สมุนไพรไทยในชีวติ ประจำวนั สรำ้ งภมู คิ มุ้ กันต้ำนโรคเพอ่ื สุขภำพ ขงิ ขิง พืชสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย ใช้เป็นส่วนประกอบ ของยาสมุนไพรและใช้ทาอาหาร นิยมนามาแปรรูปทาเป็นเครื่องดื่มเพ่ือสุขภาพ ดื่มแก้ กระหาย มีสรรพคณุ ดงั น้ี 1. รักษาสุขภาพช่องปาก ช่วยกาจัดเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบ และคราบพลัคในช่องปากได้ 2.บรรเทาอาการปวดไมเกรน สามารถใช้รักษาอาการปวดศีรษะได้ท้ังชนิดปวด แบบสองข้าง และข้างเดียวหรือไมเกรน สารเคมีท่ีอยู่ในขิงจะสามารถปรับสารไอโคซา นอยด์ ทาใหอ้ าการปวดศรี ษะบรรเทาลง 3.แก้อาการท้องอืด และย่อยอาหาร ในขิงจะมีสารประกอบฟีโนลิกที่มีส่วนช่วย บรรเทาอาการระคายเคอื งในลาไส้ และกระตุ้นการทางานของระบบย่อยอาหารไดอ้ ยา่ ง มปี ระสิทธิภาพ 4.ลดน้าหนัก ช่วยเพ่ิมการทางานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทาให้ร่างกาย สามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าปกติ 5.รักษาอาการปวดในช่วงก่อนหรือหลังประจาเดือน และยังช่วยลดอาการ ปวดเม่ือยเน้อื ตวั ได้อกี ด้วย
ฟ้ำทลำยโจร 1. ชว่ ยบรรเทาอาการไขห้ วัด อาการไอ เเละเจบ็ คอ 2. ชว่ ยแกอ้ าการปวดหัว ตวั รอ้ น 3. ฟา้ ทะลายโจร มีประโยชน์ ช่วยลดเสมหะ โดยใชใ้ บฟา้ ทะลายโจรมาบดเปน็ ยาขมเเละสดู ดม 4. ช่วยลดอาการอักเสบ เช่น เเก้คออักเสบ หรือ ต่อทอมซินอักเสบ โดยใช้ใบฟ้าทะลายโจร มาบดเป็นยาขมเเละสูดดม 5. ความขมของฟ้าทะลายโจร จะชว่ ยใหร้ ่างกายขบั น้าลายออกมามากขนึ้ ทาใหช้ ุม่ คอ 6. ฟ้าทะลายโจร มีประโยชน์ ช่วยลดอาการติดเช้ือ ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ท่ีเป็นจุดเร่ิมต้นของอาการปวดท้อง หรือ ท้องเสีย โดยใช้ต้นฟ้าทะลายโจรมาผ่ึงลมให้แห้ง เเละหนั่ เปน็ ชน้ิ เลก็ ๆ เเละต้มกบั นา้ เพ่อื ดม่ื ตลอดทัง้ วนั 7. ฟ้าทะลายโจร มีฤทธิท์ ่ีช่วยฆา่ เช้ือแบคทเี รยี ทจี่ ะมาซึ่งปัญหาของระบบทางเดนิ หายใจ 8. ฟา้ ทะลายโจร ประโยชน์ของมันจะช่วยกระตุ้นการสรา้ งภูมิคุ้มกันในรา่ งกาย 9. ใบฟ้าทะลายโจรช่วยทาให้เจริญอาหาร 10.ฟ้าทะลายโจรช่วยเเก้ปัญหาผมร่วงได้ โดยใชผ้ งฟ้าทะลายโจรเเคปซูลมาละลายในนา้ อนุ่ เเล้วนวดใหท้ วั่ ศรีษะ ทง้ิ ไว้ซักครเู่ เลว้ ลา้ งออก
ขมิ้นชนั 1. ล้ำงพิษตับ ช่วยขับพิษที่สะสมในตับ เน่ืองจากมีฤทธิ์ป้องกันตับอักเสบ ช่วยบารุงตับ และฟ้ืนฟูตับ โดยมีการใช้ขม้ินชันทดลองรักษาโรคตับแข็งในหนู ผลปรากฏว่าอาการไม่ลุกลาม เพ่ิม ทาให้นิยมใชเ้ ป็นสมนุ ไพรยาทชี่ ว่ ยฟ้ืนฟสู ขุ ภาพและล้างพิษออกจากตบั 2. รักษำโรคผิวหนงั เรื้อรัง เช่น โรคผื่นคัน กลาก เกลอ้ื น ผวิ หนงั อกั เสบจากอาการแพ้ ใช้ เหง้าสดของขมิ้นชันมาฝนและบดให้ละเอียด ก่อนจะนาไปทาบริเวณที่มีอาการคัน แต่ปัจจุบัน สามารถใชผ้ งขมน้ิ ชนั สาเรจ็ รปู ผสมน้าเปลา่ หรอื น้ามันมะพร้าว นาไปทาบรเิ วณท่อี ักเสบหรือคนั ได้ 3. แก้อำกำรท้องร่วง โดยนามาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกและห่ันเป็นชิ้นเล็กๆ นาไปตา พร้อมผสมน้าเปล่า หลังจากน้ันค้ันเฉพาะน้าให้ได้สัก 1 ถ้วยตวง แบ่งกินคราวละ 2 ช้อนโต๊ะ จะชว่ ยสรา้ งสมดุลให้ระบบขับถา่ ยและระบบย่อยอาหาร 4. รักษำแผลในกระเพำะอำหำร ขม้ินชันมีฤทธิ์ในการรักษาอาการอักเสบ นอกจากนี้ หากหน่ั ขม้นิ ชันผสมกบั น้าผ้ึง จะช่วยบรรเทาอาการท้องอดื ท้องเฟ้อ และจกุ เสยี ดแน่น 5. รักษำริดสีดวง สาหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารและมีแผลบริเวณทวารหนัก ให้ใช้ผงขม้ิน ทาหัวริดสีดวง จะช่วยสมานแผลให้แห้งและหายเร็วขึ้น เพราะขมิ้นชันจะช่วยลดการอักเสบ ช่วย ฆา่ เชือ้ โรค และทาใหเ้ นือ้ เยือ่ บรเิ วณแผลกระชบั เรว็ ขน้ึ 6. แกพ้ ิษแมลงกัดตอ่ ย หากถกู แมลงกัดจนเปน็ แผล มีอาการบวมแดง สามารถบรรเทาได้ ด้วยการใช้ผงขมิ้นชันผสมกับน้ามันมะพร้าว แล้วนาไปเค่ียวบนไฟ จะได้น้ามันนวดสาหรับทา แก้พิษแมลงกดั ต่อย หรือจะนาผงขมิน้ ชนั ไปผสมกบั น้าปูนใสเพ่ือนามาพอกแผลก็ไดเ้ ช่นกนั 7. ป้องกันโรคข้อเข่ำอักเสบ ในผู้สูงอายุนิยมใช้ขม้ินชันรักษาอาการข้อตึง ปวดเมื่อย ตามข้อเข่า ซึ่งอาจจะเป็นไปตามวัยหรือพฤติกรรมในชีวิตประจาวัน แต่ขม้ินชันสามารถช่วย บรรเทาอาการปวดในโรคขอ้ เข่าเสอ่ื มได้ โดยมีการนามาใช้ทดแทนยาแผนปจั จุบนั อยา่ งแพรห่ ลาย 8. ลดระดับไขมันในเส้นเลือด สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่อยู่ในพืชธรรมชาติ อย่างขม้ินชันจะช่วยยับย้ังคอเลสเตอรอล มีฤทธ์ิในการลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันความเสี่ยง ในการเกดิ โรคหลอดเลอื ดอดุ ตนั และโรคหวั ใจ 9. เสรมิ สรำ้ งภมู ิค้มุ กัน ขมน้ิ ชนั สามารถช่วยปรบั สมดลุ และสร้างภมู ิคมุ้ กนั ใหร้ า่ งกาย
กะเพรำ ประโยชนท์ ำงยำของกะเพรำ ใบและยอด ทั้งสด และแห้ง มีรสเผ็ดร้อนฉุน ใช้แก้จุกเสียด แน่นท้อง โรคกระเพาะ ลดนา้ ตาลในเลือด ใบแหง้ บดเปน็ ยานัตถุ์แก้คดั จมกู กำรใชร้ กั ษำอำกำรแนน่ จกุ เสียด สาหรับผู้ใหญ่ และเดก็ โต ใชใ้ บสด 1 กามอื หรอื ใบสด 25 กรัม ตม้ กับน้าใหเ้ ดือด แลว้ เอา น้านั้นดื่ม หากใช้ใบกะเพราแห้ง ควรมีน้าหนัก 4 กรัม เอามาต้มกับน้าแล้วดื่มครั้งละ 1 แก้ว จนมีอาการดขี ้ึน สาหรับเด็กอ่อน ใช้ใบสด 3 ใบ ผสมเกลือบดให้ละเอียด ผสมกับน้าผึ้งหยอดใส่ปากเด็ก ออ่ น 2-3 หยด นาน 2-3 วัน จะชว่ ยขบั ลมออกมาไดห้ มด กำรใชร้ กั ษำโรคกระเพำะ กินใบกะเพราสดทกุ วัน แก้โรคกระเพาะได้ การทดลองในสัตว์ทดลองไดผ้ ลดี กำรใช้ลดนำ้ ตำลในเลอื ด กินใบกะเพราสดทุกวัน ลดน้าตาลในเลือดได้ หรือใช้ในรูปของการต้มก็ได้ ชงเป็นชาก็ได้ ควรกนิ ควบคู่ไปกับยาแผนปัจจุบัน แล้วสงั เกตอาการกับดูระดับน้าตาลในเลือดแต่ละครั้งที่ เจาะเลือด จากการทดลองป้อนสารสกัดใบกะเพราด้วยแอลกอฮอล์ 50% พบว่าสามารถ ลดระดบั น้าตาลในเลอื ดของสัตวท์ ดลองไดม้ ากกวา่ รอ้ ยละ 30
หอมแดง สาหรับสรรพคุณทางยานั้น หอมแดง เป็นพืชท่ีมีรสฉุน ซึ่งมีสรรพคุณท่ีช่วยในการรักษา อาการเจ็บป่วยได้มากมาย โดยเฉพาะโรคหวัด ซึ่งในหอมแดงน้ันจะมีน้ามันอัลลิลิกไดซัลไฟด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นน้ามันหอมระเหย เมื่อสูดดมกล่ินเข้าไปจะช่วยรักษาอาการหวัดแบบไม่มีไข้ มฤี ทธใิ์ นการต้านสารแปลกปลอมตา่ ง ๆ นอกจากน้ี หอมแดงยังอุดมไปด้วยวิตามิน และคุณค่าทางอาหารมากมาย ซ่ึงช่วยบารุง สมอง ช่วยให้ระบบขบั ถา่ ยทางานได้ดี รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสาหรับผู้ที่ประสบปญั หา เร่ืองผิวพรรณบนใบหน้า โดยเฉพาะปัญหาของสิวและจุดด่างดา สามารถนาหอมแดงมาแก้ไข ปัญหาดังกล่าวได้ เพียงแค่นาหอมแดงหัวเล็ก 4-5 หัว ล้างให้สะอาดแล้วนามาย่างไฟ หรือฝาน บาง ๆ จากน้ันใช้แปะไว้บริเวณท่ีเป็นสิวหรือรอยด่างดาบนใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา และปลาย จมูก เพราะอาจเกิดการระคายเคืองจากกามะถันในน้าของหอมแดง ทง้ิ ไว้ประมาณ 10 นาที แลว้ ลา้ งออก ทาทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ รอยดา่ งดาจะคอ่ ย ๆ จางลง
ใบบัวบก สรรพคณุ ของใบบัวบก มีคุณสมบตั ใิ นการบารุงประสาทและสมอง เพม่ิ ความสามารถในการจา ลดความเส่ยี งอัลไซ เมอร์ หรือสมองเสื่อม ฟ้ืนฟูความจา รักษาสมดุลของจิตใจ ลดความกระวนกระวาย ช่วย ใหจ้ ติ ใจสงบและผอ่ นคลาย ช่วยบารุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิตสูงและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว เนอื่ งจากกรดเอเชียติกในบัวบกทาให้ความดนั โลหิตลดลง มีฤทธิต์ า้ นการอักเสบ ชว่ ยทาให้ การแขง็ ตัวของหลอดเลอื ดลดลง มผี ลดตี อ่ โรคกล้ามเนอ้ื หัวใจขาดเลอื ด บรรเทาอาการฟกช้า หอ้ เลือด ชว่ ยลดการอกั เสบ ลดอาการปวดแสบ ปวดร้อน จากแผลไฟไหม้ น้ารอ้ นลวก ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งสารที่ทาให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นการสร้าง เซลลใ์ หมใ่ นกระเพาะอาหาร ทจ่ี ะชว่ ยทาให้แผลหายได้เร็วข้นึ ชว่ ยลดความร้อนในรา่ งกาย และดบั กระหาย ลดความเครยี ด และคลายความกงั วล ชว่ ยฟน้ื ฟูร่างกายจากความอ่อนเพลียได้ บารงุ สายตา เน่ืองจากเป็นสมุนไพรทม่ี วี ิตามินเอสงู บารุงผิวพรรณเน่ืองจากใบบัวบกมีสารที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกาย และจงึ ทาใหผ้ ิว มีความนุ่มชมุ่ ชื้นและดูอ่อนเยาว์ บารุงเส้นผมและหนังศีรษะ ใครท่ีมีปัญหาผมร่วงซ่ึงเกิดจากการท่ีรากผมอ่อนแอ หรือการไหลเวียนเลือดบนหนังศีรษะไม่ดีพอ สามารถรักษาได้ด้วยใบบัวบก เน่ืองจากใบ บัวบกมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ พร้อมทั้งช่วยบารุงรากผม ใหแ้ ขง็ แรงยิง่ ข้นึ โดยไม่ตอ้ งพึ่งสารเคมี
มะละกอกินใบ 1. ชว่ ยฆ่าเชือ้ ทป่ี อด 2. มสี ารอาหารมากกว่าผกั ใบเขยี วทป่ี ลูกบนดนิ 2 - 3 เทา่ 3. ปอ้ งกนั โลหติ จาง 4. เพิ่มแคลเซยี มให้กระดูก 5. บรรเทาโรคริดสดี วงทวาร 6. ป้องกันการไอ 7. ชว่ ยเรอื่ งความจา 8. ชว่ ยเรอื่ งของสายตา 9. ลดคลอเรสเตอรอล 10. ชว่ ยควบคมุ ระดบั นา้ ตาลของผปู้ ว่ ยเบาหวาน 11. ชว่ ยล้างพิษในตบั
ข่ำ 1. ช่วยขับลม แก้อำกำรไอ เจ็บคอ ขับเสมหะ มีฤทธ์ิช่วยขับเลือดลมให้เดินสะดวก เพิ่มการ ไหลเวียนของเลือดและเพ่ิมการเผาผลาญของร่างกายใหด้ ขี นึ้ นอกจากนี้เมอ่ื สกดั น้ามันหอมระเหย จากข่ามา ยงั สามารถใชป้ ระโยชน์ ในการชว่ ยแกอ้ าการหวดั ไอ และเจ็บคอได้อีกด้วย 2. ช่วยให้ย่อยอำหำร ลดกำรบีบตัวของลำไส้ ช่วยย่อยอาหารและลดการบีบตัว โดยสาร eugenol จากเหง้าข่าจะมีฤทธ์ิขับน้าดี ช่วยย่อยอาหารได้ ส่วนสาร cineole, camphor และ eugenol ในข่าเอง ก็มีฤทธ์ิลดการบีบตัวของลาไส้ อันเป็นสาเหตุของการเป็นโรคลาไส้แปรปรวน ท่ีจะทาให้เกิดอาการปวดทอ้ ง ทอ้ งเสยี ทอ้ งอดื ไมส่ บายท้อง หรอื มปี ญั หาเกีย่ วกบั ระบบขบั ถ่าย 3. ใช้รักษำโรคกลำเกลื้อนได้ สารสกัดข่า สามารถรักษาโรคกลากเกล้ือนได้ เม่ือเปรียบเทียบกับ ยารักษาท่ัวไป โดยเม่ือใช้สารสกัดจากข่าด้วยน้ากล่ันเมทานอล ไดคลอโรมีเทน เฮกเซน หรือ แอลกอฮอล์ จะมีฤทธ์สิ ามารถฆ่าเชื้อราท่ีเปน็ สาเหตขุ องโรคกลากเกลื้อนได้ 4. ช่วยรักษำอำกำรข้ออักเสบได้ การรับประทานข่าหรือสารสกัดจากข่า จะช่วยรักษาอาการข้อ อักเสบได้ เพราะมีสารออกฤทธ์ิ คือ 1′-acetoxychavicol acetate, 1′-acetoxyeugenol acetate และ eugenol ท่ีจะช่วยลดการอักเสบของกระดูก และมีสาร p-hydroxycinnamaldehyde ช่วยยับย้ังการ สลายของเนื้อเย่ือกระดูกอ่อน จึงลดความเส่ียงท่ีจะเกิดโรคไขข้ออักเสบและเสริมความแข็งแรง ให้กบั ขอ้ ตอ่ ในรา่ งกายเราไดเ้ ปน็ อย่างดี 5. มีฤทธิ์ยับย้ังแผลในกระเพำะอำหำร เหง้าข่ามีสาร 1’S-1′-acetoxychavicol acetate และ 1’S-1′- acetoxyeugenol acetate ที่ช่วยยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร และเม่ือนาสารสกัดจากเหง้าข่ามา ทดลอง พบว่า ด้วยสารปิโตรเลียมอีเธอร์, ไดเอทิลอีเธอร์, อะซีโตน ที่มีอยู่ในสารสกัด สามารถฆ่า เชื้อแบคทเี รีย Escherichia coli และ Salmonella typhi ที่เป็นสาเหตขุ องโรคท้องร่วงได้อีกด้วย เหงา้ ขา่ จึงมฤี ทธ์ชิ ่วยยบั ยง้ั แผลในกระเพาะอาหาร และป้องกนั การอาการทอ้ งรว่ งได้ 6. สำมำรถตำ้ นเซลลม์ ะเร็งได้ จากการศึกษาทางเภสัชวิทยาท่ผี า่ นมา พบว่า สารสกดั จากเหง้าข่า สามารถทาใหเ้ ซลล์มะเรง็ ในร่างกายมนุษยช์ นดิ ต่าง ๆ ไวต่อการรกั ษาดว้ ยยาปจั จบุ นั มากขึ้น และมี ฤทธิ์ต้านและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์มะเร็งต่อม น้าเหลือง เซลล์มะเร็งมดลูก เซลล์มะเร็งเต้านม เซลล์มะเร็งปอด เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร เซลล์มะเร็งลาไส้ใหญ่ เซลล์มะเร็งชนิดที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว (HT1080) และเซลล์มะเร็งเม็ด เลือด
กระเทียม 1. แก้ปัญหำผมหลุดร่วง กระเทียมช่วยยับย้ังปัญหาเหล่านี้ได้ เพียงแค่ฝานกระเทียมเป็นชิ้น บาง ๆ แล้วนามานวดศีรษะ หรือจะผสมลงในออยล์แล้วนามานวดศีรษะก็ได้เช่นกัน เพราะใน กระเทียมมีอัลซิลิน (allicin) และซัลเฟอร์ (sulfur) สูง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดปัญหาผมหลุด รว่ งนั่นเอง 2. รักษำสิว กระเทียมมฤี ทธ์ิฆ่าเชื้อแบคทเี รียไดอ้ ยหู่ มัด เราจงึ สามารถนามาฆา่ เชื้อแบคทีเรียที่ทา ให้เกิดสิวได้ โดยฝานกระเทียมสดบาง ๆ แล้วนามาประคบลงบนสิวเบา ๆ ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้าง ออกด้วยนาสะอาด เทา่ นส้ี ิวกวนใจก็จะอนั ตรธานหายไปอยา่ งแนน่ อน 3. ป้องกันและรักษำโรคหวัด การรับประทานกระเทียมเป็นประจา ทาให้ร่างกายมีสารแอนต้ี ออกซิแดนท์พอเพียงในระบบภูมิคุ้มกัน เราก็จะป่วยได้ยาก ทาให้ร่างกายมีกาลังไปต่อสู้กับโรค ตา่ ง ๆ ด้วยการรบั ประทานกระเทยี มเป็นประจา 4. บรรเทำอำกำรอักเสบจำกโรคสะเก็ดเงิน กระเทียมมีฤทธ์ิต้านอาการอักเสบ ดังน้ันจึงช่วย บรรเทาอาการอักเสบจากผ่ืนแดงได้ดี โดยเฉพาะผื่นแดงที่เกิดจากโรคสะเก็ดเงิน ให้ทาน้ามัน กระเทยี มบรเิ วณท่เี ปน็ แผล เพ่ือใหส้ ะเก็ดหลุดไป และลดผื่นแดงบนผวิ หนังก็ได้ 5. ถอนเสี้ยน เส้ียนที่ตาเท้าหรือมือเราให้เจ็บแปลบ สามารถกาจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการแปะ กระเทียมฝานบาง ๆ แล้วพนั ทบั ด้วยผา้ พนั แผล วธิ นี เี้ ปน็ วิธีธรรมชาติท่ีใชก้ นั มายาวนาน และได้รบั การยอมรับวา่ เป็นวธิ ที ไี่ ดผ้ ลจริง 6. รักษำโรคส่ำไข้ โรคส่าไข้เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Human Herpesvirus Type 6 (HHV 6) ซ่ึงอาการของโรคจะคล้ายคลึงกับโรคหัด หรืออีสุกอีใส เพราะจะเกิดตุ่มแดง และแผลอักเสบ บนร่างกาย ซ่ึงวิธีรักษาด้วยธรรมชาติท่ีเห็นผลก็คือ นากระเทียมบดมาประคบลงบนแผลโดยตรง เพื่อรักษาอาการอักเสบและลดอาการบวม ร่วมกับการรับประทานอาหารเสริมจากสารสกัด กระเทยี ม เชน่ กระเทยี มอัดเมด็ หรือน้ามนั กระเทียมก็จะชว่ ยให้แผลหายเรว็ ขนึ้ 7. ช่วยแก้อำกำรเคล็ดขัดยอกและเท้ำแพลง กระเทียมสามารถช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและ เทา้ แพลง เพราะมสี ารที่ช่วยเพิม่ การไหลเวียนของเลือดมายงั บริเวณท่ีนวดยาไดด้ ีมากข้ึนนั่นเอง
พริก 1. สลายล่ิมเลือดให้คืนสู่ปกติ พริกจะมีส่วนช่วยไม่ให้เลือดท่ีจับตัวเป็นก้อนเกาะกันจนไปอุดตัน ท่หี ลอดเลอื ด ช่วยละลายล่มิ เลอื ดไดด้ ี ลดความเส่ียงในการเป็นโรคความดันโลหติ สงู 2. กระตุ้นให้อยากอาหาร พริกจะเข้าไปกระตุ้นต่อมน้าลายให้ทางานมากข้ึน เเละไปกระตุ้น ปลายประสาทเพื่อให้สมองส่วนกลางรับรู้ถึงความอยากอาหาร จะเห็นว่าเวลาเราทานของเผ็ดๆ จะยิง่ ทานไดม้ ากขึ้น 3. ขับเสมหะ ทาใหห้ ายใจคลอ่ งพอเราทานพริกเข้าไป สารกอ่ ความร้อนในพริกก็จะกระตุ้นใหเ้ รามี น้ามูกไหลหรือน้าตาไหลออกมา เเะละยังช่วยลดส่ิงกีดขวางในระบบทางเดินหายใจของเรา ทาให้ เรารูส้ ึกโล่งคอ เสมหะนอ้ ยลง เเละทาให้เรารู้สกึ โลง่ ท่จี ะจมูกมาก เเละสง่ ผลใหเ้ ราหายใจได้สะดวก ขึน้ 4. บรรเทาอาการปวดต่างๆ การทานพริกสามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดของเราได้ เพราะในพริก มสี ารท่ีชอื่ ว่า “เเคปไซซนิ ” ชว่ ยลดอาการเจ็บปวดท่ีผิวหนงั หรอื ปวดเมื่อยตวั ได้ โดยส่วนใหญ่จะ แปรรปู พรกิ ให้อย่ใู นรูปเเบบ ครีม ขี้ผึง้ ใช้ทาภายนอกเพอ่ื รกั ษาอาการเจบ็ ปวด 5. ช่วยกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน ทาให้รู้สึกผ่อนคลายเพราะสาร “แคปไซซิน” ที่อยู่ในพิก ช่วยให้ หลงั สารเอน็ ดอรฟ์ นิ ที่ชว่ ยให้เรามีความสุข อารมณ์ดี 6. มีวิตามินซี เเละ สารเบด้าแคโรทีนท่ีช่วยบารุงสายตาเเละป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา ได้ 7. ช่วยลดน้าหนักได้เพราะในพริกมีสาร Themoginic หรือสารที่สร้างความร้อนในพริก เมื่อเรา ทานเข้าไปจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย เเละยังมี กรด เเอสคอร์บิกท่ีช่วยให้ รา่ งกายเปล่ียนไขมันเปน็ พลงั งานได้ดีข้ึน สง่ ผลดีตอ่ ผูท้ ่ีควบคมุ นา้ หนกั 8. ช่วยลดระดับน้าตาลในเลือดได้เพราะในพริกมีสารที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมของน้าตาลกลูโคสได้ ทาให้ระดบั นา้ ตาลในเลอื ดลดลง 9. ชว่ ยเสรมิ สรา้ งภมู ิคุ้มกนั ให้เราเเข็งเเรง 10. สามารถรักษาบรรเทาโรคเลอื ดออกตามไรฟนั
โหระพำ “โหระพำ” นอกจากจะเป็นญาติใกล้ๆ กับ “กะเพรา” แล้ว ยังช่วยเสริมให้อาหารท่ีรสชาติ และ กลิ่นที่หอม น่ารับประทานมากย่ิงขึ้น และมีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกันด้วย แต่อย่าสับสน กับกะเพรา เพราะจริงๆ โหระพามีรส และกล่ินที่ไม่เหมือนกะเพรา และยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่เหมือนกันด้วย เรามาดูประโยชน์ดีๆ ของโหระพาท่ีจะทาให้คุณไม่อยากเขี่ยออกนอกจานกัน ดีกวา่ ประโยชน์ดีๆ ของ “โหระพำ” 1. โหระพามีเบตา้ แคโรทนี สงู จงึ สามารถชว่ ยปอ้ งกันโรคหัวใจได้ 2. ลดคราบพลัค และคอเลสเตอรอลในเลือด 3. ชว่ ยใหเ้ จรญิ อาหารมากข้ึน สาหรับคนทีเ่ บอ่ื อาหาร 4. เพิ่มปรมิ าณน้านมใหก้ ับมารดาทีก่ าลังใหน้ มบตุ ร 5. ขับลม ลดอาการท้องอืด ทอ้ งเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง 6. แก้อาการประจาเดือนมาไมป่ กติ 7. ตอ่ ต้านอาการอักเสบ 8. ชว่ ยลดอาการของโรคข้อเข่าเส่อื ม 9. กระตนุ้ การทางานของภูมิค้มุ กันโรคในรา่ งกาย 10.ใบสดของโหระพา สามารถนามาทาเป็นนา้ มันหอมระเหยได้ กลน่ิ ของนา้ มันหอมระเหย ชว่ ยใหจ้ ิตใจสงบ มีสมาธิ ลดอาการซมึ เศร้า ข้อควรระวังของใบโหระพำ หญงิ ตั้งครรภ์ไม่ควรใช้น้ามนั ท่ีสกัดจากใบโหระพา เพราะอาจทาให้เกิดอาการแพ้ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: