การพูดวเิ คราะหว์ ิจารณ์
การพดู วเิ คราะห์วิจารณ์ หมายถงึ การพูดท่ผี ู้พดู ได้พจิ ารณาแยกแยะรายละเอียดของข้อมูลว่าส่ิงไหนเป็ นข้อเทจ็ จริง ข้อคดิ เหน็ มีข้อดี ข้อเสีย มีจุดเด่น จุดด้อยแล้วนาไปประเมินค่าแสดงความคดิ เหน็ โดยใช้ข้อมลู ท่ผี ่านการพจิ ารณามาเป็ นเหตุผล นาไปประเมินค่าเพ่อืประยุกต์ใช้ในชีวติ จริงได้
ส่งิ ท่ีต้องรู้ในการพดู วเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ๑. รวู้ า่ อะไรเปน็ ใจความสาคัญของเรอ่ื ง ๒. รวู้ า่ อะไรเปน็ เน้ือหาหลกั อะไรเป็นเนอ้ื หารอง ๓. รวู้ า่ ตอนใดเปน็ ใจความทีแ่ สดงเหตุและผล ข้อเท็จจรงิ ข้อคิดเหน็
พิจารณาโดยใช้ ความคิด ความรู้ และป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ว่ า เ ร่ื อ ง ท่ี ฟั ง มี ค ว า มสมเหตุสมผล และมีความถูกต้อง มากน้อยเ พี ย ง ใ ด ดั ง นั้น จึ ง เ รี ย น รู้ ก า ร แ ย ก แ ย ะข้ อเท็จจริงและข้ อคิดเห็น รวมทั้งการจับใจความสาคัญ และเจตนาของผู้ส่งสารด้วย
๑. ชว่ ยพฒั นาดา้ นสติปัญญา ทาใหเ้ ปน็ ผมู้ คี วามรอบรใู้ นเรอื่ งตา่ งๆ อยา่ งละเอยี ดถกู ตอ้ ง เพราะผทู้ จ่ี ะวเิ คราะหว์ จิ ารณส์ ารไดต้ อ้ งผา่ นการศกึ ษาคน้ ควา้ เรือ่ งนนั้ ๆ มาเปน็ อยา่ งดี ถกู ตอ้ งรวดเร็ว แมน่ ยา๔. ชว่ ยยกระดบั ประโยชนข์ องการวเิ คราะห์ ๒. ชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ให้ วจิ ารณ์ ทักษะทางภาษาให้สงู ขนึ้ เพราะรจู้ กั ใช้ สงู ขน้ึ สามารถรบัวจิ ารณญาณ ๓. ชว่ ยให้มสี ขุ ภาพจติ ท่ีดี เพราะ สารทยี่ ากและไตรต่ รอง ทาให้ สามารถตัดสนิ ใจแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ ซบั ซอ้ นไดอ้ ยา่ งมีฉลาดรเู้ ทา่ ทนั คน ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง รวดเรว็ ทาให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพและเหตกุ ารณ์ ไม่ ความสบายใจ ลดความวิตกกังวลตกเป็นเหยอื่ ให้ถกู เพราะไดผ้ า่ นกระบวนการคิดทีเ่ ปน็หลอกได้งา่ ยๆ ระบบ
๖.เรียบเรียงความ ๑. ศกึ ษาอย่างละเอียด ๒. วเิ คราะห์คิ ด ที่ วิ เ ค ร า ะ ห์ แยกแยะเนอื้ หาวิจารณ์เป็นบทพูด หลกั ในการพดู วเิ คราะห์ เปน็ สว่ นๆ วา่ มีใ ช้ ค า ที่ มี วจิ ารณ์ ลกั ษณะอยา่ งไรความหมาย เป็นขอ้ คดิ เหน็ก ร ะ ชั บ ต ร ง หรือขอ้ เทจ็ จริง มีประเดน็ ความสมั พนั ธก์ นั หรอื ไม่๕ . วิ เ ค ร า ะ ห์ ใ น ท า ง ๔. วจิ ารณข์ อ้ มลู ที่ส ร้ า ง ส ร ร ค์ แ ล ะ เ ป็ น วเิ คราะหแ์ ลว้ ไป ๓.วเิ คราะหเ์ นือ้ หาแลว้ประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อ่ืน ประเมนิ คา่ ใหเ้ หน็ วา่ ประเมนิ คา่ วา่ มขี อ้ ดีและตอ่ ส่วนรวม มคี ณุ คา่ มคี วาม ขอ้ เสยี จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ย นา่ เชือ่ ถอื หรอื ไม่ มี หรือขอ้ บกพรอ่ งอยา่ งไร ขอ้ บกพรอ่ งอยา่ งไร
๒. มคี วามรู้เกี่ยวกับภาษา ๑. มีความรู้เกี่ยวกับ ถ้ อ ย ค า ส า น ว น เ น้ื อ ห า ท่ี จ ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ และใช้ภาษาที่สุภาพ วจิ ารณ์ เหมาะสม๕. สามารถเขา้ ใจเนอ้ื หาที่ คณุ สมบตั ิของผ้พู ดู ๓. มคี วามใฝ่รู้ ศกึ ษาจะวเิ คราะห์ วเิ คราะหว์ ิจารณ์ คน้ ความหาความรอู้ ยู่วจิ ารณไ์ ดอ้ ยา่ ง เสมอมเี หตุผล ตรงความเป็นจรงิไมม่ ีอคติ ๔. กล้าทจ่ี ะแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ กบัสามารถนาใช้ ผอู้ นื่ ซง่ึ จะชว่ ยกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความคดิประโยชนห์ รือ ใหมๆ่ และกลา้ ทจี่ ะวจิ ารณอ์ ยา่ งถ่ายทอดได้ ตรงไปตรงมา
๑. พูดด้วยความสุภาพ ไม่ใช้คา ส่อเสยี ด หรอื หยาบคาย๔. ระมดั ระวังใน มารยาทในการพดู ๒. หลกี เลย่ี งการพดูการใชค้ าพดู หรือ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ท่กี ่อใหเ้ กดิ ความสานวนทผี่ ดิ ขัดแย้งความหมาย ๓. ควบคมุ อารมณแ์ ละ ความคดิ ใหอ้ ยู่ภายใตค้ วาม ยุตธิ รรมและความเท่ยี งธรรม
การพดู วิเคราะห์วจิ ารณ์จากภาพ
การพูดวเิ คราะหว์ ิจารณ์
การพูดวิเคราะหว์ จิ ารณ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: