Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาวินัยและจรรยาบรรณ วินัยครู-มาตรา82_95

วิชาวินัยและจรรยาบรรณ วินัยครู-มาตรา82_95

Published by samrannakchoom, 2019-12-02 00:37:10

Description: ใช้บรรยายวิชาวินัยและจรรยาบรรณ วินัยครู-มาตรา82_95

Search

Read the Text Version

กระทรวงศึกษาธิการไม่มีความประสงค์ทจ่ี ะให้ครูลงโทษนักเรียนรุนแรงหรือแบบวติ ถาร เช่น ตบหน้า เขกศีรษะ ทุบ หลงั ตบกกหูหรือใช้แปรงลบกระดานทุบตี ขว้าง ปาหรือให้เขกโต๊ะจนมือเลือดออก เป็ นต้น ครูคนใดฝ่ าฝื นถือว่า เป็ นความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง ศธ 7754/2506 ลงวนั ท่ี 16 เมษายน 2506 ขอ้ 6. หา้ มลงโทษนกั เรียนหรือนกั ศึกษา ดว้ ยวธิ ีรุนแรง หรือแบบกลน่ั แกลง้ หรือลงโทษดว้ ย ความโกรธ หรือดว้ ยความพยาบาท โดยใหค้ านึงถึงอายนุ กั เรียน หรือนกั ศึกษาและความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษดว้ ย การลงโทษนกั เรียน หรือนกั ศึกษา ใหเ้ ป็นไปเพ่ือเจตนาท่ีจะแกน้ ิสยั และความประพฤติไม่ดีของ นกั เรียนหรือนกั ศึกษาใหร้ ู้สานึกในความผดิ และกลบั ประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ขอ้ 7. การวา่ กล่าวตกั เตือนใชใ้ นกรณีที่นกั เรียนนกั ศึกษากระทาความผดิ ไม่ร้ายแรง ขอ้ 8. การทาทณั ฑบ์ นใชใ้ นกรณีท่ีฝ่าฝืนระเบียบหรือเส่ือมเสียเสียงและเกียรติศกั ด์ิและ ไดร้ ับโทษวา่ กล่าวตกั เตือนมาแลว้ และตอ้ งเชิญบิดามารดาหรือผปู้ กครอง ขอ้ 9.การตดั คะแนนความประพฤติเป็นไปตามที่สถานศึกษากาหนดและทาบนั ทึกขอ้ มูล ขอ้ 10.พกั กิจกรรมเพ่อื ใหป้ รับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นไปตามแนวทางท่ี กระทรวงศึกษาธิการ กาหนด 18 มกราคม 2548

วนั ปิ ดภาคเรียน ถือวา่ เป็นวนั พกั ผอ่ นของนักเรียน ซ่ึงสถานศึกษาอาจอนุญาตใหห้ ยดุ พกั ผอ่ นดว้ ยกไ็ ด้ แต่ถา้ มีราชการจาเป็นครูตอ้ งมาปฏิบตั ิราชการตามคาส่ังของ ทางราชการ (ขอ้ 6 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ยกาหนดเวลาทางานและ วนั หยดุ ราชการของสถานศึกษา พ.ศ.2547) การลงโทษผ้ลู ะทิง้ หน้าทเี่ วรรักษาสถานทรี่ าชการ มติค.ร.ม. นร. 0203/ว 103 ลงวนั ท่ี 4 มิถุนายน 2528 “ถ้าปรากฎว่าเวรละทงิ้ หน้าท่ี ให้ผู้บังคบั บัญชาพจิ ารณาลงโทษให้เหมาะสมกบั ความผดิ ตามความร้ายแรงแห่งกรณี”

























มาตรา 96 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดฝ่ าฝื นข้อห้าม หรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติทางวนิ ัยตามที่บัญญตั ไิ ว้ในหมวดนี้ ผู้น้ันเป็ นผู้กระทา ผดิ วนิ ัย จักต้องได้รับโทษทางวนิ ัย เว้นแต่มเี หตุอนั ควรงดโทษตามทบี่ ัญญตั ไิ ว้ใน หมวด 7 โทษทางวินัยมี 5 สถาน คือ (1) ภาคทัณฑ์ (2) ตดั เงินเดือน (3) ลดเงนิ เดือน (4) ปลดออก (5) ไล่ออก ผู้ใดถูกลงโทษปลดออกให้ผู้น้ันมีสิทธิได้รับบาเหน็จบานาญเสมือนว่าเป็ น ผู้ลาออกจากราชการ

• แบ่งแยกวงเงิน ซื้อ/จ้าง เพื่อให้อานาจวธิ ีการสั่งซื้อส่ังจ้างเปลย่ี นแปลงไป • กาหนดคุณสมบัตเิ อือ้ ประโยชน์แก่ผู้มอี าชีพขายหรือรับจ้างรายใดรายหน่ึง • ละเลยไม่ปิ ดประกาศหรือไม่จดั ส่งเอกสารเพ่ือทราบหรือเผยแพร่ • พจิ ารณาผู้เสนอราคาทปี่ ฏบิ ตั ไิ ม่ถูกต้องตามเงื่อนไข • ไม่พจิ ารณาผู้เสนอให้ซื้อหรือจ้างผู้เสนอราคาตา่ สุด • ตรวจรับงานว่าเป็ นไปโดยถูกต้อง ท้งั ทง่ี านยงั ไม่ครบถ้วนถูกต้องตามสัญญา • ตรวจรับพสั ดุของผ้ขู ายนามาส่งมอบ ท้งั ทข่ี องยงั ไม่ครบถ้วนถูกต้องตาม สัญญา

1. พระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 2. หนงั สือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/ว 234 ลงวนั ที่ 24 ธันวาคม 2536 3.พระราชบญั ญัติจดั ซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2560

“ทุจรติ ” การแสวงหาผลประโยชนท์ มี่ คิ วรไดโ้ ดยชอบ ดว้ ยกฎหมายสาหรบั ตนเองหรอื ผูอ้ นื่ “ทุจรติ ตอ่ หน้าท”ี่ ปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั อิ ยา่ งใดในตาแหน่ง หรอื หนา้ ที่ หรอื ปฏบิ ตั ิ หรอื ละเวน้ การปฏบิ ตั อิ ยา่ งใดในพฤตกิ ารณท์ ี่ อาจทาใหผ้ ูอ้ นื่ เชอื่ วา่ มตี าแหน่งหรอื หนา้ ที่ ทง้ั ทตี่ นมไิ ดม้ ตี าแหน่ง หรอื หนา้ ทที่ งั้ นี้ เพอื่ การแสวงหาประโยชนท์ มี่ คิ วรไดโ้ ดยชอบ สาหรบั ตนเองหรอื ผูอ้ นื่ “ฉ้อราษฎรบ์ งั หลวง” การเบยี ดบงั ยกั ยอกทรพั ยส์ นิ ของรฐั และ ของสาธารณะ การกนิ สนิ บาตรคาดสนิ บน รวมถงึ การแสวงหา อานาจโดยวธิ ผี ดิ ทานองครองธรรม

“คอรร์ ปั ชน่ั ” การใชอ้ านาจใหไ้ ดม้ าซงึ่ ตาแหน่ง ชอื่ เสยี งเกยี รตยิ ศ โดยฝ่ าฝื นกฎหมาย หรอื มาตรฐานทางศลี ธรรม “การคอรร์ ปั ชน่ั เชงิ นโยบาย” การกาหนด ระเบยี บหรอื นโยบายตา่ งๆ โดยเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ซงึ่ ดเู หมอื นวา่ ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย แตแ่ ทจ้ รงิ แลว้ นโยบายเหลา่ นั้นเออื้ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและพวก พอ้ งสง่ ผลใหเ้ กดิ การผูกขาด และทาใหป้ ระชาชน ไม่ไดร้ บั ประโยชนส์ งู สดุ

“ความขดั แยง้ ระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม” สถานการณห์ รอื การกระทาทบี่ คุ คลไม่วา่ จะเป็ นนักการเมอื ง ขา้ ราชการ พนักงานบรษิ ทั หรอื ผูบ้ รหิ าร มผี ลประโยชนส์ ว่ นตวั มากจนมผี ลตอ่ การตดั สนิ ใจหรอื การปฏบิ ตั หิ นา้ ทที่ ตี่ นรบั ผดิ ชอบอยู่ และสง่ ผลกระทบตอ่ สว่ นรวม ซงึ่ อาจเกดิ ขนึ้ อยา่ งรตู ้ วั หรอื ไม่รตู ้ วั ทง้ั เจตนาและไมเ่ จตนา “ผลประโยชนท์ บั ซอ้ น” หมายถงึ ผลประโยชนท์ ที่ บั ซอ้ นกนั ระหวา่ ง ผลประโยชนส์ ว่ นตวั และผลประโยชนส์ ว่ นรวมของผูม้ อี านาจหนา้ ทที่ ี่ ตอ้ งตดั สนิ ใจทางานเพอื่ สว่ นรวม ไม่วา่ เป็ นเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ทาหนา้ ที่ ขององคก์ รภาคธรุ กจิ เอกชน และเจา้ หนา้ ทภี่ าคสงั คมประชา

วธิ ีการทุจริต 1.การบญั ชีและการเงิน ก.รับเงิน 10. พนักงานเกบ็ เงนิ รับเงนิ แล้วไม่นาส่ง หรือนาส่งล่าช้าโดยเอาเงนิ ไปหมุนใช้ประโยชน์ ส่ วนตัว 11. เรียกเงนิ จากผู้มาตดิ ต่อโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเอาเงนิ เป็ นประโยชน์ส่วนตัวหรือ ผ้อู ่ืน 12. แก้ไขตวั เลขในเช็คให้สูงขึน้ แล้วนาไปขนึ้ เงนิ จากธนาคาร แล้วยกั ยอกเงนิ ทเ่ี กนิ 13. รับเงนิ จากลูกหนีแ้ ล้วไม่ลงบญั ชี เม่ือค้างอยู่หลายปี กข็ ออนุมตั ิตดั บญั ชีเป็ นหนีส้ ูญ 14. ใช้ใบเสร็จรับเงนิ กลางเล่มออกให้ผ้ชู าระเงนิ หรือชักตว๋ั กลางแหนบออกจาหน่ายเพ่ือ ยกั ยอกเงนิ ไว้ใช้ 15. ทาใบเสร็จรับเงนิ 2 ชุด และแยกลงบญั ชีชุดเดยี วนอกน้ันนาเป็ นประโยชน์ส่วนตัว

วธิ ีการทุจริต 1.การบญั ชีและการเงิน ก.จ่ายเงนิ 1. ลงรายการจ่ายเงนิ ในบัญชีซ้าแล้วยกั ยอกเงนิ ทจ่ี ่าย 2. ลงบญั ชีจ่ายสูงกว่าหลกั ฐาน ยกั ยอกเงนิ ทเี่ กนิ 3. ลงรายการจ่ายโดยไม่มหี ลกั ฐาน หรือจ่ายตามสาเนาอ้างว่าหลกั ฐานหาย 4. ทาหลกั ฐานเทจ็ เพื่อเบกิ เงนิ จากทางราชการ เช่น 4.1 การจ่ายค่าแรงให้คนงานลงช่ือรับเงนิ ล่วงหน้า กรอกจานวนเงนิ ภายหลงั ให้สูงกว่าทจ่ี ่ายจริง

กรณไี ม่ปฏิบัตติ ามระเบียบและแบบธรรมเนียมของราชการ 1) ไม่ปฏิบตั ิตามกฎหมายระเบียบแบบแผน ของทางราชการ หน่วยงานทางการศึกษา มติคณะรัฐมนตรี นโยบายรัฐบาล 2) จงใจไม่ปฏิบตั ิตามกฎหมาย ประมาทเลินเล่อ ขาดการเอาใจใส่ ไม่ระมดั ระวงั รักษาประโยชน์ทางราชการอนั เป็นเหตุให้ ราชการเสียหายอยา่ งร้ายแรง

มูลเหตุจูงใจ กรณไี ม่ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบและแบบธรรมเนียมของราชการ 1) กระทาตามอารมณ์ 2) ไม่เห็นความสาคญั ของวนิ ยั ขา้ ราชการ 3) กระทาการเพื่อผลประโยชน์ของวตั ถปุ ระสงคอ์ ื่น 4) ตอ้ งการหลีกเลี่ยงระเบียบการเงิน 5) ชะล่าใจคิดวา่ ไม่คอ่ ยมีการตรวจสอบ

โทษทางวนิ ยั วา่ กล่าวตกั เตือนดว้ ยวาจา หรือทาทณั ฑบ์ นเป็นหนงั สือ (ไม่ใช่โทษ แต่เป็นมาตรการทางบริหาร) • โทษ 5 สถาน ใชส้ ิทธิอุทธรณ์ได้ • ใหอ้ อกจากราชการกรณีต่อไปน้ี ไม่ใช่โทษ 1. ภาคทณั ฑ์ (ตาหนิติเตียน) - ขาดคุณสมบตั ิ : ลม้ ละลาย... 2. ตดั เงินเดือน (ตดั ผลประโยชน์) ไม่ร้ายแรง - หยอ่ นความสามารถ 3. ลดเงินเดือน (ตดั ผลประโยชน์) - ประพฤติตนไม่เหมาะสม 4. ปลดออก (มีสิทธิรับบาเหน็จบานาญ) ร้ายแรง - มีมลทินมวั หมอง 5. ไล่ออก (ไม่มีสิทธิไดร้ ับบาเหน็จบานาญ) - ไม่พน้ ทดลองปฏิบตั ิราชการ ร้ายแรง - เจบ็ ป่ วย ทุพพลภาพ - ใหอ้ อกจากราชการไวก้ ่อน หรือ สง่ั พกั ราชการ (ใชส้ ิทธิร้องทุกขไ์ ด)้

การนับอายุบุคคล 1. 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. อายคุ รบ 1 ปี 2. 1 ต.ค. ปี น้ี – 30 ก.ย. ปี หนา้ อายคุ รบ 1 ปี 3. เกิด 1 ต.ค. ของปี เกษียณราชการสิ้นปี งบประมาณของปี เดียวกนั 4. เกิด 2 ต.ค. – 31 ธ.ค. ของปี เกษียณราชการสิ้นปี งบประมาณหนา้ (บวกอีก 1 ปี ) ตวั อย่าง นาย ก. เกิดวนั ที่ 1 ตุลาคม 2483 ตอ้ งเกษียณราชการ 30 กนั ยายน 2543 นาง ข. เกิดวนั ท่ี 2 ตุลาคม 2483 ตอ้ งเกษียณราชการ 30 กนั ยายน 2544 (หนงั สือกระทรวงการคลงั ท่ี กค.0513/ว 58 ลว. 6 พ.ค. 2537)

ความผดิ วนิ ยั ท่ีขา้ ราชการครูกระทาผดิ อยเู่ สมอ 1. ละทงิ้ หน้าที่ราชการ 10. ไม่ต้งั ใจปฏิบัตหิ น้าที่ 2. เล่นการพนัน 11. ความผดิ เกยี่ วกบั ทรัพย์ 3. เสพสุรามนึ เมา 12. ผดิ ระเบยี บการลา 4. ทุจริตต่อหน้าท่ี 13. ละทงิ้ เวรยาม 5. ทะเลาะววิ าท 14. เล่นแชร์ 6. ลงโทษนักเรียนผดิ ระเบยี บ 15. กระทาผดิ อาญา 7. ชู้สาว 16. ไม่รายงานผ.บ.เมื่อถูกฟ้องคดแี พ่ง 8. ทาร้ายร่างกาย 17. ประมาทเลนิ เล่อ 9. ขัดคาส่ังผ้บู งั คบั บญั ชา 18. เปิ ดเผยความลบั 19. รายงานเทจ็

 การลากิจควรอนุญาตเฉพาะกรณีจาเป็นจริงๆ ไม่ใช่ ลากิจเพอ่ื ไปรับจา้ งหารายไดพ้ ิเศษอื่น  ผใู้ ดลาเทจ็ ใหล้ งโทษทางวนิ ยั โดยเคร่งครัด  มาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บาเหน็จ บานาญ และเงินในลกั ษณะเดียวกนั พ.ศ. 2535 “ขา้ ราชการที่ละทิ้งหนา้ ท่ีราชการโดยไม่มีเหตุผลอนั สมควร หรือหนีราชการ หา้ มมิใหจ้ ่ายเงินเดือนสาหรับวนั ที่ละทิ้งหนา้ ท่ีราชการ หรือหนีราชการ ดงั กล่าว”

มูลเหตุจูงใจ (กรณเี ล่นการพนัน) • อยู่ในสภาพแวดล้อมทไ่ี ม่ดี โดนจบั ฐานเล่นการพนัน • ใช้เวลาว่างในทางทผ่ี ดิ เล่นรัมมี • ความละโมภอยากได้ในส่ิงทไี่ ม่ชอบ

หมน่ิ ประมาท ใส่ความตอ่ พดู บุคคลท่ีสาม เขียน ภาพวาด การ์ตูน ป้ันรูป ทาหุ่น ยกเวน้ โทษ ที่เป็นประโยชนต์ ่อ ดูหมปนิ่ ระใชส่าคชวานมผอู้ ่ืนซ่ึงหนา้ “ไอเ้ ห้ีย” “อีดอกทอง” “อี ปี ศาจ”

ละทงิ้ - จุดทก่ี าหนดให้ปฏบิ ตั งิ าน กลบั ละทงิ้ หน้าท่ี ออกไป ทอี่ ื่น หรือออกนอกจุดทกี่ าหนดให้อยู่ ประจา - ไม่ปฏิบัตหิ น้าทีร่ าชการเลย ทอดทงิ้ - ตวั อยู่แต่ไม่ทางาน ไม่เอาใจใส่ ไม่เอาเป็ นธุระ หรือปล่อยให้งานคงั่ ค้าง อุทศิ เวลาของตน- การสละเวลาทนี่ อกเหนือต้องปฏบิ ตั ิ ตามปกติ เช่น วนั หยุดราชการ นอกเวลา ปฏบิ ตั งิ านราชการ การมาลงเวลาปฏบิ ตั งิ านแล้วไม่อยู่สถานศึกษาถือเป็ น การละทงิ้ หน้าทเี่ ช่นกนั

มูลเหตุจูงใจ กรณไี ม่อทุ ศิ เวลา ละทงิ้ หรือทอดทงิ้ หน้าทร่ี าชการ(ม.๘๗) 1. กระทาตามอารมณ์ 2. ไม่ใหค้ วามสาคญั ต่อวินยั ขา้ ราชการ 3. อาศยั ตาแหน่งหนา้ ท่ีของตนซ่ึงเป็นผบู้ งั คบั บญั ชากระทาผดิ ทางวินยั 4. เป็นโรคประสาท หรือมีปัญหาครอบครัวแลว้ เกิดความเครียด 5. เกิดความคบั ขอ้ งใจในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ 6. กระทาเพอ่ื ตอ้ งการผลประโยชน์ตอบแทนท่ีดีกวา่ 7. ด่ืมสุรากระทาผดิ ทางวินยั 8. มีปัญหาภาระหน้ีสินมาก 9. เน่ืองจากไม่เขา้ ใจระเบียบปฏิบตั ิและแบบธรรมเนียมของทางราชการ

มาตรา 86 ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตอ้ งปฎิบตั ิตามคาสง่ั ซ่ึงสง่ั ในหนา้ ทางราชการโดยชอบดว้ ยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยไม่ขดั ขืน หรือหลีกเล่ียงแต่ถา้ เห็นวา่ การปฏิบตั ิตามคาลงั่ น้นั จะทาให้ เสียหายแก่ทางราชการ หรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ทางราชการ จะ เสนอความเห็นเป็นหนงั สือภายในเจด็ วนั เพื่อใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาทบทวน คาสง่ั น้นั กไ็ ด้ และเม่ือเสนอความเห็นแลว้ ถา้ ผบู้ งั คบั บญั ชายนื ยนั เป็น หนงั สือ ใหป้ ฏิบตั ิตามคาสงั่ เดิม ผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชา จะตอ้ งปฏิบตั ิตาม

การขดั คาสง่ั หรือหลีกเล่ียงไม่ปฏิบตั ิตามคาสงั่ ของผบู้ งั คบั บญั ชา ซ่ึงสง่ั ใน หนา้ ท่ีราชการโดยชอบดว้ ยกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ อนั เป็นเหตุ ใหเ้ สียหายแก่ทางราชการอยา่ งร้ายแรง เป็นความผดิ วินยั อยา่ งร้ายแรง

กรณเี ล่นการพนันสลากกนิ รวบ (มติ ค.ร.ม. 29 ธนั วาคม 2498) ขา้ ราชการมีเหตุผลน่าเช่ือวา่ เป็น เจ้ามือ ผู้เดนิ ขาย หรือผู้เล่น ใหพ้ ิจารณาโทษ อย่างน้อยต้องปลดออกจากราชการ

กรณชี ู้สาว หมายถงึ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในเชิงกามารมย์ท้งั สองฝ่ าย หรือฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึง 1. โสด กบั โสด 2. โสด กบั ไม่โสด 3. ไม่โสด กบั ไม่โสด รู้ 4. จดทะเบยี นสมรสซ้อน ไม่รู้ 5. อนาจารนักเรียนขนึ้ อยู่กบั การกระทา เช่น จบั ของสงวนปลดออก จับแก้ม จับศีรษะ จบั ก้น จบั ไหล่อาจถูกภาคทณั ฑ์หรือตดั เงนิ เดือน 6. มคี วามสัมพนั ธ์ฉันท์ชู้สาวกบั ศิษย์หรือผู้เรียนถงึ ข้นั ได้เสียไล่ออกจากราชการ 7. อื่น ๆ เช่น  จติ วปิ ริตทางเพศ ครูเกย์กระทาต่อศิษย์หรือผู้เรียน ปลดออกหรือล่ออก ครูเลสเบยี้ น

มูลเหตุจูงใจ “กรณชี ู้สาว” ๑. มีความใกล้ชิดสนิทสนมจนเกดิ ความสัมพนั ธ์ในทางชู้สาว ๒. มีความมกั มากในกามคุณและมโี อกาส ๓. ครอบครัวเดมิ ไม่มีความสุขพบคนใหม่ทเ่ี ข้าใจกนั ๔. ถูกหลอกลวง ต่อมาทราบเร่ืองกย็ งั ไม่แก้ไขมีความสัมพนั ธ์เรื่อยมา ๕. ถูกปลกุ ปลา้ เลยตกกระไดพลอยโจน ๖. ความว้าเหว่ เมื่อพบคนท่ีให้ความสนใจเอาใจใส่และมีโอกาส ๗. มีนิสัยเจ้าชู้จนคู่สมรสเกดิ ความหึงหวง ๘. ชะล่าใจ แต่งงานแล้วไม่จดทะเบยี นสมรส เมื่อจดทะเบียนสมรส กลายเป็ นทะเบียนสมรสซ้อน

กรณชี ู้สาว 1. สถานภาพของคู่กรณี 2. ความเสื่อมเสียในสายตาบุคคลภายนอก 3. ผลเสียหายทเี่ กดิ ในครอบครัวของคู่กรณี

ระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง การไว้ผมและการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้าง และผู้ทที่ างานในรัฐวสิ าหกจิ พ.ศ. 2511 1. ทุกคนที่เป็นชาย ใหไ้ วผ้ มยาวปิ ดตีนผม 2. ทุกคนที่เป็นหญิง ไม่ใหส้ วมกระโปรงส้นั เหนือเข่า 3. ทุกคนท้งั ชายและหญิง ไม่ใหค้ าดเขม็ ขดั ใตส้ ะดือ ถา้ ผใู้ ดไม่ปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดท่ีกล่าวแลว้ น้ี ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาถือวา่ ไม่ปฏิบตั ิตามคาสง่ั ใหล้ งโทษทางวินยั ตามควรแก่กรณี จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี

พระราชบัญญตั กิ ารเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 • มาตรา 4 ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “การเล่นแชร์” หมายความวา่ การท่ีบุคคลต้งั แต่สามคนข้ึนไปตกลงกนั เป็นสมาชิกวงแชร์ โดยแต่ละคน มีภาระท่ีจะส่งเงิน หรือทรัพยส์ ินอื่นใด รวมเขา้ เป็นทุกกองกลางเป็นงวดๆ เพ่ือใหส้ มาชิกวงแชร์หมุนเวียนกนั รับ ทุนกองกลางแต่ละงวดน้ไั ปโดยการประมูลหรือโดยวธิ ีอื่นใด และใหห้ มายความรวมถึงการรวมทุนในลกั ษณะอื่น ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงดว้ ย • มาตรา 6 หา้ มมิใหบ้ ุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจดั ใหม้ ีการเล่นแชร์ท่ีมีลกั ษณะอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดดงั ต่อไปน้ี (1) เป็นนายวงแชร์หรือจดั ใหม้ ีการเล่นแชร์มีจานวนวงแชร์รวมกนั มากกวา่ สามวง (2) มีจานวนสมาชิกวงแชร์รวมกนั ทุกวงมากกวา่ สามสิบคน (3) มีทุนกองกลางต่อหน่ึงงวดรวมกนั ทุกวงเป็นมูลค่ามากกวา่ จานวนท่ีกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวง (ไม่เกิน 300,000 บาท) (4) นายวงแชร์หรือผจู้ ดั ใหม้ ีการเล่นแชร์น้นั ไดร้ ับประโยชน์ตอบแทนอยา่ งอื่นนอกจากสิทธิที่จะไดร้ ับทุน กองกลางในการเขา้ ร่วมเล่นแชร์ในงวดหน่ึงงวดใดไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเสียดอกเบ้ีย เพื่อประโยชนแ์ ห่งมาตราน้ี ใหถ้ ือวา่ ผทู้ ี่สญั ญาวา่ จะใชเ้ งินหรือทรัพยส์ ินอื่นใดแทนนายวงแชร์ หรือผจู้ ดั ใหม้ ีการเล่นแชร์เป็นนายวงแชร์ หรือผจู้ ดั ใหม้ ีการเล่นแชร์ดว้ ย • มาตรา 17 ผใู้ ดฝ่ าฝืนมาตรา 6 ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาทหรือท้งั จาท้งั ปรับ

เงนิ กู้ • เกนิ กว่า 2,000 บาท • ดูจานวนเงนิ ให้แน่นอนท้งั ตวั เลขและตวั หนังสือ • ดอกเบยี้ ไม่เกนิ 15% ถ้าเกดิ เป็ นโมฆะ ฟ้องได้เฉพาะ เงนิ ต้น • ต้องมลี ายมือชื่อผู้กู้ การถ่าย V.D.O. หรือการ ถ่ายภาพ ใช้เป็ นพยานหลกั ฐานไม่ได้

ทะเลาะววิ าท • ใครก่อก่อน ถูกลงโทษ • สมัครใจทะเลาะวิวาท ลงโทษท้งั คู่ แจ้งความ ปรับ ลงโทษ ลงมือทาร้ายร่างกาย แจ้งความ ดาเนินคดี ลงโทษ แจ้งความอนั ตรายแก่กายสาหัส พจิ ารณาจาก คาพพิ ากษาของศาล

กรณเี สพสุรา (มติ ค.ร.ม. 3 กนั ยายน 2496) – ขา้ ราชการครูผใู้ ดเสพสุรามึนเมาจนไม่สามารถครองสติได้ ซ่ึงอาจ ทาใหเ้ สียเกียรติศกั ด์ิของตาแหน่งหนา้ ที่ราชการ ใหพ้ ิจารณา ลงโทษตามควรแก่กรณี – ขา้ ราชการผใู้ ดเสพหรือมึนเมาสุราในกรณีต่อไปน้ี อาจถกู ลงโทษ สถานหนกั ถึง (ใหอ้ อก จากราชการ ซ่ึงไม่ใช่โทษ) ปลดออก หรือไลอ่ อกจากราชการ เช่น 1. เสพสุราในขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการ 2. เมาสุราเสียราชการ 3. เมาสุราในที่ชุมชนจนเกิดเรื่องเสียหาย หรือเสียเกียรติศกั ด์ิของตาแหน่งหนา้ ท่ีราชการ มตคิ .ร.ม. 14 กรกฎาคม 2496 เรื่อง ห้ามเสพสุราขบั ยานยานต์ • หา้ มมิใหข้ า้ ราชการหรือพนกั งานขบั รถของหน่วยราชการ และองคก์ ารต่าง ๆ เสพสุราในเวลาขบั ยานยนต์ ถา้ ปรากฎวา่ ผใู้ ดฝ่าฝืนใหถ้ ือวา่ เป็นความผดิ ตอ้ งลงโทษหนกั

มูลเหตุจูงใจ (กรณเี สพสุรา) 1.มีปัญหาครอบครัวแล้วด่ืมสุรา 2.ค่านิยมของสังคมทไี่ ม่เหมาะสม 3.เป็ นนิสัยของบุคคลน้ันๆทช่ี อบด่ืมสุรา

พฤติกรรมของคนด่ืมเหล้า 1. พดู คนเดยี ว ทุกคนฟัง 2. จบั คู่คุยกนั 3. ต่างคนต่างพดู ไม่มคี นฟัง 4. บ้างร้องเพลง บ้างหลบั บ้างทุบโต๊ะ เคาะแก้ว ทุบขวด 5. ตวั ใครตัวมนั คากล่าวเร่ือง  “ด่ืมเหล้า”  กนิ เหล้า  เล่าเรื่อง เปลืองเหล้า เอาเร่ือง เคืองกนั

ด่ืมสุราอยา่ ประมาท พล้งั พลาดอาจโดน

ครูไทย 22 ประเภท (ผดิ วนิ ัย) 1. เมาท้งั วนั 2. ผนั ดอกเบ้ีย 3. เมียเจา้ นาย 4. สายตลอดปี 5. หนีหอ้ งสอน 6. นอนหลบั นก 7. พกตารา 8. บา้ แต่งตวั 9. มว่ั เดก็ สาว 10. ดาวการเมือง 11. เฟื่ องการพนนั 12. ฟันเจา้ นาย 13. ขายหวยเบอร์ 14. เหม่อตาลอย 15. คอยเวลา 16. หาโอกาส 17. ขาดความเกรง 18. เกง้ การงาน 19. พาลเพ่ือนครู 20. ดูสิ่งผดิ 21. คิดทาลาย 22. ใชค้ าหยาบ

ข้าราชการจะอา้ งวา่ ไม่รู้กฎหมาย และระเบียบแบบแผนไม่ได้ มติ ค.ร.ม.วนั ท่ี 29 มีนาคม พ.ศ.2497

ด่ืม ดีกวา่ ด่ืม ด่ืมแลว้ รื่นรมยเ์ พราะด่ืม ดื่มแลว้ งี่เง่าเพราะดื่ม ดื่มแลว้ ระทมเพราะดื่ม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook