82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97 ขอ มลู นักเรียนรายบคุ คล หอ งเรียน.เ..ด.่.น..น.....า.....ก..า.ร...๒.. ปก ารศกึ ษา .....๒....๕...๖...๕........... ๑. ขอ มูลดา นนกั เรยี น ๑.๑ ขอมลู สวนตวั นักเรยี น ช่อื -นามสกลุ (ด.ช/ด.ญ/นาย0/น.ส).......พ.....น..ิ...ด.............จ.......น.............................................. ชอ่ื เลน ....ม...า..ไ....ว................ ประเภทความพิการ...........บ....ก...พ....ร.่..อ...ง..ท....า...ง...ร.่.า...ง..ก...า...ย.....9.......................................................................................... เกดิ วนั ท๑ี.่ ...๘...เดือน …พ…...ค........... พ.ศ. ๒...๕...๔...๘.... อายุ ๑....๗.......ป เชื้อชาติ ไ...ท....ย........ สัญชาตไ.ิ ..ท....ย........ ศาสนา.พ..ุ..ท...ธ...... เลขบตั รประจําตัวประชาชน..๑...๕....๒...๙....๙.......◦..๒...๒....๕...๑......๔....๕.....๙...........หมูโลหติ ..........-................................................. การจดทะเบยี นคนพิการ ไมตอ งการจดทะเบยี น ยงั ไมจ ดทะเบียน ✓จดทะเบียนแลว ท่ีอยูป จจบุ ัน บานเลขท่ี...๔....๖.........ตรอก/ซอย....๘...........หมทู ่ี...๒........ช่ือหมูบา น/ถนน......ท...ำ...แ...ท....น.............................. ตาํ บล/แขวง.....แ...ม..่..น.....ะ............. อาํ เภอ/เขต...แ....ม.่...ท....ะ............. จังหวดั ...ล..ำ...ป....า..ง............ รหสั ไปรษณยี . ๕....๒...๑....๕..0........ ๑.๒ ดา นสขุ ภาพ ๑) สขุ ภาพกาย มีสขุ ภาพรางกายสมบูรณแขง็ แรง ✓เจบ็ ปว ยบอ ย (ระบุ)....ไ....ข...้ห....ว..ั.ด.......................................................... ✓มีโรคประจาํ ตัว (ระบุ)......ภ..ู..ม.ิ..แ...พ..้....................................................... ปว ยเปนโรครายแรง/เรอื้ รงั (วณั โรค โรคอวน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง (หอบหดื ) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเร้ือรัง โรคมะเร็ง ภาวะภมู ิคมุ กนั ตา่ํ โรคเบาหวาน ภาวะบกพรองทางระบบประสาทอยา งรนุ แรง ลมชกั ฯลฯ ระบุโรค)............................................................... นํ้าหนกั .....๔....๒.................กิโลกรมั สว นสงู .....๑.....๔....๗.................เซนติเมตร น้าํ หนกั ผดิ ปกตไิ มส ัมพนั ธกับสว นสูงหรืออายุ นอนติดเตียง ๒) สุขภาพจติ /อารมณ/พฤติกรรม ✓มปี ฏสิ มั พันธท ่ีเหมาะสมกับผอู นื่ ✓ อารมณดี ยิ้มงา ย อารมณห งดุ หงิดงา ย/โมโหงาย ไมม ปี ฏิสัมพนั ธกับผูอนื่ เชน เฉยเมย ไมสบตา ไมม ีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ ซึมเศรา แยกตัวออกจากกลุม หวาดระแวง ไมพบพฤติกรรมที่ไมพึงประสงค พบพฤติกรรมท่ีไมพึงประสงคท ่ีสงผลกระทบไมร นุ แรงตอตนเอง/ผอู น่ื /สง่ิ ของ พบพฤติกรรมท่ีไมพึงประสงคทีส่ ง ผลกระทบรุนแรงตอตนเอง/ผูอ่นื /สิ่งของ
98 ๑.๓ ดา นการเรยี นรู ๑) พัฒนาการ/ความสามารถ พัฒนาการ/ความสามารถเทียบเทากับอายจุ รงิ พฒั นาการ/ความสามารถลาชา กวา อายุจรงิ ๑ – ๓ ป i พัฒนาการ/ความสามารถลา ชา กวา อายุจรงิ ๓ ป ขน้ึ ไป ๒) การชวยเหลือตนเอง สามารถชวยเหลือตนเองได สามารถชวยเหลอื ตนเองไดบ า ง ไมส ามารถชวยเหลอื ตนเองได ๑.๔ ดานสทิ ธคิ นพกิ าร/สนับสนุนชว ยเหลือจากองคก รภาครัฐหรอื เอกชน ๑) เบ้ยี ยังชีพคนพิการ ✓ไดร บั จาํ นวน..ง..ุ..0...0...0...........บาท/เดอื น ไมไ ดร บั เนื่องจาก................................................................................................................ ๒) บรกิ ารฟนฟทู างการแพทย ✓ไดรบั (ระบุโรงพยาบาล)...โ...ร...ง...พ.....ย....า...บ....า...ล....ล...ำ....ป....า...ง..................................................... ไมไ ดรับ เน่ืองจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี ส่อื ส่ิงอาํ นวยความสะดวก ✓ไดร บั (ระบุสง่ิ ท่ีไดรบั )......ร...ถ....เ..ข.็..น...น.ั.่..ง................................................................................. (ระบุหนวยงานท่ไี ดรบั )........................................................................................................ ไมไดร ับ เนื่องจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศกึ ษา/เงนิ ชว ยเหลอื อื่น ๆ ไดร ับ (ระบชุ ่ือทนุ การศกึ ษา/เงนิ ชว ยเหลอื อ่นื ๆ)................................................................ จาํ นวน.......................บาท/เดือน ✓ไมไดร ับ เนื่องจาก................................................................................................................ ๕) รับบรกิ ารสวัสดกิ ารทางสังคม ไดร บั (สงิ่ ท่ไี ดร บั เชน บริการเคสเมเนเจอร บรกิ ารรบั สงไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบ)ุ .......... (หนว ยงานทีไ่ ดรับ เชน พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ ).................................................................. ✓ไมไ ดร ับ เน่ืองจาก...............................................................................................................
99 ๑.๕ ดา นการเดินทางในชีวิตประจาํ วนั ๑) ยานพาหนะทีใ่ ชในครอบครวั ไมมยี านหนะใชภายในครอบครวั มยี านพาหนะ โปรดระบุประเภท จกั รยาน ะ จกั รยานยนต จกั รยานยนตพ ว ง รถเกง รถกระบะ ๒ ประตู รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนทา ยบรรทุก) รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนทายบรรทุกมีหลังคา) รถกระบะ ๔ ประตู (นัง่ ๒ ตอนแวน) รถตูส ว นบุคคล ๒) วิธกี ารเดินทางในชวี ิตประจาํ วัน เดนิ ใชยานพาหนะ โปรดระบุประเภท จักรยาน จักรยานยนต จักรยานยนตพ ว ง ✓รถเกง รถกระบะ ๒ ประตู รถกระบะ ๔ ประตู (น่ัง ๒ ตอนทา ยบรรทุก) รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนทายบรรทุกมีหลังคา) รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนแวน) รถรบั จาง / รถรบั -สงนักเรยี น รถโดยสารประจําทาง รถตสู วนบคุ คล ๓) ระยะทางจากที่พกั อาศัยมายังสถานศึกษา (ระบุระยะทาง)......๒...อ...............กโิ ลเมตร
100 ๒. ขอ มูลดา นครอบครวั ๒.๑ ขอ มลู บดิ า ✓มชี ีวิตอยู ถึงแกกรรม ไมม ีขอมลู ชื่อ-นามสกุล บิดา....น..า...ย..ส...ม....เ..ด....ช.........จ..ั.บ...ข...น...............................อายุ............ป เชื้อชาติ..ไ....ท....ย.................. สัญชไามตม .ิ งี..ไา..น.ท..ท..ํา.ย......✓......ม..งี..า..นศทาาํ สนอาาช...ีพ.พ...ุ....ท........ธ..เ....ก........ษ........ต......ร...ก...ร.......................รายได......๑....0..,.0...0..0...........บาท/เดอื น ระดับการศึกษา ไมไดร ับการศึกษา ประถมศึกษา ✓ มัธยมศึกษา/ปวช ปวส/อนปุ ริญญา ปริญญา ท่ีอยูป จ จุบนั ✓ท่อี ยเู ดียวกับนกั เรยี น ทอ่ี ยตู า งจากนกั เรยี น (โปรดกรอกขอมูล) บานเลขท่ี.....................ตรอก/ซอย...............หมูท.่ี ..........ช่อื หมบู าน/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหสั ไปรษณยี . .............................................เบอรโ ทรศพั ท............................................................................ ๒.๒ ขอ มูลมารดา ✓มชี วี ติ อยู ถึงแกก รรม ไมม ขี อมูล ชือ่ -นามสกลุ มารดา.....ง........พ....ว....ง...เ..พ....ช....ร...........จ..ั.น....บ.ิ...น...............อายุ............ป เช้ือชาติ..ไ....ท.....ย................. สัญชาติ..ไ....ท.....ย.................. ศาสนา....พ..ุ..ท.....ธ............ ไมมีงานทาํ ✓มีงานทาํ อาชีพ......เ..ก...ษ....ต....ร...ก....ร.........................รายได. .....๓...อ..ุ.0...0..............บาท/เดือน ระดบั การศกึ ษา ไมไ ดรบั การศึกษา ✓ประถมศึกษา มธั ยมศึกษา/ปวช ปวส/อนปุ รญิ ญา ปริญญา ทอ่ี ยปู จ จุบัน ✓ท่อี ยเู ดียวกบั นกั เรียน ทอี่ ยูตา งจากนกั เรียน (โปรดกรอกขอมูล) บานเลขท.่ี ....................ตรอก/ซอย...............หมทู ่.ี ..........ชือ่ หมบู าน/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อาํ เภอ/เขต................................... จังหวัด............................................ รหสั ไปรษณยี . .............................................เบอรโ ทรศพั ท............................................................................ ๒.๓ ขอมลู ผูป กครอง บิดา ✓ มารดา ผูปกครองไมใ ชบดิ า/มารดา (โปรดกรอกขอมลู ) ช่ือ-นามสกุลผปู กครอง.......................................................................อายุ............ป เช้อื ชาติ........................ สญั ชาต.ิ ............................ ศาสนา......................... ไมม งี านทํา มีงานทาํ อาชีพ...................................................รายได. ............................บาท/เดอื น ระดบั การศึกษา ไมไ ดร บั การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา/ปวช ปวส/อนปุ ริญญา ปริญญา
101 ที่อยปู จจบุ นั ที่อยเู ดียวกบั นักเรยี น ที่อยตู างจากนักเรยี น (โปรดกรอกขอมลู ) บา นเลขท.ี่ ....................ตรอก/ซอย...............หมทู ี่...........ชื่อหมบู าน/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จังหวัด............................................ รหสั ไปรษณยี . .............................................เบอรโ ทรศพั ท............................................................................ รายไดครอบครัว ✓๑๐๐,๐๐๐ บาท/ป ข้ึนไป ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ป ไมเกนิ 40,000 บาท/ป สภาพความเปน อยูในครอบครวั ✓อยูรว มกบั บิดามารดา อยูกับบิดา อยูกับมารดา อยกู ับผูอืน่ (ระบุ)....................................................................... ✓อยดู ว ยกัน สถานภาพของบิดามารดา หยารา ง แยกกันอยู บิดาถึงแกกรรม มารดาถงึ แกก รรม บิดา มารดาถึง แกก รรม ครอบครวั ของนักเรียนมสี มาชิกทง้ั หมด......๔............คน ประกอบดว ย....ย.่.า......พ..่..อ....แ....ม..่.......ก...า...ร................... บุคคลในครอบครวั มีการใชส ารเสพติด มี ไมม ี เกย่ี วขอ งเปน...............................กับนักเรียน ประเภทสารเสพตดิ ท่ีใชค ือ บหุ ร่ี สุรา ยาบา อน่ื ๆ ระบ.ุ ............................ ความถีใ่ นการใชสารเสพติดของบคุ คลในครอบครวั เปน ประจํา บางคร้ัง บคุ คลในครอบครัวเกีย่ วขอ งกับการเลนการพนนั มี ไมม ี นะความถใ่ี นการเลน การพนันของบคุ คลในครอบครวั เปน ประจาํ บางคร้งั ภายในครอบครวั มีความขัดแยงและมีการใชค วามรนุ แรง มี ไมม ี บุคคลในครอบครวั เจบ็ ปว ยดวยโรครนุ แรง/เรอื้ รงั มี ไมม ี อาชีพบดิ า/มารดา/ผปู กครองเส่ียงตอกฎหมาย มี ✓ไมมี ๒.๔ ดานเศรษฐกิจครอบครวั มรี ายไดเ พยี งพอสําหรับเล้ยี งดูครอบครัวไดอ ยางดี ✓มีรายไดเพียงพอสาํ หรบั เลี้ยงดูครอบครัวเฉพาะท่จี าํ เปน ✓มีหนีส้ ิน มรี ายไดเพยี งเล็กนอย ไมเพยี งพอสาํ หรบั ครอบครัว ไมม รี ายไดเ ลย ตอ งพึ่งพาผอู ื่นท้งั หมด และมีหนีส้ นิ
102 ๒.๕ ดา นการคมุ ครองนกั เรยี น ๑) การดแู ลเอาใจใสนักเรียน ✓สมาชิกทุกคนในครอบครัวชว ยกันดแู ลเอาใจใสนกั เรยี นเปน ประจาํ สมาํ่ เสมอ ขาดการดแู ลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนกั เรียนเปนบางคร้ัง ขาดการดแู ลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนักเรยี น/ไมมีผูดูแล นักเรยี นถูกลว งละเมิดทางเพศ นกั เรียนถกู ทาํ รายทารณุ ๒) การชว ยเหลือในการพัฒนานักเรียน ✓สมาชิกทกุ คนในครอบครัวเขา ใจ/รวมมอื ในการชวยเหลอื ในการพฒั นานกั เรียนเปน อยางดี สมาชกิ ในครอบครัวบางคนไมมีความเขาใจ/รวมมือในการชว ยเหลอื ในการพัฒนานักเรยี น สมาชิกทกุ คนในครอบครัวขาดความเขา ใจ/รว มมือในการชว ยเหลือในการพฒั นานักเรียน ๒.๖ ดานเจตคติตอ นักเรียน ครอบครัวมีความคาดหวังในการพฒั นานักเรียน นักเรยี นสามารถพัฒนาไดและมีการแสวงหาความรใู นการพฒั นานักเรยี นอยเู สมอ ✓มคี วามคาดหวังในการพัฒนานักเรียนแตไมมีการแสวงหาความรูเ พื่อนาํ มาพฒั นานักเรียน ไมม ีความคาดหวังในการพฒั นานกั เรยี นและนักเรยี นเปนภาระของครอบครวั ๒.๗ ดา นความรู ความเขา ใจ ทกั ษะของผูปกครองในการพฒั นานกั เรยี น ๑) ความรู ความเขาใจ ทกั ษะของผูปกครองในการจัดกิจกรรมเพ่อื พัฒนานกั เรียน มีการจัดกจิ กรรมเพื่อพัฒนานกั เรียนเปน ประจําทุกวัน ✓มกี ารจัดกจิ กรรมเพ่ือพัฒนานักเรียนเปนบางครง้ั ไมเ คยมีการจดั กิจกรรมเพ่ือพฒั นานกั เรียน ๒) ความรู ความเขา ใจ ทักษะของผูปกครองในการฝก ดวยเทคนคิ /กิจกรรม มกี ารฝกดว ยเทคนิค/กิจกรรมท่หี ลากหลายเปน ประจาํ ทุกวัน ✓มกี ารฝก ดวยเทคนิค/กจิ กรรมเปน บางครั้ง ไมเ คยฝก ดว ยเทคนคิ /กจิ กรรม
103 ๓. ขอ มูลดา นสภาพแวดลอ ม ๓.๑ สภาพแวดลอมภายในศูนยการศกึ ษาพเิ ศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง/หนวยบรกิ าร ๑) บรเิ วณภายในหองเรยี นอาคารเรียน สภาพแวดลอมในหองเรียน/อาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกับความตองการจาํ เปน พิเศษของ นักเรยี นและปลอดภยั ตอ การดาํ รงชีวิต สภาพแวดลอ มในหอ งเรียน/อาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจําเปน พเิ ศษของนกั เรียนแตย งั สามารถใชไดอยางปลอดภัยตอ การดาํ รงชีวิต สภาพแวดลอมในหองเรยี น/อาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกับความตอ งการจาํ เปน พิเศษของนักเรยี นและไมปลอดภยั ตอการดํารงชีวิต สภาพแวดลอ มในหองเรยี น/อาคารเรียนทกุ อยา งไมม ีความเหมาะสมกับความตองการจําเปน พิเศษของนกั เรียนและไมป ลอดภยั ตอ การดํารงชีวิต ระบุรายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น สภาพแวดลอมนอกอาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกบั ความตอ งการจําเปนพเิ ศษของนักเรยี น และปลอดภยั ตอการดํารงชีวิต สภาพแวดลอมนอกอาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกับความตองการจาํ เปนพิเศษของ นักเรียนแตยังสามารถใชไ ดอยางปลอดภัยตอ การดํารงชีวิต ะ สภาพแวดลอมนอกอาคารเรียนบางอยางขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจาํ เปน พิเศษของ นกั เรยี นและไมปลอดภยั ตอการดํารงชวี ิต สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนทกุ อยางไมม ีความเหมาะสมกับความตองการจาํ เปน พิเศษของ นักเรียนและไมป ลอดภัยตอ การดาํ รงชีวิต ระบรุ ายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ ........................................................................................................................................... ๓) ผูเก่ยี วขอ ง นกั เรียน ครู/ผูปกครอง/พ่เี ลี้ยงเด็กพิการ/ผปู ฏิบตั ิงานใหราชการทุกคนพรอมใหการชว ยเหลอื นกั เรียน คร/ู ผูปกครอง/พเ่ี ลย้ี งเด็กพกิ าร/ผูป ฏิบตั งิ านใหร าชการบางคนละเวน ไมใหการชว ยเหลือ ครู/ผูปกครอง/พี่เลยี้ งเด็กพกิ าร/ผูป ฏบิ ัตงิ านใหร าชการบางคนรงั เกยี จนักเรยี น เพ่ือนหรือสมาชกิ ในครอบครวั ทกุ คนยอมรับ/ใหเ ขากลมุ ทาํ กจิ กรรม เพอ่ื นหรอื สมาชกิ ในครอบครวั บางคนไมย อมรบั /ไมใหเ ขา กลุมทํากจิ กรรม เพ่ือนหรอื สมาชิกในครอบครัวทุกคนไมยอมรบั /ไมใ หเขากลุมทํากจิ กรรม
104 ๓.๒ สภาพแวดลอมภายในบาน ๑) บรเิ วณภายในบาน สะอาดปลอดภยั เอือ้ ตอ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน สะอาดปลอดภยั แตไ มเอ้ือตอการพัฒนาศกั ยภาพนกั เรียน ไมสะอาดและไมปลอดภัย ะ๒) บริเวณภายนอกบา น สะอาดปลอดภยั เออื้ ตอการพฒั นาศักยภาพนักเรียน สะอาดปลอดภยั แตไ มเอ้ือตอการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน ไมส ะอาดและไมป ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ มภายในชุมชน ๑) เจตคติของชมุ ชนที่มีตอนักเรียนและครอบครัว เปนภาระของสังคม พรอมใหความชวยเหลอื ความเช่อื เรอ่ื งเวรกรรม มสี ทิ ธเิ ทาเทยี มกับคนทว่ั ไป นา รงั เกียจ คนพิการสามารถพฒั นาได ไมส นใจ ๒) ความสัมพันธข องนักเรยี นกบั ชมุ ชน เปน ทีร่ ูจ ักในชุมชน มีสว นรวมในชุมชน เปน ทรี่ ักของคนในชมุ ชน ชมุ ชนใหความชวยเหลอื ไมมีคนในชมุ ชนรจู กั ไมส นใจ สรา งความเดือดรอนใหค นในชมุ ชน
105 ๔. ขอมูลดา นความปลอดภัยสถานศกึ ษา ๔.๑ ภัยท่เี กดิ จากการใชความรุนแรงของมนษุ ย ๑) การลว งละเมิดทางเพศ นักเรียนมผี ดู แู ลใกลช ิดตลอดเวลา นักเรยี นมีผดู แู ลใกลชดิ เปนบางเวลา นกั เรียนมักถูกทิ้งใหอยตู ามลาํ พังหรือไมมผี ูดแู ล นกั เรียนมปี ฏสิ มั พนั ธท างสังคมโดยมีระยะหา งกบั ผอู ่นื นกั เรยี นมีพฤติกรรมกอดหรือหอมแกมเพศตรงขามท่ีไมใ ชญาตหิ รือคนรูจ กั นกั เรียนมีพฤตกิ รรมลวงหรอื จับอวัยวะเพศของตนเอง นักเรียนมพี ฤติกรรมลวงหรอื จับอวัยวะเพศของผูอ่นื นกั เรียนมีพฤตกิ รรมกระตุน ตนเองทางเพศเปนบางครั้ง นกั เรียนมีพฤติกรรมกระตนุ ตนเองทางเพศบอยครัง้ /เปนประจํา นักเรยี นมีพฤตกิ รรมการเขา ใชส่ือเทคโนโลยโี ดยไมมีการควบคุมดูแล นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบดสู อ่ื อนาจารลามก ๒) การทะเลาะววิ าท นักเรียนมีผูดูแลใกลช ิดตลอดเวลา นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลชดิ เปนบางเวลา นกั เรยี นมักถูกท้ิงใหอยูตามลาํ พงั หรือไมมีผูด ูแล : นกั เรียนมกี ริยาทาทางเรียบรอ ย สุภาพ ไมกา วรา ว ไมมพี ฤติกรรมทํารา ยตนเองหรอื ผูอืน่ นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมเลน ไมเ ปน หรอื แยง ส่งิ ของ ของเพื่อนหรอื ผูอื่นเปน บางครั้ง นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมชอบแยงของ ของผูอ น่ื หรือเพื่อนบอยคร้ัง/เปนประจํา นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดูสื่อหรอื ใหความสนใจสอ่ื ทมี่ ีความรุนแรงในสังคม นักเรยี นมีพฤตกิ รรมเลยี นแบบการกระทําหรือคําพดู ท่กี าวราวรุนแรงเมื่อเห็นผูอนื่ ทาํ หรือจาก การเสพส่ือ นักเรยี นมักแสดงพฤติกรรมหรือคําพดู ที่กาวราวรุนแรงตอผอู นื่ นกั เรียนไดร ับยาที่มฤี ทธ์ิในการปรบั พฤตกิ รรม (ยากลมุ จติ เวช) แตท านยาไมส ม่ําเสมอ ๓) การกล่นั แกลงรังแก นกั เรยี นมผี ูดูแลใกลชิดตลอดเวลา นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลช ิดเปนบางเวลา นกั เรียนมกั ถูกท้งิ ใหอ ยูตามลําพังหรือไมมีผดู ูแล นักเรียนมกี รยิ าทาทางเรียบรอย สภุ าพ ไมกาวรา ว ไมมพี ฤติกรรมทํารายตนเองหรอื ผอู นื่
106 นักเรียนมพี ฤติกรรมเลน ไมเ ปนหรอื แยงส่ิงของ ของเพ่ือนหรอื ผอู ืน่ เปน บางคร้ัง นกั เรียนมีพฤติกรรมชอบแยงของ ของผูอ ่ืนหรือเพื่อนบอยๆ/เปนประจาํ นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมชอบดูส่อื หรอื ใหความสนใจสอื่ ทีม่ ีความรุนแรงในสงั คม นักเรียนมีพฤตกิ รรมเลยี นแบบการกระทําหรือคาํ พูดทแี่ สดงถงึ การกลั่นแกลง รังแก เชน พูดแซว พดู คําหยาบคาย ดงึ ผมผูอื่น กัดหยิกหรอื ตผี ูอ่นื เม่ือเหน็ ผูอ ืน่ ทําหรือจากการเสพส่ือ นักเรยี นมักแสดงพฤติกรรมหรอื คําพดู ท่ีแสดงถึงการกลั่นแกลง รังแก เชน พูดแซว พูดคํา หยาบคาย ดึงผมผูอน่ื กดั หยิกหรอื ตีผอู ื่น อยเู สมอ ๔) การชุมนุมประทวงและการจลาจล นกั เรียนมีผดู ูแลใกลช ิดตลอดเวลา นกั เรียนมผี ดู แู ลใกลช ิดเปนบางเวลา ะ นักเรียนมกั ถูกท้งิ ใหอ ยูตามลาํ พังหรือไมมผี ดู แู ล นกั เรียนมีกริยาทา ทางเรียบรอย สภุ าพ ไมมีพฤติกรรม กาวรา ว กอกวน ทาํ รายตนเองหรอื ผูอ่ืน และไมมีการแสดงพฤติกรรมทก่ี อใหเ กดิ การชุมนมุ ชกั จูงผอู น่ื หรือการประทวง นักเรียนมพี ฤตกิ รรมชอบดูสื่อหรอื ใหความสนใจสอ่ื ที่เกี่ยวกบั การชุมนมุ ประทว งและ การจลาจลในสังคม นกั เรียนเสย่ี งตอ การถกู ชักชวนจากผูอ ื่นไปรวมหรือกอการชุมนุมประทว งและการจลาจล นกั เรยี นถกู ชกั ชวนไปรวมการชุมนุมประทวงและการจลาจล ๕) การกอวนิ าศกรรม นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลชิดตลอดเวลา นกั เรียนมีผดู ูแลใกลชิดเปนบางเวลา นกั เรียนมกั ถูกทิง้ ใหอยตู ามลาํ พังหรือไมมผี ูด ูแล นกั เรียนมีกรยิ าทา ทางเรียบรอ ย สุภาพ ไมมีพฤติกรรม กา วราว กอ กวน ทาํ รายตนเองหรอื ผูอ นื่ และไมมีการแสดงพฤติกรรมทเก่ยี วกับ ทํารายผอู ืน่ ทําลายสาธารณะสมบัติในสงั คม เปน ตน นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบดสู ่ือหรือใหความสนใจสอื่ ทเี่ ก่ียวกับ ทํารา ยผูอ น่ื ทําลายสาธารณะ สมบตั ิในสงั คม เปน ตน นักเรียนเสย่ี งตอการถกู ชักชวนจากผูอืน่ ไปรว มหรือกอการชุมนุมประทว งและการจลาจล นักเรียนถกู ชักชวนไปรวม ทํารา ยผูอื่น ทําลายสาธารณะสมบตั ใิ นสงั คม เปน ตน
107 ๖) การระเบิด นักเรยี นมผี ดู แู ลใกลชดิ ตลอดเวลา นกั เรยี นมีผูดูแลใกลชิดเปนบางเวลา นักเรียนมักถูกท้ิงใหอ ยตู ามลาํ พงั หรือไมมีผดู แู ล นกั เรียนไมมีแนวโนมทีจ่ ะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเลนสารเคมีหรือวัตถุท่ีอาจกอใหเกิด ระเบิด บคุ คลในครอบครัวนกั เรียนมกี ารใชส ารเคมหี รือวัตถุทีอ่ าจกอ ใหเกิดระเบิดในครอบครวั หรือ ในการประกอบอาชีพของครอบครัว เชน ยาฆา แมลงวชั พืช หรือสารประกอบในปยุ เคมี หรือสารเคมที ําประทัด พลุ หรือบงั้ ไฟ หรือมวี ตั ถอุ นั ตราย เชน กระปองสเปรย นํ้ามัน ไมขีดไฟ ไฟแช็ค ในบาน นักเรียนคลุกคลกี ับบคุ คลมกี ารใชส ารเคมหี รือใชว ัตถุอัตรายในการประกอบอาชีพที่อาจ กอใหเ กิดระเบดิ นกั เรียนคลุกคลีกับบคุ คลมกี ารใชสารเคมหี รือใชว ตั ถุอัตรายในการทําประทัด พลุ หรือบง้ั ไฟ : นกั เรยี นเสยี่ งตอ การถกู ชักชวนจากผูอน่ื ในการพกพาหรือเลนสารเคมหี รือใชว ัตถุที่อาจ กอใหเ กดิ ระเบิด นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมพกพาหรอื นําสารเคมีหรือวัตถุที่อาจกอ ใหเกดิ ระเบิด เชน ยาฆา แมลง วชั พืช หรอื สารประกอบในปุยเคมี หรอื สารเคมที าํ ประทดั พลุ หรอื บง้ั ไฟ หรือมีวตั ถุอนั ตราย เชน กระปองสเปรย นา้ํ มนั ไมขดี ไฟ ไฟแชค็ ๗) สารเคมแี ละวัตถุอนั ตราย นกั เรียนมผี ูด ูแลใกลชดิ ตลอดเวลา นักเรยี นมผี ดู แู ลใกลชดิ เปนบางเวลา นกั เรยี นมักถูกท้งิ ใหอยูตามลาํ พงั หรือไมมีผูด แู ล นกั เรียนไมมีแนวโนม ทีจ่ ะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเลน สารเคมหี รือวัตถอุ ันตราย บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใชสารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เชน น้ํายาลางจาน น้ํายาลางหองน้ํา น้ําสมสายชู ยาฆาแมลง ผงซักฟอก นํา้ ยาซกั ฟอก กระปอ งสเปรย นา้ํ มัน ไมข ดี ไฟ ไฟแชค็ เปนตน นกั เรยี นคลกุ คลกี ับบุคคลมกี ารใชสารเคมีหรอื ใชว ตั ถอุ ัตรายในการประกอบอาชีพ นักเรียนคลุกคลกี บั บุคคลมกี ารใชส ารเคมีหรอื ใชว ัตถอุ ัตรายในการทําประทัด พลุ หรอื บั้งไฟ นักเรียนเสี่ยงตอ การถกู ชักชวนจากผอู น่ื ในการพกพาหรือเลน สารเคมีหรือใชว ัตถอุ นั ตราย นักเรียนมพี ฤตกิ รรมพกพาหรอื นําสารเคมีหรือวัตถุอัตรายน้าํ ยาลางจาน น้ํายาลางหอ งน้าํ นาํ้ สม สายชู ยาฆา แมลง ผงซักฟอก นํ้ายาซักฟอก กระปองสเปรย น้ํามนั ไมข ดี ไฟ ไฟแชค็ เปน ตน
108 ๘) การลอลวง ลักพาตัว นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลชดิ ตลอดเวลา นกั เรียนถกู ท้ิงอยตู ามลาํ พงั ในหองเรียนหรอื ที่บา นหรือสถานที่สาธารณะในชุมชนเปน บางครง้ั นกั เรียนถกู ทิ้งอยูต ามลาํ พงั ในหองเรียนหรือทีบ่ านหรือสถานที่สาธารณะในชุมชนบอยคร้ัง หรือเปน ประจาํ นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏิเสธเมือ่ ถูกชกั ชวนจากผูอื่นหรือคนแปลกหนา นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเม่ือถูกชกั ชวนจากผอู ่นื หรือคนแปลกหนาเปน บางครั้ง นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธหรอื ไมร บั ของจากผูอ่ืนหรือคนแปลกหนาที่ให สงิ่ ของ/ขนม นักเรียนไมส ามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเมื่อถูกชักชวนจากผูอื่นหรอื คนแปลกหนา นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธในการรบั ของจากผูอนื่ หรือคนแปลกหนา ทใี่ ห สิง่ ของ/ขนมเปนบางคร้งั : นักเรยี นไมสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธในการรับของจากผูอ ื่นหรือคนแปลกหนาทีใ่ ห สง่ิ ของ/ขนม ๔.๒ ภัยทเี่ กิดจากอบุ ตั ิเหตุ ๑) ภยั ธรรมชาติ ๑.๑) ภยั จากน้าํ ทวม (จมนาํ้ /ไฟดูด/สัตวม ีพิษ) นักเรียนมีผูด แู ลใกลช ดิ ตลอดเวลา นักเรียนมผี ูดแู ลใกลชดิ เปนบางเวลา นกั เรียนบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรอื ภาพสัญลักษณในการเตือนภัยทเ่ี กิดขึ้นได นกั เรยี นไมส ามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภัยหรือภาพสัญลกั ษณใ นการเตือนภัยท่เี กิดขน้ึ ได นักเรียนสามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด นักเรยี นไมส ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณได นักเรยี นมีพฤติกรรม ชอบเลนน้าํ ชอบเอานิว้ ไปแหย ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใสปาก นักเรียนบอกไมไดเหตุการณท่ีเกิดขึ้นได ไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได และมีพฤติกรรม ชอบเลนน้ํา ชอบเอาน้ิวไปแหย ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใสปาก และถูกทิ้งใหอยูตามลําพัง หรือไมม ีผดู แู ล
109 ๑.๒) ไฟไหมป า หรือไฟไหมท่ีลุกลามในสถานทต่ี าง ๆ นกั เรียนมผี ดู แู ลใกลช ิดตลอดเวลา เรยี นมีผูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณใ นการเตือนภยั ท่ีเกิดข้ึนได นกั เรียนไมส ามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภัยหรือภาพสญั ลกั ษณในการเตือนภัยท่เี กิดขน้ึ ได นักเรยี นสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณไ ด นกั เรยี นไมส ามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณได นกั เรยี นมพี ฤติกรรมชอบเลนวตั ถไุ วไฟ วัตถุทกี่ อใหเกิดไฟหรือเชอื้ เพลงิ นักเรยี นไมสามารถบอกเหตุการณทเี่ กดิ ข้ึน ไมส ามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด และมี พฤติกรรม ชอบเลน วัตถุไวไฟ วัตถทุ ก่ี อใหเกิดไฟหรือเชอื้ เพลิง และถูกทง้ิ ใหอยตู ามลาํ พงั หรอื ไมมีผูด ูแล ๑.๓) พายุ นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลช ิดตลอดเวลา เรยี นมีผูดูแลใกลชิดเปน บางเวลา นักเรียนสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณในการเตือนภัยท่ีเกิดขึ้นได นักเรยี นไมสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ นการเตือนภัยที่เกิดขนึ้ ะได นักเรียนสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด นักเรยี นไมส ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได นักเรียนไมสามารถบอกเหตุการณทเ่ี กดิ ขน้ึ ไมส ามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณได และถกู ทิ้งใหอ ยตู ามลําพงั หรือไมม ผี ดู ูแล ๑.๔) แผน ดินไหว นกั เรียนมีผูดูแลใกลชิดตลอดเวลา เรียนมผี ดู แู ลใกลชิดเปน บางเวลา นักเรียนสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณในการเตือนภยั ท่ีเกิดข้ึนได นักเรียนไมสามารถบอกสถานการณคําเตือนภยั หรอื ภาพสญั ลกั ษณใ นการเตือนภยั ท่เี กดิ ขน้ึ ได นกั เรยี นสามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได นักเรยี นไมส ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได นกั เรยี นไมสามารถบอกเหตุการณท ่เี กิดข้ึน ไมส ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด และถกู ทิง้ ใหอยูตามลาํ พังหรอื ไมมผี ดู ูแล
110 ๑.๕) ภัยธรรมชาตใิ นชวงฤดูหนาว นกั เรียนมีผูดูแลใกลชิดตลอดเวลา เรียนมีผดู ูแลใกลชิดเปนบางเวลา นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณในการเตือนภยั ท่ีเกิดขึ้นได นกั เรียนไมส ามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภยั หรือภาพสญั ลักษณใ นการเตอื นภยั ที่เกดิ ขึ้นได นักเรยี นสามารถดแู ลตวั เองเม่ือเกดิ เหตกุ ารณได นกั เรียนไมส ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณได นักเรยี นไมส ามารถบอกเหตกุ ารณท่ีเกิดข้นึ ไมสามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณได และถกู ท้ิงใหอยตู ามลาํ พงั หรอื ไมม ีผูด ูแล ๒) ภยั จากอาคารเรยี น สงิ่ กอสราง นักเรียนมีผูด แู ลใกลช ิดตลอดเวลา เรียนมีผดู ูแลใกลชดิ เปน บางเวลา นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรือภาพสญั ลักษณในการเตือนภยั ทเ่ี กิดขึ้นได นักเรยี นไมสามารถบอกสถานการณคําเตือนภยั หรือภาพสญั ลักษณในการเตือนภัยท่เี กดิ ขึน้ ได ะ นกั เรียนสามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณไ ด นกั เรียนไมส ามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได นักเรียนไมส ามารถบอกเหตุการณที่เกดิ ข้นึ ไมส ามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได และถกู ทิง้ ใหอยตู ามลําพงั หรอื ไมมผี ูด ูแล ๓) ภยั จากยานพาหนะ นกั เรียนมผี ูด ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา นักเรียนมีผูดูแลใกลช ดิ เปนบางเวลา นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิตนเมอ่ื ใชหรือโดยสารยานพาหนะท่ีจําเปน ในชีวิตประจําวนั ได เชน รถจักรยาน รถจกั รยานยนต รถยนต เปน ตน นกั เรยี นไมส ามารถปฏิบัติตนเมื่อใชห รือโดยสารยานพาหนะท่ีจาํ เปนในชวี ิตประจําวันได เชน รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต รถยนต เปนตน นักเรยี นสามารถปฏิบัตติ นในการปอ งกนั อันตรายท่ีอาจเกิดจากยานพาหนะในชีวติ ประจําวนั นักเรยี นไมส ามารถปฏิบัติตนในการปองกันอันตรายที่อาจเกิดจากยานพาหนะใน ชวี ติ ประจาํ วันได นักเรียนไมสามารถปฏิบัติตนเม่ือใชหรือโดยสารยานพาหนะและไมสามารถปฏิบัติตนใน การปองกนั อนั ตรายทอี่ าจเกดิ จากยานพาหนะในชวี ติ ประจําวนั ได รวมถงึ มกั ถกู ท้ิงใหอยูตามลาํ พงั หรอื ไมม ีผูด ูแล
111 ๔) ภัยจากการจดั กิจกรรม ✓นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลชิดตลอดเวลา นักเรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา ขอตกลงได นักเรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ขอตกลงไดเปนบางครงั้ นกั เรยี นไมสามารถปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ขอตกลงได และ มกั ถูกท้ิงใหอยูตามลําพงั หรือไมมี ผูดูแล ๕) ภยั จากเครอื่ งมือ อปุ กรณ ✓นักเรียนมีผดู แู ลใกลชิดตลอดเวลา นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลชดิ เปนบางเวลา นกั เรยี นสามารถใชเ ครอื่ งมอื อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/เคร่อื งใชไฟฟา/ เครอ่ื งมือชา งในบา นหรอื สถานศกึ ษา ไดด วยตนเองอยางปลอดภัย นักเรียนไมสามารถใชเครื่องมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครอ่ื งใชไ ฟฟา/เครื่องมือชา งในบานหรอื สถานศกึ ษา ไดดว ยตนเองอยา งปลอดภยั นักเรียนไมสามารถใชเคร่ืองมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใชไฟฟา/เคร่ืองมือชางในบานหรือสถานศึกษา ไดดวยตนเองอยางปลอดภัย และมักถูกทิ้งใหอยูตามลําพัง หรอื ไมม ผี ูด ูแล ๔.๓ ภัยท่ีเกดิ จากการถกู ละเมิดสทิ ธิ์ ๑) การถูกปลอยปละ ละเลย ทอดท้ิง ✓นักเรียนไดรบั การดูแลเลี้ยงดูจากผูปกครองและผดู ูแลเปนอยางดี นักเรียนถกู ปลอยปละ ละเลย ทอดทงิ้ เปนบางคร้ัง นกั เรยี นถกู ปลอ ยปละ ละเลย ทอดทงิ้ เปน บอยครัง้ ๒) การคกุ คามทางเพศ rนกั เรยี นรวู ิธีการเอาตัวรอดจากการคกุ คามทางเพศ นกั เรยี นไดรบั การดูแลเลี้ยงดจู ากผูป กครองและผูดูแลเปนอยางดี นักเรยี นถูกท้ิงใหอ ยูบ านเพยี งลาํ พังเปนบางครั้ง นกั เรียนถูกทิ้งใหอ ยบู านเพยี งลาํ พังเปนประจํา บานนักเรียนอยใู นพืน้ ท่หี างไกลชมุ ชน บา นนักเรยี นอยูในพืน้ ทห่ี างไกลชมุ ชน เมื่อมีเหตสุ ุดวสิ ัยไมส ามารถขอความชวยเหลอื จากผูอื่น หรอื หนวยงานตาง ๆ ไดทนั ที
112 บานนักเรียนอยูในพื้นท่ีท่ีมกี ารมวั่ สมุ เชน ยาเสพตดิ สุรา การพนัน บา นนักเรยี นอยใู นพน้ื ท่ีที่มกี ารมว่ั สุม เชน ยาเสพตดิ สุรา การพนนั เม่ือมเี หตุสุดวสิ ยั ไม สามารถขอความชวยเหลือจากผูอน่ื หรอื หนวยงานตาง ๆ ไดทนั ที ๓) การไมไ ดร บั ความเปนธรรมจากระบบการศกึ ษา นักเรียนไดรบั การศึกษาและการพัฒนาตนเองจากหนวยงานทเี่ กีย่ วของกบั ระบบการศึกษา ครอบครวั นักเรียนขาดการรับขอมูลขาวสารจากหนว ยงานตา ง ๆ เน่อื งจากอยูในพ้ืนทห่ี างไกล บนเขา ตดิ ชายแดน หรือพื้นที่เสีย่ งภัย ผูปกครองกลวั ลูกถกู รังแกหรือกลนั่ แกลง หรอื ไมไดรับการดูแลเทาที่ควรเหมาะสม ผปู กครองขาดความรูความเขาใจเก่ยี วกบั ระบบการศกึ ษา เพราะคดิ วาเด็กพิการไมตองเขา ระบบการศกึ ษา การคมนาคมและระบการติดตอส่อื สารไมสะดวก การสื่อสารดานภาษา เชน กลุม ชาติพันธ กลมุ ชนกลุมนอย ๔.๔ ภยั ทเ่ี กิดจากผลกระทบตอสขุ ภาวะทางกายและจติ ใจ ๑) ภาวะจติ เวช นักเรยี นไดรบั การดูแลเลย้ี งดจู ากผปู กครองและผูดูแลเปนอยางดี นกั เรียนมพี ฤตกิ รรม อารมณ รา งเริงแจมใส หรอื สามารถแสดงพฤติกรรม อารมณไดอยา ง :เหมาะสมและสอดคลองตามสถานการณ นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรม อารมณไมเหมาะสมบางสถานการณ นักเรยี นปญ หาดา นครอบครัวสง ผลกระทบตอจติ ใจ นกั เรยี นมีปญหาดานสภาพแวดลอมในชมุ ชน ท่ีสง ผลตอ พฤติกรรม นกั เรยี นมีภาวะอาการโรคซมึ เศรา นกั เรยี นมีปญหาทางดานพฤติกรรมและอารมณท ่ีรนุ แรง ๒) ตดิ เกม นักเรยี นไดรับการดูแลเล้ียงดูจากผปู กครองและผูด แู ลเปนอยางดี นกั เรยี นสามารถแบงเวลาในการเลน เกมและทํากิจกรรมอื่น ๆ โดยไมม ีภาวะพฤติกรรมตอตาน นักเรยี นถูกปลอ ยปละละเลยใหเลนโทรศัพทห รือเลน คอมพิวเตอรโ ดยไมม ีการควบคุม ดแู ล เปน บางคร้ัง บอยคร้งั นักเรยี นถูกปลอยปละละเลยใหเ ลน โทรศพั ทห รือเลน คอมพวิ เตอรโ ดยไมม ีการควบคุม ดูแล สภาพแวดลอ มทใี่ กลช ดิ ทําใหนกั เรยี นมีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน ผดู แู ลเลน เกมคอมพวิ เตอร หรอื มอื ถืออยา งไมระมดั ระวงั
113 นกั เรียนแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณท่ีกา วราวรุนแรง เม่อื ถูกหา ม ยึด หรือจํากดั เวลาใน การเลนเกมรางกาย ผูดแู ลขาดความเขาใจในสื่อออนไลนไมสามารถแนะนําใหน กั เรยี นเลนเกมอยางระมดั ระวังได ๓) ยาเสพตดิ นกั เรยี นไดร บั การดูแลเล้ยี งดจู ากผปู กครองและผูด ูแลเปนอยา งดี นกั เรียนสามารถรับรูถึงโทษของยาเสพติด นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอม ครอบครัวหรือชุมชน ท่ีมกี ารใชสารเสพติดหรือมีความเกี่ยวของ กบั ยาเสพตดิ และการกระทาํ ผิดกฎหมาย นักเรยี นถูกชกั ชวนจากผูอ่ืนไดงาย นกั เรยี นมีพฤตกิ รรม เลียนแบบหรือทําตามผอู ืน่ นกั เรียนเคยทดลองใชย าเสพติด นกั เรียนใชยาเสพตดิ นกั เรยี นถกู หลอกใชใ หเปนผูสง-รบั ยาเสพติด นักเรยี นเปน ผูขายหรือผูซ้ือยาเสพตดิ ๔) โรคระบาดในมนษุ ย นักเรียนไดร ับการดูแลเลี้ยงดูจากผปู กครองและผดู แู ลเปน อยางดี นักเรียนมีผดู แู ลใกลช ดิ เปนบางเวลา นกั เรยี นมักถูกท้งิ ใหอ ยตู ามลาํ พังหรือไมมีผูดูแล : นกั เรียนรจู กั วิธกี ารปอ งกันและสามารถดูแลตนเองใหป ลอดภยั จากโรคระบาดได นักเรยี นไมส ามารถดูแลตนเองจากโรคระบาดได เชน การใสแ มส ลา งมือ ทําความสะอาด นกั เรียนอาศัยหรือใชช วี ติ อยใู นสภาพแวดลอมทเ่ี ปน แหลง แพรเ ชอ้ื โรค นักเรียนอยูใ กลชดิ กบั ผปู ว ย เชน บุคคลในครอบครวั เพ่อื น ผูใกลชิดหรือบุคคลในครอบครวั เปนโรคระบาดและนักเรยี นไมสามารถปองกันตัวเองได นกั เรียนปว ยเปน โรคระบาดและไมสามารถปองกนั การแพรกระจายเช้ือจากตนเองไปสูผอู ่ืนได ๕) ภยั ไซเบอร นักเรยี นไดรบั การดูแลเลย้ี งดูจากผูปกครองและผูด ูแลเปน อยา งดี นกั เรียนสามารถแบงเวลาในใชสอ่ื เครือขา ยสงั คมออนไลนและทํากิจกรรมอื่น ๆ โดยไมมภี าวะ พฤติกรรมตอตา น นักเรียนถูกปลอ ยปละละเลยใหเ ลน โทรศพั ทหรือเลน คอมพวิ เตอรโดยไมม ีการควบคุม ดแู ล เปนบางครงั้ สภาพแวดลอ มทใ่ี กลช ิดทําใหเ ดก็ มีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน ผดู ูแลใชส ื่อเครอื ขายสงั คม ออนไลนอยางไมระมดั ระวงั
114 ผดู แู ลขาดความเขา ใจในใชสื่อเครอื ขายสังคมออนไลน ไมสามารถแนะนํา ใหเด็กใชอ ยา ง ระมัดระวงั ได บอ ยครัง้ นักเรียนถกู ปลอ ยปละละเลยใหเลน โทรศพั ทหรือเลนคอมพิวเตอรโ ดยไมมีการควบคุม ดูแล นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมหรอื อารมณที่กา วราวรนุ แรง เมื่อถกู หาม ยึด หรือจํากดั เวลาในใชส่อื เครอื ขายสงั คมออนไลนและทํากจิ กรรมอ่ืน ๆ ๖) การพนนั นักเรยี นไดร ับการดูแลเลย้ี งดจู ากผปู กครองและผูดแู ลเปน อยางดี นักเรยี นสามารถรับรถู ึงโทษของการเลนการพนัน นกั เรียนอยใู นครอบครวั ชุมชนหรอื สภาพแวดลอ ม ท่ีมีการเลน พนัน นกั เรยี นถกู ชักชวนจากเพื่อนหรอื ผใู กลช ดิ ใหเ ลน การพนัน นักเรียนมีพฤติกรรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเลนการพนนั ตามเพ่ือนหรือผูที่อยูใกลช ิด นักเรยี นมพี ฤติกรรมสอไปทางการเลนหรือติดการพนัน ๗) มลภาวะเปนพษิ นกั เรียนไดร บั การดูแลเลี้ยงดูจากผูปกครองและผูด แู ลเปน อยางดี นักเรียนรูจักวิธีการปอ งกันและสามารถดแู ลตนเองใหปลอดภัยจากมลภาวะตา ง ๆ ได นกั เรียนอยูใ นสภาพแวดลอ มทีเ่ ปน แหลงมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางนํา้ นกั เรยี นไมสามารถดูแลตนเองจากมลภาวะได เชน การใสแ มสเพ่ือปองกนั มลภาวะทางอากาศ นักเรียนปวยหรือเปน โรคทีเ่ กิดจากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางน้าํ เชน โรคระบบทางเดินหายใจ โรคที่เกีย่ วกับการไดยนิ เสยี ง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสขุ ภาวะทางกายอ่ืน ๆ ที่ เกิดจากมลภาวะเปน พิษ ๘) โรคระบาดในสัตว นกั เรยี นไดร ับการดูแลเลี้ยงดูจากผปู กครองและผูดูแลเปนอยางดี ครอบครัวนกั เรียนรูจ ักวิธีการปอ งกันและสามารถดูแลสตั วเล้ยี งและคนในครอบครัวให :ปลอดภัยจากโรคระบาดหรอื โรคตดิ ตอจากสัตวได ครอบครัวนักเรียนไมม ีความรใู นการดูแล ปอ งกันโรคตา ง ๆ จากสัตวเลยี้ ง นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอมหรอื ชุมชนท่ีมีการเลี้ยงสัตว ทําการปศสุ ัตว นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอ มหรือชมุ ชนท่ีมีการเกิดโรคระบาดสัตว นักเรยี นปวยหรอื ตดิ เช้ือจากโรคตา ง ๆ จากสตั วเ ลี้ยง หรือโรคระบาดในสัตว เชน โรคพษิ สุนขั บา โรคไขเ ลือดออก ไขหวัดนก โรคฉหี่ นู โรคอหวิ าในสตั ว โรคเชื้อราผวิ หนัง โรคเก่ยี วกับพยาธิในสตั ว เปน ตน ๙) โรคภาวะทพุ โภชนาการ นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารที่มปี ระโยชน ถกู ตองตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู
115 นักเรยี นรูจกั โทษของอาหารทไ่ี มมีประโยชนต อ รา งกาย นักเรียนสามารถออกกาํ ลังกายไดอยา งสม่ําเสมอ ผูปกครองดูแลและมีความรูความเขา ใจดานโภชนาการอยา งถูกตอง นักเรยี นรบั ประทานท่ไี มมีประโยชน ไมถูกตองตามหลักโภชนาการ ผปู กครองขาดความรูและไมม เี วลาในการดูแลจดั อาหารใหถกู ตองตามหลักโภชนาการ นกั เรยี นมีน้ําหนกั ผดิ ปกติไมสัมพันธกบั สวนสูงหรืออายุ นักเรียนปวยเปน โรคขาดสารอาหาร นักเรยี นปวยเปนโรคขาดสารอาหารหรอื มีปญหาทางดานสขุ ภาพตง้ั แตกําเนิด ๔.๕ ภยั สังคมในเทศกาลตาง ๆ ๑) ถกู จี้ปลน /ถูกวง่ิ ราวทรพั ย/ ถูกลวงกระเปา นกั เรยี นรูจักวิธกี ารปองกันตนเองตอการถกู จีป้ ลน /ถูกวิ่งราวทรัพย/ถูกลวงกระเปา และผปู กครองดูแลอยางใกลช ิด ะ นกั เรียนไมร จู กั วิธีการปองกันตนเองตอ การถูกจ้ีปลน /ถูกว่งิ ราวทรัพย/ ถูกลวงกระเปา แตผ ปู กครองดูแลอยางใกลชิด นกั เรยี นรจู ักวธิ กี ารปองกันตนเองตอการถูกจีป้ ลน /ถูกวิ่งราวทรัพย/ ถูกลว งกระเปา และมผี ดู แู ลใกลชิดบางเวลา นกั เรยี นไมร จู กั วิธกี ารปองกันตนเองตอการถูกจ้ปี ลน/ถูกว่งิ ราวทรัพย/ ถูกลวงกระเปา และมีผูดแู ลใกลช ิดบางเวลา รูน ักเรยี นจักวิธกี ารปอ งกันตนเองตอการถกู จ้ปี ลน /ถูกวิ่งราวทรัพย/ถูกลว งกระเปา แตถ ูกทงิ้ ใหอยูตามลาํ พังหรือไมมผี ูดแู ล นักเรยี นไมร จู กั วิธกี ารปองกันตนเองตอการถูกจีป้ ลน/ถูกวง่ิ ราวทรัพย/ถูกลวงกระเปา และถูกทิ้งใหอยูตามลําพังหรือไมมีผดู แู ล ๒) ถกู ลอลวง/ถูกหลอก นกั เรยี นรูจกั วธิ กี ารปองกันตนเองตอการถูกลอลวง/ถูกหลอก และผปู กครองดูแลอยางใกลช ิด นักเรยี นไมร ูจักวธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลอ ลวง/ถกู หลอก แตผ ูปกครองดูแลอยาง ใกลชดิ นักเรยี นรจู กั วิธีการปอ งกันตนเองตอการถูกลอลวง/ถกู หลอกและมผี ูดูแลใกลชิดบางเวลา นกั เรยี นไมร ูจักวิธีการปองกันตนเองตอ การถูกลอลวง/ถูกหลอกและมีผูดูแลใกลชิดบางเวลา นักเรียนรจู กั วธิ กี ารปองกันตนเองตอการถูกลอลวง/ถูกหลอกแตถกู ท้ิงใหอ ยูตามลาํ พังหรอื ไมมี ผูดูแล
116 นกั เรียนไมรจู ักวธิ กี ารปองกนั ตนเองตอ การถูกลอลวง/ถูกหลอก และถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พงั หรอื ไมมผี ูดูแล ๓) ถกู ลกั พาตัว -นักเรยี นรูจ กั วธิ กี ารปองกันตนเองตอการถกู ลกั พาตัว และผูปกครองดแู ลอยางใกลช ิด นกั เรียนไมร จู กั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกลักพาตวั แตผ ปู กครองดแู ลอยา งใกลช ิด นกั เรียนรูจกั วธิ กี ารปอ งกันตนเองตอการถกู ลักพาตัวและมผี ูด แู ลใกลช ดิ บางเวลา นกั เรยี นไมร จู ักวธิ ีการปองกนั ตนเองตอการถูกลักพาตวั และมผี ูดูแลใกลช ดิ บางเวลา นกั เรยี นรูจักวธิ กี ารปองกันตนเองตอการถกู ลักพาตัว แตถูกทิ้งใหอ ยตู ามลําพงั หรือไมมผี ดู ูแล นักเรียนไมรูจ ักวธิ ีการปองกันตนเองตอ การถูกลักพาตัว และถกู ท้งิ ใหอยตู ามลาํ พังหรือไมมี ผูดูแล ๔) ถกู วางยาดวยวิธีการตาง ๆ -นักเรยี นรจู กั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถกู วางยาดว ยวิธีการตา ง ๆ และผูปกครองดูแลอยาง ใกลช ดิ นกั เรยี นไมรูจกั วิธกี ารปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวิธกี ารตา ง ๆ แตผปู กครองดแู ลอยา ง ใกลช ดิ นักเรียนรูจักวิธีการปอ งกันตนเองตอการถกู วางยาดว ยวธิ กี ารตา ง ๆ และมผี ูด ูแลใกลชดิ บาง เวลา นกั เรียนไมร ูจ กั วิธีการปองกันตนเองตอ การถูกวางยาดวยวธิ กี ารตา ง ๆ และมีผดู แู ลใกลชดิ บาง เวลา นักเรยี นรจู กั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวิธกี ารตาง ๆ แตถ ูกทงิ้ ใหอยตู ามลาํ พงั หรอื ไมมีผูดูแล นักเรยี นไมรูจกั วิธกี ารปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวธิ กี ารตา ง ๆ และถูกท้ิงใหอยตู าม ลาํ พงั หรอื ไมม ีผดู ูแล ๕) อนาจารขมขืนกระทําชําเรา /นกั เรยี นรจู ักวธิ ีการปอ งกันตนเองตอการอนาจารขมขนื กระทําชาํ เรา และผปู กครองดูแลอยา ง ใกลชดิ นกั เรยี นไมร จู ักวธิ กี ารปองกนั ตนเองตอ การอนาจารขม ขืนกระทาํ ชําเรา แตผ ปู กครองดูแล อยางใกลช ิด นกั เรียนรจู กั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการอนาจารขมขืนกระทาํ ชําเราและมีผดู ูแลใกลชดิ บาง เวลา
117 นักเรยี นไมร ูจ กั วิธกี ารปองกันตนเองตอ การอนาจารขมขืนกระทําชําเราและมีผดู ูแลใกลชดิ บาง เวลา นักเรียนรจู ักวธิ กี ารปองกันตนเองตอการอนาจารขมขนื กระทําชาํ เราแต ถูกทิ้งใหอยูต ามลําพัง หรือไมมผี ดู ูแล นักเรยี นไมร จู กั วิธีการปองกนั ตนเองตอ การอนาจารขมขนื กระทําชาํ เรา และถูกท้ิงใหอยูตาม ลาํ พังหรือไมมีผูดูแล ลงชอื่ ..........T...D....T....s....r....r..................ผบู ันทกึ ขอมูล (....น...า..ง..ส...า..ว..อ.....า...ย.........อ.....า...ต....ย.์......) ตําแหนง ..พ...น..ั.ก...ง..า..น..ร...า..ช..ก...า...ร..
118 แบบรวบรวมข้อมลู ผู้เรยี น ตามกรอบคดิ แนวเชงิ นเิ วศ (Ecological System) และกรอบการประเมนิ ของฟานไดจค์ (The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities) ชือ่ -นามสกลุ นกั เรยี น นางพนิดา จนั ขัน ชอ่ื เลน่ การ์ฟวิ ระดบั ช้ัน เตรียมความพร้อม ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบริการ ในศนู ยฯ์ ช่ือสถานศกึ ษา ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง อาเภอ เมืองลาปาง จงั หวดั ลาปาง ขอ้ มลู ณ วนั ที่ ๓๐ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง
119 รวบรวมข้อมูลนักเรยี น ข้อมลู ของนักเรยี น ๑. ขอ้ มลู ของนักเรยี น ชือ่ -นามสกุลนกั เรยี น นางสาวพนิดา จันขนั ชือ่ เล่น การฟ์ ิว อายุ ๑๗ ปี เพศ หญิง เชื้อชาติ ไทย ประเภทความพกิ าร บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่ือนไหวหรือสุขภาพ โรคประจาตวั กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ลักษณะความพกิ าร นักเรียนมีการผิดรูปของกระดูกและข้อ ข้อเท้าท้ังสองข้างมีลักษณะผิดรูปบิดเข้าด้านใน ลักษณะ กล้ามเน้ือขาท้ังสองข้างอ่อนแรง แขนทั้งสองข้างสามารถใช้งานได้ดี สามารถเคล่ือนไหวศีรษะ ไปด้านซ้าย ขวา ในท่านอนหงายได้ ชันคอ พลิกตะแคงตัว นั่งทรงตัวได้ด้วยตนเอง เคลื่อนย้ายตนเองได้ โดยการคลานมอื ทงั้ สองขา้ งยนั พืน้ และเข่าทั้งสองขา้ งไถกบั พน้ื สลบั กนั ไปมา ไม่สามารถลุกข้ึนยืน ยืนทรงตัว และเดนิ ได้ด้วยตนเอง ทากจิ วตั รประจาวันได้เองบางขน้ั ตอนตอ้ งมีผ้ชู ่วยเหลือ ทานยาตามแพทย์ส่ังทกุ วนั พฤตกิ รรมของนกั เรียน พฤตกิ รรมสว่ นบุคคล นักเรียนมีการแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า หากพอใจจะแสดงสีหน้าย้ิมและหัวเราะเสียงดัง แต่หาก ไม่พอใจจะแสดงสีหน้าบ้ึงตึงและไม่ยอมทากิจกรรม ตอบสนองต่อการทากิจกรรมต่าง ๆ ช้า ครูหรือ พ่เี ล้ยี งเด็กพิการตอ้ งคอยกระตุ้นเตือนทางวาจาทุกคร้งั พฤติกรรมการเรียนรู้ นักเรียนแสดงความต้องการของตนเองโดยการพูด สามารถฟังและทาตามคาส่ังง่าย ๆ เช่น หยิบ ใส่ ขอ และสามารถทาตามตัวแบบได้ ทากจิ กรรมต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองบางข้ันตอน ต้องมีผู้ช่วยเหลือในการ ทากิจวัตรประจาวัน เช่น การล้างมือ แปรงฟัน อาบน้า แต่งตัวและการขับถ่าย เปล่ียนผ้าอ้อมสาเร็จรูป สามารถรับประทานอาหารไดเ้ อง นักเรียนควรได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการมอง การฟัง และการใช้มือสัมผัส โดยมผี ้ชู ่วยเหลือในการทากิจกรรมบางขน้ั ตอน การกระตุ้นเตือนทางกาย การกระตุ้นเตือนทางท่าทาง และ การกระตุ้นเตือนทางวาจาร่วมด้วยจึงจะสามารถทากิจกรรมได้ โดยการใช้ส่ิงอานวยความสะดวกช่วย ในการเรียนรู้ คือ รถเข็น รองเท้าตัดพิเศษ และวิธีท่ีการสอนที่นักเรียนให้ความร่วมมือมากที่สุด คือ การประเมินรางวลั และการให้รางวลั กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง
120 ภาพนักเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง
121 รวบรวมข้อมูลผู้เรียน ข้อมูลความสามารถผู้เรยี น ความสามารถพื้นฐานของผูเ้ รียน ๑.๑ ความสามารถพืน้ ฐานทางดา้ นร่างกาย จุดเดน่ จดุ ออ่ น ๑. เมอื่ ใหน้ กั เรียนนั่งทรงตัวอยใู่ นทา่ นั่งขัดสมาธิบนพน้ื ๑. เมอื่ ใหน้ กั เรียนน่ังทรงตวั อยใู่ นท่านง่ั ขดั สมาธบิ นพืน้ หลังตัง้ ตรง นักเรียนสามารถนั่งทรงตัวในการทา หลังตั้งตรง นกั เรียนไม่สามารถนง่ั ทรงไดน้ าน กจิ กรรมได้ ๕ – ๑๐ นาที มากกว่า ๑๐ นาที ซ่งึ นักเรียนจะเปลย่ี นเปน็ นง่ั ในทา่ W sitting จาเปน็ ทจี่ ะต้องใหน้ กั เรียนนงั่ ทา กจิ กรรมบนเกา้ อี้ ๒. เมอื่ ใหน้ กั เรียนเคลื่อนย้ายตนเองขณะทอ่ี ยบู่ นพนื้ ๒. นักเรียนไม่สามารถเคลือ่ นยา้ ยตนเองไปในทิศทาง นกั เรยี นเคลือ่ นย้ายตนเองโดยการคลาน ใช้มือและ ทกี่ าหนดโดยการเดนิ ได้ เขา่ ท้ังสองข้าง ต้ังคลานสลับไปยังทิศทางท่ตี ้องการ ๑.๒ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา้ นอารมณ์ จิตใจ จดุ เด่น จุดอ่อน ๑. นักเรยี นเข้าใจอารมณข์ องตนเองและสามารถ ๑. นักเรียนไม่เข้าใจอารมณข์ องผอู้ ่ืน เม่ือผู้อ่นื โกรธ แสดงออกทางทา่ ทางหรือการสง่ เสยี งได้ โดยการย้ิม โมโห หรอื ดดุ ่า นกั เรยี นไม่เข้าใจ นงิ่ เฉย และหวั เราะเม่ือไดร้ บั สิ่งที่ต้องการ เชน่ ไดร้ ับขนม ไม่ตอบสนองหรือหวั เราะออกมา หรอื เล่นตวั ต่อทช่ี อบ และแสดงการปฏเิ สธเม่ือได้ ของที่ไม่ตอ้ งการหรือทากิจกรรมทไ่ี มช่ อบดว้ ยการ แสดงท่าทางสา่ ยศรี ษะ ๒. นักเรียนยอมทากิจกรรมจนสาเรจ็ ตามทีก่ าหนดให้ ๒. นักเรียนยอมทากจิ กรรมจนสาเร็จตามทีก่ าหนดให้ ได้เปน็ บางครงั้ ได้เป็นบางครงั้ แต่ไม่สามารถแสดงออกถึงความ ภาคภมู ใิ จในตนเองเมื่อทากิจกรรมได้สาเรจ็ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง
122 รวบรวมขอ้ มลู นกั เรยี น ข้อมลู ความสามารถนกั เรยี น ๑.๓ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านสงั คม จุดเดน่ จดุ อ่อน ๑. นักเรยี นรู้จักบคุ คลภายในครอบครวั ของตนเอง ๑. นกั เรียนไม่มีโอกาสในการออกไปขา้ งนอกบา้ น ได้แก่ ยา่ พอ่ แม่ พชี่ าย โดยแสดงสหี น้าย้มิ และ เพื่อมีปฏสิ ัมพนั ธก์ ับคนภายในชุมชน เนือ่ งจาก พดู คุยเมือ่ เหน็ หนา้ หรือไดย้ ินเสียงและนกั เรียน มคี วามพิการทางรา่ งกายหรอื การเคลื่อนไหว ได้มโี อกาส ได้รู้จักบุคคลภายนอกครอบครัว ได้แก่ และมรี ปู ร่างท่โี ตขึ้น เดินทางไปนอกบา้ นลาบาก ครปู ระจาชนั้ พีเ่ ล้ียงเด็กพิการ นกั กายภาพบาบัด พอ่ และแมจ่ ึงไม่ได้พานกั เรียนออกไปรว่ มกิจกรรม นักกจิ กรรมบาบดั นักจิตวิทยาคลนิ กิ แพทย์ และ นอกบา้ น พยาบาล ๒. เมอื่ ให้นักเรยี นถอด และสวมใสเ่ คร่อื งแตง่ กาย ๒. นักเรียนไมส่ ามารถถอดและสวมใส่เคร่ืองแต่งกาย นักเรียนสามารถใหค้ วามร่วมมอื ในการถอด ได้ด้วยตนเอง และสวมใสเ่ ครื่องแตง่ กายได้ โดยมีผู้ชว่ ยเหลอื เป็นผู้ถอดและสวมใส่ให้ทุกขั้นตอนโดยไม่แสดง อาการต่อตา้ น ๓. นกั เรียนสามารถล้างทาความสะอาดมือได้ โดยมี ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถล้างทาความสะอาดมือ ผชู้ ว่ ยเหลือทุกข้นั ตอน ไดด้ ้วยตนเองตามข้ันตอน ๑.๔ ความสามารถพ้นื ฐานทางดา้ นสติปญั ญา จดุ ออ่ น ๑. นักเรียนไมส่ ามารถปฏบิ ัติตามคาส่ังทีย่ าก ๆ ได้ จุดเดน่ ๒. เม่อื ครูใหท้ าใบงานระบายสี นักเรยี นมกั จะทา ๑. เม่ือครหู รือผดู้ แู ลให้ทากจิ กรรมและปฏบิ ัตติ าม ใบงานได้เพียงช่งั ครู่ มักจะมินเฉยหรอื หันตามเสียง คาสั่งงา่ ยๆ (หยบิ ใส)่ เช่น หยิบ จับสิ่งของใส่ ทไ่ี ด้ยินหรือเมอื่ มคี นเดินผา่ นหอ้ งเรียน ครแู ละ ตะกร้า นักเรยี นสามารถปฏบิ ัติตามคาส่ังได้ พ่เี ลีย้ งเด็กพิการตอ้ งคอยกระตนุ้ เตอื นใหท้ า โดยการเอื้อมมือไปหยบิ ของเอาไปใสต่ ามเปา้ หมาย กจิ กรรม ทกี่ าหนดได้ ๒. เมือ่ ครใู หท้ าใบงานระบายสี นักเรยี นสามารถใช้มือ จบั ดนิ สอสีข้นึ มาระบายแต่ระบายไปทั่วใบงาน กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง
123 รวบรวมข้อมูลผูเ้ รยี น ขอ้ มูลความสามารถผ้เู รียน ๑.๕ ความสามารถพ้นื ฐานทางดา้ นทักษะจาเป็นเฉพาะความพกิ าร จุดเด่น จุดออ่ น ๑. นักเรียนได้รับการบรหิ ารกล้ามเน้อื และข้อตอ่ ๑. ร่างกายของนักเรียนมีการผดิ รูปของกระดูกข้อเท้า เพอื่ คงสภาพจากผปู้ กครองและครปู ระจาช้นั ทง้ั สองขา้ งบดิ เขา้ ด้านใน ๒. มกี ารเคลอ่ื นยา้ ยตนเองไปยังทีต่ ่าง ๆ ได้ ๒. นักเรียนไมส่ ามารถควบคมุ ทิศทางหรือบังคับรถเข็น โดยการคลานและการน่ังรถเข็น ไปในทิศทางต่าง ๆ อยา่ งมีเป้าหมายได้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง
124 รวบรวมข้อมูลผเู้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework การรวบรวมข้อมูลผู้เรยี นตามกรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. การเข้าใกล้-ถอนหนี (Approach-Withdrawal) การดูปฏิกิริยาของเด็กในการเผชญิ สงิ่ ใหม่ ประสบการณ์ บคุ คล/สถานที่ สง่ิ ของ ความคดิ ๑.๑ อะไรทเ่ี ป็นตัวชบ้ี อกว่าเด็กเข้ารว่ ม กิจกรรมที่มขี องเล่นตวั ตอ่ เป็นแรงจงู ใจ ๑.๒ อะไรท่ีเปน็ ตัวช้บี อกว่าเด็กไม่เขา้ รว่ ม กิจกรรมที่ต้องใชช้ ว่ งความสนใจเป็นเวลานาน ๑.๓ มอี ะไรท่ีสงั เกตเห็นวา่ จูงใจเดก็ บ้าง นกั เรียนมักจะเหม่อลอย มองไปรอบ ๆ ห้อง สนใจท่จี ะเขา้ ร่วมกจิ กรรม และคลานมาทากจิ กรรม ร่วมกับเพื่อนในชัน้ เรียนดว้ ยตนเอง ๑.๔ อะไรทส่ี ังเกตเหน็ ว่าเดก็ ไม่สนใจ/หลีกหนีบา้ ง การหันหนา้ หนี และคลานหลีกหนอี อกจากกิจกรรม ๒. ช่องทางการเรียนรดู้ า้ นประสาทการรบั รู้ (Sensory Learning Channels) ๒.๑ เดก็ รบั ข้อมลู ได้โดยวิธีใดบา้ ง การรับประสาทสัมผัสดา้ นการมองเหน็ การไดย้ ิน กายสมั ผัส ดา้ นกล้ามเน้ือเอ็น และขอ้ ต่อ และดา้ น ๒.๒ เดก็ ตอบสนองต่อเสียงอย่างไร การเคล่ือนไหว มกี ารรับรแู้ ละตอบสนองต่อการกระต้นุ ประสาท ๒.๓ เด็กตอบสนองต่อสิง่ เรา้ ทางสายตาอย่างไร สมั ผสั ทางด้านการได้ยิน (เสียง) ได้อยา่ งเหมาะสม มกี ารรบั รู้และตอบสนองต่อการกระตนุ้ ประสาท ๒.๔ เด็กตอบสนองต่อการสมั ผสั อย่างไร สัมผสั ทางดา้ นการมองเหน็ (สายตา) ได้อย่าง เหมาะสม ๒.๕ เดก็ ใช้ประสาทสมั ผสั มากกวา่ หนึง่ อย่างในเวลา มีการรับรู้และตอบสนองต่อการกระตนุ้ ประสาท เดยี วกันหรอื ไม่ สัมผัสทางดา้ นกายสมั ผัสไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ใช่ ๒.๖ เดก็ แสดงตวั ชแ้ี นะการรว่ มหรอื ไม่เขา้ รว่ ม ในการตอบสนองขอ้ มูลทางประสาทสมั ผสั ใช่ เฉพาะหรอื ไม่ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง
125 รวบรวมข้อมูลผู้เรยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๓. สถานะทางชีวพฤตกิ รรม (Biobehavioral State) ชุดของสภาพการณ์ดา้ นชวี พฤตกิ รรมและกายภาพตั้งแตก่ ารนอนหลับจนถึงการตนื่ นอนและการร้อง ๓.๑ สภาพปจั จุบันของเดก็ คอื อะไร มกี ารนอนหลับพักผ่อนอย่างเพยี งพอก่อนตืน่ นอน มาโรงเรยี นในตอนเช้า และหลังจากทากจิ กรรม ๓.๒ เด็กสามารถควบคมุ /เปล่ยี นสภาพของตน การเรียน พกั รบั ประทานอาหารกลางวนั ในช่วงบา่ ย ได้หรือไม่ มกี ารฝกึ ทางกายภาพบาบัด ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และฝกึ ยืนทรงตัว ๓.๓ เด็กใช้เวลาในการต่ืนตัวมากน้อยแค่ไหน ได้ ๓.๔ มชี ่วงกวา้ งของแตล่ ะสภาพเท่าใดท่ีเด็กแสดง ระดับการต่นื ตัวนอ้ ยกว่าเด็กปกตใิ นวยั เดยี วกนั ให้เหน็ และมแี บบแผนการเปล่ยี นแปลงอะไร มกั จะเหม่อลอยและน้าลายไหลขณะทากจิ กรรม ระหว่างสภาพ ประมาณ ๑ – ๒ นาที จะเหม่อลอยเม่ือทากิจกรรม ๓.๕ มตี ัวแปรอะไรบา้ งท่ีกระทบต่อสภาพเด็ก การดุ/ส่งเสียงดังของครผู สู้ อนและพ่ีเลย้ี งเด็กพิการ ๔. การตอบสนองปฏิกิรยิ าตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดลอ้ ม (Orienting Response) ๔.๑ มีปัจจยั อะไรบ้างทท่ี าใหเ้ ดก็ การตอบสนอง การด/ุ ส่งเสยี งดังของผสู้ อนและพเี่ ลี้ยงเด็กพิการ ไปในทิศทางนน้ั ได้ชดั แจ้ง ๔.๒ เด็กแสดงการตอบสนองตอ่ ทิศทางออกอย่างไร ทุบโต๊ะหรือสา่ ยศรี ษะในบางครัง้ ๔.๓ ประสาทการรับรชู้ ่องทางใดท่ีปรากฏเชอ่ื มโยง การรบั รู้และตอบสนองตอ่ การกระตุ้นประสาทสัมผสั กับการตอบสนอง (ข้อมลู ประสาทการรับรู้ ทางด้านการได้ยนิ (เสียง) และการมองเห็น ท่ีกระตนุ้ ใหม้ กี ารตอบสนองและประสาท การรับรู้ท่ีใช้ประโยชน)์ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง
126 รวบรวมข้อมลู ผเู้ รยี น กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework ๕. ความจา (Memory) ใช่ ๕.๑ เด็กใช้/คนุ้ กับสิ่งเรา้ ท่ีคุน้ ชนิ หรอื ไม่ ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาที ๕.๒ การนาเสนอส่ิงเรา้ จาเป็นต้องใช้เวลานาน เขา้ ร่วม แตต่ อ้ งเร่มิ กิจกรรมด้วยการให้ หรอื กี่คร้งั ก่อนที่เด็กจะคนุ้ ชนิ ความช่วยเหลอื ผา่ นการกระตุ้นเตือน ๕.๓ เด็กเข้ารว่ มอกี ครั้งไหมเม่ือเปลยี่ นแปลง นกั เรียนในชว่ งแรกของการทากจิ กรรม แตกต่าง เนื่องจาก ช่วงแรกของการทากิจกรรม ลกั ษณะของสิ่งเร้า ตอ้ งให้ความชว่ ยเหลอื ผา่ นการกระตุ้นเตือนทางกาย ในช่วงหลงั นกั เรียนจะเรมิ่ ทากจิ กรรมได้ด้วยตนเอง ๕.๔ การตอบสองแตกต่างไปหรอื ไม่ แตกต่าง ในการแสดงออกกับบุคคลทคี่ ุน้ เคยนกั เรยี น จะเรยี กชื่อและยม้ิ ให้ แตก่ ับบุคคลทไี่ ม่คุ้นเคย ๕.๕ เด็กแสดงการตองสนองแตกต่างหรือไม่ นักเรยี นมกั จะเงยี บไม่พดู คยุ และไม่เข้าใกล้ กบั บคุ คลที่คุ้ยเคยและไมค่ ุ้นเคย รบั รู้ ๕.๕ เดก็ แสดงการรบั ร้หู รอื ไม่วา่ ส่ิงของนนั้ ยังอยู่ ไม่ได้ แมจ้ ะไม่อยใู่ นสายตาตอนน้ัน ไม่ได้ ๕.๖ เด็กเชือ่ มโยงเหตกุ ารณ์ที่กาลงั เผชิญกับสง่ิ ที่ ตามมาไหม แสดง โดยเปล่งเสยี งไม่พอใจในบางครง้ั ๕.๗ เด็กแสดงการคาดเดาต่อสิ่ง/เหตกุ ารณ์ท่ีกาลัง ได้ เช่น การดื่มน้าด้วยตนเอง การล้างมือและเชด็ มือ เผชิญหรือไม่ ให้สะอาดหลังเขา้ ห้องนา้ และก่อนรับประทานอาหาร จาได้ ๕.๘ เด็กแสดงอาการหรือไมเ่ มอ่ื ส่ิงทเ่ี กิดใหม่ ไมต่ รงกับความคาดหวัง ๕.๙ เด็กสามารถเรียนรู้กจิ วัตรง่าย ๆ ได้หรือไม่ ๕.๑๐ กิจวตั รทใ่ี หเ้ ด็กเรียนร้จู าไดไ้ หม ๖. ปฏสิ ัมพนั ธท์ างสังคม (Social Interactions) นักเรยี นมักหนั ไปหาและเขา้ หาบคุ คลที่คุ้นเคย และใหค้ วามไว้วางใจ ๖.๑ เดก็ หนั ไปหาบคุ คลหรือไม่ ผู้เรยี นมกั เขา้ ไปหาบุคคลที่ไว้วางใจ ๖.๒ เดก็ แสดงความผูกพันวา่ มคี วามปลอดภยั มี กบั บุคคลสาคัญในชีวิตของเขา/เธอหรือไม่ มี ๖.๓ เด็กมีส่วนรว่ มในการผลดั เปล่ียนกัน เม่ือเริ่มมี ปฏิสมั พนั ธ์หรอื ไม่ มกี ารผลัดเปลย่ี น ไม่มี ๖.๔ เด็กมีส่วนร่วมในการผลดั เปล่ยี นกันเม่ือคนอ่นื เริม่ ปฏิสัมพนั ธ์หรือไม่ ๖.๕ เด็กผลัดเปลย่ี นก่ีรอบก่อนทีจ่ ะไม่ร่วม ๖.๖ เด็กเพิ่มการผลัดเปล่ยี นการมปี ฏิสัมพันธม์ ากขนึ้ เพือ่ ตอบสนองต่อปฏสิ ัมพันธ์ของคหู่ รอื ไม่ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง
127 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รียน กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework ๗. การส่อื สาร (Communication) ๗.๑ เด็กแสดงใหเ้ ห็นความตัง้ ใจในการสอ่ื สาร ผ้เู รยี นมกั จะส่ือสารด้วยภาษาพูดของตนเอง ผา่ นการใชง้ านของสัญญาณ การเปลง่ เสียง ทา่ ทาง ฯลฯ หรอื ไม่ อธบิ ายการส่ือสารท่ใี ช้ ใช่ นักเรียนมักจะสอ่ื สารด้วยภาษาพูดของตนเองเป็น ๗.๒ เดก็ ใชส้ ญั ญาณอยา่ งสอดคล้องกนั หรอื ไม่ ส่วนใหญ่ ตดั สินใจเลือกได้ ๗.๓ เด็กใช้การสอ่ื สารแตกต่างกนั หรอื ไม่ อธบิ าย ใช่ การสือ่ สารและความความหมายทนี่ า่ จะเปน็ ใช่ เชน่ นักเรียนตอ่ เลโก้เปน็ กลอ่ งสีเ่ หลี่ยม ๗.๔ เมอื่ นาเสนอตัวเลือกเดก็ ตดั สินใจเลอื กหรือไม่ ใช่ ๗.๕ เดก็ ใช้ทา่ ทางเหมือนบุคคลทั่วไปใช้หรือไม่ นักเรยี นมักจะสื่อสารด้วยภาษาพดู ของตนเองเป็น สว่ นใหญ่ ๗.๖ เดก็ สามารถใชข้ องหนง่ึ อยา่ งหรอื สญั ลกั ษณ์ แทนกจิ กรรมหรอื วตั ถุหรือไม่ ๗.๗ เด็กแสดงให้เหน็ ความเข้าใจในการสื่อสาร โดยใช้สัญลกั ษณห์ รอื ไม่ (การได้ยนิ ภาพ หรือการสมั ผสั ) ๗.๘ เดก็ ใช้การสื่อสารทางสญั ลกั ษณห์ รือไม่ อธบิ าย ๘. การแก้ปัญหา (Problem solving) ไม่ ๘.๑ เดก็ แสดงให้เหน็ สาเหตแุ ละผลกระทบหรือไม่ ๘.๒ เดก็ แสดงความเข้าใจในวิธกี าร/จดุ ส้นิ สุด ยกตัวอย่างการแก้ไขปญั หาจากสถานการณ์การหยิบ ของในชนั้ วางของทส่ี งู นักเรยี นไม่สามารถหยิบเอง หรือการใช้ข้นั ตอนกลางเพื่อแกป้ ัญหาหรอื ไม่ ได้ จะใช้วิธเี รยี กใหผ้ ู้อ่ืนช่วยหยบิ ให้ ๘.๓ เด็กแสดงความเข้าใจในหน้าท่ขี องวตั ถุท่วั ไป เข้าใจ โดยการเลือกใช้วัตถุได้ถกู ต้องตามหลักการ หรือไม่ ของหน้าที่ ๘.๔ เดก็ มีวิธกี ารแก้ปญั หาอย่างไร ยกตวั อยา่ งการแกไ้ ขปญั หาจากสถานการณ์การหยบิ ของในชนั้ วางของที่สูง นกั เรยี นไม่สามารถหยบิ เอง ๘.๕ เดก็ รักษาความสนใจและคงอยู่กบั สิ่งนน้ั หรือไม่ ได้ จะใช้วิธีเรยี กให้ผูอ้ ื่นชว่ ยหยบิ ให้ ไมส่ ามารถคงความสนใจได้นาน กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง
128 รวบรวมข้อมลู นกั เรียน กรอบแนวคิดตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคิดตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๑ ด้านสภาพแวดล้อมของนกั เรยี น (Microsystem) บุคคลภายในครอบครัวท่ีนักเรยี นไว้วางใจ ย่า เป็นผู้ดูแลนักเรียนเวลาที่แม่เพชรหรือพ่อเดชไปทางาน คอยดูแลนักเรียน ได้แก่ ทาความ สะอาดร่างกาย เปล่ียนเสอ้ื ผ้า จัดเตรยี มอาหารและยา ใหย้ าตามเวลาท่แี พทยส์ ง่ั แม่เพชร เป็นผู้ดูแลหลักและเป็นผู้ท่ีนักเรียนไว้วางใจมากที่สุด ในทุก ๆ วันแม่เพชรทาหน้าท่ีดูแล กิจวตั รประจาวนั ท้ังหมดในตอนเช้าของนักเรียน ได้แก่ ทาความสะอาดร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้า จัดเตรียมอาหาร และยา ให้ยาตามเวลาท่ีแพทย์ส่ัง หลังจากเลิกเรียนกลับบ้านจะคอยดูแลนักเรียนทุกอย่างจนกว่านักเรียน เขา้ นอน พ่อเดช เป็นคนท่ีนักเรียนไว้วางใจรองลงมาจากแม่เพชร เม่ือนักเรียนทากิจวัตรประจาวันในตอน เช้าเรียบร้อยแล้ว จะพานักเรียนมาเรียนท่ีศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง โดยขับรถยนต์มาส่ง นักเรยี นแล้วออกไปทางาน เมอื่ ถงึ เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. พอ่ เดชจะมารบั นักเรยี นกลบั บา้ น ลักษณะทอี่ ยอู่ าศัย (ห้องอะไรบ้าง / ความสะอาด) เป็นบ้านปูนช้ันเดียว มีลานหน้าบ้านที่ใช้เป็นที่น่ังเล่นของครอบครัวและมีราวฝึกเดินสาหรับ นักเรียน ล้อมรอบบ้านด้วยร้ัวไม้และประตูไม้ปิดแบบไม่มิดชิด ด้านข้างของบ้านเป็นบ้านของญาติ ด้านหลัง ของบ้านปลูกผักสวนครัว ด้านในของบ้านมีห้องนอนสองห้อง ห้องน้าหนึ่งห้อง ห้องครัว และตรงกลางบ้าน เป็นห้องนั่งเล่นสาหรับดูโทรทัศน์ยามว่างของครอบครัว มีแสงสว่างส่องถึง อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่มีกล่ินท่ีไม่พึง ประสงค์ ลักษณะห้องน้า (ระบรุ ายละเอยี ด) มีห้องน้าแบบน่ังยอง แบ่งมุมสาหรับวางถังอาบน้า มีชั้นวางอุปกรณ์ทาความสะอาดร่าง กาย และอปุ กรณท์ าความสะอาดห้องน้าเปน็ สดั สว่ นเหมาะสม สะอาด โลง่ สบาย มีประตแู บบกลอนปิดมิดชิด ลักษณะหอ้ งนอน (ระบุรายละเอยี ด) ห้องนอนมี 2 ห้อง มีความสะอาด มีมุ้งกาง ท่ีนอนมีความกว้างและยาวมีเตียงไม้ ขนาด ๖ ฟุต นักเรียนนอนกับพ่อและแม่ มีหน้าต่างระบาย เพ่ือให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการจัดวางของท่ีเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วน พน้ื ที่ในการฝึก/ทากิจกรรมกับนกั เรียน (ระบรุ ายละเอยี ด) นักเรียนอยู่ท่ีบ้านมีการฝึกเดินบริเวณลานหน้าบ้านในช่วงตอนเช้าหรือตอนเย็นหลังจากที่แม่กลับ จากทางาน โดยแม่จะฝึกให้นักเรียนเดินทรงตัวบนราวฝึกเดินเป็นเวลา ๒๐ นาที หลังจากน้ันแม่จะคอย ยืดเหยยี ดกล้ามเน้ือแขนและขาใหแ้ กน่ กั เรยี นเป็นประจา กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง
129 รวบรวมขอ้ มลู นกั เรียน กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๒ ดา้ นความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งบคุ คลทีเ่ กีย่ วข้องของนกั เรียน (Mesosystem) ลักษณะของครอบครัวและความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัว ย่าสังวาล เป็นแม่ของพ่อน้อย โดยมีแม่ผาเป็นสะใภ้ พ่อน้อยและแม่ผาสมรสกัน โดยมี บุตรชายสองคน คือพี่โน๊ต และน้องเนส (นักเรียน) ครอบครัวมีความรักใคร่ อบอุ่น สามัคคี ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกนั และให้ความเอาใจใส่แก่นกั เรียนเปน็ อยา่ งดี ความสัมพนั ธ์กบั บุคคลในหอ้ งเรียน/โรงเรยี น นักเรียนได้มีการฝึกและได้รู้จัก ครูอรทัย ซึ่งเป็นครูประจาชั้นโดยให้บริการทางการศึกษา พิเศษ และทางกายภาพบาบัด มีหน้าที่ให้คาปรึกษาและคาแนะนาแก่ผู้ปกครองด้านการดูแล นักเรียนเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ การเคล่ือนไหว และข้อต่อ และให้คาแนะนาแก่ผู้ปกครองของนักเรียน ในเรื่องต่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั นกั เรยี น โดยครธู นิษฐ์ เป็นครูประจาชน้ั ร่วม ใหบ้ ริการและร่วมประเมิน ศักยภาพแก่นักเรียน และสอนเสริมวิชาเกษตร โปรแกรมการส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษ ครูรินรดา เป็นครูกิจกรรมบาบัด มีหน้าท่ี ให้คาปรึกษาและคาแนะนาแก่ผู้ปกครองด้านการบูรณา การประสาทความรู้สึก การปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับศักยภาพของนักเรียน ครูศศิกมล เป็นครูจิตวิทยาคลินิก มีหน้าที่ให้คาปรึกษาและคาแนะนาแก่ผู้ปกครองเร่ืองพฤติกรรมท่ีไม่พึง ประสงค์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของนักเรียน ครูธวัชชัย เป็นครูศิลปะ มีหน้าที่ จัดการเรียนการสอนตามโปรแกรมการพัฒนาทักษะด้านศิลปะ และครูสราวุธ เป็นครูสอน คอมพิวเตอร์ มหี นา้ ท่ี จัดการเรียนการสอนกิจกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โปรแกรม การพฒั นาทักษะการใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละส่ือ เทคโนโลยใี นชวี ติ ประจาวัน ความสัมพันธก์ บั บุคคลอืน่ ๆ เช่น ญาตพิ ี่น้อง เพื่อน เพอื่ นบ้าน คนในชุมชน เป็นต้น ญาติพี่น้อง บ้านใกล้เคียง คือ ลุงและป้า จะมาเที่ยวหาที่บ้านและมาพูดคุยกับนักเรียน ท่ีบ้านช่วงเวลาตอนเย็นเป็นบางวัน และนักเรียนจะแสดงอาการท่าทาง ย้ิม หัวเราะ และพูดคุย ดว้ ยเสมอ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง
130 รวบรวมขอ้ มูลนักเรียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๓ ด้านส่ิงแวดล้อมและสภาพสงั คมที่มผี ลตอ่ ครอบครัว (Exosystem) สถานการณป์ ัจจุบันทีส่ ง่ ผลกระทบกบั นกั เรียน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นักเรียนมีความเส่ียงต่อการติดเช้ือได้ง่ายและเสี่ยงต่อการได้รับเช้ือ และนักเรียนไม่ได้รับวัคซีน เพอ่ื ป้องกันโรคทาให้สมาชกิ ครอบครวั ตอ้ งคอยระมดั ระวงั ตนเองและลดการออกไปพบเจอผู้คน จากสภาพเศรษฐกิจในปจั จบุ นั สิ่งของมรี าคาแพงขึน้ ทาให้รายได้ที่ได้รับไม่เพียงพอต่อการ นาไปใช้ทัง้ ครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลนักเรียนท่ีมีค่าใช้จ่ายเพ่ิมเติม เช่น ค่าผ้าอ้อมสาเร็จรูป ค่ า เ ดิ น ท า ง ไ ป พ บ แ พ ท ย์ แ ล ะ ฟ้ื น ฟู ท า ง ก า ย ภ า พ บ า บั ด ที่ โ ร ง พ ย า บ า ล เ ว ช ช า รั ก ษ์ ทุ ก วั น พ ฤ หั ส บ ดี คา่ เดนิ ทางไปพบแพทยต์ ามนัดเพื่อรบั ยาเดือนละ ๑ ครั้ง และคา่ จิปาถะอนื่ ๆ สถานทที่ างานของพ่อแม่/ผู้ปกครอง พ่อน้อย เป็นลูกจ้างประจา สถานที่ทางาน คือ โรงงานในหมู่บ้าน มักจะเข้างานเป็นกะ เนื่องจากข้อจากัดของเวลาทางานทาให้เริ่มงานและเลิกงานไม่เป็นเวลา แม่ผา ทางานป้ันดินเผา ในหมู่บ้าน มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์มาส่งนักเรียนท่ีศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางก่อน จากนัน้ คอ่ ยไปทางาน สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ หรือ การจดั ส่ิงอานวยความสะดวกของชมุ ชนท่ีนกั เรยี น อาศัยอยู่ ชุมชนท่ีนักเรียนอาศัยอยู่เป็นชุมชนท่ีอยู่ร่วมกันแบบเครือญาติ มีการให้ความช่วยเหลือ และแบ่งปันกนั ระหว่างครอบครวั กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง
131 รวบรวมขอ้ มลู นักเรยี น กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๔ ดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี ค่านยิ มของสังคม (Macrosystem) ครอบครัวของนักเรียนนับถือศาสนาพุทธ เช่ือในการทาความดี สมาชิกในครอบครัวดูแลนักเรียน ดว้ ยความรกั และคดิ ว่าเปน็ หน้าทข่ี องสมาชกิ ในครอบครัวที่ตอ้ งช่วยเหลอื กนั ๒.๕ ด้านส่ิงตา่ งๆทอี่ าจกระทบต่อนกั เรียน เชน่ กฎหมาย การไดร้ บั สิทธดิ า้ นตา่ งๆ เทคโนโลยี หรือแอพพลเิ คชนั่ ทเี่ ก่ียวข้องกับนกั เรยี นในชวี ิตประจาวัน (Chronosystem) นักเรียนได้รับเบี้ยพิการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จากเบี้ยยังชีพคนพิการ และได้รับบริการ ทางการแพทย์ ตามโครงการ ๓๐ บาทรกั ษาทุกโรค ตามสวสั ดกิ ารของรัฐ นักเรียนได้รับการให้บริการทางการศึกษาจากศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัด ห้องเรียน เด่นพัฒนาการ ๒ และมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาฯ มูลนิธิคุณพุ่ม ปีล่าสุด ปีการศึกษา ๒๕๖๔ เป็นเงิน จานวน ๕,๐๐๐ บาท อีกทง้ั นกั เรยี นสามารถเขา้ ถึงสอ่ื เทคโนโลยีผา่ นทางโทรศัพท์ แท็บเลต และโทรทัศน์ โดยมีผปู้ กครองกากบั ดูแล กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 538
Pages: