พทุ ธศาสนสุภาษิต เสนอ ครูอรสา ศรภี า
ททํ ปโิ ย โหติ ภชนตฺ ิ นํ พหู. [คำํ อ่ำน : ทะ-ทงั , ปิ-โย, โห-ต,ิ พะ-ชนั -ต,ิ นัง, พะ-หู] “ผใู้ ห้ย่อมเป็นทีร่ ัก คนหมู่มำกยอ่ มคบเขำ” ผใู้ ห้ คอื ผูท้ มี่ จี ิตใจเอื้อเฟือ้ เผ่อื แผ่ แบง่ ปันสง่ิ ของของตนเองแกผ่ ู้อืน่ โดยไมม่ ี ควำมตระหน่ี ไม่หวงั ประโยชนต์ อบแทน ใหด้ ว้ ยจิตใจทบ่ี รสิ ุทธิ์ ใหด้ ว้ ยจิตคิดจะใหจ้ รงิ ๆ บคุ คลผทู้ ่มี จี ิตใจเออื้ เฟื้อเผ่อื แผเ่ ช่นน้ี ยอ่ มเป็นท่ีรักและเคำรพนบั ถอื ของคนอ่นื ๆ จํำนวนมำก โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงผูท้ ไ่ี ด้รบั สิง่ ของหรือได้รบั น้ำํ ใจจำกเขำ ยอ่ มซำบซงึ้ น้ำํ ใจ และประทับใจในตวั เขำ
สุขำ สงฺฆสสฺส สำมคคฺ .ี [คำํ อ่ำน : ส-ุ ขำ, สงั -คัด-สะ, สำ-มกั -คี] “ควำมพรอ้ มเพรียงของหมคู่ ณะทำํ ให้เกิดสขุ ” สำมคั คี แปลวำ่ ควำมพร้อมเพรียง หมำยถงึ ควำมเปน็ อนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั ของหมู่คณะ คอื ของกลุม่ คนทอ่ี ยรู่ ว่ มกนั เปน็ กลุ่มกอ้ นเปน็ จำํ นวนมำก คุณธรรมข้อนี้ถือเปน็ คณุ ธรรมทสี่ ํำคญั มำกสำํ หรับบุคคลท้งั หลำยผอู้ ยรู่ ว่ มกนั เปน็ หม่คู ณะ เพรำะกจิ กรรมบำงอยำ่ ง ไม่สำมำรถทำํ ใหส้ ํำเรจ็ ลุล่วงไดโ้ ดยบุคคลแค่เพยี ง คนเดียว ต้องอำศยั ควำมร่วมมอื ของคนหมูม่ ำกช่วยกันจึงจะสำํ เร็จได้
สจจฺ ํ เว อมตำ วำจำ. [คำํ อ่ำน : สัด-จัง, เว, อะ-มะ-ตำ, วำ-จำ] “คํำสัตยแ์ ล เป็นวำจำไม่ตำย” คํำสัตย์ คอื คํำจริง คํำพดู ทเี่ ปน็ จรงิ คำํ พดู ทไี่ ม่แปรผนั เปน็ อย่ำงอื่นไปได้ เช่น คํำสอนของพระพทุ ธเจ้ำ ที่พระองค์ตรสั ไว้อย่ำงไรกเ็ ป็นอยำ่ งนั้น ไมแ่ ปรผนั เป็นอยำ่ งอืน่ ท่ีวำ่ คํำสตั ย์เปน็ วำจำไมต่ ำยนั้น กเ็ พรำะว่ำคํำสตั ยเ์ ปน็ คำํ ทีไ่ มม่ ใี คร เปลี่ยนแปลงให้เปน็ อย่ำงอืน่ ได้ ดงั เชน่ คํำสอนของพระพทุ ธเจำ้ ทกี่ ล่ำวไว้ข้ำงตน้ แล้วนั่นเอง
สพฺพํ เภทปริยนตฺ ํ เอวํ มจฺจำน ชีวติ ํ. [คํำอำ่ น : สับ-พัง, เพ-ทะ-ปะ-ริ-ยนั -ตงั , เอ-วัง, มัด-จำ-นะ, ช-ี ว-ิ ตงั ] “ชีวติ ของสัตว์เหมือนภำชนะดนิ ซ่ึงล้วนมีควำมสลำยเปน็ ทสี่ ดุ ” ธรรมดำภำชนะทีท่ ํำข้นึ จำกดนิ ย่อมไมม่ คี วำมคงทนถำวร ใช้กำรได้ไม่นำน สดุ ท้ำยยอ่ ม แตกสลำยไปในทส่ี ุด ธรรมชำตขิ องมนั เปน็ อยำ่ งนัน้ ชีวติ ของคนและสตั วท์ ้ังหลำยก็เช่นกนั เมอื่ เกิดข้ึนมำแล้วก็ตอ้ งตกอยู่ภำยใต้กฎพระไตร ลักษณ์ คือ ไม่เท่ียง ทนอยสู่ ภำพเดิมไม่ได้ บงั คบั บัญชำไมไ่ ด้
นตถฺ ิ สนฺติปรํ สุขํ. [คำํ อำ่ น : นดั -ถ,ิ สัน-ติ-ปะ-รงั , ส-ุ ขัง] “ควำมสขุ (อืน่ ) ย่งิ กวำ่ ควำมสงบ ไมม่ ี” ควำมสงบ คอื ภำวะที่ไม่มีสิง่ ใดมำรบกวน เช่น เรำนั่งอยู่ในทเ่ี งียบ ๆ ไมม่ ีคน อน่ื มำรบกวน ไม่มเี สยี งรถเสยี งเรอื มำรบกวน ไมม่ ีหมำแมวหรอื สัตว์อ่ืนใดมำรวบกวน อยำ่ งนี้เรยี วำ่ ควำมสงบ โดยท่วั ๆ ไป เม่ือเรำอย่ใู นทีท่ ่สี งบ เรำย่อมจะมคี วำมสุขเปน็ ธรรมดำ ควำมสงบ ในพทุ ธศำสนสุภำษิตน้ี หมำยถึง ควำมสงบแห่งใจ อันเปน็ ควำม สงบระงับจำกกเิ ลสตณั หำ คือไม่มกี เิ ลสตัณหำมำรบกวนจิตใจใหต้ อ้ งเดอื ดรอ้ น ซึง่ หมำยถงึ พระนพิ พำน
จดั ทํำโดย นำงสำว กิง่ กำญจน์ โลลพุ ิมำน ม.3/1 เลขท9ี่
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: