Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการวิจัย แนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการอบจ.กาญจนบุรี

รายงานการวิจัย แนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการอบจ.กาญจนบุรี

Published by พิชญุตม์ พิศลยบุตร, 2021-10-08 04:33:46

Description: 1.แนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการอบจ.กาญจนบุรี

Search

Read the Text Version

รายงานการวจิ ยั แนวทางการพัฒนากองทุนสวสั ดิการองค์การบริหารสว่ นจังหวดั กาญจนบรุ ี ที่ปรกึ ษา นายวรงคก์ ฤษณ์ จตภุ ัทรว์ งศา ผอู้ านวยการกองการเจา้ หนา้ ที่ นายนนทธ์ วชั ผลาผล หวั หน้าฝ่ายสง่ เสรมิ และพัฒนาบุคลากร จัดทาโดย นายพิชญุตม์ พิศลยบุตร นกั ทรัพยากรบุคคล ระดับปฏิบัติการ

สารบญั เรอื่ ง หน้า 1.ชื่อเรอ่ื งการวิจยั 1 2.บทคัดย่อ 1 3.ที่มาและความสาคญั 1 4.แนวคิดทฤษฎที เี่ กี่ยวข้อง 13 5.วตั ถุประสงคข์ องการวิจัย 14 6.วธิ ดี าเนินการวจิ ัย 14 7.สรุปผลการวจิ ยั 15 8.อภิปรายผล 15 9.ขอ้ เสนอแนะ 17 10.บรรณานกุ รม 18 ภาคผนวก -ประกาศองค์การบริหารส่วนจังหวดั กาญจนบรุ ี เร่ืองการจัดตง้ั กองทนุ สวัสดิการข้าราชการองค์การบรหิ ารส่วน จังหวดั กาญจนบรุ ี (กสข.) -ประกาศองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดกาญจนบุรี เร่ือง แก้ไขชื่อกองทุนสวัสดิการข้าราชการองค์การบริหารส่วน จงั หวดั กาญจนบรุ ี (กสข.) -คาสง่ั องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบรุ ี ท่ี 925/2556 เร่อื งแต่งตั้งผู้รบั ผิดชอบงานด้านสวัสดิการภายใน องคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวัดกาญจนบุรี -คาส่ังองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ท่ี 995/2556 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการ องคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวัดกาญจนบรุ ี (คณะกรรมการ กส.อบจ.กจ.) -คาสัง่ กองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ท่ี 1/2556 เรื่องแต่งต้ังคณะอนุกรรมการด้าน กฎหมายของกองทุนสวัสดกิ ารองค์การบริหารส่วนจงั หวัดกาญจนบรุ ี -คาส่ังกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ท่ี2/2556 เร่ืองแต่งตั้งเหรัญญิกและผู้ช่วย เหรญั ญกิ กองทนุ สวสั ดกิ ารองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัดกาญจนบรุ ี -คาสั่งกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 2/2563 เร่ืองแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สวัสดิการรา้ นอาหาร

1.ช่ือเรื่องการวิจัย : แนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดกิ ารองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดกาญจนบุรี 2.บทคัดย่อ การวิจยั คร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ 1)เพ่ือศึกษาการดาเนนิ งานของกองทนุ สวสั ดิการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด 2)เพื่อค้นหาแนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการฯสู่ความย่ังยืนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรี รูปแบบการวจิ ยั เป็นเชงิ คณุ ภาพ กล่มุ ตัวอยา่ งและกลมุ่ เปา้ หมายที่ใช้ในการวิจัยคุณภาพ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จานวน 2 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบไม่มีโครงสร้าง และประเด็นสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนือ้ หา ผลการวจิ ยั สรุปได้ ดงั นี้ 1.กองทุนสวสั ดิการจัดตั้งขึ้นเพ่ือสร้างหลักประกันมั่นคงในชีวิต มีการให้พึ่งพาตนเองช่วยเหลือเก้ือกูล กันในหน่วยงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีความสาคัญในการจัดสวัสดิการคือ ให้และรับอย่างมี ความถกู ตอ้ งตามระเบยี บฯทที่ างกองทนุ ฯใช้บังคับ มโี ครงสรา้ งกระบวนการบริหารงานงบประมาณ มีเครือข่าย และทิศทางการดาเนนิ งานทช่ี ัดเจน 2.กองทุนสวสั ดกิ ารองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีแนวทางการดาเนินงานท่ีย่ังยืน คือ มีการ สรา้ งหลกั ประกันให้สมาชกิ กองทุนฯตามความตอ้ งการ มีเปา้ หมายหลักคือมุ่งเน้นไปท่ีสมาชิกกองทุนฯเป็นหลัก และเหมาะสมกบั บรบิ ทขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีความเสมอภาค เท่าเทียมในการให้บริการ และรับผลประโยชน์ การมีส่วนร่วมของสมาชิกกองทุนฯทุกกระบวนการ มีการเพิ่มศักยภาพในการบริหาร กองทนุ อย่างสมา่ เสมอ มีการพัฒนากองทนุ ฯ การบริหารจดั การงบประมาณที่ชัดเจน 3.ที่มาและความสาคัญ ท่ีมาของการเกิดกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เกิดขึ้นจากแนวคิดของ ท่านวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี โดยในปี พ.ศ.2556 ขณะท่ีท่านวิจารณ์ฯ ดารงตาแหน่งปลัดฯอยู่ในขณะน้ัน ท่านได้มีแนวความคิดท่ีว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรีเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีบุคลากรท่ีเป็นข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา ลูกจ้างประจา และพนักงานจ้างเป็นจานวนมาก ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็มีความจาเป็น และความต้องการที่หลากหลายแตกต่างกัน จึงเห็นควรว่าจะต้องมีสวัสดิการอ่ืนนอกเหนือจากท่ีทางราชการ จดั ให้ เพ่อื เปน็ การชว่ ยเหลือในการดารงชีพและเสริมสรา้ งขวญั กาลงั ใจในการปฏบิ ัตงิ านของบุคลากรในสังกดั โดยในขณะนั้นทางองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั กาญจนบุรี ได้มีสวัสดิการเร่ืองการให้บริการเงินกู้ฉุกเฉิน คือ ให้บุคลากรแต่ละท่านสามารถกู้ได้คร้ังละไม่เกิน 3,000บาท ซ่ึงคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 บาท ต่อเดือน มีระยะเวลาการผ่อนชาระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยได้สูงสุดไม่เกิน 6 งวด โดยมีเงินทุนหมุนเวียน ที่สามารถให้กู้ได้ ประมาณ 200,000 กว่าบาท และเพื่อให้แนวคิดการจัดกองทุนสวัสดิการองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดกาญจนบุรีดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของท่านวิจารณ์ฯ จึงอาศัยอานาจตามกฎหมายในมาตรา 35/5 (1) แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 4) พ.ศ.2552 ประกอบกับระเบียบสานักรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 ข้อ 10 และ ข้อ 34 จึงประกาศจัดต้ังกองทุนสวัสดิการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หรือมีชื่อย่อว่า “กสข.” ในวันที่ 5 มิถนุ ายน 2556 นนั่ เอง

-2- ต่อมาเน่ืองจากชื่อกองทุนสวัสดิการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี (กสข.)ที่มี การจัดตั้งดังกล่าว ยังไม่สอดคล้องกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2547 ดังน้ัน เพ่ือให้การจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นไปด้วยความถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง จึงดาเนินการแก้ไขช่ือกองทุนจาก“กองทุน สวัสดิการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี (กสข.อบจ.กจ.)” เป็น “กองทุนสวัสดิการองค์การ บริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี (กส.อบจ.กจ.)” ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นให้คงไว้ตามเดิม ตั้งแต่ วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2556 เปน็ ต้นมาจนถงึ ปัจจบุ ัน กองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีมีบทบาทในการสร้างหลักประกันความมั่นคง ท่ีจัดข้ึนในองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นอกจากเป็นเสมือนหลักประกันท่ีคณะกรรมการสวัสดิการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีบริหารจัดการเองแล้ว กองทุนสวัสดิการฯ ยังทาให้เกิดการรวม แหล่งเงินทุนจากสมาชิกกองทุนฯมาก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของบุคลากรในสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรีด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีถือเป็น นโยบายสวัสดิการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี แต่ความท้าทายจากการเปล่ียนแปลงจากบริบท ทางสังคมในปจั จุบันทีห่ ลกี เลย่ี งไม่ได้ เสน้ ทางที่เหมาะสมสู่ความย่ังยืนได้กลายเป็นแนวทางท่ีจะปกป้องกองทุน สวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีให้คงอยู่ต่อไป ผู้วิจัยจึงดาเนินการสืบค้นแนวทางการพัฒนา กองทนุ สวสั ดิการฯสู่ความย่งั ยนื และยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา พร้อมท้ังขยายผลเป็นแนวปฏิบัติ ในการสร้างความเข้มแข็งและความย่ังยืนพร้อมเปน็ ตวั อย่างใหก้ ับกองทุนสวัสดิการองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นๆ ต่อไป ปัจจุบนั การจดั ตง้ั กองทนุ สวัสดิการองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีการดาเนินงานในภาพรวม ดงั นี้ สถานะงบทดลองในปัจจุบนั ของกองทุน (ณ วนั ท่ี 30 มิถนุ ายน 2564) เป็นดังนี้ -เงินค่าหนุ้ ของสมาชกิ กองทนุ ฯ เป็นเงนิ 3,383,124.07 บาท -ลูกหนีเ้ งนิ ก้สู ามญั เป็นเงนิ 2,391,920.00 บาท -ลูกหนเ้ี งนิ กูฉ้ ุกเฉนิ เปน็ เงิน 833,615.00 บาท -ดอกเบี้ยรบั สะสม เป็นเงิน 36,520.00 บาท -คงเหลอื สะสม เป็นเงนิ 649,109.07 บาท สถานะงบทดลองในปัจจบุ นั ของกองทนุ ( ณ วันท่ี 30 มิถนุ ายน 2564) เปน็ ดงั นี้ 833,615.00 649,109.07 36,520.00 เงินค่าหุ้นของสมาชิก 3,383,124.07 บาท 3,383,124.07 ลกู หน้ีเงนิ ก้สู ามญั 2,391,920.00 บาท ลูกหนเ้ี งินกู้ฉกุ เฉนิ 833,615.00 บาท 2,391,920.00 ดอกเบี้ยรับสะสม 36,520.00 บาท คงเหลือสะสม 649,109.07 บาท

-3- ประเภทของสมาชิกกองทุนสวสั ดกิ ารองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1.สมาชิกสามญั หมายความถึง ข้าราชการ ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และ ลูกจ้างประจา สงั กัด องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัดกาญจนบุรี -ปัจจุบนั มจี านวน = 258 ราย จาแนกเป็นประเภทต่างๆดังน้ี สมาชิกฉกุ เฉิน จานวน 32 ราย สมาชิกออมสามัญ จานวน 140 ราย สมาชิกตามระเบียบ จานวน 86 ราย 32 สมาชกิ สามญั 258 คน ประกอบดว้ ย 86 สมาชกิ ประเภทต่างๆดงั นี้ สมาชิกฉุกเฉนิ 32 คน 140 สมาชิกออมสามญั 140 คน สมาชกิ ตามระเบียบ 86 คน 2.สมาชกิ วิสามัญ หมายความว่า พนักงานจ้าง สงั กดั องค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี -ปจั จุบันมจี านวน = 240 ราย จาแนกเป็นประเภทตา่ งๆดงั น้ี สมาชิกฉุกเฉิน จานวน 19 ราย สมาชิกออมสามญั จานวน 138 ราย สมาชกิ ตามระเบยี บ จานวน 83 ราย สมาชิกวิสามญั 240 คน ประกอบดว้ ยสมาชิก ประเภทตา่ งๆดังนี้ 19 สมาชิกฉกุ เฉิน 19 คน 83 สมาชกิ ออมสามัญ 138 คน 138 สมาชิกตามระเบียบ 83 คน

-4- 3.สมาชิกสมทบ หมายความว่า สมาชิกสามัญท่ีพ้นจาก สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ไปแลว้ และขอรบั บานาญหรือบาเหนจ็ รายเดือน -ปจั จุบันมีจานวน = 7 ราย รวมปจั จบุ ันมีสมาชิกกองทุนฯจานวน = 505 ราย จาแนกเปน็ ประเภทต่างๆดงั น้ี สมาชิกฉุกเฉิน จานวน 51 ราย สมาชิกออมสามัญ จานวน 278 ราย สมาชกิ ตามระเบยี บ จานวน 169 ราย สมาชกิ สมทบ จานวน 7 ราย หมายเหตุ 1.สมาชิกฉุกเฉิน คือ สมาชิกท่ีชาระค่าแรกเข้า 30 บาท เพ่ือการกู้ฉุกเฉิน แต่ไม่ได้ออมเงิน กับกองทุนฯ 2.สมาชิกออมสามัญ คือ สมาชิกท่ีชาระค่าแรกเข้า 30 บาท และออมเงินกับกองทุนฯ เป็นรายเดอื นๆ ละไมต่ ่ากวา่ 100 บาท 3.สมาชิกตามระเบียบ คือ เป็นบุคลากรในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี แตไ่ มไ่ ด้ชาระคา่ แรกเขา้ 30 บาท และไม่ไดอ้ อมเงินกับกองทุนฯ 4.เปน็ ขอ้ มลู ณ วันที่ 30 มถิ ุนายน 2564 การดาเนินงานของกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีการให้บรกิ ารแก่สมาชิกกองทนุ ฯ ดงั น้ี 1.การออมทรพั ย์ คือ การที่กองทุนสวัสดิการฯจัดสวัสดิการด้านการออมทรัพย์เพ่ือส่งเสริมให้สมาชิก กองทุนฯมีวินัยในการออมเงิน และเสริมสร้างความม่ันคงทางการเงินให้แก่บุคลากรในสังกัดองค์การบริหาร ส่วนจังหวดั กาญจนบรุ ี โดยมีหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารดงั นี้ 1.1 สมาชิกกองทุนฯย่ืนเอกสารขอออมทรัพย์ต่อเจ้าหน้าท่ีกองทุนฯ ประกอบด้วยเอกสาร ดงั น้ี

-5- (1) คาขอฝากเงนิ ออมทรัพยพ์ ร้อมกรอกข้อความให้สมบรู ณ์ (2) สาเนาบตั รประชาชน หรอื สาเนาบัตรประจาตวั เจา้ หน้าทขี่ องรฐั 1 ชดุ (3) สาเนาทะเบยี นบา้ น 1 ชุด (4) หนงั สือยินยอมใหส้ ่วนราชการหกั เงินเพื่อการออมทรพั ย์ (5) หนังสือต้ังผู้รับผลประโยชน์ และสาเนาบัตรประชาชนของสมาชิกและผู้รับ ผลประโยชน์ 1.2 สมาชิกกองทุนฯต้องออมทรัพย์แตล่ ะคร้งั ไม่นอ้ ยกวา่ 100 บาท 1.3 กองทนุ ฯจะใหก้ องคลังหักเงินได้รายเดอื น เพ่ือเขา้ บญั ชีออมทรพั ย์ของกองทุนฯ 1.4 สมาชิกกองทุนฯสามารถปรับเพ่ิมเงินออมได้ตลอด ส่วนการปรับลดเงินออมปรับลดได้ ปีละ 1 คร้ัง ภายในวันที่ 15 มกราคมของทุกปี (กรณีอยู่ระหว่างการผ่อนชาระเงินกู้ สามัญจะไมส่ ามารถปรับลดเงนิ ออมทรพั ย์ได้) 1.5 กองทุนฯจะให้ดอกเบย้ี เงินออมในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี โดยการคานวณดอกเบี้ยคานวณ เป็นรายวันตามยอดเงินคงเหลือ โดยกองทุนฯจะนาดอกเบี้ยทบเงินต้นเข้าบัญชีเงินฝาก ในวนั สน้ิ ปีปฏิทิน ขั้นตอนการออมทรัพย์ (Work Flow) เร่มิ ขั้นตอน สมาชกิ กองทนุ ฯย่นื คาขอฝากเงินออมทรพั ย์ พร้อมหลกั ฐาน ณ สานักงานกองทนุ ฯ เจา้ หนา้ ทก่ี องทนุ ฯตรวจสอบ คณุ สมบัต+ิ หลักฐาน กองทนุ ฯใหก้ องคลังหักเงนิ ได้รายเดือนของสมาชิกกองทุนฯ เพอ่ื เข้าบญั ชขี องกองทุนฯ กองทุนฯให้ดอกเบ้ียเงนิ ออม ร้อยละ 2 ต่อปี(คานวณเปน็ รายวนั โดยกองทนุ ฯจะนา ดอกเบยี้ ทบเงนิ ตน้ เขา้ บญั ชีเงินฝากในวันสน้ิ ปปี ฏทิ ิน) สิ้นสดุ ขน้ั ตอน

-6- 2.การกู้เงินสามัญ คือ การกู้เงนิ ทท่ี างกองทุนสวสั ดกิ ารฯจดั ใหส้ มาชิกกองทุนฯกู้สาหรับใช้จ่ายเพื่อการ อนั จาเปน็ ท่มี ปี ระโยชน์สาหรับตนเองและครอบครัว โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ 2.1 สมาชิกกองทุนฯผยู้ ่นื กู้สามญั ต้องมีการออมไมน่ อ้ ยกว่า 100 บาท 10 เดือนขึน้ ไป 2.2 สมาชิกกองทุนฯประเภทต่างๆ สามารถย่ืนกูส้ ามัญได้วงเงนิ กู้ ดังน้ี (1) สมาชิกสามญั กูส้ งู สุด 5 เท่าของเงนิ ออม (2) สมาชกิ วิสามญั กู้สงู สดุ 3 เทา่ ของเงินออม (3) สมาชิกสมทบ กสู้ ูงสุด ไมเ่ กินเงนิ ออม (4) สมาชิกวิสามัญทั้งผู้กู้และผู้ค้าเมื่อมีการกู้เงินสามัญ จะต้องมีเงินออมของผู้กู้และ ผคู้ ้ารวมกนั ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของจานวนเงนิ ทข่ี อกู้ (5) ในกรณีสมาชิกสามัญ สมาชิกวิสามัญ และสมาชิกสมทบ มีหน้ีค้างชาระและมี ความประสงค์ขอกู้สามัญเพิ่มจะต้องมีการผ่อนชาระมาแล้วไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึง และต้องมีประวัติการชาระหน้ี เดิมท่ีดีต่อเนื่องจนถึงวันยื่นกู้คร้ังใหม่ จึงจะมีสิทธิกู้เพิ่มได้ ท้ังน้ีให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะอนุกรรมการฯ พิจารณา 2.3 สมาชิกกองทุนฯย่ืนเอกสารขอกู้สามัญต่อเจ้าหน้าท่ีกองทุนฯ โดยย่ืนกู้ได้ไม่เกินภายใน วนั ท่ี 5 ของเดือน (เฉพาะวนั ทาการ) ประกอบดว้ ยเอกสาร ดังนี้ (1) คาขอกู้เงินสามัญ พรอ้ มกรอกขอ้ ความให้สมบรู ณ์ (2) สาเนาบัตรประชาชน หรือสาเนาบัตรประจาตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท้ังสมาชิกผู้กู้ และสมาชกิ ผูค้ ้าประกนั พรอ้ มรับรองสาเนา (3) หนังสือยินยอมใหห้ น่วยงานหักเงินชาระหนี้เงนิ กูใ้ หแ้ ก่กองทุนฯ (4) หนังสือคา้ ประกันสาหรับเงินกู้พร้อมกรอกข้อความให้สมบรู ณ์ 2.4 การคา้ ประกัน (1) สมาชกิ สามัญหรอื สมาชกิ วสิ ามัญผูค้ ้าประกนั ต้องมไิ ด้เป็นคู่สมรสของสมาชกิ ผู้กู้ (2) สมาชิกสามัญผคู้ ้าประกัน ต้องเปน็ ผูท้ ีผ่ า่ นการทดลองปฏิบัติราชการแล้ว (3) สมาชกิ สามญั ท่ีมีการออมเงินตามระเบียบฯค้าประกัน 1 คน (4) สมาชกิ สมทบ ใหใ้ ชเ้ งินออมท่มี ีอยู่ คา้ ประกันเงินก้สู ามญั ของตนเอง 2.5 ขั้นตอนการอนุมัตเิ งนิ กู้สามัญ (1) คณะอนกุ รรมการพิจารณาเงินกู้(สามัญ)โดยจะมีการประชุม เพ่ือพิจารณาอนุมัติ การกู้สามญั แก่สมาชิกกองทนุ ฯผยู้ นื่ กู้ ภายในวนั ที่ 7 ของเดือน (2) กองคลงั ทาเร่อื งเบิกจา่ ยเงินก้สู ามัญทีส่ มาชิกฯผ้กู ้ยู ่นื ขอก้ไู ว้ (3) ในการกู้สามัญ ถ้าปรากฏว่ากองทุนสวัสดิการมีเงินท่ีจะให้กู้ไม่พอแก่การขอกู้ ทกุ ราย คณะอนุกรรมการอาจพิจารณาตามความจาเป็นของสมาชิกแตล่ ะรายเป็นสาคัญ 2.6 การชาระคนื เงนิ กู้ (1) การส่งเงินงวดชาระหน้ีเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยของสมาชิกผู้กู้ กองทุนฯจะให้ กองคลังหักจากเงินไดร้ ายเดอื นของสมาชิกผ้กู ู้ ณ ทีจ่ า่ ย ในวันจา่ ยรายไดป้ ระจาเดือน (2) การส่งเงินงวดชาระหน้ีเงินกู้สามัญ สมาชิกผู้กู้ต้องส่งคืนเงินกู้เป็นเงินต้น ไม่ตา่ กว่า 1,500 บาท พรอ้ มดอกเบย้ี เป็นงวดรายเดือนทุกเดือน แต่ตอ้ งไมเ่ กิน 60 งวด (3) สมาชิกวิสามัญต้องส่งเงินงวดชาระหน้ีเงินกู้สามัญ ต้องไม่เกินเดือนสุดท้ายของ สัญญาจา้ งสมาชกิ วสิ ามัญผ้กู ู้ โดยงวดแรกให้ส่งภาย ในวันสิ้นเดือนท่ีกองทุนฯจ่ายเงินกู้ เว้นแต่เงินกู้ท่ีกองทุนฯ ได้จ่ายให้ในหรือหลงั วันท่ี 10 ของเดอื น ให้ส่งชาระในเดอื นถดั ไป 2.7 ดอกเบยี้ เงินกสู้ ามญั อัตรารอ้ ยละ 4 ต่อปี

-7- ขน้ั ตอนการกสู้ ามัญ (Work Flow) เรม่ิ ข้นั ตอน สมาชิกกองทุนฯย่นื คาขอก้สู ามญั พร้อม หลกั ฐานตามหลักเกณฑ์ ณ สานักงานกองทุนฯ ไม่ เกนิ วันที่ 5 ของเดือน (เฉพาะวันทาการ) เจ้าหนา้ ทีก่ องทุนฯ ตรวจสอบ คุณสมบตั ิ + เอกสาร คณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกสู้ ามญั ประชมุ ประจาเดือน พิจารณาอนมุ ตั ิ ภายในวันท่ี 7 ของเดอื น กองคลังทาเรอ่ื งเบิกจ่ายเงนิ กสู้ ามญั ให้สมาชิกกองทุนฯ กองคลังทาการหักเงนิ ไดร้ ายเดือนพร้อมดอกเบ้ีย ตามจานวนงวดท่ีสมาชิกกองทนุ ฯผูข้ อกู้ระบไุ ว้ ส้นิ สุดขัน้ ตอน

-8- 3.การกู้เงนิ ฉกุ เฉนิ คือ การกเู้ งนิ ท่ที างกองทนุ สวสั ดิการฯจดั ให้สมาชิกกองทุนฯกู้สาหรับใช้จ่ายในกรณี เร่งด่วนเพ่อื ใช้แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ สาหรับตนเอง หรือครอบครัว โดยมีหลักเกณฑ์และวิธกี าร ดงั น้ี 3.1 สมาชิกกองทุนฯที่ชาระค่าธรรมเนียมแรกเข้า 30 บาทแล้ว แต่ไม่ได้ออมเงิน ตามระเบยี บฯมสี ิทธิกู้ฉุกเฉนิ ไดไ้ มเ่ กนิ 3,000 บาท (ผอ่ นชาระไมเ่ กิน 6 งวด, งวดละ 500 บาทขึน้ ไป) 3.2 สมาชิกกองทุนฯที่ชาระค่าธรรมเนียมแรกเข้า 30 บาทแล้ว และได้ออมเงิน ตามระเบียบฯพร้อมท้ังเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 เดือน มีสิทธิกู้ฉุกเฉินได้ไม่เกิน 10,000 บาท (ผ่อนชาระ ไมเ่ กนิ 20 งวด, งวดละ 500 บาทข้นึ ไป) 3.3 สมาชิกวิสามัญที่กู้สามัญและอยู่ระหว่างการผ่อนชาระ จะมีสิทธิกู้ฉุกเฉินเม่ือมีการ ผ่อนชาระมาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ 2 เดือน และมเี งินเหลอื เพยี งพอตอ่ การชาระหน้ี 3.4 สมาชิกกองทุนฯยนื่ เอกสารขอกู้ฉกุ เฉินตอ่ เจา้ หน้าทกี่ องทุนฯ ประกอบดว้ ยเอกสาร ดังน้ี (1) คาขอก้เู งนิ ฉุกเฉิน พร้อมกรอกข้อความให้สมบรู ณ์ (2) สาเนาบัตรประชาชน หรือสาเนาบัตรประจาตัวเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ท้ังสมาชิกผู้กู้ และสมาชกิ ผู้คา้ ประกนั พร้อมรับรองสาเนา (3) หนงั สอื ยินยอมให้หนว่ ยงานหกั เงนิ ชาระหนีเ้ งนิ ก้ใู หแ้ กก่ องทนุ ฯ (4) หนงั สือค้าประกนั สาหรบั เงนิ ก้พู รอ้ มกรอกข้อความใหส้ มบูรณ์ (5) สาเนาสลปิ ใบเสรจ็ กองทุนฯ(เดอื นปจั จุบนั )ของผกู้ ูแ้ ละผู้คา้ พรอ้ มรับรองสาเนา (6) สาเนาสลปิ เงนิ เดือน(เดอื นปจั จบุ นั ) ของผกู้ แู้ ละผคู้ า้ พรอ้ มรบั รองสาเนา 3.5 ข้ันตอนการอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉิน (1) เจ้าหนา้ ทีก่ องทนุ ฯ ตรวจสอบคณุ สมบัติและหลกั ฐาน ของสมาชกิ กองทุนฯผู้ย่ืนกู้ ฉุกเฉนิ แล้วนาสง่ เลขานุการกองทนุ ฯ (2) เลขานกุ ารกองทนุ ฯ พจิ ารณาเอกสารและหลกั ฐานแลว้ จงึ ส่งเรือ่ งเขา้ กองคลัง (3) กองคลังส่งเรือ่ งให้ประธานกองทนุ ฯพิจารณาอนุมตั ิ (4) กองคลงั ทาเรือ่ งเบิกจ่ายเงินกู้สามัญทีส่ มาชิกฯผูก้ ูย้ ืน่ ขอกูไ้ ว้ (5) กองคลังทาการหกั เงินได้รายเดือนตามจานวนงวดทีส่ มาชิกกองทนุ ฯผูข้ อก้รู ะบุไว้ (6) การกู้ฉุกเฉินถ้าปรากฏว่ากองทุนสวัสดิการฯมีเงินทุนท่ีจะให้กู้ไม่พอแก่การขอกู้ ทุกราย ประธานกรรมการฯอาจพจิ ารณาตามลาดบั ยนื่ กอ่ นหลงั 3.6 การคา้ ประกัน (1) สมาชกิ สามญั หรือสมาชิกวิสามัญผู้ค้าประกนั ต้องมิได้เป็นคู่สมรสของสมาชกิ ผู้กู้ (2) สมาชกิ สามญั ผูค้ ้าประกนั ตอ้ งเปน็ ผู้ทีผ่ ่านการทดลองปฏบิ ตั ริ าชการแลว้ (3) ผู้ประสงค์กู้ฉุกเฉิน ต้องมีสมาชิกค้าประกัน 1 คน โดยผู้กู้และผู้ค้า ต้องมีรายได้ คงเหลือหกั ค่าใชจ้ ่ายไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 15 (4) สมาชิกวิสามัญผู้ขอกู้ ท่ีมีอายุของสัญญาจ้างไม่เกิน 1 ปี และกู้เกินระยะเวลา ทรี่ ะบไุ ว้ในสัญญาจา้ งให้เพิม่ ผูค้ ้าอกี 1 คน (5) สมาชิกสามัญคา้ ประกนั ไดไ้ มเ่ กิน 2 คน (6) สมาชกิ วสิ ามญั คา้ ประกันไดไ้ ม่เกิน 1 คน 3.7 ดอกเบี้ยเงนิ กสู้ ามญั อตั รารอ้ ยละ 4 ตอ่ ปี

-9- ขั้นตอนการกู้ฉกุ เฉนิ (Work Flow) เร่ิมข้ันตอน สมาชกิ กองทุนฯที่ชาระคา่ แรกเข้าแต่ไมไ่ ดอ้ อมเงนิ สมาชกิ กองทนุ ฯที่ชาระค่าแรกเข้าและออมเงินตาม ตามระเบียบฯ มสี ทิ ธกิ ูฉ้ ุกเฉนิ ไมเ่ กนิ 3,000บาท ระเบียบฯมสี ทิ ธิกู้ฉกุ เฉินได้ไม่เกิน 10,000 บาท สมาชกิ กองทุนฯท้งั 2 ประเภทยน่ื คาขอกู้ฉกุ เฉนิ พร้อมหลักฐาน ณ สานักงานกองทุนฯ เจ้าหน้าทกี่ องทนุ ฯ ตรวจสอบ คณุ สมบตั ิ + หลักฐาน แลว้ นาส่งเลขานุการกองทุนฯ เลขานกุ ารกองทุนฯ พิจารณา สง่ เรอ่ื งเข้ากองคลัง กองคลงั สง่ เร่อื งใหป้ ระธานกองทนุ ฯ พจิ ารณาอนมุ ตั ิ กองคลงั ทาเรื่องเบิกจา่ ยเงนิ กฉู้ กุ เฉิน ให้สมาชิกกองทนุ ฯ กองคลงั ทาการหักเงินไดร้ ายเดอื นพรอ้ มดอกเบยี้ ร้อยละ 4 ต่อปี ตามจานวนงวดท่สี มาชิกกองทุนฯผูข้ อกู้ระบไุ ว้ สิ้นสุดขั้นตอน

-10- 4.การกเู้ งินพิเศษ คือ การกู้เงินท่ีทางกองทุนสวัสดิการฯจัดให้ข้าราชการ ข้าราชการครู บุคลากร ทางการศกึ ษา ท่อี ยู่ระหว่างรอรับบาเหนจ็ บานาญ หรือลกู จ้างประจา ที่อยู่ระหว่างรอรับบาเหน็จหรือบาเหน็จ รายเดือน หรือพนักงานจา้ งทีอ่ ยู่ระหว่างตอ่ สญั ญาจ้างและรอรับค่าตอบแทนรายเดือน กู้สาหรับใช้จ่ายเพ่ือการ อันจาเป็นท่ีมีประโยชน์สาหรับตนเองหรือครอบครัว แล้วแต่กรณี ท้ังน้ีต้องมีการออมเงินไม่ต่ากว่า 100 บาท เป็นเวลา 10 เดอื น จึงจะมีสิทธิกพู้ เิ ศษได้ สมาชกิ กองทุนฯประเภทต่างๆท่ีมีคุณสมบัติสอดคล้องกับเงื่อนไขการขอกู้พิเศษ สามารถย่ืนกู้พิเศษได้ ดังน้ี (1) สมาชกิ สามญั กู้ได้ไมเ่ กนิ 3 เทา่ ของอตั ราเงินเดือนเดือนสุดท้ายท่ีได้รบั (2) สมาชิกวิสามัญ กู้ได้ไม่เกิน 1 เท่า ของค่าตอบแทนเดือนสุดท้ายและไม่มีหนี้สินค้างชาระ กับกองทนุ โดยมีหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร ดังนี้ 4.1 สมาชิกสามัญท่ีเกษียณหรือสมาชิกวิสามัญที่อยู่ระหว่างต่อสัญญาจ้างย่ืนเอกสาร ขอกพู้ ิเศษตอ่ เจา้ หนา้ ทีก่ องทนุ ฯประกอบด้วยเอกสาร ดังนี้ (1) คาขอกู้พิเศษพรอ้ มกรอกข้อความให้สมบูรณ์ (2) สาเนาบัตรประชาชน หรือสาเนาบัตรประจาตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ของสมาชิกผู้มี สทิ ธิก้แู ละสมาชกิ ผูค้ า้ ประกัน พร้อมรับรองสาเนา (3) หนงั สอื ยนิ ยอมใหห้ นว่ ยงานหักเงนิ ชาระหน้ีเงนิ ก้พู เิ ศษให้แกก่ องทนุ สวัสดกิ ารฯ (4) หนงั สอื ค้าประกันสาหรบั เงินกู้ พร้อมกรอกข้อความให้สมบรู ณ์ (5) สาเนาคาสั่งหรือประกาศเรื่องการให้พ้นจากราชการ (เฉพาะกรณีข้าราชการ ข้าราชการครู บคุ ลากรทางการศึกษา ลกู จ้างประจา เกษียณอายรุ าชการหรอื ลาออกจากราชการ) 4.2 ขัน้ ตอนการกเู้ งนิ พเิ ศษ (1) ผู้ขอกู้ที่มีคุณสมบัติการขอกู้พิเศษ และเป็นสมาชิกสามัญให้ยื่นเอกสารต่อเลขา คณะอนุกรรมการฯ (2) ผูข้ อกทู้ ่ีมีคุณสมบัติการขอกู้พิเศษ และเป็นสมาชิกวิสามัญให้ย่ืนเอกสารต่อเลขา คณะอนกุ รรมการฯ โดยผา่ นตน้ สงั กัดของผู้กู้ (3) คณะอนุกรรมการฯพิจารณาได้รับความเห็นชอบ ถ้าปรากฏว่ากองทุนสวัสดิการ มีเงินท่จี ะให้กู้ไมพ่ อแก่การขอกทู้ ุกราย คณะอนกุ รรมการอาจพจิ ารณาตามลาดับการยื่นก่อนหลงั (4) กองคลงั ทาเรือ่ งเบกิ จ่ายเงินกูพ้ เิ ศษใหส้ มาชิกกองทุนฯ (5) ผู้ขอกู้ส่งคืนเงินกู้พิเศษ โดยให้ชาระหน้ีพร้อมดอกเบี้ยจนครบจานวน เพียงครัง้ เดยี ว 4.3 การค้าประกัน (1) สมาชิกวิสามัญผู้มีสิทธิกู้จะต้องมีสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญท่ีมีการออม ค้าประกนั จานวน 1 คน (2) สมาชกิ สามัญผู้ค้าประกันต้องมไิ ดเ้ ปน็ คู่สมรสของผู้มสี ทิ ธกิ ู้ (3) สมาชิกสามญั ผู้คา้ ประกนั ตอ้ งเปน็ ผ้ทู ี่ผา่ นทดลองปฏิบัตริ าชการแล้ว และ (4) สมาชกิ สามญั ค้าประกันผ้มู สี ทิ ธกิ ไู้ ด้ไมเ่ กิน 2 คน (5) สมาชกิ วสิ ามัญผ้คู ้าประกันต้องไมอ่ ยรู่ ะหว่างการต่อสญั ญาจ้าง (6) สมาชิกวิสามญั สามารถคา้ ประกันผู้มีสิทธกิ ้ไู ดไ้ ม่เกิน 1 คน (7) สมาชิกสามัญผู้ค้าประกันคนใดพ้นจากสมาชิกสภาพของกองทุนฯ ผู้มีสิทธิกู้ต้อง จัดให้สมาชิกสามัญอืน่ เขา้ เป็นผู้ค้าประกันแทนคนเดิมให้แล้วเสรจ็ ภายในระยะเวลา 15 วัน

-11- (8) การให้สมาชิกผู้ค้าออกจากกองทนุ ฯ ไม่ว่าเหตุใดๆไม่เป็นเหตุให้ผู้น้ันหลุดพ้นจาก การคา้ ประกนั จนกวา่ ผู้มสี ิทธกิ ไู้ ดจ้ ดั ให้สมาชิกสามญั อ่ืนเขา้ เป็นผ้คู ้าประกันแทน 4.4 การชาระคนื เงินกู้ การส่งคืนเงินกู้พิเศษให้ชาระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบ้ียจนครบจานวนเพียงคร้ังเดียว โดยกองทุนสวัสดกิ ารฯจะหกั เงนิ จากเงนิ บาเหน็จบานาญ หรือบาเหน็จรายเดือน หรือค่าตอบแทนรายเดือนของ สมาชิกผู้มีสิทธิกู้ ณ ท่ีจ่าย ในวันที่ได้รับบาเหน็จบานาญ หรือบาเหน็จรายเดือน หรือค่าตอบแทนรายเดือน 4.5 ดอกเบีย้ เงินกูพ้ เิ ศษอตั รารอ้ ยละ 6 ตอ่ ปี ข้ันตอนการกูพ้ เิ ศษ (Work Flow) เรม่ิ ข้ันตอน ผขู้ อกทู้ ี่มคี ณุ สมบตั ิขอกูพ้ ิเศษและเป็นสมาชิกสามัญ ผูข้ อก้ทู ่มี ีคณุ สมบตั กิ ้พู เิ ศษและเปน็ สมาชกิ วิสามญั ยืน่ เอกสารตอ่ เลขาคณะอนุกรรมการฯ ย่ืนเอกสารต่อเลขานุการคณะอนกุ รรมการฯ โดยผ่านต้นสงั กดั ของผกู้ ู้ คณะอนกุ รรมการฯพิจารณา ใหค้ วามเห็นชอบ เม่ือกองคลังทาเร่ืองเบกิ จ่ายเงนิ กพู้ เิ ศษ ให้สมาชกิ กองทุนฯ ผ้กู ูส้ ่งคืนเงินกพู้ เิ ศษให้ชาระหน้พี รอ้ ม ดอกเบีย้ จนครบจานวน เพียงคร้งั เดียว สิน้ สดุ ข้นั ตอน

-12- 5.ร้านค้าสวัสดิการ คือ การท่ีกองทุนสวัสดิการฯมีนโยบายท่ีจะจัดสวัสดิการด้านร้านอาหาร เพ่ือ อานวยความสะดวกให้บุคลากรในสังกัดมีอาหารรับประทานในบริเวณพ้ืนที่ในท่ีทางานทั้งม้ือเช้าและม้ือเท่ียง จึงมีมตเิ ห็นชอบการตง้ั ร้านอาหารสวัสดกิ ารองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัดกาญจนบุรี โดยมีหลักเกณฑ์และวธิ กี ารดาเนนิ งาน ดังนี้ 5.1 ในการประชุมของคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการฯ คร้ังท่ี 2/2563 วันท่ี 15 กนั ยายน 2563 มมี ติเหน็ ชอบ ใหร้ ้านอาหารฯขายตามราคาท่กี าหนด คือ -ขา้ วแกงหรอื อาหารตามสั่ง ราคาไม่เกนิ 30 บาท -ก๋วยเตยี๋ วราคาไมเ่ กนิ 30 บาท -เคร่อื งดมื่ ราคาตามทอ้ งตลาด -ผลไม้ตามฤดกู าล ราคาตามท้องตลาด -ขนมหวานราคาตามความเหมาะสม ต่อมาในการประชุมของคณะกรรมการสวัสดิการฯ คร้ังท่ี 3/2564 วันที่ 29 เมษายน 2564 มมี ตเิ ห็นชอบใหป้ รับราคาอาหารตามสัง่ ดงั น้ี -อาหารตามสั่งประเภท เนือ้ หมู ไก่ ราคาเร่ิมตน้ ท่ี 35 บาท -อาหารตามสั่งประเภท หมกู รอบ เนอ้ื วัว ราคาเรมิ่ ตน้ ที่ 40 บาท -อาหารตามสง่ั ประเภท ก้งุ – ปลาหมึก ราคาเร่ิมต้นท่ี 45 บาท 5.2 ให้ผู้รับจา้ งร้านอาหารสวสั ดิการฯใชพ้ ้นื ทใ่ี นการจาหน่ายอาหารและเครอื่ งดม่ื 3 ลอ๊ ค 5.3 ให้ผู้รับจ้างร้านอาหารสวัสดิการฯมีหน้าที่ทาความสะอาดพื้นท่ีส่วนกลาง พ้ืนท่ีบริเวณ แผงอาหาร พ้ืนท่บี รเิ วณซักล้าง และพื้นท่ีทีเ่ กย่ี วข้อง 5.4 ทางกองทุนฯมีหน้าที่ดาเนินการจัดหาบริเวณท่ีนั่งรับประทานอาหารให้แก่สมาชิก กองทนุ ฯ 5.5 ให้ผู้รับจ้างร้านอาหารสวัสดิการฯมีหน้าที่รับผิดชอบภาชนะที่ใส่อาหารของสมาชิก กองทุนฯ หรอื ผมู้ าใช้บริการ 5.6 ในการประเมินผู้ประกอบการร้านอาหารสวัสดิการฯ ให้คณะอนุกรรมการสวัสดิการ ร้านอาหารเป็นผู้รับผิดชอบการประเมิน โดยให้กองแผนและงบประมาณ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบรุ ี เป็นผ้ดู าเนนิ การจดั ทาแบบประเมินและสรุปผลการประเมินความพึงพอใจการใช้บริการ และให้มีผู้ ประเมินประกอบด้วยคณะกรรมการสวัสดิการฯ และบุคลากรในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี (สมาชิกกองทนุ ฯ)ที่ใช้บริการ ตามแบบทก่ี าหนด 5.7 ให้ผรู้ ับจ้างรา้ นอาหารสวัสดิการฯมีหน้าที่รับผิดชอบ ค่าน้าประปา ค่ากระแสไฟฟ้า และ ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดจากการปรับปรุงของผู้รับจ้าง โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการสวัสดิการร้านอาหารฯ เปน็ ผดู้ าเนินการจัดเก็บคา่ สาธารณปู โภค รวมถึงคา่ ใช้จ่ายอืน่ ๆ ดงั นี้ -ในอายุสัญญา 1 ปี คิดค่าบารุง 3 เดือนแรก เดือนละ 1,000 บาท และเม่ือผ่านการ ประเมนิ แลว้ จะปรับเปน็ อตั ราเดือนละ 3,000 บาท ตง้ั แต่เดอื นท่ี 4 เปน็ ต้นไปจนครบสญั ญา -ค่าหลักประกนั สญั ญา 600 บาท -สญั ญาจา้ งระยะเวลา 1 ปี -กรณีหยุดการจาหน่ายอาหารโดยไม่แจ้งล่วงหน้าปรับเงินวันละ 200 บาท (ยกเว้นมี ผ้ปู ระกอบการแทนในชว่ งวนั หยุดได้ไม่เสยี คา่ ปรับ)

-13- -ให้ชาระคา่ บารงุ ไมเ่ กินวนั ที่ 5 ของเดือน (เฉพาะวนั และเวลาราชการ) ถา้ ตรงกับวันเสาร์หรือ วนั อาทิตย์ ใหเ้ ลอื่ นชาระค่าบารงุ ของวนั ถัดไป และกรณีการชาระลา่ ช้าปรบั วันละ 200 บาท -หากหยุดจาหน่ายอาหารโดยไม่มีเหตุผลเกิน 1 เดือน จะถูกยกเลิกและรวมถึงการชาระค่า เชา่ ลา่ ช้าดว้ ย -หักค่าประกนั ความเสียหาย 4,000บาท/ปี โดยรายรับดังกล่าวท่ีได้จากผู้รับจ้างร้านอาหารสวัสดิการฯจะเป็นรายรับเข้าสู่กองทุน สวสั ดิการองค์การบริหารส่วนจังหวดั กาญจนบุรเี พ่ือใชเ้ ปน็ เงินทุนหมุนเวียนตอ่ ไป กา รค วบ คุ มต รว จส อ บก าร บริ ห าร งา น ข อ งก อง ทุ น ส วัส ดิก า รอ งค์ กา ร บริ หา รส่ ว น จั งห วั ด กาญจนบุรี จากการบริหารงานของกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการ ให้บริการแก่สมาชิกกองทุนฯ ทั้ง 5 ด้านตามท่ีกล่าวไปข้างต้น ทางกองทุนฯได้มีระเบียบคณะกรรมการ สวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ว่าด้วยการรับจ่ายเงิน การจัดทาบัญชี และการเก็บรักษาเงิน ของกองทุนสวัสดิการ (ฉบับที่3) พ.ศ.2564 โดยมีการกาหนดให้หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในองค์การ บริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้สอบบัญชี มีหน้าท่ีตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุน สวัสดิการ โดยให้ทาการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนสวัสดิการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันท่ีได้รับงบการเงิน และเม่ือดาเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้หน่วยตรวจสอบภายใน ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีส่งรายงานให้เหรัญญิกกองทุนฯทราบ เพื่อนาเสนอคณะกรรมการ สวัสดิการฯในที่ประชมุ ต่อไป 4.แนวคิดทฤษฎีท่ีเกีย่ วขอ้ ง การศึกษาวิจัยเร่ืองแนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ผู้วิจัย ได้นาทฤษฏีและหลักการ รวมถึงแนวคิดเพอื่ สรา้ งกรอบ วเิ คราะห์ ในการดาเนนิ การวจิ ัย ดังน้ี 1.ทฤษฎคี วามตอ้ งการเพื่อความมน่ั คงของมนุษย์ ของ อบั ราฮัม เอ มาสโลว์ การศึกษาวิจัยเรื่องแนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีคร้ังน้ี ผู้วิจัยได้นาเอาทฤษฎีความต้องการเพื่อความม่ันคงของมนุษย์ ของ อับราฮัม เอ มาสโลว์ มาประยุกต์ใช้เป็น กรอบคิด วิเคราะห์งานวิจัย ท้ังนี้ประเด็นกองทุนสวัสดิการหรือระบบสวัสดิการของมนุษย์มีความสัมพันธ์ อย่างแนบแน่น กับความต้องการขั้นพ้ืนฐานรวมถึงความต้องการความม่ันคงยั่งยืนของมนุษย์ในสวัสดิภาพ สวัสดกิ าร ด้วย ตามทฤษฎนี ี้ มี 5 ขัน้ สามารถอธบิ ายได้ ดังนี้ 1.ความต้องการทางด้านร่างกาย ไดแ้ ก่ ปัจจัยส่รี วมถึงความตอ้ งการทางเพศด้วย 2.ความตอ้ งการดา้ นความมน่ั คง ปลอดภัย ในทกุ ด้านแม้แต่ชีวิตและทรัพย์สินต่างๆที่หามาได้ แลว้ กต็ ้องปอ้ งกันรกั ษาไว้ให้ได้ 3.ความตอ้ งการทางด้านสังคม ได้แก่ การคบเพ่ือน การต้องการความรัก การท่ีรู้สึกว่าตนเอง เปน็ สว่ นหนึง่ ของสงั คม 4.ความต้องการเกียรติยศช่ือเสียง ได้แก่ ความต้องการ การยอมรับ ความเคารพนับถือ การ ยกย่องจากบคุ คลอน่ื 5.ความต้องการความสมหวังของชีวิต ได้แก่ความต้องการสุขสมหวังทุกอย่าง พร้อมท้ังได้ช่ือ ว่าเปน็ ผทู้ มี่ คี วามสามารถอยา่ งเตม็ ที่ เช่น ถา้ เป็นดา้ นทฤษฎีก็อยากเปน็ จา้ วแหง่ ทฤษฎี เปน็ ตน้

-14- อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามทฤษฎีน้ี ซึ่งเก่ียวกับความต้องการทางด้านร่างกายของมนุษย์ ระบบ สวัสดิภาพ สวัสดิการ และความมั่นคงย่ังยืนในการป้องกันรักษาในทรัพย์สินต่างๆ รวมถึงปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุง่ หม่ ทีอ่ ย่อู าศัย ยารักษาโรค ซึง่ จาเปน็ และสาคญั ตอ่ การดารงชพี ของมนุษยน์ ่ันเอง 2.ทฤษฎวี ่าด้วยการกระทาการเชงิ การส่ือสาร ทฤษฎวี ่าด้วยการกระทาเชิงการส่ือสาร เป็นทฤษฎีว่าด้วยขบวนการทางสังคมแบบใหม่ ของนักทฤษฏี ชาวเยอรมัน ชื่อว่า เยอเก็น ฮาเบอร์มัส จะช่วยเป็นกรอบคิดวิเคราะห์ระบบสวัสดิการองค์กร ซ่ึงท้องถิ่นและ หน่วยงานรัฐสมทบ ซ่งึ อาจเป็นระบบสวสั ดิการองคก์ รทีจ่ ะตกอย่ใู นฐานะท่ถี กู หนว่ ยงานของรัฐเป็นผู้กระทาการ ตามทฤษฎีว่าด้วยการกระทาเชิงการส่ือสาร ซ่ึงเขามีมโนทัศน์ว่าด้วย “ระบบ-โลกชีวิต” เขาเสนอว่า สังคม สมัยใหม่ประกอบดว้ ย 1.ระบบ ซงึ่ ประกอบดว้ ยสถาบันต่างๆ ทางเศรษฐกิจและทางการเมือง และ 2.โลกชีวิต ซึ่งประกอบด้วยพื้นท่ีสาธารณะและพ้ืนท่ีส่วนตัวในชีวิตประจาวัน (เช่น ครอบครัว การทางาน การใช้เวลาว่าง การศึกษา) ในสังคมสมัยใหม่ โลกชีวิตจะถูกครอบงาโดยระบบที่มีความซับซ้อนเชิงเศรษฐกิจและการบริหาร การเขา้ แทรกแซงและครอบงาของระบบต่อโลกชีวิตกระทาการผ่านระบบแบบ ราชการ กฎหมาย การขัดเกลา ทางการเมือง และการแปรรูปเศรษฐกิจให้เป็นระบบเอกชน ซ่ึงฮาเบอร์มัสได้เรียกกระบวนการเหล่าน้ีภายใต้ คาว่า “การทาให้เป็นกฎหมาย” และ “การทาให้เป็นสินค้า”โดยเขาได้ยกตัวอย่าง ความสัมพันธ์ของลูกค้า ในระบบรัฐสวัสดิการ ว่าเป็นกรณีตัวอย่างของการควบคุมโลกชีวิตโดยรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ เนื่องจาก รัฐสวัสดิการจะทาให้ความสัมพันธ์ในโลกชีวิตต้องขึ้นต่อระบบเงินตราและระบบราชการ โดยการเข้าควบคุม การใช้จ่ายของนโยบายสวัสดิการ เช่น จะใช้เงินได้ในกรณีใด เงื่อนไขใด ในจานวนเงินแค่ไหน ให้สอดคล้อง กับกฎเกณฑ์ที่ระบบเงินตราและอานาจเป็นผู้กาหนด เท่ากับว่า ความสัมพันธ์ในโลกชีวิตต้องได้รับผลกระทบ และระบบเหตผุ ลกเ็ ปล่ียนไปดว้ ย อย่างไรก็ตาม การศึกษาพัฒนาการกองทุนสวัสดิการองค์กร สู่กองทุนสวัสดิการหน่วยงานของรัฐ สมทบ กรณีกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ผู้วิจัยได้นาทฤษฏีว่าด้วยการกระทาการ เชิงการสอ่ื สาร ของเยอเก็น ฮาเบอร์มัส โดยเฉพาะอย่างยืน่ ประเดน็ มโนทศั น์ วา่ ด้วย “ระบบ-โลกชวี ิต” เพอื่ สู่กองทุนสวัสดิการของหน่วยงานของรัฐสมทบ(ในท่ีน้ีคือองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี) ซึ่งเป็นระบบ สวัสดิการองค์กรท่ีมีส่วนผสมของชุมชน ท้องถ่ิน และหน่วยงานของรัฐ โดยหน่วยงานของรัฐในที่นี้คือองค์การ บริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดต้ังกองทุนสวัสดิการฯ ที่เป็นหน่วยงานของรัฐจะเข้าควบคุมสมาชิก กองทุนฯดาเนินการในกองทุนสวัสดิการฯอย่างเป็นระบบ ผ่านระเบียบที่ทางกองทุนฯกาหนด เหมือนโลกชีวิต ที่เข้าครอบงาโดยระบบท่ีมีความซับซ้อนทางเศรษฐกิจและการบริหารออกมาแทรกแซงและครอบงาสมาชิก กองทนุ ฯต่อไป 5.วัตถุประสงค์ของการวิจยั 1.เพอ่ื ศกึ ษาการดาเนนิ งานของกองทุนสวสั ดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 2.เพือ่ ค้นหาแนวทางการพฒั นากองทนุ สวสั ดิการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดกาญจนบุรี 6.วิธีดาเนนิ การวิจัย 1.กลุ่มตัวอย่าง ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง คือ เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยพิจารณา จากการตัดสินใจของผู้วิจัยเอง ลักษณะของกลุ่มท่ีเลือกเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย การเลือกกลุ่ม ตวั อย่างแบบเจาะจงตอ้ งอาศัยความรอบรู้ ความชานาญ และประสบการณ์ในเรอื่ งนนั้ ๆ ของผู้ทาวิจัย

-15- 2.กลมุ่ เปา้ หมายในการสนทนา มี 1 กล่มุ คอื เจา้ หน้าทีป่ ฏบิ ตั ิงานดา้ นสวัสดกิ ารองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั กาญจนบรุ ี จานวน 2 คน 3.เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการวิจยั สาหรับเคร่อื งมือทใ่ี ช้ในการศกึ ษาเชิงคณุ ภาพครงั้ น้ี ไดแ้ ก่ แบบสัมภาษณ์ เป็นเคร่ืองมือการวิจัยในการ ตอบวัตถุประสงค์ข้อท่ี 1 และประเด็นสนทนากลุ่มเป็นเครื่องมือวิจัยในการตอบวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 และ การศึกษาเอกสารเป็นวธิ ีการเก็บขอ้ มูลของงานวจิ ัย ที่ใช้ในการตอบวตั ถปุ ระสงค์งานวจิ ัยในข้อที่ 1 4.การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ผู้วจิ ยั ไดด้ าเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล คอื 4.1 ตดิ ต่อขอข้อมูลปฐมภูมิ จากกลุ่มเป้าหมาย โดยนัดวันและเวลา เพ่ือทาการสัมภาษณ์เชิงลึก และ ตดิ ต่อขอขอ้ มลู ทตุ ยิ ภูมิ คอื เอกสารต่างๆท่ีเก่ยี วกับกองทนุ สวสั ดกิ ารฯจากคณะกรรมการสวัสดิการฯ 4.2 อธิบายให้ประชากรท่ีเป็นกลุ่มตัวอย่างเข้าใจในวัตถุประสงค์ และประโยชน์ที่จะได้รับจากการ สนทนากลุ่ม พร้อมทั้งดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2564 และ นาผลท่ไี ด้จากการเกบ็ รวบรวมข้อมลู มาตรวจสอบความสมบรู ณ์ของการตอบแลว้ จึงนาไปวิเคราะห์ข้อมูล 5.การวเิ คราะห์ข้อมลู สาหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพคร้ังน้ีผู้วิจัยมีการวิเคราะห์เชิงเน้ือหา จากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ ซ่ึงได้จากการสัมภาษณ์กลุ่มประชากรเป้าหมายท่ีเกี่ยวข้องโดยตรงทาให้ได้ข้อมูลเชิงลึก และจากแหล่งข้อมูล ทุติยภูมิ ซ่ึงได้จากข้อมูลเอกสารของคณะกรรมการสวัสดิการฯ โดยนาเสนอข้อมูลที่ได้ทั้งสองแหล่งในลักษณะ ของการวิเคราะหเ์ ชิงพรรณนา 7.สรปุ ผลการวจิ ัย 1.ลักษณะการดาเนินงานของกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ความเป็นมา และพัฒนาการของกองทุนสวัสดิการฯ การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการฯ มีการพัฒนาการของกองทุนสวัสดิการฯ โครงสร้างกองทุนสวัสดิการฯ มีคณะกรรมการสวัสดิการฯคณะหน่ึงทาหน้าที่ดาเนินงานและให้คาปรึกษา แก่คณะอนุกรรมการชุดต่างๆ เพื่อให้การดาเนินงานหรือประกอบกิจกรรมเป็นไปตามหลักของการบริหาร จัดการที่ดีและสอดคล้องกับระเบียบกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง แนวคิดในการดาเนินงานกองทุนสวัสดิการฯ มีความ สามัคคีและสมานฉันทบ์ นพืน้ ฐานของสังคมคุณธรรม 2.กระบวนการดาเนนิ งานกองทุนอานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ กาหนดนโยบายหลักการ และวิธีดาเนินการ ของกองทุนสวัสดิการฯ กาหนดระเบียบหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกองทุนสวัสดิการฯให้เป็นไปตาม วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนินงานกองทุนสนับสนุนในด้านการจัดต้ังกองทุนฯ โดยสนับสนุนบุคลากรในการจัดต้ัง กองทุนฯใหข้ ้อมูลและนโยบายตา่ งๆท่สี าคัญในการดาเนินงาน 3.ปัญหาในการดาเนินงานของกองทุนมีหลายข้ันตอนทาให้บุคลากรไม่เข้าใจในการดาเนินงาน แนวทางการแก้ไขปัญหาทิศทางและแนวโน้มในการดาเนินงานกองทุนสวัสดิการฯ การจัดสวัสดิการให้แก่ สมาชกิ กองทุนฯโดยผ่านกระบวนการจัดการฐานขอ้ มลู และการนาข้อมูลไปใช้ เพือ่ จดั สรรเงินทุน หนุนการเสริม ศักยภาพคณะกรรมการสวัสดกิ ารฯในการบรหิ ารกองทุนฯ 4.แนวทางการพัฒนากองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เพ่ือให้เกิด ความก้าวหน้า จากการวิเคราะห์ข้อมูลถึงแนวทางในการพัฒนากองทุนฯ คือมีการสร้างหลักประกันให้กับ สมาชกิ กองทุนฯตามความต้องการของสมาชกิ กองทนุ ฯ เป้าหมายหลักในการจัดสวัสดิการ คือ มุ่งเน้นท่ีสมาชิก กองทุนฯเป็นหลัก การจัดสวัสดิการท่ีเหมาะสมกับบริบทขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี การดาเนินการทเี่ สมอภาค ความเท่าเทียมในการให้บริการ และรับผลประโยชน์ การมีส่วนร่วมของบุคลากรใน ทุกกระบวนการ การเพ่ิมศักยภาพในการบริหารกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี การพฒั นากองทุนฯใหเ้ ป็นแหลง่ เรียนรู้ การสนบั สนนุ งบประมาณและการสรา้ งภาคเี ครอื ขา่ ย

-16- 8.อภปิ รายผล 1.ลักษณะการดาเนินงานของกองทุนสวัสดิการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั กาญจนบุรี คือ มีโครงสร้าง กองทุนฯ มีคณะกรรมการฯทาหน้าท่ีบริหารงานกองทุนฯและให้คาปรึกษาแก่คณะอนุกรรมการฯด้านอื่นๆ เพือ่ ให้การดาเนินงานหรือประกอบกจิ กรรมเปน็ ไปตามหลกั ของการบรหิ ารจัดการที่ดีและสอดคล้องกับระเบียบ กฎหมายที่เกยี่ วขอ้ ง มีแนวคิดในการดาเนินงานกองทุนฯบนความสามัคคีและสมานฉันท์บนพื้นฐานของสังคมคุณธรรม โดยกาหนดนโยบาย หลักการ และวิธีดาเนินการของกองทุนฯ กาหนดระเบียบหลักเกณฑ์ และวิธีดาเนินการ และวธิ ีการบรหิ ารกองทุนฯใหเ้ ป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์การจัดตัง้ โดยมีทิศทางและแนวโน้มในการดาเนินงานกองทุนฯ การจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกกองทุนฯโดยผ่าน กระบวนการจัดการฐานข้อมูลของสมาชิกกองทุนฯและการนาข้อมูลไปใช้ ออกระเบียบกองทุนฯว่าด้วย การจัดสวัสดิการแก่สมาชิกกองทุนฯ เพ่ิมศักยภาพคณะกรรมการฯในการบริหารงานกองทุนฯให้มี ความสอดคล้องกบั แนวคดิ เกีย่ วกับการจัดสวัสดิการแก่สมาชิกกองทุนฯผ่านการประชุมและระดมความคิดเห็น ร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างระบบความม่ันคงเพื่อช่วยเหลือเก้ือกูลกันของบุคลากรในสังกัดองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีการระดมทุนผ่านการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนฯ และมีการบริหารจัดการตาม ความต้องการของสมาชิกกองทุนฯ และได้รับการสนับสนุนจาก คณะผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบรุ ี เพื่อใหก้ องทนุ ฯ เช่น การอนุญาตให้กองทุนสวัสดิการฯใช้พ้ืนที่จาหน่ายอาหาร โดยให้มีผู้รับจ้างมา จาหนา่ ยอาหารและเกบ็ เปน็ เงนิ รายไดข้ องกองทุนฯ กระบวนการจัดสวัสดิการฯเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์การบริหา รส่วนจังหวัดกาญจนบุรี กิจกรรมสวัสดิการฯทหี่ ลากหลายควรได้รับการสนบั สนนุ จากคณะผ้บู ริหาร และสมาชกิ กองทนุ ฯ ซ่ึงเหน็ ไดว้ ่า ความเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีและกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วน จังหวดั กาญจนบรุ ี มคี วามเกีย่ วข้องสัมพันธ์กนั มกี ารใช้หลักคณุ ธรรมและออกระเบียบสวัสดกิ ารท่ีเป็นแบบแผน และสวัสดกิ ารทั้งหลายก็ตัง้ อยบู่ นพ้ืนฐานของการเคารพและใหเ้ กียรติกันในกลุ่มสมาชิกกองทุนฯ ปัจจัยภายในทีม่ ผี ลตอ่ การจัดกองทนุ สวัสดิการองค์การบริหารส่วนจงั หวัดกาญจนบรุ ี ไดแ้ ก่ 1)ปัจจัยองค์กรและการบรหิ ารจดั การ 2)ปัจจัยการรวมกล่มุ ของสมาชิก 3)ปจั จัยกระบวนการแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละการปรบั ตัว 4)ปัจจยั การขยายผลและขับเคลื่อนสู่เปา้ หมาย 5)รูปแบบการจัดสวัสดิการของกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีโดยองค์การ บริหารส่วนจงั หวดั กาญจนบุรี 2.แนวทางการพฒั นากองทุนสวัสดิการองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั กาญจนบุรี คือ การสร้างหลักประกันให้กับสมาชิกกองทุนตามความต้องการของสมาชิกกองทุนฯ เป้าหมายหลัก คือมุ่งเน้นไปที่สมาชิกกองทุนฯเป็นหลัก จัดสวัสดิการท่ีเหมาะสมกับบริบทขององค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรี การดาเนินการท่ีเสมอภาค เท่าเทียมในการให้บริการ และรับผลประโยชน์ การมีส่วนร่วม ของสมาชิกกองทุนฯทุกกระบวนการ การเพิ่มศักยภาพในการบริหารกองทุนฯ การสนับสนุนงบประมาณ และสร้างภาคีเครือขา่ ย และควรสอดคล้องกบั หลักการท่ีวา่ ควรปรับปรุงการดาเนินงานภายในให้สอดคล้องกับ นโยบายจากทางคณะกรรมการสวัสดิการฯและปัจจัยภายนอก เพื่อขยายการดาเนินงานให้ครอบคลุมใน วงกว้าง โดยเฉพาะพัฒนาโครงสร้างการบริหารงานของคณะกรรมการสวัสดิการฯชุดปัจจุบัน และภาคีต่างๆ กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีการปรับปรุงระบบการจัดสวัสดิการให้เหมาะสมกับความเป็นจริง และสอดคล้องกับขีดความสามารถของกลุม่ ทบทวนและปรับปรงุ ประเภทการจัดสวัสดกิ ารดา้ นตา่ งๆ

-17- เงินสวัสดิการแต่ละประเภทให้มีความเหมาะสมกับเงินรายได้ของกองทุนฯ รวมถึงการปรับเปลี่ยนทัศนคติ เก่ียวกับการออมให้กับสมาชิกกองทุนฯฝึกนิสัยการออมเพื่อเป็นหลักประกันให้กับตนเองในอนาคต ในเชิง การพัฒนาการดาเนินงานของกองทุนฯ ควรพิจารณาปรับปรุงในเร่ืองต่างๆ ได้แก่ การสร้างความเข้าใจ กับสมาชกิ กองทุนฯ เพ่อื ทาใหค้ นหันหน้ามาหากนั ร่วมกนั คดิ ถงึ การพ่ึงตนเองการพัฒนาการดาเนินงานกองทุน สวัสดิการฯ ในการดาเนินงานกองทุนฯ จะพบปัญหาอุปสรรคเป็นระยะ ดังนั้นต้องมีสรุปบทเรียน พยายาม เรียนรู้จากปัญหาและช่วยกันแก้ไข มีการบูรณาการกองทุนสวัสดิการฯกับการพัฒนาบุคลากรที่เป็นสมาชิก กองทุนฯ เพื่อเชื่อมโยงงานสวัสดิการฯให้กับมิติการพัฒนาด้านต่างๆกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งด้านเศรษฐกิจของสมาชิกกองทุนฯ อาชีพ สังคม การดูแลผู้เดือดร้อน ให้สอดคล้องกับวิธีการในการพัฒนา ท่ีย่ังยืน ต้องสร้างเครือข่ายที่ดีเช่ือมโยงในทุกระดับ ต้ังแต่ระหว่างสมาชิกกองทุนฯ คณะกรรมการกองทุนฯ ผูบ้ รหิ าร ตลอดจนกับทางองคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั กาญจนบรุ ี ซ่งึ จะกลายเปน็ กระแสใหญท่ ่ีมพี ลงั มาก สรุปได้ว่า การพัฒนาต้องเหมาะสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมองค์กร และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ ท่ีเสียหายต่อบุคลากรในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีในระยะยาว เป้าหมายการพัฒนาต้อง มงุ่ เนน้ ทีส่ มาชิกกองทนุ ฯเปน็ หลัก ไม่ใช่เพือ่ ตัวเลขการเจริญเติบโตทางด้านการเงนิ ของกองทุนฯเพียงอย่างเดียว การพฒั นาจะตอ้ งกระจายอานาจ กระบวนการตัดสินใจและการควบคุมดูและการใช้จ่ายให้แก่สมาชิกกองทุนฯ เพ่ือให้สมาชิกกองทุนฯสามารถพึ่งตนเองได้มากที่สุด การใช้หลักประชาธิปไตยในกระบวนการบริหารจัดการ กลุ่มในสมาชิกกองทุนฯ เพ่ือให้สมาชิกกองทุนฯทุกประเภทสมาชิกได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนา การพฒั นาจะต้องเกิดจากทราบปัญหาระดบั ลา่ ง แล้วค่อยดาเนนิ การพฒั นาจากระดบั ลา่ งไปสู่ระดับบน 9.ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะในการนาผลการวจิ ัยไปใช้ 1.กองทุนสวัสดิการฯควรจัดหาสถานท่ีทาการเป็นของตนเอง มีการวางแผนร่วมกันไว้ว่าจะติดต่อ สถานท่ีในองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัดกาญจนบุรี ทีป่ ลอ่ ยทิง้ ไวแ้ ละไมไ่ ด้ใชป้ ระโยชน์เป็นทที่ าการ 2.กองทุนสวัสดิการฯ ควรมีการเพ่ิมสวัสดิการรูปแบบใหม่ๆ เช่น การเคหะสงเคราะห์แก่สมาชิก การสงเคราะห์ข้าราชการในด้านอื่นๆ เช่น เงินช่วยค่าอาหาร เงินช่วยค่าเดินทาง เงินช่วยค่าเคร่ืองแบบหรือ เครื่องแต่งกาย เงนิ ทนุ การศกึ ษา หรอื เงินสงเคราะห์ผ้ปู ระสบภยั เปน็ ต้น 3.คณะกรรมการสวัสดิการฯควรมีการจัดทาแผนดาเนินงานของกองทุนสวัสดิการองค์การบริหาร ส่วนจงั หวัดกาญจนบุรี ทงั้ ระยะส้ันและระยะยาว 4.คณะกรรมการสวัสดิการฯควรมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ท้ังภายในองค์การ บริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และภายนอกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ขอแนวทางการพัฒนา กองทุนสวัสดิการฯท่ีอนื่ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความก้าวหนา้ และยั่งยืนตอ่ ไป 5.กองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ควรจัดทาฐานข้อมูลเครือข่ายกองทุน สวัสดิการของท่ีอ่ืน เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในการสร้างเครือข่ายในการศึกษาติดตามการดาเนินงานของกองทุน สวสั ดกิ ารทอ่ี ่นื 6.กองทนุ สวสั ดิการองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั กาญจนบุรี ควรจัดทาการประเมินความพึงพอใจในการ ใหบ้ ริการทกุ ครัง้ ท่ีสมาชกิ เข้ารบั การบริการท่ีสานักงานกองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และมีการนาผลการประเมนิ มาปรบั ปรุง หรือพัฒนายกระดบั มาตรฐานให้ดขี ึ้น 7.กองทนุ สวัสดิการองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวัดกาญจนบุรี ควรมีการสารวจข้อมูลของบุคลากรในสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีสมาชิกกองทุนฯตามระเบียบ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนฯ ออมสามัญ โดยการสร้างแรงจูงใจให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนฯออมสามัญ เพื่อกองทุนสวัสดิการองค์การ บริหารส่วนจงั หวดั กาญจนบุรจี ะไดม้ ีสมาชกิ กองทุนฯออมเงนิ เตม็ จานวน

-18- 8.กองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ควรมีการสร้างคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามา มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการสวัสดิการฯ หรือคณะอนุกรรมการฯ เรอ่ื งตา่ งๆ เพ่ือให้เปน็ การเตรียมความพร้อมในการพัฒนาทยี่ ัง่ ยนื ต่อไป 9.กองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ควรมีการนาระบบให้บริการ ให้มี การใช้เทคโนโลยีทีท่ นั สมัยอยู่เสมอ 10.กองทุนสวัสดิการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ควรพัฒนาให้มีวิทยากรของกองทุนฯ เพื่อทาหน้าท่ีถา่ ยทอดความรู้ในการบริหารจดั การกองทนุ ฯ สู่กองทนุ ฯอื่นๆ

-19- 10.บรรณานกุ รม เนตรชนก พาคา, เชดิ เกยี รติ กลุ บุตร, พรกมล ระหาญนอก./(2563). แนวทางการพฒั นากองทนุ สวสั ดิการ ชุมชนของเทศบาลตาบลนาอ้อ อาเภอเมอื ง จังหวดั เลย (วิทยานิพนธ์ปรญิ ญามหาบัณฑิต). เลย : มหาวิทยาลัยราชภฏั เลย. อุดมศักด์ิ เดโชชยั , บุญย่ิง ประทมุ , ดร.สรุ ินทร์ ทองทศ./(2555). รายงานการวิจัยการศกึ ษาพัฒนาการกองทุน สวสั ดิการชมุ ชน สกู่ องทนุ สวสั ดกิ ารรัฐสมทบ กรณศี กึ ษา กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนจังหวดั นครศรีธรรมราช (วิทยานพิ นธป์ ริญญามหาบัณฑิต). นครศรธี รรมราช : มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรธี รรมราช.

ภาคผนวก