คมู่ ือฝ่ายบรหิ ารงานบคุ คล ฝ่ายบริหารงานบุคคล โรงเรียนพิมพร์ ัฐประชาสรรค์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรรี ัมย์ สังกดั สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาบุรีรมั ย์ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
ฝา่ ยบรหิ ารงานบคุ คล แนวคิด การบรหิ ารงานบุคคลในสถานศกึ ษา เปน็ ภารกิจสำคัญท่ีม่งุ ส่งเสริมให้สถานศึกษาสามารถปฏิบัตเิ พ่ือ ตอบสนองภารกิจของสถานศึกษา เพื่อดำเนินการดา้ นการบริหารงานบคุ คลใหเ้ กดิ ความคลอ่ งตัว อิสระภายใต้ กฎหมายระเบยี บ เป็นไปตามหลกั ธรรมาภบิ าลข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาได้รบั การพฒั นา เรยี นรู้ ความสามารถ มีขวัญกำลงั ใจ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกยี รติมีความม่ันคงและกา้ วหน้าในวิชาชีพ ซึ่งจะ สง่ ผลต่อการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื ให้การดำเนนิ งานด้านการบริหารงานบุคคลถูกต้อง รวดเร็วไปตามหลักธรรมาภิบาล 2. เพอื่ ส่งเสริมบุคลากรใหม้ ีความรู้ความสามารถและมจี ิตสำนึกในการปฏิบตั ิภารกิจทไ่ี ด้รับผดิ ชอบ ใหเ้ กดิ ผลสำเร็จตามหลกั การบรหิ ารแบบมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ 3. เพื่อสง่ เสรมิ ให้ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาปฏบิ ัติงานเตม็ ตามศักยภาพ โดยยดึ ม่นั ในระเบยี บ วนิ ยั จรรยาบรรณ อย่างมมี าตรฐานแห่งวชิ าชีพ 4. เพ่อื ใหค้ รูและบุคลากรทางการศกึ ษาท่ปี ฏบิ ตั งิ านได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ไดร้ บั การยกย่องเชิดชู เกยี รติ มีความมนั่ คงและความก้าวหน้าในวชิ าชพี ซ่งึ จะสง่ ผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผเู้ รยี นเป็น สำคัญ ตามแนวคดิ และวัตถุประสงค์ของกลุ่มบริหารงานบุคคลจึงแต่งต้ังบคุ ลากรปฏิบตั งิ านตา่ งๆดังน้ี 1. รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานบคุ คล มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั นี้ ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่รี องผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยปฏิบัตงิ านตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ สถานศกึ ษาในการช่วยบริหารกิจกรรมของสถานศึกษา การวางแผนการปฏบิ ตั ิงาน การควบคมุ กำกับ ดูแล เกยี่ วกบั การบริหารงานบุคคลให้บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ตามขอบข่ายงาน/ภาระกิจและท่ไี ด้รบั มอบหมายดังน้ี 1. การวางแผนอตั รากำลงั และกำหนดตำแหน่ง 2. การสรรหาและการบรรจแุ ตง่ ตัง้ 3. การเสริมสรา้ งประสิทธิภาพในการปฏบิ ตั ริ าชการ 4. วนิ ยั และการรักษาวนิ ัย 5. การออกจากราชการ 6. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรในสถานศึกษา ใหม้ ีพฒั นาอย่างต่อเน่ือง 7. ปฏบิ ัติหน้าทอี่ ่ืนตามทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
2. หวั หนา้ ฝ่ายบรหิ ารงานบุคคล มบี ทบาทหนา้ ที่ ดงั น้ี 1. ชว่ ยรองผอู้ ำนวยการกลุ่มฯในการบริหารงาน การควบคุม กำกบั ดแู ล ในกลมุ่ บริหารงานบุคคล 2. ปฏิบัติหนา้ ท่ีแทนในกรณที ีร่ องผูอ้ ำนวยกลมุ่ ฯไม่อยู่หรือปฏิบัตหิ น้าที่ไม่ได้ 3. ปฏบิ ตั หิ น้าทีอ่ นื่ ตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 3. หวั หน้างานบคุ คล มีบทบาทหนา้ ที่ ดังนี้ 1. ชว่ ยหวั หน้ากลมุ่ การบริหารงานบคุ คล ในการบรหิ าร การควบคมุ กำกับ ดูแล ในงานบคุ คล 2. ปฏิบตั ิหนา้ ที่อน่ื ตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 4. การวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหนง่ มีบทบาทหน้าท่ี ดงั นี้ 1. งานวเิ คราะห์และวางแผนอตั รากำลงั 1.1 วเิ คราะหภ์ ารกจิ และประเมนิ สภาพความต้องการกำลังคนกบั ภารกจิ ของโรงเรยี น 1.2 จัดทำแผนอตั รากำลงั ข้าราชการครแู ละบุคลากรของโรงเรยี น โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน 1.3 นำเสนอแผนอตั รากำลงั เพอ่ื ขอความเหน็ ชอบต่อเขตพื้นทก่ี ารศึกษา 1.4 ปฏิบัติงานอืน่ ๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย 2. งานกำหนดตำแหนง่ 2.1 จัดทำภาระงานสำหรับบุคลากรของโรงเรียน 2.2 นำเสนอแผนอัตรากำลังมากำหนดตำแหนง่ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ โรงเรยี นต่อผู้อำนวยการโรงเรียนเพอ่ื นำเสนอเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา 2.3 ปฏบิ ัตงิ านอื่นๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย 5. การสรรหาและบรรจุแตง่ ตั้ง มีบทบาทหนา้ ที่ ดังน้ี 1. การดำเนินการสรรหาและบรรจุแตง่ ตัง้ ให้เปน็ ไปตามขอ้ กำหนด และวิธกี ารของ ก.ค.ศ แลว้ แต่กรณี 2. จดั ทำแบบฟอร์มเกี่ยวกับการสรรหาเพ่ือบรรจุบคุ คลเข้ารับราชการตามท่ีไดร้ ับมอบอำนาจจาก ผู้บังคับบัญชา 3. จัดเตรยี มขอ้ มลู เก่ยี วกับการสรรหาเพื่อบรรจุบคุ คลเข้ารับราชการตามที่ได้รบั มอบหมายจาก ผบู้ งั คับบัญชา 4. ดำเนินการคัดเลอื กบุคคลเพือ่ เขา้ ปฏบิ ัติงานในตำแหน่งท่ีได้รับมอบอำนาจจากผู้บังคับบญั ชา 5. เสนอแนะความเหน็ เก่ยี วกบั การสรรหาต่อผู้อำนวยการโรงเรยี น 6. การจ้างลกู จ้างประจำและลูกจ้างช่ัวคราว 7. กรณีการ จ้างลกู จ้างประจำและลูกจา้ งช่วั คราวโดยใช้เงนิ งบประมาณให้
ดำเนนิ การตามหลัก เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ีกระทรวงการคลังกำหนด หรอื ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารทสี่ ำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานกำหนด 8. กรณกี ารจ้างลูกจา้ งประจำและลกู จา้ งชั่วคราวกรณีอื่นนอกเหนือจากขอ้ 1. สถานศึกษาสามารถดำเนนิ การจา้ งลูกจา้ งประจำและลกู จ้างชัว่ คราวของสถานศึกษาได้ โดยใช้เงินรายไดข้ อง สถานศกึ ษาภายใตห้ ลกั เกณฑ์และวิธีการท่ีสถานศกึ ษากำหนด 9. บรรจแุ ต่งต้ังข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาท่ีรบั ยา้ ยมาจากสถานศึกษาอ่ืนในเขตพนื้ ที่ การศึกษาหรอื เขตพื้นที่การศึกษาอืน่ สำหรับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 10. รายงานการบรรจแุ ต่งต้ังและข้อมลู ประวัตสิ ว่ นตัวไปยังสำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาเพื่อจัดทำ ทะเบยี นประวัติตอ่ ไป 11. ปฏบิ ัติงานอน่ื ๆ ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย 6. การส่งเสริมวิทยฐานะและการเปลีย่ นตำแหนง่ ให้สูงขึ้น มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั น้ี 1. ดำเนินการเก่ยี วกบั การขอมี เลื่อนวทิ ยฐานะ ตามหลักเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กำหนด 2. รวบรวมเอกสาร ระเบียบคำสัง่ หลกั เกณฑ์ ทีเ่ กี่ยวกบั การเลื่อนวทิ ยฐานะเพื่อเป็นเอกสาร ใน การดำเนนิ งาน 3. ดำเนินการทางธรุ การและงานสารบรรณท่เี ก่ยี วกบั การประเมินและเล่อื นวิทยฐานะ 4. รวบรวมขอ้ มลู ของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในโรงเรยี นเพ่ือเปน็ ข้อมูลในการ ดำเนินการเกยี่ วกับวทิ ยฐานะ 5. เสนอความเห็นเกี่ยวกบั การขอมี/เล่อื นวิทยฐานะต่อผอู้ ำนวยการโรงเรียน 6. ปฏบิ ัตงิ านอ่ืนๆ ตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 7. การยา้ ยขา้ ราชการครูและบคุ ลกรทางการศกึ ษา มีบทบาทหน้าท่ี ดงั น้ี 1. จดั ทำแบบฟอร์มเกีย่ วกับการย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. เสนอคำรอ้ งขอยา้ ยของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาต่อ ผูบ้ งั คบั บญั ชาตามลำดบั ขัน้ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน 3. รายงานขอ้ มูลเกย่ี วกับการยา้ ย โอน ต่อหน่วยงานต้นสงั กัด 4. เสนอความเห็นเกย่ี วกับการยา้ ย โอน ต่อผู้อำนวยการโรงเรียน 5. ปฏิบัติงานอ่นื ๆ ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 8. การดำเนนิ การเก่ียวกบั การเลอ่ื นข้นั เงนิ เดือน มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั นี้ 8.1 การเลือ่ นขน้ั กรณีปกติและกรณพี ิเศษ 1. ผู้อำนวยการสถานศึกษาแต่งต้งั คณะกรรมการพิจารณาความดีความชอบของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา 2. คณะกรรมการพจิ ารณาความดคี วามชอบพิจารณาตามกฎ ก.ค.ศ. วา่ ดว้ ยการ
เลอื่ นขนั้ เงินเดือน 3, ผู้อำนวยการสถานศึกษาพจิ ารณาสง่ั เลอื่ นขน้ั เงนิ เดือนข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการ ศกึ ษาในสถานศึกษา กรณีไม่ส่งั เล่ือนขั้นเงนิ เดือนให้แกข่ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตอ้ งชแ้ี จงเหตผุ ลใหข้ ้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาดังกล่าวทราบ กรณีเลื่อนข้ันเงินเดอื นกรณีพเิ ศษ แก่ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ถึงแก่ ความตายอนั เนอื่ งมาจากการปฏบิ ตั ิหนา้ ทีร่ าชการให้ รายงานไปยังสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาเพ่ือดำเนนิ การตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4. รายงานการสั่งเลอื่ นและไมเ่ ล่ือนขนั้ เงินเดอื นของข้าราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศึกษาไปยงั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาเพื่อจัดเก็บข้อมลู ลงในทะเบยี นประวตั ติ ่อไป 8.2 การเลอ่ื นขนั้ เงินเดอื นกรณีไปศึกษาต่อ ฝกึ อบรม ดูงานหรอื ปฏบิ ัติงานวิจัย 1. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลของผ้ไู ปศกึ ษาต่อ ฝึกอบรม ดูงานหรือ ปฏิบัตงิ านวจิ ัย จากสถานศึกษาหรอื สถานฝึกอบรม ฯลฯ 2. ดำเนินการพจิ ารณาตามระเบียบท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 3. สงั่ เล่อื นข้ันเงนิ เดือนสำหรบั ผู้ท่ีปฏบิ ัติตามหลักเกณฑ์ท่ีกำหนด 4. รายงานผลการดำเนินงานไปยังสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา 8.3 การเพ่มิ ค่าจ้างลกู จา้ งประจำและลูกจ้างช่ัวคราว กรณกี ารเพ่มิ ค่าจ้างลกู จ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวโดยใชเ้ งินงบประมาณใหด้ ำเนินการตาม หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารทก่ี ระทรวงการคลังหรือตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐานกำหนด กรณีการเพ่มิ คา่ จ้างลกู จ้างประจำและลูกจ้างช่ัวคราวกรณีอ่ืนนอกเหนือจาก สถานศกึ ษา สามารถดำเนินการจา้ งลูกจ้างช่วั คราวของสถานศึกษาได้ โดยใช้เงินรายไดข้ องสถานศกึ ษา ภายใต้เกณฑ์และ วิธกี ารที่สถานศึกษากำหนด 9. การเสนอขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ มบี ทบาทหนา้ ท่ี ดังนี้ 1. ตรวจสอบผมู้ ีคณุ สมบัติครบถ้วน สมควรไดร้ ับการเสนอขอพระราชทาน เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ 2. ดำเนนิ การในการเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์ และเหรียญจักรพรรดมิ าลาแก่ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกฎหมายกำหนด 3. จัดทะเบียนผไู้ ด้รบั เครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจักรพรรดิมาลา เคร่อื งราชอสิ ริยาภรณด์ ิเรกคุณาภรณ์ และผูค้ ืนเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ 10. งานวนิ ัยและการรกั ษาวินัยขา้ ราการ มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั นี้ 10.1 กรณคี วามผดิ วนิ ยั ไม่รา้ ยแรง 1. ผ้อู ำนวยการสถานศึกษาแตง่ ตัง้ คณะกรรมการ เพอ่ื ดำเนินการสอบสวนให้ได้ความจริง
และความยตุ ิธรรมโดยไมช่ ักช้า เมอื่ มีกรณอี ันมมี ลู ที่ควรกล่าวหาวา่ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษากระทำผดิ วินัยไมร่ า้ ยแรง 2. ผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งยุติเรื่องในกรณีท่คี ณะกรรมการสวบสวนแล้วพบวา่ ไมไ่ ด้ กระทำผิดวินัย หรอื สัง่ ลงโทษภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดือน หรอื ลดข้นั เงินเดือน ตามทคี่ ณะกรรมการสวบสวน แล้วพบว่ามคี วามผิดวินยั ไม่ร้ายแรง 3. รายงานการดำเนนิ งานทางวินัยไมร่ า้ ยแรงไปยังสำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา 10.2 กรณคี วามผิดวนิ ัยร้ายแรง 1. ผู้มอี ำนาจส่ังบรรจุและแต่งตัง้ ตามมาตรา 53 แหง่ กฎหมายระเบยี บข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนอนั มีมูลว่าข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา กระทำผดิ วนิ ยั อย่างร้ายแรง ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารท่ีกำหนดในกฎก.ค.ศ. 2. ผู้มอี ำนาจสั่งบรรจุและแตง่ ต้งั ตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบียบขา้ ราชการครแู ละ บุคลากรทางการศึกษา เสนอผลการพจิ ารณาให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาลงโทษ 3. ผู้มอี ำนาจสั่งบรรจุและแตง่ ต้ังตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบยี บข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ส่ังลงโทษปลดออกหรือไลอ่ อกตามผลการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีการศึกษา 4. รายงานการดำเนนิ งานทางวนิ ยั ไปยังสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา 10.3 การเสรมิ สรา้ งและการปอ้ งกนั การกระทำผิดวนิ ัย 1. ใหผ้ อู้ ำนวยการสถานศึกษาปฏิบัตติ นเป็นแบบอยา่ งทีดตี ่อผ้ใู ต้บงั คับบัญชา 2. ดำเนนิ การให้ความรู้ ฝกึ อบรม การสร้างขวัญและกำลังใจ การจงู ใจ ฯลฯ ในอันทีจ่ ะ เสรมิ สร้างและพฒั นาเจตคติ จติ สำนึก และพฤติกรรมของผู้ใต้บังคบั บญั ชา 3. หม่ันสังเกตตรวจสอบดูแลเอาใจใส่ ปอ้ งกันและขจัดเหตุเพ่ือมใิ หผ้ ู้ใตบ้ งั คบั บัญชา กระทำผดิ วินยั ตามควรแก่กรณี 11. การลาทุกประเภทและการมาสาย มีบทบาทหน้าที่ ดงั น้ี 1. สำรวจการลงเวลาและสรุปการมาปฏบิ ตั ิหนา้ ทีร่ าชการของบุคคลในโรงเรยี นเพื่อนำเสนอตอ่ ผูอ้ ำนวยการทุกวนั 2. ตรวจสอบ ลงทะเบยี นใบลา และนำเสนอใบลาของบุคคลตอ่ ผู้อำนวยการ 3. บนั ทกึ ประวตั ิการลาในบญั ชีการลาทกุ ครัง้ ทมี่ ีการยน่ื ใบลาต่าง ๆ 4. สรปุ การลาของบคุ คลเป็นรายบคุ คลในเดือนมีนาคม และกันยายนของทุกปี 5. สรุปการลาของบุคคลเป็นรายบุคคลทุกปีงบประมาณเพ่ือนำส่งสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มัธยมศึกษาเขตบุรีรัมย์ 6. ลงทะเบยี นบันทึกข้อความขออนญุ าตไปราชการ 8. ปฏบิ ตั ิงานอื่น ๆ ตามทีโ่ รงเรียนมอบหมาย
12. การประเมินผลการปฏิบัติงาน มบี ทบาทหน้าท่ี ดงั น้ี 1. ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร 2. มีเครื่องมือประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของบคุ ลากร 3. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของบุคลากรอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครง้ั 4. วิเคราะหก์ ารประเมินผลการทำงานของบุคลากร 5. นำผลการประเมนิ ไปใช้พัฒนาบุคลากร 13. การส่งเสริม ยกย่องเชดิ ชูเกียรตแิ ละบำรุงขวัญกำลังใจ มบี ทบาทหน้าท่ี ดังน้ี 1. วางแผนการดำเนินงานยกยอ่ งเชดิ ชูและขวญั กำลงั ใจ 2. จดั ทำขอ้ มูลของบุคลากรทั้งหมดของโรงเรียนเพ่อื นำไปใชใ้ นการดำเนินงาน 3. รวบรวมขอ้ มูลท่ีเก่ยี วขอ้ งเพื่อการดำเนินงานยกยอ่ งเชิดชแู ละขวัญกำลังใจ 4. จัดกิจกรรมเกยี่ วกับการยกย่องเชิดชูและขวัญกำลงั ใจ 5. เสนอความเหน็ เก่ียวกับการดำเนินงานยกย่องเชดิ ชแู ละขวัญกำลงั ใจ 6. ส่งเสรมิ และใหค้ วามความร้เู ก่ยี วกับการปฏบิ ัติตนตามระเบียบ ขนบธรรมเนียม วิธปี ฏิบัตแิ ก้ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 7.กำหนดมาตรการในการส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาปฏบิ ัติตนตามแบบ แผนของราชการ 8.จัดกิจกรรมเพื่อยกยอ่ งขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่อุทิศตนในการปฏิบตั งิ านและ เป็นแบบอยา่ งในการปฏบิ ัตงิ าน 9. จัดกจิ กรรมเพื่อยกยอ่ งขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีมีผลงานในการตดิ ตามและ แก้ปญั หานักเรียนจนเป็นที่ประจกั ษ์ 10. เสนอความเหน็ เกยี่ วกบั การดำเนินงานวินยั คุณธรรมจรยิ ธรรมและมาตรฐานวิชาชีพต่อ ผู้อำนวยการโรงเรียน 11. ปฏบิ ัตงิ านอ่นื ๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย 14. งานออกจากราชการ การอทุ ธรณแ์ ละการรอ้ งทุกข์ มบี ทบาทหนา้ ที่ ดงั น้ี 14.1 การลาออกจากราชการ 1. รวบรวมกฎหมาย ระเบยี บ หลกั เกณฑ์และวธิ ีการทเ่ี กยี่ วข้อง 2. ดำเนินงานตามกฎหมาย ระเบยี บ หลกั เกณฑ์และวิธกี ารที่เกีย่ วข้อง 3. ผู้อำนวยการสถานศึกษาพิจารณาอนญุ าตการลาออกจากราชการของครูผูช้ ่วย ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาอ่นื 4. รายงานการอนญุ าตการลาออกไปยงั สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา
14.2 การใหอ้ อกจากราชการ กรณไี มพ่ น้ ทดลองปฏบิ ัติหน้าท่ีราชการหรอื ไมผ่ ่านการเตรียม ความพร้อมและพัฒนาอยา่ เขม้ ตำ่ กว่าเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กำหนด 1. ดำเนินการใหข้ ้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาทดลองปฏิบัติหนา้ ท่ีราชการหรือ เขา้ รบั การพฒั นาอย่าเข้มตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการท่กี ำหนดในกฎ ก.ค.ศ. กำหนด 2. ดำเนินการประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านตามหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบท่กี ำหนดไว้ใน มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง 3. ผู้อำนวยการสถานศึกษาส่ังให้ผทู้ ไี่ มผ่ ่านการประเมินการทดลองปฏบิ ัติราชการหรือ เตรยี มความพรอ้ มและพัฒนาอยา่ งเข้มออกจากราชการ 4. รายงานสำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาทราบ 14.3 การอทุ ธรณ์กรณคี วามผิดวนิ ัย 1. กรณีการอทุ ธรณ์ความผดิ วินัยไมร่ า้ ยแรง ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาย่ืน เรอื่ งขออุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพ้ืนที่การศึกษาภายใน 30 วนั นับแต่วันทีไ่ ด้รบั แจ้งคำส่ังตามหลักเกณฑ์และ วิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 2. กรณีการอุทธรณ์ความผิดวนิ ยั ร้ายแรง ให้ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษายืน่ เรอ่ื งขออุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ.ภายใน 30 วนั นับแต่วันทีไ่ ด้รบั แจง้ คำส่งั ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารที่ ก.ค.ศ. กำหนด 14.4 การร้องทกุ ข์ 1. กรณขี า้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาถูกสง่ั ให้ออกจากราชการให้ร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั ทีไ่ ด้รับแจง้ คำสั่ง 2. กรณขี า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่ไดร้ ับความเป็นธรรมหรือมีความคับขอ้ ง ใจเนอ่ื งมาจากการกระทำของผูบ้ งั คบั บญั ชาหรอื การแต่งต้ังคณะกรรมการสวบสวนทางวินยั ให้รอ้ งทุกข์ต่อ ก.ค.ศ.เขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา หรือ ก.ค.ศ. แล้วแตก่ รณี 15. การจัดทำระบบและการจัดทำทะเบียนประวตั ิ มีบทบาทหนา้ ที่ ดังนี้ 15.1 การแก้ไข วัน เดอื น ปเี กดิ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาและลูกจา้ ง 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและลูกจา้ งประสงค์ขอแก้ไข วัน เดอื น ปีเกิดยื่น คำขอตามแบบท่ีกำหนดโดยแนบเอกสารต่อผู้บังคบั บัญชาข้ันตน้ ประกอบดว้ ยสูตบิ ัตร ทะเบียนราษฎร์ หลักฐานทางการศึกษา 2. ตรวจสอบความถูกต้อง 3. นำเสนอไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพอื่ ขออนมุ ัติการแก้ไขต่อ ก.ค.ศ. 4. ดำเนินการแก้ไขในทะเบียนประวัติ 5. แจง้ หนว่ ยงานทีเกี่ยวข้อง
16. การส่งเสริมมาตรฐานวิชาชพี และจรรยาบรรณวิชาชีพ วินยั คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศกึ ษา มบี ทบาทหน้าท่ี ดงั น้ี 1. ดำเนินการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาให้ประพฤติปฏบิ ตั ิ ตามระเบยี บวินยั มาตรฐาน และจรรยาบรรณของวิชาชีพครูและบุคลากรทางศกึ ษา 2. ควบคุมดูแล และสง่ เสรมิ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มกี าร ประพฤตปิ ฏิบตั ิตาม ระเบยี บวนิ ัย มาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชพี ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา 3. เปน็ ตวั อยา่ งที่ดแี ก่ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศึกษา 4. เสรมิ สร้างและพัฒนาให้ผู้ใตบ้ งั คับบัญชามีวนิ ัยในตนเอง 5. ปอ้ งกนั ไม่ให้ผใู้ ตบ้ งั คับบัญชากระทำผิดวินัย 17. การรเิ ร่ิมส่งเสริมการขอรบั ใบอนญุ าตและการตอ่ ใบอนญุ าตวิชาชีพ มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั นี้ 1. จดั ทำเบยี นข้อมูลเก่ยี วกับการขอ การต่อใบประกอบวชิ าชพี ของขา้ ราชการครแู ละบุคลากร ทางการศึกษาในโรงเรียน 2. จดั ทำแบบฟอร์มเกย่ี วกับการขอ การต่อใบประกอบวิชาชพี ของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา 3. ประสานกับข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเพ่ือการขอ การต่อใบประกอบ วชิ าชีพของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา 4. ประสานกบั หนว่ ยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการการขอ การต่อใบประกอบวิชาชีพของข้าราชการครแู ละ บุคลากรทางการศึกษา 5. เสนอความเห็นเกีย่ วกับการดำเนินการเกีย่ วกบั ใบประกอบวิชาชพี ต่อผู้อานวยการโรงเรียน 18. การพฒั นาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา มีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1. วางแผนการดำเนนิ งานพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาของโรงเรยี น 2. ดำเนินงานธรุ การ สารบรรณเก่ียวกบั การพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน 3. ดำเนนิ การประสานงานกับงานอน่ื ๆ เพื่อใหน้ ักเรียนได้รับประโยชนจ์ ากกระบวนการแนะแนว 4. จัดทำทะเบยี นคุมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 5. สรปุ รายงานผลการพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาต่อผู้อำนวยการโรงเรยี น 6. นำเทคโนโลยสี ารสนเทศมาประยุกตแ์ ละพัฒนางานพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 7. จัดทำขอ้ มูลสารสนเทศท่ีเกยี่ วข้องกับการพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาของโรงเรยี น 8. ศึกษาวเิ คราะห์ ความจำเป็นในการพัฒนาตนเองของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาของโรงเรยี น 9. ประสานกับเขตพนื้ ที่การศึกษาในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 10. ดำเนนิ การเกี่ยวกบั การศกึ ษาตอ่ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 11. ปฏิบัตงิ านอนื่ ๆ ตามที่ได้รบั มอบหมาย
19. งานเลขานุการ/ธุรการ กลุ่มบริหารงานบคุ คล มีบทบาทหน้าท่ี ดงั นี้ 1. ดำเนนิ งานสารบรรณ เอกสาร แบบฟอร์มตา่ งๆของฝ่ายงานไวบ้ ริการครแู ละ 2. บคุ ลากรทางการศึกษา 3. ดำเนนิ งานพัสดุ การเงินของฝ่ายงานตามระเบยี บของทางราชการ 4. ดำเนนิ งานสารสนเทศของกลุ่มงาน 5. เตรียมการประชุม/บนั ทึกการประชมุ และรายงานการประชุมของคณะกรรมการฝา่ ยงาน 6. ประสานงานกบั ฝา่ ยงานอ่ืนๆทง้ั ในและนอกสถานศึกษา เพ่ือให้การดำเนนิ งานฝา่ ย 7. บริหารงานบุคคลเปน็ ไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย 8. ปฏบิ ัตงิ านอนื่ ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย 9. วางแผนประเมินผลการดำเนินงานในกลุ่มบรหิ ารงานบุคคล 10. ดำเนนิ การประเมินผลตามแผน 11. วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการประเมินการดำเนนิ งาน 12. นำผลการวิเคราะห์ไปใชใ้ นการปรับปรงุ พฒั นาการดำเนินงานบคุ คล 20.งานเอกสารอนื่ ๆ 20.1 สมดุ ลงชอื่ ปฏบิ ตั ิราชการ และแบบสรปุ การปฏบิ ตั งิ าน มีบทบาทหน้าท่ี ดังน้ี 1. จดั เตรยี มสมดุ ลงช่อื ปฏิบตั ริ าชการ และแบบสรุปการปฏิบตั งิ าน 2. ตรวจสอบความเรียบรอ้ ยและเสนอต่อผู้อำนวยการทุกวัน 3. สรุปจำนวนข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาในแต่ละวัน 20.2 เวรวนั หยดุ ราชการ และกลางคืน มีบทบาทหนา้ ท่ี ดังน้ี 1. จดั ทำคำสงั่ เวรวนั หยดุ ราชการ และเวรกลางคืน 2. จัดทำสมุดบันทกึ เวรวนั หยุดราชการ และเวรกลางคนื 3. ตรวจสอบความเรยี บร้อยของสมดุ บนั ทึกเวรวนั หยุดราชการ และเวรกลางคืน ตดิ ตามครทู ่ลี ง บันทึกไมเ่ รยี บร้อย 4. เสนอสมดุ บนั ทึกเวรวันหยุดราชการ และเวรกลางคืนต่อผอู้ ำนวยการโรงเรียน 20.3 เวรประจำวัน มบี ทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1. จัดทำคำส่งั เวรประจำวนั 2. จัดทำสมดุ บนั ทึกการยนื เวรประจำวนั 3. ตรวจสอบความเรียบรอ้ ยของสมดุ บันทึกการยนื เวรประจำวัน 4. เสนอสมุดบันทึกการยืนเวรประจำวนั ตอ่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
งานกิจการนกั เรยี น 1. หวั หน้างานกจิ การนักเรยี น มบี ทบาทหนา้ ที่ ดังนี้ 1. ชว่ ยรองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารบคุ คลในการบรหิ ารงาน การควบคมุ กำกบั ดูแล ในงานกิจการนักเรียน 2. ปฏิบตั หิ น้าท่ีแทนในกรณีทรี่ องผู้อำนวยการกลุ่มฯไมอ่ ยหู่ รือปฏบิ ตั ิหน้าท่ีไม่ได้ 3. ปฏบิ ตั ิหน้าทีอ่ ่ืนตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 2. การบริหารและวางแผนงานกจิ การนักเรยี น มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั นี้ 1. รวบรวมข้อมูล และจัดทำระเบียบข้อบังคบั เก่ียวกับกจิ การนักเรยี น เช่น ระเบยี บแนวปฏิบัติทาง ราชการเก่ียวกบั งานกจิ การนักเรียนที่เปน็ ปัจจบุ ัน เอกสารคมู่ ือครู 2. เผยแพร่ระเบียบแนวปฏิบัติให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ และปรับปรุงระเบียบและแนวปฏิบัติให้เป็น ปจั จุบันอยา่ งสม่ำเสมอ 3. จัดทำแผนงานกจิ การนกั เรียน เป็นลายลักษณ์อกั ษร ดำเนินการตามแผนโดยมีผูร้ บั ผดิ ชอบ 4. ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย 3. การสง่ เสรมิ พัฒนาให้นักเรียนมีวนิ ัย คุณธรรม และจริยธรรม มบี ทบาทหน้าที่ ดงั นี้ 1. สร้างขวัญและกำลงั ใจแกน่ กั เรียนท่ีมีความประพฤตดิ แี ละมีความสามารถในดา้ น 2. วชิ าการและกจิ กรรม เกยี รติบัตรยกย่องชมเชยนักเรียนทีท่ ำความดีดา้ นต่าง ๆ 3. จดั คา่ ยคุณธรรมเพ่ือพฒั นาคุณธรรมจริยธรรมนกั เรยี นทุกระดบั ช้นั ปลี ะ1 ครั้ง 4. ปลูกฝงั สรา้ งจติ สำนกึ ดูแล นักเรียน รบั ผิดชอบในหนา้ ท่ีการพัฒนา และดูแลบรเิ วณ 5. โรงเรยี น เร่ืองความสะอาด การพัฒนาสภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน 6. ใหค้ วามร่วมมือในกจิ กรรม/การพัฒนา ของชุมชน เชน่ วันสำคญั ทางศาสนา และวัน 7. สำคญั ของชาติ 8. จัดใหม้ ีกจิ กรรมสง่ เสริม ดา้ นคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม/ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม 9. จดั กจิ กรรมปัจฉิมนิเทศเพ่ือแสดงออกถึงความรกั ความผกู พันระหว่างครูและนักเรยี น 10. และเปน็ การสรา้ งขวญั กำลังใจให้นกั เรียนทสี่ ำเรจ็ การศึกษา 11. การติดตามและประเมนิ ผลการดำเนินงานใหผ้ ู้บังคบั บัญชาทราบ 12. ปฏบิ ัตงิ านอื่นที่ไดร้ บั มอบหมาย 4. การดำเนนิ งานระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น มีบทบาทหนา้ ท่ี ดังน้ี 1. ปฏิบัตงิ านในฐานะบคุ ลากรหลัก ในการดำเนินงานระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 2. ประสานงานระหว่างคณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการดำเนนิ งาน และหนว่ ยงานอ่ืนๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง
3. จดั ทำเอกสาร เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการดำเนนิ งาน และรับผิดชอบจดั ประชมุ ชี้แจง 4. การปฏิบัติตามแผน โดยครทู ่ปี รึกษา 1) ทำความรูจ้ ักนักเรยี นเป็นรายบคุ คล โดยจัดทำระเบยี นสะสม เปน็ หลกั ฐานแสดงขอ้ มลู พฒั นาดา้ นตา่ งๆ ของนกั เรียน และ ประเมินพฤติกรรมนักเรียน (SDQ),ออกเยี่ยมบ้านนักเรียน,บันทกึ ขอ้ มลู สุขภาพนักเรยี นและสงั เกตพฤตกิ รรมอ่นื ๆ 2) คัดกรองนักเรียน โดยแบง่ นกั เรยี นเป็นสามกลุ่ม คือ กลุม่ ปกติ กลมุ่ เสี่ยง และกลุ่มมี ปญั หา 3) สง่ เสรมิ นกั เรียน โดยการจัดกจิ กรรมโฮมรูม การประชุมผ้ปู กครองระดับชนั้ 4) ป้องกนั และและแกไ้ ขปญั หานักเรียน โดยการให้คำปรกึ ษาเบอื้ งต้นและจัดกิจกรรมเพ่ือ ป้องกนั และแก้ไขปัญหา 5) การสง่ ต่อครูแนะแนว 5. จดั ประชุมปรึกษาหารือคณะกรรมการในการดแู ลช่วยเหลือนักเรียนรว่ มกัน อยา่ งนอ้ ย เดอื นละ 2 คร้ัง 6. รายงานสรุปผลการดำเนนิ งานตอ่ คณะกรรมการอำนวยการ 5. การดำเนนิ การคณะกรรมการสภานกั เรยี น/การส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในและนอกโรงเรียน มบี ทบาทหนา้ ท่ี ดังน้ี 1. จดั ทำเอกสารชีแ้ จง เผยแพรห่ ลกั การของประชาธิปไตยโรงเรยี น 2. จัดให้มีหลักฐานการจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธปิ ไตย 3. ประสานกับครูของโรงเรียน/ฝา่ ยตา่ งๆเพ่ือจัดกจิ กรรมคณะกรรมการนักเรยี น ให้สอดคลอ้ งกับ นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน 4. สนับสนนุ สง่ เสรมิ ใหม้ บี รรยากาศของประชาธิปไตยในโรงเรียนอยา่ งเดน่ ชดั 5. จดั ใหม้ กี ารเลือกต้งั คณะกรรมการนกั เรียนปลี ะ 1 ครัง้ 6. รว่ มกับคณะกรรมการสภานักเรยี นเปน็ ที่ปรึกษาในการประชมุ ตลอดท้ังวางแผนงาน/โครงการ 7. สำหรบั ปฏบิ ัติงานของคณะกรรมการสภานกั เรยี น 8. ประสานกบั นักเรยี นในการทำความเขา้ ใจในกิจการของโรงเรียน เพ่อื ความสามคั คี 9. การเคารพนอบน้อมของนกั เรียนต่อครู 10. สง่ เสริมให้คำปรกึ ษา แนะนำ เกี่ยวกับการทำกจิ กรรมขอคณะกรรมการนักเรยี นให้อยูใ่ น 11. ขอบข่ายที่เหมาะสมและไม่ขัดต่อระเบยี บของโรงเรยี น 12. จัดทำค่มู ือคณะกรรมการสภานกั เรยี นส่งเสริมใหน้ ักเรยี นจดั กจิ กรรมและเข้าร่วมกิจกรรมใน 13. วนั สำคญั ของชาติ/ศาสนา/พระมหากษัตริย์และความเปน็ ไทยเพ่ือแสดงออกในดา้ น ประชาธิปไตยใหโ้ อกาสครู นักเรียน แสดงความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะต่อโรงเรียน 14. ตดิ ตามประเมนิ ผลและรายงานผลให้ผู้บริหารทราบ 15. ปฏิบตั งิ านอน่ื ท่ีได้รบั มอบหมาย
6. การปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ในและนอกสถานศึกษา มีบทบาทหน้าท่ี ดังน้ี 1. จัดทำสถิตขิ ้อมลู นักเรยี นทมี่ ีพฤตกิ รรมเกี่ยวขอ้ งกบั สารเสพตดิ ชนดิ ต่างๆ 2. ประสานงานกบั ครูประจำช้นั และผู้ปกครองนักเรยี นกล่มุ เสี่ยง 3. การวางแผน สร้างเครือข่ายเฝ้าระวงั 4. การตรวจค้นหาสารเสพตดิ และสงิ่ ผดิ กฎหมาย 5. การสมุ่ ตรวจปสั สาวะนกั เรยี นกลมุ่ เส่ยี ง 6. ร่วมมือกบั ชมุ ชนในการรณรงคต์ อ่ ต้านยาเสพติดและโรคเอดส์ 7. ดำเนนิ การอบรมนกั เรยี นกลุ่มเสยี่ ง 8. จดั ใหม้ กี จิ กรรมสง่ เสริมเวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์เช่น กิจกรรมลานกฬี าต้านยาเสพติด 9. การให้คำปรึกษาเปน็ รายบุคคล 10. การรายงานข้อมลู ยาเสพติดให้หนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง 11. การติดตามประเมนิ ผลและรายงานใหผ้ บู้ งั คับบัญชาทราบ 12. ปฏบิ ัติงานอื่นที่ไดร้ ับมอบหมาย 13. จดั ทำขอ้ มลู สถติ ินักเรยี นกลุ่มมีพฤตกิ รรมเส่ียงต่อการตดิ เช้ือเอดส์ 14. ประสานงานกับครทู ่ปี รกึ ษาและผ้ปู กครองนักเรียนกลมุ่ เสี่ยง 15. เฝ้าระวังการระบาดของสถานการณ์เอดส์ 16. รว่ มมือกบั ชมุ ชนในการรณรงค์ตอ่ ตา้ นโรคเอดส์ 17. จดั กิจกรรมรณรงคใ์ ห้ความรู้แก่นกั เรยี นในการป้องกนั โรคเอดส์ 18. การใหค้ ำปรึกษานักเรยี นเป็นรายบคุ คล 19. ตดิ ตอ่ และประสานงานกับหนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้อง 20. การติดตามและประเมนิ ผลการดำเนนิ งานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ 7. การเวรยามรักษาความปลอดภัย มีบทบาทหนา้ ท่ี ดังนี้ 1. เสนอคำสงั่ การเวรยาม สมดุ บนั ทึกเวรยามต่อหัวหน้าสถานศึกษา 2. ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า ถงั ดบั เพลิง ประตู หนา้ ต่าง ใหอ้ ยใู่ นสภาพที่ใช้การได้ 8. การส่งเสริมความปลอดภัยและวนิ ยั จราจร ได้แก่ นายนิธิพร พะเนาวศ์ รี ครู 9. งานวินยั และความประพฤตินกั เรียน มีบทบาทหนา้ ท่ี ดังน้ี 1. ขอ้ มลู นักเรียนที่มีความประพฤติไมเ่ หมาะสม 2. จัดให้มกี ารกำหนดวธิ กี ารแก้ไขพฤตกิ รรมท่ีไม่เหมาะสมของนักเรียน 3. จดั ทำหลกั ฐานการแกไ้ ขพฤติกรรมตามวิธีการท่กี ำหนด 4. ตดิ ตามเรง่ รัดการมาโรงเรยี น การเขา้ ห้องเรยี น ของนกั เรียน 5. ควบคมุ กำกับดูแล เอาใจใส่ แกไ้ ข นกั เรียนที่มคี วามประพฤติไม่เหมาะสม
6. ประสานงานกับฝ่ายแนะแนวของโรงเรียนรว่ มแก้ไขนกั เรียนที่มคี วามประพฤติไม่ เหมาะสมของนักเรยี น 7. ประสานกบั ผปู้ กครอง ครปู ระจำชัน้ เพื่อร่วมแกไ้ ขพฤตกิ รรมนกั เรียนท่มี ีพฤติกรรมท่ีไม่ เหมาะสม 8. จัดทำเอกสารเพ่ือคัดกรองนักเรียน 9. การตดิ ตามประเมินผลและรายงานใหผ้ ูบ้ งั คับบัญชาทราบ 10. ปฏิบัตงิ านอืน่ ที่ไดร้ ับมอบหมาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: