Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เวธกา,ภัทรพล (คู่มือความปลอดภัยในงานทะเบียน)

เวธกา,ภัทรพล (คู่มือความปลอดภัยในงานทะเบียน)

Published by dream110443, 2021-10-19 19:23:22

Description: เวธกา,ภัทรพล (คู่มือความปลอดภัยในงานทะเบียน)

Search

Read the Text Version

คู่ความปลอดภัยในงานทะเบียน ผู้จดั ทำ นายภัทรพล พรพฤตกิ รณ์ รหสั 6442041108 นางสาวเวธกา โกมลวาทิน รหัส 6442041109 เสนอ ดร.ฉันท์ทิพย์ ลลี ิตธรรม วชิ า ความปลอดภยั ในการทำงาน วทิ ยาลยั พณิชยการธนบุรี ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร

ก คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาความปลอดภัยในการทำงาน รหสั วชิ า 33-4200-2301 ระดับชั้นปริญญาตรี เพ่อื ศึกษาดา้ นความปลอดภัยในการทำงาน ด้านกฎหมายในการ คุ้มครองในการทำงาน รวมถงึ การอธบิ ายเกยี่ วกบั งานทะเบียน ถึงขัน้ ตอนในการทำงานและการจัดทำเอกสาร ต่าง ๆ จึงเป็นข้อสรุปในการจัดทำเล่มรายงานความปลอดภัยในการทำงานเพื่อศึกษาหาความรู้ในเรื่อง คู่มือความปลอดภัยในการทำงานของงานทะเบียน เพื่อให้เข้าใจในรายวิชา ความปลอดภัยในการทำงาน และเปน็ ประโยชนต์ ่อนักศกึ ษาท่กี ำลังศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรี ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหาข้อมูล เร่อื งนหี้ ากมขี ้อแนะนำหรอื ขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผู้จดั ทำขอนอ้ มรับไว้และขออภยั มา ณ ทีน่ ีด้ ว้ ย นางสาวเวธกา โกมลวาทนิ นายภัทรพล พรพฤติกรณ์

สารบัญ ข เรื่อง หนา้ ความหมายของความปลอดภัยในการทำงาน 1 อุบตั ิเหตุกบั การทำงาน ภาพอุบตั ิเหตุกบั งานมีสว่ นเกย่ี วขอ้ งกัน 1-2 ความสญู เสยี จากอุบตั เิ หตุ 2 3 1. ความสญู เสยี ทางตรง (Direct Loss) 3 2. ความสญู เสียทางออ้ ม (Indirect Loss) 3-4 แนวทางในการปองกันอุบตั ิเหตุ 5 1) หลัก 3E ไดแก Engineering, Education และ Enforcement 5 2) หลกั ของ 5 ส. สูความปลอดภยั 5-6 พ.ร.บ ความปลอดภยั ในการทำงาน 6 ความสำคัญของความปลอดภยั ในการทำงาน 7 1. การหมุนเวียนของอากาศ 7 2. แสงสว่าง 7 3. การจัดการภายในสาํ นักงาน 7 4. ทางออก 8 5. อนั ตรายจากเพลิงไหม้ 8 6. อุปกรณ์ไฟฟ้า 8 7. เคร่ืองถ่ายเอกสาร 8 เครอ่ื งหมายความปลอดภยั 9 สรุปสาระสำคญั ของความปลอดภยั 15 ความหมายของงานทะเบียน 15 หน้าทข่ี องงานทะเบยี น 16 งานทะเบยี น มหี น้าที่และความรับผิดชอบดังต่อไปน้ี 16 ขอบขา่ ยงานงานทะเบียนนักเรียน 16-18 โรคท่เี กดิ จากการทำงานสำนกั งาน 18 1) โรคปลอกประสาทอักเสบ 19 2) โรคเครยี ดลงกระเพาะ 19 3) โรคความดนั โลหติ สงู 19 4) ออฟฟิศซนิ โดรม 19

สารบญั (ตอ่ ) ค เร่ือง หนา้ 19 5) โรคหวั ใจ 19 6) โรคกรดไหลย้อน 19 7) โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 20-21 การรกั ษาความปลอดภัยในสถานการณ์ COVID-19 21-22 สรปุ ความเสยี่ งในงานทะเบียน (วทิ ยาลัยพณชิ ยการธนบรุ )ี 23-34 ประวตั ิผูจ้ ัดทำ

1 ความหมายของความปลอดภยั ในการทำงาน การเกดิ อบุ ตั เิ หตุในการทำงานแตล่ ะครัง้ มใิ ชจ่ ะเกดิ ขนึ้ จากโชคชะตาหรือเคราะหก์ รรมของแต่ละบุคคล หากแต่เกิดขึ้นโดยมี “สาเหตุ” ท่ชี ีช้ ัดลงไปได้ การเสรมิ สรา้ งความปลอดภัยในการทำงานจะเกิดข้ึนได้โดยการ แก้ไขป้องกันที่ “สาเหตุของอุบัติเหตุ” ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกอ่ นที่จะได้ศึกษาถึงสาเหตขุ องอบุ ัติเหตุและ การป้องกนั ตอ่ ไป ควรท่ีจะไดท้ ราบคำกำจัดความตา่ งๆทเ่ี กี่ยวข้อง ดงั นี้ 1.1 ภัย (Hazard) หมายถึง เป็นสภาพการณ์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อบุคคลหรือ ความเสียหายต่อทรัพยส์ นิ หรือวสั ดุ หรือกระทบกระเทอื นต่อขดี ความสามารถในการปฏิบัตกิ ารของบคุ คล 1.2 อันตราย (Danger) หมายถงึ ระดบั ความรุนแรงทเี่ ป็นผลเน่อื งมาจากภัย (Hazard) อนั ตรายจาก ภัยอาจจะมรี ะดบั สูงมาก หรือนอ้ ยกไ็ ด้ ขึ้นอยู่กบั มาตรการในการป้องกัน เชน่ การทำงานบนทส่ี ูง สภาพการณ์ เช่นนี้ถอื ว่าเป็นภัย ซึ่งอาจกอ่ ใหเ้ กิดการบาดเจ็บถึงตายได้หากมีการพลัดตกลงมา ในกรณีนี้ถือได้ว่ามีอันตราย อยู่ระดับหนึ่ง หากแต่ระดับอันตรายจะลดน้อยลง ถ้าผู้ปฏิบัติงานใช้สายนิรภัย(Harness) ขณะทำงานเพราะ โอกาสของการพลดั ตกและกอ่ ให้เกิดการบาดเจ็บลดนอ้ ยลง 1.3 ความปลอดภัย (Safety) หมายถงึ การปรารถจากภัย ซ่ึงในทางปฏบิ ตั เิ ปน็ ไปไมไ่ ด้ที่จะขจัดภัยทุก ชนิดให้หมดไปโดยสน้ิ เชิง ความปลอดภยั จงึ ใหร้ วมถึงการปรารถจากอนั ตรายทมี่ โี อกาสจะเกิดขนึ้ ดว้ ย 1.4 อุบัติเหตุ (Accident) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมิได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งก่อให้เกิดการ บาดเจ็บ พิการหรือตาย และ/หรือทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ความหมายในเชิงวิศวกรรม ความปลอดภยั นั้น “อุบัตเิ หตุ ยังมีความหมายครอบคลุมถงึ เหตุการณท์ เ่ี กิดขึ้นแลว้ มผี ลกระทบกระเทือนต่อ กระบวนการผลิตปกติ ทำให้เกิดความล่าช้า หยุดชะงัก หรือเสียเวลา แม้จะไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ ก็ตาม (วิฑูรย์ สมิ ะโชคดี และ วรี พงษ์ เฉลมิ จริ ะรัตน์, 2543) 1.5 อุบัติเหตุ (Accident) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ไมม่ ีการวางแผนไวล้ ว่ งหนา้ และไมส่ ามารถควบคุมได้ (เฉลิมชยั ชยั กติ ตภิ รณ์ และชยั ยะ พงษพ์ านชิ , 2533) 1.6 อุบัติเหตุ(Accident) คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันแล้วมีผลกระทบกระเทือนต่อการ ทำงาน โดยให้งานหยุดชะงัก เครื่องมือเครื่องจักรชำรุดเสียหาย ผลผลิตตกต่ำ ราคาต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงข้ึน ผ้ปู ระสบอุบัตเิ หตอุ าจจะรอดชวี ิตบาดเจ็บ หรือพกิ าร หรือเสียชีวติ ได้ (ณรงค์ ณ เชยี งใหม่, 2525) 1.7 อบุ ัตเิ หตุ (Accident) เป็นเหตกุ ารณท์ ี่เกิดข้ึนโดยไม่คาดคิด ไมม่ กี ารวางแผนลว่ งหน้าและควบคุม ไมไ่ ด้ เช่น การตกจากที่สงู การหกล้ม ฯลฯ ซง่ึ จะทำใหเ้ กิดความสูญเสียตอ่ ผู้ประสบอุบัติเหตุบุคคลอ่ืนหรือส่ิง อื่นที่เกี่ยวข้องด้วยอุบตั ิเหตุจากการทำงานเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นในขณะทำงาน เช่น การบาดเจ็บ จากการกระแทก หรือบดของเครือ่ งจกั ร การถกู สิ่งของหลน่ ทบั ฯลฯ อุบัตเิ หตุกบั การทำงาน อุบตั เิ หตแุ ละการทำงานมกั จะมีส่วนเกีย่ วข้องกนั เสมอ กล่าวคอื ในขณะทีเ่ ราทำงานน้นั จะมีอุบัติเหตุ แอบแฝงอยู่ และเมื่อใดที่เราประมาท อุบัติเหตุก็พร้อมที่จะเกิดขึ้นทันที ซึ่งในการเกิดอุบัติเหตุนั้นมักจะมี ตวั การทสี่ ำคญั อยู่ 3 ประการ ดงั น้ี

2 1.1 ตัวบุคคล คอื ผูป้ ระกอบการงานในหนา้ ท่ีต่าง ๆ และเป็นตวั สาเหตใุ หญ่ทกี่ ่อให้เกิดอุบัติเหตุ 1.2 สิ่งแวดล้อม คอื ตวั องค์การหรือโรงงานทีบ่ คุ คลนนั้ ทำงานอยู่ 1.3 เครื่องมอื เคร่ืองจักร คือ อุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการทำงาน ภาพอุบตั ิเหตกุ บั งานมีส่วนเกีย่ วข้องกัน สาเหตุของอุบัตเิ หตุ (Causes of Accidents) H.W. Heinrich เป็นบุคคลหนึ่งที่ได้ศึกษาถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอย่างจริงจังในโรงงาน อตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ ในปี ค.ศ. 1920 ผลการศกึ ษาวิจยั สรุปไดด้ ังนี้ สาเหตุของอบุ ตั เิ หตุ ท่สี ำคญั มี 3 ประการ ได้แก่ 1. สาเหตุที่เกิดจากคน (Human Cause) มีจำนวนสูงที่สุด คือ 88% ของการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง ตวั อยา่ งเช่น การทำงานท่ไี มถ่ ูกต้อง ความพลัง้ เผลอ ความประมาท การมีนิสยั ชอบเส่ียงในการทำงาน เปน็ ต้น 2. สาเหตทุ ่เี กิดจากความผิดพลาดของเครื่องจักร (Mechanical Failure) มจี ำนวนเพียง 10% เทา่ นัน การเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น ส่วนที่เป็นอันตรายของเครื่องจักรที่ไม่มีเครื่องป้องกัน เครื่องจักร เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆชำรุดบกพร่อง รวมถึงการวางผังโรงงานไม่เหมาะสม สภาพแวดล้อมในการทำงาน ไม่ปลอดภัย เปน็ ตน้ 3. สาเหตุที่เกิดจากธรรมชาติ (Acts of God) มีจำนวนเพียง 2 % เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ นอกเหนือการควบคุมได้ เช่น พายุ นำ้ ท่วม ฟา้ ผ่า เป็นตน้ ในปี ค.ศ. 1931 Herbert W. Heinrich ไดต้ ีพมิ พ์หนังสอื เรื่อง Industrial Accident Prevention ซึ่ง เป็นการปฏิวัติแนวคิดเดิมเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุหรือเสริมสร้างความปลอดภัยในโรงงานอย่างสิ้นเชิง เขาไดส้ รปุ สาเหตสุ ำคญั ของการเกิดอบุ ัติเหตุ เป็น 2 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การกระทำที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Acts) เป็นสาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุคิดเป็นจำนวน 85% ของการเกิดอุบตั เิ หตุท้งั หมด เช่น 1.1 การทำงานไม่ถกู วิธี หรือ ไม่ถกู ข้ันตอน 1.2 การมที ัศนคตทิ ไี่ ม่ถกู ต้องเช่นอุบตั ิเหตุเปน็ เร่ืองของเคราะหก์ รรม แกไ้ ขป้องกันไมไ่ ด้ 1.3 ความไม่เอาใจใสใ่ นการทำงาน 1.4 ความประมาท พล้งั เผลอ เหม่อลอย 1.5 การมีนสิ ยั ชอบเส่ียง 1.6 การไม่ปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บของความปลอดภัยในการทำงาน 1.7 การทำงานโดยไม่ใช้อุปกรณ์ปอ้ งกนั อนั ตรายส่วนบคุ คล 1.8 การแต่งการไมเ่ หมาะสม 1.9 การถอดเครื่องกำบังส่วนอันตรายของเครื่องจักรออกด้วยความรู้สึกรำคาญ ทำงานไม่สะดวก หรือถอดออกเพือ่ ซ่อมแซมแล้วไม่ใส่คืน 1.10 การใชเ้ ครื่องมือหรอื อปุ กรณ์ไมเ่ หมาะกับงาน เช่น การใชข้ วดแกว้ ตอกตะปูแทนการใชค้ อ้ น

3 1.11 การหยอกลอ้ กนั ระหว่างทำงาน 1.12 การทำงานโดยทรี่ ่างกายและจิตใจไม่พร้อมหรือผิดปกติ เชน่ ไมส่ บาย เมาคา้ ง มปี ัญหา ครอบครัว ทะเลาะกับแฟน เป็นตน้ 2. สภาพการณท์ ีไ่ มป่ ลอดภยั (Unsafe Condition) เป็นสาเหตุรอง คิดเปน็ จำนวน 15% เท่านนั้ ดังน้ี 2.1 ส่วนที่เป็นอันตราย(ส่วนทเี่ คลอ่ื นไหว) ของเครอ่ื งจักร ไม่มีเครอ่ื งกำบงั หรอื อุปกรณ์ปอ้ งกนั อนั ตราย 2.2 การวางผังโรงงานที่ไม่ถกู ต้อง 2.3 ความไมเ่ ป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยและสกปรกในการจัดเก็บวัสดุสงิ่ ของ 2.4 พน้ื โรงงานขรขุ ระ เปน็ หลมุ เป็นบอ่ 2.5 สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ถูกสุขอนามัย เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ เสยี งดงั เกินควร ความร้อนสูง ฝนุ่ ละออง ไอระเหยของสารเคมีทีเ่ ป็นพิษ เปน็ ต้น 2.6 เครื่องจกั รกล เครือ่ งมือ หรอื อุปกรณ์ชำรดุ บกพรอ่ ง ขาดการซ่อมแซมหรอื บำรงุ รักษาอยา่ งเหมาะสม 2.7 ระบบไฟฟ้าหรืออปุ กรณไ์ ฟฟ้า ชำรดุ บกพร่อง เป็นต้น ความสูญเสียจากอบุ ตั เิ หตุ การเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง ย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียมากมาย นอกจากจะเกิดการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย หรือเสียชีวิต หรือแม้แต่ทรัพย์สินเสียหาย อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรที่เกิดความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรงุ แล้ว ยังรวมถงึ การสูญเสียเวลาในการผลิตที่ต้องหยุดและค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือแม้แต่ เสียภาพพจน์ของบริษทั ความสูญเสียหรอื คา่ ใช้จ่ายอนั เนื่องมาจากการเกดิ อุบตั ิเหตุในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น อาจแบ่งออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภทใหญ่ ดังนค้ี อื 1. ความสญู เสยี ทางตรง (Direct Loss) หมายถงึ จำนวนเงินท่ตี ้องจ่ายไปอนั เกีย่ วเน่ืองกบั ผ้ไู ดร้ ับบาดเจ็บโดยตรงจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือ เปน็ ค่าเสยี หายที่แสดงให้เหน็ อยา่ งเด่นชัด ไดแ้ ก่ 1.1 ค่ารักษาพยาบาล 1.2 ค่าทดแทนจากการไดร้ ับบาดเจ็บ 1.3 ค่าทำขวญั 1.4 ค่าทำศพ 1.5 ค่าประกนั ชีวติ 2. ความสญู เสยี ทางออ้ ม (Indirect Loss) หมายถงึ คา่ ใช้จ่ายอนื่ ๆ (ซึง่ ส่วนใหญ่จะคำนวณเปน็ ตวั เงนิ ได้) นอกเหนือจากคา่ ใช้จา่ ยทางตรงสำหรับการเกิด อุบัติเหตใุ นแตล่ ะครั้ง ได้แก่ 2.1 การสูญเสยี เวลาในการทำงานของ 2.1.1 คนงานหรอื ผ้บู าดเจ็บ เพอ่ื รักษาพยาบาล

4 2.1.2 คนงานอืน่ หรือเพื่อนร่วมงานที่ต้องหยุดชะงักชั่วคราว เนื่องจากช่วยเหลือผูบ้ าดเจ็บโดย การปฐมพยาบาล หรือนำส่งโรงพยาบาล อยากรู้อยากเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ ความตืน่ ตกใจ 2.1.3 หวั หนา้ งานหรอื ผบู้ ังคบั บัญชา เนือ่ งจากช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ สอบสวน หาสาเหตุของการ เกิดอุบัติเหตุ บันทึกและจัดทำรายงานการเกิดอุบัติเหตุ จัดหาคนงานอื่นและฝึกสอนให้เข้าทำงาน แทนผูบ้ าดเจบ็ หาวธิ ีแก้ไขและปอ้ งกนั อุบัตเิ หตไุ ม่ใหเ้ กดิ ซ้ำอีก 2.2 ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจกั ร เคร่อื งมอื อุปกรณ์ ทีไ่ ดร้ ับความเสียหาย 2.3 วตั ถุดบิ หรือสนิ ค้าทไี่ ดร้ ับความเสียหายตอ้ งทิ้ง ทำลายหรอื ขายเป็นเศษ 2.4 ผลผลิตลดลง เน่ืองจากกระบวนการผลติ ขัดขอ้ ง ตอ้ งหยดุ ชะงัก 2.5 ค่าสวัสดิการต่างๆของผูบ้ าดเจ็บ 2.6 ค่าจา้ งแรงงานของผู้บาดเจบ็ ซึ่งโรงงานยงั คงต้องจ่ายตามปกติ แม้วา่ ผบู้ าดเจ็บจะทำงานยังไม่ได้ เต็มท่ีหรือตอ้ งหยดุ งาน 2.7 การสูญเสียโอกาสในการทำกำไร เพราะผลผลิตลดลงจากการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต และการเปลย่ี นแปลงความต้องการของตลาด 2.8 ค่าเช่า ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และโสหยุ้ ตา่ งๆท่โี รงงานยงั คงตอ้ งจ่ายตามปกติ แมว้ า่ โรงงาน จะตอ้ งหยุดหรือปดิ กจิ การหลายวันในกรณเี กิดอบุ ัติเหตรุ า้ ยแรง 2.9 การเสยี ชอื่ เสยี งและภาพพจน์ของโรงงาน นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บจนถึงขั้นพิการหรือทุพพลภาพ จะกลายเป็นภาระสังคมซึ่งทุกคนมีส่วนร่วม รับผิดชอบด้วย ความสูญเสียทางออ้ มจึงมีคา่ มหาศาลกวา่ ความสูญเสียทางตรงมาก ซึ่งปกติเรามักจะคิดไมถ่ ึง จึงมีผู้เปรียบเทียบว่า ความสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายของการเกิดอุบัติเหตุเปรียบเสมือน “ภูเขาน้ำแข็ง” ส่วนที่ โผล่พ้นน้ำให้มองเห็นมีเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำ ในทำนองเดียวกันค่าใช้จ่ายทางตรงเมอ่ื เกิดอุบัตเิ หตุจะเปน็ เพียงสว่ นนอ้ ยของคา่ ใชจ้ ่ายท่เี กิดข้ึนท้งั หมดซ่งึ ผู้บริหารโรงงานจะมองขา้ มมไิ ด้ การเกิดอุบัติเหตุก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากทงั้ ต่อชีวิตของคนงานและทรพั ย์สิน ทั้งที่คิดเป็นเงิน ค่าใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัดเจน และที่เป็นค่าใช้จ่ายแฝงในรูปต่างๆ การสร้างสภาพการทำงานที่ปลอดภัย ในโรงงานจงึ มีความสำคญั ตอ่ ความสำเรจ็ ของการบรหิ ารงานในปจั จุบนั เพราะนอกจากจะเปน็ การปอ้ งกนั ความ สูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการลดต้นทุนในการผลิตสินค้าแล้ว ยังทำให้ขวัญหรือกำลังใจของคนงานสูงข้ึน ผลผลิตและกำไรเพิม่ ข้ึนดว้ ย ในทางกลับกัน หากโรงงานใดมีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โรงงานนั้นย่อมต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่ สูงข้ึน ขวญั และกำลงั ใจของคนงานตกต่ำลง ในทส่ี ดุ ผลผลติ และกำลังการผลิตกจ็ ะลดลง นัน่ คือการบริหารงาน ที่ล้มเหลว ดังนั้น จึงควรอย่างยิ่งที่ผู้บริหาร จะต้องให้ความสำคัญต่อการป้องกันมิให้อุบัติเหตุเกิดข้ึน โดยการเสริมสร้างความปลอดภัยในการทำงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงาน และกำหนดเป็น “นโยบายของบริษัท” ทช่ี ัดแจ้งเป็นลายลกั ษณอ์ ักษร

5 แนวทางในการปองกนั อบุ ัตเิ หตุ การคิดหาแนวทางปองกันอาจมีหลากหลายวิธี บอยครั้งที่แนวทางปองกันอาจไมครอบคลุมทั้งหมด มีตกหลนไปบาง ทําใหการปองกันไมเกิดประสิทธิภาพเทาที่ควรดังนั้น จึงตองมีหลักในการชวยหาแนวทาง ใหครอบคลุมไดทัง้ หมด เพือ่ จะไดไมเกิดอุบตั ิเหตุทซ่ี ำ้ รอยข้นึ มาอีกดวยหลัก 3E กบั ตําแหนงการปองกนั 1) หลกั 3E ไดแก Engineering, Education และ Enforcement (1) Engineering คือการใชความรูดานวิศวกรรมศาสตรมาจัดการ เชน การออกแบบเครื่องจักร ใหมีการใชงานที่ปลอดภัย การติดตั้งเครื่องปองกันอันตรายการวางผัง โรงงานและออกแบบสภาพแวดลอม ในการทํางาน (2) Education คือการใหการศึกษา หรือฝกอบรมคนงาน ตลอดจนผูที่ เกี่ยวของในการทํางาน ใหมีความรูความเขาใจเกีย่ วกบั การปองกนั อุบัติเหตกุ ารฝกใชเครอ่ื งมอื หรอื วิธกี ารทาํ งานทีป่ ลอดภยั (3) Enforcement คือการออกมาตรการควบคุมบังคับให คนงานปฏิบัติ ตามหากฝาฝนหรือ ไมปฏบิ ตั ิตามจะตองถูกลงโทษเพอื่ ใหเกิดความสํานกึ และหลีกเล่ียงการกระทาํ ท่ีไมถูกตอง การใชหลัก 3E น้ีจะตองดําเนินการให E ทั้ง 3 ไปพรอมกัน จึงจะทําให การปองกันอุบัติเหตุมีประสิทธิภาพ สงู สดุ ถามีการดําเนินการเฉพาะ E ตัวใดตัวหนึง่ กจ็ ะเกิดปญหาขน้ึ เชน เคร่ืองจักรทอี่ อกแบบมาดีมีเคร่ืองปอง กันอันตราย (Machine Guarding) ติดตั้งไวคนงานอาจเห็นวาเกะกะไมจําเปนจึงถอดออกเพราะขาด การฝก อบรม หรือชี้แนะใหเห็นอันตรายที่เกิดขึ้น หากถอดเครื่องปองกันอันตรายออก หรือวามีการอบรม มาอยางดี แตขาดการออกกฎขอบงั คับ คนงานอาจเห็นวาการดนน้ั เกะกะ ทําใหทํางานไมสะดวกจึงถอดทิ้งเสีย เพราะตองการทํางานใหเร็วขึ้นทั้ง ๆ ที่รูวาอันตรายแตกย็ อมเสี่ยงเพราะเขาใจวาจะสามารถเพิม่ ผลผลิตไดใน ทํานองเดียวกันแม จะมีขอบังคับแล วหากคนงานไม ได รับการแนะวิธีการทํางานที่ถูกต องปลอดภัยคนงาน ก็อาจจะ ปฏิบัติงานอยางผิดวิธี เนื่องจาก ความไมรูเปนเหตุหรือการทํางานที่ผิดพลาดไมถูกขั้นตอน เปนผลทาํ ให้ระบบปองกนั นนั้ เสียหายไมทํางานได้ 2) หลักของ 5 ส. สูความปลอดภัย 5 ส. สูความปลอดภัย เปนการนาํ ระบบ 5 ส. มาชวยสนบั สนุนใหเกดิ ความปลอดภัยในการทํางาน ระบบ 5 ส. มีกิจกรรมที่ตองทํา 5 ประเภท ประกอบดวย สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสรางนิสัย โดยมรี ายละเอยี ดของแตละกิจกรรมดังนี้ ส.ที่ 1 สะสาง คือ การแยกชดั ระหวางของท่จี ําเปนกบั ของไมจาํ เปน และกาํ จดั ของ ทไี่ มจาํ เปนทิ้งไป ส.ที่ 2 สะดวก คือ การจัดวางสิ่งของใหเปนระเบียบอยูเสมอเพื่องายตอการนําไปใชและการเก็บ คนื ทเ่ี ดิม ดังคาํ กลาวท่ีวา หายกร็ ูอยกู ็เห็น ดแู ลวเปนระเบยี บ ส.ที่ 3 สะอาด คอื การทาํ ความสะอาด สถานที่อุปกรณส่ิงของเครอ่ื งจักรใหสะอาดนาดอู ยูเปนนิจ ส.ที่ 4 สุขลักษณะ คือ สภาพที่สะอาดถูกลักษณะโดยการรักษาและปฏิบัติ 3 ส. แรกใหคงเดิมหรือ ดีขึ้นเสมอ ส.ท่ี 5 สรางนสิ ยั คอื การปฏิบัตติ ามระเบยี บวนิ ัยท่ีกําหนดข้นึ มาจนตดิ เปนนิสยั

6 หลักของกิจกรรม 5 ส. เปนระบบพื้นฐานในการบริหารงานความปลอดภัยในการทํางานอยางมีประสิทธิภาพ โดยถาแบง ปจจัยการผลิตออกเปน 2 กลุม คือกลุมสิ่งมีชีวิต (คน) และกลุมสิ่งไมมีชีวิต (วัสดุและเครื่องจักร) จะเห็นได ว าเมื่อป จจัยการผลิตทั้งสองกลุ มไดรับการบริหารจัดการอย างถูกตอง จะสงผลใหการผลิตเปนไป อยางมีประสิทธภิ าพ ความปลอดภัยในการทํางานเปนเรื่องที่ครอบคลุมกวางกวา หลักของ 5 ส. เพราะเกี่ยวของ กับการกําจัดสภาพแวดลอมที่ไมปลอดภัย เชน ความรกรุงรังไมเปนระเบียบของการจัดเก็บวัสดุสิ่งของ เครื่องจักรไมมีอุปกรณปองกันอันตรายสวนที่เคลื่อนไหว ระบบไฟฟาชํารุดบกพรอง แสงสวางไมเพียงพอ เปนตน และการกําจัดการกระทําที่ไมปลอดภัย เชน ทัศนคติที่ไมถกู ตอง ประมาท ปฏิบัติงานโดยขาดความรู ความชํานาญ ละเลยกฎระเบียบ เปนตน ดังนั้นความเปนระเบียบเรียบรอยของสถานที่ทํางาน ในสวนของ การสรางเสริมความปลอดภยั ในการทํางาน จึงตองจัดเก็บวัสดสุ งิ่ ของอยางเปนระเบยี บ ในสวนน้จี ึงตรงกบั 3 ส. คือ สะสาง สะดวก สะอาด สวนการขจัดการกระทําที่ไมปลอดภัยนั้น ตองเริ่มจากการพัฒนาจิตสํานึก และ สะสมทัศนคตทิ ีถ่ กู ตองใหเกิดขึน้ ในตัวของผูเกย่ี วของ เพอื่ จะไดทํางานอยางปลอดภยั นิสัยรกั ความ สะอาดและ มีระเบียบวินัยจะแสดงถึงการเปนผูมีจิตสํานึกและทัศนคติที่ดีตอความปลอดภัย เชนเดียวกับการ ทํา 3 ส. แรกอยางตอเนือ่ ง พ.ร.บ ความปลอดภัยในการทำงาน พระราชบญั ญตั ิความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน พ.ศ. 2554 ประกอบดว้ ย 8 หมวด 74 มาตรา ดงั น้ี หมวด 1 บททั่ว ไป ประกอบดว้ ยมาตรา 6 และมาตรา 7 หมวด 2 การบริหาร การจัดการ และการดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทํางาน ประกอบดว้ ยมาตรา 8 ถงึ มาตรา 23 หมวด 3 คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน ประกอบดว้ ยมาตรา 24 ถึงมาตรา 31 หมวด 4 การควบคมุ กาํ กับ ดแู ล ประกอบด้วยมาตรา 32 ถงึ มาตรา 34 หมวด 5 พนกั งานตรวจความปลอดภัย ประกอบด้วยมาตรา 35 ถงึ มาตรา 43 หมวด 6 กองทนุ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานประกอบด้วยมาตรา 44 ถงึ มาตรา 51 หมวด 7 สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานประกอบด้วย มาตรา 52 หมวด 8 บทกําหนดโทษ ประกอบดว้ ยมาตรา 53 ถึงมาตรา 72 บทเฉพาะกาล ประกอบด้วยมาตรา 73 และมาตรา 74 นโยบายดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน

7 ความสำคญั ของความปลอดภยั ในการทำงาน ถึงแมส้ าํ นักงานทุกแห่งได้ออกแบบมาเพอื่ ให้มคี วามสะดวกสบายและปลอดภยั ในการทาํ งาน แตก่ ม็ กั พบอนั ตรายเกดิ ข้นึ หลายครั้ง มที ้งั อาการบาดเจ็บและอาการดา้ นสุขภาพ พบว่าผ้ทู ีท่ ํางานในสาํ นกั งานมีจาํ นวน ไม่นอ้ ยประสบอบุ ัติเหตมุ ากมายมีท้ังกระดกู หกั กระดูกเคลอ่ื น กลา้ มเนอื้ ฉกี ขาด หกล้ม ถูกวตั ถทุ ิ่มแทง ติดอยู่ ภายในวตั ถหุ รอื ติดอยรู่ ะหวา่ งวัตถุ เป็นตน้ การเกิดอบุ ตั เิ หตรุ อ้ ยละ 85 เกดิ จากการกระทําของมนุษยส์ าเหตเุ ช่น ไม่ปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอน ลดขน้ั ตอน หรือรีบเรง่ เกนิ ไป ฝา่ ฝืนกฎระเบียบ สญั ลักษณ์และปา้ ยเตอื นด้านความปลอดภยั สภาพรา่ งกายไมพ่ รอ้ ม ไม่สวมใสอ่ ุปกรณป์ ้องกัน ปฏบิ ัติงานโดยไม่มีหน้าที่ หรอื ขาดความรแู้ ละทักษะความชาํ นาญ อีกร้อยละ 15 เกิดจากสภาพการทาํ งานทไี่ มป่ ลอดภยั เช่น การวางผงั โรงงาน หรือกระบวนการผลิตทไี่ มถ่ กู ตอ้ งเหมาะสม ไมม่ กี ารปอ้ งกันสว่ นทีเ่ ป็นอนั ตราย ขาดการบาํ รุงรกั ษาและตรวจสอบอปุ กรณต์ า่ งๆ ความไม่เปน็ ระเบียบ เรยี บร้อย สภาพและสิ่งแวดลอ้ มในการทํางานไมด่ ี ความปลอดภยั ในสำนกั งานและอนั ตรายต่อสขุ ภาพ เพ่ือใหเ้ กดิ ความปลอดภัยและลดอนั ตรายต่อสขุ ภาพควรคาํ นึงถึงเรอื่ งต่อไปนี้ 1. การหมนุ เวยี นของอากาศ การระบายอากาศในสํานักงานทีด่ สี ง่ ผลให้คุณภาพอากาศภายในที่ดีความช้ืนและอณุ หภูมิเหมาะสม สําหรบั การทํางาน ขอ้ ควรปฏิบัติมดี งั นี้ - เครอ่ื งพิมพห์ รอื เครอ่ื งถ่ายเอกสารในสาํ นักงาน ควรมีระบบระบายอากาศออกท่จี ะนาํ อนภุ าคและ แก๊สใหพ้ น้ จากการสูดดมของผูป้ ฏบิ ัตงิ าน - อปุ กรณ์สํานักงานและระบบการหมุ่นเวียนของอากาศต้องหมนั่ ตรวจสอบอย่เู สมอ 2. แสงสว่าง แสงสว่างท่ีไมเ่ พียงพออาจนาํ ไปสู่การเกดิ อุบตั ิเหตไุ ดก้ ารควบคุมแสงสวางใหเ้ พยี งพอ ทาํ ดังนี้ - ตรวจสอบระบบแสงสวา่ งอย่างสมำ่ เสมอ - ผนัง เพดาน พน้ื ใช้สีทไี่ มส่ ว่งจนเกนิ ไปจะชว่ ยลดแสงท่ีจา้ ได้ - ไม่ใหแ้ สงสวา่ งสอ่ งเข้าตาผูป้ ฏบิ ัตงิ านโดยตรง 3. การจดั การภายในสาํ นกั งาน การออกแบบหรอื การจดั การทีไ่ มด่ ีทาํ ใหเ้ กิดการแออดั ขาดความเปน็ ส่วนตัว ทําใหพนกั งานล่ืนและ หกลม้ ไดง้ า่ ย ปจั จัยสําคญั ในการวางผังสํานักงานมดี งั นี้ - เก้าอีค้ วรออกแบบให้เหมาะสมกับการใชง้ านหม่ันตรวจสอบลูกลอ้ ขาเก้าอี้และส่วนประกอบท่ี อาจจะหลดุ ได้ - ห้ามยนื บนเก้าอ้เี พื่อไปเอ้ือมหยิบของเหนือศีรษะ - เปิดลน้ิ ชักเอกสารทีละช้ันเท่านัน้ และปดิ ทุกครั้งหลงั เลิกใชง้ าน - ไมว่ างตเู้ อกสารไวข้ า้ งประตูหรือวางไว้บริเวณทางเดนิ

8 4. ทางออก การออกแบบหรือการวางสิ่งของขวางทางออก ทําให้เกิดการบาดเจ็บ ลื่นและหกล้มได้ง่าย หากเกิด เหตฉุ ุกเฉินจะทาํ ใหต้ ดิ อยู่บริเวณทางออกซงึ่ เปน็ สาเหตขุ องการบาดเจบ็ และล้มตายได้การดแู ลทางออกทําได้ ดงั น้ี - ทางออกทกุ แห่งตอ้ งมคี วามกวา้ งไมน่ ้อยกวา่ 0.84 เมตร สงู สุทธิไมน่ อ้ ยกว่า 1.97 เมตร - ต้องมที างออกอย่างน้อย 2 ทาง - ต้องมปี ้ายบอกทางและปา้ ยทางออกให้เหน็ ชัดเจน - ทางออกรวมถึงบนั ไดหนีไฟตอ้ งไมม่ อี ะไรมาขวางและมแี สงสวา่ งเพยี งพอ - ผู้ปฏบิ ตั ิงานตอ้ งรถู้ งึ ทางออกและฝกึ ซ้อมปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนอพยพเปน็ อยา่ งดี 5. อนั ตรายจากเพลงิ ไหม้ ปัญหาสาํ คัญในสํานกั งานคอื โอกาสที่จะเกิดอนั ตรายจากเพลิงไหม้วสั ดุทใ่ี ช้ในสํานกั งานส่วนใหญ่ ง่ายตอ่ การตดิ ไฟและก่อให้เกดิ ควันพิษได้การลดอันตรายจากเพลิงไหม้ควรทํา ดังน้ี - ถังดับเพลิงและสัญญาณเตือนไฟไหม้ควรอยใู่ นทๆ่ี มองเห็น เขา้ ถึงไดง้ ่าย และไมม่ สี ่ิงใดมากดี ขวาง - วัสดุไวไฟและยอ่ ยสลายไดง้ ่ายตอ้ งระบชุ นิด แยกประเภท และเก็บไวในทเี่ ก็บทเ่ี หมาะสม - ต้องมขี ้อมูล Material Safety Data Sheets (MSDS) สาํ หรับอนั ตรายทีเ่ กดิ จากสารเคมแี ตล่ ะชนิดทใ่ี ช้ 6. อุปกรณ์ไฟฟา้ การเกิดอุบัตเิ หตุจากไฟฟ้าในสาํ นักงานมกั พบอยบู่ ่อยๆ อนั เนอื่ งมาจากความผดิ ปกติความบกพรอ่ ง ของอปุ กรณ์การตดิ ตัง้ ท่ไี ม่ปลอดภยั หรอื การใชท้ ไี่ ม่ถกู วธิ ขี อ้ แนะนําสาํ หรบั การตดิ ตง้ั หรือการใช้อุปกรณ์ ไฟฟา้ มีดังนี้3 - อปุ กรณ์ไฟฟ้าตอ้ งต่อสายดนิ ใหถ้ ูกตอ้ งเพือ่ ปอ้ งกันไฟฟ้าลัดวงจร - อย่าใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้าทข่ี าดการดแู ลรกั ษา หรอื ไม่ได้รับการรับรองดา้ นความปลอดภัย - ห้ามปรบั แต่งหรอื เปลีย่ นแปลงส่วนประกอบเครือ่ งใช้สาํ นักงาน เนอ่ื งจากจะเกดิ อันตรายขณะ เคร่ืองทาํ งาน - หา้ มถอดอปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายหรอื เปิดแผงเคร่อื งใชส้ ํานักงานทมี่ ีอันตรายโดยเด็ดขาด หากเครอ่ื งขดั ขอ้ งใหช้ ่างทม่ี ีความชํานาญทาํ การซ่อมแซมแก้ไข - ถอดปลัก๊ และตัดกระแสไฟฟาเครอ่ื งมือกอ่ นทาํ ความสะอาดหรือปรับแตง่ ควรยึดอปุ กรณ์เครอ่ื งมอื หรือแขวนปา้ ยเตือนเม่อื ทําการบํารุงรกั ษา 7. เครื่องถา่ ยเอกสาร เครื่องถา่ ยเอกสารเป็นแหล่งของมลพิษในสำนกั งานหากไม่มีการระบายอากาศทดี่ คี วรปฏิบตั ดิ งั นี้ - ปดิ ฝาเคร่อื งถ่ายเอกสารทกุ คร้ัง - ต้งั เครอ่ื งในหอ้ งทีม่ อี ากาศถ่ายเทสะดวกและไกลจากโต๊ะทาํ งาน - ดูแลเครือ่ งเป็นประจาํ ปอ้ งกนั ไมใ่ หส้ ารเคมีหลดุ ออกมาจากเครอ่ื ง

9 เครอ่ื งหมายความปลอดภยั เคร่อื งหมายเพ่ือความปลอดภัย (safety sign) หมายถงึ เครอ่ื งหมายท่ีตอ้ งการใช้ส่ือความหมาย โดยใช้รูป สี หรือข้อความ ที่เฉพาะเจาะจงกับผู้ที่อาจได้รับอันตรายในสถานที่ทางาน โดยข้อความภายในป้ายอาจจะสื่อ ความหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ (prevent accidents), อันตรายต่อสุขภาพ (health hazards), ระบุ สถานที่ตงั้ ของอุปกรณ์ป้องกนั ไฟไหม้ (fire protection) หรอื การให้คำแนะนำในกรณีทีเ่ กิดเหตุฉุกเฉิน หมวดหมขู่ องเคร่อื งหมายเพ่ือความปลอดภยั (safety sign categories) สำหรับการแบ่งประเภทของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย มีด้วยกันอยู่หลายมาตรฐาน [ 1-6] ในประเทศไทยใช้มาตรฐาน มอก. 635 (6) โดยแบ่งประเภทของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย ออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้ 1. เครอื่ งหมายห้าม (Prohibition sign) 2. เคร่อื งหมายบังคับ (Mandatory sign) 3. เครอ่ื งหมายเตือน (Warning sign) 4. เครอ่ื งหมายแสดงภาวะปลอดภัย (No danger sign) 5. เครื่องหมายแสดงอุปกรณเ์ กย่ี วขอ้ งกับอัคคภี ัย (Fire protection equipment sign) 6. เครือ่ งหมายข้อมลู ทั่วไป (General Information sign) แต่ละประเภทจะมี การกำหนดสีเพื่อความปลอดภัย, รูปแบบของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย, เครื่องหมายเสริม และขนาดของเครื่องหมายและตัวอักษรของป้ายสัญลักษณ์ เพื่อความปลอดภัยที่ใช้ส่ือ ความหมายตา่ งๆ แทนการใชข้ อ้ ความ โดยมีสาระสำคญั ดงั นี้ 1. สเี พ่อื ความปลอดภัยและสีตดั 2. รปู แบบของเครอ่ื งหมายเพื่อความปลอดภัย 3. เครื่องหมายเสรมิ 4. ขนาดของเครื่องหมายเพ่อื ความปลอดภัย 5. ตวั อยา่ งเครอ่ื งหมายเพอ่ื ความปลอดภัยและความหมาย 6. ขอ้ แนะนำในการเลือกและการใชเ้ ครอ่ื งหมายเพอื่ ความปลอดภยั 1. สีเพื่อความปลอดภัย (Safety colours) คือ สีที่กำหนดในการบอกความหมายเพื่อความปลอดภัย กำหนดให้ใช้สีเพื่อความปลอดภัย แสดงรายละเอียดตามตารางที่ 1 สำหรับสีตัดและและสีของสัญลักษณ์ (contrasting colours and symbol colours) แสดงรายละเอียดตามตารางท่ี 2

10 ตารางที่ 1 สเี พือ่ ความปลอดภัย ตารางที่ 2 สีตัดและและสขี องสัญลักษณ์ หมายเหตุ อาจใชส้ ีแดงส้มวาวแสง แทนสเี หลอื งได้ แต่ไม่ใหใ้ ช้แทนสีเหลอื งกับเครอ่ื งหมายเพ่ือ ความปลอดภัย ตามตารางท่ี 2 เนอ่ื งจากสีแดงส้มวาวแสง มองเหน็ เดน่ ในภาวะทมี่ ดื มัว 2. รูปทรงเรขาคณิตของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย จะเป็นการแบ่งประเภทของเครื่องหมาย เพื่อความปลอดภัย เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ แสดงดังตารางที่ 3 โดยที่สีตัดและและสีของสัญลักษณ์ อ้างอิงตามตารางที่ 2

11 ตารางที่ 3 รปู ทรงเรขาคณิตของเครือ่ งหมายเพ่ือความปลอดภัย 3. เครอ่ื งหมายเสรมิ หมายถึง เครือ่ งหมายที่ใช้สือ่ ความหมายเกีย่ วกบั ความปลอดภัยโดยมีสี รูปแบบและ ข้อความเพ่อื ใช้รว่ มกบั เครื่องหมายเพอ่ื ความปลอดภัยในกรณที ่ีจำเปน็ 1. รปู แบบของเคร่อื งหมายเสรมิ เปน็ ส่ีเหล่ยี มผนื ผา้ หรอื ส่เี หลยี่ มจัตรุ ัส 2. สีพื้นให้ใช้สีเดียวกับสีเพื่อความปลอดภัย และสีของข้อความให้ใช้สีตัด หรือสีพื้นให้ใช้สีขาวและสี ของขอ้ ความใหใ้ ชส้ ดี า 3. ตัวอกั ษรทีใ่ ช้ในขอ้ ความ 3.1 ชอ่ งไฟระหวา่ งตัวอักษรตอ้ งไม่แตกตา่ งกนั มากกวา่ รอ้ ยละ 10 3.2 ลกั ษณะของตัวอกั ษรต้องดเู รียบงา่ ย ไม่เขยี นแรเงาหรอื ลวดลาย 4. ให้แสดงเครอ่ื งหมายเสริมไว้ใตเ้ คร่อื งหมายเพื่อความปลอดภัย ดังตวั อย่างในรูป ตัวอย่างการแสดง เครื่องหมายเสริมเพือ่ ความปลอดภยั 4. ขนาดของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย หมายถึง ขนาดของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย และ ตวั อักษรทใี่ ช้ในเครื่องหมายเสริม กำหนดไว้เปน็ แนวทาง แสดงดังรปู ที่ 1 และตารางท่ี 4

12 รูปที่ 1 ขนาดของเครอ่ื งหมายและตัวอกั ษร ตารางที่ 4 ขนาดของเครอ่ื งหมายและตัวอักษร ในหน่วยเปน็ มลิ ลเิ มตร (mm) 5. ตัวอย่างเคร่อื งหมายเพ่ือความปลอดภยั และความหมาย 6. ขอ้ แนะนำในการเลอื กและการใช้เครื่องหมายเพือ่ ความปลอดภัย

13 1. การใช้เครอ่ื งหมายเพือ่ ความปลอดภยั รว่ มกับเคร่ืองหมายเสริม ในกรณีทไี่ ม่มีเครือ่ งหมายท่ีใช้สัญลักษณ์ ภาพ ตามท่ีแสดงในภาคผนวก ก. หากตอ้ งการจะแสดงเครอ่ื งหมายตามทต่ี อ้ งการ ใหเ้ ลือกปฏิบตั ิดังนี้ 1.1 ใช้สัญลกั ษณภ์ าพท่ีเหมาะสม ท่ีดแู ลว้ เข้าใจงา่ ยท่ีสดุ ไมต่ ้องแสดงรายละเอียดในสัญลักษณ์ภาพท่ี ไมจ่ ำเปน็ ตอ่ การสื่อความหมาย แต่ใช้เครอ่ื งหมายเสริมรว่ มด้วยถ้าจำเป็น 1.2 ใช้เครื่องหมายทั่วไปสำหรับเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยแต่ละประเภทร่วมกับเครื่องหมาย เสริม ดงั ตัวอยา่ งในรปู 2. การใช้เครือ่ งหมายเพื่อความปลอดภัย เพ่ือจดุ ประสงคใ์ นการสื่อความหมายมากกวา่ 1 ความหมาย 2.1 ไม่ควรสอ่ื ความหมายโดยการใชเ้ ครอื่ งหมายเพื่อความปลอดภยั ร่วมกบั เครื่องหมายเสรมิ ทม่ี ี ขอ้ ความสื่อความหมาย 2 ประการ ดงั น้ี

14 ถ้าต้องใชเ้ ครื่องหมายหา้ มรว่ มกับข้อความเพ่ืออธิบายขอ้ ความเก่ียวกับการประกาศเตือน ไม่ควรใช้ เครื่องหมาย ดงั น้ี 2.2 ไม่ควรใช้เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยประเภทเดียวกันที่แสดง สองความหมายอยู่ใน เครื่องหมายเดียวกนั ดังนี้

15 3. การใช้เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยสำหรับเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เมื่อต้องการใช้เครื่องหมาย เพือ่ ความปลอดภัยที่แสดงไว้ในภาคผนวก ก. เพ่ือแสดงความหมายสาหรบั เงื่อนไขท่ีแตกต่างออกไปแต่การส่ือ ความหมายยังเหมือนเดิม ใหใ้ ช้สัญลกั ษณ์ภาพนนั้ รว่ มกับเครื่องหมายเสริมทใี่ ชถ้ อ้ ยคำแตกต่างออกไป เชน่ สรุปสาระสำคัญของความปลอดภยั ความปลอดภัยในสํานักงานถือว่าสําคัญ สําหรับบางคนเป็นเรื่องยากที่จะนําเรื่องสุขภาพและความ ปลอดภัยมาใช้ในการทํางานประจําวัน ดว้ ยเหตุผลนีส้ ิ่งที่งา่ ยทีส่ ุดคือการเรียนรู้จากตวั อย่างและข้อแนะนําตาม ขนั้ ตอนปฏิบัตงิ านเฉพาะ เทคนคิ เหล่านจี้ ะช่วยสาธติ และแสดงใหเ้ ห็นถึงการทํางานท่ปี ลอดภัยและไมป่ ลอดภัย เพื่อชว่ ยลดอนั ตรายทีจ่ ะเกดิ ข้นึ ความหมายของงานทะเบยี น งานทะเบียน หมายถึง กระบวนการเก็บข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา สถานภาพ ทางการศึกษาการจบการศึกษา ทะเบียนหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอนในโรงเรียน ทะเบียนรายวิชา ขอ้ มูลสารสนเทศของผู้เรยี น งานทะเบยี นเป็นงานท่ีส่งเสริมงานดา้ นวชิ าการและจัดเปน็ งานทที่ ำใหร้ ะบบการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการลลุ ว่ งไปไดด้ ้วยดใี หส้ ถานศึกษามปี ระสทิ ธภิ าพ ในสถานศึกษาหลายแห่งจัดงานฝ่ายทะเบียนเป็นงานด้านบริการการศึกษา แต่ก็มีหลายแห่งที่ถือว่า เป็นงานของฝ่ายวิชาการ เพราะงานทะเบียนจะมีงานตั้งแต่การเริ่มรับสมัครผู้ที่จะเข้าศึกษาในสถานศึกษา จนสำเรจ็ การศกึ ษา งานฝา่ ยทะเบียนจงึ เปน็ งานที่มีกระบวนการทำงานที่สำคญั ตอ่ เน่ืองและสอดคล้องกับงาน วิชาการ และงานต่างๆของโรงเรียน

16 หน้าท่ขี องงานทะเบยี น งานทะเบียน มหี น้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบดงั ต่อไปนี้ - จดั หาแบบพิมพต์ ่าง ๆ ที่ใช้ในงานทะเบียน - ดำเนนิ การเก่ียวกับการรบั สมัครนกั เรยี น นกั ศึกษา และการตรวจหลกั ฐานตา่ ง ๆ - ดำเนนิ การใหม้ ีการขนึ้ ทะเบยี นเปน็ นักเรียน นักศกึ ษา และผู้เข้ารับการฝึกอบรม - ดำเนินการให้มีการลงทะเบียนรายวิชา ลงทะเบียนภายหลังกำหนด การขอพักการเรียน การขอคืน สภาพการเปน็ นกั เรยี นนกั ศึกษาและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ - จัดทำบัตรประจำตวั นักเรยี น นักศึกษา - ตรวจสอบรายชื่อ นักเรียน นักศึกษาที่ไม่มีสิทธิ์สอบ การสอบแก้ตัว การสอบทดแทน การพ้นสภาพ การเป็นนกั เรยี น นกั ศึกษา เพอ่ื นำเสนอใหผ้ อู้ ำนวยการวิทยาลยั ทราบ และพิจารณาหรอื ผูท้ ่เี กยี่ วขอ้ งทราบตาม ควรแก่กรณี - ประสานกับงานวัดผลและประเมินผล จัดทำรายงานผลการเรียนเฉลี่ย ( GPA) และตำแหน่ง เปอร์เซน็ ต์ไทล์ (PR) เสนอหนว่ ยงานท่เี กยี่ วขอ้ ง - รับผลการประเมินผลการเรียนประจำภาค ซึ่งผู้อำนวยการวิทยาลัยอนุมัติแล้ว บันทึกลงในระเบียน แสดงผลการเรยี น - ให้บริการเกี่ยวกับการออกหลักฐานทางการเรียน เช่น การออกสำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน ใบรบั รองผลการเรยี น ประกาศนียบัตร และเอกสารอนื่ ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง - รับและดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องต่าง ๆ ของนักเรียน นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับงานทะเบียน เช่น การลาออก การพักการเรียน การโอน ย้าย การเรยี นภาคฤดรู อ้ น การขอเปลยี่ นชอ่ื ช่อื สกลุ วันเดอื นปีเกดิ เป็นตน้ - สง่ แบบสำรวจและรายงานต่าง ๆ ท่ีเกีย่ วข้องกับงานทะเบียน รวมทั้งรายงานการเรียนของผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษาให้หนว่ ยงาน และผเู้ กีย่ วข้องตามระเบียบ - จัดระบบการเก็บรักษาเอกสารและหลักฐานการลงทะเบียนและเอกสารอื่น ๆ ตามความจำเป็นท่ี เกย่ี วกบั งานทะเบยี นให้เปน็ ไปตามระเบยี บ - เกบ็ รักษาเอกสารและหลกั ฐานต่าง ๆ ไวเ้ พอ่ื การตรวจสอบและดำเนนิ การทำลายเอกสารตามระเบียบ - ประสานงานและใหค้ วามรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทงั้ ภายใน และภายนอกสถานศึกษา - จัดทำปฏิทินการปฏิบตั งิ าน เสนอโครงการและรายงานการปฏิบตั ิงานตามลำดับข้ัน - ดูแล บำรุงรกั ษา และรับผิดชอบทรัพย์สินของสถานศึกษาทีไ่ ด้รับมอบหมาย - ปฏบิ ตั งิ านอ่ืนตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ขอบขา่ ยงานงานทะเบียนนกั เรยี น 1. งานรับนกั เรียนใหม่ การมอบตวั /การตรวจสอบ และจัดเก็บเอกสารมอบตัว 2. งานทะเบียนประวัติของนกั เรยี น 3. งานจำหนา่ ยนักเรยี นออกจากทะเบยี นนกั เรยี น

17 4. งานสถติ ิขอ้ มลู พืน้ ฐานของนักเรยี นและจำนวนนกั เรียน 5. งานออกเอกสารแสดงผลการเรยี นของนักเรียนทีจ่ บการศกึ ษาแล้วและทีก่ ำลงั ศกึ ษา 6. งานเกบ็ เอกสารแสดงผลการเรยี นของนักเรียนทั้งหมด 7. งานตรวจสอบวุฒิการศกึ ษาของนักเรียนท่ีหน่วยงานอ่ืนประสานมาถงึ งานทะเบยี น 8. จัดทำรายงานผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) ของนักเรียน นักศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษา (ม.6) ระดับประกาศนีบัตรวชิ าชพี หรอื เทยี บเท่า 9. จัดทำแบบรายงานผู้สำเรจ็ การศึกษา 10. ตรวจสอบโปรแกรมการเรยี นและเทยี บโอนผลการเรยี นของนักเรยี นทยี่ า้ ยเขา้ เรยี นระหวา่ งปีการศึกษา 11. งานสถิตขิ ้อมูลงานทะเบยี น 12. ภาระงานเฉพาะกจิ ที่โรงเรียนมอบหมาย 13. การตดิ ตอ่ ทำใบรับรองสภาพการเป็นนักเรียน นกั ศกึ ษา หรือใบรับรองผลการเรยี น (หลกั ฐานที่ใช้) - กรอกคำร้องทั่วไป - รูปถา่ ย 1 นว้ิ จำนวน 2 รปู /1ชุด (สวมชดุ เครอ่ื งแบบของวทิ ยาลัยพณชิ ยการธนบุรี) - มารบั หลักฐานหลงั จากทีย่ ่ืนคำร้องไวเ้ ป็นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 1 สปั ดาห์ หมายเหตุ : เอกสารประกอบการเขยี นคำรอ้ ง 1. รูปถา่ ย 1 น้วิ จำนวน 2 รปู / 1 ฉบบั (กระดาษต้องไมม่ นั ไม่โพราลอย ไมส่ ติกเกอร์ ไมถ่ ่ายดว้ ยโทรศัพท์ พืน้ หลงั ตอ้ งเปน็ สฟี า้ ) 2. แต่งชุดเคร่อื งแบบของวทิ ยาลัยพณิชยการธนบรุ ี กรณีผชู้ าย ตอ้ งไมไ่ หวหนวดเครา ไม่ใสเ่ คร่อื งประดบั จดั ทรงผมให้เรียบรอ้ ย กรณผี ้หู ญงิ ถ้าผมยาวใหม้ ดั ผมใหเ้ รียบร้อย ไม่ใส่เครื่องประดับ 3. เขยี นคำร้องท่งี านทะเบียน (ไมม่ คี า่ ใชจ้ ่าย) 14. การติดตอ่ ขอลาออก (หลกั ฐานที่ใช้) - กรอกคำร้องลาออก - สำเนาบัตรประชาชนของผูป้ กครอง (พาผู้ปกครองมาพบครูทปี่ รึกษาด้วย) - รูปถา่ ย 1 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สวมชุดเครอ่ื งของวิทยาลัยพณิชยการธนบุร)ี - มารบั หลกั ฐานหลงั จากทย่ี ่ืนคำร้องไวเ้ ป็นเวลาไมน่ ้อยกวา่ 1 สปั ดาห์ (กรณีขอใบรับ รบ.) 15. การตดิ ต่อขอใบ รบ. ใหม่ (หลกั ฐานที่ใช้) - กรอกคำร้องทวั่ ไป - ใบแจง้ ความ (แจง้ ความวา่ ใบระเบยี นแสดงผลการเรียนระดับ ปวช. หรอื ปวส.สูญหาย) - รปู ถ่าย 1 น้วิ จำนวน 2 รูป/1ชุด (สวมชดุ เคร่อื งแบบของวิทยาลัยพณิชยการธนบุรี) - มารบั หลักฐานหลงั จากที่ย่ืนคำร้องไว้เป็นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 1 สัปดาห์ หมายเหตุ : เอกสารประกอบการเขียนคำร้อง 1. รูปถ่าย 1 นว้ิ จำนวน 2 รูป / 1 ฉบับ (กระดาษตอ้ งไม่มัน ไมโ่ พราลอย ไมส่ ติกเกอร์ ไม่ถ่ายด้วยโทรศัพท์ พ้นื หลงั ตอ้ งเป็นสฟี ้า)

18 2. ใสเ่ ส้อื เช้ิตสขี าว กรณีผชู้ าย ต้องไม่ไหวหนวดเครา ไม่ใส่เครอ่ื งประดับ จัดทรงผมใหเ้ รยี บร้อย กรณผี หู้ ญิง ถา้ ผมยาวให้มดั ผมใหเ้ รียบรอ้ ย ไม่ใส่เครือ่ งประดับ 3. เขียนคำร้องที่งานทะเบยี น (คา่ ใชจ้ ่ายในการจัดทำ 20 บาทถว้ น) 16. การตดิ ตอ่ ขอ Transacrip (หลกั ฐานทใ่ี ช)้ - กรอกคำร้องทว่ั ไป - รูปถา่ ย 1 น้วิ จำนวน 2 รปู /1ชุด (สวมชดุ เครือ่ งแบบของวิทยาลัยพณชิ ยการธนบุรี) - มารับหลกั ฐานหลงั จากทย่ี ่นื คำร้องไว้เปน็ เวลาไม่นอ้ ยกว่า 1 สัปดาห์ หรือนานกว่านนั้ หมายเหตุ : เอกสารประกอบการเขียนคำรอ้ ง 1. รปู ถ่าย 1 นวิ้ จำนวน 2 รูป / 1 ฉบับ (กระดาษต้องไม่มัน ไม่โพราลอย ไมส่ ติกเกอร์ ไม่ถ่ายดว้ ยโทรศัพท์ พ้นื หลงั ต้องเป็นสฟี า้ ) 2. ใสเ่ ส้ือเช้ิตสีขาว กรณผี ชู้ าย ต้องไมไ่ หวหนวดเครา ไมใ่ สเ่ ครื่องประดบั จัดทรงผมใหเ้ รยี บรอ้ ย กรณผี ูห้ ญงิ ถ้าผมยาวให้มดั ผมให้เรยี บร้อย ไมใ่ ส่เครอ่ื งประดบั 3. เขยี นคำรอ้ งทง่ี านทะเบยี น (ค่าใชจ้ ่ายในการจัดทำ 20 บาทถว้ น) 17. การตดิ ตอ่ ขอเปลย่ี นช่ือ/สกุลใหม่ (หลกั ฐานที่ใช)้ - สำเนาใบเปลย่ี นชอ่ื – สกุลทง้ั ใหมแ่ ละเกา่ - เขยี นเลขประจำตวั นกั เรยี น นักศึกษา ระดบั ชั้น กลมุ่ แผนกวชิ า - แจ้งครปู ระจำช้ันรับทราบ - กรอกคำรอ้ งขอเปลีย่ นชือ่ 18. ขอ้ มูลการติดต่องานทะเบียน - เปดิ ทำการ จนั ทร์ – ศุกร์ (หยุดวันนกั ขตั ฤกษ)์ - เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น. โรคทเี่ กิดจากการทำงานสำนักงาน เนอ่ื งด้วยในสถานการณ์ปัจจบุ นั ได้ท่ีเกิดโรคระบาดโควดิ -19 ขน้ึ มาทำใหต้ อ้ งมีการปรับเปลี่ยนวิถีการ ใช้ชีวติ ในปัจจบุ ัน ทำใหต้ อ้ ง Work Form Home หมายถงึ การทำงานที่บ้านนนั่ เอง เพราะด้วยเหตุน้ีเองทำให้ สุขภาพของคนในปี 2563 – 2564 มีสภาวะที่ย่ำแย่ลงอย่างมาก ในวันที่ร่างกายยังแข็งแรง คนส่วนใหญ่มัก ไมใ่ หค้ วามสำคญั กับสุขภาพมากนกั โดยเฉพาะคนวยั ทำงานท่ีมักจะลมื คำนึงถงึ การดแู ลสุขภาพของตนเองและ ครอบครัว การใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบตลอดเวลา ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย กินอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ ตอ่ สุขภาพ ลว้ นเป็นปัจจยั ที่จะทำใหเ้ กิดโรคต่างภัยไข้เจ็บตา่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี

19 1) โรคปลอกประสาทอักเสบ จากข้อมูลทางสถิติ โรคปลอกประสาทอักเสบเป็นโรคใกล้ตัวหญิงวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 20 – 40 ปี หากเปน็ มากจะสญู เสียการเคลือ่ นไหวของรา่ งกายจนอาจเปน็ อัมพฤกษ์ อมั พาตได้ 2) โรคเครียดลงกระเพาะ โรคเครียดลงกระเพาะ สว่ นมากเกดิ จากความเครียด เพราะในขณะที่เราเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะกระตุ้นให้ กระเพาะอาหารหลงั่ นำ้ ย่อยออกมามากกวา่ ปกติ จนเกดิ การระคายเคือง ส่งผลใหเ้ กิดโรคกระเพาะอาหาร 3) โรคความดันโลหติ สงู โรคความดันโลหิตสูง จากการที่พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับความกดดันอยู่บ่อยครั้ง โรคนี้ยังเป็น สาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวายอีกด้วย จากการรายงานขององค์การอนามยั โลกคาดการณ์วา่ ในปี พ.ศ. 2568 จะมผี ้ปู ว่ ยโรคความดนั โลหติ สูงเพม่ิ ขึน้ เป็น 1.56 พนั ล้านคน 4) ออฟฟศิ ซนิ โดรม ออฟฟิศซินโดรมเปน็ โรคท่ีเกิดขึ้นโดยตรงกบั พนักงานออฟฟิศ ด้วยพฤติกรรมส่วนใหญข่ องคนทำงานทีต่ ้องน่ัง ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอรอ์ ยู่เปน็ เวลานานโดยไม่ไดข้ ยับตวั จนทำใหก้ ล้ามเน้อื เกดิ อาการตึง ก่อให้เกิดอาการ กล้ามเนื้ออักเสบได้ จากสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า “คนวัยทำงานร้อยละ 60 มีภาวะ โรคออฟฟศิ ซินโดรม” 5) โรคหวั ใจ โรคหัวใจ มักเกิดขึ้นกับคนวัยทำงาน เพราะคนวัยทำงานมีการดำเนินชีวิตที่ต้องทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ประกอบกับการรับประทานอาหารที่มไี ขมันสงู และรสชาตจิ ัด อกี ท้ังไม่มีเวลาออกกำลงั กาย ปัจจัยเหล่าน้ีส่งผล ใหเ้ กิดโรคหวั ใจได้อยา่ งง่ายดาย 6) โรคกรดไหลย้อน โรคกรดไหลย้อนเปน็ โรคที่คนทำงานหลายคนมักมองขา้ มไป แต่ความจริงแล้วโรคดงั กล่าวเป็นภัยเงียบท่หี น่มุ สาววยั ทำงานควรระวังไว้ เนอ่ื งดว้ ยชวี ติ ทเ่ี รง่ รีบของคนทำงาน อาจมตี ัวเลือกสำหรับอาหารไม่มากนัก ทำให้คน สว่ นใหญ่ตอ้ งบริโภคอาหารรสจัด ของมัน ของทอด หรอื นำ้ อัดลมอย่างหลกี เลี่ยงไมไ่ ด้ หรือบางคนท่ีทำงานดึก ดื่นจนไม่มีเวลากินข้าว ต้องมากินข้าวก่อนนอน เมื่อกินเสร็จก็นอนทันที นับได้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็น พฤติกรรมทสี่ อ่ ให้เกิดโรคกรดไหลยอ้ น 7) โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อีกหนึ่งโรคยอดฮิตของคนวัยทำงาน สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คนเกิดโรคนี้คือ เมื่อปวดปัสสาวะแล้วไมย่ อมลุกไปเข้าห้องนำ้ ด่มื น้ำนอ้ ย หรือเลือกดม่ื กาแฟแทนน้ำเปล่า ซง่ึ พฤตกิ รรมท่ีทำจน เกิดเปน็ นิสยั แบบน้ีส่งผลให้เกดิ โรคร้ายได้ สำหรับมนุษย์ออฟฟิศที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ การตรวจ สุขภาพร่างกายเป็นประจำทกุ ปี ถอื วา่ เปน็ อีกหน่งึ ทางออกทจี่ ะช่วยคุณได้ โรงพยาบาลกรงุ เทพเห็นความสำคัญ จึงไดจ้ ัดโปรแกรมชดุ ตรวจสขุ ภาพ ซึง่ ประกอบด้วย

20 1. ชดุ ตรวจประเมนิ ภาวะความดนั โลหติ สงู ซึง่ จะชว่ ยให้คุณไดร้ ับรู้ถึงอัตราความเส่ยี งของตนเองกอ่ น เกดิ โรคการสอ่ งกลอ้ งตรวจกระเพาะอาหาร เพราะเราไมม่ ีทางรู้เลยว่า อาหารที่กนิ เขา้ ไปในแตล่ ะวนั จะสง่ ผลใด ต่อระบบทางเดินอาหารของเรา วิธีการท่ดี ีทส่ี ดุ คอื การส่องกลอ้ งเพือ่ ตรวจระบบทางเดนิ อาหาร 2. ชดุ ตรวจสุขภาพหัวใจ สามารถเลือกตรวจได้ เพอ่ื ให้คุณตรวจไดต้ รงตำแหนง่ ทีส่ ุด 3. ชดุ ตรวจสขุ ภาพสมอง เลือกตรวจได้ตามความเหมาะสม การรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ COVID-19 โควิด-19 ระลอก 3 มาพร้อมกับมาตรการที่ฟังแล้วคุ้นหู อ่านแล้วคุ้นตา อย่าง DMHTT ซึ่งมาจาก ตวั อักษรย่อภาษาอังกฤษท่ีเปน็ แนวทางปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ วา่ จำเปน็ อยา่ งย่ิงท่ีจะต้องปฏิบัติ ตามอยา่ งเครง่ ครดั โดยมีความหมายดงั น้ี D = Distancing คือ การเว้นระยะห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ผ่านละอองฝอยจากการพดู ไอ และจาม M = Mask Wearing คือ สวมใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยหรือ หน้ากากผ้า H = Hand Washing คือ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ทั้งล้างสบู่และเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการสัมผัส โดนเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ที่เสย่ี งตอ่ การส่งต่อเชอื้ เขา้ สูร่ า่ งกายได้ T = Testing คือ หมั่นวัดอุณหภูมิรา่ งกาย ก่อนเข้าไปยังสถานที่ตา่ ง ๆ รวมถึงตรวจสอบวา่ สถานที่ที่ เดินทางไปเปน็ พนื้ ที่เสยี่ งหรือไม่ หากใชค่ วรเขา้ รบั การตรวจโควิด-19 โดยเร่งดว่ น T = Thai Chana คือ รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการสแกนแอปไทยชนะทุกครั้งที่ไปสถานที่ต่าง ๆ เพื่อลงทะเบียนไว้เป็นฐานข้อมูล ซึ่งหากพบว่ามีผู้ติดเชื้อเดินทางไปยังสถานที่ที่คุณได้ไปมา ไทยชนะจะส่ง ข้อความมาแจง้ เพ่อื ให้คณุ กกั ตัว หรือรบั การตรวจโควิด-19 ไดท้ ันท่วงที และเมื่อคุณหรือสมาชิกในครอบครัว พบว่ามีสมาชิกบางคนอยูใ่ นกลุ่มเสีย่ งต่อการได้รับเชื้อโควดิ -19 หรือติด เชื้อแล้วแต่ได้รับการรักษาจนหาย และกำลังจะเดินทางกลับมากักตวั ต่อที่บ้านพัก จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนใน ครอบครวั ตอ้ งทำความเข้าใจ และใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิตวั ขณะอยู่รว่ มบา้ นเดยี วกันอย่างเครง่ ครัด โดย วันนี้มีคำแนะนำในการใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อใหท้ ุกคนในครอบครัวปลอดภยั และห่างไกลจากโควิด-19 ไดอ้ ย่างไม่ ต้องกงั วล 1. ตงั้ ขอ้ ตกลงการใช้ชวี ิตรว่ มกันให้ชดั เจน และแจ้งให้สมาชิกทุกคนในบ้านทราบ พร้อมทำความเข้าใจ ใหต้ รงกนั ไมว่ า่ จะเปน็ การเว้นระยะห่างไม่นอ้ ยกวา่ 2 เมตร หลีกเลี่ยงการสัมผสั ใกล้ชิด ไมจ่ บั มือ กอด หอมกัน เหมือนเคย รวมถึงหมนั่ ลา้ งมือบอ่ ย ๆ อยา่ งน้อย 20 วนิ าทีในการลา้ งแต่ละคร้ัง และสวมใส่หน้ากากอนามัยทุก ครั้งที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน แยกใช้อุปกรณ์ทุกชนิดเป็นของแต่ละคนอย่างเครง่ ครัด เมื่อมีผู้ทำผิดกฎกติกาของบ้าน ตอ้ งรบี แจ้งสมาชกิ ท่านอ่นื ให้ทราบทนั ที เพือ่ หาแนวทางในการแกป้ ญั หาต่อไป

21 2. กายห่างแต่ใจไม่ห่างกนั ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบน้ี นอกจากทุกคนในบา้ นต้องร่วมมือป้องกัน ตัวเองและคนในครอบครัวให้พ้นจากโควิด-19 แล้ว ต้องไม่ละเลยที่จะส่งต่อความห่วงใยซึง่ กันและกัน ฟื้นฟู สภาพจิตใจ พดู คุยถามไถส่ ารทุกข์สขุ ดบิ ให้กำลังใจซงึ่ กนั และกนั ถงึ แมต้ ัวจะเวน้ ระยะหา่ ง แต่ใจควรต้องกอด รดั กันให้แนน่ ขึ้น เพื่อจับมอื รว่ มกันฝ่าวิกฤตครงั้ นีใ้ หไ้ ด้ 3. จัดโซนใหม่ภายในบ้าน แยกห้องหรือแบ่งโซนอย่างชัดเจนระหว่างสมาชิกที่อยู่ระหว่างกักตัวกับ สมาชิกที่ปกติ ไมว่ ่าจะเป็นหอ้ งนอน ห้องทานข้าว รวมถึงผู้เสย่ี งตอ้ งไมม่ าใชพ้ ้นื ทส่ี ว่ นรวมร่วมกับสมาชิกคนอ่ืน และไม่ใช่แคเ่ พยี งพื้นท่ีเทา่ น้ัน สงิ่ ของเครอ่ื งใชท้ ุกประเภทควรแยกออกจากกันอยา่ งส้นิ เชงิ 4. หลกี เล่ียงการใกล้ชิดกับคนชราและสมาชิกท่ีมโี รคประจำตัว สมาชกิ ทงั้ 2 กลุ่มนี้ เป็นผู้ที่ภูมิคุ้มกัน ไม่แข็งแรงมากนกั หากได้รับเช้ือโควิด-19 เข้าไปย่อมมีความเส่ียงท่ีอาการจะรุนแรงมากกวา่ คนอืน่ ฉะนั้นผ้ทู ่ี กำลงั กกั ตัวควรหลีกเลย่ี งการเขา้ ใกลห้ รอื คลุกคลีกบั คนชราและผทู้ ่ีมโี รคประจำตัวโดดเด็ดขาด 5. เปิดบ้านใหอ้ ากาศถา่ ยเทมากกวา่ ปกติ ประตหู นา้ ตา่ งที่เคยปดิ สนิทแบบปดิ ตาย ถึงคราวจำเป็นต้อง เปิดออกเพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกันในห้องที่ปิดสนิท ไมม่ ีอากาศหมนุ เวียนถา่ ยเท หรอื ห้องท่ีเปดิ เคร่ืองปรับอากาศ 6. ใช้ห้องน้ำแยกหรือใช้เป็นคนสุดท้าย หากที่บ้านมีห้องนำ้ หลายห้อง ผู้กักตัวควรใช้ห้องน้ำแยกจาก สมาชิกคนอื่นภายในบา้ น เว้นเสียแต่ห้องน้ำที่บา้ นมีห้องเดียว ถ้าในกรณีนี้ควรใช้เป็นคนสุดท้ายและทำความ สะอาดทุกครั้งหลังใช้ทันที กรณีห้องส้วมก่อนกดชักโครกควรปิดฝาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และต้องไม่ลืมทำความสะอาดฝาชกั โครกด้วยแอลกอฮอลก์ ่อนออกจากหอ้ งสว้ มทกุ ครง้ั 7. แยกขยะเพอื่ ความปลอดภยั เมือ่ ทุกพนื้ ทีภ่ ายในบ้านเต็มไปด้วยปัจจยั เส่ยี ง ขยะมักเปน็ สิ่งทห่ี ลาย ๆ คนละเลย ดังนนั้ จึงต้องกำหนดไว้ให้ชัดเจน ว่าถังไหนสำหรบั ทงิ้ ขยะทัว่ ไป และถงั ไหนสำหรับขยะติดเชื้อ และ ควรนำออกไปท้งิ จากบ้านเป็นประจำทุกวนั ไม่ควรปลอ่ ยใหน้ านขา้ มคนื ท่สี ำคัญตอ้ งทำความสะอาดถังขยะท้ัง 2 ประเภทด้วยนำ้ ยาฟอกขาวเพื่อฆ่าเชอ้ื ให้หมดไป ซงึ่ กอ่ นนำไปท้งิ เพอื่ รอรถขยะมาเก็บควรท้ิงใส่ในถุงสะอาด อย่างน้อย 2 ชั้น พร้อมมัดปากถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้เชื้อโรครวมถึงเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่อาจหลงเหลือมี แพรก่ ระจายไปยังผอู้ ืน่ ได้ สรุปข้อควรปฏิบัติ เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันโควดิ -19 เพียง 7 ข้อง่าย ๆ ที่ใช้เพียงวินัยและความ เข้าใจ ก็สามารถใช้ชวี ติ รว่ มกันในบ้านหลังเดียวกันได้เหมือนเดิม ทำให้ผ่านวกิ ฤตโควิด-19 ระลอกนี้หรอื อีกกี่ ระลอกก็ตาม ไปได้อย่างปลอดภัย โควิด-19 จะไม่แพร่ระบาดถ้าทุกคนรู้จักที่จะดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและ รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ร่วมกันรักษามาตรการจนกว่าโควิด-19 จะหมดไป และเราจะได้โลกใบเดิมท่ี สวยงามกลับคนื มาอกี ครงั้ ในเร็ววนั .สรุปความเสย่ี งในงานทะเบยี น (วิทยาลยั พณชิ ยการธนบุรี) งานทะเบียน เป็นหน่วยงานที่จัดเก็บข้อมูลทุกอย่างของนักเรียน นักศึกษา ที่เข้ามาศึกษาต่อ ที่วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี ข้อมูล เช่น เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลผู้ปกครอง ฯลฯ ทำให้เกิดระเบียบขั้นตอนการที่จะขอข้อมูลจากงานทะเบียน เนื่องจากจะมีความเสี่ยงที่จะนำไปสร้างประวัติ ท่ไี ม่ดใี หแ้ ก่นกั เรยี น นกั ศึกษา ได้ จึงตอ้ งจดั ทำหลักฐานในการขอข้อมูลในแตล่ ะคร้ัง เชน่ การทำบนั ทกึ ข้อความ

22 เพื่อขอข้อมูลประวัติของนักเรียน นักศึกษา ไปทำเกีย่ วเรือ่ ง เงินเยียวยา 2,000 บาท จากรัฐบาลในชว่ งที่ผา่ น มา และเนอื่ งจากงานทะเบียนเปน็ หน่วยงานที่จัดทำเอกสารโดยใช้กระดาษเปน็ หลัก ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น ประวัตติ อนสมคั รเรียน การจัดทำใบระเบียนแสดงผลการเรียน ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาองั กฤษ และ การเก็บสำเนาเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้เป็นหลักฐานประวัติการมาติดต่อ ทำให้ต้องเก็บกระดาษเปน็ จำนวนมาก จงึ ทำให้เกิดความเสยี่ งในเรื่องของการเกิดโรคทางเดินหายใจและโควิด-19 เพราะฝ่นุ ละอองทมี่ ากบั กระดาษทำ ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคได้ จงึ นำไปสู่การเกดิ โรคทางเดินหายใจ และดว้ ยสถานการณใ์ นปัจจุบัน โควิด-19 ระบาดอยา่ งรนุ แรง ทำให้เกดิ ความเสย่ี งไดจ้ ากการสมั ผัสจาก เอกสารต่าง ๆ ทม่ี าจากภายนอก ทำให้เกิดความ เส่ยี งดา้ นของสุขภาพ จึงตอ้ งศกึ ษาวิธปี ้องกนั เชอื้ โรคทม่ี ากับเอกสาร และโรคโควิด-19 ท่ีเกดิ ข้ึนในสถานการณ์ ปัจจุบันอีกด้วยนั่นเอง

23 ประวตั ผิ ้จู ัดทำ ช่อื -สกลุ นายภทั รพล พรพฤติกรณ์ ช่ือโครงการ จริยธรรมในการในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ ประวัติสว่ นตัว วนั เดอื น ปีเกิด 4 พฤศจิกายน 2543 อายุ 21 ปี E-mail [email protected] เบอร์โทรศัพท์ 080-959-3440 ประวตั ิการศกึ ษา ปี พ.ศ. 2555 ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวัดอดุ มรังสี (เขตหนองแขม) ปี พ.ศ. 2558 มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นวดั อุดมรงั สี (เขตหนองแขม) ปี พ.ศ. 2559 ประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ วิทยาลยั พณชิ ยการธนบุรี ปี พ.ศ. 2564 ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสูง (ปวส.) สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ วทิ ยาลยั พณิชยการธนบรุ ี

24 ประวัตผิ ู้จัดทำ ชื่อ-สกุล นางสาวเวธกา โกมลวาทนิ ช่อื รายงาน จริยธรรมในการในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชา คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ ประวตั ิส่วนตวั วนั เดือน ปีเกดิ 31 มกราคม 2544 อายุ 20 ปี E-mail [email protected] เบอร์โทรศพั ท์ 094-749-2364 ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2555 ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรียนวดั กำแพง (เขตบางขุนเทยี น) ปี พ.ศ. 2558 มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นวัดกำแพง (เขตบางขนุ เทยี น) ปี พ.ศ. 2559 ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) สาขาวิชาการเลขานกุ าร วิทยาลัยพณิชยการธนบรุ ี ปี พ.ศ. 2564 ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ วิทยาลยั พณิชยการธนบุรี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook