Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปฐมวัย

ปฐมวัย

Description: ปฐมวัย

Keywords: ปฐมวัย

Search

Read the Text Version

การศึกษาของเดก็ ปฐมวัย หัวใจสาคัญของการศึกษา สุรยิ า ฆอ้ งเสนาะ วทิ ยากรชานาญการ กลมุ่ งานบรกิ ารวชิ าการ 3 สานกั วิชาการ เมอื่ การศกึ ษาเป็น เคร่ืองมือสาคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการใหค้ วามสาคญั กับ การพฒั นาการในทุกด้านของชว่ งอายุแรกเกิดจนถึงห้าขวบ หรือวยั กอ่ นเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่หี นึ่งท่ีมักเรยี ก กันว่า “เด็กปฐมวัย” ให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการแล้วก็จะสามารถเติบโตเป็นดีมีคุณภาพ ส่งผลดีต่ออนาคตของสังคมและประเทศชาติด้วย ซึ่งจากข้อมูลของนักเศรษฐศาสตร์ รางวัลโนเบลสาขา เศรษฐศาสตร์ ศ.ดร.เจมส์ เจ เฮกแมน จากมหาวิทยาลัยชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า “การลงทุน พัฒนาเด็กปฐมวัย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าให้ผลตอบแทนแก่สังคมดีท่ีสุดในระยะยาว” โดยคืนผลตอบแทนกลับคืน มาในอนาคตมากถึง 7 เท่า เป็นท้ังการเพิ่มคุณภาพทรัพยากรบุคคลของประเทศ ลดอัตราการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต และองค์การยูนิเซฟซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติซ่ึงมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พัฒนาการสุขภาพ รวมถึงความเป็นอยู่ของแม่และเด็กในประเทศกาลังพัฒนาระบุว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการดูแล อย่างเหมาะสมตามช่วงวัยจะมีทักษะทางกายภาพ ความฉลาดทางด้านสติปัญญา และความฉลาดทางด้านอารมณ์ สูงขึ้นกว่าปกติ และนาไปสู่การมีโอกาสในการเรียนรู้ต่อในระดับที่สูงขึ้น และเป็นแรงงานที่มีคุณภาพมีรายได้สูง สง่ ผลให้อัตราการกอ่ คดีหรอื สรา้ งปญั หาสังคมลดนอ้ ยลงด้วย (อภวิ ฒั น์การเรียนร.ู้ ..สจู่ ดุ เปลย่ี นประเทศไทย, 2557) จากนโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-5 ป)ี ระยะยาว พ.ศ. 2550-2559 ได้ให้ความหมาย ของเด็กปฐมวัยว่า “เด็กปฐมวัย” คือ เด็กต้ังแต่ปฏิสนธิจนถึงอายุ 5 ปี 11 เดือน 29 วัน หรือต่ากว่า 6 ปี การ จัดการการศึกษาน้ันได้แบ่งเป็น 3 รูป แบบคือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อัธยาศัย โดยการจัดการศึกษาปฐมวัย ต้องเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และจัดกระบวนการเรียนรู้ตามความถนัดและ ความสนใจของผู้เรียน เนื่องจากช่วงปฐมวัยเป็นช่วงท่ีมีการพัฒนาการด้านสมอง และการเรียนรู้อย่างรวดเร็วท่ีสุด ดังนั้นจึงถือได้ว่าช่วงปฐมวยั เป็นช่วงวยั ท่ีต้องการการปลูกฝังดูแลเป็นพิเศษ เพื่อจะได้เป็นรากฐานที่สาคัญของการ เรียนรู้ และการพัฒนาตลอดชีวิต ให้เติบโตเป็นเด็กฉลาดและประสบความสาเร็จในชีวิต (การดูแลและการศึกษา เดก็ ปฐมวยั , 2556) แต่จากการติดตามพัฒนาการของเด็กไทยพบว่า มีพัฒนาการที่ล่าช้าท้ังทางด้านสติปัญญา การคิด วิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ ภาษา และการปรับตวั เน่ืองจากขณะน้ีเด็กปฐมวัยได้รับการสนับสนุนที่ไมเ่ หมาะสม กับธรรมชาติของวัย เช่น การที่ผู้ปกครองให้เด็กเรียนกวดวิชาเพ่ือสอบเข้าโรงเรียนชั้นประถมศึกษาท่ีมีช่ือเสียง และอีกปัญหาหน่ึงท่ีสาคญั คือ การที่โรงเรียนในระดับอนุบาลจานวนมากเปิดสอนพิเศษเพ่ิมเติมในช่วงวันหยุดหรือ

2 ปิดเทอม รวมถึงการเร่งเรียน เขียนและอ่านเกินพัฒนาการของเด็ก ซ่ึงเป็นความเข้าใจท่ีคาดเคล่ือนในการจัด การศึกษาปฐมวัย ทาให้การศึกษาปฐมวัยในวันนี้ มุ่งเน้นแต่การท่องจาความรู้ เพื่อสอบแข่งขัน และเน้นเฉพาะ ด้านเนื้อหาสาระมากกว่าการพัฒนาด้านทักษะกระบวนการ ได้แก่ การคิดแก้ปัญหา การตัดสินใจ การให้เหตุผล รวมถึงการขาดการพัฒนาด้านคุณธรรม และคุณลักษณะที่จาเป็นต่อการเรียนรู้การดาเนินชีวิต ส่งผลให้เด็กขาด แรงจูงใจในการเรยี นรู้ ขาดทักษะในการทางานร่วมกับคนอืน่ และขาดทกั ษะความรับผดิ ชอบท้งั ต่อตนเองและผ้อู ื่น (เปิดสถานการณ์เดก็ ปฐมวยั พบปรากฏการณ์เรง่ เรยี นตงั้ แตว่ ัยอนบุ าล, 2557) นอกจากนีข้ ้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2555 ได้สารวจจานวนเดก็ ปฐมวัยที่ มอี ายุ 0-5 ปีมจี านวน 4,585,759 คน ซ่งึ แบง่ ตามการดูแลและการจดั การศึกษาสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลมุ่ คือ กลุม่ เด็กอายุ 0-1 ปี จานวน 1,509,017 คน และกล่มุ เด็กอายุ 2-5 ปี จานวน 3,076,742 คน พบประเด็นท่ี นา่ สนใจดังน้ี - การดูแลเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 0-1 ปี ท่ีได้รับการดูแลเบ้ืองต้นจากครอบครัว ยังขาดการ ส่งเสริมและดูแลอย่างเป็นระบบ เนื่องจากครอบครัวส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในการดูแลเด็ก ปฐมวยั อย่างเหมาะสมตามพฒั นาการ - การเข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษา โดยมีเด็กอายุ 2-5 ปี จานวน 365,506 คน หรือร้อยละ 12 ของเด็กในชว่ ง 2- 5 ปี ยังไมไ่ ด้เรยี นหนงั สือ - ขาดการดูแลที่ดแี ละมีคณุ ภาพ โดยมเี ด็กอายุ 2-5 ปี จานวน 911,111 คน หรือรอ้ ยละ 30 ของ เดก็ ในชว่ งอายุ 2-5 ปี อยูใ่ นการดูแลของศูนย์พัฒนาเด็กเลก็ ที่ไม่ไดม้ าตรฐาน หรอื มมี าตรฐานในระดับขั้นตา่ - ความหลากหลายในการพฒั นาคณุ ภาพศนู ย์เดก็ เลก็ เน่ืองจากในปัจจบุ ันมหี ลายหน่วยงานที่เข้า มาดูแลศูนย์เด็กเล็ก เช่น กรมอนามัย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถ่ิน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างดาเนินงานตามแผนงานของ แต่ละหน่วยงาน ทาให้ไม่มีมาตรฐานกลางในการดูแลและการให้การศึกษาแก่เด็กปฐมวัย (พัฒนาการเด็กปฐมวัย รากแกว้ แห่งชวี ิต, 2557) ปญั หาสาคญั ของการศึกษาปฐมวัย 1. การขาดความร้คู วามเข้าใจของผูป้ กครองในการส่งเสรมิ การเรียนรู้ของเด็กปฐมวยั เนื่องจากผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการท่ีสาคัญตามช่วงวัยของเด็ก จึงมีความ คาดหวังที่ต้องการให้เด็กอ่านออกเขียนได้ จึงส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนท่ีมีระบบการสอนแบบ “เร่งเรียนเขียน อา่ น” นอกจากนี้การใช้ส่ือเทคโนโลยีในการเลี้ยงดูเด็ก เช่น ไอแพต โทรศัพท์มือถือ หรอื โทรทัศน์ ก็มสี ่วนสาคัญที่ ทาให้เด็กมีความบกพร่องในการเรยี นรมู้ ากยิ่งข้ึน 2. การขาดความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องในการจัดการศึกษาปฐมวัยของครู ผู้บริหารและสถานศึกษา การขาดแคลนความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เก่ียวกับการส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาท่ีเหมาะสมกับวั ย

3 จึงทาให้ครูเน้นให้เด็กอ่านเขียนมากกว่าวัย และเน้นการสอนท่ีมีลักษณะให้เด็กท่องจามากกว่าทักษะด้านการคิด การตัดสนิ ใจ ในขณะทผี่ ู้บริหารสถานศึกษาบางส่วนบรหิ ารงานเพ่ือช่ือเสียงของโรงเรียนจงึ เตรียมความพร้อมของเด็ก เพื่อการสอบแข่งขันมากกว่าการศึกษาเพ่ือพัฒนาศักยภาพของเด็ก รวมถึงปัญหาสถานศึกษาไม่สามารถจัดการศึกษา ทีม่ คี ุณภาพอย่างเท่าเทียมและทัว่ ถงึ จงึ ทาใหเ้ กิดการเรยี นเพอื่ สอบเข้าโรงเรียนทีม่ ีชอื่ เสียงตง้ั แต่ระดบั อนุบาล 3. ระบบการผลิตครูปฐมวัย จากค่านิยมของการเข้ารับราชการท่ีมีสวัสดิการที่ดีและมีความมั่นคงในชีวิต จึงเกิดความต้องการเพ่ิมคุณวุฒิด้านการศึกษาของครูให้สูงขึ้น แต่ระบบการผลิตครูในปัจจุบันยังขาดกลไกในการ ติดตามและประเมินคุณภาพ เช่น การเปิดรับครูปฐมวัยจานวนมาก ทาให้อัตราส่วนระหว่างอาจารย์กับจานวน นักศึกษาไม่สอดคล้องกันส่งผลต่อประสิทธิภาพในด้านการเรียนการสอน เนื่องจากกระบวนการพัฒนาครูปฐมวัย ไม่สามารถทาได้ด้วยการบรรยายเท่าน้ัน แต่จาเป็นต้องมีการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยมีอาจารย์ท่ีเช่ียวชาญ ด้านการศึกษาปฐมวัย มาดแู ลอยา่ งใกล้ชดิ 4. การให้ความสาคัญด้านเน้ือหาและการวัดผลมากกว่าการประเมินผลเพ่ือพัฒนาหลักสูตรและการวดั ผล ระดับประถมศึกษาต้อนต้น มุ่งเน้นให้เด็กท่องจา ความรู้จานวนมากไม่สอดคล้องและเช่ือมโยงกับหลักสูตรของ การศึกษาปฐมวัยที่เน้นการส่งเสริมพัฒนาการเด็กโดยคานึงถึงการพัฒนาการในทุกด้านอย่างสมดุล ได้แก่ ด้าน ร่างกาย สติปัญญา สังคม อารมณ์และจิตใจ นอกจากน้ีครูในโรงเรียนอนุบาล และศูนย์เด็กเล็กส่วนใหญ่ เน้นการ วัดผลด้านความจา โดยขาดการประเมินตามสภาพความเป็นจริง รวมถึงหน่วยงานท่ีรับผิดชอบทางด้านการศึกษา ของรัฐ ใช้หลกั เกณฑ์ตดั สนิ มากกวา่ การประเมินเพ่อื พฒั นาผเู้ รยี น ทาใหข้ าดแนวทางในการปรบั ปรุงผเู้ รยี นให้ดขี ้ึน แนวทางการแกไ้ ขปัญหา แบ่งออกเปน็ 3 ส่วนทส่ี าคัญ คือ เดก็ - ขยายโอกาสทางการศึกษาปฐมวัยใหท้ ัว่ ถงึ ครอบคลมุ แก่เด็กทุกคนเพ่ือให้ได้รบั โอกาสในการ พฒั นาอย่างเท่าเทียมตามศักยภาพของเดก็ - จดั การเรียนรูแ้ กเ่ ด็กปฐมวยั ใหส้ อดคล้องกบั ธรรมชาตติ ามวัย โดยมงุ่ เน้นการเลน่ และเรียนรู้ตาม ธรรมชาติที่อยรู่ อบตวั จัดสภาพแวดล้อมทส่ี นับสนนุ การเรยี น เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กเกดิ การเรยี นรู้ - เพิม่ งบประมาณในด้านส่งเสริมการเรยี นรู้ของเด็ก โดยครอบคลมุ เด็กทุกวัยทุกคน และเพ่มิ เตมิ ให้กบั กลมุ่ เด็กปฐมวัยท่ดี ้อยโอกาส เช่น เด็กยากจน เด็กพิการ เดก็ ออทสิ ตกิ เปน็ ตน้ ครอบครัว - เผยแพร่ความรู้ให้สาธารณชนและสังคมมีความเข้าใจถงึ ความสาคญั ของการพฒั นาเด็กปฐมวัย เพื่อใหเ้ ดก็ ไทยไดร้ ับการพัฒนาและเติบโตอย่างมีคณุ ภาพ - ใหก้ ารศึกษากบั พ่อแม่ เพอื่ เตรียมความพร้อมในการมบี ตุ รและดแู ลสง่ เสริมพัฒนาการของเด็ก ปฐมวยั

4 - การให้ความช่วยเหลอื สนบั สนุน ปู่ ยา่ ตา ยาย ซ่งึ เป็นผู้ดแู ลหลกั แก่เด็กปฐมวยั ในชนบทให้ ได้รับการอบรมเล้ียงดูทเี่ หมาะสม เช่น การใหค้ วามรู้ในการเลี้ยงดเู ด็ก การสนับสนุนคา่ เลีย้ งดู เป็นต้น ระบบการศึกษา - รัฐตอ้ งกาหนดเป้าหมาย นโยบาย และหลกั สตู รให้ชัดเจน สาหรับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้ เหมาะสมและต่อเนอ่ื งท้งั ในระดับอนบุ าล ประถมศึกษา และมธั ยมศึกษา - จัดสรรงบประมาณใหเ้ พยี งพอ และทัดเทยี มกันทั้งในสถานศกึ ษาของรัฐ และเอกชน - พฒั นาเช่อื มโยงรอยต่อของแตล่ ะชว่ งวยั ทเ่ี ริม่ ตน้ จากบา้ น ศูนยด์ ูแลเด็กเลก็ โรงเรียนอนุบาล จนถงึ ชั้นประถมศึกษา - สร้างเครือข่ายบุคลากรทางการศกึ ษาปฐมวัยและประถมศึกษาในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแบง่ ปันขอ้ มลู ในการดูแลและพัฒนาคุณภาพเดก็ ปฐมวัยอยา่ งท่ัวถึง บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะของผูศ้ กึ ษา การพัฒนาเด็กปฐมวัยมีความสาคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมองของเด็กได้รบั การสร้างและพัฒนาอย่าง รวดเร็ว การพัฒนาเด็กในช่วงน้ีจะเป็นรากฐานสาคัญของการเรียนรู้ และการพัฒนาตลอดชีวิต ซึ่งถ้าเราปล่อยให้ เวลาอันมคี ่าน้ีผ่านไปโดยเปลา่ ประโยชน์ กจ็ ะไม่สามารถเรยี กกลับคืนมาได้ เพราะการพฒั นาทักษะด้านต่าง ๆ ของ มนษุ ย์จะเกดิ ขึ้นอย่างเต็มทใี่ นชว่ งปฐมวัยเท่านนั้ ดังน้ัน หลักสูตรการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยน้ีควรเป็นไปตามหลักวิชาการอนุบาล ไม่ใช่การจัดการ เรียนการสอนตามใจครูหรือผู้ปกครองที่เชื่อม่ันว่าการอ่านออกเขียนได้ของเด็กสาคัญกว่าการที่พวกเขาได้เรียนรู้ อย่างชาญฉลาด เพ่ือพัฒนาให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างสมอง สายตา และใช้มือเขียนเส้น รู้จักสีและอุปกรณ์ ในลักษณะต่าง ๆ กจ็ ะทาให้เติบโตและเรียนเรือ่ งของการเขียน การอา่ น และการคิดเลขตอ่ ไปได้เร็วขึ้น ท้ังจะสร้าง ทักษะการคิดวิเคราะห์ให้เด็กได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ีหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมท้ังภาค ประชาชน ระบบการผลิตครู หลักสูตรการศึกษาและระบบการประเมินผลเพ่ือการพัฒนาเด็กปฐมวัยต้องมีส่วน รว่ มกันในการจัดการศึกษาปฐมวัย เพ่ือสร้างอนาคตที่สดใสและมั่นคงให้แก่สังคมไทย ดังวลีท่ีว่า “เด็กในวันนี้ คือ ผู้ใหญใ่ นวันหน้า”

บรรณานุกรม การดแู ลและการศกึ ษาเด็กปฐมวยั สบื ค้น 2 ตลุ าคม 2558 จาก http : admin.e-library.onecapps.org/Book/1233.pdf ปฐมวัย : รากฐานสาคัญของการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ สืบค้น 6 ตุลาคม 2558 จาก https://www.dropbox.com/s/2i1twj9b072mi20/N_factsheet%20%E0%B8%9B%E0%B8%90% E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf?dl=0 เปิดสถานการณ์เด็กปฐมวัย พบปรากฏการณเ์ ร่งเรียนตัง้ แต่วัยอนุบาล สบื ค้น 4 ตุลาคม 2558 จาก http : qlf.or.th/Home/Contents/1009 พฒั นาการเดก็ ปฐมวัย รากแกว้ แห่งชีวิต สบื คน้ 5 ตุลาคม 2558 จาก http :resource.thaihealth.or.th/library/academic/14447 อภิวฒั น์การเรียนร้.ู ..สจู่ ดุ เปลีย่ นประเทศไทย สืบค้น 1 ตุลาคม 2558 จาก http :apps.glf.or.th/member/Uploadfiles/prefix-08082557-012350-fc1915.pdf


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook