ป.4 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ วิชากิจกรรมแนะแนว ชอ่ื -สกลุ .............................................. เลขที่.................... โดย นางสาวรตั ตกิ าล ยศสุข ตําแหน่งครู โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ สาํ นกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ
1 กิจกรรมการจัดการเรยี นรูท่ี 1 กจิ กรรมพฒั นาผเู รียน ช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครผู สู อน ครูรัตตกิ าล ยศสขุ เร่อื ง แนะนำตนเอง เวลา 1 ช่วั โมง วนั ท่.ี .......................................................................................................................................... สาระสำคญั การรจู กั ตนเองทำใหเราปฏบิ ัตติ นเองไดอยางถูกตอง จุดประสงคการเรียนรู 1. เพ่อื ใหนักเรียนรูจ กั และเขา ใจตนเองได (K) 2. เพื่อใหน กั เรยี นรูจ กั และเขาใจเพอื่ นรวมชน้ั ได (K) 3. มีทักษะกระบวนการในการทำงานรวมกัน (P) 4. มพี ฤติกรรมดานการเปนผูนำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การแนะนำตนเอง กระบวนการจัดการเรยี นรู 1. ครูใหน ักเรียนนัง่ เปนรปู โคง ครึ่งวงกลม 2. ครูสนทนาเร่ืองทั่วไปเกีย่ วกับเพ่อื น 3. ครแู จกแบบฟอรม ฉนั คอื ใครใหน กั เรยี นไดต อบแบบสอบถาม 4. หลังจากนกั เรียนตอบแบบสอบถามเสร็จแลว ครใู หนกั เรียนแตล ะคนออกมาเลาส่งิ ท่ตี อบลงไปในแบบฟอรม ฉนั คอื ใคร 5. ครใู ชเทคนิคการถามนักเรียนกระตนุ นกั เรยี น เพ่ือคน หาคา นยิ มหรอื ความรูสกึ เขาใจตนเองของนกั เรยี นแตละคน 6. เม่อื นักเรียนเขา ใจตนเองวาตนเองมคี านิยมอยางไรเขากจ็ ะไดมองเหน็ คา นยิ มของ เพอ่ื นดว ย จากทีน่ กั เรยี นไดต อบคำถามของครูทุกคน ซง่ึ จะทำใหนกั เรียนเขา ใจในตวั เพื่อน 7. ครสู รปุ วา การทนี่ ักเรียนเขา ใจตนเองแลว ก็จะสง ผลใหเขาใจเพอ่ื นดวย สื่อ /แหลงการเรียนรู 1. หองสมดุ 2. แบบฟอรม ฉนั คือใคร
2 การวดั และประเมินผล ผูประเมนิ ครูประเมนิ นกั เรียนประเมิน สิง่ ทีต่ อ งการวดั และวิธวี ัด ประเมินพฤติกรรมความมีวนิ ยั ความเปนผนู ำและผูตามที่ดี และความรับผดิ ชอบ โดยครแู ละเพื่อนนกั เรียนเปนผปู ระเมนิ สังเกตการเขารวมกิจกรรมและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยครูและเพอื่ นนักเรยี นเปน ผู ประเมิน ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ โดยครแู ละเพ่อื นนักเรยี นเปนผูประเมิน เครอ่ื งมือวดั แบบประเมนิ พฤติกรรม สังเกตเวลาการเขา รวมกิจกรรมและการปฏิบัตกิ ิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมิน ประเมินพฤติกรรม เกณฑผ า นรอยละ 80 สังเกตเวลาการเขา รว มกิจกรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม เกณฑผ านรอ ยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑผ า นรอ ยละ 80
3 แบบฟอรม “ฉันคือใคร” 1.ฉันช่อื ……………………………………………………………………………………………………………………..…………… 2.บานเลขท่ี………………………………………………………………………….………………………………………………… 3.ฉันเกดิ ท…ี่ ………………………………………วันที่………..เดอื น………………….พ.ศ………….อาย.ุ .................... 4.ฉันเคยอาศัยอยูที่……………………เปนเวลา………ป และกอนหนานี้เคยยายที่อยูมา……………..แหง คอื 1………………………….2……………………………… 5. ฉันเปน บตุ รคนท…ี่ ……..ของครอบครัว มีพ…ี่ ………คน นอ ง……………….คน 6. งานบานท่ฉี ันทำประจำ คอื ………………………………………………………………………………………………… 7. สง่ิ ที่เพือ่ น ๆ ชอบในตวั ฉันคอื ……………………………………………………….…………………………………… 8. ฉันคิดวา ส่ิงดสี ำหรบั ตวั ฉนั คอื ………………………………………………………………………….…………………… 9.ฉนั คิดวาสิง่ เลวสำหรับตัวฉนั คือ………………………………………………………….…………………………………… 10.คนท่ฉี ันอยากจะทำตวั เหมอื น คอื ………………………………………………………………………………………… เพราะวา…………………………………………………………………………………………………….…………………………… 11.สง่ิ ท่ฉี นั ภมู ใิ จท่ไี ดท ำ คอื ……………………………………………………………………………………………………… 12.ส่ิงทที่ ำใหฉ ันรสู ึกอับอายทส่ี ุดในชีวิต คอื ………………………………………….…………………………………… 13.งานหรือหนา ท่ขี องฉันคือ…………………………………………………………………………..………………………… 14.ฉันทำงานเพอ่ื …………………………………………………………………………………………………………………….. 15. ครูทฉี่ นั ชอบท่สี ดุ คอื …………………………………………………………………..……………………………………. เพราะ………………………………….......................................................………………………………………….. 16. ครทู ฉี่ ันไมชอบ คือ…………………………………………………………………………………………………………… เพราะ……………………………………………………………………………….……………………………………………… 17.สีทีฉ่ นั ชอบท่ีสุด คอื ………………………………….…………………สีน้ีทำใหฉ นั คิดถงึ ……………………..……… 18. อาหารที่ฉันชอบที่สุด คอื ………………………………………………………………….……………………………... 19. รายการทีวที ฉี่ ันชอบทสี่ ดุ คือ…………………………………………………………………………………………….. 20. งานอดเิ รกของฉนั คอื ………………………………………………………………………………………………………… 21. ในเวลาวา งฉนั ชอบ คอื …………………………………………………………………………………..………………… 22. บางส่ิงท่ีฉนั ไมช อบ คอื ………………………………………………………………………………..…………………… 23. ถา ฉันสามารถซ้ืออะไรทตี่ องการไดฉนั จะซอื้ ………………………………………………………………………… 24. ถาฉนั สามารถทอ งเท่ียวไปทวั่ โลกฉันจะไปท่ี………………………………………………………………………… 25. ถาฉันสามารถทำอะไรไดต ามใจชอบฉันจะ…………………………………………………………………………… 26. ถาฉันสามารถเลอื กเปนสัตวอะไรได 1 วัน ฉันจะเลอื กเปน………………………………….………….... 27. ฉันอยากเหลอื เกนิ ท่ีจะเห็น………………………………………………………………….…………………………….. 28. บุคคลมชี ่ือเสยี งทฉี่ ันอยากจะพบคือ………………………………………………………………………………….... 29. สิง่ ทท่ี ำใหฉ นั มคี วามสุขที่สุด คือ………………………………………………………….……………………………… 30. สิ่งท่ีทำใหฉนั ทกุ ขท ีส่ ุด คอื ………………………………………………………….…………………………………...
4 กจิ กรรมการจัดการเรียนรทู ี่ 2 กจิ กรรมพฒั นาผูเ รียน ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 4 กจิ กรรม แนะแนว ครผู ูส อน ครรู ตั ติกาล ยศสขุ เร่ือง ความสามารถของฉนั เวลา 1 ชวั่ โมง วันท.ี่ ............................................................................................................................................ สาระสำคญั การพฒั นาตนเองสามารถทำไดต ามความถนัดท่ีมีมาแตก ำเนิดและการฝก ฝนเพ่มิ เติม ตามศักยภาพ จุดประสงคการเรียนรู 1. นกั เรยี นบอกไดวาตนเองถนัดหรอื ไมถ นดั ดา นใดบาง (K) 2. มีทักษะกระบวนการในการทำงานรว มกัน (P) 3. มพี ฤตกิ รรมดานการเปนผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การพฒั นาความสามารถของตนเอง กระบวนการจดั การเรียนรู 1. ครูแจกแบบสำรวจความถนัด และช้ีแจงการกรอก แลว ใหนกั เรียนทำจากนนั้ ครู และนกั เรยี นรว มกนั อภปิ รายสิง่ ทน่ี กั เรยี นถนดั และไมถนดั นนั้ 2. นักเรียนรว มกนั อภิปรายวา ความถนดั และความไมถ นดั ของนกั เรยี นเกิดจากสาเหตุ ใด จะมีวธิ พี ัฒนาตนเองใหมคี วามสามารถย่ิงข้นึ อยา งไร 3. ครแู ละนักเรียนชวยกนั สรุปวา ความถนดั ของคนเรามีมาแตก ำเนิดและสามารถ พัฒนาใหด ีข้นึ เร่ือย ๆ ได โดยการฝกฝน เชน ถนัดภาษาไทย ถาไดอ า นมาก อานบอ ย ๆ ก็จะมี ทกั ษะในการอานมากขึน้ สวนกลุมประสบการณท ่ีไมถนดั ความถนัดเปน พรสวรรคท ท่ี ำใหท ำสงิ่ นั้นได ดกี วา ผูที่ไมม คี วามถนดั สำหรบั คนทไี่ มถ นดั ถา มกี ารฝกฝนกส็ ามารถพฒั นาไดเชนกนั แหลงการเรยี นรู 1.หนังสอื 2.หอ งสมดุ การวัดและประเมินผล ผปู ระเมนิ ครูประเมิน นักเรียนประเมนิ
5 ส่งิ ท่ีตอ งการวัดและวิธวี ดั ประเมนิ พฤติกรรมความมวี ินยั ความเปนผูน ำและผตู ามท่ีดี และความรบั ผิดชอบ โดยครูและเพอ่ื นนกั เรยี นเปนผปู ระเมิน สงั เกตการเขารวมกิจกรรมและการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครแู ละเพือ่ นนักเรยี นเปน ผู ประเมนิ ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ โดยครูและเพ่ือนนกั เรยี นเปนผปู ระเมนิ เคร่อื งมือวดั แบบประเมนิ พฤตกิ รรม สังเกตเวลาการเขา รวมกิจกรรมและการปฏิบตั กิ ิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมนิ ประเมินพฤติกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 สังเกตเวลาการเขา รว มกจิ กรรมและการปฏิบตั กิ ิจกรรม เกณฑผานรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผา นรอ ยละ 80
6 แบบสำรวจความถนัดของนักเรยี น “ พรสวรรคข องฉัน” คำชีแ้ จง ใหนักเรียนทำเครอ่ื งหมาย / ในชอ งระดับความสามารถท่ีตรงกบั ความถนัดของนกั เรยี น รายการ ระดบั ความถนัด 1. การอานภาษาไทย มาก มาก ปาน นอย ไม 2. การเขยี นภาษาไทย ท่ีสดุ กลาง ถนัด 3. การอภปิ ราย โตวาที ……… ……… ……… ……… ……… 4. การอานภาษาองั กฤษ ……… ……… ……… ……… ……… 5. การเขียนภาษาอังกฤษ ……… ……… ……… ……… ……… 6. การพดู ภาษาอังกฤษ ……… ……… ……… ……… ……… 7. การคิดคำนวณ ……… ……… ……… ……… ……… 8. การทดลองวิทยาศาสตร ……… ……… ……… ……… ……… 9. การประดษิ ฐของเลน ดอกไม ……… ……… ……… ……… ……… 10. การรำ รองเพลง เลนดนตรี ……… ……… ……… ……… ……… 11. การวาดภาพ ……… ……… ……… ……… ……… 12. การเลน กฬี า ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ……… ………
7 กจิ กรรมการจัดการเรยี นรทู ี่ 3 กจิ กรรมพัฒนาผเู รียน ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 4 กิจกรรม แนะแนว ครผู สู อน ครรู ตั ติกาล ยศสขุ เร่ือง เขา ใจตนเองและผูอ นื่ เวลา 1 ชั่วโมง วนั ท.ี่ ............................................................................................................................................ สาระสำคญั การเขา ใจตนเองและเขาใจผูอนื่ ทำใหเราเปนคนเห็นคุณคา ของตนเองและผอู ื่นดว ย จดุ ประสงคการเรียนรู 1. เพื่อใหนกั เรยี นบอกกับเพื่อนไดวา ตนเองนัน้ ชอบส่ิงใดและมลี กั ษณะเดนอยา งไร (K) 2. เพอ่ื ใหน กั เรียนเขา ใจตนเองและเพื่อนในแงด ี (P) 3. มีทกั ษะกระบวนการในการทำงานรวมกนั (P) 4. มีพฤติกรรมดา นการเปน ผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรยี นรู การรูจกั และเขาใจตนเองและผูอ ื่น กระบวนการจดั การเรยี นรู 1. ครูแบงนกั เรียนเปน 3 กลุม โดยใชวธิ กี ารนบั 1, 2 และ 3 2. ครแู จกแบบฝกส่งิ ทขี่ าพเจาชอบมากทส่ี ุดใหนักเรียนคนละ 1 แผน พรอมทัง้ อธบิ ายขนั้ ตอนในการเขยี นสง่ิ ทข่ี า พเจาชอบมากที่สุดลงไปในแบบฝกทแ่ี จกมาให 3. ใหน กั เรยี นเขยี นส่งิ ทน่ี ักเรยี นชอบมากทส่ี ุดมา 8 อยา ง ตามลำดับ ลงในตาราง พรอมทั้งใหขอมูลและเหตุผลวาทำสิ่งนั้นกับใคร ทำเมือ่ ไร ทำไมจึงทำส่ิงน้ันทำไปแลวไดผลตอบแทน อะไร ส่งิ ทที่ ำน้ันจะทำวนั น้ี ถานกั เรียนมีโอกาสและเม่อื นกั เรียนทำแลว นกั เรียนมีความสขุ 4. ใหนกั เรยี นในกลมุ แตละคนออกมาเลา ใหเ พื่อนในกลมุ ฟงวา ตนเองสนใจ และชอบ ส่ิงใดบา ง และครูคอยกระตนุ คำถาม เพราะอะไรจึงชอบสง่ิ น้นั ๆ เพือ่ คน หาคานิยมความสนใจของ ตนเองของนักเรียนแตละคน 5. ครูสรุปวา ใหนักเรยี นฟง อีกครั้งวา ความสนใจของแตล ะคนมีความแตกตางกนั นักเรยี นตอ งเขาใจ บุคคลอื่นดว ยวา เขาไมจำเปนตองชอบหรอื สนใจในสง่ิ ใดเหมอื น กับเรา 6. ใหนกั เรียนจดขอสรปุ ลงไปในสมุดบนั ทึก แหลงการเรียนรู 1. แบบบนั ทึกส่ิงท่ีขาพเจาชอบมากทส่ี ุด 4. หนังสอื 3. หองสมดุ
8 การวัดและประเมินผล ผูประเมนิ ครปู ระเมิน นักเรยี นประเมนิ ส่ิงทต่ี องการวดั และวธิ วี ดั ประเมนิ พฤติกรรมความมีวนิ ยั ความเปนผูนำและผูตามที่ดี และความรับผดิ ชอบ โดยครูและเพ่อื นนกั เรียนเปน ผปู ระเมิน สังเกตการเขารวมกจิ กรรมและการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครูและเพอ่ื นนกั เรียนเปน ผู ประเมนิ ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ โดยครูและเพ่ือนนกั เรียนเปนผูประเมิน เครอื่ งมอื วดั แบบประเมินพฤติกรรม สังเกตเวลาการเขารว มกจิ กรรมและการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑก ารวัดและประเมิน ประเมนิ พฤตกิ รรม เกณฑผา นรอ ยละ 80 สงั เกตเวลาการเขารว มกจิ กรรมและการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑผา นรอ ยละ 80
9 แบบบันทกึ สิง่ ทีข่ าพเจา ชอบมากที่สดุ คำชแ้ี จง ใหน กั เรยี นเขียนสิ่งท่ีนกั เรยี นชอบมากที่สดุ มา 8 อยาง ตามลำดับลงในตาราง พรอมท้ัง ใหขอ มูลและเหตุผลวา ทำสงิ่ นนั้ กบั ใครทำเมือ่ ไร ทำไมจึงทำสง่ิ นัน้ ทำไปแลว ไดผ ล ตอบแทนอะไร หมายเหตุ สงิ่ ทีท่ ำนนั้ จะทำวันนถี้ า นักเรียนมีโอกาสและเม่ือนกั เรียนทำแลว นกั เรียนมีความสุข ลำดับ รายการทท่ี ำ ทำกบั ใคร ทำเมอื่ ไร ทำไมจึงทำสิ่งนัน้ ทำแลวได ท่ี ผลตอบแทนอะไร 1 2 3 4 5 6 7 8
10 กิจกรรมการจัดการเรยี นรูท ่ี 4 กิจกรรมพัฒนาผเู รยี น ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 4 กจิ กรรม แนะแนว ครผู ูสอน ครูรตั ติกาล ยศสุข เร่อื ง ความดี ความเกงของผอู ่ืน เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ท.่ี ........................................................................................................................................ สาระสำคญั การมองเหน็ ความดี ความเกง ของผอู ่ืนและของตนเองทำใหเกดิ การยอมรับตนเอง และยอมรบั ผูอ นื่ ดวย และสามารถที่จะรว มมือกนั ในการปฏิบัตงิ านใหมปี ระสิทธภิ าพได จดุ ประสงคการเรียนรู 1. นักเรียนบอกความถนัดและความสามารถของตนเองได (K) 2. นักเรียนเขยี นชมเชยความสามารถของผูอ่ืนได (A) 3. นกั เรียนเปรียบเทียบความสามารถทีแ่ ตกตางระหวา งบุคคลได (K) 4. นักเรียนเห็นคุณคาการรจู กั สว นดขี องตนเองและผูอ นื่ (A) 5. มที กั ษะกระบวนการในการทำงานรว มกนั (P) 6. มพี ฤตกิ รรมดา นการเปนผูนำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรยี นรู การยอมรบั ความสามารถของตนเองและผอู ืน่ กระบวนการจัดการเรียนรู 1. ครูนำสนทนากบั นกั เรยี นวา ทุกคนตางก็มคี วามดคี วามเกง ความสามารถแตกตาง กันไป เชน บางคนรองเพลงเกง พดู เกง และครยู กตวั อยางความเกงความสามารถของตนเองพรอ ม ท้งั ใหนกั เรยี นชว ยกนั บอกความเกงความสามารถของครเู พิม่ เตมิ 2. ครนู ำอภิปรายวา ความดีความเกงความสามารถของเรา และของเพ่ือนท่ีตนเองรู และโดยการบอกของเพือ่ น ๆ ซ่งึ จะเปนประโยชนตอตัวนกั เรียนทีจ่ ะทำใหรูว า เรามีความดคี วาม เกง ความสามารถอยางไร ทำใหรูสึกภูมิใจและยอมรับผูอ่นื 3. ครูแบงนกั เรยี นออกเปนกลมุ ๆ ละ 5 – 7 คน แลว แจกกระดาษใหค นละ 1 แผน ใหเขยี นชอื่ ตัวเองไวท หี่ วั กระดาษ และเขียนความเดนของตน ในดานความดีความเกง ความสามารถ 1 อยาง เสร็จแลว ใหส ง กระดาษน้ันเวียนไปยงั เพ่ือนทีอ่ ยทู างขวามือและรบั กระดาษ ทางซา ยมือตอไปเขยี นสวนดขี องเพื่อนทตี่ รงตามรายชื่อในกระดาษน้ัน ทำอยางน้เี ร่ือย ๆ ไปจนครบ วง และสง กระดาษคนื ใหเพ่อื นตามรายชอ่ื ท่ีระบุใหน ักเรยี นทกุ คนอา นสวนดขี องตนตามท่เี พอ่ื น ๆ เขยี น 4. ครูต้งั ประเด็นถามใหนกั เรยี นรว มกนั วเิ คราะหด ังน้ี – นักเรยี นรูสึกอยา งไรเม่ือไดอานสง่ิ ทเ่ี พอื่ นเขียนถึงเราในสว นดี
11 – นกั เรียนรสู ึกอยางไรขณะทเ่ี ขียนสว นดีของเพ่อื น – สวนดีของเราทเ่ี ราเขียนเองกบั ทีเ่ พ่ือนเขยี นมคี วามเหมอื นหรอื แตกตา งกนั – การทเ่ี ราไดรคู วามเกงความสามารถของเรา และของเพื่อนจะมปี ระโยชน อยางไร – การท่เี ราไดรูความเกงความสามารถของเรา และของเพือ่ นจะมีประโยชน อยา งไร 5. ครูและนักเรยี นรวมกันสรุปใหไ ดสาระสำคัญ คือ “ทุกคนตางกม็ คี วามดี ความเกง ความสามารถ ซง่ึ อาจจะเหมอื นกนั หรอื แตกตางกนั ไป เราเองอาจจะมองความดี ความเกง ความสามารถของเราแตกตา งจากเพือ่ นกไ็ ด เพราะเราอาจมคี วามดี ความเกงความสามารถหลาย อยางการทเ่ี รามองหาสวนดีของตวั เรา ท้งั โดยตวั เราหรอื เพ่ือนบอกแลวนำมาพัฒนาจะกลายเปน ทักษะของแตล ะคนได อกี ทงั้ จะมปี ระโยชนทำใหเรายอมรับตนเองและยอมรบั เพอ่ื น และหากนำ ความสามารถซงึ่ เปน สวนดนี ้ีมาใชใหเปนประโยชนต อ การรว มมือในการทำงานดวยดี” แหลงการเรยี นรู แบบบนั ทึกกจิ กรรม การวัดและประเมนิ ผล ผปู ระเมิน ครูประเมิน นกั เรียนประเมนิ สง่ิ ที่ตอ งการวดั และวธิ ีวดั ประเมนิ พฤติกรรมความมวี ินยั ความเปนผูนำและผตู ามที่ดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครแู ละเพอ่ื นนกั เรียนเปน ผูประเมนิ สังเกตการเขารวมกจิ กรรมและการปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครูและเพ่อื นนกั เรียนเปน ผู ประเมิน ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ โดยครูและเพือ่ นนกั เรยี นเปน ผปู ระเมนิ เคร่อื งมอื วัด แบบประเมินพฤตกิ รรม สงั เกตเวลาการเขารวมกิจกรรมและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมิน ประเมินพฤตกิ รรม เกณฑผ า นรอ ยละ 80 สงั เกตเวลาการเขา รว มกจิ กรรมและการปฏิบตั กิ ิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผ านรอ ยละ 80
12 “ มองสวนดี” 1. สว นดีท่ีฉันเคยบอกเพ่ือน………………………………………………………………………..…………….………..…… 2. สวนดีทเี่ พื่อนเคยบอกฉนั ………………………………………………………………………….………..…..…………… 3. เมื่อฉันเขียนสว นดีของตวั เองฉนั รสู กึ ………………………………………………………………..………..…………. 4. เมอื่ ฉนั เขยี นสวนดีของเพอื่ นฉนั รสู กึ ……………………………………………………………....………..….……….. 5. สวนดที เ่ี พอ่ื นเคยบอกฉัน และฉนั คิดวาเปน ความจรงิ คือ……………………………………………...………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. 6. เพ่อื นทีฉ่ ันชอบมากท่ีสดุ คอื ………………………………………………………………………………………………… เหตุผลท่ีชอบเพราะ……………………………………………………………………………….………………………….. 7. ประโยชนท ีฉ่ นั ไดรบั จากกจิ กรรมนี้ คอื ………………………………………………………..………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
13 กจิ กรรมการจัดการเรยี นรูท ่ี 5 กิจกรรมพฒั นาผูเรยี น ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครูผูสอน ครูรัตติกาล ยศสุข เร่ือง ลกั ษณะเดน ของเพ่ือน เวลา 1 ชว่ั โมง วันท.่ี ........................................................................................................................................ สาระสำคญั การมองเห็นลักษณะเดนของเพ่อื น ทำใหเรามองเห็นในแงดมี คี วามรูสกึ ทดี่ ตี อกนั และ ทำงานรวมกันไดอ ยางมคี วามสุข จุดประสงคการเรยี นรู 1. นักเรียนบอกลักษณะเดน ของเพ่อื นทแ่ี วดลอมตนเองได (K) 2. นักเรียนบอกความรสู กึ เมื่อเพื่อนบอกลักษณะเดนของตนเองได (K) 3.นักเรียนเห็นคุณคาการรูจุดเดนของตนเองและของเพอื่ น (A) 4. มีทักษะกระบวนการในการทำงานรว มกนั (P) 5. มพี ฤติกรรมดานการเปน ผูน ำและผูตามที่ดี (A) สาระการเรยี นรู ลักษณะเดน ของเพื่อน กระบวนการจัดการเรียนรู 1. ครเู รียกนักเรยี นทีม่ ีลักษณะเดนดา นการพูด ออกมาหนาชั้นและใหน กั เรียนบอก ลักษณะเดนของตนและเพือ่ นในชน้ั ชวยกันบอกลกั ษณะเดน ของเพือ่ นทอ่ี อมาหนาช้นั จากนั้นให นักเรยี นทอี่ อกมายนื หนาช้นั กลา วถงึ ความรูสึกที่ไดรบั ฟง ลกั ษณะเดน ของตนจากเพอื่ น 2. ครแู จกแบบฟอรม “คนเดน ของหองเรา” ใหนักเรยี นทกุ คนเขยี นรายชือ่ เพือ่ นท่ีเกง ในแตล ะอยางลงในแบบฟอรม 3. ครูเขยี นคำถามตามแบบฟอรม บนกระดาน แลวซักถามวาในหองเรยี นของเรา นักเรยี นคิดวา “ใครเกง ” เมือ่ มชี อื่ นักเรียนคนใดครเู ขยี นชอื่ บนกระดาน และใหนกั เรยี นคนน้ันยนื ขน้ึ พรอ มท้งั กลาวขอบคุณเพ่อื นแลว ครถู ามนักเรียนในชนั้ วา นักเรยี นคนนั้นเกง อะไรอีกบาง 4. ครใู หน กั เรียนคนเกงทกุ คนออกมาหนา ช้ันเรยี น แลว ใหกลาวถงึ ความรูส กึ ทไี่ ดร บั คำ ชมจากเพอื่ น พรอมทง้ั กลา วถงึ การกระทำของตนท่ีเพือ่ น ๆ มองวาเกงในเร่ืองนน้ั ๆ 5. ครแู ละนักเรียนรว มกันวเิ คราะหต ามประเดนตอ ไปน้ี – นกั เรยี นรสู ึกอยา งไรเม่ือเพ่ือนชม หรือยกยอ งวา เปนคนเกง ของหอ ง – นกั เรยี นรูสึกอยา งไรตอเพื่อนทีย่ กยอง ชมเชยใหเ ปน คนเกง ของหอ ง – คนเกงในหอ งแสดงลักษณะเดน อะไรบาง – ลกั ษณะเดน ของเพื่อนท่ีมองเหน็ แตกตางคอื อะไร เพราะเหตุใดจงึ มองเห็น เชนนั้น – การรจู ักความเดน ของตนและของเพื่อนใหป ระโยชนอยา งไรบาง 8. ครแู ละนกั เรียนรวมกนั สรุปใหไดสาระสำคญั คือ “การมองเหน็ ลักษณะเดน ของตน และของเพื่อน จะทำใหเปน คนมองโลกในแงด รี จู กั ยอมรับผูอ่ืนทำใหมีความรูสกึ ที่ดีตอกัน มผี ลให
14 ทำงานรว มกันไดอ ยา งมคี วามสุข การเห็นคณุ คาของตนเอง จะทำใหประพฤตปิ ฏบิ ัติในสิง่ ที่ดงี าม เพอื่ ใหช วี ิตมีคา มีความหมายยงิ่ ข้นึ ” แหลงการเรยี นรู 1. แบบบันทกึ กิจกรรม 2. หอ งสมดุ การวัดและประเมินผล ผปู ระเมิน ครูประเมิน นกั เรยี นประเมนิ สิง่ ทต่ี องการวดั และวิธีวดั ประเมนิ พฤตกิ รรมความมีวินัย ความเปนผนู ำและผูตามท่ีดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครแู ละเพื่อนนกั เรยี นเปน ผปู ระเมิน สงั เกตการเขารวมกิจกรรมและการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครูและเพอ่ื นนักเรยี นเปนผู ประเมนิ ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม โดยครูและเพอื่ นนกั เรียนเปนผูประเมนิ เครอื่ งมือวัด แบบประเมนิ พฤติกรรม สงั เกตเวลาการเขา รว มกิจกรรมและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมนิ ประเมนิ พฤตกิ รรม เกณฑผ านรอยละ 80 สงั เกตเวลาการเขา รวมกจิ กรรมและการปฏบิ ัติกิจกรรม เกณฑผานรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑผ า นรอยละ 80
15 แบบบนั ทกึ กิจกรรม “คนเดนของหองเรา” ช่ือ……………………………………….ชนั้ ……………………………… ใหน ักเรียนเขียนชื่อเพื่อใหห องทีม่ ีลักษณะตรงกับลักษณะเดนน้นั ๆ รายการลักษณะเดน ชอ่ื เพอ่ื นในหอ งท่ตี รงกับลกั ษณะเดน 1. เกง คณิตศาสตร ………………………………………. 2. เกงภาษาไทย ………………………………………. 3. อานหนังสือเกง ……………………………………….. 4. เลนฟุตบอลเกง ………………………………………. 5. วิ่งเกง ……………………………………… 6. รำสวย ……………………………………… 7. รองเพลงเกง ………………………………………. 8. พดู เกง ………………………………………. 9. พดู ไพเราะ ……………………………………….. 10 เขียนหนงั สอื สวย ………………………………………. 11. เลน ดนตรเี กง ……………………………………… 12. ประดษิ ฐเกง ……………………………………… 13. ทำอาหารเกง ………………………………………. 14. แตงกายสะอาด ………………………………………. 15. ขยนั ทำงาน ……………………………………….. 16. ขยันเรียนหนงั สอื ………………………………………. 17. เปน ผนู ำ ……………………………………… 18. ยม้ิ แยมแจมใส ……………………………………… 19. เขา กับผอู ื่นไดดมี าก ………………………………………. 20. ทำงานเรียบรอย ……………………………………….
16 กิจกรรมการจัดการเรียนรูที่ 6 กจิ กรรมพฒั นาผูเรียน ช้นั ประถมศึกษาปท่ี 4 กิจกรรม แนะแนว ครูผูส อน ครูรตั ตกิ าล ยศสขุ เร่อื ง ความประทับใจในอดีต เวลา 1 ชัว่ โมง วันท่.ี ........................................................................................................................................ สาระสำคญั สง่ิ ทีผ่ อู ่ืนสรางความประทบั ใจใหเราจะมผี ลตอเราในอนาคต จดุ ประสงคการเรยี นรู 1. เพอื่ ใหน ักเรียนทบทวนความประทับใจในอดีต (K) 2. เพือ่ ใหนักเรยี นใหเ ขียนความประทับใจ (A) 3. มที กั ษะกระบวนการในการทำงานรวมกนั (P) 4. มีพฤตกิ รรมดา นการเปน ผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู ความประทบั ใจในอดตี กระบวนการจัดการเรยี นรู 1. ครสู นทนาเก่ยี วกับเรือ่ งท่ัว ๆ ไปในการปฏิบัติตวั กับเพอ่ื น 2. ครใู หนกั เรยี นแตละคนในกลุม ออกมาเลา เก่ยี วกบั ความประทับใจ (ทางบวก) จาก บุคคลอ่ืน เชน พอ แม พน่ี อ ง ญาติ เพือ่ น เปน ตน ทีผ่ า นมาในวยั เด็กทจ่ี ำได ใหเพอ่ื นฟง จาก ใคร เพราะอะไรจงึ ไมเคยลมื ความประทบั ใจทไี่ ดรับนนั้ 3. ครคู อยตงั้ คำถามหาสาเหตุความประทบั ใจ เพ่อื คนหาความรูสกึ อันแทจรงิ ของ นกั เรยี นแตละคนวา มีคานิยมอยา งไร 4. ครูสรปุ ใหนกั เรียนฟง วา สง่ิ ที่ไดร บั ในอดีตทนี่ ักเรียนประทบั ใจ จากบุคคลอืน่ นนั้ นักเรยี นกค็ วรปฏิบัติทด่ี ตี อผูอ น่ื เหมือนกับตนเองท่ีไดรบั จากผูอืน่ ในอดตี เพือ่ ทำใหเขามีความ ประทบั ใจในตวั เรา และเขาใจเรา เปน การสรางความรูส ึกทดี่ ีตอ กัน 5. ใหนักเรยี นจดขอ สรปุ ลงในสมุดบนั ทกึ แหลง การเรยี นรู 1. แบบบันทกึ ความประทบั ใจ 2. หองสมดุ 3. ใบงาน การวดั และประเมินผล ผปู ระเมิน ครูประเมนิ นกั เรยี นประเมิน
17 ส่งิ ที่ตอ งการวัดและวิธวี ัด ประเมินพฤตกิ รรมความมวี ินยั ความเปน ผูน ำและผตู ามที่ดี และความรบั ผิดชอบ โดยครูและเพอ่ื นนกั เรยี นเปนผปู ระเมนิ สังเกตการเขารวมกจิ กรรมและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยครแู ละเพื่อนนักเรยี นเปนผู ประเมนิ ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ โดยครแู ละเพื่อนนกั เรียนเปนผปู ระเมนิ เครอ่ื งมอื วัด แบบประเมินพฤตกิ รรม สงั เกตเวลาการเขา รวมกจิ กรรมและการปฏิบัตกิ ิจกรรม แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑก ารวัดและประเมิน ประเมินพฤติกรรม เกณฑผ า นรอยละ 80 สังเกตเวลาการเขา รวมกจิ กรรมและการปฏิบตั กิ ิจกรรม เกณฑผานรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผ านรอ ยละ 80
18 ใบงาน เรอื่ ง ผอู ยเู บอ้ื งหลงั คำชีแ้ จง ใหนักเรยี นเขยี นความประทบั ใจในอดีต ลงในแบบบันทึกขางลาง ช่ือ………………………………………………… ชน้ั ……………………. ความประทบั ใจของขาพเจา ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ความรสู ึกที่มีตอความประทับใจในครง้ั นั้น ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
19 กิจกรรมการจัดการเรยี นรทู ่ี 7 กจิ กรรมพัฒนาผเู รยี น ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครูผสู อน ครรู ัตติกาล ยศสขุ เรอ่ื ง การใหแ ละการรบั เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ท.ี่ ........................ช่ือ...............................................โรงเรยี น.................................................... สาระสำคญั การใหและการรับเปน สง่ิ ทีค่ นเราควรปฏบิ ัติ จุดประสงคการเรียนรู 1. เพ่ือฝก ใหน ักเรียนเขาใจในความรูสกึ เกย่ี วกับการใหและการรับ(P) 3. มที ักษะกระบวนการในการทำงานรวมกัน (P) 4. มีพฤติกรรมดา นการเปนผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การใหและการรบั กระบวนการจัดการเรยี นรู 1. ครเู ลานิทานเร่ืองเหน่ียวใหน กั เรยี นฟง 2. ครูนำซองเตมิ ความรกั ในซองเปนกระดาษเปลารปู หัวใจ มาใหน ักเรียนเขียนชื่อ ตนเองไวหนา ซอง 3. ใหน ักเรียนสง ซองเติมความรกั เวียนไปใหเ พอื่ น ๆ ไดเ ขียนชมวาตัวเรามดี อี ะไร เชน เรยี บรอย ขยัน เรยี นเกง พดู ไพเราะ ฯลฯ เปน ตน 4. หลงั จากน้นั เม่อื นักเรียนเขียนครบทุกคนแลว ก็สง คนื เจา ของ 5. เม่ือนักเรยี นรับซองเติมความรักของตนเองคืนจากเพื่อนแลวใหแ ตละคนออกมาเลา วา เพอ่ื น ๆ ในกลุมไดช มตนเองวาอยา งไรบาง 6. ครูถามความรสู กึ ของนกั เรยี นวานักเรยี นรูสึกอยางไรจากไดท ำกิจกรรมน้ี 7. ครสู รุปใหนักเรยี นฟงวา การที่เราจะอยรู วมกบั บุคคลอ่นื ไดอยางมคี วามสุข เราควร สรา งความสัมพันธอ นั ดีกับผอู น่ื วา ไวโ ดยการให การใหน น้ั ไมจ ำเปนตองเปนส่ิงของ เชน การ ปรารถนาดี การเหน็ อกเห็นใจการพูดในสิ่งทด่ี ี นกั เรยี นเคยสงั เกตไหมวา ทำไมในหองของนักเรียน จึงทะเลาะกนั กเ็ พราะเราชอบเปนเหยีย่ ว เท่ียวจกิ คนอน่ื ๆ เขา เราคอยตกเปนเหยอื่ ของเหยยี่ ว เม่ือเราใหส่งิ ท่ีดี ๆ แกกัน เราก็จะไดรับสงิ่ ท่ดี ตี อบแทนเชน กนั 8. ครใู หนักเรียนจดขอสรุปลงในสมุดบันทกึ แหลงการเรียนรู 1. แบบบนั ทึกการเตมิ ความรักใหเพื่อน 2. หอ งสมุด
20 การวดั และประเมนิ ผล ผูประเมิน ครูประเมิน นักเรยี นประเมนิ สง่ิ ท่ตี องการวดั และวธิ ีวดั ประเมนิ พฤตกิ รรมความมวี ินยั ความเปนผนู ำและผตู ามท่ีดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครูและเพอ่ื นนกั เรยี นเปนผูป ระเมนิ สงั เกตการเขารว มกิจกรรมและการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยครูและเพื่อนนกั เรยี นเปนผู ประเมิน ประเมินกระบวนการทำงานกลุม โดยครแู ละเพือ่ นนักเรียนเปน ผูประเมนิ เครอ่ื งมือวัด แบบประเมินพฤติกรรม สังเกตเวลาการเขารว มกจิ กรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมนิ ประเมินพฤติกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 สงั เกตเวลาการเขารวมกิจกรรมและการปฏบิ ัติกิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผานรอยละ 80
21 แบบบนั ทึกการเกบ็ ความรักใหเ พ่อื น คำชแ้ี จง ใหน กั เรยี นเติมความดีของเพอ่ื นลงในรปู หัวใจคนละ 1 ขอ ชื่อขาพเจา……………………………………….. ขา พเจามสี วนดี ดังนี้………………………………………….. 1……………………………………………………………….11……………………………………………………………….. 2……………………………………………………………….12……………………………………………………………….. 3.………………………………………………………………13……………………………………………………………….. 4.………………………………………………………………14……………………………………………………………….. 5..……………………………………………………………..15……………………………………………………………….. 6..……………………………………………………………..16……………………………………………………………….. 7..……………………………………………………………..17……………………………………………………………….. 8..……………………………………………………………..18……………………………………………………………….. 9..……………………………………………………………..19……………………………………………………………….. 10..……………………………………………………………20……………………………………………………………….. ขอบคุณมาก
22 นทิ านเร่ืองเหย่ยี ว เหยย่ี วเปนสัตวป ก ชอบจิกกินเนอื้ สด เปรียบเทียบเหยีย่ วเหมอื นกบั คนที่ชอบตำหนิ ถากถางเหน็บแนม การหวั เราะ หรือการเมินเฉย การดวุ า เปน ตน โดยปกตแิ ลว พวกเราทุกคนจะแวดลอ มดว ย “เหยยี่ ว” เชนเดยี วกันองุ เล็บท่ีใหญนา กลัวขางหนง่ึ ของ “เหยยี่ ว” เหลานี้ จะกางออกและพยายามลว งลึกเขา ไปในสวนสำคญั ที่สุดของ ชีวติ ในขณะท่อี ุง เลบ็ อน่ื ๆ ก็ฉีกแกะเน้ือสด ๆ ที่อยรู อบ ๆ กินเปนอาหารจะปลอ ยใหเ หลือทง้ิ ไว ก็แตเลือดสดและความเจ็บปวดท่ัวรางกาย จงอยปากท่ีแหลมคมของ “เหย่ยี ว” เหลานัน้ เสียดว ย ทุกครั้งทเ่ี ราบอกแกต นเองวา ตนเปน คนไมด พี อ หรอื ทุกครัง้ ท่ีเราบอกแกต นเองวา ตนเปน คนไมด ี หรอื ทกุ ครง้ั ท่ีเราตำหนิตวั เราและชอบบรรยายความไมดีของเราใหผูอ ื่นฟง “เหยี่ยว” ของเราก็จะรบี งุมจงอยปากของมันลง มาจิกตรงเนอื้ สวนทเี่ ราเหน็ เปน เนือ้ เลวรายทสี่ ุดน้ัน สว น มนุษยอืน่ ๆ ทีอ่ ยูร อบ ๆ ตัวเรากช็ ว ยกันปอ นเหยือ่ ใหด ว ย ทุกครั้งทม่ี บี างคนพยายามสรา งให เราเกดิ ความรสู ึกไมพ อใจกับตนเอง “เหยีย่ ว” ของเรากจ็ ะเรมิ่ เดินเร่อื งตอ พวกเหลานน้ั จะพยายาม สรางเสรมิ เพม่ิ พูนพลงั ของมันดวยการหาจุดออนของเรา และจีจ้ ุดนนั้ ใหออนแอลงย่ิงขน้ึ บางครงั้ เรา กป็ อน “เหยย่ี ว” ของผอู ่ืนดว ยเชนกนั แมว า ผูอื่นน้ันจะเปนผทู ี่เรารกั มากท่สี ดุ กต็ าม เมือ่ ไรก็ตามท่ี เราวิพากยวิจารณเหนบ็ แนมและประนามคนอ่นื ๆ เทากับวา เราไดป อ นอาหารท่ีอรอยมีรสชาติ มาก สำหรบั “เหยีย่ ว” ของผูอน่ื แตอ ยา งไรกต็ ามเรายอมสามารถทำใหเหย่ยี วทั้งหลายของเราอดอยากและออ นกำลังลง จนกระท้ังมันยอมปลดปลอยเราเปน อสิ ระจากการจิกเกาะเราได ทัง้ นี้เราจะทำใหโ ดยตองพยายาม มองวาตัวเราเปน คนนา รัก เปนคนเกง และมีความสามารถเปน คนมีคา ควรที่จะไดร ับความรกั และ ความนับถอื จากบุคคลท่วั ไป
23 กิจกรรมการจัดการเรียนรทู ่ี 8 กจิ กรรมพฒั นาผูเ รยี น ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครูผสู อน ครรู ัตตกิ าล ยศสขุ เร่ือง การวางแผนการเรียน เวลา 1 ช่วั โมง วันท่.ี .............................................................................................................................. สาระสำคญั การวางแผนการเรียนหรือศึกษาตอมีสว นทีส่ ำคัญตอการประกอบอาชีพในอนาคตได การสัมผสั ผทู ีม่ ีอาชพี ทต่ี นชอบยอ มทำใหก ารวาแผนมปี ระสิทธภิ าพยงิ่ ข้นึ จดุ ประสงคการเรียนรู 1. นักเรียนวางแผนการเรียนโดยใชข อมลู การสัมภาษณผ ูทม่ี อี าชพี ที่ตนชอบได( K) 2. มีทักษะกระบวนการในการทำงานรวมกนั (P) 3. มพี ฤติกรรมดานการเปนผนู ำและผูตามที่ดี (A) สาระการเรยี นรู การประกอบอาชีพ กระบวนการจดั การเรียนรู 1. ครใู หน กั เรียนรว มกนั รอ งเพลง “โตข้ึนหนจู ะเปน อะไร” แลวนำสนทนาซักถาม นกั เรียนถึงอาชพี ที่นกั เรียนอยากเปนตามเนื้อเพลง และไมม ีในเน้อื เพลง พรอ มทงั้ บอกเหตุผลของ ตน 2. ใหน ักเรยี นเขากลุม ตามอาชพี ท่อี ยากเปน มองบตั รงาน เตรียมเอกสารแนวทางการ เรยี นไปสอู าชพี น้นั กลมุ ปฏบิ ตั ิตามบตั รงานจนเสร็จ 3. ผแู ทนกลุมนำเสนอผลงาน ครเู พ่ิมเติมสาระสำคัญใหสมบูรณ 4. ครซู ักถามนักเรยี นเพ่ือนำไปสกู ารวิเคราะหตนเองวา จะวางแผนการเรยี นอยางไร จงึ จะไปสอู าชพี นัน้ ๆ ไดอ ยา งมีคุณภาพ 5. ครูและนักเรียนชวยกนั สรปุ วา การทจ่ี ะประกอบอาชีพใดในอนาคตใหเปน ไปตาม เปา หมายน้ัน นักเรยี นจะตองรจู ักอาชพี นน้ั อยา งถอ งแทแ ละมีการวางแผนการเรยี นเปน อยางดี แหลงการเรียนรู 1. แหลง อาชีพตาง ๆ 2. หนังสอื เกยี่ วกับอาชพี 3. หองสมุด การวดั และประเมนิ ผล
24 ผปู ระเมิน ครูประเมิน นักเรียนประเมิน สิ่งท่ตี องการวัดและวิธีวดั ประเมินพฤติกรรมความมีวินัย ความเปน ผนู ำและผูต ามที่ดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครูและเพอ่ื นนกั เรียนเปน ผปู ระเมนิ สังเกตการเขารว มกิจกรรมและการปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยครแู ละเพื่อนนกั เรยี นเปนผู ประเมิน ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม โดยครแู ละเพ่อื นนักเรียนเปนผูประเมนิ เครอื่ งมือวดั แบบประเมนิ พฤตกิ รรม สงั เกตเวลาการเขารว มกิจกรรมและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ เกณฑก ารวัดและประเมิน ประเมินพฤติกรรม เกณฑผ านรอ ยละ 80 สังเกตเวลาการเขารว มกิจกรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผ านรอยละ 80
25 เพลง โตขน้ึ หนูจะเปน อะไร หนูจา หนูคดิ ดูเสียใหด ี ๆ อนาคตทีจ่ ะสขุ ศรี โตขนึ้ หนูนจ้ี ะเปนอะไร หนอู ยากเปนทหาร ปอ งกันอริราชศัตรู หนูอยากจะเปนครู ใหค วามรูเด็กๆ ทว่ั ไป หนอู ยากเปน ตำรวจ วิ่งไลก วดผูรา ยเร็วไว หนอู ยากเปนอะไร ออ นกึ ไดอ ยากเปนพยาบาล หนูจา หนูตองเรยี นรูใ ห เชี่ยวชาญ หนูจะตอ งขยันหมนั่ ทำการบานมาสง คณุ ครู ในบทเพลงนปี้ รากฏอาชพี ทง้ั หมด.................อาชีพ คอื 1.................................................................................................. 2.................................................................................................. 3.................................................................................................. 4.................................................................................................. 5.................................................................................................. 1.................................................................................................. 6.................................................................................................. 7.................................................................................................. 8.................................................................................................. 9.................................................................................................. 10................................................................................................
26 บตั รกิจกรรม “จะเรยี นอะไรด”ี ช่อื ………………………………………………………………………………………….. ชน้ั …………………………..………… กลมุ ที…่ ………………………………………………………………………. 1. เลอื กประธานกลมุ และเลขานกุ าร 2. อภปิ ราย แสดงความคิดเหน็ ในหวั เรื่อง “ เรยี นอยางไรจึงจะเหมาะสมกับอาชพี ทีฉ่ ันชอบ” 3. สรุปผลการอภิปราย 4. สงตวั แทนนำเสนอผลงานหนา ชน้ั บันทึกผล อาชพี ทช่ี อบคอื ……………………… เรียนอยา งไรจงึ จะเหมาะสมกบั อาชีพ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
27 กจิ กรรมพัฒนาผูเรยี น กจิ กรรมการจัดการเรยี นรทู ี่ 9 ช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครูผูส อน ครรู ตั ตกิ าล ยศสุข เร่ือง การคนหาความถนดั เวลา 1 ชั่วโมง วันท.่ี .............................................................................................................................................. สาระสำคญั แตล ะคนมีความถนดั ทงั้ เหมือนและไมเหมอื นกนั การคนพบความถนัด และจดั อันดบั ความถนัดของตนได จะชว ยใหสามารถพฒั นาความถนัดน้ันใหป ระสบผลสำเรจ็ เปนอยางดี จุดประสงคการเรยี นรู 1. นกั เรียนจดั อนั ดับกลมุ สาระการเรียนรทู ีต่ นถนัดจากมากไปนอ ยได (K) 2. มีทกั ษะกระบวนการในการทำงานรว มกัน (P) 3. มีพฤตกิ รรมดานการเปน ผูนำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การนำแผนภมู ิกราฟจดั อนั ดบั สาระการเรยี นรู กระบวนการจัดการเรียนรู 1. ครูแจกแผนภมู ิกราฟแทง จัดอันดับ ใหน ักเรียนคนละแผน และชี้แจงการทำ เมื่อ นกั เรยี นทำเสร็จ ครูและนกั เรียนรวมกันอภิปรายผลทีน่ ักเรยี นทำ 2. ครูซักถามนกั เรยี นเพื่อนำไปสกู ารวิเคราะหการจัดอันดับความถนัดมากนอ ยและ แนวทางการพัฒนาการเรียนใหไ ดผ ลดียงิ่ ขน้ึ 3. ครแู ละนักเรยี นรว มกันสรปุ วา การรูความถนดั ในแตล ะกลุมประสบการณ ซึง่ มีมาก นอ ยตางกัน จะสามารถนำไปใชสรางเสริมใหเกดิ ประโยชนดา นการเรยี นและการทำงานไดแ หลง การ เรียนรู 1. หองสมุด 2. หนงั สอื คณติ ศาสตร การวัดและประเมินผล ผูประเมิน ครปู ระเมิน นกั เรียนประเมนิ สิง่ ทต่ี อ งการวัดและวธิ วี ดั ประเมินพฤติกรรมความมีวินยั ความเปน ผนู ำและผตู ามท่ีดี และความรบั ผิดชอบ โดยครูและเพอ่ื นนกั เรยี นเปนผูประเมิน สังเกตการเขารว มกจิ กรรมและการปฏิบตั กิ จิ กรรม โดยครแู ละเพ่อื นนักเรยี นเปน ผู ประเมิน ประเมินกระบวนการทำงานกลุม โดยครแู ละเพอื่ นนกั เรยี นเปน ผูประเมนิ เครื่องมอื วดั แบบประเมินพฤติกรรม สังเกตเวลาการเขารวมกิจกรรมและการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
28 แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑก ารวัดและประเมิน ประเมนิ พฤติกรรม เกณฑผ า นรอ ยละ 80 สงั เกตเวลาการเขารว มกจิ กรรมและการปฏิบตั กิ ิจกรรม เกณฑผ านรอ ยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑผา นรอยละ 80
29 แผนภมู ิกราฟแทง จดั อันดับ ชอ่ื …………………………………………………………..………………………………………………….…ชนั้ ………………….. คำช้แี จง ใหนกั เรียนระบายสีแผนภูมกิ ราฟแทง ใหสมั พนั ธระหวา งกลมุ สาระการเรียนรแู ละความ ถนดั มากนอ ยของตน อนั ดบั ความถนัด มากท่ีสดุ มาก ปานกลาง นอย นอยมาก นอ ยท่ีสุด สาระการเรียนรู 1 23 4 5 67 8 หมายเหตุ 1 = สาระวิทยาศาสตร 2 = สาระคณติ ศาสตร 3. = สาระภาษาไทย 4. = สาระสงั คมศาสตรวฒั นธรรม 5. = สาระภาษาตางประเทศ 6. = สาระศลิ ปะ 7. = สาระการงานและเทคโนโลยี 8. = สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
30 กจิ กรรมการจัดการเรียนรทู ี่ 10 กจิ กรรมพัฒนาผเู รียน ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 4 กจิ กรรม แนะแนว ครผู ูสอน ครูรตั ติกาล ยศสขุ เรือ่ ง การสำรวจจุดออ น เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ท่.ี ......................................................................................................................................... สาระสำคญั การรูจักออ นทางดานการเรียนของตน ชว ยใหสามารถปรบั ปรุงการเรียนไดถกู ตอง จุดประสงคการเรียนรู 1. นักเรยี นรูจ ดุ ออ นของตนและพัฒนาตนเองใหเ รยี นดีขึ้นได (K) 2. มีทกั ษะกระบวนการในการทำงานรวมกัน (P) 3. มพี ฤติกรรมดานการเปน ผูน ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรยี นรู การสำรวจจดุ ออนของตนเอง กระบวนการจดั การเรียนรู 1.ครแู จกแบบสำรวจหาจุดออ นของตนใหน ักเรียนแตล ะคน แลวอธบิ ายวธิ ีทำ จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นชวยกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นเพื่อหาจดุ ออ นนกั เรียนแตละคน 2.ครูและนกั เรียนรวมกนั อภปิ ราย ใหนักเรียนวเิ คราะหว า นักเรยี นตอ งปรบั ปรงุ ตรงไหน อยา งไร เพราะเหตุใด 3.ครแู ละนกั เรียนชว ยกันสรปุ วา การรจู ดุ ออนในการเรยี นตา ง ๆ ของนักเรยี นทำให นักเรียนสามารถปรับปรุงตนไดด ขี ้ึน นกั เรยี นเขียนสรปุ วธิ ีปรบั ปรงุ การเรียนของตน แหลงการเรียนรู 1. แบบสำรวจหาจุดออนของฉัน 2. หองสมดุ การวัดและประเมินผล ผูป ระเมนิ ครูประเมิน นกั เรยี นประเมนิ ส่ิงที่ตอ งการวัดและวธิ วี ัด ประเมินพฤติกรรมความมีวินยั ความเปนผนู ำและผตู ามท่ีดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครแู ละเพื่อนนกั เรยี นเปน ผปู ระเมนิ สงั เกตการเขารวมกิจกรรมและการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยครูและเพ่อื นนกั เรียนเปนผู ประเมนิ ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ โดยครแู ละเพ่อื นนกั เรยี นเปน ผูประเมิน
31 เครอื่ งมือวดั แบบประเมินพฤตกิ รรม สงั เกตเวลาการเขา รว มกิจกรรมและการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมิน ประเมนิ พฤติกรรม เกณฑผานรอ ยละ 80 สงั เกตเวลาการเขารว มกจิ กรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผ า นรอ ยละ 80 กิจกรรมเสนอแนะ / กจิ กรรมเสริมประสบการณ ครคู วรจัดกลุม สอนซอมเสรมิ นกั เรียนนอกเวลาครูควรตดิ ตามนักเรียนปรับปรงุ การ เรยี นตามท่ี บันทึกหรอื ไม
32 แบบสำรวจหาจดุ ออนของตนเอง “ ทำอยา งไรด”ี ชอื่ ……………………………………………………………………………………………………………………. ช้ัน……………… คำชแ้ี จง ใหนักเรียนเขียนบอกสิ่งทีต่ นควรปรบั ปรุงการเรียนกลุม สาระการเรยี นรูตา งๆลงในแบบ สำรวจ กลมุ สาระการเรียนรู สิง่ ท่คี วรปรับปรุง วธิ กี ารปรบั ปรงุ สาระภาษาไทย …………………………………………… ………………………………………… สาระคณิตศาสตร …………………………………………… ………………………………………… สาระวทิ ยาศาสตร …………………………………………… ………………………………………… สาระศลิ ปะ …………………………………………… ………………………………………… สาระการงานและเทคโนโลยี …………………………………………… ………………………………………… สาระสุขศกึ ษาและพลศึกษา …………………………………………… ………………………………………… สาระภาษาตา งประเทศ …………………………………………… ………………………………………… สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และ …………………………………………… ………………………………………… วฒั นธรรม
33 กิจกรรมการจัดการเรียนรูที่ 11 กิจกรรมพัฒนาผูเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 4 กิจกรรม แนะแนว ครผู ูสอน ครูรัตติกาล ยศสุข เรอื่ ง การปรับปรงุ ขอบกพรอง เวลา 1 ชั่วโมง วันท.ี่ ........................................................................................................................................ สาระสำคญั การรขู อ บกพรอ งวธิ กี ารเรียนของตน และรูจ ักแกไ ข ปรับปรุงจะชวยใหสามารถ พฒั นาการเรยี นของตนใหดขี ้ึน จุดประสงคการเรียนรู 1. นักเรยี นบอกขอ บกพรอ งวธิ กี ารเรยี นของตนได (K) 2. นักเรยี นบอกวิธีปรบั ปรุงขอ บกพรอ งวธิ กี ารเรยี นของตนได (K) 3. มที ักษะกระบวนการในการทำงานรว มกนั (P) 4. มพี ฤตกิ รรมดา นการเปน ผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรยี นรู การปรบั ปรุงขอบกพรองของตนเอง กระบวนการจดั การเรยี นรู 1. ครูใหนกั เรยี นแสดงบทบาทสมมติ กรณีตวั อยาง “แดง” 2. แบงกลุมนักเรียน กลุมละ 5 – 7 คน แจกบัตรงาน ใหนักเรียนอภปิ รายตามขอ คำถามนัน้ 3. แตล ะกลมุ เสนอรายงานผลการอภปิ รายนักเรียนชวยกนั สรุปแนวทางการปรบั ปรงุ วธิ ีการเรียน 4. ครซู กั ถามนักเรียนเพ่ือนำไปสกู ารวเิ คราะหต นเอง ดังนี้ – สาเหตุท่ีทำใหน กั เรยี นเรียนไมด ี มีอะไรบาง – จะปรบั ปรงุ วิธกี ารเรยี นของตนอยางไร 5. ครแู ละนักเรยี นชวยกนั สรปุ วา คนเรามวี ิธกี ารเรียนแตกตางกนั การรูวิธกี ารเรยี น ของตน ตลอดจนสามารถวิเคราะหไ ดว า มีขอบกพรองอยางไร และหาทางปรับปรุงแกไข ก็จะทำให นักเรยี นเรียนดีข้ึน แหลงการเรียนรู 1. กรณีตัวอยาง 2. หองสมุด การวดั และประเมินผล ผูประเมนิ ครปู ระเมิน นกั เรียนประเมิน
34 สง่ิ ท่ีตอ งการวัดและวธิ ีวัด ประเมนิ พฤตกิ รรมความมวี นิ ัย ความเปนผนู ำและผตู ามที่ดี และความรบั ผิดชอบ โดยครูและเพอื่ นนกั เรยี นเปนผปู ระเมิน สังเกตการเขารว มกจิ กรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครแู ละเพื่อนนกั เรียนเปนผู ประเมนิ ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ โดยครูและเพอ่ื นนักเรียนเปนผปู ระเมนิ เครอื่ งมอื วัด แบบประเมินพฤตกิ รรม สังเกตเวลาการเขา รว มกจิ กรรมและการปฏิบตั กิ ิจกรรม แบประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑการวัดและประเมิน ประเมินพฤติกรรม เกณฑผา นรอ ยละ 80 สงั เกตเวลาการเขา รว มกจิ กรรมและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เกณฑผานรอยละ 80 ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม เกณฑผา นรอยละ 80
35 กรณตี ัวอยาง “ แดง” แดงดโู ทรทศั นด ึกทุกคนื มิใยคณุ แมจะดวุ าก็ไมเชือ่ ฟง แดงมกั นั่งหลบั ขณะท่คี ณุ ครสู อนเสมอ แดงไมสนใจการเรียน ครูใหการบาน แดงจะทำไมถกู บางครง้ั ก็ไมส งการบา น ครเู รียกแดงไปพบ สอบถาม สาเหตทุ ่ีไมสง การบานแดงบอกคณุ ครวู า ไมมีสมดุ ดินสอ จงึ ไมทำ การบา น บัตรกจิ กรรม เรื่อง ต่นื เถิด 1.ใหนักเรียนอานกรณตี วั อยางเรื่อง แดง แลว อภิปรายตามประเด็นคำถาม ตอไปน้ี 2.ทำไมแดงจึงสอบตก…………………………………………………………………………………………. 3.นักเรียนควรเอาอยา งดีหรอื ไม… ……………………………………..…………………………………. เพราะเหตใุ ด………………………………………………………………….....................………. ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… 4.ถาแดงเปน เพ่อื นของนักเรยี น นกั เรียนจะใหคำแนะนำแดงในดานการเรียนอยา งไร ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………
36 กิจกรรมการจัดการเรยี นรูที่ 12 กิจกรรมพฒั นาผเู รียน ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 4 กิจกรรม แนะแนว ครผู สู อน ครรู ตั ตกิ าล ยศสขุ เรื่อง การเรียนดแี ละเรยี นไมดี เวลา 1 ชั่วโมง วันที.่ ....................................................................................................................................... สาระสำคญั ทุกคนสามารถพฒั นาตนใหเ ปน คนท่ีเรียนดี เรยี นเกง เฉลยี วฉลาด มีไหวพรบิ ดว ย การฝก ฝนตนเองใหม เี หตุผล สืบคนหาสาเหตุของผูท่เี รียนดนี นั้ และเลือกเฟน วธิ ที ่เี หมาะสมมา ปรบั ปรงุ พฒั นาตนอยา งมงุ มน่ั จรงิ จัง จดุ ประสงคการเรียนรู 1. นกั เรยี นวเิ คราะหส าเหตุท่ที ำใหเรยี นดีได (K) 2. นกั เรียนเลือกวธิ กี ารเรียนท่ดี เี พื่อนำมาใชพ ฒั นาตนเองได(P) 3. มีทักษะกระบวนการในการทำงานรวมกนั (P) 4. มีพฤตกิ รรมดา นการเปน ผูน ำและผูตามที่ดี (A) สาระการเรยี นรู วิเคราะหส าเหตขุ องการเรียนดแี ละเรียนไมด ี กระบวนการจดั การเรียนรู 1. ครแู บง นักเรียนเปน กลมุ ๆ ละ 5 – 7 คน ทัง้ น้ีใหก ระจายนักเรยี นเรียนดีเขา ไวในแตละกลมุ นำสนทนาเพอื่ กระตนุ ย่ัวยทุ า ทายใหนกั เรยี นอยากพัฒนาตนใหเปน คนเรยี นดี แลว แจกบัตรงานคนละใบ เพ่ือนกั เรียนเรียนดีในแตละกลมุ ประสบการณเลา เหตผุ ลวธิ ที ่ีทำใหเ รยี นดี แลว จงึ ทำงานกลุม 2. ครูใหตวั แทนนกั เรียนท่ีมผี ลการเรยี นระดับ 4 แตละกลมุ สาระการเรียนรูออกมา น่งั ท่โี ตะ อภปิ รายฝา ยหนึ่ง และฝายซักถาม 2 คน ควรเปนผูหญงิ 1 คน ผูชาย 1 คน ถาม เหตุผลวธิ ีทท่ี ำใหเ รยี นดีแทนเพอ่ื นในหอ ง ขณะที่ฝายนกั เรยี นเรยี นดีตอบ ครบู นั ทกึ สาระสำคัญบน กระดานและสรปุ 3.กลุมทำงานตามบตั รงาน ตัวแทนกลมุ นำเสนอรายงาน ขณะผแู ทนกลุมรายงาน ครู บันทึกสาระสำคัญบนกระดาน 4.ครูซกั ถามนกั เรยี น เพือ่ ใหน ักเรยี นวิเคราะหแ ละพิจารณาทางเลอื กทีเ่ หมาะสม เพ่ือ พฒั นาตนเองตอไปดังน้ี – นกั เรยี นคดิ วาการกระทำใดทีป่ ฏิบัติอยูแ ละทำใหตนเรียนดีและไมด ี มอี ะไรบา ง จัดแยกประเภท – นักเรยี นพอใจ ไมพอใจ ผลการเรียนกลุมประสบการณใดของตนเพราะเหตใุ ด – นักเรียนพอใจจะเลอื กวธิ ีเรียนทด่ี ีของใคร เพือ่ นำมาใชปรับปรงุ ตนเอง ทำไมจึง เลือก – นักเรยี นคดิ วาจะทำอยา งไรตนเองจงึ จะเรียนดขี ้ึนตามวิธที เี่ ลอื กนนั้
37 5. ครแู ละนกั เรียนชวยกันสรุปวา การเรยี นดีทำใหค นเฉลียวฉลาดมไี หวพรบิ ประสบ ความสำเรจ็ ในชวี ิต และมีโอกาสกวางขวางในการทำงาน ซ่ึงตอ งฝกฝนใหเปน คนมเี หตุผล คน หา สาเหตวุ ธิ ีเรยี นจากผเู รียนดีและเลือกวธิ ีท่ีเหมาสมพัฒนาตนจรงิ จงั มงุ มนั่ แหลง การเรยี นรู 1. หนงั สือ 2. หองสมดุ บตั รกิจกรม “เรียนดมี ีไหวพริบ” คำชี้แจง 1. เลอื กประธานและเลขานกุ าร 2. อภปิ รายตามประเด็นตอไปนี้ 2.1 วธิ ีการเรยี นใหด ีในแตล ะกลุมสาระการเรยี นรู มอี ะไรบาง เปนอยา งไร 2.2 นกั เรียนชอบการเรยี นโดยวิธีใดบา ง เพราะเหตใุ ด 2.3 นกั เรยี นจะมแี นวปฏิบตั อิ ยางไรจงึ จะเรียนดี 3. สรุปผลการอภิปรายลงในแบบบนั ทึก 4. สง ตัวแทนนำเสนอผลงาน
38 แบบบนั ทึกกิจกรรม “เรียนดมี ีไหวพริบ” กลุม………………………………………………………………………….. 1. วธิ กี ารเรยี นใหด ใี นแตล ะกลมุ สาระการเรยี นรู มอี ะไรบา ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นักเรียนชอบการเรยี นโดยวธิ ีใดบา ง เพราะเหตุใด 2.1……………………………………………………………………………… 2.2………………………………………………………………………………. 2.3………………………………………………………………………………. 2.4………………………………………………………………………………. 2.5………………………………………………………………………………. 2.6………………………………………………………………………………. 2.7………………………………………………………………………………. 2.8………………………………………………………………………………. 2.9………………………………………………………………………………. 2.10………………………………………………………………………………. 3. นักเรียนมีแนวปฏิบตั อิ ยา งไรบา งจงึ จะเรยี นไดดี 3.1……………………………………………………………………………… 3.2……………………………………………………………………………… 3.3……………………………………………………………………………… 3.4………………………………………………………………………………. 3.5………………………………………………………………………………. 3.6………………………………………………………………………………. 3.7………………………………………………………………………………. 3.8………………………………………………………………………………. 3.9………………………………………………………………………………. 3.10……………………………………………………………………………….
39 กิจกรรมพัฒนาผเู รยี น กิจกรรมการจัดการเรียนรูท ี่ 13 ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 4 กิจกรรม แนะแนว ครผู สู อน ครูรัตติกาล ยศสขุ เรื่อง วิธีการเรียนใหเ กง เวลา 1 ชัว่ โมง วนั ท.ี่ ....................................................................................................................................... สาระสำคญั การศกึ ษาจากปายนิเทศ และการสมั ภาษณเ ปนวธิ ีการแสวงหาความรู ขอ มูลเพอ่ื ใชใ น การวางแผนการเรียน จุดประสงคการเรยี นรู 1. นักเรยี นบอกวธิ ีเรยี นเกง จากการสมั ภาษณ นักเรยี นรุนพที่ ่ีเรียนเกง ใหเพอ่ื น ๆ ฟง ได (K) 2. นักเรยี นบอกวธิ กี ารเรยี นใหเ กงจากปายนิเทศท่โี รงเรียนจดั ไวใหเ พ่อื น ๆ ฟงได (K) 3. นักเรยี นบอกวธิ ีการเรยี นใหเ กงได (K) 4. มที ักษะกระบวนการในการทำงานรว มกนั (P) 5. มีพฤตกิ รรมดา นการเปน ผูน ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู วธิ ีการเรยี นใหเกง กระบวนการจัดการเรียนรู 1. ครูแบงนกั เรียนออกเปน 2 กลมุ ใหปฏิบัติงานดังนี้ กลมุ ที่ 1 ซกั ถามหรอื สัมภาษณว ธิ ีการเรยี นใหเ กงจากนักเรียนรนุ พี่ กลมุ ท่ี 2 ศึกษาวิธกี ารเรียนใหเ กงจากปา ยนิเทศทโี่ รงเรยี นจดั ไว 2. ตัวแทนกลุมนำเสนอรายงานวิธีการเรียนใหเ กง ใหเ พ่ือน ๆ ฟง 3. ขณะนักเรียนรายงาน ครูบนั ทกึ สาระสำคัญวิธกี ารเรียนใหเ กง บนกระดาน 4. ครซู กั ถามนกั เรียนเพอื่ นำไปสกู ารวเิ คราะหต นเอง เพ่อื กำหนดวิธีเรยี นใหเกงเปน ขอ ๆ 5. ครูและนกั เรยี นชว ยกนั สรปุ วา การแสดงหาความรูนอกจากจะเรียนจากครูแลว ยงั สามารถแสวงหาไดโ ดยวิธีอ่ืนอกี มากมาย เชน การสมั ภาษณ การศึกษาจากปายนิเทศ การคน ควา จากหองสมุด เปน ตน 6. ใหนักเรยี นเขยี นสรปุ วธิ กี ารเรียนใหเ กง แลว นำมาเขียนเปน แผนท่ีความคิด แหลงการเรยี นรู 1. หอ งสมดุ 2. หนงั สอื
40 การวัดและประเมินผล ผปู ระเมิน ครปู ระเมิน นกั เรียนประเมนิ ส่ิงท่ตี องการวดั และวิธวี ัด ประเมินพฤตกิ รรมความมีวนิ ยั ความเปนผนู ำและผูตามที่ดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครูและเพอ่ื นนักเรยี นเปนผปู ระเมิน สังเกตการเขารวมกจิ กรรมและการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครแู ละเพื่อนนกั เรยี นเปนผู ประเมิน ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ โดยครแู ละเพื่อนนกั เรียนเปนผูประเมนิ เครอื่ งมอื วดั แบบประเมินพฤติกรรม สงั เกตเวลาการเขารว มกิจกรรมและการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ เกณฑก ารวัดและประเมิน ประเมินพฤตกิ รรม เกณฑผ านรอ ยละ 80 สงั เกตเวลาการเขารวมกจิ กรรมและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผ า นรอยละ 80
41 ใบงานเรือ่ ง ทำอยางไรใหเรียนเกง ชอ่ื รนุ พี.่ .........................................................................................................ช้นั ............................ วนั ทีส่ ัมภาษณ...............................................................................................เวลา......................... วิชาท่พี ีช่ อบ/ถนดั 1) ............................................................................................................................. 2)............................................................................................................................. 3)............................................................................................................................. 4)............................................................................................................................. 5)............................................................................................................................. วิชาที่พไ่ี มชอบ/ไมถ นดั 1) ............................................................................................................................. 2)............................................................................................................................. 3)............................................................................................................................. 4)............................................................................................................................. 5)............................................................................................................................. วชิ าทพ่ี ่ที ำคะแนนไดด ี 1) ............................................................................................................................. 2)............................................................................................................................. 3)............................................................................................................................. วชิ าทีพ่ ตี่ องการพัฒนา 1) ............................................................................................................................. 2)............................................................................................................................. 3)............................................................................................................................. เคล็ดลบั ความสำเร็จ 1) ............................................................................................................................. 2)............................................................................................................................. 3)............................................................................................................................. 4)............................................................................................................................. 5).............................................................................................................................
42 กิจกรรมการจัดการเรยี นรทู ่ี 14 กิจกรรมพัฒนาผูเรยี น ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครผู สู อน ครูรัตติกาล ยศสุข เรอื่ ง การยอมรบั และการปฏเิ สธผอู ่นื เวลา 1 ชั่วโมง วันที่........................................................................................................................................ สาระสำคญั การยอมรบั และการปฏิเสธผูอน่ื จะมผี ลกอ การปฏิบัตติ วั ของเรา จุดประสงคการเรยี นรู 1. เพ่อื ใหน กั เรยี นรจู กั การใหการยอมรับและการปฏิเสธผอู ืน่ ได (K) 2. มีทักษะกระบวนการในการทำงานรว มกัน (P) 3. มีพฤตกิ รรมดานการเปน ผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การยอมรับ และการปฏเิ สธผอู น่ื กระบวนการจัดการเรยี นรู 1.ครูขออาสาสมัครจากกลุมจำนวน 2 คน เพอื่ ทำหนา ทเ่ี ปนผูพดู 2.นำอาสาสมัครท้ังสองคนออกไปนอกหองและบอกกับอาสาสมัครทั้งสองคนวา ตอ งการจะใหเ ขาทัง้ สองพดู ใหกลุม ฟง เกี่ยวกับเรือ่ งอะไรกไ็ ด เชน ประวตั สิ วนตวั เหตกุ ารณท่ีต่นื เตน ท่ีสดุ ในชีวิต ฯลฯ เปนเวลา 5 นาทีจากน้นั ใหอ าสาสมัครทง้ั สองตกลงกนั วา ใครจะเปน ผูพดู คนแรก 3.ใหอาสาสมัครท้งั สองกลมุ อยูทเ่ี ดมิ คอยดสู ญั ญาณจากทานวา เมอ่ื ไรจึงจะถงึ เวลาพูด จากน้นั ผูนำกลุมนัดแนะกบั สมาชิกกลมุ วา ระหวางที่ผูพดู คนแรกกำลังพดู อยูนั้นใหส มาชิกกลมุ แสดง อาการรบั ฟงและใหความสนใจ ความยอมรับแกผ ูพดู อยา งเตม็ ที่ เชน ยมิ้ ผงกศีรษะ ถามคำถาม เปนตน แตใ หสมาชกิ อีกกลุมแสดงอาการไมร ับฟง และไมย อมรับตอผูพูดคนท่สี อง เชน การคยุ กนั เอง การลกุ เดนิ ไปมา การขดั จังหวะ แซว หรืออาการอ่ืน 4.ครูใหสญั ญาณแกอ าสาสมัครใหเ ขามาพูดได โดยใหอ าสาสมัครคนทส่ี องยืนอยทู ี่เดมิ จนกวาจะไดร บั สญั ญาณใหเ ขา มาพดู ได 5.เม่ืออาสาสมคั รทงั้ สองพูดจบแลว ครถู ามความรูสึกของเขาท้งั สองวารสู กึ อยา งไรบาง ตอเหตุการณทเี่ กดิ ขึ้น จากนนั้ ผนู ำกลุมเฉลยความจรงิ วาเหตุการณท ั้งสองเปนเหตุการณที่สมมติขึ้น เทา นั้น 6.ครูสรปุ ใหน ักเรยี นฟงวา ผูที่จะมีความสัมพนั ธทดี่ กี ับผอู น่ื นน้ั จะตอ งรูจ ักการฟงผูอ่ืน บา ง ยอมรับในตัวเขาแลวเราก็จะมเี พ่ือน จะเปน การสรา งความรูส ึกทดี่ ีตอ กนั 7.ครใู หน กั เรียนจดขอสรุปในสมุดบนั ทึก
43 แหลง การเรียนรู 1. เพ่อื นในชนั้ เรียน 2. หองสมดุ การวัดและประเมนิ ผล ผปู ระเมิน ครปู ระเมนิ นักเรียนประเมิน สงิ่ ทต่ี อ งการวัดและวธิ ีวัด ประเมนิ พฤติกรรมความมวี ินัย ความเปนผูน ำและผูต ามท่ีดี และความรบั ผดิ ชอบ โดยครแู ละเพอื่ นนักเรยี นเปน ผปู ระเมิน สงั เกตการเขารว มกจิ กรรมและการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม โดยครแู ละเพอ่ื นนักเรยี นเปนผู ประเมิน ประเมินกระบวนการทำงานกลุม โดยครูและเพื่อนนกั เรียนเปน ผูประเมิน เคร่ืองมือวดั แบบประเมินพฤติกรรม สงั เกตเวลาการเขา รว มกจิ กรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุม เกณฑก ารวัดและประเมนิ ประเมนิ พฤติกรรม เกณฑผ า นรอ ยละ 80 สังเกตเวลาการเขา รวมกิจกรรมและการปฏิบตั ิกิจกรรม เกณฑผ านรอยละ 80 ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ เกณฑผ านรอยละ 80
44 ใบเร่อื ง มารยาทในการฟง คำชแ้ี จง ใหนักเรียนตอบคำถามตอ ไปนี้ 1) สรุปเนอ้ื หาจากเรื่องท่ฟี ง เพ่ือนคนท่ี 1 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. เพอ่ื นคนที่ 2 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 2) จากเหตกุ ารณท เี่ กดิ ขึ้นในชัน้ เรียน นกั เรียนรสู กึ อยางไร .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 3) ถา นกั เรียนเปน อาสาสมัครทอ่ี อกมาพดู หนาช้ันเรยี นนักเรียนจะรสู กึ อยา งไร .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 4) พฤติกรรมทนี่ ักเรยี นควรปฏิบตั ิคือ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................
45 กิจกรรมการจัดการเรยี นรทู ี่ 15 กิจกรรมพัฒนาผูเรียน ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครูผสู อน ครรู ัตติกาล ยศสุข เรอ่ื ง การยอมรับและแสดงความคิดเห็น เวลา 1 ชั่วโมง วนั ท.่ี ....................................................................................................................................... สาระสำคญั การยอมรับและการแสดงความคิดเหน็ เปนส่ิงท่เี ราควรปฏิบตั ิเม่ืออยูในสงั คม จุดประสงคการเรียนรู 1. เพอ่ื ฝกใหน กั เรยี นเคารพในความคิดและเหตผุ ลของของผอู ื่น (A) 2. เพ่ือใหนักเรยี นอยูรวมกนั อยา งมคี วามหมายและเหน็ ความสำคญั ของการอยูร ว มกัน (A) 3. มีทกั ษะกระบวนการในการทำงานรว มกนั (P) 4. มพี ฤตกิ รรมดานการเปน ผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การยอมรับและแสดงความคิดเห็นในหมคู ณะ กระบวนการจดั การเรยี นรู 1. แบงนักเรียนออกเปน 2 กลมุ โดยวธิ ีการนับ 1,2 ใหนักเรยี นแตละกลุม สงตัวแทน เปน ผูส งั เกตการณก ลมุ ละ 1 คน 2. ใหน ักเรียนแตละคนนำสง่ิ ของของตนทม่ี อี ยูซง่ึ แตละคนรกั หรือมีความหมายสำหรับ เขา คนละ 1 อยาง อาจเปนปากกา แวน ตา ดนิ สอ หรอื ส่ิงของอยา งอืน่ 3. ใหผ ูสงั เกตการณของแตละกลุมไปยมื สงั เกตปฏกิ ิริยาของคนในแตล ะกลมุ โดยไม บอกใหค นในกลุมรวู า จะตอ งถูกรายงานภายหลงั 4. ใหน ักเรยี นแตละกลุม น่งั เปน วงกลมวางสง่ิ ของของแตละคนลงกลางวง ใหแ ตละคน ชวยกันจัด โดยจัดเรียงในขณะท่สี ่ิงของหา มทกุ คนพดู กัน 5. เมอื่ จัดเสรจ็ แลว ถาคนไหนในกลุม ไมพ อใจอยา งทจี่ ดั ไวกอน ก็ใหจัดใหม แตถ า เกิดมคี นไมพ อใจอกี กใ็ หเขาจัดใหม จัดจนกวา ทุกคนจะพอใจ (โดยใหพ ยักหนา) 6. เม่ือทกุ คนจัดเสร็จเรยี บรอยแลวใหปรบมือและใหแ ตละคนหยิบของของตนเอง ออกไป 7. คราวนใ้ี หท กุ คนจดั วางใหมใหรปู แบบเปล่ียนไปโดยพูดกันได 8. เมอ่ื ท้งั สองกลุม ทำเสรจ็ เรียบรอยแลว ใหผ ูสังเกตการณร ายงานถึงปฏกิ ิรยิ าของการ ทำงานในกลมุ 9. ถามความรูสกึ ของแตล ะคนในหัวขอตอ ไปน้ี –ทำไมจึงเลอื กเอาสงิ่ ของชนดิ นั้นขึน้ มา มีความหมายสำหรบั ตนเองอยางไร –ทำงานโดยไมพ ดู กนั และไดพูดรสู กึ แตกตา งกนั อยา งไรบา ง
46 –รสู กึ อยางไรเม่อื ผูอ ื่นนำส่ิงของของตนไปวางไวใ นทีท่ ต่ี นคิดวาไมเหมาะสม –รูสกึ อยา งไรเมือ่ คนอื่นเปลยี่ นแปลงส่งิ ทีเ่ ราจดั ไวแ ลว –ในตอนสดุ ทายที่จดั เสรจ็ รูสึกพอใจมากนอยเพียงใด 10. ครสู รปุ ในการทำงานรว มกนั เราจำเปนตอ งรับฟงความคิดเห็นของผอู ่ืน เนอ่ื งจาก คนอื่นอาจมคี วามคดิ ท่แี ตกตางไปจากของเรา เพราะเขาอาจมีประสบการณไมเ หมอื นเรา การรับฟง ความคิดที่แตกตางกันออกไปนี้ จะชว ยใหเราตัดสินใจไดดหี รอื ถูกตอ งยิง่ ขึน้ ดงั น้นั ในการทำงาน รวมกัน เราควรใหค วามเคารพในความคิดเหน็ ของคนอนื่ ไมด ถู ูกเขา รบั ฟง และพิจารณาความ คดิ เหน็ ของเขา และรจู ักใชค วามคิดเห็นของเขาใหเ ปนประโยชนแ กก ลุม 11. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั อา นกลอน และจดบันทึกลงในสมุดงาน “จะทำการส่ิงใดควรใจกวา ง ถาเพือ่ นคิดแตกตางไปจากฉัน สวนผดิ ถูกของเราอาจเทา กนั เอาใจใสฟง กนั ไวน นั่ แหละด”ี แหลง การเรยี นรู – หองสมุด
47 ใบงานเรือ่ ง “MY FRIEND” คำช้แี จง ใหน ักเรียนตอบคำถามจากการทำกิจกรรมในชนั้ เรยี น 1) ทำไมจึงเลอื กเอาสงิ่ ของชนิดน้นั ขนึ้ มา มคี วามหมายสำหรับตนเองอยางไร ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… 2) ทำงานโดยไมพูดกันและไดพูดรสู ึกแตกตา งกนั อยางไรบา ง ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… 3) รสู ึกอยางไรเม่ือผอู ื่นนำสงิ่ ของของตนไปวางไวใ นท่ีท่ีตนคิดวา ไมเ หมาะสม ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… 4) รสู ึกอยางไรเมือ่ คนอื่นเปลีย่ นแปลงสิ่งท่ีเราจัดไวแ ลว ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… 5) ในตอนสดุ ทายที่จัดเสร็จรสู กึ พอใจมากนอยเพียงใด ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………
48 กจิ กรรมการจัดการเรียนรูท่ี 16 กจิ กรรมพัฒนาผูเ รียน ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 4 กจิ กรรม แนะแนว ครผู ูสอน ครรู ตั ติกาล ยศสขุ เรอื่ ง ความคิดเหน็ เวลา 1 ชั่วโมง วันท่.ี ....................................................................................................................................... สาระสำคญั การรบั ฟง ความคิดเห็นและเหตุผลของกนั และกันในการรว มกันกระทำสง่ิ ตา ง ๆ จะ ชว ยใหก ารกระทำหรอื ผลงานน้ัน ๆ สำเร็จอยางมีประสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขึ้น จดุ ประสงคการเรยี นรู 1. นักเรยี นอธบิ ายเหตุผลในการเลอื กแนวทางหรือการปฏิบัติของตนใหผ ูอ ่ืนรบั รูไ ด (K) 2. นักเรียนรบั ฟงความคิดเหน็ และเหตผุ ลในการเลือกแนวทางหรือการกระทำสิง่ ตา ง ๆ ของผูอ่นื ได (K) 3. นักเรยี นอธิบายผลท่ีจะเกิดจากการยอมรับฟง ความคดิ เห็นของกันและกนั ไดอ ยา งมี เหตผุ ล (K) 4. มีทกั ษะกระบวนการในการทำงานรว มกัน (P) 5. มพี ฤติกรรมดานการเปนผนู ำและผูตามท่ีดี (A) สาระการเรียนรู การรับฟง ความคดิ เห็นของผูอืน่ กระบวนการจดั การเรยี นรู 1. ครูนำรูปภาพเกี่ยวกับลักษณะของการประกอบอาชพี ตาง ๆ ใหนกั เรยี นทลี ะรูป และรว มสนทนากบั นักเรียนในลักษณะการทำงาน ฯลฯ ที่เก่ียวของกับอาชีพนน้ั ๆ 2. ครูใหน กั เรียนเลอื กอาชีพทนี่ กั เรยี นชอบ หรอื คดิ วา จะประกอบอาชพี นั้นคนละ 1 อาชีพ พรอ มท้ังบอกเหตผุ ลในการเลอื กอาชีพใหเ พอ่ื นฟงดวยวา ตนเองเลอื กอาชีพนั้น เพราะ เหตใุ ด 3.ใหน กั เรียนรวมกลมุ กันตามความสมัครใจ กลุมละประมาณ 5 – 6 คน แลว ดำเนนิ การดงั นี้ – ใหนกั เรียนสง หวั หนากลุม จบั ฉลากอาชีพที่ครู กลมุ ละ 1 ฉลาก และอยา ให กลมุ อ่นื รวู า กลุมของตนไดฉ ลากอาชีพอะไร – ตอ จากนั้นใหแตละกลุม รวมกันวางแผน และผลดั กันแสดงบทบาทสมมตใิ หกลุม อ่นื ทายโดยไมใชเสียงพูด ไมใชอปุ กรณใชแ ตทา ทางประกอบการแสดงเทา น้ัน กลมุ ใดท่ีเพือ่ นยงั ทาย ไมถูก ใหแ สดงใหมจ นกวา จะมีกลมุ ใดกลมุ หน่งึ ทายถูก 4.ครแู ละนักเรียนรวมกนั สนทนา อภิปราย วิเคราะหส ิง่ ทีไ่ ดจ ากการแสดงกจิ กรรม ดงั นี้ – ทำไมบางกลุม แสดงแลว เพ่ือนจงึ ทายไมถกู เพราะเหตุใด
49 – ทำไมบางกลุมแสดงหนเดียว เพื่อนก็ทายถูกแลว เพราะเหตใุ ด – ทำไมบางกลมุ แสดงแลว แสดงอีก เพ่อื นกย็ ังทายไมถกู เพราะเหตใุ ด (ถาม)ี – ในการรว มกนั ทำงานตาง ๆ นนั้ นกั เรียนคดิ วา นา จะรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของ ผูอื่นหรือไม เพราะเหตใุ ด – ในขณะท่ีนักเรียนรว มกนั วางแผนเพือ่ เตรียมแสดงบทบาทสมมตินั้น กลมุ ของ นักเรยี นรับฟง ความคิดเห็นของสมาชิกในกลุมหรือไม อยางไร – ผลท่ไี ดรบั จากการบั ฟงความคิดเห็นของกันและกันนน้ั เปนอยา งไร ดีหรือไม เพราะเหตใุ ด – ผลที่ไดรบั จากการไมร ับฟง ความคิดเหน็ ของกันและกนั เปน อยางไร ดีหรือไม เพราะเหตใุ ด 5. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรปุ และเสนอแนวทางการรูจ กั รบั ฟงความคิดเหน็ ของกัน และกัน ดังนี้ “ในชวี ิตประจำวันของคนเราตอ งอยรู วมกับบุคคลตา ง ๆ ทัง้ ท่บี าน ท่ีโรงเรยี น หรือท่ี ทำงาน การฝกตนเองใหรจู ักรบั ฟงความคิดเหน็ ของกันและกันในการกระทำส่งิ ตาง ๆ ไมว า จะ เปน การกระทำรว มกบั สมาชกิ ในครอบครัว เพือ่ นเรยี น หรอื เพ่ือนทำงาน จะชวยใหผลงานหรอื การ กระทำน้นั ๆ ดำเนินไปอยา งราบร่ืน และมีประสทิ ธิภาพ” แหลง การเรยี นรู 1. หองสมุด 2. หนังสอื
Search