๔หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี สิทธมิ นษุ ยชน จุดประสงค์การเรียนรู้ • ประเมนิ สถานการณ์สิทธมิ นุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพฒั นาได้
ความหมายและความสาคัญของสทิ ธมิ นุษยชน • พระราชบัญญตั คิ ณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายของสทิ ธิมนษุ ยชนวา่ หมายถึง ศักดศิ์ รคี วามเปน็ มนุษย์ สทิ ธิ เสรีภาพและความเสมอภาคของบคุ คลท่ไี ด้รบั การรบั รองหรือคุ้มครองตามรฐั ธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทย หรือตามกฎหมายไทย หรอื ตามสนธสิ ัญญาทปี่ ระเทศไทยมพี ันธกรณีท่จี ะต้องปฏบิ ตั ิตาม ซ่งึ มคี วามสาคญั คือ ๑ มนุษย์ทกุ คนมีสทิ ธิ เสรีภาพในชีวติ สามารถปกปอ้ งตนเองได้อย่างมีศักดิศ์ รี มอี านาจในการตัดสินใจโดยอยู่ บนพ้ืนฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม ๒ มนุษย์ทุกคนมีอิสระทางความคดิ สร้างสรรคผ์ ลงาน ประดษิ ฐ์คดิ คน้ เทคโนโลยีทที่ ันสมยั รวมท้ังพฒั นา ศกั ยภาพของตนเองไดอ้ ยา่ งเสรี โดยไมล่ ะเมดิ สิทธิของบคุ คลอนื่ ๓ มนษุ ย์ทกุ คนมีคณุ ค่าในตนเอง มเี กียรตภิ ูมิที่เกดิ เปน็ มนษุ ย์ ยอมรบั ความเป็นมนุษย์ ศกั ดศิ์ รี ชาติกาเนิด สิทธติ า่ งๆ ทีม่ ีพืน้ ฐานมาจากความชอบธรรม ตามสิทธิทไ่ี ดม้ าตงั้ แตก่ าเนดิ
แนวคิดและหลกั การของสทิ ธิมนษุ ยชน • คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ เปน็ องค์กรในการทาหน้าท่ีดแู ลด้านสิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทย โดย พระราชบญั ญัติคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดก้ าหนดให้มหี น้าทใ่ี นการสง่ เสรมิ การเคารพ และการ ปฏิบัติตามหลกั สทิ ธิมนษุ ยชนทั้งในระดบั ประเทศและระหว่างประเทศ ดูแลและตรวจสอบการกระทา หรอื การละเลยการ กระทา อนั เป็นการละเมิดสทิ ธิมนุษยชน หรอื ท่ีไม่เปน็ ไปตามพนั ธกรณรี ะหว่างประเทศเก่ียวกบั สทิ ธมิ นษุ ยชนทป่ี ระเทศไทย เขา้ ร่วมเปน็ ภาคี • นอกจากนี้ประเทศไทยเปน็ ประเทศภาคชี ั้นแนวหน้าขององค์การสหประชาชาตทิ ร่ี บั รองหลกั การคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชน ท่ีสมชั ชาใหญ่ขององคก์ ารสหประชาชาตไิ ด้ประกาศไว้ใน “ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ” ตง้ั แต่เมือ่ วนั ที่ ๑๐ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ เพ่อื เป็นแนวทางให้ประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทางในการปฏบิ ัติตอ่ พลเมืองของ ตนและชาวตา่ งชาติที่อาศัยอยใู่ นประเทศของตน
ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ ความเปน็ มา • ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ เปน็ ข้อตกลงทอ่ี งค์การสหประชาชาติได้กาหนดขนึ้ ในการวางกรอบเบ้ืองตน้ เกยี่ วกับสิทธมิ นษุ ยชนและเป็นเอกสารหลกั ด้านสิทธิมนุษยชนฉบบั แรก ซ่งึ ที่ ประชมุ สมัชชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติ ใหก้ ารรับรอง เพอื่ ใหป้ ระเทศสมาชกิ ทั้งหลายใชเ้ ปน็ แนวทางใน การคุ้มครองดูแลสทิ ธิและเสรภี าพของพลเมอื งในประเทศของตน
สาระสาคัญ • ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติมวี ัตถปุ ระสงค์และหลกั การท่ัวไปเกีย่ วกบั มาตรฐาน ดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน แต่ไมม่ พี นั ธะผูกพันในแงข่ องกฎหมายระหวา่ งประเทศประกอบด้วยการรับรองสทิ ธิ มนษุ ยชนในดา้ นต่างๆ จานวน ๓๐ ข้อ สามารถนามาจดั กลุ่มได้ เป็น ๔ กล่มุ คอื ๑ สทิ ธิมนุษยชนเบื้องตน้ (ข้อที่ ๑-๓) ๒ สิทธพิ ลเมอื งและสทิ ธทิ างการเมือง (ขอ้ ที่ ๔-๒๓) ๓ สิทธทิ างเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ขอ้ ท่ี ๒๔-๒๗) ๔ หนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบของทุกคนตอ่ ระเบียบสงั คม และการรบั รองสทิ ธิมนษุ ยชนและ เสรภี าพพ้นื ฐานระหว่างประเทศ (ขอ้ ท่ี ๒๘-๓๐)
สทิ ธิมนุษยชน มีความสาคญั ตอ่ พลเมืองในประเทศตา่ งๆอยา่ งไร
บทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยเกีย่ วกบั สทิ ธมิ นุษยชน • ในรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจุบัน ได้ใหค้ วามคมุ้ ครองและส่งเสริมสิทธแิ ละเสรีภาพของประชาชนที่เปน็ รปู ธรรม มกี ารบัญญตั เิ ก่ียวกบั คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ว้ในหมวด ๑๒ องคก์ รอสิ ระ สว่ นท่ี ๖ วา่ ด้วย คณะกรรมาธกิ ารสทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๔๖ - ๒๔๗ โดยมรี ายละเอยี ด ดังน้ี คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ประกอบด้วยกรรมการ ๗ คน พระมหากษัตริยท์ รงแต่งตง้ั ตาม คาแนะนาของวฒุ ิสภา จากผู้ซ่งึ ได้รับการสรรหาทีม่ คี วามร้หู รอื ประสบการณ์ดา้ นการคุ้มครองสทิ ธิเสรีภาพ ของประชาชนเป็นท่ีประจกั ษ์ เปน็ กลางทางการเมอื ง และซอื่ สัตย์สุจรติ คณุ สมบัติ ลักษณะต้องห้าม และการพ้นจากตาแหนง่ ของคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ ให้เปน็ ไป ตามพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชน กรรมการสิทธิมนษุ ยชนแห่งชาติมวี าระการดารงตาแหน่ง ๗ ปี นับแต่วันท่ีพระมหากษตั รยิ ์ทรงแต่งตง้ั และให้ดารงตาแหนง่ ไดเ้ พยี งวาระเดียว สานกั งานคณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติเปน็ หน่วยงานทเี่ ป็นอสิ ระในการบรหิ ารงานบุคคล การงบประมาณ และการดาเนินการอืน่ ท้งั น้ีตามทีก่ ฎหมายบญั ญัติ
บทบาทขององค์การระหว่างประเทศในเวทโี ลกท่ีมผี ลตอ่ ประเทศไทย สานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ล้ีภัยแหง่ สหประชาชาติ (UNHCR) บทบาทหน้าท่ี • ปกปอ้ งและสนับสนุนในกิจการที่เกยี่ วขอ้ งกบั ผูล้ ี้ภยั ทั่วโลก ตามขอ้ เรียกรอ้ งของรัฐบาลในแต่ละประเทศ • เปน็ ผนู้ าและประสานงานในการรวบรวมความช่วยเหลือจากนานาประเทศ เพื่อแกไ้ ขปญั หาของผ้ลู ภี้ ยั ท่วั โลก • ใหค้ วามช่วยเหลอื ตามหลกั มนษุ ยธรรมแก่ผู้แสวงหาที่พกั พงิ และบคุ คลไร้รัฐ
องคก์ ารแอมเนสตี อินเตอรเ์ นชนั แนล (AI) บทบาทหนา้ ท่ี • เปน็ อาสาสมคั รระหว่างประเทศทีท่ างานดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน • มีบทบาทในการเผยแพร่และสนบั สนนุ ให้คนตระหนักถงึ การเคารพหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน • ให้ความร่วมมือกบั องคก์ ารสหประชาชาติ องค์กรรัฐบาล และองคก์ รเอกชนระหว่างประเทศ เพอ่ื สนบั สนุนเร่ือง สิทธิมนุษยชน
องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ (ILO) บทบาทหน้าท่ี • ช่วยเหลือผู้ใชแ้ รงงานทวั่ โลกให้ได้รับความยุติธรรมจากสงั คม • ช่วยให้ผูใ้ ช้แรงงานมีคุณภาพชวี ติ ความเปน็ อยู่ การศึกษา สาธารณสขุ และการประกอบอาชีพทีด่ ีขึ้น • ขจัดความยากจนและจดั ใหผ้ ้ใู ช้แรงงานมีงานทา • สง่ เสรมิ การฝึกอบรมผใู้ ชแ้ รงงานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ • ดแู ลผู้ใช้แรงงานให้ไดร้ ับความปลอดภัยจากการทางาน • สรา้ งเสรมิ ประชาธปิ ไตยและคมุ้ ครองสทิ ธมิ นุษยชนของผู้ใชแ้ รงงาน
ปญั หาสทิ ธมิ นุษยชนในประเทศและแนวทางแกไ้ ขปัญหาและพฒั นา ปญั หาการละเมดิ สิทธิแรงงานขา้ มชาติ สาเหตุของปญั หา • การลกั ลอบเขา้ มาทางานในประเทศไทยโดยผดิ กฎหมาย • เกดิ ชุมชนแออดั ในเมอื งหลวงและเขตอตุ สาหกรรม • เกิดการแพร่กระจายของโรคตดิ ตอ่ จากกล่มุ ผใู้ ช้แรงงาน • เกิดปัญหาอาชญากรรมและความรุนแรง แนวทางการแก้ไข • กาหนดนโยบายให้มีการจดทะเบยี นแรงงานขา้ มชาตไิ ด้ตลอดทงั้ ปี • ภาครฐั จะต้องจดั ทากลไกคมุ้ ครองสทิ ธขิ องผใู้ ชแ้ รงงานตามกฎหมายที่แรงงานสามารถเขา้ ถงึ ได้จริง • มมี าตรการลงโทษทีช่ ัดเจนกับนายจ้างทฝ่ี า่ ฝืนกฎหมาย
ปัญหาการละเมดิ สิทธเิ ด็กและเยาวชน สาเหตขุ องปญั หา • เด็กไมไ่ ด้รับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐานจากภาครฐั เช่น เดก็ พกิ าร เดก็ ยากจน • เดก็ ถกู ปล่อยปละละเลยไมไ่ ดร้ บั การดูแลเอาใจใส่จากครอบครวั • เด็กถูกกระทาทารณุ กรรมจากบคุ คลในครอบครวั หรือบคุ คลภายนอก แนวทางการแก้ไข • ภาครฐั ควรมนี โยบายจดั กิจกรรมเผยแพร่ความร้แู ละส่งเสริมสทิ ธิเด็ก • ประชาสมั พนั ธข์ ้อมูลข่าวสารเก่ยี วกับสทิ ธเิ ดก็ ออกส่สู าธารณะ • ประสานความร่วมมอื ของทกุ ฝา่ ยในครอบครวั และสงั คมในการแกไ้ ขปญั หาสทิ ธิเด็ก
ปญั หาการละเมดิ สทิ ธสิ ตรี สาเหตุของปัญหา • การเลอื กปฏบิ ตั ิทไ่ี มเ่ ปน็ ธรรม • การถูกเอาเปรยี บในการจ้างงานและสวสั ดกิ ารต่างๆ • ความเข้าใจทค่ี ลาดเคล่ือนเก่ยี วกับสทิ ธิของผชู้ ายและผ้หู ญงิ แนวทางการแกไ้ ข • สง่ เสรมิ ความเสมอภาคเทา่ เทียมกนั ของผชู้ ายและผหู้ ญิง • ร่วมกนั รณรงค์ให้คนในสงั คมตระหนักถงึ คณุ ค่าของเพศสตรีให้มากขึ้น • มมี าตรการคุ้มครองสิทธิสตรีอย่างเปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ
อปุ สรรคและการพฒั นาสิทธมิ นุษยชนในประเทศไทย ภาคเอกชน ภาครัฐ • ส่งเสริมและสนบั สนุนกระบวนการเรียนรสู้ ทิ ธมิ นุษยชนศกึ ษา • สร้างความตระหนกั และจิตสานกึ ของประชาชนตามหลักสิทธมิ นุษยชน • เปิดโอกาสให้ทกุ ภาคส่วนในสงั คมมีส่วนรว่ มในการปกปอ้ งคุ้มครองสิทธิ • ผลักดนั กฎหมายให้เกิดการค้มุ ครองและพิทักษ์สิทธิอย่างเป็นรปู ธรรมมนุษยชน • เผยแพรค่ วามรเู้ ก่ียวกบั เรือ่ งสิทธมิ นษุ ยชนให้กับสมาชิกในสังคม • สรา้ งความเขา้ ใจและสง่ เสรมิ แนวคดิ สทิ ธิมนุษยชนใหแ้ ก่คนท่ัวไป • รณรงค์ใหป้ ระชาชนตระหนกั ถงึ ความสาคัญของสิทธิมนุษยชน • ให้ความรว่ มมอื กับหน่วยงานของรัฐในเรือ่ งสิทธมิ นษุ ยชน ทง้ั ด้านขอ้ มูล เน้ือหา และการจัดกจิ กรรม ท่สี ง่ เสรมิ ด้านสทิ ธิมนษุ ยชน ภาคประชาชน • ปฏิบตั ิตามกฎหมายอย่างเครง่ ครดั ใชส้ ทิ ธิและเสรภี าพตามที่กฎหมายกาหนด • ไมล่ ะเมดิ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลอน่ื • เคารพในความเสมอภาคเท่าเทียมกันของมนุษย์ • ให้ความรว่ มมอื กบั ภาครฐั และภาคเอกชนในการสง่ เสริมสิทธิมนุษยชน
ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ ความหมายของข้อตกลงระหวา่ งประเทศ ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศหรอื สนธิสัญญามีความหมายตามทีย่ อมรบั กันทั่วไป ดงั นี้ เป็นความตกลงระหว่างรฐั หรือรัฐบาล หมายความวา่ สนธสิ ัญญานัน้ เกิดจากการเห็นพ้องตอ้ งกนั โดยหากเปน็ ขอ้ ตกลง ๑ ของสองฝ่ายจะเรียกวา่ “ข้อตกลงทวิภาค”ี ถ้ามผี เู้ ขา้ ตกลงมากกว่าสองฝา่ ยขึ้นไปจะเรียกว่า “ขอ้ ตกลงพหุภาคี” ตาม หลักกฎหมายระหว่างประเทศข้อตกลงระหว่างประเทศจะทาเป็นลายลกั ษณ์อักษรหรือไม่กไ็ ด้ ๒ ทาข้นึ ตามกฎหมายระหวา่ งประเทศ ไมใ่ ชต่ ามกฎหมายภายในประเทศของรฐั ใดรัฐหน่งึ ๓ ม่งุ ใหเ้ กิดผลผูกพนั หรอื พนั ธกรณตี ามกฎหมายระหวา่ งประเทศ เช่น กอ่ ให้เกิดพนั ธกรณที ตี่ อ้ งสง่ ผ้รู ้ายขา้ มแดนใหแ้ ก่กัน หรอื ตอ้ งนาข้อพพิ าทเสนอตอ่ องคก์ รระหว่างประเทศเพือ่ วินจิ ฉัย เป็นตน้
ความสาคัญของข้อตกลงระหวา่ งประเทศ ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศเปน็ ประโยชน์และมีความสาคญั ตอ่ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งรัฐตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย ดังนี้ ๑ สามารถรว่ มกันสรา้ งกฎเกณฑใ์ หมข่ องกฎหมาย ให้ทนั กับความตอ้ งการได้โดยไมต่ อ้ งรอใหใ้ ชเ้ วลาพฒั นาจนเกดิ เปน็ จารตี ประเพณเี สยี ก่อน ๒ กดิ การรว่ มมอื กนั ทากจิ การตา่ งๆ ทีร่ ฐั ไม่สามารถทาตามลาพังได้ เช่น ร่วมกันจัดตั้งองค์การสหประชาชาติ หรอื ในระดับภมู ิภาค เช่น สมาคมอาเซยี น เพื่อรว่ มกนั ทากจิ การระดบั โลก ๓ ชว่ ยระงับขอ้ พิพาทที่มีตอ่ กนั โดยตกลงแลกเปลย่ี นผลประโยชนก์ ัน หรอื หากมขี ้อขดั แยง้ จนไม่สามารถตกลงกนั ได้ กอ็ าจร่วมกันแสวงหาทางระงบั ขอ้ พิพาทโดยสนั ติวธิ ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: