สารบัญ 1 5หน่วยที่ 5 โพรโทคอล 12 16แบบทดสอบกอ่ นเรียนโพรโทคอล (Protocol) 17องค์กรในการกาหนดมาตรฐานในการพัฒนาระบบเครือขา่ ยTCP/IP 24แบบจาลองเครือข่ายแบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยท่ี 5 โพรโทคอล
1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น1. โพรโทคอล (Protocol) หมายถงึ อะไรก.กฎระเบียบทใ่ี ชก้ ำหนดวิธกี ำรตดิ ต่อสื่อสำรระหวำ่ งอุปกรณ์ข.เปน็ โปรโตคอลทถ่ี กู พฒั นำขึ้นมำเพ่อื นำไปใช้ค.โพรโทคอลจดั กำรแบบนับจำนวนไบต์ง.เหมำะสำหรบั ระบบ เครือข่ำยขนำดเล็ก2. ชนดิ ของโพรโทคอลมีกช่ี นดิก.9 ชนิดข.10 ชนิดค.15 ชนดิง. 30 ชนดิ3. โพรโทคอลชนิดที่ 1 มีช่อื เรยี กว่าอะไรก. IPX/SPXข. NetBEUIค. TCP/IPง.โพรโทคอลSNA
24.รูปแบบโครงสรา้ งแบบเอสเอ็นเอ มคี วามหมายว่าอยา่ งไรก.เป็นหนง่ึ ในรูปแบบโครงสรำ้ งระบบเครอื ข่ำยวงกว้ำงข.รศั มีของกำรใชง้ ำนแลนไร้สำยข้ึนกบั ควำมสำมำรถในกำรรบั ส่งสัญญำณของอุปกรณ์ค.ปรับปรงุ ประสทิ ธิภำพของโพรโทคอลจัดกำรระดบั ตัวอกั ษรง.เป็นโปรโตคอลทเ่ี หมำะสำหรบั ระบบ เครือขำ่ ยขนำดเลก็5.โพรโทคอล 2.1 ไวไฟหมายถงึ อะไรก.รศั มขี องกำรใช้งำนแลนไรส้ ำยข้นึ กบั ควำมสำมำรถในกำรรับสง่ สัญญำณของอุปกรณ์ข.ผูใ้ ชง้ ำนในบ้ำนหรอื สำนักงำนขนำดเล็กนยิ มใช้ค.เปน็ โพรโทคอลที่ใชค้ ลน่ื วทิ ยุควำมถี่ 2.4 GHzง.ไวไฟเกดิ จำกกำรรวมกลุ่มของผู้ผลิตอปุ กรณแ์ บบไร้สำยเพอ่ื ทดสอบว่ำอปุ กรณท์ ีผ่ ลิตทำงำนได้ตำมมำตรฐำนของ IEEE6.องคก์ รในการกาหนดมาตรฐานในการพฒั นาระบบเครือขา่ ยก.ผู้ใช้งำนในบำ้ นหรอื สำนกั งำนขนำดเลก็ นยิ มใช้ข.กำรติดตง้ั ซอฟต์แวร์เครือข่ำยไมย่ ุ่งยำกซบั ซ้อนค.ทำหนำ้ ท่กี ำหนดมำตรฐำนในเอกสำรหรอื บทควำมทำงเทคนิคบ่อยๆง.ได้รบั กำรพฒั นำขนึ้ มำโดยบริษทั ไอบีเอ็ม ในปี พ.ศ. 2510
37. ANSI หมายถงึ อะไรก.กำรติดต้งั ซอฟต์แวร์เครอื ข่ำยไมย่ ่งุ ยำกซับซ้อนข.เป็นองคก์ รอำสำสมคั รท่ไี ม่มีผลกำไรจำกกำร ดำเนนิ งำนค.เปน็ โพรโทคอลท่ใี ช้คล่นื วทิ ยุควำมถี่ 2.4 GHzง. IEEE เปน็ สมำคมผเู้ ชยี่ วชำญด้ำนเทคนิค ก่อต้ังเมือ่ ปี ค.ศ. 18848. IEEE หมายถงึ อะไรก. IEEE เปน็ สมำคมผเู้ ชีย่ วชำญดำ้ นเทคนิค ก่อต้งั เมื่อปี ค.ศ. 1884ข.โพรโทคอลSNAค.เป็นโพรโทคอลที่ใชค้ ลื่นวทิ ยุควำมถ่ี 2.4 GHzง.โพรโทคอลจัดกำรแบบนับจำนวนไบต์9.ชั้นสื่อสารแอปพลเิ คชัน (Application Layer)ก.เปน็ โปรโตคอลท่ถี กู พัฒนำข้นึ มำเพอ่ื นำไปใช้ข.ทำหนำ้ ทกี่ ำหนดมำตรฐำนในเอกสำรหรือบทควำมทำงเทคนิคบ่อยๆค.กำรตดิ ต้งั ซอฟต์แวรเ์ ครือขำ่ ยไม่ยุง่ ยำกซับซ้อนง.กำรสง่ จดหมำยอิเลก็ ทรอนกิ ส์
410. สาหรับต้นฉบบั ของแบบจาลองอินเทอร์เนต็ ประกอบดว้ ยก่ชี ั้นสอ่ื สารก.10 ช้นั ส่ือสำรข.4 ชน้ั สอ่ื สำรค.15 ชั้นส่ือสำรง.5 ชัน้ สื่อสำร
5โพรโทคอล โพรโทคอล (Protocol) หมำยถงึ กฎระเบยี บท่ใี ช้กำหนดวิธกี ำรตดิ ต่อสอื่ สำรระหว่ำงอปุ กรณ์คู่หนึง่ ซ่งึ อำจจะเปน็ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์หรอื อปุ กรณส์ ่อื สำรใด ๆ ผำ่ นระบบเครอื ขำ่ ย เนอ่ื งจำกอุปกรณ์เหล่ำนี้อำจใช้รหัสแทนข้อมูลแตกต่ำงกัน และหรือมีกระบวนกำรทำงำนแตกต่ำงกัน จึงจำเป็นต้องมีตัวกลำงหรือวิธีกำรท่ีใช้ในกำรเปลี่ยนแปลงหรือทำให้ควำมแตกต่ำงระหว่ำงอุปกรณ์หมดไป ซ่ึงจะทำให้สำมำรถสื่อสำรระหว่ำงกันได้ โพรโทคอลจึงมีหน้ำทีใ่ นกำรกำหนดรำยละเอยี ดกระบวนกำรทำงำนของตวั กลำงนใ้ี ห้ เปน็ มำตรฐำนเดียวกนัชนิดของโพรโทคอล 1. NetBEUI (NetBIOS Extended User Interface) เป็นโปรโตคอลที่เหมำะสำหรับระบบเครือข่ำยขนำดเล็ก เนื่องจำกโปรโตคอลนี้ใช้วิธีกระจำยสัญญำณไปท่ัวท้ังเครือข่ำยไม่สำมำรถหำเส้นทำง (route) ไปยังคอมพิวเตอร์ที่ร้องขอข้อมูลได้ ข้อดีของโปรโตคอลนี้คือ กำรติดตั้งซอฟต์แวร์เครือข่ำยไมย่ ุ่งยำกซับซ้อน 2. IPX/SPX (Internet Packet Exchange) เป็นโปรโตคอลที่ถูกพัฒนำข้ึนมำเพื่อนำไปใช้กับระบบเครือข่ำยของ Netware โปรโตคอลนี้มีควำมสำมำรถในกำรหำเส้นทำงได้ แต่ก็ไม่ดีเท่ำกับTCP/IP ดังน้ันจึงเหมำะสำหรับเครือข่ำยขนำดเล็กถึงระดับกลำงเท่ำนั้น ปัจจุบันNetwareได้พัฒนำควำมสำมำรถจนสำมำรถรองรบั เครอื ขำ่ ยขนำดใหญ่ และมโี ปรโตคอลให้เลือกใชห้ ลำกหลำยข้ึน 3. TCP/IP (Transfer Control Protocol/ Internet Protocol) เป็นโปรโตคอลที่ใช้กันอย่ำงแพร่หลำยในเครือข่ำยขนำดใหญ่และเครือ ข่ำยอินเทอร์เน็ต เน่ืองจำกมีควำมสำมำรถในกำรค้นหำเสน้ ทำงไปยงั เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ท่ีร้องขอขอ้ มูล จงึ ถูกใช้เปน็ โปรโตคอลหลกั ในเครือขำ่ ย
6 4.โพรโทคอลจัดกำรระดับตัวอักษร เป็นแบบท่ีเก่ำแก่ท่ีสุดท่ีมีใช้งำนบนเครื่อง เมนเฟรม ซ่ึงกำหนดให้หนึ่งตัวอักษรประกอบด้วยข้อมูลขนำด 8 บิต แบบที่แพร่หลำยที่สุดเรียกว่ำ แบบบีเอสซี(Binary Synchronous Communication; BSC or BISYNC) ข้อมูลจะถูกส่งออกไปเป็นกลุ่มของตัวอักษรแบบ Synchronous ในลักษณะกง่ึ สองทิศทำง ไดร้ ับกำรพฒั นำขน้ึ มำโดยบริษัทไอบเี อม็ ในปีพ.ศ. 2510 และได้กลำยเป็นมำตรฐำนในกำรสื่อสำรระหว่ำงเคร่ืองเมนเฟรมในยุคนั้นแต่ก็ยงั มีกำรใช้งำนอย่มู ำกในปัจจบุ ัน 5. โพรโทคอลจัดกำรแบบนับจำนวนไบต์ โพรโทคอลจัดกำรแบบนับจำนวนไบต์ (Byte-Count-Oriented Protocols) ปรับปรุงประสิทธิภำพของโพรโทคอลจัดกำรระดับตัวอกั ษรท่ีใช้ตัวอักษรพิเศษโดย กำรเพ่ิมข้อมูล จำนวนไบต์ของข้อมูลในบล็อก หมำยเลขท่ีอยู่บนเครือข่ำย และตัวอักษรควบคมุ บล็อกเข้ำไปแทน 6.โพรโทคอลจัดกำรระดับบติ โพรโทคอลจัดกำรระดับบิต (Bit-Oriented Protocols) เป็นแนวทำงกำรทำงำนที่รวมข้อมูลจริงและขอ้ มูลควบคุมเข้ำด้วยกันเปน็ โครงสร้ำงเรยี กวำ่ เฟรม (Frame)ซึ่งจะต้องกำหนดรำยละเอียดไว้อย่ำงชัดเจนเพื่อให้สำมำรถดึงข้อมูลแต่ละส่วน ออกไปใช้ได้อย่ำงถกู ต้อง บรษิ ทั และองค์กรตำ่ ง ๆ ได้กำหนดโพรโทคอลประเภทนข้ี นึ้ มำใช้งำนอย่ำงแพร่หลำย 7.โพรโทคอลเอสเอ็นเอ รูปแบบโครงสร้ำงแบบเอสเอ็นเอ (System Network Architecture;SNA) เป็นหนึง่ ในรูปแบบโครงสร้ำงระบบเครือข่ำยวงกว้ำงสำหรับกำรสื่อสำรระหว่ำง เคร่อื งเมนเฟรมกับเทอร์มนิ อลท่มี ีใช้งำนมำนำนแล้ว บริษัทไอบีเอ็มได้พัฒนำระบบเอสเอ็นเอขึ้นมำใช้งำนตั้งแต่ พ.ศ.2517 โดยกำรกำหนดรำยละเอียดวิธีกำรติดต่อส่ือสำรระหว่ำงอุปกรณท์ ้ังหมดเพื่อแก้ปัญหำในควำมแตกตำ่ งของอุปกรณใ์ นยคุ น้ันเน่ืองจำกบรษิ ัทไอบีเอม็ เป็นเจ้ำของระบบเอสเอ็นเอจงึ เนน้ กำรแก้ปัญหำท่เี กดิ ขนึ้ กบั อุปกรณท์ ผ่ี ลติ โดยบริษัทไอบีเอ็มเป็นหลกั อย่ำงไรก็ตำมมบี ริษทั อนื่ อีกเป็นจำนวนมำกท่ีได้นำระบบเครือขำ่ ยน้ีไปใช้อยำ่ งแพรห่ ลำยทำให้ระบบเครือข่ำยเหล่ำนั้นสำมำรถตดิ ต่อกับระบบ
7เครือข่ำยของไอบีเอ็มและของผู้อื่นได้ปัจจุบันระบบเอสเอ็นเอยังคงได้รับกำรพัฒนำอย่ำงต่อเนื่องในขณะที่มีระบบเครือขำ่ ยอืน่ ทดี่ ีเกิดขน้ึ มำกมำย 8.โพรโทคอล H.323 กำรส่ือสำรแบบแพ็กเกตสวิท (Packet Switched Network) ใช้ โพรโทคอล H.323 สำหรับกำรส่งข้อมูลทุกชนิดแบบเรียลไทม์ (Real-Time) กำรสื่อสำรแบบน้ีจะส่งข้อมูลจำกจุดหน่ึงไปยังอีกจุดหนึ่งโดยแบ่งข้อมูลออก เป็นส่วนเล็ก ๆ เรียกว่ำ แพ็กเกต เพื่อส่งไปยังเป้ำหมำยตำมสำยส่ือสำรทเ่ี ร็วทีส่ ุดโพรโทคอลนี้ได้รบั กำรรับรองมำตรฐำนโดย ITU เมื่อเดือนตุลำคมพ.ศ. 2539 ช่วยให้สำมำรถส่งขอ้ มลู เสยี ง ภำพ หรอื นำมำใช้ในกำรประชุมทำงไกลอิเลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้ 9.โพรโทคอล X.25 คณะกรรมกำร CCITT (Consultative Committee for InternationalTelegraph and Telephone) ได้พัฒนำโพรโทคอลมำตรฐำนขึ้นมำเพื่อใช้ในกำรส่ือสำรระหว่ำงประเทศผ่ำนระบบเครือข่ำยที่ใช้แพ็กเกตสวิทช่ิง เรียกว่ำ โพรโทคอล X.25 ระบบเครือข่ำยท่ีใช้แพ็กเกตสวิตช่ิง (Packet-switching Network or Packet Distribution Network) จะแบ่งข้อมูลออกเปน็ ส่วนเลก็ ๆ คือ แพก็ เกต เพ่ือสง่ ออกทำงสำยสือ่ สำรควำมเร็วสูงไปยังผรู้ ับโพรโทคอลกำรเชอ่ื มตอ่ ระหว่ำงคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์เครือข่ำยท่ีผลิตจำกผผู้ ลิตหลำยรำยผ่ำนทำงระบบเครือข่ำยชนิดต่ำงๆ กัน ไม่สำมำรถเชื่อมต่อโดยตรงกันได้ ดังน้ันต้องมีกำรเปลี่ยนรูปแบบของกำรสง่ และกำหนดมำตรฐำนท้ังทำงฮำร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เพอื่ ใหอ้ ปุ กรณส์ ำมำรถติดตอ่ สื่อสำรกันได้ โดยมีองค์กรกลำง เช่น IEEE ,ISO และANSI เป็นผู้กำหนดมำตรฐำนขึ้นมำ ปัจจุบันเคร่ืองคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์จำกต่ำงผ้ผู ลิต สำมำรถเช่ือมตอ่ ถึงกันได้ภำยใตม้ ำตรฐำนเครือขำ่ ยเดยี วกัน-โพรโทคอล กฎกติกำหรือข้อตกลงท่ีใช้เป็นมำตรฐำนในกำรสือ่ สำรขอ้ มูลระหว่ำงผูร้ ับและผู้ส่งเรียกว่ำโพรโทคอล (protocol) ซ่งึ เป็น ข้อกำหนดทีใ่ ชค้ วบคุมกำรสือ่ สำรข้อมูลในเครอื ข่ำย เชน่ วธิ ีกำรรับส่งข้อมลู รูปแบบของกำรรับส่ง อุปกรณ์หรือสือ่ กลำงในกำรรับส่งข้อมลู วิธีกำรตรวจสอบควำมผิดพลำดของข้อมลู ควำมเร็วในกำรรับส่งขอ้ มูล
8-โพรโทคอล เคร่ืองคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เครือข่ำยท่ีใช้โพรโทคอลชนิดเดียวกันเท่ำนั้นจึงจะสำมำรถตดิ ตอ่ และสง่ ข้อมูลระหวำ่ งกนั ได้ โพรโทคอล มีลกั ษณะเช่นเดยี วกบั กำรสือ่ สำรของมนุษย์ที่ตองใชภ้ ำษำเดยี วกันจึงจะสำมำรถส่ือสำรกันไดเ้ ข้ำใจโพรโทคอลท่ีใช้เป็นมำตรฐำนในกำรสอ่ื สำรแบบใชส้ ำยและไร้สำย เช่น ทซี พี /ี ไอพี ไวไฟ ไออำร์ ดเี อ บลูทธูโพรโทคอล 1. ทีซีพี/ ไอพี (Transmission Control Protocol / Internet Protocol: TCP/IP) เป็นโพรโทคอลท่ีใช้ในกำรสื่อสำรในระบบอินเทอร์เน็ตโดยมีกำรระบุผู้รบั ผู้ส่งในเครือข่ำยและจัดกำรแบ่งข้อมูลเป็นช้ินเล็กๆ ท่ีเรียกว่ำแพ็กเก็ต (packet) ส่งผ่ำนไปในอินเทอร์เน็ต และข้อมูลที่ส่งไปจะไดร้ ับอย่ำงถกู ตอ้ งและครบถ้วนในกรณีทข่ี อ้ มูลเกิดขอ้ ผดิ พลำดระหว่ำงทำงจะมกี ำรร้องขอเพอ่ื ส่งข้อมูลใหม่ให้โครงสรำ้ งแบบ ทซี ีพ/ี ไอพี (TCP/IP model)(Transmitsion Control Protocol/Internet Protocol)เป็นมำตรฐำนท่ีทำให้คอมพิวเตอร์ภำยในระบบเครือข่ำยอินเทอร์เน็ตสำมำรถเช่ือมต่อเข้ำหำกันและติดต่อส่ือสำรแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้เป็นมำตรฐำนที่ว่ำด้วยกำรกำหนดวิธีกำรติดต่อสื่อสำรระหว่ำงคอมพิวเตอร์ โดยใชแ้ นวคดิ ของกำรแบ่งลำดับชั้นโปรโตโคล
9โพรโทคอล 2. ไวไฟ (Wireless Fidelity : Wi-Fi) เมื่อมีเทคโนโลยีเครือข่ำยแบบไร้สำย (wirelesslan) ท่ีพัฒนำจำกสถำบันวศิ วกรไฟฟำ้ และอเิ ลคโทรนคิ หรือ Institute of Electricaland ElectronicsEngineering (IEEE) ภำยใตม้ ำตรฐำน IEEE 802.11ใชค้ ลืน่ วิทยุควำมถี่ 2.4 GHzโพรโทคอล 2.1 ไวไฟ (Wireless Fidelity : Wi-Fi) ไวไฟเกิดจำกกำรรวมกลุม่ ของผู้ผลิตอุปกรณแ์ บบไร้สำยเพ่ือทดสอบว่ำอปุ กรณ์ท่ผี ลิตทำงำนได้ตำมมำตรฐำนของ IEEE 802.11โดยเคร่ืองคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทีไ่ ดร้ ับกำรรับรองจำกไวไฟ จะสำมำรถตดิ ตอ่ ส่ือสำรถึงกันได้โพรโทคอล 2.2 ไวไฟ (Wireless Fidelity : Wi-Fi) ผู้ใช้งำนในบ้ำนหรือสำนักงำนขนำดเล็กนิยมใช้ไวไฟในกำรติดตั้งระบบแลนไร้สำย (wireless LAN) โดยติดตั้งแผงวงจรหรืออุปกรณ์รับส่งไวไฟที่เรยี กว่ำ กำรด์ แลนไร้สำย (wireless LAN card)โพรโทคอล 2.3 ไวไฟ (Wireless Fidelity : Wi-Fi) รศั มีของกำรใชง้ ำนแลนไร้สำยขนึ้ กบั ควำมสำมำรถในกำรรับส่งสัญญำณของอุปกรณ์ โดยท่ัวไปจะอยู่ห่ำงจำกจุดเช่ือมต่อแบบไรส้ ำย (wireless accesspoint)ไม่เกิน 100 เมตรสำหรับกำรใช้งำนภำยในอำคำร และไม่เกนิ 500 เมตรสำหรบั กำรใชง้ ำนทโ่ี ล่งนอกอำคำร
10โพรโทคอล 3. ไออำร์ดีเอ (Infrared Data Association : IrDA) เป็นโพรโทคอลใช้เช่ือมต่อคอมพิวเตอร์กบอุปกรณ์ส่ือสำรแบบไร้สำยระยะใกล้และไม่มีส่ิงกีดขวำงโดยใช้แสงอินฟำเรดในกำรตดิ ต่อส่อื สำรและมคี วำมเรว็ ในกำรสง่ ข้อมูล 115 Kbps – 4Mbps ผ่ำนพอร์ตไออำรด์ เี อโพรโทคอล 4. บลูทูธ (bluetooth) เป็นโพรโทคอลที่ใช้คล่ืนวิทยุควำมถ่ี 2.4 GHz ในกำรรับส่งข้อมูลคล้ำยกับแลนไร้สำยตำมมำตรฐำน IEEE 802.15 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งำนคอมพิวเตอร์สำมำรถติดต่อสอ่ื สำรกับอุปกรณต์ อ่ พ่วงไร้สำยอน่ื ๆ เชน่ เคร่ืองพิมพ์ เมำส์ คยี ์บอร์ด ได้ โดยมำตรฐำนบลูทธสำมำรถส่งขอ้ มูลได้ทคี่ วำมเรว็ มำกกว่ำ 3 Mbps
11เพิม่ เตมิ่ IEEE 802.11 คอื มำตรฐำนกำรทำงำนของระบบเครือข่ำยไร้สำยกำหนดข้ึนโดย Instituteof Electrical and Electronics Engineers (IEEE) เป็นมำตรฐำนกลำงที่ได้นำมำปฏิบัติใช้เพ่ือท่ีจะทำกำรเชื่อมโยงอุปกรณ์เ ครือข่ำยไร้สำยเข้ำด้วยกันบนระบบในทำงปกติแล้ว กำรเช่ือมต่อระบ บเครือขำ่ ยไร้สำยจำเป็นต้องใช้อปุ กรณส์ องชิ้นแอคเซสพอยต์ คือตัวกลำงท่ีช่วยในกำรติดต่อระหว่ำง ตัวรับ-ส่งสัญญำญไวเลส ของผู้ใช้ กับ สำยนำสัญญำณทจี่ ำกทองแดงที่ได้รับกำรเชือ่ มต่อกบั ระบบเครอื ข่ำยแล้ว เชน่ สำยแลนตวั รบั -สง่ สญั ญำณไวเลส ทำหนำ้ ทรี่ บั -ส่ง สญั ญำณ ระหว่ำงตัวรับสง่ แต่ละตวั ด้วยกนัหลังจำกที่เทคโนโลยีเครือข่ำยไร้สำยนี้ได้เกิดข้ึนก็ได้เกิดมำตรฐำนตำมมำอีกมำยมำย โดยท่ีกำรจะเลือกซ้ือหรือเลือกใช้อุปกรณ์เครือข่ำยไร้สำยเหล่ำน้ันเรำจำเป็นจะต้องคำนึงถึงเทคโนโลยีท่ีใช้ในผลิตภณั ฑ์นัน้ ๆรวมถึงควำมเข้ำกนั ไดข้ องเทคโนโลยที ่ีต่ำงๆด้วย
12 องคก์ รในการกาหนดมาตรฐานในการพัฒนาระบบเครอื ขา่ ยเนื่องจำกหนว่ ยงำนทีม่ ีหน้ำทีก่ ำหนดมำตรฐำนมบี ทบำทสำคญั สำหรับกำรพัฒนำกำรทำงด้ำนเทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละระบบเครอื ข่ำยเรำจึงพบชอื่ ย่อของหน่วยงำนต่ำงๆ ท่ีทำหน้ำทก่ี ำหนดมำตรฐำนในเอกสำรหรือบทควำมทำงเทคนคิ บ่อยๆในสว่ นต่อไปนี้จะอธิบำยเก่ียวกบั องค์กรกำหนดมำตรฐำนซึ่งมีสว่ นเก่ยี วข้องกับระบบเครอื ขำ่ ยและเครือข่ำยอนิ เตอร์เนต็ANSIANSI (American National Standards Institute) เปน็ องคก์ รอำสำสมัครที่ไมม่ ีผลกำไรจำกกำรดำเนนิ งำน ประกอบด้วยกลุม่ นักธุรกจิ และกลุ่มอุตสำหกรรมในประเทศสหรัฐอเมริกำ ก่อตง้ั ในปี ค.ศ.1918 มี สำนักงำนใหญ่อยทู่ นี่ ิวยอร์ค ANSI ทำหน้ำที่พัฒนำมำตรฐำนต่ำงๆ ของอเมริกำให้เหมำะสมจำกนน้ั จะรบั รองข้ึนไปเปน็ มำตรฐำนสำกล ANSI ยงั เป็นตวั แทนของอเมริกำในองคก์ รมำตรฐำนสำกลISO ( International Organization for Standardization) แ ล ะ IEC ( InternationalElectrotechnical Commission) ANSI เป็นท่ีรู้จักในกำรเสนอภำษำกำรเขียนโปรแกรม ได้แก่ANSIC และยงั กำหนดมำตรฐำนเทคโนโลยรี ะบบเครือข่ำยอีกหลำยแบบ เช่นระบบเครือข่ำยควำมเร็วสงู ท่ีใชเ้ คเบิลใยแก้วนำแสง SONET เป็นตน้IEEEIEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) เปน็ สมำคมผู้เช่ียวชำญด้ำนเทคนิคก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 1884 ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกำ มีสมำชิกจำกประเทศต่ำงๆ ท่ัวโลกประมำณ150 ประเทศ IEEE มุ่งสนใจทำงด้ำนไฟฟ้ำ อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรม และวิทยำกำรคอมพิวเตอร์ มีชื่อเสียงอย่ำงมำกในกำรกำหนด คุณลักษณะเฉพำะต่ำงๆ ของระบบเครือข่ำยเกณฑ์กำรจัดต้ังเครือข่ำยต่ำงๆ ถูกกำหนดเป็นกลุ่มย่อยของคุณลักษณะเฉพำะมำตรฐำน 802 ตัวอย่ำงที่รู้จักกันดีได้แก่ IEEE802.3 ซ่ึงกำหนดคณุ ลักษณะเฉพำะของระบบเครือขำ่ ย Ethernet IEEE802.4 กำหนด
13คุณลักษณะเฉพำะของระบบเครือข่ำยแบบ Token-Bus และ IEEE802.5 ซ่ึงกำหนดคุณลักษณะเฉพำะของระบบเครอื ข่ำยแบบ Token-Ring เป็นตน้ISOISO ( International Standard Organization ห รื อ International Organization forStandardization) เปน็ องคก์ รทีร่ วบรวมองคก์ รมำตรฐำนจำกประเทศตำ่ งๆ 130 ประเทศ ISO เปน็ภำษำกรีกหมำยถึงควำมเท่ำเทียมกันหรือควำมเป็นมำตรฐำน (Standardization) ISO ไม่ใช่องค์กรของรัฐมีจุดมุ่งหมำยในกำรส่งเสริมให้มีมำตรฐำนสำกลซึ่งไม่เพียงแต่ในเรื่องท่ีเกี่ยวกับเทคโนโลยีและกำรสื่อสำรแตย่ ังรวมไปถึงกำรค้ำ กำรพำณิชย์ และผลติ ภณั ฑ์อน่ื ๆ สำหรบั ในสว่ นของระบบเครือข่ำยนัน้ ISO เป็นผู้กำหนดมำตรฐำนโครงสร้ำง 7 เลเยอรข์ อง ISO/OSI Reference Model นั่นเองIETFIEFT (Internet Engineering Task Force) เป็นกลุ่มผู้ให้ควำมสนใจเร่อื งระบบเครือขำ่ ยและกำรเติบโตของเครือข่ำย อินเตอร์เน็ต กำรเป็นสมำชิกของ IETF นั้นเปิดกว้ำงโดยองค์กรน้ีมีกำรแบ่งคณะทำงำนออกเปน็ หลำยกลมุ่ ซึ่งแต่ละกล่มุ มุ่งสนใจเฉพำะในเรอ่ื งต่ำงๆ กนั เชน่ กำรกำหนดเส้นทำงกำรส่งข้อมูลระบบรักษำควำมปลอดภัย และระบบกำรออกอำกำศข้อมูล (Broadcasting) เป็นต้นนอกจำกน้ี IETF ยังเป็นองค์กรที่พัฒนำและจัดทำคุณสมบัติเฉพำะท่ีเรียกว่ำ RFC (Requests forComment) สำหรับมำตรฐำนของ TCP/IP ทใ่ี ช้บนระบบเครือขำ่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ อกี ด้วยEIAEIA (Electronics Industries Association) เป็นองค์กรกำหนดมำตรฐำนท่ีเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ด้ำนฮำร์ดแวร์อุปกรณ์ทำงด้ำนโทรคมนำคมและกำรส่ือสำรของเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่ำงเช่นคณุ ลักษณะในกำรเชือ่ มตอ่ ผ่ำน RS-232 เป็นตน้
14W3CW3C (World Wide Web Consortium) ก่อตั้งในปี ค.ศ.1994 โดยมีเครือข่ำยหลักอยู่ในประเทศสหรฐั อเมรกิ ำ ยโุ รป และญีป่ นุ่ โดยมภี ำรกิจหลกั ในกำรส่งเสรมิ และพฒั นำมำตรฐำนของเวบ็ ข้อเสนอท่ีได้รับกำรพิจำรณำและรับรองโดย W3C จะเป็นมำตรฐำนในกำรออกแบบกำรแสดงผลเว็บเพจ เชน่Cascading, XML, HTML เปน็ ต้นโปรโตคอล คือ ระเบยี บวธิ ีท่ีกำหนดขน้ึ สำหรับสอื่ สำรขอ้ มลู ใหส้ ำมำรถสื่อสำรขอ้ มูลไปยังปลำยทำงได้อย่ำงถูกต้อง สำหรับโปรโตคอลท่ีมีผู้ใช้งำนมำกที่สุดในโลกคือ TCP/IP สำหรับโปรโตคอลอื่นๆ อกีเช่น โปรโตคอล IPX/SPX โปรโตคอล NetBIOS และโปรโตคอล AppleTalk เปน็ ต้นโปรโตคอล TCP/IPTransmission Control Protocol / Internet Protocol เปน็ เครือข่ำยโปรโตคอลที่สำคัญมำกท่สี ดุเน่ืองจำกเปน็ โปรโตคอลที่ใช้ในระบบเครือขำ่ ย Internet รวมท้ัง Intranet ซ่ึงประกอบด้วย 2โปรโตคอลคือ TCP และ IPโปรโตคอล IPX/SPXพัฒนำ โดยบรษิ ทั Novell ซ่งึ เปน็ ผ้พู ัฒนำระบบปฏบิ ตั กำรเครอื ข่ำย Netware ทนี่ ยิ มมำกตวั หนึ่งของโลก โปรโตคอล IPX/SPX แบง่ ออกเป็น 2 สว่ นคือ IPX (Internetwok Packet Exchange) และ SPX(Sequenced Packet Exchange)โปรโตคอล NetBIOSNetwork Basic Input/Output System ควำมจริงแล้ว NetBIOS ไม่ใช่โปรโตคอล แต่ทีจ่ ริงเป็นไลบรำรีของกลุ่มคำสัง่ ระบบเครือขำ่ ย หรอื API (Application Programming Interfac) กำรใชง้ ำนNetBIOS จะใชใ้ นลักษณะของกลมุ่ คอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัตกิ ำร Windows หรือเรยี กอกี อยำ่ งหนึง่วำ่ workgroup
15โปรโตคอล AppleTalkพัฒนำโดยบริษัท Apple Computer เป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับส่ือสำรในระบบเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ Macintosh โดยเฉพำะ นอกจำกน้ี Apple ยังได้มีกำรพัฒนำโปรโตคอลเพ่ิมเพ่ือใช้เช่ือมกับระบบเครือข่ำยแบบ Ethernet และ Token Ring โดยต้ังช่ือว่ำ Ether Talk และ TokenTalk เป็นตน้
16TCP/IPTCP/IP คอื กำรท่เี ครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ ี่ถูกเชอ่ื มโยงกันไวใ้ นระบบจะสำมำรถติดต่อส่ือสำรกนั ได้น้ันจำเป็นจะต้องมีภำษำสื่อสำรที่เรียกว่ำ โปรโตคอล (Protocol ) ซ่ึงในระบบInternet จะใช้ภำษำสื่อสำรมำตรฐำนท่ีช่ือว่ำ TCP/IP เป็นภำษำหลัก ดังน้ันหำกเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่ว่ำจะเป็นเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์มินิคอมพิวเตอร์ หรือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ก็สำมำรถเช่ือมโยงเข้ำสู่อนิ เทอรเ์ นต็ ได้TCP ยอ่ มาจากคาวา่ Transmission Control ProtocolIP ย่อมำจำกคำวำ่ Internet ProtocolTCP/IP คอื ชุดของโปรโตคอลทีถ่ กู ใชใ้ นกำรส่ือสำรผ่ำนเครือขำ่ ยอินเทอร์เนต็โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือใหส้ ำมำรถใชส้ อื่ สำรจำกต้นทำงข้ำมเครอื ข่ำยไปยังปลำยทำงได้และสำมำรถหำเสน้ ทำงทีจ่ ะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมตั ิTCP และ IP มีหน้าทตี่ ่างกนั คือ1. TCP จะทำหน้ำที่ในกำรแยกข้อมูลเป็นส่วน ๆ หรือท่ีเรียกว่ำ Package ส่งออกไปส่วน TCPปลำยทำง ก็จะทำกำรรวบรวมข้อมูลแต่ละส่วนเข้ำดว้ ยกนั เพอื่ นำไปประมวลผลต่อไปโดยระหวำ่ งกำรรับส่งข้อมูลน้ันก็จะมีกำรตรวจสอบควำมถูกต้องของ ข้อมูลด้วยถ้ำเกิดผิดพลำด TCP ปลำยทำงก็จะขอไปยัง TCP ตน้ ทำงใหส้ ง่ ขอ้ มูลมำใหม่2. IP จะทำหนำ้ ทใ่ี นกำรจัดส่งขอ้ มูลจำกเครอ่ื งตน้ ทำงไปยังเครือ่ งปลำยทำงโดยอำศัย IP Address
17แบบจาลองเครือขา่ ยแบบจาลองเครอื ขา่ ย (Network Models)องคก์ ร ISO และแบบจาลอง OSIองค์กรกำหนดมำตรฐำนสำกลหรือ ISO จัดเป็นองค์กรหน่ึงที่ได้รับกำรยอมรับทั่วโลกเกี่ยวกับกำรกำหนดมำตรฐำนสำกล โดยในปี ค.ศ. 1970 ทำง ISO ได้มีกำรจัดต้ังคณะกรรมกำรขึ้นมำเพ่ือสร้ำงแบบจำลองสถำปัตยกรรมเครือข่ำย ขึ้น เพ่ือใช้เป็นรูปแบบมำตรฐำนในกำรส่ือสำรระหว่ำงคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกว่ำ แบบจาลอง OSI (Open Systems Interconnection) และในปี ค.ศ. 1984ก็ได้มีกำรประกำศใช้แบบจำลอง OSI อย่ำงเป็นทำงกำรเพ่ือใช้เป็นแบบอ้ำงอิงเครือข่ำยมำตรฐำนสำกลคำว่ำ Open Systems ก็คอื ระบบเปิด ซง่ึ หมำยควำมว่ำอนญุ ำตใหร้ ะบบสำมำรถสอื่ สำรกนั ได้ถงึ แมว้ ำ่ อปุ กรณ์จะมีรปู แบบทำงสถำปัตยกรรมระบบท่แี ตกตำ่ งกัน กลำ่ วคอื มำตรฐำนแบบจำลองOSI ท่จี ดั ทำข้ึนมำนน้ั มจี ดุ ประสงค์เพื่อให้ระบบทีแ่ ตกตำ่ งกันสำมำรถส่อื สำรร่วมกันได้ ดว้ ยมำตรฐำนกำรสอ่ื สำรทีเ่ ป็นสำกล โดยไม่มีควำมจำเปน็ ทจ่ี ะต้องเข้ำไปเปลย่ี นแปลงตรรกใด ๆ บนอุปกรณ์ฮำรด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์
18แบบจาลอง OSI หมำยถึง แบบจำลองสถำปัตยกรรมเครือข่ำย เพ่ือใช้เป็นรูปแบบมำตรฐำนในกำรสื่อสำรระหว่ำงคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์เพ่ือให้ระบบที่แตกต่ำงกันสำมำรถสื่อสำรร่วมกันได้ ด้วยมำตรฐำนกำรส่อื สำรท่เี ป็นสำกลอย่ำงไรก็ตำม แบบจำลอง OSI มิใช่โพรโทคอล แต่เป็นเพียงแบบจำลองแนวคิด ซ่ึงเป็นเพียงทฤษฎีท่ีช่วยสร้ำงควำมเข้ำใจเก่ียวกับกำรทำงำนของแต่ละช้ัน สื่อสำร เพ่ืออำนวยควำมสะดวกต่อผูอ้ อกแบบระบบสื่อสำร ท้ังนี้แบบจำลอง OSI ยังถูกสร้ำงขึ้นมำบนพ้ืนฐำนควำมยืดหยุ่นและคงทนต่อกำรนำไปประยกุ ตใ์ ชง้ ำน โดยแต่ละชัน้ สอื่ สำรยังสำมำรถปฏบิ ตั ิงำนรว่ มกันไดอ้ ย่ำงเหมำะสมแบบจำลอง OSI มกี รอบกำรทำงำนด้วยกำรแบง่ เป็นชั้นสอื่ สำรท่เี รียกว่ำเลเยอร์ (Layer) แต่ละเลเยอร์จะมีชื่อเรยี กท่ีแตกต่ำงกัน รวมถงึ ฟังก์ชันหน้ำที่ที่รบั มอบหมำยในเลเยอร์น้ัน ๆ โดยเฉพำะ ชน้ั สอ่ื สำรต่ำง ๆ ท่กี ำหนดขึน้ จะถือเปน็ ส่วนหนงึ่ ของกระบวนกำรส่อื สำรร่วมกัน ซึ่งมีทง้ั หมด 7 ชัน้ ดว้ ยกนั คือ 1. ช้นั สอื่ สำรฟสิ ิคลั (Physical Layer) 2. ชั้นสอ่ื สำรดำตำ้ ลงิ ก์ (Data Link Layer) 3. ชนั้ สื่อสำรเน็ตเวริ ์ก (Network Layer) 4. ชั้นส่อื สำรทรำนสปอร์ต (Transport Layer) 5. ชัน้ สื่อสำรเซสชน่ั (Session Layer) 6. ช้นั สอ่ื สำรพรเี ซนเตชนั่ (Presentation Layer) 7. ชน้ั สือ่ สำรแอปพลิเคชั่น (Application Layer)แต่ก็ใช่ว่ำเทคโนโลยีเครือข่ำยทั้งหมดจะต้องอ้ำงอิงช้ันสื่อสำรบนแบบ จำลอง OSI ครบทั้งเจ็ดเน่ืองจำกบำงเทคโนโลยีอำจรวบชั้นสื่อสำรบำงช้ันมำเป็นเลเยอร์เดียวกัน หรืออำจข้ำมกำรทำงำนบำงเลเยอรก์ รณเี ลเยอร์นัน้ ไม่จำเปน็ ต่อกำรใช้งำน
19แนวความคิดในการแบ่งชั้นสื่อสาร 1. เพอ่ื ลดควำมซ้ำซอ้ น ทำใหเ้ รียนรู้และทำควำมเข้ำใจได้งำ่ ยขึ้น 2. เพอ่ื ให้แต่ละช้ันสื่อสำรมีบทบำทหนำ้ ทีท่ ่ีชัดเจนและแตกตำ่ งกัน 3. เพื่อให้แต่ละชั้นสื่อสำรปฏิบัติงำนตำมฟังก์ชันหน้ำท่ีท่ีได้รับมอบหมำย และสอดคล้องกับ มำตรฐำนสำกล 4. จำกขอบเขตควำมรบั ผิดชอบในแต่ละช้ันสื่อสำร ทำให้กำรส่ือสำรเกิดควำมคล่องตัว และเป็น กำรป้องกันกรณีเกิดกำรเปลี่ยนแปลงบนช้ันส่ือสำรหนงึ่ ๆ แล้วส่งผลกระทบต่อช้ันสื่อสำรอนื่ ๆ 5. จำนวนชั้นส่ือสำรจะต้องมจี ำนวนมำกเพียงพอ และเหมำะสมต่อกำรจำแนกหน้ำทก่ี ำรทำงำน ใหก้ ับแต่ละชั้นสอ่ื สำร และไมค่ วรมมี ำกจนดเู ทอะทะ เกนิ ควำมจำเป็นชน้ั สือ่ สารในแบบจาลอง OSI (Layers in The OSI Model)1. ช้นั สอ่ื สารฟิสคิ ัล (Physical Layer)ช้ันสื่อสำรฟิสิคับจะทำหน้ำที่ประสำนกำรทำงำนในเร่ืองของกำรส่งกระแสบิต ( Bit Stream) บนสอ่ื กลำงท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ขอ้ กำหนดทำงกลไก และทำงไฟฟ้ำของกำรอนิ เตอร์เฟซและสื่อส่งขอ้ มลู รวมถึงขอ้ กำหนดด้ำนฟังก์ชันกำรทำงำน และข้ันตอนกำรทำงำนของอุปกรณท์ ่จี ะนำมำอนิ เตอร์เฟซเพ่ือกำรส่งขอ้ มูล2. ช้นั สือ่ สารดาตา้ ลิงก์ (Data Link Layer)ชั้นส่ือสำรดำต้ำลิงก์มีหน้ำท่ีส่งมอบข้อมูลในลักษณะ Hop-to-Hop (Node-to-Node) สำหรับหน่วยข้อมูลในช้ันนี้จะถูกจัดเก็บในรูปแบบของเฟรม (Frame) รับหน้ำท่ีว่ำจะจัดส่งเฟรมไปยังเครือข่ำยได้อย่ำงไร เน่ืองจำกข้อมูลท่ีได้รับมำจำกชั้นสื่อสำรฟิสิคัลน้ัน อำจมีสัญญำณรบกวนหรือข้อผิดพลำดปะปนมำพร้อมกบั สัญญำณข้อมูล ดงั น้ันชนั้ สือ่ สำรดำต้ำลิงก์จึงต้องมกี ระบวนกำรตรวจจับ และแก้ไขขอ้ ผิดพลำดเหล่ำนน้ั เพอ่ื บรกิ ำรแก่ชั้นสื่อสำรเน็ตเวริ ก์ ทีอ่ ยสู่ งู ถัดไป
20 3. ชน้ั ส่ือสารเน็ตเวิร์ก (Network Layer)สำหรับชั้นสื่อสำรเน็ตเวิร์กจะรับผิดชอบเก่ียวกับกำรส่งแพ็กเก็ตจำกต้น ทำงไปยังปลำยทำงผ่ำนเครือข่ำยหลำย ๆ เครือข่ำยด้วยกัน ควำมแตกต่ำงระหว่ำงช้ันส่ือสำรดำต้ำลิงก์และ เน็ตเวิร์กก็คือหนว่ ยขอ้ มูลบนชัน้ สื่อสำรเน็ตเวริ ์กจะถูกแบง่ ออกเป็นส่วน ๆ ทเี่ รียกวำ่ แพ็กเกต็ (Packet) แต่ละแพ็กเก็ตจะถูกส่งไปยังปลำยทำง ซึ่งระหว่ำงทำงอำจมีเครือข่ำยย่อยที่ลิงก์เชื่อมต่อมำกมำยรวมถึงกำรส่งข้ำม เครือข่ำยต่ำงชนิดกัน ในขณะที่ช้ันส่ือสำรดำต้ำลิงก์จะมีหน่วยข้อมูลในรูปแบบของเฟรม ท่ีจัดส่งไปยังโหนดปลำยทำงภำยในลงิ ก์เดียวกันเทำ่ น้นั 4. ชั้นสอ่ื สารทรานสปอรต์ (Transport Layer)ช้ันสื่อสำรทรำนสปอร์ตจะทำหน้ำที่ส่งมอบข้อมูลในลักษณะ Process-to-Process คำว่ำโพรเซสในท่ีนี้ก็คือโปรแกรมประยุกต์ใด ๆ ที่รันอยู่บนเครื่องโฮสต์ ดังนั้นหำกมีโปรแกรมรันอยู่บนเครื่องโฮสต์หลำย ๆ โปรแกรม น่ันหมำยถึงมีหลำยโปรเซสรันอยู่ในขณะนั้น โดยกำรส่งข้อมูลแบบ Source-to-Destination บนชั้นสอ่ สำรเนต็ เวิร์กซ่งึ ปกติจะรบั ส่งขอ้ มลู เพียงโพรเซสเดยี ว คงไม่สำมำรถรองรบั กำรส่งมอบข้อมูลหลำย ๆ โพรเซสนี้ได้ ดงั นั้นชั้นส่อื สำรทรำนสปอรต์ จึงต้องรบั หนำ้ ท่ใี นกำรสง่ มอบข้อมูล 5. ชั้นสอ่ื สารเซสชนั (Session Layer)กำรบริกำรบน 3 ช้ันส่ือสำรแรก (ฟิสิคัล ดำต้ำลิงก์ และเน็ตเวิร์ก) อำจไม่เพียงพอสำหรับบำงโพรเซสดังนน้ั ชนั้ ส่ือสำรเซสชนั ข้นึ ไปจึงทำหน้ำทีบ่ ริกำรและอำนวยควำมสะดวกแกผ่ ู้ ใช้ชัน้ สื่อสำรเซสชันมีหน้ำท่คี วบคุมกำรสื่อสำร กำรจดั กำรแลกเปลี่ยนข่ำวสำรทเี่ กิดขนึ้ ระหว่ำงโฮสต์ โดยกำรส่อื สำรท่ีกำลังดำเนินกำรอยู่ ณ ขณะใดขณะหน่งึ จะเรยี กว่ำ เซสชนั ทั้งน้หี ลำย ๆ เซสชันทเ่ี กิดขึ้นอำจเกิดจำกกำรทำงำนของคนเพียงคนเดยี วหรอื หลำยคนก็ได้ ตัวอยำ่ งเช่น กำรล็อกอนิ แบบระยะไกลของเทอร์มินับเพื่อเข้ำใช้บริกำรบนเคร่ืองโฮสต์ในแต่ละ ครั้ง ก็ถือเป็นเซสช่ันหนึ่งท่ีประกอบด้วยข้นั ตอนดังนี้
21การล็อกอนิ > การกรอกรหสั ผ่าน > การใชโ้ ฮสต์ > การออกจากระบบหรือเซสชั่นของการสนทนาทป่ี ระกอบดว้ ยขนั้ ตอนการเริ่มสนทนา > การสนทนาเพ่ือแลกเปลย่ี นขอ้ มลู > การจบการสนทนาโดยหลังจำกทไ่ี ด้สรำ้ งเซสชนั เรียบร้อยแล้ว กำรรบั ส่งขอ้ มูลก็จะเป็นหน้ำทีข่ องชั้นสื่อสำรทรำนสปอรต์ 6. ชั้นสอ่ื สารพรเี ซสเตชัน (Presentation Layer)เป็นชน้ั สื่อสำรท่นี ำเสนอเกี่ยวกบั กำรแปลงข้อมูลให้มีรูปแบบและควำมหมำย เดียวกัน กลำ่ วคอื ระบบคอมพิวเตอร์แต่ละระดับ อำจใช้รหัสแทนข้อมูลท่ีแตกต่ำงกันได้ เช่น บนพีซีคอมพิวเตอร์ก็จะใช้รหัสACSII หรอื Unicode ในขณะท่ีเมนเฟรมคอมพวิ เตอรก์ ็จะใช้รหสั EBCDIC ดังนั้นดว้ ยหน้ำท่รี ับผดิ ชอบของชั้นส่ือสำรพรีเซนเตช่ัน จะทำให้ท้ังสองระบบที่ถึงแม้จะใช้รหัสแทนข้อมูลท่ีแตกต่ำงกันสำมำรถนำเสนอ ขอ้ มูลไดอ้ ยำ่ งเข้ำใจทั้งสองฝ่ำย โดยจะมกี ระบวนกำรแปลงขอ้ มูล (Translation) ให้สำมำรถนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง กล่ำวคือ ฝง่ั ส่งจะสง่ ข้อมลู อะไรไปก็ตำม ฝ่งั รบั กจ็ ะได้รับขอ้ มลู ตำมนน้ั ดว้ ย 7. ชั้นสอื่ สารแอปพลิเคชนั (Application Layer)เป็นชั้นส่ือสำรระดับประยุกต์ที่มุ่งเน้นกำรติดต่อกับผู้ใช้ ที่อนุญำตให้ผู้ใช้ซ่ึงอำจเป็นบุคคลหรือซอฟต์แวร์สำมำรถเข้ำถึงเครือข่ำยได้ โดยจะมียูสเซอร์อินเทอร์เฟซเพ่ือสนับสนุนงำนบริกำรต่ำง ๆเช่น กำรส่งจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ กำรติดต่อเครือข่ำยแบบระยะไกลเพื่อเข้ำถึงข้อมูลและถ่ำยโอนข้อมลู กำรแชรฐ์ ำนขอ้ มลู และกำรบรกิ ำรอนื่ ๆ เป็นต้น 22
แบบจาลองอนิ เทอรเ์ นต็ (Internet Model)แบบจำลองอนิ เทอร์เน็ต หรอื ชดุ โพรโทคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol / InternetProtocol) ได้ถกู พฒั นำขึ้นมำก่อนแบบบจำลอง OSI ดงั นั้น ชนั้ สอื่ สำรของแบบจำลองอนิ เทอร์เน็ตจึงไม่ตรงกับแบบจำลอง OSI แต่ก็นับว่ำเป็นควำมโชคดีท่ีแบบจำลองท้ังสองต่ำงก็มีหลักกำรทำงำนที่คล้ำย คลงึ กนั มำกสำหรบั ตน้ ฉบับของแบบจำลองอนิ เทอร์เน็ต ประกอบดว้ ย 4 ช้นั สือ่ สำร คอื 1. ชน้ั สอ่ื สำรโฮสต์ทูเนต็ เวริ ์ก (Host-to-Network Layer) 2. ช้ันสอ่ื สำรอินเทอรเ์ นต็ (Internet Layer) 3. ชนั้ ส่ือสำรทรำนสปอร์ต (Transport Layer) 4. ชนั้ สื่อสำรแอปพลิเคช่ัน (Application Layer)โดยท่ีช้ันส่ือสำรโฮสต์ทูเน็ตเวิร์กเป็นกำรรวบชั้นสื่อสำรฟิสิคัลและดำต้ำลิงก์เข้ำด้วยกัน ชั้นส่ือสำรอินเทอร์เน็ตก็คือช้ันสื่อสำรเน็ตเวิร์ก และชั้นส่ือสำรแอปพลิเคช่ันก็จะรวบช้ันส่ือสำรเซสชั่น พรีเซนเตชั่นและแอปพลิเคช่ันเข้ำด้วยกัน อย่ำงไรก็ตำม หนังสือเล่มน้ีจะอ้ำงอิงแบบจำลองอินเทอร์เน็ตที่ประกอบด้วย 5 ช้ันสื่อสำรด้วยกันคือ ชั้นสื่อสำรฟิสิคัล ดำต้ำลิงก์ เน็ตเวิร์ก ทรำนสปอร์ต และแอปพลเิ คช่ัน 23
สรปุ แบบจาลองเครือขา่ ยกำรบวนกำรส่ือสำรที่เริ่มจำกฝั่งส่ง ที่มีกำรเคล่ือนย้ำยข้อมูลจำกเลเยอร์หนึ่งไปยังเลเยอร์ถัดไปด้ำนล่ำงในรูป แบบ 7-6-5-4-3-2-1 ซ่ึงแต่ละเลเยอร์จะเตรียมเฮดเดอร์เพ่ือนำไปปะเพิ่มกับหน่วยข้อมูล เรำเรียกกระบวนกำรนี้วำ่ เอนแคปซูเลชนั (Encapsulation)เมื่อสัญญำณถูกส่งผ่ำนลิงค์จะไปถึงจุดหมำยปลำยทำง หน่วยข้อมูลก็จะเคล่ือนย้ำยย้อนกลับขึ้นไปตำมลำดับ 1-2-3-4-5-6-7 จำกน้ันแต่ละเลเยอร์ก็จะถอดเฮดเดอร์เฉพำะส่วนที่เป็นของตนออก เรำเรียกกระบวนกำรนีว้ ่ำ ดแี คปซเู ลชัน (Decapsulation) 1. ช้ันส่ือสำรฟิสิคัล (Physical Layer) มีหน้ำที่เคล่ือนย้ำยข้อมูลระดับบิตจำกโหนดหนึ่งไปยัง โหนดถดั ไป 2. ชั้นส่ือสำรดำต้ำลิงก์ (Data Link Layer) มีหน้ำที่เคลื่อนย้ำยเฟรมจำกโหนดหน่ึงไปยังโหนด ถดั ไป 3. ชั้นส่ือสำรเน็ตเวิร์ก (Network Layer) มีหน้ำท่ีส่งมอบแพ็กเก็ตจำกโฮสต์ต้นทำงไปยังโฮสต์ ปลำยทำง 4. ชั้นสอื่ สำรทรำนสปอร์ต (Transport Layer) มีหน้ำทสี่ ่งมอบข่ำวสำรจำกโพรเซสตน้ ทำงไปยงั โพรเซสปลำยทำง 5. ชั้นสอื่ สำรเซสชนั่ (Session Layer) มหี น้ำทคี่ วบคมุ กำรส่ือสำรและกำรซิงโครไนซ์ 6. ชนั้ สอ่ื สำรพรเี ซนเตชัน่ (Presentation Layer) มหี นำ้ ท่ีแปลงขอ้ มูล เขำ้ รหสั ข้อมูล และบีบอดั ข้อมลู 7. ชัน้ ส่อื สำรแอปพลิเคชัน่ (Application Layer) มีหนำ้ ท่จี ดั กำรงำนบริกำรให้แกผ่ ู้ใช้ 24
แบบทดสอบหลังเรียน1. โพรโทคอล (Protocol) หมายถงึ อะไรก.เป็นโปรโตคอลท่ีถกู พัฒนำข้นึ มำเพ่อื นำไปใช้ข.กฎระเบยี บทใ่ี ชก้ ำหนดวธิ ีกำรติดต่อส่ือสำรระหว่ำงอุปกรณ์ค.โพรโทคอลจัดกำรแบบนับจำนวนไบต์ง.เหมำะสำหรบั ระบบ เครือขำ่ ยขนำดเล็ก2. ชนิดของโพรโทคอลมีกชี่ นิดก.10 ชนิดข. 9 ชนดิค.15 ชนิดง. 30 ชนดิ3. โพรโทคอลชนิดท่ี 1 มชี อ่ื เรยี กวา่ อะไรก. IPX/SPXข.โพรโทคอลSNAค. TCP/IPง. NetBEUI 25
4.รูปแบบโครงสรา้ งแบบเอสเอน็ เอ มคี วามหมายว่าอยา่ งไรก.เป็นโปรโตคอลท่ีเหมำะสำหรบั ระบบ เครือขำ่ ยขนำดเลก็ข.ปรบั ปรงุ ประสิทธิภำพของโพรโทคอลจัดกำรระดับตัวอกั ษรค.รัศมีของกำรใชง้ ำนแลนไร้สำยข้นึ กบั ควำมสำมำรถในกำรรบั ส่งสัญญำณของอุปกรณ์ง.เปน็ หนึง่ ในรปู แบบโครงสร้ำงระบบเครอื ข่ำยวงกวำ้ ง5.โพรโทคอล 2.1 ไวไฟหมายถึงอะไรก.รัศมีของกำรใช้งำนแลนไรส้ ำยขน้ึ กับควำมสำมำรถในกำรรับสง่ สญั ญำณของอปุ กรณ์ข.ไวไฟเกดิ จำกกำรรวมกลุ่มของผู้ผลติ อปุ กรณ์แบบไรส้ ำยเพอ่ื ทดสอบว่ำอปุ กรณท์ ผ่ี ลติ ทำงำนไดต้ ำมมำตรฐำนของ IEEEค.เป็นโพรโทคอลทีใ่ ช้คลนื่ วิทยุควำมถ่ี 2.4 GHzง.ผู้ใชง้ ำนในบำ้ นหรือสำนักงำนขนำดเล็กนยิ มใช้6.องค์กรในการกาหนดมาตรฐานในการพัฒนาระบบเครอื ขา่ ย หมายถึงก.ได้รบั กำรพฒั นำข้นึ มำโดยบรษิ ัทไอบีเอม็ ในปี พ.ศ. 2510ข.กำรติดตง้ั ซอฟต์แวร์เครือขำ่ ยไม่ยุ่งยำกซับซ้อนค.ทำหน้ำที่กำหนดมำตรฐำนในเอกสำรหรือบทควำมทำงเทคนคิ บอ่ ยๆง.ผใู้ ชง้ ำนในบำ้ นหรือสำนกั งำนขนำดเลก็ นิยมใช้ 26
7. ANSI หมายถึงอะไรก.เปน็ โพรโทคอลที่ใชค้ ล่ืนวิทยคุ วำมถี่ 2.4 GHzข. IEEE เป็นสมำคมผเู้ ชยี่ วชำญด้ำนเทคนคิ ก่อต้ังเม่อื ปี ค.ศ. 1884ค.กำรตดิ ตง้ั ซอฟตแ์ วร์เครือขำ่ ยไมย่ ุ่งยำกซบั ซอ้ นง. เปน็ องค์กรอำสำสมัครทไ่ี มม่ ผี ลกำไรจำกกำร ดำเนนิ งำน8. IEEE หมายถงึ อะไร กก. IEEE เป็นสมำคมผเู้ ช่ยี วชำญดำ้ นเทคนิค ก่อตงั้ เม่อื ปี ค.ศ. 1884ข.โพรโทคอลSNAค.เปน็ โพรโทคอลท่ใี ชค้ ลน่ื วทิ ยคุ วำมถี่ 2.4 GHzง.โพรโทคอลจดั กำรแบบนับจำนวนไบต์9.ชนั้ ส่อื สารแอปพลเิ คชนั (Application Layer)ก.ทำหนำ้ ทก่ี ำหนดมำตรฐำนในเอกสำรหรือบทควำมทำงเทคนิคบ่อยๆข.เป็นโปรโตคอลทถี่ ูกพฒั นำขน้ึ มำเพอ่ื นำไปใช้ค.กำรตดิ ตัง้ ซอฟต์แวร์เครือขำ่ ยไมย่ งุ่ ยำกซบั ซ้อนง.กำรส่งจดหมำยอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 27
10. สาหรับตน้ ฉบับของแบบจาลองอินเทอร์เนต็ ประกอบดว้ ยก่ชี ั้นส่อื สารก. 4 ชนั้ สอ่ื สำรข. 10 ช้นั สื่อสำรค. 5 ชนั้ สอ่ื สำรง. 15 ช้นั ส่อื สำร เฉลย
1. กฎระเบยี บท่ีใชก้ ำหนดวธิ ีกำรตดิ ต่อสอื่ สำรระหว่ำงอปุ กรณ์2. 9 ชนดิ3. NetBEUI4. เปน็ หน่งึ ในรูปแบบโครงสร้ำงระบบเครือข่ำยวงกวำ้ ง5. ไวไฟเกิดจำกกำรรวมกลมุ่ ของผู้ผลิตอปุ กรณแ์ บบไรส้ ำยเพ่ือทดสอบวำ่ อปุ กรณท์ ่ผี ลิต ทำงำนได้ ตำมมำตรฐำนของ IEEE6. ทำหนำ้ ที่กำหนดมำตรฐำนในเอกสำรหรอื บทควำมทำงเทคนิคบ่อยๆ7. เปน็ องคก์ รอำสำสมคั รท่ไี ม่มผี ลกำไรจำกกำร ดำเนนิ งำน8. เป็นโพรโทคอลทใี่ ช้คล่นื วทิ ยคุ วำมถ่ี 2.4 GHz9. กำรสง่ จดหมำยอิเล็กทรอนกิ ส์10. 4 ชนั้ สอ่ื สำร
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: