Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ

คู่มือ

Published by Sutarat ins, 2021-10-07 06:40:07

Description: คู่มือ

Search

Read the Text Version

คู่มือ ปลควอามดภยั ในการทาํ งาน

นโยบายการบริหารจัดการ ดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน 1

ความเสียง คํานิยาม ระดบั ผลลพั ธ์ของความน่าจะเกิดอนั ตรายและ ความเสยี ง ผลจากอนั ตรายนัน อันตราย ระดบั ความเสยี งทยี อมรบั โดยไมจ่ าํ เปน ตอ้ งเพิมมาตรการควบคุมอกี หรือเปนผล อบุ ัตกิ ารณ์ จากการมมี าตรการทเี หมาะสมในการลด เหตุการณ์ หรอื ควบคุมความเสียง เกอื บเกดิ อุบัติเหตุ สงิ หรือเหตุการณ์ทีอาจก่อให้เกิดการบาด เจ็บหรือความเจบ็ ปวยจากการทํางาน อบุ ตั เิ หตุ ความเสียหายต่อทรัพยส์ นิ ความเสยี หาย ต่อสภาพแวดลอ้ มความเสียหายต่อ อบุ ัติภัย สาธารณชนหรอื สงิ ตา่ ง ๆ เหล่านรี วมกนั ร้ายแรง เหตกุ ารณ์ทไี มพ่ ึงประสงค์ทเี กดิ ขนึ แล้วมี ผลให้เกดิ อบุ ตั เิ หตุหรอื เหตกุ ารณ์เกอื บ เกิดอบุ ัติเหตุ เหตุการณท์ ไี มพ่ ึงประสงค์แต่เมือเกดิ ขึน แลว้ มแี นวโนม้ ทจี ะก่อให้เกิดอบุ ัติเหตุ เหตกุ ารณท์ ไี ม่พึงประสงคท์ ีอาจเกิดจาก การทไี ม่ไดค้ าดคิดไว้ล่วงหน้าหรือไมท่ ราบ ลว่ งหน้าหรอื ขาดการควบคุมแตเ่ มอื เกิด ขึนแลว้ มผี ลให้เกิดการบาดเจ็บหรอื ความ เจ็บปวยจากการทํางานหรือการเสียชวี ิต หรอื ความสญู เสียตอ่ ทรัพย์สินหรือความ เสยี หายต่อสภาพแวดล้อมหรอื ตอ่ สาธารณชน การเกิดเพลงิ ไหม้ การระเบิด หรือการรวั ไหลของสารเคมีหรือวัตถุอนั ตรายทสี ง่ ผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพอนามัย ชวี ติ ทรพั ยส์ นิ ชุมชน หรือสงิ แวดล้อม 2

ทฤษฎีการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ทฤษฎโี ดมโิ น (Domino theory) จากการศึกษาของ H.W. Heinrich พบว่า สาเหตขุ องการเกิดอบุ ตั ิจากการทํางานมี สาเหตมุ าจาก 3 สาเหตุ ไดแ้ ก่ การกระทาํ ทีไม่ปลอดภัย การกระทาํ หรอื ปฏิบัติงานของคนทีมีผล (Unsafe Acts) ทําใหเ้ กิดความไม่ปลอดภัยกบั ตนเอง และผูอ้ ืน มีจํานวนถึง 88 % เชน่ ความประมาท พลงั เผลอ เหมอ่ ลอย ถอดเครอื งกาํ บังเครอื งจักร ใช้เครอื งมอื ไมเ่ หมาะสมกบั งาน การไม่ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ การมที ศั นคติทีไมถ่ ูกตอ้ ง เชน่ อุบัตภิ ยั เปนเรอื งของเคราะห์กรรมปองกันไมไ่ ด้ การทาํ งานโดยทีร่างกายและจติ ใจไมพ่ ร้อมหรือผดิ ปกติ เชน่ ไมส่ บาย เมาคา้ ง มปี ญหาครอบครวั ทะเลาะกับแฟน การใช้เครอื งมือหรืออุปกรณ์ต่างๆไมเ่ หมาะสมกับงาน เช่น การใชข้ วดแก้วตอก ตะปแู ทนการใชค้ อ้ น ฯลฯ สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน สภาพของสถานทีทาํ งาน เครอื งจกั ร ทไี ม่ปลอดภยั กระบวนการผลติ เครืองยนต์ อุปกรณ์ ในการผลติ ไม่มีความปลอดภยั เพียพอ (Unsafe Conditions) มีจาํ นวนถึง 10 % เช่น การออกแบบโรงงาน แผนผงั โรงงาน เชน่ ไมม่ ีทางหนไี ฟ ระบบความปลอดภยั ไม่มีประสิทธภิ าพ ไม่มีอุปกรณ์ดา้ นความปลอดภัยสว่ นทเี ปน อนั ตราย (สว่ นทีเคลอื นไหว) ของเครืองจกั รไมม่ ีเครืองกําบงั หรืออปุ กรณ์ ปองกันอันตราย เครอื งจักรกล เครอื งมือ หรืออุปกรณ์ชาํ รุดบกพร่อง ขาดการซอ่ มแซมหรือ บาํ รุงรกั ษาอย่างเหมาะสม สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานไมเ่ หมาะสม เชน่ แสงสว่างไมเ่ พียงพอ ,เสยี งดงั เกินควร ,ความร้อนสงู , ฝุนละออง , ไอระเหยของสารเคมที ีเปนพิษ เหตกุ ารณ์ที ส่วนใหญเ่ ปนภยั ธรรมชาตทิ นี อกเหนือการ ไมส่ ามารถปองกนั ได้ ควบคุมมีเพียง 2 % เช่น พายุ นําท่วม ฟาผา่ (Unpreventable) 3

ทฤษฎีการเกดิ อุบตั เิ หตุ ทฤษฎีโดมิโน (Domino theory) เฮนรชิ (Heinrich) ซึงเปนผู้ศกึ ษาทฤษฎีโดมโิ น กลา่ วว่าการบาดเจ็บและ ความเสยี หายต่าง ๆ เปนผลทีสบื เนอื งโดยตรงมาจากอบุ ตั ิภยั เปนผลมาจากการ กระทําทไี ม่ปลอดภยั (หรือสถานการณ์ทไี ม่ปลอดภยั ) ซงึ เปรียบไดเ้ หมอื นกับตัว โดมิโนทีเรยี งกันอยู่ 5 ตวั ใกล้กนั เมือตัวหนึงล้มย่อมมีผลใหต้ ัวโดมโิ นถดั ไปล้มตาม กนั ไปดว้ ยตวั โดมิโนทงั 5 ตวั ได้แก่ โดมโิ นตวั ที 1 บรรพบรุ ษุ และสงิ แวดลอ้ มทางสงั คม โดมโิ นตวั ที 2 ความบกพร่องและความผดิ พลาดของคน โดมโิ นตวั ที 3 การกระทําและสภาพแวดลอ้ มทีไม่ปลอดภยั โดมิโนตัวที 4 การเกดิ อุบตั เิ หตุ โดมิโนตัวที 5 การบาดเจบ็ หรอื พิการ การปองกันอุบัติภยั ตามทฤษฎโี ดมิโนหรือลูกโซ่อุบตั ิภัยก็คอื การตัดลูกโซ่ อบุ ัติภยั โดยกําจัดการกระทําหรือสภาพการณ์ทไี ม่ปลอดภัยด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ อบุ ตั ภิ ยั กไ็ มเ่ กิดขึน การทีจะแก้ไขปองกนั ทีโดมิโน ตวั ที 1 (สภาพแวดล้อมของสังคม หรอื ภมู หิ ลังของบุคคล) หรือตวั ที 2 (ความบกพรอ่ งผิดปกตขิ องบคุ คล) เปนเรืองแก้ไขได้ยากกวา่ เพราะเปนสิงทีเกิดขึนและปลกู ฝงเปนสมบัติสว่ นบุคคลแล้ว 4

ทฤษฎีการเกิดอุบัตเิ หตุ ทฤษฎีสาเหตกุ ารสญู เสยี (Loss Causation Model) Frank E. Bird ได้ศึกษาเกยี วกบั การเกดิ อบุ ัติเหตุในวงการอตุ สาหกรรมและพบว่า สดั สว่ นของการเกิดอบุ ัตเิ หตุ มอี ตั ราสว่ น เปน 1 : 10 : 30 : 600 ลักษณะของ อตั ราสว่ นดังกลา่ วถูกเรยี กว่าการบาดเจ็บ หรือบางครงั เรียกวา่ พีรามิดอุบัตเิ หตุ โดย ตัวเลขแต่ละตวั นันมีความหมายดงั ต่อไปนี ทฤษฎภี เู ขานาํ แข็ง (Iceberg Theory) ทฤษฎภี เู ขานําแขง็ ของ Dr.David McClenlland เปนการเปรยี บเทยี บบคุ ลิก ของคนกบั ภูเขานําแขง็ เพือมองถงึ สมรรถนะของแต่ละบคุ คลในการปฏบิ ตั งิ านใน องค์กรความสญู เสยี ทไี ดร้ บั จากอุบัตเิ หตหุ รือคา่ ใชจ้ า่ ยอันเนืองมาจากอุบตั ิเหตแุ บ่งได้ เปน 2 ประเภท คือ ความสญู เสยี ทางตรงหรอื คา่ ใชจ้ ่ายทางตรงและความสญู เสยี ทางออ้ มหรือค่าใช้จา่ ยทางออ้ ม ซงึ เปรียบเสมือน “ภูเขานาํ แขง็ ” โดยส่วนทีโผลพ่ ้นนาํ ใหม้ องเหน็ ไดม้ เี พียงเลก็ น้อยเท่านันเมือเทยี บกับสว่ นทีจมอยู่ใต้นําเปรียบเสมือนกบั ค่า ใช้จา่ ยทางตรงเมือเกิดอบุ ตั เิ หตุซึงคดิ เปนมูลค่าเพียงเล็กนอ้ ยนอ้ ยเท่านันเมือเทยี บกับ คา่ ใช้จ่ายทางออ้ มซึงผู้บริหารสถานประกอบกจิ การจะมองข้ามไมไ่ ด้ 5

ผเู้ กยี วข้องด้านความปลอดภัย นายจ้าง นายจ้างตามกฎหมายว่าดว้ ยการคุม้ ครองแรงงานและใหห้ มายความรวมถึง ผู้ประกอบกิจการ ซงึ ยอมใหบ้ คุ คลหนงึ บุคคลใดมาทาํ งานหรอื ทาํ ผลประโยชน์ให้ ในสถานประกอบกิจการ ไมว่ ่าการทาํ งานหรือการทาํ ผลประโยชน์นันจะเปนส่วน หนงึ สว่ นใดหรือทังหมดในกระบวนการผลติ หรอื ธรุ กิจในความรบั ผดิ ชอบของ ผปู้ ระกอบกิจการนันหรือไมก่ ็ตาม ลกู จ้าง ลูกจา้ งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการคมุ้ ครองแรงงานและให้หมายความรวมถึงผู้ซึงได้ รบั ความยินยอมให้ทาํ งานหรอื ทาํ ผลประโยชน์ให้แก่หรอื ในสถานประกอบกจิ การ ของนายจ้าง ไมว่ า่ จะเรยี กชืออยา่ งไรก็ตาม Sub Contract ผู้รับเหมาช่วงเปนลกั ษณะของการใหบ้ ริการและจัดการครบทุกอยา่ งในส่วนของ งานบรกิ ารนนั ๆ Out Source ผ้รู บั จ้างชว่ งใดชว่ งหนึง อะไรทีไมส่ ามารถทําเองไดม้ กั จะใช้ out source ทาํ แทน แตจ่ ริง ๆ แล้ว out source = part of production process นันก็แปลวา่ การใช้ out source เปนเพียงสว่ นหนึงของกิจกรรมในการผลิตไม่ใชก่ ระทาํ แทน ทงั หมด Third Party บรษิ ทั ตัวแทนสว่ นบุคลผผู้ ลติ ผลิตภัณฑอ์ นื ๆ เช่น บริษทั ก ทาํ งานกบั บรษิ ัท ข และต้องมกี ารตรวจสอบวา่ การทาํ งานนันสอดคล้องกับข้อกาํ หนดมาตรฐานหรือไม่ จึงตอ้ งให้บรษิ ทั ค เขา้ มาเปนผ้ตู รวจสอบ 6

มาตรการควบคุมความปลอดภยั หลกั การเสริมสร้างความปลอดภยั 3 E หัวใจสาํ คัญของการทาํ งาน คอื การชว่ ยกันสร้างความปลอดภยั ในการทาํ งานโดย วิธีการปองกันมิใหเ้ กิดขึน ไดแ้ ก่ การอบรมให้ความรคู้ วามเขา้ ใจทีถูกต้องก่อนเข้าปฏบิ ตั ิ งาน การตดิ ตามประเมินผลพฤติกรรมในการทํางานของพนกั งาน ปกปดผลติ ภณั ฑ์และ ปกคลมุ เครืองจกั รทีจาํ เปนตอ่ การปฏิบัตงิ านเพือผ่อนหนกั ให้เบาลง เพือเปนการสร้าง ความปลอดภยั ในการทํางานอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพนัน ต้องยึดหลักการ 3E ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering - E) ในด้านการออกแบบและคํานวณเครอื งจักร เช่น การตดิ ตังเครอื งปองกันอนั ตรายให้ แก่ส่วนทีเคลือนไหว หรืออันตรายของเครอื งจักร การวางผังโรงงานระบบไฟฟา แสง สว่าง เสียง การระบายอากาศ เปนตน้ การศกึ ษาหรอื การฝกอบรม (Education - E) แนะนาํ คนงาน หัวหนา้ งาน ตลอดจนผทู้ เี กยี วข้องในการทาํ งานใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจ ในการปองกนั อุบตั ิเหตุและการสร้างความปลอดภัยในงานให้รวู้ า่ อบุ ัติเหตจุ ะเกิดขึน และปองกันไดอ้ ยา่ งไร และจะทาํ งานวธิ ใี ดจะปลอดภยั ทสี ดุ มาตรการบงั คับควบคมุ (Enforcement - E) การกําหนดวิธกี ารทํางานอย่างปลอดภยั และการควบคมุ บงั คบั อย่างจรงิ จงั และเขม้ งวด กัดขันให้คนงานปฏบิ ัติตามเปนกฎระเบยี บปฏิบัตแิ ละต้องประกาศใหท้ ราบทัวกันหากผใู้ ด ฝาฝนหรอื ไม่ปฏิบตั ิตามจะตอ้ งถกู ลงโทษ หลักการ 4M 1E จากทฤษฎขี องการเกิดอุบัตเิ หตุจากการทํางานของ H.W. Heinrich เชอื ว่า อุบัตเิ หตุ นนั เกิดการกระทําทไี ม่ปลอดภัย หรือการกระทาํ ของคนงานเปนสว่ นใหญ่ และรองลงมา คือสภาพแวดล้อมในการทํางานทไี ม่ปลอดภยั ซึงเปนส่วนนอ้ ยกว่า เพือเปนการงา่ ยตอ่ การคน้ หาอนั ตราย จากการทาํ งานเพือการควบคุมอาจใช้หลกั 4M + 1E ในการค้นหา อันตรายจากการทาํ งานไดโ้ ดยความหมายเปนดังนี 7

มาตรการควบคุมความปลอดภยั หลักของ 5 ส. ส่คู วามปลอดภยั 5 ส. สคู่ วามปลอดภัย เปนการนําระบบ 5 ส. มาช่วยสนับสนนุ ใหเ้ กดิ ความปลอดภัย ในการทํางาน ระบบ 5 ส. มีกิจกรรมทตี อ้ งทํา 5 ประเภท ประกอบด้วย สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสรา้ งนสิ ัยโดยมรี ายละเอียดของแต่ละกิจกรรมดงั นี 5 ส. เปนระบบพืนฐานในการบรหิ ารงานความปลอดภยั ในการทํางานอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ โดยถา้ แบง่ ปจจัยการผลติ ออกเปน 2 กล่มุ คอื กลุ่มสิงมีชีวิต (คน) และกลมุ่ สิงไมม่ ีชีวติ (วสั ดแุ ละเครืองจักร) จะเหน็ ไดว้ ่า เมือปจจัยการผลติ ทังสอง กลุ่มไดร้ บั การบริหารจดั การอย่างถกู ตอ้ ง จะส่งผลให้การผลิตเปนไปอย่างมี ประสทิ ธิภาพ 8

กฎหมายความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พระราชบญั ญัตคิ วามปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2554 มาตรา 16 ใหน้ ายจ้างจดั ให้ผู้บรหิ าร หวั หน้างาน และลกู จ้างทุกคนไดร้ บั การฝกอบรม ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน เพือใหบ้ ริหารจัดการ และดาํ เนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานได้ อยา่ งปลอดภยั ในกรณที ีนายจ้างรับลกู จา้ งเขา้ ทํางาน เปลียนงาน เปลียนสถานทที ํางาน หรอื เปลยี นแปลงเครอื งจกั รหรืออุปกรณ์ ซงึ อาจทําให้ลกู จ้างไดร้ บั อนั ตรายตอ่ ชีวติ ร่างกาย จติ ใจ หรือสขุ ภาพอนามยั ใหน้ ายจ้างจดั ให้มีการฝกอบรมลกู จา้ งทกุ คนก่อน การเริมทาํ งาน การฝกอบรมตามวรรคหนึงและวรรคสอง ใหเ้ ปนไปตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงือนไขทอี ธบิ ดปี ระกาศกําหนด บทลงโทษ (มาตรา 56) : นายจ้างผ้ใู ดไม่ปฏบิ ตั ิตามจาํ คกุ ไมเ่ กิน 6 เดอื น หรือปรบั ไม่ เกิน 200,000 บาท หรือทังจาํ ทงั ปรบั มาตรา 22 ให้นายจา้ งจัดและดูแลใหล้ ูกจ้างสวมใสอ่ ปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วน บุคคลทีไดม้ าตรฐานตามทีอธบิ ดีประกาศกาํ หนด ลกู จ้างมีหนา้ ทีสวมใสอ่ ปุ กรณค์ ุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบคุ คลและดแู ล รกั ษาอุปกรณต์ ามวรรคหนงึ ใหส้ ามารถใช้งานไดต้ ามสภาพและลกั ษณะของงานตลอด ระยะเวลาทํางาน ในกรณที ลี ูกจา้ งไมส่ วมใสอ่ ุปกรณด์ งั กล่าว ให้นายจ้างสังใหล้ กู จ้างหยดการ ทํางานนันจนกวา่ ลกู จ้างจะสวมใสอ่ ุปกรณ์ดงั กลา่ ว บทลงโทษ (มาตรา 62) : ผู้ใดไมป่ ฏบิ ัติตาม จําคกุ ไม่เกนิ 3 เดอื น หรือปรับไมเ่ กนิ 100,000 บาทหรอื ทงั จาํ ทงั ปรบั มาตรา 23 ใหผ้ รู้ บั เหมาชนั ตน้ และผู้รบั เหมาชว่ งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการคุม้ ครองแรงงาน มหี นา้ ทดี ําเนนิ การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน ของลูกจา้ งเชน่ เดยี วกบั นายจา้ ง ในกรณที นี ายจ้างเปนผรู้ บั เหมาชว่ ง และมีผรู้ ับเหมาช่วงถัดขนึ ไป ให้ผรู้ ับเหมา ช่วงถดั ขนึ ไป ตลอดสายจนถงึ ผู้รบั เหมาชันต้นทีมีลกู จา้ งทาํ งานในสถานประกอบกจิ การ เดยี วกนั มีหน้าทรี ว่ มกนั ในการจดั สถานทีทาํ งานให้มสี ภาพการทํางานทปี ลอดภยั และมี สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานทถี ูกสขุ ลักษณะ เพือใหเ้ กิดความปลอดภัยแกล่ ูกจา้ งทกุ คน บทลงโทษ (มาตรา 62) : ผใู้ ดไม่ปฏิบตั ติ าม จําคุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กิน 100,000 บาทหรอื ทงั จําทงั ปรับ 9

กฎหมายความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน เรอื ง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือนไขการฝกอบรมผ้บู รหิ าร หวั หน้างาน และลกู จ้าง ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน พ.ศ. 2555 หมวด 1 บททวั ไป ขอ้ 2 ให้นายจา้ งจดั ใหม้ กี ารฝกอบรมดา้ นความปลอดภัย เพือใหบ้ รหิ ารจดั การและ ดําเนนิ การด้านความปลอดภยั ในการทาํ งานไดอ้ ย่างปลอดภัยใหแ้ กล่ ูกจ้างระดับบริหาร หวั หนา้ งาน และลกู จ้างทุกคน ภายใน 60 วนั นบั แต่วันทปี ระกาศนใี ช้บังคับ กรณีลูกจา้ งเขา้ ทาํ งานใหม่ เปลียนงาน เปลียนสถานทที ํางาน หรือเปลียนแปลง เครอื งจักรหรอื อปุ กรณ์ ซงึ อาจทาํ ใหล้ ูกจ้างไดร้ บั อันตรายต่อชีวติ ร่างกาย จิตใจ หรือ สขุ ภาพอนามัย ใหน้ ายจา้ งจดั ให้มีการฝกอบรมลกู จ้างทุกคนกอ่ นการเรมิ ทํางาน การฝกอบรมตามวรรคหนึงและวรรคสองใหเ้ ปนไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หลักสตู รฝกอบรมและวทิ ยากรฝกอบรม ทกี าํ หนดไว้ในประกาศนี กรณที นี ายจ้างไม่สามารถจัดใหม้ ีการฝกอบรมให้แก่บุคคลตามวรรคหนงึ และวรรค สอง ให้นายจ้างจดั ใหบ้ ุคคลดังกลา่ วเข้ารับการฝกอบรมกับสถาบนั สง่ เสริมความ ปลอดภยั อาชวี อนามัยและสภาพแวดล้อมในการทํางานหรอื หน่วยงานทกี รมสวัสดกิ าร และคุ้มครองแรงงานกําหนดหรือยอมรับ หมวด 2 หลักสูตรฝกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน ข้อ 7 หลกั สตู รฝกอบรมดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มใน การทาํ งานสําหรับลกู จ้างทวั ไปและลูกจา้ งเขา้ ทาํ งานใหม่ มีระยะเวลาการฝกอบรม 6 ชวั โมง ประกอบด้วยหัวข้อวชิ า (1) ความรู้เกียวกับความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน มรี ะยะเวลาการฝกอบรม 1.30 ชวั โมง (2) กฎหมายความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานมรี ะยะ เวลาการฝกอบรม 1.30 ชัวโมง (3) ข้อบงั คับว่าด้วยความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทาํ งานมรี ะยะเวลาการฝกอบรม 3 ชัวโมง สาํ หรบั ลกู จ้างทผี ่านการอบรมตามวรรคหนึงจากสถานประกอบกจิ การเดมิ แล้ว ให้ ฝกอบรมเฉพาะ (3) เทา่ นัน 10

กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรอื ง หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื นไขการฝกอบรมผ้บู รหิ าร หวั หน้างาน และลูกจา้ ง ด้านความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2555 หมวด 2 หลกั สตู รฝกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน ขอ้ 8 หลักสตู รฝกอบรมด้านความปลอดภยั ในการทํางาน สาํ หรับลกู จา้ งเปลียน งาน เปลยี นสถานทีทํางานหรือเปลยี นแปลงเครอื งจักรหรอื อปุ กรณ์ ซงึ มีปจจัยเสยี ง แตกตา่ งไปจากเดิม มรี ะยะเวลาการฝกอบรมสามชัวโมง ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ วชิ า (1) ปจจยั เสียงจากการทํางานมรี ะยะเวลาการฝกอบรม 1.30 ชวั โมง (2) ขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํา งานมรี ะยะเวลาการฝกอบรม 1.30 ชัวโมง เรือง สัญลกั ษณ์เตือนอันตราย เครอื งหมายเกยี วกับความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อม ในการทาํ งาน และข้อความแสดงสิทธิและหน้าทีของนายจ้าง และลูกจา้ ง พ.ศ. 2554 ข้อ 3 ใหน้ ายจา้ งตดิ ประกาศข้อความแสดงสทิ ธิและหนา้ ทขี องนายจา้ งและลูกจ้าง ในทีทีเหน็ ไดง้ า่ ย ณ สถานประกอบกิจการ ซงึ ต้องประกอบดว้ ยขอ้ ความดังตอ่ ไปนี (1) นายจ้างและลกู จ้างมีหน้าทใี นการปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2554 (2) นายจ้างมีหนา้ ทีจดั และดแู ลสถานประกอบกิจการและลูกจา้ งใหม้ ีสภาพการ ทํางานและสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานทีปลอดภัยและถูกสขุ ลกั ษณะ รวมทงั สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการปฏิบตั ิงานของลกู จ้าง มิใหล้ ูกจา้ งได้รับอันตรายต่อชวี ิต ร่างกาย จติ ใจ และสุขภาพอนามยั (3) นายจา้ งมีหน้าทจี ัดและดูแลให้ลูกจา้ งสวมใส่อปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัย สว่ นบคุ คลทีไดม้ าตรฐาน ถ้าลูกจ้างไม่สวมใสอ่ ุปกรณด์ งั กล่าว ให้นายจ้างสงั ให้หยดุ การทํางานจนกวา่ ลกู จ้างจะสวมใสอ่ ปุ กรณ์นัน (4) นายจ้างมหี นา้ ทจี ัดใหผ้ ้บู ริหาร หัวหน้างาน และลกู จา้ งทุกคนได้รบั การฝก อบรมให้สามารถบริหารจัดการและดําเนินการดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และ สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานไดอ้ ย่างปลอดภยั ก่อนการเขา้ ทํางาน เปลยี นงาน เปลยี น สถานทีทํางาน หรือเปลียนแปลงเครอื งจักรหรืออุปกรณ์ (5) นายจ้างมีหน้าทแี จ้งใหล้ ูกจ้างทราบถงึ อนั ตรายทอี าจเกดิ ขนึ จากการทาํ งาน และแจกค่มู ือปฏบิ ตั ิงานใหล้ ูกจ้างทกุ คนกอ่ นทีลกู จ้างจะเขา้ ทาํ งาน เปลียนงาน หรือ เปลียนสถานทที ํางาน 11

กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน ประกาศกรมสวัสดกิ ารและค้มุ ครองแรงงาน เรือง สัญลักษณเ์ ตอื นอันตราย เครอื งหมายเกยี วกับความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ ม ในการทาํ งาน และขอ้ ความแสดงสทิ ธแิ ละหนา้ ทีของนายจ้าง และลูกจ้าง พ.ศ. 2554 ขอ้ 3 ให้นายจ้างติดประกาศขอ้ ความแสดงสทิ ธแิ ละหน้าทขี องนายจ้างและลูกจ้าง ในทที เี ห็นได้งา่ ย ณ สถานประกอบกิจการ ซงึ ตอ้ งประกอบดว้ ยข้อความดงั ตอ่ ไปนี (6) นายจา้ งมหี นา้ ทีติดประกาศ คําเตอื น คาํ สัง หรอื คําวนิ ิจฉยั ของอธิบดกี รม สวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน พนกั งานตรวจความปลอดภัย หรือคณะกรรมการ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน แลว้ แต่กรณี (7) นายจา้ งเปนผูอ้ อกค่าใชจ้ ่ายในการดาํ เนนิ งานด้านความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน (8) ลกู จ้างมหี นา้ ทีให้ความรว่ มมือกบั นายจา้ งในการดาํ เนินการและสง่ เสริมด้าน ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน โดยคํานงึ ถึงสภาพของ งานและหน้าทรี ับผดิ ชอบ (9) ลกู จ้างมหี น้าทีแจง้ ขอ้ บกพรอ่ งของสภาพการทาํ งานหรอื การชํารดุ เสียหาย ของอาคาร สถานทีเครืองมือ เครืองจักร หรอื อปุ กรณ์ ทีไมส่ ามารถแกไ้ ขได้ด้วย ตนเองตอ่ เจ้าหน้าทีความปลอดภยั ในการทาํ งาน หวั หน้างาน หรือผูบ้ ริหาร (10) ลกู จา้ งมีหน้าทสี วมใสอ่ ปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภยั สว่ นบุคคลที นายจา้ งจัดใหแ้ ละดแู ลใหส้ ามารถใช้งานไดต้ ามสภาพและลักษณะของงานตลอดระยะ เวลาทาํ งาน (11) ในสถานทที มี ีสถานประกอบกิจการหลายแห่ง ลูกจา้ งมีหนา้ ทปี ฏบิ ัตติ าม หลกั เกณฑเ์ กียวกับความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานของ นายจา้ ง และสถานประกอบกิจการอนื ทีไมใ่ ชข่ องนายจา้ งดว้ ย (12) ลูกจา้ งมีสทิ ธิไดร้ บั ความคุ้มครองจากการเลิกจ้าง หรือถกู โยกย้ายหนา้ ที การงานเพราะเหตทุ ีฟองรอ้ ง เปนพยาน ให้หลักฐาน หรอื ใหข้ ้อมลู เกยี วกับความ ปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํา งานต่อพนักงานตรวจความ ปลอดภยั คณะกรรมการความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน หรือศาล (13) ลูกจ้างมสี ทิ ธิได้รับค่าจ้างหรือสิทธิประโยชนอ์ นื ใด ในระหว่างหยุดการ ทาํ งานหรอื หยุดกระบวนการผลติ ตามคาํ สังของพนักงานตรวจความปลอดภยั เวน้ แต่ ลูกจ้างทจี งใจกระทําการอนั เปนเหตใุ หม้ ีการหยุดการทาํ งานหรือหยดุ กระบวนการผลิต 12

กฎหมายความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งาน กฎกระทรวง กาํ หนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการ ด้านความปลอดภยั อาชวี อนามัยและสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน พ.ศ. 2549 ขอ้ 1 กฎกระทรวงนใี ห้ใชบ้ ังคบั แกก่ ิจการหรอื สถานประกอบกจิ การ ดงั ต่อไปนี (1) การทาํ เหมอื งแร่ เหมืองหิน กิจการปโตรเลยี มหรือปโตรเคมี (2) การผลิต ประกอบ บรรจุ ซอ่ มบํารงุ เกบ็ รกั ษา ปรับปรุง การต่อเรือ (3) การก่อสรา้ ง ต่อเติม ติดตงั ซอ่ ม ซอ่ มบาํ รงุ ดัดแปลง หรอื รอื ถอน (4) การขนสง่ คนโดยสารหรอื สินคา้ โดยทางบก ทางนาํ ทางอากาศ และรวมทัง การบรรทกุ ขนถา่ ยสินค้า (5) สถานีบริการหรอื จําหน่ายนาํ มันเชอื เพลงิ หรือกา๊ ซ (6) โรงแรม (7) ห้างสรรพสนิ คา้ (8) สถานพยาบาล (9) สถาบันทางการเงิน (10) สถานตรวจทดสอบทางกายภาพ (11) สถานบริการบันเทิง นันทนาการ หรือการกีฬา (12) สถานปฏิบตั ิการทางเคมหี รือชวี ภาพ (13) สาํ นักงานทปี ฏิบัตงิ านสนับสนนุ สถานประกอบกิจการตาม (1) ถงึ (12) (14) กิจการอนื ตามทกี ระทรวงแรงงานประกาศกาํ หนด หมวด 2 คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมใน การทํางานของสถานประกอบกิจการ ข้อ 23 สถานประกอบกิจการทมี ีลูกจ้างตังแต่ 50 คนขึนไป ให้นายจ้างจัดให้ มคี ณะกรรมการความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานของ สถานประกอบกจิ การ ภายใน 30 วนั นับแตว่ ันทกี ฎกระทรวงนมี ีผลใช้บงั คบั หรือ ภายใน 30 วันนบั แตว่ นั ทีมลี กู จ้างครบ 50 คน โดยมอี งคป์ ระกอบ ดงั ต่อไปนี ลกู จา้ ง 50 – 99 คน ลูกจา้ ง 100 – 499 คน ลูกจา้ ง 500 คนขึนไป กรรมการไมน่ ้อยกว่า 5 คน กรรมการไม่น้อยกวา่ 7 คน กรรมการไมน่ ้อยกว่า 11 คน ประกอบด้วย ประกอบดว้ ย ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน ประธานกรรมการ 1 คน ประธานกรรมการ 1 คน ผแู้ ทนนายจา้ ง 1 คน ผู้แทนนายจ้าง 2 คน ผแู้ ทนนายจ้าง 4 คน ผู้แทนลกู จ้าง 2 คน ผู้แทนลูกจา้ ง 3 คน ผแู้ ทนลกู จา้ ง 5 คน เลขาฯ (จป.วิชาชพี ) 1 คน เลขาฯ (จป.วิชาชพี ) 1 คน เลขาฯ (จป.วชิ าชพี ) 1 คน 13

กฎระเบยี บในการทาํ งาน การทาํ งานในสํานักงาน พืนสํานกั งานควรสะอาดอยเู่ สมอ หา้ มวงิ หรอื ลนื ไถลในสาํ นกั งาน ขณะทมี ีการขัดหรอื ทําความสะอาดพืนผปู้ ฏิบตั งิ านควรเดิน หรอื ปฏิบตั ิงานดว้ ย ความระมดั ระวังยิงขนึ ถ้าพบนํามนั หกบนพืนสํานกั งาน ให้แจง้ เจ้าหน้าทรี บั ผดิ ชอบ หรือกนั พืนที และแสดง เครืองหมายเตือน หรือหาวสั ดดุ ดู ซับ และนาํ ไปทิงตามชนดิ /ประเภทของขยะ เพือลด ปญหาด้านสิงแวดลอ้ ม ถา้ พบวสั ดหุ รือเครืองใช้สํานกั งาน เชน่ ดนิ สอ หรือสงิ อนื ใดตกหลน่ รบี เก็บทนั ที ในขณะทีเดนิ ถึงมมุ ตึก ให้เดนิ ทางขวาของทางเดนิ และเดินช้า ๆ อย่างระมัดระวัง สายโทรศพั ทห์ รอื สายไฟฟา ควรติดตงั ให้เรียบร้อย ไมก่ ดี ขวางทางเดิน อย่าอยใู่ กลบ้ รเิ วณประตูทีเปดอยู่ ประตอู าจเปดมากระแทกได้ ประตบู านกระจกทีเปดปดสองทางให้ติดเครอื งหมาย “ดึง” หรอื “ผลัก” ให้ชัดเจน ไมว่ างสงิ ของเกะกะทางเดนิ ชอ่ งประตู ติดตงั กระจกเงาทีบรเิ วณมมุ อบั ทาํ ความสะอาดและกําจัดขยะ ฝุนผง หรอื เศษกระดาษทกุ วัน สบู บุหรใี นทจี ัดไวใ้ ห้ การใช้บันได อุบัติเหตจุ ากการใชบ้ ันไดมักเกิดขนึ เสมอ ดังน้ันขณะทที ํางานอย่บู นขัน้ บันไดจําเปน ต้องระมัดระวังและปฏิบัตไิ ด้ถูกวิธี ก่อนขึนลงบนั ไดควรสังเกตสิงทจี ะก่อใหเ้ กิดอันตรายขึนได้ ถ้าบันไดมีแสงสวา่ งไมเ่ พียงพอ หรือบนั ไดเกดิ ชํารดุ ให้แจง้ เจา้ หนา้ ทเี พือทาํ การแก้ไข ปรบั ปรุงให้เรียบรอ้ ย อย่าใหม้ เี ศษวัสดชุ นิ เลก็ น้อยตกอย่ตู ามขนั้ บนั ได เชน่ เศษกรวด เศษแก้ว ฯลฯ จดั ให้มพี รมหรอื ทเี ช็ดเท้าบรเิ วณเชิงบันได ขนึ - ลงบนั ไดดว้ ยความระมัดระวงั อย่าวงิ เล่น หรือหยอกลอ้ กัน ขนึ - ลงทางดา้ นขวา และจับราวบนั ไดทกุ คร้ัง ขณะขึน - ลงบันไดต้องมองข้นั บันไดทุกคร้งั อย่าขึน หรอื ลงบันไดเปนกล่มุ ใหญ่เวลาเดยี วกนั 14

กฎระเบยี บในการทํางาน การใชต้ ู้ โตะ๊ เก้าอี ลนิ ชักตูเ้ อกสารควรเปดใช้ทลี ะชัน และปดทุกครง้ั หลงั เลกิ ใช้งาน หา้ มวางสงิ ของไว้ใตโ้ ต๊ะทํางาน หา้ มเอน หรอื พิงพนกั เกา้ อี โดยให้รับนาํ หนักเพียงขา้ งใดขา้ งหนงึ ให้มีพืนทเี คลอื นยา้ ยเกา้ อีเข้าออกทสี ะดวก ห้ามวางวัสดสุ งิ ของบนหลงั ตู้ จัดเอกสารใสล่ ินชกั ตู้ชัน้ ลา่ งสุดขนึ ไป หลีกเลยี งการใส่เอกสารมากเกนิ ไป ใหจ้ บั หูลนิ ชกั ตทู้ กุ ครั้งในการเปด เพือปองกนั นิวถกู หนบี การจดั วางตู้ตอ้ งไม่เกะกะทางเดนิ การใช้เครอื งมือสาํ นักงาน ในขณะขนยา้ ยกระดาษควรระวังกระดาษบาดมอื ให้เกบ็ ปากกา หรือดินสอ โดยการเอาปลายชลี ง หรือวางราบในลินชกั ให้ทําการหุบขากรรไกรทเี ปดซองจดหมายใบมีด คัตเตอร์ หรือของมคี มอนื ใหเ้ ข้าที ก่อนการเกบ็ การใช้เครืองตดั กระดาษ ต้องระวังนิวมือให้อยูห่ ่างจากมีด การแกะลวดเย็บกระดาษใหใ้ ช้ทีดึง ห้ามใชเ้ ล็บ ควรใช้บนั ไดเหยยี บ เมือตอ้ งการหยบิ ของในทีสงู ห้ามใชก้ ล่อง, โต๊ะ หรอื เกา้ อีติดล้อ หลังเลิกใชง้ านใหป้ ดไฟทุกดวง และตดั วงจรไฟฟาภายในห้องทํางาน เพือลดการใช้ พลงั งาน ห้ามปรบั แตง่ หรือเปลียนแปลงสว่ นประกอบของเครืองใชส้ าํ นักงานทอี าจก่อใหเ้ กิด อนั ตราย ในขณะเครอื งกาํ ลังทาํ งาน ห้ามถอดอปุ กรณ์ปองกันอนั ตราย หรอื เปดแผงเครอื งใช้สํานกั งาน ทมี อี นั ตรายโดย เดด็ ขาด กรณีเครอื งขัดขอ้ งใหช้ า่ งมาทาํ การซ่อมแซมแกไ้ ขให้ตัดกระแสไฟฟาของ เครอื งใชส้ าํ นักงานทใี ช้ไฟฟาทุกครง้ั เมอื จะปรับแต่งเครอื ง 15

กฎระเบยี บในการทํางาน การใชเ้ ครอื งมอื ช่าง เลือกใช้เครืองมือทีเหมาะสมกบั งานทที ํา รักษาเครืองมือให้อยใู่ นสภาพทดี ีอยู่เสมอ ตรวจสอบสภาพก่อนใช้งานทุกครั้ง ซอ่ มแซม หรอื หาเครืองมือใหม่ทดแทนเครอื งมือทชี ํารุดทันที ลา้ งนํามนั จากเครืองมอื หรอื ชนิ งานกอ่ นการใชง้ าน และทิงขยะตามประเภทของขยะ ตรวจสอบและปฏิบัตติ ามขอ้ แนะนําการใช้เครืองมือ จับ หรอื ถือเครอื งมอื ใหก้ ระชับ ก่อนเรมิ งานต้องตรวจสอบสภาพตา่ งๆโดยรอบหรอื บรเิ วณพืนทีทที าํ งานกอ่ นทุกครง้ั การทาํ งานกบั เครืองจักร ใช้เครอื งจักรไดเ้ ฉพาะคนทีมีอํานาจหนา้ ทีเท่านัน้ และการใช้ตอ้ งใชอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เครืองจักรทีสงั ซือใหม่ หรือ นาํ มาใชใ้ นกระบวนการผลติ ตอ้ งทําการขึนทะเบียนและ ประเมินความเสยี งกอ่ นใช้งานทุกคร้งั สวมใส่เสอื ผ้าทีรัดกุม อย่าสวมเสือปล่อยชาย หรือ แขนหลดุ ลุย่ เครืองจักรต่าง ๆ จะตอ้ งมีทีครอบ หรือ ปกปดปองส่วนทีหมุนได้ และติดอยใู่ นทีของ มนั เรียบร้อยแล้ว เพือปองกนั อนั ตรายจากการยืนชนิ สว่ นของร่างกายเข้าไปถูก เครอื งจกั ร สวมใส่เครอื งปองกัน และใชเ้ ครอื งมืออย่างถูกตอ้ ง และเหมาะสมกบั งาน ระวังการใช้ถงุ มอื ในการตรวจสอบ ซ่อมแซม และทําความสะอาดเครอื งจกั รนนั้ ตอ้ งหยดุ เครอื งจักร ให้เรียบรอ้ ย และมเี ครืองหมายชีบอก หรือ ติดปายแขวนวา่ “หา้ ม” เดนิ เครืองจักร และนาํ ขยะทเี กดิ จากความสะอาดทิงตามชนิด/ประเภทของขยะเพือลดผลกระทบทมี ี ตอ่ สงิ แวดล้อม รักษาเครอื งจักรให้สะอาดอยเู่ สมอ ตรวจสภาพของเครอื งจกั ร ก่อนใชง้ านทกุ ครง้ั หากมสี ว่ นใดชาํ รดุ ให้แจ้งหัวหน้างานทราบทนั ที อย่าใช้เครืองจกั รเกินกาํ ลงั จะเกิดอันตราย เมือตอ้ งทํางานร่วมกนั จะตอ้ งแนใ่ จว่าทุกคนเขา้ ใจสัญญาณ ในการสอื สารต่าง ๆ อยา่ งชัดเจนและถกู ต้องตรงกนั อย่าเข้าไปในส่วนทเี ปนอนั ตรายหรอื สว่ นทีมีการเคลอื นไหวของเครอื งจกั รตลอดเวลา แต่ถ้าจาํ เปนต้องเขา้ ไปต้องแนใ่ จวา่ เครืองจักรได้หยดุ เดนิ เครอื งแลว้ 16

กฎระเบยี บในการทํางาน การยกสิงของ การยกสิงของ หรอื เคลอื นยา้ ยสงิ ของใด ๆ จะต้องร้จู ักวิธที ถี ูกตอ้ ง หากทํา ไม่ถูกวิธแี ล้วอาจก่อใหเ้ กดิ อันตรายได้ ซึงการยกของหนักตามมาตรฐานและข้อ กําหนดตามกฏหมาย มกี ารแบ่งประเภทไวด้ งั นี การเคลือนยา้ ยสิงของ มวี ิธีทแี ตกต่างกันไป ดังนี การเคลอื นยา้ ยดว้ ยมอื 1. พิจารณาดคู วามสามารถดา้ นรา่ งกายของตวั เอง “ยกไหวหรอื ไม”่ 2. วางเท้าให้ห่างจากวัตถปุ ระมาณ 8 - 12 นิว แยกขาออกเล็กน้อย เพือการทรงตวั ทดี ี 3. ยอ่ ตัวลง หรอื นังยอง ๆ โดยใหห้ ลงั ตรง แล้วจับของนนั ใหม้ ันคงด้วยฝามือ 4. ยกวัตถขุ ึนตรง ๆ โดยใหเ้ ข่าเปนส่วนทีรับนําหนัก หลงั ตรงให้ใชก้ าํ ลังขา อย่าใช้ กําลังของสว่ นหลังเปนอนั ขาด 5. การวางวตั ถลุ งกใ็ ห้ใชห้ ลกั การเดียวกันกับการยกของขนึ การเคลอื นยา้ ยดว้ ยรถเขน็ หรอื เครอื งทุ่นแรง รถเขน็ โดยทวั ไปมีอยู่ 4 ลอ้ หากนําหนกั บรรทกุ เบา ควรใชร้ ถเข็น 2 ล้อ ถา้ นาํ หนกั มากควรใช้ 4 ลอ้ หรือ ใช้ Hand Lift การเขน็ รถเข็น ควรใช้ดัน ไม่ควรดงึ ให้เลอื น ห้ามวางของบนรถเขน็ สูงเกนิ ไป จะทาํ ให้ มองไม่เหน็ ทาง หรือทาํ ใหข้ องตกหล่น เสียหาย การเขน็ รถลงทางทลี าดชนั อาจจะเกิด อนั ตรายได้ ต้องมีคนช่วยพยงุ หรือลด การไหลของรถ 17

กฎระเบียบในการทาํ งาน งานไฟฟา  พนกั งานทีทํางานเกียวกับการซ่อมแซม ต่อเติม ติดตงั อปุ กรณไ์ ฟฟา ตอ้ งสวม เสือผา้ ทีแห้ง และสวมรองเทา้ พืนยางพรอ้ มทังตดั กระแสไฟฟา เครืองมือทีใชง้ านกบั ไฟฟาชนดิ มอื จบั ตอ้ งมฉี นวนซงึ อยู่ในสภาพดีทีดี ดา้ มจับไม่ ควรนําอปุ กรณ์ไฟฟาทีชาํ รดุ มาใช้งานจนกว่าจะได้รับการซอ่ มแซมใหเ้ รียบรอ้ ย ในกรณีทีมกี ารปฏิบัตงิ านตรวจสอบซอ่ มแซม หรอื ตดิ ตังไฟฟาตอ้ งตัดสวติ ซ์ ล็อคกญุ แจ และแขวนปาย ไมน่ าํ อุปกรณไ์ ฟฟาทชี ํารดุ มาใชง้ านจนกวา่ จะได้รบั การซ่อมแซมใหเ้ รียบร้อย ตรวจสอบอปุ กรณ์ปองกันไฟฟาดดู ไฟฟารวั ก่อนใชอ้ ุปกรณน์ ันๆ เสมอ การเปดหรอื ปดระบบไฟฟาตอ้ งแนใ่ จกอ่ นวา่ ปลอดภยั ห้ามใช้บันไดโลหะและวสั ดุอนื ทีเปนสอื ไฟฟาขณะทํางานเกยี วกบั ไฟฟา หา้ มนาํ อปุ กรณไ์ ฟฟาทีไมไ่ ด้รับการตรวจสอบมาใช้งานเด็ดขาด ตอ้ งมีปายแขวนอธิบายการทาํ งาน ณ ตาํ แหนง่ ทีมีการหยุดทํางาน งานเชอื มด้วยไฟฟา  พนกั งานตอ้ งผ่านการอบรม ตรวจสอบว่าฉนวนทีหมุ้ ทีจับสายดนิ ไม่มกี ารชํารดุ เสยี หาย ทาํ การตรวจสอบวา่ จุดต่อหรอื ขัวตอ่ อยูใ่ นสภาพทดี ี เครืองเชือมต้องมีสายดิน ให้ใช้เครืองปองกันใหเ้ หมาะสมกับงานทที ํา ห้ามวางวตั ถุไวไฟ/ตดิ ไฟไว้ในบรเิ วณทมี กี ารเชือม ใหท้ าํ การปองกันสะเก็ดไฟทีเกดิ จากการเชอื ม เครืองเชือมไฟฟาต้องผ่านการตรวจสอบสภาพ ควรมปี ายเมือผ่านการตรวจสอบ ไมค่ วรทงิ ทีจบั สายดินไว้กบั คมี หนบี ธปู เชือม และทาํ การปดเครืองเมอื เสร็จ ให้พนกั งานทําการศึกษามาตรฐานการทาํ งานร้อนโดยใชไ้ ฟ จัดเตรยี มถงั ดบั เพลงิ และถังนาํ ในบรเิ วณใกลท้ ีทาํ งาน 18

กฎระเบียบในการทํางาน งานเชือมดว้ ยแกส๊   ในการตดั ด้วยแกส๊ พนกั งานต้องสวมหนา้ กากกนั ฝุน พนักงานต้องสวมอุปกรณป์ องกนั เชน่ แวน่ กันแสง ถุงมือหนงั กอ่ นทีจะเรมิ ปฏิบัตงิ าน ต้องตรวจสอบวา่ วาล์วปรับแรงดนั มาตรวัดแรงดนั และ สายทอ่ ไดร้ บั ความเสียหายหรือมขี ้อผดิ ปกติใด ๆ หรือไม่ ใช้นําผสมสบู่ตรวจสอบ วา่ มีแก๊สรวั ออกมาจากจดุ เชอื มต่อหรือสายทอ่ หรอื ไม่ หากเลิกใชง้ านชวั คราวต้องปดวาลว์ ถังแก๊ส และตรวจสอบวา่ มาตรวดั แสดง ค่าแรงดนั เปน 0 ตอ้ งติดตังระบบปองกันไฟยอ้ นกลับทีถังแก๊ส LPG (หา้ มนอนถงั แกส๊ ถงึ แมว้ ่าจะ เปนถังเปล่ากต็ าม) ตดิ ตงั อปุ กรณ์ดบั เพลิง (ไม่น้อยกว่า 1 ชุด) ถงั นาํ ไม่นอ้ ยกวา่ 1 ถงั ไว้ในจดุ ที สามารถนาํ มาใช้งานได้ทนั ที หา้ มวางวตั ถไุ วไฟ วัตถตุ ดิ ไฟ และวตั ถุระเบิดไว้ใกล้ทีปฏิบัติงาน หากเปนการปฏิบตั งิ านในทสี ูง ให้หาทางปองกนั ลกู ไฟ และเศษผงทีอาจหล่นมาได้ หากทําการเชือมหรอื ตัดทอ่ ภาชนะทีมีของเหลวหรอื ก๊าซไวไฟ หรือกา๊ ซตดิ ไฟ อยู่ ภายในให้ถ่ายของเหลวหรอื กา๊ ซทีอยู่ภายในออกใหห้ มด ไม่วางถังก๊าซไวใ้ ต้แสงแดด รักษาอุณหภมู ใิ หไ้ มเ่ กิน 40 องศา ผูกยึดโยงถังแก๊สไวใ้ นทีมนั คง เพือปองกันไมใ่ ห้ถงั ตกหล่น 19

กฎระเบียบในการทํางาน งานเจียร ผปู้ ฏบิ ัติงานจะต้องสวมใสอ่ ุปกรณ์ปองกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คลให้ครบถว้ นตลอด เวลาทปี ฏบิ ัติงาน ดังนี รองเทา้ นิรภัย, หมวกนริ ภยั , แวน่ ตานิรภัย, ทอี ดุ หู, ถงุ มือ หนงั และกระบงั หนา้ นริ ภยั กอ่ นปฏบิ ตั ิงานต้องมกี ารตรวจสอบบริเวณโดยรอบ วา่ มีสารไวไฟ เศษวัสดุ หรอื เชือเพลงิ ทอี าจเกิดอคั คภี ัยได้หรือไม่ หากพบต้องนาํ ออกใหห้ มด ต้องตรวจสอบสภาพเครอื งมือ และอปุ กรณ์ให้เรียบร้อย และหนิ เจียรต้องสวมใส่ อุปกรณ์ปองกนั อันตรายทุกครังก่อนการใชง้ าน หากพบวา่ ชาํ รุดใหแ้ จง้ หนา้ งาน ทันที จะต้องติดตงั เครอื งขัด ให้ยึดแนน่ กบั โต๊ะทีมนั คงและมฝี าครอบปองกันอนั ตราย ชนิ งานทตี อ้ งการเจยี ร จะตอ้ งยึดใหแ้ น่น มนั คงทกุ ครัง กาํ จัดปริมาณฝุนทีเกดิ ขึน โดยจดั ระบบการระบายหรอื การถ่ายเทของอากาศใหด้ ี ขึน หรือมีเครืองดูดอากาศเฉพาะที ทีสามารถทํางานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ ไม่ตงั อัตรารอบหมุนของจานขดั เกินอตั รา จานทีสึก ชํารุด ต้องเปลยี นใหม่ ผู้ปฏิบัติงานตอ้ งมแี ผงกันหรอื ปดลอ้ มพืนทีเพือปองกนั เศษโลหะกระเด็นออกไป โดนผอู้ ืน ก่อนทําการเปลยี นใบหนิ เจยี ร ผู้ปฏิบตั ิงานจะตอ้ งทาํ การดงึ ปลกั ออกทุกครัง ห้าม ผู้ปฏบิ ตั งิ านถอดการด์ นิรภยั หรอื ดดั แปลงเครืองมอื ในขณะทํางาน ห้าม ผู้ปฏิบตั ิงานใชง้ านใบหินเจยี รผดิ ประเภท และผดิ วิธกี ารทาํ งานโดยเด็ดขาด 20

กฎระเบยี บในการทาํ งาน งานเจาะ  จะตอ้ งเปนผทู้ มี ีความรู้ ความชํานาญ ในการใช้เครืองมอื จะต้องได้รับอนมุ ตั จิ ากหวั หน้ากอ่ น และมกี ารแจง้ ให้เจ้าของพืนทีทราบ หา้ ม สวมถงุ มอื ผา้ ในขณะใชเ้ ครืองเจาะ เพราะอาจเกดิ การดงึ โดยจดุ หมุนของ เครอื งเจาะเขา้ ไปในจุดอนั ตรายได้ กอ่ นปฏิบัตงิ านตอ้ งมีการตรวจเชค็ ชนิ งานว่าไดย้ ึดแนน่ แลว้ หรือไม่ มกี ารตรวจเชค็ อุปกรณ์วา่ มีจดุ ทชี ํารุด หรอื บกพรอ่ งหรือไม่ หากพบต้องทาํ การ ซอ่ มก่อนนําไปใช้งาน แตง่ กายใหร้ ัดกมุ และสวมอปุ กรณป์ องกนั อนั ตราย ดงั ต่อไปนี สวมแว่นตาหรอื หนา้ กาก ปองกันสะเกด็ หรือเศษวสั ดกุ ระเด็น ถา้ ตอ้ งใชถ้ ุงมือ ต้องสวมถงุ มือหนงั เท่านัน ห้ามใชถ้ ุงมอื ผา้ สวมรองเท้านิรภัย ขอ้ ควรระวงั ขณะเครืองจักรกาํ ลงั ปฏบิ ัตงิ าน ห้ามนําอวัยวะสว่ นหนงึ ส่วนใดเขา้ ไปใกล้ ๆ ไมห่ ยอกลอ้ หรือเล่นกนั ในบรเิ วณสถานทปี ฏิบตั งิ าน ห้าม ปฏบิ ัตงิ านกบั เครอื งจักร หากสภาพรา่ งกายและจิตใจไม่พร้อม เชน่ มอี าการ งว่ ง เหงา หรือ มึนเมา เครอื งเจาะทใี ชไ้ ฟฟาต้องมรี ะบบสายดิน เพือปองกันไฟฟาดูดจากกระแสไฟฟา 21

กฎระเบยี บในการทํางาน งานทาสี ผปู้ ฏิบัติงานต้องสวมใสอ่ ุปกรณ์ปองกนั อันตรายสว่ นบุคคลให้ครบถ้วนตลอดเวลา ทีปฏิบตั ิงาน เช่น หมวกนิรภยั , แวน่ ตานิรภัย, รองเท้านิรภัย, หนา้ กากกันสารเคมี ผู้ปฏบิ ัตงิ านตอ้ งทราบชนิดและอันตรายทีอาจเกดิ ขึนจากสารเคมีโดยศกึ ษาข้อมลู จากเอกสาร MSDS การจัดเก็บสารเคมตี อ้ งมีการระบายอากาศทีดี และมอี ปุ กรณด์ บั เพลงิ เพียงพอ สามารถหยิบใช้งานไดท้ ันทหี ากเกิดเหตฉุ กุ เฉนิ ห้าม ทาํ การผสมสีกับสารเคมที ีไมไ่ ดก้ ําหนดไวใ้ นฉลากโดยเดด็ ขาด ห้าม สบู บหุ รีในพืนทีการทาํ งาน และพืนทกี ารจดั เกบ็ สารเคมโี ดยเด็ดขาด หา้ ม นาํ อาหารและเครืองดมื ทุกชนดิ เข้ามารับประทานในบริเวณการทํางาน ห้าม กอ่ ใหเ้ กดิ ประกายไฟในพืนทกี ารทาํ งานสีและพืนทีการจดั เกบ็ สารเคมี ต้องมีการระบายอากาศทดี ใี นพืนทกี ารทํางานและพืนทีจัดเกบ็ สารเคมี การเก็บสารเคมีควรแยกเกบ็ ใหเ้ ปนระเบียบตามชนิดและประเภทของสารเคมี เมือสารเคมีกระเด็นโดนผิวหนัง ให้รีบล้างดว้ ยนาสะอาดอย่างนอ้ ย 15 นาทแี ละ ถอดเสือผา้ ทถี กู สารเคมี ควรถอดออกทันทแี ละชาํ ระล้างรา่ งกายดว้ ยนาสะอาด เมอื สารเคมกี ระเด็นเข้าตา ใหไ้ ปลา้ งตาทีอา่ งลา้ งตาฉกุ เฉิน โดยใหน้ าสะอาดไหล ผ่านตาประมาณ 15 นาที และรบี พบพยาบาลทันที จดั เก็บวัสดดุ ดู ซับสารเคมีหลังทาํ ความสะอาดพืนทีเขยี นปายบง่ ชีและแยกทงิ ตาม ประเภท/ชนดิ ของขยะ สที ีเหลือจากการใชง้ าน พนักงานจะตอ้ งนําไปเททิงทีถงั กากสี (ถงั 200 ลติ ร) ในจุดทกี ําหนดไวใ้ หท้ ุกครัง เมือไมใ่ ชง้ าน เพือเปนการแยกประเภทขยะกากสี และกระปองสีเปล่า 22

กฎระเบียบในการทาํ งาน งานทสี งู   การทาํ งานบนทสี งู เกิน 2 เมตรขึนไป จะต้องมจี ัดทาํ ราวกนั ตกความสูงประมาณ 90 - 110 cm และมีการติดตังนงั ร้าน จัดทาํ Platform หรอื นงั รา้ นสาํ หรับพืนทีบรเิ วณงาน หา้ มปนปาย ยืน หรือเดนิ ในทีทีไม่ได้จัดไวใ้ ห้ การทาํ งานบนทสี ูงเกนิ 4 เมตรขนึ ไป ผปู้ ฏิบตั งิ านจะต้องสวมใส่เขม็ ขดั นิรภยั รว่ ม กับสายชว่ ยชวี ติ หรือจดุ เกียวทมี ันคงแขง็ แรงในขณะปฏบิ ัติงานและมรี าวกันตก ช่องเปดหรอื ปล่องต่าง ๆ ต้องมฝี าปด หรือรวั กันความสงู ไมน่ ้อยกว่า 90 cm อุปกรณ์เครอื งมือทใี ชบ้ นทสี ูงต้องมกี ารผูกยึดไม่ให้ตกลงมาดา้ นลา่ ง อปุ กรณท์ มี ีขนาดเล็กควรใส่ในภาชนะทแี ข็งแรง การใชบ้ นั ไดแบบเคลอื นย้ายได้มมุ บันไดทีอยูต่ รงข้ามกบั ผนังทพี ิงจะตอ้ งวางทํามุม 75 องศา พืนทปี ฏบิ ตั ิงานทีต่างระดับกันอาจมวี สั ดุพลดั ตกต้องปดกนั เขตพืนทดี า้ นล่างด้วย ธงราวขาวแดงหรืออปุ กรณป์ ดกนั ชัวคราวโดยแสดงคําเตือนหรือห้ามไมใ่ หผ้ ู้ทีไม่ เกยี วขอ้ ง เข้า-ออก พืนทปี ฏบิ ัติงานชวั คราว เช่น นังร้าน หา้ มนาํ วัสดุอุปกรณ์มาจดั เก็บหรือวาง เนอื งจากไมไ่ ดอ้ อกแบบมาเพือรองรบั วัสดุนานๆ การลาํ เลยี งเศษวสั ดุเหลอื ใชล้ งจากทีสูงตอ้ งจัดทํารางปองหรือเครอื งมือลําเลยี ง ลงมาหา้ มโยนหรือทงิ ลงมาโดยเด็ดขาด สวมอุปกรณป์ องกนั อันตรายส่วนบคุ คลขณะทํางานเสมอ ได้แก่ ถุงมอื ทีปราศจาก นาํ มนั หมวกนิรภัย รองเท้านิรภัย เข็มขดั นิรภัยชนิดเต็มตวั และสายช่วยชีวติ ผคู้ วบคุมตอ้ งตรวจสอบให้จดั เก็บทําความสะอาดในพืนทีทาํ งานบนทีสูงอยเู่ สมอ 23

กฎระเบยี บในการทาํ งาน การใชน้ งั รา้ น  ในพืนทีปฏิบตั ิงานทีมคี วามสงู ตงั แต่ 2 เมตรขนึ ไป ควรจัดทําอุปกรณย์ ึดโยง เพือเกยี วคลอ้ งเข็มขัดนริ ภยั ใหแ้ ก่ผปู้ ฏบิ ัตงิ านได้ และตอ้ งจดั ใหม้ นี งั รา้ นทีได้ มาตรฐานก่อนเริมงาน เพือให้ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสามารถนาํ ไปใชง้ านได้อยา่ งปลอดภัย พืนทีปฏิบตั ิงานของนังร้านต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 35 ซม. พืนรองรบั ขาตังและข้อตอ่ ของนังร้าน ตอ้ งมีความแขง็ แรงพอทีจะรบั นําหนกั ของ นงั รา้ นชนิดนนั ๆ ได้ และอย่ใู นสภาพทดี มี คี วามมันคงไมส่ นั คลอนขณะปฏิบตั ิงาน และควรผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรทีมีความชํานาญอยเู่ สมอ ตอ้ งตรวจสอบอุปกรณน์ ังร้านทกุ ครงั กอ่ นเรมิ ใชง้ าน พืนทางเดินต้องวางและยึดอย่างมันคงกบั โครงสรา้ งนังรา้ น พืนนงั ร้านตอ้ งใช้ไมเ้ นือแข็งสภาพสมบรู ณ์ ไมผ่ ุกร่อน และไม่ควรใช้เหล็กทมี นี ํา หนกั มากมาใช้เปนพืนนงั รา้ น เสาคํายันนังรา้ นต้องตงั ใหไ้ ด้ฉากกับแนวระดับ ชินสว่ นของนังร้านทยี นื จากตวั นงั ร้านต้องไม่เกนิ 15 - 20 ซ.ม. นังรา้ นทีสงู กวา่ 2 เมตร ต้องมีราวกนั ตก ต้องจดั ทําแผน่ กนั เทา้ สูง 10 เซนติเมตร เพือปองกันวัสดุตกหลน่ กระเดน็ ตกลงไป บรเิ วณขอบอาคารได้ ในกรณีทพี ืนนังรา้ นลืน หรอื นังร้านชาํ รดุ ต้องทําการแกไ้ ขทันที ก่อนปฏิบัตงิ าน ตอ้ งมีผู้ตรวจสอบดูแลให้พืนนังร้านอย่ใู นสภาพพรอ้ มงานเสมอ โครงนังร้านต้องมีการยดึ โยงคาํ ยนั เพือปองกนั ไมใ่ หน้ ังรา้ นเอยี งหรือลม้ ในกรณีทีตอ้ งทํางานใกล้สายไฟทไี มม่ ีฉนวนหมุ้ หรืออปุ กรณ์ไฟฟาตอ้ งดําเนินการ จดั ใหม้ ีการหมุ้ ฉนวนทีเหมาะสม 24

กฎระเบยี บในการทํางาน การใชป้ นจันเหนือศรีษะ  ผบู้ ังคับปนจันต้องไดร้ ับการฝกอบรมและมใี บอนุญาตผ้บู ังคับปนจนั เทา่ นัน ผู้บงั คบั ปนจันจะต้องแสดงบตั รผ้บู งั คบั ปนจันและตดิ ปลอกแขนตลอดเวลา ทที าํ งานกับปนจนั ผู้บงั คับปนจันจะตอ้ งทาํ การตรวจสอบอปุ กรณค์ วามปลอดภัยทุกครงั ก่อนการใชง้ านปนจัน ผู้บงั คับปนจนั ตอ้ งทาํ การทดสอบระบบควบคุมการทํางานของปนจนั ก่อนทกุ ครัง หากพบวา่ มีปญหาให้รบี แจง้ หัวหน้างานให้ทราบทันที ผู้บงั คับปนจันจะตอ้ งสวมใสอ่ ุปกรณป์ องกนั อันตรายสว่ นบุคคลใหค้ รบถว้ น ตลอดเวลาทปี ฏิบตั ิงาน เช่น รองเทา้ นริ ภยั , หมวกนริ ภัย, แว่นตานิรภัย เปนตน้ ก่อนทาํ การยกชนิ งานทกุ ครังจะต้องทําการตรวจสอบอปุ กรณ์การยกเรยี บร้อย หรือไม่ หากอุปกรณ์การยกชํารดุ เสียหายควรทาํ การเปลยี นใหม่ ผู้บงั คับปนจันจะตอ้ งทาํ การยกชนิ งานขึนประมาณ 25 ซม. และลดลง 10 ซม. หากพบว่าปนจนั ยังไมห่ ยุด แสดงวา่ ระบบเบรคอาจชํารุดใหแจง้ หัวหน้างานทันที ผบู้ งั คบั ปนจันควรยกชนิ งานให้อย่ใู นระดบั ตาทสี ุดเท่าทจี ะตาได้ ในกรณไี ม่มสี ิง กดี ขวาง ผู้บังคบั ปนจนั จะต้องปฏิบัตงิ านดว้ ยความไมป่ ระมาท และปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บ ดา้ นความปลอดภยั อยา่ งเคร่งครดั หา้ มทําการยกชนิ งานทมี ีนาหนักเกินพิกัดทปี นจนั ยกได้โดยเดด็ ขาด ห้าม ผ้ทู ไี ม่เกียวขอ้ งกบั การปฏิบัติงานในการยกชินงานเข้าไปในรศั มขี อง การทาํ งานของปนจนั ห้าม ผูท้ ีไม่ผา่ นการฝกอบรมและไมม่ ีใบอนญุ าตผ้บู งั คบั ปนจันทําการใชง้ านปนจนั โดยเดด็ ขาด หากพบวา่ พนกั งานหรอื หัวหน้างานเปนผสู้ ังใหพ้ นกั งานทไี มผ่ ่านการฝกอบรมหรอื ไมม่ ีใบอนญุ าตผบู้ งั คบั ปนจนั ทาํ การใชง้ านปนจัน จะตอ้ งไดร้ ับเอกสารใบเตือน จากเจ้าทคี วามปลอดภยั ในการทาํ งานทนั ที ต้องจดั ให้มีการตรวจสอบตามระยะเวลาทกี ฎหมายกําหนด 25

ขอ้ บงั คบั โดยทวั ไปของบรษิ ัท ฯ 1ใหพ้ นกั งาน ผูร้ บั เหมา ผ้มู าติดต่อทเี ขา้ มาในเขตพืนทบี รษิ ัทใหป้ ฏิบัติตามกฎระเบียบและ ปายเตือนอนั ตรายดา้ นความปลอดภัยของบริษัทฯอย่างเคร่งครดั 2 ให้พนักงาน ผู้รับเหมา ผมู้ าตดิ ตอ่ ทีเขา้ มาในเขตพืนทบี รษิ ัทต้องปฏิบัติตนตาม คู่มือการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของบรษิ ทั 3 พนักงานทเี ขา้ ในเขตพืนทบี รษิ ทั ต้องแตง่ กายตามระเบยี บบริษัทฯ ผรู้ บั เหมา ผูม้ าติดตอ่ ให้แต่งกายมดิ ชดิ รัดกมุ เขา้ เขตพืนทบี รษิ ทั 4การปฏบิ ัตงิ านของผรู้ บั เหมาภายในพืนทบี ริษัท การซ่อมแซม การตอ่ เติม การดดั แปลง โครงสร้างอาคาร การก่อสร้างจะต้องมกี ารขออนุญาตทํางาน ทงั นี สาํ หรบั พนักงานทเี ปน หน่วยงานซอ่ มบาํ รงุ ของบรษิ ัทฯ ถา้ มคี วามจําเปนจะตอ้ งปฏิบัติงานทมี คี วามเสียงต่อการ เกิดอุบัติเหตหุ รืออาจก่อให้เกิดอนั ตรายต่อผ้ปู ฏบิ ตั ิงานให้มีการขออนญุ าตตามขา้ งตน้ 5ห้ามพนักงาน ผู้มาตดิ ต่อ ทีเข้าในเขตพืนทบี รษิ ทั ดมื สุรา เครอื งดมื ทีมสี ่วนผสมของ แอลกอฮอล์ เสพยาเสพตดิ เลน่ การพนนั และพกพาอาวุธเข้าในเขตพืนทบี รษิ ัทโดยเดด็ ขาด 6 เจา้ หนา้ ทคี วามปลอดภัยประจําบรษิ ัทฯ มีอาํ นาจในการเรียกตรวจ เรียกค้น ตรวจ ปสสาวะ เพือหาสารเสพติดและให้ทาํ รายงานตอ่ กรรมการผจู้ ดั การบริษัท 7ผู้ทอี ยใู่ นเขตพืนทีบรษิ ัทต้องตรวจสอบ รกั ษาความสะอาด หา้ มทงิ ขยะในเขต พืนทีบริษัท และพืนทปี ฏิบัตงิ าน และให้ผทู้ ีปฏบิ ัตงิ านแลว้ เสร็จตอ้ งจัดเกบ็ อุปกรณท์ าํ ความสะอาดพืนทีทาํ งานใหเ้ รยี บรอ้ ย 8เมอื พบเห็นการกระทาํ ทไี ม่ปลอดภัยหรอื สภาพทีไม่ปลอดภยั ใหแ้ จง้ เจา้ ของพืนที หรอื เจ้าของงานให้ทราบเพือดาํ เนินการแก้ไขต่อไป เมอื ได้รับอบุ ัตเิ หตุจากการทาํ งานใหแ้ จง้ เจ้าของงานใหร้ บั ทราบทนั ทีเพือทําการ 9 ปฐมพยาบาลเบอื งตน้ และเข้าส่ขู นั ตอนการรายงานการสอบสวนอุบตั เิ หตุเพือหา สาเหตุทีแทจ้ ริงต่อไป 10เมือเกดิ เหตุการณฉ์ กุ เฉนิ สําหรบั ผูท้ ีไม่เกยี วขอ้ งใหอ้ พยพมาที จุดรวมพลด้านหน้าบรษิ ทั 26

เครอื งหมาย เพือความปลอดภยั เครอื งหมายทตี ้องการใชส้ อื ความหมาย โดยใชร้ ปู สี หรอื ขอ้ ความ ทเี ฉพาะเจาะจงกบั ผ้ทู อี าจไดร้ บั อันตรายในสถานทีทํางาน โดยขอ้ ความภายในปายอาจจะสอื ความหมาย เพือปองกนั ไมใ่ ห้เกดิ อบุ ตั เิ หตุ (prevent accidents) อันตรายต่อสขุ ภาพ (health hazards) ระบุสถานทตี งั ของอปุ กรณป์ องกนั ไฟไหม้ (fire protection) หรอื การ ให้คาํ แนะนําในกรณที ีเกดิ เหตุฉกุ เฉิน 27

การปองกันและระงับอัคคีภัย เบืองต้น สาเหตหุ ลกั ของการเกดิ อัคคีภัยในสถานประกอบกจิ การ 1. อปุ กรณ์ไฟฟาชํารดุ 3. การเสยี ดทาน 4. วตั ถทุ มี ีผิวร้อนจดั ไมไ่ ดม้ าตรฐาน การเสยี ดสขี อง เช่น เหลก็ ทีถกู เผา เมอื เชือเพลงิ สมั ผัส เสยี งต่อการเกิด 2. การสบู บุหรี เครอื งจกั ร ทาํ ให้ จะเกดิ การลกุ ไหม้ ประกายไฟ เกิดความรอ้ นสูง การจุดไฟ หรือการทิงก้นบหุ รี 6. ไฟฟาสถิต 7. ปฏกิ ิรยิ าของ 5. สะเก็ดไฟ สารเคมีบางชนิด 8. สภาพบรรยากาศ ประกายไฟ เมอื สัมผัสกบั นํา ทีมีสิงปนเปอน หรือเปลวเพลิง อากาศ จะลกุ ไหม้ ก่อให้เกิดการระเบดิ เชน่ ไอระเหยของ ก๊าซ องค์ประกอบไฟ อากาศ ปฏกิ ริ ยิ าลกู โซ่ อุณหภูมิ เชอื เพลิง 23

การปองกันและระงับอัคคีภัย เบืองต้น ประเภทของไฟ และชนดิ ของ ถังดบั เพลงิ ในกรณมี มี าตรวดั ดเู ข็มต้องชอี ยู่ในแถบสีเขียวถา้ เขม็ เอียงไป ด้านซา้ ยมือแสดงวา่ แรงดนั ในถังไม่อยูใ่ น สภาพพร้อมใชส้ มบรู ณ์ใหด้ ําเนินการทาํ ไปอดั แรงดนั เพิม ในกรณไี มม่ มี าตรวัด จะเปนถังดับเพลงิ ประเภทซโี อทใู หต้ รวจสอบ จากการชงั นําหนักถ้านาํ หนักลดลงเกนิ 20% ใหน้ ําไปอดั ซโี อทูเพิม 28

การรายงานอุบตั เิ หตุ กําหนดให้มีการรายงาน เหตุการณ์ทีเกดิ ขึนทกุ ชนิดทีเปนสาเหตุ หรืออาจทําให้เกิด การบาดเจ็บ, ทรพั ย์สินเสียหาย หรือเปนการทาํ ลายสภาพแวดลอ้ มให้ผบู้ ริหารทีเกียวข้อง ในพืนทที ีเกิดเหตุรบั ทราบ เมือเกิดเหตกุ ารณข์ ้างตน้ ควรมีการรายงานโดยวาจาใหห้ ัวหน้างาน ในพืนทีรบั ทราบ และเมือสามารถควบคุมสถานการณ์ไดท้ ้ังหมดแล้วจะตอ้ งเขียนรายงานให้เรว็ ทีสดุ เท่าทีกระทาํ ได้ โดยใชเ้ วลาไมเ่ กิน 24 ชวั โมงหลังเกิดเหตุ ส่งมาทหี อ้ งพยาบาลและ จป.วิชาชีพ การสอบสวนอบุ ัติเหตุ หากเหตุการณท์ เี กดิ ขนึ เปนเหตุฉุกเฉนิ และได้มกี ารปฏิบตั ติ ามแผนระงบั เหตุ ฉกุ เฉินแล้ว ผู้บริหารจะตอ้ งทาํ การสอบสวนเหตุการณ์ทเี กดิ ขนึ เพือหาสาเหตุพืนฐาน (Basic Causes) เพือนาํ ไปสกู่ ารแก้ไข และเพือใหเ้ ปนตามข้อกําหนดของกฎหมาย กรณีทีอุบตั เิ หตุเกิดขึน หัวหน้างานรว่ มกบั เจ้าหน้าทคี วามปลอดภัย หรือทีม สอบสวนต้องทาํ การสอบสวน เพือหาสาเหตแุ ละทบทวนสถิติอุบตั เิ หตุเพือระบชุ ถี ึงปญหา ทีเกิดขึน และดูแนวโน้มของอุบตั เิ หตุเพือหาทางควบคมุ ปองกนั ก่อนทีเกิดความสูญเสีย มากขนึ ประเภทและชนดิ อบุ ัติเหตุ/อุบัติการณ์ ทีตอ้ งมีการรายงาน 1. การเสียชวี ิต หรือพิการ 2. การบาดเจบ็ /เจบ็ ปวย ซึงทาํ ให้สูญเสยี เวลางาน (Loss-Time) 3. การบาดเจ็บ/เจบ็ ปวยทไี มต่ อ้ งหยุดงาน (Minor) 4. อุบัติเหตุรา้ ยแรงทีตอ้ งเขา้ รบั การรักษาในโรงพยาบาล 5. อุบัติเหตไุ มร่ ้ายแรงทีตอ้ งเข้ารบั การรักษาในโรงพยาบาล 6. อุบตั เิ หตุรา้ ยแรงทไี ด้รับการปฐมพยาบาล 7. อุบัติเหตไุ มร่ า้ ยแรงทีไดร้ ับการปฐมพยาบาล 8. อุบตั เิ หตเุ กียวกบั ยานพาหนะและการขนสง่ 9. อบุ ตั ิเหตุเกียวกบั หม้อนาํ ระเบดิ 10. อบุ ตั ิเหตุทมี ีนํามัน สารเคมหี กล้น หรือรวั ไหล หรอื เหตุการณใ์ ด ๆ ทกี ่อให้เกดิ ปญหา ดา้ นสิงแวดล้อม 11. อุบัติเหตุเกียวกับก๊าซ LPG และ กา๊ ซแอมโมเนยี รัวไหล 12. อุบัติเหตทุ ีมที รัพยส์ ิน, อุปกรณ์เสยี หาย 13. อุบตั ิเหตทุ เี กดิ กับผู้รับเหมา หรอื แรงงานจา้ งเหมา 29

การปฐมพยาบาลเบืองต้น การปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้ แ ผ ล ไ ฟ ใ ห ม้ นํา ร้ อ น ล ว ก ถอดเสือผา้ ออกจากตัวผ้ปู วย หากไหมต้ ิดกบั ผิวหนงั ควรใช้กรรไกรตัด ใชน้ าํ สะอาดล้างแผล เพือทําความสะอาด ห้ามใช้โลชัน ยาสีฟน หรือยาปฏชิ วี นะทาบนแผลไฟไหม้ ทายาและปดแผลดว้ ยผา้ สะอาด หากเปนต่มุ นาํ ใส ใหป้ ดแผลหลวม ๆ หากสงสัยวา่ แผลใหมล้ กึ ถึงเนือเยอื ใต้ผิวหนงั ไม่ควรใหแ้ ผลโดนนํา ปดบาดแผลของผูบ้ าดเจ็บดว้ ยผา้ สะอาดหรอื ผ้ากอ๊ ซ และพบแพทย์โดยเรว็ แ ผ ล ใ ห ม้ จ า ก ส า ร เ ค มี ใชน้ ําสะอาดชาํ ระล้าง โดยให้นําไหลผา่ นบาดแผลนัน เพือลดความเข้มข้นของสารเคมี ห้ามใช้การแก้พิษโดยสารเคมี และรีบไปพบแพทย์ การปฐมพยาบาลบาดแผลฉกี ขาด บ า ด แ ผ ล ฉี ก ข า ด ทั ว ไ ป ใชน้ ําสะอาดล้างแผล และใชผ้ า้ สะอาดหรือผ้าก๊อซปดปากแผลเพือหา้ มเลอื ด บ า ด แ ผ ล จ า ก วั ต ถุ หั ก ค า แ ผ ล หา้ มดึงวัตถทุ ีหักคาออกจากบาดแผล ยดึ วัตถทุ ีหักคาให้อย่นู งิ กอ่ นนาํ ผู้ปวยมาโรงพยาบาล บ า ด แ ผ ล อ วั ย ว ะ ถู ก ตั ด ข า ด หา้ มแชอ่ วยั วะทีถูกตดั ขาดลงไปในนําแข็งโดยตรงเด็ดขาด ควรเกบ็ อวัยวะทขี าดใสถ่ งุ พลาสตกิ สะอาด รดั ปากถงุ ใหแ้ น่น แลว้ นําถุงไปแช่ในภาชนะทมี นี าํ ผสมนําแขง็ รีบนําผูป้ วยส่งโรงพยาบาลโดยเรว็ 30

การปฐมพยาบาลเบืองต้น การปฐมพยาบาล อาการเปนลมหรือหมดสติ การปฐมพยาบาล ใหผ้ ู้ปวยนอนศีรษะตํา คลายเสือผ้าและเขม็ ขดั ใหห้ ลวม เพือใหเ้ ลอื ดไปเลยี งสมองได้ อยา่ งเพียงพอ อยา่ มงุ ดผู ู้ปวย เพือใหอ้ ากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก ใชน้ ําเย็นเช็ดบริเวณใบหนา้ คอ แขนขา และให้ดมยาดม จะชว่ ยใหร้ ู้สึกตัวเรว็ ขนึ อย่าใหผ้ ู้ปวยกินหรอื ดมื อะไรขณะทียงั ไม่ฟน จะทําใหส้ าํ ลกั เปนอันตรายได้ เมอื ผ้ปู วยเริมรู้สกึ ตัวให้นอนพักตอ่ อย่าลกุ นังเร็วเกินไป อาจทําให้เปนลมซําอกี ได้ เมอื ผู้ปวยฟนคืนสตแิ ละเริมกลนื ได้ อาจให้ผู้ปวยดืมนําหรอื นาํ หวาน ขนั ตอนการชว่ ยคนหมดสติ ใหฟ้ นคืนชีพ (CPR) 31

อุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) อปุ กรณส์ าํ หรับผูป้ ฏิบัติงานสวมใส่ขณะทํางานเพือปองกนั อนั ตราย ทอี าจเกิดขึนอนั เนอื งมาจากสภาพและสิงแวดลอ้ มการทํางาน เช่น เสียงดงั แสง สารเคมี ความรอ้ น การตกจากทีสูง วัสดุกระเด็นเข้าตา วสั ดุหล่นกระแทก หรอื ทบั เปนต้น ประเภทของอุปกรณป์ องกนั อนั ตรายสว่ นบุคคล อุปกรณ์ปองกันศีรษะ (Head Protection Equipment) สวมไว้ เพือปองกันศรี ษะจากการถูกชนหรอื กระแทก หรือวตั ถุตกจากทสี ูง กระทบต่อศีรษะ ได้แก่ หมวกนริ ภัย มี 2 ชนดิ คอื ชนิดทีมีขอบหมวก โดยรอบ และชนิดทมี ีเฉพาะกระบัง ดา้ นหนา้ อปุ กรณป์ องกนั ใบหนา้ และตา (Eye and face protection equipment) ช่วย ปองกันอันตรายทีอาจเกิดขนึ จากวัตถุ สารเคมกี ระเดน็ เขา้ ตา ใบหน้า หรอื ปองกนั รงั สที ีจะทําลายดวงตา แบ่งเปน แวน่ ตานิรภัย แวน่ ครอบตา ปองกันวัตถกุ ระแทก ปองกันสารเคมี ปองกนั แสงจา้ แบบมีกระบงั ข้าง กระบังปองกัน ใบหนา้ หนา้ กากเชอื ม ครอบปองกันหนา้ แบบไมม่ กี ระบังข้าง 32

อุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) ประเภทของอปุ กรณ์ปองกันอนั ตรายสว่ นบคุ คล อุปกรณป์ องกันหู (Ear protection equipment) เปนอุปกรณท์ สี วมใส่ เพือกนั ความดงั ของเสยี งทีจะมากระทบตอ่ แกว้ หู กระดกู หู เพือปองกนั อันตรายทีมีต่อระบบ การไดย้ นิ แบ่งตามลกั ษณะการใช้งานได้ดังนี ทีอดุ หู (Ear plug) ทีครอบหู (Ear muff) อุปกรณ์ปองกันการหายใจ (Respiratory protection equipment) เปน อปุ กรณช์ ว่ ยปองกนั อนั ตราย จากมลพิษเข้าสรู่ ่างกายโดยผ่านทางปอด ซึงเกิดจาก การหายใจเอามลพิษ เช่น อนภุ าคก๊าซ และไอระเหยทีปนเปอนอย่ใู นอากาศ หรอื เกิด จากปริมาณออกซเิ จนในอาการไมเ่ พียงพอ แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ประเภททที ําใหอ้ ากาศปราศจากมลพิษ กอ่ นทจี ะเขา้ สู่ทางเดนิ หายใจ ประเภททีส่งอากาศจากภายนอกเข้าไปในหน้ากาก 33

อุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) ประเภทของอุปกรณป์ องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล อปุ กรณ์ปองกนั ลําตัว (Body Protection Equipment) เปนอุปกรณ์ทสี วมใส่เพือ ปองกนั อันตราย จากการกระเดน็ หกรดของสารเคมี การทาํ งานในทีมคี วามรอ้ นสงู หรือมีสะเกด็ ลกู ไฟ เปนตน้ ชดุ ปองกนั สารเคมี ชดุ ปองกันความรอ้ น ชดุ ปองกนั การตดิ ไฟ เสอื คลุมตะกัว อุปกรณป์ องกันมอื (Hand Protection Equipment) ในการปฏบิ ัติงานทตี ้องใช้ ส่วนของมือ นวิ มอื และแขน ซงึ อาจเสยี งต่ออนั ตรายจากการถูกวตั ถุมคี ม บาด ตัด การขดู ขดี ทาให้ผวิ หนังถลอก การจบั ของรอ้ น หรอื การใชม้ อื สัมผัสวัสดอุ ปุ กรณท์ ี อาจก่อใหเ้ กดิ อันตรายอืน ๆ นนั จําเปนตอ้ งมีอุปกรณ์ปองกัน โดยใช้ถงุ มือหรือเครือง สวมเฉพาะนิวชนิดต่าง ๆ ตามความเหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน ดังนี ถุงมอื ใยหนิ ใช้สาํ หรับงานทีตอ้ งสมั ผัสความร้อน ถุงมอื ใยโลหะ ใช้สําหรบั งานทเี กยี วกบั การใช้ของมคี ม ถงุ มอื ยาง ใช้สําหรบั งานไฟฟา ถุงมอื ยางทสี วมทบั ด้วยถงุ มือหนังชนิดยาว สาํ หรบั ใช้ในงานไฟฟาแรงสงู ถงุ มอื ยางชนดิ ไวนีลหรือนีโอพรีน ใช้สําหรบั งานทตี ้องสมั ผสั สารเคมีกดั กรอ่ น ถงุ มอื หนังใช้สําหรับงานทีตอ้ งสมั ผัสวสั ดุทหี ยาบ ถงุ มือหนังเสรมิ ใยเหล็ก ใช้สาํ หรบั งานหลอมโลหะหรือถลงุ โลหะ ถุงมือผา้ หรือเส้นใยทอ ใชส้ ําหรบั งานทีต้องหยิบจบั วสั ดอุ ปุ กรณ์เบา ๆ ถงุ มอื ผ้าหรือใยทอเคลือบนาํ ยา ใชส้ าํ หรบั งานทีตอ้ งสัมผสั สารเคมโี ดยทัวไป 34

อุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) ประเภทของอุปกรณป์ องกนั อนั ตรายสว่ นบุคคล อปุ กรณ์ปองกนั การตกจากทสี ูง การทาํ งานในทีสูง (Falling Protection Equipment) เชน่ งานก่อสรา้ ง งานทาํ ความสะอาด งานไฟฟา จําเปนต้องใชอ้ ปุ กรณ์ ปองกนั การตกจากทีสูง อปุ กรณป์ องกนั เท้า (Foot Protection Equipment) สวมใสเ่ พือปองกันสว่ นของ เท้า นิวเทา้ หนา้ แข้ง ไมใ่ หส้ มั ผัสกบั อันตรายจากการปฏิบตั ิงาน มีหลายชนิด ได้แก่ รองเทา้ นิรภัย รองเท้านิรภัยชนดิ หุม้ ข้อ รองเทา้ ปองกนั สารเคมี 35

เบอรโ์ ทรศัพทก์ รณฉี กุ เฉนิ บริษัท นนั ทฉัตรมาตา จํากดั โทร 034 470 716 แ จ้ ง เ ห ตุ ฉุ ก เ ฉิ น แจง้ รถพยาบาลฉกุ เฉนิ งานปองกนั และบรรเทาสาธารณภัย โรงพยาบาลกระทุ่มแบน เทศบาลกระท่มุ แบน 034 119 990 034 471 579 โรงพยาบาลมหาชยั 2 สถานีตํารวจภูธรกระทุ่มแบน 028103404 028103442 034 471 008 024310054 การไฟฟาสว่ นภูมิภาคอาํ เภอกระทมุ่ แบน โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชนั แนล 034 471 904 อ้อมนอ้ ย กองการประปา เทศบาลเมืองกระทุม่ แบน 1792 034 471 745 (ตอ่ 109) 024310070 สํานกั งานเทศบาลเมอื งกระทมุ่ แบน 034 471 745 แจ้งเหตุฉุกเฉินบริษัทใกล้เคียง บริษัท วิคเตอร์ แมนูแฟคเจอรงิ จาํ กัด 034 479 805 บริษทั อควา แคร์ เทรดดงิ จํากดั 089 880 1111 บริษัท นิวแลบ เทคโนโลยี จาํ กัด 086 409 6115 บริษทั รมาญา ลาบอราทอรี จํากัด 098 654 2424 36


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook