Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความสำคัญของวิทยาศาสตร์และ10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

ความสำคัญของวิทยาศาสตร์และ10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

Description: ความสำคัญของวิทยาศาสตร์และ10 สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

Search

Read the Text Version

10 สุดยอดนกั วทิ ยาศาสตร์ผยู้ ง่ิ ใหญ่ขอองลกก

คำนำ หนังสื อเ ก่ ม น้ี จัด ท า ขอ้ึ นเ พื่อเป็ นเ อกส า ร ปร ะกอบบ ทเ รี ยนออนไกน์แ บบปฏิ สัม พันธ์ วิชานวัตกรรมแกะเทคลนลกยีสารสนเทศเพ่ือการส่ื อสารการศึกษาแกะการเรี ยนรู้ (DTED.1204) ลดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อให้ผูเ้ รียนมีความรู้ ความเขอา้ ใจเกี่ยวกบั ความสาคญั ขอองวิทยาศาสตร์ แกะ10 สุดยอด นกั วิทยาศาสตร์ผยู้ ง่ิ ใหญข่ อองลกก อาทิ อริสลตเติก (Aristotle), อาร์คิมิดีส (Archimedes), ชากส์ ดาร์ วิน (Charles Darwin), หกุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) ทอมสั เอดิสัน (Thomas Edison), มารี คูรี (Marie Curie), นิลคกา เทสกา (Nikola Tesla), กากิเกลอ กากิเกอี (Galileo Galilei), อกั เบิร์ต ไอนส์ ไตน์ (Albert Einstein) แกะไอแซก นิวตนั (Isaac Newton) อญั กาญจน์ สง่าผาสุขอ

ควำมสำคญั ของวทิ ยำศำสตร์ นบั ตงั้ แตโ่ ลกของเราไดเ้ รียนรูเ้ ร่ืองราวของวิทยาศาสตรน์ ่นั ทาให้ ทกุ คนไดเ้ ขา้ ใจว่าแทจ้ ริงแลว้ วิทยาศาสตรเ์ ป็นส่ิงสาคญั ต่อโลกใบนีอ้ ย่าง มาก มีเร่ืองราวต่าง ๆ มากมายท่ีเราจาเป็นต้องพ่ึงพาวิทยาศาส ตร์ ในการคน้ ควา้ หาคาตอบ นักวิทยาศาสตรจ์ านวนมากไดท้ ุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทง้ั หมด เพ่ือพยายามสรา้ งสรรคส์ ่ิงดีท่ีสดุ ขนึ้ มาให้กบั มนษุ ยท์ กุ คน ปฏิเสธไม่ได้ว่าย่ิงเวลาผ่านมายาวนานแค่ไหน หากไม่มีวิทยาศาสตร์ โลกของเราเองก็คงไม่ได้พัฒนามาไกลแบบนี้ ดังน้ันความสาคัญของ วิทยาศาสตรจ์ งึ มีหลากหลายดา้ นทีเดียว

ควำมสำคญั ของวทิ ยำศำสตร์ • ช่วยพฒั นาความเป็นอยขู่ อองมนุษยใ์ หด้ ีขอ้ึน – ความสาคญั ขออ้ แรกน้ีตอ้ งยอมรับวา่ นบั ต้งั แต่ลกกไดก้ ่อกาเนิดนกั วทิ ยาศาสตร์ คนแรกขอ้ึนมามนั กส็ ร้างความสะดวกสบายใหก้ บั มนุษยเ์ ราแบบไม่หยดุ ย้งั จริง ๆ สิ่งต่าง ๆ รอบตวั เราที่เกิดขอ้ึนแทบท้งั หมดกว้ นมา จากวิทยาศาสตร์ท้งั สิ้น ยกตวั อย่างง่ายๆ อาทิ ไฟฟ้า หกอดไฟ เครื่องบิน รถยนต์ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าต่าง ๆ เป็ นตน้ หากไม่มีส่ิงที่ เรียกวา่ วทิ ยาศาสตร์ก็คงไม่มีสิ่งอานวยความสะดวกตา่ ง ๆ เหก่าน้ีใหเ้ ราไดใ้ ชง้ านกนั อยา่ งแน่นอน • เป็นแหกง่ ความรู้ในดา้ นขออ้ เทจ็ จริง การศึกษาเกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์กค็ ือการศึกษาในดา้ นความเป็นจริงบนลกกวา่ สิ่งตา่ ง ๆ ท่ีเกิดขอ้ึนมาไดอ้ ยา่ งไร เช่น การศึกษาเร่ืองขอองแรงลนม้ ถ่วง การศึกษาในดา้ นระบบสุริยะจกั รวาก เป็นตน้ สิ่งเหก่าน้ีในอดีตมนุษย์ อาจยงั ไมร่ ู้จกั มาก่อนกระทงั่ เม่ือมีวทิ ยาศาสตร์เขอา้ มาก็ทาใหเ้ ราไดเ้ ขอา้ ใจกบั ขออ้ เทจ็ จริงขอองเร่ืองราวมากมายบนลกกใบน้ี • ช่วยพฒั นาทางดา้ นเศรษฐกิจ เม่ือวทิ ยาศาสตร์กกายเป็นส่ิงท่ีเราพบเจอไดใ้ นชีวติ ประจาวนั นน่ั หมายถึงการคิดคน้ หกาย ๆ ดา้ นสามารถขอบั เคกื่อนเศรษฐกิจให้กา้ วไปขอา้ งหนา้ ไดแ้ บบไม่หยดุ ย้งั เช่น การพฒั นาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เพ่ือนาออกสู่ตกาดลกก การผกิตคิดคน้ ตวั ยาต่าง ๆ การคิดคน้ เกี่ยวกบั การเกษตร เป็ นตน้ ส่ิงเหก่าน้ีช่วยให้ระบบเศรษฐกิจขอองแต่กะประเทศเดินหนา้ ได้ อยา่ งมีเสถียรภาพ เพราะผกผกิตที่วทิ ยาศาสตร์มีส่วนร่วม

ควำมสำคญั ของวทิ ยำศำสตร์ • ใชส้ าหรับการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ บนลกกใบน้ีมีปัญหาตา่ ง ๆ เกิดขอ้ึนมากมายท้งั ปัญหาที่มีทางแกไ้ ขอในตวั เอง หรือปัญหาท่ีตอ้ งใชเ้ หตุผกเขอา้ มาเป็นตวั ช้ีวดั ในเม่ือวทิ ยาศาสตร์เป็นการศึกษาดา้ นขอองเหตุแกะผก มีสมเหมุตานต่าง ๆ มารองรับ ชดั เจน ทาให้การแกป้ ัญหาหกาย ๆ ดา้ นวิทยาศาสตร์สามารถตอบลจทยไ์ ดอ้ ยา่ งแม่นยา เท่ียงตรง มีแหก่งขออ้ มูกอา้ งอิงชดั เจน เช่น เร่ืองขอองฝนตกในอดีตเราไมร่ ู้เกิดจากอะไร แต่เม่ือมีวทิ ยาศาสตร์เขอา้ มาทาใหเ้ ขอา้ ใจเหตุแกะผกขอองมนั เป็นตน้ • สร้างจินตนาการใหม่ ๆ ใหเ้ กิดขอ้ึนตกอดเวกา เมื่อคนเราอยากรู้เรื่องราวอะไรก็จะใชว้ ทิ ยาศาสตร์เป็นตวั ช่วย ในการคน้ ควา้ ขออ้ มกู เร่ืองน้นั ๆ จนเกิดเป็นความเขอา้ ใจ วทิ ยาศาสตร์จึงช่วยสร้างจินตนาการต่าง ๆ ใหก้ บั ผคู้ นไดม้ ากมาย ความสาคญั เหก่าน้ีคือส่ิงที่วิทยาศาสตร์ให้กบั ลกกขอองเราต้งั แต่อดีตมาจนถึงปัจจุบนั ถือเป็ นดา้ นดี ๆ ที่ทาให้เราใช้ชีวิตได้ อยา่ งไมต่ อ้ งกาบากแบบคนยคุ ก่อน

10. อริสลตเติก (Aristotle) อริสโตเตลิ (384 –322 ก่อนคริสตศ์ กั ราช) เป็ นนกั ปรัชญาคนสาคญั ในยคุ กรีกลบราณ เป็นศิษยเ์ อกขอองเพกลต เป็นอาจารยข์ อองพระเจา้ อเกก็ ซานเดอร์มหาราช ในสมยั ที่อริสลตเติกมีชีวิตอยู่น้ันวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะผูค้ นยงั ไม่เขอา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์แกะเทคลนลกยสี ามารถทาใหค้ วามเป็ นอยดู่ ีขอ้ึน ไดอ้ ย่างไร แต่สนใจศึกษาแกะเจนจบในหกากหกายสาขอาวิชาท้งั ฟิ สิกส์ อภิปรัชญา จริ ยธรรม ชีววิทยา แกะสัตววิทยา แกะได้ศึกษาเก่ียวกับชีวิตสัตว์แกะจัดแบ่ง ประเภทสตั วอ์ ยา่ งเป็นระบบ แมท้ ฤษฎีขอองเขอาบางอยา่ งท่ีภายหกงั ไดร้ ับการพิสูจน์วา่ ผิด เช่น ความเชื่อที่วา่ ลกกเป็นศูนยก์ กางขอองจกั รวาก ซ่ึงก็ตอ้ งเขอา้ ใจวา่ ในสมยั สองพนั กวา่ ปี ก่อนน้นั ยงั ไม่มีกกอ้ งลทรทรรศนเ์ กย แต่กเ็ ป็นการแสดงใหเ้ ห็นวา่ เขอาเป็นนกั สงั เกต แกะนกั คิดที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดคนหน่ึง ลดยเฉพาะแนวคิดทางปรัชญาท่ีไดร้ ับการยอมรับจากผคู้ นจานวนมาก

9. อาร์คิมิดีส (Archimedes) อำร์คมิ ดิ สี (287-212 ก่อนคริสต์ศกั ราช) เป็ นนักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นกั ปรัชญา นกั ฟิ สิกส์ แกะวิศวกรชาวกรีก ไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็นหน่ึงในบรรดานกั วิทยาศาสตร์ช้นั ยอดแกะเป็นนกั คณิตศาสตร์ท่ียง่ิ ใหญ่ที่สุดในยคุ ลบราณ เร่ืองเก่าที่รู้จกั กนั แพร่หกายท่ีสุดเกี่ยวกบั อาร์คิมิดีส คือ ตอนที่เขอาคน้ พบวิธีหา ปริมาตรขอองมงกฎุ ทองขอองพระเจา้ เฮียลรที่ 2 เพื่อพิสูจน์วา่ มีการผสมเงินเขอา้ ไปดว้ ยหรือไม่ อาร์คิมิดีสค้นพบตอนที่เขอากากงั อาบน้า แก้วสังเกตเห็นว่าระดับน้าในอ่างเพ่ิมสูงขอ้ึน ขอณะเขอากา้ วกงไป จึงคิดวธิ ีหาปริมาตรขอองมงกฎุ ลดยวิธีแทนที่น้าได้ ซ่ึงนาไปสู่การพิสูจน์ ไดว้ ่ามงกุฎทองมีเงินผสมอยู่จริง ๆ ดว้ ยความต่ืนเตน้ ดีใจอาร์คิมิดีสจึงวิ่งออกไปยงั ทอ้ ง ถนนท้งั ที่ยงั แกผ้ า้ แกว้ ร้องตะลกนวา่ “ยูเรก้ำ!” (ภาษากรีกแปกวา่ ฉนั พบแกว้ )

8. ชากส์ ดาร์วนิ (Charles Darwin) ชำลส์ ดำร์วนิ (คศ.1809–1882) เป็ นนักธรรมชาติวิทยา นักธรณี วิทยา แกะนกั ชีววิทยาชาวองั กฤษ ดาร์วินสนใจเก่ียวกบั ธรรมชาติต้งั แต่วยั เด็ก ชอบ การทดกองเก่ียวกบั สัตวแ์ กะพืช เขอาศึกษาด้านธรรมชาติวิทยามาลดยตกอด จนกระทง่ั ได้รับเชิญเขอ้าร่วมเดินทางสารวจทางทะเกทั่วลกกกับเรื อบีเกิก (HMS Beagle) เป็ นเวกา 5 ปี ทาให้มีลอกาสไดเ้ รียนรู้กบั ส่ิงมีชีวิตใน ภูมิภาคที่แตกตา่ งกนั เขอาไดศ้ ึกษาอยา่ งกะเอียดแกะทาวิจยั เพ่ิมเติมต่อเน่ือง แกะ ไดพ้ ิมพห์ นงั สือชื่อ The Origin of Species (กาเนิดขอองสรรพชีวิต) ซ่ึงเป็นผกงานท่ีมีช่ือเสียงที่สุดขอองเขอา ช่วงแรกมีการลตแ้ ยง้ ต่อตา้ นผกงานขออง เขอาอยา่ งมากลดยเฉพาะจากฝ่ ายศาสนจกั ร อีกหกายสิบปี ต่อมาจึงเป็นท่ียอมรับ แกะใหก้ ารยกยอ่ ง นอกจากน้ีเขอายงั มีผกงานเรื่องววิ ฒั นาการขอองมนุษยแ์ กะการ คดั เกือกทางเพศ แกะผกงานอื่น ๆ อีกมาก ดาร์วนิ ไดร้ ับยกยอ่ งวา่ เป็ นหน่ึงใน บุคคกผทู้ รงอิทธิพกท่ีสุดในประวตั ิศาสตร์มนุษยชาติ

7. หกุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) หลุยส์ ปำสเตอร์ หกุยส์ ปาสเตอร์ (ค.ศ. 1822 – 1895) นกั เคมีแกะนกั จุกชีววิทยาชาวฝรั่งเศส ผดู้ ารงตาแหน่งเป็ นอาจารย์ ในสถาบนั การศึกษาหกายแห่ง เป็ นผูท้ ี่คน้ พบว่าการเน่าเสียขอองอาหารเกิดจากส่ิงมีชีวิตเก็ก ๆ ที่เขอาเรียกว่าจุกินทรีย์ ปาสเตอร์พบว่าจุกินทรียส์ ่งผกเสียมากมายทาให้เขอาทาการคน้ ควา้ เกี่ยวกบั จุกินทรียอ์ ย่างต่อเนื่องจนคน้ พบวิธีการฆ่า เช้ือจุกินทรียไ์ ดด้ ว้ ยวธิ ีพาสเจอร์ไรส์ (Pasteurization) การคน้ พบน้ีทาให้สาขอาวชิ าจุกชีววิทยาลดดเด่นกา้ วหน้าขอ้ึน อยา่ งรวดเร็ว ต่อมาปาสเตอร์ได้ทาการศึกษาเก่ียวกบั ลรคระบาดในสัตว์ แกะได้คิดคน้ วคั ซีนป้องกนั ลรคท่ีร้ายแรงที่สุดตอนน้ัน คือ ลรคแอนแทรกซ์ได้สาเร็จ ตามดว้ ยการคน้ ควา้ หาวคั ซีนป้องกนั ลรคอหิวาตกลรคในไก่ แต่การคน้ พบวคั ซีนที่สร้างช่ือเสียงให้กับเขอามากที่สุดคือวคั ซีนป้องกนั พิษสุนขั อบ้าซ่ึงเป็ นลรคที่ทาให้ คนตายไปพอสมควร แกะจากการพบวคั ซีนน้ีทาให้คน้ พบวคั ซีนป้องกนั ลรคอีกมากมาย เช่น อหิวาตกลรค วณั ลรค แกะลรคคอตีบ นบั วา่ เป็ นประลยชน์ต่อวงการแพทย์ เป็นอยา่ งมาก ปี ค.ศ. 1888 ปาสเตอร์ไดก้ ่อต้งั สถาบนั ปาสเตอร์ (Pasteur Institute) ขอ้ึนท่ีกรุงปารีส จากน้นั สถาบนั ปาสเตอร์กไ็ ดก้ ่อต้งั ขอ้ึนอีกหกายแห่งในประเทศ ต่าง ๆ ทว่ั ลกก รวมถึงประเทศไทยภายใตช้ ่ือ “สถานเสาวภา” เพ่อื ใชเ้ ป็นสถานท่ีทดกองคน้ ควา้ เก่ียวกบั วคั ซีนป้องกนั ลรคติดต่อชนิดตา่ ง ๆ

6. ทอมสั เอดิสนั (Thomas Edison) ทอมัส เอดสิ ัน (ค.ศ. 1847 – 1931) เป็นยอดนกั ประดิษฐ์คนสาคญั ของโลกชาวอเมรกิ า ผลงานของเขาหลายชิน้ ได้เปล่ียนวิถีชีวิตของผู้คนให้เป็ นสังคมสมัยใหม่ เอดิสัน เป็ นตัวอย่างของคนท่ีประสบความสา เร็จ ดว้ ยความอุตสาหะขยันหม่นั เพียร เขาแทบจะไม่เคยไดเ้ รียนหนังสือในโรงเรียน แต่ทาการศึกษาคน้ ควา้ ทดลอง ดว้ ยตัวเองตั้งแต่วัยเด็กจนถึงบัน้ ปลายของชีวิต เอดิสันสามารถนาเงินที่ไดจ้ ากการขายสิทธิบตั รผลงานท่ีเขา ประดิษฐ์ไดช้ ิน้ แรกมาสรา้ งโรงงานท่ีมีหอ้ งปฏิบัติการวิจัยในตัวซ่ึงกลายเป็นตน้ แบบของโรงงา นอุตสาหกรรม สมยั ใหมด่ ว้ ยวยั เพียง 23 ปี แมว้ ่าเอดิสันจะไม่ใช่คนแรกท่ีประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า แต่เขาเป็นผูท้ ่ีคิดคน้ พัฒนาหลอดไฟฟ้าที่ใช้งาน ตามบา้ นเรอื นไดส้ าเรจ็ ไมเ่ พียงเทา่ นีเ้ ขายงั เป็นผสู้ รา้ งโรงจา่ ยกระแสไฟฟา้ ท่เี มอื งนิวยอรก์ ลากสายไฟฟ้าไปท่วั เมือง ใหท้ ุกคนมีโอกาสใชไ้ ฟฟ้าอย่างท่วั ถึงกัน และส่งผลใหก้ ารใชช้ ีวิตประจาวันของผูค้ นท่วั โลกเปลี่ยนไปโดยสิน้ เชิง เอดิสันเป็นผู้ประดิษฐ์เคร่ืองบันทึกเสียง, เครื่องบันทึกภาพเคลื่อนไหว ซึ่งต่อมาเขาไดน้ ามารวมกันกลายเป็น เคร่ืองถ่ายทาภาพยนตร์ เขายงั เป็นผูป้ ระดิษฐ์แบตเตอร่ี เคร่อื งผสมปนู ซิเมนต์ และส่ิงประดิษฐ์อ่ืนๆอีกนับพนั ชิน้ เขามีสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ภายใตช้ ่ือของเขาเป็นจานวนถึง 1,093 ชิน้ ก่อตัง้ บริษัทด้านไฟฟ้าอีกหลายบริษัท รวมทงั้ เจเนอรลั อเิ ล็กทรกิ (General Electric) บรษิ ัทเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ขนาดใหญ่ของโลก

5. มารี คูรี (Marie Curie) มำรี คูรี (ค.ศ. 1867 – 1934) นักฟิ สิกสแ์ ละนักเคมีชาวโปแลนด์ เป็นผบู้ กุ เบิกงานวิจยั ดา้ นกมั มนั ตภาพรงั สีและ เป็นผคู้ น้ พบธาตเุ รเดียมท่ใี ชร้ กั ษาโรคมะเรง็ ที่ทาใหค้ นตายเป็นอนั ดบั หน่ึงมาทกุ ยคุ สมยั เธอเป็นผหู้ ญิงคนแรกท่ีได้ รางวลั โนเบล เป็นคนแรกและผหู้ ญิงเพยี งคนเดียวที่ไดร้ างวลั โนเบล 2 ครงั้ และเป็นเพียงคนเดียวท่ีไดร้ างวลั โนเบล ดา้ นวิทยาศาสตร์ 2 สาขา มารี คูรีเป็นหนึ่งในผหู้ ญิงที่เก่งท่ีสดุ และไดร้ บั การยกยอ่ งมากท่ีสดุ ในโลก แมจ้ ะขัดสน เรอ่ื งการเงินและถกู กีดกนั จากการเป็นผหู้ ญิง มารไี ดต้ อ่ สดู้ ิน้ รนโดยหยดุ เรยี นเพื่อทางานส่งใหพ้ ี่สาวของเธอเรยี นจน จบกอ่ น แลว้ ใหพ้ ีส่ าวสง่ เธอเรยี นดา้ นฟิสกิ สแ์ ละคณิตศาสตรท์ กี่ รุงปารสี ตามท่ีเธอตงั้ ใจ มารีเร่ิมคน้ ควา้ ดา้ นกมั มนั ตภาพรังสีร่วมกบั สามีคือปิ แอร์ คูรี จนคน้ พบวา่ มีพกงั งานถูกปก่อยออกมาจากแร่พติ ชเ์ บกนด์ แกะไดพ้ ยายามแยกธาตใุ หม่ออกจากแร่พิตชเ์ บกนด์ หกงั จากใชเ้ วกาคน้ ควา้ ราว 7 ปี เธอกส็ ามารถแยกธาตใุ หม่ท่ีเธอเรียกวา่ เรเดียมไดส้ าเร็จ ผกงานน้ีทาให้มารีแกะสามีไดร้ ับรางวกั ลนเบกสาขอาฟิ สิกส์ หกงั จากปิ แอร์เสียชีวติ จากอุบตั ิเหตุ มารียงั คงม่งุ มน่ั คน้ ควา้ ตอ่ ไป ลดยมุ่งไปที่การใช้ ประลยชนข์ อองเรเดียมในทางการแพทย์ จนเธอไดร้ ับรางวกั ลนเบกคร้ังท่ีสองในสาขอาเคมี เม่ือเกิดสงครามลกกคร้ังท่ี 1 มารีไดต้ ้งั หน่วยเอกซเรย์ เคก่ือนที่ตระเวนรักษาทหารท่ีบาดเจบ็ ตามที่ตา่ ง ๆ หกงั สงครามมารีไดก้ กบั มาทางานวจิ ยั อีกคร้ัง แตผ่ กกระทบจากการสมั ผสั กบั รังสีขอองเรเดียม เป็นเวกานานทาให้ไขอกระดูกเธอถูกทากายแกะเสียชีวติ การคน้ พบท่ีช่วยชีวิตผคู้ นไดจ้ านวนมาก กกบั ตอ้ งแกกดว้ ยชีวติ ขอองเธอ

5. มารี คูรี (Marie Curie) มำรี กรู ี (Marie Curie) กบั สามีคือ ปี แอร์ กรู ี (Pierre Curie) คน้ พบธาตุ “พอโลเนยี ม” (polonium) เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1898 แกะในปี เดียวกนั (เดือนธนั วาคม) ก็คน้ พบธาตุ “เรเดยี ม” (radium) ดว้ ย

4. นิลคกา เทสกา (Nikola Tesla) นิโคลำ เทสลำ (ค.ศ. 1856 – 1943) เป็ นนกั ประดิษฐ์ นกั ฟิ สิกส์ แกะวศิ วกรไฟฟ้าชาวเซอร์เบียน- อเมริกนั เป็นผูส้ ร้างนวตั กรรมก้ายคุ ท่ียิ่งใหญ่ที่สุดคนหน่ึง สิทธิบตั รขอองเทสกาแกะผกงานเชิง ทฤษฎีขอองเขอากกายเป็ นพ้ืนฐานขอองระบบไฟฟ้ากระแสสกบั ท่ีใช้งานทวั่ ลกกในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ ระบบจ่ายกากงั หกายเฟส แกะมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสกบั เป็ นผูป้ ระดิษฐ์แกะคน้ พบเทคลนลกยี ใหม่มากมาย เช่น ขอดกวดเทสกา (Tesla coil) เครื่องวดั ความเร็วติดรถยนต์ เคร่ืองกระจายเสียงผา่ นวทิ ยุ วธิ ีการเปกยี่ นสนามแม่เหกก็ เป็ นสนามไฟฟ้าซ่ึงเป็ นที่มาขอองหน่วยวดั สนามแม่เหกก็ เทสกา ซ่ึงวิศวกรรุ่นหกงั ต้งั ช่ือเพื่อเป็ น เกียรติแก่เขอา นอกจากน้ีเขอายงั ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ เทคลนลกยกี ้ายคุ เรื่องการส่งผ่านพกงั งานแบบไร้ สายหรือเทคลนลกยี wireless ที่ปัจจุบนั กากงั เฟ่ื องฟู

4. นิลคกา เทสกา (Nikola Tesla) นิโคลำ เทสลำ เทสกาเป็ นนักประดิษฐ์ยุคเดียวกันเอดิสันแถมยงั เป็ นคู่แขอ่งกัน เอดิสันสนับสนุน การใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรงส่วนเทสกาพฒั นาไฟฟ้ากระแสสกบั จนถึงกบั เกิดสงครามกระแสไฟฟ้า (War of Currents) ซ่ึงส่งผกตอ่ อตุ สาหกรรมในยคุ น้นั อยา่ งมาก เทสกามีแนวคิดก้ายคุ มีจินตนาการกา้ วไกกเกินกวา่ ผูค้ นยคุ เดียวกนั มาก เช่น เขอามีแนวคิดจะทาลกกท้งั ใบให้เป็นส่ือนา ไฟฟ้าเพื่อใหส้ ามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปใหค้ นทุกคนในลกกไดใ้ ชก้ ระแสไฟฟ้าอยา่ งเสรี หรือคิด สร้างอาวธุ กาแสงมหาประกยั ท่ีมีอานุภาพร้ายแรงขอนาดแยกลกกขอองเราให้แตกออกเป็นสองส่วน ได้ จนถูกเรียกวา่ นกั วทิ ยาศาสตร์สติเฟื่ อง (mad scientist) หกงั จากเทสกาเสียชีวติ FBI ได้ ส่ังทุกฝ่ ายว่าเร่ืองราวทุกอย่างท่ีเก่ียวขออ้ งกบั เทสกาตอ้ งถูกจดั การอย่างกบั ที่สุด แกะตอ้ งรักษา ความกบั ขอองสิ่งประดิษฐข์ อองเขอาใหเ้ ป็นความกบั ตกอดไป นี่คือนกั วิทยาศาสตร์ผูย้ ิ่งใหญ่แต่กกบั ไมค่ อ่ ยเป็นที่รู้จกั เท่ากบั ผกงานขอองเขอา เขอาคือ “อจั ฉริยะที่ลกกกืม”

3. กากิเกลอ กากิเกอี (Galileo Galilei) กำลเิ ลโอ กำลเิ ลอี (ค.ศ. 1564 – 1642) นกั คณิตศาสตร์ นกั ดาราศาสตร์ แกะนกั วิทยาศาสตร์ชาว อิตากีผมู้ ีบทบาสาคญั อยา่ งยงิ่ ในการปฏิวตั ิวทิ ยาศาสตร์สมยั ใหม่ เป็นคนแรกท่ีนาคณิตศาสตร์แกะ การทดกองมาใช้เป็ นเครื่องมือในการพิสูจน์กฎเกณฑ์ทางธรรมชาติอย่างเป็ นระบบอนั เป็ น รากฐานขอองกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในปัจจุบนั กากิเกลอคน้ พบแกะสร้างกฎเพนดูกมั (Pendulum) หรือกฎการแกว่งขอองนาฬิกากูกตุม้ ท่ีนาไปสู่การสร้างนาฬิกาให้เที่ยงตรง เขอาได้ทดกองปก่อยวตั ถุสองอย่างท่ีมวกไม่เท่ากันจากหอเอนปี ซาแต่ตกถึงพ้ืนพร้อมกัน ท่ีทุกคนจาไดด้ ี กากิเกลอประดิษฐ์แกะพฒั นากกอ้ งลทรทรรศน์ให้สามารถส่องดูดวงดาวไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน กากิเกลอพบวา่ ผิวดวงจนั ทร์ขอรุขอระมีภูเขอาแกะหุบเหว พบวา่ ทางชา้ งเผือกอดั แน่นไปดว้ ย ดาวฤกษ์จานวนมาก พบวงแหวนขอองดาวเสาร์ พบจุดดบั บนดวงอาทิตย์ พบดวงจนั ทร์บริวาร สาคญั ขอองดาวพฤหสั บดี 4 ดวง แกะจากการเฝ้าสงั เกตการณ์ดวงจนั ทร์ขอองดาวพฤหสั บดีนี่เองท่ี ทาใหก้ ากิเกลอพิสูจน์ไดว้ า่ ลกกลคจรรอบดวงอาทิตย์

3. กากิเกลอ กากิเกอี (Galileo Galilei) กำลเิ ลโอ กำลเิ ลอี เขอาคน้ พบวา่ ลกกลคจรรอบดวงอาทิตยส์ นบั สนุนทฤษฎีขอองลคเปอร์นิคสั ท่ีเสนอ ให้ดวงอาทิตยเ์ ป็ นจุดศูนยก์ กางขอองจกั รวาก ไม่ใช่ดวงอาทิตยแ์ กะดาวอ่ืน ๆ ท้งั หมดลคจรรอบ ลกกอย่างท่ีเช่ือกันมานับพนั ปี ไดท้ าให้เกิดการต่อตา้ นจากศาสนจกั รเพราะขอดั แยง้ กบั คาสอน ในสมยั น้ัน กากิเกลอถูกส่ังห้ามพูดเก่ียวกับทฤษฎีขอองลคเปอร์นิคสั แต่กากิเกลอยงั คงมุ่งมนั่ คน้ ควา้ ดา้ นดาราศาสตร์ต่อไปแกะมีผกงานเป็นหนงั สือออกมาอีก ทาให้เขอาถูกต่อตา้ นอยา่ งหนกั หนงั สือก็ถูกห้ามขอายในอิตากี แกะตวั เขอาถูกกก่าวหาเป็ นคนนอกรีตตอ้ งลทษจาคุก ต่อมาเขอาถูก บงั คบั ให้กก่าวคาขออลทษเพ่ือแกกกบั ชีวติ แกะอิสระ แต่ยงั ถูกควบคุมในบา้ นหกงั หน่ึงตกอดชีวิต ระหวา่ งถูกควบคุมตวั เขอากย็ งั มีผกงานเขอียนหนงั สือเก่มสาคญั กระทง่ั ช่วงบ้นั ปกายชีวติ แมต้ าขออง เขอาบอดท้งั สองขอา้ งกากิเกลอก็ยงั ทางานวิจยั ต่อไปลดยใหก้ ูกศิษยท์ าการสังเกตแกะรายงานผกให้ เขอาวเิ คราะห์ เขอาคือนกั วทิ ยาศาสตร์ผยู้ งิ่ ใหญ่ลดยแท้

2. อกั เบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) อลั เบริ ์ต ไอน์สไตน์ (ค.ศ. 1879 – 1955) นกั ฟิ สิกสท์ ฤษฎีชาวเยอรมนั เชือ้ สายยิวถือ สญั ชาติสวิสและอเมรกิ นั เป็นผคู้ ดิ คน้ ทฤษฎีสมั พทั ธภาพหน่ึงในสองเสาหลกั ของฟิ สิกส์ สมัยใหม่ร่วมกับกลศาสตร์ควอนตัม เขาเป็ นเจ้าของสูตรที่โด่งดังท่ีสุด ในโลก E = mc2 ไดร้ บั รางวลั โนเบลสาขาฟิ สิกสจ์ ากการอธิบายปรากฏการณโ์ ฟโตอิเล็กทริก และจากการทาประโยชนแ์ กฟ่ ิสิกสท์ ฤษฎี หลงั จากท่ไี อนส์ ไตนค์ น้ พบทฤษฎีสมั พทั ธภาพ ท่ัวไปในปี ค.ศ. 1915 เขาก็กลายเป็ นผู้ที่มีช่ือเสียงซึ่งเป็นเรื่องท่ีไม่ค่อยธรรมดา นักสาหรับนักวิทยาศาสตรค์ นหน่ึง เขาเป็นที่เคารพนับถือ ในความรู้แจ้งเห็นจริง ในจักรวาลซ่ึงช่วยส ร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักวิทยาศาสตร์จานวนมา ก กล า ยเป็ นแบ บ อ ย่า ง แล ะสัญลัก ษณ์ของ คว า มฉ ล า ดหรือคว า ม อัจ ฉ ริย ะ ดงั คาท่มี ีผยู้ กยอ่ งเขาวา่ “ไอนส์ ไตนม์ คี วามหมายเดยี วกนั กบั อจั ฉรยิ ะ”

2. อกั เบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) อลั เบิร์ต ไอน์สไตน์ ไอนส์ ไตน์ถือวา่ เป็นผทู้ ่ีเรียนรู้ไดช้ า้ เนื่องจากมีความบกพร่องทางการอา่ น เขอียน (Dyslexia) แตเ่ ขอากกบั บอกวา่ การพฒั นาทฤษฎีขอองเขอาเป็นผกมาจากความ เชื่องชา้ น่ีเอง เพราะเขอามีเวกาครุ่นคิดถึงอวกาศแกะเวกามากกวา่ เดก็ คนอ่ืน ในช่วงเริ่มตน้ ทางานวจิ ยั ไอน์สไตนค์ ิดวา่ กกศาสตร์ขอองนิวตนั ไมเ่ พียงพอที่จะรวมกฎขอองกกศาสตร์ ด้งั เดิมหรือกกศาสตร์ขอองนิวตนั เขอา้ กบั กฎขอองสนามแม่เหกก็ ไฟฟ้าได้ นาไปสู่การคิดคน้ พฒั นาทฤษฎีสมั พทั ธภาพพิเศษ ตอ่ มาเขอาไดข้ อยายทฤษฎี ใหค้ รอบคกมุ ไปถึงสนามแรง ลนม้ ถว่ งดว้ ยจึงเกิดเป็นทฤษฎีสมั พทั ธภาพทว่ั ไปซ่ึงใชอ้ ธิบายลครงสร้างขอองจกั รวากได้ เขอายงั มีผกงานดา้ นกกศาสตร์เชิงสถิติแกะทฤษฎีควอนตมั รวมไปถึงทฤษฎีอนุภาคแกะการเคก่ือนท่ีขอองลมเกกุก ไอน์สไตนไ์ ดต้ ีพิมพ์ ผกงานทางวทิ ยาศาสตร์มากกวา่ 300 ชิ้นแกะงานอื่นท่ีไม่ใช่วทิ ยาศาสตร์อีกกวา่ 150 ชิ้น ทุกวนั น้ีไอน์สไตน์ยงั คงเป็นท่ีรู้จกั ดีในฐานะนกั วทิ ยาศาสตร์ที่ลด่งดงั ที่สุดท้งั ในวงการ วทิ ยาศาสตร์แกะนอกวงการ

1. ไอแซก นิวตนั (Isaac Newton) ไอแซก นิวตัน (ค.ศ. 1642 – 1727) นกั ฟิสกิ ส์ นกั คณิตศาสตร์ และนกั ดาราศาสตรช์ าวองั กฤษผู้ ซง่ึ เป็นที่ยอมรบั อยา่ งกวา้ งขวางว่าเป็นหนงึ่ ในนกั วิทยาศาสตรท์ ี่มอี ิทธิพลมากทสี่ ดุ ตลอดกาล และมีบทบาทสาคญั ในการปฏิวตั ิทางวิทยาศาสตร์ หนงั สอื เลม่ สาคญั ของเขาที่ช่ือ Mathematical Principles of Natural Philosophy คือ หนงั สือท่ีมีอทิ ธิพลมากทส่ี ดุ ใน ประวตั ศิ าสตรว์ ิทยาศาสตร์ นิวตนั ไดค้ ดิ คน้ กฎการเคล่ือนที่ และกฎแรงโนม้ ถว่ งซงึ่ เป็นกฎทางวิทยาศาสตรท์ เี่ ป็นเสาหลกั ของการศกึ ษาจกั รวาลทางกายภาพ ตลอดมา นวิ ตนั แสดงใหเ้ ห็นวา่ การเคลอื่ นที่ของวตั ถบุ นโลกและวตั ถบุ นทอ้ งฟ้าลว้ นอยภู่ ายใต้ กฎธรรมชาติเดียวกนั นิวตนั ยงั เป็นผสู้ รา้ งกลอ้ งโทรทรรศนส์ ะทอ้ นแสงท่ีสามารถใชง้ านจรงิ ได้ เป็นเครอ่ื งแรก เป็นผพู้ ฒั นาทฤษฎีสี คน้ พบสเปกตรมั แสง คดิ คน้ กฎการเย็นตวั และศกึ ษา ความเรว็ ของเสียง ผลงานของเขาชว่ ยใหก้ ารปฏิวตั วิ ิทยาศาสตรก์ า้ วหนา้ มากยง่ิ ขึน้

1. ไอแซก นิวตนั (Isaac Newton) ไอแซก นิวตนั นิวตนั ใหก้ าเนิดวชิ าคณิตศาสตร์แขอนงใหมห่ กายเรื่องดว้ ยกนั ไดแ้ ก่วชิ าแคกคูกสั (Calculus) ท่ีปัจจุบนั รู้จกั กนั ในช่ือแคกคูกสั เชิงอินทิกรัก (Integral Calculus) นิวตนั ยงั คน้ พบ ทฤษฎีบททวนิ าม (Binomial Theorem) แกะวธิ ีการกระจายอนุกรม (Method of Expression) ซ่ึง เป็นส่วนหน่ึงขอองวชิ าพีชคณิต กก่าวกนั วา่ ผกงานขอองนิวตนั เป็นความกา้ วหนา้ อนั ยง่ิ ใหญ่ในทุก สาขอาขอองคณิตศาสตร์ในยคุ น้นั จากตานานกูกแอปเปิ กตกนาไปสู่การสร้างผกงานที่เป็นประลยชนต์ อ่ มนุษยชาติอยา่ งอเนกอนนั ต์ เม่ือนิวตนั เสียชีวติ กงพิธีศพขอองเขอาจึงถกู จดั อยา่ งยง่ิ ใหญ่เทียบเท่ากษตั ริย์ ศพขอองเขอาฝังอยทู่ ่ี มหาวหิ ารเวสตม์ ินสเตอร์เช่นเดียวกบั กษตั ริยแ์ กะพระบรมวงศานุวงศช์ ้นั สูงขอององั กฤษ

1. ไอแซก นิวตนั (Isaac Newton) มหาวหิ ารเวสตม์ ินสเตอร์ เวสตม์ ินสเตอร์เดิมเป็นส่วนหน่ึงขอองมิดเดิกเซ็กซ์ท่ีเป็นมกฑกในประวตั ิศาสตร์ขออง องั กฤษ คาวา่ “เวสตม์ ินสเตอร์” เป็นคาบรรยายลบราณขอองบริเวณรอบแอบบีเวสตม์ ินสเตอร์ “เวสต”์ + “มินสเตอร์” (บริเวณทางตะวนั ตกขอองมหาวหิ าร) เวสตม์ ินสเตอร์เป็นท่ีต้งั ขออง รัฐบาก แห่งองั กฤษมาร่วมหน่ึงพนั ปี ต้งั แตก่ ารก่อต้งั ในกกางคริสตศ์ ตวรรษที่ 19 เวสตม์ ินสเตอร์ กเ็ ป็นท่ีต้งั ขอองพระราชวงั เวสตม์ ินสเตอร์ซ่ึงเป็นมรดกลกกแกะเป็นที่ต้งั ขอองรัฐสภาแห่ง สหราชอาณาจกั ร

แหก่งอา้ งอิง elist10 แกะ wikipedia. 2560. 10 สุดยอดนักวทิ ยำศำสตร์ผู้ย่ิงใหญ่ของโลกกบั ผลงำนเด่นและวำทะเด็ด https://www.takieng.com/stories/5326, 14 rAL0bdkpo 2562

ขออบคุณคะ่