คู่มอื การดาเนนิ งาน กิจกรรมห้องเรยี นสขี าว เพ่ือพัฒนาทกั ษะทางสมอง EF : Executive Functions สาหรับนกั เรยี นระดับปฐมวัย โรงเรียนวัดเจา้ มลู สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร กระทรวงศึกษาธิการ
คานา สถานการณ์เด็กปฐมวัยกับผลกระทบที่เกิดจากยาเสพติด เหตุผลประการหน่ึงคือความรุนแรงท่ีได้รับจาก ครอบครัวท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอบายมุขต่างๆ จากสถิติสถานการณ์เด็กไทยในรอบ 10 ปี พ.ศ. 2550-2560 ปรากฏวา่ เด็กวยั 1-5 ปี มีภาวะขาดสารอาหาร ภาษาลา่ ช้า ภาวะทางจิต พิการซ้าซ้อน เตีย้ และอ้วน ซ่ึงผลกระทบจากพัฒนาการท่ลี ่าช้าของเด็กปฐมวัยส่งผลต่อเนื่องถึงเด็กและเยาวชนในชว่ งวัยต่อไป การพฒั นาเด็ก ให้มีคุณลักษณะของคนที่มีคุณภาพเกิดจากการอบรมเล้ียงดูและให้การศึกษาอย่างเหมาะสมประกอบด้วย 4 ประการคอื มสี ุขภาพกายแข็งแรง มจี ิตใจเข้มแขง็ เบกิ บาน มีสัมพันธภาพกับคนอน่ื ดี มีสติ คิดเป็นเหตุเป็นผล คู่มือแนวทางในการด้าเนินงานห้องเรียนสีขาว เพ่ือพัฒนาทักษะทางสมอง EF ส้าหรับนักเรียนระดับปฐมวัย เล่มนี้จะช่วยให้ครูประจ้าช้ัน คณะนักเรียนด้าเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในครอบครัว พฤติกรรมที่ไม่พึง ประสงค์ในครอบครัวเด็กปฐมวัย ซ่ึงคณะผู้บริหาร คณะครูผู้รับผิดชอบโครงการโรงเรียนสีขาวในสถานศึกษา สภา นักเรยี น และคณะกรรมการสถานศึกษา ได้ร่วมกันด้าเนินการจัดท้าคูม่ ือห้องเรียนสีขาว เพ่ือพฒั นาทักษะทางสมอง EF ส้าหรับนักเรียนระดับปฐมวัย โรงเรียนวัดเจ้ามูลในทุกระดับชั้น เพื่อท้าให้การด้าเนินงานบรรลุผลส้าเร็จในการดูแล ช่วยเหลือนักเรยี น ชวี ิตประจา้ วนั ได้อย่างมีความสุข คณะผจู้ ัดท้า
สารบัญ หน้า เรอื่ ง 1 1. ความเป็นมาของห้องเรียนสขี าว 2 2. พัฒนาการทางสมองกบั ทักษะตา่ งๆ ที่จา้ เปน็ ของเด็กปฐมวยั 3 3. (EF) กบั หอ้ งเรียนสขี าวส้าหรบั เด็กปฐมวัย 4 4. ปัจจยั ที่ชว่ ยพฒั นาทกั ษะสมอง EF 5 5. การจดั ประสบการณ์การเรียนรูท้ พ่ี ัฒนาทักษะ EF 6-7 6. กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์นักเรียนปฐมวยั ภาคผนวก ตวั อยา่ งกิจกรรมเพื่อสง่ เสริมทกั ษะสมอง EF บนฐานพฒั นาการทั้ง 4 ดา้ น การนาเสนอลงงานรระเมนิ
ความเป็นมาของหอ้ งเรยี นสีขาว ยาเสพตดิ เร็นรญั หาสาคัญระดับชาติท่รี ฐั บางถอื เร็นนโยบายทีต่ ้องเร่งดาเนินการแก้ไขอยา่ งจริงจัง ท้ังน้ีเพราะ รัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดในทุกพื้นท่ีของรระเทศไทยได้ทวีความรุนแรงมากข้ึนทุกขณะส่งลงกระทบต่อ การพัฒนารระเทศทัง้ ด้านเศรษฐกจิ สงั คมแงะส่ิงแวดงอ้ ม รวมทงั้ ทางด้านการเมือง แงะความมั่นคงของรระเทศ พฤติกรรมทีไ่ ม่พึงรระสงคใ์ นกงมุ่ เด็กแงะเยาวชน คอื ด่ืมสุรา สูบบุหรี่ เทีย่ วกงางคนื การพนนั การทะเงาะวิวาท ติดเกม สือ่ งามกอนาจาร ฟุ่มเฟอื ย แงะวัตถุนยิ มเกินฐานะ ซ่งึ เร็นพฤตกิ รรมเบี่ยงเบนที่สังคมไมย่ อมรับรัญหาต่างๆ ท่ี เกดิ ข้ึนกับนักเรียน การร้องกันแงะแก้ไขรัญหา เร็นสง่ิ สาคัญรระการหน่ึงของการพัฒนาท้ังด้านรา่ งกาย จติ ใจ แงะ สติรัญญา โรงเรยี นวดั เจ้ามงู ให้ความสาคญั กับการดูแงนักเรียนระดับรฐมวัยในเร่ืองผลกระทบทีเ่ กิดจากยาเสพติด ความรุนแรงที่ได้รับจากครอบครัวที่มีส่วนเก่ียวข้องกับยาเสพติด และอบายมุขต่างๆ โดยสนับสนุนส่งเสริมให้ครู รระจาชั้น แงะนักเรยี นทุกระดับช้ันได้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการของการดาเนินงานห้องเรียนสีขาว การ ดาเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว เพ่ือพัฒนาทักษะทางสมอง EF : Executive Functions สาหรับนักเรียน รฐมวัย โดยใช้แนวทางการดาเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาว รงอดยาเสพติดแงะอบายมุข ของสานัก ส่งเสริมกิจการการศึกษา สานักงานรงัดกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์อานวยการร้องกันแงะแก้รัญหายาเสพติดใน สถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แงะคู่มือพัฒนาทักษะสมอง EF : Executive Functions สาหรับครูรฐมวัย ซ่ึง จะชว่ ยพฒั นาศักยภาพครู แงะสง่ เสริมสนับสนนุ ใหน้ ักเรยี นรฐมวัยทุกระดับชั้นไดร้ ฏบิ ตั กิ จิ กรรมอย่างมคี วามสุข วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้นกั เรยี นระดับรฐมวัยมคี วามรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั ภยั ของยาเสพติด แงะอบายมุขต่างๆ 2. เพอื่ ใหน้ กั เรียนระดบั รฐมวัยมสี ่วนร่วมในการรฏิบตั ิกจิ กรรมตามหงักการ (EF) เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพการ เร็นพงเมืองดีตามรรู แบบห้องเรียนสขี าว 3. เพ่ือให้คณะครู นักเรียนเห็นความสาคัญของโครงการสถานศึกษาสีขาว รงอดยาเสพติดแงะอบายมุข ในกิจกรรม (EF) กับห้องเรียนสีขาวสาหรับนักเรียนระดับรฐมวัย แงะการเสริมสร้างคุณธรรมนาทาความดีโดยมี ความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ คณะกรรมการสถานศึกษา ลู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน ลู้รกครอง แงะชมุ ชน
1. พัฒนาการทางสมองกับทักษะต่างๆ ท่ีจาเป็นของเด็กปฐมวยั การเรียนรู้ท่ีถือสมองเป็นพ้ืนฐาน (Brain-based Learning) ช่วงระยะเวลาท่ีส้าคัญที่สุดส้าหรับ การเรียนรู้ของมนุษย์ คือ แรกเกิด ถึง 7 ปี หากส่งเสริมหลังจากวัยน้ีถือว่าสายเสียแล้ว เพราะการพัฒนา สมองของมนุษย์ในช่วงวัยนี้จะพัฒนาไปถึง 80% สมองของเด็กเรียนรู้มากกว่าสมองของผู้ใหญ่ เด็กเรียนรู้ ทุกอย่างท่ีเข้ามาปะทะ สิ่งท่ีเข้ามาปะทะล้วนเป็นข้อมูลเข้าไปกระตุ้นสมองเด็กท้าให้เซลล์ต่างๆ เช่ือมโยง กันเป็นเครือข่ายเส้นใยสมองและจุดเช่ือมต่อต่างๆ อย่างมากซึ่งจะท้าให้เด็กเข้าใจและเรียนรู้สิ่งต่างๆท่ี เกิดขึ้นสมองจะท้าหน้าท่ีน้ีไปจนถึงอายุ 10 ปี เด็กปฐมวัยเป็นช่วงเวลาส้าคัญของการสร้าง Synapes จ้านวนมากในสมอง และเป็นช่วงเวลาที่สมองส่วนหน้าสุดซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการคิด การตัดสินใจ การ ควบคุมอารมณ์ และความคดิ เด็กไทยทุกคนจะเติบโตและด้ารงชีวิตในยุคเทคโนโลยีสมัยใหม่ในห่วงแห่งโลกาภิวัฒน์ได้น้ัน จ้าเปน็ จะต้องมคี ุณลักษณะทักษะศตวรรษที่ 21 ดังนี้ ทักษะการอ่านออกเขียนได้ค้านวณเป็น ทกั ษะ 4Cs ได้แก่ ทักษะคิดวิเคราะห์ ทักษะคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทักษะในการส่ือสาร ทักษะท้างานร่วมกับคนอ่ืน รวมถึงทักษะเก่ียวกับเทคโนโลยียุคใหม่ 3 ด้านคือ ทักษะความรู้ในการใช้ส่ือ ทักษะและความรู้ในการใช้ เทคโนโลยี ทักษะและความรูใ้ นดา้ นสารสนเทศ และทักษะสดุ ท้ายคอื ทกั ษะชีวิต 4 ประการ ไดแ้ ก่ 1. ยืดหย่นุ ปรับตวั ไดก้ ับทุกสภาวการณ์ กล้าคิดกล้าท้า และสามารถก้าหนดชีวิตของตนได้ 2. มีภาวะผู้น้า พร้อมตดั สนิ ใจ และมคี วามรบั ผดิ ชอบในส่ิงทีต่ นท้า 3. อยกู่ ับความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมและ สงั คมไดย้ อมรับผอู้ ื่นและอยู่ร่วมกบั คนท่ีแตกต่างไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ุข 4. ทา้ งานเป็น ท้างานมีประสิทธิภาพ “ทกั ษะศตวรรษท่ี 21” ทุกด้านนี้ เป็นส่ิงที่เด็กทุกคนตอ้ งได้รับโอกาสฝึกฝนอย่างต่อเนือ่ ง ฝึกแล้วฝึกอกี ตลอดชว่ งวัย ต้งั แต่เด็กไปจนโต จงึ จะปลูกฝังจนเกดิ เป็นทักษะ และคุณลักษณะที่ตดิ ตัวไปจนถงึ วัยผู้ใหญ่ เพื่อเป็นพลเมืองคุณภาพของสังคม ซึ่งมอี งคป์ ระกอบดังน้ี 1. คนทม่ี ีสขุ ภาพร่างกายแข็งแรง 2. คนทีม่ ีจิตใจ เขม้ แข็งเบกิ บาน 3. คนทมี่ ีสมั พันธภาพกบั คนอ่ืนดี 4. คนท่ีคิดเป็นเหตเุ ป็นผล 5. คนทมี่ ีสติรู้ควร ไม่ควร ดังนั้นสิ่งส้าคัญที่สุดท่ีพ่อแม่และครูผู้สอนเด็กระดับปฐมวัยควรตระหนักคือ การเป็นพลเมือง คุณภาพ ต้องมีทักษะศตวรรษท่ี 21 ซึ่งจะเกิดได้โดยวิธีการฝึกทักษะสมองส่วนหน้า หรือ Executive Functions (EF) อยา่ งตอ่ เน่อื งตัง้ แตป่ ฐมวัยจนเกิดเป็นรากฐานของทักษะต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ 2. Executive Functions (EF) คืออะไร คอื ทกั ษะสมองเพื่อการจดั การชวี ิต ประกอบด้วย คิดเป็น ท้าเปน็ เรยี นรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่ กับคนอน่ื เป็น มีความสุขเป็น
3. (EF) กับห้องเรียนสขี าวสาหรับเดก็ ปฐมวยั Executive Functions (EF) คอื การกระทาที่บุคคงเร็นลู้กาหนดทิศทางเองโดยกาหนดร้า หมาย (Goal) เงือกกระทา (Select) งงมือกระทา (Enact) แงะดารง (Sustain) การกระทานั้นข้าม ช่วงเวงาหน่ึงๆ เพ่ือไรให้บรรงุถึงเร้าหมาย โดยคานึงถึงความเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆรวมท้ังคานึงถึง กระบวนวธิ กี ารของสังคมแงะวัฒนธรรมเพ่ือนาไรสู่รระโยชน์สงู สุดในระยะยาวทบ่ี ุคคงน้ันวางไว้ การทางานเชื่อมโยงความสัมพันธ์กันของ EF พ้ืนฐาน 3 ด้าน ( Working, Memory, Inhibitory Control, แงะ Shift/Cognitive Flexibility ) ทาให้เกดิ การควบคุมพฤติกรรม นาไรสูก่ าร จัดการเพ่ือบรรงุเร้าหมาย มีความมุ่งมั่นที่จะทาให้ถึงเร้าหมายให้ได้ มีการจัดวางการงาน แก้ไขสิ่งท่ี ลิดพงาดเสยี หาย ใสใ่ จตอ่ เสยี งสะทอ้ น แงะมีความยดื หยุน่ ท้ังทางความคดิ แงะพฤติกรรม Barkley, R. (2011) Executive Functions (EF) คือ กระบวนการท้างานของสมองระดับสูงที่ประมวลประสบการณ์ใน อดีตและสถานการณ์ในปัจจุบัน มาประเมิน วิเคราะห์ ตัดสินใจ วางแผน เริ่มลงมือท้า ตรวจสอบตนเอง และแก้ไขปัญหา ตลอดจนควบคุมอารมณ์ บรหิ ารเวลา จัดความสา้ คญั ก้ากับตนเองและมุ่งมน่ั ทา้ จนบรรลุ เป้าหมายท่ตี ้ังไว้ (Goal Directed Behavior) ผศ.ดร.ปนดั ดา ธนเศรษฐกร (2012) โรงเรียนวัดเจ้ามูล ให้ความส้าคัญกับการดูแลนักเรียนระดับปฐมวัยในเร่ืองผลกระทบท่ีเกิด จากยาเสพติด ความรุนแรงท่ีได้รับจากครอบครัวท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอบายมุขต่างๆ โดยสนบั สนนุ ส่งเสริมใหค้ รปู ระจ้าช้นั และนักเรยี นระดบั ปฐมวยั ได้มคี วามรู้ความเข้าใจในกระบวนการ ของการด้าเนินงานห้องเรียนสีขาว การด้าเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว เพื่อพัฒนาทักษะทาง สมอง EF : Executive Functions ส้าหรับนักเรียนปฐมวัย โดยใช้แนวทางการด้าเนินงานโครงการ สถานศึกษาสขี าว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมขุ ดงั น้ันเม่ือเด็กได้รบั โอกาสพฒั นาทักษะสมอง (EF) ทง้ั ตัวเด็กเองและสังคมได้รับประโยชน์ ซ่งึ จะ ช่วยสรา้ งพฤตกิ รรมเชิงบวกและเลือกตัดสนิ ใจในทางที่สร้างสรรค์ต่อตวั เองและครอบครัว 1. น้าสงิ่ ทเี่ คยเรียนรู้มาก่อนในประสบการณ์มาใช้ในการท้างานหรือกิจกรรมใหม่ 2. รจู้ ักยับยงั้ ควบคมุ ตนเองไม่ให้ท้าในสิ่งท่ไี มถ่ กู ตอ้ งไม่เหมาะสมแม้จะมีส่ิงย่ัวยวน 3. สามารถปรับเปลี่ยนความคิดได้ เมื่อเงื่อนไขหรือสถานการณ์เปลี่ยนไปไม่ยึดติดตายตัว จนถึง ขั้นมีความคดิ สร้างสรรค์ คดิ นอกกรอบได้ 4. มีความจา้ ดมี สี มาธิ จดจ่อ สามารถทา้ งานต่อเนอื่ งได้จนเสร็จ
5. รู้จักแสดงออกในครอบครัว ในห้องเรียน กับเพื่อน หรือในสังคมอย่างเหมาะสม ซ่ึงจะน้าไปสู่ การรจู้ กั เคารพผ้อู น่ื อยู่กับคนอน่ื ได้ดไี ม่มปี ัญหา 6. รูจ้ ักประเมินตนเอง นา้ จดุ บกพรอ่ งมาปรับปรุงการท้างานให้ดขี ้นึ ได้ 7. รจู้ กั การวิเคราะห์ มกี ารวางแผนงานอย่างเปน็ ระบบลงมือท้างานได้และจัดการกับกระบวนการ ทา้ งานจนเสร็จทันตามก้าหนด 8. เป็นคนที่อดทนได้ รอคอยเปน็ มีความม่งุ ม่ันพรอ้ มความรับผิดชอบทจ่ี ะไปสู่ความส้าเร็จ 4. ปจั จัยทีช่ ว่ ยพัฒนาทักษะสมอง EF 4.1 นอนให้พอ หลบั ใหส้ นิท ท้าใหส้ มองได้จดั ระเบียบส่ิงทไ่ี ด้เรียนรู้ในแต่ละวันเพ่ือเตรียมใช้งาน ในวนั ต่อไป เด็กทนี่ อนนานๆ ในเวลากลางคืนจะมีทักษะสมอง EF ดกี ว่าเด็กท่นี อนนอ้ ยนอนไม่พอ 4.2 ดม่ื น้าสะอาด สมองประกอบไปด้วยน้าร้อยละ 85 ถา้ ดมื่ น้าไม่พอเซลล์สมองจะเหี่ยวท้าให้ส่ง ข้อมูลไดช้ ้า คดิ ช้า คิดไม่ออก 4.3 รับประทานอาหารพัฒนาสมอง เด็กต้องได้รับอาหารครบ 5 หมู่ อย่างครบถ้วนและสมดุล เพื่อเพิม่ พลงั สมอง 4.4 ออกกา้ ลังกายเลน่ กลางแจ้ง ขณะที่รา่ งกายเคล่ือนไหวเวลาเล่นหรืออกก้าลังกายกลางแจ้งจะ กระตนุ้ ใหเ้ กิดการหล่ังสารเอ็นโดฟนิ ซ่ึงเป็นสารที่สร้างความสขุ จิตใจจะผ่อนคลาย เรียนรู้ไดด้ ี จ้าไดแ้ ม่น 5. สารทาลายสมอง สารท้าลายสมองได้แก่ สารตะก่วั เช่นในสที าบ้าน เครอ่ื งเล่นในสนามพฤตกิ รรมท่ีพบเห็นคือ เด็กๆ ชอบเล่นตามพื้นใช้มือลูบเคร่ืองเล่นแล้วใช้มือป้ายหน้า ใช้มือลูบผนังอาคารดูดน้ิว ไม่ล้างมือ อาหารขยะ ขนมกรุบกรอบท่ีมีส่วนผสมของผงชูรส สารให้ความหวาน หรือน้าตาลที่มีปริมาณท่ีมากเกินไปในอาหาร สะสมอยา่ งต่อเน่ืองจะมีผลต่อการเจริญเตบิ โตพัฒนาการของสมอง การเรียนรจู้ ดจ้าจะด้อยลง บุหร่ี ในบ้านบางบ้านเป็นสถานท่ีท่ีเต็มไปด้วยควันบุหร่ี สภาพแวดล้อมไม่ปลอดโปร่งอาจท้าให้ สมองของเด็กได้รับสารพิษและเป็นการสกัดก้ันและบั่นทอนศักยภาพในสมองให้ลดลงได้ เน่ืองจากสมอง เป็นอวัยวะทตี่ ้องการออกซิเจน และอากาศที่สดชื่น ข้อมลู จากองค์การอนามัยโลกประเมินว่าครึ่งหนึ่งของ ประชากรเด็กท้ังโลกได้หายใจทางอากาศที่ปนเป้ือนควันบุหรี่เข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงเม่ือเด็กอยู่ ในบา้ นทม่ี ผี ู้สูบบุหรี่ เพราะยิ่งเดก็ หายใจเข้าไปมากเทา่ ไหร่สมองก็ยิ่งจะเส่ือมลงไปมากเท่าน้ัน
6. การจัดประสบการณ์การเรยี นรทู้ ีพ่ ฒั นาทักษะ EF เพื่อให้ครูและผู้เกี่ยวข้องได้เห็นแนวทางในการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก และยังเป็นแรงบัลดาลใจใน การสร้างสรรค์กิจกรรมท่ีสนุกสนานและก่อให้เกิดการเรียนรู้ท่ีมีคุณค่าต่อการพัฒนาทักษะทางสมองของ เด็ก การจัดกิจกรรมจะมีความหมายยิ่งขึ้นหากครไู ด้น้าประสบการณ์มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน นา้ เร่ือง เล่าท่ีสร้างความเบิกบานใจ ประหลาดใจ ชวนคิด ชวนติดตามไปกับการเรียนรู้ของเด็กๆ ผ่านการสังเกต รับฟังและเรียนรู้ร่วมกับเด็กอย่างเป็นหน่ึงเดียวกัน มาสู่การเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติของเด็ก เข้าใจวิธี ทา้ ความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์กับโลกรอบตัวของเด็ก เดก็ จะท้าหน้าท่ีเป็นครูให้เราได้พฒั นาความ เป็นครูปฐมวัยมืออาชีพ หากเราให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความสขุ เรากจ็ ะท้างานและเรียนรู้อย่างมีความสุข ไปพร้อมๆกับเด็ก กจิ กรรมท่เี สริมประสบการณ์เดก็ ปฐมวยั - กจิ กรรมโครงงาน (Project Approach) - กิจกรรมศลิ ปะท่ีเนน้ กระบวนการ (Process Art) - การเลน่ อิสระ (Free Play) - การเล่นบทบาทสมมตแิ ละเล่นละคร 6.1 กิจกรรมโครงงาน Project Approach การจดั การเรียนแบบโครงงานเปน็ การส่งเสริมให้เดก็ แสวงหาค้าตอบจากการเรียนเร่ืองใดเรอ่ื งหน่ึง เพ่ือสรา้ งองค์ความรู้ใหก้ ับตนเอง โดยการเรียนร้นู ั้นเปิดโอกาสให้เด็กได้คดิ วางแผน ตัดสินใจ ค้นคว้า ทดลอง แก้ปญั หา และท้ากิจกรรมต่างๆด้วยตนเอง โครงงานอาจเปน็ ได้ทั้งกิจกรรมรายบุคคล ร่วมมือท้า ในกลมุ่ ย่อย หรือเด็กท้งั ห้องท้าร่วมกนั EF : Executive Functions ทเี่ กิดจากโครงงานคอื ความจา้ เพื่อใช้งาน (Working Memory) การย้งั คดิ ไตรต่ รอง (Inhibitory Control) การยืดหย่นุ ความคดิ (Shift/Congnitive Flexibility) การจดจอ่ ใสใ่ จ (Focus/Attention) การควบคุมอารมณ์ (Emotional Control) การตดิ ตามประเมนิ ตนเอง (Self Monitoring) การรเิ ริม่ และลงมอื ท้า (Initiating) การวางแผนและจัดการท้างานให้ส้าเรจ็ (Planning and Organizing) การมงุ่ เป้าหมาย (Goal-Directed Persistance)
6.2 กิจกรรมศิลปะที่เน้นกระบวนการ Process Art ศิลปะท่ีเน้นกระบวนการ คือ มวลประสบการณ์ท่ีเด็กได้รับขณะที่เด็กก้าลังสร้างสรรค์งานศิลปะ เน้นให้เด็กได้คิดอย่างเป็นอิสระ ได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง แล้วลงมือสร้างสรรค์งานโดยไม่ต้องพะวงถึงความ สวยงาม หรือความถูกผิดของผลงาน ศิลปะที่เน้นกระบวนการจะมีลักษณะดังน้ี เปิดโอกาสให้เด็กได้ท้า ตามท่ีเด็กคดิ ยอมรบั ผลงานท่ีหลากหลายของเด็ก สร้างบรรยากาศที่ก่อให้เกดิ ความเตม็ ใจ และมีความสุข ท่ีจะท้า ยืดหยุ่นในเร่ืองของเวลาไม่มีข้อจ้ากัดท่ีตายตัว ได้ท้าผลงานด้วยวิธีการต่างๆ และใช้วัสดุอุปกรณ์ ท่ีแตกต่างกันไป ได้ส้ารวจส่ิงต่างๆ ท่ีเด็กต้องการ มีโอกาสในการเผชิญกับปัญหา และค้นพบวิธีการ แกป้ ญั หาด้วยตนเอง ผลที่เกิดข้ึนคือ จะไม่มีผลงานที่เหมือนกันตดิ อยู่บนบอร์ดอีกต่อไป จะไมม่ ีการบังคับ ใหเ้ ดก็ ท้าศิลปะ มสี ่ืออปุ กรณ์ท่ีหลากหลายให้เด็กได้เลือก ไมม่ ีการวาดให้เด็กดไู มม่ ีการสอนให้เด็กวาด ไม่ มี Worksheet แบบฝึกหัดท้าศิลปะ ไม่มีการป้ันท้าแบบให้ดู ไม่มีการบอกกล่าวตัดสินผลงานเด็ก แต่ ยอมรับและเคารพผลงานของเดก็ ทุกคน EF : Executive Functions ทีเ่ กิดจากศิลปะที่เนน้ กระบวนการ คือ เดก็ ได้ท้างานอยา่ งเสรีไม่มีผดิ ถูก เดก็ มคี วามม่ันใจในตวั เอง มีการวางแผนงานอย่างมีเปา้ หมาย มีสมาธิมีใจจดจอ่ ต่องาน มคี วามคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ รจู้ ักการคดิ ยืดหยุ่นในการแกป้ ัญหา รู้จักควบคุมอารมณ์ 6.3 การเล่นอสิ ระ (Free Play) การเล่นอสิ ระ คือ เม่อื ครกู ้าหนดสถานที่ให้เดก็ ได้เลน่ เดก็ เป็นผูต้ ดั สนิ ใจท่ีจะเลน่ เป้าหมายก้าหนด โดยเด็ก หรือเล่นโดยไมก่ ้าหนดเป้าหมาย การเล่นมคี วามยืดหยนุ่ ปรับเปลย่ี นไปตามสถานการณแ์ ละ ความต้องการของเดก็ การเลน่ ยตุ ิเมอ่ื เด็กตัดสินใจเลกิ เล่นหรอื เมื่อต้องการไปท้ากิจกรรมอื่น เด็กมอี สิ ระ เตม็ ทใ่ี นการเล่น ท้ังเป้าหมาย วิธกี าร และการตดั สินใจเลือก การแก้ปัญหา การตอ่ ยอด การเร่ิมและยุติ การเล่น ต้องการเล่นตามล้าพังหรือชวนเพอ่ื นเล่นด้วย EF : Executive Functions ท่ีเกดิ จากการเล่นอิสระ คือ การริเร่มิ ลงมือท้า (Initiating) การมงุ่ เป้าหมายและเพียรพยายาม (Goal Directed Persistence) การจ้าเพอื่ ใช้งาน (Working Memory) การยดื หยุน่ ความคิด (Shift/Congnitive Flexibility)
การวางแผนและจัดการท้างานให้ส้าเรจ็ (Planning and Organizing) การควบคุมอารมณ์ (Emotional Control) การยง้ั คิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) การจดจ่อใสใ่ จ (Focus/Attention) การตดิ ตามประเมนิ ตนเอง (Self Monitoring) 6.4 การเลน่ บทบาทสมมติและเล่นละคร การเล่นบทบาทสมมติและเล่นละคร เป็นกิจกรรมที่เด็กสามารถท้าได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องสอนหรือ สาธิตให้ดู เพราะมีความฝันหรือจินตนาการที่พร้อมจะถ่ายทอดออกมาอย่างเบิกบานใจ เป็นการสนอง ความต้องการทางอารมณ์ท่ีต้องการถ่ายทอดหรือสื่อสารความรู้สึกนึกคิดของเด็กที่มีต่อโลกรอบตัว ได้ ระบายความรู้สึกท่ีมีอยู่ในใจ ได้น้าความรู้ความเข้าใจของส่ิงที่ได้เรียนรู้มา ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์จา การเรียนรู้สิ่งรอบตัวปฏิสัมพันธ์และบทบาทของคนในครอบครัว ในสังคมมาเล่นบทบาทสมมติด้วย ความรู้สึกเป็นอิสระ ปราศจากความกดดัน การเล่นสมมติจึงมีประโยชน์อย่างย่ิงต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในทุกดา้ น โดยเฉพาะด้านอารมณ์ สงั คม และสง่ ผลต่อการพัฒนาทักษะสมอง EF ไดเ้ ปน็ อย่างดี การเล่นมี หลายลกั ษณะ เช่น การเชดิ ห่นุ เล่นละครสร้างสรรค์ เลน่ ละครเวที EF : Executive Functions ทีเ่ กิดจากการเล่นบทบาทสมมติและเล่นละคร คือ การรเิ ร่ิมลงมอื ท้า (Initiating) การมุ่งเป้าหมายและเพียรพยายาม (Goal Directed Persistence) การจ้าเพื่อใช้งาน (Working Memory) การยืดหยุน่ ความคิด (Shift/Congnitive Flexibility) การวางแผนและจัดการท้างานใหส้ า้ เร็จ (Planning and Organizing) การควบคมุ อารมณ์ (Emotional Control) การเลอื กกจิ กรรมดังกลา่ วขา้ งต้นขนึ้ อยู่กบั ครูผู้สอนระดบั ปฐมวัย ครูตอ้ งศึกษาข้อมูลใหเ้ ข้าใจ และเลอื กใหเ้ หมาะสมกับเดก็ ตามวัย และเหมาะสมกบั กจิ กรรมหอ้ งเรียนสขี าว จึงจะส่งผลดีต่อเดก็ ใน การพัฒนาคณุ ภาพความเปน็ พลเมอื งท่ีดีปลอดยาเสพตดิ และรอดพ้นจากอบายมขุ ทัง้ ปวง รวมถึงการ ไดร้ ับการส่งเสริมพัฒนาการตามทักษะ EF และสอดคลอ้ งกับคุณลักษณะทักษะศตวรรษที่ 21
ตัวอยา่ งกจิ กรรมเพอื่ ส่งเสรมิ ทักษะสมอง EF บนฐานพฒั นาการท้ัง 4 ด้าน 1. การจัดวางวสั ดธุ รรมชาติ สาหรบั เด็กวยั 3-5 ปี วตั ถปุ ระสงค์ - เพือ่ ใหเ้ ด็กไดล้ องคดิ เลือกวสั ดุ ลองทา้ วางแผนจัดการและแก้ปัญหาท่ีเกดิ ขน้ึ เพ่ือตอบสนอง ความคิดและจินตนาการ - เพื่อใหม้ ีสมาธจิ ดจอ่ กบั การท้างาน - เพือ่ ใหม้ คี วามเพลดิ เพลนิ กบั การท้างาน - เพื่อใหเ้ ห็นความคดิ ทห่ี ลากหลายและแตกตา่ งกนั ไปของเพือ่ นๆ กระบวนการ/วธิ กี าร - ครชู วนเดก็ สรา้ งท่ีอย่อู าศยั ให้กบั สตั ว์ - ใหเ้ ดก็ ๆ ได้ส้ารวจสง่ิ ของท่เี ตรยี มไว้ใหว้ ่ามีอะไรบ้าง - เด็กๆ เลอื กวสั ดุอุปกรณ์เพือ่ นา้ มาสร้างสรรค์ตามจินตนาการของตนเองอย่างอิสระ - เม่อื ทกุ คนสร้างเสรจ็ ครูชวนทุกคนเดนิ ชมผลงาน พร้อมทัง้ ให้เจา้ ของผลงานบอกเล่าให้ เพ่อื นๆฟงั ส่อื อุปกรณ์ - วสั ดุธรรมชาตทิ ่หี ลากหลาย เชน่ ท่อนไม้ กิ่งไม้ กะลา ก้อนกรวด กอ้ นหิน - ตุ๊กตารปู สตั ว์ชนิดตา่ งๆ โอกาสท่ีเด็กไดร้ บั จากการทากจิ กรรม ทกั ษะสมอง EF - ได้สร้างท่อี ยใู่ หก้ ับสตั วต์ ามความคดิ และ - การม่งุ เป้าหมายและเพียรพยายาม (Goal จินตนาการของแตล่ ะคน Directed Persistence) - การวางแผนและจัดการทา้ งานใหส้ ้าเรจ็ (Planning and Organizing) - การจ้าเพื่อใช้งาน (Working Memory) - ได้ทา้ การสา้ รวจ เลือก และตดั สนิ ใจ หยบิ ใช้ - การริเร่ิมลงมือท้า (Initiating) วัสดุ - การจ้าเพื่อใช้งาน (Working Memory) - การยืดหยุ่นความคิด ( Shift/ Congnitive Flexibility) - การจดจ่อใส่ใจ (Focus/Attention) - การติดตามประเมินตนเอง (Self Monitoring)
โอกาสทเี่ ด็กได้รบั จากการทากจิ กรรม ทักษะสมอง EF - การควบคุมอารมณ์ (Emotional Control) - ไดล้ งมือจดั วางตามความคดิ ของตนเองดว้ ย - การรเิ รมิ่ ลงมอื ท้า (Initiating) ตนเอง - การจ้าเพื่อใช้งาน (Working Memory) - การยืดหยุ่นความคิด ( Shift/ Congnitive Flexibility) - การจดจอ่ ใสใ่ จ (Focus/Attention) - การตดิ ตามประเมินตนเอง (Self Monitoring) - การควบคมุ อารมณ์ (Emotional Control) - ได้จดั วางดังท่ตี ัง้ ใจเพ่อื ให้ทันในกรอบเวลาที่ได้ - การจ้าเพื่อใช้งาน (Working Memory) ตกลงไว้ โดยครูจะใหส้ ัญญาณก่อน 5 นาที - การวางแผนและจดั การท้างานใหส้ า้ เรจ็ (Planning and Organizing) - การยืดหยุ่นความคิด ( Shift/ Congnitive Flexibility) - การควบคมุ อารมณ์ (Emotional Control) - การยงั้ คิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) - ไดเ้ ดนิ ชมผลงานของกันและกนั โดยเจา้ ของ - การยืดหยุ่นความคิด ( Shift/ Congnitive บอกเล่าผลงานให้เพื่อนฟงั Flexibility) - การตดิ ตามประเมินตนเอง (Self Monitoring)
โครงงานห้องเรยี นสีขาว เรอ่ื ง .................................................. ปกี ารศกึ ษา ……….. จัดทาโดย นกั เรียนชัน้ อนุบาล ....../........ ครทู ป่ี รึกษา โรงเรียนวดั เจ้ามูล สานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
บันทกึ ข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดเจา้ มลู ท.ี่ ......................................... วันที่ .... มนี าคม พ.ศ. ……….. เรอ่ื ง สรปุ ผลการด้าเนนิ การโครงงานหอ้ งเรียนสขี าว ของนักเรียนชั้นอนุบาล……/….. ..................................................................................................................................................... เรียน ผู้อา้ นวยการโรงเรียนวัดเจา้ มลู ตามทข่ี ้าพเจา้ ……………………………………. ครูทีป่ รกึ ษานักเรียนชน้ั อนุบาล…/… พรอ้ มดว้ ย นกั เรยี นชนั้ อนุบาล ………/…….. ได้ร่วมกันดา้ เนนิ กิจกรรมโครงงานห้องเรียนสขี าว เรอื่ ง …………………. ประจา้ ปีการศึกษา ………. บดั นโี้ ครงงานดังกล่าวไดเ้ สรจ็ สิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วจงึ ขอรายงานผลการ ดา้ เนินโครงงาน ดังรายละเอยี ดทแ่ี นบมานี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ (………………………………………) ครูทีป่ รกึ ษา ความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….. (นายพรี าวฏุ ฐ์ พิมพ์รอด) ผ้อู า้ นวยการโรงเรยี นวดั เจ้ามูล
คานา โครงงานห้องเรยี นสีขาว เรอื่ ง …………………………… ของนักเรียนช้นั อนบุ าล …/…. ประจ้าปีการศึกษา…………. จดั ทา้ ข้ึนภายใตโ้ ครงการห้องเรียนสีขาว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมขุ ต่างๆ ของโรงเรยี นวดั เจ้ามูล โดยโครงงานน้มี วี ัตถุประสงค์เพ่ือใหน้ กั เรยี นช้ันอนบุ าล …/….. มีความ……… (คณุ ธรรม)……………. และเพ่ือใหน้ กั เรยี นชน้ั อนบุ าล...../.... ทุกคนไดร้ ่วมมือร่วมใจชว่ ยกัน ..................................................................... คณะผู้จัดท้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษาไม่มากก็น้อย หากมีความผิดพลาด ประการใด ต้องขอภัยมา ณ ที่นด้ี ้วย คณะผู้จดั ทา้
สารบญั หนา้ ผลการด้าเนนิ งาน
โครงงานหอ้ งเรยี นสขี าว ชอื่ โครงงานห้องเรยี นสีขาว ................................................................................... ผรู้ บั ผดิ ชอบ นกั เรยี นชัน้ อนุบาล ....................................................................................................... ครูทีป่ รึกษา 1. ............................................................................ 1. ปญั หา .................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................... 2. สาเหตุของปัญหา (อาจมากกว่า 1 สาเหตุ) 1. ...................................................................................................... 2. ...................................................................................................... 3. วตั ถปุ ระสงค์ที่ทาโครงงาน 1....................................................................................................... 2. ...................................................................................................... 4. เปา้ หมายเชิงปริมาณ นักเรยี นชนั้ ........................ จ้านวน ............. คน เปา้ หมายเชิงคุณภาพ ................................................................................ - เปา้ หมายระยะสัน้ ............................................................................ - เปา้ หมายระยะยาว .......................................................................... 5. วิธีการดาเนินการ 1. ..................................................................................................... 2. ...................................................................................................... 6. ทักษะกระบวนการ (EF) ..................................................................................................................................................................................... 7. วธิ กี ารประเมนิ .................................................................................................................................................................... 8. เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชป้ ระเมิน ............................................................................... 9. ชว่ งเวลาในการประเมิน ......................................................................... 10. ผลการดาเนินงาน ............................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................................
11. ปญั หา/อปุ สรรค์ ........................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................... 12. ขอ้ เสนอแนะ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ชื่อคณะผู้รับผดิ ชอบ นักเรยี นชน้ั อนุบาล ..../..... ทกุ คน ช่ือครูทปี่ รกึ ษา
ภาคผนวก รอ่ งรอย/หลักฐาน/รูปถา่ ย
อ้างอิง สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส) แงะสถาบัน (RLG). (2561) คมู่ อื พัฒนาทักษะสมอง EF Executive Functions สำหรบั ครปู ฐมวัย/มติชนจำกัด มหำชน ศนู ยอ์ านวยการร้องกนั แงะรราบรรามยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการ.(2559) คมู่ อื การดาเนนิ งานโครงการ สถานศกึ ษาสีขาว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมุข ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2559 / สกสค.
คณะผจู้ ัดทา คู่มือการดาเนนิ งานโครงการสถานศึกษาสขี าว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ทีป่ รึกษา ผอู้ ้านวยการโรงเรียนวัดเจา้ มูล นายพรี าวฏุ ฐ์ พมิ พร์ อด ผ้ชู ่วยผู้อา้ นวยการกลุ่มบรหิ ารบุคคล นางสทุ ธินันท์ พลู เกดิ ผู้ช่วยผอู้ า้ นวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ นายพรหมฤทธ์ิ ไชยต้นเทือก ผู้ชว่ ยผู้อ้านวยการกล่มุ บรหิ ารทวั่ ไป นางสาวจุฑามาศ ศรจี ันทร์ ผชู้ ่วยผู้อา้ นวยการกลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ นางสาวฐาปนี ทองม่งิ คณะผู้จดั ทา ครู ประธานคณะท้างาน นางสาวสิรภิ ัทร เกษมวงศ์ ครู รองประธานคณะทา้ งาน นางสาวไอวลยี ์ จงกลนยี ์ ครู คณะท้างาน นางสาวภคมน บตุ ะเคยี น ครู คณะทา้ งาน นางสาวนชุ จรินทร์ อิ่มเอบิ สขุ ครู คณะท้างาน นายวทิ ยา ศรอี าราม ครู คณะทา้ งาน นางสาวนฤรัตน์ มะโนอ่ิม ครู คณะท้างาน นางสาววาริพนิ ท์ุ สุขสงิ ห์ ครู คณะท้างาน นายสรรเสริญ พูนสขุ โข ครู คณะท้างาน นางสาวโสภติ า บัวพรม ครู คณะทา้ งาน นางสาวจุฬามณี สงิ ห์คาน ครู คณะท้างาน นางสาวศริ ิรตั น์ สัจจาผล ครูอัตราจ้าง คณะทา้ งาน นางสาวอญั ชลี สารรกั ษ์ ครอู ตั ราจ้าง คณะทา้ งาน นางสาวอภัสนนั ท์ วรรณมณี ครอู ัตราจ้าง คณะท้างาน นางสาวนติ ยา พืชทองหลาง เจ้าหน้าทธี่ รุ การ คณะท้างาน นางสาวจรญั ยา จันค้า ครู เลขานุการ นายศม ม่ันใจตน
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: