนและผู้รบั บริการเตม็ ความสามารถตาม หลักวชิ าชีพอย่างสม่ำเสมอ เท่าเทียมกนั ดงั น้ี 1) แนะนำ ใหค้ ำปรกึ ษาแกน่ ักเรียน เชน่ การขอรับทุนการศึกษา การกยู้ ืมเงนิ เพอ่ื การศกึ ษา การเบกิ จา่ ยเล่าเรยี นตามโครงการเรียนฟรี ๑๕ ปี 2) พัฒนาสอ่ื นวัตกรรมการเรยี นการสอน เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ของนกั เรียน 3) ศกึ ษา คน้ ควา้ สอื่ นวัตกรรมการเรียนการสอน ผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4) อบรม ฝกึ ฝนและนำมาใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน เพ่ือพัฒนานกั เรียน ดว้ ยความมุ่งม่ัน ตั้งใจ เตม็ ศักยภาพ และบรสิ ทุ ธิ์ใจ 5) ประสานงานกบั ผู้ปกครองของนกั เรยี น สำหรับแจ้งข้อมูลตา่ งๆ 6) จดั หาและสนับสนนุ ทนุ การศึกษาให้นกั เรียน นกั ศกึ ษา อย่างเหมาะสมตามศักยภาพ 7) ให้ความสะดวกแก่บุคคลทมี่ าติดตอ่ ราชการและอน่ื ๆ ด้วยไมตรจี ติ ที่ดี 8) จัดกิจกรรม เพือ่ พัฒนาผู้เรยี นหลากหลายรูปแบบ เชน่ การศึกษาดูงาน การจัดอบรม กิจกรรมแข่งขันทักษะวิชาชพี และส่ิงประดษิ ฐ์ 9) จัดการเรยี นการสอนดว้ ยเทคนคิ และวิธที ีห่ ลากหลายรปู แบบ เชน่ การใชส้ ่ือ ปฏบิ ัติจริง 9. ยดึ ถอื และปฏบิ ัติตามจรรยาบรรณวิชาชพี ขา้ พเจา้ ได้ปฏิบัตติ นเกย่ี วกบั การประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชพี และแบบแผนพฤตกิ รรมตามจรร ยาบรรณของวิชาชีพ ดงั น้ี 1) แต่งกายดว้ ยชุดท่ีสภุ าพเรยี บรอ้ ย 2) จดั กิจกรรมการเรียนการสอนด้วยความรับผิดชอบตามตารางสอนสว่ นบคุ คลด้วยความมงุ่ มน่ั และตัง้ ใจ เพ่ือพฒั นานักเรยี นอยา่ งเตม็ ศักยภาพ 3) ปฏิบัติงานตามท่ไี ดร้ บั มอบหมายจนสำเร็จลุลว่ งตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เชน่ โครงการสอน , แผนการจัดการเรยี นรู้ , โครงการพัฒนาตา่ งๆ 4) ศึกษา หาความรู้ วางแผนพฒั นาตนเอง พัฒนางานและสะสมผลงานอยา่ งต่อเนอ่ื งและสมำ่ เสมอ เช่น การจดั ทำเอกสารประกอบการสอน , สือ่ ประกอบการสอน , การเข้าร่วมอบรมพฒั นาด้านต่างๆ

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน 5) ใชง้ านวจิ ยั สำหรบั ค้นคว้า แสวงหาเทคนคิ การสอน เพื่อพฒั นาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทพ่ี งึ ประสงค์ 6) เอาใจใส่ดแู ลและช่วยเหลอื นักเรยี น ด้วยกลั ยาณมิตรอยา่ งเตม็ ความสามารถเทา่ เทยี มกนั 7) ปฏบิ ัติศาสนกจิ ตามหลักการของศาสนาอิสลามอยา่ งครบถว้ น 8) ใช้เทคโนโลยสี มัยใหม่ ทนั ตอ่ การเปลย่ี นแปลง เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพของผูเ้ รยี น เชน่ แท็บเล็ต ส่ือสงั คมออนไลน์ 9) สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมและปลูกฝงั ความเป็นระเบียบ มีวนิ ยั และความกระตอื รือรน้ ในหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบตอ่ การเรียน 10. มีวินัยและการรักษาวินัย ข้าพเจ้า ไดป้ ฏิบตั ติ นเกีย่ วกับการมวี นิ ัยในตนเอง ยอมรับและถือปฏิบตั ิตามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนียมและแบบแผนอันดงี ามของสังคม ดังนี้ 1) มคี วามตรงตอ่ เวลาในการเข้าและเลิกปฏิบัติงาน โดยการสแกนลายน้ิวมอื หรอื ลงลายมือช่อื พร้อมลงเวลาในการปฏบิ ัตงิ านภายในระยะเวลาท่วี ิทยาลัยฯ กำหนด 2) เข้าร่วมและปฏบิ ัตหิ น้าท่ีครูที่ปรกึ ษาในกจิ กรรมหน้าเสาธงชว่ งเช้าทุกวนั โดยการพบปะนักเรยี น ที่ปรกึ ษา เพ่อื ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยในการแตง่ กาย สอบถามปัญหา แนะนำ ตักเตือน และแจง้ ข่าวสาร 3) ปฏบิ ัติหน้าท่งี านสอนตามตารางสอนส่วนบคุ คลด้วยความตั้งใจโดยการจัดเตรยี มส่ือ/นวตั กรรมการสอน เคร่ืองมือที่เก่ียวขอ้ งกบั การจัดการเรียนการสอน 4) แตง่ กายถูกตอ้ งตามข้อกำหนดของสถานศึกษา เชน่ สวมชดุ ข้าราชการ/สวมเสอ้ื สีเหลืองในวันจนั ทร์ , สวมเสื้อสีชมพใู นวันองั คาร , สวมเสื้อสีเขยี วในวันพุธ , สวมเสอื้ สีส้ม/แสดในวันพฤหัสบดี , สวมเส้อื สีฟ้า/เสอื้ ประจำท้องถ่ินในวันศกุ ร์ และสวมเสื้อสี/เสื้อทมี่ ีสัญลักษณ์เนอื่ งในโอกาสต่างๆ 5) ปฏิบัติงานอ่นื ๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย โดยมีการจดั ทำสรุปรายงานผลการปฏิบัติงานอยา่ งสมำ่ เสมอ 3.2 การปฏิบตั ิตนตามมาตรฐานวชิ าชพี การปฏิบตั ิงานของครูเพอ่ื ให้บรรลุเปา้ หมายในการจดั การศกึ ษา และมจี รรยาบรรณ เกิดผลดีต่อตนเอง นักเรยี น หนว่ ยงาน สังคม และประเทศชาติ ข้าพเจา้ ปฏิบัตดิ งั นี้ 1) มาตรฐานความรูแ้ ละประสบการณ์วิชาชพี ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติ ดังน้ี -เขา้ รบั การอบรมพัฒนาหลกั สูตร/โครงการตา่ ง ๆ ทชี่ ่วยเพม่ิ พูนความรู้ ทักษะ ประสบการณใ์ น วชิ าชีพ นำความรูท้ ไ่ี ด้รบั มาปรับใช้ให้เกดิ ประโยชนอ์ ย่างเตม็ ทีท่ ้งั ตอ่ หน่วยงานและผูเ้ รยี น เช่น นำความรจู้ ากการศกึ ษาอบรมเร่ืองหลักสตู ร มาจัดทำหลักสตู รสถานศกึ ษา หลักสูตรของกลุ่ม สาระการเรียนรภู้ าษาไทย จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอน และการวจิ ัยในชน้ั เรียนเพอื่ การพฒั นาผเู้ รยี นเต็มตามศกั ยภาพ 2) มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานข้าพเจ้าได้ปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ -มกี ารทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ มรี ะเบยี บแบบแผน มองการณไ์ กล มีวสิ ัยทัศนท์ ี่ดีต่อคน ต่องาน ต่อ ผู้บังคบั บญั ชา ตรงตอ่ เวลา อทุ ศิ เวลาตอ่ ทางราชการ ขยนั อดทน มงุ่ ม่นั ในการปฏบิ ัติงานต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายได้สำเรจ็ และมกี ารพัฒนางานใหม้ ีความก้าวหนา้ ทันตอ่ เหตุการณเ์ สมอ มี ความซ่ือสัตยส์ ุจริตในการปฏบิ ัติหน้าที่ มนี ้ำใจเอือ้ เฟื้อเผื่อแผ่ตอ่ เพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลอื ให้ คำปรึกษา แนะนำในการปฏิบัติงาน เช่น การสอนแทน ในกรณที ่ีครไู ปราชการ เป็นตน้

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน -รว่ มงาน ช่วยเหลอื ใหค้ ำปรกึ ษา แนะนำในการปฏบิ ัติงาน เชน่ การสอนแทน ในกรณีท่คี รไู ปราชการ เป็นตน้ 3) มาตรฐานการปฏิบัตติ น ข้าพเจ้าได้ปฏบิ ัติ ดังน้ี -ประพฤตติ นอยูใ่ นระเบยี บวนิ ยั มีคุณธรรม จรยิ ธรรม รกั และศรัทธาในวิชาชีพครู ยดึ ม่นั ใน จรรยาบรรณครู เพื่อเป็นแบบอยา่ งท่ีดีแกเ่ พือ่ นร่วมงานและผู้เรยี นเสมอ มกี ารวางแผนในการ ปฏบิ ัตงิ าน ข้าพเจ้ามคี วามสามัคคสี ามารถทำงานเปน็ ทีมรว่ มกบั บคุ คลอ่ืนท้งั ในหน่วยงาน และ ต่างหน่วยงานไดเ้ ป็นอย่างดี และปฏิบัติตามขนบธรรมเนยี ม แบบแผนอันดงี ามของสังคมเข้าร่วม กจิ กรรมต่าง ๆ ของสงั คม ชมุ ชน ตามโอกาสอนั สมควร เชน่ รว่ มงานประเพณีแห่เทียนเขา้ พรรษา งานลอยกระทง ตกั บาตรทำบุญ ร่วมงานบญุ ตา่ ง ๆ ตลอดจนปฏิบัตติ นให้เป็นแบบอย่างทีด่ ีแก่ นักเรยี น เป็นตน้

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) สว่ นที่ 4 นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน สรุปผล และขอ้ เสนอแนะ 4 ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น 4.1 ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ผู้เรยี นผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 100 4.2 ผลการพัฒนาผ้เู รยี นดา้ นอ่นื ๆ 1.2.1 ผเู้ รยี นในกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ผู้เรียนผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 100 1.2.2 ผูเ้ รยี นมีการพัฒนาดา้ นสุขภาพรา่ งกายสติปญั ญาอารมณ์และสงั คม ตามหลกั สูตรและตามทีส่ ถานศึกษากำหนด 1.2.3 ผู้เรียนมคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสตู รและตามที่สถานศึกษากำหนด 4.๓ การสงั เคราะหผ์ ลการแกป้ ญั หาและพัฒนาผู้เรียน 1 ปญั หาทพี่ บในช้นั เรยี น คือ - ร้อยละของนักเรยี นที่มีความรูค้ วามเข้าใจในเนอื้ หาวิชาที่สอนตำ่ มาก - นกั เรยี นขาดการคน้ ควา้ และแสดงหาความรเู้ พ่ิมเตมิ -นกั เรียนขาดการทบทวนบทเรยี น 2 รูปแบบเทคนคิ วธิ ีการแก้ปัญหาหรอื พฒั นา คือ - การสืบค้นข้อมลู ความรู้เพ่ิมเตมิ ทางอินเตอร์เนต็ - การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ - การให้โอกาสนกั เรียนทำข้อสอบซำ้ 3 การนำรูปแบบเทคนคิ วธิ ีการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นาไปใช้ในการแกป้ ัญหาหรอื พัฒนาคือ - ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย -ส่อื การสอนสาระการเรียนรู้ภาษาไทยทีท่ ันสมยั ดึงดดู ความสนใจทำใหไ้ ม่น่าเบอื่ และเครียด 4 ผลที่เกดิ ขน้ึ คือ - รอ้ ยละของผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรยี นสูงขน้ึ - รอ้ ยละของนกั เรยี นท่ีมีเจตคติทด่ี ตี ่อการเรียนสูงขนึ้ 4.๔ กจิ กรรม/ผลงาน/ชน้ิ งานเด่นท่มี คี วามภาคภูมิใจและประทบั ใจ -

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน 4.4 ในการปฏบิ ตั ิการสอนภาคเรียนนี้ได้คน้ พบความรู้ใหม่ ดังนคี้ ือ 1) สอ่ื การสอน ไดแ้ ก่ - ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ true ปลูกปัญญา 2) วิธกี ารสอนท่ีพบวา่ ประสบผลสำเรจ็ มากทีส่ ุดคือ - การจดั การเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 3) ปัจจยั ที่ทำให้ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติหน้าท่ีคอื - ความตงั้ ใจที่จะสอนนกั เรียนใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจสูงขน้ึ และสามารถนำความรู้ ทไ่ี ด้ไปใช้ประโยชน์ได้ 4.5 ปัญหาและอปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะ  สงิ่ ที่ตอ้ งแก้ไข(ปญั หา) คอื - ปรมิ าณงานด้านอน่ื ๆท่นี อกเหนือจากการสอน มีมากเกินไป ทำให้ไมส่ ามารถ สอนนกั เรียนไดต้ ามเวลาทีก่ ำหนด  สิ่งทตี่ อ้ งการพฒั นาต่อไป คอื - การยกระดบั ผลสมั ฤทธ์การทดสอบระดับชาติ o-net - การจดั การเรยี นการสอนที่หลากหลาย และเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนแตล่ ะคน ขอรับรองวา่ รายงานดงั กล่าวข้างตน้ เป็นความจรงิ ทุกประการ (ลงช่อื )………………………………………………………… ( นางสาวปรษั ฐา รัตนคช) ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครชู ำนาญการ วันท.ี่ ..........เดือน................. พ.ศ. 2565 การตรวจสอบและรบั รองของผูบ้ ังคบั บัญชาชน้ั ต้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………..........................................………………………… (ลงช่อื ) ……………………………………………………………….. (นายภกั ดี วงเดช) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นชมุ ชนวัดปากตรงั วนั ท่.ี ..........เดือน................. พ.ศ. 2565

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน) ภาคผนวก

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน แจกใบงาน-แบบฝกึ หดั สำหรบั การเรยี นการสอนแบบออนแฮนด์ ในสถาการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา-2019 ปีการศกึ ษา 2564

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน กจิ กรรมการเรยี นการสอน onsite

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน กจิ กรรมการเรยี นการสอน online

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน บรรยากาศการประชุมในแตล่ ะเดอื นของคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดปากตรัง

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน การเขา้ รว่ มประชุม/อบรมในการพฒั นาตนเอง

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ประมวลภาพการสอนออนไลน์

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 5

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน) ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 2

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3

รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report : SAR) นางสาวปรษั ฐา รตั นคช ผรู้ ายงาน ประมวลภาพ ผลงานนกั เรียน