Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ติวติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร

ติวติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร

Published by yut2004, 2023-07-17 11:12:40

Description: ติวติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร

Search

Read the Text Version

การปฏิบตั ิงานทางไฟฟ้าในสถานท่ี ทต่ี ่ากวา่ ระดับผิวดนิ เชน่ ห้องใตด้ ิน ซึ่งมนี า่ เป็นต้น เพอ่ื ความ ปลอดภยั ในการปฏิบัตงิ านทีต่ ดิ ตอ่ กันเปน็ เวลานาน แสงสว่างท่ีใชค้ วรได้จากข้อใด ก. เทียนไข ข. แบตเตอรี่และดวงโคม ค. ตะเกยี งน้ำมัน ง. ไฟฉำยมือถอื แบบธรรมดำ (ปลอดภยั ) เพลงิ ไหม้ท่มี สี าเหตุจากเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าหรอื อุปกรณไ์ ฟฟ้า เป็นเพลงิ ไหมป้ ระเภท (Class) ใด ก. Class A ข. Class B ค. Class C ง. Class D การปฐมพยาบาลเบืองต้นผูถ้ ูกช็อกไฟฟา้ (ไฟฟา้ ดดู ) หมดสติ กล้ามเนือหดตวั จนหัวใจหยุดเต้น หยุด หายใจหรอื มเี สียงเล็กนอ้ ย วธิ ีทใ่ี ช้และได้ผลเมอ่ื ประสบเหตุคอื ข้อใด ก. ส่งโรงพยำบำล ข. ใหล้ มหำยใจด้วยออกซเิ จน ค. ทำยำหม่อง ง. ใหล้ มหำยใจดว้ ยปำกสลับกับกำรนวด(กำรปม๊ั )หวั ใจ ข้อใดไมใ่ ชส่ ่ิงส่าคญั ท่ีต้องคา่ นงึ ถึงเมือ่ พบผบู้ าดเจ็บจากการถูกชอ็ กไฟฟ้า (ไฟฟา้ ดูด) ก. ตดั วงจรแหล่งจ่ำยไฟฟำ้ ข. ทำ้ แผลไฟไหม้ ค. ขอควำมชว่ ยเหลอื ทำงกำรแพทย์ ง. ใหผ้ ู้บำดเจบ็ ดืม่ เคร่อื งด่ืมทม่ี รี สหวำน หากพบผูถ้ กู ช็อกไฟฟา้ (ไฟฟา้ ดูด) ต้องท่าอย่างไร ก. ใช้วสั ดุทีเ่ ปน็ ฉนวนทำงไฟฟำ้ ดงึ ออกมำ ข. ใช้มอื ดงึ ออกมำโดยเร็ว ค. ยน่ื ไม้ใหจ้ บั แลว้ ดึงออกมำ ง. ตดั วงจรแหลง่ จ่ำยไฟฟ้ำออก สัญลกั ษณ์ หมายความวา่ อย่างไร ก. ต้องต่อลงดนิ ข. ใส่ฝำปิดมิดชิด ค. ท้ำกำรหอ่ หมุ้ เพือ่ ป้องกันมใิ หน้ ำ้ เข้ำ ง. ถูกทังขอ้ ก. และ ค.

ความปลอดภัยในการทา่ งานอาศยั หลักพนื ฐาน ดังนี ก. หลักกำรทำงด้ำนวิศวกรรม (Engineering) ข. หลักกำรศกึ ษำอบรม (Education) ค. หลกั กำรบงั คับให้เป็นไปตำมกฎระเบยี บ (Enforcement) ง. ถกู ทกุ ขอ้ กอ่ นใช้เครอ่ื งมือในงานติดตังทางไฟฟ้า ควรปฏิบตั ิตามข้อใด ก. ใชเ้ ครือ่ งมือที่มตี รำรับประกนั คณุ ภำพมำตรฐำน ข. ตรวจสอบระบบไฟฟำ้ ค. แตง่ กำยด้วยชุดทที่ ้ำจำกฉนวนทำงไฟฟำ้ ใหร้ ัดกมุ ง. ตรวจสอบวำ่ เคร่อื งมือนันท้ำงำนได้อย่ำงถกู ต้องและ ไมบ่ กพร่อง ขนาดสายดนิ ของวงจรไฟฟ้าของระบบดิน (กราวด์) ต้องเลือกจากการพจิ ารณาอะไร ก.ขนำดของสำยประธำน ข.ขนำดของอุปกรณ์ไฟฟำ้ ค. ขนำดของเคร่ืองป้องกนั กระแสเกินท่ปี ้องกนั วงจรง.ขนำดเทำ่ ไรกไ็ ด้ ขนาดสายดนิ ของวงจรไฟฟา้ ของอปุ กรณ์ไฟฟา้ ตอ้ งเลอื กจากการพิจารณาอะไร ก. ขนำดของสำยประธำน ข. ขนำดของอปุ กรณไ์ ฟฟำ้ ค. ขนำดของเคร่อื งปอ้ งกันกระแสเกนิ ทีป่ อ้ งกนั วงจร ง. ขนำดเท่ำไรกไ็ ด ขอ้ ใดคืออปุ กรณ์ปอ้ งกันสว่ นบุคคลเบอื งตน้ ก. ถุงมอื หมวกนริ ภยั แวน่ ตำนริ ภัย เอยี ร์ปลั๊ก(จุกอดุ หู) รองเท้ำนริ ภยั ข. ถุงมือ หมวกนริ ภยั เขม็ ขัดนริ ภัย แวน่ ตำนริ ภัย ค. ถงุ มอื หมวกนริ ภัย เข็มขดั นิรภยั รองเทำ้ นริ ภยั ง. ถุงมอื หมวกนิรภัย เขม็ ขัดนริ ภัย รองเทำ้ พนื ยำงหมุ้ ขอ้ เอยี ร์ปลัก๊ ขณะเพลิงก่าลังลุกไหม้ มอี งค์ประกอบตามขอ้ ใด ก. ออกซเิ จน ปฏิกริ ยิ ำทำงเคมี ควำมร้อน เชอื เพลิง ข.ไฮโดรเจน ปฏิกิรยิ ำทำงเคมี ควำมร้อน เชือเพลิง ค. ออกซเิ จน ควำมร้อน เชือเพลิง ง. ไฮโดรเจน ปฏกิ ริ ยิ ำทำงเคมี ควำมร้อน

ดนิ ในความหมายทางไฟฟา้ หมายถงึ ข้อใด ก. มีศกั ยไ์ ฟฟำ้ เป็นศนู ย์ ข. มศี ักยไ์ ฟฟ้ำต้่ำสดุ ในระบบไฟฟำ้ ค. ไมม่ กี ระแสไฟฟำ้ ง. มีกระแสไฟฟำ้ ต้ำ่ สุดในระบบไฟฟ้ำ การต่อสายลงดนิ มวี ัตถปุ ระสงค์อยา่ งไร ก.เพอื่ สำมำรถนำ้ กระแสไฟฟำ้ ผิดพร่องลงดิน ข.ทำ้ ให้บรภิ ณั ฑไ์ ฟฟำ้ ทำ้ งำนไดเ้ หมำะสมตำมหน้ำที่ ค.ทำ้ ให้กำรตดิ ตงั ทำงไฟฟ้ำเหมำะสม ปลอดภยั นำ่ เช่ือถอื ง. ถูกทุกข้อ อบุ ัติเหตจุ ากการปฏิบตั ิงาน เกย่ี วกับไฟฟา้ มมี ูลเหตสุ า่ คัญมาจากขอ้ ใด ก. กำรใช้เครอ่ื งมอื ชำ้ รดุ ไม่ถกู ต้องตำมประเภท ขนำด และลักษณะงำน ข. กำรทำ้ งำนโดยขำดควำมระมัดระวงั ไมค่ ิดกอ่ นลงมือทำ้ งำน ค. มีควำมรไู้ ม่เพียงพอตอ่ งำนท่ที ้ำ ง. ถูกทุกข้อ การต่อสายดนิ กับหลักดิน ตามมาตรฐานการติดตงั ทางไฟฟ้าก่าหนดให้ ค่าความตา้ นทานระหว่างหลกั ดนิ (อิเลก็ โตรดดิน) กับดนิ ตอ้ งไมเ่ กินเท่าใด ก. 0 โอหม์ ข. 2 โอห์ม ค. 4 โอห์ม ง. 5 โอห์ม ถ้าพนื ทห่ี น้าตดั ของตวั น่าไฟฟ้าเพมิ่ ขึน จะมีผลทา่ ให้ความต้านทานของตวั นา่ นนั เปน็ อยา่ งไร ก. ลดลง ข. คงเดมิ ค. เพ่มิ ขนึ แตม่ ผี ลเสยี กบั อุปกรณไ์ ฟฟ้ำ ง. เพิ่มขึนแตไ่ มม่ ีผลเสยี กบั อุปกรณ์ไฟฟำ้ หนว่ ยวัดคา่ ความตา้ นทานทางไฟฟา้ เรียกวา่ อะไร ก. แอมแปร์ ข. โอหม์ ค. วัตต์ ง. โวลต์

ถา้ ความยาวของตัวน่าไฟฟา้ เพม่ิ ขึน จะมผี ลท่าใหค้ วามตา้ นทานของตัวนา่ นนั เป็นอย่างไร ก. เพ่ิมขึน ข. คงเดมิ ค. ลดลง ง. ลดลงแต่ไม่มีผลเสียกบั อุปกรณ์ไฟฟำ้ ฉนวนทางไฟฟ้าของสายไฟฟา้ ทใี่ ชส้ ่าหรับงานเดินสายไฟฟ้าอาคารที่มีแรงดนั ไฟฟา้ ไมเ่ กนิ 450/750 โวลต์ โดยทัว่ ไปทา่ จากวัสดุอะไร ก. ยำงหมุ้ ดว้ ยฝำ้ ย ข. สำรประกอบโพลไิ วนิลคลอไรด์ (พวี ีซี) ค. อินำเมล ง. ฝำ้ ย ตัวนา่ ไฟฟ้าท่ีใช้ท่าสายไฟฟา้ สา่ หรบั งานเดินสายไฟฟ้าอาคาร โดยทั่วไปทา่ จากโลหะอะไร ก. ทองเหลือง ข. เหล็ก ค. ตะก่ัว ง. ทองแดง สีของฉนวนของสายไฟฟา้ สา่ หรับระบบแรงดนั ไฟฟา้ ตา่ สสี า่ หรบั เสน้ เปน็ กลาง (N) ก่าหนดเปน็ สีอะไร ก. สแี ดงหรอื สแี ดงแถบด้ำ ข. สฟี ำ้ ค. สเี ขียว หรอื สีเขียวแถบเหลอื ง ง. สีด้ำ สีของฉนวนของสายไฟฟา้ สา่ หรบั ระบบแรงดนั ไฟฟ้าต่า สสี า่ หรับสายดนิ หรอื สายในงานปอ้ งกัน ก่าหนด เปน็ สอี ะไร ก. สแี ดงหรอื สีแดงแถบด้ำ ข. สีฟำ้ ค. สเี ขียวแถบเหลอื ง ง. สดี ้ำ ตวั ต้านทานตวั ละ 12 โอหม์ จ่านวน 4 ตัว ต่อกันแบบอนกุ รม ค่าของความต้านทานรวมเป็นเทา่ ไร ก. 18 โอหม์ ข. 27 โอห์ม ค. 36 โอห์ม ง. 48 โอห์ม

ตวั ตา้ นทานตวั ละ 8 โอหม์ จ่านวน 4 ตวั ต่อกนั แบบขนาน ค่าของความต้านทานรวมเป็นเท่าไร ก. 7 โอหม์ ข. 5 โอหม์ ค. 3 โอหม์ ง. 2 โอหม์ ตวั ต้านทาน ตัวละ 8 โอหม์ จ่านวน 2 ตัว ต่อกันแบบขนาน แลว้ น่ามาตอ่ อยา่ งอนุกรมกบั ตัวต้านทาน 6 โอห์ม จ่านวน 1 ตวั ค่าของความตา้ นทานรวมเป็นเท่าไร ก. 32 โอหม์ ข. 24 โอหม์ ค. 20 โอห์ม ง. 10 โอห์ม ตัวต้านทาน 10 โอห์ม ขนาด 3 วตั ต์ ท่ี 3 โวลต์ สามารถทนกระแสไฟฟ้าไดส้ งู สุดเทา่ ใด ก. 1 แอมแปร์ ข. 2 แอมแปร์ ค. 3 แอมแปร์ ง. 4 แอมแปร์ โหลดไฟฟ้า A มคี วามตา้ นทานไฟฟา้ 1 เมกะโอหม์ โหลดไฟฟา้ B มคี วามตา้ นทานไฟฟ้า 1 กิโลโอหม์ โหลดไฟฟ้า C มคี วามต้านทานไฟฟ้า 1 โอหม์ ตอ่ โดยอนุกรม โหลดไฟฟ้ารวม (A B และC) มีคา่ เท่าใด ก. 1,001,001 โอห์ม ข. 1,001 เมกะโอหม์ ค. 1,001,010 โอหม์ ง. 1,001 กิโลโอห์ม โดยทวั่ ไปอณุ หภูมิโดยรอบมผี ลกระทบตอ่ คา่ ความต้านทานของตัวนา่ ในสายไฟฟา้ อยา่ งไร ก. เมอ่ื อุณหภมู ิโดยรอบสงู ขนึ คำ่ ควำมตำ้ นทำนสูงขึน ข. เมือ่ อุณหภูมิโดยรอบสูงขึน ค่ำควำมต้ำนทำนลดลง ค. อุณหภมู ิโดยรอบไม่มผี ลต่อคำ่ ควำมตำ้ นทำน ง. ไมม่ ขี ้อถกู สายไฟฟา้ ยาว 15 เมตร คดิ เปน็ กีม่ ลิ ลิเมตร ก. 150 ข. 1,500 ค. 15,000 ง. 150,000

ขนาดของสายไฟฟา้ ทองแดงประธานทีเ่ ลก็ ท่ีสดุ ท่ยี อมให้ใชไ้ ด้กบั เครือ่ งวัดหนว่ ยไฟฟา้ ขนาด 5 (15)A คอื ข้อใด ก. 2.5 ตำรำงมลิ ลิเมตร ข. 4 ตำรำงมิลลเิ มตร ค. 6 ตำรำงมลิ ลิเมตร ง. 10 ตำรำงมลิ ลิเมตร การต่อสายไฟฟา้ กระท่าไดอ้ ย่างไรบา้ ง ก. โดยกำรบัดกรี ข. โดยกำรบีบใหแ้ น่นแลว้ พนั ดว้ ยเทปส้ำหรับพันสำยไฟฟำ้ ค. โดยกำรต่อด้วยเครอ่ื งมอื กล ง. ถกู ทุกขอ้ สายไฟฟา้ มอก. 11 - 2553 ชนดิ ใดสามารถเดินฝังดนิ ได้โดยตรง ก. (THW) ข. ( NYY) ค. (VCT) ง. ขอ้ ข. และ ค. ถกู เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ท่ีมีตวั เลขแสดงค่า “16” คอื ก. สำมำรถใชก้ ับโหลดได้ไมเ่ กิน 16 แอมแปร์ ข. สำมำรถใชก้ ับโหลดไดต้ ังแต่ 16 แอมแปร์ ขึนไป ค. สำมำรถใชก้ ับโหลดเฉพำะ ขนำด 16 แอมแปร์ เท่ำนนั ง. ถกู ทุกข้อ สขี องฉนวนห้มุ สายไฟฟา้ บงั คับใชก้ บั สายไฟฟ้าตังแต่ขนาดใดลงมา (อ้างองิ จากมาตรฐานฐานการตดิ ตัง ทางไฟฟ้าส่าหรบั ประเทศไทย พ.ศ.2545 หวั ขอ้ 5-6) ก. 4 ตำรำงมลิ ลิเมตร ข. 6 ตำรำงมลิ ลเิ มตร ค. 10ตำรำงมิลลเิ มตร ง. 16 ตำรำงมลิ ลิเมตร การเดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ โลหะ ถ้าตอ้ งการต่อสายไฟฟ้าจะต้องกระทา่ ที่ใด ก. ใกล้กบั สวิตชป์ ระธำนใหม้ ำกที่สุดเท่ำท่ีท้ำได้ ข. ในกลอ่ งตอ่ สำยไฟฟ้ำเท่ำนัน ค. ในกล่องตอ่ สำยหรือในทอ่ โลหะ ง. จดุ ใดก็ได้ แต่ต้องตอ่ สำยลงดนิ ให้ถูกตอ้ ง

กรณที ีต่ อ้ งการใช้หลอดไฟฟ้า ขนาด 100 วตั ต์ 110 โวลต์ จา่ นวน 2 หลอด ต่อกบั แหลง่ จา่ ยไฟฟา้ 220 โวลต์ เพ่อื ไม่ให้เกิดความเสียหายแกห่ ลอด ต้องต่อหลอดทังสองนอี ย่างไร ก. แบบอนุกรมกอ่ นน้ำไปตอ่ กับแหล่งจำ่ ยไฟฟ้ำ 220 โวลต์ ข. แบบขนำนก่อนน้ำไปต่อกบั แหล่งจ่ำยไฟฟ้ำ 220 โวลต์ ค. แบบผสม ก่อนนำ้ ไปตอ่ กบั แหล่งจำ่ ยไฟฟ้ำ 220 โวลต์ ง. ผดิ หมดทุกขอ้ ขอ้ ใดต่อไปนเี ป็นการปฏบิ ัติที่ดี เม่อื ท่างานตดิ ตังทางไฟฟ้า ก. สวมรองเท้ำพืนยำงให้ถกู ต้องเสมอข. ไม่ท้ำงำนกบั บรภิ ัณฑ์มไี ฟฟำ้ ค. รำยงำนสถำนกำรณ์ไมป่ ลอดภยั ซึ่งท่ำนไมส่ ำมำรถแกไ้ ขด้วยตนเอง ทกุ ครัง ง. ถกู ทกุ ข้อ ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง ก. พกิ ัดกระแสของเส้นฟวิ สต์ อ้ งสูงกวำ่ ขัวรับฟิวส์ ข. เซอร์กติ เบรกเกอร์ตอ้ งเป็นแบบปลดได้โดยอสิ ระและตอ้ งปลดสบั ได้ดว้ ยมือ ค. ตัวน้ำแทง่ (บัสบำร์) มีทังชนดิ ทองแดงและชนิดอะลูมิเนยี ม ง. ขนำดของทอ่ รอ้ ยสำยไฟฟ้ำ หมำยถึง เสน้ ผำ่ นศูนยก์ ลำงภำยในของทอ่ รอ้ ยสำยไฟฟ้ำ ส่าหรับบริภณั ฑไ์ ฟฟา้ ทุกชนดิ สายไฟฟา้ ทใ่ี ชเ้ ปน็ สายดินต้องมีขนาดไมน่ ้อยกว่า ก. 0.5 ตำรำงมิลลิเมตร ข. 1.5 ตำรำงมลิ ลิเมตร ค. 2.5 ตำรำงมลิ ลเิ มตร ง. 4 ตำรำงมลิ ลเิ มตร

เซอร์กิตเบรกเกอรม์ ีหนา้ ทอี่ ยา่ งไร ก.ป้องกันไมใ่ ห้แรงดนั ไฟฟำ้ ตก ข.ป้องกันไม่ใหก้ ระแสไฟฟำ้ ไหลมำกเกนิ พิกัด ค.ลดค่ำควำมต้ำนทำนของสำยไฟฟำ้ ง.เพิ่มกำ้ ลงั ไฟฟ้ำ มอเตอร์ไฟฟา้ ขนาดไมเ่ กนิ 180 วัตต์ (¼ แรงมา้ ) จะต้องมีอปุ กรณ์ป้องกันกระแสเกนิ เรยี กว่าอะไร ก. แมกเนติกสวติ ช์ ข. แอรเ์ ซอร์กติ เบรกเกอร์ ค. คอนแทกเตอร์ ง. ฟวิ ส์ การเลือกใช้ฟวิ สจ์ ะตอ้ งค่านึงถงึ ขอ้ ใด ก. ควำมตำ้ นทำนของสำยไฟฟ้ำ ข. กระแสไฟฟ้ำ ค. แรงดันไฟฟ้ำ ง. ถูกทัง ขอ้ ข. และ ค. แท่งอิเลก็ โตรดดิน (หลักดิน) ท่ีใชใ้ นการตอ่ ลงดิน ขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางตอ้ งไม่นอ้ ยกว่า ก. 6 มิลลิเมตร (1/4”) ข. 16 มลิ ลเิ มตร (5/8”) ค. 9 มลิ ลเิ มตร(3/8”) ง. 12 มิลลเิ มตร (1/2”) การต่อวงจรไฟฟ้าของหลอดไฟฟา้ ขนาด 220 โวลต์ กับแหลง่ จ่ายไฟฟ้า 220 โวลต์ โดยทั่วไปเป็นการตอ่ แบบอะไร ก. แบบขนำน ข. แบบอนกุ รม ค. แบบผสม ง. แบบอนกุ รมหรอื แบบขนำนกไ็ ด้ ความถ่ีมาตรฐานของระบบไฟฟ้าท่ใี ชใ้ นประเทศไทย มีคา่ เทา่ ไร ก. 25 เฮิรตซ์ ข. 50 เฮิรตซ์ ค. 110 เฮริ ตซ์ ง. 220 เฮิรตซ์

ระบบไฟฟา้ 1 เฟส 2 สาย ทผ่ี ู้ใช้ไฟฟา้ ตามท่อี ยอู่ าศยั ในประเทศไทย เป็นระบบใด ก. 220 แอมแปร์ ข. 110 โวลต์ ค. 110 แอมแปร์ ง. 220 โวลต์ ข้อใดต่อไปนกี ล่าวไม่ถูกต้อง ก. ในทอ่ รอ้ ยสำยตอ้ งไมม่ ีทอ่ สำ้ หรับงำนอน่ื ทไ่ี ม่ใช่งำนไฟฟำ้ เดนิ รว่ มอย่ดู ้วย ข. กำรติดตังทำงไฟฟ้ำท่ีผ่ำนผนังตอ้ งมกี ำรป้องกนั ไม่ใหเ้ พลิงลกุ ลำมตำมมำตรฐำนกำรปอ้ งกนั อัคคีภัย ค. เม่ือเดนิ ช่องร้อยสำยผ่ำนที่อุณหภมู แิ ตกต่ำงกนั มำก ต้องมีกำรปอ้ งกนั กำรไหลเวียนของอำกำศภำยในทอ่ ง. สำยตอ่ ลงดินตอ้ งเปน็ สำยหุม้ ฉนวนเทำ่ นัน ขอ้ ใดถูกต้องเกย่ี วกับการเดินสายไฟฟา้ ในทอ่ โลหะอ่อน ก. ใช้งำนในสถำนทแ่ี หง้ ข. ใชง้ ำนฝังดินโดยตรง ค. ห้ำมใช้ทอ่ โลหะอ่อนทมี่ ขี นำดเลก็ กวำ่ 16 มิลลิเมตร ง. ใช้เป็นตัวน้ำสำ้ หรับต่อลงดิน ขอ้ ใดตอ่ ไปนคี อื อุปกรณไ์ ฟฟ้า (Electrical Devices) ก. คอมพวิ เตอร์ ข. เคร่ืองซกั ผำ้ ไฟฟำ้ ค. สวำ่ นไฟฟ้ำ ง. เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ ฟิวส์ (Fuses) เป็นอุปกรณ์ (Devices) ประเภทใด ก. อุปกรณป์ อ้ งกันกระแสเกนิ ข. อปุ กรณ์ป้องกันแรงดนั เกนิ ค. อปุ กรณป์ อ้ งกนั กระแสไฟฟ้ำรั่ว (RCD, GFCI) ง. อปุ กรณ์ป้องกนั ทำงควำมรอ้ น ในกรณีทใ่ี ชฟ้ วิ ส์ เปน็ อุปกรณ์ปอ้ งกันกระแสเกิน และฟวิ ส์นนั ขาดอยู่บอ่ ยๆ เพราะใชก้ ระแสไฟฟ้าเกนิ วธิ ี แกป้ ญั หา คอื การปฏิบตั อิ ย่างไร ก. หำฟวิ สข์ นำดเดียวกนั มำใสแ่ ทน ข. หำฟิวส์ขนำดโตกว่ำมำใส่แทน ค. ตรวจสอบสำยไฟฟำ้ เพื่อหำจดุ ท่ีเกดิ กำรลัดวงจรขึน ง. ตรวจสอบขนำดโหลดของวงจรใหม่

การเดินสายไฟฟ้าด้วยรางเดนิ สาย (Wireway) ขอ้ ใดถูกต้อง ก. ผลรวมของพืนท่หี น้ำตัดของสำยไฟฟำ้ รวมฉนวนต้องไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 20 ของพนื ทห่ี นำ้ ตดั ภำยในของรำง เดนิ สำย ข. สำยไฟฟ้ำท่เี ดนิ อยใู่ นรำงเดินสำย สำมำรถต่อสำย ณ จดุ ใดกไ็ ด้ ค. รำงเดนิ สำยท่เี ปน็ โลหะ ไมจ่ ำ้ เป็นตอ้ งตดิ ตงั สำยตอ่ ลงดินเพ่มิ ง. ถกู ทุกข้อ ความหมายของคา่ ว่า ปลด ( Trip ) ของเซอรก์ ติ เบรกเกอร์ ( Circuit Breaker ,CB) คอื อะไร ก. CB ปลดวงจร เมอื่ เกิดกำรใชไ้ ฟฟ้ำมำก ข. CB ปลดวงจร เม่ือกระแสไฟฟ้ำในวงจรไหลเกนิ พกิ ัดทกี่ ้ำหนดไว้ ค. CB ปลดวงจร เมอ่ื ใช้งำนเกินก้ำหนดเวลำ ง. CB ปลดวงจร เม่อื เกิดฟ้ำผำ่ พกิ ดั ตัดกระแส (Interrupting Rating) คืออะไร ก. ควำมโตของเซอรก์ ิตเบรกเกอร์ ข. คุณสมบัตดิ ้ำนแรงดันของเซอร์กติ เบรกเกอร์ ค. ควำมสำมำรถในกำรตดั กระแสไฟฟ้ำสงู สดุ เมอื่ เกิดกำรลดั วงจร ง. รนุ่ กำรผลิต ของเซอรก์ ติ เบรกเกอร์ ข้อใดไมใ่ ช่หน้าทขี่ องโหลดเซ็นเตอร์ ( Load Center ) ก. เป็นศูนยก์ ลำงในกำรจ่ำยกระแสไฟฟำ้ ไปยงั วงจรยอ่ ยตำ่ ง ๆ ข. เปน็ อปุ กรณต์ ดั ต่อกระแสไฟฟำ้ อัตโนมัติให้กับโหลดในวงจรต่ำง ๆ ค. ตัดกระแสไฟฟำ้ โดยอตั โนมตั เิ มอ่ื เกิดกำรลดั วงจร ง. ปอ้ งกนั มิให้มำตรพลงั งำนไฟฟ้ำชำ้ รดุ

ใหห้ าขนาดเซอร์กติ เบรกเกอร์ และสายวงจรย่อยท่ีเหมาะสมและประหยัด เมอ่ื ในวงจรย่อยมีโหลดดงั นี หลอดไฟฟา้ (หลอดไส้) ขนาด 100 W 230 V จ่านวน 10 ดวง หลอดไฟฟ้า (หลอดไส้) ขนาด 200 W 230 V จ่านวน 5 ดวง ก. CB 10 AT สำย 2.5 mm2 VAF ข. CB 10 AT สำย 4 mm2 VAF ค. CB 16 AT สำย 2.5 mm2 VAF ง. CB 16 AT สำย 4 mm2 VAF ในการเลอื กใชเ้ ซอร์กิตเบรกเกอร์ขนาดต่าสดุ จะต้องมขี นาดเป็นกเี่ ท่าของกระแสไฟฟ้าทีค่ าดว่าจะใช้งาน จรงิ ก. 1.0 เท่ำ ข. 1.25 เท่ำ ค. 2.0 เท่ำ ง. 2.5 เทำ่ ในการเดินสายฝังดินด้วยท่อโลหะหนา ควรฝงั ลกึ ไมน่ ้อยกว่าเท่าใด ก. 15 เซนตเิ มตร ข. 60 เซนติเมตร ค. 30 เซนติเมตร ง. 45 เซนติเมตร การติดตงั สวิตช์ ปดิ – เปดิ ของดวงโคมไฟฟ้า ควรติดตังสวิตช์ใหส้ ูงจากพนื เทา่ ไร ก. 120 เซนติเมตร ข. 90 เซนตเิ มตร ค. 60 เซนตเิ มตร ง. 20 เซนติเมตร แผนภาพวงจรไฟฟ้าใด ซึง่ ประกอบด้วยสวิตชส์ องทาง จ่านวน 2 ตัว เพ่อื ใชค้ วบคมุ การปดิ – เปดิ หลอด ไฟฟา้ 1 หลอด ถกู ตอ้ งท่ีสดุ

ขอ้ ใดตอ่ ไปนแี สดงวธิ ที ี่ถกู ตอ้ งในกำรทดสอบสภำพตอ่ เน่อื ง (Continuity) ของวงจรแบบรัศมี (radial circuit)

ขอ้ ใดตอ่ ไปนีกล่าวไมถ่ ูกตอ้ ง ก. กำรติดตงั เต้ำรับแบบติดกับพืนต้องมีกำรปอ้ งกนั ควำมเสียหำยทำงกำยภำพ ข.กำรตดิ ตงั เตำ้ รับต้องติดตังเหนือระดับน้ำท่ีอำจท่วมหรอื ขงั ได้ ค. ขนำดตวั น้ำไฟฟ้ำสำ้ หรบั เต้ำรบั ต้องไมเ่ ลก็ กวำ่ 2.5 ตำรำงมิลลิเมตร ง. เตำ้ รบั ท่ีอยู่ในวงจรย่อยตอ้ งเป็นแบบมีขวั สำยดิน กำรวำงตู้เยน็ ไม่ควรวำงแนบกับผนงั เพอื่ จุดประสงค์ใด ก. ควำมสวยงำมของหอ้ งที่วำงตเู้ ยน็ ข. ควำมสะดวกในกำรเคลอ่ื นยำ้ ยตู้เยน็ ค. กำรระบำยควำมร้อนของตเู้ ยน็ รอบๆตวั ตูเ้ ย็น ง. ควำมสะดวกในกำรเปิด-ปิด ตู้เยน็ การต่อสายไฟฟ้าจากเปลอื กห้มุ (หรอื เครอ่ื งห่อหุ้ม, Enclosure) ซึง่ เป็นโลหะของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ส่าหรับใช้ ในทีอ่ ยอู่ าศยั เช่น ตเู้ ยน็ เครอ่ื งปรบั อากาศ และเตาอบไฟฟ้า เปน็ ตน้ ลงดินนันมีวัตถุประสงค์อย่างไร ก. ปอ้ งกันฟำ้ ผ่ำข. ช่วยให้เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้ำทำ้ งำนได้เปน็ ปกตใิ นขณะท่ีแรงดนั ไฟฟ้ำเกนิ ค. ป้องกันอนั ตรำยจำกไฟฟำ้ ร่ัวลงดินและจำกควำมผิดพรอ่ งลงดิน ง. เพือ่ ลดคำ่ กระแสไฟฟำ้ (เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำ)

เครือ่ งใช้ไฟฟ้าทมี่ สี ญั ลกั ษณ์ หมายถึงเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ประเภทใด ก. เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้ำที่มีเพียงฉนวนมลู ฐำน ไมส่ ำมำรถต่อสำยดนิ เข้ำกับส่วนของเปลอื กทเี่ ป็นโลหะได้ ข. เครื่องใช้ไฟฟ้ำท่ีมฉี นวนมลู ฐำนเปน็ อยำ่ งน้อยและมีขวั สำ้ หรับกำรตอ่ สำยดนิ ท่ีเปลอื กโลหะไวแ้ ล้ว ค. เคร่ืองใช้ไฟฟำ้ ที่มกี ำรป้องกนั ช็อกไฟฟ้ำไมข่ นึ อยู่กับฉนวนมลู ฐำนเพียงอย่ำงเดยี ว แต่ยังเพิม่ ควำมปลอดภยั ขึนอีก เช่น มีฉนวนเสริม เป็นตน้ โดยไม่มีกำรตอ่ ลงดนิ เพอื่ ปอ้ งกัน ง. เครอื่ งใช้ไฟฟ้ำที่มกี ำรป้องกันชอ็ กไฟฟำ้ ขนึ อยกู่ บั แหลง่ จ่ำยไฟทม่ี แี รงดันไฟฟำ้ ต้ำ่ พเิ ศษขันปลอดภยั .เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มสี ัญลกั ษณ์ หมายถึงเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ประเภทใด ก. เครอื่ งใช้ไฟฟำ้ ที่มีเพยี งฉนวนมลู ฐำน ไมส่ ำมำรถต่อสำยดนิ เขำ้ กบั สว่ นของเปลือกที่เป็นโลหะได้ ข. เครอ่ื งใช้ไฟฟำ้ ที่มีฉนวนมูลฐำนเปน็ อยำ่ งนอ้ ยและมีขัวส้ำหรบั กำรต่อสำยดนิ ที่เปลือกโลหะไว้แล้ว ค. เคร่ืองใชไ้ ฟฟำ้ ที่มกี ำรป้องกนั ชอ็ กไฟฟำ้ ไมข่ นึ อยกู่ ับฉนวนมลู ฐำนเพยี งอยำ่ งเดียว แต่ยังเพิม่ ควำมปลอดภัย ขนึ อกี เช่น มฉี นวนเสริม เป็นต้น โดยไม่มกี ำรตอ่ ลงดนิ เพอ่ื ป้องกนั ง. เคร่อื งใช้ไฟฟำ้ ทีม่ กี ำรป้องกนั ชอ็ กไฟฟำ้ ขนึ อยกู่ บั แหล่งจ่ำยไฟทมี่ ีแรงดนั ไฟฟ้ำตำ้่ พเิ ศษขันปลอดภัย ข้อใดไม่ใชเ่ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าสา่ หรบั ใช้ในทอี่ ยอู่ าศัย ก. สว่ำนไฟฟ้ำ ข. เคร่ืองซักผ้ำ ค. พดั ลมไฟฟำ้ แบบตังโต๊ะ ง. เครื่องเป่ำผม เครือ่ งวดั ทางไฟฟา้ สา่ หรบั การวัดกระแสไฟฟ้าท่ไี หลในวงจรไฟฟ้า เรยี กว่าอะไร ก. โวลต์มิเตอร์ ข. วัตตม์ เิ ตอร์ ค. แอมปม์ ิเตอร์ ง. โอห์มมิเตอร์ เคร่อื งวดั ทางไฟฟ้าใดตอ่ ไปนีใช้วัดกระแสไฟฟ้าไดโ้ ดยไม่ตอ้ งต่ออยู่ในวงจรไฟฟ้าท่ีถกู วัด ก. แคลม้ ป์ออนมเิ ตอร์ ข. มัลตมิ ิเตอร์ ค. โอหม์ มเิ ตอร์ ง. ออสซลิ โลสโคป

ข้อใดคอื วธิ ีการใชแ้ อมปม์ เิ ตอรแ์ บบเขม็ อย่างถกู ตอ้ ง ก. แอมปม์ ิเตอร์วดั กระแสไฟฟำ้ กระแสสลบั ต้องค้ำนงึ ถงึ ขัวบวก-ลบของกระแสไฟฟำ้ ข. หำกคำดว่ำมกี ระแสไฟฟ้ำไหลในวงจร 5 แอมแปร์ ตอ้ งตงั ยำ่ นกำรวดั ของแอมป์มิเตอรไ์ ว้ท่ี 5 แอมแปร์ ค. ต้องตอ่ แอมปม์ ิเตอร์แบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้ำท่ีตอ้ งกำรวัดกระแสไฟฟ้ำ ง. หำกต่อแอมปม์ ิเตอร์ถูกตอ้ ง เข็มจะเบนไปทำงซำ้ ยมือ ข้อใดไมถ่ กู ตอ้ งเก่ียวกับการใชง้ านมลั ตมิ เิ ตอร์ ก. โดยทัว่ ไปมีใช้งำน 2 แบบ คือ แบบแอนำลอกและแบบดิจิตอล ข. มีแหล่งจำ่ ยไฟฟ้ำหรือแบตเตอร่ีในเครื่องเพือ่ ท้ำกำรวัดไดท้ นั ที ค. อำจมยี ่ำนวดั ทังแบบหยำบและแบบละเอยี ด ง. แบบแอนำลอกวดั ไดไ้ ม่ถูกตอ้ งเท่ำกบั แบบดจิ ิตอล แคลมปอ์ อนมเิ ตอร์วดั กระแสไฟฟ้าโดยอาศยั หลักการใด ก. วดั กระแสไฟฟำ้ โดยตรง ข. หลกั กำรเหน่ยี วนำ้ ทำงแม่เหล็กไฟฟำ้ ค. หลกั กำรเหนย่ี วนำ้ ทำงควำมร้อน ง. หลักกำรเคลอื่ นท่ีของอิเล็กทรอน เคร่อื งวดั ทางไฟฟ้าในขอ้ ใดใช้ส่าหรบั วัดกา่ ลังไฟฟา้ ก. แคลมป์ออนมเิ ตอร์ ข. วัตต์มิเตอร์ ค. เมกะโอหม์ มเิ ตอร์ ง. โวลตม์ เิ ตอร์ ข้อใดเป็นสาเหตุที่ทา่ ให้ไดผ้ ลของการวัดผิดพลาด ก. เกดิ จำกเคร่ืองมือวัด ข. เกิดจำกผู้วัด ค. เกิดจำกสภำพแวดล้อม ง. ถูกทกุ ขอ้

เมอื่ เลิกใชม้ ลั ติมิเตอร์ ( Multi Meter ) แล้ว ตอ้ งปฏบิ ตั ิเพอื่ การปอ้ งกนั การผดิ พลาดจากการใชม้ เิ ตอร์ อยา่ งไร ก. ปรับสวิตช์เลือกตำ้ แหนง่ ไว้ทย่ี ำ่ นวดั ค่ำควำมต้ำนทำนสูงสุด ข. ปรับสวติ ช์เลอื กตำ้ แหน่งไปที่ตำ้ แหน่ง OFF หรือที่ยำ่ นวัดแรงดันไฟฟำ้ AC สูงสุด ค. ปรบั สวติ ช์เลอื กต้ำแหน่ง ไว้ท่ีย่ำนวัดกระแสไฟฟ้ำ DC สูงสุด ง. ปรบั สวติ ชเ์ ลอื กต้ำแหนง่ ไวท้ ีย่ ่ำนวัดแรงดนั ไฟฟ้ำ DC สงู สดุ เครือ่ งวัดทางไฟฟา้ ท่ีสามารถวัดคา่ ได้หลายประเภทในเครือ่ งเดียวมีชือ่ เรยี กว่าอะไร ก. มลั ตมิ ิเตอร์ ข. โวลตแ์ อมป์มิเตอร์ ค. โพเทนเชียนมิเตอร์ ง. เมกะโอหม์ มิเตอร์ เคร่อื งวัดทางไฟฟา้ ชนดิ ใดเมื่อตอ้ งการใชง้ านต้องตอ่ อนกุ รมกบั โหลด ก. โวลตม์ เิ ตอร์ ข. แอมป์มเิ ตอร์ ค. โอหม์ มิเตอร์ ง. วตั ตม์ ิเตอร์ หนึง่ กิโลวตั ตม์ ีคา่ เทา่ กับเทา่ ไร ก. 10,000 วัตต์ ข. 1,000 วัตต์ ค. 746 วตั ต์ ง. 647 วัตต์ หนึ่งยนู ิต (UNIT) ซึ่งใชว้ ัดปริมาณพลังงานไฟฟา้ เพื่อการพานิชย์ คือ ก. 100 วัตต์ ซึง่ ใชเ้ ป็นเวลำ 1 ชว่ั โมง ข. 1,000 วตั ต์ ซึ่งใช้เป็นเวลำ 1 ช่ัวโมง ค. 100 วัตต์ ซ่ึงใช้เป็นเวลำ 1/2 ช่วั โมง ง. 1,000 วตั ต์ ซ่ึงใชเ้ ปน็ เวลำ 1/2 ชัว่ โมง

จงค่านวณหาค่ากระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ ระบบ 1 เฟส 220 โวลต์ ซึ่งมีดวงโคมไฟฟ้าขนาด 40 วัตต์ ตอ่ อยู่ ก. 0.18 แอมแปร์ ข. 5.5 แอมแปร์ ค. 8,800 แอมแปร์ ง. 0.24 แอมแปร์ จงค่านวณหาคา่ แรงดนั ไฟฟ้าของแหลง่ จ่ายไฟฟา้ ทใ่ี ช้ในวงจรข้างล่างนี ก. 110 โวลต์ ข. 220 โวลต์ ค. 380 โวลต์ ง. 800 โวลต์ ตำมวงจรข้ำงลำ่ งนี สมควรใช้ฟวิ ส์ขนำดเท่ำไร ก. 5 แอมแปร์ ข. 10 แอมแปร์ ค. 15 แอมแปร์ ง. 30 แอมแปร์ ขอ้ ใดไม่ใช่บริภณั ฑท์ างไฟฟา้ (electrical equipments) ก. เข็มขัดรดั สำยไฟฟ้ำ ข. ท่อรอ้ ยสำยไฟฟำ้ ค. ไขควงไฟฟำ้ ง. โทรทศั น์

.สัญลกั ษณ์ตามรปู หมายถงึ ก. สวติ ซไ์ ฟฟำ้ ข. เต้ำรับไฟฟำ้ ค. เซอร์กิตเบรกเกอร์ ง. กระดิง่ ไฟฟำ้ โทรทศั น์เครอ่ื งหนึง่ ระบวุ ่าขนาด 750 วตั ต์ เมื่อเปดิ ใช้งาน 2 ชั่วโมง จะต้องเสยี ค่าไฟฟา้ กีย่ นู ิต ก. 375 ยนู ติ ข. 1.5 ยูนติ ค. 750 ยนู ติ ง. 2.0 ยนู ติ สัญลักษณ์ หมายความว่าอย่างไร ก. แรงดันไฟฟ้ำอันตรำย ข. ปอ้ งกันฟำ้ ผำ่ ค. ป้องกนั ไฟฟำ้ ร่ัว ง. ระวงั สัญลักษณ์ หมายความว่าอยา่ งไร ก. ไฟฟ้ำกระแสสลับ ข. ไฟฟ้ำกระแสสลบั 3 เฟส ค. ไฟฟ้ำกระแสสลับ 3 เฟส มีสำยเปน็ กลำง ง. ผิดทกุ ขอ้ สญั ลักษณ์ หมายความว่าอย่างไร ก. อันตรำย ข. หำ้ มเข้ำ ค. หยดุ ง. ระวงั กำรทำ้ งำนในท่ีสงู สูงตังแต่ก่ีเมตรจะต้องมอี ุปกรณ์ป้องกันอยำ่ งรัดกุม ก. 2 เมตร ข. 3 เมตร

ค. 4 เมตร ง. 5 เมตร มำตรวัดไฟฟ้ำกระแสสลบั กำรทดสอบแรงดนั มำตรฐำนกรณีต่อตรง แรงดันอำ้ งองิ เทำ่ ไหร่ ก. 110 โวลท์ ข. 220 โวลท์ ค. 380 โวลท์ ง. 400 โวลท์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook