Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุดคู่มือพนักงานใหม่ฉบับสมบูรณ์ Version Thai

สมุดคู่มือพนักงานใหม่ฉบับสมบูรณ์ Version Thai

Published by siamgsbatteryth, 2023-07-10 02:53:58

Description: สมุดคู่มือพนักงานใหม่ฉบับสมบูรณ์ Version Thai

Search

Read the Text Version

1 ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่ัวไปและพนักงานเข้าทางานใหม่

1 ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่ัวไปและพนักงานเข้าทางานใหม่

1 ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน บทนาสาหรบั พนกั งานทัว่ ไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ บริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี่ จำกัด ได้เล็งเห็นความสำคัญของความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ของพนักงานเป็นอันดับแรกในการทำงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การ ปฏิบัติงานในทุกๆ กิจกรรมการทำงานของพนักงานในองค์กรมีความปลอดภัยสูงสุดควบคู่ไปกับการดำเนิน ธรุ กจิ ขององค์กร การจัดทำคู่มือความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเล่มนี้ ถือเป็นส่วนหนง่ึ ในการส่งเสริม และสนับสนุนให้พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจ และทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตน ตลอดจนนำความรู้จากคู่มือความปลอดภัยเล่มนี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้ เกิดข้นึ แกต่ นเอง ผรู้ ว่ มงาน ครอบครัว และองค์กรและเพ่อื ใหก้ ารบรหิ ารจดั การความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร ทางบริษัทฯจึงมอบหมาย ให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานทุกระดับชั้นภายในองค์กรทำหน้าที่ในการควบคุม กำกับ ดูแล ฝกึ สอนใหพ้ นกั งานในสายการบังคับบัญชา ตลอดจนผู้รบั เหมา และบคุ คลภายนอกให้ปฏบิ ัติงานตามขั้นตอน และวิธกี ารปฏิบัติงานท่ปี ลอดภัย ตลอดจนระยะเวลาทีป่ ฏิบตั ิงานภายในองคก์ รอยา่ งเครง่ ครดั หนว่ ยงานความปลอดภัยฯ

1 ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทว่ั ไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ สารบัญ นโยบายและการบริหารความปลอดภัยฯ บริษัท สยามยีเอสแบตเตอร่ี จำกดั บทที่ 1 หนา้ ความรเู้ ก่ียวกบั ความปลอดภัยในการทำงาน 1 1.1 คำจำกดั ความท่เี ก่ียวข้อง 1.2 บทบาทหนา้ ทขี่ องงานความปลอดภัย 2 1.3 อุบตั เิ หตุจากการทำงาน 3 1.4 การเจ็บป่วยจากสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 10 1.5 การปอ้ งกนั อุบตั ิเหตแุ ละการเจ็บปว่ ยจากการทำงาน 13 1.6 โรคท่เี กดิ จากการทำงาน 16 18 บทที่ 2 30 กฎหมายความปลอดภยั ฯ 31 2.1 พระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภยั ฯ 37 2.2 กฎหมายท่ีเก่ยี วข้องกับความปลอดภัยในการทำงาน 42 บทท่ี 3 43 45 ขอ้ บังคบั วา่ ด้วยความปลอดภยั ฯ และกฎระเบยี บของบรษิ ัทฯ 48 3.1 การจดั การความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 75 3.2 กฎระเบียบและมาตรฐานความปลอดภยั ในการทำงานท่วั ไป 87 3.3 ความปลอดภัยในงานท่ัวไป สำนกั งาน และงานเฉพาะ 88 3.4 ปัจจัยอันตรายจากสภาพแวดลอ้ มในการทำงานในแต่ละแผนก 3.5 กิจกรรมส่งเสรมิ ความปลอดภัยฯ 3.6 ระบบมาตรฐานสากลของบริษทั สยามยเี อสแบตเตอรี่ จำกดั

นโยบายการจดั การ ด้านความปลอดภยั 1 ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน อาชวี นามยั และสง่ิ แวดสาหลรับ้อพมนกั งานท่วั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่

1 ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทั่วไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ บทที่ 1 ความรเู้ กย่ี วกับความปลอดภัยในการทางาน

1|Page ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานท่ัวไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ บทที่ 1 :ความร้เู กยี่ วกบั ความปลอดภยั ในการทำงาน ประกอบด้วยหวั ขอ้ ดังตอ่ ไปน้ี 1. คำจำกดั ความทเ่ี ก่ียวข้อง 2. บทบาทหนา้ ทีข่ องงานความปลอดภัย 3. อบุ ตั เิ หตจุ ากการทำงาน 4. การเจ็บป่วยจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน 5. การปอ้ งกันอุบัตเิ หตุและการเจ็บป่วยจากการทำงาน 6. โรคทเ่ี กดิ จากการทำงาน วัตถปุ ระสงค์ การประสบอนั ตรายจากการทำงาน อาจมีผลทำให้เกิดการบาดเจ็บ พกิ าร เจ็บปว่ ย เกดิ โรค จากการ ทำงานหรือเสียชีวิต และอาจทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงานเหล่าน้ี เปน็ เรอ่ื งทส่ี ามารถป้องกนั มิใหเ้ กดิ ขน้ึ ได้ การดำเนนิ งานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ ม ในการทำงาน จึงเป็นแนวทางในการป้องกันและควบคุมอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงาน สถานประกอบกจิ การต้องดำเนินการค้นหาอนั ตรายและลดความเสีย่ งต่ออนั ตรายนน้ั ตลอดจนหาสาเหตุของ อุบัติเหตุและการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับลูกจ้างและผู้เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ โดยลกู จา้ งจะต้องมสี ่วนร่วมในการดำเนินการตา่ ง ๆ เหลา่ นด้ี ้วย การดำเนินงานเพื่อการป้องกันอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานนั้น ลูกจ้างจึงต้องมีความเข้าใจถึงปัญหา สาเหตุของการประสบอันตรายจากการทำงาน ทราบถึงบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบและมีแนวทางใน การปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการ ทำงานในสถานประกอบกจิ การให้เกดิ ประสิทธิผลอย่างชดั เจน

2|Page ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทัว่ ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ 1.1 คำจำกัดความทเี่ กีย่ วข้อกับความปลอดภัยฯ พระราชบญั ญัตคิ วามปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 ไดใ้ ห้คำจำกดั ความของคำวา่ “ความปลอดภยั ” ดังนี้ “ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” หมายถึง การกระทำ หรือ สภาพการทำงานซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดการประสบอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ อนามัยอันเนื่องจากการทำงานหรือเกี่ยวกับการทำงาน โดยทั่วไปคำว่า ความปลอดภัยในการทำงาน หรือ ความปลอดภัยและสุขภาพ อนามัยในการทำ งาน (Safety and Health at Work) หรืออาชีวอนามัยและ ความปลอด ภ ัย ( Occupational Health and Safety) หรือความปลอด ภ ัยแ ละ อาชีวอ น า มั ย (Occupational Safety and Health) หรือความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ล้วนมคี วามหมาย เหมอื นกนั คอื หมายถึง ความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงานของลูกจ้าง นายจ้าง หมายถึง นายจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและให้หมายความรวมถึง ผู้ประกอบกิจการซึ่งยอมให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาทำงานหรือทำผลประโยชน์ให้แก่หรือในสถานประกอบ กิจการ ไม่ว่าการทำงานหรือการทำผลประโยชน์นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดในกระบวนการผลิต หรอื ธุรกิจในความรบั ผิดชอบของผปู้ ระกอบกจิ การนนั้ หรือไมก่ ็ตาม ลูกจ้าง หมายถงึ ลกู จา้ งตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและให้หมายความรวมถึงผู้ซ่ึงได้รับ ความยินยอมให้ทำงานหรือทำผลประโยชนใ์ ห้แก่หรือในสถานประกอบกิจการของนายจ้าง ไม่ว่าจะเรียกชอื่ อยา่ งไรกต็ าม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หมายถึง ลูกจ้างซึ่งนายจ้างแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ด้าน ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน มาตรฐานระบบการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัยและสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน ไดใ้ หค้ ำจำกดั ความ ดังนี้ อันตราย หมายถึง สภาวการณท์ ่มี เี หตุอันจะทำใหเ้ กิดความสูญเสยี อุบัติเหตุ หมายถึง เหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดตั้งใจให้เกิด เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีผลให้เกิดการบาดเจ็บ หรือ เสียชีวติ หรือทรัพย์สนิ เสียหาย เหตกุ ารณ์เกอื บเกดิ เป็นอุบัติเหตุ หมายถึง เหตกุ ารณท์ ไ่ี มม่ ผี ใู้ ดตั้งใจให้เกิดเมือ่ เกิดข้ึนแล้วไม่มีผลให้ เกิดการบาดเจบ็ หรอื เสยี ชวี ิต หรอื ทรพั ยส์ นิ เสยี หาย ความสญู เสีย หมายถงึ การบาดเจบ็ หรือเสยี ชวี ิต หรือทรพั ย์สนิ เสียหาย หรือเจ็บป่วย หรือเป็นโรค

3|Page ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทวั่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ ความเสี่ยง หมายถงึ ระดบั ของอนั ตรายท่บี ง่ บอกว่ายอมรับได้หรอื ยอมรับไม่ได้ ระเบียบการปฏิบัติงาน หมายถึง การอธิบายภาพรวมของการทำงานในกระบวนการทำงานว่า เกยี่ วขอ้ งกบั อะไร ใคร เมื่อไหร่ ทไ่ี หน อย่างไร มเี อกสารอะไรบ้างท่เี ก่ียวข้อง ขัน้ ตอนและวธิ ีการปฏบิ ัตงิ าน หมายถึง การอธบิ ายว่าแต่ละข้นั ตอนงานมรี ายละเอยี ดการปฏิบัติงาน อยา่ งไร 1.2 บทบาทหน้าท่ขี องงานความปลอดภัย กฎกระทรวง การจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะ บุคคลเพ่อื ดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ พ.ศ.2565 โดยบริษทั สยามยีเอสแบตเตอรี่ จำกดั ได้จดั ให้มคี ณะบุคคลเพื่อดำเนนิ การด้านความปลอดภัย ดงั นี้ 1.2.1 คณะกรรมการความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) โดยมหี น้าท่ีในการทำงาน ดงั น้ี 1. จัดทำนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ของสถาน ประกอบกจิ การ เสนอต่อนายจ้าง 2. จัดทำแนวทางการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ การประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิด เหตเุ ดอื ดร้อนรำคาญอันเนอ่ื งจากการทำงานของลกู จ้าง หรอื ความไม่ปลอดภัยในการทำงานเสนอต่อ นายจา้ ง 3. รายงานและเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางปรับปรุงแก้ไขสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมใน การทำงานให้เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานต่อนายจ้าง เพื่อความ ปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง ผู้รับเหมา และบุคคลภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงานหรือเข้ามาใช้ บรกิ ารในสถานประกอบกิจการ 4. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมดา้ นความปลอดภยั ในการทำงานของสถานประกอบกิจการ 5. พิจารณาคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถาน ประกอบกิจการเพอ่ื เสนอความเหน็ ต่อนายจ้าง 6. สำรวจการปฏิบตั กิ ารด้านความปลอดภัยในการทำงานและรายงานผลการสำรวจดงั กลา่ วรวมท้ังสถิติ การประสบอนั ตรายที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการนนั้ ในการประชมุ คณะกรรมการความปลอดภัย ทกุ ครง้ั

4|Page ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานทวั่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ 7. พิจารณาโครงการหรือแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงโครงการหรือ แผนการอบรมเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านความปลอดภัยของลูกจ้างหัวหน้างาน ผูบ้ รหิ าร นายจา้ ง และบคุ ลากรทุกระดับเพื่อเสนอความเห็นตอ่ นายจ้าง 8. จัดวางระบบให้ลูกจา้ งทุกคนทุกระดับมหี นา้ ทต่ี อ้ งรายงานสภาพการทำงานทไ่ี ม่ปลอดภยั ต่อนายจา้ ง 9. ติดตามผลความคบื หน้าเรอื่ งท่ีเสนอตอ่ นายจา้ ง 10. รายงานผลการปฏิบตั ิงานประจำปี รวมทงั้ ระบุปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติหน้าท่ี ของคณะกรรมการความปลอดภัยเมื่อปฏิบัติหนา้ ทคี่ รบหนงึ่ ปเี สนอต่อนายจา้ ง 11. ประเมินผลการดำเนินงานด้านความปลอดภยั ในการทำงานของสถานประกอบกจิ การ 12. ปฏบิ ตั งิ านดา้ นความปลอดภยั ในการทำงานอน่ื ตามท่ีนายจ้างมอบหมาย 1.2.2 เจ้าหน้าทีค่ วามปลอดภัยในการทำงาน แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท • เจา้ หน้าทคี่ วามปลอดภยั ในการทำงาน โดยตำแหน่ง เจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทำงานระดับหัวหนา้ งาน เจ้าหน้าที่ความปลอดภยั ในการทำงานระดับบริหาร • เจ้าหนา้ ท่ีความปลอดภัยในการทำงาน โดยหนา้ ทเี่ ฉพาะ เจา้ หนา้ ทคี่ วามปลอดภยั ในการทำงานระดบั เทคนิค เจา้ หนา้ ทีค่ วามปลอดภยั ในการทำงานระดบั เทคนคิ ขนั้ สูง เจ้าหนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทำงานระดับวชิ าชีพ

5 | Page ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่ัวไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ ภาพที่ 1 : แผนผังประเภทของเจา้ หน้าที่ความปลอดภยั หนา้ ทใ่ี นการปฏิบตั ิงาน 1. เจา้ หน้าท่ีความปลอดภยั ในการทำงาน โดยตำแหน่ง เจา้ หน้าท่คี วามปลอดภัยในการทำงานระดบั หวั หนา้ งาน 1. กำกับดูแลลูกจ้างในหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติตามคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกจิ การ 2. วิเคราะห์งานในหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อค้นหาความเสี่ยงหรืออันตรายเบื้องต้นจากการ ทำงาน โดยอาจร่วมดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับเทคนิค ระดบั เทคนคิ ขั้นสงู หรอื ระดับวิชาชีพ 3. จัดทำคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท ำงานของ หน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยร่วมดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับ เทคนิค ระดับเทคนิคขั้นสูง หรือระดับวิชาชีพ เพื่อเสนอคณะกรรมการความปลอดภัยหรือ นายจ้าง แล้วแต่กรณี และ ทบทวนคู่มือดังกล่าวตามที่นายจ้างกำหนด โดยนายจ้างต้อง กำหนดใหม้ ีการทบทวนอย่างน้อยทกุ หกเดอื น

6|Page ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทว่ั ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ 4. สอนวิธีการปฏิบัติงานที่ถูกต้องแก่ลกู จ้างในหน่วยงานที่รบั ผิดชอบเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ในการทำงาน 5. ตรวจสอบสภาพการทำงานของเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ก่อนลงมอื ปฏบิ ตั ิงานประจำวนั 6. กำกับดูแลการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลของลูกจ้างในหน่วยงาน ทีร่ ับผดิ ชอบ 7. รายงานการประสบอนั ตราย การเจ็บปว่ ย หรอื การเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเน่ืองจากการ ทำงานของลกู จา้ งต่อนายจ้าง และแจง้ ตอ่ เจ้าหนา้ ทค่ี วามปลอดภัยในการทำงานระดบั เทคนคิ ระดับเทคนิคขั้นสูง หรือระดับวิชาชีพ สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีหน่วยงาน ความปลอดภยั ให้แจ้งตอ่ หน่วยงานความปลอดภยั ทันทีทเี่ กิดเหตุ 8. ตรวจสอบหาสาเหตุการประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ อันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้างร่วมกับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับเทคนิค ระดับเทคนิคขั้นสูง หรือระดับวิชาชีพ และรายงานผลการตรวจสอบ รวมท้ัง เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ข ปัญหาต่อนายจา้ ง เพอ่ื ป้องกันการเกดิ เหตโุ ดยไมช่ กั ชา้ 9. สง่ เสรมิ และสนับสนุนกิจกรรมความปลอดภัยในการทำงาน 10. ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยในการทำงานอื่นตามที่นายจ้างหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทำงานระดับบริหารมอบหมาย เจา้ หน้าทค่ี วามปลอดภัยในการทำงานระดบั บรหิ าร 1. กำกับดูแลเจ้าหนา้ ท่คี วามปลอดภัยในการทำงานทุกระดบั ซึ่งอยู่ในบงั คับบัญชาของตน 2. เสนอแผนงานหรือโครงการด้านความปลอดภัยในการทำงานในหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตอ่ นายจา้ ง 3. ส่งเสริม สนับสนุน และติดตามการดำเนินงานเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ให้เป็น ไปตามแผนงานหรือโครงการ เพื่อให้มีการจัดการด้านความปลอดภัยในการทำงานท่ี เหมาะสมกับ สถานประกอบกิจการ 4. กำกับดูแลและติดตามให้มีการแก้ไขข้อบกพรอ่ งเพื่อความปลอดภัยในการทำงานของลกู จ้าง ตามที่ได้รับรายงานหรือตามข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน คณะกรรมการความปลอดภัย หรอื หนว่ ยงานความปลอดภยั

7|Page ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่วั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ 2. เจา้ หน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน โดยเฉพาะหน้าท่ี เจ้าหนา้ ทคี่ วามปลอดภัยในการทำงานระดบั เทคนคิ 1. ตรวจสอบและเสนอแนะให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 2. วิเคราะห์งานเพื่อชี้บ่งอันตรายและกำหนดมาตรการป้องกันและขั้นตอนการทำงานอย่าง ปลอดภัยเสนอต่อนายจ้าง 3. แนะนำลูกจ้างปฏบิ ัติตามคู่มอื วา่ ด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการ ทำงานของสถานประกอบกจิ การ 4. ตรวจสอบหาสาเหตุการประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอัน เน่ืองจากการทำงานของลกู จ้าง และรายงานผลการตรวจสอบ รวมท้ังเสนอแนะแนวทางการ แก้ไขปัญหาตอ่ นายจา้ ง เพ่อื ป้องกันการเกิดเหตโุ ดยไมช่ ักชา้ 5. รวบรวมสถิติและจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประสบอันตรายการเจ็บป่วย หรอื การเกดิ เหตุเดอื ดร้อนรำคาญอันเนอื่ งจากการทำงานของลูกจ้างเสนอตอ่ นายจา้ ง 6. ปฏบิ ัตงิ านด้านความปลอดภัยในการทำงานอน่ื ตามทีน่ ายจ้างมอบหมาย เจ้าหน้าทคี่ วามปลอดภยั ในการทำงานระดับเทคนคิ ขน้ั สงู 1. ตรวจสอบและเสนอแนะให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 2. วิเคราะห์งานเพื่อชี้บ่งอันตรายและกำหนดมาตรการป้องกันและขั้นตอนการทำงานอย่าง ปลอดภัยเสนอต่อนายจา้ ง 3. วิเคราะห์แผนงานหรือโครงการ และข้อเสนอแนะของหน่วยงานต่าง ๆ และเสนอแนะ มาตรการความปลอดภยั ในการทำงานต่อนายจ้าง 4. ตรวจประเมินการปฏิบัติงานของสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามแผนงาน โครงการหรือ มาตรการความปลอดภยั ในการทำงาน 5. แนะนำให้ลูกจ้างปฏิบัติตามข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ สภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกจิ การ 6. แนะนำฝึกสอน และอบรมลูกจ้าง เพื่อให้การปฏิบัติงานปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดความ ไมป่ ลอดภัยในการทำงาน

8|Page ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานท่วั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ 7. ตรวจสอบหาสาเหตุและวิเคราะห์การประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุ เดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง และรายงานผลการตรวจสอบ รวมทั้ง เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปัญหาต่อนายจา้ งเพ่อื ปอ้ งกันการเกดิ เหตุโดยไมช่ ักช้า 8. รวบรวมสถิติ วิเคราะห์ข้อมูล และจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประสบ อันตรายการเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง เสนอต่อนายจ้าง 9. ปฏบิ ัตงิ านด้านความปลอดภัยในการทำงานอ่นื ตามทีน่ ายจ้างมอบหมาย เจ้าหนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทำงานระดับวิชาชีพ 1. ตรวจสอบและเสนอแนะให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 2. วิเคราะห์งานเพื่อชี้บ่งอันตรายและกำหนดมาตรการป้องกันและขั้นตอนการทำงานอย่าง ปลอดภยั เสนอต่อนายจา้ ง 3. ประเมินความเสยี่ งดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน 4. วิเคราะห์แผนงานหรือโครงการ และข้อเสนอแนะของหน่วยงานต่าง ๆ และเสนอแนะ มาตรการความปลอดภัยในการทำงานตอ่ นายจา้ ง 5. ตรวจประเมินการปฏิบัติงานของสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามแผนงาน โครงการหรือ มาตรการความปลอดภยั ในการทำงาน 6. แนะนำให้ลูกจ้างปฏิบัติตามคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมใน การทำงานของสถานประกอบกจิ การ 7. แนะนำฝึกสอน และอบรมลูกจ้าง เพื่อให้การปฏิบัติงานปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดความ ไมป่ ลอดภยั ในการทำงาน 8. ตรวจวัดและประเมินสภาพแวดล้อมในการทำงานหรือดำเนินการร่วมกับบุคคล หรือนิติ บุคคลที่ขึ้นทะเบียนหรือได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน หรอื กฎหมายอ่นื ที่เกยี่ วข้อง 9. เสนอแนะต่อนายจ้างเพื่อให้มีการจัดการด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เหมาะสมกับ สถานประกอบกจิ การและพัฒนาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง

9|Page ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทว่ั ไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ 10. ตรวจสอบหาสาเหตุและวิเคราะห์การประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุ เดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง และรายงานผลการตรวจสอบ รวมทั้ง เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปัญหาตอ่ นายจา้ งเพ่ือปอ้ งกนั การเกดิ เหตุโดยไมช่ กั ช้า 11. รวบรวมสถิติ วิเคราะห์ข้อมูล และจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประสบ อันตรายการเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง เสนอตอ่ นายจา้ ง 12. ให้ความรูแ้ ละอบรมดา้ นโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแก่ลูกจ้างกอ่ นเข้าทำงาน และระหว่างทำงาน เพื่อทบทวนความรอู้ ยา่ งนอ้ ยปีละหนง่ึ ครั้ง 13. ปฏบิ ัติงานด้านความปลอดภัยในการทำงานอ่นื ตามที่นายจ้างมอบหมาย

10 | P a g e ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ 1.3 อบุ ัติเหตจุ ากการทำงาน จากนิยามคำว่าอุบัติเหตุ หมายถึง เหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดตั้งใจให้เกิด เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีผลให้เกิดการ บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหาย ในที่นี้จะกล่าวถึงอุบัติเหตุที่เกิดข้ึนจากการทำงานเท่านั้น เช่น ลูกจ้างตกจากทีส่ ูงขณะทำงานบนหลงั คา ลูกจ้างถูกใบเลือ่ ยบาดขณะเลื่อยไม้ ลูกจ้างถูกสารเคมกี ระเดน็ เข้า ตาขณะผสมสารเคมี เปน็ ตน้ สาเหตุของอุบตั เิ หตุแบง่ เป็น 2 ประเภท 01 การกระทำท่ีไมป่ ลอดภัย การกระทำหรือการปฏิบัตงิ านของคนที่มีผลทำให้เกดิ ความไม่ปลอดภยั กบั ตนเองและผ้อู ื่น เช่น • การทำงานไมถ่ ูกวธิ ี หรือไมถ่ ูกข้นั ตอน • ความประมาท ความไม่เอาใส่ใจในการทำงาน • การไม่ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของความปลอดภยั ในการทำงาน • หยอกล้อกนั ระหว่างทำงาน • สภาพรา่ งกายและสภาพจิตใจไม่พรอ้ มในการปฏบิ ตั ิงาน

11 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทัว่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ 02 สภาพการณ์ทีไ่ มป่ ลอดภัย สภาพแวดล้อมทไี่ ม่ปลอดภยั โดยรอบตวั ของผูป้ ฏบิ ัติงาน ขณะทำงานซึ่งอาจเป็นสาเหตขุ องการ เกดิ อุบัตไิ ด้ เชน่ • เครื่องจกั รไมม่ ีอปุ กรณ์ป้องกันอนั ตราย • อปุ กรณเ์ ครอ่ื งมือเครื่องจกั รที่ออกแบบไม่เหมาะสมกับการใช้งาน • บริเวณพืน้ ท่ขี องการปฏิบัตงิ านไม่เหมาะสม เช่น พื้นเป็นหลมุ ไม่สมำ่ เสมอ • การจัดเก็บวัสดุส่ิงของอย่างไมถ่ กู วิธี • การจัดเก็บสารเคมีหรือสารไวไฟท่เี ปน็ อันตรายไม่ถกู วธิ ี • การจัดการระเบียบและดูและความสะดวกของสถานทที่ ำงานไม่ถกู ตอ้ งตามหลกั 5ส ต่อมาได้มีการอธิบายเชิงลึกถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการกระทำที่ไม่ปลอดภัยและ สภาพการณ์ที่ไม่ ปลอดภัย ว่ามาจากความบกพร่องของฝ่ายบริหารที่ขาดการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ หรือละเลยที่จะ ดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานประกอบกิจการขาดโครงการ/กิจกรรมความ ปลอดภัยทค่ี รอบคลุมทกุ งานอันตราย ขาดการนำมาตรฐานความปลอดภัยที่เกีย่ วข้องมาใช้อย่างครบถ้วนใน กิจกรรมที่จำเป็น รวมถึงขาดการดำเนินงานด้านความปลอดภัยที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย มาตรฐาน และข้อ แนะต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ดังนั้น ความบกพร่องในการจัดการของฝ่ายบริหารของสถาน ประกอบกิจการ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการประสบอันตรายและความสูญเสียในสถานประกอบ กจิ การ

12 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ ความสูญเสยี ของอุบตั ิเหตแุ บง่ เปน็ 2 ประเภท ความสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุจากการทำงาน อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ใหญ่ ๆ ดังนี้ (1) ความสูญเสยี ทางตรง หมายถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยทเี่ กี่ยวข้องกบั ผปู้ ระสบอบุ ตั ิเหตุโดยตรง ไดแ้ ก่ 1) ค่ารักษาพยาบาล 2) คา่ ทดแทน 3) ค่าทำขวญั คา่ ทำศพ 4) คา่ ประกนั ชวี ิต (2) ความสญู เสยี ทางออ้ ม หมายถึง ค่าใช้จา่ ยอื่น ๆ (ซึง่ ส่วนใหญ่จะคำนวณเปน็ ตัวเงนิ ไดย้ าก นอกเหนือจาก ค่าใช้จ่ายจากความสูญเสียทางตรง ได้แก่ 1) การสูญเสียเวลาทำงานของ ก. ผปู้ ฏิบัตงิ านที่ได้ร ับบาดเจ็บ เพ่ือรกั ษาพยาบาล ข. ผปู้ ฏิบัตงิ านอนื่ ท่ีตอ้ งหยุดงานชั่วคราว เนื่องจาก - การช่วยเหลอื ผู้บาดเจบ็ โดยการปฐมพยาบาล หรอื นำสง่ โรงพยาบาล - ความอยากรู้อยากเห็น - การวพิ ากษ์วจิ ารณ์ - ความตื่นตระหนก ตกใจ และเสียขวญั ค. หัวหนา้ งานหรอื ผู้บังคับบัญชา เนือ่ งจาก - การช่วยเหลือผูบ้ าดเจบ็

13 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทั่วไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ - การสอบสวนหาสาเหตขุ องการเกดิ อุบตั เิ หตุ - การบนั ทกึ และจัดทำรายงานการเกิดอุบัตเิ หตุ - การจัดหาและฝึกสอนผปู้ ฏิบัติงานอนื่ ใหเ้ ขา้ ทำงานแทนผู้บาดเจบ็ 2) คา่ ใชจ้ ่ายในการซอ่ มแซมเครือ่ งจกั ร เคร่อื งมอื อุปกรณท์ ไ่ี ด้รบั ความเสยี หาย 3) วัตถดุ ิบหรือสินคา้ ทีไ่ ดร้ บั ความเสียหายต้องทง้ิ ทำลาย หรือขายทิ้ง 4) ผลผลิตลดลง เนื่องจากกระบวนการผลิตขัดข้อง ตอ้ งหยุดชะงกั 5) ค่าสวสั ดกิ ารต่าง ๆ ของผู้บาดเจ็บ 6) สถานประกอบกจิ การต้องจ่ายคา่ จ้างใหแ้ ก่ผู้บาดเจบ็ ตามปกติ แม้จะทำงานได้ ไม่เตม็ ที่ หรือต้องหยดุ ทำงาน 7) การสญู เสียโอกาสทางการค้า เช่น ผลผลติ ลดลง ทำงานไม่ได้ตามเปา้ หมายเป็นต้น 8) การเสียชื่อเสียง และภาพลกั ษณข์ องสถานประกอบกจิ การ 1.4 การเจ็บป่วยจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน สภาพแวดล้อมในการทำงานท่เี ป็นอันตรายตอ่ สุขภาพ สภาพแวดล้อมในการทำงานท่ีเป็นอันตรายตอ่ สุขภาพสภาพแวดล้อมในการทำงานท่ีเป็นอันตรายต่อ สุขภาพ หมายถึง สิ่งหรือสภาพตา่ ง ๆ ที่อยู่รอบตัวผู้ปฏิบัติงาน เช่น ความร้อน ความเย็น แสงสว่าง เสียงดัง ความสั่นสะเทือน รังสี ก๊าซ ไอสารฝุ่น ฟูม ละออง สารเคมี เชื้อโรค และสัตว์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังรวมถึง สภาพการทำงานที่ซ้ำซาก การเร่งรีบทำงาน การทำงานล่วงเวลา สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนร่วมงาน ค่าตอบแทน และชั่วโมงการทำงาน เป็นต้น ความไม่เหมาะสมของสภาพแวดล้อมในการทำงาน นับว่าเป็น ปจั จยั ที่มสี ่วนเกี่ยวข้องในการก่อใหเ้ กดิ การเจบ็ ปว่ ยจากการทำงานได้ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่อยู่รอบตัวผู้ปฏบิ ตั ิงาน ซึ่งอาจทำให้เกดิ การเจ็บป่วย หรือโรคจากการ ทำงาน แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ทางเคมี ทางชีวภาพ ทางการยศาสตร์ และทาง จิตวทิ ยาสงั คม ดังภาพท่ี 1

14 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทัว่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ ภาพที่ 1 : สภาพแวดลอ้ มในการทำงานที่เปน็ อนั ตรายตอ่ สุขภาพ (1) สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ เชน่ ความรอ้ น ความเยน็ แสงสวา่ ง เสียงดงั ความสนั่ สะเทอื น รังสี และความกดดนั บรรยากาศ เปน็ ต้น (2) สภาพแวดล้อมทางเคมี เช่น สารเคมีชนิดต่าง ๆ ที่เป็นวัตถุดิบ หรือผลผลิตหรือของเสียที่ต้อง กำจัด โดยทั่วไปสารเคมีดังกล่าวอาจจะอยู่ในรูป ก๊าซ ไอสาร ฝุ่น ฟูม ควัน ละอองหรืออยู่ในรูปของเหลว ตัวอย่างสารเคมี เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ตะกั่ว แมงกานีส ปรอท เบนซีน คาร์บอนเตตระคลอไรด์ แอสเบสตอส (ใยหิน) เปน็ ตน้ สารเคมเี หลา่ นอ้ี าจเขา้ สรู่ า่ งกายโดยการหายใจ การกิน หรอื การดูดซึมผา่ นทาง ผิวหนังของผู้ปฏิบัติงาน ปริมาณของสารเคมีนับว่ามีบทบาทอย่างมากที่ส่งผลให้เกิดโรคจากการทำ งานช้า หรอื เรว็ ถา้ หากผู้ปฏิบัติงานได้รบั สารเคมใี นปริมาณทีส่ งู มาก การเกดิ โรคจะเหน็ ไดช้ ัดในระยะเวลาอนั สน้ั แต่ ถา้ ไดร้ ับในปริมาณไมม่ ากนกั การเกิดโรคกจ็ ะใช้เวลานาน (3) สภาพแวดล้อมทางชีวภาพ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ไรฝุ่น พยาธิ และสัตว์อื่น ๆ เช่น ยุง หนู งู เป็นตน้ (4) สภาพแวดล้อมทางการยศาสตร์ เช่น การทำงานที่มีท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมการก้มยก ยา้ ยของผิดวิธี การบดิ เอยี้ วตัว การทำงานซ้ำซาก การทำงานหนักเกินขดี ความสามารถของผู้ปฏิบัติงาน การ ทำงานที่สถานงี านมีระดบั ความสงู ไม่เหมาะสมกับความสงู ของผู้ปฏบิ ตั งิ าน เป็นต้น (5) สภาพแวดล้อมทางจิตวิทยาสังคม เช่น งานที่ก่อให้เกิดความเครียดต่อจิตใจที่เกิดจากการ ทำงานแข่งกับเวลาตอ้ งทำงานด้วยความเร่งรบี การทำงานกะ การไดร้ ับค่าจา้ งทไ่ี มเ่ หมาะสม สัมพันธภาพ

15 | P a g e ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานทัว่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ ระหว่างผู้ปฏิบัติงาน เป็นต้นจากการที่ผู้ปฏิบัติงานต้องทำงานในสภาพแวดลอ้ มในการทำงานที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นผลทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคจากการทำงานขึ้น เมื่อเกิดการเจ็บป่วย ผู้ปฏิบัติงานนั้นอาจ ได้รับการตรวจวินิจฉัย รักษาพยาบาล และฟื้ นฟูสภาพให้หายได้ แต่เมื่อผู้ปฏิบัติงานนั้นกลับเข้าทำงานใน สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เหมาะสมเช่นเดิมอีก ผู้ปฏิบัติงานนั้นก็อาจได้รับอันตรายทำนองเดียวกับที่ เกิดข้นึ แล้วไมม่ ีทส่ี น้ิ สุดดงั ภาพท่ี 2 ภาพที่ 2 : วงจรสัมพนั ธร์ ะหว่างสภาพแวดลอ้ มในการทำงานและผ้ปู ฏิบัติงาน องค์ประกอบท่ีทำใหเ้ กิดการเจ็บป่วย องคป์ ระกอบหลกั ทท่ี ำให้เกดิ อาการเจ็บปว่ ย และ/หรอื โรคจากการทำงาน มี 3 ปจั จยั ได้แก่ (1) ผ้ปู ฏิบัตงิ าน ปจั จยั ทเี่ กีย่ วกับตวั ผู้ปฏิบตั ิงานท่ีนบั ว่ามีอทิ ธิพลต่อการเจ็บป่วย และ/หรือโรคจาก การทำงานมีหลายประการ เช่น อายุ เพศ กรรมพันธุ์เชื้อชาติ ภาวะโภชนาการของแต่ละบุคคล โรค ประจำตัว ความไวต่อการเกิดโรค พื้นฐานการศึกษาของผู้ปฏิบัติงานองค์ประกอบด้านจิตใจ และ องค์ประกอบดา้ นพฤติกรรม เปน็ ตน้ (2) สภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ คือสาเหตุที่สำคัญของการเกิดการ เจ็บป่วยและ/หรือโรคจากการทำงาน ซึ่งแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ทางเคมี ทางชีวภาพ ทางการยศาสตร์ และทางจิตวทิ ยาสังคม

16 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานทั่วไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ (3) สิ่งแวดล้อมทั่วไป เป็นปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นและส่งเสริม ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะทำให้ โรคเกิดเรว็ ขน้ึ เชน่ สภาพท่พี กั อาศยั ไม่ถกู สขุ ลกั ษณะ สภาพภูมอิ ากาศ และสภาพเศรษฐกจิ เปน็ ต้น 1.5 การปอ้ งกนั อุบัติเหตแุ ละการเจ็บป่วยจากการทำงาน ลำดับมาตรการปอ้ งกันอันตราย หรอื ควบคมุ ความเสี่ยง มาตรการปอ้ งกันอนั ตราย หรือควบคมุ ความเส่ียงท่ีอาจจะเกิดข้ึนจากการทำงาน เป็นการดำเนินการ เพื่อขจัดหรือลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานให้หมดไปหรืออยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งควร ดำเนินการตามลำดับ โดยเริ่มจากมาตรการลำดับที่ 1 จนถึงมาตรการลำดับที่ 5แต่โดยทั่วไปแล้วจะใช้ มาตรการควบคมุ มากกว่า 1 มาตรการ เพ่อื ใหก้ ารควบคมุ อนั ตรายและลดความเสยี่ งเปน็ ไปอยา่ งได้ผล ลำดับ มาตรการควบคุมอนั ตรายหรือความเสย่ี งท่ีเกดิ ขน้ึ จากการทำงาน มีดังนี้ มาตรการท่ี 1 การขจดั อนั ตราย ในการควบคุมความเส่ยี ง มาตรการท่ีต้องพจิ ารณาเปน็ ลำดบั แรกคือการขจดั อนั ตราย ซ่งึ ถอื เป็นมาตรการคุ้มครองดูแลที่ดีทีส่ ุด เพราะชว่ ยลดความเส่ียงต่อการสัมผัสอนั ตรายได้ ทำให้ ลูกจ้างมีโอกาสได้รับอันตรายน้อยที่สุด และเป็นการควบคุมที่ถาวร เช่น การใช้หุ่นยนต์ทำงาน แทนมนุษย์ การแยกเส้นทางคนเดนิ กบั เส้นทางยานพาหนะ เปน็ ตน้

17 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่วั ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ มาตรการที่ 2 การทดแทนดว้ ยส่ิงท่มี ีอันตรายน้อยกวา่ มาตรการควบคุมอันตรายหรือความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับที่ 2 คือ การทดแทนด้วยวัสดุ วิธีการทำงาน หรืออุปกรณ์ที่มีอันตรายน้อยกว่า ถือเป็นมาตรการที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสอันตราย ทำใหม้ โี อกาสได้รับอนั ตรายจากการทำงานนอ้ ยลง เช่น การเลอื กใช้สารเคมีทม่ี ีอนั ตรายนอ้ ยกว่าแทนการใช้ สารเคมีที่มีอันตรายมาก หรือการใช้สีที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลายแทนการใชส้ ีที่ใชส้ ารประเภทน้ำมันเป็นตัวทำ ละลาย การนำข้นั ตอนการทำงานทม่ี คี วามเส่ยี งบนทสี่ ูงลงมาทำในระดบั พนื้ ดนิ เป็นต้น มาตรการที่ 3 การควบคุมทางวิศวกรรม หากไม่สามารถควบคุมอันตรายหรือความเสี่ยงด้วยการขจัดอันตราย (มาตรการลำดับที่ 1) และการ ทดแทนดว้ ยสงิ่ ท่มี อี ันตรายน้อยกวา่ (มาตรการลำดับที่ 2) ได้ก็ใหพ้ จิ ารณาดำเนินการควบคมุ ด้วยการควบคุม ทางวิศวกรรม ซึ่งเป็นการดำเนินการควบคุมเพื่อให้สถานที่ทำงานปลอดภัย เช่น การติดตั้งการ์ดส่วนที่เป็น อันตรายของเครื่องจักร การติดตั้งระบบระบายอากาศ การลดความดังของเสียง การยกย้ายวัสดุโดยใช้ อปุ กรณ์เครอื่ งกล การป้องกันการตกจากทสี่ ูงโดยการติดตงั้ ราวกนั ตก เปน็ ต้น มาตรการที่ 4 การควบคมุ เชงิ บริหารจัดการ การควบคมุ อันตรายหรือความเส่ียงมาตรการท่ี 4 เป็นการควบคุมเชิงบริหารจัดการโดยการให้ข้อมูล ความรู้และการอบรมที่เหมาะสม การตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย มีระบบการอนุญาตเข้าปฏิบัติงาน การตรวจวัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน การจดั ให้มโี ครงการเฝ้าระวงั สุขภาพสำหรับผปู้ ฏิบัติงานท่ีได้มีการ ชี้บ่งว่ามีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่สัมผัสกับเสียงดัง ผู้ที่ใช้เครื่องมือที่มีความสั่นสะเทือน ผู้ที่มีความผิดปกติของ ระบบทางเดินหายใจ เปน็ ต้น มาตรการที่ 5 การใช้อปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล ในกรณีที่สถานประกอบกิจการไม่สามารถควบคุมอันตรายด้วยมาตรการลำดับที่ 1 – 4 อย่างได้ผล จึงเลือกใช้มาตรการลำดับที่ 5 เป็นมาตรการสุดท้าย คือ การใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล เชน่ การใชห้ น้ากากกันฝุ่น ชุดกันความรอ้ น ครอบหูหรือที่อุดหลู ดเสียง เปน็ ตน้ มาตรการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลนี้ไม่ควรนำมาใช้เป็นมาตรการหลักในการ ป้องกนั อันตราย เนือ่ งจากมาตรการลำดบั ที่ 5 เป็นมาตรการควบคุมเพือ่ ลดความรุนแรงของการเกดิ อุบัติเหตุ ไม่ใช่เป็นการลดความเสย่ี งของการเกิดอบุ ตั เิ หตุ หากจำเปน็ ตอ้ งใช้ ใหเ้ ลอื กใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสมกับ

18 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทั่วไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ ลกั ษณะงาน เนอื่ งจากลูกจา้ งมักมปี ัญหากับการใช้อุปกรณค์ ุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล เช่น อุปกรณ์มี ขนาดไม่พอดีกับผู้สวมใส่ ผู้ใช้ไม่บำรุงรักษาความสะอาดอุปกรณ์ทำให้ไม่ถูกสุขอนามัย ผู้ใช้ไม่เคยชินกับการ ใช้อุปกรณ์ การสวมใส่เป็นเวลานานทำให้รู้สึกร้อน อึดอัด รำคาญ ไม่สะดวกสบาย เป็นอุปสรรคต่อการ ปฏิบัติงาน ทำให้อาจไม่ได้รับความร่วมมือที่ดีในการใช้อุปกรณ์จากผู้ปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตามควรให้ผู้ใช้มี ส่วนร่วมในการเลือกใชอ้ ุปกรณค์ มุ้ ครองความปลอดภัยสว่ นบุคคล ตลอดจนมกี ารให้ความรู้เก่ียวกับวิธีการใช้ การบำรงุ รกั ษาอุปกรณ์อยา่ งถกู ต้อง 1.6 โรคท่เี กิดจากการทำงาน โรคจากการทำงาน โรคจากการทำงาน หรืออาจเรียกวา่ โรคจากการประกอบอาชีพ ซ่งึ บางคร้งั อาจปรากฏอาการขึน้ อยา่ งเฉียบพลนั เนอ่ื งจากไดร้ บั สง่ิ ท่ีทำใหเ้ กิดโรคในปรมิ าณความเข้มข้นสูงในระยะเวลาส้นั ๆ เช่น กรณี หายใจเอาก๊าซแอมโมเนียท่เี กดิ การรวั่ ไหลจากกระบวนการผลิต จะทำให้เกดิ ผลต่อระบบทางเดนิ หายใจ เกดิ การเจบ็ ปว่ ยขนึ้ แต่บางคร้ังโรคจากการทำงานอาจปรากฏอาการแบบเรอื้ รงั เนื่องจากผปู้ ฏิบตั งิ านได้รับส่ิงที่ ทำใหเ้ กดิ โรคนัน้ ทลี ะเลก็ ทลี ะนอ้ ย สะสมเปน็ เวลานานหลายเดอื นหรอื หลายปี เชน่ หูตึงจากเสยี งดัง โรค ภาวะเครยี ด โรคปอดฝ่นุ ทราย เปน็ ตน้

19 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทวั่ ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ โรคจากการประกอบอาชีพ (OCCUPATIONAL DISEASE) โรคจากการทำงาน อ้างอิงตามกฎหมายพ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจาก สงิ่ แวดล้อม พ.ศ. 2562 ซงึ่ ใหค้ วามหมายไว้ คือ โรคจากการประกอบอาชีพ หมายความว่า “โรคหรืออาการ ผิดปกตทิ เี่ กิดขนึ้ จากหรอื เป็นผลเน่อื งมาจากการทำงานหรือการประกอบอาชีพ” โดยมีอยู่ 5 โรค ดังต่อไปนี้ 1) โรคจากตะกว่ั หรือสารประกอบของตะกวั่ 2) โรคจากฝุ่นซิลิกา 3) โรคจากภาวะอบั อากาศ 4) โรคจากแอสเบสตอส (ใยหิน) หรอื โรคมะเร็งทเ่ี กิดจากแอสเบสตอส (ใยหิน) 5) โรคหรอื อาการสำคัญของพษิ จากสารกำจัดศตั รพู ชื โรคจากสิ่งแวดล้อม หมายความว่า โรค หรือ อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นจากหรือเป็นผลเนื่องมาจาก มลพิษ มอี ยู่ 2 โรค ได้แก่ 1) โรคจากตะกว่ั หรือสารประกอบของตะกัว่ 2) โรคหรอื อาการท่ีเกิดจากการสัมผัสฝนุ่ ละออง ขนาดไมเ่ กิน 2.5 ไมครอน ซึ่ง พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 กำหนดไว้ว่า “ให้ นายจา้ งแจ้งขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเฝ้าระวงั การปอ้ งกัน และการควบคุมโรคจากการประกอบอาชพี แกล่ ูกจา้ ง” โรคทเ่ี กดิ จากกายภาพ 7 โรค ได้แก่ 1) ความบกพร่องทางการไดย้ นิ ที่เกดิ จากเสยี ง 2) โรคที่เกิดจากการสั่นสะเทือน ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ หลอดเลือดหรือเสน้ ประสาท 3) โรคท่ีเกิดจากอากาศอัด 4) โรคท่เี กิดจากรังสี 5) โรคทเ่ี กิดจากแสง (อัลตราไวโอเลต แสงที่มองเห็นได้ อนิ ฟราเรด) รวมทง้ั เลเซอร์ 6) โรคท่เี กิดจากการสัมผสั อุณหภูมทิ ่ีสูงเกินไป 7) โรคที่เกิดจากสารทางกายภาพอน่ื ๆ ในทีท่ ำงานทไี่ ม่ได้กลา่ วถงึ ตามข้างต้น

20 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานทวั่ ไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ โรคที่เกิดจากสารชวี ภาพและโรคตดิ เชอื้ หรอื ปรสติ 9 โรค ไดแ้ ก่ 1) บรูเซลโลซิส 2) ไวรสั ตบั อกั เสบ 3) ไวรัสภมู ิคุม้ กนั บกพร่องของมนุษย์ 4) บาดทะยัก 5) วณั โรค 6) กลุ่มอาการทเ่ี ป็นพษิ หรืออักเสบที่เกีย่ วข้องกับสารปนเป้ือนจากแบคทเี รยี หรอื เชือ้ รา 7) โรคแอนแทรกซ์ 8) โรคฉห่ี นู 9) โรคทเ่ี กดิ จากสารชีวภาพอน่ื ๆ ในทีท่ ำงาน ทีไ่ ม่ไดก้ ล่าวถงึ โรคจากการทำงานอาจเกิดไดจ้ ากหลายสาเหตุ • สารชวี ภาพ เชน่ แบคทเี รยี ไวรัส เช้ือรา ปรสิต แมลง พชื นก สตั ว์ หรอื คน • สารเคมี เชน่ เบอริลเลีย่ ม ตะกว่ั เบนซนี ไอโซไซยาเนต • ปัญหาตามหลกั การยศาสตร์ เช่น การเคลื่อนไหวซ้ำๆ การติดตงั้ สถานีงาน แสงสวา่ งไม่เพยี งพอ การ ออกแบบเครือ่ งมอื ทไ่ี ม่เหมาะสม • ทางกายภาพ เช่น รงั สที ี่แตกตัวเป็นไอออน สนามแม่เหล็ก อุณหภูมิ เสียง ความส่ันสะเทอื น ปัญหาทางสงั คม เชน่ ความเครียด ความรนุ แรง การกล่ันแกล้ง การล่วงละเมดิ และการขาดการยอมรบั เป็นตน้ นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่กำหนดการพัฒนาหรือความรุนแรงของโรคจาก การทำงาน ได้แก่ • ปริมาณการสัมผัสหรอื ปรมิ าณที่เข้าสู่รา่ งกาย • ระยะเวลาในการสัมผสั • ความเปน็ พิษของสารเคมี • การขับสารออกจากร่างกาย • ความไวในการรบั สมั ผสั ส่วนบุคคล

21 | P a g e ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทั่วไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ • ผลกระทบทเ่ี กย่ี วเนอื่ งกัน เชน่ การสบู บุหรี่ ด่ืมแอลกอฮอล์ การสมั ผสั สารเคมีชนดิ อน่ื ความรุนแรงของโรค ขึ้นอยกู่ ับการรับสัมผัสสารด้วยเช่นกัน โดยทว่ั ไป หากยิ่งรบั สัมผัสเป็นเวลานาน และปรมิ าณความเขม้ ข้นท่ีสูง ความเสยี่ งหรอื การพัฒนาของโรคต่อสขุ ภาพ ก็จะสงู ขนึ้ ตามไปด้วย

22 | P a g e ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทัว่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ โรคจากการทำงานสามารถปอ้ งกันไดอ้ ย่างไร การป้องกันโรคจากการทำงานสามารถทำได้ เพื่อทำให้ผู้ปฏิบัติงานปลอดภัยจากอันตรายที่อาจ เกิดขน้ึ ในขณะทป่ี ฏิบัตงิ าน โดยสามารถปอ้ งกันได้ ดังนี้ • เรยี นรอู้ ันตรายในสถานทท่ี ำงาน เพือ่ หาวธิ ีป้องกันผปู้ ฏบิ ตั ิงานจากอนั ตรายนัน้ • นายจ้างควรพัฒนาระบบความปลอดภัย โปรแกรม ข้อกำหนด และขน้ั ตอนการทำงาน ทอ่ี อกแบบมา เพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย และลูกจ้างควรปฏิบัติ ตาม • สื่อสารความเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความเสี่ยงต่อพนักงาน ให้ข้อมูลที่เหมาะสม และอบรมให้ ความรกู้ ับผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน เพือ่ ให้สามารถปอ้ งกันตนเองจากอนั ตรายเบื้องตน้ ได้ • ทำงานร่วมกับผู้เชย่ี วชาญดา้ นสขุ ภาพ เพอ่ื สอบสวนการบาดเจ็บหรอื การเจ็บป่วย ทีม่ ีลกั ษณะบ่งช้ีว่า อาจเกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น บอกกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพว่าทำงานที่ไหน ทำงานอะไร และ เก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑใ์ ด เพือ่ ใหท้ ราบถึงปัจจยั เสย่ี งที่อาจสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพของผปู้ ฏบิ ัตงิ าน

23 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทัว่ ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ โรคพษิ จากสารตะก่ัว สารตะกั่วมีโอกาสสัมผัสจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม โดยทางสิ่งแวดล้อมจะพบได้ในดิน ฝุ่น อากาศ น้ำ โดยการสะสมจากเหมืองแร่ตะกั่ว โรงงานอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ และแหล่งอื่น ๆ เช่น การ สูดดมน้ำมนั เบนซินหรอื แก๊สโซลีน (Gasoline) การเผานำ้ มันท่ีทง้ิ แล้ว การใชน้ ้ำมนั หล่อลื่นบางชนิด การโดน ยิงและกระสุนฝังใน เป็นต้น รวมถึงการกลืนกินสิ่งของที่ทำจากตะกั่วหรือมีส่วนผสมของตะกั่ว เช่น ผลติ ภณั ฑ์ของเล่นเด็ก ยาแผนโบราณ ยาจีนหลายชนดิ และพระเครอื่ ง เปน็ ต้น โดยบริษัทเราเป็นอุตสาหกรรมการผลติ แบตเตอร่ี ดงั นนั้ จงึ มีความเส่ยี งตอ่ การได้รับสัมผัสตะก่ัว ทาง บริษทั จงึ ได้มนี โยบายออกมาเพ่อื ควบคุม และมแี นวทางปฏิบตั ิ ดงั น้ี

24 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่ัวไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ 1 กฎระเบียบ เร่อื ง ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั ในการเฝา้ ตดิ ตามและควบคมุ สาร เพื่อตเปะก็นั่วแในนวเทลาอื งดในการดำเนินการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เกี่ยวกับการควบคุมดูแล พฤติกรรมในการทำงานของพนักงานที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าติดตามและมีประวัติของระดับสารตะกั่วฝนเลือด มากกว่าหรือเทา่ กับ 40 ไมโครกรมั ต่อเดซิลิตร บริษัทฯ จึงเห็นสมควรกำหนดหลกั เกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีเฝา้ ติดตามและควบคมุ ดแู ลพฤตกิ รรมในการทำงานของพนักงาน รวมทง้ั การควบคุมระดับของสารตะกัว่ ในเลือด ของพนักงานกลมุ่ ดังกล่าว ดังตอ่ ไปนี้ มาตรการควบคมุ ปอ้ งกนั โรคพษิ ตะก่ัวท่ีบริษทั ได้ดำเนนิ การ มาตรการทางด้านวศิ วกรรม เป็นการควบคุมและป้องกันที่แหล่งกำเนิดของอันตราย เป็นวิธีการจัดการที่สามารถช่วยให้ ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านปลอดภยั จากการรบั สมั ผัสสารตะกั่วไดด้ ที ่สี ดุ และมปี ระสิทธิภาพมากที่สดุ • ติดตง้ั การ์ดครอบนริ ภยั ลดปรมิ าณตะกัว่ ทฟี่ ุ้งกระจายในบรเิ วณพืน้ ท่ีปฏิบตั ิงาน • ติดตั้งระบบระบายอากาศในสถานที่ทำงานที่เหมาะสม ท้ังชนิดเฉพาะที่ และชนิดทั่วไป เพื่อกำจัด ควัน ไอระเหยหรือฝุ่นของตะกั่ว ให้มีทิศทางการดูดลงพื้น เนื่องจากตะกั่วมีมวลโมเลกุลหนักกว่า อากาศ โดยระมัดระวงั ไมใ่ หเ้ กดิ มีการดูดกลับของ • แยกกระบวนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับตะกั่วให้ออกห่างที่ทำงานทั่วไป หรือกั้นบริเวณใ ห้เป็น สัดสว่ นเพอ่ื ป้องกันผู้ปฏิบัติงานส่วนงานอ่นื ๆ ไมใ่ ห้รับไอหรอื ฝุน่ ตะกั่ว มาตรการควบคมุ ทางการบริหารจดั การ แล•ะกสารถสานือ่ สปารระคกวอาบมกเาสรย่ี มงนี โยบายดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ ม ลงนามและประกาศ โดยผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ซึ่งจะทำให้ทุกคนในองค์กรให้ความร่วมมือและให้ความสำคัญในเรื่องความ ปลอดภัยเพ่ิมขึ้น • จัดให้มีการตรวจวดั ปริมาณตะก่วั ในบรรยากาศการทำงาน เป็นประจำอยา่ งน้อยปีละ 1 ครั้ง • การตรวจสภาพแวดลอ้ มในการทำงานประจำปี • การซักเสื้อผ้า การอาบน้ำก่อนกลับบ้าน การเตรียมอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคล น้ำยา ล้างมอื ลดสารตะกั่ว D-Lead test

25 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ • จัดให้มีการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน หากผู้ปฏิบัติงานมีโรคประจำตัวหรือภาวะทางสุขภาพ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง • จัดให้มีการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงจากการทำงานเป็นประจำทุกปี สำหรับผปู้ ฏิบัติงานที่มี โอกาสเสี่ยงในการรับสัมผัสสารตะกั่ว หรือในกลุ่มที่เสี่ยงและเป็นกลุ่มที่มคี ่าสารตะกั่วเกินมาตรฐาน บริษัทกำหนดต้องตรวจเลือดทุก 1 เดอื น และ 3 เดอื นตามดำลบั • ให้ย้ายผู้ปฏิบัติงานนั้นออกจากงานเดิมไปปฏิบตั ิงานในหนา้ ทีอ่ ื่น โดยไม่สัมผัสตะกั่วจนกวา่ จะกำจัด สารตะกวั่ ออกจากร่างกายให้อยใู่ นเกณฑป์ กติ อันตรายและผลกระทบต่อสขุ ภาพ และกภาราสว่ือะสพาิษรจคาวกาสมาเสรตีย่ ะงกั่วเป็นปัญหาที่สำคัญในทางสาธารณสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลัง พฒั นาท่ยี งั มีการรายงานผ้ปู ว่ ยได้รับพิษจากสารตะกว่ั การสัมผัสสารตะกั่วทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพให้หลายระบบของร่างกาย ได้แก่ ระบบประสาท ระบบเม็ดเลือด ระบบสบื พันธแุ์ ละระบบไต การสัมผสั สารตะกัว่ ในประชากรทว่ั ไปมกั ได้รับสมั ผัสจากทางการ กินเปน็ สว่ นใหญ่ และจากทางเดินหายใจรองลงมา โดยเฉพาะในเด็กมักได้รับสัมผัสทางการกินจากการท่ีเด็ก มีพฤติกรรมหยิบของเข้าปาก แต่ในผู้ประกอบอาชีพมักได้รับการสัมผัสสารจากการหายใจเป็นหลักและจาก การกนิ เป็นรอง ไอตะกว่ั และฝนุ่ ตะกัว่ ท่ลี ะลายนำ้ ไดม้ กั ถูกดูดซึมผา่ นทางเดินหายใจได้เกอื บทั้งหมด (ประมานร้อยละ 80) ในผู้ใหญ่ทว่ั ไปเมือ่ ไดร้ ับตะก่ัวผา่ นทางการกิน รอ้ ยละ 10 - 15 ของตะก่ัวจะถกู ดูดซึมผา่ นทางเดนิ อาหาร จากนัน้ ตะกั่วจะกระจายไปท่ีเน้ือเย่อื ต่าง ๆ และมกั ไปสะสมท่กี ระดูก แตก่ ารสะสมทีก่ ระดกู น้ีไม่ใช่การสะสม ที่ถาวร ตะกั่วเหล่านี้สามารถออกจากเนื้อเยื่อกระดูกกลับเข้าไปในกระแสเลือดได้ โดยตะกั่วที่ถูกดูดซึมใน ร่างกาย ในระยะแรกจะอยูใ่ นรปู Lead Diphosphate ท่ีสามารถกระจาย ไปตามเนื้อเย่ือตา่ ง ๆ และเม่อื เข้า ไปสะสมท่ีกระดูกจะอยใู่ นรปู Lead Triphosphate ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสตะกั่ว แบ่ง ออกเปน็ 2 แบบ คือ ผลกระทบต่อสุขภาพแบบเฉียบพลัน เป็นการเกิดภาวะพิษจากการรับสัมผัสสารตะกั่วปริมาณมาก ในระยะเวลาสั้น และมักพบในกลุ่มผู้สัมผัสสารตะกั่วจากการประกอบอาชีพ แต่เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อย ระดบั ตะก่ัวในเลือดมีคา่ อยู่ระหวา่ ง 100 – 120 ไมโครกรัมต่อเดซิลติ ร (μg/dl) อาการท่พี บได้แก่ ปวดศีรษะ

26 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทั่วไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องผูก ภาวะซีด ความคิด สับสน ทำลายไตและสมอง ชัก หมดสติ เสียชีวิตผลกระทบต่อสุขภาพแบบเรื้อรัง เป็นการเกิดภาวะพิษจาก การรบั สัมผสั สารตะก่วั ปรมิ าณนอ้ ย และได้รับสมั ผสั ซ้ำ ๆ ในระยะเวลานาน ผลกระทบตอ่ สุขภาพแบบเรื้อรัง น้ีพบไดบ้ อ่ ยกวา่ ผลกระทบต่อสุขภาพแบบเฉยี บพลันระดับตะก่วั ในเลือดที่น้อย กว่า 10 μg/dl ในผู้ใหญ่ทำให้เกิดความผิดปกติของการทำงานของไต ภาวะความดันโลหิตสูงส่งผลต่อการทำงานของ ระบบประสาทและพฤติกรรม (Nervous System and Neurobehavioral Effects) ความผิดปกติของการเรียนรู้ในช่วง อายุที่มากขึ้น (Cognitive Dysfunction) ระดับตะกั่วในเลือดที่มากกว่า 20 μg/dl ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบการ เรียนรู้ (Cognitive Dysfunction) ในระยะ ที่ยังไม่แสดงอาการ มีผลต่อคุณภาพอสุจิ ทำให้เกิดภาวะการตั้งครรภ์ช้า (Delayed Conception) ระดับตะกั่วในเลือดมีค่าอยู่ระหว่าง 20 - 40 μg/dl มีผลเกี่ยวกับ Cognitive Aging เช่น การตอบสนองช้า (Lower Reaction Times) และการขาดสมาธิ (Attention Deficit) ระดับตะก่วั ในเลอื ดมากกว่า 40 μg/dl ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ออ่ นเพลีย อาจมปี ัญหาการนอน ปวดขอ้ ปวด เม่อื ยตามร่างกาย เบอ่ื อาหารและท้องผูก ระดับตะกั่วในเลือดมีค่าอยู่ระหว่าง 40 - 60 μg/dl เกิดตามอาการทางระบบต่าง ๆ ได้แก่ ระบบประสาท ส่วนกลางและส่วนปลาย ระบบทางเดินอาหาร ระบบการสร้างเม็ดเลือด และระบบไตในคนทำงานที่สัมผัสตะกั่วใน ระดับสูงมักพบระดับตะกั่วในเลือดมากกว่า 60 μg/dl และทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ตั้งแต่ผลกระทบระยะ เฉียบพลัน เช่น การชัก หมดสติ และเสียชีวิตได้ ส่วนผลกระทบระยะเรื้อรังอาจทำให้ ภาวะซีด ความผิดปกติของระบบ ประสาทสว่ นปลาย ความผิดปกติของไตแบบ Interstitial Kidney Fibrosis และการปวดทอ้ งแบบรนุ แรง (Severe Abdominal Cramping) อนั ตรายจากการสมั ผัสสารตะกั่วอาจแยกตามระบบต่าง ๆ ของรา่ งกายได้ ดงั นี้ ระบบทางเดินอาหาร อาการของระบบทางเดินอาหารที่สำคัญ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง น้ำหนัก ลดอาการปวดทอ้ งแบบ Colic มักพบในเด็กเปน็ สว่ นมาก ผลกระทบต่อระบบประสาท ระบบประสาทเปน็ ระบบทเ่ี ป็นอวยั วะเป้าหมายหลักของสารตะกวั่ ในการเกิดพิษสารตะกว่ั โดยเกิดได้ทั้งระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทส่วนปลาย ผลกระทบที่เกิดในระบบ ประสาทส่วนปลาย พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก ส่วนในเด็กมักพบการเกิดผลที่ระบบประสาท ส่วนกลางการเกิดภาวะ Encephalopathy เป็นผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางแบบ

27 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ หนึ่ง ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการสัมผัสสารตะกั่ว ทำให้มีอาการปวดศีรษะ กระสับกระส่าย ขาดสมาธิ กล้ามเนื้อสั่นสูญเสียความทรงจำและเห็นภาพหลอน อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีการ สมั ผสั ตะกว่ั ในปริมาณที่สูงอาจมีอาการปวดทอ้ งเกร็ง (Colic) และอาจทำใหเ้ กดิ อาการ หลงลืม การเสียการทำงานที่สัมพันธ์กันของกล้ามเนื้อ(Lack of Co - Ordination) เดินเซ ซึม ชัก หมดสติและโคม่าผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนปลาย คือ การเกิดภาวะปลายประสาท อักเสบ ทำให้ข้อมือข้อเทา้ ตก (Wrist Drop) ผลกระทบตอ่ ระบบเลอื ด สารตะก่ัวมีผลกระทบตอ่ ระบบเลือดโดยส่งผลให้ร่างกายเกดิ ภาวะซีดจากโลหติ จาง (Anemia) ซึ่งอาจเกิดแบบภาวะ Hemolytic Anemia หรือ Normochromic Anemia หรือ Microcytic Anemia ก็ได้ นอกจากนี้ อาจการตรวจพบ Basophilic Stripping ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัว บง่ ชี้ทางชีวภาพ (Biomarker) ท่สี ำคัญอกี ชนดิ หน่ึงที่ใช้ในการบ่งชี้ภาวะเปน็ พษิ จากสารตะก่วั ผลกระทบต่อไต การทำงานของไตจะแยล่ งเม่อื มีการสัมผสั สารตะกวั่ ในระดบั สงู (> 60ug/dl) แตก่ ารสมั ผสั สาร ตะกั่ว ในระดับต่ำ (ประมาณ 10 ug/dl) ก็เริ่มมีรายงานว่าส่งผลต่อการทำลายเนื้อเยื่อไต การ ทำงานที่ปกติของไต จากการสัมผัสสารตะกั่วพบได้ 2 แบบ คือ Acute Nephropathy และ Chronic Nephropathy Acute Nephropathy จะพบความผิดปกติในการขับสารกลูโคส ฟอสเฟต และกรดอะมิโนเพิ่มขึ้น ในปัสสาวะ เรียกอีกชื่อว่า Fanconi’s Syndrome ส่วน Chronic Nephropathy เป็นภาวะที่รุนแรงกว่า Acute Nephropathy ซึ่งมีผลให้การทำงาน ของไตล้มเหลว เกดิ ภาวะความดันโลหติ สงู และภาวะกรดยูริคคลงั่ (hyperuricemia) ผลกระทบต่อระบบสืบพนั ธุ์ สารตะกั่วทำให้เกิดความผิดปกตขิ องระบบสบื พันธ์ทุ ้ังเพศชายและเพศหญิง ผลกระทบต่อ ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชายที่พบ ไดแ้ ก่ ความผดิ ปกติของการสรา้ งอสจุ ิ การเปล่ยี นแปลงฮอร์โมนเทส โทสเตอโรน (Testosterone) เป็นหมัน ส่วนผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ได้แก่ เป็น หมนั การแทง้ บุตรภาวะความดนั โลหติ สงู ขณะตัง้ ครรภ์ ภาวะการคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้สารตะกั่วยังมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาระยะตัวอ่อนในระหว่างการตั้งครรภ์ของเพศ หญงิ

28 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานท่วั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ ผลกระทบต่อกระดกู กระดูกเปน็ อวัยวะเปา้ หมายท่สี ารตะก่ัวทไี่ ดร้ บั เข้าสรู่ า่ งกายจะไปสะสมท่ีกระดูก โดยสารตะกัว่ จะสะสมในกระดูกใน 2 รูปแบบ คือ กลุ่ม Exchangeable Pool กลุ่มนี้จะอยู่ที่พื้นผิวของ กระดูก และกลุ่ม Non - Exchangeable Pool ที่จะอยู่ลึกลงไปในส่วน Cortical Bone สาร ตะกั่วที่เข้าสู่หลอดเลือดจะมาจากส่วน Exchangeable Pool และส่วนสารตะกั่วที่อยู่ในกลุ่ม Non - Exchangeable Pool สามารถออกมาอยทู่ ีพ่ ้ืนผิวกระดูกได้ในกรณีท่กี ระดูกมกี าร Re - Absorbed อย่างมาก ในการศึกษาการใช้สารตะกั่วกัมมันตรังสีที่อยู่ในรูปคงตัวพบว่า กระดูกมีส่วนในการปล่อยสารตะกั่วเข้าในระบบหมุนเวียนเลือดของคนได้ถึง 40 - 70% ใน ผู้ใหญ่ 85 - 95% ของสารตะกั่วที่ได้รับจะสะสมอยู่ที่กระดูก ส่วนในเด็กสารตะกั่วที่ได้รับจะ สะสมที่กระดูก70% การสะสมของสารตะกั่วในกระดูกขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ขนาดการรับ สัมผสั สารตะกั่วอายุ ภาวะการตงั้ ครรภ์ และเช้อื ชาติ เปน็ ต้น การก่อมะเร็ง องคก์ รวจิ ยั มะเรง็ ระหวา่ งประเทศ (International Agency for Research on Cancer : IARC) ในสังกัดองค์การอนามัยโลกได้จัดตะกั่ว (Lead) เป็นสารในกลุ่มสารอาจจะก่อมะเร็งในมนุษย์ (Group IIB) ส่วนสารประกอบตะกั่วอนินทรีย์ (Lead Compound Inorganic) จัดอยู่ในกลุ่ม สารท่ีน่าจะกอ่ มะเร็งในมนษุ ย์ (Group IIA) และในสว่ นของสารประกอบตะก่ัวอนิ ทรีย์ (Organic Lead Compounds) นน้ั “ยังไม่สามารถจัดอยู่ในกลมุ่ สารก่อมะเร็งในมนุษย์ (Group III)”

29 | P a g e ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทวั่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ บทที่ 2 กฎหมายความปลอดภยั อาชวี อนามยั และ สภาพแวดลอ้ มในการทางาน

30 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานทวั่ ไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ บทที่ 2 : กฎหมายความปลอดภยั อาชวี อนามัยและสภาพแวดลอ้ ม ในการทำงาน ประกอบดว้ ยหวั ข้อดังต่อไปนี้ 1. พระราชบัญญัตคิ วามปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน พ.ศ. 2554 2. กฎหมายที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความปลอดภยั ในการทำงาน วัตถปุ ระสงค์ เพื่อใหพ้ นกั งานเกดิ ความรู้ความเขา้ ใจสาระสำคัญของพระราชบญั ญตั ิความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 ได้ และปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบได้อยา่ งถูกต้อง

31 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทวั่ ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ 2.1 คำจำกดั ความท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ความปลอดภัยฯ พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานพ.ศ. 2554 ประกอบด้วย 8 หมวด 74 มาตรา ดังนี้ หมวด 1 บททว่ั ไป ประกอบด้วยมาตรา 6 และมาตรา 7 หมวด 2 การบรหิ าร การจดั การ และการดำเนนิ การด้านความปลอดภยั อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน ประกอบด้วยมาตรา 8 ถึงมาตรา 23 หมวด 3 คณะกรรมการความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบดว้ ยมาตรา 24 ถึงมาตรา 31 หมวด 4 การควบคุม กำกบั ดูแล ประกอบดว้ ยมาตรา 32 ถงึ มาตรา 34 หมวด 5 พนักงานตรวจความปลอดภัย ประกอบด้วยมาตรา 35 ถงึ มาตรา 43 หมวด 6 กองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบดว้ ยมาตรา 44 ถึงมาตรา 51 หมวด 7 สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงา น ประกอบด้วยมาตรา 52 หมวด 8 บทกำหนดโทษ ประกอบด้วยมาตรา 53 ถงึ มาตรา 72 บทเฉพาะกาล ประกอบด้วยมาตรา 73 และมาตรา 74 มาตราสำคญั ท่ลี ูกจา้ งควรทราบและต้องปฏิบัติ มีดงั น้ี มาตรา 6 ให้นายจ้างมหี น้าที่จัดและดแู ลสถานประกอบกิจการและลกู จ้างให้มีสภาพการทำงานและ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ลกู จา้ งมิให้ลูกจ้างได้รบั อันตรายตอ่ ชีวติ ร่างกาย จติ ใจ และสขุ ภาพอนามัยใหล้ ูกจ้างมีหน้าท่ีให้ความร่วมมือ กับนายจ้างในการดำเนินการและส่งเสริมดา้ นความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภัยแก่ลกู จา้ งและสถานประกอบกิจการ มาตรา 8 ให้นายจ้างบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงการกำหนดมาตรฐานตาม วรรคหนึ่ง ให้นายจ้างจัดทำเอกสารหรือรายงานใด โดยมีการตรวจสอบหรือรับรองโดยบคุ คล หรือนิติบุคคล ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง

32 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทว่ั ไปและพนักงานเขา้ ทางานใหม่ ให้ลูกจ้างมีหน้าท่ีปฏิบตั ิตามหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ ทำงานตามมาตรฐานที่กำหนดในวรรคหน่งึ กฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ สภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 มีดังตอ่ ไปนี้ 1. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนา มัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกบั การป้องกันและระงบั อคั คภี ัยพ.ศ. 2555 2. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกีย่ วกบั สารเคมีอนั ตราย พ.ศ. 2556 3. กฎกระทรวงการเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น และการเป็นหน่วยงานฝึกซ้อม ดับเพลงิ และฝึกซอ้ มอพยพหนีไฟ พ.ศ. 2556 4. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานเกยี่ วกับไฟฟ้า พ.ศ. 2557 5.. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานเกย่ี วกับความร้อน แสงสวา่ ง และเสยี ง พ.ศ.2559 6.กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความ ปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานเก่ยี วกบั การป้องกนั และระงบั อคั คีภยั (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2561 7. กฎกระทรวงกำ หนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำ เนินการด้านความปลอดภัยอาชีวอ นามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานเก่ียวกบั ทอ่ี บั อากาศ พ.ศ. 2562 8. กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกย่ี วกบั งานประดาน้ำ พ.ศ. 2563 มาตรา 14 ในกรณที ี่นายจ้างให้ลกู จ้างทำงานในสภาพการทำงานหรอื สภาพแวดลอ้ มในการทำงานที่ อาจทำให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัยให้นายจ้างแจ้งให้ลูกจ้างทราบถึง อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงานและแจกคู่มือปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่ลูกจ้า งจะเข้าทำงาน เปลีย่ นงาน หรอื เปลย่ี นสถานทที่ ำงาน มาตรา 16 ให้นายจ้างจัดให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างทุกคนได้รับการฝึกอบรมความ ปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้บริหาร จัดการและดำเนินการด้านความ ปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานได้อยา่ งปลอดภัย

33 | P a g e ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานท่วั ไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ ในกรณที นี่ ายจา้ งรบั ลูกจา้ งเขา้ ทำงาน เปลีย่ นงาน เปลยี่ นสถานทีท่ ำงานหรือเปลย่ี นแปลง เครื่องจกั ร หรืออุปกรณ์ ซึ่งอาจทำให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวติ ร่างกาย จิตใจหรือสุขภาพอนามัยให้นายจ้างจัดให้มี การฝึกอบรมลูกจ้างทุกคนก่อนการเริ่มทำงานการฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขท่ีอธิบดีประกาศกำหนด กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ออกประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการฝึกอบรมผู้บริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างด้านความปลอดภัย อาชี วอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน มีสาระสำคัญคือ (1) นายจ้างต้องจัดให้มีการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำ งานเพื่อให้บริหาร จดั การ และดำเนินการดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ได้อยา่ งปลอดภัยใหแ้ ก่ลูกจา้ งระดบั บริหาร หวั หนา้ งาน และลกู จ้างทุกคน กรณีลูกจ้างเข้าทำงานใหม่ เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรหรือ อุปกรณ์ ซึ่งอาจทำใหล้ ูกจ้างได้รบั อนั ตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัยใหน้ ายจ้างจดั ให้มีการ ฝกึ อบรมลกู จา้ งทกุ คนกอ่ นการเร่ิมทำงาน (2) หลักสูตรฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับ ลกู จ้างระดับบรหิ าร ให้มรี ะยะเวลาการฝกึ อบรม 12 ชั่วโมง (3) หลักสูตรฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับ ลูกจ้างระดบั หัวหน้างาน มรี ะยะเวลาการฝึกอบรม 12 ชว่ั โมง (4) หลักสูตรฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับ ลกู จ้างทัว่ ไปและลูกจา้ งเขา้ ทำงานใหม่ มีระยะเวลาการฝกึ อบรม 6 ชวั่ โมง (5) หลักสูตรฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับ ลกู จา้ งเปล่ียนงาน เปลีย่ นสถานท่ที ำงาน หรอื เปล่ยี นแปลงเคร่อื งจกั รหรืออุปกรณซ์ ่ึงมีปจั จัยเส่ียงแตกต่างไป จากเดิม มรี ะยะเวลาการฝึกอบรม 3 ชัว่ โมง มาตรา 17 ให้นายจ้างติดประกาศสัญลักษณ์เตือนอันตรายและเครื่องหมายเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน รวมท้งั ข้อความแสดงสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง ตามทอ่ี ธบิ ดปี ระกาศกำหนดในท่ีที่เห็นไดง้ ่าย ณ สถานประกอบกจิ การ

34 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ออกประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง สัญลักษณ์เตือนอันตราย เครื่องหมายเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมใน การทำงาน และข้อความแสดงสิทธิและหน้าทข่ี องนายจา้ งและลูกจา้ ง มีสาระสำคญั คอื (1) ให้นายจา้ งติดประกาศสัญลักษณเ์ ตือนอันตรายและเครือ่ งหมายเกย่ี วกบั ความปลอดภัยอาชีวอนา มัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้เหมาะสมกับลักษณะและสภาพการทำงานในที่ที่เห็นได้ง่าย ณ สถานประกอบกจิ การ (2) ให้นายจ้างติดประกาศข้อความแสดงสิทธิและหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้างในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานประกอบกจิ การ ซึ่งตอ้ งประกอบดว้ ยข้อความดังตอ่ ไปน้ี 1) นายจา้ งและลกู จา้ งมหี นา้ ที่ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 2) นายจ้างมีหน้าที่จัดและดูแลสถานประกอบกิจการและลูกจ้างให้มีสภาพการทำงานและ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ลกู จ้างมิให้ลกู จ้างไดร้ บั อันตรายตอ่ ชีวติ ร่างกาย จติ ใจ และสขุ ภาพอนามยั (มาตรา 6) 3) นายจ้างมีหน้าที่จัดและดูแลให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลท่ี ได้มาตรฐาน ถ้าลูกจ้างไม่สวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าว ให้นายจ้างสั่งให้หยุดการทำงานจนกว่าลูกจ้างจะสวมใส่ อปุ กรณน์ ้ัน (มาตรา 22) 4) นายจ้างมีหน้าที่จัดให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างทุกคนได้รับการฝึกอบรมให้ สามารถบริหารจัดการและดำ เนินการดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ อย่างปลอดภัยก่อนการเข้าทำงาน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานที่ทำงานหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรหรือ อุปกรณ์ (มาตรา 16) 5) นายจ้างมีหน้าที่แจ้งให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานและแจกคู่มอื ปฏบิ ตั ิงานใหล้ กู จา้ งทกุ คนกอ่ นที่ลกู จา้ งจะเข้าทำงาน เปล่ยี นงาน หรอื เปลยี่ นสถานท่ีทำงาน (มาตรา 14) 6) นายจา้ งมีหน้าทีต่ ิดประกาศ คำเตือน คำสงั่ หรอื คำวนิ ิจฉยั ของอธิบดกี รมสวสั ดิการและคุ้ มครองแรงงาน พนักงานตรวจความปลอดภัย หรือคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน แล้วแต่กรณี (มาตรา 15) 7) นายจา้ งเป็นผู้ออกคา่ ใช้จา่ ยในการดำเนนิ งานด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (มาตรา 7)

35 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานทั่วไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ 8) ลูกจ้างมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับนายจ้างในการดำเนินการและส่งเสริมด้านความ ปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยคำนึงถึงสภาพของงานและหน้าที่รับผิดชอบ (มาตรา 6 และมาตรา 8) 9) ลูกจ้างมีหน้าที่แจ้งข้อบกพร่องของสภาพการทำงาน หรือการชำรุดเสียหายของอาคาร สถานที่ เครื่องมือ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยใน การทำงาน หวั หนา้ งาน หรือผูบ้ ริหาร (มาตรา 21) 10) ลูกจ้างมีหน้าที่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่นายจ้างจัดให้ และ ดูแลให้สามารถใชง้ านไดต้ ามสภาพและลักษณะของงานตลอดระยะเวลาทำงาน (มาตรา 22) 11) ในสถานที่ที่มีสถานประกอบกิจการหลายแห่ง ลูกจ้างมีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของนายจ้างและสถานประกอบ กิจการอ่ืนท่ไี ม่ใช่ของนายจ้างด้วย (มาตรา 18) 12) ลูกจ้างมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการเลิกจ้าง หรือถูกโยกย้ายหน้าที่การงานเพราะ เหตทุ ่ฟี อ้ งร้อง เปน็ พยาน ให้หลกั ฐาน หรือใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั ความปลอดภัย อาชวี อนามัยและสภาพแวดล้อม ในการทำงานต่อพนักงานตรวจความปลอดภัย คณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน หรือศาล (มาตรา 42) 13) ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดในระหว่างหยุดการทำงานหรือหยุด กระบวนการผลิตตามคำส่ังของพนักงานตรวจความปลอดภัย เว้นแตล่ กู จ้างทจ่ี งใจกระทำการอนั เปน็ เหตุให้มี การหยุดการทำงานหรือหยุดกระบวนการผลิต (มาตรา 39) มาตรา 18 ในกรณีที่สถานที่ใดมีสถานประกอบกิจการหลายแห่ง ให้นายจ้างทุกรายของสถาน ประกอบกิจการในสถานที่นั้น มีหน้าที่ร่วมกันดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ สภาพแวดล้อมในการทำงานให้เปน็ ไปตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ลูกจ้างซึ่งทำงานในสถานประกอบกิจการตามวรรคหนึ่ง รวมทั้งลูกจ้างซึ่งทำงานในสถานประกอบ กิจการอื่นที่ไม่ใช่ของนายจ้าง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงานซง่ึ ใช้ในสถานประกอบกจิ การน้นั ดว้ ย มาตรา 21 ลูกจ้างมหี น้าที่ดแู ลสภาพแวดลอ้ มในการทำงานตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงท่ี ออกตามมาตรา 8 เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามัยโดยคำนึงถึงสภาพ ของงานและพ้นื ทท่ี ่ีรับผิดชอบ

36 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทวั่ ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ ในกรณีที่ลูกจ้างทราบถึงข้อบกพร่องหรือการชำรุดเสียหาย และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร และให้เจ้าหน้าทีค่ วามปลอดภัย ในการทำงาน หัวหนา้ งาน หรือผบู้ รหิ ารแจง้ เป็นหนังสือตอ่ นายจ้างโดยไม่ชักช้า ในกรณที ่ีหวั หนา้ งานทราบถึงข้อบกพร่องหรือการชำรุดเสียหายซงึ่ อาจทำให้ลูกจา้ งไดร้ ับอันตราย ต่อ ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามยั ต้องดำเนนิ การปอ้ งกันอันตรายนัน้ ภายในขอบเขตทีร่ บั ผดิ ชอบหรอื ท่ีไดร้ บั มอบหมายทันทีที่ทราบ กรณีไม่อาจดำเนินการได้ให้แจ้งผู้บริหารหรือนายจ้าง ดำเนนิ การแก้ไขโดยไม่ ชักชา้ มาตรา 22 ให้นายจ้างจัดและดูแลให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ได้ มาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนดลูกจ้างมีหน้าที่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและ ดูแลรกั ษาอุปกรณ์ ตามวรรคหน่ึงให้สามารถใชง้ านไดต้ ามสภาพและลักษณะของงานตลอดระยะเวลาทำงาน ในกรณที ่ีลกู จา้ งไม่สวมใสอ่ ุปกรณด์ ังกล่าว ใหน้ ายจ้างสงั่ ใหล้ กู จา้ งหยุดการทำงานน้นั จนกว่าลูกจ้างจะสวมใส่ อุปกรณ์ดงั กลา่ ว มาตรา 74 ในระหว่างที่ยังมิได้ออกกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีให้นำกฎกระทรวงที่ออกตามความในหมวด 8 แหง่ พระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม กฎกระทรวงทอ่ี อกตามความในหมวดท่ี 8 แห่งพระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ท่ียังมีผล บงั คบั ใชอ้ ยูต่ ามมาตรา 74 ไดแ้ ก่ (1) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เกย่ี วกับรังสีชนดิ กอ่ ไอออน พ.ศ. 2547 (2) กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง และส่งผลการตรวจแก่ พนักงานตรวจแรงงาน พ.ศ. 2547 (3) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบรหิ ารและการจดั การดา้ นความปลอดภัยอาชวี อนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2549 (4) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบรหิ ารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงานเก่ยี วกับงานกอ่ สร้าง พ.ศ. 2551 (5) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภยั อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงานเกีย่ วกับเครือ่ งจักร ปัน้ จ่ัน และหมอ้ น้ำ พ.ศ.2552

37 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานท่วั ไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ (6) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบรหิ ารและการจัดการด้านความปลอดภยั อาชวี อนามยั และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 2.2 กฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้องกับความปลอดภัยฯ ในการทำงาน นอกจากพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานพ.ศ. 2554 แล้ว ยังมีกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง กับความปลอดภยั ในการทำงาน ได้แก่ (1) กฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ.2541) เรื่อง งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความ ปลอดภัยของลกู จ้าง กลา่ วว่า ข้อ 1 ใหง้ านทุกประเภทมเี วลาทำงานปกติวันหน่งึ ไม่เกนิ แปดช่วั โมง ข้อ 2 งานทอี่ าจเป็นอันตรายต่อสขุ ภาพและความปลอดภยั ของลูกจา้ ง ไดแ้ ก่ (1) งานที่ต้องทำใต้ดนิ ใตน้ ้ำ ในถ้ำ ในอุโมงค์ หรือในท่ีอบั อากาศ (2) งานเกี่ยวกบั กัมมนั ตภาพรังสี (3) งานเช่ือมโลหะ (4) งานขนส่งวตั ถอุ นั ตราย (5) งานผลิตสารเคมอี นั ตราย (6) งานที่ต้องทำด้วยเครื่องมือหรือเครื่องจักรซึ่งผู้ทำได้รับความสั่นสะเทือน อันอาจเปน็ อนั ตราย (7) งานที่ต้องทำเกย่ี วกับความร้อนจดั หรือความเย็นจัดอันอาจเปน็ อันตราย ทั้งนี้ โดยสภาพของงานมีความเสี่ยงอันตรายสูง หรือมีภาวะแวดล้อมในการทำงานเกินมาตรฐาน ความปลอดภยั ที่กำหนดไวใ้ นกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๑๐๓ ซึ่งไมส่ ามารถปรับปรุงแกไ้ ขทแี่ หล่งกำเนิด ได้ และต้องจดั ใหม้ ีการป้องกนั ทตี่ วั บุคคล

38 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรับพนกั งานท่ัวไปและพนกั งานเขา้ ทางานใหม่ (2) กฎกระทรวงฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2541) เรอ่ื ง งานทหี่ า้ มมใิ ห้นายจ้างให้ลกู จ้างซึ่งเป็นเดก็ อายตุ ่ำกวา่ 18 ปีทำงานดงั ต่อไปนี้ (1) งานหลอม เป่า หลอ่ หรอื รดี โลหะ (2) งานปั๊มโลหะ (3) งานเกีย่ วกับความรอ้ น ความเยน็ ความสัน่ สะเทือน เสยี ง และแสงที่มีระดับแตกตา่ งจากปกติ อัน อาจเปน็ อันตรายตามทีก่ ำหนดในกฎกระทรวง (4) งานเกย่ี วกบั สารเคมที ีเ่ ป็นอันตรายตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง (5) งานเกี่ยวกับจุลชีวันเป็นพิษซึ่งอาจเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา หรือเชื้ออื่นตามที่กำหนดใน กฎกระทรวง (6) งานเกีย่ วกบั วตั ถุมพี ิษ วตั ถรุ ะเบิด หรือวตั ถุไวไฟ เว้นแต่งานในสถานบี ริการน้ำมนั เช้ือเพลิงตามท่ี กำหนดในกฎกระทรวง (7) งานขับหรอื บังคับรถยกหรือปั้นจ่นั ตามทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง (8) งานใช้เล่อื ยเดนิ ดว้ ยพลังไฟฟ้าหรือเครอื่ งยนต์ (9) งานที่ต้องทำใต้ดนิ ใตน้ ้ำ ในถำ้ อโุ มงค์ หรอื ปลอ่ งในภเู ขา (10) งานเกยี่ วกบั กัมมันตภาพรังสีตามทีก่ ำหนดในกฎกระทรวง (11) งานทำความสะอาดเครอื่ งจักรหรือเครื่องยนตข์ ณะทีเ่ คร่ืองจักรหรอื เครือ่ งยนตก์ ำลงั ทำงาน (12) งานท่ตี ้องทำบนนงั่ ร้านทีส่ ูงกวา่ พ้ืนดนิ ตง้ั แต่สบิ เมตรขน้ึ ไป (13) งานอ่ืนตามทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง

39 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรบั พนกั งานทวั่ ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ (3) กฎกระทรวงฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2541) เรือ่ ง งานขนสง่ ทางบก อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 6 และ มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสงั คมออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ 1 ในกฎกระทรวงนี้ \"งานขนส่งทางบก\" หมายความว่า การลำเลียงหรือเคลื่อนย้ายบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของด้วย ยานพาหนะขนส่งทางบกซึ่งเดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือ พลังงานอื่น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการ เคลอ่ื นย้ายบุคคลหรือสัตว์วทีเ่ จบ็ ปว่ ย และการขนสง่ ในงานดับเพลงิ หรอื งานบรรเทาสาธารณภัย ข้อ 2 ให้นายจ้างกำหนดเวลาเร่ิมตน้ และเวลาสิน้ สดุ การทำงานปกตขิ องลูกจ้าง ในงานขนส่งทางบก วันหนงึ่ ไมเ่ กนิ แปดชัว่ โมง ข้อ 3 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลกู จ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขีย่ านพาหนะ ทำงานล่วงเวลาเว้นแต่จะได้รบั ความ ยินยอมเป็นหนังสือจากลูกจ้างในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างตามวรรคหนึ่งแล้ว นายจ้างอาจให้ ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาได้วันหนง่ึ ไม่เกนิ สองชว่ั โมง เวน้ แตม่ ีความจำเป็นอนั เกดิ จากเหตุสุดวสิ ัย อบุ ตั ิเหตุ หรือ ปญั หาการจราจร ข้อ 4 ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะมีเวลาพักติดต่อกันวันหนึ่งไม่น้อยกว่า หนึ่งชั่วโมง หลังจากลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะได้ทำงานมาแล้ว ไม่เกินสีช่ ่ัวโมงนายจ้างและลูกจ้าง ตามวรรคหน่งึ อาจตกลงกนั ใหม้ เี วลาพกั ครง้ั หน่ึงน้อยกว่า หน่งึ ช่ัวโมงกไ็ ด้ แตต่ อ้ งไมน่ ้อยกว่าครง้ั ละยี่สบิ นาที และเมือ่ รวมกนั แล้วต้องไม่นอ้ ยกวา่ วันละหนึง่ ชวั่ โมง ข้อ 5 ห้ามมิให้นายจา้ งให้ลูกจา้ งซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะ เริ่มต้นทำงานในวันทำงานถัดไปกอ่ น ครบระยะเวลาสิบชว่ั โมงหลงั จากสิน้ สดุ การทำงานในวันทำงานทีล่ ว่ งมาแล้ว ข้อ 6 ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างในงานขนส่งทางบกทำงานล่วงเวลา ในวันทำงานและทำงาน ล่วงเวลาในวันหยุด ให้นายจา้ งจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินเท่ากบั อตั ราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวนั ทำงานตามจำนวน ชั่วโมงทท่ี ำ เว้นแตน่ ายจ้างตกลงจ่ายค่าลว่ งเวลา หรือคา่ ลว่ งเวลาในวนั หยุดใหแ้ กล่ ูกจา้ ง ดังกล่าว

40 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ (4) กฎกระทรวงกำหนดอัตราน้ำหนักท่นี ายจ้างใหล้ กู จา้ งทำงานได้ (พ.ศ. 2547) ข้อ 1 ให้นายจ้างใช้ลูกจ้างทำงานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก หรือเข็นของหนักไม่เกินอัตราน้ำหนักโดย เฉลย่ี ตอ่ ลูกจา้ งหนงึ่ คน ดงั ต่อไปน้ี (1) 20 กิโลกรัม สำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กหญิง อายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปแต่ยังไม่ถึง 18 ปี (2) 25 กิโลกรมั สำหรับลูกจา้ งซ่งึ เปน็ เดก็ ชาย อายุต้งั แต่ 15 ปี ข้นึ ไปแต่ยังไม่ถงึ 18 ปี (3) 25 กิโลกรัม สำหรบั ลูกจา้ งซึ่งเปน็ หญงิ (4) 50 กโิ ลกรมั สำหรับลูกจา้ งซึ่งเปน็ ชาย **หมายเหตุ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ฉบบั กฤษฎีกา เลล่ 121 ตอนท่ี 35ก วนั ท่ี 10 มิ.ย.2549

41 | P a g e ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทั่วไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ บทที่ 3 ขอ้ บงั คับวา่ ด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน

42 | P a g e ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทว่ั ไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ บทที่ 3 : ขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน ประกอบดว้ ยหัวขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ท่มี าและความสำคญั 2. กฎความปลอดภยั ทัว่ ไป 3. กฎความปลอดภัยในการทำงานเฉพาะ 4. ข้อบังคบั ว่าด้วยความปลอดภัย วตั ถปุ ระสงค์ พนักงานสามารถปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบและข้อบงั คบั วา่ ด้วยความปลอดภยั อาชีวอนามยั และ สภาพแวดลอ้ มในการทำงานของสถานประกอบกิจการทตี่ นเองปฏบิ ตั ิงานได้อยา่ งถกู ต้องและปลอดภัย

43 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สาหรับพนกั งานทั่วไปและพนกั งานเข้าทางานใหม่ 3.1 การจัดการความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการ ลูกจท้าำงงเปา็นนทรัพยากรที่มีความสำคัญยิ่งในการทำงานให้แก่บริษัท และยังเป็นพลังสำคัญในการ ขับเคลื่อนธุรกิจการดูแลใหล้ ูกจา้ งสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพอนามัยทีด่ ี นอกจากจะช่วย ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสถานประกอบกิจการ ตลอดจนเป็นการสร้าง คุณค่าให้แก่ตนเองซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำรงชีวิต แต่การที่ลูกจ้างทำงานท่ามกลางเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์และสภาพแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ทำให้มีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุและ โรคจากการทำงานในสถานประกอบกิจการ ดังนั้น นายจ้างจึงจัดให้มีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ในการทำงานขึน้ โดยมีเจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการทำงาน คณะกรรมการความปลอดภัยฯ บุคลากรและ หน่วยงานความปลอดภัย ร่วมกันรับผิดชอบกับนายจ้างในการดำเนินโครงการ/กิจกรรมความปลอดภัยฯ ภายในสถานประกอบกิจการให้เปน็ ไปตามกฎหมายและสามารถลดการประสบอันตรายไดอ้ ย่างเปน็ รูปธรรม ซึ่งการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุและโรคจากการทำงานในสถานประกอบกิจการ จะได้ผลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ลูกจ้างทุกคนจะต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบร่วมกับสถานประกอบกิจการในการดูแลความ ปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมงานและการจะสร้างความร่วมมือที่ดีนั้น สถานประกอบกิจการต้องให้ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกจ้างขณะทำงานในทุกขั้นตอน และให้นำข้อปฏิบัติเพื่อ ป้องกันอันตรายต่าง ๆ มาฝึกปฏิบัติจนกว่าลูกจ้างจะทำงานได้อย่างถูกต้องปลอดภัย ซึ่งหากลูกจ้างทุกคน ปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยฯ ของสถานประกอบกิจการอย่างเคร่งครัดแล้ว จะทำให้ลูกจา้ งปลอดภัยฯ มีสุขภาพอนามัยท่ีดี และมคี ุณภาพชีวติ ทด่ี ตี ลอดเวลาการทำงาน ข้อบงั คับและคู่มอื ว่าดว้ ยความปลอดภัยในการทำ งานมีทมี่ าจากบทบัญญัตขิ องพระราชบญั ญตั แิ ละ กฎกระทรวง ดงั นี้ (1) พระราชบญั ญัตคิ วามปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2544 มาตรา 14 ในกรณีท่นี ายจ้างใหล้ ูกจา้ งทำงานในสภาพการทำงานหรือสภาพแวดลอ้ มในการทำงานท่ี อาจทำให้ลูกจา้ งได้รับอันตรายตอ่ ชวี ติ ร่างกาย จติ ใจ หรอื สุขภาพอนามัยใหน้ ายจ้างแจ้งใหล้ กู จา้ งทราบถึง อันตรายที่อาจจะเกิดขึน้ จากการทำงานและแจกคมู่ ือปฏิบตั งิ านให้ลกู จา้ งทกุ คนก่อนท่ีลูกจ้างจะเข้าทำงาน เปลี่ยนงาน หรือเปล่ียนสถานทท่ี ำงาน

44 | P a g e ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน สาหรบั พนกั งานทั่วไปและพนักงานเข้าทางานใหม่ (2) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร และการจัดการดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2549 ข้อ 3 ให้นายจ้างจัดให้มีข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานไว้ในสถานประกอบ กิจการ ข้อบังคบั วา่ ด้วยความปลอดภยั ในการทำงานตามวรรคหน่ึง อยา่ งนอ้ ยตอ้ งกำหนดขน้ั ตอนและวิธีการ ปฏิบัติงานที่ปลอดภัยเพื่อควบคุมมิให้มีการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการทำง าน ทั้งนี้ นายจ้างตอ้ งจัดใหม้ ีการอบรมและฝึกปฏิบตั ิจนกว่าลูกจา้ งจะสามารถทำงานไดอ้ ย่างถกู ต้องปลอดภัย รวมท้ัง จัดวางระบบควบคมุ กำกบั ดูแล โดยกำหนดให้เป็นหนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบของเจา้ หน้าทคี่ วามปลอดภัยในการงาน ทุกระดบั คู่มือปฏิบัติงานตามมาตรา 14 ของพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ในการทำงาน พ.ศ. 2554 และข้อบังคับว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานตาม ข้อ 3 ของกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร และการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ ทำงาน พ.ศ. 2549 จึงเป็นเรื่องเดียวกันที่กำหนดให้นายจ้างต้องจัดทำขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานที่ ปลอดภัยใหแ้ ก่ลูกจ้าง เมื่อนายจ้างมีขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยแล้ว จะต้องจัดให้มีการอบรมและฝึกปฏิบัติ จนกว่าลูกจ้างจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องปลอดภัย หากยังไม่มี นายจ้างต้องจัดทำขั้นตอนและวิธีการ ปฏิบัติงานท่ีปลอดภัย โดยเริ่มจากการวิเคราะหง์ านเพื่อความปลอดภัย แล้วนำผลที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์งาน เพือ่ ความปลอดภัยมาจดั ทำเปน็ ขน้ั ตอนและวิธกี ารปฏิบัตงิ านทป่ี ลอดภัย ดังนั้น ลูกจ้างจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานที่กำหนดไว้ อยา่ งเครง่ ครดั เนื่องจากการจดั ทำข้อบังคับและคู่มอื ว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานไดผ้ ่านกระบวนการ วิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัยมาอย่างละเอียดแล้ว แต่หากมีขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานใดมีปัจจัยท่ี เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่กำหนดไวใ้ นข้อบังคับและคูม่ ือว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงาน ลูกจ้างควรแจ้ง ให้หัวหน้างานทำการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัยและนำไปกำหนดเป็นข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความ ปลอดภัยในการทำงานทีเ่ ป็นปจั จบุ ันของสถานประกอบกจิ การต่อไป การอบรมตามหัวข้อวิชาที่ 3 นี้ นายจ้างจะต้องจัดอบรมให้แก่ลูกจ้างโดยใช้ข้อบังคับว่าด้วยความ ปลอดภยั ฯ ท่ีมีอยู่ หรอื จัดทำขึ้นสำหรบั ลกู จ้างทีป่ ฏบิ ตั ิงานในแตล่ ะงาน เช่น งานเจีย งานกลงึ งานเชือ่ ม งาน ยกยา้ ยสิง่ ของ เป็นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook