0 แผนพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี เป็นรายบคุ คล (Individual Development Plan : ID Plan) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีการศกึ ษา 2563 โดย ช่ือ นางเกศรนิ นามสกลุ กาชยั ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นอนุบาลงาว(ภาณนุ ยิ ม) อาเภองาว จังหวัดลาปาง สังกัดสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาลาปางเขต 1 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
1 บนั ทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนอนุบาลงาว(ภาณุนยิ ม) อาเภองาว จงั หวดั ลาปาง ที่ …………………………… วนั ที่ 1 กรกฎาคม 2563 เร่ือง ขออนุมตั ิแผนพฒั นาตนเองของข้าราชการครู (Individual Development Plan : ID Plan) เรียน ผู้อานวยการโรงเรียนอนุบาลงาว (ภาณนุ ยิ ม) ตามท่ีโรงเรียนอนุบาลงาว(ภารุนิยม)ได้มอบหมายให้คณะครูทุกคนจัดทาแผนพัฒนาตนเอง (Individual Development Plan : ID Plan) เพ่ือให้เกิดการวางแผนในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธผิ ล เกิดผลดีแกต่ นเองและราชการ และเปน็ ไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ บัดนี้ ข้าพเจ้า นางเกศริน กาชัย ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ ได้จัดทาแผนพัฒนาตนเอง ของข้าราชการครู (Individual Development Plan : ID Plan) ประจาปีการศึกษา 2563 เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดดงั แนบ จงึ เรยี นมาเพ่อื โปรดพจิ ารณา ลงช่ือ ...............................................ผู้รายงาน (นางเกศริน กาชยั ) ความเห็นผู้อานวยการโรงเรยี น .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .... ลงช่ือ (นายเชาวเร กนั อนิ ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นอนุบาลงาว(ภาณุนยิ ม)
2 คานา กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการ ประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ ความสามารถในการปฏบิ ัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคลอ้ งกบั ความต้องการจาเปน็ ของ ของหนว่ ยงาน และของตนเองอยา่ งแท้จรงิ ท้ังน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning : ID Plan) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนอง ความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็นการพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าที่มีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพที่มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง สามารถตรวจสอบได้ และพัฒนาสู่ความเป็นวชิ าชพี ต่อไป นางเกศรนิ กาชยั ตาแหน่ง ครู
3 แผนพฒั นาตนเองของขา้ ราชการครู (ID PLAN : INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN) ---------------------------------------------------------------------- สว่ นที่ 1 ข้อมูลส่วนบคุ คล ชอื่ นาง เกศริน ช่ือสกุล กาชัย ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ วฒุ กิ ารศกึ ษา ปรญิ ญาตรี หรือเทยี บเทา่ วิชาเอก วทิ ยาศาสตรท์ วั่ ไป ปริญญาโท หรือเทียบเท่า วชิ าเอก บรหิ ารการศึกษา O ปรญิ ญาเอก หรือเทียบเท่า วชิ าเอก.......................................................................................... O อน่ื ๆ (โปรดระบุ).......................................................................................... เข้ารบั ราชการวันท่ี 2 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ณ โรงเรียน บ้านปางหินฝน สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต เขต 6 อายุราชการจนถงึ ปจั จุบัน 8 ปี - เดือน เงนิ เดอื น อนั ดบั คศ. 2 อัตราเงินเดือน 28,140 บาท สถานที่ทางาน สถานศกึ ษา/ หนว่ ยงาน โรงเรยี นอนบุ าลงาว สพป.ลาปาง เขต1
4 งานในหน้าท่ที ร่ี บั ผดิ ชอบ 1.วชิ าวิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน ป.6 = 3 คาบ/สัปดาห์ 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 2.วิชาวิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน ป.5/3 = 3 คาบ/สัปดาห์ 60 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น 3.วิชาวทิ ยาศาสตร์เพมิ่ เติม (STEM) ป.3/2 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน 4.วชิ าวิทยาศาสตรเ์ พ่มิ เติม (STEM) ป.5/3 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน 6.วชิ าวทิ ยาศาสตร์เพ่มิ เติม (STEM) ป.6/1 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรยี น 7.วิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ ป.3/2 = 1 คาบ/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น 8.วชิ าโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ป.5/3 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 9.วชิ าโครงงานวิทยาศาสตร์ ป.6/1 = 1 คาบ/สปั ดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรยี น 10.วิชาภาษาไทย ป.5/3 = 4 คาบ/สัปดาห์ 80 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 11วชิ าภาษาอังกฤษ ป.5/3 = 2 คาบ/สปั ดาห์ 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น 12วิชาสงั คมศึกษา ป.5/3 = 1 คาบ/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน 13วชิ าประวติ ศิ าสตร์ ป.5/3 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน 14วิชาการงานอาชีพ ป.5/3 = 1 คาบ/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน 15วิชาคอมพิวเตอร์ ป.5/3 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน 16ชุมนุมวิทยาศาสตร์ ป.5/3 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน 17แนะแนว ป.5/3 = 1 คาบ/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรยี น 18.ลกู เสือ = 1 คาบ/สปั ดาห์ 20 ชัว่ โมง/ภาคเรียน รวม 25 คาบ/สปั ดาห์ 500 ชวั่ โมง/ภาคเรียน งานท่ีได้รับมอบหมาย 1. ปฏบิ ัตหิ น้าที่เวรประจาวนั 2. ปฏบิ ตั ิหน้าที่รบั ผดิ ชอบกจิ กรรมสหกรณน์ ักเรยี น 3. ปฏบิ ตั ิหน้าทรี่ บั ผิดชอบกจิ กรรมวันวทิ ยาศาสตร์ ในโครงการกจิ กรรมส่งเสรมิ หลักสูตร 4. ปฏิบตั ิหน้าทปี่ รบั ปรุงและพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษากลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 5. ปฏบิ ตั ิหน้าทเ่ี ป็นคณะกรรมการรบั ผิดชอบมาตรฐานที่ 2 6. ปฏิบตั หิ น้าทรี่ ับผิดชอบครูผสู้ อนชุมนมุ วิทยาศาสตร์ 7. ปฏบิ ัติหนา้ ท่รี ับผดิ ชอบครูผู้สอนบูรณาการโครงการบา้ นนกั วทิ ยาศาสตร์น้อยระดบั ประถมศึกษา
5 ผลงาน ท่เี กิดจากการปฏิบัติหนา้ ทใี่ นตาแหน่งปจั จุบนั (ย้อนหลัง 2 ปี) 1. ผลท่ีเกิดจากการจัดการเรียนรู้ 1.1 มแี ผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 6 ที่มกี ารวิเคราะห์หลักสตู รสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 1.2 มีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยการปฏิบัติ (Active Learning) โดยเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั ดว้ ย กจิ กรรมท่หี ลากหลายและสอดคลอ้ งกับธรรมชาตวิ ิชาวทิ ยาศาสตร์ 1.3 มแี นวทางในการบรหิ ารจัดการชั้นเรยี นและจัดบรรยากาศการในชน้ั เรยี นที่เหมาะสมและช่วย สง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องนักเรยี น 1.4 มเี ครอ่ื งมอื การวัดและประเมนิ ผลทมี่ ีคณุ ภาพ ผา่ นการหาคณุ ภาพเครือ่ งมือวดั ผลเบื้องตน้ และมี ความหลากหลายในการประเมนิ อยา่ งรอบดา้ น ทั้งด้านความรู้ ดา้ นทักษะและกระบวนการ และด้าน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รวมไปถึงสมรรถนะทส่ี าคญั ของผู้เรียน 1.5 มีการแกป้ ญั หาในช้นั เรียนดว้ ยกระบวนการวจิ ยั ในช้นั เรียน เรือ่ ง เรื่อง การพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรยี น(o-net) ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 1.6 มีสือ่ การเรยี นรู้ และแหล่งการเรียนสาหรับใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ 1.7 ไดร้ ับรางวัล ครูผสู้ อนดีเด่น ประจาปี 2562 2. ผลทเี่ กดิ จากการพัฒนาวชิ าการ 2.1 มกี ิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรยี นไดใ้ ชค้ วามคิด และการแกป้ ัญหาทางวิทยาศาสตร์ เช่น กจิ กรรม STEM 2.2 มีกิจกรรมบรู ณาการเน้อื หาในหอ้ งเรียนกบั กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ ซ่งึ เป็นการบูรณาการเนอ้ื หา ในหอ้ งเรียนผ่านกจิ กรรมการพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.3 มกี จิ กรรมการใชแ้ บบฝึกหัดออนไลน์ โดยใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดผ่านการใช้โทรศัพทม์ ือถือใน การสืบค้นข้อมูล และการทาแบบฝกึ หัดของบทเรียนตา่ งๆ รวมทัง้ การใหน้ ักเรียนฝกึ การเข้าสู่สอ่ื การสอนต่างๆ ด้วย QR CODE เช่น เอกสารประกอบการเรยี น และสื่อ powerpoint เป็นต้น 2.4 มีกจิ กรรมให้ความรเู้ กี่ยวกับกระบวนการ PLC ให้แกเ่ พอ่ื นครู ท้งั ในและนอกโรงเรยี น 3. ผลที่เกิดกบั ผูเ้ รียน 3.1 นักเรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามเกณฑ์ทก่ี าหนด 3.2 นกั เรยี นมีระดับอา่ น คิด วเิ คราะห์ เขยี นส่อื ความ ผา่ นเกณฑ์ทีค่ รผู ู้สอนกาหนดไว้ 3.3 นักเรียนมีระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่านท่ีเกณฑ์ท่ีครูผ้สู อนกาหนดไว้ 3.4 นักเรียนมีชิน้ งาน/ผลงาน ที่สะท้อนความคิดขนั้ สงู เช่น การคิดวเิ คราะห์ การสงั เคราะห์ การประเมนิ คา่ และความคิดสรา้ งสรรคช์ ัน้ งาน โดยใชค้ วามรู้และเน้ือหาทางวิทยาศาสตร์ 3.5 นกั เรียนสามารถคน้ คว้าหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ทคี่ รูไดร้ วบรวมและแนะนาใหไ้ ด้อย่างถกู ต้อง
6 4. ผลที่เกดิ กบั สถานศึกษา 4.1 ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีในงานแผนงานของกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ โครงการของกลมุ่ สาระการ เรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ตามแผนปฏบิ ัติการและตามกิจกรรมสาคัญทางวทิ ยาศาสตร์ 4.2 ปฏิบัตหิ น้าทด่ี าเนินงานปรับปรุงหลกั สูตรกลมุ่ สาระ การเป็นผนู้ า PLC เพื่อแกป้ ัญหาและพฒั นา ผ้เู รยี น การจัดกจิ กรรมต่างๆ ภายในร่วมกบั บุคลากรภายในกลุ่มสาระ 5. ผลทเี่ กิดกบั ชมุ ชน/โรงเรยี นข้างเคยี ง/เขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา 5.1 ปฏิบัตหิ น้าทค่ี รทู ปี่ รกึ ษา มกี ารเยีย่ มบ้านนกั เรียนก่อให้เกดิ ความสัมพนั ธท์ ดี่ ีกบั ผ้ปู กครอง นกั เรียน และชุมชน 5.2 มกี ิจกรรมทางสงั คมในดา้ นต่างๆ รว่ มกับชุมชนอยา่ งสม่าเสมอ
รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง อันดบั สมรรถนะ วิธกี าร / ความสาคัญ ท่จี ะพฒั นา รปู แบบการพัฒนา 1 การจดั การเรยี นรู้ - ศึกษาเป้าหมายการจัดการศึกษา หลกั สตู ร การเรียนการสอน จิตวิทยา ทักษะการค ผเู้ รยี น - ศึกษาและวิเคราะห์มาตรฐานการเรียน ตัวชีว้ ัด วิชาวทิ ยาศาสตรช์ ั้นประถมศกึ ษาปีท - พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นกระบว คิด ทาหน่วยการเรียน วิเคราะห์เน้ือหาสา แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สร้างเครื่องมือวัดและประเมินผลตามสภาพ ด้านความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรมและช้ินงาน - นาแผนการจัดการเรียนรู้ไปจัดการเรียนกา เก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบและวิเครา การเรียนเชงิ สถิติ รายงานผลโดยการบนั ทึกห
7 ร ระบบ ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการ ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รับ คิด แ ล ะ สนับสนนุ จาก เริ่มต้น ส้นิ สุด หน่วยงาน - นักเรยี นเกดิ การเรียนรู้ทเี่ หมาะสม นรู้และ ตรงตามจดุ ประสงค์ สามารถศกึ ษา ท่ี 5 ปีการศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลงาว ได้ด้วยตัวเอง (ภาณนุ ิยม) เกิดกระบวนทางวิทยาศาสตร์ วนการ 2563 2563 มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ าระ ทา - นกั เรยี นมีแหลง่ เรยี นรูท้ ี่ สาคัญ หลากหลาย พจริงท้ัง - ครูไดพ้ ฒั นาตนเอง ารสอน าะห์ผล หลงั
รายละเอียดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อันดับ สมรรถนะ วธิ ีการ / ความสาคัญ ทจี่ ะพัฒนา รูปแบบการพัฒนา 2 การพัฒนาผูเ้ รียน การสอน และแก้ไขปัญหาจากการจัดการ ด้วยการทาวิจัยในชนั้ เรยี น - การสร้างส่ือการสอนวิทยาศาสตร์เพ่ือป วิทยาศาสตร์ - จดั ทาวิจยั ในชนั้ เรยี นเพื่อพฒั นานกั เรียน - ศึกษาคุณธรรม การจดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี การพัฒนาทกั ษะชวี ิตและระบบดูแลชว่ ยเหล นกั เรยี น - จัดกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน การซ่อมเสรมิ (1) จดั กิจกรรม Home Room (2) กวดขันพฤติกรรมเบ่ียงเบนและ ดาเนนิ การแกไ้ ขปรบั ปรุง (3) กิจกรรมซ่อมเสริม
8 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รบั สนบั สนุนจาก เริม่ ตน้ ส้นิ สุด หน่วยงาน รเรียนรู้ ปีการศึกษา ปกี ารศกึ ษา โรงเรียน 2563 2563 อนบุ าลงาว(ภาณุ ปลูกจิต นิยม) ยน ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา โรงเรยี น - นั ก เรีย น มี คุ ณ ลั ก ษ ณ ะอั น พึ ง ลือ 2563 2563 อนบุ าลงาว(ภาณุ ประสงค์และผ่านกิจกรรมพัฒนา นิยม) ผู้เรยี น - นักเรียนความความสามารถ และ ทกั ษะทางวชิ าการ ะ
รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อันดับ สมรรถนะ วิธกี าร / ความสาคัญ ที่จะพฒั นา รูปแบบการพัฒนา (4) เย่ียมบา้ นนกั เรียน - ติดตาม สงั เกต สมั ภาษณ์ การตรวจสอบ - การประเมนิ การจดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ตรวจสอบแบบบนั ทึกตา่ ง ๆ - ดาเนนิ กิจกรรมชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ (PLC) เพอ่ื พัฒนาผู้เรียน - ส่งเสริมและพฒั นานักเรยี นสู่การแข่งขันทัก ทางวิชาการ 3 การบริหารจัดการช้ัน - จดั บรรยากาศช้นั เรียนให้เป็นศูนยก์ ารเรยี น เรยี น หนงั สือ ปา้ ยนิเทศ มมุ สื่อ - สรา้ งบรรยากาศการเรียนรู้ เน้นการปฏสิ เรยี นแบบกลมุ่ แบบมสี ่วนร่วม แบบร่วมมือร (Cooperative learning) และเรยี นดว้ ยตน สอดคล้องสมั พนั ธก์ ับแผนการจัดการเรยี นรู้ - จัดทาขอ้ มูลชั้นเรยี น สารสนเทศ ทาเอกสา หลักสูตร เชน่ แบบบันทึกพฤติกรรม - การประเมิน ผลงานนกั เรียนและหอ้ งเรีย
9 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รบั สนับสนุนจาก เริม่ ตน้ สิ้นสุด หน่วยงาน ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา โรงเรยี น บ 2563 2563 อนบุ าลงาว(ภาณุ นและ นิยม) ชาชีพ กษะ น มีมุม ปีการศึกษา ปกี ารศึกษา โรงเรียน - บรรยากาศชน้ั เรยี นทีด่ ีมีผลตอ่ อนบุ าลงาว(ภาณุ การเรยี นรู้ สัมพันธ์ 2563 2563 รว่ มใจ นิยม) - การเตรียมพร้อมทาให้มเี อกสาร นเองที่ วิชาทีท่ าการสอนทส่ี มบรู ณ์ าร ยน
รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อนั ดบั สมรรถนะ วธิ กี าร / ความสาคญั ท่จี ะพฒั นา รูปแบบการพัฒนา 4 การมุ่งผลสมั ฤทธิ์ - จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ท่เี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาค - จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ใหผ้ ้เู รยี นไดป้ ฏ จรงิ (กจิ กรรมการทดลอง) - จัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ส่ือนวัตกรรมท น่าสนใจทั้งทางเทคโนโลยีและแหลง่ เรียนรู้ 5 การพฒั นาตนเอง - เข้ารับการอบรม สัมมนาท่ีหน่วยงานต้น หนว่ ยงานอ่นื ๆจดั ข้ึน - แลกเปลย่ี นเรียนรู้กบั บคุ ลากรในโรงเรียน - เข้ารับการพัฒนาตามโครงการคูปองพัฒน การศึกษา 2562 - ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการจาก วารสาร - ดาเนินการชุมชนการเรยี นรูท้ างวชิ าชพี (PL - สืบค้นความร้ทู างอินเตอร์เนต็
10 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ สนับสนุนจาก เร่ิมตน้ ส้นิ สุด หนว่ ยงาน คัญ ปกี ารศึกษา ปกี ารศึกษา โรงเรยี น - ผเู้ รยี นเกิดความสนใจ ต้ังใจ มี ฏิบัติ 2563 2563 อนบุ าลงาว(ภาณุ ความกระตือรือร้นทจี่ ะเรยี นรู้ นิยม) - เกดิ ความรู้ความเข้าใจอยา่ งถาวร ที่ - มผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรียนท่ีดีขน้ึ - มที กั ษะในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตาม ศกั ยภาพของแต่ละบุคคล นสังกัด ปีการศกึ ษา ปกี ารศึกษา โรงเรียน - ตนเองเปน็ ผมู้ ีคุณภาพ ได้รับการ 2563 2563 อนุบาลงาว(ภาณุ พฒั นาไปในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลและ นาครู ปี นยิ ม) เกิดประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี น โรงเรยี น กตารา LC)
รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อนั ดับ สมรรถนะ วิธกี าร / ความสาคญั ทจี่ ะพัฒนา รูปแบบการพฒั นา 6 การวเิ คราะห์ - ศกึ ษาขัน้ ตอนการทาวิจัยในชัน้ เรียน สังเคราะหแ์ ละการวจิ ัย - ศึกษาปญั หาทเี่ กดิ จากการจัดการเรียนการ ในชนั้ เรยี น - จัดทาวิจยั ในชั้นเรยี นเพื่อแก้ปญั หาตลอดจน พฒั นาผู้เรียน 7 การทางานเป็นทมี - ร่วมกิจกรรมทเ่ี น้นการทางานเปน็ ทมี - ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงา ร้จู ักการเปน็ ผใู้ หแ้ ละผู้รับท่ดี ี - มคี วามสามคั คใี นหมู่คณะ - ดาเนินกิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ทางว (PLC)
11 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ สนบั สนนุ จาก เรม่ิ ต้น สน้ิ สุด หน่วยงาน ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา - ครูมคี วามรคู้ วามสามารถในการ โรงเรียน เขียนผลงานทางวชิ าการและวจิ ัยใน รสอน 2563 2563 อนบุ าลงาว(ภาณุ ช้ันเรียนแบบงา่ ยได้ น นิยม) - ผูเ้ รียนไดร้ บั การแก้ปัญหาท่ีถูกวธิ ี ปีการศกึ ษา ปกี ารศึกษา โดยครทู าการวิจัยในชนั้ เรยี น - ครมู ีการทาวจิ ยั ในชั้นเรยี นอยา่ ง าน โดย 2563 2563 ต่อเนือ่ ง โรงเรียน อนบุ าลงาว(ภาณุ นิยม) วิ ช าชี พ
รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง (ต่อ) อนั ดบั สมรรถนะ วิธกี าร / ความสาคญั ท่ีจะพัฒนา รูปแบบการพฒั นา 8 วนิ ัย คุณธรรม - เข้ารับการอบรมพัฒนาดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรร จรยิ ธรรมและ - เข้ารว่ มกิจกรรมคา่ ยคณุ ธรรมที่โรงเรียนจัดข้นึ จรรยาบรรณวชิ าชพี - ตักบาตรทุกวันพระ - ดารงชีวิตโดยยึดหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพีย - ปฏิบตั ิตนตามกฎของโรงเรียน - อทุ ศิ เวลาใหก้ ับนกั เรียน/โรงเรียน - มีจิตสาธารณะ - ประพฤติปฏิบัติตนในวิชาชีพโดยรักและศรัท ตนเอง โดยมวี ินัยในตนเอง 9 การบรกิ ารทด่ี ี - ใหค้ าปรกึ ษาแก่ นกั เรยี น ผู้ปกครอง - ให้บรกิ ารนกั เรียน เชน่ การสอนซ่อมเสริม - ให้บริการผู้ปกครอง เช่น การเย่ียมบา้ น - ให้บรกิ ารเพ่ือนรว่ มงาน เชน่ การให้คาปรกึ ษา - ให้บริการทางวิชาการแก่ครูและบุคลากรทา โรงเรียนและนอกโรงเรียน - ใหบ้ ริการทางวชิ าชีพเผยแพรผ่ ลงานผ่านสอื่ อ รายละเอียดการพัฒนาตนเอง (ต่อ)
12 ระยะเวลาในการ การขอรบั การ พัฒนา สนับสนนุ จาก ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั หน่วยงาน เรมิ่ ตน้ ส้ินสดุ รม ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา โรงเรียน - ตนเองเปน็ ผู้ที่มีคุณธรรม น 2563 2563 อนุบาลงาว(ภาณุ จริยธรรม นิยม) - มีวินยั มีความรับผดิ ชอบ ยง - มีความก้าวหน้าในวชิ าชพี - มีความภาคภูมิใจในความ เปน็ ครู ทธาในวิชาชีพของ ปกี ารศกึ ษา ปีการศึกษา โรงเรียน - เกดิ ผลดีต่อเพื่อนร่วมงานใน 2563 2563 อนบุ าลงาว(ภาณุ โรงเรยี นและตา่ งโรงเรยี น เพ่ือ นิยม) นามาพฒั นาการเรยี นการสอน า างการศึกษาท้ังใน ออนไลน์
อนั ดบั สมรรถนะ วิธกี าร / ความสาคัญ ที่จะพัฒนา รปู แบบการพัฒนา 10 การสรา้ งความร่วมมือ - เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง /กรร กบั ชุมชน สถานศึกษาเพื่อรับทราบ นโยบาย แนวทางก กจิ กรรมของสถานศึกษา - เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนท้ังงานประเพ กิจกรรมทเี่ ป็นประโยชน์ - ให้ความร่วมมือแกช่ ุมชน - ขอความรว่ มมือจากชมุ ชนบางโอกาส - เยี่ยมบ้านนกั เรียน
13 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ สนบั สนนุ จาก เริ่มตน้ ส้นิ สุด หน่วยงาน รม การ ปีการศึกษา ปีการศึกษา การจัด 2563 2563 โรงเรียน - ชมุ ชนใหค้ วามรว่ มมอื ในกจิ กรรม อนุบาลงาว(ภาณุ ต่างๆที่สถานศึกษาจดั ข้นึ อย่างเตม็ ใจ พณีและ นิยม) - ชุมชนมีความพึงพอใจในกจิ กรรมที่ ผูเ้ รียน และสถานศึกษาจดั ข้ึน
14 ส่วนท่ี 3 แผนการพฒั นาตนเอง 1. อนั ดบั ความสาคญั /สมรรถนะที่จะพัฒนา (ให้ใส่หมายเลขเรยี งลาดบั ความสาคญั ของสมรรถนะที่จะพัฒนา) ( 1 ) การสอนในศตวรรษที่ 21 ( 2 ) การแกป้ ญั หาผู้เรยี น ( 3 ) จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจดั การเรียนรู้ ( 4 ) สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) ( 5 ) การจัดการช้ันเรยี น ( 6 ) การวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรูท้ างวชิ าชพี ( 7 ) การใชส้ ื่อและเทคโนโลยใี นการจัดการเรียนรู้ ( 8 ) การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ( 9 ) การพฒั นาหลกั สตู ร ( 10 ) การออกแบบการเรยี นรู้ 2. วิธกี าร / รปู แบบการพัฒนา ศกึ ษาหาความรู้ทางอินเตอรเ์ น็ต และหลกั สตู รออนไลน์ เกี่ยวกบั การสอนในศตวรรษท่ี 21 วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 3. ระยะเวลาในการพฒั นา เริม่ ตน้ 16 พฤษภาคม 2563 ส้ินสดุ 31 มีนาคม 2564 4. การขอรบั การสนบั สนุนจากหน่วยงาน ขอรับการสนับสนุนดา้ นงบประมาณสว่ นบคุ คล 5. ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 5.1 ผลลัพธท์ ่คี าดหวัง ดา้ นความรู้ มีแนวทาง และความรคู้ วามเข้าใจในการสอนในศตวรรษท่ี 21 โดยเฉพาะการจดั ทาข้อสอบตามแนว PiSA เพ่ือนามาใช้บรู ณาการในการจัดการเรียนการสอน ในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ดา้ นทักษะ พฒั นาทักษะการใช้สื่อ และการออกแบบทางวทิ ยาศาสตร์
15 ด้านความเปน็ ครู พฒั นาตนเองให้มีความรคู้ วามสามารถ ในระดบั มาตรฐานตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ เป็นพีเ่ ลย้ี ง/ทปี่ รึกษา/แบบอย่าง ในการแสดงถงึ ความรักและศรทั ธาในวิชาชพี ครู ตลอดจนเปน็ ผ้นู าทางวิชาการ ช่วยเหลอื และพัฒนานักเรียน 5.2 ผลการนาไปใช้ในการพัฒนางาน นาไปใช้ในบูรณาการการจัดการเรยี นการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ลงชื่อ............................................................. ( นางเกศรนิ กาชัย ) ผูจ้ ดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ความเหน็ ของผบู้ ังคับบัญชา ............................................................................................... ................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... ลงชื่อ.................................................... (นายเชาวเร กนั อิน) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรียนอนุบาลงาว(ภาณุนยิ ม)
16 ประวตั กิ ารเข้ารบั การพัฒนา ปี พ.ศ. หลกั สูตร รหสั หน่วยงานท่ีจดั ระหว่างวันท่ี จานวน หลกั สูตร (ชัว่ โมง) 2560 กลยทุ ธก์ ารแกป้ ญั หา 60000024 ม.ราชภัฎลาปาง 9-10 ก.ย.2560 12 ทางการศึกษา 2560 การพัฒนาครูสะเต็ม 60991058 สถาบันสง่ เสรมิ การ 1-3 พ.ค.2560 12 ศึกษาด้วยระบบทางไกล สอนวทิ ยาศาสตร์ โครงการบูรณาการสะ และเทคโนโลยี เต็มศึกษา ระดับ ประถมศึกษาเร่ือง เล่น ลอ้ วงกลม 2561 การพฒั นาครูสะเต็ม - สถาบนั สง่ เสรมิ การ 18-20พ.ค.2561 18 ศึกษาดว้ ยระบบทางไกล สอนวิทยาศาสตร์ ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี และเทคโนโลยี 4-6 เร่อื ง เมืองจาลองใน ฝนั 2561 ความคดิ สร้างสรรค์อย่าง 612151026- บ.พฒั นาทุนมนุษย์ 31-1 ก.ค.2561 12 เป็นระบบ 011 เพ่ือสงั คม จากัด 2561 การเรยี นรู้โดยการ 612011040 สาขาวทิ ยาศาสตร์ 14-15 ก.ค.2561 14 ออกแบบ: สะเต็มสาหรบั และเทคโนโลยี ประถมศึกษา วทิ ยาลัยการศกึ ษา ม.พะเยา 2562 อบรมครูด้วยระบบ 84408 สถาบนั สง่ เสรมิ การ 25-27 เมษายน 18 ทางไกลโครงการบูรณา สอนวทิ ยาศาสตร์ 2562 การสะเตม็ ศึกษาระดับ และเทคโนโลยี ประถมศึกษา(ป.4-6) ร่วมกบั สานกั งาน เร่อื งเก็บดาวมาฝากเธอ คณะกรรมการการ ศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน 2562 อบรมออนไลนก์ าร IPST-CS004 สานักงานคณะ 1 พฤษภาคม-30 12 จดั การเรียนรวู้ ทิ ยาการ กรรมการการศึกษา มิถนุ ายน 2563 คานวณสาหรบั ครู ขน้ั พืน้ ฐานและ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-3 สถาบนั ส่งเสรมิ การ สอนวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 2562 อบรมออนไลน์การ IPST-CS003 สานักงานคณะ 1 พฤษภาคม-30 12 จัดการเรยี นร้วู ิทยาการ กรรมการการศึกษา มิถุนายน 2563 ขน้ั พืน้ ฐานรว่ มกบั
17 คานวณสาหรบั ครู สถาบนั ส่งเสริมการ ประถมศึกษาปที ่ี 4-6 สอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
18 สว่ นท่ี 4 ความต้องการในการพฒั นา 1. หลักสตู รใดที่ทา่ นตอ้ งการพฒั นา ลาดบั ที่ รหสั หลกั สูตร ชื่อหลักสตู ร 1 1.หลักสตู รเพม่ิ ศักยภาพครใู ห้มีสมรรถนะของครูยคุ ใหม่สาหรบั การเรียนร้ศู ตวรรษท่ี 21 2.หลักสตู รอบรมครูดว้ ยระบบทางไกลโครงการบูรณาการสะเต็มศึกษาระดบั ประถมศึกษา(ป.1-3) เร่ือง เฮฮาในป่าใหญ่ 3.หลักสตู รอบรมครูด้วยระบบทางไกลโครงการบูรณาการสะเต็มศึกษาระดบั ประถมศกึ ษา(ป.4-6) เร่ือง ท่องไปในระบบสรุ ยิ ะ 2. เพราะเหตุใดทา่ นจึงตอ้ งการเขา้ รบั การพฒั นาในหลกั สตู รนี้ 1. เพราะต้องการไดร้ ับความรู้และความเขา้ ใจแนวทางการจดั การเรยี นรู้ศตวรรษท่ี 21 2. เพราะต้องการนาความรู้ที่ได้จากการอบรมไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และมีการ แบ่งปันความรู้ร่วมกันเพ่ือสร้างสังคมการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยนาไปบูรณาการในรายวิชา วทิ ยาศาสตร์(เพิม่ เติม)STEM 3. ตอ้ งการเรยี นรู้และทาไปบรู ณาการให้นกั เรียนได้ฝกึ ทกั ษะการทางานรว่ มกบั ผู้อืน่ การทางานเป็นทีม ความสามัคคี 3. ท่านคาดหวงั สิง่ ใดจากการเขา้ รับการพฒั นาในหลักสตู รนี้ ได้รบั ความรูใ้ นการจดั การเรียนรู้การจัดการเรยี นร้ศู ตวรรษที่ 21 เพ่ือนาไปบรู ณาการกับรายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ 4. ท่านจะนาความรู้จากหลักสตู รไปพฒั นาการสอนของท่านอย่างไร ขา้ พเจ้าจะมงุ่ เนน้ ในการจดั การเรยี นการสอนเพ่ือใหน้ ักเรียนมีทกั ษะท่ีสาคัญในการดารงชีวิตในศตวรรษ ท่ี 21 อนั ได้แก่ ทักษะพื้นฐานความคดิ เชงิ คานวณ (Computational Thinking) , ทกั ษะพื้นฐานความรดู้ ้าน เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) , ทกั ษะการเรียนรู้และทกั ษะดา้ นนวัตกรรม (Learning and Innovation –The 4 C’s) , ทกั ษะการทามาหาเลยี้ งชีพและการดาเนินชีวิต (Career and Life) และทกั ษะ พนื้ ฐานการรูเ้ ท่าทันสอื่ และขา่ วสาร (Media and information Literacy) ซ่งึ ทกั ษะพ้นื ฐานเหลา่ นี้เปน็ สิง่ สาคญั ท่ีนักเรียนควรได้รับการปลูกฝังเพื่อเปน็ รากฐานของการสร้างนวตั กรรมทางเทคโนโลยเี พม่ิ ศักยภาพและนวตั กรรม ทจ่ี ะนาไปสู่การพฒั นาประเทศ
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: