Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิทานสังข์ทอง

นิทานสังข์ทอง

Description: นิทานสังข์ทอง

Search

Read the Text Version

นิทาน พนื้ บ้าน สังข์ทอง



“ท้าวยศวิมล” มีมเหสีชื่อ”นางจันท์เทวี” มีสนมเอกช่ือ “นางจันทาเทว”ี …พระองค์ไม่มีโอรสธดิ าจงึ บวงสรวงและรักษา ศีลห้าเพื่อขอบุตร …และประกาศแก่พระมเหสีและนางสนมว่า ถา้ ใครมโี อรสกจ็ ะมอบเมืองใหค้ รอง

อยู่มานางจันท์เทวีทรงครรภ์ เทวบุตรจุติมา เป็นพระโอรส ของนาง แต่ประสูติมาเป็น “หอยสังข์” …นางจันทาเทวีเกิด ความริษยาจึงติดสินบนโหรหลวงให้ทำนายว่าหอยสังข์จะทำให้ บ้านเมืองเกิดความหายนะ ท้าวยศวิมลหลงเชื่อนางจันทาเทวี จึงจำใจต้องเนรเทศนางจันท์เทวีและหอยสังข์ไปจากเมือง … นางจันท์เทวีพาหอยสังข์ไปอาศัยตายายช่าวไร่ ช่วยงานตายาย เปน็ เวลา 5 ปี พระโอรสในหอยสงั ข์แอบออกมาชว่ ยทำงาน เช่น หุงหาอาหาร ไล่ไก่ไม่ให้จกิ ข้าว เมื่อนางจันท์เทวที ราบก็ทุบหอย สงั ข์จนแตก

ในเวลาต่อมา พระนางจันทาเทวีได้ไปว่าจ้างแม่เฒ่าสุเมธา ให้ช่วยทำเสนห่ เ์ พอื่ ท่ที า้ วยศวมิ ลจะไดห้ ลงอยู่ในมนต์สะกด และ ได้ยุยงให้ท้าวยศวิมลไปจับตัวพระสังข์มาประหาร ท้าวยศวิมล จึงมีบัญชาให้จับตัวพระสังข์มาถ่วงน้ำ แต่ท้าวภุชงค์(พญานาค) ราชาแห่งเมืองบาดาลก็มาช่วยไว้ และนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญ ธรรม ก่อนจะส่งให้นางพันธุรัตเลี้ยงดูต่อไปจนพระสังข์มีอายุได้ 15 ปบี รบิ ูรณ์

วันหนึง่ นางพนั ธุรตั ไดไ้ ปหาอาหาร พระสังข์ไดแ้ อบไปเทย่ี ว เล่นที่หลังวัง และได้พบกับบ่อเงิน บ่อทอง รูปเงาะ เกือกทอง (รองเท้าทอง) ไม้พลอง และพระสังข์ก็รู้ความจริงว่านางพันธุรัต เป็นยักษ์ เมื่อพระสังข์พบเข้ากับโครงกระดูก จึงได้เตรียม แผนการหนีด้วยการกระโดดลงไปชุบตัวในบ่อทอง สวมรูปเงาะ กับเกือกทอง และขโมยไม้พลองเหาะหนไี ป

เม่ือนางพนั ธรุ ัตทราบว่าพระสังขห์ นไี ป ก็ออกตามหาจนพบ พระสังข์อยู่บนเขาลูกหนึ่ง จึงขอร้องให้พระสังข์ลงมา แต่พระ สังข์ก็ไม่ยอม นางพันธุรัตจึงเขียนมหาจินดามนตร์ที่ใช้เรียกเนื้อ เรียกปลาได้ไว้ที่ก้อนหิน ก่อนที่นางจะอกแตกตาย ซึ่งพระสังข์ ได้ลงมาท่องมหาจินดามนตร์จนจำได้ และได้สวมรูปเงาะออก เดนิ ทางต่อไป

พระสังข์เดินทางมาถึงเมืองสามล ซึ่งมี “ท้าวสามล”และ “พระนางมณฑา” ปกครองเมือง ซึ่งท้าวสามลและพระนาง มณฑามีธดิ าล้วนถงึ 7 พระองค์ โดยเฉพาะ พระธิดาองคส์ ุดท้อง ที่ชื่อ “รจนา” มีสิริโฉมเลิศล้ำกว่าธิดาทุกองค์ จนวันหนึ่งท้าว สามลได้จัดให้มีพิธีเสี่ยงมาลัยเลือกคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด ซึ่งธิดาทั้ง 6 ต่างเสี่ยงมาลัยได้คู่ครองทั้งสิ้น เว้นแต่นางรจนาที่มิได้เลือก เจ้าชายองค์ใดเป็นคู่ครอง ท้าวสามลจึงได้ให้ทหารไปนำตัวพระ สงั ข์ในรา่ งเจา้ เงาะซ่ึงเป็นชายเพยี งคนเดยี วที่เหลือในเมืองสามล ซง่ึ นางรจนาเห็นรปู ทองภายในของเจา้ เงาะ จงึ ได้เส่ยี งพวงมาลยั ให้เจา้ เงาะ ทำใหท้ า้ วสามลโกรธมากจึงเนรเทศนางรจนาไปอยู่ท่ี กระทอ่ มปลายนากบั เจ้าเงาะ

ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์ อาสน์ที่ประทับของ พระอินทร์เกิดแข็งกระด้าง อันเป็นสัญญาณว่ามีผู้มีบุญกำลัง เดือดร้อน จึงส่องทิพยเนตรลงไปพบเหตุการณ์ในเมืองสามล จึง ได้แปลงกายเป็นกษัตริย์เมืองยกทัพไปล้อมเมืองสามล ท้าให้ ท้าวสามลออกมาแข่งตีคลีกับพระองค์ หากท้าวสามลแพ้ พระองค์จะยึดเมืองสามลเสีย …ท้าวสามลส่งหกเขยไปแข่งตีคลี กับพระอินทร์ แต่ก็แพ้ไม่เป็นท่า จึงจำต้องเรียกเจ้าเงาะให้มา ช่วยตีคลี ซึ่งนางรจนาได้ขอร้องให้สามีชว่ ยถอดรปู เงาะมาชว่ ยตี คลี เจ้าเงาะถูกขอร้องจนใจอ่อน และเงาะป่าก็ถอดรูปเป็นพระ สังข์ทองใส่เกือกแก้วเหาะขึ้นไปตีคลีกับพระอินทร์จนชนะ พระ อนิ ทรก์ ็กลับไปบนสวรรค์

หลังจากเสร็จภารกิจที่เมืองสามลแล้ว พระอินทร์ได้ไป เขา้ ฝันท้าวยศวมิ ล และเปดิ โปงความชั่วของพระนางจันทาเทวีผู้ เป็นสนมเอก พร้อมกับสั่งให้ท้าวยศวิมลไปรับพระนางจันท์เทวี กับพระสังขม์ าอยู่ด้วยกันดังเดิม ท้าวยศวิมลจงึ ยกขบวนเสด็จไป รับพระนางจันท์เทวีกลับมา และพากันเดินทางไปยังเมืองสามล เพื่อตามหาพระสงั ข์

ท้าวยศวิมลและพระนางจันท์เทวีปลอมตัวเป็นสามัญชน เข้าไปอยู่ในวัง โดยท้าวยศวิมลเข้าไปสมัครเป็นช่างสานกระบุง ตะกร้า ส่วนพระนางจนั ท์เทวีเข้าไปสมัครเป็นแม่ครัว และในวนั หนึ่ง พระนางจันท์เทวีก็ปรุงแกงฟักถวายพระสังข์ โดยพระนาง จันท์เทวีได้แกะสลักชิ้นฟักเจ็ดชิ้นเป็นเร่ืองราวของพระสังข์ ตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พระสังข์รู้ว่าพระมารดาตามมาแล้ว จึงมาท่ี ห้องครัวและได้พบกับพระมารดาที่พลัดพรากจากกันไปนานอีก ครั้ง…หลังจากนั้น ท้าวยศวิมล พระนางจันท์เทวี พระสังข์กับ นางรจนาได้เดินทางกลับเมืองยศวิมล ท้าวยศวิมลได้ส่ังประหาร พระนางจันทาเทวี และสละราชสมบัติให้พระสังข์ได้ครองราชย์ สบื ตอ่ มา

บทละครนอกเรื่อง สังข์ทอง เป็นพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั พระราชนิพนธ์ หมายถึง เรือ่ งท่ีแต่งขนึ้

สงั ขท์ องเป็นเร่อื งท่ไี ด้มาจากสุวณั สงั ขชาดก เป็นหน่ึง ใน ชาดกพุทธประวตั ิ เป็นนิทานพ้นื บ้านในภาคเหนือและ ภาคใตโ้ ดยทส่ี ถานทท่ี ก่ี ล่าวถงึ เน้ือเรอ่ื งในสงั ขท์ อง กล่าวคอื เลา่ กนั วา่ เมืองทุ่งยงั้ เป็นเมืองท้าวสามนต์ อยู่ในบรเิ วณใกล้วดั มหาธาตเุ น่อื งจากมลี านหนิ เป็นสนามตคี ลขี องพระสงั ข์ ส่วนในภาคใต้ เช่ือว่าเมืองตะกัว่ ป่ าเป็ นเมืองท้าว สามนต์ มภี เู ขาลูกหน่ึงชอ่ื วา่ \"เขาขมงั มา้ \" เน่ืองจากเมอ่ื พระ สงั ขต์ คี ลชี นะไดข้ ม่ี า้ ขา้ มภูเขานนั้ ไป

การตีคลี เป็นการละเล่นพ้ืนเมืองอย่างหน่ึงของชาว อีสานนิยมเล่นกนั มากตามชนบทสมยั โบราณ มหี ลกั ฐาน ปรากฏในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา

การตคี ลใี นสมยั โบราณมี 3 ประเภท คอื 1. คลชี า้ ง ผเู้ ล่นจะต้องขช่ี า้ งตี นิยมเล่นกนั มากในสมยั อยธุ ยา 2. คลมี า้ ผเู้ ลน่ จะตอ้ งขม่ี า้ ตี นยิ มเลน่ กนั มากในสมยั กรุง รตั นโกสนิ ทร์ 3. คลคี น ผเู้ ล่นเดนิ หรอื วงิ่ ตี การเล่นคลชี นิดน้ีจะเล่นได้ 2 ลกั ษณะคอื เล่นคลธี รรมดากบั เล่นตคี ลไี ฟ หรอื เอาลูกเผา ไฟแล้วนาเอามาตี นิยมเล่นกนั มากในชนบทท้องถิ่นภาค อีสาน เช่น หนองคาย นครพนม อุบลราชธานี ขอนแก่น รอ้ ยเอด็ มหาสารคาม เป็นตน้

หอยสงั ข์ หรอื สงั ข์ หรอื สงั ข เป็นช่อื สามญั ของหอย ทะเลกาบเดย่ี วหลายชนิดหลายสกุล ในหลายวงศ์ เช่น สงั ข์ รดน้า สขี าว รูปทรงงดงาม ใชส้ าหรบั หลงั่ น้าพระพุทธมนต์ หรอื น้าเทพมนตร์, สงั ขแ์ ตร เปลอื กมลี าย ใชเ้ ป่ าในงานพธิ ี ของชาวเกาะแถบมหาสมทุ รแปซฟิ ิกตอนใต้ มลี กั ษณนามว่า ขอน เชน่ สงั ข์ 2 ขอน เป็นตน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook