กาพยเ์ หช่ มเคร่อื งคาวหวาน
ประวัตคิ วามเป็นมา กาพย์เหช่ มเครือ่ งคาวหวาน พระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั รัชกาลท่ี ๒ ไดท้ รงพระราชนพิ นธข์ น้ึ เพอ่ื ชมสมเดจ็ พระศรีสรุ ิเยน-ทราบรมราชนิ ี ดว้ ยทรงมคี วามสามารถเปน็ เลศิ ในการปรุงเครือ่ งเสวย และเพอื่ ใชเ้ ปน็ บทเหเ่ รอื เสดจ็ ประพาสสว่ นพระองค์ ซ่งึ ตอ่ มาในสมยั รชั กาลท่ี ๕ไดใ้ ชก้ าพยเ์ หช่ มเครอ่ื งคาวหวานในการเหเ่ รอื ของทางราชการคู่กบั บทเหเ่ รอืของเจา้ ฟา้ ธรรมธเิ บศร
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานแต่งเป็นกาพย์เห่ ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ โดยมีโคลงส่ีสุภาพ ๑ บท เป็นบทนา หรือบทข้ึนต้น แล้วแต่งกาพย์ยานี ๑๑ อีกหลายบทให้มีเนือ้ ความสอดคลอ้ งและสัมพนั ธก์ บั โคลงบทนา
เนื้อเรอื่ ง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ มีเนือ้ ความพรรณนาถึงอาหารคาวหวานและผลไม้แต่ละชนิด โดยเร่ิมท่ีการเห่ชมเคร่ืองคาว ดังต่อไปนี้ มสั มนั่ ยาใหญ่ ตบั เหลก็ ลวก หมแู นม กอ้ ยกงุ้ แกงเทโพ นา้ ยา แกงออ่ ม ข้าวหงุ เครอ่ื งเทศ แกงคว่ั สม้ หมูปา่ ใส่ระกา พลา่ เนอ้ื ลา่ เตยี ง หรมุ่ รงั นก ไตปลา แสรง้ วา่
เหช่ มผลไม้ผลชดิ ลกู ตาล ลกู จาก มะปราง มะมว่ ง ลนิ้ จี่ลกู พลบั นอ้ ยหนา่ ผลเกด ทับทมิ ทเุ รยี น ลางสาดเงาะ สละ
เหช่ มเครื่องหวานขา้ วเหนยี วสงั ขยา ซา่ หรม่ิ ลาเจยี ก มศั กอด ลดุ ต่ี ขนมจบีขนมเทยี น ทองหยบิ ขนมผงิ รังไร ทองหยอด ทองมว้ นจา่ มงกฎุ บวั ลอย ชอ่ มว่ ง ฝอยทอง
ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน มีการกล่าวถึงชื่อขนมต่างๆ ไว้หลายชนดิ ซึ่งลว้ นแล้วแตม่ ีความไพเราะและส่ือให้เห็นถึงความหมายอันเป็นมงคล ตวั อยา่ งขนมมงคล ๙ อยา่ ง มีดังน้ีเสนห่ จ์ นั ทร์ ทองเอก จา่ มงกุฎขนมถว้ ยฟู ขนมชนั้ ทองหยบิ เมด็ ขนนุทองหยอด ฝอยทอง
ตอ่ เลม่ ๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: