หน่วยท่ี 2 ววิ ฒั นาการหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั อ.ศจมี าศ พลู ทรัพย์ วทิ ยาลัยชุมชนระนอง
ววิ ฒั นาการของการศึกษาปฐมวยั ในประเทศไทย ววิ ฒั นาการของการศึกษาปฐมวยั ในประเทศไทย แบ่งเป็ น 5 ระยะ คือ 1. การจดั การศึกษาปฐมวยั ก่อนมีระบบโรงเรียน 2. การจดั การศึกษาปฐมวยั สมยั สมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั 3. การจดั การศึกษาปฐมวยั สมยั มีระบบโรงเรียน 4. การจดั การศึกษาปฐมวยั สมยั ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 5. การจดั การศึกษาปฐมวยั หลงั เปล่ียนแปลงการปกครอง
1. การจัดการศึกษาปฐมวยั ก่อนมีระบบโรงเรียน สมยั สุโขทยั – สมยั รัตนโกสินทร์ (ร.5) ไม่มีโรงเรียนสาหรับเรียนโดยเฉพาะ ไม่มีหลกั สูตร ไม่มีการกาหนดเวลาเรียน ไม่มีการวดั ผล รัฐมอบใหว้ ดั จดั การศึกษา จดั ตามประเภทของเดก็ ไดแ้ ก่ สาหรับเจา้ นายเช้ือพระวงศ,์ สาหรับบุคคลที่มี ฐานะดี, สาหรับบุคคลธรรมดาที่พอ่ แม่มีฐานะยากจน
2. การจดั การศึกษาปฐมวยั สมัยสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั พ.ศ.2435 จดั ต้งั โรงเรียนราชกมุ าร และพ.ศ.2436 จดั ต้งั โรงเรียนราชกมุ ารี เพ่อื เป็นสถานศึกษาของสมเดจ็ พระเจา้ ลูกยาเธอ ท่ียงั ทรงพระเยาว์ สร้างสถานรับเล้ียงเดก็ โดยพระอคั รชายาเธอพระองคเ์ จา้ สายสวลีภิรมย์ กรมขนุ สุทธาสินีนาฏ เพ่ือเล้ียงดูเดก็ กาพร้า เดก็ ยากจน และเดก็ จนจดั ใหป้ ลอดภยั จาก อนั ตราย
3. การจดั การศึกษาปฐมวยั สมัยมีระบบโรงเรียน จดั การศึกษาในรูปของโรงเรียนมูลศึกษา เนน้ อ่าน เขียนและคิดเลขเป็นหลกั จดั ในโรงเรียนประถมศึกษา เพอื่ เตรียมเขา้ เรียนช้นั ประถมศึกษา ไม่มีหลกั สูตร ไม่มีระเบียบการสอน
4. การจดั การศึกษาปฐมวยั สมัยก่อนการเปลย่ี นแปลงการปกครอง ไดม้ ีการเผยแพร่ขยายแนวความคิดในการจดั การศึกษาปฐมวยั ตามแบบตะวนั ตก ของเฟรอเบลและมอนเตสซอรี่ เขา้ มาในประเทศไทยเป็นคร้ังแรกและจากการน้ี ไดก้ ่อใหเ้ กิดการศึกษาในรูปแบบ \"อนุบาล\" ปลายสมยั ร.5 จดั ต้งั โรงเรียนอนุบาล ตามแนวคิดของเฟรอเบลและมอนเตสซอร่ี ในโรงเรียนเอกชน 3 แห่ง ไดแ้ ก่ วฒั นาวทิ ยาลยั ราชินี มาแตร์เดอี
5. การจดั การศึกษาปฐมวยั หลงั เปลย่ี นแปลงการปกครอง รัฐส่งบุคลากรไปดูงานดา้ นการศึกษาอนุบาลต่างประเทศไดน้ าแนวคิดมาจดั ต้งั โรงเรียนอนุบาลของรัฐในปี พ.ศ. 2483 คือ โรงเรียนอนุบาลลอออุทิศ ซ่ึงยดึ แนว การสอนแบบมอนเตสซอรี่ พ.ศ.2540 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศใช้ หลกั สูตรก่อนประถมศึกษา พ.ศ.2540 เป็นหลกั สูตรฉบับแรกของประเทศไทย
สาหรับหลกั สูตรระดบั ปฐมวยั มีการประกาศใชเ้ ป็นคร้ังแรกในปี พ.ศ. 2489 มาจนถึงปัจจุบนั ซ่ึงสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 5 ช่วง คือ 1) ช่วง พ.ศ. 2489 - 2493 หลกั สูตรท่ีใชค้ ือ แนวการเตรียมการจดั อนุบาลศึกษา กาหนดหลกั สูตรไว้ 2 ปี วชิ าท่ีเรียนไดแ้ ก่ หนา้ ที่พลเมือง และ ศีลธรรม การเล่นฝึกเชาวน์ ภาษาไทย เลขคณิต ความรู้เร่ืองเมืองไทย วาด เขียนและการฝีมือ ขบั ร้อง สุขศึกษา 2) ช่วง พ.ศ. 2494 - 2502 หลกั สูตรคลา้ ยคลึงกบั หลกั สูตรในช่วงปี พ.ศ. 2489 - 2493 โดยกาหนดใหเ้ รียนวชิ าต่อไปน้ี คือ หนา้ ที่พลเมืองและ ศีลธรรม ภูมิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ ธรรมชาติศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา ขบั ร้องเพลง ดนตรี วาดเขียนและการฝีมือ
3) ช่วง พ.ศ. 2503 - 2519 หลกั สูตรฉบบั น้ีเป็นการเรียนการสอน โดยแยกเป็นรายวชิ าท้งั สิ้น 7 รายวชิ า ไดแ้ ก่ ไทย เลขคณิต พลานามยั ธ ร ร ม ช า ติ ศึ ก ษ า สั ง ค ม ศึ ก ษ า ศิ ล ป ศึ ก ษ า ขับ ร้ อ ง แ ล ะ ด น ต รี 4) ช่วง พ.ศ. 2520 - 2534 มีการประกาศใชแ้ ผนการศึกษาชาติ 2520 มีการประกาศใชร้ ะเบียบการจดั ช้นั เดก็ เลก็ และในแผนการศึกษาชาติฉบบั น้ี ไดม้ ีการกลา่ วถึงการศึกษาปฐมวยั ไวอ้ ยา่ งชดั เจน โดยใชช้ ื่อวา่ \"ระดบั ก่อน ประถมศึกษา\" ซ่ึงเป็นการศึกษาท่ีมุ่งอบรมเล้ียงดูเดก็ ก่อนการศึกษาภาค บงั คบั เพ่อื เตรียมเดก็ ใหม้ ีความพร้อมทุกดา้ น โดยมุ่งจดั ประสบการณ์การ เรียนการสอนเป็นมวลประสบการณ์ 3 กลุ่ม คือ เตรียมสร้างเสริมทกั ษะ ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ เตรียมสร้างเสริมประสบการณ์ และเตรียมสร้าง เสริมลกั ษณะนิสยั
รูปแบบการศึกษาปฐมวยั ในประเทศไทย จากแนวการจดั การศึกษา แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ปี พ.ศ.2520 รัฐ ส่งเสริมและสนบั สนุนใหเ้ อกชนจดั การศึกษาระดบั ปฐมวยั โดยแบ่ง เบาภาระของการจดั การศึกษาของรัฐส่วนหน่ึง และรัฐรับผดิ ชอบการ จดั บริการศูนยเ์ ดก็ ปฐมวยั ส่วนหน่ึง ซ่ึงแบ่งการศึกษาออกเป็น 3 รูปแบบ ดงั น้ี 1. สถานบริบาลทารก รับเดก็ อายแุ รกเกิด – 2 ขวบ เพอ่ื แบ่งเบา ภาระของผปู้ กครองท่ีตอ้ งออกไปประกอบอาชีพ ดูแลเร่ืองอาหารและ สุขภาพและอนามยั การฝึกหดั การบริหารร่างกาย การส่งเสริม พฒั นาการดา้ นสติปัญญา
2. ศูนย์เลยี้ งเดก็ (Child Care Center) รับเดก็ ต้งั แต่อายุ 2-6 ขวบ ท้งั ภาครัฐและเอกชนช่วยกนั จดั เพ่ือช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผปู้ กครองและ ส่งเสริมพฒั นาการท้งั ทางร่างกายและจิตใจเดก็ กิจกรรมที่จดั จะมุ่งเร่ือง โภชนาการ สุขภาพอนามยั และการฝึกสุขนิสยั ต่างๆ การส่งเสริมทางร่างกาย และสติปัญญา 3. โรงเรียนอนุบาล (Kindergarten) รับเด็กอายุ 3-6 ปี เพื่อเตรียมความ พร้อมทางวชิ าการ ร่างกาย จิตใจ ที่เขา้ เรียนช้นั ป.1
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 กบั การจดั การศึกษาปฐมวยั การจดั การศึกษาเป็นการจดั การศึกษาตลอดชีวิต บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกนั ในการรับการศึกษาข้นั พ้ืนฐานไม่นอ้ ยกวา่ 12 ปี ท่ีรัฐตอ้ งจดั ใหท้ ว่ั ถึง มีคุณภาพโดยไม่เกบ็ ค่าใชจ้ ่าย โดยใหท้ ุกส่วนของสังคมมี ส่วนร่วมในการจดั การศึกษาปฐมวยั แนวการจัดการศึกษา 1. จดั เน้ือหาสาระและกิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั ความสนใจ และความถนดั ของ ผเู้ รียน โดยคานึงถึงความแตกต่างระหวา่ งบุคคล 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการคิด การจดั การ การเผชิญสถานการณ์และการประยกุ ต์ ความรู้มาใชเ้ พ่อื ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา
3. จดั กิจกรรมใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบตั ิใหท้ าได้ คิด เป็น ทาเป็น รักการอ่าน และเกิดการใฝ่ รู้ 4. จดั การเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ดา้ นตา่ งๆ อยา่ งไดส้ ัดส่วน สมดุลกนั รวมท้งั ปลูกฝังคุณธรรม คา่ นิยมที่ดีงาม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ไวใ้ นทุกวชิ า 5. สนบั สนุนใหผ้ สู้ อนสามารถจดั บรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม ส่ือการเรียน และ อานวยความสะดวก เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรอบรู้ รวมท้งั สามารถ ใชก้ ารวจิ ยั เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการเรียนรู้ ท้งั น้ีผสู้ อน 6. จดั การเรียนรู้ใหเ้ กิดข้ึนทุกเวลา ทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกบั บิดา มารดา ผปู้ กครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่ าย เพ่ือร่วมกนั พฒั นาผเู้ รียนตาม ศกั ยภาพ
รูปแบบการจัดการศึกษา รูปแบบการจดั การศึกษาปฐมวยั ทาได้ 3 รูปแบบ คือ 1. การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาท่ีกาหนดจุดมุ่งหมาย วธิ ีการศึกษา หลกั สูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวดั และประเมินผล ซ่ึงเป็นเง่ือนไขของการสาเร็จ การศึกษาท่ีแน่นอน 2. การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยดื หยนุ่ ในการกาหนดจุดมงุ่ หมาย รูปแบบ วิธีการจดั การศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวดั และประเมินผล โดย เน้ือหาและหลกั สูตรจะตอ้ งมีความเหมาะสมกบั สภาพปัญหาและความตอ้ งการของ บุคคลแตล่ ะกลุม่ 3. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาท่ีใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนดว้ ยตนเองตามความ สนใจ สังคม สภาพแวดลอ้ ม ส่ือ หรือแหล่งความรู้อื่นๆ
สภาพปัจจุบัน และปัญหาของการจัดการศึกษาปฐมวยั ในประเทศไทย อตั ราการตายของทารกแรกเกิดสูงถึงปี ละ 40,000 คน เดก็ ไทยกวา่ 500,000 คน ที่เกิดมาพร้อมกบั ความพิการบางอยา่ ง มีเพียงร้อยละ 10 ท่ี ไดร้ ับการพฒั นาอยา่ งถูกตอ้ ง การกระจายโอกาสทางการศึกษาแก่เดก็ วยั 3- 5 ขวบยงั ไม่ทว่ั ถึง คุณภาพการศึกษา การวดั ความพร้อมของพฒั นาการดา้ นสติปัญญายงั อยใู่ นเกณฑต์ ่า ปัญหาการถูกทอดทิ้งและทารุณกรรม ครอบครัวแตกแยก โรคติดเช้ือที่ไดร้ ับจากพอ่ แม่ เช่น โรคเอดส์ คุณภาพและมาตรฐานของสถานรับเล้ียงเดก็ ขาดเกณฑม์ าตรฐานในการยดึ ถือปฏิบตั ิ
แนวโน้มของการจัดการศึกษาปฐมวยั ในอนาคต การจดั การศึกษาปฐมวยั ในอนาคตควรมีการขยายการจดั บริการเพื่อใหเ้ ดก็ ทุกคนมี โอกาสไดร้ ับการบริการอยา่ งทวั่ ถึง พฒั นาสุขภาพและสมองของเดก็ โดยการปฏิรูปการศึกษาต้งั แตอ่ ยใู่ นครรภ์ ใหค้ วามสาคญั กบั คุณภาพของครูและพ่เี ล้ียงเดก็ ท่ีมีความรู้ความเขา้ ใจ และความ ต้งั ใจในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ส่งเสริมใหม้ ีการทาวจิ ยั ในช้นั เรียนอยา่ งตอ่ เน่ืองสม่าเสมอ เกี่ยวกบั การพฒั นา หลกั สูตร การเรียนการสอน และวธิ ีการสอนที่เหมาะสมสาหรับเดก็ ส่งเสริมใหช้ ุมชนมีส่วนร่วม ในรูปแบบของจดั ต้งั คณะกรรมการโรงเรียน รัฐควรมีมาตรการในการใหค้ วามช่วยเหลือแก่แม่ท่ีมีปัญหาพิเศษบางกลุ่ม
รัฐควรมีมาตรการคุม้ ครองเดก็ ที่มีปัญหา เช่น เดก็ ถูกทารุณกรรม ส่งเสริมและเปิ ดโอกาสใหเ้ ดก็ ไดม้ ีโอกาสเรียนรู้จากระบบส่ือสารใหม้ ากข้ึน เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนแ์ ก่ส่วนรวม ฝึกการคิดแบบมีวิจารณญาณ มุ่งพฒั นาจิตสานึกของพอ่ แม่ในการเล้ียงดูลูกใหม้ ากข้ึน และการใหก้ ารศึกษา แก่ผสู้ ูงอายใุ นการเล้ียงดูเดก็
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: