ขยะในโรงเรียน
คํานํ า ส่วนแรกของรายงานที่อธิบายให้ผู้อ่าน เห็นภาพรวมว่าจะทำรายงานเกี่ยวกับ อะไร เกริ่นถึงวัตถุประสงค์ ที่มาที่ไป ขอบเขตของการทำรายงาน รวมถึง ประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับ ในส่วนท้าย ของคำนำมักกล่าวขอบคุณอาจารย์ผู้สอน และผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง การเขียนบท คำนำที่ดีจะช่วยให้ผู้อ่านมีความสนใจและ ติดตามอ่านรายงานของเรามากขึ้น ผู้จัดทํา ด.ญ.จิรัชญา สิงห์โต ด.ญ..พลอยณิชา ชมชิด
สารบัญ เนื้อหา 4 แนวคิดปลอดขยะ 5 แบบประเมิน 7 การแยกขยะ 9 สรุป 12
เนื้ อเรื่ อง จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ปี พ.ศ.2562 ประเทศไทยมีขยะมูลฝอย เกิดขึ้นประมาณ 28.71 ล้านตัน (เพิ่ม ขึ้นจากปี พ.ศ. 2561 ร้อยละ 3) หรือ ประมาณ 78,665 ตัน/วัน อัตราการ เกิดขยะมูลฝอยชุมชนโดยเฉลี่ย เท่ากับ 1.18 กิโลกรัม/คน/วัน เพิ่มขึ้น จากปีก่อนที่อยู่ที่ 1.15 กิโลกรัม/คน/ วัน ในจำนวนนี้ เป็นขยะมูลฝอยที่ เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ประมาณ 13,583 ตัน/วัน คิดเป็นร้อย ละ 17 ของปริมาณขยะมูลฝอย ทั้งหมด ทั้งนี้ ปริมาณขยะมูลฝอยที่ เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ถูกนำไปกำจัดโดยการฝัง กลบที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัด ฉะเชิงเทรา แม้ว่าจะเป็นการฝังกลบ แบบถูกหลักสุขาภิบาลแต่ กระบวนการเก็บขนและฝังกลบก็ยัง สร้างความเสี่ยงทางด้านสุขภาพและ สิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนในสอง จังหวัดดังกล่าวและยังเป็นการ จัดการขยะที่ไม่ยั่งยืน LARANA MAGAZINE 07
แนวคิดปลอดขยะ (Zero Waste) เป็นแนวคิด การจัดการอย่างยั่งยืน มีจุดประสงค์ที่จะลด ปริมาณขยะที่ต้องส่งไปกำจัดด้วยการฝังกลบ หรือเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด แนวคิดปลอดขยะมุ่งเน้นให้แหล่งกำเนิดขยะ พยายามป้องกันหรือลดการสร้างขยะให้ได้มาก ที่สุดเป็นลำดับแรกตามแนวคิดลำดับขั้นของการ จัดการขยะ (Waste Management Hierarchy) เช่น การใช้ถุงใช้ซ้ำได้แทนการรับถุงพลาสติกใบใหม่จากร้าน ค้า เป็นต้น แต่หากไม่สามารถป้องกันได้ ควรนำของที่ได้มาใช้ ซ้ำหรือนำไปรีไซเคิล หากเป็นขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร ให้นำ มาเลี้ยงสัตว์หรือทำปุ๋ยหมัก หากยังมีส่วนที่รีไซเคิลไม่ได้ สามารถหาช่องทางในการแปลงเป็นพลังงานได้ เช่น ก๊าซ ชีวภาพจากขยะอินทรีย์ ไบโอดีเซลจากน้ำมันใช้แล้ว การส่งเผา เป็นเชื้อเพลิงทดแทนให้โรงผลิตปูนซีเมนต์หรือขยะเชื้อเพลิง (Refuse Derive Fuel: RDF) เป็นต้น หากทุกองค์กร ชุมชน และครัวเรือนช่วยกันลดและแยกขยะตามแนวคิดนี้จะช่วยลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอันเกิดจากปัญหาขยะ มูลฝอยและลดความเสี่ยงของการปนเปื้ อนไมโครพลาสติกใน LARANA MAGAZINE 08 ห่วงโซ่อาหาร อีกทั้งยังช่วยลดภาวะโลกร้อนจากขยะอาหาร
1. ประกาศนโยบายและแผนงาน เช่น ประกาศมาตรการลด ขยะอย่างชัดเจน อาทิ งดแจกถุงพลาสติก รวมทั้งแต่งตั้ง คณะทำงานในเรื่องการจัดการขยะ ปรับการเรียนการสอน ให้เชื่อมโยงกันทั้งในและนอกห้องเรียน เช่น สอดแทรก แนวคิดปลอดขยะในวิชาต่าง ๆ ทุกระดับชั้นอย่างสอดรับ กัน และสามารถวัดผลการเปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนสภาพ แวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการสร้างพฤติกรรมและบ่ม เพาะนิสัยในการลดการสร้างขยะ คัดแยกขยะ รวมถึง จัดการขยะบางประเภท เช่น การปรับปรุงตู้กดน้ำดื่มสร้าง ความมั่นใจให้เด็กและบุคลากรพกกระบอกน้ำมาเติมน้ำ แทนการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติก การจัดระบบถังขยะ แบบแยกประเภทโดยติดป้ายและใช้สีถังขยะตามมาตรฐาน เพื่อให้มีการสื่อสารที่ตรงกันและเข้าใจง่าย เป็นต้น ปูทาง ไปสู่บ้านและชุมชน เช่น การจัดกิจกรรมธนาคารขยะหรือ ตลาดนัดขยะรีไซเคิลที่เปิดรับขยะรีไซเคิลจากบ้าน ทำให้ เด็กนักเรียนได้มีการสื่อสารและกระตุ้นให้ผู้ปกครองแยก ขยะที่บ้านด้วย รวมทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ลดการ สร้างขยะพลาสติก โดยโรงเรียนทำกิจกรรมเป็นตัวอย่าง ให้กับผู้ปกครอง
แบบประเมินโรงเรียนปลอดขยะ (Zero-Waste School) 13 ข้อ (ภาคผนวก) ซึ่งช่วยให้โรงเรียนมีการทบทวนการดำเนินงาน ตามกรอบแนวคิดปลอดขยะแบบองค์รวมและช่วยให้โรงเรียนมี การวางแผนดำเนินงานได้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน และสามารถนำ แบบประเมินมาใช้ในขั้นตอนการติดตามประเมินผลการยก ระดับของโรงเรียน การประเมินการจัดการขยะของโรงเรียน (ก่อนการยกระดับ) • นโยบายและกลไกการทำงาน โรงเรียนไม่มีนโยบาย แผนงาน และงบประมาณสำหรับการจัดการขยะเป็นการเฉพาะ แต่มี กิจกรรมตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร • การเรียนการ สอน ไม่มีการวางแผนการบูรณาการหรือสอดแทรกเรื่องการ จัดการขยะในวิชาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบทุกระดับชั้น มีการ สอดแทรกโดยเน้นเรื่องความสะอาดมากกว่าการจัดการขยะ มี กิจกรรมเก็บขยะตอนเช้า ตามหลัก 5ส ของกรุงเทพมหานคร • สภาพแวดล้อมในโรงเรียน มีการดูแลความสะอาดของตู้กด น้ำและคุณภาพน้ำดื่มอย่างสม่ำเสมอ โดยสำนักงานเขตมา ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ภาคเรียนละ 1 ครั้ง และนักเรียนพกแก้ว น้ำ หรือกระบอกน้ำส่วนตัวมาเติมน้ำจากตู้กดน้ำแทนการซื้อ น้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติก มีมาตรการลดพลาสติกแบบใช้ครั้ง เดียวทิ้ง เช่น ร้านค้าโรงเรียนไม่แจกถุงพลาสติกใช้ครั้งเดียว ทิ้ง ครูและนักเรียนพกถุงผ้า มีการรณรงค์ทานข้าวให้หมด จานอย่างสม่ำเสมอ มีถังแยกประเภท 1 ชุด (ใช้ในการสอน) ไม่มีป้ายบอกการแยกทิ้งที่ชัดเจน ไม่มีระบบแยกเก็บและไม่มี ปลายทางรองรับขยะที่มีการคัดแยกและรวบรวม มีการ ดำเนินมาตรการลดขยะและแยกขยะในงานประชุมและงาน กิจกรรมพิเศษของโรงเรียน เช่น ให้นักเรียนพกชามช้อนมา จากบ้านในงานวันเด็ก แต่ยังมีการใช้ถ้วยโฟมอยู่บ้าง • เชื่อม โยงกับบ้านและชุมชน มีการสื่อสารให้นักเรียนและมีเอกสาร
การคัดแยกขยะ นับเป็นกรรมวิธีเบื้องต้น ที่เราสามารถทำได้เองถ้า มีความใส่ใจและเห็นถึงความสำคัญมากพอ โดยวิธีการการแยก ขยะง่ายๆ อย่างถูกวิธี สามารถแบ่งประเภทของขยะออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มขยะอินทรีย์ เช่น พวกเศษอาหาร กิ่งไม้ ใบไม้ ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นปุ๋ยได้ สีของถังขยะหรือถุงขยะ จะเป็นสีเขียว 2. ขยะรีไซเคิล เช่น กระดาษ เศษเหล็ก โลหะ ขวดแก้ว ขวด พลาสติก ซึ่งสามารถนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลได้ สีของถัง ขยะหรือถุงขยะจะเป็นสีเหลือง 3. ขยะทั่วไป เช่น ซองลูกอม ถุงขนม หลอดกาแฟ ถุงพลาสติก เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยากและไม่คุ้มที่จะนำไปรีไซเคิล แต่บาง อย่างสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ สีของถังขยะหรือถุงขยะจะเป็น สีน้ำเงิน 4. ขยะอันตราย เช่น กระป๋องสี ถ่านไฟฉาย กระป๋องยาฆ่าแมลง ขวดน้ำมันเครื่อง สีของถังขยะหรือถุงขยะจะเป็นสีแดงหรือบาง พื้นที่จะใช้เป็นถังขยะสีเทาฝาส้ม
การแยกขยะที่เหมาะสมนั้น 1. ลดการใช้ บรรจุภัณฑ์บางประเภท ถ้าไม่มีความจำเป็น เราสามารถลดปริมาณการใช้ลงได้ เช่น โฟม ถุงพลาสติก และหลอดกาแฟ โดยเฉพาะโฟมที่นอกจากจะเป็นมลภาวะ แล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้จากสารเคมีที่เกิดขึ้น จากการหุ้มห่ออาหารอีกด้วย โรงเรียนควรเริ่มต้นจากการหัน มาใช้ภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ หรือเลือกใช้วัสดุที่ ย่อยสลายได้แทนบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว 2. ใช้ให้คุ้มค่า โรงเรียนควรส่งเสริมให้นักเรียนใช้วัสดุ ต่างๆให้คุ้มค่า เช่น กระดาษถ่ายเอกสาร แทนที่จะใช้เพียง หน้าเดียว เราควรที่จะใช้ทั้งสองหน้าเพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุด หรือรณรงค์ให้นักเรียนพกขวดน้ำสำหรับเติมน้ำดื่ม แทนการซื้อขวดน้ำใหม่ เป็นต้น
3. แยกขยะให้ถูกวิธี การที่ประเทศไทยไม่ได้รณรงค์ให้เกิดการคัด ขยะอย่างจริงจัง ทำให้ประเทศไทยมีปริมาณขยะที่สามารถรีไซเคิล ได้เพียงเล็กน้อยจะปริมาณขยะทั้งหมด ซึ่งสาเหตุอย่างหนึ่งคือขยะ ส่วนใหญ่ปะปนกันจนไม่สามารถคัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ สิ่งนี้ ทำให้ประเทศไทยมีต้นทุนในการกำจัดขยะจำนวนมากและยัง ขาดทุนจากขยะรีไซเคิลที่ไม่สามารถคัดแยกได้อีกด้วย 4.จัดตั้งธนาคารขยะ สำหรับบางคน ขยะนั้นเป็นเหมือนขุมทอง เพราะสามารถนำมาคัดแยกและขายเพื่อนำไปรีไซเคิล ซึ่งสามารถ สร้างรายได้ในระดับที่น่าสนใจไม่น้อย ดังนั้นแทนที่โรงเรียนจะ ปล่อยให้ขยะถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า การจัดตั้งธนาคารขยะใน โรงเรียนน่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจมากกว่า โดยเปิดโอกาสให้ นักเรียนนำขยะมาฝากกับธนาคาร ลงบันทึกปริมาณขยะที่นำมา ฝากในสมุดบัญชี จากนั้นเมื่อธนาคารนำขยะไปขาย นักเรียนก็จะ สามารถเบิกเงินตามปริมาณขยะที่นักเรียนฝาก
5.ใช้ประโยชน์จากขยะอินทรีย์ ขยะอินทรีย์จำพวกเศษ อาหาร สำหรับโรงเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ เป็นขยะที่มีประมาณค่อนข้างมาก เพราะนักเรียนและ บุคลากรมีการรับประทานอาหารทุกวัน โรงเรียนควรมีถัง ใส่เศษอาหารเพื่อให้นักเรียนเทเศษอาหาร ก่อนนำภาชนะ ไปวางในที่ที่จัดไว้ ซึ่งเศษอาหารที่รวบรวมได้นี้ โรงเรียน อาจนำไปผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพ 6. ดูแลความสะอาด การคัดแยกและกำจัดขยะนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด การดูแล เรื่องของความสะอาดถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะโรงเรียนจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ สุขภาพพลานามัยที่เหมาะสมของนักเรียนด้วย
สรุปผลโครงการการ จัดการขยะในโรงเรียน และชุมชนเพื่ อลดภาวะ โลกร้อน “ขยะ” กลายเป็นปัญหาโลกแตกที่ต้องจัดการ หลายๆชุมชน ต้องประสบปัญหาเรื่องที่ทิ้งขยะไม่เพียงพอ ไม่มีหน่วยงาน มาจัดการดูแล และนี้เป็นปัญหาของชุมชนที่เยาวชนกลุ่มหนึ่ง ไม่อาจนิ่งเฉยจึงลุกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ของชุมชน “หมู่บ้านผมไม่มีที่ทิ้งขยะ เขาก็ไปทิ้งเชิงดอยจึง เป็นคดีความขึ้นมา แล้วเขาก็มาประชุมที่หมู่บ้านผมเป็นเลขา ของผู้ใหญ่บ้านจึงเข้าประชุม นายกเทศบาลมาคุยกับชาว บ้านมาขอทิ้งโดยจ่ายค่าเสียหายให้ปีละหนึ่งแสนบาทและ ตกลงกันได้ แล้วเทศบาลเองรับผิดชอบ 9 หมู่บ้าน เขารับ ผิดชอบเยอะ ผมเลยคิดว่าทำไมไม่คิดแยกขยะอีกอย่าง หมู่บ้านผมอยู่เชิงดอยขุนตาลก็เลยเป็นห่วง” เหตุการณ์นี้ ทำให้ นิว (นวฤทธิ์ เขียววงศ์ตัน)ชวนเพื่อนๆลุกขึ้นมาทำเรื่อง นี้ เพราะเห็นว่าชุมชนมีปัญหาขยะจึงคิดว่าน่าจะใช้ต้นทุนเดิม ที่ตนเองมีอยู่นั้นก็คือการทำธนาคารขยะที่ทำในโรงเรียนมา ขยายต่อทำกับชุมชนโดยทำเป็นชุมชนต้นแบบ
ชุมชนบ้านแม่ฮาว ตำบลห้างฉัตร อำเภอห้างฉัตร จังหวัด ลำปาง เป็นอีกชุมชนที่ต้องประสบปัญหาขยะที่เพิ่มปริมาณ ขึ้น พื้นที่ทิ้งขยะไม่เพียงพอ ขยะมากมายเหล่านี้มาจากครัว เรือนซึ่งชาวบ้านไม่มีการแยกขยะก่อนทิ้ง ทำให้มีขยะหลาย ประเภทรวมอยู่ในถุงเดียวกัน ขยะเกิดการหมักหมุมเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เมื่อฝนตกลงมาทำให้น้ำฝนไหลผ่านกองขยะ ลงสู่ลำคลอง กลุ่มเยาวชนรักษ์โลก โรงเรียนห้างฉัตรวิทยา เห็นว่าถ้าหากชุมชนมีความรู้เรื่องการแยกขยะก่อนทิ้งก็จะ สามารถแก้ปัญหาขยะเน่าเสียและสามารถลดปริมาณขยะได้ ครูอ้อย (ศรีวาริน สารศรี)ครูที่ปรึกษาโครงการเล่าให้ฟังว่า “เด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มจิตอาสาช่วยงานต่างๆในโรงเรียน รวม ถึงช่วยจัดการดูแลธนาคารขยะของโรงเรียนด้วย จึงได้ชวน กันมาทำโครงการดีๆเพื่อชุมชนเรา และที่เลือกหมู่บ้านแม่ฮาว เพราะเยาวชนเคยทำงานวิจัยเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้าน แม่ฮาวอีกทั้งมีแกนนำเยาวชนบางคนอยู่ในหมู่บ้านนี้ด้วย”
เพื่อสร้างความรู้เความเข้าใจให้กับนักเรียนและคนใน ชุมชนในเรื่องของปัญหาและผลกระทบของการกำจัด ขยะที่ไม่ถูกวิธีและให้ความรู้ในเรื่องการจัดการขยะที่ ถูกวิธี เริ่มกิจกรรมด้วยการศึกษาเรียนรู้เรื่องการ กำจัดขยะอย่างถูกวิธีเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 55 กลุ่ม เยาวชนได้จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะ โดยมีผู้เข้าร่วม 20 คน ประกอบด้วย แกนนำเยาวชน 8 คน และสมาชิก 12 คน ที่โรงเรียนห้างฉัตรวิทยา
โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 2 จังหวัดลำปาง มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ครั้งนี้ จากนั้น จึงจัดค่ายนักเรียนแกนนำรักษ์โลก โรงเรียนห้างฉัตร วิทยา กิจกรรททำเป็นลักษณะค่าย 1 วัน มีผู้เข้าร่วม 45 คน ประกอบด้วย นักเรียนโรงเรียนห้างฉัตรวิทยาที่อาศัย อยู่ในชุมชนบ้านแม่ฮาว 32 คน, กลุ่มเยาวชนรักษ์โลก 12 คน, ครูและวิทยากร 3 คน โดยจัดเป็นลักษณะค่าย เรียนรู้ผ่านกิจกรรมดังนี้ แสดงละครสะท้อนปัญหา, ฉาย วิดีทัศน์ เรื่องการจัดการขยะอย่างถูกวิธี, ฐานวิเคราะห์ พฤติกรรมการทิ้งขยะ, ลงพื้นที่สำรวจปริมาณขยะและ ผลกระทบ จากนั้นผู้เข้าร่วมจะนำข้อมูลและปัญหาจาก การสำรวจมาวิเคราะห์หาสาเหตุและแนวทางแก้ไข สรุป ข้อมูลเพื่อจัดเวทีคืนข้อมูลสู่ชุมชนต่อไป นอกจากนี้ยังพา ไปเรียนรู้การทำปุ๋ยชีวภาพ การผสมดินปลูกจากขยะ มูลฝอย และแปลงผักต้นแบบของคนในชุมชน
ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการกิจกรรมครั้งที่แรกทีไม่เป็นไปตาม เป้าหมาย ครูอ้อย ก็บอกเด็กว่า “ให้วิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิด ขึ้นว่าเกิดจากจุดไหน และครั้งหน้าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร” เป็นสิ่งที่ครูอ้อยจะแนะนำให้เด็กๆ ได้ทบทวนหลังจากจบ กิจกรรมเสมอ และนำสิ่งที่ผิดพลาดหรือไม่เป็นไปตามตั้งใจ แก้ไขในครั้งต่อไป หลังจากกิจกรรมคืนข้อมูลครั้งที่ 1 ผ่าน ไป เด็กๆ ก็ยังรณรงค์ให้แยกขยะกับนักเรียนภายในโรงเรียน เริ่มขยะสู่ชุมชนด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายของ ชุมชน ด้วยการที่เป็นเด็กในชุมชน และก็มีงานอะไรก็ช่วย ตลอด อาร์มเล่าต่อว่า เวลาที่มีงานอะไร บอกงานผมก็จะเป็น คนพูดประชาสัมพันธ์เสมอ และก็ถือว่าเรื่องที่ทำร่วมกับเพื่อน เป็นสิ่งที่ทำให้ชุมชนของเราน่าอยู่ ก็สบายมากครับที่จะนำมา ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องทราบ เกิดการประชุมกลุ่มในครั้งนี้ มีเพื่อนใหม่มาเพิ่มอีกหลายคน ทำให้กลุ่มขยายใหญ่ขึ้น มี แผนที่จะคืนข้อมูลครั้งที่ 2
จัดทําโดย ด.ญ.จิรัชญา สิงห์โต ด.ญ.พลอยณิชา ชมชิด อ้างอิงจาก พัฒนาโดยผู้เขียนร่วมกับทีมโครงการ Chula Zero Waste
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: