การร้จู กั นักเรียนเป็นรายบคุ คล
เทคนิควิธีทดสอบ (Testing Techniques) เป็นเครื่องมือท่ีเป็นแบบทดสอบ(TESTING) ซ่ึงมีความเป็น ปรนัย(OBJECTIVE) และเป็นมาตรฐาน(STANDARDIZATION) ในการวดั และประเมินลกั ษณะในด้านต่างๆ ของบคุ คล
เทคนิ ควิธีการทดสอบ แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา (INTELLIGENCE TEST) แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิ (ACHIEVEMENT TEST) แบบสารวจความสนใจ (INTEREST INVENTORY) แบบทดสอบความถนัด (APTITUDE TEST) แบบทดสอบบคุ ลิกภาพ (PERSONALITY TEST)
แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา (Intelligence Test) แบบทดสอบเชาวน์ปัญญาเป็ นเคร่ืองมือที่ใช้วดั และ ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม ส า ม า ร ถ ท า ง ส ม อ ง ข อ ง บุค ค ล ใ น ก า ร ที่ จ ะ เรียนรู้และตดั สินใจอย่างมีเหตุผล สามารถแก้ปัญหาและ ปรบั ตวั อย่ใู นสงั คมได้อย่างเหมาะสม
แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา (Intelligence Test) 1. แบบทดสอบเชาวน์ปัญญาของสแตนฟอรด์ บิเนต์ (STANFORD BINET INTELLIGENCE SCALE) 2. แบบทดสอบเชาวน์ปัญญาของเวคสเลอร์ (WECHSLER INTELLIGENCE SCALE) ของเดวิด เวคสเ์ ลอร์ (DAVID WECHSLER) 3. แบบทดสอบโพรเกรสซิฟแมทรีส ของ เจ.ซี. ราเวน (J.C. RAVEN)
แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิ (Achievement Test) แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิ เป็นเครื่องมอื ท่ีใช้วดั และประเมิน ความรู้ ความสามารถ และความสาเรจ็ ในการเรียนร้ขู อง บคุ คล
ตวั อย่างแบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิ(Achievement Test) 1. แบบทดสอบท่ีครผู สู้ อน • เพ่อื ใช้วดั ผลการเรียนของนักเรียน สร้างขึน้ (Teacher made test) ในวิชาต่างๆ 2. แบบทดสอบมาตรฐาน • เพ่ือใช้วดั ผลสมั ฤทธ์ิในการเรียนวิชาใดวิชา (Standardized test) หนึ่งซ่ึงมีความเป็นมาตรฐาน คือ มีการ วิเคราะหห์ าค่าความเที่ยง ความตรง และค่า ปกติวิสยั แล้ว
แบบสารวจความสนใจ (Interest Inventory) แบบสารวจความสนใจ เป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้วดั และประเมิน ความร้สู ึกชอบหรือไม่ชอบในส่ิงใดสิ่งหน่ึงของบคุ คล คะแนนท่ีได้ จากการทดสอบ จะใช้ทานาย ความโน้มเอียงในการเลือกหรือ กระทาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตวั อย่างแบบสารวจความสนใจ (Interest Inventory) 1. แบบสารวจความสนใจทวั่ ไปของคเู ดอร์ (THE KUDER GENERAL INTEREST SURVEY) ของจี เฟรดเดอริค คเู ดอร์ (G.FREDERIC KUDER,1963) แปลและเรียบ เรียงโดย รศ.ดร. พรรณราย ทรพั ยะประภา เมอื่ ปี พ.ศ. 2516 และปรบั ปรงุ ใหม่ในปี พ.ศ. 2524 2. แบบทดสอบเอส ดี เอส (SELF DIRECTED SEARCH : SDS) ของ จอหน์ แอล ฮอลแลนด์ (JOHN L. HOLLAND) พฒั นาขึน้ ในปี พ.ศ. 2533 โดย รศ.ดร. นวลศิริ เปาโรหิต และได้มอบสิทธิให้แก่สมาคมแนะแนวแห่งประเทศ ไทยเป็นผเู้ ผยแพร่
แบบทดสอบความถนัด (Aptitude Test) แบบทดสอบความถนัด เป็ นเคร่ืองมือที่ใช้วดั และประเมิน ความสามารถหรือศกั ยภาพของบุคคลท่ีได้รบั การเรียนรู้หรือ ฝึ กฝนให้เกิดทกั ษะเฉพาะอย่างขึน้
แบบทดสอบความถนัด (Aptitude Test) แบง่ ออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. แบบทดสอบความถนัดทางการเรียน (SCHOLASTIC APTITUDE TEST) หรือที่เรียกว่าแบบทดสอบความถนัดพหคุ ณู (MULTIFACTOR APTITUDE TEST) 2. แบบทดสอบความถนัดเฉพาะทาง (SPECIFIC APTITUDE TEST) เป็น แบบทดสอบที่สร้างขึน้ เพื่อทดสอบความถนัดทางด้าน ใดด้านหน่ึงโดยเฉพาะเพียงด้านเดียว
แบบทดสอบบคุ ลิกภาพ (Personality Test) แบบทดสอบบุคลิ กภาพ เป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้วัดและประเมิน ลกั ษณะเฉพาะของบุคคล ทัง้ ท่าทาง ลกั ษณะนิ สัยความคิด และ การแสดงออกทางอารมณ์ ฯลฯ
เทคนิ ควิธีที่ไม่ใช่การทดสอบ (Non-Testing Techniques)
การไม่ใช้แบบทดสอบ การสงั เกต (OBSERVATION) มาตราสว่ นประมาณค่า (RATING SCALE) อตั ชีวประวตั ิ (AUTOBIOGRAPHY) แบบสอบถาม (QUESTIONNAIRE) การสมั ภาษณ์ (INTERVIEWING) สงั คมสมั พนั ธ์ (SOCIOGRAM) การศึกษาเป็นรายกรณี (CASE STUDY) ระเบยี นสะสม (CUMULATIVE RECORD)
ระเบยี นสะสม(Cumulative Record) เอกสารที่ใช้เกบ็ รวบรวมข้อมูลของผ้เู รียนเป็ นรายบุคคลตงั้ แต่ เร่ิมเข้าศึกษาจนกระทงั่ สาเรจ็ การศึกษา หรือออกจากสถานศึกษา นัน้ ๆ ไป
เอกสารส่วนบคุ คล อตั ชีวประวตั ิ • การท่บี คุ คลเรยี นเลา่ เร่อื งราวเก่ยี วกบั ตนเองและ (Autobiography) เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ตนเองซ่งึ เป็น เหตกุ ารณ์ ท่เี กดิ ข้ึนในอดีต ปจั จุบนั ตลอดจน ปญั หาและความม่งุ หวงั ตา่ งๆ ในชีวติ ซ่งึ จะช่วย ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในบคุ คลแต่ละคน รวมทง้ั เจต คตสิ ว่ นตวั และอารมณ์ท่อี ยู่เบ้อื งหลงั พฤตกิ รรม ของแต่ละบคุ คล
เอกสารส่วนบคุ คล บนั ทึกประจาวนั (Diary • การท่บี คุ คลเขียน เลา่ เร่อื งราวเก่ยี วกบั กจิ กรรมและ Record) เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ท่ตี นไดป้ ระสบในแตล่ ะวนั ตลอดจนความรูส้ กึ นึกคดิ ของตนเก่ยี วกบั กจิ กรรม และเหตกุ ารณ์เหลา่ น้นั
เอกสารส่วนบคุ คล แบบกรอกประวตั ิ • เคร่อื งมอื ทางการแนะแนวชนิดหน่ึงท่จี ดั ทาข้ึน (Personal Data) เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นไดก้ รอกขอ้ ความซ่งึ เป็นขอ้ มลู เก่ยี วกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ สว่ นตวั ภมู ิหลงั และโครงการ ในอนาคตของตนเอง เช่น ประวตั สิ ว่ นตวั ครอบครวั สขุ ภาพ ดา้ นการเรยี น ความสนใจ ในการทากจิ กรรมต่าง ๆ เป็นตน้
สงั คมสมั พนั ธ์ *สงั คมมิติ (SOCIOMETRY) วิธีการศึกษาความสมั พนั ธท์ าง สงั คม และการประเมินความสมั พนั ธข์ องบคุ คลกบั กล่มุ คนที่อยู่ ในสงั คมเดียวกนั * ใครเอ่ย (GUESS WHO หรอื WHO’S WHO TECHNIQUE) วิธีการวดั ทางสงั คมมิติชนิดหนึ่งท่ีนิยมใช้ในโรงเรียน มีลกั ษณะ เป็นข้อคาถามที่เฉพาะเจาะจงให้นักเรียนเลือกตอบ ช่ือเพ่ือนที่มี คณุ ลกั ษณะตรงกบั ข้อคาถามท่ีกาหนดให้
การสงั เกต (Observation) การเฝ้ามองและรบั ร้พู ฤติกรรมตามธรรมชาติของบุคคลหรือ ส่ิงที่สงั เกตด้วยความตงั้ ใจ โดยอาศยั ประสาทสมั ผสั ในการรบั รู้
แบบสอบถาม (Questionniare) ชุดของข้อคาถามที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลของบุคคล อย่างมีเป้าหมาย โดยอาจให้ผตู้ อบเขียนตอบเป็นข้อความหรือ ท าเ ค ร่ื อ ง ห ม าย ล งใน ชุด ข้ อ คา ถ าม ผ ล ท่ี ไ ด้ จ าก ก าร ท า แบบสอบถามจะช่วยให้ทราบถึงข้อเทจ็ จริง ความคิดเหน็ ความ สนใจ ปัญหา ฯลฯ ของผตู้ อบ ขึน้ อย่กู บั วตั ถปุ ระสงคใ์ นการสร้าง แบบสอบถามนัน้ ๆ
การสมั ภาษณ์ (Interview) การสนทนาอย่างมีจดุ ม่งุ หมายของบคุ คลตงั้ แต่ 2 คน ขึน้ ไป โดย มีฝ่ ายหน่ึ งทาหน้ าท่ีเป็ นผู้สัมภาษณ์ ส่วนอีกฝ่ ายหน่ึ งเป็ นผู้ถูก สมั ภาษณ์
การเยี่ยมบา้ น (Home Visitation) การไปดูสภาพที่แท้จริงของที่อยู่อาศยั สภาพแวดล้อม ชุมชน บริเวณรอบๆ ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนความสมั พนั ธข์ องผเู้ รียน กบั บคุ คลในครอบครวั
การศึกษาบคุ คลเป็นรายกรณี (Case study) กระบวนการศึกษาบุคคลอย่างละเอียดต่อเน่ือง โดยใช้เทคนิ ค หลายๆอย่างในการเก็บรวบรวมข้อมูล และนาข้อมูลที่ได้มา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และวินิจฉัยปัญหาเพื่อทาความเข้าใจถึงสาเหตุ หรือที่มาของสิ่งที่ศึกษาอันจะนาไปสู่การดาเนิ นการหรือการให้ ข้อเสนอแนะท่ีเป็นประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไข ป้องกนั ปัญหาหรือส่งเสริมพฒั นาการของบคุ คลต่อไป
หลกั การในการนาข้อมลู ท่ีเกบ็ รวบรวมไปใช้ 1. ควรคานึงถงึ ความเป็นปัจจบุ นั ของข้อมลู ท่ีจะนามาใช้ 2. การวิเคราะหข์ ้อมลู จากเทคนิคและเคร่ืองมอื บางชนิดจาเป็น ต้องอาศยั ผทู้ ่ีมีความชานาญและเคยได้รบั การฝึ กมาแล้ว 3. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ต่างๆ ของผเู้ รียนจาเป็นต้องเป็น ความลบั 4. ควรจดั เกบ็ ข้อมลู อย่างเป็นระบบ เพ่ือช่วยในการค้นหาและ นามาใช้ได้งา่ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: