๖
รายงานผลการศกึ ษาระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นของสถานศกึ ษา และการศกึ ษาผู้เรียนเป็นรายกรณี (Case Study) ของนกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพระหวา่ งเรียน หลกั สตู รศึกษาศาสตรบณั ฑติ (4 ปี) (หลกั สูตรปรับปรงุ พ.ศ.2562) ชอ่ื นกั ศึกษา นางสาวศิรพิ ัตรา สีระพนั 3074632019 สาขาวชิ า นาฏศลิ ปศ์ ึกษา ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 วทิ ยาลยั นาฏศิลปลพบรุ ี สถาบนั บัณฑติ พฒั นศลิ ป์
ก คำนำ รายงานการศกึ ษารายกรณี (Case Study) เร่อื ง นักเรียนมพี ฤตกิ รรมไมต่ งั้ ใจเรยี นไม่ส่งงาน/การบา้ น ไม่ คอ่ ยทำใบงานตา่ งๆท่ีมอบหมายและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมการเรยี นวชิ าศลิ ปะ-นาฏศิลป์ ของช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวดั เกตุ สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาลพบรุ ี เขต 1 สำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานกระทรวงศกึ ษาธิการ ในการศกึ ษารายกรณี Case Study เรอ่ื ง นกั เรยี นมพี ฤติกรรมไมต่ ง้ั ใจเรียนไม่ส่งงาน/การบ้าน ไม่ค่อยทำ ใบงานต่างๆที่มอบหมายและไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมการเรียนวิชาศิลปะ -นาฏศิลป์ ของช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เลม่ นี้ จดั ทำข้นึ เพื่อใช้เปน็ ส่อื ประกอบการเรียนการศึกษาบุคคลเปน็ รายกรณี เพื่อให้บุคลากร และผู้ท่ีสนใจเรียนรู้และมีความเขา้ ใจในส่วนการศกึ ษาปัญหาของเด็กนกั เรยี นเปน็ รายกรณี ผู้จัดทำหวังว่ารายงานการศึกษา Case Study เล่มนี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจและผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ได้เป็น แนวทางในการจัดทำและการนำไปต่อยอดยง่ิ ขึ้นต่อไปและขอขอบคุณอาจารณ์จากงานฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู และคณะอาจารณ์ผู้นิเทศ วิทยาลัยนาฏศิลป์ลพบุรี คณะผู้บริหาร คุณครูผู้ประสานงานนักศึกษา คุณครูพี่เลี้ยง ตลอดจนนักเรียนโรงเรียนวัดเกตุ ทุกคนที่ได้ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือในการจัดทำรายงานผลการศึกษาฝึก ประสบการณ์วชิ าชีพระหวา่ งเรยี น เล่มนี้สำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ไปได้ด้วยดี หากมีข้อผิดพลาดประการใดผูจ้ ัดทำขอ อภยั และนอ้ มรบั มา ณ ที่นี้ ศิรพิ ตั รา สรี ะพัน นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ระหว่างเรียน
สารบัญ ข ตอนท่ี 1 ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี นของสถานศึกษา หน้า ตอนท่ี 2 การศึกษาผเู้ รียนเป็นรายกรณี (Case Study) 1 2 ภาคผนวก 7 ภาคผนวก ก. 9 ภาคผนวก ข. 14
1 ตอนที่ 1 ระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นของสถานศกึ ษา 1. ขน้ั ตอนของระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น การส่งเสริม พัฒนา ป้องกนั และแก้ปญั หาเพือ่ ให้นกั เรยี นได้พฒั นาตนเองอย่างเตม็ ศกั ยภาพ มีคุณลกั ษะท่ี พึงประสงค์ มีภูมิคมุ้ กนั ทางจิตใจที่เขม้ แข็ง มีคณุ ภาพชีวิตทด่ี ี และมที กั ษะในการดำรงชวี ิต และทำการดแู ล นกั เรียนโดยการชว่ ยเหลอื และดูแลของครูประจำชน้ั โดยมวี ธิ กี ารดแู ลนักเรียนอยา่ งใกล้ชิดและใหค้ ำแนะนำ ทางดา้ นการเรียนและองคค์ วามรู้ต่างๆ โดยจะไมท่ ำใหเ้ ด็กนกั เรยี นเกิดความวติ กกงั วลในเรื่องปัญหาที่นกั เรียนพบ เจอ 2. แบบคดั กรองนกั เรียน การคัดกรองนักเรียน เป็นการพิจารณาข้อมลู เก่ยี วกับตัวนักเรียน เพือ่ การจดั กลุม่ นักเรยี น แบ่งนักเรยี นได้ 4 กลุ่ม ดงั นี้ 1. กลุ่มปกติ นักเรยี นทอ่ี ย่ใู นเกณฑป์ กติ ซง่ึ ควรไดร้ ับการสรา้ งเสรมิ ภูมคิ ้มุ กนั และการส่งเสริมพฒั นา 2. กลมุ่ เส่ยี ง นกั เรยี นที่จดั อยู่ในเกณฑก์ ลุม่ เสี่ยงของโรงเรียน ซ่ึงโรงเรียนไดม้ กี ารปอ้ งกนั หรอื แก้ไขปญั หา ตามกรณี 3. กลมุ่ มปี ัญหา นักเรียนทจี่ ัดอยู่ในกลุ่มมีปญั หา ซึ่งโรงเรยี นมีการช่วยเหลอื และแกไ้ ขปัญหาอย่างเรงดว่ น 4. กลุ่มพเิ ศษ นักเรยี นท่ีมคี วามสามารถพิเศษ มีความอจั ฉริยะซง่ึ โรงเรียนต้องส่งเสริมให้นกั เรยี นไดพ้ ฒั นา ศกั ยภาพและความสามารถพิเศษนัน้ จนถงึ ข้ันสดุ 3. กิจกรรมเยยี่ มบา้ นนกั เรียน จากการทีส่ อบถามขอ้ มูลเบอ้ื งตน้ จากครูประจำช้ันไดท้ ราบว่านกั เรียนไดพ้ กั อาศัยอยทู่ ี่ 111 หมู่ 9 ตำบลทา่ ว้งุ อำเภอทา่ วุ้ง จงั หวัดลพบุรี โดยทางโรงเรยี นมนี โยบาย ใหค้ รูประจำชนั้ ไดเ้ ยีย่ มบ้านนักเรียน
2 ตอนที่ 2 การศกึ ษาผเู้ รยี นเป็นรายกรณี (Case Study) แบบรายงานผลการศกึ ษารายกรณี ชื่อนกั เรียน เด็กชายธรี ภทั ร์ โอลิศ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ชือ่ ครูประจำชน้ั 1. นางสภุ าภรณ์ เทพชารี 2. นายนาถนที ปรปี ระทมุ 1. สภาพปัญหาของนกั เรยี น ในช่วงแรก ไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมการเรียนวิชาศิลปะ-นาฏศิลป์ เพราะคิดว่าวิชาศิลปะ- นาฏศลิ ป์ ยากไม่รู้เร่ือง และไม่ค่อยทำใบงานต่างๆท่มี อบหมาย ผ้ศู กึ ษาจึงเริ่มศกึ ษาและเก็บขอ้ มูลเกี่ยวกับ เด็ก เด็กชาย การให้ข้อมลู บางข้อมูลไม่ตรงกนั แตห่ ลังจากได้ใหค้ วามสนทิ สนมกับเดก็ ทงั้ ในและนอกเวลาเรยี น เด็กก็ เร่มิ ไว้ใจและให้ความรว่ มมือ รวมถงึ การต้ังใจเรียนมากย่งิ ขนึ้ 2. จุดประสงค์ในการศึกษา 1. เพอ่ื ใหท้ ราบถึงสภาพปัญหา และสาเหตุของปัญหาทีเ่ กดิ ขึ้นจริงเก่ยี วกบั นกั เรยี น 2. เพือ่ ให้เขา้ ใจถงึ ปัญหาและศึกษาหาวธิ แี ก้ไขเก่ยี วกบั ปญั หาของนกั เรยี นอยา่ งถกู ต้องเหมาะสม 3. เพอ่ื จะช่วยเหลือเด็กนกั เรยี นในเร่อื งการเรยี น 3. สภาพทวั่ ไปเกี่ยวกบั นักเรียน 3.1 ประวตั ิส่วนตัวและครอบครวั ช่ือ เด็กชายธีรภัทร์ โอลิศ ชอื่ เล่น นอ้ งต๋ี วันเกดิ 4 กนั ยายน พ.ศ. 2553 ท่อี ยู่ปัจจุบนั 111 หมู่ 9 ตำบลทา่ วงุ้ อำเภอท่าวุ้ง จงั หวดั ลพบุรี รหสั ไปรษณีย์ 15150 หมายเลขโทรศัพท์ บดิ าชือ่ นายอุเทน โอลิศ อาชพี - รายได้ตอ่ เดือน - บาท มารดาชอ่ื นางสาวหรรษา ทองเตม็ อาชีพ - รายได้ต่อเดือน - บาท ผปู้ กครองชอ่ื นางสาวสุวมิ าศ บญุ แสน อาชีพ ค้าขาย รายได้ต่อเดอื น 2,600 บาท ท่ีอยู่ปัจจบุ ัน 111 หมู่ 9 ตำบล.ท่าวุ้ง อำเภอ.ทา่ ว้งุ จงั หวัด.ลพบรุ ี รหัสไปรษณีย์ 15150 หมายเลขโทรศัพท์ -
นักเรยี นมพี ีน่ อ้ งร่วมบดิ ามารดาเดียวกัน 2 คน ( รวมทัง้ ตวั นักเรียนด้วย ) 3 คนท่ี เพศ อายุ ประกอบอาชพี การศกึ ษา หมายเหตุ 1 ชาย 11 ขวบ นักเรยี น กำลังศึกษาอยู่ประถมศกึ ษาปีที่ 5 3.2 ประวตั ิการศกึ ษาและผลการศึกษา ระดบั อนุบาล : โรงเรียนวัดเกตุ ปจั จบุ นั กำลงั ศกึ ษาอยู่ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี โรงเรียนวัดเกตุ 3.3 ประวัติสุขภาพ เด็กชายธีรภัทร์ โอลิศ ส่วนสูง 151 เซนติเมตร น้ำหนัก 33 กิโลกรัม ไม่มีโรคประจำตัว สุขภาพ ร่างกายแขง็ แรง 3.4 สภาพครอบครวั และฐานะทางเศรษฐกจิ สภาพครอบครวั เดก็ ชายธีรภัทร์ โอลิศ อาศยั อยดู่ ว้ ยกับครอบครัว ฐานะทางเศรษฐกิจคอ่ นขา้ งยากจน 3.5 ทัศนคติของบคุ คลรอบขา้ งท่ีมีต่อนักเรยี น - ผูป้ กครอง ธรี ภทั ร์เป็นเงียบๆ พดู จาสภุ าพ ชอบเล่นฟตุ บอลมักกลับจากโรงเรยี นเวลา 18:00 น. เวลาว่างทีอ่ ยบู่ า้ น ชอบเลน่ โทรศพั ทม์ อื ถอื และไมค่ ่อยคยุ กบั ผปู้ กครอง มีเถยี ง งานบ้านชว่ ยบ้างบางคร้ัง - ครทู ่ปี รกึ ษา นายนาถนที ปรปี ระทุม ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ด้านการเรียน ไมค่ อ่ ยตัง้ ใจเรียน ชอบเล่นในขณะท่ีกำลังสอน ดา้ นพฤติกรรมและนิสยั นสิ ยั ร่าเรงิ สนุกสนาน มีอารมณ์ขนั อยู่ตลอด ด้านรา่ งกาย มีรา่ งกายท่ผี อมแหง้ แรงน้อย ดา้ นสงั คมและการอย่รู ว่ มกบั เพื่อนในชั้นเรยี น เขา้ กับเพอื่ นไดด้ ี สง่ิ ทอ่ี ยากใหน้ กั เรียนปรับปรงุ ให้ตง้ั ใจเรียนมากกวา่ น้ี - ครูทา่ นอืน่ ดา้ นการเรยี น ตั้งใจเรยี นบ้างบางคร้ัง ไม่ค่อยทำงานส่ง ดา้ นพฤติกรรมและนิสยั นสิ ัยร่าเริงสนุกสนาน ด้านรา่ งกาย ผอม รา่ งกายไมค่ อ่ ยสะอาด ด้านสงั คมและการอยู่ร่วมกบั เพอื่ นในชน้ั เรยี น เวลาอยู่ในห้องเรยี นชองแกลง้ เพ่อื น และเล่นขณะสอน สิง่ ทีอ่ ยากให้นักเรยี นปรับปรงุ ต้งั ใจเรยี นและส่งการบา้ นครู
4 - เพือ่ นนักเรียน เดก็ ชายณฐั รชั ต์ สุขมา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ด้านการเรียน ไมค่ อ่ ยตัง้ ใจเรียน ไม่สนใจเรียน ด้านพฤตกิ รรมและนิสัย ชอบแกลง้ เพื่อน ดา้ นร่างกาย ผอมเพรียว ด้านสังคมและการอยูร่ ่วมกบั เพอ่ื นในชั้นเรยี น แกล้งเพ่ือน ไมม่ สี าเหตุ สิ่งทอ่ี ยากให้นักเรยี นปรับปรงุ ปรับปรุงนสิ ยั ข้แี กล้ง - เพอ่ื นนักเรยี น เดก็ ชายชัชชวนิ พูลเจรญิ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ดา้ นการเรียน ไมฟ่ งั ครู เลน่ ตอนเรียน ดา้ นพฤติกรรมและนิสยั นสิ ยั คอ่ นข้างไม่ดี ดา้ นร่างกาย ผอม ดา้ นสงั คมและการอยู่รว่ มกบั เพอื่ นในช้นั เรยี น ดแี ตม่ ลี กั ษณะข้แี กล้ง สิ่งทอ่ี ยากใหน้ กั เรยี นปรับปรุง นิสยั ขี้แกลง้ และการเรียน - เพอื่ นนกั เรียน เด็กชายธรี ะ นาคสขุ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ด้านการเรยี น ไมต่ ั้งใจเรียน ไมช่ อบสง่ งานครู ดา้ นพฤตกิ รรมและนสิ ัย นิสยั ชอบแกล้งเพ่ือน ด้านรา่ งกาย ผอม ด้านสงั คมและการอยู่ร่วมกับเพ่อื นในชั้นเรยี น ชอบพดู เสยี งดัง ชอบชวนเพ่อื นคยุ สง่ิ ทีอ่ ยากให้นกั เรียนปรับปรุง นสิ ยั และพฤติกรรม 3.6 บคุ ลิกภาพท่ัวไปของนกั เรียน เด็กชายธีรภัทร์ โอลิศ รูปร่างผอม มีหน้าตาที่ดี แต่งกายค่อนข้างสะอาดเรียบร้อย กิริยาวาจา การพดู จาคอ่ นข้างดี - ลกั ษณะทางอารมณ์ (การแสดงออกทางอารมณ์ สดชื่น รา่ เริง หรอื เงยี บขรมึ การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ) เป็นคนท่ีสนุกสนาน พูดเสียงดัง พูดตำหยาบ ชอบแกล้งเพื่อน ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ เวลาเพื่อนพูด ความจรงิ เก่ียวกบั เรือ่ งของตน จะชอบโมโหใสแ่ ละพดู ว่าไม่เคยทำ
5 - ลักษณะทางสติปญั ญา (ความสามารถในการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัดและความสนใจ พิเศษ) มีผลการเรยี นอย่ใู นระดบั ปานกลาง ชอบเล่นฟุตบอล -ลกั ษณะทางสงั คม(การปรับตวั เขา้ กับเพือ่ น ครู บิดา มารดาพน่ี ้องคนอืน่ ๆทกั ษะสังคมในหอ้ งเรยี น และโรงเรยี น) - เพ่ือน เข้ากบั เพื่อนไดด้ ี - ครู มีการเคารพเชื่อฟังครู ขณะที่ครูสอนไม่ตั้งใจเรียน แต่เวลาที่ครูสั่งงานแล้วให้ส่งงานจะขาดความ กระตอื รอื ร้นในการทำงาน ชา้ มาก ไมม่ คี วามมั่นใจในตนเอง คิดเองไม่ค่อยเปน็ ชอบลอกงานเพ่ือน เข้าใจยากต้อง อธิบายใหฟ้ ังหลายๆครง้ั ถึงจะเขา้ ใจและทำงานได้ - บิดา มารดาและญาติพ่นี ้อง มีการเคารพเชอ่ื ฟงั พอ่ และย่าดี ไมค่ อ่ ยชว่ ยงานบ้าน บางครั้งกอ็ าจจะโมโหกับพอ่ แมห่ รือญาตพิ ีน่ อ้ งบ้าง 3.7 พฤตกิ รรมทค่ี วรปรบั ปรุงแก้ไข (เรียงลำดับจากมากไปนอ้ ย) 1. แกล้งเพ่ือน พูดกระแทกเสียง ทำงานชา้ ไมม่ ีความกระตือรอื รน้ ในการเรียนและทำกจิ กรรม 2. มารยาทในการพดู คุยกบั คุณครู 4. การรวบรวมข้อมลู ได้รวบรวมขอ้ มลู จากวิธีการต่อไปนี้ 1. การสงั เกต 2. การสัมภาษณ์ 3.การเย่ยี มบา้ น 5. สมมุติฐานของปญั หา หลังจากได้ศกึ ษานกั เรียนดว้ ยวิธตี ่าง ๆ แลว้ ได้ขอ้ มูลทน่ี ่าสนใจ ดงั น้ี 1. แกลง้ เพื่อน พดู กระแทกเสียง ทำงานช้า ไม่มคี วามกระตือรือรน้ ในการเรียนและทำกจิ กรรม 2. มารยาทในการพูดคยุ กบั คณุ ครู 6. แนวทางการแกป้ ญั หา 1. หากจิ กรรมเพ่อื ให้เกิดแรงจูงใจท่ีจะทำกิจกรรมและการเรียนท่ีดีขึ้น 2 .นำเดก็ ไปเรยี นซอ่ มเสรมิ เข้าโครงการสอนซอ่ มเสรมิ เพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้ 7. การติดตามผล เริ่มทำการศกึ ษาตง้ั แต่วนั ท่ี 1 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2565 ถึงวนั ที่ 28 เดือน กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2566 และไดท้ ำการตดิ ตามผลเป็นชว่ งๆ ดังนี้
6 การตดิ ตามผลในช่วงที่ 1 จะมพี ฤติกรรมตอ่ ตา้ นผศู้ กึ ษาเปน็ อยา่ งมาก เพราะมคี วามคิดวา่ ครูมี ความรู้สึกอคติกบั ตัวเอง จงึ ไม่ให้ความร่วมมือในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ไม่ยอมทำกิจกรรมต่างๆ ทจี่ ัดให้ในเวลา เรียน ไมใ่ ห้ความร่วมมอื ในการทำกรณศี ึกษาในคร้ังน้ี เวลาทำงานกลุม่ ก็จะมปี ัญหากบั เพอ่ื นในกลุ่มเสมอๆ การติดตามผลในช่วงท่ี 2 มีพฤติกรรมการเรียนดขี น้ึ ให้ความรว่ มมอื ในการทำกิจกรรมต่างๆมากขึน้ แตก่ ย็ ังทำงานช้า และพดู กับเพือ่ นในช้ันมากข้ึนในบางคร้ัง เวลาวา่ งก็จะเลน่ ฟตุ บอล การตดิ ตามผลในชว่ งท่ี 3 มพี ฤติกรรมดขี ้ึนมาก ตงั้ ใจเรยี น และให้ความร่วมมอื ในการทำกิจกรรม ตา่ งๆ เวลาทำงานกลุ่มก็จะชว่ ยเพ่อื นในกลมุ่ ทำงานเป็นอย่างดี ยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของเพือ่ นมากข้ึน มคี วาม กระตือรือร้น และทบทวนบทเรียนอยูเ่ สมอๆ จงึ ทำใหเ้ วลามีการสอบเกบ็ คะแนน กท็ ำคะแนนไดด้ ี 3.7 พฤติกรรมทค่ี วรปรับปรุงแก้ไข (เรียงลำดบั จากมากไปนอ้ ย) 1. อาการซน เปน็ คนมีลกั ษณะอาการซน พูดมาก ชอบชวนเพอ่ื นคยุ และเลน่ ในห้องเรยี น ชอบ แกล้งเพื่อน 2. นิสัย มลี กั ษณะนสิ ยั ชอบแกลง้ เพอ่ื นตลอดเวลาและไม่มีเหตผล 3. สมาธิ เป็นคนสมาธิสั้น ชอบพดู หรอื สะกิดเพ่อื นเวลาเรยี น 4. การรวบรวมขอ้ มลู ได้รวบรวมข้อมูลจากวิธีการต่อไปน้ี 1. สมั ภาษณ์ครูประจำช้ัน 2. สงั เกตพฤตกิ รรม 3. สอบถามขอ้ มูลจากผปู้ กครอง 5. ข้อมลู ทีน่ า่ สนใจของกรณศี กึ ษา หลงั จากได้ศกึ ษานกั เรียนด้วยวธิ ตี ่างๆ แล้ว พบข้อมลู ที่น่าสนใจ ดังนี้ 1. ชอบชวนเพอื่ นคยุ ในเวลาเรียน 2. แกล้งเพ่ือนอยู่ตลอดเวลา 6. แนวทางการแก้ปัญหา/สง่ เสริม 1. ใหน้ ักเรยี นฝึกทำสมาธอิ ยูส่ มำ่ เสมอ 2. ตักเตอื นเวลานกั เรียนชวนเพ่ือนคยุ หรือเล่นกนั ในขณะท่ีครกู ำลังสอนอยู่ 3. บดิ า/มารดาควรใหเ้ วลาดูแลอบรมและเอาใจใสบ่ ตุ รหลานของตนเองอย่างสมำ่ เสมอ 7. การศกึ ษารายกรณคี รั้งน้ีมีประโยชนต์ อ่ การประกอบวิชาชพี ครขู องนักศกึ ษาคือ 1. ไดร้ ูจ้ ักการสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน 2. ไดร้ จู้ ักการสงั เกต
7 ภาคผนวก การเยีย่ มบ้าน เด็กชายธีรภัทร์ โอลิศ
8
9 ภาคผนวก ก. บนั ทกึ การเยย่ี มบ้าน
10
11
12
13
14 ภาคผนวก ข. - แบบสำรวจปัญหาการเรียน - แบบสำรวจปัญหาครอบครวั - แบบสำรวจปัญหาทางสงั คม - แบบสมั ภาษณผ์ ู้ปกครองจากการเยยี่ มบา้ น - ทศั นคติครูทม่ี ีตอ่ เดก็ ชายธีรภัทร์ โอลิศ - ทัศนคตเิ พอ่ื ทีน่ รว่ มหอ้ งมตี ่อ เดก็ ชายธีรภทั ร์ โอลิศ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ครั้งท่ี 1 - แบบสงั เกตพฤติกรรม คร้งั ท่ี 2 - แบบสังเกตพฤติกรรม ครง้ั ท่ี 3 -
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: