แผนการสอนเศรษฐกินพอเพียง หน่วยที่ 1 วิชาการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์

แผนการจัดการเรียนรู้ บรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รายวิชาการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ปี การศึกษา 2565 เรื่องการโปรแกรมเบ้อื งต้น นางสาวอุไรวรรณ โสภา ตาแหน่งพนักงานราชการ โรงเรียนพระแสงวิทยา อาเภอพระแสง จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาสรุ าษฎรธ์ านี ชมุ พร สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ



หน่วยการเรยี นรูแ้ ละแผนการจดั การเรียนรู้ แบบบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่อื บ่มเพาะอุปนิสยั อยูอ่ ยา่ งพอเพียง ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 รายวชิ า การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ เรอ่ื ง การโปรแกรมเบอ้ื งต้น จำนวน 8 ช่วั โมง แผนจัดการเรยี นรู้ 2 แผน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 หลักการเขยี นโปรแกรมเบอื้ งต้น จำนวน 4 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 องค์ประกอบของภาษา จำนวน 4 ชั่วโมง . โรงเรยี นพระแสงวทิ ยา สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสุราษฎรธ์ านี ชุมพร สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร



หนว่ ยการเรยี นรู้

แผน่ ที่ 1 ผงั โครงสร้างหน่วยการเรยี นรเู้ พอื่ เสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอยูอ่ ย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชื่อหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การโปรแกรมเบ้ืองตน้ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 8 ช่ัวโมง แผนท่ี 1 ( 4 ชั่วโมง) แผนที่ 2 ( 4 ช่ัวโมง) เร่ือง หลักการเขยี นโปรแกรมเบื้องตน้ เรือ่ ง องค์ประกอบของภาษา ผลการเรยี นรู้ อธิบายหลักการเขียนโปรแกรม ผลการเรยี นรู้ อธิบายองค์ประกอบของภาษา ตวั เบ้อื งต้นได้ แปร ชนดิ ของข้อมูล นิพจน์ ตัวดำเนินการได้ สาระการเรยี นรู้ หลกั การในการเขยี นโปรแกรม สาระการเรยี นรู้ องคป์ ระกอบของภาษา ความเป็นมาของภาษา ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ การโปรแกรมเบือ้ งต้น ( 2 แผน 8 ชัว่ โมง) สาระสำคัญ หลักการในการเขียน โปรแกรม ความเป็นมาของภาษา . หลกั การเขยี นผงั งาน . สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ช้ินงาน . 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. ใฝเ่ รียนรู้ - นักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 1.1 เรอื่ ง หลักการเขยี น 2. ความสามารถในการคิด 2. มุ่งมนั ในการทำงาน โปรแกรมเบอ้ื งตน้ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3. อยอู่ ยา่ งพอเพียง - นกั เรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 2.1 เรอื่ ง องค์ประกอบ ของภาษา - นักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 2.2 เรอ่ื ง ตวั แปรและชนิด ของขอ้ มลู - นกั เรยี นทำใบกิจกรรมท่ี 2.3 เรอ่ื ง นพิ จน์และตวั ดำเนนิ การ

แผ่นที่ 2 ผงั ภาพการออกแบบการเรียนรูแ้ บบยอ้ นกลบั (Backward Design) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ การโปรแกรมเบ้ืองต้น ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 8 ช่วั โมง 1. เป้าหมายการเรยี นรู้ 2. หลักฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน : นักเรยี นทำใบกจิ กรรม 1. อธบิ ายหลกั การเขยี นโปรแกรมเบือ้ งตน้ ได้ 1.1 เรอ่ื ง หลักการเขียนโปรแกรมเบ้อื งตน้ 2. อธิบายองคป์ ระกอบของภาษา ตัวแปร ชนดิ ของข้อมูล 2.1 เร่อื ง องคป์ ระกอบของภาษา นพิ จน์ ตวั ดำเนนิ การได้ 2.2 เรื่อง ตัวแปรและชนดิ ของขอ้ มูล สาระสำคัญ 2.3 เร่ือง นพิ จน์และตัวดำเนนิ การ การวัดประเมินผล : หลักการในการเขยี นโปรแกรม ความเป็นมาของภาษา และหลกั การเขยี นผังงาน ประเด็น วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑป์ ระเมิน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ น K ทดสอบ แบบทดสอบ รอ้ ยละ 100 1. (K) อธบิ ายองค์ประกอบของภาษา ตัวแปร ชนดิ ของ ด้าน P สงั เกตจากการ แบบประเมินดา้ น ระดับคณุ ภาพพอใช้ ขอ้ มลู นิพจน์ ตวั ดำเนินการได้ ทกั ษะ/กระบวนการ ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์ รว่ มกจิ กรรม แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพพอใช้ 2. (P) เขียนองค์ประกอบของภาษา ตวั แปร ชนิดของ ด้าน A สงั เกต คุณลกั ษณะ ขน้ึ ไป ผา่ นเกณฑ์ ข้อมลู นพิ จน์ ตัวดำเนนิ การได้ อนั พึงประสงค์ พฤตกิ รรม 3. (A) ใฝ่เรยี นรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ สาระการเรยี นรู้ การโปรแกรมเบ้อื งต้น การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ี 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เงื่อนไขและ ทรัพยากร การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ กจิ กรรรมการเรยี นรู้ : แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es หลากหลายวิธี การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการ ทำงานก่อนดำเนินการแกป้ ัญหาจะชว่ ยให้การทำงานสำเรจ็ ได้ สอ่ื เรยี นร้/ู แหล่งเรียนรู้ : ตามเป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการทำงานที่อาจ 1) หอ้ งเรียน เกดิ ขนึ้ 2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - บทเรยี นออนไลน์ http://kruwansp.blogspot.com/ 2. ความสามารถในการคดิ - https://www.youtube.com/watch?v=4aNSfDwdN8c 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - https://youtu.be/6qyQDh3IBiI?t=77 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - https://www.youtube.com/watch?v=4aNSfDwdN8c 1. ใฝเ่ รยี นรู้ : มีความตงั้ ใจศกึ ษาเล่าเรยี น - https://www.youtube.com/watch?v=Rk2-4Uh1X8A 2. อยู่อย่างพอเพยี ง : คิดและตดั สนิ ใจในการปฏิบตั ติ นอย่าง เวลา : 8 ชวั่ โมง เหมาะสมตามอตั ภาพของตน 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน : มคี วามต้ังใจในการทำงาน

แผ่นท่ี 3 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่อื เสริมสร้างคณุ ลักษณะอย่อู ยา่ งพอเพียง แผนการเรียนรู้แบบบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (แผนหน่วย) สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ ง การโปรแกรมเบอ้ื งต้น ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 8 ช่วั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………… กิจกรรมการเรียนรู้ (สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ข้ันท่ี 1. กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ผู้สอนให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน (บนระบบ Google Class Room) เพ่อื วดั ความรูเ้ ดิมของ นกั เรียนก่อนเข้าสูก่ ิจกรรม 2. ผสู้ อนถามนกั เรียนวา่ คำถาม Q1.1 นักเรยี นคิดวา่ นกั เขียนโปรแกรมควรมีความรเู้ กย่ี วกับเรื่องใด Q1.2 นักเรยี นรจู้ ักองค์ประกอบของภาษาใดบ้าง Q1.3 นักเรียนคดิ ว่าตัวแปรมีผลต่อการเขียนโปรแกรมอยา่ งไร Q1.4 ตวั ดำเนนิ การเลขคณิตท่นี ักเรยี นท่รี จู้ กั มีอะไรบ้าง 3. ผสู้ อนเปดิ สอ่ื การสอนให้นักเรยี นดูเพ่ือกระตุน้ ให้นักเรยี นเกิดความสนใจในบทเรยี น และไดร้ บั ความรู้ เบอื้ งต้นกอ่ นการลงมือฝึกปฏิบัติจริง ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. ผู้สอนถามคำถามวา่ Q2.1 นักเรยี นเชอื่ ว่านกั เขียนโปรแกรมควรมีความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียน โปรแกรมเบื้องตน้ มากนอ้ ยเพียงใด 2. ผ้สู อนใหน้ ักเรียนสืบค้นข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ เชน่ บทเรียนออนไลน์ อนิ เทอร์เนต็ 3. ผู้สอนสุ่มตัวแทนนกั เรยี นนำเสนอผลจากการสืบค้นข้อมูลหนา้ ช้นั เรยี น 4. ผูส้ อนถามคำถามวา่ Q2.2 นกั เรยี นเชื่อวา่ นกั เขียนโปรแกรมควรมีความร้เู ก่ียวกบั ระดับของภาษา องค์ประกอบของภาษามากน้อยเพียงใด Q2.3 นกั เรียนคดิ วา่ ทำไมต้องมีระดับของภาษาในการเขียน โปรแกรม 5. ผสู้ อนใหน้ กั เรียนสบื ค้นข้อมูล จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ เชน่ บทเรียนออนไลน์ อินเทอรเ์ นต็ 6. ผสู้ อนให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล เร่อื งตัวแปรและตัวดำเนินการ จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น บทเรียน ออนไลน์ อินเทอรเ์ นต็ 7. ผ้สู อนถามคำถามว่า Q2.4 ในการตงั้ ชอื่ ตัวแปรนักเขยี นโปรแกรมจะต้องต้ังช่ือใหก้ ับตวั แปร ค่าคงท่ี โปรแกรมย่อย พารามิเตอร์ และสว่ นตา่ งๆ ของโปรแกรมอย่างไร 8. ผสู้ อนสมุ่ ตวั แทนนกั เรียนนำเสนอผลจากการสบื ค้นขอ้ มูลหนา้ ชั้นเรียน 9. ผสู้ อนถามคำถามว่า Q2.5 นักเรยี นทราบตัวดำเนนิ การในการเขยี นโปรแกรมมีมากกวา่ 1 ประเภท Q2.6 นกั เรียนคดิ ว่าทำไมต้องมีดำเนินการในการเขยี นโปรแกรม 10. ผู้สอนให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล เรื่องตัวแปรและตัวดำเนินการ จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น บทเรียนออนไลน์ อินเทอรเ์ น็ต

ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. ผสู้ อนเปิดสอื่ การสอนเกยี่ วกบั เร่ืองการโปรแกรมเบ้ืองต้น ระดบั ภาษา ตัวแปรและตัวดำเนนิ การพร้อม อธิบายเพม่ิ เตมิ และเปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามในส่วนที่มขี ้อสงสยั 2. ผู้สอนเปดิ ส่อื การสอนเกี่ยวกับเร่ือง พร้อมอธิบายเพ่ิมเติมและเปิดโอกาสให้นักเรยี นสอบถามในส่วนทมี่ ี ข้อสงสัย ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ผสู้ อนให้นักเรียนตอบคำถาม 2. ผสู้ อนใหน้ กั เรียนทำใบกิจกรรมท่ี 1.1 สง่ ในคาบเรียน 3. ผสู้ อนถามคำถามวา่ Q3. ถ้านักเรียนต้องการเขยี นโปรแกรม นักเรยี นต้องใช้ระดับของภาษาใด 4. ผสู้ อนให้นักเรียนตอบคำถาม 5. ผสู้ อนใหน้ ักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 2.1 , 2.2 ส่งในคาบเรียน 6. ผู้สอนใหน้ ักเรยี นตอบคำถาม 7. ผสู้ อนถามคำถามวา่ Q4. ถา้ นักเรียนต้องการเขียนโปรแกรม นักเรยี นต้องทำความเข้าใจตัวแปรและ ตวั ดำเนินการมากนอ้ ยเพียงใด 8. ผู้สอนให้นกั เรยี นตอบคำถาม Q4 ทำใบกจิ กรรมท่ี 2.3 ส่งในคาบเรียน และทำแบบทดสอบท้าย บทเรยี นเพื่อวัดผลหลงั เรยี น ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ผู้สอนตรวจสอบผลจากการทำใบกจิ กรรมท่ี 1.1 , 2.1 , 2.2 , 2.3 2. ผสู้ อนประเมนิ ผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นและการตอบคำถาม 3. ผูส้ อนตรวจสอบผลจากการทำแบบทดสอบทา้ ยบท

แผ่นท่ี 4 ชดุ คำถามกระตนุ้ เพ่อื ปลกู ฝงั หลักคดิ พอเพียง สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ เร่อื ง การโปรแกรมเบื้องตน้ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 8 ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (แผนหนว่ ย) คำถามกระตนุ้ คิดเพื่อปลกู ฝังหลกั คดิ พอเพียงก่อนเรยี น Q1.1 นักเรยี นคดิ วา่ นกั เขยี นโปรแกรมควรมีความรูเ้ ก่ียวกับเร่อื งใด Q1.2 นักเรยี นร้จู ักองคป์ ระกอบของภาษาใดบ้าง Q1.3 นกั เรยี นคดิ วา่ ตัวแปรมีผลต่อการเขียนโปรแกรมอย่างไร Q1.4 ตวั ดำเนินการเลขคณติ ท่ีนักเรียนทีร่ ู้จกั มอี ะไรบา้ ง คำถามกระตุ้นคิดเพอ่ื ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพียงระหวา่ งเรียน Q2.1 นักเรยี นเช่อื วา่ นักเขยี นโปรแกรมควรมีความรู้เก่ียวกบั หลกั การเขียนโปรแกรมเบ้ืองตน้ มากน้อย เพยี งใด Q2.2 นักเรยี นเชอื่ วา่ นักเขยี นโปรแกรมควรมีความร้เู กยี่ วกบั ระดบั ของภาษา องค์ประกอบของภาษามาก น้อยเพียงใด Q2.3 นักเรยี นคิดว่าทำไมต้องมรี ะดบั ของภาษาในการเขยี นโปรแกรม Q2.4 ในการตั้งชื่อตวั แปรนักเขียนโปรแกรมจะต้องต้ังชอ่ื ให้กบั ตัวแปร คา่ คงท่ี โปรแกรมยอ่ ย พารามิเตอร์ และสว่ นตา่ งๆ ของโปรแกรมอย่างไร Q2.5 นกั เรียนทราบตัวดำเนินการในการเขียนโปรแกรมมีมากกวา่ 1 ประเภท Q2.6 นกั เรียนคิดวา่ ทำไมต้องมีดำเนินการในการเขยี นโปรแกรม คำถามกระตนุ้ คดิ เพอื่ ปลกู ฝังหลักคดิ พอเพียงหลังเรียน Q3. ถ้านักเรยี นต้องการเขียนโปรแกรม นกั เรียนต้องใชร้ ะดับของภาษาใด Q4. ถา้ นกั เรยี นต้องการเขยี นโปรแกรม นกั เรียนต้องทำความเขา้ ใจตวั แปรและตวั ดำเนนิ การมากน้อย เพยี งใด

แผ่นท่ี 5 แนวทางทคี่ รนู ำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชจ้ ัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ การโปรแกรมเบือ้ งตน้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 8 ช่ัวโมง ครผู สู้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาจัดกิจกรรมการเรยี นรดู้ ังนี้ ความรูท้ ีค่ รูตอ้ งมกี ่อนสอน คุณธรรมของครใู นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. หลกั สูตรมาตรฐานตวั ชีว้ ัดและสาระแกนกลางตาม หลักสตู รปี 2551 1. มคี วามใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน ขยันอดทน เสียสละ 2. เร่ืองเทคนคิ กระบวนการเรียนการสอน 2. รักและเมตตาต่อศษิ ย์ 3. มคี วามรู้และมีทักษะในการใช้ สอื่ และอุปกรณ์ 3. รับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา 4. มคี วามรเู้ รอื่ งการวัดและประเมินผลใหส้ อดคล้องกับกจิ กรรมและวตั ถุประสงคข์ องหลักสตู ร 4. ยืดหยุ่นมีความเป็นกัลยาณมติ ร 5. ความรใู้ นเรอ่ื งการโปรแกรมเบอื้ งตน้ อย่างชดั เจน 5. มวี นิ ยั ในตนเองปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอย่างทีด่ ี ประเด็น มีเหตผุ ล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกนั ในตัวท่ีดี วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานและตัวชี้วัด เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นไดเ้ รียนรอู้ ยา่ งเข้าใจ ศึกษาหลักสูตรมาตรฐานตัวชี้วัด จัดเรียงลา เนื้อหา และจัดเนื้อหาสาระให้เหมาะสมกับ บริบท ตามลำดับง่ายไปหายากบรรลุผลการ ดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก เนื้อหาที่เป็น ของ เวลาและวัยของผเู้ รียน เรยี นรู้ทกี่ ำหนดไว้ในหลกั สตู ร เร่อื งใกล้ตวั ไปถึงเรื่องไกลตวั ศ ึ กษา โ ค ร งส ร ้ า ง เ วล า ใ นห ล ั ก ส ู ต ร กำหนดเวลาเพือ่ ใหผ้ ู้เรยี น ได้ปฏบิ ตั ิ วางแผนการใช้เวลาในการทำงานได้ เวลา กำหนดเวลาเหมาะสมกับกิจกรรม เนื้อหา กจิ กรรมไดเ้ ต็มตามศักยภาพผเู้ รยี น เหมาะสมกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ วยั ของผูเ้ รยี น เกดิ การเรยี นรู้อย่างมปี ระสิทธิภาพ กิจกรรมให้ชัดเจนตาม เวลาที่มี และเผ่ือ บรรลตุ ามผลการเรยี นรู้ เวลาไว้ รองรับเหตุการณ์ทอ่ี าจ เปลย่ี นแปลง ในขณะทำกิจกรรม - แบ่งกลุ่มนักเรียนให้พอดีกับเนื้อหา - เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีทักษะในการเข้า ครูชี้แจงขั้นตอนการทากิจกรรมกลุ่มและให้ การจัด กิจกรรม และจานวน สังคมช่วยเหลือซึง่ กัน คาแนะนำ/ปรึกษาอย่างใกล้ชิดในขณะที่ กิจกรรม - กำหนดกิจกรรม ภาระงานการให้ - เพื่อฝึกทักษะการส่อื สาร การคิด นักเรยี นปฏบิ ตั ิการกลุ่ม เหมาะสมกบั เนอื้ หาในเวลาที่กำหนด วเิ คราะห์ การแก้ปญั หาและการ ทำงานรว่ มกนั มีวนิ ัยมีความ รบั ผดิ ชอบ -การเลอื กใช้สื่อ วัสดุ อุปกรณ/์ ในการเรยี น เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจและ -จัดเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ให้สัมพันธ์กับ ส่อื / การสอน เหมาะสมกบั เน้ือหา กจิ กรรม วัย ปฏิบตั ิกจิ กรรมไดบ้ รรลุผลการเรยี นรู้ การจดั กจิ กรรม อปุ กรณ์ ผู้เรยี นและมีจานวนเพยี งพอกบั ผเู้ รยี น -เพอื่ ให้ผเู้ รียนไดฝ้ ึกทกั ษะการคดิ -ตรวจสอบสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ให้สภาพพร้อม -กำหนดชิ้นงานและภาระงานให้เหมาะสม วเิ คราะห์และการแก้ปัญหาได้ ใช้งานได้และมีสำรองไว้ ในกรณีที่สื่อชำรุด กับเน้อื หา เวลาและระดบั ช้ันของนักเรยี น ใชก้ ารไมไ่ ด้ -การเลือกใช้ แหล่งเรียนรู้ในการเรียนการ - เพือ่ ให้ผเู้ รียนไดเ้ รยี นรตู้ ามสภาพจริง จัดเตรียมแหล่งเรียนรู้สารองไว้ในกรณีท่ี แหล่ง สอน เหมาะสมกับ เนื้อหา กิจกรรม และผู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้บรรลุตามผล แหลง่ เรียนรนู้ ้นั มีปญั หา เรียนรู้ งบประมาณ เวลาในการทำกิจกรรม และ การเรียนรู้ วยั ของผเู้ รยี น -ออกแบบวิธีการวัด ประเมินผลให้ตรงตาม -เพื่อวัด/ประเมินให้ตรงตามผลการ -วางแผนการวัด/ประเมินผลให้เป็นขั้นตอน ประเมนิ ผล ผลการเรยี นรู้ เรียนรู้ ชดั เจน -การประเมนิ ผลเหมาะสมกับธรรมชาติวิชา -วัด/ประเมินผลได้ชัดเจนผู้เรียนได้ -แบบประเมิน ข้อสอบ มีการตรวจสอบ กิจกรรม เนื้อหา วัยของผู้เรียนและเวลา ท่ี แสดงความ สามารถเต็มตามศักยภาพ ปรับปรงุ แก้ไขให้มีความเชอื่ มัน่ และเที่ยงตรง กำหนด ในการวดั ตามตัวชี้วดั -มเี ครอื่ งมือวดั ผลเพยี งพอกับจำนวนผู้เรียน

แผน่ ท่ี 6 ผลท่จี ะเกิดขน้ึ กับผู้เรยี นจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ การโปรแกรมเบือ้ งตน้ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 8 ชั่วโมง 6.1 ผเู้ รยี นจะไดฝ้ ึกคดิ และฝึกปฏิบัติตามหลัก ปศพพ. ดงั นี้ ความรูท้ ่ีนักเรยี นต้องมกี อ่ น คุณธรรมของนักเรยี นทจ่ี ะทำให้การเรียนรู้สำเรจ็ 1. การแบง่ ปนั ขอ้ มลู 1. มีวินยั 2. ความรับผดิ ชอบ 3. ตรงตอ่ เวลา 2. การวางแผนการทำงาน และทกั ษะการทำงานรว่ มกบั ผ้อู ื่น มีเหตผุ ล พอประมาณ มีภูมคิ มุ้ กันในตวั ท่ีดี 1. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นรู้จักใชเ้ หตผุ ลในการอภปิ ราย 1. นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมไดเ้ หมาะสมกบั 1. วางแผนการทำงานร่วมกนั ร่วมกับบุคคลอ่ืน ๆ ทำใหก้ ารจัดกจิ กรรม เวลาท่กี ำหนด 2. เตรียมวสั ดุ อุปกรณใ์ นการเรียนได้ครบ การเรยี นการสอนสำเรจ็ ลลุ ่วง 2. นักเรียนมีความรเู้ ก่ียวกบั การปฏบิ ัตติ น 2. นักเรยี นเกิดทักษะการทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน ในหอ้ งปฏิบัตกิ ารเคมี 6.2 ผูเ้ รียนจะไดเ้ รียนรกู้ ารใชช้ วี ิตท่ีสมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 4 มิตติ ามหลัก ปศพพ. ดังน้ี ดา้ น สมดุลและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ องค์ประกอบ วตั ถุ/เศรษฐกจิ สงั คม ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม มีความรู้ในการแบ่งปันข้อมลู การ 1. มคี วามรู้ในการปฏบิ ัติตนใน มีความรเู้ ก่ยี วกับการดูแล รู้มารยาทในการพูด K ความรู้ ใช้ คอมพิวเตอร์หรือ หนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย รกั ษาความสะอาดของ สนทนา ตาม โทรศพั ท์มือถอื สบื ค้นขอ้ มลู อยา่ ง 2. มีความรเู้ กยี่ วกบั การอยู่ใน สถานท่ีปฏบิ ัติกจิ กรรม ขนบธรรมเนยี ม คมุ้ ค่า สังคมรว่ มกันตามหลกั พอเพียง วัฒนธรรมไทย มีทักษะในการนำวสั ดุ อุปกรณ์ ทำงานรว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมี รู้จกั เลอื กวสั ดุอปุ กรณ์ให้ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผมู้ ี P ทักษะ หนงั สอื มาปฏบิ ตั กิ จิ กรรมท่ี ความสขุ เหมาะสม และไมท่ ำลาย มนุษยส์ ัมพันธ์อันดี มอบหมายไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง สงิ่ แวดลอ้ ม กับบคุ คลอนื่ ๆ ตระหนกั และเห็นคณุ ค่าของวสั ดุ ตระหนักและเห็นคณุ คา่ ของความ มีจติ สานึกในการดแู ลรักษา เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิ A ค่านิยม อุปกรณ์ หนงั สอื และแหลง่ สามัคคี ช่วยเหลอื เกื้อกูลในการ สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน ตนเป็นผมู้ มี ารยาท เรียนรู้ ทำงานใหเ้ กดิ ความสำเรจ็ และสง่ิ แวดล้อม ไทยอนั ดีงาม 1. การสือ่ สารและนำเสนอ 1. เกิดทกั ษะการทำงานรว่ มกบั มที ักษะในการดูแลรกั ษา ปฏบิ ตั ิตนเป็น C สมรรถนะ 2. การคดิ วเิ คราะห์ ผ้อู ่นื สงิ่ แวดลอ้ ม แบบอย่างท่ดี ี 3. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. ใชส้ ่อื ออนไลน์อย่างถกู ตอ้ ง ไม่ ละเมิดสทิ ธขิ องผ้อู ่ืน นำไปสูค่ วามยัง่ ยนื หลกั ทรงงานในหลวงรชั กาล 9 ข้อที่ 1. ศกึ ษาข้อมูลอยา่ งเปน็ ระบบ ข้อท่ี 4. ทำตามลำดับข้นั ข้อที่ 19. เศรษฐกจิ พอเพยี ง ขอ้ ที่ 21. ทำงานอยา่ งมคี วามสุข ขอ้ ท่ี 22. ความเพียร พระบรมราโชบาย ด้านการศึกษา ในหลวงรชั กาลท่ี 10 ข้อท่ี ๒. มีพน้ื ฐานชีวติ ทม่ี ่นั คง – มีคณุ ธรรม SDGs ๑๗ เปา้ หมายการพฒั นาที่ยง่ั ยืน เป้าหมายที่ 4 สรา้ งหลักประกันวา่ ทกุ คนมีการศกึ ษาทมี่ คี ณุ ภาพอยา่ งครอบคลมุ และเท่าเทยี ม และ สนบั สนนุ โอกาสในการเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต

แผนการจดั การเรียนรู้

แผ่นที่ 1 ผังโครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นร้เู พือ่ เสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อย่างพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งหลักการเขียนโปรแกรมเบือ้ งต้น ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 4 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง หลักการเขียนโปรแกรมเบอื้ งต้น เร่อื ง หลักการเขียนโปรแกรมเบ้ืองตน้ ผลการเรียนรู้ (จำนวน 4 ชว่ั โมง) - อธิบายองค์ประกอบของภาษา ตวั แปร ชนดิ ของ ข้อมลู นิพจน์ ตวั ดำเนินการได้ สาระสำคัญ หลักการในการเขยี นโปรแกรม สาระการเรียนรู้ หลกั การในการเขียนโปรแกรม ความเปน็ มาของภาษา ความเปน็ มาของภาษา สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ชน้ิ งาน . 1. ความสามารถในการส่อื สาร . 1. ใฝเ่ รยี นรู้ นกั เรียนทำใบกิจกรรมที่ 1.1 2. ความสามารถในการคดิ 2. ม่งุ มันในการทำงาน เรื่อง หลักการเขยี นโปรแกรมเบือ้ งตน้ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. อยู่อย่างพอเพยี ง

แผ่นท่ี 2 ผงั ภาพการออกแบบการเรียนรู้แบบยอ้ นกลับ (Backward Design) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ งหลักการเขยี นโปรแกรมเบอื้ งตน้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 4 ชั่วโมง 1. เป้าหมายการเรียนรู้ 2. หลกั ฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้นิ งาน : นกั เรยี นทำใบกิจกรรม 1. อธบิ ายหลกั การเขียนโปรแกรมเบือ้ งต้นได้ 1.1 เรอื่ ง หลกั การเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งตน้ สาระสำคัญ การวดั ประเมินผล : เครือ่ งมือ เกณฑป์ ระเมนิ หลักการในการเขยี นโปรแกรม ประเดน็ วิธีการ แบบทดสอบ ร้อยละ 100 จุดประสงค์การเรยี นรู้ แบบประเมนิ ดา้ น ระดับคณุ ภาพพอใช้ 1. (K) อธิบายหลักการเขยี นโปรแกรมเบือ้ งตน้ ได้ ด้าน K ทดสอบ ทกั ษะ/กระบวนการ ขึน้ ไป ผ่านเกณฑ์ 2. (P) สามารถแยกแยะความแตกต่างของภาษาแตล่ ะ ด้าน P สงั เกตจากการ แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพพอใช้ คณุ ลักษณะ ขึน้ ไป ผ่านเกณฑ์ ระดับได้ รว่ มกิจกรรม อนั พงึ ประสงค์ 3. (A) ใฝเ่ รยี นรู้ มีความรบั ผดิ ชอบ ดา้ น A สังเกต สาระการเรยี นรู้ พฤตกิ รรม การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ี หลกั การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งต้น จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เงื่อนไขและ ทรัพยากร การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ 3. กิจกรรมการเรียนรู้ หลากหลายวิธี การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการ กจิ กรรรมการเรยี นรู้ : ทำงานก่อนดำเนนิ การแกป้ ญั หาจะช่วยใหก้ ารทำงานสำเร็จ ได้ตามเป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการทำงานที่อาจ 1. ผสู้ อนใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น (บนระบบ Google Class Room) เกิดขึ้น 2. ผสู้ อนเปิดส่อื การสอนใหน้ ักเรยี นดเู พ่อื กระตุน้ ให้นักเรยี นเกิดความสนใจ สมรรถนะสำคญั 3. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทำใบกจิ กรรมท่ี 1.1 เร่ือง หลักการเขยี นโปรแกรมเบอื้ งต้น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 4. ผสู้ อนและผู้เรยี นร่วมกนั อภปิ รายและสรุป 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สอ่ื /นวัตกรรมท่ีใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ : มคี วามต้ังใจศกึ ษาเลา่ เรยี น - บทเรยี นออนไลน์ 2. อยู่อย่างพอเพยี ง : คดิ และตดั สินใจในการปฏิบตั ิตน อยา่ งเหมาะสมตามอตั ภาพของตน แหล่งเรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน : มคี วามตง้ั ใจในการทำงาน 1) หอ้ งปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์ 502 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - บทเรียนออนไลน์ http://kruwansp.blogspot.com - https://www.youtube.com/watch?v=4aNSfDwdN8c - https://youtu.be/6qyQDh3IBiI?t=77 เวลา : 4 ชว่ั โมง

แผ่นที่ 3 กิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื เสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอยู่อยา่ งพอเพยี ง แผนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่ืองหลกั การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 4 ช่วั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………… ชว่ั โมงที่ 1-2 กิจกรรมการเรียนรู้ (สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ข้นั ที่ 1. กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ผสู้ อนให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น (บนระบบ Google Class Room) เพอื่ วดั ความรูเ้ ดิมของ นักเรียนก่อนเข้าสกู่ ิจกรรม 2. ผู้สอนถามนักเรียนว่า คำถาม Q1.1 นักเรยี นคิดวา่ นกั เขียนโปรแกรมควรมีความรเู้ กีย่ วกับเรือ่ งใด 3. ผสู้ อนเปดิ สอื่ การสอนเก่ียวกบั นักเขยี นโปรแกรมใหน้ กั เรียนดเู พอ่ื กระตุ้นใหน้ ักเรยี นเกดิ ความสนใจใน บทเรียน และไดร้ ับความรู้เบื้องต้นก่อนการลงมือฝึกปฏบิ ตั ิจรงิ ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 4. ผู้สอนถามคำถามว่า Q2.1 นกั เรียนเชื่อว่านกั เขยี นโปรแกรมควรมีความรเู้ ก่ยี วกับหลกั การเขียน โปรแกรมเบือ้ งตน้ มากน้อยเพียงใด 5. ผู้สอนให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล เรื่องการโปรแกรมเบื้องต้น จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น บทเรียน ออนไลน์ อินเทอรเ์ น็ต 6. ผู้สอนสมุ่ ตวั แทนนักเรียนนำเสนอผลจากการสืบคน้ ขอ้ มลู หน้าชัน้ เรียน ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 7. ผู้สอนเปิดสอ่ื การสอนเกยี่ วกบั เร่อื งการโปรแกรมเบ้ืองต้น พรอ้ มอธิบายเพ่ิมเตมิ และเปดิ โอกาสให้ นกั เรียนสอบถามในสว่ นทม่ี ีข้อสงสัย ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 8. ผู้สอนใหน้ ักเรียนตอบคำถาม Q1.1 และ Q2.1 9. ผู้สอนให้นกั เรยี นทำใบกิจกรรมที่ 1.1 เรอื่ งหลกั การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งต้น สง่ ในคาบเรียน ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 10. ผูส้ อนตรวจสอบผลจากการทำใบกจิ กรรมท่ี 1.1 เรื่องหลกั การเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้น 11. ผู้สอนประเมินผลโดยการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนและการตอบคำถาม

ชว่ั โมงที่ 3-4 กิจกรรมการเรียนรู้ (สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขน้ั ท่ี 1. กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ผู้สอนทบทวนความรู้เดมิ เรือ่ งหลกั การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ 2. ผสู้ อนถามนักเรียนวา่ คำถาม Q1.2 นักเรยี นรู้จกั องค์ประกอบของภาษาใดบ้าง 3. ผู้สอนเปิดสอ่ื การสอนให้นักเรยี นดเู พ่ือกระตนุ้ ให้นักเรยี นเกิดความสนใจในบทเรยี น และได้รบั ความรู้ เบอ้ื งต้นกอ่ นการลงมือฝกึ ปฏิบัติจรงิ ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 4. ผสู้ อนถามคำถามว่า Q2.2 นักเรียนเชื่อวา่ นักเขียนโปรแกรมควรมีความร้เู ก่ยี วกบั ระดบั ของภาษา องคป์ ระกอบของภาษามากน้อยเพยี งใด Q2.3 นักเรียนคดิ ว่าทำไมต้องมีระดบั ของภาษาในการเขียน โปรแกรม 5. ผู้สอนให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล เรื่องระดับภาษา จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น บทเรียนออนไลน์ อินเทอรเ์ น็ต ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 6. ผู้สอนเปดิ ส่ือการสอนเกยี่ วกับเรื่องระดบั ภาษา พรอ้ มอธิบายเพมิ่ เตมิ และเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี น สอบถามในส่วนท่มี ีข้อสงสยั ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 8. ผสู้ อนให้นักเรียนตอบคำถาม Q1.2 Q2.2 และ Q2.3 9. ผสู้ อนถามคำถามว่า Q3. ถ้านักเรยี นต้องการเขียนโปรแกรม นักเรยี นต้องใชร้ ะดับของภาษาใด 10. ผู้สอนให้นักเรียนตอบคำถาม Q3 ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 11. ผสู้ อนประเมินผลโดยการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นและการตอบคำถาม

แผ่นที่ 4 ชุดคำถามกระตุ้นเพอ่ื ปลกู ฝังหลกั คิดพอเพียง สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื งหลักการเขยี นโปรแกรมเบ้ืองตน้ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 4 ชั่วโมง แผนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (แผนหน่วย) คำถามกระต้นุ คดิ เพือ่ ปลกู ฝังหลักคดิ พอเพียงก่อนเรยี น Q1.1 นกั เรียนคดิ วา่ นักเขียนโปรแกรมควรมคี วามรู้เกย่ี วกับเรือ่ งใด Q1.2 นกั เรียนรจู้ กั องคป์ ระกอบของภาษาใดบา้ ง คำถามกระตนุ้ คิดเพือ่ ปลกู ฝังหลกั คดิ พอเพียงระหว่างเรยี น Q2.1 นกั เรยี นเช่ือว่านกั เขียนโปรแกรมควรมีความรเู้ กยี่ วกับหลักการเขยี นโปรแกรมเบ้ืองต้นมากนอ้ ย เพียงใด Q2.2 นักเรยี นเชอ่ื วา่ นกั เขียนโปรแกรมควรมคี วามรเู้ ก่ยี วกบั ระดับของภาษา องค์ประกอบของภาษามาก นอ้ ยเพยี งใด Q2.3 นักเรยี นคดิ ว่าทำไมต้องมีระดับของภาษาในการเขียนโปรแกรม คำถามกระตุ้นคิดเพื่อปลกู ฝังหลกั คดิ พอเพียงหลงั เรียน Q3. ถา้ นกั เรยี นต้องการเขียนโปรแกรม นักเรียนต้องใช้ระดับของภาษาใด

แผ่นที่ 5 แนวทางท่ีครนู ำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชจ้ ดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 เรอ่ื งหลักการเขียนโปรแกรมเบือ้ งต้น ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 4 ชัว่ โมง ครูผสู้ อนนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาจัดกจิ กรรมการเรียนร้ดู ังน้ี ความรูท้ ่ีครตู ้องมีกอ่ นสอน คณุ ธรรมของครใู นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. หลักสูตรมาตรฐานตัวชว้ี ดั และสาระแกนกลางตาม หลักสตู รปี 2551 1. มคี วามใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น ขยนั อดทน เสยี สละ 2. เรอื่ งเทคนคิ กระบวนการเรยี นการสอน 2. รกั และเมตตาต่อศษิ ย์ 3. มคี วามรู้และมที ักษะในการใช้ สื่อและอุปกรณ์ 3. รบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา 4. มคี วามรเู้ รอื่ งการวดั และประเมนิ ผลใหส้ อดคลอ้ งกบั กจิ กรรมและวัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร 4. ยดื หยนุ่ มคี วามเป็นกลั ยาณมิตร 5. ความรใู้ นเรอื่ งการโปรแกรมเบอื้ งตน้ อย่างชัดเจน 5. มีวนิ ัยในตนเองปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี ประเด็น มเี หตผุ ล พอประมาณ มภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานและตัวชี้วัด เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรอู้ ย่างเข้าใจ ศึกษาหลักสูตรมาตรฐานตัวชี้วัด จัดเรียงลา เนือ้ หา และจัดเนื้อหาสาระให้เหมาะสมกับ บริบท ตามลำดับง่ายไปหายากบรรลุผลการ ดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก เนื้อหาที่เป็น ของ เวลาและวัยของผเู้ รยี น เรียนรู้ทก่ี ำหนดไวใ้ นหลักสตู ร เร่อื งใกล้ตัวไปถงึ เรื่องไกลตวั ศ ึ กษา โ ค ร งส ร ้ า ง เ วล า ใ นห ล ั ก ส ู ต ร กำหนดเวลาเพือ่ ใหผ้ ู้เรียน ได้ปฏบิ ตั ิ วางแผนการใช้เวลาในการทำงานได้ เวลา กำหนดเวลาเหมาะสมกับกิจกรรม เนื้อหา กิจกรรมไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพผเู้ รียน เหมาะสมกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ วยั ของผู้เรยี น เกดิ การเรยี นร้อู ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ กิจกรรมให้ชัดเจนตาม เวลาที่มี และเผื่อ บรรลตุ ามผลการเรียนรู้ เวลาไว้ รองรับเหตกุ ารณ์ที่อาจ เปลยี่ นแปลง ในขณะทำกิจกรรม - แบ่งกลุ่มนักเรียนให้พอดีกับเนื้อหา - เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมที ักษะในการเขา้ ครูชี้แจงขั้นตอนการทากิจกรรมกลุ่มและให้ การจดั กจิ กรรม และจานวน สังคมช่วยเหลือซึ่งกนั คาแนะนำ/ปรึกษาอย่างใกล้ชิดในขณะที่ กจิ กรรม - กำหนดกิจกรรม ภาระงานการให้ - เพอ่ื ฝกึ ทักษะการส่ือสาร การคดิ นักเรยี นปฏบิ ตั กิ ารกลมุ่ เหมาะสมกับเนื้อหาในเวลาท่กี ำหนด วิเคราะห์ การแก้ปญั หาและการ ทำงานร่วมกนั มวี ินยั มคี วาม รับผิดชอบ -การเลอื กใชส้ อ่ื วัสดุ อุปกรณ/์ ในการเรยี น เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจและ -จัดเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ให้สัมพันธ์กับ สื่อ/ การสอน เหมาะสมกับ เนอ้ื หา กจิ กรรม วยั ปฏบิ ัติกิจกรรมไดบ้ รรลุผลการเรียนรู้ การจัดกจิ กรรม อุปกรณ์ ผู้เรยี นและมีจานวนเพียงพอกบั ผเู้ รยี น -เพอื่ ให้ผ้เู รียนไดฝ้ กึ ทกั ษะการคดิ -ตรวจสอบสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ให้สภาพพร้อม -กำหนดชิ้นงานและภาระงานให้เหมาะสม วเิ คราะห์และการแกป้ ญั หาได้ ใช้งานได้และมีสำรองไว้ ในกรณีที่สื่อชำรุด กับเน้ือหา เวลาและระดับช้นั ของนักเรยี น ใชก้ ารไม่ได้ -การเลือกใช้ แหล่งเรียนรู้ในการเรียนการ - เพื่อใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รยี นรตู้ ามสภาพจริง จัดเตรียมแหล่งเรียนรู้สารองไว้ในกรณีท่ี แหลง่ สอน เหมาะสมกับ เนื้อหา กิจกรรม และผูเ้ รียนเกิดการเรยี นรบู้ รรลตุ ามผล แหล่งเรยี นรู้น้ันมีปัญหา เรียนรู้ งบประมาณ เวลาในการทำกิจกรรม และ การเรียนรู้ วัยของผู้เรียน -ออกแบบวิธีการวัด ประเมินผลให้ตรงตาม -เพื่อวัด/ประเมินให้ตรงตามผลการ -วางแผนการวัด/ประเมินผลให้เป็นขั้นตอน ประเมินผล ผลการเรียนรู้ เรียนรู้ ชดั เจน -การประเมินผลเหมาะสมกับธรรมชาติวิชา -วัด/ประเมินผลได้ชัดเจนผู้เรียนได้ -แบบประเมิน ข้อสอบ มีการตรวจสอบ กิจกรรม เนื้อหา วัยของผู้เรียนและเวลา ที่ แสดงความ สามารถเต็มตามศักยภาพ ปรบั ปรุงแกไ้ ขใหม้ คี วามเชือ่ มัน่ และเท่ยี งตรง กำหนด ในการวัดตามตวั ช้ีวดั -มเี ครือ่ งมือวัดผลเพียงพอกบั จำนวนผ้เู รยี น

แผน่ ที่ 6 ผลท่จี ะเกดิ ขนึ้ กับผู้เรียนจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่ืองหลักการเขยี นโปรแกรมเบ้อื งต้น ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 4 ชัว่ โมง 6.1 ผู้เรียนจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ัตติ ามหลกั ปศพพ. ดงั น้ี ความร้ทู นี่ กั เรยี นต้องมกี อ่ น คณุ ธรรมของนกั เรียนทีจ่ ะทำใหก้ ารเรยี นรูส้ ำเรจ็ 1. การแบง่ ปันขอ้ มูล 1. มีวนิ ยั 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. ตรงตอ่ เวลา 2. การวางแผนการทำงาน และทกั ษะการทำงานร่วมกับผ้อู น่ื มเี หตุผล พอประมาณ มีภูมคิ ุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. เพอื่ ให้นกั เรยี นร้จู กั ใช้เหตผุ ลในการอภิปราย 1. นักเรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมได้เหมาะสมกบั 1. วางแผนการทำงานร่วมกนั รว่ มกับบุคคลอน่ื ๆ ทำใหก้ ารจัดกจิ กรรม เวลาทกี่ ำหนด 2. เตรียมวสั ดุ อปุ กรณใ์ นการเรียนไดค้ รบ การเรยี นการสอนสำเร็จลุล่วง 2. นักเรียนมคี วามร้เู กี่ยวกับการปฏิบัติตน 2. นักเรียนเกดิ ทกั ษะการทำงานรว่ มกับผู้อืน่ ในหอ้ งปฏิบตั ิการเคมี 6.2 ผ้เู รยี นจะได้เรียนรกู้ ารใชช้ ีวิตที่สมดุลและพร้อมรับการเปล่ยี นแปลง 4 มติ ติ ามหลัก ปศพพ. ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่าง ๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ/เศรษฐกจิ สังคม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม มีความรูใ้ นการแบง่ ปนั ขอ้ มูลการ 1. มคี วามรูใ้ นการปฏบิ ัติตนใน มีความรเู้ กี่ยวกับการดูแล รู้มารยาทในการพูด K ความรู้ ใช้ คอมพวิ เตอรห์ รือ หน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย รกั ษาความสะอาดของ สนทนา ตาม โทรศพั ท์มือถอื สืบคน้ ข้อมลู อยา่ ง 2. มีความรูเ้ กีย่ วกับการอยู่ใน สถานท่ปี ฏิบตั ิกจิ กรรม ขนบธรรมเนยี ม ค้มุ ค่า สังคมรว่ มกันตามหลกั พอเพียง วัฒนธรรมไทย มที ักษะในการนำวสั ดุ อปุ กรณ์ ทำงานรว่ มกับผ้อู ืน่ ไดอ้ ยา่ งมี รู้จักเลอื กวสั ดอุ ุปกรณ์ให้ ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ ี P ทักษะ หนงั สือ มาปฏิบัติกิจกรรมท่ี ความสุข เหมาะสม และไมท่ ำลาย มนุษยส์ มั พนั ธ์อันดี มอบหมายไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ส่ิงแวดล้อม กับบุคคลอืน่ ๆ ตระหนักและเห็นคณุ ค่าของวัสดุ ตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าของความ มจี ิตสานึกในการดแู ลรักษา เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ัติ A คา่ นิยม อุปกรณ์ หนังสอื และแหลง่ สามคั คี ชว่ ยเหลอื เกื้อกูลในการ สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรยี น ตนเปน็ ผมู้ ีมารยาท เรียนรู้ ทำงานใหเ้ กดิ ความสำเรจ็ และสงิ่ แวดลอ้ ม ไทยอันดงี าม 1. การสอ่ื สารและนำเสนอ 1. เกิดทักษะการทำงานร่วมกับ มที กั ษะในการดูแลรักษา ปฏบิ ตั ติ นเปน็ C สมรรถนะ 2. การคดิ วเิ คราะห์ ผอู้ ื่น ส่ิงแวดล้อม แบบอย่างท่ดี ี 3. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. ใช้สอ่ื ออนไลนอ์ ยา่ งถูกต้อง ไม่ ละเมดิ สิทธขิ องผอู้ ืน่ นำไปสู่ความยงั่ ยืน หลักทรงงานในหลวงรัชกาล 9 ข้อที่ 1. ศึกษาขอ้ มูลอยา่ งเป็นระบบ ขอ้ ที่ 4. ทำตามลำดับข้ัน ข้อท่ี 19. เศรษฐกิจพอเพียง ขอ้ ท่ี 21. ทำงานอย่างมีความสขุ ขอ้ ที่ 22. ความเพียร พระบรมราโชบาย ด้านการศกึ ษา ในหลวงรชั กาลที่ 10 ขอ้ ท่ี ๒. มีพื้นฐานชีวติ ท่ีม่นั คง – มีคณุ ธรรม SDGs ๑๗ เปา้ หมายการพัฒนาทย่ี ั่งยนื เป้าหมายที่ 4 สร้างหลกั ประกันว่าทกุ คนมกี ารศึกษาทม่ี ีคณุ ภาพอยา่ งครอบคลุมและเทา่ เทยี ม และ สนับสนนุ โอกาสในการเรียนรตู้ ลอดชีวติ

แผ่นที่ 1 ผังโครงสร้างหน่วยการเรียนรู้เพื่อเสริมสรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อย่างพอเพยี ง กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรื่องตวั แปร ชนดิ ของข้อมลู นิพจน์ ตวั ดำเนนิ การ เวลา 4 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ตัวแปร ชนดิ ของขอ้ มูล เร่ือง ตวั แปร ชนดิ ของขอ้ มูล นิพจน์ ตัวดำเนนิ การ นพิ จน์ ตัวดำเนินการ (จำนวน 4 ชวั่ โมง) ผลการเรยี นรู้ - อธิบายองคป์ ระกอบของภาษา สาระสำคัญ ตวั แปร ชนิดของข้อมูล นพิ จน์ ตวั องค์ประกอบของภาษา ภาษาคอมพิวเตอรแ์ บง่ ออกเปน็ 3 ดำเนินการได้ ประเภท คอื ภาษาเครื่อง ภาษาระดับต่ำและ ภาษาระดับสูง ซตึ่ อ้ งมี โปรแกรมแปลภาษาในการดำเนนิ การตา่ งๆ แบ่งเป็น อนิ เตอร์พรี เตอรก์ ับคอมไพเลอร์ ชนดิ ขอ้ มูล (Data Type) สามารถแบง่ ประเภทของชนดิ ข้อมลู ได้ 3 ประเภท คือ ชนดิ ข้อมูลแบบจำนวนเต็ม (Integer Type) ชนิดข้อมลู แบบทศนยิ ม (Floating Point Type) ชนิดข้อมูลแบบ ตัวอกั ษร (Character Type) ตวั แปร (Variable) คอื ช่ือที่กำหนดขึน้ มาเพ่ือใชแ้ ทนหรือ อา้ งอิงไปยังพนื้ ท่ีเกบ็ ข้อมลู หรือพ้ืนทใ่ี นหน่วยความจำ ตวั ดำเนินการ (Operator) มีหลายประเภทด้วยกัน ซง่ึ แต่ละ ประเภทจะทำหนา้ ที่แตกตา่ งกันออกไป เชน่ ตวั ดำเนินการทาง คณติ ศาสตร์ (Arithmetic Operator) ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparative Operator) ตวั ดำเนนิ การทางตรรกะ (Logical Operator) ตวั ดำเนินการกำหนดคา่ (Assignment Operator) นพิ จน์ (expression) หมายถึง สว่ นของโปรแกรมท่ีสามารถ ถกู ตคี วามเปน็ คา่ ต่าง ๆ ได้ โดยนิพจน์อาจประกอบดว้ ยเทอมเพยี ง เทอมเดยี ว หรือเกดิ จากการผสมกนั ของนพิ จน์อ่นื ทีเ่ ล็กกวา่ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาระงาน/ชิน้ งาน 1. ความสามารถในการสื่อสาร . 1. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรยี นทำใบกจิ กรรมที่ : 2. ความสามารถในการคดิ 2. มงุ่ มนั ในการทำงาน 2.1 เรอ่ื ง องค์ประกอบของภาษา 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 เรื่อง ตัวแปรและชนดิ ของขอ้ มูล 2.3 เรื่อง นิพจน์และตวั ดำเนินการ

แผ่นที่ 2 ผงั ภาพการออกแบบการเรียนรแู้ บบย้อนกลับ (Backward Design) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ืองตวั แปร ชนิดของข้อมลู นพิ จน์ ตัวดำเนนิ การ เวลา 4 ช่ัวโมง 1. เป้าหมายการเรียนรู้ 2. หลักฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน : นักเรยี นทำใบกิจกรรม - อธบิ ายองค์ประกอบของภาษา ตัวแปร 2.1 เรื่ององค์ประกอบของภาษา 2.2 เรื่องตวั แปรและชนิดของข้อมลู ชนดิ ของข้อมลู นพิ จน์ ตวั ดำเนนิ การได้ 2.3 เรื่องนิพจนแ์ ละตัวดำเนนิ การ สาระสำคัญ การวดั ประเมนิ ผล : หลกั การในการเขยี นโปรแกรม ความ ประเด็น วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑป์ ระเมนิ เปน็ มาของภาษา และหลักการเขยี นผังงาน จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้าน K ทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ 100 ด้าน P สังเกตจากการ แบบประเมินด้าน ระดับคณุ ภาพพอใช้ 1. (K) อธบิ ายการประกาศตวั แปร ชนิดของ ทักษะ/กระบวนการ ข้นึ ไป ผ่านเกณฑ์ ขอ้ มลู นพิ จน์ ตวั ดำเนินการได้ รว่ มกจิ กรรม แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพพอใช้ ด้าน A สังเกต คุณลกั ษณะ ข้นึ ไป ผ่านเกณฑ์ 2. (P) ประกาศตัวแปร ชนิดของข้อมูล อนั พงึ ประสงค์ นพิ จน์ ตวั ดำเนินการได้ พฤตกิ รรม 3. (A) ใฝเ่ รียนรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ ตัวแปร ชนิดของข้อมลู นิพจน์ ตัวดำเนนิ การ สาระการเรยี นรู้ 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจ กิจกรรรมการเรยี นรู้ : เลือกข้อมูลที่จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทาง ปัญญา เง่อื นไขและทรัพยากร การออกแบบแนว 1. ผสู้ อนเปิดสอื่ การสอนให้นกั เรยี นดูเพื่อกระตุ้นให้นกั เรยี นเกิดความสนใจ ทางการแก้ปัญหาทำได้หลากหลายวิธี การ 2. ผสู้ อนให้นักเรียนสืบค้นขอ้ มลู พรอ้ มอธบิ ายเพิม่ เตมิ และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามใน กำหนดข้ันตอนและระยะเวลาในการทำงานกอ่ น ดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทำงานสำเร็จ สว่ นทีม่ ีขอ้ สงสยั ได้ตามเป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการ 3. ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนทำใบกจิ กรรมและทำแบบทดสอบท้ายบทเรียนเพอ่ื วัดผลหลังเรยี น ทำงานท่ีอาจเกดิ ขน้ึ 4. ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกันอภิปรายและสรุป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการส่อื สาร สอ่ื /นวตั กรรมทใ่ี ชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - บทเรียนออนไลน์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ : มีความต้ังใจศึกษาเล่าเรยี น แหล่งเรียนรู้ 2. อยอู่ ย่างพอเพียง : คิดและตดั สนิ ใจในการ ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมตามอตั ภาพของตน 1) ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ 502 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน : มคี วามต้ังใจในการ 2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ทำงาน - บทเรียนออนไลน์ http://kruwansp.blogspot.com/ - https://www.youtube.com/watch?v=4aNSfDwdN8c - https://youtu.be/6qyQDh3IBiI?t=77 - https://www.youtube.com/watch?v=4aNSfDwdN8c - https://www.youtube.com/watch?v=Rk2-4Uh1X8A เวลา : 4 ช่ัวโมง

แผ่นท่ี 3 กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ เสริมสร้างคุณลกั ษณะอยู่อย่างพอเพยี ง แผนการเรียนรู้แบบบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (แผนหน่วย) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ืององคป์ ระกอบของภาษา ตัวแปร ชนดิ ของข้อมูล นพิ จน์ ตัวดำเนนิ การ เวลา 4 ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………… ชัว่ โมงท่ี 1-2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขั้นท่ี 1. กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ผู้สอนเปดิ ส่อื การสอนเก่ยี วกบั นักเขียนโปรแกรมให้นักเรยี นดูเพอื่ กระตุ้นใหน้ กั เรียนเกิดความสนใจใน บทเรยี น และไดร้ บั ความรู้เบ้ืองตน้ ก่อนการลงมือฝกึ ปฏิบัติจรงิ 2. ผสู้ อนถามนกั เรียนวา่ คำถาม Q1.3 นักเรยี นคิดว่าตัวแปรมีผลตอ่ การเขียนโปรแกรมอยา่ งไร ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 5. ผสู้ อนใหน้ กั เรียนสบื คน้ ข้อมลู เร่ืองตัวแปรและตัวดำเนนิ การ จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น บทเรียน ออนไลน์ อินเทอร์เน็ต 4. ผู้สอนถามคำถามวา่ Q2.4 ในการตัง้ ช่อื ตวั แปรนักเขยี นโปรแกรมจะต้องต้งั ช่ือให้กับตัวแปร ค่าคงที่ โปรแกรมย่อย พารามิเตอร์ และส่วนตา่ งๆ ของโปรแกรมอย่างไร 6. ผู้สอนสุม่ ตวั แทนนกั เรียนนำเสนอผลจากการสบื คน้ ขอ้ มลู หน้าชั้นเรียน ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 7. ผู้สอนเปดิ สื่อการสอนเกี่ยวกบั เร่อื งเร่ืองตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมและเปดิ โอกาส ให้นกั เรยี นสอบถามในส่วนท่ีมีขอ้ สงสัย ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 8. ผู้สอนใหน้ กั เรียนตอบคำถาม Q1.3 และ Q2.4 9. ผ้สู อนให้นักเรยี นทำใบกิจกรรมที่ 2.1 , 2.2 ส่งในคาบเรยี น ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 10. ผ้สู อนตรวจสอบผลจากการทำใบกิจกรรมที่ 2.1 , 2.2 11. ผูส้ อนประเมินผลโดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นและการตอบคำถาม

ชั่วโมงท่ี 3-4 กิจกรรมการเรียนรู้ (สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1. กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ผูส้ อนทบทวนความรูเ้ ดิม เรื่องตัวแปรและตวั ดำเนนิ การ 2. ผสู้ อนถามนกั เรียนว่า คำถาม Q1.4 ตัวดำเนนิ การเลขคณิตที่นักเรยี นทร่ี ู้จกั มีอะไรบ้าง 3. ผสู้ อนเปิดสอื่ การสอนให้นักเรียนดูเพื่อกระต้นุ ใหน้ ักเรียนเกิดความสนใจในบทเรียน และได้รับความรู้ เบือ้ งตน้ กอ่ นการลงมือฝึกปฏิบัตจิ ริง ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 4. ผ้สู อนถามคำถามว่า Q2.5 นักเรียนทราบตัวดำเนินการในการเขยี นโปรแกรมมีมากกว่า 1 ประเภท Q2.6 นกั เรียนคดิ ว่าทำไมต้องมีดำเนินการในการเขียนโปรแกรม 5. ผสู้ อนให้นกั เรียนสบื คน้ ข้อมูล เรื่องตัวแปรและตัวดำเนนิ การ จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ เช่น บทเรียน ออนไลน์ อินเทอร์เนต็ ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 6. ผู้สอนเปดิ ส่อื การสอนเกย่ี วกบั เรอ่ื งตัวแปรและตวั ดำเนินการ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมและเปิดโอกาสให้ นักเรียนสอบถามในส่วนทม่ี ีข้อสงสัย ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 7. ผู้สอนใหน้ ักเรยี นตอบคำถาม Q1.4 Q2.5 และ Q2.6 8. ผู้สอนถามคำถามวา่ Q4. ถ้านกั เรยี นต้องการเขยี นโปรแกรม นักเรยี นต้องทำความเข้าใจตวั แปรและ ตัวดำเนินการมากนอ้ ยเพียงใด 9. ผูส้ อนให้นกั เรียนตอบคำถาม Q4 ทำใบกจิ กรรมที่ 2.3 ส่งในคาบเรียน และทำแบบทดสอบท้าย บทเรยี นเพื่อวดั ผลหลังเรยี น ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 10. ผู้สอนตรวจสอบผลจากการทำแบบทดสอบทา้ ยบทและใบกิจกรรมที่ 2.3 11. ผู้สอนประเมินผลโดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นและการตอบคำถาม

แผ่นท่ี 4 ชดุ คำถามกระตุ้นเพ่ือปลูกฝังหลักคิดพอเพียง กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่ืององคป์ ระกอบของภาษา ตวั แปร ชนิดของข้อมูล นพิ จน์ ตวั ดำเนินการ เวลา 4 ช่ัวโมง แผนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (แผนหนว่ ย) คำถามกระตนุ้ คิดเพอ่ื ปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงก่อนเรียน Q1.3 นักเรียนคิดว่าตัวแปรมผี ลต่อการเขยี นโปรแกรมอย่างไร Q1.4 ตวั ดำเนินการเลขคณติ ทน่ี กั เรยี นทร่ี ูจ้ ักมอี ะไรบ้าง คำถามกระตุ้นคดิ เพื่อปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงระหว่างเรยี น Q2.4 ในการตัง้ ชอื่ ตวั แปรนกั เขียนโปรแกรมจะต้องต้ังช่อื ใหก้ ับตัวแปร คา่ คงท่ี โปรแกรมย่อย พารามเิ ตอร์ และส่วนตา่ งๆ ของโปรแกรมอย่างไร Q2.5 นกั เรียนทราบตัวดำเนินการในการเขยี นโปรแกรมมีมากกว่า 1 ประเภท Q2.6 นกั เรียนคิดว่าทำไมต้องมดี ำเนนิ การในการเขยี นโปรแกรม คำถามกระตุน้ คิดเพ่ือปลกู ฝังหลกั คดิ พอเพียงหลงั เรียน Q4. ถา้ นกั เรยี นต้องการเขียนโปรแกรม นักเรยี นต้องทำความเข้าใจตวั แปรและตวั ดำเนินการมากน้อย เพยี งใด

แผน่ ท่ี 5 แนวทางท่คี รูนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชจ้ ัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่ององค์ประกอบของภาษา ตัวแปร ชนิดของข้อมูล นิพจน์ ตัวดำเนินการ เวลา 4 ช่ัวโมง ครผู ู้สอนนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาจดั กจิ กรรมการเรยี นรูด้ งั นี้ ความรู้ท่คี รูตอ้ งมีกอ่ นสอน คณุ ธรรมของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. หลักสตู รมาตรฐานตวั ชี้วัดและสาระแกนกลางตาม หลักสูตรปี 2551 1. มีความใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน ขยันอดทน เสยี สละ 2. เรอื่ งเทคนคิ กระบวนการเรยี นการสอน 2. รกั และเมตตาต่อศษิ ย์ 3. มีความร้แู ละมีทักษะในการใช้ สือ่ และอุปกรณ์ 3. รบั ผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา 4. มคี วามรูเ้ รื่องการวัดและประเมนิ ผลใหส้ อดคลอ้ งกับกิจกรรมและวตั ถุประสงค์ของหลกั สตู ร 4. ยืดหยนุ่ มคี วามเปน็ กัลยาณมิตร 5. ความรู้ในเร่อื งการโปรแกรมเบอ้ื งตน้ อย่างชัดเจน 5. มีวนิ ัยในตนเองปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี ประเด็น มีเหตผุ ล พอประมาณ มภี มู ิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานและตัวชี้วัด เพอื่ ให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรอู้ ย่างเขา้ ใจ ศึกษาหลักสูตรมาตรฐานตัวชี้วัด จัดเรียงลา เนื้อหา และจัดเนื้อหาสาระให้เหมาะสมกับ บริบท ตามลำดบั งา่ ยไปหายากบรรลุผลการ ดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก เนื้อหาที่เป็น ของ เวลาและวยั ของผ้เู รียน เรยี นรูท้ กี่ ำหนดไวใ้ นหลักสตู ร เร่อื งใกล้ตัวไปถงึ เรื่องไกลตัว ศ ึ กษา โ ค ร งส ร ้ า ง เ วล า ใ นห ล ั ก ส ู ต ร กำหนดเวลาเพือ่ ใหผ้ เู้ รียน ได้ปฏบิ ตั ิ วางแผนการใช้เวลาในการทำงานได้ เวลา กำหนดเวลาเหมาะสมกับกิจกรรม เนื้อหา กจิ กรรมไดเ้ ต็มตามศักยภาพผเู้ รยี น เหมาะสมกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ วยั ของผเู้ รียน เกดิ การเรยี นรูอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมให้ชัดเจนตาม เวลาที่มี และเผื่อ บรรลตุ ามผลการเรียนรู้ เวลาไว้ รองรบั เหตุการณท์ ่อี าจ เปลยี่ นแปลง ในขณะทำกจิ กรรม - แบ่งกลุ่มนักเรียนให้พอดีกับเนื้อหา - เพ่อื ให้ผู้เรยี นมีทักษะในการเขา้ ครูชี้แจงขั้นตอนการทากิจกรรมกลุ่มและให้ การจัด กจิ กรรม และจานวน สังคมช่วยเหลือซึ่งกนั คาแนะนำ/ปรึกษาอย่างใกล้ชิดในขณะที่ กจิ กรรม - กำหนดกิจกรรม ภาระงานการให้ - เพอ่ื ฝึกทักษะการส่ือสาร การคิด นักเรียนปฏิบัตกิ ารกลมุ่ เหมาะสมกับเนื้อหาในเวลาท่กี ำหนด วเิ คราะห์ การแก้ปญั หาและการ ทำงานร่วมกนั มีวินยั มคี วาม รับผิดชอบ -การเลอื กใช้สอื่ วสั ดุ อุปกรณ/์ ในการเรยี น เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจและ -จัดเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ให้สัมพันธ์กับ ส่อื / การสอน เหมาะสมกบั เนอื้ หา กจิ กรรม วัย ปฏิบัตกิ ิจกรรมได้บรรลุผลการเรยี นรู้ การจัดกิจกรรม อุปกรณ์ ผู้เรยี นและมีจานวนเพยี งพอกับผเู้ รียน -เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นไดฝ้ กึ ทกั ษะการคดิ -ตรวจสอบสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ให้สภาพพร้อม -กำหนดชิ้นงานและภาระงานให้เหมาะสม วเิ คราะห์และการแก้ปัญหาได้ ใช้งานได้และมีสำรองไว้ ในกรณีที่สื่อชำรุด กบั เน้ือหา เวลาและระดับชัน้ ของนกั เรียน ใชก้ ารไมไ่ ด้ -การเลือกใช้ แหล่งเรียนรู้ในการเรียนการ - เพื่อให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรตู้ ามสภาพจริง จัดเตรียมแหล่งเรียนรู้สารองไว้ในกรณีท่ี แหลง่ สอน เหมาะสมกับ เนื้อหา กิจกรรม และผ้เู รียนเกดิ การเรยี นรบู้ รรลุตามผล แหล่งเรียนรนู้ ั้นมีปัญหา เรียนรู้ งบประมาณ เวลาในการทำกิจกรรม และ การเรยี นรู้ วัยของผู้เรยี น -ออกแบบวิธีการวัด ประเมินผลให้ตรงตาม -เพื่อวัด/ประเมินให้ตรงตามผลการ -วางแผนการวัด/ประเมินผลให้เป็นขั้นตอน ประเมนิ ผล ผลการเรียนรู้ เรยี นรู้ ชัดเจน -การประเมินผลเหมาะสมกับธรรมชาติวิชา -วัด/ประเมินผลได้ชัดเจนผู้เรียนได้ -แบบประเมิน ข้อสอบ มีการตรวจสอบ กิจกรรม เนื้อหา วัยของผู้เรียนและเวลา ที่ แสดงความ สามารถเตม็ ตามศักยภาพ ปรบั ปรุงแก้ไขใหม้ คี วามเชื่อมัน่ และเทย่ี งตรง กำหนด ในการวดั ตามตัวชว้ี ัด -มีเครื่องมอื วัดผลเพียงพอกับจำนวนผู้เรียน

แผ่นท่ี 6 ผลที่จะเกดิ ข้ึนกับผู้เรยี นจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ งองคป์ ระกอบของภาษา ตัวแปร ชนิดของข้อมูล นพิ จน์ ตัวดำเนนิ การ เวลา 4 ชั่วโมง 6.1 ผู้เรยี นจะไดฝ้ ึกคดิ และฝึกปฏบิ ัติตามหลกั ปศพพ. ดังนี้ ความรทู้ นี่ ักเรยี นต้องมกี ่อน คุณธรรมของนักเรยี นที่จะทำให้การเรยี นร้สู ำเร็จ 1. การแบ่งปนั ข้อมูล 1. มีวินัย 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. ตรงต่อเวลา 2. การวางแผนการทำงาน และทกั ษะการทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื มเี หตผุ ล พอประมาณ มีภูมคิ ุ้มกนั ในตัวท่ีดี 1. เพอ่ื ให้นักเรียนรจู้ ักใช้เหตผุ ลในการอภิปราย 1. นักเรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดเ้ หมาะสมกับ 1. วางแผนการทำงานร่วมกัน ร่วมกับบุคคลอ่ืน ๆ ทำให้การจดั กจิ กรรม เวลาท่ีกำหนด 2. เตรียมวสั ดุ อุปกรณใ์ นการเรียนได้ครบ การเรยี นการสอนสำเรจ็ ลลุ ่วง 2. นกั เรียนมีความรูเ้ ก่ยี วกบั การปฏิบตั ติ น 2. นักเรยี นเกิดทกั ษะการทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่น ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเคมี 6.2 ผ้เู รยี นจะได้เรยี นรูก้ ารใช้ชีวติ ทส่ี มดุลและพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลง 4 มติ ิตามหลกั ปศพพ. ดังนี้ ดา้ น สมดลุ และพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงในดา้ นต่าง ๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ/เศรษฐกจิ สังคม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม มีความร้ใู นการแบ่งปนั ข้อมูลการ 1. มีความรใู้ นการปฏบิ ตั ติ นใน มีความรเู้ กี่ยวกับการดแู ล รู้มารยาทในการพูด K ความรู้ ใช้ คอมพวิ เตอรห์ รือ หนา้ ที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย รักษาความสะอาดของ สนทนา ตาม โทรศพั ทม์ อื ถือ สบื ค้นขอ้ มลู อยา่ ง 2. มีความรู้เก่ยี วกับการอยใู่ น สถานทป่ี ฏิบตั ิกจิ กรรม ขนบธรรมเนยี ม คมุ้ ค่า สงั คมร่วมกันตามหลักพอเพียง วฒั นธรรมไทย มีทักษะในการนำวสั ดุ อปุ กรณ์ ทำงานร่วมกบั ผู้อื่นไดอ้ ยา่ งมี รจู้ กั เลือกวสั ดุอุปกรณใ์ ห้ ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ ี P ทกั ษะ หนงั สอื มาปฏิบัตกิ จิ กรรมที่ ความสขุ เหมาะสม และไม่ทำลาย มนษุ ยส์ ัมพันธ์อนั ดี มอบหมายไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง สิง่ แวดล้อม กบั บคุ คลอนื่ ๆ ตระหนักและเห็นคณุ คา่ ของวัสดุ ตระหนักและเหน็ คณุ คา่ ของความ มจี ิตสานกึ ในการดแู ลรักษา เห็นคุณคา่ และปฏบิ ตั ิ A คา่ นยิ ม อปุ กรณ์ หนงั สือ และแหลง่ สามัคคี ช่วยเหลอื เกอื้ กลู ในการ สภาพแวดล้อมในห้องเรยี น ตนเป็นผมู้ มี ารยาท เรียนรู้ ทำงานใหเ้ กดิ ความสำเรจ็ และสงิ่ แวดลอ้ ม ไทยอันดีงาม 1. การส่อื สารและนำเสนอ 1. เกดิ ทกั ษะการทำงานรว่ มกบั มีทกั ษะในการดแู ลรกั ษา ปฏบิ ัติตนเป็น C สมรรถนะ 2. การคดิ วเิ คราะห์ ผูอ้ น่ื สงิ่ แวดล้อม แบบอย่างทดี่ ี 3. การใช้เทคโนโลยี 2. ใช้สอื่ ออนไลนอ์ ยา่ งถูกตอ้ ง ไม่ ละเมิดสทิ ธิของผูอ้ น่ื นำไปสคู่ วามยง่ั ยนื หลักทรงงานในหลวงรัชกาล 9 ข้อท่ี 1. ศกึ ษาข้อมลู อยา่ งเป็นระบบ ขอ้ ท่ี 4. ทำตามลำดับขนั้ ขอ้ ท่ี 19. เศรษฐกิจพอเพียง ขอ้ ท่ี 21. ทำงานอย่างมีความสุข ขอ้ ที่ 22. ความเพียร พระบรมราโชบาย ด้านการศึกษา ในหลวงรชั กาลท่ี 10 ขอ้ ที่ ๒. มพี นื้ ฐานชีวิตทม่ี ่ันคง – มีคณุ ธรรม SDGs ๑๗ เปา้ หมายการพฒั นาท่ียงั่ ยืน เปา้ หมายที่ 4 สรา้ งหลักประกนั วา่ ทุกคนมีการศึกษาท่ีมคี ณุ ภาพอยา่ งครอบคลมุ และเทา่ เทยี ม และ สนับสนนุ โอกาสในการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต

บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ผลการสอน นกั เรยี นชนั้ ม 4 ทกุ คนสามารถอธบิ ายหลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นอธบิ ายความหมายของ ภาษาคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง และสามารถแยกแยะความแตกตา่ งของภาษาแตล่ ะระดับได้ระดบั ดี ปัญหา/อุปสรรค - ขอ้ เสนอแนะ/แกไ้ ข - ลงชื่อ................................................. (นางสาวอไุ รวรรณ โสภา) วันท.ี่ ...........เดือน............................พ.ศ............ ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ผู้ไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ................................................. (นางสาวโศรดา ธนากณั ฑ์) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .......................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ................................................. (นางสาวจารณุ ี บวั แยม้ ) หวั หน้าฝา่ ย / รองฝ่ายวิชาการ .......................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ................................................. (นายนภศลู ตลุ ยกลุ ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นพระแสงวทิ ยา

ใบกจิ กรรมที่ 1.1 หลกั การเขยี นโปรแกรมเบ้อื งตน้ คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จงอธิบายความหมายของการเขยี นโปรแกรมและหลักการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. 2. การออกแบบโปรแกรม (Design a program) คืออะไร และมกี ่ีลักษณะ ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. 3. จงอธบิ ายความหมายของภาษาคอมพิวเตอร์ ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. 4. โครงสร้างโปรแกรมมีท้ังหมดก่รี ูปแบบ ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ……………………………………………………………………………………………………............................................................. …………………………………………………………………………………………………….............................................................

ใบกจิ กรรมที่ 2.1 องคป์ ระกอบของภาษา ให้นักเรยี นสรุปเนือ้ หา ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................. ............................... ................................................................................................... ............................................................. ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ...................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ........................................ ............................................................................................................................. ...................................

ใบกิจกรรมท่ี 2.2 ตวั แปรและชนดิ ของข้อมูล ใหน้ ักเรียนสรปุ เนื้อหา ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................................... ...... ............................................................................................................................ .................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ....................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................................. .............. ............................................................................................................................. ...................................

ใบกิจกรรมที่ 2.3 นพิ จนแ์ ละตัวดำเนินการ ให้นกั เรียนสรปุ เน้อื หา ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................................... ...... ............................................................................................................................ .................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ....................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................................... ......

แบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพยี งขอ้ เดยี ว 1. “การเขยี นชุดคำสัง่ ด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหน่งึ เพื่อให้คอมพิวเตอรท์ ำงานตามโปรแกรมที่เรา เขียนข้นึ ” ข้อความดังกลา่ วเป็นความหมายตรงกับข้อใด ก. การเขยี นโปรแกรม (programming) ข. ผู้เขยี นโปรแกรม (programmer) ค. โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (computer program) ง. โค๊ดเทียม (Pseudo Code) 2. ชุดของคำสงั่ ทเี่ ขยี นข้นึ เพื่อสั่งใหค้ อมพิวเตอร์ทำงานตามทีต่ อ้ งการ เรยี กวา่ อะไร ก. การเขียนโปรแกรม (programming) ข. ผเู้ ขยี นโปรแกรม (programmer) ค. โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (computer program) ง. โคด๊ เทยี ม (Pseudo Code) 3. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ประเภทของภาษาคอมพวิ เตอร์ ก. ภาษาเครอ่ื ง ค. ภาษาเครอื่ ง ข. ภาษาระดับสูง ง. ภาษาองั กฤษ 4. ข่าวทีอ่ อกมาทางสอื่ ตา่ ง ๆ มีความหมายตรงกบั ข้อใด ก. ขอ้ มูล (Data) ค. ประมวลผล (Process) ข. สารสนเทศ (Information) ง. เอกสาร (Document)

5. จงเรียงลำดับขัน้ ตอนการเข้าระบบ Facebook A เข้าส่รู ะบบ Facebook Timeline B User name หรือ Password ไมต่ รงกบั ระบบ หรือเงื่อนไขไมเ่ ป็นจรงิ C ตรวจสอบ User name และ Password D กรอก User name หรอื E-mail และ Password อกี คร้ัง E ถา้ User name และ Password ถูกตอ้ ง F กรอก User name หรือ E-mail และ Password ก. F – C – A – E – B – D B พลิกไข่ C เปดิ ไฟ / ตัง้ กระทะ ค. F – C – E– A – D – B E ตกั ใส่จาน F เทไข่ลงกระทะ ข. F – B – E– A – C – D ง. F – C – E– A – B – D 6. จงเรียงลำดับขั้นตอนการทอดไขเ่ จียว A ปรุงรส D ตอกไข่ ก. A – C – F – D – B – E ค. A – C – F – D – E – B ข. D – A – C – F – B – E ง. D – A – E – C– F – B 7. จงเรียงลำดบั ขน้ั ตอนการประมวลผล ก. Input Process Output ข. Process Input Output ค. Output Input Process ง. Input Output Process 8. ข้อใดเป็นขอ้ มลู Output ก. คา่ ความชนื้ ข. ค่าความเข้มแสง ค. การเปดิ ปดิ เครื่องรดน้ำตน้ ไม้ ง. อักษรบนแปน้ พิมพ์

9. ข้อใดเปน็ ข้อมูลนำเข้า สำหรบั เขียนโปรแกรม เปิดพดั ลมเมือ่ อากาศร้อน ก. คา่ ความกดอากาศ ค. คา่ ความเข้มแสง ข. ค่าความช้นื ง. ค่าอุณหภมู ิ 10. หากนกั เรียนต้องการหาค่าเฉล่ียของคะแนนสอบของนักเรยี นท้ังห้อง จะต้องมีตวั แปรใดบา้ ง ก. คะแนนสอบของนักเรียนแต่ละคน ข. ผลรวมคะแนนสอบ ค. คะแนนสอบ และ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด ง. ผลรวมคะแนนสอบ และ จำนวนนักเรยี นทั้งหมด

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32  1 การแสดงความคดิ เหน็  2 การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ืน่   3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย   4 ความมนี ้ำใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน การแสดง การทำงาน การมี ความ ตามทไ่ี ดร้ ับ ชื่อ–สกลุ คดิ เห็น การยอมรับ มอบหมาย ความมีน้ำใจ ส่วนร่วมใน รวม ของนักเรียน ฟงั คนอืน่ การปรับปรงุ 15 ลำดบั ท่ี 321 32 คะแนน 32 1 ผลงานกลุ่ม 1 32 32 11 เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ............./.................../............... ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกต้องของเนือ้ หา   2 ความคดิ สร้างสรรค์   3 วธิ ีการนำเสนอผลงาน   4 การนำไปใชป้ ระโยชน์   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น 1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กี่ยวกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามทโี่ รงเรียนจัดข้นึ 2. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลทีถ่ ูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นส่ิงทถี่ กู ตอ้ ง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เช่ือฟงั คำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิง่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณคา่ 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงนิ 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 ร้จู กั การดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบัติและส่ิงแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ลงชือ่ ..................................................ผู้ประเมนิ ............/.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 51–60 ดมี าก พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี 30–40 พอใช้ พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรุง