44 ตอนท่ี 3 แนวทางการทาํ บัญชีครวั เรอื นและการประกอบอาชพี อย่างง่าย บัญชีรายรบั รายจ่ายในครอบครวั ทาํ ให้สมาชิกในครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกันทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบ ร่วมบนั ทกึ ร่วมกนั ทาํ ร่วมกนั วิเคราะห์ ได้พดู คยุ กนั มากย่ิงขน้ึ บัญชีรับจ่ายครอบครัว ทําให้สมาชิกในครัวเห็นข้อมูลการใช้จ่ายเงิน ได้ฉุกคิด เกิดจิตสํานึกที่จะไม่ ฟุ่มเฟือย ไม่ตกเป็นเหย่ือของผู้บริโภคนิยมที่กระตุ้นให้เสพมากๆ เพื่อหมุนวงล้อเศรษฐกิจกันอย่างเอาเป็นเอา ตาย มีเหตุผลในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น เกิดความคิดถึงกัน เอ้ืออาทรกันในครอบครัวมากข้ึน ทําให้มีพฤติกรรม การใช้จ่ายเงนิ ท่ถี กู ท่ีควรมากข้นึ ในสังคมอเมริกันที่เป็นสังคมบริโภคนิยมสุดโต่ง นําหน้าประเทศทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ก็มีคนส่วนหนึ่ง มองเห็นปญั หาของการตกเปน็ เหยอ่ื บริโภคนิยม ทุนนยิ มท่ีบีบค้ัน สร้างความอยู่ร้อนนอนทุกข์เพ่ิมข้ึน แม้ว่าจะ หารายได้ได้มากขึ้นก็ตาม พวกเขาชวนกันแสวงหาทางออกของการดําเนินชีวิตด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหน่งึ ในเครือ่ งมือที่เขาใชเ้ พ่ือเรยี นรู้ตนเอง เพ่ือปรบั ปรุงพฤตกิ รรมตนเองกค็ อื การทําบัญชีรับจา่ ยครอบครวั การทําบัญชีรับจ่ายครอบครัว ไม่ใช่เคร่ืองมือเฉพาะของครอบครัวเกษตรกรหรือคนมีรายได้น้อย แต่ เป็นเคร่ืองมือพ้ืนฐานของทุกครอบครัวไม่ว่ายากดีมีจน เป็นกระจกสะท้อนให้รู้ตนเอง ด้วยตนเองและเพื่อ ตนเอง การพัฒนาประเทศตามแนวคิดเศรษฐกิจทุนนิยม เราถูกกําหนดกรอบให้ผู้ท่ีคิดถึงแต่การเพิ่มรายได้ให้ มากที่สุดเท่าที่ความสามารถจะหาได้ด้วยทุกวิถีทาง และกระตุ้นให้ใช้จ่ายให้มากที่สุดเพื่อกระตุ้นการ เจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ อยู่ตลอดเวลา โดยทําให้เชอ่ื ด้านเดียวว่า การเสพมากๆ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ความอยู่เย็น เปน็ สุขจะเกดิ ขึน้ ไดต้ อ้ งอยบู่ นความมีพอดี กินพอดี เป็นพอดี อยู่พอดี ชีวิตมีความสมดุล ไม่สุดโต่งไปทางใดทางหน่ึงเหมือนกับเราวิดนํ้าเข้านา เรามัวแต่สนใจดูแต่ ขนาดท่อนํ้าเข้า ดูปริมาณนํ้าที่ไหลเข้ามาแล้วหาแนวทางเพิ่มขนาดท่อสูบน้ําเข้านาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมาก ได้ แต่เรามักจะลืมดูว่ามีช่องทําให้นํ้ารั่วไหลออกจากนาตรงไหนบ้างมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีช่องน้ําไหลออก มาแล้วเราไม่รู้ ไมส่ นใจปดิ หรือเผลอทะลวงใหช้ ่องนาํ้ ไหลออกกว้างย่ิงขึ้น ต่อให้เราสูบเข้าเท่าใด น้ําก็ไม่เคยพอ นากข็ าดนาํ้ มากขน้ึ ไม่รจู้ บ การทําบัญชีรายรับ รายจ่ายครอบครัวก็คือ เครื่องมือให้เราได้รู้ทั้งนํ้าไหลเข้าไหลออก รู้ปริมาณน้ําที่ สะสมอยใู่ นนา และรู้ว่าเราควรมีนํ้าสะสมไว้เท่าใด จึงจะเกิดความสมดุลพอดีพอเพียงความสมดุลดีพอเพียง จะ ทําให้เกิดความอย่เู ย็นเปน็ สุข ความสุขโต่งไปข้างใดข้างหน่ึงไม่ว่าจะเป็นจนเกิน รวยเกิน การหาเกิน – เสพเกิน ลว้ นสร้างความอยู่รอ้ นนอนทุกขท์ งั้ ต่อตนเอง ตอ่ ส่งิ แวดล้อมและต่อผู้อ่ืน เม่ือทําบัญชีรายรับรายจ่ายครอบครัว แล้วพบว่าเราได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรเก่ียวกับชีวิตเรา ชีวิตเรา และครอบครัวเราเพ่ิมมากขึ้นมากมาย ที่เคยหน้าดําคร่ําเครียดวิ่งไขว่คว้าหาแต่เงิน เงิน และไล่ล่าหาอะไรต่อมิ อะไรมาเสพ เสพ ก็อาจจะฉุกคดิ และค้นพบความดคี วามพอประมาณไดเ้ อง ความอยู่เยน็ เป็นสขุ แบบฉับพลนั กจ็ ะเกดิ ขึน้ ได้ทนั ที โดยไม่ตอ้ งให้ใครมาจับตีทะเบียน หรือจะมาบอก วา่ จะเออ้ื อาทร หรือหยบิ ยืน่ อะไรใหแ้ บบเดมิ ๆ
45 กิจกรรม ใหน้ กั ศึกษาอธิบายประโยชนข์ องแนวทางการทําบญั ชีครวั เรอื นกับการประกอบอาชีพมาพอสังเขป ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
46 ตอนท่ี 4 การวางแผนการจัดทําบญั ชรี ายรบั – รายจา่ ย เพอื่ การประยกุ ตใ์ ชใ้ นครวั เรือนทางการประกอบ อาชีพ การวางแผนการใช้จ่ายเงนิ ใหเ้ หมาะสมระหว่างรายรับและรายจา่ ย ครอบครวั ต้องมีรายรับมากกว่า รายจา่ ย หากพบว่ารายรบั นอ้ ยกวา่ รายจา่ ย ต้องหาแนวทางนําเงินมาใช้จ่ายให้เพียงพอ โดยอาจต้องกู้ยืมเงินมา ใช้จ่าย แต่การกู้ยืมเงินไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพียงแต่ช่วยให้การใช้จ่ายมีสภาพคล่องชั่วขณะ เท่าน้ัน และในระยะยาวยังส่งผลให้ครอบครัวมีภาระหนี้สินจํานวนมาก ท้ังเงินต้นและดอกเบ้ียซ่ึงจะเพ่ิม จํานวนมากขึ้น ตามระยะเวลาท่ียาวนานในการกู้ยืมเงิน เป็นปัญหาท่ีแก้ไขได้ยาก สําหรับการแก้ไขปัญหาการ ขาดสภาพคลอ่ งในการใชจ้ ่ายเงนิ หรอื ปญั หารายรบั ไมเ่ พยี งพอกับรายจ่ายนน้ั มีแนวทางดังนี้ 1. การตัดรายจ่ายท่ีไม่จําเป็นออก เพื่อลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครัว เช่น รายจ่ายเก่ียวกับ การพนนั ส่ิงเสพตดิ ของมนึ เมา รายจา่ ยฟมุ่ เฟอื ย เป็นต้น เป็นการสร้างนิสยั มใิ หใ้ ช้จ่ายฟุ่มเฟอื ย 2. การลดรายจ่ายที่จําเป็นลง เพ่ือสร้างนิสัยการประหยัด อดออม การใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่จํากัดอย่าง คุ้มค่า เช่น การปลูกผัก ผลไม้ไว้รับประทานเอง เพ่ือช่วยลดค่าอาหาร และค่าเดินทางไปตลาด อีกทั้งทําให้ สุขภาพดอี ีกดว้ ย ลดการใช้นาํ้ มนั เชื้อเพลิงแลว้ หันมาออกกําลังกายโดยการป่ันจักรยาน หรือ การเดิน การ ว่ิงแทนการขบั รถจักรยานยนต์ หรอื รถยนต์ เปน็ ตน้ 3. การเพิ่มรายรับ หารายได้เสริมนอกเวลาทํางานปกติ เช่น การใช้เวลาว่างรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า การขายอาหารหลังเลกิ งาน การปลกู ผัก หรือเลี้ยงสตั ว์ไว้ขาย เป็นตน้ 4. การทําความเข้าใจกันภายในครอบครัวเพื่อให้ทุกคนร่วมมือกันประหยัด รู้จักอดออม การใช้ ทรัพยากรต่างๆ ลด ละ เลิก รายจ่ายหรือส่ิงที่ไม่จําเป็น และช่วยกันสร้างรายรับให้เพียงพอ เหมาะสมกับ เศรษฐกจิ ปัจจุบัน ประโยชน์ของการทําบญั ชคี รวั เรือน การทําบัญชีครัวเรือนจะทําให้เราทราบว่าในแต่ละเดือน ครอบครัวมีรายรับ-รายจ่ายอะไรบ้าง คนเรา ส่วนมากมักจะหลงลืม(ไม่สนใจที่จะจดจํา) เวลาใช้จ่ายเงินออกไปหรือรับเงินเข้ามา พอเวลาผ่านไป 2-3 วันก็ ลืมแล้ว ดังน้ัน บัญชีครัวเรือนจะช่วยเตือนความจําให้เรารู้ถึงการใช้จ่ายเงิน เพ่ือนํามาเป็นข้อมูลในการวาง แผนการใช้จ่ายเงนิ ของครอบครัวเพ่ือแก้ไขปัญหาหนี้สิน ใหค้ รอบครวั มีความเป็นอยู่ทีด่ ีข้นึ ได้ 1. เพ่อื จดบันทึกรายการการดําเนินกิจการเรียงลาํ ดับกอ่ นหลงั 2. ง่ายต่อการตรวจสอบ 3. เปน็ การควบคมุ รกั ษาทรพั ยส์ ินของกิจการ 4. ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดในการดําเนินกจิ การ 5. สามารถปรบั ปรุงแกไ้ ขทนั 6. ทําใหท้ ราบฐานะของกจิ การ 7. เป็นประโยชนใ์ นการตรวจสอบผลกาํ ไร-ขาดทุนได้ทุกเวลา
47 กิจกรรม ใหน้ กั ศกึ ษา บอกถึงประโยชนข์ องการทาํ บัญชคี รัวเรอื นกบั การประกอบอาชพี ว่ามีประโยชน์อยา่ งไรบ้าง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
48 แบบทดสอบหลงั เรยี น คาํ ชีแ้ จง ให้นกั ศึกษาทาํ เครอื่ งหมาย X หน้าคาํ ตอบทถ่ี ูกท่ีสดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี ว ข้อ1. บญั ชีชาวบ้าน ยึดแนวคดิ หลกั การใด ก. คิดเปน็ ข. เศรษฐกจิ ค. ทฤษฎใี หม่ ง. ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ข้อ2. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ บัญชชี าวบ้านไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ก. เดบิต เครดิต ข. กําไร ขาดทนุ ค. ตน้ ทุน ผลผลติ ง. รายรบั รายจา่ ย ขอ้ 3. บัญชีชาวบ้านเก่ียวขอ้ งอย่างไรกับการดาํ เนนิ ชีวติ ก. เป็นสง่ิ ที่บ่งบอกภาระหนี้สนิ ของแตบ่ ุคคล ข. เป็นบัญชที บ่ี ่งบอกถึงรายรบั รายจ่ายภายในชมุ ชน ค. เป็นสิ่งทบี่ ่งบอกถึงฐานะความเป็นอยูข่ องแต่ละบุคคล ง. เปน็ บญั ชีท่ีบ่งบอกถึงรายรับ รายจา่ ยภายในครัวเรือน ขอ้ 4. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ประโยชนข์ องการทาํ บญั ชคี รัวเรอื นได้อยา่ งถกู ต้อง ก. ช่วยแกป้ ัญหาหนีส้ นิ และชว่ ยวางแผนการเงินของครอบครวั ข. ช่วยแกไ้ ขปัญหาหนสี้ ินและชว่ ยวางแผนการเงนิ ของครอบครัว ค. ทําใหส้ ามารถตรวจสอบยอดเงินทีม่ ีในแตล่ ะวนั ได้อยา่ งถกู ต้อง ง. ทาํ ใหท้ ราบวา่ ในแต่ละเดอื น ครอบครวั มรี ายรบั -รายจา่ ยอะไรบ้าง ขอ้ 5. หลกั การ “ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง” คือข้อใด ก. พอกนิ พอใช้ พอเพยี ง ข. อยเู่ ยน็ เป็นสขุ มกี นิ มีใช้ ค. พอเพียง พอประมาณ มเี หตผุ ล พอประมาณ ง. มเี หตผุ ล มีภูมิคมุ้ กัน ขอ้ 6. สนิ ทรพั ย์ หมายถงึ ก. สถานะทางการเงนิ ข. รายการแสดงถงึ สิทธิของบคุ คล ค. ทรัพยากรทม่ี ีอย่ใู นความครอบครอง ง. ภาระผูกพันทเี่ กิดจากการดาํ เนนิ ชวี ิต
49 ข้อ7. ข้อใดหมายถึงประโยชนข์ องการวเิ คราะหบ์ ญั ชคี รวั เรือน ก. เพอ่ื พจิ ารณาดวู า่ รายรบั -รายจา่ ยมีความสมดลุ กันหรอื ไม่ ข. ช่วยแก้ไขปญั หาหน้สี ินและชว่ ยวางแผนการเงินของครอบครัว ค. ทาํ ใหส้ ามารถตรวจสอบยอดเงนิ ทม่ี ใี นแต่ละวนั ได้อยา่ งถูกต้อง ง. ทาํ ใหท้ ราบว่าในแต่ละเดอื น ครอบครวั มรี ายรับ-รายจ่ายอะไรบ้าง ข้อ8. ข้อมลู ท่ไี ดร้ ับจากการทาํ บญั ชคี รัวเรือนมีประโยชน์อย่างไรกับการดําเนนิ ชวี ิต ก. ชว่ ยให้เราสามารถวางแผนการใชจ้ า่ ยเงินในเดอื นถัดไป ข. เพอ่ื พจิ ารณาดวู ่ารายรบั -รายจา่ ยมีความสมดุลกนั หรอื ไม่ ค. ชว่ ยแกไ้ ขปัญหาหน้สี ินและช่วยวางแผนการเงินของครอบครัว ง. ทาํ ให้สามารถตรวจสอบยอดเงนิ ทมี่ ีในแตล่ ะวันได้อยา่ งถูกตอ้ ง ข้อ9. จดุ มงุ่ หมายของการทาํ บญั ชีครัวเรือน คอื ก. เพอื่ ครอบครวั มคี วามเปน็ อยู่ท่ีดขี น้ึ ข. เพอื่ ชมุ ชน สังคมมีความเปน็ อย่ทู ด่ี ีขึ้น ค. เพ่อื พัฒนาระบบเศรษฐกจิ ภายในประเทศ ง. เพ่ือใหช้ ุมชนเกดิ กระบวนการจดั การการเรียนรู้ ขอ้ 10. การทําบัญชชี าวบา้ นเหมาะสมกบั คนกลมุ่ ใด ก. นักธุรกิจ ข. เกษตรกร ค. นักศึกษา ง. ทุกกล่มุ อาชีพ
50 เฉลยทา้ ยบทท่ี 3 แนวตอบกิจกรรมตอนที่ 1 การให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีข้ึนไม่ประสบปัญหาเรื่องการใช้จ่ายเงิน การใช้จ่ายเงินท่ีดีก็ควรท่ี จะจัดทําแผนการใช้เงินและจัดทํางบประมาณของตนเองและครอบครัวอย่างเป็นระบบบัญชีครัวเรือนถือเป็น ส่วนสําคญั ในการปฏิบัตติ ามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลัก 3 ข้อคือ การพอประมาณ ถ้ารู้รายรับรายจ่าย ก็จะใช้แบบพอประมาณ แต่ มีเหตุผล รู้ว่ารายจ่ายใดจําเป็นไม่จําเป็น และเม่ือเหลือจากใช้จ่ายก็เก็บออม น่ัน คอื ภูมคิ ุ้มกนั ทเี่ อาไว้คมุ้ กนั ตัวเราและครอบครัว บญั ชคี รัวเรือนสามารถจัดไดห้ มด จึงนับวา่ มีประโยชน์มาก แนวการตอบกจิ กรรมตอนที่ 2 การจดบันทึก ข้อมูลเก่ียวกับเงื่อนไขปัจจัยในการดํารงชีวิตของตัวเอง และภายในครอบครัว ชุมชน รวมถงึ ประเทศ ข้อมูลท่ีไดจ้ ากการบันทึกจะเป็นตัวบ่งช้ีอดีตปัจจุบันและอนาคตของชีวิตของตัวเอง สามารถนํา ข้อมูลอดีตมาบอกปัจจุบันและอนาคตได้ ข้อมูลท่ีได้ ท่ีบันทึกไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนชีวิตและ กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ในครอบครวั แนวการตอบกิจกรรมตอนท่ี 3 การทําบัญชีรายรับรายจ่ายครอบครัวก็คือ เคร่ืองมือให้เราได้รู้ท้ังนํ้าไหลเข้าไหลออก รู้ปริมาณนํ้าท่ี สะสมอยู่โอ่ง และรู้ว่าเราควรมีน้ําสะสมไว้เท่าใด จึงจะเกิดความสมดุลพอดีพอเพียงความสมดุลดีพอเพียง จะ ทําใหเ้ กิดความอยเู่ ย็นเปน็ สขุ ความสุขโต่งไปข้างใดข้างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นจนเกิน รวยเกิน การหาเกิน – เสพเกิน ล้วนสร้างความอยู่ร้อนนอนทกุ ข์ทั้งต่อตนเอง ต่อสิง่ แวดลอ้ มและตอ่ ผอู้ ื่น แนวการตอบกิจกรรมตอนที่ 4 1.เพอ่ื จดบนั ทึกรายการการดําเนนิ กจิ การเรยี งลําดับกอ่ นหลงั 2.งา่ ยต่อการตรวจสอบ 3.เปน็ การควบคมุ รักษาทรัพยส์ นิ ของกิจการ 4.ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดในการดาํ เนินกจิ การ 5.สามารถปรับปรงุ แกไ้ ขทนั 6.ทําใหท้ ราบฐานะของกจิ การ 7.เปน็ ประโยชน์ในการตรวจสอบผลกําไร-ขาดทุนไดท้ ุกเวลา เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี น 1. ง 2. ง 3. ง 4. ง 5. ง 6. ค 7. ก 8. ก 9. ก 10. ง
51 บทที่ 4 การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ----------------------------------------------------------------------------------------------------
52 แผนการเรยี นรปู้ ระจาํ บท บทท่ี 4 การลดรายจา่ ยเพมิ่ รายได้ สาระสาํ คญั 1. การกําหนดมาตรการควบคุมคา่ ใชจ้ า่ ย เพ่ือใหม้ ีรายได้ท่ีเพียงพอตอ่ รายจา่ ย 2. การลดรายจา่ ย โดยเร่มิ จากการสาํ รวจ และวิเคราะห์ความเปน็ ไปได้ในรายรบั รายจา่ ย 3. การลดรายจ่าย และแนวทางการลดรายจา่ ย เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาการขาดสภาพคลอ่ งในการใชจ้ า่ ยเงิน และตดั ค่าใช้จ่ายที่ไมจ่ ําเป็นลง 4. การเพิ่มรายได้ และแนวทางการเพ่ิมรายได้ เพ่อื แกไ้ ขปัญหาการขาดสภาพคลอ่ งในการใชจ้ า่ ยเงนิ หรือปัญหารายรบั ไม่เพียงพอกับรายจา่ ย 5. การวางแผนการใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมของครอบครัวต้องมีรายรับมากกว่ารายจ่ายหากพบว่า รายรับนอ้ ยกว่ารายจ่าย ต้องหาแนวทางนาํ เงินมาใชจ้ า่ ยให้เพียงพอ ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั 1. สามารถกําหนดมาตรการควบคมุ คา่ ใช้จา่ ยของตนเองและครัวเรอื นใหส้ มดุลกับรายรบั 2. สามารถลดรายจา่ ยและเพิม่ รายได้ ขอบข่ายเน้อื หา 1. แนวคดิ การกาํ หนดมาตรการควบคมุ ค่าใช้จ่าย 2. การลดรายจ่าย (การวิเคราะหร์ ายรบั รายจา่ ยและแนวทางการลดรายจา่ ย) 3. การเพม่ิ รายได้และแนวทางการเพมิ่ รายได้ 4. การวางแผนการลดรายจ่ายและเพ่ิมรายได้ของตนเองและครอบครัว กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ศึกษาเอกสารการสอน 3. ทํากจิ กรรมตามทีก่ ําหนดไวใ้ นเอกสาร 4. ทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. เอกสารการสอน 2. แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ประเมนิ ผล 1. ประเมินผลตนเองก่อนเรียนและหลังเรยี น
53 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คําชี้แจง ใหท้ าํ เครื่องหมาย X ทบั ตวั อกั ษรหน้าคําตอบที่ถูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว 1. การวางแผนการใชจ้ า่ ยทด่ี ีคอื การทําอยา่ งไร ก. ประดิษฐ์ของเลน่ ของใชเ้ อง ข. ซอื้ ของเล่นเปน็ ประจํา ค. ซ้ือเสือ้ ผ้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ ง. อดอาหารเพอ่ื ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย 2. การบนั ทกึ รายรับรายจา่ ยมปี ระโยชนอ์ ย่างไร ก. ทําใหร้ ้จู ักวางแผนในการใช้เงนิ ข. ทําให้มคี วามรอบคอบในการใชจ้ ่าย ค. ทําให้ควบคุมการใชจ้ า่ ยได้ ง. ถูกทงั้ ก ข และ ค 3. คา่ ใช้จ่ายที่ไมจ่ ําเป็นแกก่ ารดาํ รงชีวิตคืออะไร ก. ค่าอาหาร ข. คา่ ยารักษาโรค ค. ค่าเล่าเรียน ง. ค่าของเลน่ 4. ถ้ามรี ายจ่ายเกนิ รายรับเราควรทาํ อยา่ งไร ก. ใช้จ่ายอย่างประหยัดมากข้นึ ข. ตดั รายจ่ายท่ไี ม่จําเปน็ ออก ค. หารายได้เพิม่ ขนึ้ ง. ถูกทงั้ ก ข และ ค 5. การจดบนั ทึกรายรบั รายจ่ายมปี ระโยชนอ์ ย่างไร ก. ฝึกนสิ ยั ใหเ้ ปน็ คนละเอียดรอบคอบ ข. ฝกึ นสิ ยั ใหเ้ ป็นคนตรงต่อเวลา ค. ฝกึ นสิ ยั ให้เปน็ คนมมี านะบากบ่นั ง. ฝกึ นิสยั ใหเ้ ปน็ คนมคี วามอดทนอดกล้ัน 6. การใช้จ่ายในข้อใดเปรียบได้กับคําวา่ “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” ก. นําเงินไปซ้ือของเลน่ ข. ซอ้ื เฉพาะของทีจ่ ําเป็น ค. กินอาหารทุกอยา่ งทีอ่ ยากกิน ง. ขอเงินพอ่ แมเ่ พม่ิ บอกวา่ ไมพ่ อใช้
54 7. การฝากเงินโดยเป็นสมาชิกถือหนุ้ เป็นการฝากแบบใด ก. ออมทรัพย์ ข. สหกรณ์ ค. ประกันชวี ติ ง. กองทนุ สาํ รอง 8. ถ้ามีเงนิ เหลือใชค้ วรเกบ็ ไวท้ ใ่ี ดจึงจะปลอดภยั ท่สี ดุ ก. ฝากเงนิ กับธนาคาร ข. ฝากเงนิ กับสหกรณอ์ อมทรัพย์ ค. ฝากเงนิ กบั กองทนุ หม่บู า้ น ง. ฝากเงินแบบการประกนั ชีวิต 9. การกระทําใดบง่ บอกลกั ษณะนิสัยประหยัด ก. ซ้อื ของที่อยากได้ ข. ใช้เฉพาะของยห่ี ้อดัง ๆ ค. เก็บเงนิ ใสก่ ระปุกออมสิน ง. ขอเงนิ พ่อแมใ่ ชจ้ ่าย 10. บุคคลใดใชจ้ ่ายเงินแบบไม่จําเปน็ ตอ่ การดํารงชวี ิต ก. เอ นาํ เงินไปซือ้ อาหาร ข. เจ นาํ เงนิ ไปซ้ือของเล่น ค. จี นาํ เงินไปฝากธนาคาร ง. ตา นาํ เงินไปซือ้ หนงั สอื
55 ตอนที่ 1 แนวคดิ การกาํ หนดมาตรการควบคมุ คา่ ใชจ้ า่ ย สงิ่ ทย่ี ากท่สี ดุ เรอื่ งหนึง่ ของชีวิตก็คือ “การมีรายได้ให้พอรายจ่ายในแต่ละเดือน” หลายคนท่ีต้องหาเช้า กินคํ่า เงินท่ีได้มาก็มักจะไม่ชนเดือนต่อไป หรือกระทั่งสัปดาห์ต่อไป ต้องกระเบียดกระเสียดไปกู้หนี้ยืมสินมา เพ่อื ให้สามารถผา่ นแตล่ ะเดือนไปได้ทีร่ ายไดไ้ ม่พอจ่ายนั้น คนคิดว่าเป็นเพราะรายได้ของเราน้อยไป ไม่เพียงพอ ตอ่ การใช้จา่ ย แตค่ วามจรงิ ถา้ ลองพิจารณาดดู ีๆ จะพบว่าไม่ใช่ เพราะว่าตอนที่มีรายได้ 6,000 ก็บอกน้อยไปยัง ไม่พอ คร้นั มรี ายไดเ้ ป็น 8,000 กไ็ ม่พอ 10,000 กย็ งั ไม่พอ ท่เี ปน็ เชน่ นี้ เพราะปัญหาส่วนใหญ่มาจากการท่ีเราใช้จ่ายง่ายเกินไปประเภทเห็นอะไรก็อยากได้ อยาก ซ้ือ อยากเป็นเจ้าของ คร้ันพอมีเงินมากข้ึน น่าจะเริ่มพอกับรายจ่ายเดิม แต่กลับใช้จ่ายซ้ือของมากตามไปด้วย เรยี กว่า ย่ิงเร่ิมมีเครดิต กย็ ิ่งรูดปร๊ืด ไม่น่าแปลกใจ รายจ่ายก็เพิ่มเท่าทวีคูณ เร็วว่ารายรับ เงินเดือนเพิ่มเท่าไหร่ ก็ยังไมพ่ อ เงินท่ีไดม้ าในแต่ละเดอื นหายไปไหน เราก็มักจะตอบไม่ได้ เพราะว่าเราก็มักจะจ่าย จ่าย จ่าย ออกไป โดยไม่ทันเฉลียวใจว่า เราจ่ายอะไรไปบ้าง จะไปเฉลียวใจได้ทันอย่างไร ก็ความอยากมันไม่มีสิ้นสุดมีหน่ึงแล้ว ก็ อยากมีให้มากขึ้น มีให้หรูขึ้น แนวทางที่จะใช้แก้ไข “ปัญหารายได้ไม่พอจ่าย” และ “การใช้จ่ายไปอย่างไม่มี สติ” เพื่อนําไปสู่อิสรภาพทางการเงินของแต่ละคน จึงอยู่ท่ีจะรู้จักบังคับตนเองให้เริ่มหัดทํา “บัญชีครัวเรือน” ซ่ึงมีอยู่ 3 ขนั้ ขน้ั แรก จดรายได้และรายจ่าย เพือ่ ดวู า่ ในแตล่ ะเดือนเราได้เงนิ มาเทา่ ไหร่ และใช้ไปเทา่ ไหร่ ขั้นท่ีสอง วิเคราะห์ว่า ท่ีใช้จ่ายในแต่ละเดือน จ่ายไปกับอะไรบ้าง แยกเป็นรายจ่ายท่ีจําเป็น กับ รายจา่ ยทีฟ่ ่มุ เฟือย ขั้นที่สาม ครั้นเห็นว่าใช้จ่ายอะไรไป ก็ให้เริ่มค่อยๆ ตัดทอนรายจ่ายท่ีไม่จําเป็นในชีวิตออกไปทีละ อย่าง มีชายคนหน่ึงพูดบนเวทีว่า สมัยก่อนรายได้เขาไม่พอจ่าย ไม่รู้จะทําอย่างไร เลยเร่ิมหัดทําบัญชีรายรับ รายจ่ายประจําเดือนหรือบัญชีครัวเรือน เม่ือทําไปได้สักพักพบว่า เขาจะต้องไปทานอาหารญ่ีปุ่นสัปดาห์ละคร้ัง เพราะชอบมาก ตกเปน็ เงนิ ประมาณ 700 บาทต่อสปั ดาห์ เดอื นหนึง่ กป็ ระมาณ 2,800 บาท ก็เพราะเม่อื ใช้จ่าย ง่ายเช่นนี้ จึงไม่แปลกใจว่าทําไมเงินที่เขาได้มาในแต่ละเดือนจึงไม่เคยพอ เม่ือได้รู้ว่าตัวเองได้จ่ายไปกับ คา่ อาหารญ่ีปุน่ มากขนาดน้ี เขาจงึ บังคับตนเองใหก้ ินอาหารญ่ีปุ่นเพียงเดือนละครั้ง ทําให้ลดรายจ่ายได้เดือนละ 2,100 บาท หลังจากนน้ั รายจ่ายรายรบั กส็ มดุลกนั ขน้ึ อยไู่ ดด้ ีขน้ึ ไมล่ ําบากอกี ต่อไป มีคนเคยเปรียบเทียบในเร่ืองนี้ไว้อย่างน่าสนใจ ปัญหาการเงินของทุกคนก็เหมือน “โอ่งร่ัว” มีรั่วอยู่ หลายรู ทั้งเร่ืองหวย การพนัน ดอกเบ้ีย เหล้า บุหร่ี ยารักษาโรค อาหาร ของใช้ เส้ือผ้า ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง (สําหรับเกษตรกร) ค่าเทอมลูก (ยิ่งโรงเรียนแพง รายจ่ายก็ยิ่งมาก) ซ่ึงเราจ้องถามตนเองว่า “ถ้าโอ่งเรารั่ว จะ เลือกหาน้าํ ใส่โอ่ง หรือจะอุดรูร่ัวของโอง่ ก่อน” วธิ ปี ระหยดั เงนิ ให้มเี หลอื เกบ็ เศรษฐกิจตก รายได้หด แต่ขา้ วของกลบั มแี ต่แพงขึ้นทกุ วัน จะใชจ้ ่ายอย่างสบายมอื อย่างทีเ่ คยคงไมไ่ ด้ ปฏิบัตกิ ารรดั เข็มขัดจงึ ถูกนํามาใช้กนั แทบทกุ ครัวเรือน วธิ ีประหยัดเงินในกระเป๋าให้มีเงนิ เหลอื เก็บดังน้ี 1. ลดขอบเขตของงานเล้ยี งฉลองให้เลก็ ลง
56 ในชวี ิตอาจต้องมีการจัดงานใหญ่โตสําหรบั วันสาํ คญั ของทกุ ๆปี เชน่ งานแต่งงาน งานวันเกดิ งาน วนั ครบรอบต่างๆ เม่อื กอ่ นอาจจะจดั งานใหญโ่ ตเตม็ ท่ี แตต่ อนนี้อาจต้องคดิ ใหม่ จัดงานเลก็ ๆ แตอ่ บอ่นุ กส็ รา้ ง ความประทับใจและน่าจดจํามริ ูล้ ืมได้เช่นกนั 2. วางแผนค่าใช้จา่ ยรายเดือนและรายปี สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โดยต้องทําบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้รู้ว่าในแต่ละเดือนคุณมี รายรับและรายจ่ายเฉลี่ยเท่าไหร่ หักรายจ่ายประจําเดือนแล้วคุณยังมีเงินเหลือเก็บหรือไม่ เพ่ือที่จะหาทางลด ค่าใช้จ่ายฟมุ่ เฟือยลงได้ 3. ใชจ้ า่ ยอย่าใหเ้ กินงบ เมื่อวางแผนการเงินได้แล้วว่าในแต่ละเดือนจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร และเท่าไหร่ ก็ควรจะปฏิบัติ ตามทว่ี างแผน เพื่อควบคมุ ไม่ให้เกินงบที่ต้ังไว้ อย่าลืมเก็บในเสร็จรับเงินหรือจดบันทึกรายจ่ายทุกวัน จะได้รู้ตัว อยเู่ สมอว่าใช้จา่ ยไปมากน้อยเพียงใดแล้ว 4. ใชส้ ินค้าและบริการท่ถี ูกกว่าเดมิ อีกวิธีหนึ่งคือการเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการที่เคยใช้อยู่ประจํากับแพ็คเกจอื่น หรือเจ้า อื่นๆ เช่น โปรโมช่ันโทรศัพท์มือถือ มีให้เลือกมากมายซึ่งให้ความคุ้มค่าได้มากกว่า ประกันรถยนต์อาจเปลี่ยน จากประกนั ชัน้ 1 เปน็ ชั้น 3 หากไม่เคยขบั รถชนใครเลย หรือถ้าบา้ นติดจานดาวเทียมอาจเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจที่ มีช่องน้อยลง ถ้าไม่ได้ดูทีวีบ่อยนัก ก็ช่วยประหยัดได้อีกทาง การตัดค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้เม่ือมองใน ระยะเวลายาวกช็ ่วยใหป้ ระหยัดไดไ้ มน่ ้อย 5. อยา่ ซือ้ ของเพียงเพราะกําลังลดราคา ควรคดิ ใหร้ อบคอบว่า ส่งิ น้นั มีความจาํ เปน็ แค่ไหน หากมนั ไมจ่ ําเป็นจรงิ ๆ ทอ่ งไว้ “เกบ็ เงินไวก้ อ่ น ดีกว่า” 6. ตดิ ตามขา่ วสารการเงินเปน็ ประจาํ เมอื่ หูกวา้ งตากว้างอาจไดช้ อ่ งทางในการเกบ็ ออมเงนิ ท่คี มุ้ คา่ มากกว่าเดิม เช่น การลงทนุ ท่มี ีความ เสย่ี งตา่ํ หรือการฝากเงนิ ระยะสน้ั ท่ีได้ดอกเบ้ียสงู เปน็ ตน้ 7. ลดสง่ิ อํานวยความสะดวกตา่ งๆ ลงบา้ ง จะมเี งินเก็บเพ่ิมข้ึน และเม่ือคณุ มีเงินเหลอื เก็บ กส็ ามารถนาํ เงินสว่ นหนึ่งเอาไปลงทุนเพอื่ ใหม้ ัน งอกเงยเพิ่มขนึ้ ไดอ้ ีก ถงึ ตอนนว้ี กิ ฤตแต่ไหนกไ็ ม่กลวั อยู่แลว้ กจิ กรรม จงอธบิ ายแนวทางการลดรายจ่าย และแนวทางการเพมิ่ รายได้มาพอสังเขป ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
57 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ตอนท่ี 2 การลดรายจา่ ย เร่อื งที่ 2.1 การวิเคราะหร์ ายรบั -รายจ่าย เร่ืองของรายรับ รายจ่าย มักถูกกล่าวถึงเม่ือพูดเก่ียวกับการจัดทําบัญชี การปลูกฝังให้เด็กๆรู้จัก การ เก็บเงิน การออมเงิน การใช้จ่ายเงิน และการลงทุน เป็นสิ่งท่ีสําคัญมาก ไม่เฉพาะแต่ในสภาวะเศรษฐกิจท่ี ยากลาํ บากแมใ้ นยามที่เศรษฐกิจมีความคล่องตวั เราจาํ เปน็ ตอ้ งระลึกถึงรายรับ-รายจา่ ยนอ้ี ยเู่ สมอๆ หากแผนผังทางความคิดคุณมีแต่รายการส่ิงของที่คุณอยากจะซื้อ สําหรับคนที่คําว่าเงินไม่ใช่อุปสรรค คงไม่เป็นเร่อื งที่เหลอื บา่ กวา่ แรง แต่หากคณุ เป็นคนหนึ่งท่อี ยู่ในสภาวะใชจ้ ่ายเงินเกินฐานะ หรือเรียกว่ารายจ่าย มขี นาดเท่าๆหรอื ใหญก่ ว่ารายได้แล้วหละก็ ต่อไปน้เี ปน็ สงิ่ ที่คุณจะต้องเปลี่ยนแปลง เร่ิมต้นสาํ รวจ โดยท่ัวๆไปรายรับของคนส่วนใหญ่ จะมาในรูปแบบของเงินเดือน ฉะน้ัน อาจตรวจสอบว่าเงินเดือนมี เท่าไหร่ มีรายได้ทางอื่นอีกหรือไม่ มีดอกผลงอกเงยจากกองทรัพย์สิน คิดคํานวณเป็นรายเดือนได้เดือนละ เท่าไหร่ แล้วจดลงไวใ้ นสมุดบันทึก รายจ่าย แยกเป็นรายจ่ายประจํา และรายจ่าย(ไม่ประจํา) โดยจํานวนเงินที่จําเป็นต้องจ่ายแน่ๆในแต่ ละเดือน เรียกวา่ รายจ่ายประจาํ เชน่ คา่ นาํ้ คา่ ไฟ คา่ อาหาร โดยเฉลย่ี รายวัน ค่าเดินทาง ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ รายจา่ ยเพอื่ ครอบครัว รายจ่ายข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ฯลฯ ส่วนรายจ่าย (ไม่ประจํา) เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าเทอมบตุ ร อาจถกู นํามารวมไวก้ ับรายจ่ายประจาํ วันได้ ดว้ ยวิธีการเฉลีย่ รายเดือน (หาร 12) เปน็ ตน้ วเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปได้ เมื่อยอดรายรับรวม และยอดรายจ่ายรวม นํารายรับมาหักรายจ่าย จะทราบว่ามีเงินเก็บ หรือใช้ จ่ายเงินแบบเดือนชนเดือน และในบางครั้งอาจมีหน้ีเพ่ิมพูนมากขึ้น ซึ่งถ้าหากเลือกได้ ย่อมเลือกให้บัญชี ทรพั ยส์ ินเป็นบวกมากๆ คงไมม่ ีใครตอ้ งการใช้จ่ายเงนิ แบบชักหนา้ ไม่ถงึ หลัง หรือเปน็ หนีเ้ พ่มิ พนู
58 เรื่องท่ี 2.2 แนวทางการลดรายจ่าย การแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องในการใชจ้ ่ายเงนิ หรือปัญหารายรับไมเ่ พยี งพอกบั รายจ่ายนัน้ มี แนวทางดงั น้ี 1. การตัดรายจา่ ยท่ีไมจ่ ําเปน็ ออก เพอื่ ลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครวั เชน่ รายจา่ ยเก่ียวกบั การพนัน สิง่ เสพติดของมึนเมา รายจ่ายฟ่มุ เฟือย เป็นตน้ เป็นการสรา้ งนิสัยมิใหใ้ ช้จา่ ยฟุ่มเฟอื ย 2. การลดรายจ่ายที่จําเป็นลง เพ่ือสร้างนิสัยการประหยัด อดออม การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัด อย่างคุ้มค่า เช่น การปลูกผัก ผลไม้ไว้รับประทานเอง เพื่อช่วยลดค่าอาหาร และค่าเดินทางไปตลาด อีกท้ังทํา ให้สุขภาพดีอีกด้วย ลดการใช้นํ้ามันเชื้อเพลิง แล้วหันมาออกกําลังกายโดยการป่ันจักรยาน หรือ การเดิน การ ว่ิงแทนการขับรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ เป็นต้น ความต้องการของตลาดเป็นหลัก มิใช่ความต้องการของผู้ จําหน่าย เพราะบางคนไม่ชอบขายสินค้า A แต่เลือกที่จะขายสินค้า B เพราะตนเองช่ืนชอบ แต่กลับกลายเป็น ว่าคนต้องการซื้อสิ้นค้า A มากกว่า น่ีเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทําธุรกิจที่ตนเองชื่นชอบ แต่ไม่ประสบ ความสําเร็จดา้ นการตลาด เป็นตน้ ส่ิงทก่ี ลา่ วถึงครา่ วๆ เปน็ รูปแบบของการวางแผนในเร่ืองของรายรับ-รายจ่าย จะวา่ ไปเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว แต่หลายคนไม่ตระหนัก สภาพเศรษฐกิจของปัจเจกบุคคล ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิต หรืออาจ หมายถึง การมีคุณภาพชีวิตท่ีดี คนท่ีไม่มีเงินจะพบว่าเงินเริ่มมีความสําคัญก็ต่อเมื่อเขามีความจําเป็นที่จะต้อง “ใช้เงิน” เช่น มีลูกต้องการส่งลูกเรียน, พ่อแม่เจ็บป่วย ต้องการให้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลที่ดีๆ, มีแฟน ต้องการพาแฟนไปเที่ยว , ฝันหวานได้น่ันอยากได้นี่ ฯลฯ ส่วนคนที่มีเงิน (ด้วยการหาจากนํ้าพักน้ําแรงของ ตนเอง) จะทราบและเข้าใจเร่ืองของรายรับ-รายจ่ายเป็นอย่างดี พวกเขาอาจไม่ต้องจดบันทึกไว้ในสมุด แต่ เรื่องราวเหล่านี้จะฝังอยู่ในสมองของพวกเขา ทําให้คนรวย รวยยิ่งขึ้น คนจน จนซ้ําซาก เพราะอาจสับสนและ นําไปปะปนกับเร่ืองของความพอเพียง ว่าเป็นเรื่องของการ “ไม่ต้อง” มีเงินมากไม่ต้องใช้ความพยายามในการ หาเงิน ก็อาจเป็นได้ หลายๆคนจึงยอมท่ีจะผลักรายรับท่ีตนเองมีอยู่ออกไป และเพ่ิมรายจ่ายให้มากขึ้น จึงจน ซาํ้ ซ้อนโดยตลอด (Always Poor) สง่ิ ท่ตี ้องรู้และเขา้ ใจคือ ความพอเพียง ไม่ไดห้ มายความว่า ไม่ตอ้ งมีเงนิ มาก หากความคิดท่วี ่า “ไม่ต้อง มีเงินมาก” ฝังลึกในความคิด ส่ิงที่จะตอบสนองออกมา ก็คือการขาดสติในการใช้จ่ายเงิน ดังน้ันต้องต้องระวัง ทัศนคติท่ีมีต่อความพอเพียงด้วย ความพอเพียง คือพอเพียงที่พฤติกรรม ไม่โลภมาก อยากมีอยากได้ “เกิน” ความจําเป็น และไม่ใช้วิธีท่ีเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น หรือทําในสิ่งที่ผิดกฎหมาย และควรแยกออกจากการทํา ความเขา้ ใจเร่อื งรายรับ-รายจา่ ยน้ี มิเช่นน้ันก็จะเกิดความสับสนว่าการมีเงิน เป็นเรื่องของความโลภ หรือสิ่งท่ี ไม่ดี วิธคี วบคุมการใช้จ่าย นอกจากแรงกดดันทางการตลาดแลว้ ความรสู้ ึกและนิสยั สว่ นตวั ก็อาจทาํ ใหเ้ รากลายเปน็ คนท่ีใช้จ่าย เกนิ ตัว วิธีการควบคมุ การใช้จา่ ยสามารถทาํ ไดด้ ังนี้ 1. อย่าซือ้ เพราะอารมณ์ หากมคี วามรู้สึกต่ืนเต้นกับการจับจ่ายซ้ือของและหาสินค้าลดราคา น่ันคือ ส่ิงที่แสดงถึงการซื้อของเพราะอารมณ์ วิธีแก้คือ อย่ารีบซื้อและให้คิดตามความเป็นจริง ว่าการซ้ือของช้ินน้ัน
59 จะมผี ลอยา่ งไรในระยะยาว และคุณจะดูแลรักษาได้อย่างไร หยุดคิดสักนิดและคิดถึงการเสียใจภายหลังเพราะ ซื้อของดว้ ยอารมณ์ 2. อย่าซ้ือของแก้เครียด การจับจ่ายซื้อของอาจช่วยให้ผู้ซ้ือมีความสุข มีอารมณ์ดีขึ้นได้สักพักหนึ่ง แต่เมื่อความเครียดกลับมาอีก อาจรู้สึกว่าต้องซ้ือให้หนักขึ้นเพ่ือบรรเทาความเครียด แทนที่จะแก้เครียดด้วย การซ้ือ อาจจะหาทางคลายเครียดโดยการพูดคุยกับเพื่อนที่เข้าใจปัญหาของคุณหรือทํากิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น เดนิ ออกกําลังกายแทน 3. อย่าซ้ือของเป็นงานอดิเรก ห้างสรรพสินค้าต่างๆพยายามตกแต่งอย่างหรูหราเพื่อให้การจับจ่าย กลายเป็นกิจกรรมท่ีสนุกสนาน บางครั้งการเดินห้างหรือเล่นอินเทอร์เน็ตเพียงเพ่ือผ่อนคลายอารมณ์ อาจจะ เป็นการกระตุ้นให้คุณอยากซื้อ ดังน้ัน จงไปซื้อของเฉพาะเม่ือมีรายการของท่ีจะซ้ืออยู่ในใจแล้วจริงๆ และไม่ ซอื้ นอกรายการโดยเด็ดขาด. 4. เลือกเพื่อนให้ดี รูปแบบชีวิตของเพื่อนและเร่ืองท่ีพูดคุยมีอิทธิพลมากต่อความคิด หากการจ่าย เกนิ ตัวเพ่ือจะมขี องทกุ อยา่ งทดั เทียมเพือ่ นฝูง ควรเลือกคบเพ่อื นทไ่ี มม่ นี สิ ัยฟ้งุ เฟอ้ นิยมวัตถุหรือพูดคุยแต่เรื่อง เงินๆทองๆ 5. ใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาด บัตรเครดิตทําให้ซื้อของได้ง่ายๆ โดยไม่คํานึงถึงผลท่ีตามมา ควรจะ พยายามจ่ายหนี้บัตรเครดิตเต็มจํานวนทุกเดือน เพ่ือไม่ให้มียอดค้างชําระ และต้องรู้ว่าบัตรเครดิตมีอัตรา ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ เท่าไร เปรียบเทียบข้อเสนอของแต่ละธนาคาร และเลือกใช้บัตรท่ีเหมาะกับ รายได้ ระวังบตั รพรีเมียมทม่ี ดี อกเบยี้ สงู และใหส้ ิทธปิ ระโยชนท์ ่เี กนิ ความจําเป็น แทนท่ีจะจ่ายทุกอย่างด้วย บตั รเครดติ จงเก็บบตั รไว้ใช้เฉพาะเม่ือตอ้ งซื้อของราคาสงู แล้วซื้อของทัว่ ไปด้วยเงินสด 6. รู้สถานะทางการเงินของตัวเอง เป็นเร่ืองง่ายท่ีจะใช้จ่ายเกินตัว ถ้าไม่รู้สถานะทางการเงินของ ตนเอง การทําบันทึกการใช้จ่ายเป็นประจํา เพ่ือจะรู้จํานวนเงินทั้งหมดที่มี วางแผนการใช้จ่ายแต่ละเดือนตาม ความเป็นจริง โดยคํานึงถึงรายได้และค่าใช้จ่ายในช่วงที่ผ่านมา ตรวจเช็ครายจ่ายและใบเสร็จต่างๆเพ่ือดูว่า การใชจ้ ่ายเปน็ ไปตามแผนท่วี างไวห้ รอื ไม่ ปรกึ ษาเพื่อนท่ไี ว้ใจเมือ่ มขี ้อสงสยั หรือปัญหาทางการเงิน. กิจกรรม จงบอกวิธีการควบคุมคา่ ใช้จา่ ยมาพอสังเขป --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
60 ตอนที่ 3 การเพม่ิ รายได้และแนวทางการเพ่ิมรายได้ รายได้ หมายถึง ผลตอบแทนท่กี จิ การไดร้ บั จากการขายสนิ ค้าหรือบรกิ ารตามปกตขิ องกจิ การ รวมท้ัง ผลตอบแทนอื่นๆ ท่ีไมไ่ ดเ้ กิดจากการดาํ เนินงานตามปกติ รายไดแ้ บง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รายได้จากการขาย (Sale revenue) หมายถึง รายได้ที่เกิดจากการขายสินค้าหรือบริการอันเป็น รายได้จากการดําเนินงานตาม ปกติ เช่น กิจการซื้อขายสินค้า รายได้ของกิจการ คือ รายได้จากการขายสินค้า ส่วนกจิ การให้บรกิ าร เชน่ ซอ่ มเคร่ืองไฟฟ้า รายไดข้ องกจิ การ คอื รายไดค้ า่ ซ่อม 2. รายได้อื่น (Other incomes) หมายถึง รายได้ท่ีมิได้เกิดจากการดําเนินงานตามปกติของกิจการซึ่ง เปน็ รายไดท้ ี่ไม่ใช่ รายได้จากการขายสนิ คา้ หรือบรกิ ารนน่ั เอง ในสภาวะเศรษฐกจิ ฝืดเคอื งในปจั จุบัน เราสามารถหารายได้เพิม่ จากกจิ กรรมปกติในชวี ติ ประจาํ วัน ดงั น้ี 1. สรา้ งตารางข้นั บนั ได อัตราดอกเบ้ียเงนิ ฝาก ของแตล่ ะธนาคาร แล้วเลอื กธนาคาร และลาํ ดบั ขั้นท่ี ให้อัตราดอกเบ้ยี เงนิ ฝากสูงทส่ี ดุ 2. เปล่ียนบญั ชเี งินฝาก ไปเปน็ แบบท่ีใหด้ อกเบ้ยี สงู กว่าเงินฝากออมทรพั ย์ 3 ยมื เงินจากเครือขา่ ยทางสังคม เชน่ ญาติ หรอื เพื่อนฝูง แทนเงินกู้ 4. ขายหนังสอื และตํารา ท่ีใช้แล้ว และเกบ็ ไวเ้ ฉยๆ 5. ใช้บัตรเครดิต ทมี่ ีการให้ตอบแทนเป็นการ คืนเงินสด (cash back) 6. ลงทะเบียนสมัครเปน็ สมาชิก รับการสํารวจทางการตลาด (Panel) เพอื่ รบั เงนิ สด 7. ทาํ งานพเิ ศษ เปน็ freelancing เช่น ออกแบบบ้าน แปลหนงั สือ, ฯลฯ 8. รับสว่ นลดเงินสดเมอ่ื ช้อปปิ้งออนไลน์ หรอื ห้างฯท่ีมีสว่ นลดเงนิ สด 9. เขียนบล็อก สร้างเวบ็ ไซต์ 10. เขียนบทความ เช่น เรอื่ งฟังเพลง, การดหู นงั , ฯลฯ 11. นาํ เสนอบริการพื้นฐาน เช่น, บรกิ ารพี่เลีย้ งเด็ก, แม่บา้ น, ทําสวน, ภาพวาด, ฯลฯ 12. นําเสนอบรกิ ารทม่ี ที กั ษะ เชน่ คาํ ปรกึ ษาดา้ นธรุ กิจ การพฒั นาบล็อก การออกแบบโลโก้ ฯลฯ 13. เปลยี่ นงานอดเิ รกของคุณใหเ้ ป็นรายได้ เช่น การถา่ ยภาพ, ถา่ ย video, การปลกู กลว้ ยไม้ฯลฯ 14. สง่ ชิ้นส่วน ชงิ โชค 15. ขายสินค้า ทําด้วยมือ 16. เปลย่ี นการใชจ้ า่ ยในชวี ติ ประจาํ วนั ของคุณใหเ้ ป็นเงนิ ฝากออมทรัพย์ โดยการเปน็ สมาชิสหกรณ์ 17. รับงานเป็นตวั แทนกลุ่มในการศกึ ษาการตลาด (focus group) 18. รบั งานเป็นนกั ช้อปปรศิ นา (Mystery shopping) 19. ซือ้ สินคา้ จาํ นวนมาก และไปขายปลีกบนเว็ป Amazon 20. ขายสินค้าท่ไี ม่ไดใ้ ช้บนอเี บย์
61 กิจกรรม ให้นักศกึ ษายกตัวอย่างแนวทางการสร้างรายได้มา 7 ข้อ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
62 ตอนที่ 4 การวางแผนการลดรายจา่ ยและเพิม่ รายไดข้ องตนเองและครอบครัว หลักการใช้ชีวิตแบบพอเพียงท่ีทําได้ง่ายๆ คือการรู้จักบริหารการเงินของตัวเอง มีน้อย ใช้น้อย และ รู้จกั พอ อกี ทั้งตอ้ งรจู้ ักมวี นิ ัยในการใช้จา่ ยเพื่อชีวิตและอนาคตอนั มน่ั คง เพ่มิ รายได้ ลดรายจา่ ย การเพ่ิมรายได้สามารถทําได้หลายวิธี เช่น การลงทุนทํามาค้าขาย หาอาชีพเสริมเพื่อเพ่ิมรายได้ โดย อาจต้องลงท้ังทุน ลงทั้งแรง หรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพ่ือเป้าหมายในการเพ่ิม เงินเดือน หรือหาโอกาส ก้าวหน้าขึ้นในอนาคต โดยรายได้ในแต่ละเดือนของครอบครัว ควรจัดสรรใช้จ่ายอย่างเหมาะสม เช่น ค่าท่ีอยู่ อาศัย ไม่ควรให้มีการผ่อนชําระเกิน 30% ของรายได้ครอบครัว หรือถ้าจะก่อหน้ีเงินกู้เพื่อซ้ือรถยนต์ ก็ไม่ควร ให้มีภาระการผ่อนชําระเกิน 15% ของรายได้ครอบครัว นอกจากน้ัน ค่าอาหารแบ่งใช้ไป 25% ค่าเน้ือผ้าและ ค่าเดินทาง 10% ค่าสาธารณูปโภค 5% ค่ารักษาพยาบาล 5% และท่ีสําคัญอย่าลืมเก็บเงินออมหรือเงินทุน 5- 10% ของรายได้ต่อครอบครัว ฉลาดซอ้ื ฉลาดใช้ การ ลดรายจ่าย คือการฉลาดใช้สิ่งของต่างๆ รอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องฉลาดซื้อด้วย เลอื กซื้อแตส่ ินคา้ ทค่ี ุม้ คา่ คมุ้ ประโยชน์ และฉลาดใชด้ ้วยการรกั ษาสงิ่ ของต่างๆ ให้คงอยูใ่ นสภาพทเ่ี หมาะกบั การ ใช้งานได้นานๆ รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายจําพวก ค่านํ้า ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ที่สําคัญคือการฉลาดใช้ชีวิต ดแู ลสุขภาพให้แขง็ แรง สมบูรณ์ เพราะการเจ็บปว่ ย ย่อมนําไปส่คู ่าใช้จา่ ยท่ีไม่จําเปน็ วางแผนเกษยี ณอายุ เพราะ เราไม่ได้มีแรงทํางานไปตลอดชีวิต เม่ือถึงจุดหน่ึงที่ต้องหยุดทํางาน ดังนั้น การวางแผนการเงิน ในชว่ งเกษียณอายกุ ารทํางานจงึ เป็นสง่ิ ทไี่ ม่ควรมองข้าม การหาระยะเวลาแห่งช่วงชีวิต ปัจจุบันน้ีมนุษย์มีอายุ เฉลย่ี อย่ไู ดถ้ ึง 72-75 ปี และด้วยเทคโนโลยที างการแพทย์ปจั จบุ นั ทําใหม้ นุษย์มีอายุนานข้ึน ซึ่งอาจบวกเพ่ิมได้ ถึง 20 ปี จากค่าเฉลี่ยน้ัน สิ่งท่ีควรคํานึงในการเก็บเงินเพ่ืออายุช่วงเกษียณคือระดับเงินเฟ้อ ท่ีมีแนวโน้มหรือ คาดว่าน่าจะเป็นไปในช่วงเวลาของการเกษียณอายุ ซึ่งอาจทําให้เงินออมที่คุณหามาด้วยความยากลําบากในแต่ ละปี ด้อยค่าลงอย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้น เราต้องการเงินประมาณ 70-75% ของ รายได้ก่อนการเกษียณอายุ เพ่ือเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายยามเกษียณอายุ โดยเฉพาะ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพที่จะเพ่ิมมากขึ้นเม่ือเราแก่ตัวลง โดยจํานวนเงินนีอ้ าจแตกตา่ งกนั ไป ข้นึ อย่กู ับวิถีหรอื ไลฟ์สไตลข์ องแต่ละคน บันทึกคา่ ใช้จ่าย เคย คิดบ้างไหม ว่าทําไมเงินท่ีหามาทั้งเดือนหมดไปอย่างรวดเร็ว สาเหตุก็คือ เพราะเราขาดความ ยับย้ังชั่งใจใช้จ่ายโดยไม่จําเป็น ขาดการวางแผนการใช้เงินที่ดี มารู้ตัวอีกทีก็ไม่มีจะจ่ายแล้ว หากอยาก ปรับเปล่ียนการใช้จ่ายให้รัดกุมกว่าเดิม วิธีง่ายท่ีสุดคือต้องบันทึกค่าใช้จ่ายทุกบาท ทุกสตางค์ ท่ีจ่ายออกไปใน แต่ละวัน หม่ันสร้างหลักฐานเตือนตัวเองให้เห็นว่าในแต่ละเดือนมีค่าใช่จ่ายอะไรบ้าง ที่จําเป็น และไม่จําเป็น เพือ่ จะได้รู้ว่าค่าใชจ้ า่ ยสงิ่ ไหนควรตัดทง้ิ ไปในเดอื นต่อไป บริหารเงินออม
63 สดุ ทา้ ยเมอื่ คณุ สามารถบริหารรายได้ และค่าใชจ้ า่ ยของคณุ อยา่ งรัดกุมแล้ว เงนิ ส่วนทคี่ ุณเก็บได้คือเงิน ออม โดยอาจนําไปฝากธนาคาร ซือ้ กรมธรรม์ประกันชีวิต หรือนาํ ไปลงทนุ เพ่ือให้ไดผ้ ลตอบแทนมากว่าเงินเฟ้อ ทเ่ี ปน็ อยู่ในปจั จุบนั หรอื จะเพ่มิ ขึน้ ในอนาคต การนาํ เงินไปฝากธนาคาร คงเปน็ วธิ บี ริหารเงนิ ออมท่ีดีอีกวิธีหนึ่ง ซ่งึ ผอู้ อมจะไดร้ ับดอกเบยี้ จากการฝากเงนิ จาํ นวนดอกเบี้ยที่ได้รับก็ขึ้นอยู่กับประเภทของการฝาก เช่น เงินฝาก ออมทรพั ย์ เงินฝากประจํา หรือเงินฝากกระแสรายวัน ผู้ออมควรเลือกประเภทเงินฝากให้เหมาะกับตัวเอง หาก ต้องการใช้เงินบ่อยครั้งต่อวัน ก็เลือกฝากเงินแบบออมทรัพย์ ซ่ึงสามารถฝาก-ถอน ได้หลายคร้ังต่อวัน ธนาคาร จะคิดอัตราดอกเบยี้ รายวัน แตก่ รณีท่ตี อ้ งการดอกเบีย้ มากกวา่ การฝากแบบออมทรัพย์ ผ้อู อมสามารถเลือกฝาก เงนิ แบบฝากประจาํ ซึ่งมรี ะยะเวลาในการฝากต่างกนั เช่น 3 เดือน 6 เดอื น 12 เดือน หรอื ฝากประจาํ รายเดือน ยกเวน้ ภาษี แต่หากต้องการใช้เช็คในการส่ังจา่ ย ก็สามารถใชบ้ รกิ ารแบบเงนิ ฝากกระแสรายวัน กลยทุ ธ์ : ลดรายจ่าย เพ่มิ รายได้ สรา้ งภูมคิ มุ้ กนั เมื่อทราบว่าเงินในกระเป๋าจะไม่พอใช้ในอนาคต หรือต้องการเงินลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้เพ่ือสร้าง ความมัน่ คงทางการเงนิ หรือที่เรยี กวา่ \"สร้างภูมคิ ุ้มกันทางการเงิน\" ใหก้ ับตนเองน้นั จะมีวธิ ีใดบา้ ง ขอสรุปพอ สงั เขปเพอ่ื สร้างความเขา้ ใจง่ายๆ ดงั นี้ กลยทุ ธท์ ี่ 1 ลดรายจา่ ย บางท่านไม่ทราบว่าในแต่ละวัน ตนเองได้ใช้จ่ายเงินไปมากน้อยเท่าไหร่ เพราะไม่มีการจดบันทึก คา่ ใชจ้ ่ายเอาไว้ ดงั นนั้ กลยุทธใ์ นข้อนี้ ขอเริม่ ตน้ จากเรื่องใกลต้ ัว ดงั น้ี 1. ทําการจดบันทึกค่าใช้จ่ายประจําวัน เพ่ือจะได้ทราบว่าในแต่ละวันมีรายจ่ายในเรื่องอะไร จํานวน เท่าไหร่บ้าง เร่ืองไหนจําเป็นต้องจ่าย เร่ืองไหนเป็นรายจ่ายฟุ่มเฟือย หากเร่ืองไหนเป็นรายจ่ายท่ีไม่สําคัญและ ฟุม่ เฟอื ย ก็ควรงดและตดั ออกไป 2. ลดและงด อาหารจาํ พวก ชา กาแฟ น้าํ อดั ลม ขนมหวาน เพราะมรี าคาแพงและส้ินเปลืองค่าใช้จ่าย โดยไม่จําเป็น เช่น ด่ืมกาแฟเย็นวันละ 1 แก้วๆ ละ 50 บาท 1 เดือน เสียค่าใช้จ่ายกาแฟ จํานวน 50X30 เทา่ กบั 1,500 บาท 1 ปี เท่ากบั 1,500x12 เท่ากบั 18,000 บาท 3. เปล่ียนจากการใช้โทรศัพท์รายเดือนมาเป็นแบบเติมเงิน เพ่ือควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ไม่ให้ มากจนเกินไป หรือหมั่นตรวจสอบโปรโมชั่นโทรศัพท์ของตนเอง และเปล่ียนไปใช้แพ็คเก็ตหรือโปรโมช่ันท่ี เหมาะสมกับตนเองมากทสี่ ดุ เพือ่ ประหยัดเงิน การเปล่ียนโทรศัพทจ์ ากรายเดือนมาเป็นแบบเติมเงิน จะทําให้ ไมม่ ีข้อผกู มัดเรอื่ งค่าใชจ้ า่ ยในแตล่ ะเดือน 4. ลดการซ้ือของฟุ่มเฟือยที่ไม่จําเป็น เช่น สินค้าแบรนด์เนมราคาแพงๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้ือผ้า น้ําหอม นาฬิกา โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ หากจําเป็น ควรซ้ือไว้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น ยกตัวอย่าง บางคน ซ้ือเส้ือผ้ามาเก็บไว้ในปริมาณมาก และบางชุดไม่เคยนําออกมาสวมใส่จนเวลาผ่านไปมีร่างกายที่อ้วนขึ้นหรือ ผอมลง กไ็ มส่ ามารถสวมใสไ่ ด้ก็ทง้ิ เสื้อผ้าชดุ นนั้ ไปอยา่ งนา่ เสียดาย นั้นคือการทงิ้ เงนิ ไปน่นั เอง 5. ลดการรับประทานทานอาหารนอกบ้านหรือลดการรับประทานอาหารจําพวก Fast Food ลง เพราะมรี าคาแพงแถมทาํ ให้รา่ งกายได้รับแป้ง ไขมนั นาํ้ ตาล โซเดียม และพลังงานเกินความพอดี ทําให้เกิดโรค อ้วน โรคความดนั โลหติ สงู หรอื โรคหวั ใจตามมา 6. ประหยัดการใช้น้ําและไฟฟ้าลง หรือใช้เท่าท่ีจําเป็น วิธีนี้จะทําให้ใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าและประปา ลดลงได้ในแตล่ ะเดือน
64 7. ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทาน วิธีนี้ จะได้ลดค่าใช้จ่ายและได้รับประทานผักปลอดสารพิษไป พรอ้ มๆ กนั กลยุทธ์ท่ี 2 เพิม่ รายได้ 1. ขยะจําพวก แก้ว กระดาษ หรือหนังสือพิมพ์ สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้จํานวนมาก โปรดอย่า มองข้าม เช่น ซื้อนํ้าดื่มบรรจุขวดมาด่ืม เม่ือด่ืมหมดแล้ว อย่าทิ้งขวด ให้ทําการเก็บรวบรวมใส่ถุงไว้ เมื่อได้ใน ปริมาณมากพอสมควร ก็นําไปขายใหก้ ับร้านรบั ซ้อื ของเก่า เพียงเทา่ นกี้ ็สามารถสร้างรายได้เพ่ิมข้ึน และช่วยลด ขยะของโลกใบนล้ี ง สามารถตรวจสอบราคารับซื้อของเก่าทุกชนิดได้ที่นี่ 2. หลังจากท่ีเปล่ียนจากการใช้โทรศัพท์แบบรายเดือน มาใช้แบบเติมเงิน ขอแนะนําให้สมัครเป็น ตัวแทนเติมเงนิ มือถอื เพื่อรับเตมิ เงินมอื ถอื เพอ่ื สรา้ งรายได้เพ่ิม และไว้สําหรับเติมเงินมือถือให้กับตัวเองและคน ในครอบครัว เรียกวา่ เปลยี่ นรายจ่ายเป็นรายได้ 3. สร้างรายไดเ้ สริมดว้ ยการคลกิ ชมโฆษณาทางเว็บไซต์ หรือเรยี กว่า Pay Per Click : PPC 4. อีกหนึ่งวิธีในการหาเงินเพิ่มโดยจับเสือมือเปล่า หากขยันและมีทักษะเขียนเว็บไซต์หรือเว็บบล็อก สามารถติดต่อนําโฆษณามาติดที่เว็บไซต์หรือเว็บบล็อกของตัวเอง เมื่อมีผู้เข้ามาชมเว็บไซต์และคลิกชมโฆษณา ก็จะได้รับเงินทันที (จํานวนเงินเป็นไปตามท่ีเว็บไซต์กําหนด ต้ังแต่ 0.01 บาท 0.80 บาท หรือ 4 บาท ต่อการ คลก๊ิ 1 ครงั้ ไมซ่ ้าํ กนั ) 5. หารายได้อิสระทําเสริมเพ่ิมรายได้ เช่น ทําอาหาร/ขนมขาย เพ่ิมเติม หากท่านมีฝีมือทําอาหาร อร่อย วิธีนีน้ ่าสนใจและสนบั สนุนใหท้ ําอย่างยิง่ 6. สมัครทําธุรกิจขายตรง เช่น แอมเวย์ กิฟฟารีน เป็นต้น วิธีนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนตัวในการ สมคั รเป็นนกั ธุรกิจอสิ ระของแต่ละทา่ น ซึ่งวธิ ีน้กี ็สามารถสรา้ งรายไดเ้ สรมิ ได้ดอี กี วธิ หี นงึ่ กลยุทธท์ ่ี 3 สรา้ งภูมคิ มุ้ กนั วิธีสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดีที่สุดและคลาสสิคท่ีสุด คือ การออมเงิน และนําบางส่วนของเงินที่ เหลอื จากคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆ ไปลงทนุ เพ่ิม ดงั นี้ 1. การฝากเงินออมไว้กับธนาคาร ซึ่งปัจจุบันได้รับ ผลตอบแทนน้อยมากเพียง 0.75% ต่อปี แต่หาก ไปฝากไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ ก็อาจจะได้ดอกเบ้ียเพิ่มข้ึน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการยอมรับสภาพความเส่ียงที่ จะเกดิ ขน้ึ ของแต่ละทา่ นในการตดั สนิ ใจ 2. การลงทนุ ในตลาดทุน (เล่นหุ้น) การลงทุนกบั ทองคํา การลงทุนในพันธบตั ร หรือหุ้นกู้ ในการลงทุน วิธีนี้ มีปัจจัยหลายด้านที่เข้ามาเก่ียวข้องและมีการเปล่ียนแปลงท่ีรวดเร็ว ดังน้ัน การลงทุนวิธีนี้ต้องอาศัยความ เชี่ยวชาญและข้อมูลหลากหลายด้านประกอบการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ดีท่ีสุดก่อนการ ตัดสนิ ใจ 3. การซื้อประกันภัย ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต ควรตรวจสอบรายละเอียด เง่ือนไข ของ กรมธรรม์ให้ดีและรอบคอบก่อนการตัดสินใจ รวมทั้ง นําปัจจัยอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ค่าเงิน ระยะเวลา เขา้ มาคาํ นวณผลตอบแทนกอ่ นการลงทนุ ทุกครั้ง
65 4. วิธีสุดท้าย คือ การน้อมนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้และปฏิบัติให้เป็นวิถีชีวิตของ ตนเอง กจิ กรรม ใหอ้ ธิบายวธิ กี ารสร้างภมู ิคุ้มกันทางการเงนิ มาใหเ้ ข้าใจ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
66 แบบทดสอบหลังเรียน คําชแ้ี จง ใหท้ ําเคร่ืองหมาย X ทบั ตัวอกั ษรหน้าคําตอบที่ถูกทีส่ ุดเพียงข้อเดยี ว 1. การวางแผนการใชจ้ า่ ยทด่ี ีคอื การทําอยา่ งไร ก. ประดิษฐ์ของเลน่ ของใช้เอง ข. ซอื้ ของเล่นเปน็ ประจํา ค. ซือ้ เส้ือผา้ ใหม่ ๆ อยูเ่ สมอ ง. อดอาหารเพ่ือประหยดั ค่าใชจ้ ่าย 2. การบนั ทึกรายรับรายจา่ ยมปี ระโยชน์อย่างไร ก. ทําใหร้ ู้จักวางแผนในการใชเ้ งนิ ข. ทําใหม้ ีความรอบคอบในการใช้จา่ ย ค. ทําให้ควบคมุ การใช้จา่ ยได้ ง. ถกู ทง้ั ก ข และ ค 3. ค่าใช้จ่ายที่ไมจ่ ําเป็นแกก่ ารดาํ รงชีวิตคืออะไร ก. คา่ อาหาร ข. คา่ ยารกั ษาโรค ค. ค่าเลา่ เรยี น ง. ค่าของเลน่ 4. ถา้ มรี ายจา่ ยเกินรายรับเราควรทําอยา่ งไร ก. ใช้จา่ ยอย่างประหยัดมากขนึ้ ข. ตัดรายจา่ ยทีไ่ มจ่ ําเป็นออก ค. หารายไดเ้ พมิ่ ขึ้น ง. ถูกทง้ั ก ข และ ค 5. การจดบนั ทกึ รายรับรายจา่ ยมีประโยชน์อยา่ งไร ก. ฝกึ นสิ ัยใหเ้ ป็นคนละเอยี ดรอบคอบ ข. ฝกึ นสิ ยั ให้เป็นคนตรงตอ่ เวลา ค. ฝกึ นสิ ัยใหเ้ ปน็ คนมีมานะบากบัน่ ง. ฝึกนสิ ัยให้เป็นคนมีความอดทนอดกลั้น
67 6. การใช้จา่ ยในขอ้ ใดเปรยี บได้กับคาํ ว่า “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” ก. นาํ เงินไปซ้อื ของเล่น ข. ซ้ือเฉพาะของทจ่ี าํ เปน็ ค. กนิ อาหารทุกอยา่ งทีอ่ ยากกิน ง. ขอเงินพ่อแมเ่ พ่มิ บอกว่าไมพ่ อใช้ 7. การฝากเงนิ โดยเปน็ สมาชิกถอื หุ้นเป็นการฝากแบบใด ก. ออมทรัพย์ ข. สหกรณ์ ค. ประกันชวี ติ ง. กองทุนสาํ รอง 8. ถา้ มีเงนิ เหลือใชค้ วรเก็บไว้ท่ีใดจึงจะปลอดภยั ท่ีสุด ก. ฝากเงนิ กับธนาคาร ข. ฝากเงนิ กับสหกรณ์ออมทรพั ย์ ค. ฝากเงนิ กับกองทนุ หมูบ่ ้าน ง. ฝากเงนิ แบบการประกันชีวิต 9. การกระทาํ ใดบ่งบอกลักษณะนิสยั ประหยดั ก. ซ้ือของท่อี ยากได้ ข. ใชเ้ ฉพาะของยี่หอ้ ดงั ๆ ค. เกบ็ เงนิ ใสก่ ระปุกออมสิน ง. ขอเงินพอ่ แม่ใชจ้ า่ ย 10. บุคคลใดใชจ้ ่ายเงินแบบไมจ่ ําเป็นต่อการดาํ รงชีวิต ก. เอ นาํ เงินไปซือ้ อาหาร ข. เจ นาํ เงินไปซ้ือของเล่น ค. จี นําเงนิ ไปฝากธนาคาร ง. ตา นําเงนิ ไปซอื้ หนังสือ
68 เฉลยท้ายบทท่ี 4 แนวการตอบกจิ กรรมตอนที่ 1 1.การตัดรายจ่ายที่ไมจ่ ําเปน็ ออก เพอื่ ลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครัว เช่น รายจา่ ยเกยี่ วกับการ พนนั สง่ิ เสพตดิ ของมึนเมา รายจ่ายฟมุ่ เฟือย เป็นตน้ 2.การลดรายจ่ายทีจ่ าํ เป็นลง เพอ่ื สร้างนิสัยการประหยดั อดออม การใชท้ รพั ยากรที่มอี ยจู่ าํ กดั อย่าง คุ้มค่า แนวการตอบกิจกรรมตอนที่ 2 2.อยา่ ซื้อของแกเ้ ครยี ด 1.อยา่ ซ้ือเพราะอารมณ์ 4.เลอื กเพอ่ื นให้ดี 6.รู้สถานะทางการเงนิ ของตัวเอง 3.อย่าซ้อื ของเป็นงานอดเิ รก 5.ใช้บตั รเครดติ อยา่ งฉลาด แนวการตอบกิจกรรมตอนที่ 3 1. สร้างตารางขนั้ บันได อัตราดอกเบยี้ เงนิ ฝาก ของแต่ละธนาคาร แล้วเลอื กธนาคาร และลําดบั ขน้ั ท่ี ให้อัตราดอกเบี้ยเงนิ ฝากสงู ทีส่ ุด 2. เปลยี่ นบัญชเี งนิ ฝาก ไปเป็นแบบที่ใหด้ อกเบี้ยสงู กว่าเงนิ ฝากออมทรัพย์ 3 ยืมเงินจากเครอื ขา่ ยทางสังคม เช่น ญาติ หรอื เพ่อื นฝงู แทนเงนิ กู้ 4. ขายหนงั สือ และตํารา ทใ่ี ชแ้ ลว้ และเก็บไว้เฉยๆ 5. ใช้บตั รเครดิต ท่ีมีการให้ตอบแทนเปน็ การ คืนเงนิ สด (cash back) 6. ลงทะเบยี นสมัครเปน็ สมาชกิ รบั การสํารวจทางการตลาด (Panel) เพ่ือรบั เงนิ สด 7. ทํางานพิเศษ เป็น freelancing เชน่ ออกแบบบ้าน แปลหนงั สือ, ฯลฯ 8. รับสว่ นลดเงนิ สดเมอื่ ชอ้ ปป้งิ ออนไลน์ หรอื ห้างฯที่มีสว่ นลดเงินสด แนวการตอบกิจกรรมตอนที่ 4 1. การฝากเงนิ ออมไว้กับธนาคาร 2. การลงทุนในตลาดทุน (เลน่ ห้นุ ) การลงทนุ กับทองคาํ การลงทุนในพนั ธบตั ร 3. การซ้อื ประกนั ภัย ประกนั สุขภาพ หรือประกันชีวิต 4. วธิ สี ดุ ทา้ ย คอื การน้อมนาํ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาปรับใช้
69 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรยี น 1. ง 2. ง 3. ง 4. ง 5. ก 6. ข 7. ข 8. ก 9. ค 10. ข
69 บรรณานกุ รม กรมการคา้ ภายใน,กระทรวงภานชิ ย์ษา.การคา้ ครองผู้บรโิ ภค.http://www.dit.go.th/, 2546. มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช.ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั การสหกรณ.์ โรงพิมพ์มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช, พิมพค์ รง้ั ที่ 14;2544. มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช.เศรษฐศาสตรส์ าํ หรบั ชาวบ้าน.หนว่ ยท่ี 1-8 โรงพิมพ.์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช ,พิมพค์ รั้งที่ 3;2543 _____.หลักเศรษฐศาสตรเ์ บอ้ื งต้น หน่วยท่ี 1-8 โรงพิมพ์.มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช,พิมพค์ รัง้ ที่ 18;2538 _____.หลกั เศรษฐศาสตร์เบอื้ งต้น หน่วยที่ 9-15. โรงพิมพ.์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช,2536. สาํ นกั งานคณะกรรมการค้มุ ครองผูบ้ รโิ ภค,สาํ นกั นายกรัฐมนตร.ี การคุม้ ครองผูบ้ ริโภค. อภนิ นั ท์ จันตะน.ี เศรษฐศาสตรจ์ ุลภาค 1 . สาํ นักพมิ พพ์ ทิ ักษักษร,กรงุ เทพมหานคร;มปป. อเนก เธียรถาวรและอเนก พ.อนกุ ลู บุตร.การเงิน การธนาคารและการคลัง.สํานกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จํากัด ,กรงุ เทพมหานคร;2535 http://praveetelearning.com/elearning_content.php.วนั ที่ 28 ตุลาคม 2558 http://uptoadvance.blogspot.com/2013/07/blog-post_6386.html วันท่ี 24 กนั ยายน 2558 http://www.cad.go.th.วนั ท่ี 28 ตุลาคม 2558 http://www.facebook.com/เศรษฐกิจพอเพยี ง สกู่ ารทาํ บัญชีครัวเรือน.วนั ท่ี 28 ตุลาคม 2558. http://www.jw.org/th/ วันท่ี 24 กนั ยายน 2558 http://www.oknation.net.วันท่ี 28 ตลุ าคม 2558 http://www.maesotcity.com .วนั ท่ี 28 ตลุ าคม 2558 http://www.urnurse.net/sarapad/29save.html.วนั ที่ 24 กันยายน 2558
70 ทปี่ รึกษา คณะผู้จดั ทํา นางสาวสทุ ธินี จับใจนาย ผ้อู าํ นวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั อําเภอเชยี งดาว ครู กศน.ตําบลเมอื งงาย กศน.อําเภอเชียงดาว คณะผ้จู ดั ทาํ ครู กศน.ตําบลปงิ โคง้ กศน.อาํ เภอเชียงดาว นางปรยี าพร สรุ ยิ ะชัยพันธ์ นางสาวพชั รนิ ทร์ วงค์สกุล ครู กศน.ตําบลเมอื งนะ กศน.อาํ เภอเชียงดาว นางสาวพจนยี ์ คําเบย้ี นางป่นิ นภา ใจคาํ ครู ศรช. กศน.อาํ เภอเชียงดาว
71 ท่ปี รกึ ษา คณะบรรณาธิการ/ปรับปรุงแก้ไข นายศุภกร ศรศี ักดา ผอู้ ํานวยการสํานกั งาน กศน.จังหวัดเชียงใหม่ นางมีนา กิติชานนท์ รองผูอ้ าํ นวยการสํานกั งาน กศน.จงั หวดั เชียงใหม่ คณะบรรณาธกิ าร/ปรบั ปรงุ แก้ไข นางณัชชา ทะภูมนิ ทร์ ผู้อาํ นวยการ กศน.อาํ เภอดอยเต่า ประธานกรรมการ นายพิทยา ธาตอุ ินจันทร์ ครู คศ.1 กศน.อําเภอเวียงแหง กรรมการ นางสาวศริ พชั ร์ วรเศรษฐกุลไชย ครู คศ.1 กศน.อาํ เภอพร้าว กรรมการ นางปภนิ ดา เอกชยั อาภรณ์ ครอู าสาสมัครฯ กศน.อําเภอเมืองเชียงใหม่ กรรมการ นายสกล ศรีนา ครู กศน.ตําบล กศน.อาํ เภอสันกําแพง กรรมการ นางสาวพชั วรรณ อําพนั ธ์สี ครู กศน.ตําบล กศน.อาํ เภอสันทราย กรรมการ นางเดอื นฉาย แตม้ มาก ครู กศน.ตาํ บล กศน.อาํ เภอหางดง กรรมการ นางสาวแสงระวี แกว้ รากมกุ ครู กศน.ตําบล กศน.อําเภอหางดง กรรมการ นางสาวสุรสั วดี สวุ รรณพงศ์ ครู กศน.ตําบล กศน.อําเภอหางดง กรรมการ นางสาวจันทรจ์ ริ า ออ่ นอน้ นกั วเิ คราะห์นโยบายและแผน สาํ นกั งาน กศน.จังหวดั เชียงใหม่ กรรมการและ เลขานกุ าร
Search