วิกฤตกิ ารณโ์ ควิด 19 และผลกระทบ การระบาดของโรคโควดิ 19 เร่ิมเกิดขึ้นในประเทศจนี ประเทศไทยเป็นประเทศที่มผี ูป้ ว่ ยรายแรก ที่เกดิ นอกประเทศจีน หลงั จากนั้นมกี ารระบาดไปทว่ั โลก นบั เป็นการระบาดทร่ี ุนแรงครง้ั หน่งึ ใน ประวัติศาสตรโ์ ลกมนุษย์ ทุกประเทศจึงมมี าตรการในการป้องกนั และตอ่ สูก้ บั โรคร้ายน้ี ประชาชนใหค้ วามรว่ มมืออย่างดใี นการปรบั พฤติกรรมตา่ ง ๆ มาตรการท่ใี ชด้ าเนนิ การในการ ตอ่ สู้กบั โรครา้ ยน้มี ผี ลต่อการเปล่ยี นแปลงวิถกี ารดาเนินชวี ติ มีการพัฒนาใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัล เขา้ ชว่ ยเพ่ือลดระยะห่าง (Social distancing) ทาใหก้ ระทบกับวถิ ีชวี ิต สังคม ทตี่ ้องปรบั ตวั ครง้ั สาคัญ จนกลา่ วว่าเปน็ วถิ ีใหม่ (New normal) ทนี่ ามาใช้ นับเป็นตวั เรง่ ใหเ้ กิดการ เปลีย่ นแปลงดา้ นต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ใดเ้ รว็ ย่ิงขึ้น หลายคนเร่มิ ปรบั ตวั ให้ คนุ้ ชินกับการดาเนินชีวิตรปู แบบใหม่นี้ 1 การระบาดของโรคโควิด 19 ไวรสั โคโรนาสายพันธ์ุใหม่ทาใหเ้ กดิ โรคตดิ เชอื้ โควดิ 19 เรมิ่ ตน้ ขนึ้ ในเดอื นธนั วาคม พ.ศ. 2562 พบคร้ังแรกในนครอฮู่ นั่ ประเทศจีน การระบาดลุกลามนอกประเทศจนี อยา่ งรวดเรว็ กระจายท่วั โลก เมอ่ื การระบาดรุนแรงขึน้ วันท่ี 30 มกราคม พ.ศ. 2563 องคก์ ารอนามยั โลก ได้ประกาศเปน็ ภาวะฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสุขระหวา่ งประเทศ ต่อมาวนั ที่ 11 มนี าคม พ.ศ. 2563 ประกาศใหเ้ ป็นการระบาดใหญ่ทัว่ โลก (Pandemic) ณ วนั ท่ี 10 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 มีผู้ ตดิ เชื้อยนื ยันแล้วมากกวา่ 107 ล้านคน ในจานวนน้ี มผี เู้ สยี ชีวิตจากโรคระบาดน้แี ลว้ มากกวา่ 2.35 ลา้ นคน และมผี ู้หายป่วยแล้วมากกว่า 80 ลา้ นคน สาหรบั ประเทศไทย กระทรวง สาธารณสขุ แถลงการพบผู้ตดิ เชอ้ื ในประเทศรายแรกเมอื่ วนั ท่ี 13 มกราคม พ.ศ.2563 เป็น หญงิ นักท่องเท่ียวชาวจนี อายุ 61 ปี เดนิ ทางมาจากนครอู่ฮั่น เข้ามาทางท่าอากาศยาน สวุ รรณภมู ิ เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2563 นอกจากจะเปน็ ผปู้ ่วยรายแรกท่พี บในประเทศ ไทยแล้ว ยังเป็นผปู้ ่วยรายแรกที่ตรวจพบนอกประเทศจีน จนถงึ วันที่ 10 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมผี ้ตู ดิ เชื้อไปแลว้ 23,903 คน รักษาหายแล้ว 18,914 คน และมีผ้เู สยี ชวี ิต 80 คน
ผู้ตดิ เชือ้ กลุ่มแรกในประเทศจนี จานวนหนง่ึ มีความเช่อื มโยงกับตลาดสด คา้ อาหารทะเล และ สัตวท์ ี่มชี ีวติ ซึ่งอาจเป็นตัวบง่ ชีว้ ่าไวรสั นี้ นา่ จะมตี น้ กาเนดิ มาจากสัตว์ เมอ่ื พบผปู้ ว่ ยปอดบวม ไม่รสู้ าเหตุเปน็ กลุ่มก้อน ทางการจนี ได้ถอดรหัสพันธกุ รรมไวรัสที่ทาให้เกดิ โรคนี้ จึงร้วู ่าเป็น ไวรสั สายพันธุใ์ หม่ และเผยแพร่ขอ้ มูลรหัสพันธุกรรมให้ชาวโลกรบั รู้ ข้อมลู นี้มปี ระโยชนเ์ พื่อใช้ พัฒนาวิธกี ารตรวจเช้ือไวรสั ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ โรคดว้ ยการดูจากรหสั พันธกุ รรมจาก RNA ของไวรสั ตอ่ มาองคก์ ารอนามัยโรค ตงั้ ชือ่ ไวรสั นีว้ า่ SARS-CoV-2 เปน็ ไวรัสใหมท่ สี่ มั พันธ์อย่างใกล้ชดิ กบั ไวรสั โคโรนาในคา้ งคาว และไวรัสโคโรนาทีพ่ บในตัวลน่ิ จากการสืบสวนโรคไปหาผ้ปู ว่ ยที่ สืบค้นได้ในรายต้นๆ ทีม่ อี าการ มีรายงานในวันท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2562 พบว่าเปน็ บุคคลท่ี ไมไ่ ดม้ กี ารสัมผัสกับตลาดค้าอาหารทะเลดงั กล่าว (ข้อมลู จากวกิ พิ ีเดยี ) ในช่วงแรก จานวนผู้ตดิ เชื้อในประเทศจีนเพิ่มขน้ึ อย่างรวดเรว็ ในช่วงตน้ และกลางเดอื น มกราคม พ.ศ. 2563 มจี านวนผตู้ ดิ เช้อื เพิ่มเป็นสองเทา่ ในทุก ๆ เจ็ดวนั ครงึ่ ไวรสั แพรก่ ระจาย ไปยังมณฑลอนื่ ๆ ของประเทศจีน เพราะเป็นเทศกาลตรุษจนี ประชาชนมกี ารเดนิ ทางมาก ใน
ที่สดุ รฐั บาลจนี ทาการลอ็ กดาวน์ ห้ามการเดินทาง ใหอ้ ยูบ่ ้าน การควบคุมโรคของประเทศจนี จงึ ไปในทางท่ดี ี สามารถลดจานวนผ้ตู ดิ เช้ือ และควบคุมโรคได้ในทส่ี ดุ จนถงึ ปลายเดอื นกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ผูป้ ่วยรายใหม่ในประเทศจีนลดลง แต่การระบาด กระจายออกนอกประเทศจนี ผู้ป่วยเพ่ิมขน้ึ อย่างรวดเร็วในประเทศอติ าลี ประเทศอหิ รา่ น และ เกาหลีใต้ และตอ่ มาเป็นประเทศสหรัฐอเมรกิ า และประเทศแถบลาตนิ อเมรกิ า อินเดยี และอกี หลายประเทศท่ัวโลก การระบาดเกิดขึน้ ทวั่ โลก (ข้อมลู วนั ที่ 28 ธนั วาคม 2563) การระบาดใหญ่ (Pandemic) คอื การท่ีโรคตดิ เชอ้ื แพรร่ ะบาดจากคนสู่คน และแพร่กระจายได้ งา่ ย โดยเกดิ ข้นึ พรอ้ มกนั ในหลายพ้ืนที่ทั่วโลก เชน่ เมอ่ื ปี ค.ศ. 2009 โลกไดเ้ ผชิญการระบาด ใหญ่ของไขห้ วดั หมู (Swine flu) ซึง่ เปน็ การติดเชอ้ื ไวรสั ในระบบทางเดนิ หายใจ ท่มี ตี น้ ทาง จากประเทศเม็กซโิ ก ครา่ ชีวติ ผู้คนไปหลายแสนคน และตอ่ มาเป็นโรคประจาถิ่นที่ยงั คงอย่ตู อ่ ไป โควิด 19 ทาให้เกดิ อาการคลา้ ยกบั เปน็ หวดั ธรรมดา เชน่ ไอ มไี ข้ และน้ามูกไหล คลา้ ยไวรสั โค โรนาบางสายพันธ์ุอืน่ เชน่ โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง หรอื เมอรส์ ซง่ึ มกี ารยนื ยันครัง้ แรกในซาอดุ อี าระเบยี เมื่อปี พ.ศ. 2555 นน้ั ทาให้ปอดอกั เสบ หรือเกิดอาการสาหัสอ่ืน ๆ รว่ ม ด้วย ไวรัสโคโรนาท่กี อ่ โรค โควดิ 19 (SARS-CoV-2) ทลี่ กุ ลามทวั่ โลกในขณะนี้ องค์การอนามัย โลกรายงาน พบวา่ ผปู้ ว่ ยรอ้ ยละ 87.9 มีไข้, ร้อยละ 67.7 มีอาการไอ, รอ้ ยละ 38.1 อ่อนเพลีย และร้อยละ 33.4 มเี สมหะ สว่ นบางรายมีอาการอ่นื ๆ เชน่ หายใจติดขดั เจบ็ คอ และปวดศีรษะ ผ้ตู ดิ เชอื้ เรม่ิ มีอาการโดยเฉลยี่ ในชว่ ง 5-6 วนั หลงั ไดร้ ับเช้ือ
กลุ่มผู้ติดเชื้อทง้ั หมด รอ้ ยละ 81 มีอาการคอ่ นขา้ งน้อย บางคนไม่แสดงอาการ รอ้ ยละ 14 มี อาการรนุ แรง และหายใจลาบาก ผู้ป่วยประมาณรอ้ ยละ 5 มอี าการวิกฤติ ต้องดแู ลดว้ ยการใส่ เครือ่ งช่วยหายใจ ผู้ป่วยทม่ี ีอายุ 60 ปขี ้ึนไป และผูท้ ่ีมปี ัญหาสุขภาพ เช่น ความดนั โลหิตสงู เบาหวาน โรคหวั ใจ โรคทางเดนิ หายใจเร้ือรัง และมะเร็ง มโี อกาสมากขนึ้ ทจี่ ะมอี าการรนุ แรง หรอื เส่ยี งต่อการ เสยี ชวี ิต ท้งั น้ีมีรายงานระบถุ ึงเด็กติดเช้ือมกั มีอาการไมร่ นุ แรง ผตู้ ดิ เช้ืออายุ 18 ปีหรือน้อยกวา่ มี รายงานเพียงร้อยละ 2.4 ของจานวนผตู้ ดิ เชื้อท้งั หมด ผู้ปว่ ยทีต่ ดิ เช้ือไวรสั โคโรนา SARS-CoV-2 ทเ่ี ร่มิ แรกมาหาแพทย์ หรอื ตรวจพบ มักมนี ้ามกู เจ็บคอ และไอ ทง้ั หมดมอี าการออ่ นเพลีย มไี ข้ อณุ หภมู ิร่างกายเกิน 37.5 องศาหรอื สงู กวา่ และมักจะเป็นยาวนานราว 1 สปั ดาห์ ผ้ปู ่วยบางคนมีไขส้ ูงหลัง 1 สัปดาห์ อาการตา่ ง ๆ ยาวนานกวา่ โรคหวดั ตามฤดูกาล หรือโรคตดิ เช้อื จากไวรัสอื่น ๆ การพัฒนาของโรค โควดิ 19 อาจนาไปสู่ปอดบวม เกดิ ภาวะตดิ เช้ือ และเสียชวี ติ ได้ ผตู้ ดิ เช้ือบางรายอาจไมม่ กี ารแสดง อาการ แต่ผลทดสอบทีย่ ืนยันวา่ ตดิ เช้ือ ดงั นน้ั ทางการแพทยจ์ งึ แนะนาว่าบคุ คลท่มี กี ารสัมผสั ใกลช้ ิดกบั ผู้ป่วยท่ีไดร้ บั การยนื ยนั ว่าตดิ เช้ือแลว้ ควรมกี ารตดิ ตามและทดสอบการติดเช้ือ อย่างใกล้ชิด โรคติดตอ่ สามารถแพร่กระจายจากคนหน่ึงไปอีกหลายๆคน คนท่ีเปน็ โรค มคี วามนา่ จะเป็นทจี่ ะ แพร่ไปใหค้ นอื่นมารับโรคต่อได้จานวนหนึ่ง ผปู้ ว่ ยแต่ละคนแพรก่ ระจายใหค้ นมารับในชว่ งต่อไป ได้ไม่เท่ากัน บางคนดูแลป้องกนั ตวั เองดี อาจไม่แพร่กระจายให้ใครเลยก็ได้ การแพร่กระจายของโควดิ 19 ขึน้ กบั การสัมผสั ใกล้ชดิ กับผู้ป่วยหรือผู้มเี ชือ้ อยูใ่ นรา่ งกาย โดย ไวรสั นี้จะตดิ มากบั ละอองฝอย ขณะพู ด ตะโกน ไอ หรือจาม ความเสี่ยงในการติดโรคจงึ ขึน้ กบั ความใกลช้ ิด และระยะเวลาท่ไี ปสมั ผสั คลุกคลกี ับผู้ปว่ ย ความถี่การสัมผสั กับผ้ปู ว่ ย บุคลากรท่ี ตอ้ งดแู ลผปู้ ว่ ย ญาติพ่ีนอ้ งทอี่ ย่รู ่วมกนั หรอื การอยู่ร่วมกนั ในสถานทอี่ บั จานวนครง้ั ทม่ี ี โอกาสพบกบั เชื้อโรค นอกจากนย้ี งั ข้นึ กบั ระยะเวลาที่คนไข้หนึ่งคนแพร่โรคได้ คอื ระยะเวลาท่ี ผูป้ ่วยป่วยจนกวา่ จะหาย ระยะเวลาทีแ่ พรเ่ ชอื้ ออกมาได้จงึ ตงั้ แต่ พ้นระยะฟกั ตวั จนถงึ เวลา หายจากปว่ ย คนไขย้ ่งิ ปว่ ยนาน ก็มีโอกาสแพรเ่ ชื้อได้มาก 2 มาตรการทสี่ าคญั ต่อโรคโควดิ 19 ทม่ี ผี ลต่อวิถีใหม่ โควดิ 19 เป็นโรคตดิ ตอ่ รา้ ยแรง และอาจทาใหเ้ สยี ชวี ิตได้ เมอื่ พบผ้ตู ดิ เชอ้ื มาตรการที่ตอ้ งทา คือการแยกผู้ป่วยโรคนอ้ี อกจากผู้ปว่ ยทั่วไป และ แยกออกจากผู้คนปกติ เพ่ือลดการ แพรก่ ระจายเชอ้ื และตดิ ตามบุคคลตดิ ต่อใกลช้ ดิ กบั ผูป้ ว่ ย เพ่ือสอบสวนโรค การวางมาตรการจดั การระบาด โควิด 19 ต้องคิดให้รอบด้าน ต้องทาการลดการสญู เสยี ให้ นอ้ ยทีส่ ุด และ หาทางให้ได้ผลสูงสดุ ดว้ ย การบริหารจดั การระบาด ตอ้ งคานงึ ถงึ เรอ่ื ง
ผลกระทบ ประกอบดว้ ย เร่ืองผลกระทบทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข ทางดา้ นเศรษฐกิจ และทางดา้ นสงั คม ( Medical , Economic และ Sociology) การระบาดของโรค โควดิ 19 ถา้ ไมจ่ ัดการดแู ล ควบคมุ ปลอ่ ยไปตามธรรมชาติ จานวนผูป้ ่วย จะเพ่ิมสะสม ขน้ึ จนกวา่ คนในประเทศเปน็ โรคและหายแล้ว จนมีภูมิต้านทานเองโดยธรรมชาติ เม่ือถงึ จดุ การสรา้ งภูมติ า้ นทานกลุ่ม (Herd immunity) แลว้ การระบาดกล็ ดลง สาหรับ ประเทศไทย ทมี งานกระทรวงสาธารณสขุ คาดว่า ตอ้ งมปี ระมาณมากกว่า 30 ลา้ นคน ซึ่งการ มีผปู้ ่วยจานวนมาก และอาจมผี ปู้ ว่ ยวกิ ฤติ ทต่ี อ้ งเขา้ รกั ษาในโรงพยาบาลจานวนมาก ระบบ สาธารณสขุ จะรองรับไมไ่ ด้ ดังนัน้ จงึ ตอ้ งหามาตรการควบคมุ เพ่ือตดั วงจรการแพร่โรค เพ่ือ ชะลอการระบาดลง จนกว่าจะมีวคั ซนี มาช่วย เพื่อไมใ่ หเ้ กนิ ขีดความสามารถของระบบทีร่ องรับ ได้ การควบคมุ การระบาดใหไ้ มเ่ กินขดี ความสามารถของระบบสาธารณสขุ การระบาด จึงมผี ลกระทบตอ่ เศรษฐกิจ เช่นมาตรการการกาหนดระยะห่าง Social distancing เกดิ ผลกระทบการทางาน การปดิ การคมนาคม การเคล่ือนยา้ ยคน การปิดเมือง การจัดการแบบเข้มขน้ ใชท้ ัง้ กฎระเบยี บและกฎหมาย จะกระทบกบั ผู้คนจานวนมาก มีคนตก งาน คนหาเช้ากินคา่ แรงงานรายวันไดร้ บั ผลกระทบโดยตรง
ผลทางดา้ นสงั คม เป็นไปค่อนขา้ งมาก กระทบวิถกี ารดาเนินชีวติ การจากัดสิทธิเสรภี าพในบาง เร่ือง รวมถงึ ปญั หาความเป็นอยู่ท่มี าจากเศรษฐกจิ การตกงาน การขาดรายได้ ทาให้ชวี ิต ยากลาบากมากขึ้น สง่ ผลถงึ ครอบครวั สงั คม ประเพณแี ละวถิ ีปฏบิ ัติ โรงพยาบาลสนามทีส่ มทุ รสาคร การวางแนวทางจดั การโรคระบาด จงึ นา ปัญหาทางด้านการแพทย์ เศรษฐกจิ และสังคม มา ประเมินร่วมกนั แล้ววางแนวทาง เพ่ือ ให้ได้ ยทุ ธศาสตร์ทด่ี ี (Optimize) ที่สดุ ทรี่ ัฐบาลแต่ละ ประเทศต้องตดั สินใจ วางนโยบาย ซึ่งเราไดเ้ หน็ เปน็ บทเรยี นท่นี ่าสนใจยง่ิ 1. มาตรการด้านสาธารณสขุ มีการสกดั กั้น และป้องกนั การนาเช้ือเข้าส่ปู ระเทศไทย คือ ใหผ้ ้ทู ่เี ดนิ ทางมาจาก ตา่ งประเทศ ต้องตรวจเช้อื และมีใบรบั รองแพทย์ ต้องกักตวั ในสถานทีก่ กั กันตัวเป็น เวลา 14 วนั พรอ้ มมีการตรวจเชอ้ื เพ่ือความแน่ใจก่อนออกจากสถานกกั กนั ตวั 2. มาตรการด้านเวชภัณฑป์ อ้ งกัน เร่งผลิตในประเทศและจดั หาจากต่างประเทศให้เพี ยงพอกับความต้องการ ดาเนนิ การ จัดหาและผลติ อุปกรณป์ อ้ งกนั ทางการแพทย์ หนา้ กากอนามัย หนา้ กากผา้ เพื่อเป็น ทางเลือกสาหรบั การปอ้ งกัน เจลแอลกอฮอล์ ส่งเสรมิ ให้ประชาชนทว่ั ไปใช้หนา้ กากผ้า หน้ากากอนามัย ทุกครั้งทอี่ อกนอกบ้าน เดนิ ทางเข้าสถานท่ชี ุมนุม/ชมุ ชน
3. มาตรการดา้ นข้อมลู การสื่อสารข้อมลู ของรัฐบาล กระทรวงสาธารณสขุ แถลงข้อมลู ทางการแพทย์ การ สาธารณสุขเป็นศูนย์ข้อมูลโควดิ -19 มกี ารแถลงภาพรวมในทกุ ด้านที่เก่ียวขอ้ งในทุก วัน เนน้ ให้เกดิ ความรวดเร็ว โปร่งใส 4. มาตรการด้านต่างประเทศ จดั ต้ังทมี เพ่ือดแู ลคนไทยในต่างประเทศ ใหก้ ระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเปน็ ทมี เฉพาะกิจ (Team Thailand COVID-19) ดแู ลคนไทยในต่างประเทศ โดยมที า่ นทูต เป็นหัวหนา้ ทมี 5. มาตรการด้านปอ้ งกนั ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานทีต่ ่าง ๆ ทมี่ คี วามเสย่ี งสงู ในชว่ งการระบาด จะใช้มาตรการที่เข้ม และผอ่ นคลายตามสถานะการณ์ ในช่วงการระบาด จากตน้ เดือนมนี าคม พ.ศ. 2563 มีการปดิ สถานทที่ ี่มีความเส่ียงต่อ การแพรร่ ะบาดของโรคเพิ่มขึ้น สถานที่ซ่ึงผ้คู นมารว่ มเปน็ กิจวตั ร เพ่ือทากจิ กรรม รว่ มกันอาจแพรเ่ ช้อื ได้ง่าย แม้จะปอ้ งกันแลว้ ใหง้ ดการชมุ นุม ไดแ้ ก่ มหาวทิ ยาลยั โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวชิ า และทกุ สถาบัน ให้ปิดช่วั คราว ใหอ้ านาจผู้ว่าราชการจังหวดั ดแู ลในจงั หวัดในการปดิ สถานทซี่ ง่ึ ผูค้ นมาชมุ นมุ กาหนด กฎเกณฑ์ กาหนดการปดิ ชัว่ คราว จนกวา่ สถานการณ์จะคล่คี ลาย ในสถานทเี่ สี่ยง เชน่ สนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ผบั สถานบันเทงิ สถานบรกิ าร นวดแผนโบราณ และ โรงมหรสพ กาหนดเขตพ้ืนที่เฝ้าระวงั เปน็ พิเศษ ดแู ลเร่ืองการจดั กจิ กรรมรวมคน จานวนมากทมี่ คี วามเสี่ยงสงู ตอ่ การแพร่ระบาดของโรค เช่น จดั คอนเสิร์ต การจัดงาน แสดงสินค้าต่าง ๆ กิจกรรมทางศาสนาวัฒนธรรม และกีฬา ลดความเสีย่ งของการแพรเ่ ช้ือในสถานที่ท่มี ปี ระชาชนใชบ้ ริการจานวนมาก ไดแ้ ก่ หา้ งสรรพสินค้า ตลาด สถานทีร่ าชการ และรฐั วสิ าหกิจ โดยดาเนินการตามมาตรการ ปอ้ งกนั ทีก่ ระทรวงสาธารณสขุ กาหนด ร้านคา้ รา้ นอาหาร ให้มีมาตรการปอ้ งกนั การแพรเ่ ชอื้ เชน่ การทาความสะอาดพ้ืน ผวิ สัมผัส การคัดกรองอุณหภูมิ การใช้หนา้ กากอนามยั รวมทั้งลดความแออัดในสถาน ประกอบการ ลดความแออดั ในการเดินทาง เพื่อลดโอกาสการแพรร่ ะบาดของโรค ยับยั้งการเคล่ือนยา้ ยประชากร ลดความเส่ียงของการแพร่เชอื้ ในระบบขนส่งสาธารณะ ในประเทศ และเพิ่มความถ่ขี องการเดนิ รถ งดกจิ กรรมที่มกี ารเคลื่อนย้ายคนขา้ ม จงั หวัดของหนว่ ยงานทม่ี คี นจานวนมาก เชน่ ค่ายทหาร เรอื นจา โรงเรยี น หรอื หาก
จาเปน็ ตอ้ งเคลอื่ นย้าย ตอ้ งมมี าตรการปอ้ งกัน การแพรข่ องโรค รวมถงึ การจากัด การเคลื่อนย้ายแรงงานตา่ งด้าวดว้ ย ให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการเหล่อื มเวลาทางานและการทางานท่บี า้ น และสง่ เสริม ให้ใช้ระบบอนิ เตอร์เนต็ เชน่ ประชุมทางไกล โดยใหห้ น่วยงานราชการทกุ หน่วยทา แผนการทางานจากบา้ นและรายงานผลการปฏบิ ัตติ อ่ ศูนย์ฯ และ เพ่ิมกลไกการกากับ ดูแลในระดับพ้ืนทมี่ ากยงิ่ ข้นึ หากเมอื่ การควบคมุ ได้ผล กผ็ อ่ นคลายมาตรการต่าง ๆลง จนกลบั เขา้ สู่สถานการณ์ ที่ เกือบปกติ แตย่ งั ให้คงในเร่อื งการเฝ้าระวงั ไว้ 6. มาตรการช่วยเหลือเยียวยา กลุ่มธุรกจิ โรงงาน สถานประกอบการ โรงแรม และธรุ กิจเก่ยี วเนอ่ื งดา้ นการทอ่ งเที่ยว ให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกฬี า (กก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.), กระทรวงการคลงั (กค.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงแรงงาน (รง.) กระทรวง อุตสาหกรรม (อก.) และหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้อง พิจารณาหามาตรการรองรับเพื่อ ช่วยเหลือธรุ กจิ ทไ่ี ด้รบั ผลกระทบ ในกรณที ่ตี อ้ งชะลอการเลิกจ้างพนักงาน ลกู จา้ ง อาทิ มาตรการช่วยเหลือการลดราคาหอ้ งพักของธุรกจิ โรงแรม ทง้ั นี้ อก. เสนอให้ ยกเลกิ การเก็บคา่ ธรรมเนยี มจากเจา้ ของกจิ การโรงงาน กลมุ่ ประชาชนได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ให้ กระทรวงการคลัง มหาดไทย และ หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง พิจารณามาตรการในการใหค้ วามชว่ ยเหลือประชาชนท่ีได้รบั ผลกระทบทางเศรษฐกจิ และมภี าระในการผ่อนชาระ เชน่ รถจกั รยานยนต์ ฯลฯ เพ่ือให้ สถาบันการเงินผอ่ นผันการชาระค่างวด รวมถงึ ประชาชนทีป่ ระกอบอาชพี ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่ นอกระบบ (พ่อค้า แม่คา้ ลูกจ้างรายวนั ฯลฯ) กลมุ่ เกษตรกร (ผลไม้ ดอกไม้ กลว้ ยไม้ ฯลฯ) ที่ได้รับผลกระทบ และพิจารณามาตรการเพื่อนาเสนอเปน็ มาตรการบรรเทา ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดตอ่ ไป ให้ รมว.ดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม กระทรวงยตุ ธิ รรม และหนว่ ยงานทเี่ กี่ยวข้อง ดาเนนิ การดแู ลอย่างเขม้ งวดในเรื่องทเ่ี ก่ยี วกับผลกระทบทเ่ี กิดจากสถานการณ์ไวรสั โค วดิ เช่น หนี้นอกระบบ การบังคบั คดี การขายฝาก เป็นตน้ และช่วยสรา้ งขวญั กาลังใจ ให้กบั กลุม่ บคุ ลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยงั มีโครงการชว่ ยเหลือกลุ่มผู้ได้รบั ผลกระทบโดยตรง และกลุ่มผูร้ ายได้ น้อย โดยรัฐไดอ้ อกโครงการเยียวยาหลายโครงการเพื่อลดการว่างงาน เช่น โครงการ เราไม่ทิ้งกนั เท่ียวดว้ ยกัน คนละคร่ึง เปน็ ตน้ มาตรการ ในการดแู ลป้องกนั ย่อมมีผลกระทบ ทาให้ประชาชนต้องปรับเปลีย่ นส่วู ิถี ชวี ิตใหม่
3 วิถชี ีวติ ใหม่ กบั การปกป้องการระบาด วิถีชีวิตใหม่ กบั การปกป้องการระบาด ด้วยมาตรการของรฐั บาล กบั ความรว่ มมือของประชาชนเพื่อการปกปอ้ งการระบาดของโรคโค วดิ เป็นเรอื่ งท่ีสาคญั การชะลอการระบาดของโรค โควิด 19 ในประเดน็ หลกั อาศยั การปอ้ งกนั จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสขุ พบว่าประมาณ 80% ของผู้ติดเชอื้ โควดิ 19 มีอาการไม่ รุนแรง และมจี านวนหนงึ่ อาจไม่มอี าการ (5%-40%) แตเ่ ปน็ ผูแ้ พร่กระจายโรคได้ ส่วนผ้ทู ี่ เสียชีวติ สว่ นใหญเ่ ปน็ ผ้สู งู อายุ หรอื ผู้ทม่ี ีโรคประจาตวั ผสู้ ูงอายจุ ึงมีความเสีย่ งสูง จึงควรอยู่ บา้ น และให้ลูกหลานเป็นผอู้ อกนอกบ้าน ลูกหลานจะตอ้ งเข้าใจวา่ อาจจะนาเชอ้ื มาสทู่ ่านได้ การ ควบคุมปอ้ งกนั โรคจงึ จาเป็นตอ้ งป้องกนั ตวั เอง และการนาไปแพร่ใหค้ นอนื่ เพ่ือใหม้ ผี ปู้ ว่ ย เกดิ ขึ้นไดน้ อ้ ยทส่ี ดุ การดาเนินชีวติ ต้องปรับเปลีย่ นใหเ้ ป็นกจิ นิสัย เพื่อปอ้ งกันไมใ่ ห้เกดิ การระบาดใหญ่ การ ปอ้ งกนั ท่ดี ที างหนงึ่ คือ พยายามหลีกเลี่ยงการสมั ผสั ใกล้ชิดผู้ป่วย หม่ันลา้ งมือให้สะอาด และไมน่ ามือมาสัมผัสใบหน้า และหากต้องการสัมผสั บริเวณใบหนา้ จะต้องลา้ งมือกอ่ นเสมอ หรอื ใช้ แอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือกอ่ น การปฏบิ ตั ิตนด้านสุขอนามัย เรอ่ื งความสะอาด การดูแลความสะอาดในของใชข้ องกนิ รวมทัง้ ส่ิงของตา่ ง ๆ ทจี่ ะต้องมผี ู้คน จับต้องบ่อย ๆ เชน่ ในลิฟต์ ปุม่ กดต่าง ๆ ราวบนั ได ลกู บิด ถา้ ไดท้ าความสะอาดบอ่ ย ๆ จะชว่ ยลดการ แพร่กระจายของโรคไดเ้ ปน็ อยา่ งดี โรงเรียนเป็นทร่ี วมของนกั เรียนจานวนมาก ผู้บริหาร และครขู องโรงเรยี นตอ้ งเน้นเรอ่ื งความ สะอาด ข้าวของเคร่ืองใช้ ทีจ่ ะใชร้ ่วมกนั ต้องหม่นั ทาความสะอาด นักเรยี นทกุ คนตอ้ งไดร้ ับการ สอน ฝึกให้ลา้ งมอื เมอื่ ไปถงึ โรงเรยี น และกอ่ นรับประทานอาหาร หรือคิดวา่ เม่อื มือสกปรก การใส่หนา้ กากอนามยั ช่วยลดการตดิ ตอ่ โรคโควดิ -19 ได้ดี เปน็ การปอ้ งกนั เรา ป้องกันเขา มี หลักฐานทางวทิ ยาศาสตร์ชดั เจน วา่ การใส่หนา้ กากอนามยั สามารถลดการแพร่ระบาดไดด้ ี โดยเฉพาะเมอ่ื ออกจากบ้าน ไปพบปะผูค้ น ไปแหล่งชุมชน และอยา่ ลืมลา้ งมอื หรอื ใช้ แอลกอ ฮอร์เจลล้างมอื ก่อนจับหนา้ กากอนามยั ดว้ ย เมอื่ ใส่หน้ากากอนามยั จะต้องปฏิบัติตวั อยา่ งเคร่งครัด ไมค่ วรเอามาไวใ้ ต้คาง และไม่ควรใช้ มอื ทีย่ ังไม่ไดท้ าความสะอาด มาจบั บนหนา้ กากอนามัย ก่อนจบั ถ้าไมล่ ้างมือ กใ็ ช้แอลกอฮอล์ ทาความสะอาดมอื กอ่ น เมอื่ ใชห้ น้ากากอนามยั แล้วยงั ตอ้ งปฏิบตั ิตวั กนิ ร้อน ชอ้ นกลาง หรอื ชอ้ นตวั เอง ล้างมอื ร่วมด้วยอยา่ งเคร่งครดั และต้องทาให้เป็นนสิ ัย การเวน้ ระยะหา่ งระหว่าง บคุ คล และ สังคม มีความสาคญั มาก ชว่ ยลดการแพรร่ ะบาดของโรค การเว้นห่างจากกัน หมายถงึ Social distancing หรือ Personal distancing ในชว่ งการ
ระบาด งดการจดั กจิ กรรมท่ีรวมการชมุ นมุ คน เช่น การสมั มนาวชิ าการ การประชมุ นานาชาติ ประชมุ ระดับชาติ โดยใชว้ ิธีการอืน่ แทน เชน่ การประชมุ สมั มนาออนไลน์ อกี ประการหน่ึงที่เกี่ยวกับเร่ือง Social distancing ในการรวมกันของคนหมูม่ าก ทุกคนตอ้ ง เขา้ ใจวา่ จะเปน็ แหล่งของการกระจายโรคอยา่ งรวดเร็ว (Super spread) งานสงั คมจาเปน็ ที่ จะตอ้ งจดั แบบให้มรี ะยะหา่ ง การจดั ประชุม ต้องหาทางออกดว้ ยการประชุมทางไกล (Tele- conference) สนามมวย การแข่งขนั กีฬาตา่ ง ๆ โรงเรียน ก็ต้องมีมาตรการคัดกรอง เฝา้ ระวงั เพื่อลดการระบาดของโรคใหไ้ ด้ สงิ่ ทสี่ าคัญทส่ี ุด คอื จะตอ้ งให้ความรู้ ในมาตรการต่าง ๆ ในการปฏบิ ตั ิตวั ปอ้ งกนั ตัวเอง และไม่ให้ไปแพรส่ ผู่ ู้อื่น ถ้ามีอาการโรคทางเดินหายใจ เป็น หวดั คอเจบ็ มไี ข้ กไ็ มค่ วรไปโรงเรยี น และต้องห่างจากผู้คน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจ ทาง โรงเรียน ก็ควรจะมีมาตรการในการคัดกรองท่ีเขม้ งวด วดั ไข้ สอนเร่อื งสุขอนามัย การ ปอ้ งกันตนเอง การล้างมอื การติดตอ่ ของโรค
อินโฟกราฟกิ ประชาสมั พันธ์จากกรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของการกาหนดระยะห่างบคุ คล (Personal distancing) ก็มคี วามจาเปน็ ย่ิง เพ่ือลด การติดต่อของโรค ในการพู ดคยุ ถ้ามีฝอยละอองกระเดน็ ออกมา จะสมั ผัสได้ ในระยะ 1 เมตร
ในชว่ งการระบาดของโรค จงึ มีคาแนะนาว่า ถา้ จะใหป้ ลอดภัยควรจะหา่ ง 2 เมตร หรือ 6 ฟุต เพ่ือหลีกเลยี่ งการติดตอ่ โรค สังคมไทย เปน็ สังคมท่ีดี การทักทายเราใช้วธิ กี าร ไหว้ จะไม่ใช้วธิ กี ารสัมผัส จบั มือ กอด จูบ ก็ เป็นการชว่ ยเพิ่มระยะหา่ งในการลดการกระจายของโรคระบาด ถ้ากระทาในเรื่องระยะหา่ ง หรือ Social distancing ไมไ่ ด้ กค็ วรใช้หน้ากากอนามัย และอยา่ ลมื ลา้ งมือ และใช้เจลแอลกอฮอลช์ ว่ ยอีกทางหนงึ่ ดว้ ย วิถีชีวติ กบั การดแู ลสุขภาพอนามยั จึงเป็นเรอ่ื งที่สง่ ผลต่อสว่ นรวม ดงั จะเหน็ ผลจากชว่ งเวลา ท่ปี ระชาชนรว่ มมอื จรงิ จังเพื่อชว่ ยกันป้องกันโรคโควดิ โรคอ่ืน ๆ ทเ่ี กี่ยวกบั ทางเดนิ หายใจ พลอยลดลงอย่างมากเชน่ กัน การทา Social distancing ที่มผี ลต่อการลดการแพรก่ ระจาย ของโรคไดอ้ ยา่ งดีอกี อยา่ งหนึง่ คอื การทางานที่บ้าน หลายหน่วยงานมีการให้พนกั งานทางาน ทบี่ า้ นได้ 4 การปรบั ตัว ภายใต้ภาวะการระบาดของโรคโควดิ -19 การตอ่ สู้กับการระบาดของโรคโควดิ 19 ตอ้ งใหค้ วามสาคญั กับมาตรการและคาแนะนาในการ ปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสขุ เพราะโรคนเี้ ป็นโรคระบาดทีเ่ กี่ยวข้องกับคนหมู่มาก ติดจาก คนไปสคู่ น และไวรัสเป็นเชอ้ื โรคท่ีมองไม่เหน็ ตวั ตดิ ตอ่ งา่ ย ทาให้เราตอ้ งคดิ อยเู่ สมอวา่ เรา ปอ้ งกันเขา เขาป้องกนั เรา วิถีชีวิตใหม่น้จี ะทาใหเ้ ราคุ้นชิน และอย่กู บั เราต่อไป เราใสห่ นา้ กากผา้ หรือหน้าการอนามยั ก็เพื่อป้องกนั เขา และป้องกันเรา เมือ่ อยรู่ ว่ มกันในสังคม ทุกครง้ั ถ้าเราคิด วา่ ป้องกันเขา ผลลพั ธ์กจ็ ะมาเปน็ การปอ้ งกันเรา การปฏิบัตใิ นสังคมบางอย่าง บางครงั้ เหมอื นวา่ มกี ารละเมิดสิทธส์ิ ว่ นบคุ คล ทัง้ นีก้ เ็ พื่อ ป้องกนั เขา และปอ้ งกนั เรา การใสห่ นา้ กาก การเวน้ ระยะห่าง การทา Social distancing การเชกอนิ บนั ทึกขอ้ มลู ใน โปรแกรม ชัยชนะ ก็เป็นการปอ้ งกันเขา และปอ้ งกนั เรา อย่าคดิ วา่ เปน็ การละเมดิ สิทธิสว่ น บคุ คล เพราะรฐั บาลผ้เู กบ็ ข้อมูลมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลปกปอ้ งอยู่ ในยุควิถีใหม่ ตอ้ งยอมรบั วา่ เราอาจจะถกู บงั คับสิทธบิ า้ ง เชน่ ในการระบาดหนกั ต้องให้อยู่บ้าน ก็ปอ้ งกนั เพื่อส่วนรวม ตอ้ งคานงึ ถงึ ทงั้ สิทธสิ ว่ นตวั และสิทธสิ ่วนรวม ไมใ่ ชเ่ ห็นความสาคญั ของตัว มากกวา่ ความสาคญั ของสว่ นรวม สังคมตะวนั ตก เน้นสทิ ธเิ สรีภาพ ส่วนบุคคลมาก ปัญหา การระบาดจงึ ควบคมุ ไดย้ าก และสร้างความเสียหายสงู
การเชกอนิ ดว้ ยโปรแกรมไทยชนะ จากมาตรการทีเ่ ขม้ ข้นขน้ึ หลงั จากเดือนมนี าคม พ.ศ. 2563 ซ่งึ ขณะน้นั มแี นวโน้มการเพ่ิมของ ผูป้ ่วยเพิ่มขนึ้ อย่างชดั เจน รฐั บาลจงึ ออกมาตรการมาเพ่ือยบั ยั้งการระบาด การปฏบิ ัติตาม มาตรการของรัฐบาล ต้องอาศัยกฎหมาย และความรว่ มมอื ระเบยี บ วินัยของประชาชน หาก ทุกคนมคี วามเชอ่ื มั่น มีระเบยี บวนิ ัย ปฏิบตั ติ ามคาแนะนาของรฐั โดยเครง่ ครดั ตามมาตรการท่ี กาหนด เช่น การลดการเดินทาง การหยดุ อย่บู า้ น ดแู ลสขุ ภาพตวั เอง ป้องกนั ตนเอง ลา้ งมือ ใส่หน้ากากอนามัย เวลาไปในที่ชมุ ชน และจะต้องทาให้ได้ในเรอ่ื ง ระยะห่างของบุคคลที่ 6 ฟุต หรือ 2 เมตร ระยะหา่ งของสังคม งดกิจกรรมทางสังคมทงั้ หมด (Social distancing) งด หรอื ลดการเดนิ ทางโดยไมจ่ าเป็นหรอื งดได้ทัง้ หมด กจ็ ะเป็นการลดการสัมผสั ระหวา่ งคนตอ่ คน ทางานท่บี า้ น ปดิ สถานศกึ ษา ใหใ้ ชร้ ะบบออนไลน์ ทกุ คนได้ทากจิ กรรมแบบดจิ ทิ ัล ออนไลน์ ทางอิเล็กทรอนกิ ส์ เพื่อลดการสัมผัส ตดิ ตอ่ เชน่ การใชจ้ ่าย การเงนิ การซ้อื ขายออนไลน์ หรอื ถา้ ซือ้ ขายกใ็ ชเ้ งินเปน็ แบบดิจิทัล เป็น e-Transactions และ ออนไลนแ์ บบต่าง ๆ เช่น การประชมุ ออนไลน์ เพ่ือลดการปฏสิ ัมพันธ์ การสมั ผสั และ เม่ือสถานการณด์ ีข้นึ กม็ ีการผอ่ น คลายตามทรี่ ฐั กาหนด ถ้าทุกคนเครง่ ครดั ชว่ ยกนั รับผิดชอบตอ่ สงั คม ไม่รอใหเ้ ปน็ หน้าทขี่ องทางการอย่างเดยี ว ชว่ ยเหลอื กันและกนั ในยามยาก ผู้ทมี่ พี อจะแบ่งปนั ได้ จะต้องชว่ ยเหลอื ผยู้ ากไร้ ผมู้ ปี ญั หาที่ตก งานหรอื เดือดรอ้ นจากการหยดุ งาน การอยู่บ้าน การดาเนินการตามมาตรการตา่ ง ๆ ของ รฐั บาลตอ่ สู้กบั โควิด-19 อาจไม่จบในระยะเวลาส้ันๆ แต่อาจต้องใชเ้ วลาพอสมควร การร่วมมอื
และการมวี ินยั การปฏบิ ตั ติ นอย่างเครง่ ครดั ตามมาตรการของรฐั จะช่วยใหป้ ัญหาจบลงได้ หรือชะลอเวลาเพ่ื อรอวัคซนี สถานการณ์เช่นนี้ ทาใหต้ อ้ งปรับตวั และสร้างความคุ้นชิน จงึ เป็นไปตามรูปแบบการดาเนนิ วิถี ชวี ิตใหม่ 5 สังคมในชีวติ วถิ ใี หม่ มนษุ ยเ์ ป็นสตั วส์ งั คม ตอ้ งอยูร่ วมกนั เป็นกลมุ่ เป็นสงั คม ตั้งแต่สงั คมขนาดเล็ก เชน่ ครอบครัว มพี ่อแม่ ลกู ปู่ ยา่ ตา ยาย หลาน เหลน เปน็ สังคมท่โี รงเรียน มคี รู มเี พ่ือน สงั คม ทที่ างาน มเี พื่อนรว่ มงาน สงั คม คือ ความสมั พันธ์ ของคนกบั คน ผกู พันธ์กัน ความสัมพันธ์ของคนกับธรรมชาติทอ่ี ยู่ รอบ ๆ ตวั คน เป็นเร่ืองของสงิ่ แวดลอ้ ม วตั ถุ สิง่ ของ หรอื แม้แตอ่ ากาศ น้า และอื่น ๆ นอกจากนี้คนยงั มคี วามสมั พันธ์กบั ความเช่ือ ความศรัทธา ศาสนา ความผูกพันทเี่ หนือ ธรรมชาติ ความผูกพันเหล่าน้ี ก่อให้เกดิ วถิ ปี ฏิบัติ เป็นวัฒนธรรม ประเพณตี ่าง ๆ เมือ่ สังคมคือ ความสัมพันธ์ระหว่างกัน สงั คมจึงอธบิ ายด้วยคณติ ศาสตร์ ในเร่อื ง ฟงั กช์ ันได้ เปน็ ความสมั พันธข์ องตัวแปร เช่น y =f(x) เมื่อ x เปลีย่ นแปลง y กจ็ ะมผี ลด้วย เหมอื น ฟงั กช์ ัน (สงั คม)ครอบครวั ลูก= f(พ่อ,แม)่ พ่อแมเ่ ปน็ อยา่ งไรกม็ ผี ลต่อลกู หรอื เรานกึ ถึง สิ่งแวดลอ้ มทีม่ ผี ลตอ่ ความเป็นอย่ขู องมนุษย์ ทุกอย่างท่อี ยู่ในสังคมมีความสัมพันธย์ ่อม ส่งผลกระทบถึงกนั และกนั ได้ สังคม จึงหมายถงึ การอยู่รวมกนั ของมนษุ ยโ์ ดยมลี ักษณะความสมั พันธซ์ ึ่งกนั และกันในหลาย รปู แบบ เช่น ฐานะความสมั พันธ์ กลุ่มอาชพี อายุ เพศ ศาสนา ความเปน็ พลเมือง ที่อยอู่ าศัย ฯลฯ ระบบสงั คมจงึ รวมถงึ สิง่ อน่ื ๆ ท่ีเก่ยี วโยงกนั เชือ่ มโยงเกยี่ วขอ้ งกนั อาจใช้คาวา่ ระบบ นิเวศ (Ecology system : Eco-system) ซง่ึ มคี วามหมายเกยี่ วกบั ความสัมพันธข์ อง สงิ่ มีชวี ติ ตา่ ง ๆ กบั สภาพแวดล้อม สงั คมของมนษุ ย์เกิดจากกลมุ่ บคุ คลทม่ี คี วามสนใจ รว่ มกนั ไมว่ า่ จะในดา้ นใด เช่น ประเทศ จังหวัด และอืน่ ๆ และมกั จะมีวถิ ปี ฏบิ ตั ิทเ่ี ปน็ ทีย่ อมรับ วัฒนธรรม หรือ ประเพณี รวมถึงภาษา การละเลน่ อาหารการกนิ ของตนเองในแตล่ ะสังคม การทม่ี นุษย์รวมกนั เปน็ สงั คมนัน้ ทาใหเ้ กดิ การทางานรว่ มกนั คดิ พัฒนารว่ มกัน เอ้ือเฟ้ อื เผ่อื แผก่ ัน ชว่ ยให้มนุษยส์ ามารถสรา้ งและพัฒนาสิง่ ต่าง ๆ ให้ประสบความสาเร็จเพื่อ ประโยชน์สขุ ร่วมกัน ซึ่งอาจเป็นไปไม่ได้ถา้ ต้องทาสงิ่ น้นั โดยลาพัง ขณะเดียวกันสงั คมทาให้ การมาอยู่ร่วมกันเป็นเมอื งขนาดใหญ่ ซึ่งมกี ารพัฒนาเทคโนโลยีช่วยในการทางาน อาจส่งผล ให้ประชากรทไ่ี มส่ ามารถปรับตวั ตามสภาพสังคมท่ีเปลีย่ นแปลง เกดิ ความรสู้ กึ โดดเดี่ยวหรอื มี ความรู้สึกว่าตนเองไมม่ สี ว่ นรว่ มในสังคมขึน้ มาได้ มนษุ ยเ์ ป็นสัตวท์ เ่ี รยี นรู้ไดด้ ี จึงพัฒนาและสรา้ งความรู้ สามารถนาเอาความรู้ วิทยาการต่าง ๆ มาสรา้ งส่ิงทเี่ รียกวา่ เทคโนโลยี เพ่ืออานวยความสะดวกตอ่ การดาเนินชีวติ ทาให้ชีวิตสุข
สบายขึน้ สามารถพัฒนาสง่ิ ตา่ ง ๆ เชน่ ระบบ ไฟฟา้ ประปา สาธารณูปโภค ถนนหนทาง สร้างบ้านเรือน ยานพาหนะ ฯลฯ ท่สี าคัญคอื เทคโนโลยี ได้เขา้ มามีสว่ นแทรกความสมั พันธ์ ระหว่างคนกับคน เช่นเมอื่ ก่อนเราจะร้จู กั กัน พูดคยุ ตอ้ งเหน็ หน้ากัน (face to face) แต่ เดยี๋ วนี้ เทคโนโลยมี าอยตู่ รงกลาง ทาใหเ้ ราสอื่ สารถงึ กันโดยผา่ นเครอื่ งมอื เทคโนโลยี มรี ะบบ ออนไลน์ต่าง ๆ เกิดข้ึนมากมาย โควิด 19 เป็นโรคตดิ ตอ่ และระบาดแพร่กระจายไดง้ ่าย จึงต้องมกี ารรณรงค์ เรื่อง Social distancing วิธที ีด่ ที ส่ี ุดอยา่ งหนึง่ ทีท่ าใหช้ วี ิต และสังคมยังดาเนนิ ไปได้ คือการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นตวั คน่ั กลางระหว่างคนกับคน เพื่อเพิ่มระยะหา่ งทางกายภาพ เชน่ การพู ดคยุ กันผ่าน ระบบส่อื สาร การลดการจับธนบัตร เหรยี ญ ดว้ ยการใชเ้ งนิ แบบออนไลน์ การลดการไปมาหาสู่ แต่พบกนั บนโลกออนไลน์ เครือขา่ ยสงั คม มีการใช้เทคโนโลยีออนไลนช์ ่วยในการทากจิ กรรม ตา่ ง ๆ เช่น การเรยี นออนไลน์ การซื้อขายของออนไลน์ การทางานแบบออนไลน์ เป็นตน้ สังคมในยุคปจั จบุ ัน ความสัมพันธ์ของคนอยภู่ ายใต้ Digital Eco-System
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: