Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุขภาพนักสร้างบารมี

สุขภาพนักสร้างบารมี

Description: สุขภาพนักสร้างบารมี

Search

Read the Text Version

๔. สาเหตุที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุล โครงสร้างของร่างกายเสียสมดุล มีสาเหดุ ๓ ประการ คือ ๔.๑. ถูกแรงกระทบกระแทกจากภายนอก เมื่อร่างกาย ถูกกระทบกระแทกจากภายนอก ทำ ให้[ครงสร้างของร่างกายบิด ผิดรูปไป แมีไม่มากนักแต่ก็เสียความสมดุลไปแล้ว ซึ่งส่งผลให้ มุมการดึงของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืดผิดรูปไปด้วย จึงทำให้ เกิดการดึงด้าง เป็นเหตุให้ระบบการไหลเวียนในบริเวณนั้นทำงาน ไม่สะดวก ตัวอย่างเช๋น เด็กหกล้ม ก้นกระแทกผิดมุมเพียงหน่อย เดียว กล้ามเนื้อก็เกร็ง หรือแมไม่ผิดมุม กล้ามเนื้อก็ซํ้า การที่ กล้ามเนื้อเกร็งก็เพราะด้องการปกป้องตัวเอง อาการเกร็งของ กล้ามเนื้อ นอกจากจะปิดกั้นการไหลเวียนบริเวณนั้นแล้ว ยังปิดกั้น สัญญาณประสาทที่ส่งไปทำงานยังส่วนอื่นอีกด้วย หรือการคลอด โดยปกติเมื่อทารกคลอดจากท้องแม่ ทารกจะค่อยๆ ลีบตัวออกมา ตามธรรมชาติ เมื่อทารกคนไหนคลอดยาก แพทย์จะตัองใช้คีม ดึงออก หรือผ่าท้องออก การคลอดที่มิได้เป็นไปดามธรรมชาติ ล้วน เป็นเหตุให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืด ดึงรั้งผิดปกติไป ทารกที่ คลอดผิดธรรมชาติจึงมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวตั้งแต่เด็ก ๔.๒. ตวเองทำตัวเอง ในชีวิดประจำว้นของคนเรา มักจะมีการใช้ทำทางผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เช่น การนั้งในท่าที่ผิด นั้งหสังโก่ง หสังงอ ไหล่ห่อ คางยื่น เป็นด้น ท่าทางเหล่านื้ล้วน ทำ ให้ร่างกายเสียสมดุล เพราะเป็นเหตุให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืดดึงรั้งก้น ส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายถูกปิดกั้น สภาวะที่ \"ตัวเองทำตัวเอง\" นื้เป็นสาเหตุที่ทำให้[ครงสร้างของ ร่างกายเสียสมดุล ซึ่งคนส่วนมากไม่ทราบหรือไม่สนใจ 13)๔<ร) www.kalyanamitra.org

๔.๓. สองอย่างประกอบกัน หมายถึงสาเหตุทั้งประการ ที่ ๑ และ ๒ มาผสมรวมกัน ที่พบปอยคือ เมื่อภาวะเสียสมตุลของ ร่างกายที่เกิดจากสาเหตุประการที่ ๑ ทำ ให้เกิดการดึงรั้งของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืด แทนที่เจ้าตัวจะคิดแกิใขให้กลับ สู่สภาพปกติตามเดิมตัวยสติปัญญาของตน กลับยอมโอนอ่อน ผ่อนดาม พอใจที่จะอยู่ในท่าผิดปกติเช่นนั้นต่อไป ทำ ให้สาเหตุ ประการที่ ๒ ตัวเองทำตัวเองดามมา ตัวอย่างเช่น เมื่อคนเรามีอาการเคล็ดขัดยอก เนื่องจาก ถูกแรงกระทบกระแทกจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการลื่นหกล้ม หรือเหตุอื่นใดก็ตาม จนทำให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืด ตัานหน้า เกิดการดึงรั้งมาก จึงไม่สามารถนั้งตัวดรงไตั เพราะ ล้านั้งตัวตรงก็จะทำให้รูสึกปวดเมื่อย จึงนั้งหลังงอตามการดึงรั้ง ของกล้ามเนื้อตัานหน้า เพราะเป็นท่านั้งที่ทำให้เจ้าตัวรูสึกสบาย ความรู้สึกสบาย นั้นคือ แรงดึงของกล้ามเนื้อทางด้านหน้าและ ด้านหลังเกิดความสมตุลกันแล้ว ความสมตุลระหว่างแรงดึงของกล้ามเนื้อทางตัานหน้า และตัานหลัง เกิดขึ้นโดยสมองนั้นเอง ที่ส่งสัญญาณสั่งการผ่าน มาทางเส้นประสาท ให้กล้ามเนื้อตัานหลังยืดหยุ่น เพื่อให้เกิด แรงดึงสมตุลกับการดึงรั้งของกล้ามเนื้อตัานหน้า แต่สมองไม่รู้เลย ว่า การสั่งการทำงานเช่นนื้ร่างกายตัองนั้งหลังโก่ง รู้แต่เพียงว่า นั้งสบายแล้ว แต่ทว่าความสบายนั้นเกิดจากท่าทางที่ไม่ถูกตัอง ซึ่งจะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดการดึงรั้งของกล้ามเนื้อในบริเวณอื่นๆ ต่อไปอีก โครงสร่างของร่างกายก็จะเสียสมดลมากขึ้น ๑๔๒ www.kalyanamitra.org

จากสาเหตุดังกล่าว จะเห็นว่า การกระทำของดัวเราเอง เป็นสาเหตุหลัก เพราะถึงแม้ดัวเราจะถูกแรงกระทบกระแทก จากภายนอก แต่ถ้าดัวเราเองรู้จักวิธีแกไข ร่างกายก็ยังสามารถ อยู่ในภาวะที่สมตุลไดั อนึ่ง กระดูกทั้งหลายไม่สามารถเคลื่อนไหวดัวยดัวของ ม้นเองไดั ดังนั้น โครงสร้างของร่างกายจะอยู่ในภาวะสมตุล หรือ จะบิดจะเอียงไปอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับกลัามเนื้อ เส้นเอ็น และ พังผืดที่ยึดโยงกระดูกให้ทำงานไดัอย่างสมตุล ถ้าเรา?เกสั่ง กส้ามเนื้อของเราให้ปฏิบัติให้ถูก ม้นก็จะยึดกระดูกของเราให้ อยู่ในที่ตามปกติ แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลย ไม่ว่ากส้ามเนื้อมัน จะดึงไปทางไหนก็ไม่ใส่ใจ ปล่อยให้ดัวห่อดัวงอไปเรื่อยๆโครงสร้ไง ของร่างกายก็จะเสียสมตุลมากขึ้นเรื่อยๆ สรุปไดัว่า สาเหตุของความเจ็บป่วยหลายๆ โรค มาจาก ดัวเราเอง ดังนั้น เราจึงดัองมีสติควบคุมกำกับการทำงานของ กลัามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืด ให้อยู่ในภาวะสมตุลอยู่เสมอ ร่างกายก็จะอยู่ในภาวะปกติตลอดเวลา ทำ ให้มีสุขภาพร่างกาย สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่ดัองทนทุกข์ทรมานดัวยโรคภัยไข้เจ็บ นานัปการ ๑๔๓ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

บทที่ ๓ ดลยภาพบำบัด การเคลื่อนไหวร่างกายในท่าใดๆ ไม่ว่าการยืน เดิน นั่ง นอน ถ้าจะให'ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล เปีนปกติตามธรรมชาดิ คือ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืดทั่วร่างกายไม่เครียด ไม่เกร็งนั้น ต้อง พยายามรักษาแนวแกนร่างกายให้อยู่ในแนวตรง ตั้งไต้ฉาก กับพื้นผิวโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะเป็นผลให้อรัยวะทั่วร่างกาย สามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ จากข้อมูลในบทที่ ๑ และ ๒ ย่อมเห็นได้ว่า สาเหตุสำคัญ ที่ทำ ให้เกิดความเจ็บป่วย คือ ความเอาแต่ใจตนเองไม'เอาใจใส่ รักษาท่าทางอิริยาบถต่าง ๆ ให้โครงสร้างของร่างกายสมดุล ตามที่ธรรมชาติให้มาปล่อยให้โครงสร้างร่างกายผิดจากแนว แกนปกติปอยๆ ทำ ให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพังผืด ดาม แนวกระดูกสันหลังประสบปัญหาเป็นหล้ก เกิดการเกร็ง การดึงรั้ง ทำ ให้การไหลเวียนไป่ยังเส้นประสาทที่ผ่านออกมาจากไขสันหลัง ร) www.kalyanamitra.org

บกพร่อง การส่งสัญญาณประสาทจึง บกพร่องตามไปด้วย อวัยวะต่างๆ ที่ร้บ สัญญาณประสาทที่บกพร่องนั้น จะส่งผล ให้อวัยวะนั้นๆ ทำ งานผิดปกติ จึงเป็น เหตุให้เกิดโรคต่างๆ ด้งตัวอย่างที่ได้กล่าว มาแล้ว ซึ่งโรคนั้นจะรุนแรงเพียงใด จะ สามารถรักษาให้กสับคืนมาเหมือนปกติ ได้หรือไม่นั้น ก็ขี้นอยู่ก้บระยะเวลาและ ความถี่ หรือจำนวนครั้งที่อวัยวะแต่ละแห่ง ถูกทำลายให้เสื่อมสมรรถภาพลง เมื่อเข้าใจสาระสำคัญตังกล่าวเป็น รูปท ๓-๑ อย่างดีแล้ว เราย่อมได้หลักในการดูแล แนวแกนปกติ รักษาสุขภาพด้วยตนเอง ลำ ด้บต่อมา จึงต้องสิกษาถึงวิธีปฏิบ้ติลันต่อไป ดุลยภาพบำบัด คืออะไร ดุลยภาพบำบัด คื อ วิธีการป้องลันบำบัดรักษาโรค และบำรุงสุขภาพ ด้วยการปรับความสมตุลโครงสร้างของร่างกาย ตุลยภาพบำบัดจึงเป็นกระบวนทัศน1หม่ด้านสุขภาพและการแพทย์ ที่ประยุกต็ใช้ความรู้พื้นฐานทางกายวิภาคและสรีรวิทยา อย่าง ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อป้องกันและรักษาโรคด้วยตนเอง หลักการสำคัญในการป้องลันโรค คือ การให้แนวคิด มุมมอง รวมทั้งวิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบที่เป็นเหตุปัจจัยหลักของ สุขภาพปกติ และสาเหตุเบื้องด้นที่แทัจริงของความเจ็บป่วย ส่วนใหญ่ ดุลยภาพบำบัดจึงเป็นแนวทางนำไปสู่วิธีการใหม่ใน ๑๔๖ www.kalyanamitra.org

การปกป้อง ดูแล ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง สมบูรณ์ ปราศจาก โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ส่วนในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยขึ้นแล้ว กิจะใชวิธีการบำบัด รักษาที่สาเหตุต้นตอของความเจ็บป่วยแต่ละชนิด ต้วยวิธีการที่ สอดคล้องภับกระบวนการธรรมชาติของโครงสร้างของร่างกาย โดยไม่ใข้ยาหรือสารเคมีใดๆ แต่อาศัยการบริหารร่างกายดนเองเป็น หลักสำศัญ ดุลยภาพบำบัดมีวิธีปฏิบัติอย่างไร ตุลยภาพบำบัดมีวิธีป่ฏิบํตที่ทำให้!ครงสร้างของร่างกาย อยู่ในภาวะสมตุลดลอดเวลา ภาวะสมตุลนี้จะเกิดขึ้นไต้ กิต่อเมื่อ มีวิธีปฏิบัติที่ทำให้กล้ามเนื้อ เล้นเอ็น และพังผืดในทุกส่วน ของร่างกาย มีการหดตัวและคลายตัวเป็นปกติ วิธีปฏิบัติดาม หลักตุลยภาพบำบัดนื้ มีองค์ประกอบ ๔ประการ คือ ๑.การระวังรักษาอิริยาบถต่าง ๆ ให้สมดุลตลอดเวลา ไอ. การบริหารจัดโครงสร้างของร่างกายให้สมดุล ๓. การออกกำลังกายเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการ รักษาสมดุล ๔. การผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น เพื่อให้เกิด การไหลเวียนที่ดี การรักษาแบบตุลยภาพบำบัดที่สมบูรณ์ครบถ้วน จะช่วย ให้ระบบและกลไกการทำงานต่างๆ ภายในร่างกาย สามารถ ทำ งานไต้ดามปกติและสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นเหตุให้ ^บการบำบัดมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เบียดเบียนไปจนตลอดอายข้ย ๑๔๗ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

บทที่ ๔ การระวังรักษา ภาวะสมดลของอิริยาบถ การระว้งร้กษาภาวะสมดุลของอิริยาบถ หมายถึง ในการ นั่ง นอน ยืน เดิน วิ่ง ทำ งานหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ต้อง แกต้วเอง ให้มีสติระวังรักษาแนวกระดูกส้นหส้งให้อยู่ในแนว แกนปกติของร่างกายอยู่เสมอ ด้วยการยืดแนวกระดูกส้นหส้ง อย่างถูกริธี การรักษาแนวกระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวแกนปกติ ต้องใช้การยืด ไม่ใช้การดัด เพราะการดัดไม่ว่าจะดัดใหโต้งงอไป ทางใดทางหนึ่งก็ตาม ย่อมทำให้เกิดการปิดกั้นการไหลเวียนของ เลือด นํ้าเหลือง และมีผลทำให้การส่งสัญญาณประสาทบกพร่อง อนึ่ง ดามปกติร่างกายของเราจะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงอยู่ ตลอดเวลา กระดูกสันหลังจึงอยู่ในสภาพเสมือนถูกดึงให้ผิดไป จากแนวแกนปกติของร่างกายอยู่ดลอดเช่นเดียวกัน เราจึงต้อง ต้านแรงโน้มถ่วง ต้วยการยืดแนวกระดูกสันหลังให้กลับคืนสู่แนว www.kalyanamitra.org

แกนปกติของร่างกายเปีนประจำ และติ'องยืดอย่างถูกวิธีอยู่เสมอ ก็จะทำใหโครงสร้างของร่างกายอยู่ในภาวะสมดุลตลอดเวลา ก่อนที่จะพูดถึงการทำใหโครงสร้างของร่างกายอยู่ใน ภาวะสมดุล หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การรักษาภาวะสมดุลของ อิรืยาบถนั้น เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของ กระดูกสันหลัง ซึ่งอยู่ในแนวแกนปกติเสียก่อน กระดูกสนหลงสวนคอ กระดกสันหลังส่วนอก กระดูกสันหลังส่วนเอว กระดูกกระเบนเหน็บ กระดกก้นกบ รูปที่ ๔-๑ โครงสร้างของกระดูกสันหลัง ๑๔๐ www.kalyanamitra.org

โครงสร้างของกระดูกสันหลง แบ่งเป็น ๓ ส่วน ดังนี้ ๑) ส่วนบน ประกอบดัวยกระดูกสันหล้งส่วนคอ จำ นวน ๗ ปล้อง ๒) ส่วนกลาง ประกอบด้วยกระดูกสันหลังส่วนอก{ส่วนที่มี ซี่โครงเกาะ)จำ นวน ๑๒ ปล้อง ๓) ส่วนล่าง ประกอบด้วย กระดูกสันหลังส่วนเอว จำ นวน ๕ ปล้อง รวมถึงกระดูกกระเบนเหน็บ และ กระดกก้นกบด้วย อิริยาบถสมดุลพื้นฐาน อิริยาบถสมดุลพนฐาน หมายถึง ท่าทางที่ทำให้กระลูก- สันหลังแต่ละส่วน ยืดอยู่ในแนวแกนปกติอยู่เสมอ เพื่อรักษาความ สมดุลโครงสร้างของร่างกายไว1ห้ได้ตลอดเวลา มีวิธีปฎิบ้ติด้งนี้ ๑. ยืดตัวขึ้น และดง หน้าท้องให้แฟบเข้าหากระดูก- สันหลังอยู่เสมอ เป็นการทำให้ กระดูกสันหลังส่วนส่าง ตั้งแต่ กระดูกก้นกบ มาจนถึงกระดูก- สันหลังส่วนอกท่อนล่างสุด ยืดดรงอยู่ในแนวแกนปกติของ ร่างกาย เนื่องจากกระดูกสันหลัง ส่วนล่างนี้ถูกควบคุมด้วย กล้ามเนี้อหลังและกล้ามเนี้อท้อง รูปที่ ๔-๒ <ร)(£<ร) www.kalyanamitra.org

เราจึงต้องพยายามยืดต้วขื้น แล้วก็ดึงหน้าท้องให้แฟบเข้าหา กระดูกล้นหลังไว้เสมอ และหายใจเข้าทางจมูกให้ลึกๆ ข้าๆ โดยไม่ทำให้เกิดเสียง เล็งลมหายใจลงไปที่กลางท้อง ให้ทรวงอก ซี่โครง และปอดยืดขยายอย่างเต็มที่ และเมื่อหายใจออก ก็ออก ทางจมูกข้าๆ โดยไม่ทำให้เกิดเสียง การหายใจเช่นนี้จะช่วยให้ แนวกระดกล้นหลังถกยืดอย่างมีประสิทธิภาพ 'ข ๒. ยืดอกขน พร้อมฑั๋งดึง กระดูกสะบักด้านหลังให้รดกัน ที่บริเวณกลางแนวกระดูกสันหลัง เสมอ การทำท่านี้กล้ามเนี้อระหว่าง กระดูกสะบักจะบังลับกระดูกสะบัก ให้เข้าหากัน โดยไม่ต้องยกไหล่ ปล่อยมือทั้งสองลงข้างลำตัว โดย ไม่ต้องเกร็ง ท่านี้จะทำให้กระดูก- ล้นหลังส่วนกลางบริเวณส่วนที่เป็น ทรวงอกถูกยืดขึ้นไต้ตรงที่สุด รูปที่ ๔-๓ ๓. ดึงคางเข้ามารดคอ โดยร้กษาหน้าให้ดั้งตรง ด้าน หลังคอและท้ายทอยยืดตรงขึ้น เป็นการทำให้กล้ามเนี้อคอสามารถ ยืดกระดูกล้นหลังส่วนบน ตั้งแต่ ฐานกะโหลกศีรษะ ลงมาถึงระดับปา ให้ตรงกลับเข้าสู่แนวแกนปกติ ของร่างกายตลอดเวลา รูปที่ ๔-๔ ๑๔๒ www.kalyanamitra.org

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นอิริยาบถสมดุลพื้นฐานทั้ง ๓ประการ ที่กล่าวมานี้ จะเรียกใหม่ว่า \"ท่าพื้นฐาน\" แทนก็ได้ และเพื่อ รักษาท่าพื้นฐานเหล่านี้ใหได้ตลอดเวลา ควรท่องในใจเสมอว่า \"ท้องรดหลัง สะบักชนลัน คางรดตอ\" เราจำเป็นด้องมีสติระรังตนให้รักษาท่าพื้นฐานไว้เสมอ และ 'ฝืกให้เป็นนิสัย ผู้ที่ไม่เคยทำก็มักบอกว่า นี้นเป็นเรื่องผิตธรรมชาติ แต่หารูไม่ว่า คนที่มีสุขภาพดีอยู่เสมอนั้น แนวกระดูกสันหลังของ เขายืตตรงอยู่แล้วโดยไม่รู้ตัว ธรรมชาติสอนให้ทำอย่างนั้น แต่การ ที่คนส่วนใหญ่ยืดไม่ขึ้น ก็เพราะโครงสร้างของร่างกายขาดความ สมดุลนั้นเอง เนื่องจากมีกล้ามเนี้อ เสนเอ็น และพังผืดตรงบริเวณใด บริเวณหนึ่ง ดึงรั้งอยู่แม้เพียงเล็กน้อย ก็ปล่อยดามใจแรงดึงรั้งนั้น โดยไม่ยอมแนแรงดึงเลย ค^นานไปก็ทำให้ผิดปกติทั้วทั้งร่างกาย เราจำเป็นด้องรักษาท่าพื้นฐานไว้เสมอ แต่ทั้งนี้ไม่ได้ หมายความว่า จะด้องควบดุมร่างกายให้แข็งที่อเหมีอนหุ่นอยู่ดลอด เวลา เนึ่องจากท่ายืดพื้นฐานด้งกล่าวยังมีวิธีการสำหร้บปรับท่าทาง บางท่าให้เหมาะสมได้ เช่น แทนที่จะก้มลงไปหยิบของที่พื้น ก็ใข้ วิธีย่อเช่าลงไปหยิบ เมื่อหยิบของได้แล้วก็ยืดตัวขึ้นดรงๆ หรือ เวลาจะดูอะไร เราด้องทำให้กระดูกคอของเรายืด ไม่ใช่ยื่นหน้า ยื่นคางออกไป จนกระดูกคอยัายผิดที่ไปมาก แล้วก็ด้างอยู่อย่างนั้น นานๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาก้บเสันเลือดที่ขึ้นไปเลี้ยงสมอง เป็นด้น การรักษาท่าพื้นฐานดามหลักการที่กล่าวมานี้ เมื่อทำซํ้าๆ ปอยๆ จนเป็นนิสัย ก็จะทำให้[ครงสร้างของร่างกายเกิดความสมดุล อยู่เสมอ ส่งผลให้ร่างกายอยู่ในสภาวะปกติดลอดเวลา ๑๕๓ www.kalyanamitra.org

อิริยาบถในสิวิตประจำวันที่ถูกและผิด 0.ท่านั่งสมาธิ ปฏิบตตามหล้กท่าพื้นฐาน ทั้ง ๓ ประการ ดังที่กล่าวมาแล้ว ข้างดัน วางมือบนดักให้แขนทั้งสองแนบชิดลำดัว ถ้าแขนสั้นไป ควรหาเบาะเบาๆ มารองมือ เพื่อไม่ให้ใหล่ลู่ลงมากไป แม้เวลาผ่อน คลายกล้ามเนื้อหล้งและคอ ต้องตั้งตรง ห้วไหล่ผึ่งผายตลอด รูปที่ ๔-๕ ท่านงสมาธิที่ถูกต้อง ร}(£(Sl www.kalyanamitra.org

รปที่ ๔-๖ ท่านั่งสมาธิที่ผิด (ร)๔๔ www.kalyanamitra.org

๒. ท่านั่งพับเพียบ เก็บปลายเท้าเข้าหาลำตัว ยืดหลังและคอให้ตรง ตัวย ท่าพื้นรุาน รูปที่ ๔-๗ ท่านั่งพับเพียบที่ถูกต้อง ๑๔๖ www.kalyanamitra.org

ร^ รูปที่ ๔-๘ ท่านั่งพับเพียบที่ผิด ๑๕๗ www.kalyanamitra.org

๓. ท่านั่งเทพบุตร ยืดหล้งและคอให้ตรงด้วยท่าพื้นฐาน I- ฟ รูปที่ ๔-๙ ท่านั่งเทพบุตรที่ถูกต้อง (ร)๔๔ www.kalyanamitra.org

รูปที่ ๔-๑๐ ท่านั่งเทพบุตรที่ผิด ๑๔๙ www.kalyanamitra.org

๔. ท่านั่งบนเก้าอี้ ๔.๑. นั่งบนเก้าอี้โดยไม่พิงพนก วางก้นใกล้ขอบหน้า ของที่นั่ง วางเท้าบนพื้นให้แข้งตั้งฉากกับพื้น ให้เท้าทั้งสองข้าง เป็นฐานรับนํ้าหน้กร่วมกับก้นยืดหลังและคอให้ตรงด้วยท่าพื้นฐาน เสมือนพรัอมจะลุกขึ้นยืนได้ท้นที ๔.๒. นั่งพิงพน้ก วางกันให้ชิดกับพน้กก่อน แลัวจึง พิงให้เต็มหลัง ควรเลือกเก้าอี้ที่มืพนักเป็นแผ่นตรง ไม่โค้ง แอ่น หรือโอบรอบหลัง เพราะจะท้าให้โครงสร้างกระดูกลันหลังผิดรูปไป รูปที่ ๔-๑๑ ท่านั่งบนเก้าอี้ที่ถูกด้อง ๑๖๐ www.kalyanamitra.org

รูปที่ ๔-๑๒ ท่านั่งบนเก้าอี้ที่ผิด ๑^๑ www.kalyanamitra.org

๕. ท่านั่งอ่านหนังสือบนโต๊ะ จัดท่านั่งให้กระดูกสันหล้งยดตรง (ดังรายละเอียดในหัวข้อ ท่านั่งบนเก้าอี้) ปรับมุมหนังสือหรือลำดัว เพื่อให้สายตามอง หนังสือได้สบาย โดยที่คอและหสังไม่โค้งหรือแอ่น ๑๖๒ www.kalyanamitra.org

ll^ รูปที่ ๔-๑๓ ท่านั่งอ่านหนังสอที่ถูกต้อง ๑^๓ www.kalyanamitra.org

โ ๑๖๔ www.kalyanamitra.org

รปที่ ๔-๑๔ ท่านั่งอ่านหนังสือที่ผิด ๖.ท่านั่งฃ้บรถ + การม้วนผ้ารองหลัง นั่งให้ก้นชิดพนักพิงตลอดเวลา ปรับเลื่อนที่นั่งให้เท้า สามารถเหยียบคันเร่งและเบรกได้เต็มที่ โดยเข่ายังงออยู่เลกนัอย จ้บพวงมาลัยที่ตำแหน่งเลข ๙ และ ๓ ของนาฬิกา งอข้อศอก พอสบายขณะหลังพิงพนักเต็มที่ ปรับพนักพิงให้ตั้งหรือเอน พอสบายโดยสามารถคงสภาพแขนและขาด้งกล่าวแล้ว หลังด้อง พิงพนักให้เต็มที่ตลอดเวลาที่ข้บรถ ๑๖๔ www.kalyanamitra.org

รูปที่ ๔-๑๕ ท่าขับรถที่ถูกต้อง www.kalyanamitra.org

รปที่ ๔-๑๖ ท่าขับรถที่ผิด ๑๖๗ www.kalyanamitra.org

เนื่องจากพนักพิงของที่นั่งในรถส่วนใหญ่ในปัจจุปัน ถูก ออกแบบใหโค้งและโอบรอบตัว ตามแนวคิดเพิ่มความปลอดภัย เมื่อเกิดอุปัติเหตุ แต่เป็นเหตุให้คนขับและ^ดยสารถูกปังตับ ให้หลังโค้งโก่ง ไหล่ห่อ และทรวงอกถูกบีบรัดอย่างต่อเนื่อง จน โครงสร้างเสียสมตุล เราสามารถแก้ปัญหานี้ให้กระดูกลันหลัง ยืดตรง ทรวงอกขยายและไหล่ผึ่งผาย โดยการใขัผ้าเช็ดตัวผืน ขนาดกลาง ม้วนเป็นแท่ง หรือใช้วัสตุที่มึความอ่อนนุ่ม ทำเป็น แท่งยาว เพื่อหนุนรองตลอดแนวกระดูกลันหลังในขณะนั่งขับ หรือโดยสารรถ รูปที่ ๔-๑๗ การใช้วัสดุรองหลัง ๑^๔ www.kalyanamitra.org

รูปที่ ๔-๑๘ การ■แงขับรถด้วยว้สดุรองหลัง ๑๖๙ www.kalyanamitra.org

๗.ท่ายืน เดิน วิ่ง ยืนให้นํ้าหนักกดลงบนเท้าทั้งสองข้างเท่า ๆ ท้น ยืดหล้ง และคอให้ตรงด้วยท่าพื้นฐาน แม้เวลาเดินหรือวิ่งก็จัดอยู่ใน ท่าพื้นฐานเช่นเดียวท้น รูปที่ ๔-๑๙ ท่ายืนที่ถูกต้อง ๑๗๐ www.kalyanamitra.org

■\"TiS รูปที่ ๔-๒๐ ท่าเดิน - วิ่ง ที่ถูกต้อง ๑๗๑ www.kalyanamitra.org

รูปที่ ๔-๒๑ ท่ายืนที่ผิด ๑๗๒ www.kalyanamitra.org

รูปที่ ๔-๒๒ ท่าเดิน - วิ่ง ที่ผิด ๑๗๓ www.kalyanamitra.org

๘. ท่ายกสิงของที่พื๋น วางเท้าทั้งสองให้เหลื่อมก้น ระยะห่างระหว่างเท้าเท่าก้บ ความกว้างของไหล่ ย่อตัวลงโดยงอเข่าหน้าและคุกเข่าหลังลงไป ให้ เท้าหน้า เข่าหลัง และเท้าหลังประกอบก้นเปีนมุมของสามเหลี่ยม ยืดหลังให้ตรง จับลื่งของให้มนคงโดยให้นํ้าหนักสิ่งของที่จะยกอยู่ ภายในหรือใกลัฐานของสามเหลี่ยมนั้นให้มากที่สุด ยกสิ่งของขื้นด้วย การยืดข้อเข่า ข้อเท้าและข้อสะโพกฃื้น และระจังให้หลังตรงอยู่เสมอ การวางของลงก็ให้ทำในลักษณะเดียวก้น แต่กลับลำตับก้นเท่านั้น รูปที่ ๔-๒๓ ท่าเตรียมพร้อมยกสิ่งของที่พื้นที่ถูกต้อง ๑๗๔ www.kalyanamitra.org

อ รูปที่ ๔-๒๔ ท่ายกสิ่งของที่พนที่ถูกต้อง รปที่ ๔-๒๕ ท่ายกสิ่งของที่พนที่ผิด ๑๗๕ www.kalyanamitra.org

๙. ท่านอนที่ถูกต้อง พยายามนอนหงาย ตัวตรงเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการบิดของ กระดูกส้นหลังลำตัวลำคอและไม่กดทับอวัยวะต่างๆวางแขนแนบ ลำ ตัวหรือกางออกเพียงเล็กน้อย จะวางมือบนทัองหรือหน้าอกก็ไตั นอนบนที่นอนที่แข็ง เช่น ที่นอนที่ยัดแน่นด้วยนุ่น หรือ ใยมะพร้าว เป็นตัน หนุนหมอนที่อ่อนนุ่ม ขนาดไม่สูงใหญ่จนทำให้หน้างุ้ม คางชิตอก หรือขนาดเล็กจนทำให้หน้าหงาย แต่ขนาดให้พอเหมาะ แก่การรองร้บศีรษะและลำคอ ให้อยู่ในแนวตรง หน้าตรง คางชิดคอ ให้คอยืดตรงจากด้านหลัง อาจจะน้าหมอนอีกใบหนึ่งหนุนรองใต้ข้อพับเช่า ให้เข่างอ เล็กน้อย เพื่อช่วยผ่อนคลายแรงดึงของกล้ามเนื้อขา หน้าทัองและหลัง « รปที่ ๔-๒๖ ท่านอนที่ถกต้อง ๑๗๖ www.kalyanamitra.org

V m ,.• .••ไ.น่'*' f '-• jf รูปที่ ๔-๒๗ ท่านอนที่ผิด ๑๗๗ www.kalyanamitra.org

หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่นอนที่อ่อนนุ่ม ยุบตัว จนทำให้ หลังโค้งในเวลานอนได้ ก็อาจจะนำผ้าขนหนูที่ใช้สำหรับเช็ดตัว มาม้วนเป็นแท่งตังภาพ ทำ ให้มีขนาดพอเหมาะพอดีสำหรับ แต่ละคน มาหนุนวางตลอดแนวร่องของกระดูกลันหลังในเวลา นอน โดยปลายช้างที่เป็นแผ่นให้สิ้นสุดอยู่ที่ส่วนเอว จะสามารถ ช่วยทำให้แนวกระดูกลันหลังอยู่ในภาวะสมดุล (ถ้าจะให้ดี ควร วางไวไตัที่นอน หรือผ้าปูที่นอน เพื่อจะไดีไม่เคลี่อนที่ออกจาก แนวเดิม ในขณะที่ทอดกายนอนลง) ๑๗๘ www.kalyanamitra.org

t รปท ๔-๒๘ วิธีม้วนผ้า ถ้าเราสามารถรักษาโครงสรางร่างกายของเรา ให้อยู่ใน ภาวะสมดุลตลอดเวลา ทุกกิจวัตร กิจกรรม ก็เท่ากับว่า เรา รักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรงไปด'วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน ที่ทำ ให้เรามีสุขภาพดีตลอดไป ๑๗๙ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

บทที่ ๕ การบริหาร เพื่อจัดโครงสร้างของร่างกาย การบริหารเพื่อจัดโครงสร้างของร่างกาย คือ การบริหาร ร่างกาย เพื่อจัดการให้โครงสร้างของร่างกายอยู่ในภาวะ สมดุลเสมอ ด้วยตัวของมันเอง เพราะเหตุที่โครงสร้างร่างกาย ของเรา ประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่ยึดโยงกันเพื่อให้เกิดภาวะสมตุล และตามปกติคนเรามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลา นอนหลับ ตังนั้น โอกาสที่โครงสร้างร่างกายของเราจะเสียสมตุล ย่อมเกิดขึ้นได้ดลอดเวลา เราจึงจำเป็นด้องคอยระมัดระวัง โดย การแกกล้ามเนื้อให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกด้อง หรือขณะที่ร่างกาย เคลื่อนไหว กล้ามเนื้อก็ด้องถูกดึงไปในทิศทางที่ถูกด้อง ทั้งนื้ เพื่อควบคุมโครงสร้างของร่างกายให้อยู่ในภาวะสมตุลอยู่เสมอ www.kalyanamitra.org

ทำ ไมต้องบริหารร่างกาย อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นการหายใจให้ถูกต้อง การนั่งให้ตัวตรง และการรักษาอิริยาบถให้อยู่ในท่าพื้นฐาน ต้งที่กล่าวมาแล้วนั้น ถือว่าเป็นการบริหารร่างกายแล้ว แต่เป็นการบริหารร่างกาย เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันและแกไขอาการ บิดเบี้ยวของโครงสร้างร่างกาย ที่ไต้รับแรงกระทบกระแทกจาก ภายนอกอยู่ตลอดเวลา ตังนั้น จึงต้องมีท่าบริหารร่างกายเพื่อ แกกล้ามเนื้อ ให้สามารถรักษาโครงสร้างของร่างกายให้อยู่ใน ภาวะสมดุลให้ใต้ตลอดเวลา แม้เพียงแค่การนอน ก็มีโอกาสทำให้โครงสร้างของ ร่างกายเสียสมดุลไต้แล้ว เพราะขณะที่หลับ เราก็อาจจะนอนบิต ตะแคงบ้าง ตัวงอบ้าง โดยไม่รู้ตัว ตังนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็ควรจัดการให้โครงสร้างของร่างกายกลับสู่ภาวะสมดุล ต้วยการ บริหารร่างกายสักครั้งหนึ่ง การบริหารร่างกาย นอกจากจะเป็นการจัดการให้[ครงสร่าง ของร่างกายกสับสู่ภาวะสมดุลแล้ว ยังเป็นการแกกล้ามเนื้อให้ ไต้เรียนรู้ว่า การเคลื่อนไหวหรีอการถูกดึงรั้งไปในทิศทางใด ผิดหรีอถูกต้อง แต่กัาเราไม่มีท่าบริหารกล้ามเนื้อก็ไม่ถูกแก การบริหารร่างกาย มีวิธีปฏิบัติอย่างไร การบริหารร่างกายที่ดี ควรมีวัตถุประสงค์หสักอยู่ที่การ ปรับสร้างความสมดุลให้แก่ร่างกายและจิตใจ ท่าบริหารต่อไปนื้ นพ.ถาวร กาสมสัน ไต้รับการถ่ายทอดจาก รศ.พญ.ลดาวัลย์ ๑๘๒ www.kalyanamitra.org

สุวรรณกิตติ และได้ปรับปรุงในรายละเอียดโดยอาศัยประสบการณ์ ที่ได้สั่งสมมา อนึ่งในการบริหารร่างกายนั้นไม่ว่าจะกระทำที่ไหน เมื่อใด แต่งกายอย่างไรก็ได้ทั้งสิ้นขอเพียงให้สามารถเคลื่อนไหวในแต่ละท่า ได้สะดวกไม่ติดขัดเป็นใชได้ อีกทั้งด้องมีดวามตั้งใจและเอาใจใส่ ในการบริหารอย่างจริงจังเท่านั้น ก็จะประสบผลดี มีสุขภาพดี อย่างแน่นอน ๑. กายบริหารในท่านั่ง ๑.๑. ท่าเดริยมพร้อม นั้งบนเก็าอี้หรือม้านั้งที่มั่นคง และไม่สูงกว่าระดับเข่า โดยนั้งให้ชิดขอบด้านหน้า ให้ช่วงด้นขาพ้นขอบเก้าอี้ออกมา แขนทั้งสองแนบชิดลำตัว วางมือทั้งสองไว้บนด้นขา หงายฝ่ามือขึ้น วางเท้าเหยียบลงบนพื้น ให้เต็มฝ่าเท้า เท้าทั้งสอง ขนานก้น และขึ้ปลายเท้าดรงไปขัางหน้า สันกระดูกหน้าแข้ง ตั้งฉากกับพื้น แยกเท้าและเข่าออกห่างเท่ากับช่วงกว้างของไหล่ โดยประมาณ (เพื่อให้กล้ามเนื้อจากด้านหน้าไปถึงกระดูกสันหลัง ยืดไดดีขึ้น) รักษาท่าพื้นฐานตลอดเวลา(รายละเอียดด้งกล่าวแล้ว ในบทที่ ๔) www.kalyanamitra.org

หายใจเข้าช้าๆ ให้ลึกมากที่สุด โดยย้งคงรักษาท่านั่ง ข้างต้นไว้ตลอด ให้ทรวงอกขยายไปข้างหน'าและยกขี้น ดึงหน้าห้องให้แฟบ กระดูกสะบักชิดกันตลอดเวลา คางชิดคอ หน้ามองตรง ฃมิบทวาร หายใจออกช้าๆ และผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน โดย ยังคงรักษาท่านั่งข้างต้นไว้ กลืนนํ้าลาย ๑.๒. กายบริหารฑ่าทึ่ ๑ เริ่มในท่าเตรียมพร้อม (รูปที่ ๕-๑) รปที ๕-๑ ท่าเตรียมพร้อม ๑ www.kalyanamitra.org

ยืดตัวเอนไปข้างหน้า โดยงอพับเฉพาะที่ข้อสะโพก ใช้นิ้วชี้ และนิ้วหัวแม่มือ จับรอบกระดูกสะบ้าหัวเข่าโดยให้นิ้วชี้วางขวางใน ร่องใตักระดูกสะบ้า ส่วนนิ้วหัวแม่มือวางขวาง เหนือขอบบนของ กระดูกสะบ้า (รูปที่ ๕-๒) รูปที่ ๕-๒ นิ้วอื่นที่เหลือให้กางออก โดยให้นิ้วก้อยโอบตัานหลง ข้อพับเข่า ๑๘๕ www.kalyanamitra.org

หลังยืดเหยียดขึ้นและเอนไปข้างหน้า แอ่นอก ดันหัวไหล่ ไปด้านหลัง ดึงกระดูกสะปักใหัชิดก้นไว้ที่บริเวณกลางหลัง ดึงคางไหชิดคอ ใหัลำคอและหลังยืดอยู่ในแนวเดึยวก้น(รูปที่ ๕-๓) รูปที่ ๕-๓ หายใจเข้าข้าๆใหลีกมากที่สุด โดยยังคงร้กษาท่านั่งข้างดัน ไว้ตลอด ใหัทรวงอกขยายไปข้างหน้าและยกขึ้น ดึงหน้าท้อง ใหัแฟบ กระดูกสะปักชิดก้นตลอดเวลา คางชิดคอ ขมิบทวาร ถ้าทำถูกดัองจะรูลีกว่า กล้ามเนื้อหลังและคอถูกยืดดึงขึ้น www.kalyanamitra.org

หายใจออกช้าๆ และผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน โดย ยังคงรักษาท่านั่งช้างต้นไว้ กลืนนํ้าลาย ทำซํ้า ๕ ครั้ง โดยไม่จำเปีนต้องทำต่อเนื่องติดๆ กัน แต่พยายามทำแต่ละครั้งให้ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด จบแล้วกลับสู่ ท่าเตรียมพรัอม ๑.๓. กายบริหารท่าที่ ๒ เริ่มในท่าเตรียมพร้อม (รูปที่ ๕-๔) รูปที่ ๕-๔ ๑๘๗ www.kalyanamitra.org

ประสานมือโดยสลับนิ้ว (รูปที่ ๕-๕) พ รูปที่ ๕-๕ พลิกฝ่ามือออกด้านนอกพร้อมทั้งเหยียดแขนออกไปจนสุด ข้อศอกเหยียดตึง นิ้วมือถูกดัดแอ่นออก (รูปที่ ๕-๖) รูปที่ ๕-๖ ร}dca www.kalyanamitra.org

วาดแขนขึ้นเหนือศีรษะ {รปที ๕-๗) ร• รูปที่ ๕-๗ เหยียดแขนขึ้นให้สุดจนกระทั๋งแขนชิดหู สูดหายใจเข้าช้าๆ ต่อเนื่องให้ลึกที่สุดพร้อมกับดึงหน้าห้องให้แฟบเข้าหากระดูกส้นลัง คางชิดคอ หน้ามองดรง ขมิบทวาร(รปที่ ๕-๘) รปที่ ๕-๘ ๑๘๙ www.kalyanamitra.org

หายใจออกช้าๆพร้อมกับค่อยๆลดมือลงมือยังประสานกัน และยังหงายฝ่ามืออยู่ (รูปที่ ๕-๙) รปท ๕-๙ นำ ลงมาพักที่จุดสูงสุดของศีรษะ ตรงกับแนวกระดูกสันหลัง ผ่อนคลาย รักษาท่าพื้นฐานไว้ กลืนนํ้าลาย (รูปที่ ๕-๑o) รปที ๕-๑๐ มือยังประสานและหงายฝ่ามือ พักอยู่บนศีรษะในท่าพนฐาน สูดหายใจเช้าช้าๆ และลึกที่สุด ให้ทรวงอกขยายไปช้างหน้าและยกขึ้น ดึงหน้าท้องให้แฟบ กระดูกสะบักชิดกันตลอดเวลา คางชิดคอ ขมิบทวาร (รปที่ ๕-๑๑) ๑๙๐ www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook