Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบไฟฟ้ารถจักรยานยนต์

ระบบไฟฟ้ารถจักรยานยนต์

Published by r.u.reda40, 2020-04-24 10:10:44

Description: ระบบไฟฟ้ารถจักรยานยนต์

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้า รถจกั รยานยนต์

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ (Lighting And Charging System) ระบบไฟแสงสวา่ ง ทาหนา้ ที่ใหแ้ สงสวา่ งดา้ นหนา้ และดา้ นทา้ ยของรถจกั รยานยนต์ เพื่อความปลอดภยั ในขณะขบั ขี่ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ไฟหนา้ ไฟหร่ี ไฟหนา้ ปัด และไฟทา้ ย ระบบไฟชารจ์ ทาหน้าท่ีผลิตกระแสไฟฟ้าเพือ่ ท่ีจะชารจ์ ไฟใหก้ บั แบตเตอรี่ และ จา่ ยกระแสไฟฟ้าใหก้ บั วงจรไฟสญั ญาณ เชน่ ไฟเล้ ียว ไฟแตร ไฟเบรก เป็ นตน้ วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบรู พาปราจนี ผู้สอน นายศิรศิ กั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ส่วนประกอบของระบบไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ 1. ลอ้ แมเ่ หล็ก (Magnetic Flywheel or Rotor) ลอ้ แมเ่ หล็กเป็ นที่ติดต้งั แมเ่ หล็กถาวรไว้ จานวน 2 - 3 คู่ จะยดึ ติดกบั ปลายดา้ นหนึ่งของเพลาขอ้ เหวย่ี ง และหมุนไปพรอ้ ม เครอ่ื งยนต์ วิชา งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจีน ผู้สอน นายศริ ศิ กั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผู้สอน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา สว่ นประกอบของระบบไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ 2. ชุดขดลวดไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ (Lighting And Charging Coil) ทาหนา้ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้ากระแสสลบั (AC) หลกั การทางาน ขดลวดจะติดต้งั อยกู่ บั ที่ลอ้ แมเ่ หล็กจะหมุนไปกบั ปลายเพลาขอ้ เหวย่ี งดา้ นซา้ ย สนามแมเ่ หล็กหมุนตดั กบั ขดลวดจะเกิดการเหนี่ยวนา ท่ีเสน้ ลวด ซง่ึ พนั รอบแกนเหล็กออ่ นเกิดมี กระแสไฟฟ้าข้ นึ กระแสไฟฟ้าท่ีไหลออกมาจะเป็ น กระแสไฟฟ้าสลบั (AC) วชิ า งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจนี

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ สว่ นประกอบของระบบไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ 3. ชุดเรียงกระแส (Rectifier) หรือ ไดโอด(Diode) ทาหนา้ ที่เป็ นตวั เรียงกระแสไฟฟ้าหรอื เป็ นตวั แปลงกระแสไฟฟ้าสลบั (AC) ใหเ้ ป็ นกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) หรือทาหนา้ ที่ เป็ นล้ ินทางเดียว คอื กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไดท้ างเดียวซงึ่ แบ่งการเรียงกระแสไฟฟ้าไวเ้ ป็ น 2 แบบ คือ 3.1 การเรยี งกระแสไฟฟ้าแบบครง่ึ คล่ืน 3.2 การเรียงกระแสไฟฟ้าแบบเต็มคลื่น วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลัยเทคนคิ บรู พาปราจนี ผสู้ อน นายศิริศกั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ หลกั การทางาน ไฟฟ้ากระแสสลบั เกดิ จากแมเ่ หล็กหมุนตดั กบั ขดลวดซง่ึ พนั อยรู่ อบแกนเหล็ก ชุด เรียงกระแสจะแปลงกระแสไฟฟ้าสลบั (AC) ใหเ้ ป็ นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และยอมให้ กระแสคร่งึ คลื่นผ่านไดท้ างเดียว เพอ่ื ไปจะประจุเขา้ ในแบตเตอรแ่ี ละเรียงกระแสดว้ ยไดโอด การเรียงกระแสไฟฟ้าออกแบบเต็มคลื่นเป็ นรปู แบบของการเรยี งกระแสชนิดหนึ่ง เพื่อใชก้ บั คล่ืนอีกคร่งึ หน่ึงของแรงดนั ไฟฟ้าสลบั (AC) ท่ีเกดิ ข้ นึ ในการเรียงกระแสออกคร่งึ คลื่น วธิ ีการน้ ีจะออกแบบใหม้ ีไดโอด 4 ตวั ในวงจร การเรยี งกระแสมคี วามคงที่โดยไมต่ อ้ ง คานึงถึงทิศทางของกาลงั ส่งแรงดนั ไฟฟ้า เม่อื แรงดนั ไฟฟ้า AC ท้งั หมดจากกาลงั สง่ คา่ กระแสไฟฟ้าจะมากข้ นึ และขอ้ ดี คอื การเปล่ียนแปลงกะทนั หนั ของคลื่นเพยี งเล็กนอ้ ย วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจีน ผู้สอน นายศิริศักดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ วชิ า งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ บูรพาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ชนิดของการควบคุมไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ 1. AC เรกกูเลเตอร์ ใชค้ วบคุมกระแสไฟฟ้าเพ่อื ป้องกนั ไมใ่ หก้ ระแสไฟเขา้ แบตเตอร่ีมาก เกินไปในเวลากลางวนั (เน่ืองจากไมไ่ ดใ้ ชไ้ ฟหนา้ ) และป้องกนั หลอดไฟหนา้ ไฟทา้ ยขาด เร็วรวมท้งั ป้องกนั การประจุแบตเตอรีม่ ากเกนิ ไปในเวลากลางคืน การทางาน แบบน้ ีจะควบคุมแรงเคล่ือนที่ผลิตจากขดลวดไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ ท้งั คล่ืนบวกและ คล่ืนลบเพื่อใหแ้ รงเคลื่อนคงท่ีอยเู่ สมอ โดยเรกกูเลเตอรจ์ ะตอ่ เขา้ กบั ขว้ั แบตเตอรโ่ี ดยตรง เพอ่ื ควบคุมสภาวะกระแสไฟชารจ์ แบตเตอรี่ โดยเฉพาะการควบคุมคล่ืนลบเพอ่ื ใชก้ บั หลอดไฟ สว่ นอุปกรณอ์ ่ืนๆ จะไดร้ บั ไฟจากครงึ่ คลื่นบวกที่ใชป้ ระจุแบตเตอร่ี วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบูรพาปราจีน ผู้สอน นายศริ ิศักด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ วชิ า งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ บูรพาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ชนิดของการควบคุมไฟแสงสวา่ งและไฟชารจ์ 2. AC / DC เรกกูเลเตอร์ (หรอื เรียกวา่ Rectifier Regulator) แบบน้ ีจะควบคุมแรงเคลื่อนที่ ส่งใหห้ ลอดไฟหนา้ และควบคุมกระแสท่ีประจุเขา้ แบตเตอรี่ โดยจะมชี ุดเรียงกระแสสลบั อยใู่ นตวั การทางาน AC เรกกูเลเตอร์ จะใชเ้ พอ่ื ควบคุมไฟกระแสสลบั คร่ึงคล่ืนทางดา้ นลบ ขดลวดไฟชารจ์ และ ไฟแสงสวา่ ง เพ่อื ไมใ่ หแ้ รงเคลื่อนสงู เกนิ ไป และพยายามควบคุมใหค้ งท่ีอยเู่ สมอ เพ่ือส่งไป ไฟหนา้ ส่วนกระแสไฟท่ีประจุแบตเตอรี่จะใชก้ ระแสครง่ึ คล่ืนทางดา้ นบวกเท่าน้ัน และ ควบคุมกระแสไมใ่ หส้ งู เกนิ ไปในขณะความเร็วรอบสูง วชิ า งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนิคบรู พาปราจีน ผสู้ อน นายศิริศักด์ิ ทพิ มาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ วชิ า งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ บูรพาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ขดลวดสวา่ งแสงและไฟชารจ์ จะถกู ติดต้งั อยกู่ บั ท่ี และใหล้ อ้ แมเ่ หล็กเป็ นตวั หมุนเพอ่ื ให้ สนามแมเ่ หล็กตดั กบั ขดลวดทาใหเ้ กิดกระแสไฟสลบั (AC) ซึ่งระบบไฟชารจ์ จะรวมกนั อยู่ เป็ น 2 วงจรสาหรบั ใชไ้ ฟเมือ่ ขบั ขีท่ ้งั กลางวนั และกลางคนื วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบูรพาปราจีน ผู้สอน นายศริ ศิ กั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ กระแสไฟสลบั (AC) ท่ีเกิดข้ นึ จะไหลผ่านชุดเรียงกระแส (Rectifier) เพ่อื แปลงใหเ้ ป็ น กระแสไฟตรง (DC) กอ่ นที่จะประจุเขา้ กบั แบตเตอร่ี เมื่อแบตเตอร่ีมีประจุไฟเต็มแลว้ SCR ท่ีอยภู่ ายในเรกกูเลเตอรจ์ ะเริ่มทางาน ทาใหก้ ระแสไฟไหลกลบั ไปยงั ขดลวด เพื่อป้องกนั การโอเวอรช์ ารจ์ ของแบตเตอรี่ อีกท้งั จะควบคุมแรงเคล่ือนของไฟแสงสวา่ งเพ่อื ป้องกนั หลอดไฟขาด วิทยาลัยเทคนคิ บูรพาปราจนี ผู้สอน นายศริ ิศกั ดิ์ ทพิ มาลา วิชา งานจักรยานยนต์

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ (Signal System) ระบบไฟสญั ญาณเป็ นระบบที่เตือน หรือบอกผูอ้ ่ืนใหร้ ถู้ ึงการขบั ข่ี เชน่ ไฟ กระพริบ บอกใหร้ วู้ า่ จะเล้ ียว ไฟเบรก จะ หยดุ แตรใหร้ ะวงั นอกจากน้ ียงั บอกใหผ้ ู้ ขบั ขรี่ อู้ ยา่ งอื่นอีก เชน่ ไฟเกยี รว์ า่ ง ไฟบอก ตาแหน่งเกยี ร์ เกจวดั ระดบั น้ามนั เช้ อื เพลิง เป็ นตน้ วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลัยเทคนคิ บรู พาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ ประกอบดว้ ยวงจรไฟพ้ นื ฐานดงั น้ ี วงจรไฟเล้ ียว หนา้ ท่ี แสดงสญั ญาณใหผ้ ขู้ บั ขรี่ ถจกั รยานยนตห์ รือผูใ้ ชถ้ นน ไดร้ วู้ า่ รถท่ีเรา ขบั อยกู่ าลงั จะเล้ ียว เปล่ียนชอ่ งทางเดินรถ หรอื แซงรถคนั อื่น เชน่ ถา้ กะพริบดา้ นขวาก็ หมายถึงรถคนั น้ันจะเล้ ียวขวา หลอดไฟเล้ ียวจะมกี ารกะพริบเป็ นจงั หวะโดยอาศยั แฟลช เชอรร์ ีเลยไ์ ฟเล้ ียว ที่มีความเรว็ ในการกะพรบิ 60 - 120 คร้งั / นาที สว่ นประกอบ 1. แบตเตอร่ี 2. ฟิ วส์ 3 . สวติ ชก์ ุญแจ 4 . แฟลชเชอรร์ ีเลย์ 5 . สวติ ชไ์ ฟเล้ ียว 6 . หลอดไฟเล้ ียว วชิ า งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ บรู พาปราจีน ผ้สู อน นายศิรศิ กั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ สว่ นประกอบ 1. แบตเตอร่ี 2. ฟิ วส์ 3. สวติ ชก์ ุญแจ 4. แฟลชเชอรร์ เี ลย์ 5. สวติ ชไ์ ฟเล้ ียว 6. หลอดไฟเล้ ียว วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนิคบูรพาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ หลกั การทางาน กระแสไฟจากแบตเตอรไ่ี หลผ่านฟิ วสเ์ ขา้ สวติ ชก์ ุญแจ เมื่อเป็ นสวติ ช์ กุญแจในตาแหน่ง “ON” กระแสไฟไหลผ่านสวติ ชก์ ุญแจเขา้ ที่ข้วั B(X) ของแฟลชเชอร์ ผ่านแฟลชเชอรอ์ อกข้วั L ไหลตอ่ ไปยงั สวติ ชไ์ ฟเล้ ียวตาแหน่งกง่ึ กลาง เม่อื เปิ ดสวติ ช์ ตาแหน่งไฟเล้ ียวขวา สวติ ชต์ ่อวงจร กระแสไฟจะไหลเขา้ ชุดหลอดไฟเล้ ียวขวาที่ข้วั บวกผ่าน ไสห้ ลอดออกข้วั ลบลงกราวด์ ทาใหช้ ุดไฟเล้ ียวขวากะพรบิ เมื่อเปิ ดไฟเล้ ียวซา้ ยสวติ ชต์ อ่ วงจร กระแสไฟจะไหลเขา้ ชุดหลอดไฟเล้ ียวซา้ ยท่ีขวั่ บวกผ่านไสห้ ลอดออกขว้ั ลบลงกราวด์ ไฟเล้ ียวซา้ ยจะสวา่ ง และกระพริบโดยการควบคุมของแฟลชเ์ ชอร์ วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจีน ผู้สอน นายศิรศิ ักดิ์ ทพิ มาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ ประกอบดว้ ยวงจรไฟพ้ นื ฐานดงั น้ ี วงจรไฟเบรก หนา้ ท่ี ส่องโคมไฟสีแดงทางดา้ นทา้ ยรถเม่อื เวลาเหยยี บเบรก เป็ นสญั ญาณ เตือนใหผ้ ูข้ บั ข่รี ถท่ีอยดู่ า้ นหลงั ไดท้ ราบวา่ รถท่ีอยดู่ า้ นหนา้ กาลังเบรก ไฟเบรกจะอยภู่ ายใน หลอดเดียวกนั กบั ไฟทา้ ย แตจ่ ะแยกไสห้ ลอดสงั เกตไดจ้ ากการสอ่ งสวา่ ง ถา้ เป็ นไฟเบรก จะมกี ารส่องสวา่ งมากกวา่ ไฟทา้ ย วิชา งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนิคบรู พาปราจนี ผูส้ อน นายศริ ิศกั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ สว่ นประกอบ 1. แบตเตอรี่ 2. ฟิ วส์ 3. สวติ ชก์ ุญแจ 4. สวติ ชเ์ บรกหนา้ 5. สวติ ชเ์ บรกหลงั 6. ไฟทา้ ย/ไฟเบรก วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนิคบูรพาปราจีน ผ้สู อน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ หลกั การทางาน กระแสไฟจากแบตเตอรไี่ หลผ่านฟิ วสเ์ ขา้ สวติ ชก์ ุญแจ เมื่อเปิ ดสวติ ช์ กุญแจในตาแหน่ง “ON” และเหยยี บเบรกหลงั กระแสไฟไหลผ่านสวติ ชก์ ุญแจเขา้ สวิตช์ เบรกหลงั ผ่านสวติ ชเ์ บรกหลงั จะไหลเขา้ ชุดหลอดไฟเบรกที่ข้วั บวกผ่านไสห้ ลอดออกขว้ั ลบ ลงกราวด์ หลอดไฟเบรกกจ็ ะสวา่ ง เม่อื กามอื เบรกหนา้ กระแสไฟไหลผ่านสวติ ชก์ ุญแจเขา้ สวติ ชเ์ บรกหนา้ ผ่านสวติ ชเ์ บรกหนา้ จะไหลเขา้ ชุดหลอดไฟเบรกท่ีข้วั บวกผ่านไสห้ ลอด ออกขว้ั ลบลงกราวด์ หลอดไฟเบรกก็จะสวา่ ง วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบรู พาปราจีน ผู้สอน นายศริ ศิ ักด์ิ ทพิ มาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ ประกอบดว้ ยวงจรไฟพ้ นื ฐานดงั น้ ี วงจรแตร หนา้ ที่ แปลงกระแสไฟฟ้าใหเ้ ป็ นสญั ญาณเสียง โดยการสนั่ สะเทือนของแผ่น ไดอะแฟรม สว่ นประกอบ 1. แบตเตอรี่ 2. ฟิ วส์ 3. สวติ ชก์ ุญแจ 4. แตร 5. สวติ ชแ์ ตร วิชา งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจีน ผสู้ อน นายศิริศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ หลกั การทางาน เมื่อกดสวติ ชแ์ ตร กระแสไฟจากแบตเตอร่ีจะไหลผ่านขดลวด หนา้ ทองขาวและสวติ ชแ์ ตรลงกราวด์ ทาใหข้ ดลวดเกดิ อานาจแมเ่ หล็กดดู อารม์ าเจอร์ (Armature) เลื่อนลงดนั หนา้ ทองขาวใหเ้ ปิ ด เป็ นการตดั วงจรไฟฟ้ากระแสไฟหยดุ ไหล ทา ใหข้ ดลวดจะหมดอานาจแมเ่ หล็ก อารม์ าเจอรจ์ ะดีดกลบั หนา้ ทองขาวจะตอ่ กนั ทาให้ กระแสไฟไหลผ่านไดอ้ ีก *จากการทางานดงั กล่าว จะเกิดข้ นึ รวดเร็วมาก ไดอะแฟรมจงึ สนั่ และเกิดเสียงดงั ข้ นึ วชิ า งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนิคบรู พาปราจีน ผู้สอน นายศิริศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การปรบั แต่งแตร 1. ในการปรบั เพอ่ื ใหแ้ น่นอน ควรตอ่ แอมมเิ ตอรเ์ ขา้ ในวงจรขณะปรบั แต่งและอ่านคา่ กระแสไฟที่ใช้ (เสียงดงั ของแตรท่ีดีที่สุด 1-1.5 A) วิชา งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนิคบรู พาปราจนี ผ้สู อน นายศิรศิ กั ดิ์ ทพิ มาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การปรบั แต่งแตร 2. สามารถปรบั แต่งโดยการหมุนสกรดู า้ นหลงั ของแตร * ถา้ ขนั สกรเู ขา้ เสียงจะดงั * ถา้ ขนั สกรอู อก เสียงจะคอ่ ยลง วชิ า งานจักรยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบูรพาปราจีน ผ้สู อน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ ประกอบดว้ ยวงจรไฟพ้ นื ฐานดงั น้ ี วงจรไฟเกยี รว์ า่ งและวงจรไฟบอกตาแหน่งเกียรต์ ่าง ๆ วงจรไฟเกียรว์ า่ งมีหนา้ ท่ี เป็ น สญั ญาณบอกตาแหน่งเกียรว์ า่ งแกผ่ ขู้ บั ข่ีกอ่ นสตารต์ เคร่ืองยนต์ เพื่อป้องกนั ความเสียหาย ซึ่งอาจเกิดข้ นึ จากการสตารต์ เครือ่ งยนตใ์ นขณะท่ีเกียรไ์ มว่ า่ ง ส่วนประกอบ 1. แบตเตอรี่ 2. ฟิ วส์ 3. สวติ ชก์ ุญแจ 4. หลอดเกียรว์ า่ ง 5. สวติ ชไ์ ฟเกียรว์ า่ ง 6. หลอดไฟบอกตาแหน่งเกียร์ 7. สวติ ชไ์ ฟเกยี ร์ 1, 2, 3, 4 วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลยั เทคนิคบรู พาปราจนี ผู้สอน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผ้สู อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทิพมาลา หลกั การทางาน กระแสไฟจากแบตเตอรไี่ หล ผ่านฟิ วสเ์ ขา้ กุญแจ เมอื่ เปิ ดสวติ ชก์ ุญแจ ตาแหน่ง “ON” กระแสไฟไหลผ่านสวติ ช์ กุญแจเขา้ หลอดไฟสญั ญาณเกยี ร์ 1, 2, 3, 4 ผ่านหลอดไฟเขา้ สวติ ชไ์ ฟเกยี ร์ 1, 2, 3, 4 เมือ่ เกยี รอ์ ยใู่ นตาแหน่งเกยี ร์ 1 สวติ ชไ์ ฟเกียร์ 1 จะตอ่ วงจรลงกราวดท์ าใหห้ ลอดไฟสญั ญาณ เกียร์ 1 สวา่ ง ส่วนสญั ญาณไฟบอกเกียร์ 2, 3, 4 หลกั การทางานเหมอื นกบั เกียร์ 1 วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจนี

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ ประกอบดว้ ยวงจรไฟพ้ นื ฐานดงั น้ ี วงจรไฟเตือนน้ามนั หล่อล่ืน (2T) หนา้ ที่ เป็ นสญั ญาณเตือนใหผ้ ูข้ บั ขที่ ราบวา่ ขณะน้ ีน้ามนั 2T ใกลจ้ ะหมดถงั แลว้ หลอดไฟท่ีเรือนไมลส์ ีแดงจะโชวข์ ้ นึ ส่วนประกอบ 1. แบตเตอรี่ 2. ฟิ วส์ 3. สวติ ชก์ ุญแจ 4. หลอดไฟเตือนน้ามนั หล่อล่ืน (2T) 5. สวติ ชไ์ ฟเตือนน้ามนั หล่อล่ืน (2T) 6. ถงั น้ามนั หล่อลื่น (2T) วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจนี ผสู้ อน นายศิรศิ ักดิ์ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ หลกั การทางาน กระแสไฟจากแบตเตอรไ่ี หลผ่านฟิ วสเ์ ขา้ สวติ ชก์ ุญแจ เม่ือเปิ ดสวติ ช์ กุญแจตาแหน่ง “ON” กระแสไฟไหลผ่านสวติ ชก์ ุญแจเขา้ หลอดไฟสญั ญาณเตือน น้ามนั หล่อลื่น (2T) ผ่านหลอดไฟเขา้ สวติ ชไ์ ฟเตือนน้าหล่อล่ืน เมอ่ื น้ามนั หล่อล่ืนใกลจ้ ะ หมดถงั ลกู ลอยลดตา่ ลง ทาใหส้ วติ ชไ์ ฟเตือนน้ามนั หล่อล่ืนตอ่ วงจร กระแสไฟไหลผ่าน สวติ ชแ์ ละลงกราวดค์ รบวงจร หลอดไฟสญั ญาณเตือนน้ามนั หล่อล่ืนสวา่ งข้ นึ วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจีน ผูส้ อน นายศริ ิศกั ด์ิ ทพิ มาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ระบบไฟสญั ญาณ ประกอบดว้ ยวงจรไฟพ้ ืนฐานดงั น้ ี วงจรเกจวดั น้ามนั เช้ อื เพลิง หนา้ ท่ี บอกถึงปรมิ าณน้ามนั เช้ ือเพลิงท่ีอยใู่ นถงั วา่ มีมากนอ้ ย เพยี งใด เกจวดั ชนิดน้ ีจะทางานสมั พนั ธก์ บั เกจวดั บนแผงหนา้ ปัดที่เรอื นไมล์ ส่วนประกอบ 1. แบตเตอรี่ 2. ฟิ วส์ 3. สวติ ชก์ ุญแจ 4. มาตรวดั น้ามนั เช้ ือเพลิง 5. เกจวดั ระดบั น้ามนั เช้ อื เพลิง 6. ถงั น้ามนั เช้ อื เพลิง วิชา งานจักรยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบูรพาปราจีน ผูส้ อน นายศริ ศิ ักดิ์ ทพิ มาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ หลกั การทางาน ชุดสง่ สญั ญาณที่เกจวดั ระดบั น้ามนั เช้ อื เพลิงและชุดรบั สญั ญาณท่ีมเิ ตอร์ วดั น้ามนั เช้ ือเพลิงจะต่อกนั แบบอนุกรม เมื่อน้ามนั เช้ อื เพลิงเต็มถังลกู ลอยจะลอยข้ นึ และ ตวั เลื่อนจะเคล่ือนที่ไปในทิศทางลดความตา้ นทาน (คา่ ความตา้ นทานตา่ ) กระแสไฟ จากแบตเตอร่ีไหลผ่านฟิ วสเ์ ขา้ สวติ ชก์ ุญแจ เม่ือเปิ ดสวติ ชก์ ุญแจไปตาแหน่ง “ON” กระแสไฟไหลผ่านสวติ ชก์ ุญแจเขา้ ขดลวดมิเตอรว์ ดั น้ามนั เช้ ือเพลิง ไหลผ่านขดลวดมเิ ตอร์ วดั เขา้ เกจวดั ระดบั น้ามนั เช้ อื เพลิง ผ่านขดลวดความตา้ นทานตา่ และลงกราวดค์ รบวงจร จะทาใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผ่านวงจรมากข้ นึ และเกดิ สนามแมเ่ หล็กข้ นึ ที่ขดลวด วชิ า งานจกั รยานยนต์ วิทยาลัยเทคนคิ บรู พาปราจีน ผสู้ อน นายศริ ศิ กั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ เกิดแรงดดู ดงั น้ันเข็มที่มิเตอรว์ ดั จะช้ ใี นตาแหน่ง “F” แตเ่ ม่ือลูกลอยลดระดบั ลง เน่ืองจากการลดระดบั ของน้ามนั เช้ ือเพลิง ตวั เล่ือนจะเคล่ือนท่ีไปทางดา้ นเพม่ิ ความ ตา้ นทาน (คา่ ความตา้ นทานสูง) ทาใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลในวงจรนอ้ ยลงสนามแมเ่ หลก็ เกดิ ข้ นึ ที่ขดลวดก็จะเกดิ นอ้ ยลงตามไปดว้ ย เข็มจะช้ ไี ปในตาแหน่ง “E” วชิ า งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนิคบรู พาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ศิ กั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ โคด้ สีสายไฟ วชิ า งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ บรู พาปราจนี ผ้สู อน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผู้สอน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา แบตเตอรี่ (Batterg) ทาหนา้ ท่ีเกบ็ -จา่ ยประจุไฟฟ้า กระแสตรง โดยการเปล่ียนรปู พลงั งาน ระหวา่ งพลงั งานไฟฟ้ากบั ปฏิกิรยิ าเคมี ซึง่ การเก็บพลงั งานจะเกบ็ ไวใ้ นรปู ของปฏกิ ิรยิ า เคมีและเมอื่ ใชก้ ระแสไฟฟ้ากจ็ ะเปล่ียนจาก ปฏกิ ิริยาเคมีเป็ นพลงั งานไฟฟ้า แบตเตอรท่ี ่ี ใชใ้ นรถจกั รยานยนตม์ อี ยู่ 2 ขนาด คอื ขนาด 6 โวลต์ และขนาด 12 โวลต์ วชิ า งานจักรยานยนต์ วิทยาลยั เทคนิคบรู พาปราจนี

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผ้สู อน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา สว่ นประกอบของแบตเตอรี่ 1. แผ่นธาตุบวก (Positive Plate) ตวั แผ่นธาตุ จะทาเป็ นตะแกรง (Grid) แลว้ อดั ดว้ ยสารที่ทา ปฏกิ ริ ิยาเคมี คอื ตะกวั่ เปอรอ์ อกไซด์ (Lead Oxide) ซง่ึ มสี ีน้าตาล 2. แผ่นธาตุลบ (Negative Plate) ตวั แผ่นธาตุจะ ทาเป็ นตะแกรงเชน่ เดียวกบั แผ่นธาตุบวก แต่สาร ทาปฏิกิรยิ าจะใชต้ ะกวั่ พรุน (Sporge Lead) ซงึ่ มี สีเทา วิชา งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนิคบรู พาปราจีน

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ส่วนประกอบของแบตเตอร่ี 3. แผ่นก้นั และใยแกว้ (Spesrator and Glass Mat) ทาหนา้ ท่ีกน้ั แผ่นธาตุบวกและลบ ไมใ่ หส้ มั ผสั ถึงกนั ทาจากสารท่ีไมเ่ ป็ นตวั นาและไมท่ าปฏิกริ ิยาเคมี มีลกั ษณะเป็ นแผ่นบางๆ ทาดว้ ยไฟเบอรแ์ ขง็ และยางสงั เคราะห(์ Synthetic Rubber) เป็ นตน้ โดยเฉพาะแผ่นก้นั ใย แกว้ จะมีคุณสมบตั ิทาใหแ้ ผ่นธาตุทาปฏิกิริยาไดด้ ีมาก และป้องกนั เศษแผ่นธาตุหลุดรว่ ง ออกจากตะแกรง วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนิคบรู พาปราจีน ผ้สู อน นายศริ ศิ กั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ สว่ นประกอบของแบตเตอรี่ 4. น้ายาแบตเตอร่ี (Electrolyte) ทาจากกรดกามะถนั เจอื จาง ไมม่ สี ี ไม่มกี ล่ิน ขณะอุณหภมู ิ 20°C จะมคี ่าความถ่วงจาเพาะ 1.260-1.280 มสี ว่ นผสมของ น้ากรดประมาณ 35-38 % โดยน้าหนักนอกน้ันเป็ นน้า เมือ่ ระดบั น้ายาตา่ ลงให้ เติมดว้ ยน้ากลนั่ แบตเตอรี่ 1 เซล จะสรา้ งแรงเคล่ือนไฟฟ้า ได้ 2.1 - 2.2 โวลต์ ดงั น้ันถา้ นา 3 - 6 เซล มาต่ออนุกรมกนั จะไดแ้ บตเตอรี่ขนาด 6 หรอื 12 โวลต์ วชิ า งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจนี ผู้สอน นายศิริศกั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผ้สู อน นายศริ ศิ กั ดิ์ ทพิ มาลา การบารุงรกั ษาและตรวจสอบแบตเตอร่ี เพื่อใหแ้ บตเตอรม่ี อี ายกุ ารใชง้ านไดน้ านและ มีประสิทธิภาพ จาเป็ น ตอ้ งทาการบารุงรกั ษาและ ตรวจ สอบดว้ ยกรรมวธิ ีตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ ี 1. ลา้ งเปลือกนอกและสิ่งสกปรกดว้ ยน้าอุ่นผสม Baking Soda 2. ทาความสะอาดขว้ั แบตเตอร่แี ละขว้ั สายหรือ พบวา่ มีรอยแตกรา้ ว ใหเ้ ปล่ียนแบตเตอรีใ่ หม่ วชิ า งานจักรยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจนี

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การบารุงรกั ษาและตรวจสอบแบตเตอรี่ 3. ตรวจสอบระดบั น้ายา ถา้ ระดบั น้ายาตา่ กวา่ ระดบั ตอ้ งเติมดว้ ยน้ากลนั่ บรสิ ุทธ์ิใหท้ ่วมแผ่นธาตุ ตามระดบั มาตรฐานของน้ายาในแบตเตอรี่ ถึงขดี ระดบั สูงสุดที่เปลือกแบตเตอรีห่ รือประมาณ 10- 15 มม. วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบรู พาปราจนี ผู้สอน นายศิรศิ กั ด์ิ ทพิ มาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผู้สอน นายศริ ิศกั ดิ์ ทพิ มาลา การบารุงรกั ษาและตรวจสอบแบตเตอรี่ 4. ตรวจวดั ความถ่วงจาเพาะของน้ายาไฮโดรมิเตอร์ เป็ นเครอื่ งมือที่ใชว้ ดั ความถ่วงจาเพาะโดยการ ลอยตวั ของลกู ลอยภายในหลอดแกว้ ซึ่งปกติจะมี สเกลหรือสีเพ่ือบอกคา่ ของความถ่วงจาเพาะ ค่าของ ความถ่วงจาเพาะจะแสดงถึงสภาพการประจุไฟ สี แดงแสดงวา่ แบตเตอร่อี อ่ น สีขาวแสดงวา่ แบตเตอร่ี มีไฟพอใช้ สีเขียวหรือสีน้าเงนิ แสดงวา่ แบตเตอร่มี ี ไฟเต็ม วชิ า งานจกั รยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจนี

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity) ความจุแบตเตอร่ีมีหน่วยเป็ น แอมป์ - ชวั่ โมง (Ah) หมายถึง ความสามารถในการจ่าย กระแสไฟของแบตเตอรท่ี ่ีมปี ระจุไฟเต็ม โดยจา่ ยกระแสคงที่จนกวา่ แรงเคล่ือนไฟจะลดลง ถึงจุดตา่ สุดของการใชง้ าน ความจุแบตเตอรี่ (Ah) = กระแสท่ีจา่ ยออก (A) × เวลาท่ีจา่ ย (h) สาหรบั แบตเตอร่ขี องรถจกั รยานยนต์ จะวดั จานวนกระแสไฟที่จา่ ยออกจนแรงเคลื่อน ลดลงถึงจุดตา่ สุดของการใชง้ านในเวลา 10 ชวั่ โมง เชน่ แบตเตอร่ี 12V / 4Ah ถา้ ใหจ้ า่ ยกระแสไฟใน 10 ชม. จะจา่ ยไฟได้ 0.4 A วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนิคบูรพาปราจีน ผสู้ อน นายศิรศิ ักด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การชารจ์ ไฟฟ้าเขา้ แบตเตอร่ี การชารจ์ อยา่ งเร็ว คอื การชารจ์ เพอ่ื ใชง้ านอยา่ งเรง่ ดว่ นในระยะเวลาอนั ส้นั ดว้ ยเครื่อง ชารจ์ ไฟฟ้าที่เรยี กวา่ เครอ่ื งชารจ์ ไฟฟ้าเรว็ (Quick Charge) โดย 1. ใชช้ ารจ์ ในงานท่ีเรง่ ดว่ น 2. ชารจ์ ขณะที่แบตเตอรอ่ี ยบู่ นรถได้ 3. ชารจ์ ดว้ ยกระแสไมเ่ กิน 1/2 ของความจุท่ีกาหนดไวบ้ นตวั แบตเตอรี่ 4. ใชเ้ วลาชารจ์ ประมาณ 1/2-1 ชวั่ โมง 5. คอยดแู ลอุณหภูมขิ องแบตเตอรต่ี อ้ งไม่เกนิ 45°C ถา้ เกนิ ใหล้ ดอตั รากระแสท่ีชารจ์ ลง วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจนี ผสู้ อน นายศริ ศิ กั ด์ิ ทพิ มาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การชารจ์ ไฟฟ้าเขา้ แบตเตอรี่ การชารจ์ ไฟอยา่ งชา้ คือการชารจ์ ไฟท่ีไมต่ อ้ งการความเร่งด่วนในการใชง้ านหรือชารจ์ ตามปกติ ซ่งึ โดยทวั่ ไปมกั จะมกี ารชารจ์ คร้งั ละหลายลกู โดย 1. ชารจ์ ดว้ ยกระแสคงท่ี 2. ชารจ์ ตามปกติใชเ้ วลา 6 - 8 ชวั่ โมง 3. ตอ้ งยกแบตเตอรอี่ อกจากรถ 4. ชารจ์ ดว้ ยกระแสไมเ่ กนิ 1/10 ของความจุที่กาหนดไวบ้ นตวั แบตเตอรี่ วชิ า งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจีน ผูส้ อน นายศริ ศิ กั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การชารจ์ ครง้ั ละหลายลกู โดยการต่อแบบอนุกรม 1. ตอ่ พว่ งแบตเตอรี่ ขว้ั บวกเขา้ ขว้ั ลบตามรปู 2. เลือกแรงเคล่ือนการชารจ์ เท่ากบั แรงเคลื่อนคูณ ดว้ ยจานวนแบตเตอรี่ 3. เลือกกระแสการชารจ์ เท่ากบั ประจุแบตเตอรี่ 1 ลูก วชิ า งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บรู พาปราจีน ผ้สู อน นายศิรศิ กั ด์ิ ทิพมาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ การชารจ์ คร้งั ละหลายลกู โดยการต่อแบบแบบขนาน 1. ต่อพว่ งแบตเตอรีข่ ว้ั บวกเขา้ ขว้ั บวกขว้ั ลบเขา้ ขว้ั ลบ 2. เลือกแรงเคล่ือนที่เคร่อื งชารจ์ เท่ากบั แรงเคล่ือน แบตเตอรี่ 1 ลูก 3. เลือกกระแสการชารจ์ เท่ากบั ประจุ 1 ลกู คณู ดว้ ย จานวนแบตเตอร่ี วชิ า งานจักรยานยนต์ วิทยาลยั เทคนิคบรู พาปราจีน ผ้สู อน นายศริ ศิ ักด์ิ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ขอ้ ควรระวงั ในการใชง้ านและบารุงรกั ษาแบตเตอรี่ 1. ไม่ชารจ์ กระแสไฟฟ้าที่มากเกินไป 2. ไมใ่ ชง้ านแบตเตอร่ีจนกระทงั่ ไฟหมด 3. บารุงรกั ษาขว้ั แบตเตอร่ีใหส้ ะอาดอยเู่ สมอ 4. ตรวจความถ่วงจาเพาะของน้ายาอยา่ งนอ้ ย 1- 2 สปั ดาห์ / คร้งั 5. ไม่สตารต์ เครื่องติดต่อกนั นาน ๆ เพราะจะทาใหแ้ บตเตอร่ีจา่ ยกระแสติดต่อกนั มาก 6. ขณะชารจ์ ไฟจะตอ้ งไมท่ าใหเ้ กดิ ประกายไฟในบริเวณใกลเ้ คียง 7. ถา้ ไม่ใชแ้ บตเตอรี่เป็ นเวลานานตอ้ งปลดข้วั สายออก และนาไปชารจ์ ไฟ 2 สปั ดาห์ / คร้งั 8. ขณะชารจ์ ไฟเขา้ แบตเตอรี่ควรเปิ ดฝาแบตเตอร่ีทุกคร้งั วิชา งานจกั รยานยนต์ วิทยาลยั เทคนคิ บูรพาปราจนี ผสู้ อน นายศริ ิศกั ดิ์ ทิพมาลา

หน่วยที่ 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ สาเหตุท่ีทาใหแ้ บตเตอรี่มีอายุการใชง้ านส้นั 1. ประจุไฟมากเกินไปจะทาใหเ้ กดิ 1.1 การกร่อนที่แผ่นธาตุ 1.2 อุณหภมู ภิ ายในแบตเตอรสี่ งู ทาใหแ้ ผ่นธาตุชารุด 1.3 น้ายาแหง้ เร็วกวา่ ปกติ 1.4 อายุการใชง้ านส้นั ลง 2. ชารจ์ ไฟนอ้ ยเกินไปทาใหเ้ กดิ คราบตะกวั่ บรเิ วณข้วั แบตเตอรแ่ี ละแผ่นธาตุ 3. เกิดการลดั วงจรภายในหมอ้ แบตเตอรี่ อนั เกิดมาจากสารเคลือบแผ่นธาตุร่วงทดสอบได้ โดย วิชา งานจักรยานยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ บูรพาปราจีน ผ้สู อน นายศิรศิ ักดิ์ ทพิ มาลา

หน่วยท่ี 9 ระบบไฟฟ้ารถจกั รยานยนต์ ผ้สู อน นายศริ ิศกั ดิ์ ทพิ มาลา สาเหตุท่ีทาใหแ้ บตเตอรม่ี อี ายุการใชง้ านส้นั 3.1 วดั ความถ่วงจาเพาะของแต่ละชอ่ งเปรียบเทียบกนั 3.2 ชารจ์ ไฟแลว้ วดั ความถ่วงจาเพาะแต่ละชอ่ งอีกคร้งั 4. เกิดซลั เฟตจบั เน่ืองจาก 4.1 เก็บแบตเตอรีไ่ วน้ านโดยไมใ่ ชง้ าน 4.2 เติมน้ายาแทนน้ากลนั่ 4.3 อุณหภมู ขิ องแบตเตอร่ีสูงเกินไป 4.4 ชารจ์ ไฟไมเ่ พยี งพอ 4.5 ระดบั น้ายาสงู เกนิ กาหนด วชิ า งานจกั รยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคบูรพาปราจนี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook