GS การคน้ หาอนั ตราย (CCCF) โดย 20+1F View Points
หวั ขอ้ การอบรม Time Duration Contents 13:00-13:05 pm. 5 Min. ลงทะเบยี น 13:05-13:15 pm. 10 Min. Pre-Test 13:15-13:35 pm. 20 Min. ทบทวนกจิ กรรม CCCF + STOP6 13:35-14:05 pm. 30 Min. 20+1F View Points 14:05-14:30 pm. 25 Min. Workshop 14:30-14:35 pm. 5 Min. 14:35-14:45 pm. 10 Min. Q&A Post Test
จติ สานกึ ดา้ นความปลอดภยั (Safety Awareness) ความปลอดภัย คอื หวั ใจในการทางานของพนักงาน ไมม่ ใี ครอยากให ้ อบุ ตั เิ หตเุ กดิ ขนึ้ กบั ตวั เรา ความปลอดภยั ไมใ่ ชเ่ รอื่ งของโชค แตเ่ ป็ นเรอื่ งของการ จัดการ การใหค้ วามรู ้ การสรา้ งแรงจงู ใจใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมในการ ทางาน ใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมแหง่ ความปลอดภยั จงึ เป็ นหวั ใจของการลดปัญหา อบุ ตั เิ หตใุ นสถานท่ี ทางานได ้ การอบรมจติ สานกึ ดา้ นความปลอดภัยจงึ เป็ นเรอ่ื ง ทส่ี าคญั ทไี่ มอ่ าจมองขา้ มได ้
ความหมายของอบุ ตั เิ หตุ ”อบุ ตั เิ หต”ุ เป็ นเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ โดย ไมค่ าดคดิ ไมม่ กี ารวางแผนลว่ งหนา้ และควบคมุ ไมไ่ ด ้ เชน่ การตกจากทส่ี งู การหกลม้ ฯลฯ ซง่ึ จะทาใหเ้ กดิ ความ สญู เสยี ตอ่ ผปู ้ ระสบอบุ ัตเิ หตบุ คุ คลอนื่ หรอื สง่ิ อน่ื ทเี กยี วขอ้ งดว้ ย อบุ ตั เิ หตจุ าก การทางานเป็ นเหตกุ ารณไ์ มค่ าดคดิ ที่ เกดิ ขนึ้ ในขณะทางาน เชน่ การบาดเจ็บ จากการกระแทกหรอื บดของเครอื่ งจักร การถกู สง่ิ ของหลน่ ทบั ฯลฯ
สาเหตกุ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 88% 12% การกระทาทไี่ มป่ ลอดภยั สภาพการณท์ ไี่ มป่ ลอดภยั (Unsafe Act) (Unsafe Condition) การกระทาทไ่ี มป่ ลอดภัย สภาพแวดลอ้ มทอ่ี ยรู่ อบๆ ตวั ของผปู ้ ฏบิ ตั งิ านในขณะทางาน ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านในขณะทางาน ซงึ่ อาจ ซง่ึ อาจจะกอ่ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด ้ เป็ นสาเหตทุ ก่ี อ่ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด ้
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระบบงานกบั การเกดิ อบุ ตั เิ หตุ คน การบรหิ าร 1.การกระทาไมป่ ลอดภยั การจัดการ (Unsafe Act) เครอื่ งจักร วตั ถดุ บิ เครอ่ื งมอื สงิ่ แวดลอ้ ม อบุ ตั เิ หตุ + โรคจากการทางาน 2.สภาพการทางานทไ่ี มป่ ลอดภยั (Unsafe condition)
วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื สรา้ งจติ สานกึ ดา้ นความปลอดภยั โดยยดึ หลกั ”Genchi & Genbutsu” (คอื การไปดู และวเิ คราะหป์ ัญหาจากสถานทที่ างานจรงิ ) 2. เพอ่ื รณรงคด์ า้ นความปลอดภัย โดยใหพ้ นักงาน สงั เกต คน้ หา และประเมนิ อนั ตรายจากงานทต่ี นเองปฏบิ ตั ิ 3. เพอ่ื ทราบเทคนคิ ทใี่ ชใ้ นการสรา้ งความตระหนักในความปลอดภัย
วตั ถปุ ระสงค์ 4. เพอื่ ปรับเปลย่ี นวัฒนธรรมดา้ นความปลอดภัย จากการป้องกนั เชงิ รับเป็ นการป้องกนั ทสี่ าเหตุ กอ่ นจะเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 5. เพอื่ เปิดโอกาสใหแ้ สดงความคดิ เห็น ดา้ นความปลอดภยั ในการ ทางานโดยใหว้ เิ คราะหป์ ัญหา จากสถานทที่ างานจรงิ 6. เพอ่ื ลดจดุ ทเี่ ป็ นอนั ตราย จดุ เสยี่ งตอ่ การเกดิ อบุ ัตเิ หตุ
การคน้ หาอนั ตรายในการทางาน CCCF กจิ กรรม CCCF นัน้ มงุ่ หวงั ใหพ้ นักงานทกุ คน สงั เกตและคน้ หา อนั ตรายจากงานทต่ี นเองปฏบิ ตั ิ ซง่ึ งานทกี่ ระทานัน้ อาจมหี ลายๆงานดว้ ยกนั ใน แตล่ ะวัน รวมถงึ งานในวนั หยดุ โดยใหพ้ จิ ารณาใหค้ รอบคลมุ งานดงั ตอ่ ไปนี้ ❑ ขอบเขตของการคน้ หาและประเมนิ อนั ตราย 1. งาน Routine (งานประจา) เป็ นงานตามสายการผลติ ทกี่ ระทาเป็ นประจา 2. งาน ( Low frequency job ) คอื งานทน่ี านๆ จะทาซกั ครัง้ หนง่ึ เชน่ งานทดลองการผลติ , งานทดสอบเครอ่ื งจักร , งานตดิ ตงั้ หรอื ปรับแตง่ เครอ่ื งจักร เป็ นตน้ 3. งาน Abnormal (ผดิ ปกต)ิ คอื งานทเ่ี กดิ ขนึ้ ระหวา่ งปฏบิ ัตงิ านประจาอยแู่ ละพบวา่ มปี ัญหา เกดิ ความผดิ ปกตนิ อกเหนอื จากงานมาตรฐานทก่ี าหนดหรอื ไมไ่ ดค้ าดหมายไว ้ 4. งาน Maintenance คอื งานซอ่ มบารงุ เครอ่ื งจักร และ อปุ กรณ์
การคน้ หาอนั ตรายในการทางาน CCCF กจิ กรรม CCCF นัน้ มงุ่ หวงั ใหพ้ นักงานทกุ คน สงั เกตและคน้ หา อนั ตรายจากงานทต่ี นเองปฏบิ ตั ิ ซง่ึ งานทกี่ ระทานัน้ อาจมหี ลายๆงานดว้ ยกนั ใน แตล่ ะวัน รวมถงึ งานในวนั หยดุ โดยใหพ้ จิ ารณาใหค้ รอบคลมุ งานดงั ตอ่ ไปนี้ ❑ ขอบเขตของการคน้ หาและประเมนิ อนั ตราย 1. งาน Routine (งานประจา) เป็ นงานตามสายการผลติ ทกี่ ระทาเป็ นประจา 2. งาน ( Low frequency job ) คอื งานทน่ี านๆ จะทาซกั ครัง้ หนง่ึ เชน่ งานทดลองการผลติ , งานทดสอบเครอ่ื งจักร , งานตดิ ตงั้ หรอื ปรับแตง่ เครอ่ื งจักร เป็ นตน้ 3. งาน Abnormal (ผดิ ปกต)ิ คอื งานทเ่ี กดิ ขนึ้ ระหวา่ งปฏบิ ัตงิ านประจาอยแู่ ละพบวา่ มปี ัญหา เกดิ ความผดิ ปกตนิ อกเหนอื จากงานมาตรฐานทก่ี าหนดหรอื ไมไ่ ดค้ าดหมายไว ้ 4. งาน Maintenance คอื งานซอ่ มบารงุ เครอ่ื งจักร และ อปุ กรณ์
การแบง่ ประเภทของอนั ตราย โดยแบง่ เป็ น 6 ประเภท (Stop 6)+ STOP A (Actuator) อนั ตรายจากเครอ่ื งจกั ร STOP B (Big Object) อนั ตรายจากวตั ถหุ นกั ตกใส่ STOP C (Car) อนั ตรายจากยานพาหนะ STOP D (Drop) อนั ตรายจากการตกจากทส่ี งู STOP E (Electric) อนั ตรายจากกระแสไฟฟ้ า STOP F (Fire) อนั ตรายจากไฟไหม,้ วตั ถรุ อ้ น ( ) อน่ื ๆ (สารพษิ , ขาดอากาศหายใจ, สารเคม)ี
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 1. STOP A (Actuator) อบุ ตั เิ หตจุ ากอปุ กรณเ์ ครอ่ื งจกั ร ตอ้ งแนใ่ จวา่ ไดป้ ้ องกนั การสมั ผสั ระหวา่ งคนกบั เครอ่ื งจกั รไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ขณะเครอื่ งจกั รทางาน เมอ่ื คนตอ้ งเขา้ ไปยงุ่ เกย่ี วกบั เครอื่ งจกั ร “คน กบั เครอื่ งจกั ร ตอ้ งแยกจากกนั ” “ตอ้ งหยดุ การทางานของเครอ่ื งจกั รกอ่ นทกุ ครงั้ ”
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 1. STOP A (Actuator)อบุ ตั เิ หตจุ ากเครอื่ งจกั ร อปุ กรณ์เครอ่ื งจกั รทอ่ี าจเกดิ อนั ตรายไดแ้ ก่ : โรบอท สายพานลาเลยี ง ,ชดุ เพลาขบั อน่ื ๆ เชน่ เครอื่ งกลงึ , เครอื่ งเจยี ร,เครอื่ งตดั
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 1. STOP A (Actuator)อบุ ตั เิ หตจุ ากเครอ่ื งจกั ร ตวั อยา่ งจดุ อนั ตราย : ไมม่ คี รอบป้องกนั อนั ตรายทเี่ ครอื่ งจกั ร มคี รอบป้องกนั อนั ตรายทไ่ี มเ่ หมาะสม ไมป่ ิดพลงั งานกอ่ นซอ่ มบารงุ หรอื ถอดครอบป้องกนั อนั ตราย ปรับแตง่ เครอ่ื งจักร ออกจากเครอ่ื งจกั ร
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 2. STOP B (Big object) อบุ ตั เิ หตจุ ากวตั ถหุ นกั ตก ทบั จดุ สาคญั คอื “เนน้ การปรบั ปรงุ ความสามารถและเพมิ่ ระดบั การเตอื นอนั ตราย” สาเหตุ : ➢ การระมดั ระวงั มกั จะลดนอ้ ยลง เมอ่ื ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความชานาญ ➢ การป้ องกนั อนั ตรายของมกั จะลดนอ้ ยลง จากความคนุ้ เคยกบั งาน การแกไ้ ข : ➢ ตอ้ งมกี ารฝึ กอบรมเพอื่ เพม่ิ ความชานาญ ➢ ตอ้ งเพมิ่ ความระมดั ระวงั ในงานประจา
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 2. STOP B (Big object) อบุ ตั เิ หตจุ ากวตั ถหุ นกั ตก ทบั ตวั อยา่ งเครอ่ื งจกั รทท่ี าใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตุ Crane Hoist Forklift
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 2. STOP B (Big object) อบุ ตั เิ หตจุ ากวตั ถหุ นกั ตก ทบั ตวั อยา่ งจดุ อนั ตราย เชอื กสลงิ ชารดุ ใชง้ านเกนิ พกิ ดั น้าหนัก Safety lock ชารดุ
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 2. STOP B (Big object) อบุ ตั เิ หตจุ ากวตั ถหุ นกั ตก ทบั ตวั อยา่ งจดุ อนั ตราย ใชง้ านเกนิ พกิ ัดน้าหนัก พนักงานยนื อยทู่ ี่ จดุ ทอี่ ันตราย
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 3. STOP C (Car) อบุ ตั เิ หตจุ ากยานพาหนะ
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 3. STOP C (Car) อบุ ตั เิ หตจุ ากยานพาหนะ ตวั อยา่ งจดุ อนั ตราย ไมแ่ ยกแบง่ เขตการทางาน ปฏบิ ตั งิ านโดยทไ่ี มไ่ ด ้ ระหวา่ งคนกบั ยานพาหนะ รับอนุญาต
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 3. STOP C (Car) อบุ ตั เิ หตจุ ากยานพาหนะ ตวั อยา่ งจดุ อนั ตราย
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 4. STOP D (Drop) อบุ ตั เิ หตจุ ากการทางานบนทสึ่ งู หรอื ตกหลมุ อปุ กรณ์งานบนทสี่ งู
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 4. STOP D (Drop) อบุ ตั เิ หตจุ ากการทางานบนทส่ึ งู หรอื ตกหลมุ จดุ อนั ตราย
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 4. STOP D (Drop) อบุ ตั เิ หตจุ ากการทางานบนทส่ึ งู หรอื ตกหลมุ จดุ อนั ตราย
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 5. STOP E (Electric) อบุ ตั เิ หตจุ ากกระแสไฟฟ้ า อปุ กรณ์ทเี่ ป็ นอนั ตราย : อปุ กรณไ์ ฟฟ้ าทกุ ชนดิ
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 6. STOP F (Fire) อนั ตรายจากไฟไหม,้ วตั ถรุ อ้ น ไฟไหม้ / ภาชนะบรรจคุ วามดนั กา๊ ซระเบดิ สายแกส๊ ชารุด อาจทาใหไ้ ฟไหม้ สายไฟวางพาดเกดิ การเสยี ดสี การจดั เก็บอปุ กรณช์ ุดเชอื่ มกา๊ ซไมร่ ดั ป้ องกนั เกดิ ไฟไหม้ อาจทาใหเ้ ลอ่ื นลม้ และเกดิ การระเบดิ
ประเภทของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6) 6. อนื่ ๆ (สารเคม,ี ของมคี ม,สารพษิ เป็ นตน้ ) สารเคมี พน้ื ทอี่ บั อากาศ ❑ ระดบั ออกซเิ จน : ตา่ กวา่ 18% • หลมุ บอ่ เครอื่ งป๊ัมโลหะ • ทอ่ รอ้ ยสายไฟ, ทอ่ ระบายน้า, ถังสารเคมี • เตาหลอมโลหะ, รถน้ามัน, โซโล อน่ื ๆ ❑ ระดบั Hydrogen sulfide (กา๊ ซไขเ่ นา่ ) • Coolant pit • ถงั หมัก, บอ่ น้าเสยี ปฏบิ ัตงิ านโดยไมส่ วมใส่ ปฏบิ ัตงิ านโดยไมม่ คี วามรู ้ อปุ กรณป์ ้องกนั ภยั เรอ่ื งสารเคมี ตรวจวดั ปรมิ าณกา๊ ซออกซเิ จน กอ่ นเรม่ิ งาน
ระดบั ความรนุ แรงของอนั ตราย การประเมนิ ความรนุ แรง (แบง่ เป็ น 3 ระดบั ) ระดบั A ตาย พกิ าร หรอื สญู เสยี อวยั วะ ระดบั B บาดเจ็บ หรอื หยดุ การผลติ ระดบั C บาดเจ็บเล็กนอ้ ย (ไมห่ ยดุ งาน) หรอื ไมห่ ยดุ การผลติ
ระดบั ความรนุ แรงของอนั ตราย ระดบั อนั ตราย การจาแนก ชนดิ ของอบุ ตั เิ หตุ (STOP 6+1 Type) ประเภท ถูกเครอื่ งจกั รหนบี (STOP A) ถูกวตั ถุตกใสห่ รือ ถูกชนกระแทกโดย ตกจากทส่ี งู (STOP D) ถูกไฟฟ้าดดู (STOP E) ไฟไหม ้ (STOP F) อนื่ ๆ (σ) กระแทก (STOP B) ยานพาหนะ (STOP C) ของอุบตั เิ หตุ ทงั้ ร่างกายหรอื พน้ื ทไ่ี ม่ม่ันคงทมี่ คี วาม กระบวนการที่ ทรัพยส์ นิ เสยี หายมูลคา่ ชว่ งลาตัว ระดบั A สว่ นบนของร่างกาย ทงั้ ร่างกายหรือ ทกุ กระบวนการ สงู ตงั้ แต่ 2 เมตรขนึ้ ไป เกยี่ วขอ้ งกับการ มากกวา่ 100,000 ขน้ึ ไป รวมมอื แขน และขา สว่ นบนของร่างกาย ทางานทมี่ โี อกาส และอุปกรณส์ าหรับขน้ึ ที่ ใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลับ บาดเจ็บสาหสั ตาย เกดิ การชน สญู เสยี สงู เชน่ นั่งรา้ น,กระเชา้ , ตงั้ แต่ 25 โวลทข์ น้ึ ไป อวยั วะ บนั ไดไม่เหมาะสมกับ ความรุนแรงของการบาดเ ็จบ การใชง้ าน ระดบั B สว่ นอน่ื ๆ สว่ นอน่ื ๆ พนื้ ทไี่ ม่มั่นคงทม่ี คี วาม ทรัพย์สนิ เสยี หาย แขนขา ถงึ ขนั้ ตอ้ ง ของร่างกาย เชน่ ของร่างกาย สงู ตงั้ แต่ 1 เมตรแตไ่ ม่เกนิ มลู คา่ ตงั้ แต่ หยุดการทางาน 2 เมตร และอุปกรณ์ บาดเจ็บ นวิ้ มอื 10,000-100,000 บาท - สาหรับขน้ึ ทสี่ งู เชน่ - น่ังรา้ น,กระเชา้ , บนั ไดไม่ เหมาะสมกับการใชง้ าน ระดบั C ปลายนวิ้ มอื พน้ื ทไ่ี มม่ ั่นคงทม่ี คี วาม ทรัพย์สนิ เสยี หาย เล็กนอ้ ย ไมต่ อ้ งหยุด และนวิ้ เทา้ สงู นอ้ ยกวา่ 1 เมตร มูลคา่ มากกวา่ 10,000 บาท การทางาน และอุปกรณส์ าหรับ -- ขนึ้ ทส่ี งู เชน่ น่ังรา้ น, - กระเชา้ ,บนั ไดไมเ่ หมาะ สมกับการใชง้ าน เกณฑท์ ใี่ ชใ้ น - สว่ นของอวยั วะที่ - น้าหนักของวตั ถุ - ประเภทของรถทช่ี น - ความสงู ของพนื้ - กระแสไฟฟ้า - ความรุนแรง การตัดสนิ ใจ ไดร้ ับบาดเจบ็ (ตงั้ แต่ 100 กก. ขนึ้ ไป) - ความเร็วของรถทชี่ น - สภาพพน้ื ทปี่ ฏบิ ตั งิ าน ของการบาดเจบ็ - ประเภทของการ บาดเจบ็ - สว่ นของอวยั วะที่ - อปุ กรณส์ าหรับขนึ้ ที่ ไดร้ ับบาดเจบ็ สงู เชน่ น่ังรา้ น, กระเชา้ , บนั ได ฯลฯ
การกาหนดการแกไ้ ข 1. การแกไ้ ขถาวร ➔ การแกไ้ ขดา้ น Hardware เชน่ ทารัว้ กนั้ ทาฝาครอบเครอ่ื งจักร ➔ การแกไ้ ขดา้ น Software เชน่ ปรับปรงุ มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านจัดอบรมและตดิ ตามผลการปฏบิ ตั ิ Rank A แกไ้ ขภายใน 7 วนั Rank B,C แกไ้ ขภายใน 30 วนั 2. การแกไ้ ขชว่ั คราว ➔ ตดิ ตงั้ รวั้ , สญั ญาณเตอื น , KYT , เป็ นตน้ Rank A,B แกไ้ ขทนั ที Rank C แกไ้ ขภายใน 7 วนั
20+1F View Point คอื อะไร “20+1F View Point คอื เครอื่ งมอื ชว่ ยในการ คน้ หาอันตราย โดยมองอนั ตรายใหร้ อบดา้ น โฟกสั ไปยังสถานการณ์อันตรายทเ่ี กดิ ขน้ึ ”
ความปลอดภยั วตั ถปุ ระสงคข์ อง 20+1F View Point เป็ นหนา้ ทข่ี อง “เพอ่ื ชว่ ยในการคน้ หาอนั ตรายจาก ทกุ คน สถานการณต์ า่ งๆไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ มองเห็นไดช้ ดั เจนและเขา้ ใจงา่ ย” ประโยชนข์ อง 20+ 1F View Point • คน้ หาอนั ตรายจากสถานการณ์ตา่ งๆไดช้ ดั เจน นาไปใชไ้ ดง้ า่ ย • ใชไ้ ดก้ บั สถานทป่ี ฏบิ ตั งิ านอนื่ ๆได้ ไมต่ อ้ งจา มาตรฐานมากมาย • ป้ องกนั การเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ ค่ี ลา้ ยคลงึ กนั
STOP 6 TYPE C: ถกู ยานพาหนะ เฉย่ี ว/ชน A: ถกู หนบี บด อดั กระแทกโดย D: ตกจากทส่ี งู เครอ่ื งจกั ร/อปุ กรณ์ B: ถกู กระแทกดว้ ย ชนิ้ งานทม่ี นี า้ หนกั มาก
STOP 6 TYPE F: ความรอ้ น/ไฟไหม้ E: ไฟฟ้ าดดู /ช็อต Other: อน่ื ๆ เชน่ สารเคม,ี ทอ่ี บั อากาศ
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point 1. การทางาน (Operation) 3 ขอ้ 2. ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 6 ขอ้ 3. ไมเ่ หมาะสม (Inappropriate) 4 ขอ้ 4. ตก/หลน่ (Falling) 3 ขอ้ 5. พลงั งาน (Power) 2 ขอ้ 6. สภาพทว่ั ไป (Circumstance) 2 ขอ้ 7. ไฟไหม้ (Fire) 1 ขอ้
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point การทางาน (Operation) 1. ทางานไมต่ รงตามมาตรฐาน (Mistake / Error in operation)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point การทางาน (Operation) 2. การกระทาเรง่ รบี โดยขาดการยงั้ คดิ (Act quickly without thinking)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point การทางาน (Operation) 3. ปฏบิ ตั งิ านโดยทไ่ี มไ่ ดร้ ับมอบหมาย/ไมไ่ ดร้ ับอนุญาต (Act quickly without thinking)
ลองชว่ ยกนั ดนู ะคะ วา่ เป็ น viewpoints ประเภททเ่ี ทา่ ไหร่ TEST #01 What is View Point ? No. Name
ลองชว่ ยกนั ดนู ะคะ วา่ เป็ น viewpoints ประเภททเี่ ทา่ ไหร่ TEST #01 What is View Point ? No. [1] Name ทางานไมต่ รงตามมาตรฐาน Mistake / Error in operation
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 4. การทางานซอ้ นทับกนั ระหวา่ งคนกบั งานทม่ี กี ารเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถทุ ม่ี นี ้าหนักมาก (Overlap between man & load)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 5. การซอ้ นทับกนั ระหวา่ งระหวา่ งคนกบั เสน้ ทางยานพาหนะ (Man on vehicle route)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 6. คนไปทางานในเสน้ ทางการเคลอ่ื นทขี่ องวสั ด/ุ อปุ กรณ์ (Man contracts not-driven object)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 7. การซอ้ นทบั กนั ระหวา่ งคนกบั วตั ถทุ ไ่ี มเ่ คลอื่ นที่ (น้าหนักมาก,มคี วามคม,อน่ื ๆ) (Man contracts driven object)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 8. การซอ้ นทับกนั เนอ่ื งจากงานขนยา้ ยวตั ถทุ มี่ นี ้าหนัก, รถแฮนดล์ ฟิ ทไ์ ฟฟ้า, อน่ื ๆ ทเ่ี คลอ่ื นทอี่ อกจากพนื้ ทท่ี ก่ี าหนด (Vehicle & vehicle on route)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ของ 2 อยา่ ง (Overlap) 9. การซอ้ นทบั กนั ระหวา่ งยานพาหนะและยานพาหนะ (Inappropriate route)
ลองชว่ ยกนั ดนู ะคะ วา่ เป็ น viewpoints ประเภททเี่ ทา่ ไหร่ TEST #02 What is Viewpoint ? No. Name.
ลองชว่ ยกนั ดนู ะคะ วา่ เป็ น viewpoints ประเภททเี่ ทา่ ไหร่ TEST #02 What is Viewpoint ? No. [4] Name. การทางานซอ้ นทบั กนั ระหวา่ งคนกบั งาน ทมี่ กี ารเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถทุ มี่ นี า้ หนกั มาก (Overlap between man and load)
การแบง่ กลมุ่ 20+1F View Point ไมเ่ หมาะสม (Inappropriate) 10. การเลอื กไมเ่ หมาะสม/ไมถ่ กู ตอ้ ง (Inappropriate choice)
Search