Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 5

หน่วยที่ 5

Published by kookmanus, 2022-01-25 07:46:07

Description: หน่วยที่ 5

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 5 หลกั สตู รที่นำมำใชใ้ นกำรจดั กำรศกึ ษำปฐมวยั นายมนัส จนั ทร์พวง ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำร วทิ ยำลยั ชุมชนแพร่

หลักสตู รที่นำมำใช้ในกำรจดั กำรศึกษำปฐมวยั กำรศึกษำปฐมวัยและหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยแบบตำ่ ง ๆ - การจัดการศึกษาปฐมวัยและหลักสตู รแบบมอนเตสซอรี่ - การจดั การศึกษาปฐมวัยและหลักสตู รแบบไฮสโคป - การจัดการศกึ ษาปฐมวัยและหลกั สตู รแบบเรกจิโอ เอมเิ ลยี - การจดั การศึกษาปฐมวยั และหลักสตู รแบบวอล์ดอฟ - การจัดการศกึ ษาปฐมวัยและหลกั สตู รตามวิถไี ทย หลักกำรทำงกำรศึกษำปฐมวยั - หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั พ.ศ. 2546 - หลักการทางการศึกษาปฐมวยั

MONTESSORI หลกั สูตร ของ ดร.มำเรีย มอนเตสเซอรี่ เกิดในประเทศอิตำลี ไดน้ ำ แนวคิดของรุซโซและเฟรอเบล โดยเน้นการเตรียมความพร้อมให้เด็ก จัดสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้และกจิ กรรมให้เหมาะกับพัฒนาการในแต่ ละวัย ให้เด็กไดเ้ รียนรู้ดว้ ยประสำทสัมผสั ท้งั ห้ำ โดยผ่ำนกิจกรรมกำร เล่น มีชุดเครื่องเล่นท่ีฝึ กพฒั นำกำรและเตรียมควำมพร้อมใหแ้ ก่เด็กดำ้ น ต่ำงๆ จดั บรรยำกำศในกำรเรียนให้อบอุ่นเหมือนบำ้ น เคร่ืองใชต้ ่ำงๆมี ขนำดเหมำะกบั เด็ก จุดเน้นท่ีนำมำใชค้ ือ กำรสร้ำงประสบกำรณ์ชีวิต โดยฝึ กให้เด็กรู้จกั ช่วยเหลือและดูแลตนเอง กำรดูแลรักษำส่ิงแวดลอ้ ม ทกั ษะและมำรยำทในสังคมท่ีเด็กควรรู้ กำรควบคุมกำรเคลื่อนไหวของ ร่ำงกำย มอนเตสซอร่ี พัฒนาอุปกรณ์ท่ใี ช้ฝกึ ประสาทสมั ผสั นาไปสกู่ ารเรียนรู้และการสง่ เสริมพัฒนาการ

HIGH SCOPE โดย ดร.เดวิด ไวคำร์ต ไดน้ ำแนวคิดจำกพิอำเจท์ ไวกอตสก้ี และดิวอ้ี หลกั กำร สอนของ High Scope คือ กำรเรียนรู้โดยกำรที่ผูเ้ รียนไดล้ งมือทำกิจกรรมต่ำงๆ มี กำรจัดส่ิงแวดลอ้ มที่เสริมสร้ำงประสบกำรณ์ในกำรเรียนสำหรับเด็ก มีส่ือและ อุปกรณ์หลำกหลำย มีกำรจดั เกบ็ อุปกรณ์อยำ่ งเป็นหมวดหมู่ มีป้ำยบอกสื่อแต่ละ ชนิดซ่ึงง่ำยต่อกำรนำมำใช้ หลักกำรคือ จัดกิจกรรมให้เข้ำกับหลักสูตรหรื อ จุดประสงคใ์ นกำรเรียน ไดแ้ ก่ กำรแสดงถึงส่ิงที่สร้ำงสรรค์ ภำษำ กำรเคล่ือนไหว ดนตรี กำรแบ่งแยกประเภท กำรเรียงลำดบั จำนวน พ้ืนท่ีและเวลำ กำรริเริ่มและ ปฏิสัมพนั ธ์ทำงสังคม ครูเป็นผสู้ นบั สนุนและสร้ำงปฏิสัมพนั ธ์กบั นกั เรียน มีกำรจดั กิจวัตรประจำวันท้ังกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ ครู บันทึกพฤติกรรม คำพูดและ พัฒนำกำรของนักเรี ยนที่พบเห็น ครู วำงแผนกิจวัตรประจำวันและประเมิน พฒั นำกำรเดก็

NEO HUMANISM หลกั สูตรการศึกษาแบบนีโอฮิวแมนนิส จากโยคพี ี ซาร์การ์ ชาวอนิ เดยี ซ่ึงนาศาสตร์ การสอนของตะวนั ตกและววิ ฒั นาการของตะวนั ออกมาผสมกนั โดยมุ่งเน้นการจดั การ เรียนเพ่ือพฒั นาศักยภาพในตวั มนุษย์ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ ความรัก และความมนี า้ ใจ และ วชิ าการ โดยมกี ระบวนการจัดการเรียนคาสอนทสี่ าคญั คือ  กำรประสำนของเซลสมอง เป็นกำรจดั สิ่งแวดลอ้ มเพือ่ พฒั นำสมองโดยผำ่ นกิจกรรมต่ำงๆ เช่น กำร เล่นนอกหอ้ งเพอื่ ใหน้ กั เรียนไดเ้ คลื่อนไหวร่ำงกำยทุกส่วน และกำรสอนจำกรูปธรรมไปนำมธรรม  กำรสร้ำงภำพพจนข์ องตวั เองโดยมีครูเป็นตวั อยำ่ งดีและใชเ้ ทคนิคต่ำงๆในกำรช่วยใหเ้ ดก็ รู้สึกดีต่อ ตนเอง * กำรใหค้ วำมรักต่อเดก็ โดยผำ่ นรอยยมิ้ คำชมและกำรสมั ผสั จำกครู * กำรสวสั ดีระหวำ่ งครูกบั นกั เรียน

หลกั สูตร Reggio Emilia Approach หศทกูนอ่ีลสตกัยนส์กสับูตลเกสรร้ำี กนหพงจุน้ืนลนิโัใกฐักอนำกเนรเกำอียครำมนือรคิเเืไอลกรดีียยำก้รเนรโำทีกดยรำนำรยโ่รลวครสูม้อจรองำรมกิกนสือำกรรกมำะใำรำนหรลลกจวำงำัดก่ำมรงุชกือเผรีำกีไยูรป้ รดนเกระ้นแีคยทลำนรแำะอกกนศิงจำิลวแรกปคสลริะดอะรมแคมนลำรตโจะูใ่ดำำกนงกยำๆกรเพนจำิอส้นดัรำนสดผเจับ่ิงำูเ้ รทแเสีนยว์แนินนดลุนลเงะปอใ้ำไ็ หนนมว้ นกั เรียนเกิดควำมคิดสร้ำงสรรค์ รู้จกั แกป้ ัญหำต่ำงๆ ร่วมมือกนั ในกำรทำโครงงำน แผคบวำ่ นำ่งมเทปแำ็นตงโกศคติลรำ่ปงงะงแำลในะนรลกะกั ำยษระวณสำ้ะันดพภแิเำศลพษะรขมะอีมยงุมะนยศกัำิลวเรปีสยะนนใเนบัปห็สนน้อรงุำนยเใรบีหยุคนเ้ ดคก็หลถน่ำำ้ยทท่ีขออดงคควรำูคมือรู้สเขึกำ้นใึกจคในิด

หลกั สูตร Waldorf Education โดยรูดอลฟ์ สไตเนอร์ ไดน้ ำแนวคิดในกำรจดั กำรศึกษำเพือ่ ใหม้ นุษย์ ไดบ้ รรลุศกั ยภำพสูงสุดที่ตนมี สำมำรถกำหนดจุดมุ่งหมำยและแนวทำง ชีวิตของตนเอง สร้ำงควำมสมดุลโดยผำ่ นกิจกรรมทำงกำย ผำ่ นอำรมณ์ ควำมรู้สึกและผำ่ นควำมคิด เน้ือหำสำระในกำรจดั กำรเรียนกำรสอนไดแ้ ก่ * ภำษำ ครูใชค้ ำคลอ้ งจอง เพลง และนิทำน ประกอบกำรเรียนกำรสอน * คณิตศำสตร์และวิทยำศำสตร์ ใชก้ ิจกรรมท่ีนำธรรมชำติรอบตวั มำ ประกอบกำรเรียนรู้ เช่นกำรประดิษฐข์ องเล่นจำกธรรมชำติ กำรปลูกพืช เป็ นตน้ * ศิลปะ ไดแ้ ก่กำรป้ันและกำรวำดภำพ โดยใชจ้ ินตนำกำร

หลกั สูตร Whole Language Approach * ควำมรู้เรื่องภำษำ (A view of language) เช่น กำรฟัง กำรพดู ภำษำองั กฤษ ไทย กำรเขียน กำรอำ่ นภำษำองั กฤษ ไทย * ควำมรู้ในเร่ืองกระบวนกำรเรียนรู้ (A view of learning) มีกำรสำธิต (Demonstration) กำรมีส่วนร่วม(participation) กำรฝึกปฏิบตั ิ (Practice) กำรกระทำ (Performance) * ควำมรู้เร่ืองธรรมชำติและบทบำทของเดก็ และครู (A view of kids and teachers) จดั กำรเรียนรู้จำกง่ำยไปหำยำกตำมวยั ของเดก็ เช่น ดำ้ นภำษำ ใหเ้ ดก็ ฟัง พดู แลว้ จึงอ่ำนและเขียน กำรอ่ำน อำ่ นจำกภำพ และ สัญลกั ษณ์ง่ำยๆ เม่ือสำยตำกบั สมองสัมพนั ธ์กนั และพร้อมที่จะอำ่ น จึงอำ่ นเป็นตวั อกั ษร กำรเขียนเร่ิมจำกกำร ลำกเส้นพ้นื ฐำน 13 เสน้ แลว้ จึงนำเขำ้ สู่กำรเขียนเป็นตวั อกั ษร * ดนตรี คือกำรร้องเพลงท่ีมีจงั หวะและเสียงนุ่มนวล ฟังแลว้ สงบ เบำสบำย * กำรเคล่ือนไหว กิจกรรมแตล่ ะอยำ่ งคำนึงถึงหลกั 3 ประกำรไดแ้ ก่ กำรทำซ้ำ จงั หวะที่สม่ำเสมอ ควำมเคำรพ และนอ้ มรับคุณคำ่ ในทุกส่ิง

กำรสำรวจ เด็กๆจะออกสำรวจนอกห้องเรียน ทุกวนั ถำ้ ดินฟ้ำอำกำศอำนวย เพื่อฝึ กกำรสังเกต และ กำรจดจำสิ่งต่ำงๆที่ได้พบเห็น และนำมำเล่ำใน ช้นั เรียนเป็ นกำรฝึ กดำ้ นภำษำ และยงั ปลูกฝังให้เด็ก รักษธ์ รรมชำติแวดลอ้ มอีกดว้ ย

หลกั สตู รตามวถิ ีไทย กำรศึกษำปฐมวยั ตำมวิถีชีวิตไทย ไดพ้ ฒั นำข้ึนโดยมีวตั ถุประสงค์หลกั เพ่ือ พฒั นำรูปแบบกำรจัดกำรศึกษำปฐมวยั ที่เหมำะสมกับกำรพฒั นำเด็กปฐมวยั ใน สังคมชนบท โดยอำศยั พ้ืนฐำนแนวคิดจำกปรัชญำกำรศึกษำท่ีเป็ นท้งั สำกลและวิถี ชีวิตไทยที่มีพ้ืนฐำนมำจำก พุทธศำสนำ จุดเนน้ ของกำรศึกษำ คือกำรจดั หลกั สูตร โดยเฉพำะสำระกำรเรียนรู้ที่ให้ควำมสำคญั ต่อกำรเรียนรู้สำระท่ีเก่ียวกบั ธรรมชำติ และชีวิตท่ีสัมพันธ์กับธรรมชำติ ใช้หลักกำรสอนท่ีมุ่งปลูกฝัง คุณธรรมและ คุณลกั ษณะของคนไทย ควบคู่ไปกบั กำรเรียนรู้โลกโดยรอบ โดยเนน้ กำรเรียนจำก สิ่งที่ใกลต้ วั ออกไปในสภำพแวดลอ้ มของธรรมชำติ และสังคม ชุมชนทอ้ งถิ่นท่ีเด็ก อำศยั อยู่ เจริญเติบโตและมีพฒั นำกำรที่เหมำะสม มีคุณธรรมที่สำคญั เป็ นพ้ืนฐำน ของชีวิต

หลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวยั ในแต่ละรูปแบบ มีจุดเด่นแตกต่ำง กนั โดยมีวตั ถุประสงค์ของหลกั สูตรที่มุ่งเนน้ กำรพฒั นำเด็กปฐมวยั เพอื่ ใหไ้ ดค้ ุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ตำมท่ีสงั คมตอ้ งกำรในรูปแบบต่ำง ๆ ดงั นน้ั สถำนศึกษำที่ไดน้ ำแนวทำงหลกั สูตรรูปแบบใดมำใชค้ วรศึกษำ ขอ้ มูลใหถ้ ูกตอ้ งอย่ำงละเอียด ถึงแนวคิด วิธีกำร แนวทำงปฏิบตั ิของ หลกั สตู รเพอ่ื ท่ีจะใหป้ ระสพควำมสำเร็จในกำรพฒั นำเด็กปฐมวยั ตรงตำม วตั ถุประสงคข์ องแต่ละหลกั สตู รนนั้ ๆ

หลกั สตู รกำรศกึ ษำปฐมวยั พุทธศกั รำช ๒๕๔๖

สาเหตขุ องการเปลี่ยนแปลงหลกั สตู ร 1.เพอ่ื พฒั นำหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั สภำพกำรเปลยี่ นแปลงของสงั คม 2.เพอ่ื พฒั นำหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั สภำพเศรษฐกจิ 3.เพอื่ พฒั นำหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั กำรเมือง 4.เพอ่ื พฒั นำกำรหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั เทคโนโลยี 5.เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั พ.ร.บ. กำรศกึ ษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 6.เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั กำรปฏริ ปู กบั กำรปฏริ ปู กำรศกึ ษำโดย 6.1ใหพ้ อ่ แม่ผูป้ กครองและผูเ้ ล้ยี งดเู ดก็ ใชเ้ ป็ นแนวทำงในกำรอบรมเล้ยี งดเู ดก็ 6.2 ใหส้ ถำนศกึ ษำและสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั ทุกหน่วยงำนใชเ้ ป็ นแนวทำงในกำรจดั กำรศกึ ษำและเป็ นมำตรฐำนเดยี วกนั

หลกั การจดั การศึกษาระดบั ปฐมวยั ๑. กำรสรำ้ งหลกั สตู รที่เหมำะสม ๒. กำรสรำ้ งสภำพแวดลอ้ มที่เอ้อื ต่อกำรเรยี นรขู้ องเดก็ ๓. กำรจดั กจิ กรรมท่ีสง่ เสรมิ พฒั นำกำรและกำรเรยี นรู้ ๔. กำรประเมินพฒั นำกำรและกำรเรยี นรขู้ องเดก็ ๕. ควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงครแู ละผูป้ กครองของเดก็

จดุ ปรบั เปลย่ี นหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั หลกั สตู ร ๒๕๔๐ หลกั สตู ร ๒๕๔๖ หลกั สตู รก่อนประถมศกึ ษำ หลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวยั หลกั กำร หลกั กำร จดุ หมำย จดุ หมำย - - มำตรฐำนคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ เน้ือหำ แนวคิด สำระกำรเรียนรู้ แนวทำงกำรจดั ประสบกำรณ์ กำรจดั ประสบกำรณ์ กำรประเมินพฒั นำกำร กำรประเมินพฒั นำกำร - กำรนำหลกั สตู รสกู่ ำรปฏบิ ตั ิ - กำรจดั สำหรบั กล่มุ เป้ ำหมำเฉพำะ - กำรเชอ่ื มต่อกบั ป.๑ - กำรกำกบั ตดิ ตำม ประเมินและรำยงำน

ปรชั ญำกำรศกึ ษำปฐมวยั กำรศกึ ษำปฐมวยั เป็ นกำรพฒั นำเดก็ ตง้ั แต่แรกเกดิ ถงึ ๕ ปี บน พ้นื ฐำนกำรอบรมเล้ยี งดแู ละกำรสง่ เสรมิ กระบวนกำรเรยี นรู้ ที่สนองต่อธรรมชำติ และพฒั นำกำรของเดก็ แต่ละคน ตำมศกั ยภำพภำยใตบ้ รบิ ทของสงั คม - วฒั นธรรมที่เดก็ อำศยั อยู่ ดว้ ยควำมรกั ควำมเอ้อื อำทร และควำมเขำ้ ใจของทุกคน เพอ่ื สรำ้ งรำกฐำนของชวี ิตใหเ้ ดก็ พฒั นำไปส่คู วำมเป็ นมนุษยท์ ่ีสมบรู ณ์ เกดิ คุณค่ำ ต่อตนเองและสงั คม

หลกั กำร หลกั สตู รกำรศกึ ษำปฐมวยั ๒๕๔๖ (ยดึ หลกั กำรเดยี วกนั ตงั้ แต่อำยุแรกเกดิ – ๕ ปี ) ๑. ส่งเสรมิ กระบวนกำรเรยี นรแู้ ละพฒั นำกำรที่ครอบคลมุ เดก็ ปฐมวยั ทุกประเภท ๒. ยดึ หลกั กำรอบรมเล้ยี งดแู ละใหก้ ำรศกึ ษำที่เนน้ เดก็ เป็ นสำคญั โดยคำนงึ ถงึ ควำมแตกต่ำงระหว่ำง บุคคล และวิถชี ีวิตของเดก็ ตำมบรบิ ทของชมุ ชน สงั คม และวฒั นธรรม ๓. พฒั นำกำรเดก็ โดยองคร์ วมผ่ำนกำรเล่นและกจิ กรรมที่เหมำะสมกบั วยั

หลกั กำร หลกั สตู รกำรศกึ ษำปฐมวยั ๒๕๔๖ ๔. จดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรใู้ หส้ ำมำรถดำรงชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยำ่ งมีคุณภำพ และมีควำมสขุ ๕. ประสำนควำมร่วมมือกนั ระหว่ำงครอบครวั ชมุ ชน สถำนศกึ ษำใน กำรพฒั นำเดก็

จุดหมำย คุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์ ตำมวยั

คุณลกั ษณะตำมวยั เป็ นควำมสำมำรถตำมวยั หรอื พฒั นำกำรตำมธรรมชำติ เมื่อเดก็ มีอำยุถงึ วยั นนั้ ๆ

โครงสรำ้ งของหลกั สตู รกำรศกึ ษำปฐมวยั ๒๕๔๖ ช่วงอายุ อายตุ า่ กว่า ๓ ปี อายุ ๓ - ๕ ปี สาระการเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั ประสบการณ์สาคญั เวลาในการอบรม - ด้านร่างกาย - ด้านอารมณ์และจติ ใจ - พฒั นาทุกด้าน - ด้านสังคม - องค์ความรู้ - ด้านสติปัญญา - ปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม สาระทค่ี วรเรียนรู้ สาระทคี่ วรเรียนรู้ -เดก็ -เดก็ - บุคคลและสถานทแี่ วดล้อมเดก็ - บุคคลและสถานทแ่ี วดล้อมเดก็ - ธรรมชาตริ อบตัว - ธรรมชาติรอบตวั - สิ่งต่าง ๆ รอบตวั เดก็ - ส่ิงต่าง ๆ รอบตัวเดก็ ตลอดช่วงอายุ ประมาณ ๑ – ๓ ปี

สำระกำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์ สำระท่ี สำคญั ควรเรยี นรู้

สำระกำรเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย ประสบกำรณส์ ำคญั และสำระท่ีควรเรยี นรู้ ทงั้ สองส่วนใชใ้ นกำร จดั กจิ กรรมใหก้ บั เดก็ มีองคป์ ระกอบ ๓ ดำ้ น ๑. ดำ้ นควำมรู้ ๒. ทกั ษะกระบวนกำร ๓. คุณธรรม จรยิ ธรรม

ควำมรู้ เรอื่ งรำวเกย่ี วขอ้ งใกลต้ วั - บคุ คล สถำนที่ ธรรมชำติ สงิ่ ต่ำง ๆ รอบตวั ๐๐๐ ไม่เนน้ กำรท่องจำเน้อื หำ

ทกั ษะกระบวนกำร ทกั ษะกำรเคลอ่ื นไหว ทกั ษะทำงสงั คม ทกั ษะกำรคดิ ทกั ษะกำรใชภ้ ำษำ ทกั ษะทำงคณติ ศำสตรแ์ ละวิทยำศำสตร์

คุณธรรม จรยิ ธรรม ควำมรสู้ กึ ที่ดตี ่อตนเองและผูอ้ นื่ รกั กำรเรยี นรู้ รกั ธรรมชำติและสง่ิ แวดลอ้ ม มีคุณธรรม จรยิ ธรรมที่เหมำะสมกบั วยั

☺☺ ชมกว่ี ปยรรใะะหสบบวเ้ กดนำก็รกณเากส์ รดำิ คททญั ากั กษจิ ะกทรี่ รม (สทาาคงญาั นใน) นกาาไรปเรสยี ูก่ นารรู ส้ รา้ งองค ์ ความรู ้ ☺ กำรปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนยิ ม

สำระที่ควรเรยี นรู้ เรอ่ื งรำวเกยี่ วกบั เรอ่ื งรำวเกย่ี วกบั บคุ คลและ ตวั เดก็ สถำนท่ีแวดลอ้ มเดก็ ธรรมชำติ สงิ่ ต่ำง ๆ รอบตวั เดก็ รอบตวั เดก็

กำรจดั ประสบกำรณ์ จดั ประสบกำรณต์ รง จดั กจิ กรรมบรู ณำกำรผ่ำนกำรเล่น จดั กจิ กรรมประจำวนั

หลกั กำรจดั ประสบกำรณ์ ๑. จดั ประสบกำรณก์ ำรเล่นและกำรเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นำเดก็ โดยองคร์ วมอย่ำงต่อเนอ่ื ง ๒. เนน้ เดก็ เป็ นสำคญั สนองควำมตอ้ งกำร ควำมสนใจ ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบคุ คลและบรบิ ทของสงั คมที่เดก็ อำศยั อยู่ ๓. จดั ใหเ้ ดก็ ไดร้ บั กำรพฒั นำโดยใหค้ วำมสำคญั ทงั้ กบั กระบวนกำรและผลผลติ ๔. จดั กำรประเมินพฒั นำกำรใหเ้ ป็ นกระบวนกำรอย่ำงต่อเนอื่ ง และเป็ นสว่ นหนง่ึ ของกำรจดั ประสบกำรณ์ ๕. ใหผ้ ูป้ กครองและชมุ ชนมีสว่ นร่วมในกำรพฒั นำเดก็

หลกั กำรกำรจดั กจิ กรรมประจำวนั ๑. กำหนดระยะเวลำในกำรจดั กจิ กรรมแต่ละกจิ กรรมให้ เหมำะสมกบั วยั ของเดก็ ในแต่ละวนั ๒. กจิ กรรมท่ีตอ้ งใชค้ วำมคดิ ไม่ควรใชเ้ วลำต่อเนอื่ งนำน เกนิ กว่ำ ๒๐ นำที ๓. กจิ กรรมที่เดก็ มีอสิ ระเลอื กเล่นเสรี ใชเ้ วลำประมำณ ๔๐-๖๐ นำที

หลกั กำรจดั กจิ กรรมประจำวนั ๔. กจิ กรรมควรมีควำมสมดลุ ระหว่ำงกจิ กรรม ➢ในหอ้ งเรยี น – นอกหอ้ งเรยี น ➢ใชก้ ลำ้ มเน้อื ใหญ่ – กลำ้ มเน้อื เลก็ ➢รำยบคุ คล กล่มุ ย่อย กล่มุ ใหญ่ ➢เดก็ เป็ นผูร้ เิ รมิ่ – ผูส้ อนเป็ นผูร้ เิ รมิ่ ➢ใชก้ ำลงั - ไม่ใชก้ ำลงั

กจิ กรรม ๑. กจิ กรรมเสร/ี กำรเล่ำตำมมุม ๒. กจิ กรรมสรำ้ งสรรค์ ๓. กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ ๔. กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ/์ กจิ กรรมในวงกลม ๕. กจิ กรรมกลำงแจง้ ๖. เกมกำรศกึ ษำ

กำรจดั ทำหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ ๑. พฒั นำผูเ้ รยี นใหม้ ีคณุ ภำพและเตม็ ศกั ยภำพ ๒. สอดคลอ้ งกบั สภำพปัญหำ ควำมพรอ้ ม เอกลกั ษณ์ ภมู ิปัญญำ ทอ้ งถนิ่ และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓. มีกำรปรบั ปรงุ และพฒั นำใหเ้ ป็ นไปตำมควำมตอ้ งกำร ควำม จำเป็ นและทนั ต่อเหตุกำรณ์

กำรจดั ทำหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ ๔. เนน้ ควำมร่วมมือของบคุ ลำกร ทง้ั ในสถำนศกึ ษำและชมุ ชน ๕. บรหิ ำรจดั กำรแบบมีส่วนร่วมและบรหิ ำรตนเอง ๖. มีระบบกำรตรวจสอบและประเมินคณุ ภำพ

สำระกำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์ สำระที่ สำคญั ควรเรยี นรู้

ตวั อยำ่ งตำรำงกำรวิเครำะหส์ ำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี สำหรบั เดก็ อำยุ ๔ ขวบ พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั อย่างตวั บ่งชี้ ตัวอย่างสภาพท่ี ตวั อย่างสาระ พงึ ประสงค์ การเรียนรู้ ด้านสังคม มาตรฐานท่ี ๖ ช่วยเหลือตนเองได้ ๔ ขวบ สาระทค่ี วร ประสบการณ์ ด้านสตปิ ัญญา เหมาะสมกบั วยั เรียนรู้ สาคญั ๑.แต่งตวั ได้ตวั ๑.การแต่งกาย การปฏิบตั กิ จิ วตั ร ประจาวนั ของ ตนเอง ๒.การรับประทาน ตนเอง ๒.รับประทาน อาหาร อาหารได้ด้วยตนเอง ไม่หกเลอะเทอะ มาตรฐานท่ี ๑๐ มี จาแนกสิ่งของได้ ๑.สี ๑.การรู้จกั ส่ิงต่างๆ ความสามารถในการ ตามสี รูปร่าง ขนาด ๒.เลาขาคณติ ด้วยการมอง ฟัง คดิ และแก้ปัญหาได้ ๓.ขนาดใหญ่-เลก็ สัมผสั ชิมรสและดม เหมาะสมกบั วยั กลนิ่ ๒.การจบั คู่ จาแนก

กำรกำหนดหน่วยกำรจดั ประสบกำรณ์ ➢วิธีที่ ๑ เดก็ เป็ นผูก้ ำหนด ➢วิธีท่ี ๒ ผูส้ อนและเดก็ ร่วมกนั กำหนด ➢วิธีที่ ๓ ผูส้ อนเป็ นผูก้ ำหนด

กำรจดั ทำแผนกำรจดั ประสบกำรณ์ ๑. ศกึ ษำตำมหลกั สตู ร เอกสำรท่ีเกยี่ วขอ้ ง ๒. วิเครำะหห์ ลกั สตู รสถำนศกึ ษำ ( มำตรฐำน ตวั บ่งช้ี สถำนท่ีพงึ ประสงค์ ) ๓. วิเครำะหส์ ำระกำรเรยี นรู้ ๔. กำหนดหน่วยกำรจดั ประสบกำรณ์ ๕. เขยี นแผนกำรจดั ประสบกำรณ์

ตวั อยำ่ งรปู แบบแผนกำรจดั ประสบกำรณ์ ชอ่ื หน่วย................................................................................................................. ชอ่ื กจิ กรรม............................................................................................................. จดุ ประสงค์ ........................................................................................................................................................................................ .............. สำระกำรเรยี นรู้ ๑. สำระท่ีควรเรยี นร.ู้ ........... ๒. ประสบกำรณส์ ำคญั ......... วธิ ีดำเนนิ กจิ กรรม.................................................................................................... สอื่ ........................................................................................................................... กำรประเมิน........................................................................................................... บนั ทึกหลงั กำรสอน................................................................................................

กำรสรำ้ งบรรยำกำศกำรเรยี นรู้ ➨ ในสถานศึกษา ➨ ในห้องเรียน ➟ จัดอะไรบ้าง จัดอย่างไร

กำรประเมินพฒั นำกำร ระดบั ปฐมวยั

หลกั กำรกำรจดั กจิ กรรมประจำวนั ๑. กำหนดระยะเวลำในกำรจดั กจิ กรรมแต่ละกจิ กรรมให้ เหมำะสมกบั วยั ของเดก็ ในแต่ละวนั ๒. กจิ กรรมท่ีตอ้ งใชค้ วำมคดิ ไม่ควรใชเ้ วลำต่อเนอื่ งนำน เกนิ กว่ำ ๒๐ นำที ๓. กจิ กรรมที่เดก็ มีอสิ ระเลอื กเล่นเสรี ใชเ้ วลำประมำณ ๔๐-๖๐ นำที

หลกั กำรจดั กจิ กรรมประจำวนั ๔. กจิ กรรมควรมีควำมสมดลุ ยร์ ะหว่ำงกจิ กรรม ➢ในหอ้ งเรยี น – นอกหอ้ งเรยี น ➢ใชก้ ลำ้ มเน้อื ใหญ่ – กลำ้ มเน้อื เลก็ ➢รำยบคุ คล กล่มุ ย่อย กล่มุ ใหญ่ ➢เดก็ เป็ นผูร้ เิ รม่ิ – ผูส้ อนเป็ นผูร้ เิ รม่ิ ➢ใชก้ ำลงั - ไม่ใชก้ ำลงั

กจิ กรรม ๑. กจิ กรรมเสร/ี กำรเล่ำตำมมุม ๒. กจิ กรรมสรำ้ งสรรค์ ๓. กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจงั หวะ ๔. กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ/์ กจิ กรรมในวงกลม ๕. กจิ กรรมกลำงแจง้ ๖. เกมกำรศกึ ษำ

หลกั กำรประเมินพฒั นำกำร ๑. ประเมินพฒั นำกำรของเดก็ ครบทุกดำ้ นและนำผลมำพฒั นำเดก็ ๒. ประเมินเป็ นรำยบคุ คลอย่ำงสมำ่ เสมอต่อเนอื่ งตลอดปี ๓. สภำพกำรประเมินควรมีลกั ษณะเช่นเดยี วกบั กำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมประจำวนั ๔. ประเมินอย่ำงเป็ นระบบ มีกำรวำงแผน เลอื กใชเ้ ครอื่ งมือและจดบนั ทึกไวเ้ ป็ นหลกั ฐำน ๕. ประเมินตำมสภำพจรงิ ดว้ ยวิธีกำรหลำยหลำยเหมำะกบั เดก็ รวมทง้ั ใหแ้ หล่งขอ้ มูลหลำยๆดำ้ น ไม่ควรใชก้ ำรทดสอบ

ขน้ั ตอนกำรประเมินพฒั นำกำร ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจพฒั นำกำรของเดก็ /ช่วงอำยุ /ทุกดำ้ น วำงแผนเลอื กใชว้ ิธีกำรและเครอ่ื งมือที่เหมำะสม ดำเนนิ กำรประเมินและบนั ทึกพฒั นำกำร ประเมินและสรปุ รำยงำนผล กำรใหผ้ ูป้ กครองมีส่วนร่วม

วิธีกำรและเครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นกำรประเมินพฒั นำกำรเดก็ 1. กำรสงั เกตและบนั ทึก กำรสงั เกต  1.1 แบบบนั ทึกพฤติกรรม  ตวั อย่ำงแบบบนั ทึกพฤตกิ รรม การทรงตวั และ การประสาน การรักษาสุขภาพ การเรียนรู้ทาง การใช้ภาษา การสังเกตการ ประสานสัมพนั ธ์ สัมพนั ธ์ของ สังคม จาแนก และการ ของกล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเลก็ เปรียบเทยี บ

1. กำรสงั เกตและบนั ทึก กำรสงั เกต 1.2 การบนั ทกึ รายวนั  ตัวอย่างแบบบนั ทึกรายวนั  ช่ือ........................................................................................................................  ช่ือผู้สังเกต...........................................................................................................  สถานที่................................................................................................................  พฤตกิ รรม.................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ...............................  ความเหน็ ของผ้สู อน ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..............................

1.3 แบบสารวจรายการ ตวั อยำ่ งแบบสำรวจรำยกำร ยงั ไม่ พบเป็ น พบ หมายเหตุ พบ บางคร้ัง บ่อย พฒั นาการ พฤติกรรมเดก็ คร้ังที่ ( ) () ( ) ดำ้ นร่ำงกำย 1.เดินข้ึนบนั ได 1. ( ) () ( ) 2.ติดกระดุมเส้ือ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook