Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสาพแวดล้อม

คู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสาพแวดล้อม

Published by Aaaa Ssss, 2022-08-02 06:21:02

Description: คู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสาพแวดล้อม

Search

Read the Text Version

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                         คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพ และสภาพแวดลอ้ ม แผนกผูป ว ยนอก (Out Patient Department) กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 2558



คูม ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ ม: แผนกผปู ว ยนอก i คาํ นํา แผนกผู้ป่วยนอก (Out-Patient Department) มีขอบเขต ภารกิจและหน้าท่ีในการให้ บริการ ผู้ป่วยทั่วไป ที่ไม่อยู่ในภาวะวิกฤต ครอบคลุมการตรวจรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสภาพ ให้แก่ผู้ป่วยและผู้มีสุขภาพดี บริการในรูปแบบคลินิกต่างๆ เป็นจุดบริการแรกท่ีผู้ป่วยจะต้อง มาติดต่อ ซึ่งจะต้องมีพื้นที่ใช้สอยและทางสัญจร ท้ังของเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยและส่วนสนับสนุนต่างๆ ที่มี ความสัมพันธ์ สอดคล้องกับการปฏบิ ัติงาน กลุ่มพัฒนาและกําหนดมาตรฐาน กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดทําคู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพ และสภาพแวดล้อม แผนกผู้ป่วยนอก (Out-Patient Department) ดงั กล่าวข้ึน จากการค้นคว้า รวบรวม หนังสือ เอกสาร ระเบียบ ข้อ กําหนดทางกฎหมายต่างๆท่ี เกย่ี วขอ้ งและจากประสบการณก์ ารทํางานของบคุ ลากรกองแบบแผน ทุกสาขาวิชาชีพในการออกแบบอาคารสถาน บริการสุขภาพ ท้ังสถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรสิ่งแวดล้อม วิศวกรเคร่ืองกล และมัณฑนากร เพ่ือเป็นคู่มือออกแบบ โดยใช้ประกอบกับคู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพ และสภาพแวดล้อม ฉบับ ท่วั ไป วัตถุประสงค์ในการจัดทําคู่มือน้ี สําหรับผู้มีหน้าท่ีหรือได้รับการมอบหมายให้ออกแบบอาคาร นักศึกษา ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อกําหนดเป็นแนวทางการจัดทําแบบอาคารสถานบริการสุขภาพ ในสังกัดกระทรวง สาธารณสุข หรือนําไปพัฒนา ปรับปรุงอาคารสถานท่ีเดิม ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เป็นส่วนหน่ึงท่ีจะทําให้ ประชาชนผรู้ บั บรกิ าร ได้รับการบริการที่เท่าเทียมกัน คณะทํางานฯ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า คู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ ต่อท้ังบุคลากรกองแบบแผนท่ีมี หน้าที่โดยตรงในการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพ บริษัทออกแบบเอกชนท่ีจะต้องมารับหน้าท่ีส่วนหนึ่ง แทนกองแบบแผน ตลอดจนนักศกึ ษาและผเู้ กีย่ วข้อง อย่างไรก็ตาม คู่มือฉบับน้ีจะต้องมีการพัฒนา ปรับปรุง ตามบริบทของแนวทางการรักษา และ เทคโนโลยีด้านอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ ท่ีมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และกฎหมายควบคุมอาคารที่ ออกมาภายหลงั กองแบบแผน จะได้มกี ารปรบั ปรุงค่มู ือฉบับน้ีในโอกาสตอ่ ไป พร้อมกันน้ี คณะทํางานฯ ขอขอบคุณแหล่งท่ีมาของข้อมูล และเอกสารอ้างอิงต่างๆ ที่ปรากฏใน คมู่ ือฉบับนี้ ด้วย คณะทํางานโครงการ จัดทําคู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพ และสภาพแวดลอ้ ม กองแบบแผน กรมสนับสนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข i 

คูมือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอม: แผนกผปู ว ยนอก ii สารบัญ หัวเร่ือง : หน้า 01 พ้นื ทใี่ ชส้ อย 1 สว่ นที่ 1: พน้ื ทบี่ ริการสําหรบั ผู้ป่วยและ/หรอื ผมู้ ารับบริการและญาติ 1 สว่ นที่ 2: พืน้ ทป่ี ฏิบตั งิ านหลักของแผนกโดยผู้ใหบ้ รกิ ารและ/หรือเจ้าหนา้ ท่ี 1 สว่ นที่ 3: พน้ื ทส่ี นับสนนุ การให้บรกิ ารและการปฏบิ ตั ิงาน 7 02 ความสมั พนั ธแ์ ละเส้นทางสญั จรระหวา่ งพื้นทใ่ี ช้สอยในแผนกผูป้ ว่ ยนอก 8 03 การปอ้ งกันการตดิ เชื้อในแผนกผู้ปว่ ยนอก (Infection Control: IC) 8 มาตรฐานการออกแบบห้องตรวจผูป้ ว่ ยนอก 9 1. ห้องตรวจโรคทว่ั ไป 10 2. หอ้ งตรวจโรคกลมุ่ ทมี่ ีความเส่ยี ง 10 การจดั แบง่ พ้นื ท่ีใชส้ อย 11 การควบคมุ การติดเชือ้ ทางอากาศ การปอ้ งกนั เชื้อเข้า – ออก 12 13 04 สว่ นประกอบอาคารและวัสดปุ ระกอบอาคาร 13 4.1 พนื้ (FLOOR) 13 4.2 ผนัง (WALL) 15 4.3 เพดาน (CEILING) 4.4 ประตู (DOOR) 17 4.5 หน้าตา่ ง (WINDOW) และช่องแสง 24 05 ครภุ ณั ฑป์ ระกอบอาคาร (FURNITURE) 29 06 นาฬกิ าชีวภาพ จังหวะรอบวัน และการออกแบบอาคารแผนกผู้ปว่ ยนอก 30 31 07 งานระบบวศิ วกรรมไฟฟ้าและสอื่ สาร 31 7.1 ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง 32 7.2 ระบบไฟฟ้ากาํ ลัง 33 7.3 ระบบไฟฟ้าสํารอง 33 7.4 ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งฉกุ เฉิน และโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉนิ 7.5 ระบบแจง้ เหตเุ พลิงไหม้ 6 7.6 ระบบโทรศัพท์อตั โนมตั ิ 6 7.7 ระบบเสียงประกาศ 6 กองแบบแผน กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ii  

คูม ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอม: แผนกผปู ว ยนอก iii หัวเรือ่ ง : สารบัญ 7.8 ระบบเสาอากาศโทรทัศน์รวม หน้า 7.9 ระบบส่ือสารดว้ ยความเรว็ สงู 7.10 ระบบทีวีวงจรปิด 34 7.11 ระบบควบคมุ การเข้าออก 34 7.12 ระบบการต่อลงดิน 34 34 08 งานระบบวศิ วกรรมเครอื่ งกล 35 8.1 ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ 8.2 ระบบจ่ายก๊าซทางการแพทย์ (Medical Gas System) 37 38 09 ระบบวศิ วกรรมสง่ิ แวดลอ้ ม 9.1 ระบบประปา 39 9.2 ระบบสุขาภบิ าล 39 9.3 ระบบดบั เพลงิ 39 9.4 ระบบบาํ บดั นํ้าเสยี 39 9.5 การจดั การมลู ฝอย 39 เปน็ มาของการบริการสขุ ภาพระดับปฐมภูมิในประเทศไทย 28 1.02 แนวคดิ ท่เี กย่ี วขอ้ งกับบรกิ ารสขุ ภาพระดับปฐมภูมิ 28 29 1.02.1 การสาธารณสุขมูลฐาน (Primary Health Care) 31 1.02.2 เวชปฏิบตั ิทั่วไป/ เวชศาสตร์ครอบครัว/ เวชปฏบิ ตั ิครอบครวั 31 1.03 นโยบายหลักประกนั สขุ ภาพถว้ นหนา้ : จดุ เร่ิมแห่งการปฏริ ูประบบบริการสุขภาพไทย 33 1.03.1 ความหมายของหน่วยบรกิ ารสขุ ภาพระดับปฐมภูมิภายใต้ระบบหลกั ประกันสุขภาพถ้วนหนา้ 40 1.03.2 หน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิกับความสัมพันธ์ในเชงิ คสู่ ัญญาของระบบประกันสขุ ภาพ 45 49 1.03.3 มาตรฐานของหนว่ ยค่สู ญั ญาของบริการสขุ ภาพระดบั ปฐมภมู ิ 1.03.4 มาตรฐานของหน่วยบริการสขุ ภาพระดบั ปฐมภมู ิภายใตร้ ะบบหลักประกันสขุ ภาพถ้วนหน้า   1.03.5 บรกิ ารที่มใี นหน่วยบริการสขุ ภาพระดบั ปฐมภูมภิ ายใตร้ ะบบหลกั ประกนั สขุ ภาพถ้วนหน้า กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข iii  

คมู ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ ม: แผนกผปู ว ยนอก iv สารบัญตาราง หัวเรือ่ ง : ความเปน็ มา หน้า 2 01 พน้ื ท่ใี ชส้ อย ตารางท่ี 1 สรปุ รายละเอยี ดพน้ื ท่ีใชส้ อยโดยสงั เขป 04 สว่ นประกอบอาคารและวัสดปุ ระกอบอาคาร 15 ตารางที่ 2 สรปุ คุณลักษณะของส่วนประกอบอาคารและวัสดปุ ระกอบอาคาร 05 ครุภณั ฑป์ ระกอบอาคาร (FURNITURE) 18 ตารางท่ี 3 แสดงความต้องการครภุ ณั ฑป์ ระกอบอาคาร (FURNITURE) กับ 20 ภายในพื้นท่ใี ช้สอยของแผนกผ้ปู ่วยนอก (OPD) ตารางท่ี 4 แสดงขนาดและลกั ษณะครุภัณฑ์ (เฟอร์นเิ จอร์ติดตงั้ กบั ที่และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว) ภายในแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) 07 งานระบบวศิ วกรรมไฟฟา้ และสอ่ื สาร 29 ตารางท่ี 5 ข้อแนะนาํ ระดับความสอ่ งสวา่ งภายในอาคาร ของสมาคมไฟฟา้ แสงสว่าง แห่งประเทศไทย 26 28 28 29 31 31 33 40 45 49   กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ iv  

คมู ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอม: แผนกผปู ว ยนอก v สารบัญแผนผัง/รูปภาพ หัวเร่ือง : ความเปน็ มา หนา้ 7 02 ความสมั พนั ธ์และเส้นทางสัญจรระหวา่ งพนื้ ทใ่ี ชส้ อยในแผนกผู้ป่วยนอก แผนผังแสดงความสัมพนั ธ์และเสน้ ทางสัญจร ระหว่างพ้ืนทีใ่ ช้สอยต่างๆ ในแผนกผูป้ ว่ ยนอก 03 การป้องกนั การติดเชอ้ื ในแผนกผู้ป่วยนอก (Infection Control: IC) 8 รปู ท่ี 1 การหมนุ เวียนอากาศแบบไม่แบง่ เขต 9 รปู ที่ 2 การไหลของอากาศสะอาดไปยงั ตําแหน่งท่ีปนเปือ้ น 04 สว่ นประกอบอาคารและวัสดุประกอบอาคาร 12 รูปที่ 3 การปาดมุมลาดเอียง สาํ หรบั พ้นื ต่างระดบั 13 รูปที่ 4 ความกวา้ งสทุ ธิของช่องประตูแบบต่างๆ 14 รปู ท่ี 5 อุปกรณแ์ ละการติดตง้ั มอื จับประตูแบบต่างๆ 06 นาฬกิ าชีวภาพ จังหวะรอบวนั และการออกแบบอาคารแผนกผู้ป่วยนอก 25 รปู ที่ 6 กลไกของ Circadian Rhythm 25 รูปที่ 7 ชว่ งเวลา 24 ชว่ั โมงของมนุษย์ ทส่ี มั พนั ธก์ บั Circadian Rhythm 26 รูปที่ 8 Spectrum ของแสงทมี่ องเห็น (Visible Light) 27 รปู ที่ 9 Spectra จากหลอดไฟส่องสว่างประเภทต่างๆ 27 รูปท่ี 10 Spectra จากหลอดไฟส่องสว่างประเภทต่างๆ 28 รูปท่ี 11 ผลของแสงทก่ี ่อใหเ้ กิดการตน่ื ตวั ในมนษุ ย์ รูปที่ 12 กราฟแสดงการเปรียบเทียบ การส่งผา่ นแสงผ่านกระจกตาของมนุษย์ 29 ท่ีมีอายุ 20 ปี 60 ปี และ 80 ปี 07 งานระบบวศิ วกรรมไฟฟา้ และสื่อสาร 32 รปู ท่ี 13 รปู แบบสัญลกั ษณ์มขี นาด 150 x 300 mm 32 รูปท่ี 14 แสดงระยะการตดิ ต้ังอปุ กรณ์ตรวจจบั ความร้อน (HEAT DETECTOR) 33 รูปท่ี 15 ระยะการตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ตรวจจบั ควนั (SMOKE DETECTOR) E.I.T. Standard 4 4 5 6 6 6 กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข v 

คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 1 1. พ้ืนทใี่ ช้สอย พ้ืนท่ีใช้สอยที่จําเป็นสําหรับการให้บริการและการปฏิบัติงานของแผนกผู้ป่วยนอก[1] สามารถจําแนกได้เป็น 3 ส่วนหลัก รวม 20 พ้ืนท่ีการใช้งานในโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิระดับต้นถึงระดับกลาง และ 22 พ้ืนท่ีการใช้งาน ในโรงพยาบาลระดบั ทุติยภมู ริ ะดบั สงู ถึงระดบั ตตยิ ภูมิ ดังน้ี สว่ นท่ี 1: พืน้ ทบี่ รกิ ารสว่ นหน้าสําหรับผปู้ ่วยและ/หรอื ผมู้ ารบั บริการและญาติ ได้แก่ 1) รบั -ส่งผูป้ ว่ ย (จอดรถช่ัวคราว) 2) ศนู ย์เปล (อาจใช้รว่ มกับแผนกอุบัตเิ หตุได)้ 3) พกั รอผปู้ ว่ ย-ญาติ 4) ประชาสมั พันธ์ 5) ซกั ประวัติ-คดั กรอง 6) สขุ าผรู้ ับบรกิ าร สว่ นที่ 2: พ้นื ทป่ี ฏบิ ัตงิ านหลักของแผนกโดยผูใ้ หบ้ ริการและ/หรือเจ้าหนา้ ท่ี ไดแ้ ก่ 7) ตรวจโรคท่วั ไป/ ตรวจเฉพาะโรค (โรคไมต่ ิดต่อ) 8) ตรวจโรคตดิ ตอ่ * 9) ตรวจภายใน 10) รักษาพยาบาล (Treatment) 11) ใหค้ ําปรกึ ษา 12) ผ่าตดั เลก็ * 13) หัวหน้าแผนก 14) พักแพทย์ 15) ประชุม สว่ นที่ 3: พ้ืนทสี่ นบั สนนุ การให้บริการและการปฏบิ ตั งิ าน ไดแ้ ก่ 16) เอนกประสงค/์ พกั เจ้าหน้าท่ี 17) เตรยี มอาหารวา่ ง/ เคร่อื งดื่ม 18) เกบ็ อุปกรณท์ างการแพทย์ 19) เก็บของสะอาด 20) เกบ็ ของใชส้ ว่ นตัว/ เปลีย่ นชดุ 21) สขุ าเจา้ หนา้ ท่ี/ ผใู้ ห้บรกิ าร 22) ลา้ ง-เกบ็ อุปกรณท์ ําความสะอาดอาคาร หมายเหตุ รายการที่มีเคร่อื งหมาย (*) หมายถงึ พนื้ ทีก่ ารใช้งานท่ีอาจมเี พม่ิ เตมิ ในโรงพยาบาลระดับทตุ ยิ ภูมริ ะดบั สูงถงึ ระดบั ตติยภูมิ                                                             [1] แนวทางพฒั นาระบบบรกิ ารทตุ ิยภมู แิ ละตตยิ ภูมิ สํานกั พัฒนาระบบบริการสุขภาพ กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ (ฉบบั ปรบั ปรุง) กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 1-1  

คมู่ อื การออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 2 โดยรายละเอียดของแต่ละพื้นท่ีใช้สอยซ่ึงประกอบด้วยประโยชน์ใช้สอยและขนาดของพ้ืนท่ีใช้สอยต่อหน่วย กิจกรรม[2] โดยสังเขป ซ่ึงอ้างอิงตามปัจจัยต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับพื้นที่ใช้สอยน้ันๆ ได้แก่ กิจกรรมที่เกิดขึ้น ขนาด/ สัดส่วนร่างกายประชากรไทยซ่ึงต้องการพ้ืนที่ในการทํากิจกรรม จํานวนผู้ใช้งานในพ้ืนที่ และจํานวนครุภัณฑ์/ อปุ กรณ์พน้ื ฐานทีจ่ ําเป็นต้องใชส้ าํ หรบั กจิ กรรมน้นั ๆ ซงึ่ สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางท่ี 1 สรปุ รายละเอยี ดพนื้ ทใ่ี ช้สอยโดยสงั เขป พนื้ ที่ใช้สอย ขนาดตอ่ 1 หนว่ ย หนว่ ย ประโยชน์ใช้สอย หมายเหตุ 1 รับ-สง่ ผู้ป่วย (ตารางเมตร-ตร.ม.) 1.1 จอดรถทัว่ ไป (≥2.40 ม.x5.50 ม.) ใช้จอดรถรับ-ส่งผู้ป่วย/ 1. ขนาดของพืน้ ท่ีรวม 1.2 จอดรถผู้พิการ (≥3.30 ม.x6.40 ม.) 13.00 คนั ผู้รับบริการ ซึ่งเดินทาง ข้ึนอยกู่ ับจาํ นวนรถ 2 ศูนยเ์ ปล (อาจใช้ มาโดยรถยนต์ ทต่ี อ้ งการจอดสูงสดุ ร่วมกบั แผนกอุบตั -ิ 21.00 คนั 2. เข้าถึงไดส้ ะดวกจาก เหตแุ ละฉกุ เฉินได้) 2.1 โต๊ะ/เคาน์เตอร์ ถนนหลักภายใน จนท.เวรเปล 2.2 จอด Wheelchair ใช้สําหรับเจ้าหน้าท่ี 1. ขนาดของพื้นทีร่ วม 2.3 จอด Stretcher 3 พกั รอ ให้บริการ Wheelchair ข้ึนอยู่กับจํานวนเจา้ - 1.1 เกา้ อ้ีน่งั รอ 1.2 จอด Wheelchair และ/หรือ Stretcher หน้าทีแ่ ละ Wheel- 1.3 จอด Stretcher 4.50 โตะ๊ (คน) แก่ผู้ป่วย/ ผู้รับบริการ Chair/ Stretcher 4 ประชาสัมพนั ธ์ ที่ไม่สะดวกในการเดิน สงู สุดทตี่ ้องการ 4.1 โต๊ะ/เคานเ์ ตอร์ 2.00 คนั ไปยังจุดใหบ้ รกิ ารตา่ งๆ 2. เขา้ ถงึ ได้สะดวกจาก จนท.ปชส. พื้นทร่ี ับ-สง่ ผู้ปว่ ย 4.2 แผนผัง/ สอ่ื ปชส. 3.00 คัน ใช้สําหรับน่ังรอการรับ 1.ขนาดของพ้นื ทร่ี วม 1.00 ที่ (คน) บรกิ ารต่างๆ ของแผนก ขน้ึ อยู่กับจาํ นวนท่ีนัง่ สูงสดุ ท่ีตอ้ งการ 2.00 คัน 2. เข้าถึงได้สะดวกจาก 3.00 คนั เสน้ ทางเดนิ หลัก ลิฟต์ และบนั ได ใช้สาํ หรับผูป้ ่วย/ ผู้รับ 1. ขนาดของพ้นื ท่ีรวม 4.50 โต๊ะ(คน) บริการสอบถามข้อมูล ขึน้ อยู่กับจาํ นวนเจา้ - เกีย่ วกบั บรกิ าร/ สถาน หน้าท่แี ละสอื่ ปชส. 1.50 ชนดิ -ชิ้น ที่ตั้งแผนกให้บริการ ทตี่ ้องการ ต่างๆ 2. เข้าถึงได้สะดวกจาก ทางเขา้ หลกั / ทาง เดนิ หลกั ของแผนก                                                             [2] การศกึ ษาเพื่อกาํ หนดขนาดพนื้ ทีใ่ ชส้ อยโรงพยาบาลขนาด 150 เตียง กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ (2549) กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 1-2  

คูม่ อื การออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ่วยนอก 3 ตารางท่ี 1 สรุปรายละเอียดพ้นื ท่ใี ช้สอยโดยสังเขป (ตอ่ ) พนื้ ทใี่ ชส้ อย ขนาดต่อ 1 หนว่ ย หน่วย ประโยชนใ์ ชส้ อย หมายเหตุ (ตารางเมตร-ตร.ม.) 5 ซักประวัติ-คัดกรอง โตะ๊ (คน) ใช้ในการซักประวัติ/ 1. ขนาดของพ้ืนทร่ี วม 5.1 โตะ๊ / เคานเ์ ตอร์ 4.50 เครอื่ ง ช่ังน้ําหนัก/ วัดส่วนสูง/ ขึน้ อยกู่ บั จํานวนเจา้ - วัดความดันของผู้ป่วย หนา้ ท่แี ละเครื่องชงั่ จนท.คดั กรอง 1.50 อา่ ง โดยเจ้าหน้าที่พยาบาล นํา้ หนกั / วดั ส่วนสงู 5.2 เคร่อื งชง่ั นา้ํ หนกั / โถ เ พ่ื อ เ ป็ น ข้ อ มู ล ใ ห้ กั บ 1.50 โถ แพทย์ผู้ตรวจ 2. เข้าถงึ ได้สะดวกจาก วดั ส่วนสงู 1.50 หอ้ ง ทางเขา้ หลกั / ทาง 1.50 ห้อง ใ ช้ ทํ า กิ จ วั ต ร ส่ ว น ตั ว เดินหลกั และ/หรือ 6 สขุ าผู้รบั บรกิ าร 4.50 โตะ๊ และ/หรือใช้ชําระล้าง โตะ๊ ปชส. ของแผนก 2.1 อ่างล้างหน้า 9.00 เตียง ส่วนต่างๆ ของร่างกาย 2.2 โถปสั สาวะ ชดุ 1. ขนาดของพื้นทร่ี วม 2.3 โถส้วม 4.50 ใช้ในการตรวจโรคให้ ข้นึ อยู่กับจํานวนและ 2.4 ผ้พู กิ าร/ ผ้ชู รา 3.00 หอ้ ง กับผูป้ ่วย/ ผ้รู บั บรกิ าร ชนิดของสุขภัณฑ์ 7. ตรวจโรคทว่ั ไป/ 1.50 โต๊ะ โดยแพทย์ทั่วไป และ เตยี ง แพทย์เฉพาะทางแต่ละ 2. เขา้ ถงึ ไดส้ ะดวกจาก ตรวจเฉพาะโรค 9.00 ชดุ สาขา โดยมีความดัน พน้ื ท่ีพักรอ 7.1 โตะ๊ ตรวจโรค 4.50 อากาศภายในหอ้ ง 7.2 เตยี งตรวจโรค 3.00 โต๊ะ ตรวจเปน็ บวก 1. ขนาดของห้องตรวจ 7.3 อ่างลา้ งมอื +ตเู้ กบ็ 1.50 เตยี ง ใช้ ใ น ก า ร ต ร ว จ โ ร ค ควรมีขนาด กxยไม่ ชดุ ผู้ป่วย/ ผู้รับบริการ ซึ่ง นอ้ ยกวา่ 3.00x3.00 ของแขวนผนงั 4.50 หอ้ ง ป่วยด้วยโรคติดต่อ โดย เมตร 3.00 แพทยท์ ่ัวไป และแพทย์ 8 ตรวจโรคตดิ ต่อ * 1.50 เฉพาะทางแต่ละสาขา 2. เขา้ ถึงไดส้ ะดวกจาก 8.1 โตะ๊ ตรวจโรค โดยมีความดันอากาศ พน้ื ทีพ่ ักรอ/ คัดกรอง 8.2 เตยี งตรวจโรค 3.00 ภายในหอ้ งเป็นลบ 8.3 อา่ งลา้ งมือ+ตเู้ ก็บ ใช้ในการตรวจโรคทาง 1. ขนาดของห้องตรวจ สูติ-นรีเวชกรรม และ ควรมขี นาด กxย ไม่ ของแขวนผนงั การวางแผนครอบครัว นอ้ ยกวา่ 3.00x3.00 เมตร 9 ตรวจภายใน 9.1 โต๊ะใหค้ ําปรึกษา 2. เขา้ ถงึ ไดส้ ะดวกจาก 9.2 เตยี งตรวจภายใน พ้ืนทีพ่ กั รอ/ คดั กรอง 9.3 อ่างลา้ งมอื +ตเู้ ก็บ 1. ขนาดของหอ้ งตรวจ ของแขวนผนัง ควรมขี นาด กxย ไม่ 9.4 หอ้ งสขุ า น้อยกว่า 2.50x3.60 เมตร (ไมร่ วมสุขา) 2. เขา้ ถึงไดส้ ะดวกจาก พืน้ ที่พกั รอ/ คัดกรอง กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 1-3  

คู่มือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผปู้ ่วยนอก 4 ตารางท่ี 1 สรุปรายละเอยี ดพ้นื ท่ีใชส้ อยโดยสังเขป (ตอ่ ) พนื้ ทใี่ ช้สอย ขนาดต่อ 1 หนว่ ย หนว่ ย ประโยชน์ใชส้ อย หมายเหตุ (ตารางเมตร-ตร.ม.) 10 รักษาพยาบาล เตียง ใช้สําหรบั ทําหตั ถการ 1. ขนาดของพน้ื ที่รวม (Treatment) 10.50 คัน ให้กับผู้รับบริการ โดย ควรมขี นาด กxย ไม่ 1.50 ชุด เจ้าหนา้ ท่ีพยาบาล นอ้ ยกวา่ 3.50x3.80 10.1 เตียงรักษา 1.50 เมตร พยาบาล โตะ๊ ใช้สําหรับให้คําปรึกษา 4.50 ตัว แก่ผู้ป่วย/ ผู้รับบริการ 2. เขา้ ถึงไดส้ ะดวกจาก 10.2 รถเข็นอุปกรณ์ 1.00 ชดุ และ/หรอื ญาติ ควรเก็บ พ้นื ท่พี กั รอ เส้นทาง 10.3 อ่างล้างมือ+ตู้ 1.50 เสียงได้ดี และมีประตู เดนิ หลักของแผนก คน-ห้อง เข้า-ออกสําหรับผู้ป่วย เก็บของแขวนผนงั 2.50 คน-อ่าง แยกออกจากของ จนท. 1. ขนาดของพน้ื ที่รวม 11 ใหค้ ําปรึกษา 1.50 ห้อง อาจมใี นระดับตตยิ ภมู ิ ควรมีขนาด กxย ไม่ 11.1 โตะ๊ ให้คาํ ปรึกษา 20.00 หอ้ ง ใช้ในกรณที ม่ี ีการผ่าตัด น้อยกว่า 3.00x3.00 11.2 เก้าอนี้ ง่ั 5.00 ห้อง ขนาดเล็กซ่ึงไม่ยุ่งยาก ม. หรอื 9.00 ตร.ม. 11.3 อา่ งล้างมอื +ตู้ 5.00 ห้อง ซบั ซ้อน หรอื ไม่จาํ เป็น 9.00 ห้อง ต้องใช้ทีมผ่าตัดขนาด 2. เข้าถึงได้สะดวกจาก เก็บของแขวนผนัง 9.00 ใหญ่ พนื้ ท่พี ักรอ/ คัดกรอง คน 12 ผ่าตดั เลก็ * 6.00 ใช้ทํางานด้านบริหาร 1. เฉพาะห้องผา่ ตัด ควร 12.1 เปล่ยี นชุด คน จัดการของผู้ทําหน้าที่ มีขนาด กxย ไมน่ ้อย 12.2 ล้าง-ฟอกมอื 2.50 หวั หนา้ แผนก กว่า 4.00x5.00 เมตร 12.3 ผ่าตัดเล็ก ใช้ทํางานด้านวิชาการ- 12.4 เกบ็ ของสะอาด เอกสารตา่ งๆ รวมท้ังใช้ 2. เขา้ ถึงได้สะดวกจาก 12.5 พกั ผ้าเปือ้ น/ ขยะ พักก่อนหรือหลังการ เสน้ ทางสญั จรหลกั 12.6 ล้าง-นง่ึ เครอ่ื งมอื ปฏบิ ัตงิ านของแพทย์ ระหวา่ งแผนกผู้ป่วย 13 หัวหน้าแผนก นอกกบั แผนกฉกุ เฉนิ ใช้ประชุมหารือ และ 14 ทาํ งาน/ พักแพทย์ วางแผนการดําเนินงาน เข้าถึงได้สะดวกเส้นทาง ดา้ นต่างๆ ของแผนก สญั จรหลักของแผนก 15 ประชมุ 1. ขนาดของพื้นท่ีรวม ขึ้นอยู่กบั จํานวนแพทย์ 2. เข้าถงึ ไดส้ ะดวกจาก เสน้ ทางสญั จรหลัก ของแผนกไปยงั ห้อง ตรวจต่างๆ 1. ขนาดของพ้นื ที่รวม ขึ้นอย่กู บั จํานวนคน ทตี่ อ้ งการรองรบั สูงสุด 2. เขา้ ถงึ ได้สะดวกจาก เสน้ ทางสญั จรภายใน และพนื้ ท่ปี ฏบิ ัติงาน ตา่ งๆ ของแผนก กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 1-4  

คมู่ อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ่วยนอก 5 ตารางท่ี 1 สรปุ รายละเอยี ดพนื้ ทีใ่ ชส้ อยโดยสังเขป (ตอ่ ) พ้ืนทใ่ี ช้สอย ขนาดต่อ 1 หนว่ ย หน่วย ประโยชน์ใชส้ อย หมายเหตุ (ตารางเมตร-ตร.ม.) 16 เอนกประสงค/์ 2.00 คน ใช้ประชุมหารืออย่าง 1. ขนาดของพนื้ ทีร่ วม พกั เจา้ หน้าที่ ไม่เป็นทางการระหว่าง ข้นึ อย่กู บั จาํ นวนคน เจ้าหน้าที่ภายในแผนก ที่ ต้ อ ง ก า ร ร อ ง รั บ หรือใช้รับประทาน สูงสดุ อาหารว่าง เคร่ืองด่ืม 2. เข้าถงึ ได้สะดวกจาก ร ะ ห ว่ า ง เ ว ล า เสน้ ทางสญั จรภายใน ป ฏิ บั ติ ง า น ห รื อ ใ ช้ และพ้ืนทีป่ ฏบิ ตั งิ าน รับประทานอาหาร ต่างๆ ของแผนก กลางวันระหว่างเวลา พักเท่ยี ง 17 เตรียมอาหารวา่ ง/ 6.00 หอ้ ง ใช้เตรียมเคร่ืองดื่ม อุ่น เข้าถึงได้สะดวกจากห้อง เครอ่ื งด่ืม อาหาร เก็บอาหาร(แช่ ประชมุ และห้องอเนก- เย็น) ของเจา้ หน้าท่ี ประสงค์/ พักเจ้าหน้าที่ ใช้ล้างภาชนะท่ีใช้ใน การรับประทานอาหาร และ/ หรอื เคร่อื งดม่ื 18 เก็บอปุ กรณ์ ใช้สําหรับเก็บอุปกรณ์ 1. ขนาดของพน้ื ทรี่ วม ทางการแพทย์ และ/ หรือเคร่ืองมือ ขึน้ อยู่กับจํานวนตเู้ กบ็ 18.1 ตู้เก็บของ-ชั้น วางของ ขนาด ลึกx 1.50 หลัง ทางการแพทย์ชนิด ของ-ช้นั วางของ และ กวา้ ง 60x100 ซ.ม. ต่างๆ อุปกรณ/์ เครื่องมือที่ 18.2 พ้ืนที่สําหรับวาง อุปกรณ์/ เครื่องมือ ตอ้ งการรองรบั การใช้ ชนดิ เคลือ่ นย้ายได้ 0.50 เครอื่ ง งานสงู สดุ 19 เก็บของสะอาด 19.1 ตู้เก็บของ-ชั้น 2. เขา้ ถงึ ไดส้ ะดวกจาก วางของ ขนาด ลึกx กวา้ ง 60x100 ซ.ม. พ้ืนทปี่ ฏบิ ตั ิงานต่างๆ ของแผนก ใ ช้ สํ า ห รั บ เ ก็ บ วั ส ดุ 1. ขนาดของพืน้ ทีร่ วม 1.50 ตู้-ช้นั อุปกรณ์ และเคร่ืองผ้า ขึ้นอยู่กับจํานวนตู้เก็บ ที่ผ่านกระบวนการทํา ของ-ชนั้ เก็บของท่ี ความสะอาดใหป้ ราศ- ตอ้ งการรองรับการ จากเชื้อแล้ว ใชง้ านสงู สดุ 2. เข้าถึงได้สะดวกจาก พื้นทป่ี ฏบิ ตั ิงานตา่ งๆ ของแผนก กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 1-5  

คมู่ อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผู้ปว่ ยนอก 6 ตารางท่ี 1 สรปุ รายละเอียดพ้นื ท่ใี ชส้ อยโดยสงั เขป (ตอ่ ) พน้ื ท่ใี ช้สอย ขนาดตอ่ 1 หนว่ ย หนว่ ย ประโยชนใ์ ช้สอย หมายเหตุ (ตารางเมตร-ตร.ม.) คน-หอ้ ง 20 เกบ็ ของใชส้ ่วน ใช้สําหรับเจ้าหน้าที่ 1. ขนาดของพ้ืนท่รี วม ตวั / เปลย่ี นชุด 2.50 อา่ ง โถ เกบ็ ของใช้ส่วนตวั และ ขึ้นอยู่กับจาํ นวนตู้เกบ็ 21 สขุ าเจ้าหน้าท/่ี 1.50 โถ ผใู้ หบ้ รกิ าร 1.50 ท่ี เปล่ียนชุด สวมเสื้อ ของ ตู้ Locker และ (แยกชาย-หญิง) 1.50 ห้อง 1.50 คลุม กอ่ นเร่ิมปฏบิ ัติ จาํ นวนห้องเปลี่ยนชดุ 21.1 อ่างล้างหนา้ 4.50 21.2 โถปัสสาวะ งานในส่วนต่างๆ ของ ทีต่ ้องการรองรับการ 21.3 โถส้วม 21.4 อาบนํา้ (ถา้ ม)ี แผนก ใช้งานสูงสุด 22 ล้าง-เก็บอปุ กรณ์ 2. เข้าถงึ ได้สะดวกจาก ทําความสะอาด อาคาร ทางเขา้ -ออกหลกั ของ เจา้ หนา้ ที่ ใช้สําหรับเจ้าหน้าที่/ ผู้ 1. ขนาดของพื้นทรี่ วม ให้บริการทํากิจวัตร ข้ึนอย่กู ับจาํ นวนและ ส่วนตัวและ/หรือชําระ ชนดิ ของสุขภณั ฑ์ ล้างร่างกาย 2. เข้าถงึ ไดส้ ะดวกจาก พื้นท่ปี ฏิบตั ิงานตา่ งๆ ของแผนก รวมท้งั หอ้ งประชุม และห้อง เอนกประสงค์ ใ ช้ สํ า ห รั บ ซั ก ล้ า ง 1. เข้าถึงไดส้ ะดวกจาก อุ ป ก ร ณ์ ทํ า ค ว า ม เส้นทางสญั จรภายใน สะอาดอาคาร และใช้ ส่พู ้ืนทีป่ ฏิบตั งิ าน เกบ็ อุปกรณ/์ เคร่อื งมือ ต่างๆ ของแผนก ทําความสะอาดอาคาร 2. ระบายอากาศได้ดี ชนิดต่างๆ รวมทั้ง และมแี สงแดดส่องถึง น้าํ ยาทาํ ความสะอาด กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 1-6  

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ่วยนอก 7 2. ความสัมพนั ธแ์ ละเส้นทางสญั จรระหวา่ งพื้นที่ใช้สอยในแผนกผู้ปว่ ยนอก ออก เขา้ 2 ศนู ยเ์ ปล 1 รบั -สง่ ผปู้ ่วย (อาจใช้ร่วมกบั แผนกอุบตั เิ หตไุ ด)้ เภสัชกรรม เวชระเบียน 4 ประชาสมั พนั ธ์  LAB  X-Ray  5 ซักประวัติ/ 3 พกั รอ 6 สุขาผู้รับบรกิ าร ผู้ปว่ ยใน/  คดั กรอง ส่งตอ่ (แยกชาย-หญงิ -ผู้ 7 ตรวจโรคท่ัวไป/ 8 ตรวจ 9 ตรวจ 10 รกั ษาพยาบาล 11 ใหค้ าํ 12 ตรวจเฉพาะโรค โรคตดิ ต่อ ผ่าตดั เลก็ * ภายใน (Treatment) ปรกึ ษา (โรคไมต่ ดิ ตอ่ ) 13 ทาํ งาน 14 พักแพทย/์ 18 เก็บอปุ กรณ์ 19 เกบ็ ของ หวั หนา้ แผนก ทาํ งานแพทย์ ทางการแพทย์ สะอาด 15 ประชุม 17 เตรียมอาหารว่าง/เคร่ืองด่ืม 21 สุขาเจา้ หน้าท่ี 16 เอนกประสงค์/ พสั ดุ/ พักขยะ/ พักเจ้าหน้าที่ จ่ายกลาง ซกั ฟอก (แยกชาย-หญิง) 20 เปลย่ี นชุด/ 22 ล้าง-เกบ็ อุปกรณ์ เกบ็ ของใช้ส่วนตัว ทาํ ความสะอาดอาคาร เสน้ ทางสัญจรผู้รับบรกิ าร/ญาติ   แผนก/ หนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เส้นทางสัญจรผ้ใู ห้บริการ/เจา้ หน้าท่ี เสน้ ทางสัญจรวสั ดุ/ อปุ กรณ/์ สงิ่ ของ แผนผงั แสดงความสัมพนั ธแ์ ละเส้นทางสญั จร ระหวา่ งพ้ืนทีใ่ ช้สอยตา่ งๆ ในแผนกผู้ปว่ ยนอก กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 2-1  

คมู ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ ม: แผนกผปู ว ยนอก 8 3. การป้องกนั การติดเชอ้ื ในแผนกผปู้ ่วยนอก (Infection Control: IC) นยิ าม การป้องกันกนั การตดิ เชอื้ (Infection Control: IC) คอื การควบคุม ปอ้ งกัน การแพร่กระจายของเชื้อ/การ ตดิ เชือ้ ในโรงพยาบาล ซึง่ เปน็ พน้ื ฐานส่วนหนึง่ ของการดแู ลสขุ ภาพ การควบคมุ การติดเช้อื และระบาดวทิ ยาของ โรงพยาบาล คลา้ ยกบั การปฏบิ ัตดิ า้ นสขุ ภาพของประชาชน การควบคุมการตดิ เชื้อมปี ัจจัยท่สี ัมพันธ์กับการแพรร่ ะบาดของการติดเชอ้ื ภายในสถานบริการสุขภาพ ไมว่ า่ จะเป็นผู้ป่วยสู่ผปู้ ่วย จากผูป้ ว่ ยใหก้ ับพนกั งาน และจากพนักงานให้แกผ่ ปู้ ว่ ยหรือในหมพู่ นักงาน จงึ หมายรวมถงึ การป้องกัน การตรวจสอบ /การเฝา้ ระวงั การแพรร่ ะบาดของการติดเชื้อในสถานบรกิ ารสขุ ภาพ และการจัดการ ประเดน็ พิจารณา 1. มาตรฐานการออกแบบหอ้ งตรวจผู้ป่วยนอก 2. การจดั แบ่งพน้ื ทใี่ ชส้ อย 3. การควบคุมการตดิ เชือ้ ทางอากาศ 4. การปอ้ งกันเชือ้ เข้า - ออก 1. มาตรฐานการออกแบบหอ้ งตรวจผปู้ ว่ ยนอก หอ้ งตรวจผ้ปู ว่ ยนอก (OPD) ตามมาตรฐานแลว้ ตอ้ งมกี ารแบง่ ออกเป็นกลุ่มคอื กลุ่มของการตรวจทวั่ ไป และ กลุม่ เสีย่ ง โดยมหี ลักการตามรายละเอียดดังนี้ 1) หอ้ งตรวจโรคท่ัวไป ควรคํานงึ ถึง 1. ทิศทางการไหลของอากาศ อากาศต้องมที ศิ ทางการไหลจากเจา้ หน้าที่ หรือท่ีทม่ี อี ากาศสะอาด ไปยงั ตําแหน่งทีม่ ีอากาศปนเปือ้ น หรอื ผ้ปู ่วย (ภาพที่ 2) ภาพที่ 1 การหมุนเวยี นอากาศแบบไม่แบง่ เขต กองแบบแผน กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 3-8  

คมู ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอม: แผนกผูปวยนอก 9 ภาพที่ 2 การไหลของอากาศสะอาดไปยังตาํ แหน่งที่ปนเปอื้ น 2. ควบคมุ อณุ หภมู ิภายในห้องตรวจไว้ท่ี 24+/-1 °C และมคี วามชื้นประมาณ 50+/-10% RH 3. การควบคมุ ความดันอากาศระหวา่ งพืน้ ที่ โดยมกี ารควบคุมความดนั ดงั น้ี 3.1 ควบคมุ ความดนั หอ้ งตรวจใหเ้ ปน็ บวก 3.2 ควบคุมความดนั พน้ื ท่เี ข้าออกให้มคี วามดนั เป็นบวก 3.3 ควบคมุ ความดันส่วนพนื้ ทซ่ี ึ่งผู้ป่วยต้องนั่งรอใหม้ คี วามดันเป็นลบ 4. ปรมิ าณการหมนุ เวยี นของอากาศมกี ารเตมิ Fresh Air 2ACH มีการหมุนเวยี นมากกว่า 15ACH 5. ให้มปี ระสทิ ธิภาพการกรองอากาศตามมาตรฐานโดยขั้นท่ี 1 มีประสทิ ธิภาพการกรอง 25% และ ประสทิ ธิภาพการกรองข้ันท่ี 2 ท่ี 90% 6. ทิศทางการไหลของอากาศเปน็ แบบ NON–LAMINAR AIR FLOW 2.10 2) หอ้ งตรวจโรคกลุ่มท่ีมคี วามเสีย่ ง ควรออกแบบให้เปน็ FRESH AIR 100% โดยมหี ลกั ดงั น้ี 1. ปริมาณของอากาศเขา้ -ออกมากกวา่ 15ACH ใหเ้ ป็น FRESH AIR 100% ไมม่ กี ารหมนุ เวยี น อากาศ 2. อากาศท่นี ําเข้าหอ้ งตอ้ งถูกกรองฝนุ่ และส่ิงปนเปือ้ นก่อน โดยกรองอากาศชั้นแรก 25% กรอง อากาศชน้ั ที่ 290–95% 3. การควบคุมความดนั อากาศระหวา่ งพ้นื ที่ โดยมกี ารควบคุมความดนั ดงั น้ี 3.1 ควบคมุ ความดันห้องตรวจให้เป็นลบ 3.2 ควบคมุ ความดันพ้นื ท่ีเข้าออกให้มคี วามดันเป็นบวก 3.3 ควบคมุ ความดนั พืน้ ที่ซึง่ ผู้ป่วยต้องนง่ั รอใหม้ คี วามดันเป็นลบ 4. อากาศที่นําออกจากหอ้ งทง้ั หมดควรมีการกรองช้ันแรก 25% กรองอากาศชน้ั ที่ 2 ท่ี 95% และ มีการกรองดว้ ย HEPA FILTER หรอื เสริม UV เขา้ ไปเป็นมาตรการเสรมิ ในชุดการกรองอากาศ ท้งั นต้ี ัวถงั (CASING) ควรเป็นผนังสองช้ันเพอื่ ปอ้ งกนั อากาศร่ัวไหล หรอื แพร่กระจายออกสภู่ ายนอก 5. ตอ้ งมีการปอ้ งกันการเจริญเติบโตของเช้ือโรค และมกี ารควบคมุ คุณภาพอากาศให้เหมาะสม ซง่ึ อุณหภูมิท่เี หมาะสมควรต้องมีการควบคมุ ใหอ้ ยทู่ ี่ 24+/-1 °C และมคี วามช้นื ประมาณ 50+/-10% RH 6. ควบคุมทศิ ทางการไหลของอากาศจากบนสลู่ ่างแบบ NON–LAMINAR AIR FLOW กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 3-9  

คมู อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอม: แผนกผูปวยนอก 10 2. การจัดแบง่ พน้ื ทีใ่ ชส้ อย ผู้รับบริการ ศูนย์เปล/สถานทจ่ี อดเปลนอน/รถเขน็ ผปู้ ่วย ประชาสัมพนั ธ์ ห้องสุขาเจา้ หน้าท่ี ห้องสขุ าผู้ป่วย โถงพักคอยรอตรวจ หอ้ งพักเจา้ หน้าที่ ห้องพกั แพทย์ คดั กรอง/ซักประวัติ หอ้ งตรวจรกั ษาทวั่ ไป ห้องฉีดยา/ทาํ แผล หอ้ งตรวจภายใน หอ้ งตรวจ EKG ห้องตรวจUltrasound หอ้ งเกบ็ อปุ กรณ์ทางการแพทย์ หอ้ งเก็บอุปกรณ์ทาํ ความสะอาด ทางสัญจรผ้ปู ว่ ย ทางสญั จรเจ้าหนา้ ท่ี 3. การควบคมุ การติดเชือ้ ทางอากาศ (Airborne Infection Control) การป้องกันการแพร่กระจายเชอ้ื ทางอากาศในสถานพยาบาล หลักการสําคญั ในการปอ้ งกันและควบคุม การแพร่กระจายเช้ือโรค/โรคทมี่ กี ารแพรก่ ระจายทางอากาศ โดยมจี ุดประสงคท์ ่ีจะลดความเขม้ ข้นของเช้ือที่อยู่ใน รปู ของละอองฝอย (droplet nuclei) ในอากาศ โดยใชห้ ลกั การทางวศิ วกรรม และสถาปัตยกรรม การควบคมุ นี้ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ • Primary environmental controls คือการควบคมุ ทแ่ี หล่งแพร่เชอื้ ซง่ึ อาจจะเปน็ ผู้ป่วยโดยใชก้ ารระบาย อากาศเฉพาะที่ (local exhaust ventilation) และขจดั เชื้อโรคโดยระบบการระบายอากาศปกติของอาคาร (General ventilation) • Secondary environmental controls คือการควบคมุ มใิ หอ้ ากาศโดยรอบบรเิ วณแหลง่ โรค เช่น บริเวณ โดยรอบหอ้ งแยกผูป้ ว่ ยที่แพรก่ ระจายเช้ือทางอากาศปนเปื้อนเชือ้ โรค โดยการควบคมุ ทศิ ทางการไหลของอากาศ การกรองดว้ ยแผงกรองอากาศหรอื การใช้ UVGI (Ultraviolet germicidal irradiation) รายละเอยี ดเรอื่ ง environmental controls นจี้ ะกล่าวโดยละเอยี ด ในหัวข้อคณุ ภาพอากาศในสถานพยาบาล และมาตรฐานการ ออกแบบระบบปรบั อากาศและระบายอากาศในสถานพยาบาล กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 3-10  

คมู อื การออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอม: แผนกผูปวยนอก 11 4. การป้องกันเชื้อเข้า - ออก เพื่อให้เกดิ ความปลอดภัยของคุณภาพอากาศจงึ ต้องมกี ารออกแบบอาคารและสถานทใ่ี หไ้ ด้มาตรฐาน ตามหลกั ดังนี้ 1) การออกแบบเพ่อื ป้องกันเชื้อโรคเขา้ (ความดนั บวก) หรอื ป้องกันเชอ้ื โรคออกจากห้อง (ความดัน ลบ) 2) การกําจดั เช้ือโรคออกจากอากาศโดยหลักมาตรฐานการกรอง ในอากาศมีแหล่งกําเนิดทงั้ จาก ภายนอกและภายในหอ้ งโดยปริมาณเชอื้ ภายในหอ้ งมสี ดั ส่วนโดยตรงกับจาํ นวนคนทเี่ คล่ือนไหวทาํ งานใน ห้อง1 การกําจดั เชือ้ จากภายนอกทาํ ได้โดยให้อากาศที่เตมิ เขา้ มาในระบบผา่ นการกรองก่อนทีจ่ ะจ่ายเข้าสู่ หอ้ ง สําหรับการกาํ จดั เชื้อทเ่ี กดิ ภายในหอ้ งออกจากอากาศสามารถทาํ ไดโ้ ดยการหมุนเวยี นลมปริมาณมากๆ ภายในหอ้ งไปผา่ นแผงกรองอากาศประสิทธภิ าพสงู 3) การเจอื จางเชอ้ื ในอากาศโดยการเติมอากาศจากภายนอก (Outdoor Air, OA) การเติมอากาศเข้า มาผสมกับอากาศภายในห้องจะทําให้ความเข้มข้นของเชอื้ ลดลง โดยอัตราการเตมิ อากาศจากภายนอกท่ี เหมาะสมและอากาศจากภายนอกต้องผา่ นการกรองดว้ ยแผงกรองอากาศเชน่ เดียวกับลมหมุนเวียนในห้อง 4) ควบคุมทศิ ทางการไหลของอากาศจากทีส่ ะอาดมากไปหาจุดท่ีสะอาดน้อย มกี ารกาํ หนดทิศ ทางการไหลของอากาศภายในหอ้ งแต่ละประเภท เชน่ ห้องแยกโรคสาํ หรบั ผู้ปว่ ยทีแ่ พรเ่ ช้ือโรคทางอากาศ ลมท่จี ่ายเข้ามาจะตอ้ งผ่านบุคลากรก่อนแลว้ จงึ จะผ่านผู้ปว่ ย ทั้งนต้ี ําแหนง่ ของหัวจา่ ยลมหน้ากากลมกลับ ความเรว็ ลมทจี่ ่ายและความสามารถของพัดลมดดู ลมกลบั จะเปน็ ตัวกาํ หนดใหท้ ิศทางการไหลของอากาศ เปน็ ไปตามมาตรฐาน 5) การปอ้ งกันการเจริญเตบิ โตของเช้อื ภายในห้อง โดยควบคมุ ปรมิ าณความชืน้ เหมาะสมที่ทาํ ให้เชอ้ื โรคต่างๆ ไมเ่ จรญิ เตบิ โต 6) การระบายอากาศทิ้ง มีการกาํ หนดว่าการระบายทงิ้ อากาศทีป่ นเปอื้ นเชื้อโรคทแ่ี พร่กระจายทาง อากาศได้ ว่าจะตอ้ งระบายออกในตาํ แหน่งท่ีไม่เส่ยี งตอ่ การไปสัมผสั ผ้คู น เข้าไปยังอาคารอน่ื หรอื ยอ้ นกลับ เข้าสู่อาคารหากมีความเสี่ยงดังกลา่ ว อากาศท่ีจะระบายทิ้งจะต้องผา่ นแผงกรองอากาศระดับ HEPA filter กอ่ นปลอ่ ยท้งิ                                                             1 CDC, 1999 Guideline for Prevention of Surgical Site Infection กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 3-11  

คูม่ อื การออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม : แผนกผู้ป่วยนอก 12 4. สว่ นประกอบอาคารและวัสดปุ ระกอบอาคาร ส่วนประกอบอาคาร ประกอบด้วย พื้น ผนัง เพดาน ประตู และหน้าต่าง (ช่องเปิดและช่องแสง) โดยท่ัวไป ภายในแผนกผู้ป่วยนอก มีผู้มารับบริการต่อวันเป็นมากที่สุด ในภาพรวมของการออกแบบและเลือกใช้วัสดุ ประกอบอาคาร จึงต้องคํานึงถึงการดูแลรักษาได้ง่าย และจะต้องปลอดภัยในการใช้งานด้วย ท้ังนี้ การกําหนด คณุ ลักษณะของสว่ นประกอบอาคารและวสั ดปุ ระกอบอาคารภายในแผนกผ้ปู ว่ ยนอก มีรายละเอียดดังน้ี 4.1 พน้ื (FLOOR) สําหรับแผนกผ้ปู ว่ ยนอก มคี ณุ ลกั ษณะดงั น้ี 1) วสั ดุพื้น จะต้องมีความแขง็ แรง ทนทานตอ่ การสัญจรของคน รถเขน็ (Wheel chair) และ เปลนอน ทนทานต่อการเช็ดถูบอ่ ย และทนสารเคมี 2) ผิวพน้ื จะต้องสามารถทําความสะอาดไดง้ ่าย ไม่เปน็ แหล่งสะสมของเช้ือโรคและฝุ่นผง 3) ผวิ พ้ืน มผี วิ เรียบ แตไ่ ม่ลน่ื ท้งั ในเวลาแหง้ และเปยี ก จะตอ้ งไมต่ า่ งระดับกัน เพ่อื สะดวกต่อ การสญั จรของผ้ปู ว่ ยท่ีใช้เปลนอน และรถเข็น (Wheel chair) หรือการขนย้ายอุปกรณต์ า่ งๆ กรณีทจี่ าํ เป็นตอ้ งมีพนื้ ต่างระดบั จะต้องมกี ารปาดมุมลาดเอยี ง 1:1 หรอื 1:2 รูปท่ี 3 การปาดมุมลาดเอียง สาํ หรบั พื้นต่างระดบั 4.2 ผนัง (WALL) สําหรับแผนกผปู้ ว่ ยนอก มคี ุณลักษณะดงั น้ี 1) วสั ดุผนงั จะเนน้ ความทนทานตอ่ การใช้งานท่ยี าวนาน ผนังบรเิ วณทางสัญจรต่างๆ จะตอ้ งมีความแข็งแรงทนทานตอ่ แรงกระแทกและรอยขดี ขว่ นไดด้ ี 2) ผิวผนัง จะต้องสามารถดูแลรักษาความสะอาดได้งา่ ย ไมเ่ ปน็ แหล่งสะสมเชื้อโรคและฝุ่นผง 4.3 เพดาน (CEILING) สําหรับแผนกผ้ปู ว่ ยนอก มคี ณุ ลกั ษณะดงั น้ี 1) เพดานบริเวณทีใ่ ชง้ านท่วั ไป จะเน้นความทนทานต่อการใช้งานยาวนาน ดูแลรกั ษาไดง้ า่ ย มผี ิวเรยี บ ไมม่ รี พู รุน 2) ระดับความสูงเพดาน ภายในแผนก (ไมน่ อ้ ยกว่า 3.00 ม. สว่ นห้องทม่ี ขี นาดเลก็ เช่น ห้องน้ํา ห้องเก็บของ เปน็ ต้น สงู ไม่นอ้ ยกวา่ 2.50ม.) [1]                                                             1 กองแบบแผน : กําหนดจากความเหมาะสมต่อการระบายอากาศทด่ี ี และความรสู้ กึ ไมอ่ ดึ อัดของผูอ้ ย่อู าศยั กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 4-12

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม : แผนกผู้ปว่ ยนอก 13 4.4 ประตู (DOOR) สําหรบั แผนกผู้ปว่ ยนอก มีคณุ ลกั ษณะดงั นี้ ในแผนกผู้ป่วยนอกน้ัน การเลือกใช้ประตูท่ีเหมาะสม โดยเน้นท่ีประตูห้องตรวจโรคต่างๆ ที่มีการ เคล่ือนย้ายผู้ป่วยด้วยรถเข็น (Wheelchair) และเปลนอน ส่วนรายละเอียดของประตูควรคํานึงถึงในการออกแบบ มีดังนี้ 1) รูปแบบประตู สามารถเปิดปิดได้ง่าย สะดวก ไม่เกะกะทางเดิน 2) ความกว้างสุทธิ ของช่องประตู[1] ดังน้ี  ทางเข้าหลกั ของแผนก กวา้ งไมน่ อ้ ยกว่า 1.80[2] ม.  หอ้ งต่างๆที่สามารถนําผูป้ ว่ ยน่ังรถเขน็ (Wheelchair) เข้าได้ มกี วา้ งไม่นอ้ ยกว่า 0.90[4] ม.  หอ้ งตา่ งๆ ทีส่ ามารถนาํ ผปู้ ่วยนอนเปลเขา้ ได้ กวา้ งไม่น้อยกว่า 1.20[2] ม. หรือ 1.80[3] ม.  ประตหู ้องเก็บเครือ่ งมอื มีความกว้างไม่นอ้ ยกว่า 1.10 - 1.20[2] ม. หรือมากกว่าเพื่อ เตรยี มสําหรบั การขนย้ายเครือ่ งมือและอุปกรณ์ขนาดใหญไ่ ด้สะดวก (ระยะที่ใชงานสะดวก ควรกวา งประมาณ 1.80 ม.) รูปท่ี 4 ความกว้างสุทธิของช่องประตูแบบต่างๆ 3) ประตภู ายในแผนก ตอ้ งไม่มธี รณปี ระตู หรอื สง่ิ กีดขวา้ งใดทเ่ี ปน็ อปุ สรรค 4) วัสดุประตูและอปุ กรณ์ประกอบ จะตอ้ งมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานหนัก                                                             1 ความกวา้ งสทุ ธิของชอ่ งประตู หมายถึง ชอ่ งโล่งโดยไม่มสี ิ่งกีดขวาง เม่อื เปิดประตอู อกกว้างสุดแล้ว 2 กําหนดโดย กองแบบแผน 3 กาํ หนดโดย แนวทางพัฒนาระบบบริการทุติยภมู ิ และตติยภูมิ : สาํ นักพัฒนาระบบบริการสขุ ภาพ กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 4-13

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม : แผนกผ้ปู ่วยนอก 14 5) อุปกรณแ์ ละการติดตง้ั มือจบั ประตู[1] มีรายละเอยี ดดงั นี้  มอื จับบานเปดิ ทั่วไป ใหเ้ ปน็ แบบกา้ นโยกหรอื ก้านผลกั ตําแหน่งอยสู่ ูงจากพนื้ ประมาณ 1.00 - 1.20 ม.  มือจบั บานเลอื่ น ใหม้ ีมือจับในแนวดงิ่ ทงั้ ดา้ นในและด้านนอก ซึง่ มปี ลายดา้ นบนสูง จากพน้ื ไมน่ อ้ ยกว่า 1.00 ม. และปลายด้านล่างไมเ่ กิน 0.80 ม.  มอื จบั บานสวิง แนวนอนคาดตามความกว้างของบาน สูงจากพนื้ ประมาณ1.00-1.20 ม. หรือเป็นแนวตง้ั แบบประตูบานเลือ่ นกไ็ ด้ รปู ท่ี 5 อปุ กรณแ์ ละการติดตัง้ มอื จับประตูแบบตา่ งๆ 4.5 หนา้ ตา่ ง (WINDOW) และชอ่ งแสง การใช้งานบานหนา้ ตา่ งในแผนกผู้ป่วยนอกนนั้ เพอื่ ระบายอากาศและรับแสงสวา่ งธรรมชาติ สว่ น รายละเอียดของหน้าตา่ งที่ต้องคํานงึ ถึงในการออกแบบมีดงั น้ี 1) วสั ดุและอุปกรณป์ ระกอบ จะตอ้ งมีความแข็งแรงคงทน อุปกรณ์ใชง้ านได้ดีและสะดวก ดูแลรักษาและทําความสะอาดได้งา่ ย 2) ลูกฟักหนา้ ตา่ งและชอ่ งแสงทเี่ ปน็ กระจก สามารถตดั แสงและปอ้ งกนั ความรอ้ นจาก แสงแดดได้ดี                                                             1 กฎกระทรวงกําหนดส่งิ อาํ นวยความสะดวกในอาคารสําหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ. 2548 กองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 4-14

ค่มู อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม : แผนกผ้ปู ่วยนอก 15 ตารางที่ 2 สรปุ คณุ ลกั ษณะของสว่ นประกอบอาคารและวัสดปุ ระกอบอาคาร พน้ื ผนงั เพดาน ประตู หน้าตา่ ง (Floor) (Wall) (Ceiling) (Door) (Window) บริเวณหรือส่วนต่างๆ ความแ ็ขงแก ่รงของผิว แผนกพยาธิวทิ ยาคลนิ กิ ผิวพื้นชนิดไ ่มล่ืน รอยต่อของ ัวสดุผิวพื้น ดูแล-ทําความสะอาด คุณสม ับติพิเศษอื่นๆ ความแ ็ขงแก ่รงของผิว รอยต่อ ัวสดุผิวผนัง ดูแล-ทําความสะอาด คุณสม ับติพิเศษอ่ืนๆ ความสูงเพดาน (ม.) ปรับอากาศ / ไ ่มปรับอากาศ ความทนทาน รอยต่อ ัวสดุเพดาน คุณสม ับติพิเศษอื่นๆ ความกว้างประตู (ม). ัวส ุด ุอปกรณ์ ัวส ุด ุอปกรณ์ คุณสม ับติพิเศษอ่ืนๆ บริเวณท่ัวไป ภายในแผนก - โถงทางเข้า/พักรอ/ทางเดนิ 1  1 1 111 ≥3.00 11 1.80 1 1 - หอ้ งตรวจโรคท่วั ไป ,ห้อง 1  1 1 111 ≥3.00 11 0.90 1 1 ตรวจภายใน , หอ้ ง EKG 11 1 111 ≥3.00 11 1.20 1 1 - ห้องตรวจ(ผู้ปว่ ยนอนเปล), ห้องฉดี ยาทําแผล - ห้องใหค้ าํ ปรกึ ษา 11 1 111 ≥3.00 11 0.90 1 1 - ห้องพักเจ้าหน้าที่ 11 1 111 ≥3.00 11 0.80 บริเวณที่เกยี่ วข้องกบั ส่ิง สกปรก 32 2 212 ≥2.50 21 0.70 2 1 - ห้องนํ้า (เจ้าหน้าท)ี่ 32 2 212 ≥2.50 21 0.90 2 1 - ห้องนํา้ (ผ้ปู ว่ ย) 32 2 212 ≥2.50 21 1.10 1 1 - ลา้ งน่งึ เครือ่ งมอื ,เก็บของ สกปรก หมายเหตุ : ความหมายของค่าตวั เลขดูจาก “คําอธบิ ายประกอบตาราง” กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 4-15

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม : แผนกผูป้ ว่ ยนอก 16 คาํ อธบิ ายประกอบตาราง เพดาน (Ceiling) ความคงทนของวัสดุเพดาน พนื้ (Floor) 1 = เพดาน มีความแขง็ แรง คงทน ความแขง็ แกร่งของผิวพนื้ 2 = เพดาน มีความแข็งแรง คงทน และทนชื้นได้ดี 1 = ผวิ หนา้ มคี วามทนทานต่อการใช้งานทั่วไป รอยต่อของวัสดเุ พดาน 2 = ผวิ หนา้ มคี วามแขง็ แกร่ง และทนสารเคมี 1 = มีหรือไม่มรี อยตอ่ ก็ได้ 3 = ผิวหนา้ มีความแข็งแกร่ง ทนรอยขีดขว่ น 2 = เพดานเรียบ ไม่มีรพู รนุ มีรอยตอ่ นอ้ ยหรอื ทนน้ําและสารเคมี ไม่มีรอยต่อ 4 = ผวิ อ่อนนุ่ม เหมาะสําหรบั เด็ก ผู้สูงอายุ 3 = เพดานเรียบ ไมม่ ีรพู รนุ และไม่มีรอยต่อ และกายภาพบาํ บัด คุณสมบตั พิ เิ ศษอื่นๆ (ไม่ม)ี 5 = โครงสร้างและผวิ หนา้ แขง็ แรงรบั นา้ํ หนัก เครื่องมือหนกั ได้ ประตู (Door) รอยต่อของวสั ดผุ ิวพืน้ ความกว้างช่องประตู (ตามทร่ี ะบุในตาราง) 1 = มหี รือไมม่ รี อยตอ่ กไ็ ด้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 2 = มีรอยตอ่ นอ้ ย และตดั ขอบตรง ไม่โคง้ นูน 1 = ใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ แขง็ แรง คงทน 3 = ตอ้ งไม่มีรอยตอ่ (เชื่อมรอยต่อสนทิ ) หรือ 2 = ใชว้ ัสดุอุปกรณ์ชนิดกันนํา้ มีรอยตอ่ น้อยมาก 3 = ใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์กนั รงั สไี ด้ และHeavy duty ดแู ลรกั ษา-ทําความสะอาด 1 = ผิวเรียบ ไม่มีรูพรุน เช็ดถทู าํ ความสะอาดไดง้ า่ ย คณุ สมบัติพเิ ศษอน่ื ๆ (ไม่ม)ี 2 = ผิวเรียบ ไม่มีรพู รนุ ขัดถูทาํ ความสะอาดไดง้ ่าย คณุ สมบัตพิ ิเศษอ่ืนๆ (ไม่มี) หน้าต่าง (Window) และชอ่ งแสง วัสดุอุปกรณ์ ผนัง (Wall) 1 = ใชว้ ัสดุอุปกรณ์ แข็งแรง คงทน ความแข็งแกรง่ ของวสั ดุผนงั 2 = ใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ Heavy duty 1 = ผนงั มคี วามทนทานตอ่ การใชง้ านท่ัวไป 2 = ผนังทนรอยขดี ข่วน ทนน้ําและสารเคมี คณุ สมบัติพิเศษอน่ื ๆ 3 = ผวิ ผนงั อ่อนน่มุ เหมาะสาํ หรับ เด็ก ผู้สงู อายุ 1 = กรอบบานและช่องมองกระจกใช้แบบทกี่ ันรงั สไี ด้ 4 = ผนังกนั รังสเี อกซเรย์ ได้ในระดบั ปลอดภยั รอยต่อของวัสดผุ นงั หมายเหตุ 1 = มีหรือไมม่ รี อยต่อกไ็ ด้ - ผ้อู อกแบบสามารถใช้วสั ดุท่ีมคี ุณลักษณะดกี ว่าท่กี าํ หนดได้ 2 = มรี อยต่อนอ้ ย และตัดขอบตรง ไม่โคง้ นูน 3 = ต้องไมม่ รี อยตอ่ (เชอ่ื มรอยต่อสนทิ ) หรือ มีรอยต่อน้อยมาก ดแู ลรกั ษา-ทําความสะอาด 1 = ผวิ เรียบ เชด็ ทําความสะอาดไดง้ า่ ย 2 = ผวิ เรียบ ขดั ถูทําความสะอาดได้งา่ ย คณุ สมบัติพิเศษอ่ืนๆ 1 = ผนังบแุ ผน่ ตะก่วั กรณเี สริมผนงั ห้องเอกซเรย์ 2 = ผนังบุแผน่ ทองแดง กรณีเสริมผนงั หอ้ ง MRI กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 4-16

ค่มู ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผ้ปู ่วยนอก 17 5. ครุภัณฑ์ประกอบอาคาร (FURNITURE) ครภุ ณั ฑป์ ระกอบอาคาร ของแผนกผปู้ ่วยนอก แบ่งออกเปน็ 1) ครุภัณฑ์ติดตั้งกับที่ (BUILT IN FURNITURE) หมายถึง ครุภัณฑ์ท่ีติดตั้งคงที่ในพื้นท่ีน้ันๆ ไม่สามารถ เคล่อื นยา้ ยได้ ตวั อยา่ งเช่น เคานเ์ ตอรต์ ดิ ต่อ เคาน์เตอร์พยาบาลสังเกตการณ์ (NURSE STATION) ตู้พ้ืน ตู้แขวน ตู้ สูง ตู้อ่างล้างมือ เป็นตน้ 2) ครุภัณฑ์สําเร็จรูปลอยตัว (LOOSE FURNITURE) หมายถึง ครุภัณฑ์ที่สามารถเคล่ือนย้ายไปตําแหน่ง ต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น เก้าอี้ทํางาน เก้าอ้ีแถวพักคอย สําหรับคนไข้น่ังคอย ตรวจ รอรับยา โต๊ะตรวจสําหรับแพทย์ โต๊ะทาํ งานเจ้าหน้าที่ เป็นต้น ภายในแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) สามารถจัดแบ่งครุภัณฑ์ตามพ้ืนท่ีใช้สอยและกิจกรรมของแต่ละพ้ืนที่การ ใชง้ าน ท้งั สาํ หรับเจา้ หนา้ ที่ผูป้ ฏบิ ตั งิ าน และผ้มู ารับบรกิ าร ตามตารางท่ีแสดงดงั นี้ กองแบบแผน กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 5-17  

ตารางท่ี 3 แสดงความต้องการครุภัณฑ์ประกอบอาคาร (FURNIT ครภุ ัณฑ์ ประกอบอาคาร ่สวน ีท่ 2: ้ืพน ี่ทป ิฏบั ิตงานห ัลกของแผนกโดย ู้ผใ ้หบ ิรการและ/ห ืรอ ่สวนท่ี 1: ้ืพนที่บ ิรการ ่สวนหน้า กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ พ้นื ทีใ่ ชส้ อย ่ ● ● เคา ์นเตอ ์รประชา ัสม ัพน ์ธ●1 รับ-สง่ ผู้ปว่ ย เคา ์นเตอ ์ร ํทางานพยายาล โ ๊ตะ ํทางาน●2 ศูนยเ์ ปล โ ๊ตะเ ้จาห ้นา ่ีท/โ ๊ตะตรวจ โ ๊ตะประ ุชม●10 ●6 พักรอผปู้ ่วย-ญาติ โ ๊ตะเอนกประสงค์●10 ●6 ู้ตสูงเ ็กบของ●10 ●6 ประชาสัมพันธ์ ู้ตเ ็กบเอกสาร ●6 ู้ต LOCKER● ●6 ซกั ประวตั ิคดั กรอง ู้ต ัหวเ ีตยง ตรวจโรคทว่ั ไป/ ตรวจ ู้ต PANTRY + ู้ตแขวน ●6 เฉพาะโรค ู้ต ื้พน + อ่างล้างมือ ● 5-18 ตรวจโรคติดต่อ * ●7 ตรวจภายใน รักษาพยาบาล (Treatment) ใหค้ าํ ปรึกษา ผา่ ตดั เล็ก * - เปลีย่ นชดุ - ผา่ ตัดเล็ก - เก็บของสะอาด

  เคานเ์ ตอร์ ค.ส.ล.+ อ่าง TURE)กับ ภายในพ้นื ท่ใี ช้สอยของแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) โต๊ะสแตนเลส ประเภท ●5 ●5 ●5 ● ● ● ●5 ● ●4 ●3 ชุดโต๊ะ+ อา่ งสแตนเลส ชัน้ โครงเหล็ก ●4 ●4 ●4 ชนั้ สแตนเลส ●4 เกา้ อเี้ จ้าหนา้ ท่ี เก้าอีผ้ ูป้ ่วย หมาย เกา้ อีแ้ ถวพักคอย เหตุ เกา้ อ้ปี ระชุม โซฟาชุดรับแขก ● ●15 โซฟาญาตเิ ฝา้ ไข้ ● เตียงตรวจ ** ● ●15 เตียงนอนเจา้ หน้าที่ ● ●15 มา่ นกนั้ เตียงผ้ปู ่วย คู่ ืมอการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดล้อม:แผนกผู้ป่วยนอก 18

ตารางที่ 3 แสดงความตอ้ งการครุภัณฑ์ประกอบอาคาร ( ครุภัณฑ์ เคา ์นเตอ ์รประชา ัสม ัพน ์ธ ประกอบอาคาร เคา ์นเตอ ์ร ํทางานพยายาล พ้ืนที่ใช้สอย โ ๊ตะ ํทางาน โ ๊ตะเ ้จาห ้นา ี่ท/โ ๊ตะตรวจ - ล้าง-นึ่ง เคร่อื งมอื โ ๊ตะประ ุชม โ ๊ตะเอนกประสงค์ หวั หน้าแผนก ู้ตสูงเ ็กบของ ู้ตเ ็กบเอกสาร ทํ า ง า น / พั ก ู้ต LOCKER แพทย์ ู้ต ัหวเ ีตยง ประชุม ู้ต PANTRY + ู้ตแขวน เอนกประสงค์/ กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ พกั เจ้าหน้าที่ ่สวน ี่ท 3: พ้ืน ่ีทส ันบส ุนนการให้บริการและ ่สวนที่ 1: ื้พนที่บ ิรการ ่สวนหน้า ํสาห ัรบู้ผป่วยและ/ห ืรอ ู้ผมา ัรบบ ิรการและญา ิต ● เตรียมอาหาร ● ว่าง/ เคร่อื งดื่ม เก็บอุปกรณ์ ● ●13 ทางการแพทย์ ●11 ● เกบ็ ของสะอาด ●7 เกบ็ ของใช้ ●7 สว่ นตัว/ เปลยี่ นชดุ การป ิฏ ับ ิตงาน หมายเหตุ รายการทมี่ เี คร่อื งหมาย (*) หมายถงึ พื้นทก่ี ารใชง้ านทอ่ี าจมเี พม่ิ เตมิ ในโรงพยาบาลระดับทตุ

ตยิ ภมู ริ ะดับสูงถึงระดบั ตตยิ ภมู ิ (**) หมายถงึ ครุภณั ฑท์ างการแพทย์ โรงพยาบาลจัดหาเอง ●12 ●8 ●9 ตู้พืน้ + อ่างล้างมือ (FURNITURE)กบั ภายในพน้ื ท่ใี ช้สอยของแผนกผู้ปว่ ยนอก (OPD) 3 เคานเ์ ตอร์ ค.ส.ล.+ อา่ ง ประเภท 5-19   ● ●14 ● โต๊ะสแตนเลส ●14 ชดุ โต๊ะ+ อ่างสแตนเลส ● ช้นั โครงเหลก็ ● ช้นั สแตนเลส เกา้ อี้เจา้ หนา้ ที่ เกา้ อผี้ ู้ป่วย เกา้ อี้แถวพักคอย เกา้ อี้ประชุม โซฟาชุดรับแขก โซฟาญาตเิ ฝ้าไข้ เตยี งตรวจ ** เตยี งนอนเจา้ หน้าที่ มา่ นก้ันเตียงผ้ปู ่วย หมาย เหตุ คู่ ืมอการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดล้อม:แผนกผู้ป่วยนอก 19

คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผู้ปว่ ยนอก 20 ตารางท่ี 4 ขนาดและลักษณะครุภัณฑ์ (เฟอร์นิเจอร์ตดิ ต้ังกบั ที่และเฟอรน์ เิ จอร์ลอยตัว) ภายในแผนกผปู้ ว่ ยนอก OPD สญั ลกั ษณ์ รายละเอยี ดครุภัณฑ์ รปู ภาพประกอบ ●1 เคาน์เตอร์ประชาสัมพนั ธ์ Top เคาน์เตอร์สูงประมาณ 1.05 เมตร,มีระดับ เคาน์เตอร์สําหรับผู้พิการน่ังรถเข็น*** Wheel Chair มาติดต่อ สูง 0.75 เมตร พร้อมป้าย สัญลักษณ์ผพู้ กิ าร ●2 โต๊ะทํางาน (ซักประวตั ิ ,คัดกรอง ,วดั ความดนั ) สูง 0.75 เมตร ●3 เกา้ อ้ีแถวพักคอย   ขนาด 3 – 4 ทน่ี ั่งตอ่ 1 ชุด ทนี่ ั่ง และพนักพงิ ควร   เปน็ วัสดพุ น้ื ผวิ ทาํ ความสะอาดง่าย เช่น โพลีพร็อพ โพลีน, ไฟเบอร์กลาส หรือเบาะหุ้มหนังเทียม (ตามความเหมาะสมกบั พนื้ ทใ่ี ช้สอย) ●4 เกา้ อส้ี าํ หรับผ้ปู ่วยน่ังตรวจ ควรเป็นเก้าอี้ 4 ขา (ไม่มีลูกล้อ) เพ่ือให้มั่นคงไม่ เลื่อนไปมา ท่ีนั่ง และพนักพิง ควรเป็นวัสดุพ้ืนผิว ทําความสะอาดง่าย ●5 เกา้ อเ้ี จา้ หนา้ ท่ีหรอื แพทย์ เก้าอี้สํานักงานขาลกู ล้อ ท่นี ่ัง และพนักพงิ ควร เปน็ วัสดุพน้ื ผวิ ทาํ ความสะอาดงา่ ย กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 5-20  

คู่มือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 21 สญั ลกั ษณ์ รายละเอยี ดครภุ ัณฑ์ รปู ภาพประกอบ ●6 ตพู้ ืน้ +อ่างล้างมือ ขนาดโดยประมาณ 0.60x~x0.80 เมตร Top หินแกรนติ หรือเปน็ วสั ดุกันนํ้า อ่างล้างมือเป็นอ่าง อเนกประสงค์เคลือบขาว ก๊อกน้ําควรใช้ ก๊อกน้ํา ชนิดไม่ใช้มือสัมผัสในการปิด-เปิด เช่น ก๊อกนํ้า ชนดิ กา้ นปัดดว้ ยขอ้ ศอกหรือแบบเซนเซอร์ ●7 ต้สู ูงเกบ็ ของ ขนาดความลึกของตู้ 0.60 เมตร ความสูงประมาณ 2.00 เมตร บานตู้ด้านบนเป็นบานทึบหรือบานลูก ฟักกระจก บานตูด้ า้ นลา่ งเป็นบานทึบ ●8 เคานเ์ ตอร์ คสล.+ อ่างล้าง เคาน์เตอร์ คสล. Top พร้อมบัวหินแกรนิตชนิดที่ ซึมนํ้าน้อยความลึกเคาน์เตอร์ประมาณ 0.60 - 0.70 เมตร สูงประมาณ 0.80 เมตร จากระดับ 0.80เมตร เหนือระดับเคาน์เตอร์ข้ึนไปติดบัว หินแกรนิตและบุกระเบื้องเซรามิค สูงประมาณ 0.40 เมตร อ่างอเนกประสงค์ เคลือบขาว ก๊อก นํ้าควรใช้ ก๊อกนา้ํ ชนดิ ก้านปัดดว้ ยข้อศอก กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 5-21  

คู่มือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 22 สัญลกั ษณ์ รายละเอียดครุภณั ฑ์ รปู ภาพประกอบ ●9 ชดุ โตะ๊ อ่างสแตนเลส ความลึกของโตะ๊ ประมาณ 0.70 เมตร สงู ประมาณ 0.80 เมตร พรอ้ มปกี กันกระเซ็นด้านหลงั โตะ๊ สงู จาก TOP ประมาณ 0.20 เมตร สแตนเลสใช้เกรด 304 พบั ขึ้นรูป เปน็ โตะ๊ พรอ้ มอ่าง ●10 โตะ๊ เจา้ หน้าท่ี/โตะ๊ ตรวจ   โต๊ะทํางานขนาดประมาณ 0.60 x 1.20 เมตร   Top ควรเป็นลามิเนท หรือวัสดุผิวเรียบทําความ สะอาดงา่ ย     ●11 โต๊ะเอนกประสงค์ โต๊ะ ขนาดประมาณ 0.90x1.50, 180, 2.10x0.75   เมตร (เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับพื้นที่) Top ควรเป็นลามิเนทหรือวัสดุผิวเรียบทําความสะอาด ง่าย ขาเหล็กสี่ขา เพื่อง่ายแก่การทําความสะอาด พ้ืน และเคลื่อนย้ายงา่ ย ●12 เก้าอเ้ี จา้ หนา้ ท่ี (สําหรบั โตะ๊ อเนกประสงค์) ควรเปน็ เกา้ อี้ 4 ขา (ไมม่ ลี กู ลอ้ ) ใชน้ ง่ั ทานอาหาร และประชมุ ไมเ่ ปน็ ทางการ ●13 ตPู้ ANTRY + ตแู้ ขวน ตู้พ้ืนลึก 0.60 เมตร สูง 0.80 เมตร ต้แู ขวนลกึ 0.35 เมตรสงู 0.60 เมตร Top ตพู้ ้ืนหินแกรนิต หรอื วสั ดุกนั นํ้าอ่างสเตนเลส พรอ้ มท่ีพักจาน ก๊อก น้าํ ควรใช้ กอ๊ กน้ําชนิดไมใ่ ช้มือสมั ผสั ในการปิด- เปดิ เชน่ ก๊อกนํ้าชนิดกา้ นปัดดว้ ยขอ้ ศอก กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 5-22  

ค่มู ือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผู้ปว่ ยนอก 23 สญั ลกั ษณ์ รายละเอยี ดครภุ ัณฑ์ รูปภาพประกอบ ●14 ชัน้ สเตนเลส ขนาดความลึก 0.50 เมตร สงู ประมาณ 2.00 เมตร ใช้สเตนเลสเกรด 304 ชั้นล่างสูงจากพ้นื 0.60 เมตร จาํ นวน 4 ชั้น ●15 ม่านก้นั เตยี ง (ผู้ปว่ ยสามัญ) ผา้ มา่ นสูงจากพน้ื 0.30 ม. ถงึ ระดับ 2.00 ม. แขวนราง อลูมเิ นยี ม จากระดบั 2.00 ม.ถึงระดบั ฝ้าเพดาน ยดึ รางด้วยเสาอลูมิเนียม เปน็ ชว่ งๆ จากระดบั เพดานขึน้ ไป เตรียมโครงยึดเสาราง เพื่อให้มนั่ คงแขง็ แรง กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 5-23

คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 24 6. นาฬกิ าชีวภาพ จังหวะรอบวัน และการออกแบบอาคาร แผนกผ้ปู ว่ ยนอก Chronobiology, Circadian Rhythm and Building Design (OPD) “Chronobiology” เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับจังหวะการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการเมแทบอลิซึม ตามช่วงเวลา ต้ังแต่ระดับวินาทีไปจนถึงช่วงฤดูกาล ที่รู้จักกันดีท่ีสุดคือ จังหวะรอบวัน (circadian rhythm) ซึ่ง เป็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งมีชีวิตในรอบ 24 ช่ัวโมงท่ีโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์[1][2] โดยรายละเอียดของ circadian rhythm น้ันได้ถูกแจกแจงในเอกสาร \"คู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดล้อม ฉบับ ท่วั ไป\" รูปที่ 6 กลไกของ Circadian Rhythm[3] รปู ที่ 7 ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงของมนษุ ย์ ทส่ี มั พนั ธก์ ับ Circadian Rhythm[4]                                                              1 Wirz-Justice, A., & Fournier, C. (2010). Light, Health, and Wellbeing: Implication from chronobiology for architectural design. Design & Health Scientific Review , 44-49. 2 ตีระวัฒนพงษ,์ ณ. (2011). Chronobiology and Chronotherapeutics. สารเภสชั ศาสตร์ , 6-7. 3 Wirz-Justice, A., & Fournier, C. (2010). Light, Health, and Wellbeing: Implication from chronobiology for architectural design. Design & Health Scientific Review , 44-49. กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 6-24  

ค่มู ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผ้ปู ่วยนอก 25 ผลจากการศึกษาต่างๆ สามารถสรปุ เป็น ขอ้ แนะนําดา้ นการออกแบบแผนกผปู้ ว่ ยนอก ไดด้ งั นี้  ควรใช้แสงธรรมชาติสร้างความสว่างในแผนกผู้ป่วยนอกเท่าท่ีจะสามารถทําได้ และควรให้เจ้าหน้าท่ี ผปู้ ฏบิ ตั ิงาน ผปู้ ว่ ย และญาติผปู้ ว่ ย สามารถเหน็ สง่ิ แวดล้อมภายนอกอาคารได้  แสงสีฟ้า (แสงที่มีความยาวคล่ืนแสงประมาณ 480 นาโนเมตร) นั้นเป็นสิ่งสําคัญต่อการกระตุ้น Melanopsin (เซลล์รับแสงท่ีอยู่ในจอตา - Retina) ทําให้มนุษย์เกิดการต่ืนตัว ไม่ง่วงหงาวหาวนอน เน่ืองจากแสงสีฟ้ามีอิทธิพลต่อการระงับการหล่ังสาร melatonin และยัง กระตุ้นการทํางานของระบบ ตอ่ มไร้ท่อ (neuroendoctrine) และระบบประสาท (neurobiological) ของมนุษย์ให้ทํางานเป็นปกติ อีกด้วย[5] ซง่ื แสงสฟี ้านจ้ี ะเป็นส่วนหน่งึ ของแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ รูปท่ี 8 Spectrum ของแสงทม่ี องเหน็ (Visible Light)[6]                                                                                                                                                                                                 4 Mrabet, Y. (2014, October 14). All for a good night’s sleep! Retrieved June 22, 2015, from Consciousness Energetics Blog: http://imaginalhealth.com/blog/category/sleep/ 5 Pechacek, C. S., Andersen, M., & Lockley, S. W. (2008). Preliminary Method for Prospective Analysis of the Circadian Efficacy of (Day)Light with the Applications to Healthcare Architecture. The Journal of the Illuminating Engineering Society of North America , 1-26. 6 Laurent, M. C., & Spengler, J. D. (2014, March 9). Lighting and Health. Cambridge, Massachusetts, United States. กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 6-25  

คู่มือการออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 26 รปู ท่ี 9 Spectra จากหลอดไฟส่องสว่างประเภทตา่ งๆ[7] รปู ที่ 10 Spectra จากหลอดไฟสอ่ งสว่างประเภทตา่ งๆ[8]                                                             7 Laurent, M. C., & Spengler, J. D. (2014, March 9). Lighting and Health. Cambridge, Massachusetts, United States. 8 Laurent, M. C., & Spengler, J. D. (2014, March 9). Lighting and Health. Cambridge, Massachusetts, United States. กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 6-26  

คูม่ อื การออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ่วยนอก 27 รูปท่ี 11 ผลของแสงทีก่ อ่ ให้เกดิ การตื่นตวั ในมนษุ ย[์ 9]  ในการใช้แสงประดิษฐ์ (artificial lighiting) ช่วยในการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริม circadian rhythm ภายในอาคาร ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มแสงสว่างภายในอาคาร ชดเชยปริมาณแสงสว่างเพื่อให้ คล้ายคลึงแสงธรรมชาตินั้น อาจเป็นการเพิ่มภาระในการทําความเย็นของระบบปรับอากาศและเพิ่ม ปริมาณการใช้พลังงานในอาคาร โดยผู้ออกแบบสามารถเลือก ใช้หลอดไฟฟ้าที่มีแสงท่ีมีอุณหภูมิสี สูงข้ึน (เป็นแสงสีฟ้ามากข้ึน) จะเป็นการกระตุ้น circadian rhythm ของผู้ใช้อาคารโดยไม่จําเป็นต้อง เพิ่มความเข้มแสง (illumination intensity) ของหลอดไฟฟ้า แต่ให้พิจารณาความเหมาะสมดังที่แสดง ใน รูปท่ี 11 เนื่องจากแสงที่อุณหภูมิสีสูงขึ้นจะสามารถสร้างความไม่สบายตาได้ (uncomfortably cool) [10] และควรคํานึงถึงดัชนีของสีแสงประดิษฐ์ในแผนกผู้ป่วยนอก ดังรายละเอียดที่ระบุใน \"หัวข้อ ท่ี 7 งานระบบวศิ วกรรมไฟฟา้ และสือ่ สาร\" เปน็ สําคัญ  ควรระมัดระวังในการใช้งาน กระจกย้อมสีในช่องเปิดอาคาร (tinted windows) โดยเฉพาะอย่างย่ิง กระจกย้อมสีชาหรือสเี ทา เนือ่ งจากกระจกยอ้ มสีน้ี ลดการส่องผ่าน คลื่นแสงสีนํ้าเงินในแสงอาทิตย์ ซ่ึง เป็นคลน่ื แสงสาํ คญั ในการสรา้ งความตื่นตัวของ circadian rhythm ในมนุษย์[11]  นอกจากน้ันการรับรู้ถึงสภาพแสงของคนต่างวัยน้ัน ขึ้นอยู่กับความเปล่ียนแปลงของสภาพร่างกายของ คนในวยั ตา่ งๆดว้ ย พบว่า กระจกตาของผู้สูงอายุจะมีสีที่เปล่ียนไป โดยจะเป็นสีเหลืองเพ่ิมมากข้ึน ซ่ึง กระจกตาที่เปล่ียนเป็นสีเหลืองจะ ลดความสามารถส่งผ่านแสงสีฟ้า (แสงท่ีมองเห็นได้ ท่ีมีความยาว                                                             9 Pechacek, C. S., Andersen, M., & Lockley, S. W. (2008). Preliminary Method for Prospective Analysis of the Circadian Efficacy of (Day)Light with the Applications to Healthcare Architecture. The Journal of the Illuminating Engineering Society of North America , 1-26. 10 Pechacek, C. S., Andersen, M., & Lockley, S. W. (2008). Preliminary Method for Prospective Analysis of the Circadian Efficacy of (Day)Light with the Applications to Healthcare Architecture. The Journal of the Illuminating Engineering Society of North America , 1-26. 11 Pechacek, C. S., Andersen, M., & Lockley, S. W. (2008). Preliminary Method for Prospective Analysis of the Circadian Efficacy of (Day)Light with the Applications to Healthcare Architecture. The Journal of the Illuminating Engineering Society of North America , 1-26. กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 6-27  

ค่มู ือการออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผู้ป่วยนอก 28 คล่ืนแสงสั้น) ดังที่แสดงไว้ใน รูปท่ี 12 และผู้สูงอายุจะมีสภาพสายตาท่ีสามารถรับรู้ถึงแสงสว่างได้ ลดลง ตัวอย่างเช่น กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ อายุ 60 ปี น้ันสามารถมองเห็นในสภาพแสงที่เกิดจากหลอด ไฟฟ้าฟลูโอเรสเซน (F11 4000 K) ที่ความสว่าง 1,415 lux เทียบเท่ากับผู้ท่ีมีอายุ 22 ปี มองเห็นที่ ความสว่าง 1,000 lux เปน็ ต้น[12]  ห้องภายในอาคาร ที่มีสีของผวิ ผนัง หรือ พ้ืน หรอื ฝ้าเพดาน ที่ทําให้บรรยากาศของห้องในภาพรวมเป็น สีแดง (predominantly red or red-shifted finishes) จะทําใหอ้ ิทธิพลหรอื ประสิทธภิ าพของไฟ ส่องสว่าง (the circadian efficacy of the light sources) ท่ีสนับสนุน circadian rhythm น้ัน ลดลงหรอื หมดไป โดยเฉพาะพืน้ ทที่ ลี่ ึกเขา้ มาจากเปลอื กอาคารซ่งึ หา่ งจากสงิ่ แวดลอ้ มภายนอก[13] รูปท่ี 12 กราฟแสดงการเปรียบเทยี บ การส่งผ่านแสงผา่ นกระจกตาของมนุษย์ ที่มีอายุ 20 ปี 60 ปี และ 80 ป[ี 14]                                                             12 Ámundadóttir, M. L., Lockley, S. W., & Andersen, M. (2013). Simulation-based evaluation of non-visual responses to daylight: Proof-of-concept study of healthcare re-design. Building Simulation 2013 (pp. 2757-2764). Chambéry, France: International Building Performance Simulation Association. 13 Pechacek, C. S., Andersen, M., & Lockley, S. W. (2008). Preliminary Method for Prospective Analysis of the Circadian Efficacy of (Day)Light with the Applications to Healthcare Architecture. The Journal of the Illuminating Engineering Society of North America , 1-26. 14 Ámundadóttir, M. L., Lockley, S. W., & Andersen, M. (2013). Simulation-based evaluation of non-visual responses to daylight: Proof-of-concept study of healthcare re-design. Building Simulation 2013 (pp. 2757-2764). Chambéry, France: International Building Performance Simulation Association. กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 6-28  

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผูป้ ่วยนอก 28 7. งานระบบวิศวกรรมไฟฟา้ และส่ือสาร 7.1 ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง นยิ าม ไฟฟ้าแสงสว่าง หมายถึงแสงสว่างที่เกิดจากส่ิงประดิษฐ์ แสงประดิษฐ์ (Artificial light) ได้แก่ แสงสว่าง จากหลอดไฟทุกชนิด ตลอดจนแสงท่ีเกิดจากสิ่งท่ีมนุษย์ประดิษฐ์ข้ึน เช่น แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent light) แสงจากหลอดแอลอีดี (LED) เป็นต้น เพื่อให้มีแสงสว่างใช้ในอาคาร ให้มีความสว่างเพียงพอ เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน รวมถึงสําหรับใช้ในการหนีไฟ เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร และสมาคม ไฟฟ้าแสงสวา่ งแหง่ ประเทศไทย รายละเอยี ด การส่องสว่างภายในโรงพยาบาลส่วนของแผนกผู้ป่วยนอก แต่ละพ้ืนที่มีการให้แสงท่ีแตกต่างกัน หลอดไฟท่ี เหมาะสม คือหลอดคูลไวท์ท่ีมีอุณหภูมิสี 4000 องศาเคลวิน[14] เพราะให้แสงสีแดงออกมาด้วย ซ่ึงเหมาะสําหรับ การตรวจรักษาทว่ั ไป ยกเวน้ โรคดีซา่ นซง่ึ หลอดไฟทเี่ หมาะคอื หลอดไฟที่มสี ีนา้ํ เงิน คอื หลอดเดยไ์ ลท์ เน่ืองจากการ เปล่ียนสีผิวท่ีเหลือง เห็นได้ชัดในหลอดไฟประเภทนี้ แต่อย่างไรก็ตามหลอดคูลไวท์ก็เหมาะสําหรับการรักษาส่วน ใหญ่อยู่ ดงั นัน้ จงึ สรุปได้ว่าหลอดไฟท่เี หมาะสมท่สี ุด คือหลอดคูลไวท์ หลอดไฟท่ีใช้ควรเป็นหลอดท่ีเหมือนกันหมด[14] เพ่ือไม่ให้เกิดการหลอกตาเน่ืองจากแสงที่ไม่เหมือนกันของ หลอดไฟในแต่ละพนื้ ท่ี เพราะอาจทําใหก้ ารตรวจวินิจฉัยโรคผิดได้ ยกเว้นบริเวณท่ีไม่เกี่ยวกับการรักษาวินิจฉัยโรค และคา่ ดัชนคี วามถกู ต้องของสคี วรไม่นอ้ ยกว่า 0.85 การใหแ้ สงสว่างภายในแผนกผปู้ ว่ ยนอก ประกอบดว้ ยห้อง ดังตอ่ ไปน้ี สว่ นท่ี 1: พน้ื ทีบ่ ริการสว่ นหน้าสําหรบั ผู้ป่วยและ/หรอื ผมู้ ารับบริการ ได้แก่  รบั -สง่ ผู้ปว่ ย  ศนู ย์เปล (อาจใชร้ ่วมกับแผนกอบุ ตั ิเหตุได)้  พักรอผู้ป่วย-ญาติ  ประชาสัมพนั ธ์  ซกั ประวตั ิ-คัดกรอง  สุขาผรู้ บั บรกิ าร สว่ นที่ 2: พ้นื ที่ปฏบิ ตั งิ านหลักของแผนกโดยผู้ให้บริการและ/หรือเจา้ หน้าท่ี ไดแ้ ก่  ตรวจโรคทว่ั ไป/ เฉพาะโรค (โรคไมต่ ิดตอ่ )  ตรวจโรคติดตอ่  ตรวจภายใน  รกั ษาพยาบาล (Treatment)  ใหค้ าํ ปรกึ ษา  ผา่ ตดั เล็ก (เฉพาะระดับตติยภูม)ิ  หัวหนา้ แผนก  พกั แพทย์  ประชุม กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 7-28  

คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผู้ป่วยนอก 29 ส่วนที่ 3: พ้ืนทส่ี นบั สนุนการใหบ้ รกิ ารและการปฏิบัติงาน ได้แก่  เอนกประสงค/์ พักเจ้าหน้าที่  เตรียมอาหารว่าง/ เคร่อื งดม่ื  เก็บอปุ กรณท์ างการแพทย์  เก็บของสะอาด  เกบ็ ของใช้ส่วนตัว/ เปลยี่ นชุด  สขุ าเจา้ หนา้ ท่ี/ ผ้ใู ห้บริการ  ล้าง-เกบ็ อปุ กรณท์ าํ ความสะอาดอาคาร การให้แสงสว่างพึงระวังในเร่ืองของแสงบาดตา และความสะอาด โคมที่เหมาะสําหรับใช้ในการตรวจรักษา คือ โคมประเภทที่มีลูมิแนนซ์ต่ํา[14] เพื่อลดแสงแยงตา เช่น โคมที่มีแผ่นกรองแสงเกล็ดแก้ว (Prismatic) หรือแผ่น กรองแสงขาวขุ่น(White Diffuser) เป็นต้น และในส่วนบริเวณโถงพักคอยควรเลือกใช้โคมไฟท่ีมีประสิทธิภาพสูง เช่น โคมไฟครอบตะแกรงพร้อมแผ่นสะท้อนแสงเงา เป็นต้น ความสว่างในแต่ละพ้ืนที่ให้เป็นไปตามมาตรฐาน สมาคมไฟฟ้าแสงสวา่ งแห่งประเทศไทย ตารางท่ี 5 ขอ้ แนะนําระดับความสอ่ งสวา่ งภายในอาคาร ของสมาคมไฟฟา้ แสงสวา่ งแห่งประเทศไทย[15] ประเภทของพ้นื ทแ่ี ละกิจกรรม EmLux UGR L R a(min) หมายเหตุ โรงพยาบาล 200 22 80 200 22 80 1. พ้นื ทร่ี อรับการรักษา 50 22 80 ความสอ่ งสว่างวดั ทร่ี ะดับพ้ืน 2. ทางเดินทวั่ ไปเวลากลางวัน 200 22 80 3. ทางเดินทัว่ ไปเวลากลางคนื 500 19 80 4. หอ้ งพกั รักษาผปู้ ่วยนอก 300 19 80 5. ห้องทาํ งานแพทย์ 6. ห้องพกั แพทย์ 100 19 80 ความส่องสวา่ งวดั ท่รี ะดับพน้ื 300 19 80 พ้นื ทีห่ อ้ งพักผ้ปู ว่ ยใน 1,000 19 80 5 19 80 1. พ้ืนทท่ี วั่ ไป 200 22 80 2. พ้นื ท่ตี รวจทัว่ ไปในห้องพักผู้ป่วย 500 19 90 3. พน้ื ท่ีตรวจโรคและรกั ษาโรค 500 19 80 4. ความสว่างในเวลากลางคนื 300 19 80 5. หอ้ งนาํ้ ผู้ปว่ ย 1,000 90 6. พ้นื ที่ตรวจโรคทั่วไป จําเพาะ 7. หอ้ งเขา้ เฝือก 8. ห้องจ่ายยา 9. หอ้ งผา่ ตัด 10. พืน้ ทใ่ี ตโ้ คมผ่าตดั กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 7-29  

คู่มือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผ้ปู ว่ ยนอก 30 วงจรแสงสว่างในส่วนของแผนกผู้ป่วยนอก ต้องมีแหล่งจ่ายไฟอย่างน้อย 2 แหล่งที่ต่างกัน[3] เพ่ือจ่ายให้กับ ดวงโคม และ 1 ใน 2 วงจรน้ันจะต้องเลือกต่อกับแหล่งจ่ายระบบนิรภัย และอุปกรณ์ดวงโคมควรเลือกใช้เป็นแบบ ประหยัดพลงั งาน ระบบนิรภยั หมายถงึ การจา่ ยไฟอตั โนมัติขณะแหล่งจ่ายไฟปกติลม้ เหลว แบ่งเป็น 5 ประเภท 1. ประเภท 0 (ไมม่ กี ารขาดตอน) 2. ประเภท 0.15 (ขาดตอนสั้นมาก) 3. ประเภท 0.5 (ขาดตอนสั้น) ใช้กับโคมไฟ บรภิ ณั ฑ์ไฟฟ้าทางการแพทย์ เพ่ือช่วยชีวิต 4. ประเภท 15 (ขาดตอนปานกลาง) 5. ประเภท >15 (ขาดตอนนาน) 7.2 ระบบไฟฟ้ากาํ ลงั นยิ าม ระบบไฟฟา้ กาํ ลัง หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีรบั กําลงั ไฟฟ้าจากระบบจําหนา่ ยแรงดันสูง และลดแรงดันเปน็ แรงดนั ตํ่า เพ่อื จา่ ยกาํ ลงั ไฟฟ้าให้กบั บรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ รายละเอยี ด ระบบไฟฟ้ากําลัง ในท่ีน้ีเป็นการรับกําลังไฟฟ้าจากแผงเมนควบคุมไฟฟ้า แล้วส่งจ่ายกําลังไฟฟ้าให้กับ บรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้าภายในสว่ นของแผนกผ้ปู ่วยนอก ตอ่ ไป นอกจากนี้ยังจะตอ้ งจัดเตรยี มแยกกาํ ลงั ไฟฟา้ ให้กับเคร่ืองมือ เฉพาะท่ใี ช้ภายในสว่ นของแผนกผู้ปว่ ยนอก เช่น  ระบบไฟฟ้า IT ในหอ้ งผ่าตัดเลก็ (ถา้ มี)  ระบบปรบั อากาศ เป็นตน้ เต้ารับไฟฟ้าที่ติดต้ัง ให้เป็นเต้ารับแบบคู่ เสียบได้ทั้งกลมและแบน(2P+E) มีจํานวนไม่น้อยกว่า 1 จุด/โต๊ะ ทํางาน เต้ารับที่รับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายระบบไฟฟ้านิรภัย ต้องสามารถระบุได้ เช่น เต้ารับไฟฟ้าท่ีต่อจากเคร่ือง กําเนิดไฟฟ้าใชส้ แี ดง และเตา้ รบั ไฟฟา้ ท่ีตอ่ จาก UPS ใช้สีเหลือง เป็นต้น ในการจ่ายกําลังไฟฟ้าให้กับบริภัณฑ์ไฟฟ้า ต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเป็นไปตามหลักวิศวกรรม และ กระแสไฟฟ้าต้องมีความเพียงพอ เหมาะสมกับโหลดท่ีใช้งาน สามารถรองรับโหลดท่ีเพิ่มข้ึนในอนาคตได้ อุปกรณ์ เครื่องมือที่ต้องใช้งานอย่างต่อเนื่อง เช่น คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ระบบ IT อื่นๆ ต้องรับแหล่งจ่ายไฟ 2 แหล่ง เป็นอยา่ งน้อย ระบบตอ้ งสามารถใชง้ านได้ สะดวก ปลอดภยั ถูกตอ้ งตามมาตรฐาน และหลักวศิ วกรรม กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 7-30  

คมู่ อื การออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 31 7.3 ระบบไฟฟา้ สาํ รอง นิยาม ระบบไฟฟ้าสํารอง หมายถึงแหล่งจ่ายระบบไฟฟ้าสํารอง ใช้สําหรับทดแทนการจ่ายกําลังไฟฟ้าในกรณี ฉุกเฉนิ หรอื แหล่งจา่ ยกําลงั ไฟฟ้าจากการไฟฟา้ ขัดขอ้ ง ล้มเหลว เพอื่ ให้มไี ฟฟา้ ใชอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง และปลอดภยั สงู สุด รายละเอยี ด ระบบไฟฟ้าสํารองติดต้ังเพ่ือใช้ทดแทนการจ่ายกําลังไฟฟ้า เมื่อระบบไฟฟ้าพ้ืนฐานของการไฟฟ้าส่วน ท้องถ่ินขัดข้อง ตัวอย่างอุปกรณ์ไฟฟ้าสํารอง เช่น เครื่องกําเนิดไฟฟ้า และ UPS (Uninterruptible Power Supply) เป็นต้น โดยจะต้องจ่ายกําลังไฟฟา้ ใหก้ ับอุปกรณ์ไฟฟ้าอยา่ งต่อเนื่อง เช่น  โคมไฟสาํ รองฉกุ เฉนิ  โคมไฟปา้ ยทางออกฉกุ เฉนิ  ดวงโคมและเตา้ รับไฟฟา้ ในพืน้ ท่บี ริเวณทํางานและรักษาพยาบาลอยา่ งต่อเนือ่ ง  อุปกรณ์ไฟฟ้าสําหรับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และช่วยชีวิต เช่นอุปกรณ์ไฟฟ้า ทางการแพทย์กลุ่ม 2 (ระบบ IT) และอปุ กรณ์ระบบกา๊ ซทางการแพทย์ เปน็ ต้น 7.4 ระบบไฟฟา้ แสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟฟา้ ปา้ ยทางออกฉุกเฉิน นิยาม ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน[4] หมายถึงการให้แสงสว่างเมื่อแหล่งจ่ายไฟฟ้าปกติล้มเหลว รวมถึงการให้แสง สวา่ งเพอื่ การหนีภยั Escape Lighting) และการใหแ้ สงสวา่ งสํารอง (Standby Lighting) โคมไฟฟา้ ป้ายทางออกฉุกเฉิน หมายถึงโคมไฟฟ้าที่มีแหล่งจ่ายไฟฟ้าสํารองจากแบตเตอร่ี เพื่อให้ความสว่าง กับปา้ ยทางออก รายละเอยี ด ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน รายละเอียดคุณสมบัติ และการติดตั้ง ให้ ยึดถือเปน็ ไปตามมาตรฐานระบบไฟฟา้ แสงสว่างฉกุ เฉนิ และโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉินของ วสท. และควรติดต้ัง ป้ายทางออกด้านล่างเป็นป้ายเสริม[4] โดยขอบล่างของป้ายสูงจากพื้น 15-20 เซนติเมตร และขอบของป้ายอยู่ห่าง จากขอบประตไู มน่ อ้ ยกว่า 10 เซนตเิ มตร ตัวอยา่ งรายละเอยี ดของป้ายทางออกด้านล่าง  เป็นป้ายเครื่องหมายบอกทางเรืองแสง (Photoluminescent Escape Sign) สามารถ สะสมแสงรอบตวั และเรืองแสงได้โดยไม่พ่ึงพาไฟฟ้า โดยติดต้ังทุกตําแหน่งประตูเส้นทาง หนไี ฟ ทุกทางแยกทางเลี้ยว และแนวเสน้ ทางหนีไฟทกุ ระยะ 24 เมตร  เป็นวัสดุเรืองแสงผลิตจาก หินธรรมชาติ ไม่มี Radio Active ไม่มีส่วนผสมของ ฟอสฟอรัส และไม่ลามไฟ (Fire Retandant B2) โดยพิมพ์วัสดุเรืองแสงเคลือบติดแน่น บนแผน่ อลูมิน่ัม โดยเรอื งแสงบรเิ วณสญั ลกั ษณ์ เพอื่ การมองเห็นทช่ี ดั เจน  ค่าความสว่างเป็นไปตามมาตรฐาน DIN67510 (Longtime Afterglowing Pigments and Products) อยู่ในระดับ Class C โดยมีค่าความส่องสว่าง 150 mcd/m2 ท่ีนาทีท่ี 10 และ 22 mcd/m2 ทน่ี าทีที่ 60 กองแบบแผน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 7-31  

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบริการสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผูป้ ่วยนอก 32 รูปที่ 13 แบบสญั ลักษณม์ ขี นาด 150 x 300 mm 7.5 ระบบแจ้งเหตเุ พลงิ ไหม้ นยิ าม ระบบแจง้ เหตเุ พลงิ ไหม้ หมายถงึ สญั ญาณทใี่ ชแ้ จ้งเหตใุ นกรณที เี่ กดิ เพลิงไหม้ รายละเอียด ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ใช้กับอาคารเพื่อเตือนภัยในเร่ืองไฟไหม้ ป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน ข้อกําหนดการ ติดตั้งทั่วไปให้เป็นไปตาม กฎ และมาตรฐานแจ้งเหตุเพลิงไหม้ของ วสท. และอุปกรณ์ที่ใช้ทุกชนิดเป็นไปตาม ข้อบังคับและข้อกําหนดของ NFPA ภายในพื้นท่ีต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ (Heat and Smoke Detector) ครอบคลมุ ทกุ พ้ืนที่ และตดิ ตง้ั อุปกรณแ์ จง้ เหตุ (Strobe Horn) เปน็ ต้น สําหรับในสถานท่ีสําหรับผู้ป่วย ท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน ต้องติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเหตุชนิดแสงกระพริบสีขาวระหว่าง 1-2 คร้ังต่อวินาที[5] ระยะหา่ งระหว่างอุปกรณ์แจง้ เหตุชนิดแสงตอ้ งไมเ่ กิน 30 เมตร อุปกรณ์แจง้ เหตุดว้ ยมือจะต้องตดิ ต้งั ในตําแหน่งที่เห็นชัดเจน และอยู่ในพื้นที่ทุกทางเข้าออก และทางหนีไฟ สามารถเข้าถึงได้สะดวก โดยระยะหา่ งระหวา่ งอุปกรณ์แจ้งเหตดุ ว้ ยมอื ไม่เกนิ 60 เมตร(วัดตามแนวทางเดนิ ) [5] รูปที่ 14 แสดงระยะการตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ตรวจจบั ความร้อน (HEAT DETECTOR) กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 7-32  

คูม่ อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผ้ปู ่วยนอก 33 รูปที่ 15 แสดงระยะการตดิ ตั้งอุปกรณต์ รวจจบั ควนั (SMOKE DETECTOR) E.I.T. Standard[5] 7.6 ระบบโทรศัพทอ์ ตั โนมตั ิ นยิ าม ระบบโทรศพั ทอ์ ตั โนมตั ิ หมายถึงระบบท่ีใช้เพ่อื ตดิ ต่อส่อื สารงานต่างๆ ท้งั ภายใน และภายนอกอาคาร รายละเอยี ด ระบบโทรศัพทอ์ ตั โนมตั ิเปน็ อปุ กรณ์เพือ่ ใช้สาํ หรบั ติดต่อส่ือสารงานต่างๆ ท้งั ภายใน และภายนอกอาคาร ซึ่ง รวมถึงแบบมีสาย และไร้สาย ในปัจจุบันระบบโทรศัพท์แบบ IP PABX ซ่ึงเป็นระบบที่ถูกออกแบบให้ใช้ร่วมกับ ระบบ NET WORK ได้ และสามารถรองรับเทคโนโลยีในอนาคต เป็นท่ีนิยมใช้กันอย่างกว้างขวางมากข้ึน ระบบ โทรศพั ท์ในพื้นที่ ควรมี 1 จดุ /โต๊ะ ทํางาน ระบบโทรศัพท์ไร้สาย จํากัดการใช้ในบางพื้นท่ีที่มีความสําคัญ เช่น ห้องผ่า(ถ้ามี) เพ่ือป้องกันการรบกวน ของคลืน่ สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ซง่ึ ทาํ ใหอ้ ุปกรณเ์ คร่อื งวดั ทํางานผดิ พลาดได้ 7.7 ระบบเสียงประกาศ นยิ าม ระบบเสียงประกาศ หมายถึง อปุ กรณใ์ ชเ้ พื่อตดิ ต่อสื่อสารงานประชาสมั พนั ธต์ า่ งๆ รายละเอียด ระบบเสียงประกาศ เป็นอุปกรณ์ใช้เพ่ือติดต่อส่ือสารงานประชาสัมพันธ์ต่างๆ ใช้ในงานประกาศข้อมูล ข่าวสาร มีเสียงเตือนก่อนท่ีจะทําการประกาศ ใช้ในการเปิดเพลง และระบบต้องสามารถประกาศเรียกฉุกเฉิน (OVER RIDE) ได้ ในพ้ืนท่ที าํ งาน ประกอบด้วย ลําโพง , วอลลมุ่ ปรบั ความดังเสยี ง เป็นตน้ พืน้ ที่สว่ นท่ี 1 เชน่ บรเิ วณรับสง่ ผู้ปว่ ยต้องติดตั้งอุปกรณร์ ะบบเสียงประกาศยอ่ ย ประกอบด้วย เช่น  MIXING AMPLIFIER  ไมโครโฟนตง้ั โตะ๊  ลําโพง เปน็ ต้น กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 7-33  

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ่วยนอก 34 7.8 ระบบเสาอากาศโทรทัศน์รวม นิยาม ระบบเสาอากาศโทรทัศน์รวม หมายถึง อุปกรณ์รับสัญญาณทีวีรวม และกระจายสัญญาณไปยังเต้ารับตาม จุดตา่ ง ๆ เพ่อื ใช้สาํ หรับการรับชม ข้อมลู ข่าวสาร เปน็ ตน้ รายละเอียด ระบบเสาอากาศโทรทัศน์รวม เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีรวม เช่น ช่องทีวีดิจิตอลพ้ืนฐาน และจาน ดาวเทยี ม กระจายสัญญาณไปยังเต้ารับตามจุดต่าง ๆ เพ่ือใช้สําหรับการรับชม ข้อมูล ข่าวสาร ในพ้ืนที่โถงพักคอย สว่ นรวม ท่พี กั แพทยพ์ ยาบาล และทท่ี ํางาน เปน็ ต้น 7.9 ระบบสื่อสารด้วยความเรว็ สูง นยิ าม ระบบสื่อสารด้วยความเร็วสูง เป็นกระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปล่ียนข่าวสารระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ โดย ผ่านทางระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ รายละเอียด ระบบสื่อสารด้วยความเร็วสูง เป็นการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ถึงกัน ภายในพื้นที่ใกล้ ๆ กัน ออกแบบมาเพื่อให้บริการแลกเปล่ียนข่าวสารกัน ในส่วนต่างๆ ขององค์กรในบริเวณที่ไม่ไกลกันมาก เช่นอยู่ใน อาคารเดียวกัน ระหว่างช้ันอาคาร สามารถดูแลได้เอง โดยไม่ต้องใช้ระบบสื่อสารข้อมูลแบบอื่น ในพื้นที่ควรมี 1 จดุ /โต๊ะทาํ งาน อปุ กรณป์ ระกอบดว้ ย คอมพวิ เตอร์ , Switch/Hub , Access Point และเต้ารับ เปน็ ต้น 7.10 ระบบทวี ีวงจรปดิ นิยาม ระบบทีวีวงจรปิดหมายถึง ระบบการบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นระบบสําหรับใช้เพื่อ การรักษาความปลอดภัย รายละเอียด ระบบทีวีวงจรปิดเป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นระบบสําหรับใช้เพื่อการรักษา ความปลอดภยั ตดิ ต้งั กลอ้ งตรงจุดบริเวณประตูโถงทางเข้า-ออก ในพ้นื ท่ที ํางาน หอ้ งการเงนิ เป็นตน้ 7.11 ระบบควบคมุ การเข้าออก นยิ าม ระบบ Access Control เปน็ ระบบที่ควบคมุ การเข้า หรือ ออก อัตโนมัติ เพ่ือป้องก้นและควบคุมการเข้าถึง ในสถานทเ่ี ฉพาะทต่ี อ้ งการความปลอดภยั กองแบบแผน กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 7-34  

คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 35 รายละเอยี ด ระบบ Access Control เปน็ ระบบทคี่ วบคุมการเข้า หรือ ออก อัตโนมัติ โดยจําเป็นต้องใช้รหัส ข้อมูล เพ่ือ การ เข้าถึง เช่น KEY CARD และการสแกนน้ิวมือ จุดบริเวณติดต้ังตรงประตูโถงทางเข้า-ออก ในพื้นท่ีทํางาน ห้อง การเงิน เป็นต้น 7.12 ระบบการต่อลงดนิ นยิ าม ระบบการต่อลงดิน หมายถึงการต่อลงดินของระบบไฟฟ้า และโครงสร้างของอุปกรณ์ในส่วนที่ไม่มี กระแสไฟฟ้าไหล ที่เปน็ โลหะ รายละเอียด การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า เป็นการต่อจุดนิวตรอนลงดินที่แผงเมนประธานของอาคาร การต่อลงดินของ อปุ กรณ์ในสว่ นของแผนกผปู้ ว่ ยนอก ห้ามต่อแยกอปุ กรณ์ลงดินโดยตรง การติดตงั้ ตอ้ งเปน็ การตอ่ สายกราวด์เข้ากับ โครงสร้างท่ีเป็นโลหะในส่วนที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล ไปยังบัสบาร์กราวด์ของตู้แผงควบคุม และต่อผ่านสายกราวด์ จากแผงควบคุมไปลงดินที่บัสบาร์นิวตรอนภายในแผงเมนประธานของอาคารเท่านั้น ระบบการต่อลงดินจะเป็น การตอ่ แบบ TN-S และไมอ่ นญุ าตใหใ้ ชร้ ะบบ TN-C[3] เอกสารอา้ งองิ [1] IEEE Recommended Practice for Electric Systems in Health Care Facilities (IEEE Std 602-2007) [2] มาตรฐานการติดต้ังทางไฟฟ้าสําหรับประเทศไทยพ.ศ.2545 : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์ [3] ElectricalInstallation: Medical Location (EIT 2006-52) [4] มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและโคไฟป้ายทางออกฉุกเฉิน : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชปู ถัมภ์ [5] มาตรฐานแจง้ เหตุเพลงิ ไหม้ : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ [6] มาตรฐานการปอ้ งกันฟา้ ผา่ สําหรบั สิ่งปลูกสร้าง : วศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ [7] สมาคมวศิ วกรออกแบบและปรึกษาเคร่ืองกล และไฟฟา้ ไทย ชื่อเรื่องหนังสอื การ ติดต้ังทางสําหรับสถานท่ีเฉพาะ ; ความปลอดภัยในสถานพยาบาล (Medical Location Safety) : วิวัฒน์ กลุ วงศ์วทิ ย์ [8] สมาคมวิศวกรออกแบบและปรกึ ษาเครอื่ งกล และไฟฟา้ ไทย ชอ่ื เรือ่ งหนงั สือ การ ตอ่ ลงดินระบบไฟฟา้ (System Grounding)” : ววิ ฒั น์ กลุ วงศ์วิทย์ [9] คุณภาพกําลงั ไฟฟา้ เล่มท่ี 2 การกราวนด์ระบบไฟฟา้ และสอ่ื สาร : วัฒนา สนุ ทรานุรักษ์ [10] การออกแบบระบบไฟฟา้ Electrical SystemDesign : ประสิทธ์ิ พทิ ยพฒั น์ [11] เครือ่ งกระตุ้นกล้ามเนอื้ และประสาทด้วยไฟฟ้าท่ใี ชท้ างกายภาพบาํ บดั : เภสชั กรชัย พนั ธ์ธีระเกยี รกาํ จร [12] หลกั การและเทคนิคการออกแบบระบบไฟฟา้ : รศ.ศุลี บรรจงจิตร [13] IEC 60364-7-710 Electrical Installations of Buildings: Requirements for Special Installations or Locations-Medical Locations กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 7-35  

คู่มอื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผูป้ ว่ ยนอก 36 [14] สมาคมไฟฟา้ แสงสวา่ งแห่งประเทศไทย ชือ่ เร่ืองหนงั สอื แนวทางประหยดั พลังงานไฟฟ้าแสงสว่าง [15] สมาคมไฟฟ้าแสงสวา่ งแห่งประเทศไทย ช่ือเรื่องหนงั สอื ขอ้ แนะนาํ ระดบั ความส่องสว่างภายใน อาคาร ของประเทศไทย กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 7-36  

คมู่ ือการออกแบบอาคารสถานบริการสขุ ภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ่วยนอก 37 8. งานระบบวิศวกรรมเครอ่ื งกล 8.1 ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ นยิ าม ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ หมายถงึ การควบคมุ อุณหภูมิ ความชืน้ คุณภาพของอากาศ ความดันอากาศ ทิศทางการไหล การหมนุ เวยี นของอากาศ และควบคมุ การแพร่เชื้อโรคในพน้ื ทป่ี ฏิบัติงาน รายละเอยี ดระบบปรบั อากาศและระบายอากาศสาํ หรับแผนกผูป้ ว่ ยนอก 1. พน้ื ทปี่ ฏิบตั ิงานสําหรบั เจา้ หนา้ เช่น หอ้ งประชาสมั พันธ์, ห้องพกั แพทย,์ หอ้ งหัวหนา้ แผนก, ห้อง เอนกประสงค์/พักเจา้ หน้าท,ี่ ห้องประชมุ แนะนาํ ใหเ้ ลอื กเครอ่ื งปรบั อากาศทสี่ ามารถติดตงั้ แบบแขวนใต้ฝา้ เพดานหรอื แบบตดิ ผนัง ที่สามารถซอ่ ม บาํ รุงเครอื่ งปรับอากาศไดส้ ะดวก มีแผงกรองอากาศอยา่ งนอ้ ยระดบั PRE FILTER ท่สี ามารถกรองฝุ่นไดไ้ ม่น้อย กว่า 25-30 เปอร์เซน็ ต์ สามารถควบคุมอุณหภูมอิ ยูท่ ีป่ ระมาณ 25 องศาเซลเซยี ส มกี ารเติมอากาศบริสทุ ธิ์และ มี การดดู อากาศภายในพน้ื ทป่ี ฏบิ ัตงิ านออกสภู่ ายนอก 2. พืน้ ทส่ี ําหรบั ตรวจ รกั ษาพยาบาลผปู้ ่วย เชน่ ห้องตรวจโรคท่ัวไป/เฉพาะโรคไม่ติดตอ่ , หอ้ งตรวจ ภายใน, ห้องรักษาพยาบาล, ห้องให้คําปรึกษา, หอ้ งเก็บอุปกรณก์ ารแพทย์, ห้องเกบ็ ของสะอาด แนะนําให้เลอื กเครื่องปรับอากาศทสี่ ามารถติดตัง้ แบบแขวนใตฝ้ า้ เพดานหรอื แบบติดผนงั ทส่ี ามารถซอ่ ม บาํ รงุ เคร่ืองปรับอากาศได้สะดวก มีแผงกรองอากาศอย่างน้อยระดับ PRE FILTER ที่สามารถกรองฝนุ่ ได้ไมน่ ้อย กวา่ 25-30 เปอรเ์ ซน็ ต์ สามารถควบคุมอณุ หภูมิอยทู่ ปี่ ระมาณ 25 องศาเซลเซียส มกี ารเตมิ อากาศบริสทุ ธแ์ิ ละ มี การดดู อากาศภายในพนื้ ท่ีปฏิบัตงิ านออกสูภ่ ายนอก โดยมีการควบคมุ ทศิ ทางการไหลของอากาศจากทสี่ ะอาดมาก ไปยังที่สะอาดน้อย 3. พื้นทร่ี ักษาและควบคมุ การแพรก่ ระจายของเชื้อโรค เชน่ หอ้ งตรวจโรคติดต่อ, หอ้ งผา่ ตัดเลก็ (เฉพาะ ระดับตตยิ ภูม)ิ แนะนําให้เลือกเครือ่ งปรับอากาศท่สี ามารถติดตง้ั เหนือฝ้าเพดานแบบท่ีตอ่ ท่อส่งลมเย็น จา่ ยลมเยน็ ผ่านหวั จา่ ยลมเย็นทฝี่ า้ เพดานและลมกลับก็ตดิ ตั้งที่ฝา้ เพดานพร้อมชอ่ งสาํ หรับไวซ้ อ่ มบาํ รงุ ระบบปรบั อากาศ มแี ผงกรอง อากาศอยา่ งน้อยระดบั PRE FILTER ท่ีสามารถกรองฝุ่นไดไ้ ม่น้อยกวา่ 25-30 เปอรเ์ ซน็ ต์ และระดบั MEDUIM FILTER ทีส่ ามารถกรองฝ่นุ ไดไ้ ม่นอ้ ยกวา่ 85-90 เปอรเ์ ซน็ ตส์ ามารถควบคมุ อุณหภูมอิ ยูท่ ี่ประมาณ 21 -24 องศา เซลเซียส และสามารถควบคมุ ความชน้ื สมั พทั ธอ์ ยู่ทีป่ ริมาณ 50 -/+10% มกี ารเตมิ อากาศบรสิ ุทธิ์และ มีการดูด อากาศภายในพ้นื ที่ปฏิบตั งิ านออกสู่ภายนอก โดยมีการควบคมุ ทิศทางการไหลของอากาศจากทสี่ ะอาดมากไปยงั ที่ สะอาดน้อย การควบคมุ ความดนั สาํ หรับพน้ื ทคี่ วบคมุ การแพรก่ ระจายของเช้อื โรคต้องมีความดันเป็นลบ ส่วนพ้นื ที่ ห้องสะอาดตอ้ งมคี วามดันเป็นบวก ระบบไฟฟา้ ที่จ่ายใหก้ ับเคร่อื งปรบั อากาศและระบายอากาศ ตอ้ งต่อผา่ นระบบจ่ายไฟฟ้าสาํ รอง กองแบบแผน กรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข 8-37  

ค่มู อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสุขภาพและสภาพแวดลอ้ ม: แผนกผปู้ ว่ ยนอก 38 หมายเหตุ การระบายอากาศของแผนกผปู้ ว่ ยนอกทําได้ 2 วธิ ีคือ 1. การระบายอากาศโดยวิธีธรรมชาติ เง่อื นไขหอ้ งหรือบริเวณมีผนังด้านนอกอยา่ งน้อยหนึ่งด้านโดยมีชอ่ งเปดิ สู่ภายนอกได้ ซ่งึ จะต้องเปิด ใหอ้ ากาศผ่านในขณะใช้สอยพ้ืนทน่ี ้ัน ๆ ตอ้ งมีพ้นื ท่ีลมผา่ นสทุ ธไิ มน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกบั พืน้ ท่ี หอ้ ง 2. การระบายอากาศโดยวิธีกล ใช้กับพน้ื ท่ใี ดกไ็ ด้โดยใหม้ พี ัดลมระบายอากาศ คอยขับเคลอ่ื นอากาศเพื่อให้เกิดการนําอากาศออกสู่ ภายนอกเข้าสู่หอ้ งหรอื บริเวณโดยมีอตั ราไม่นอ้ ยกว่า ทร่ี ะบุไว้ ในกฎกระทรวงฯ ทีอ่ อกตามความใน พระราชบญั ญตั คิ วบคุมอาคาร 8.2 ระบบจ่ายก๊าซทางการแพทย์ (Medical Gas System) นยิ าม ระบบจา่ ยก๊าซทางการแพทย์ หมายถงึ เป็นระบบจ่ายกา๊ ซเพ่ือใชใ้ นการรักษาพยาบาลผูป้ ว่ ยและใช้ช่วย การทํางานของเครอ่ื งมอื แพทย์ ระบบกา๊ ซทางการแพทย์สาํ หรบั ห้องผ่าตดั เลก็ อยา่ งน้อยประกอบด้วย  หวั จ่ายกา๊ ซออกซเิ จนจาํ นวน 2 หวั จา่ ย,  ไนตรัสออกไซด์จํานวน 1 หวั จ่าย,  สุญญากาศจํานวน 2 หัวจ่าย  อากาศสาํ หรับหายใจจํานวน 1 หัวจ่าย กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 8-38  

ค่มู อื การออกแบบอาคารสถานบรกิ ารสขุ ภาพและสภาพแวดล้อม: แผนกผู้ป่วยนอก 39 9 ระบบวศิ วกรรมสิ่งแวดล้อม 9.1 ระบบประปา 1) มีระบบจ่ายน้ําทีสะอาด ไมป่ นเปอื้ นสง่ิ ทีเ่ ปน็ อันตรายตอ่ สุขภาพ ไม่มีการรัว่ ซมึ และมแี รงดัน เพยี งพอต่อการใชง้ าน 2) มีระบบสํารองน้าํ ประปา ทสี่ ามารถให้บรกิ ารได้ตลอดระยะเวลาการรักษา 9.2 ระบบสุขาภบิ าล 1) มรี ะบบรวบรวมนํ้าท้งิ ท่ไี ม่กอ่ ให้กอ่ ใหเ้ กิดการแพรก่ ระจายหรือสะสมเชื้อโรคทางนํ้าและอากาศ 2) มีการแยกประเภทท่อต่างๆ ตามระบบการใช้งานอย่างชัดเจน เชน่ ท่อสว้ ม ท่อนํา้ ท้ิง ทอ่ ระบาย อากาศ ท่อระบายน้ําฝน ทอ่ ระบายนํ้าท้งิ จากเครื่องปรับอากาศ โดยไม่มกี ารร่ัวซึม 9.3 ระบบดับเพลงิ มเี ครื่องดบั เพลงิ ชนดิ ทีส่ ามารถดับเพลิง เหมาะสมกับประเภทและชนดิ ของเพลงิ แตล่ ะประเภท 1) ถงั ดบั เพลิงเคมชี นดิ หว้ิ ( PATABLE FIRE EXTINHGUISHER ) ( A , B & C Type ) สําหรบั หอ้ ง ทว่ั ไป 2) ถงั ดบั เพลงิ ชนิดสารสะอาด ( CLEAN AGENT )เชน่ ก๊าซไนโตเจน ,กา๊ ซคาร์บอนไดออไซ ,ก๊าซ FM 200 , กา๊ ซ N2 9.4 ระบบบาํ บัดนาํ้ เสยี มีระบบรวบรวมนํ้าเสียของท่อระบบสุขาภิบาลไปสู่ระบบบําบัดนํ้าเสียรวม หรือระบบบําบัดน้ําเสียเฉพาะที่ ทสี่ ามารถรองรับปริมาณนาํ้ เสียและบาํ บดั นํา้ เสยี ได้ตามมาตรฐานคุณภาพน้าํ ทง้ิ 9.5 การจดั การมลู ฝอย จัดให้มีที่พักมูลฝอย โดยมีภาชนะรองรับมูลฝอย แยกมูลฝอยตามประเภทมูลฝอยทั่วไป มูลฝอยติดเช้ือ มูล ฝอยอนั ตราย มฝี าปดิ มิดชิด ไมร่ ัว่ ซึม ทาํ ดว้ ยวัสดทุ ่ที ําความสะอาดง่าย กองแบบแผน กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ 9-39  


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook