กลว้ ย : ผลไมพ้ ื้นๆ ทไี่ ม่ธรรมดา กล้วยในความรับรู้ของคนท่ัวไปเป็นเพียงผลไม้ธรรมดา ราคาไม่แพง นิยม กินกันท่ัวไป มีผลผลิตตลอดปี กล้วยอาจเป็นผลไม้ชนิดแรกที่พวกเรารับประทาน ต้ังแต่เป็นทารก แต่ใครจะนึกบ้างว่าผลไม้ใกล้ตัวที่มีอยู่ท่ัวไปชนิดนี้กลับกลายเป็น ผลไม้ที่เราอาจรู้จักน้อยท่ีสุด ทั้งที่เราได้ใช้ประโยชน์จากกล้วยมากมายหลาย ประการ กล้วย ในภาษาไทยเป็นชื่อเรียกพรรณไม้พวกหน่ึง มีหลายชนิดด้วยกัน เหมือนกับคํา “ปิชัง” ของมาลายูและ “เกงเจียว” ในภาษาจีน ซึ่งเป็นคํากลางใช้ ท่ัวไป เว้นแต่จะมีคําผสมมาประกอบเข้าทําให้เห็นลักษณะเด่นข้ึน เช่น กล้วยมีกล่ิน หอม เป็นกล้วยหอม แต่ถ้ามีท้ังสีทองและสีเขียว จึงได้ช่ือใหม่ กลายเป็นกล้วยหอม ทอง และกล้วยหอมเขียว เป็นต้น สําหรับคํา “ปิชัง” ก็อย่างเดียวกัน เช่น “ปชิ งั มาศ” (ปิชัง = กล้วย, มาศ = ทอง) คือ กล้วยทอง หรือกล้วยไข่ masak hijau (masak = สุก, hijau = เขียว) คอื กล้วยสุกเขยี ว หรอื กลว้ ยหอมเขียว ส่วนคําในภาษาอังกฤษท่ีใช้เรียกกล้วยนั้น มีอยู่ 2 คํา คือ banana และ plantain คําว่า plantain มาจากคําในภาษาสเปน “plantano” และคํา banana เป็นคํา กินีอา ซ่ึงชาวโปรตุเกสนําไปพร้อมกับผล (ไม้) ดังน้ันท้ังสองคําน้ีใช้ในช้ันแรก คงคลุมผล (กล้วย) ของ Musa ทั้งหมด และดูเหมือนในภาษาอังกฤษน้ีเองท่ีนํามาไว้
เคยี งกันแต่ใชแ้ ตกต่างกนั อย่บู า้ งในบางแห่ง โดยถือเอาลักษณะของเน้ือในผลเป็นเกณฑ์ และยารักษาโรค ในแง่ของอาหาร สมุนไพรดังกล่าวสามารถนํามาปรุงเป็นอาหารท่ีให้ และชื่อในทางวิทยาศาสตร์ของกล้วยคือ Musa Sapientum Linn. อยู่ในวงศ์ ประโยชน์แก่ร่างกายในการดํารงชีวิตเนื่องจากมีสารอาหารที่จําเป็นต่อการเจริญเติบโต Musaceae เป็นไม้ล้มลุก มีลําต้นอยู่ใต้ดิน อายุหลายปี ขยายพันธ์ด้วยการแตกหน่อ ของร่างกายอยู่โดยสารเหล่านี้ล้วนมีอยู่ในพืช อาหารสมุนไพรอาจอยู่ในรูปของ หรือแยกเหง้า ไม่ชอบดินท่ีมีนํ้าขัง จะอยู่ในดินร่วนซุยและดินเหนียวท่ีอุ้มน้ําได้ดี คําว่า ธัญญาหารและถั่วตา่ งๆ ผัก ผลไม้ เคร่ืองเทศ และเคร่ืองด่ืมสมนุ ไพร banana และ plantain ที่ใช้แตกต่างกันเป็น 2 อย่างนี้ ปรากฏในหมู่เกาะเวสต์อินดีส และแหลมมลายู สว่ นประเทศอนิ เดียคงใช้เพียงคาํ plantain คําเดียว สําหรับกล้วยเราจะพบสารอาหารสําคัญได้หลายชนิด เช่น benzopyrene, dopamine, epinephrine, tryptamine และ serotonin เป็นต้น โดยผลดิบมีสาร ประโยชน์ของกล้วย สามารถนาํ มาใช้ได้หมดทง้ั ต้น เชน่ แทนนินมาก จึงรักษาอาการท้องเสียและบิด มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะ อาหาร เชื่อว่าเกิดจากการกระตุ้นผนังกระเพาะอาหารให้หล่ังสารเมือกออกมามากขึ้น รากและลําต้นแท้ นํามาทําสมุนไพรใช้รักษาโรคตามแผนโบราณ รักษาผิวหนัง และกระตุ้นให้เนื้อเย่ือของกระเพาะเจริญเติบโตเพื่อปิดแผล เม่ือได้เปรียบเทียบกับยา ทีผ่ ่นื แดง ไฟไหม้ นํ้ารอ้ นลวก หรือนาํ มาต้มแก้กระหายน้าํ ไดอ้ ยา่ งดี รักษาโรคกระเพาะอื่น ๆ ที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ เช่น aluminium hydroxide, cimetidine เป็นต้น สารประเภทน้ีสามารถป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะได้ แต่ไม่ ลําตน้ เทียมหรือกาบลําตน้ ใช้ทําเสน้ ใยทอผ้าหรอื เชือก ทําอาหารสัตว์หรือเป็น สามารถสมานแผลได้เหมือนกล้วย สารที่มีฤทธิ์ต้านแผลในกระเพาะของกล้วยคือ อาหารของคนอีกดว้ ย เช่น หยวกกล้วย sitoindo side I ถึง IV โดยสาร sitoindoside IV หรือ sito sterol – 3 เป็นสารท่ีมี ฤทธ์ิมากท่ีสุด ไม่พบฤทธิ์ต้านการเกิดแผลของกระเพาะอาหารในกล้วยสุก แต่กล้วยสุก กา้ นกล้วย นํามาทําเปน็ เคร่ืองประดิษฐใ์ หเ้ ดก็ เล่น เชน่ ม้าก้านกล้วย มสี รรพคุณเป็นยาระบายสําหรับผู้ทีเ่ ป็นริดสดี วงทวาร หรือผทู้ มี่ ีอุจจาระแขง็ ใบกลว้ ย ใชท้ ํางานประดิษฐ์ เช่น กระทง บายศรี ผลกล้วย ใช้รับประทานได้ทั้งอ่อน แก่และสุก เช่น กล้วยเชื่อม กล้วยบวชชี จะเห็นได้ว่ากล้วยเป็นสมุนไพรที่น่าสนใจ หาได้ง่าย และสามารถนํามา พัฒนาใช้เป็นยาต่อไป โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กลว้ ยฉาบ กลว้ ยตาก สําหรับที่ผลอ่อนๆ หรอื ดบิ ก็ใช้รบั ประทานได้ (วท.) ได้เลง็ เหน็ ถึงความสาํ คัญของผลไม้(กล้วย)ชนดิ นี้ จึงได้ทําการพัฒนาให้ออกมา ปลีกล้วย ทําเป็นเครื่องเคียง เช่น เครื่องเคียงผัดไทย กะปิหลน และยังนํามา ในรูปผลิตภัณฑ์ยาเม็ด ให้ช่ือว่า “แอนคูซิล” ในการรักษาโรคกระเพาะเพ่ือเป็นการ นาํ สมนุ ไพรมาใช้ประโยชน์และทดแทนการนาํ เข้ายาจากต่างประเทศ ปรุงอาหารไดอ้ กี เช่น ยาํ หัวปลี แกงเลียง เป็นต้น จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นแล้วกล้วยยังถือได้ว่าเป็นอาหารสมุนไพรใกล้ตัวท่ี ทั้งราคาถูกและหารับประทานได้ง่ายอีกด้วย รองศาสตราจารย์ ดร. วันดี กฤษณพันธ์ ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าให้ฟังถึงความหมาย ของ “อาหารสมุนไพร” วา่ อาหารสมุนไพร คอื สมนุ ไพรท่ีให้ประโยชน์เป็นทงั้ อาหาร
นอกจากประโยชน์ที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น แล้ว เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน อันเป็นเดือนแห่ง การสืบสานประเพณีลอยกระทงและเป็นวัฒนธรรม ไทย ท่ีมีมาต้ังแต่สมัยสุโขทัย คุณค่าของกล้วยในอีก รูปแบบหนึ่งก็จะปรากฏขึ้น เนื่องจากหลายส่วนของ กล้วย ท้ัง ลําต้น ใบตอง ฯลฯ จะได้รับการนํามา ประดิษฐ์สร้างสรรค์ ให้เป็นกระทงท่ีงดงาม ซึ่ง สําหรับปีน้ี วันลอยกระทง จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 คํ่า เดอื น 12 ตามประเพณดี ้ังเดมิ ของไทยท่มี มี าชา้ นาน ดังนน้ั จะเห็นได้ว่ากล้วย เป็นผลไม้พนื้ ๆ ท่ีไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะมีคุณค่า ท่ีเตม็ เปย่ี มในตนเองและประโยชนท์ ่มี ากมายนน่ั เอง บรรณานกุ รม กุลศริ ิ ช. ศิรปิ ณุ ย์. (ม.ป.ป.). สาระนา่ รู้เรื่องกลว้ ยกล้วย. สืบค้น 8 ตลุ าคม 2557 จาก https://blog.eduzones.com/futurecareer/34527 ประโยชนข์ องกลว้ ย. (ม.ป.ป.). สืบค้น 8 ตุลาคม 2557 จาก http://kanchanapisek.or.th/kp6/sup/book/book.php?book=30&chao=6&page= t30-6-infodetail09.html ศุภิสรา สงิ หภาณพุ งศ.์ (28 มกราคม 2556). เรอ่ื งกลว้ ยๆ. สบื ค้น 9 ตุลาคม 2557 จาก http://bananabananastory.blogspot.com/ อภิสทิ ธิ์ วริ ยิ านนท.์ (2542). กล้วย...ชว่ ยกู้ฐานะเร็วไว : ผลไมแ้ หง่ นักปราชญ.์ กรุงเทพฯ: นา้ํ ฝน. Dan koeppel.(2554). กลว้ ย ไม่ใชเ่ ร่ืองกล้วย...กลว้ ย (ศิรพิ งษ์วทิ ยวโิ รจน,์ ผแู้ ปล). กรงุ เทพฯ: มตชิ น. ชวนพิชญ์ รัตนาไพบลู ย์ กลุ่มงานหอ้ งสมุด สํานักวชิ าการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: