Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM

รายงานการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM

Published by Rattikan Youtsook, 2019-03-27 12:53:33

Description: รายงานการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM

Search

Read the Text Version

รายงานการพฒั นาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่ นางวิลาวัลย์ ปาลี ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 เชยี งใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

บทที่ 1 ความเป็นมาของนวัตกรรม โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่ เป็นโรงเรยี นที่ก่อตัง้ ขนึ้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ของการจัดต้ังเพ่ือรับเด็กด้อยโอกาสที่มีความเป็นอยู่ด้อยกว่าเด็กปกติท่ัวไป ได้แก่ เด็กยากจนมากเป็นพิเศษ (ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาทต่อปี) เด็กกาพร้า เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กในชนกลุ่มน้อย เด็กถูกทาร้าย ทารุณ เด็กท่ีได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ เด็กเร่ร่อน แรงงานเด็ก เด็กในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชนฯลฯ ในเขตพน้ื ทีอ่ าเภอแม่แจ่ม อาเภอฮอด อาเภอจอมทอง อาเภอดอยเต่า อาเภออมก๋อยและอาเภอ ดอยหล่อ โดยโรงเรียนเน้นการพัฒนา ๓ ทักษะ คือ ทักษะวิชาการ ทักษะอาชีพ และทักษะการดารงชีวิต อีก ท้ั ง โ ร ง เ รี ย น ยั ง เ ส ริ ม ส ร้ า ง ใ ห้ ผู้ เ รี ย น มี คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ ต ร ง ต า ม อั ต ลั ก ษ ณ์ ข อ ง โ ร ง เ รี ย น ราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ “สุขภาพดี คณุ ธรรมเดน่ เปน็ จิตอาสา” เพ่ือให้ผู้เรียนมีสุขภาพท่ี ดี มคี ณุ ธรรม มีนสิ ัยทเี่ ปน็ จติ อาสาชว่ ยเหลอื ชมุ ชนและสังคม และยังเก่ยี วกบั การบริหารจดั การของสถานศกึ ษา ซ่ึงถือว่ามีบทบาทสาคัญท่ีสุด ปัจจัยการขับเคลื่อนภายในสถานศึกษาที่เหมาะสมกับแต่ละบริบทของ สถานศึกษา คือ สิ่งสาคัญทจี่ ะทาใหก้ ารพัฒนาใหบ้ รรลผุ ลตามเป้าหมายได้ (นลินี ทวีสนิ , ๒๕๔๙) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้พัฒนานวัตกรรมท่ีช่วยในการพัฒนา โรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มกี ระบวนการ ขบั เคลอ่ื นการดาเนนิ งาน โดย TEAM เปน็ การบริหารจดั การเพ่ือให้การดาเนนิ งานพัฒนาสถานศกึ ษา จนประสบ ความสาเร็จ มอี งคป์ ระกอบดังนี้ T : Trainer หมายถึง หวั หน้ากลุ่มงานเป็นการกระจายอานาจการบรหิ ารงานใน สถานศึกษา โดยการนาครูและบุคลากรท่ีมีความรู้และประสบการณ์ขึ้นมาเป็นหัวหน้าคณะทางาน ซึ่งได้จัดทา โครงสร้างการบริหารงานภายในสถานศึกษาแบ่งออกเป็น ๑๐ กลุ่มงาน E : Environment หมายถึง แหล่ง เรียนรู้/ส่ิงแวดล้อมเป็นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษา เพ่ือให้เป็นอุทยานการเรียนรู้และทาให้เกิด สิง่ แวดลอ้ มทเ่ี ออื้ ต่อการเรียนรวู้ ถิ พี อเพยี ง โดยสามารถใช้เป็นสถานท่ีสาหรบั ผเู้ รียน บคุ ลากร ชมุ ชน สถานศึกษา และหน่วยงานต่าง ๆ ได้มาศึกษาหาความรู้ได้ทุกที่ภายในสถานศึกษา ซึ่งเป็นไปตามเอกลักษณ์ของโรงเรียนคือ “อุทยานการเรียนรู้” A : Active Learning หมายถึง การเรียนรู้แบบลงมือทาจริง และ M1 : Man หมายถึง การบริหารบุคลากร ครูและบุคลากรภายในสถานศึกษา ซ่ึงถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่สาคัญท่ีสุด เพราะการพัฒนา หรือการดาเนินงานต่างๆ ต้องอาศัยครูและบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ท้ังในด้านความคิด การวางแผน การ ดาเนินการ โดยมีการจัดหน้าที่ปฏิบัติงานของครูและบุคลากรให้เหมาะสมกับงานตรงตามความสามารถของแต่ ละบุคคล พร้อมทั้งยังได้รับความร่วมมือที่ดีจากภาคีเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น จาก คณะกรรมการสถานศกึ ษา ฯลฯ จนทาใหเ้ กดิ การผลการพฒั นาองค์กรอย่างมีประสทิ ธภิ าพสูงสุด M2 : Money หมายถึง การบริหารงบประมาณ การบริหารจัดการงบประมาณมีการวางแผนปฏิบัติการ เก่ียวกับ การใช้ งบประมาณ จัดทามาตรฐานภาระงานงบประมาณ มีการช้ีแจงให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบ การ มอบหมายงานให้รับผิดชอบโดยคานึงถึงความรู้ความสามารถและความต้องการของสถานศึกษา ใช้งบประมาณ ตรงตามกรอบและวัตถุประสงค์ และมีประสิทธิภาพ M3 : Materials หมายถึง การบริหารทรัพยากรที่คุ้มค่า โดยมีการวางแผนการใช้ตามความจาเป็นและความเหมาะสม เพียงพอ M4 : Management หมายถึง กระบวนการจัดการในสถานศึกษา เพื่อให้การดาเนินงานท้ังหมดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิด ประสิทธิผลอย่างเต็มท่ี โดยมีระบบการนิเทศ กากับติดตามท่ีเป็นระบบอย่างต่อเน่ือง ซึ่งเป็นปัจจัยท่ีสาคัญช่วย ให้สถานศึกษาพัฒนาไปในทิศทางที่ต้องการ ทั้งน้ีโดยท่ีผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง มีบทบาท สาคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการดาเนินงานเพื่อบรรลุผลตามเป้าหมาย และ (+) คือ“ Information and

communications technology (ICT)” ในการพัฒนาสถานศึกษาให้มี การดาเนินงานทั้ง ๔ องค์ประกอบ (TEAM+) แล้ว กระบวนการดาเนินงานเป็นปัจจัยสาคัญที่นาไปสู่ การประสบความสาเร็จในการพัฒนา สถานศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาขับเคล่ือนสถานศึกษา คือ“Information and communications technology (ICT)” การบริหารงานโดยการนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาอานวยความสะดวกในการทางาน เพื่อให้ เกิดความรวดเร็วและมีข้อมูลสารสนเทศท่ีเที่ยงตรง น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ทันที โดยใช้ระบบ checkin.rpk๓๑ school ของสถานศึกษาคิดค้นขึ้นมาในการจัดการข้อมูลสารสนเทศทั้งหมด ภายใต้กรอบ แนวคิดปัจจัยสาคัญท่ีส่งเสริมสุขภาวะทั้ง 5 ด้าน และได้คานึงถึงความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาเป็น สาคัญ โดยออกแบบนวัตกรรมให้สอดคล้องกับสภาพบริบทของโรงเรียนเป็นสาคัญ เพ่ือพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นสุข โรงเรียนเป็นสุข ส่ิงแวดล้อมเป็นสุข ครอบครัวเป็นสุขและชุมชนเป็นสุข อันจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการ จดั การศกึ ษาของโรงเรียนและพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี นให้มีคุณภาพตามเป้าหมาย จุดมุ่งหมายของการศกึ ษา ๑. เพ่ือสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราช ประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่ ๒. เพ่ือเปรียบเทียบผลการประเมินสุขภาวะของผู้เรียนก่อนและหลังใช้นวัตกรรมในการพัฒนา โรงเรียนสขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model 3. เพื่อสารวจความพึงพอใจเกี่ยวกับ การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ ขอบเขตการศึกษา ๑. ขอบเขตด้านประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง ๑.๑ ประชากรที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังนป้ี ระกอบดว้ ย ๑.๑.๑ ผบู้ ริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จานวน ๘๘ คน ๑.๑.๒ คณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พื้นฐาน จานวน ๑๐ คน ๑.๑.๓ ผู้เรยี น จานวน ๗๙๗ คน ๑.๑.๔ ผู้ปกครองผู้เรียน จานวน ๗๙๗ คน ๑.๒ กลุ่มตวั อยา่ งที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ี การศึกษาครั้งน้ีเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพและการศึกษาเชิงปริมาณ เก็บรวบรวม ขอ้ มูลจากกลุ่มประชากรที่เก่ียวขอ้ ง ส่วนการศึกษาเชิงปริมาณด้านความพึงพอใจท่มี ีต่อการพัฒนาโรงเรยี นสุข ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่เก็บรวบรวมข้อมูลจาก กลุ่มตัวอย่างได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple ramdom sampling) จานวนกลุ่มตัวอย่างตาม ตารางเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, ๑๙๗๐ อ้างใน ธีรวุฒิ เอกะกุล, ๒๕๔๓) ประกอบด้วย ๑.๒.๑ ผู้บริหารและครผู ้สู อน จานวน ๗๐ คน ๑.๒.๒ คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน จานวน ๑๐ คน ๑.๒.๓ ผู้เรยี น จานวน ๒๖๐ คน ๑.๒.๔ ผ้ปู กครองผูเ้ รยี น จานวน ๒๖๐ คน ๒. ขอบเขตดา้ นเนอ้ื หา สภาพและผลการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ กาหนดขอบข่ายการศึกษาผลการดาเนินงานโดยประเมินผลผลิต และผลลัพธ์ท่ีเกิดจากการนานวตั กรรมไปใช้ ดังนี้

ดา้ นผลผลติ ประเมนิ ผลการดาเนินงาน จากประเดน็ ต่อไปนี้ - ผลการพัฒนาผู้เรียน ตามเป้าหมายการดาเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ระดับเพชร การมีจิตอาสาต่อส่วนรวมและสังคม การดาเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน การดาเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยา เสพตดิ และอบายมุข - ความพึงพอใจที่มีต่อพัฒนาการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ดา้ นผลลพั ธ์ ประเมนิ ผลการดาเนินงานจากประเด็น ดงั นี้ - ผลของการการดาเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพระดับเพชร - ผลของการดาเนินโครงการศนู ย์การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การพฒั นาระบบดแู ลชว่ ยเหลือผเู้ รียน การดาเนนิ โครงการสถานศกึ ษาสีขาว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมุข - ผลงานหรือรางวัลเกียรติยศทไ่ี ดร้ บั ๓. ขอบเขตด้านระยะเวลา ระยะเวลาศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ นิยามศัพท์เฉพาะ ๑. TEAM+ Model หมายถึง รูปแบบของการบริหารสถานศึกษา ท่ีมีการแบ่ง ออกเป็น ๒ ส่วน โดยส่วนท่ี ๑ TEAM ประกอบด้วย T : Trainer หมายถึง หัวหน้ากลุ่มงานเป็นการกระจายอานาจการ บริหารงานในสถานศึกษา E : Environment หมายถึง แหล่งเรยี นรู้/สิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ใน สถานศึกษา A : Active Learning หมายถึง การเรียนรู้แบบลงมือทาจริง และ M1: Man หมายถึง การ บริหารบุคลากร M2 : Money หมายถึง การบริหารงบประมาณ M3: Materials หมายถึง การบริหาร ทรัพยากรท่ีคุ้มค่า M4 : Management หมายถึง กระบวนการจัดการในสถานศึกษา และส่วนที่ ๒ Plus (+) ไดแ้ ก่ “Information and communications technology (ICT)” ในการพัฒนาสถานศึกษาให้มีการ ดาเนินงานท้ัง ๔ องค์ประกอบ (TEAM+) แล้ว กระบวนการดาเนินงานเป็นปัจจัยสาคัญ ซึ่งผูศ้ ึกษาได้พัฒนาข้ึน โดยยึดหลกั ความสอดคล้องกับสภาพบรบิ ทของโรงเรยี นเป็นสาคญั ๒. ผลการพัฒนาโรงเรยี นสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ หมายถึง การพัฒนาระบบการบริหารจัดการตามโรงเรียนสุขภาวะ ภายใต้การองค์ประกอบ ของโรงเรยี นสขุ ภาวะท้ัง 5 องค์ประกอบ คือ ผู้เรียนเป็นสขุ โรงเรียนเปน็ สขุ สภาพแวดล้อมเป็นสุข ครอบครัว เปน็ สุข และชมุ ชนเป็นสุข ท้ัง 5 องคป์ ระกอบนม้ี คี วามเกย่ี วเน่ืองและเสรมิ สร้างเปา้ หมายเดียวกัน คอื “ผ้เู รยี น เป็นสขุ ” 3. ผู้เรียนเป็นสุข หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะท่ีดี ในด้านร่างกาย จิตใจ ทักษะชีวิต ความเป็น พลเมืองดี และมคี วามรักในการเรยี นรู้ 4. โรงเรยี นเปน็ สุข หมายถงึ โรงเรียนที่มีระบบการบริหารจดั การท่ีเอื้อต่อการสร้างเสรมิ สขุ ภาวะ ของผู้เรียน โดยใชก้ ระบวนการมสี ว่ นรว่ มของทุกภาคสว่ น 5. สภาพแวดล้อมเป็นสุข หมายถึง โรงเรียนท่ีจัดสภาพแวดล้อมท่ีปลอดภัย ปลอดอบายสุข เอื้อตอ่ การสร้างเสริมสขุ ภาวะผู้เรียน 6. ครอบครวั เปน็ สุข หมายถงึ โรงเรียนที่มคี วามสัมพันธ์ทดี่ กี บั ผปู้ กครองของผ้เู รียน

7. ชุมชนเป็นสุข หมายถึง โรงเรียนที่มีความสัมพันธ์ท่ีดีกับบุคคล และองค์กรในชุมชน เพอื่ เสรมิ สร้างสุขภาวะของผเู้ รยี น 8. ความพึงพอใจท่ีมีต่อการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+Model ของโรงเรียนราช ประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่ หมายถงึ ความรูส้ กึ ความคิดเห็นของผทู้ ีม่ ีสว่ นเกี่ยวข้อง ไดแ้ ก่ ผ้บู รหิ าร ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ผปู้ กครองและผเู้ รยี นที่มีการพัฒนาโรงเรยี นสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model 9. ผู้เรยี น หมายถงึ ผู้เรียนของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ที่กาลังศึกษา อยใู่ นปีการศึกษา ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ ประโยชนข์ องการศึกษา ๑. ได้รูปแบบการดาเนินการพฒั นาโรงเรียนสขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ท่ีมคี ุณภาพ ๒. ผลการศึกษาใช้เป็นองค์ความรู้ เป็นแนวทางในการวางแผนและการขยายผลการพัฒนา รูปแบบในการดาเนินการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะและการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขน้ึ

บทที่ 2 การออกแบบนวตั กรรม แนวคิดและทฤษฎที นี่ ามาเป็นพืน้ ฐานในการออกแบบนวัตกรรม ในการออกแบบนวัตกรรม การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model เพื่อพัฒนาให้มี สุขภาวะท่ีดีทั้งทางกาย จิต ปัญญา และ สังคม ผู้ศึกษาได้ศึกษาแนวคิดและทฤษฎีท่ีเก่ียวข้องเพื่อนามาเป็น พื้นฐานในการออกแบบนวตั กรรม ดงั น้ี ๑. นวัตกรรมและการพฒั นานวัตกรรม ๑.๑ ความหมายของนวัตกรรม ๑.๒ ประเภทของนวตั กรรมการศึกษา ๑.๓ แนวทางพัฒนากระบวนการบริหาร ๑.๔ ขน้ั ตอนการพัฒนานวตั กรรม ๒. โรงเรียนสขุ ภาวะ ๓. งานวิจัยท่เี ก่ียวข้อง ๑. นวัตกรรมและการพัฒนานวตั กรรม ๑.๑ ความหมายของนวตั กรรม จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อสรุป ได้ว่า นวัตกรรม หมายถึง สิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ ความรู้ ความคิด กระบวนการหรือวิธีการทางานใหม่ การเปลี่ยนแปลง กิจกรรม ความคิด การมีหรือการ ปรับปรุง องค์การ รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาหรือกิจกรรมท่ีโรงเรียนพัฒนาข้ึนจึงหมายรวมในคาว่า นวัตกรรมด้วย ๑.๒ ประเภทของนวัตกรรมการศึกษา นวตั กรรมท่ีนามาใช้ในทางการศึกษา ทั้งการกระทาใหมใ่ ดๆ การสรา้ งส่งิ ใหมๆ่ รวมท้ังการ พฒั นาดัดแปลงจากสิง่ ใดๆ เพื่อใชใ้ นการเรยี นการสอน แบง่ เป็น ๕ ประเภท คือ ๑.๒.๑ นวัตกรรมด้านส่ือการสอน ๑.๒.๒ นวตั กรรมด้านการวดั และการประเมินผล ๑.๒.๓ นวัตกรรมดา้ นวิธกี ารจดั การเรยี นการสอน ๑.๒.๔ นวตั กรรมด้านการบรหิ ารจัดการ ๑.๒.๕ นวตั กรรมทางด้านหลกั สตู ร ๑.๓ แนวทางการพฒั นากระบวนการบริหาร TEAM+ Model ๑.๓.๑ การพัฒนารูปแบบการนิเทศเชิงระบบ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนของครูระดับ การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ๑.๓.๒ การบริหารแบบรว่ มมือร่วมใจ เพอ่ื การพัฒนางานวชิ าการ ระดับประถมศึกษา ๑.๓.๓ การบรหิ ารด้วยวัฏจกั รเดมง่ิ เพ่ือการพฒั นาคณุ ภาพงานวชิ าการ ๑.๓.๔ การพฒั นาการบริหารแบบ TOPSTAR เพอ่ื พฒั นาคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ๑.๓.๕ การพฒั นากระบวนการกัลยาณมติ รวจิ ัย เพอื่ เพมิ่ ทักษะการทาวจิ ยั ในชนั้ เรยี นของครู ๑.๓.๖ การบริหารงานกิจการนักเรียนแบบร่วมแรงร่วมใจ เพ่ือการป้องกันและแก้ปัญหา ยาเสพติดในสถานศกึ ษา ๑.๓.๗ การพัฒนาการนิเทศภายในแบบกลั ยาณมิตร ๑๐๐ % เก่ียวกับ การเขียนแผนการ จดั การเรียนรขู้ องครู ระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน

๑.๓.๘ การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาจิตสานึก ประชาธปิ ไตยในสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน สาหรับผูเ้ รยี นช่วงช้ันท่ี ๑ ๑.๓.๙ การพัฒนาการบริหารแบบ ASTEAM เพื่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียน ระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน ๑.๓.๑๐ การพัฒนากระบวนการบริหารแบบพาคิด พาทา เพื่อการทาวิจัยของครูระดับ การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ฯลฯ ๑.๔ ขน้ั ตอนการพัฒนานวัตกรรม ข้ันตอนการวิจัยเชิงการพัฒนา (Research and Development) โดยท่ัวไปกาหนดเป็น ๓ ข้นั ตอน ดงั น้ี ขนั้ ท่ี ๑ การสร้างและหาประสิทธิภาพ โดยดาเนินการในขนั้ ตอนย่อยๆ ดงั น้ี - ศึกษาเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวข้อง - ยกร่างนวัตกรรม (สื่อ วิธีการสอน หลักสูตร การวัดและการประเมิน และ กระบวนการบริหาร) - เสนอผู้เชี่ยวชาญ ขัน้ ที่ ๒ ศึกษาผลการนาไปใช้ - นาไปใชก้ บั กลุม่ ตวั อย่าง/กล่มุ เป้าหมาย - ทาการทดสอบผลและประเมนิ ผลการใช้ - เปรยี บเทียบก่อนใชแ้ ละหลงั ใช้ (ใช้ t-test แบบ t-pair) ขัน้ ท่ี ๓ ประเมนิ ผล - ใช้แบบวัดความพึงพอใจ แบบวัดทัศนคติ แบบวัดความคิดเห็น หรือใช้รูปแบบ ประเมินใดๆเพ่อื การประเมนิ ผลการใชน้ วตั กรรมนน้ั กลา่ วโดยสรุป ข้นั ตอนการพัฒนานวัตกรรม คือ เรมิ่ ต้นด้วย การสรา้ งหรอื การพัฒนา ซึ่ง หมายถึงการยกร่างนวัตกรรมขึ้นมาใหม่หรือการพัฒนาวัตกรรมท่ีมีอยู่แล้วให้ดีขึ้น จากนั้นสู่ขั้นตอนการนา นวัตกรรมไปใช้ หมายถึง การนานวัตกรรมไปใช้กับกลมุ่ เป้าหมาย เพื่อรับรองว่ามีผลการใช้อยู่ในระดับดี โดย ยนื ยนั จากผลการทดสอบ และในขนั้ ตอนสุดท้าย คือ การประเมินผลการใชน้ วัตกรรม หมายถึง การสอบถาม ความคิดเหน็ หรือความพึงพอใจทม่ี ีต่อนวัตกรรมนั้นๆ ว่าดีมีประโยชน์ มีคุณค่า สามารถนาไปใช้ได้เป็นอย่างดี โดยยืนยนั จากเครอื่ งมอื การวดั และประเมนิ ผลนวตั กรรม ๒. โรงเรยี นสขุ ภาวะ จากสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน พบว่า ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ คุณภาพเด็กและเยาวชนไทยมีแนวโน้มลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหน่ึงเกิดจากความล้มเหลวของระบบ การศึกษาไทยจากปัญหาน้ีหลายภาคส่วน ได้เห็นความสาคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ของประเทศโดย ร่วมดาเนินการผ่าน“โรงเรียน” ซ่ึงถือเป็นยุทธศาสตร์ที่มีความสาคัญเป็นอย่างย่ิง เพราะเยาวชนในวัยเรียน ส่วนมากอยู่ในระบบโรงเรียน จึงมีความจาเป็นต้องเสริมสร้างศักยภาพ และพัฒนาโรงเรียนให้สามารถบริหาร จดั การ และจัดกระบวนการเรียนรู้ใหม้ ีคุณภาพได้ และระบบ การศึกษาสรา้ งสุขผ่าน “โรงเรียนสุขภาวะ” คือ ทางเลอื กที่สาคญั ในการแก้ไขปญั หาการศกึ ษาของ เยาวชนไทยในเวลานี้ โรงเรียนท่ีจดั การเรียนการสอนโดยมี เป้าหมายเพ่ือเสริมสร้างให้ “ผู้เรียนเป็นสุข” โดยการปรับสภาพเพื่อลดปัจจัยเส่ียง เพิ่มพฤติกรรมสุขภาพ จดั โครงสร้างและระบบต่างๆ ให้โรงเรียนสภาพแวดลอ้ ม ครอบครัว และชุมชนเปน็ พื้นที่ปลอดภัย และสง่ เสริม

สขุ ภาวะของผู้เรยี นท้งั ด้านกาย ใจสังคมและปญั ญา เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีทกั ษะทจี่ าเป็นตอ่ การรับการเปลี่ยนแปลงสู่ โลกยคุ เทคโนโลยดี ิจิตอล มุ่งสู่โรงเรยี นสุขภาวะและการจดั การศกึ ษาแบบนวตั กรรมยุคใหม่ จากเป้าหมายของ สสส. ท่ีต้องการให้“ทุกคนมีอายุยืนยาวข้ึนอย่างมีสุขภาวะ” จึงจาเป็นต้อง วางรากฐานการพัฒนาสร้างและเสริมให้เด็กและเยาวชนของไทยมีศักยภาพและคุณภาพท่ีเพียงพอเหมาะสม สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยสานักสนับสนุนสุขภาวะเด็กเยาวชนและ ครอบครวั รว่ มกับภาคเี ครือข่ายที่เก่ียวขอ้ งพฒั นาโรงเรียนตามกรอบ แนวคิดเพ่อื พัฒนาสุขภาวะของผู้เรียนท้ัง ๔ มิติ พร้อมพัฒนายกระดับการทางานโรงเรียนให้เป็นพื้นที่ฐานการทางานของการแก้ปัญหาและพัฒนาสุข ภาวะใหส้ อดคล้องกบั ยทุ ธศาสตรท์ ่กี ล่าวมาขา้ งตน้ โดยต้งั แต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จนถงึ ปัจจบุ ัน สสส. ได้ร่วมพัฒนา “โรงเรียนสุขภาวะ”ที่เป็นรูปธรรมกว่า ๓,๐๐๐ โรงเรียนผ่านโครงการและภาคีเครือข่ายตา่ งๆ รวมถึงยังมีการ สร้างความร่วมมือกับคุรุสภา มหาวิทยาลัยราชภัฏ นาร่อง ๑๐ แหง่ มูลนิธิสถาบันวิจัยระบบการศึกษา (IRES) ในการปฏิรูประบบการพัฒนาครูแนวใหม่ที่ที่สามารถจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถ พฒั นาตนเองและแสวงหาความรอู้ ย่างตอ่ เนอื่ งได้ ซึ่งองค์ประกอบหลักของโรงเรียนสขุ ภาวะมี ๕ ด้าน ดังน้ี 2.1 ผูเ้ รียนเปน็ สุข ได้แก่ - ผเู้ รยี นมีสขุ ภาพดี - ผเู้ รยี นมีทักษะการปฏิเสธให้ตนเองพน้ จากอันตราย - ผเู้ รียนอยู่รว่ มกันอยา่ งมคี วามสขุ - ผเู้ รียนมีวนิ ยั รหู้ น้าท่ี มีความรบั ผดิ ชอบ - ผู้เรียนจีตสิ าธารณะ อนุรกั ษท์ รพั ยากรและส่ิงแวดล้อม - ผู้เรยี นกระตอื รอื รน้ ให้ ความสนใจในการเรยี น ๒.2 โรงเรยี นเปน็ สุข ได้แก่ - โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารจดั การทเี่ อื้อตอ่ การสรา้ งเสรมิ สุขภาวะของผเู้ รยี น - โรงเรียนมีการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือเสริมให้ผู้เรียนมีสุขภาวะโดยสอดคล้อง กับบรบิ ทภายในโรงเรยี นและทอ้ งถิน่ - โรงเรียนมีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การติดตาม ประเมินผลร่วมกันภายในโรงเรียน อย่างต่อเนอื่ ง - โรงเรียนมีแหล่งเรียนรทู้ ี่เอ้อื ต่อการเสริมสร้างสุขภาวะของผเู้ รยี น 2.3 สภาพแวดลอ้ มเป็นสุข ได้แก่ - โรงเรยี นเป็นเขตปลอด เหลา้ -บหุ ร่ี การพนนั และสิ่งเสพตดิ - โรงเรยี นมีการคดั เลือกวัตถดุ ิบ เครือ่ งดม่ื และอาหารวา่ งทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ สุขภาวะของผเู้ รียน - บรรยากาศในโรงเรียนและห้องเรียนเอ้ือต่อการจัดกระบวนการเรยี นรู้ของผ้เู รียน - โรงเรยี นมีระบบป้องกันภยั และมีการตรวจสอบอย่างสมา่ เสมอ - โรงเรยี นมีการจดั สภาพ บริเวณโรงเรยี นใหม้ ีบรรยากาศร่มร่ืนและส่งเสรมิ การเรียนรู้ 2.๔ ครอบครวั เปน็ สุข ไดแ้ ก่ - ครอบครัวรับฟังและให้คาแนะนาท่ีเป็นประโยชน์แก่ ผู้เรียนในการป้องกันความเสี่ยงต่อ พฤติกรรมท่ที าลายสุขภาวะ - ครอบครวั และโรงเรยี นมกี ารแลกเปล่ยี นข้อมูลทางดา้ นสุขภาวะเพอ่ื ร่วมพฒั นา สขุ ภาวะผู้เรียน - ครอบครัวมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น การดูแลเอาใจใส่ด้านการเรียนและ พฤติกรรมด้วยวธิ ีเชิงบวก

- ครอบครวั เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการเสริมสร้างสขุ ภาวะของโรงเรียน 2.5 ชมุ ขนเป็นสุข ไดแ้ ก่ - ชมุ ชนและโรงเรยี นดาเนนิ การรว่ มกนั สเู่ ป้าหมายโรงเรียนสุขภาวะ - ชมุ ชนมสี ่วนรว่ มในการส่งเสริม สนบั สนุนการจัดการศกึ ษา - สรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือในการจัดการศึกษาด้านตา่ งๆ อย่างหลากหลาย 3. งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวข้อง การศึกษาแนวทางการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ Guideline Study To Develop Healthy School เกรียงวุธ นีละคุปต์ ประภาช วิวรรธมงคล การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพ่ือศึกษาความ ตอ้ งการในการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ ๒) เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ กลุ่มเป้าหมายท่ี ใช้ในการวิจัยได้แก่ โรงเรียนสังกัดการศึกษาข้ันพื้นฐานจังหวัดราชบุรีและจังหวัดนครปฐม จานวน ๓๔ โรงเรียนรวมผู้บริหารและครูผู้สอนจานวน ๓๕๒ คน ได้มาโดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง เคร่ืองมือที่ใช้ใน การวิจัย ได้แก่ จิตศึกษา การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ชุมชนแห่งการเรียนร้วู ิชาชีพและการ อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ข้อมลู ใช้การวิเคราะห์ เน้ือหา ผลการวิจัย พบว่า ๑. ความตอ้ งการใน การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะประกอบด้วย ๑) ด้านความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั เคร่ืองมือนวัตกรรม ๒) ดา้ นการ สร้างเครือข่ายในการทางาน ระหว่างโรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษาและมหาวิทยาลัย ๓) ด้านงบประมาณ ๔) ด้านส่ือการสอนและคู่มือ และ๕) ด้านการดาเนินการอย่างเป็นระบบตามรูปแบบ PDCA ๒ แนวทางในการ พัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ ประกอบด้วย ๑) สนับสนุนงบประมาณและวางแผนดาเนินการ ๒) สร้างความรู้และ ความเข้าใจ ๓) สร้างชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้วชิ าชีพ ๔) นาเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ๕) กากับ ตดิ ตาม ๖) เสริมแรงและสร้างขวัญกาลังใจ และ๗) สะท้อนความคิดการพัฒนาแนวทางการดาเนินงานโรงเรียนสุข ภาวะสาหรับสถานศึกษา สังกัด สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๑ (ดวงดาว แช่มชื่น, รังสรรค์ โฉมยา) การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือ ๑) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดโรงเรียนสุขภาวะสาหรับ สถานศึกษา ๒) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์โรงเรียนสุขภาวะสาหรับสถานศึกษา ๓) พัฒนา แนวทางการดาเนินงานโรงเรียนสุขภาวะสาหรับสถานศึกษา สงั กัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา อดุ รธานี เขต ๑ กล่มุ ตวั อย่าง คอื ผู้บริหารสถานศึกษาและครอู นามยั โรงเรยี น จานวน ๓๐๖ คน ไดม้ าจากการ สุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินองค์ประกอบและตัวช้ีวัด แบบสอบถาม แบบ สัมภาษณ์ แบบประเมินแนวทางสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีลาดับ ความสาคัญของความต้องการจาเป็นแบบปรับปรุง ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบและตัวช้ีวัดโรงเรียนสุข ภาวะสาหรับสถานศึกษามี ๕ องค์ประกอบ ๑๔ ตัวชี้วัด ได้แก่ ๑) ด้านผู้เรียนเป็นสุข มี ๖ ตัวชี้วัด ๒) ด้าน โรงเรยี นเป็นสุข มี ๓ ตัวชี้วัด ๓) ดา้ นสภาพแวดลอ้ มเป็นสขุ มี ๑ ตวั ช้ีวัด ๔) ดา้ นครอบครวั เป็นสุขมี ๓ ตวั ชวี้ ัด และ ๕) ด้านชุมชนเป็นสุขมี ๑ ตัวชี้วัด ๒. สภาพปัจจุบันของการดาเนินงานโรงเรียนสุขภาวะสาหรับ สถานศึกษาโดยรวม อยู่ในระดับมากทุกด้าน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก (๓.๖๘) ด้านท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ผู้เรียนเป็นสุข (๓.๘๖) ด้านท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยสุด มี ๒ ด้านมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ ด้านสภาพแวดล้อมเป็นสุขและด้านครอบครัวเป็นสุข (๓.๖๒) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์การดาเนินงาน โรงเรียนสุขภาวะสาหรับสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุดทุกด้าน (๔.๖๘) และเม่ือพิจารณาเป็นราย ด้าน พบว่า ด้านท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสดุ คือ ด้านผู้เรยี นเป็นสขุ (๔.๗๖) ด้านท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด มี ๒ ด้านค่าเฉลี่ย เท่ากัน คือ ด้านสภาพแวดล้อมเป็นสุขและครอบครัวเป็นสุข (๔.๖๓) ๓. แนวทางการพัฒนาการดาเนินงาน โรงเรียนสุขภาวะสาหรับสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ดา้ นผู้เรียนเป็นสุข ประกอบด้วย ๗ แนวทางด้านโรงเรยี นเปน็ สขุ ประกอบด้วย ๖ แนวทางดา้ นสภาพแวดลอ้ ม

เป็นสุข ประกอบด้วย ๖ แนวทางด้านครอบครัวเป็นสุข ประกอบด้วย ๖ แนวทางและด้านชุมชนเป็นสุข ประกอบด้วย ๕ แนวทาง

บทท่ี ๓ การดาเนินการพัฒนานวัตกรรม การสร้างนวัตกรรม การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มขี นั้ ตอนการดาเนนิ งาน ดงั นี้ การวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มและศกั ยภาพ SWOT Analysis. ศกึ ษาเอกสาร งานวจิ ยั / แนวทางการพัฒนาโรงเรียนสขุ ภาวะ วางแผนเพือ่ ออกแบบนวัตกรรมให้เหมาะสม กบั สภาพปัญหาและบริบทของโรงเรยี น กระบวนการการพฒั นาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ NO ปรับปรงุ แก้ไข/พัฒนา YES ผลผลติ ผลลัพธ์ YES No แผนภาพแสดงกระบวนการสรา้ งนวตั กรรม การพฒั นาโรงเรยี นสขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑

ขัน้ ตอนการดาเนนิ การพัฒนา ขัน้ ท่ี ๑ การวางแผนการดาเนินงาน (Plan) ๑.๑ การสารวจสภาพปญั หา ความตอ้ งการ ในการพัฒนาโรงเรยี นสขุ ภาวะ โดยการการวเิ คราะห์ สภาพแวดล้อมและศักยภาพ SWOT Analysis. เรียงลาดับความสาคัญและความต้องการจาเป็นในการ แก้ปัญหา พบวา่ พฤติกรรมด้านสุขภาพ การแสดงออกดา้ นคุณธรรมจริยธรรม และการเปน็ จิตอาสาของผู้เรียน มีความสาคัญและจาเป็นต้องได้รับการแก้ไข กาหนดเป็นอัตลักษณ์เป้าหมาย ๓ ด้าน ได้แก่ มีสุขภาพดี มี คุณธรรมเด่นและเป็นจิตอาสา และได้กาหนดวิสัยทัศน์โรงเรียนสุขภาวะ “ภายในปี 2562 โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 เชียงใหม่ มุ่งพัฒนาไปสู่โรงเรียนท่ีมีความเข้มแข็งด้านการเสริมสร้างสุขภาวะของ นกั เรียนและชมุ ชน” ๑.๒ กาหนดขอบข่ายองค์ประกอบและพฤติกรรมตัวช้ีวัดที่ต้องการพัฒนาผู้เรียน โรงเรียน สภาพแวดล้อม ครอบครัว และชุมชน ให้เป็นสุข โดยทุกส่วนร่วมกันวิเคราะห์เพ่ือกาหนดพฤติกรรมบ่งชี้เชิง บวกท่ีเปน็ ตัวชว้ี ดั ในวสิ ยั ทศั น์ ซ่ึงสรุปขอบข่ายพฤติกรรมบ่งชที้ ตี่ อ้ งการพัฒนาไดด้ งั นี้ ตารางที่ 1 ขอบข่ายองค์ประกอบและพฤติกรรมตัวชี้วัดที่ต้องการพัฒนาผู้เรียน โรงเรียน สภาพแวดล้อม ครอบครัว และชมุ ชน ให้เปน็ สขุ สขุ ภาวะเปา้ หมาย พฤตกิ รรมบ่งชเ้ี ชิงบวก ๑. ผู้เรยี นเป็นสขุ 1. ผู้เรียนมีสุขภาพกายแข็งแรง ๒. โรงเรียนเป็นสขุ 2. นกั เรียน รา่ เรงิ แจ่มใส 3. ผู้เรยี นสามารถปฏิเสธใหต้ นเองพน้ จากอนั ตราย 4. ผ้เู รียนอย่รู ่วมกันอย่างมีความสขุ 5. ผเู้ รยี นมวี นิ ัย รู้หนา้ ที่ มีความรับผดิ ชอบ 6. ผ้เู รยี นมจี ิตสาธารณะ อนรุ ักษท์ รัพยากร และสิ่งแวดล้อม 7. ผู้เรยี นกระตือรือรน้ ให้ความสนใจในการเรียน ๑. ระบบการบริหาร 1.1 ผู้บรหิ ารใชก้ ารสื่อสารแนวราบเพอ่ื ให้เกดิ พลังการขับเคลื่อนการบรหิ าร จัดการองคก์ ร ได้แก่ โรงเรียนมีแผนการดาเนินงานด้านสขุ ภาวะอันเกดิ จากการ ระดมความคดิ เห็นของบุคลากรในโรงเรยี น มีโครงสรา้ งคณะทางานและตดิ ตาม การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะท่ีชัดเจน และ มแี ผนการประเมินการดาเนนิ งานสรา้ ง เสริมสขุ ภาวะอย่างเป็นข้นั ตอน 1.2 ผูบ้ รหิ ารเป็นผู้นาการเปลยี่ นแปลงเพ่ือใหเ้ กดิ กระบวนการเรียนรู้ที่มงุ่ สู่ โรงเรยี นสขุ ภาวะ โดยจัดการเรียนโดยใช้ชีวิต ชมุ ชน และส่ิงแวดล้อมเปน็ ตวั ตั้ง มี หน่วยการเรยี น ทเี่ กย่ี วข้องกับผ้เู รยี น 1.3 การบรหิ ารจดั การโดยสรา้ งกระบวนการแลกเปลยี่ นเรียนรเู้ ป็นทีมเพ่ือให้ เกดิ ชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชีพครู โดย ผ้บู รหิ ารและครูได้พูดคุยเกยี่ วกบั การ เรียนการสอน ในทุกสัปดาห์

สุขภาวะเป้าหมาย พฤติกรรมบ่งช้ีเชงิ บวก ๓. สภาพแวดล้อมเป็น 1.4 มกี ารบริหารองค์กรแบบมีส่วนร่วม โดยทกุ ฝา่ ยทเ่ี ก่ียวขอ้ งรว่ มกาหนด สขุ วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ เปา้ ประสงค์ แผนพฒั นากลยุทธแ์ ละแผนปฏิบัติการท่มี งุ่ ไปสู่ 4. ครอบครัวเป็นสขุ โรงเรยี นสุขภาวะ และรว่ มรับผดิ ชอบต่อผลการบรหิ าร ๒. การพฒั นาครู 2.1 สร้างวุฒิภาวะความเป็นครู ส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม แสวงหา ความรู้ เพ่อื พัฒนาศักยภาพของตนเอง 2.2 ส่งเสริมให้ครูมีการออกแบบและจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบมีส่วนร่วม อย่างหลากหลาย ใชจ้ ติ วิทยาเชงิ บวกในการพัฒนากระบวนการเรยี นร้มู งุ่ สผู่ ้เู รียน 2.3 ส่งเสริมและพัฒนาครูเพื่อสร้างนวัตกรรม ท่ีสามารถนาไปใช้สาหรับการ วดั ผล ประเมินผลตามสภาพจริง 2.4 ส่งเสริมให้ครูมีทักษะความรู้ความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี เพือ่ เกดิ ประโยชน์แกผ่ ้เู รยี น 2.5 สร้างให้ครูเป็นผู้ท่ีมีมนุษย์สัมพันธ์และส่ือสารท่ีดี มีทักษะการ ทางานเปน็ ทีมแบบกลั ยาณมิตร สามารถทางานรว่ มกบั ผู้อื่นได้เปน็ อย่าง ดี 3. การจัดการเรียนการสอน 3.1 ออกแบบการเรยี นรบู้ ูรณาการแบบมีสว่ นรว่ ม เพื่อพัฒนาปัญญาภายใน และภายนอก 3.2 จดั กจิ กรรมการเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) เพื่อให้ผ้เู รยี นเกิดทักษะ ในศตวรรษที่ ๒๑ 3.3 จัดบรรยากาศและสื่อทเ่ี อื้อต่อการเรียนรอู้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 3.4 จัดกจิ กรรมแลกเปลีย่ นเรียนรู้อยา่ งเป็นวถิ ี 3.5 วัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริงด้วยวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย 1. โรงเรียนบูรณาการระบบบริหารจดั การสภาพแวดล้อมอยา่ งเป็นองค์รวม 2. โรงเรียนพัฒนาระบบป้องกันภัยและตรวจสอบสมา่ เสมออย่างต่อเน่ือง 3. โรงเรยี นสรา้ งบรรยากาศสภาพแวดลอ้ มทีส่ ะอาด ปลอดภัย ปลอดอบายมุข สิ่งเสพติด เอื้อต่อการเรยี นรู้ 4. โรงเรียนเป็นตน้ แบบในการจดั สภาพแวดลอ้ มท่เี ออ้ื ตอ่ การจดั การเรยี นรู้ 5. โรงเรียนบรหิ ารจัดการสภาวะโภชนาการได้อยา่ งเป็นระบบตามมาตรฐาน 1. สร้างความร้คู วามเข้าใจของครอบครวั เก่ยี วกบั แนวคดิ โรงเรียนและครอบครัว สขุ ภาวะ 2. พัฒนาความสมั พนั ธท์ ่ีดรี ะหว่างผปู้ กครองกบั โรงเรียน 3. ส่งเสรมิ ใหค้ รอบครัวมสี ่วนรว่ มในการจัดการเรยี นรู้และดูแลช่วยเหลอื ผู้เรียน ให้มีสุขภาวะ

สุขภาวะเป้าหมาย พฤติกรรมบ่งช้เี ชงิ บวก 5. ชมุ ชนเป็นสุข 1. ชุมชนและโรงเรียนดาเนินการรว่ มกันสู่เปา้ หมายโรงเรียนสุขภาวะ 2. ชุมชนมีสว่ นรว่ มในการส่งเสรมิ สนบั สนุนการจดั การศึกษา 3. สรา้ งเครอื ขา่ ยความร่วมมือในการจัดการศึกษาด้านตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย ๑.๓ วเิ คราะหส์ ภาพปัจจบุ ันของโรงเรยี น ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยทเี่ ก่ียวข้อง โดยผู้บรหิ าร ครูคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน และตัวแทนผ้ปู กครองเครือขา่ ย ร่วมกนั วเิ คราะห์เพ่ือ กาหนดแผนงานพฒั นาโรงเรยี นสุขภาวะ ดงั นี้ ตารางที่ 2 แผนงานการพัฒนาโรงเรยี นสขุ ภาวะ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ วิสยั ทัศน์ ภายในปี 2562 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 เชียงใหม่ มุ่งพัฒนา ไปสู่โรงเรยี นทม่ี ีความเข้มแข็งด้านการเสริมสร้างสุขภาวะของนักเรียนและ ชุมชน เป็นต้นแบบด้านการจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนแบบบูรณา การท่ีเน้นปัญหาเป็นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาการคิด ทักษะวิชาชีพ และจิต สาธารณะของนกั เรียน โดยการมีส่วนรว่ มอยา่ งเต็มท่ขี องชุมชน เป้าประสงค์ 1.สถานศกึ ษามีระบบการบริหารจัดการทม่ี ีคุณภาพ 2.สถานศึกษาได้รบั ความร่วมมอื ด้านการจดั การศกึ ษาจากทกุ ภาคส่วน 3.ครูสามารถปฏบิ ตั งิ านตามบทบาทหน้าท่ีอย่างมีประสทิ ธิภาพ 4.ผู้เรยี นมีคณุ ภาพเปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษา 5.ผเู้ รียนค้นพบศกั ยภาพของตนเองดา้ นอาชีพ 6.ผ้เู รียนคน้ พบศกั ยภาพของตนเองด้านศลิ ปะ ดนตรี และกฬี า 7.สถานศึกษามีอาคารสถานท่ีสิ่งแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัด กจิ กรรมการเรียนการสอนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 8.สถานศึกษามหี ลักสตู รและกระบวนการจัดการเรียนรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง กลยทุ ธ์ กลยุทธท์ ่ี 1. โรงเรยี นเป็นสุข กลยทุ ธท์ ่ี 2. ส่งิ แวดล้อมเปน็ สขุ กลยทุ ธ์ท่ี 3. ครอบครัวเป็นสุข กลยทุ ธท์ ี่ 4. ชมุ ชนเปน็ สขุ อตั ลกั ษณ์ ๑. สุขภาพดี ๒. คุณธรรมเดน่ ๓. เป็นจิตอาสา ๑.๔ ออกแบบนวัตกรรมรูปแบบการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหา และสภาพบริบทและแผนงานโรงเรียนทั้ง ๓ ได้แก่ โรงเรียนเพชร โรงเรียนจิตอาสา และโรงเรียนคุณธรรม โดยสร้างนวัตกรรมการปฏิบัติในช่ือว่า “การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่” ขนั้ ท่ี ๒ การดาเนนิ งาน (DO) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้สร้างนวัตกรรมและนาไปใช้ในการ ดาเนินการเพอื่ การพฒั นาโรงเรียนสุขภาวะ ดงั น้ี

นวัตกรรม การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model โดยให้ผู้เรียนมี “สุขภาพดี คุณธรรมเด่น เป็นจิตอาสา” โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อนา นวัตกรรม การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการและการ ดาเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทและสภาพปัญหาของโรงเรียน โดยใช้เทคนิคกระบวนการวงจรคุณภาพของ เดมม่ิง PDCA ในกระบวนการดาเนินงาน ภายใต้รูปแบบ TEAM+ Model ซึ่งเป็นรูปแบบการบริหารจัดการ หลักของสถานศึกษา นวัตกรรมการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ ดังน้ี T : Trainer หมายถึง หวั หน้ากลุ่มงาน เน่ืองจากโรงเรียนมีรองผู้อานวยการจานวน ๑ ท่าน ฉะนั้นการดาเนินงานแต่ละด้านอาจทาให้เกิด ความล่าชา้ ส่งผลให้งานไม่ราบร่ืนและไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนี้ จึงมีการกระจายอานาจการบริหารงานใน สถานศึกษา โดยการนาครูและบุคลากรที่มีความรู้ ประสบการณ์ข้ึนมาเป็นหัวหน้าคณะทางาน ซึ่งได้จัดทา โครงสร้างการบริหารงานภายในสถานศึกษาแบ่งออกเป็น ๑๐ กลุ่มงาน คือ ๑) กลุ่มส่งเสริมกิจการผู้เรียน ๒) กลุ่มงานวินัยผู้เรียน ๓) กลุ่มการเงินและสินทรัพย์ ๔) กลุ่มนโยบายและแผน ๕) กลุ่มอานวยการ ๖) กลุ่ม อาคารสถานที่ ๗) กลุ่มบริหารงานบุคคล ๘) กลุ่มบริหารงานบุคคล ๙) กลุ่มงานส่งเสริมวิชาการ และ ๑๐) กลุ่มงานตามนโยบาย โดยมีการวางแผนร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่อนาไปสู่การปฏิบัติท่ีมีเป้าหมายตรงตาม วัตถุประสงค์ของงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด ท้ังด้านผู้เรียน สถานศึกษา ครูและ บคุ ลากรของโรงเรียน E : Environment หมายถึง แหลง่ เรยี นร/ู้ ส่งิ แวดลอ้ ม เป็นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษา เพ่ือให้เป็นอุทยานการเรียนรู้และทาให้เกิดส่ิงแวดล้อมท่ี เอื้อต่อการเรียนรู้วิถีพอเพียงและใช้แหล่งเรียนรู้ ส่ิงแวดล้อมในสถานศึกษาพัฒนาผู้เรียนเกิดนิสัยที่เป็นคนที่มี สุขภาพดี เป็นคนท่ีมีคุณธรรมเด่นและเป็นคนท่ีมีจิตอาสา พร้อมทั้งยังสามารถใช้สถานศึกษาเป็นท่ีสาหรับ ผู้เรียน บุคลากร ชุมชน สถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ได้มาศึกษาหาความรู้ได้ทุกท่ีภายในสถานศึกษา ซ่ึง เปน็ ไปตามเอกลักษณข์ องโรงเรียน คอื “อุทยานการเรยี นรู้” A : Active Learning หมายถึง การเรียนรแู้ บบลงมือทาจรงิ เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเสริมสร้างอัตลักษณ์ให้ผู้เรียนเข้ากับทุกรายวิชาที่จัดการ เรยี นการสอน ทาใหผ้ ู้เรยี นได้มบี ทบาทในการแสวงหาความรู้จากอุทยาการเรียนรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสมั พันธ์ จนเกดิ ความรคู้ วามเข้าใจนาไปประยกุ ต์ใชไ้ ดส้ ามารถวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ ค่า หรือสร้างสรรค์ส่ิงต่างๆ สามารถพัฒนาตนเองเต็มความสามารถและยงั ชว่ ยในการปลกู ฝังใหผ้ ้เู รยี นมีอัตลักษณต์ ามสถานศกึ ษากาหนด

M๑: Man หมายถึง การบริหารบุคลากร ครูและบุคลากรภายในสถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหลักท่ีสาคัญท่ีสุด เพราะการพัฒนาหรือการ ดาเนินงานต่างๆ ต้องอาศัยความร่วมมือจากครูและบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ท้ังในด้านความคิด การ วางแผน การดาเนินการ โดยมีการจัดหน้าท่ีปฏิบัติงานของครูและบุคลากรให้เหมาะสมกับงานตรงตาม ความสามารถของแต่ละบุคคล พร้อมท้ังยังได้รับความร่วมมือท่ีดีจากภาคีเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชนใน รูปแบบต่างๆ เช่น จากคณะกรรมการสถานศึกษาฯลฯ จนทาให้เกิดการผลการพัฒนาองค์กรอย่างมี ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ M๒ : Money หมายถึง การบริหารงบประมาณ การบริหารจัดการงบประมาณมีการวางแผนปฏิบัติการเก่ียวกับการใช้งบประมาณ จัดทามาตรฐาน ภาระงานงบประมาณ มีการช้ีแจงให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบ การมอบหมายงานให้รับผิดชอบโดย คานึงถงึ ความรคู้ วามสามารถและความตอ้ งการของสถานศึกษา ใช้งบประมาณตรงตามกรอบและวัตถุประสงค์ ถูกต้องตามระเบียบ มีระบบควบคุม ตรวจสอบภายใน รายงานการใช้งบประมาณเป็นปัจจุบัน และมีการ ประเมินผลและนาผลไปปรับปรุง และในการจัดตั้งคาของบประมาณของแต่ละปี สถานศึกษาได้รับการจัดสรร งบประมาณในทุกดา้ นอย่างเพยี งพอ สามารถวางแผนบรหิ ารงบประมาณได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ M๓ : Materials หมายถงึ การบรหิ ารทรัพยากร มีการบริหารทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยมีการวางแผนการทรัพยากรที่เป็นวัสดุ อุปกรณ์ตามความ จาเป็นและความเหมาะสม สถานศึกษาได้จัดสรรทรัพยากรในทุกๆด้านอย่างเพียงพอ ลดจานวนทใ่ี ช้เกินความ ความจาเป็นออกให้มากท่ีสุด เพื่อทจ่ี ะมาช่วยในการพัฒนาองค์กรหรือสถานศกึ ษาใหม้ ีความกา้ วหนา้ ในทุกดา้ น M๔ : Management หมายถงึ กระบวนการจดั การ เป็นกระบวนการจัดการบริหารงานในสถานศึกษา เพื่อให้การดาเนินงานทั้งหมดเป็นไปอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ และเกิดประสิทธิผลอยา่ งเต็มท่ี โดยมรี ะบบการนิเทศ กากบั ติดตามที่เปน็ ระบบอย่างต่อเนื่อง ซ่ึง เป็นปัจจัยทีส่ าคัญช่วยใหส้ ถานศึกษาพฒั นาไปในทิศทางท่ีตอ้ งการ ทง้ั นี้โดยที่ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงาน ที่เกย่ี วขอ้ ง มีบทบาทสาคัญเป็นอย่างย่งิ ตอ่ การดาเนนิ งานเพ่ือบรรลุผลตามเปา้ หมาย ข้ันท่ี ๓ การนเิ ทศ กากบั ตดิ ตาและประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน(Check) การร่วมกันกาหนด ตัวช้ีวัดความสาเร็จ (KPI:Key Performance Indicator )โดย กาหนดตั้งแต่ระดับบุคคลและโรงเรยี น จนเป็นตัวบ่งชี้เดียวกนั ทั้งระดับบุคคลและโรงเรียน จัดระบบการนิเทศ กากับติดตามแบบกัลยาณมิตรพร้อมท้ังสร้างขวัญกาลังใจให้กับบุคลากรและการประเมินผลการดาเนินการ สร้างอัตลักษณ์ผู้เรียน โดยใช้ TEAM+ Model โดยประเมินผลผลิตและผลลัพธ์ท่ีเกิดจากการนานวัตกรรมไป ใช้ดงั นี้ ดา้ นผลผลติ ประเมินผลการดาเนินงานจาก ประเดน็ ต่อไปนี้ - ผลตามเป้าหมายการดาเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร การมีจิต อาสาต่อส่วนรวมและสังคม การดาเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การ พัฒนาระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผูเ้ รยี น การดาเนินโครงการสถานศึกษาสขี าว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมุข - สุขภาวะ พิจารณาจากผู้เรียนเป็นสุข โรงเรียนเป็นสุข สภาพแวดล้อมเป็นสุข ครอบครวั เป็นสุข และชมุ ชนเปน็ สขุ - ความพึงพอใจท่ีมตี ่อการพัฒนาสขุ ภาวะผู้เรียน โดยใช้ TEAM+ Model

ดา้ นผลลพั ธ์ ประเมินผลการดาเนินงานจากประเดน็ ดังน้ี - นกั เรยี นเกิดคณุ ลักษณะตามอัตลกั ษณท์ ีส่ ถานศึกษากาหนดไว้ - ผลงานหรอื รางวัลเกียรติยศทีไ่ ด้รบั ข้ันตอนวธิ ีดาเนินการประเมินผลการดาเนนิ งาน ๑. การประเมินผลการพฒั นาโรงเรียนสขุ ภาวะตามเปา้ หมายการดาเนินงานของนวตั กรรม ดาเนินการศึกษาผลท่ีเกิดขึ้นจากการพัฒนาสุขภาวะ โดยวิธีการสังเกต สอบถามผู้มีส่วน เกีย่ วข้อง รวบรวมข้อมลู จากเอกสารรายงานผลการดาเนินงาน วเิ คราะห์เน้อื หาและบรรยายสรุปผลการพฒั นา โรงเรียนสขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ตามเป้าหมายของการดาเนินงาน ๒. การประเมินสขุ ภาวะดาเนินการดงั นี้ ๑) ประเมินการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ ก่อนและหลังนานวัตกรรมไปใช้ โดยใช้แบบ ประเมินการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น โดยแบบประเมินเป็นระดับคะแนน 5 ระดับ หาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน เปรยี บเทยี บกบั เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพ โดยแปลความหมายตามเกณฑ์ ดงั น้ี ค่าเฉล่ีย ๔.0๑ – ๕.๐๐ หมายถงึ มีคณุ ภาพระดับดีมาก ค่าเฉลีย่ ๓.0๑ – ๔.0๐ หมายถงึ มีคุณภาพระดับดี คา่ เฉล่ีย ๒.0๑ – ๓.0๐ หมายถึง มีคุณภาพระดับปานกลาง ค่าเฉลยี่ ๑.๐๐ – 2.0๐ หมายถงึ มีคุณภาพระดับปรับปรงุ ๒) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของผลการประเมินคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียนก่อนและหลังใช้ การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ ๓. การศกึ ษาความพึงพอใจทมี่ ีต่อการพฒั นาโรงเรียนสขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ดาเนนิ การ ดังนี้ นาแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ไปเก็บรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่าง นาผลมา วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับความพึงพอใจ โดยแปล ความหมายตามเกณฑ์ ดังนี้ (บญุ ชม ศรีสะอาด, ๒๕๔๕ : ๑๐๓) ค่าเฉล่ีย ๔.๕๑ – ๕.๐๐ หมายถงึ มคี วามพึงพอใจระดบั มากที่สดุ คา่ เฉลยี่ ๓.๕๑ – ๔.๕๐ หมายถึง มคี วามพงึ พอใจระดับมาก คา่ เฉลี่ย ๒.๕๑ – ๓.๕๐ หมายถึง มีความพงึ พอใจระดบั ปานกลาง ค่าเฉลย่ี ๑.๕๑ – ๒.๕๐ หมายถงึ มีความพงึ พอใจระดับน้อย ค่าเฉลีย่ ๑.๐๐ – ๑.๕๐ หมายถงึ มีความพึงพอใจระดับน้อยทส่ี ดุ ๔. การรายงานผลการดาเนนิ งาน(Action) - รายงานผลการดาเนนิ การพร้อมท้งั เสนอแนะแนวทางการปรับปรุงพัฒนาโดยจัดทาเปน็ ราย ผลการดาเนินการโครงการกจิ กรรม รายงานสารสนเทศของโรงเรียน และรายงานผลการใชน้ วตั กรรม - การทบทวนคุณภาพ โดยนาผลการพัฒนา ปัญหาและข้อเสนอแนะมาใช้เป็นข้อมูล สารสนเทศในการวางแผนพฒั นาในการดาเนนิ การครัง้ ตอ่ ไปอยา่ งเปน็ ระบบ สรุป สาระสาคัญของการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราช ประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นนวัตกรรมเพ่ือให้ “ผู้เรียนมีความสุข” มีวัตถุประสงค์เพ่ือนา นวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการและการดาเนินงานให้สอดคล้องกับบริบท สภาพปัญหาของ

โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เทคนิคกระบวนการวงจรคุณภาพของเดมม่ิง PDCA ในกระบวนการดาเนินงาน ซ่ึงมรี ูปแบบการบริหารจัดการหลักของสถานศึกษา คือ TEAM+ Model เป็นปจั จัย ที่ส่งผลต่อการดาเนินงาน การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model กระบวนการบริหารจัดการ ด้านต่างๆของโรงเรียน อาทิ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร เป็นการดาเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ระดับเพชร ๓ มาตรฐาน ๑๙ ตัวชี้วัด ผู้เรียนจิตอาสา เป็นการดาเนินงานกิจกรรมอาสาของผู้เรียนทั้งภายใน และภายนอกสถานศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระบบการดูแลช่วยเหลือ ผู้เรียน และสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข รูปแบบการบริหารจัดการหลักของสถานศึกษา โดยใช้นวัตกรรม การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ซ่ึงเป็นนวัตกรรมท่ีถูกนาไปใช้เพ่ือใน กระบวนการบริหารจัดการดา้ นต่าง ๆ ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่ เพือ่ ให้บรรลุผล ตามแนวทางการดาเนินงานโรงเรียนสุขภาวะ คือ ผู้เรียนเป็นสุข โรงเรียนเป็นสุข สภาพแวดล้อมเป็นสุข ครอบครวั เปน็ สุขและชุมชนเป็นสขุ การมีสว่ นร่วมในการพฒั นานวตั กรรม จากข้ันตอนของการสร้างนวัตกรรมพบว่า TEAM+ Model เกิดจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในและนอก ห น่ ว ย ง า น มี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร ว า ง แ ผ น ก า ร ด า เ นิ น ก า ร ก า ร ป ร ะ เ มิ น แ ล ะ ก า ร ส รุ ป ผ ล ดั ง น้ี ข้ันตอนการวางแผน ผู้บริหาร ครู ผู้เรียน ร่วมกันวิเคราะห์สภาพสภาพปัจจุบัน สารวจพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์และ พฤติกรรมท่ีเป็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นในโรงเรียน เรียงลาดับความสาคัญและความต้องการจาเป็นในการแก้ปัญหา ร่วมกนั กาหนดเป้าหมาย กาหนดยุทธศาสตร์ในการสรา้ งอตั ลกั ษณผ์ ู้เรียน กาหนดแผนการพัฒนา โดยนาเสนอ ผา่ นความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาและภาคีเครือขา่ ยผู้ปกครองกอ่ นดาเนนิ การ ขัน้ การดาเนินการ ในกระบวนการดาเนินการใช้หลักการมีส่วนร่วม ดังนั้นทุกข้ันตอน ทุกกิจกรรมที่จัดจึงมีผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งผู้บริหาร ครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานราชการต่าง ๆ ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องในการดาเนินการ พัฒนาสขุ ภาวะ ข้นั การประเมินและสรปุ ผล การประเมินผลนวัตกรรมเป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้บริหาร ครู ผู้เรียน ผู้ปกครองผู้เรียนและคณะกรรมการสถานศึกษา ที่มีส่วนให้การประเมินและสรุปรายงานผลการ ดาเนนิ งานให้ผมู้ สี ่วนเก่ยี วข้องทราบ

บทท่ี 4 การวเิ คราะห์ข้อมลู ผลที่เกิดจากการนานวัตกรรมไปใช้ การพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อนานวัตกรรมใช้ในพัฒนากระบวนการบริหารจัดการภายในโรงเรียนตาม แนวทางการดาเนินงานโรงเรียนสุขภาวะซึ่งผลการดาเนินงาน พบว่า นวัตกรรม TEAM+ Model สามารถ นาไปใช้ในบริหารจัดการโรงเรียนตามแนวทางโรงเรียนสขุ ภาวะไดต้ ามวัตถุประสงค์ทีก่ าหนดไว้ จึงขอนาเสนอ ผลการนานวัตกรรม ตามวัตถุประสงค์ของการสร้างนวัตกรรม โดยแบ่งผลที่เกิดจากการนานวัตกรรมไปใช้ ใน ๒ ดา้ น ได้แก่ ด้านผลผลิตและด้านผลลพั ธ์ ดงั นี้ ตอนท่ี ๑ ผลการดาเนินงานด้านผลผลติ ๑.๑ ผลการดาเนินงานตามเป้าหมายของการดาเนินงานโรงเรียนสุขภาวะ จากการรวบรวมข้อมูลจากการสังเกต สมั ภาษณผ์ ู้เกี่ยวข้องและรวบรวมข้อมลู จากรายงานผล การดาเนินงานที่เก่ียวข้อง สังเคราะห์เป็นผลการดาเนินงานการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ตามแนวทางการดาเนินงานโรงเรียนสุขภาวะ พบว่า โรงเรียนสามารถดาเนินงานบรรลุเป้าหมายตามตัวบ่งชี้ท่ีได้กาหนดไว้ในแผนงานการพัฒนาโรงเรียนสุข ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ มีการพัฒนาระบบบริหาร จัดการเรียนตามแนวทางโรงเรียนสุขภาวะ จนสามารถขับเคล่ือนโรงเรียนให้เป็นสุขท้ัง ๕ ด้าน ได้แก่ ผู้เรียน เปน็ สุข โรงเรียนเป็นสุข ส่ิงแวดล้อมเปน็ สขุ ครอบครวั เปน็ สขุ และชุมชนเป็นสุข ๑.๒ ผลการประเมนิ สุขภาวะของผ้เู รียน จากการประเมินสุขภาวะของผู้เรียนตามสุขภาวะเป้าหมายและพฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก โดย กลุ่มตัวอย่างเป็นผปู้ ระเมินนักเรียนมีผลการประเมินก่อนและหลังดาเนินการใช้นวัตกรรม การพัฒนาโรงเรียน สขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ ดงั น้ี ตารางที่ 3 เปรียบเทยี บผลการประเมนิ สขุ ภาวะของผูเ้ รยี นก่อนและหลงั ใช้นวัตกรรม สุขภาวะเป้าหมาย/ กอ่ นใช้นวัตกรรม หลังใช้นวตั กรรม พฤติกรรมบ่งช้ี TEAM+ Model TEAM+ Model ด้านท่ี ๑ ผู้เรยี นเปน็ สขุ X S.D แปรผล X S.D แปรผล 1.ผูเ้ รยี นมสี ุขภาพกายแข็งแรง 3.01 0.67 ดี 4.67 0.47 ดีมาก ๑.๑ รบั ประทานอาหารถกู สขุ ลกั ษณะ 2.88 0.80 ปานกลาง 4.51 0.53 ดมี าก ๑.๒ ดูแลความสะอาดของรา่ งกายและ 2.96 0.75 ปานกลาง 4.70 0.46 ดีมาก เส้ือผา้ ๑.๓ ออกกาลังกายสม่าเสมอ 2.78 0.61 ปานกลาง 4.79 0.41 ดมี าก ๑.๔ ไมส่ บู บุหรี*่ 3.22 0.51 ดี 4.81 0.40 ดมี าก ๑.๕ ไมด่ มื่ สุรา* 3.15 0.43 ดี 4.56 0.53 ดมี าก ๑.๖ ร่างกายสมสว่ น ไม่เป็นโรคอ้วน* 2.92 0.85 ปานกลาง 4.67 0.47 ดีมาก ๑.๗ บรโิ ภคผักและผลไมอ้ ย่างเพยี งพอ 3.14 0.77 ดี 4.67 0.47 ดีมาก 2.นกั เรียน ร่าเริงแจม่ ใส 2.81 0.70 ปานกลาง 4.63 0.51 ดีมาก

สขุ ภาวะเปา้ หมาย/ กอ่ นใช้นวัตกรรม หลงั ใชน้ วัตกรรม พฤตกิ รรมบ่งช้ี TEAM+ Model TEAM+ Model ๒.๑ มองโลกในแง่ดี X S.D แปรผล X S.D แปรผล 2.98 0.74 ปานกลาง 4.59 0.52 ดีมาก ๒.๒ ทักทายปราศรัย 2.64 0.65 ปานกลาง 4.67 0.50 ดีมาก 3.ผเู้ รียนสามารถปฏิเสธให้ตนเองพ้นจาก 4.76 0.29 ดีมาก อันตราย 4.38 0.68 ดีมาก ๓.๑ ปฏเิ สธการถูกชกั ชวนใหด้ ื่ม 3.16 0.40 ปานกลาง 2.93 0.25 ปานกลาง แอลกอฮอล์ สบู บหุ ร่ี ส่งิ เสพติดอืน่ ๆ ปฏเิ สธการมีเพศสมั พนั ธ์ ๓.๒ ไม่เลน่ การพนันทกุ ชนิด 3.33 0.47 ดี 4.64 0.48 ดมี าก 5.00 0.00 ดีมาก ๓.๓ การตั้งครรภ์ในวัยเรยี น* 3.27 0.56 ดี 5.00 0.00 ดมี าก 4.70 0.48 ดีมาก ๓.๔ การตายด้วยอุบตั ิเหต*ุ 3.10 0.30 ดี 4.56 0.60 ดมี าก 4.66 0.48 ดีมาก 4.ผู้เรยี นอยรู่ ว่ มกันอยา่ งมีความสุข 2.89 0.46 ปานกลาง 4.68 0.52 ดมี าก 4.74 0.47 ดมี าก ๔.๑ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน 2.78 0.42 ปานกลาง 4.88 0.33 ดีมาก ๔.๒ รัก และเออื้ อาทรต่อเพือ่ น 3.18 0.61 ดี 4.71 0.51 ดีมาก 4.68 0.47 ดีมาก ๔.๓ มาโรงเรียนทกุ วัน 3.23 0.43 ดี 4.51 0.58 ดมี าก ๔.๔ มีการทากิจกรรมทางกายเปน็ ประจา 2.70 0.46 ปานกลาง ๔.๕ มคี วามสขุ ในการดาเนินชีวติ * 2.86 0.42 ปานกลาง ๔.๖ อยใู่ นครอบครัวท่อี บอ่นุ * 2.79 0.41 ปานกลาง ๔.๗ อยูใ่ นชุมชนและทอ้ งถ่ินเขม้ แขง็ * 2.67 0.47 ปานกลาง 5.ผู้เรยี นมวี นิ ัย รหู้ นา้ ที่ มคี วามรับผดิ ชอบ 2.88 0.33 ปานกลาง 6.ผู้เรียนมีจิตสาธารณะ อนุรักษ์ทรัพยากร และสง่ิ แวดล้อม ๖.๑ ชอบอาสา ช่วยเหลือผู้อ่ืน 2.79 0.40 ปานกลาง 4.72 0.45 ดีมาก 2.68 0.49 ปานกลาง 4.77 0.43 ดีมาก 4.67 0.47 ดีมาก ๖.๒ ประหยัดนา้ ประหยดั ไฟ 2.89 0.31 ปานกลาง 4.71 0.46 ดมี าก 7.ผู้เรียนกระตือรือร้นให้ความสนใจในการ 2.92 0.28 ปานกลาง เรียน รวมเฉล่ยี 2.95 0.51 ปานกลาง 4.69 0.45 ดมี าก ด้านท่ี ๒ โรงเรียนเปน็ สุข ๒.๑ ระบบการบรหิ าร 2.87 0.54 ปานกลาง 4.73 0.47 ดมี าก 4.79 0.41 ดมี าก ๑) ผู้บริหารใช้การส่ือสารแนวราบ 2.75 0.46 ปานกลาง เพื่อให้เกิดพลังการขับเคลื่อนการบริหาร จัดการองค์กร ได้แก่ โรงเรียนมีแผนการ ดาเนินงานด้านสุขภาวะอันเกิดจากการ ระดมความคิดเห็นของบุคลากรในโรงเรียน มีโครงสร้างคณะทางานและติดตามการ สรา้ งเสรมิ สุขภาวะท่ชี ัดเจน และ มีแผนการ ประเมินการดาเนินงานสร้างเสริมสุขภาวะ อยา่ งเป็นขน้ั ตอน ๒) ผู้บริหารเป็นผู้นาการเปลี่ยนแปลง 3.03 0.53 ดี 4.77 0.43 ดีมาก เพ่ือให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งสู่โรงเรียน

สุขภาวะเป้าหมาย/ กอ่ นใช้นวัตกรรม หลังใชน้ วัตกรรม พฤตกิ รรมบ่งช้ี TEAM+ Model TEAM+ Model สุขภาวะ โดยจัดการเรียนโดยใช้ชีวิต ชุมชน X S.D แปรผล X S.D แปรผล และสง่ิ แวดลอ้ มเป็นตัวตัง้ มีหน่วยการเรียน 4.66 0.56 ดมี าก ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั ผเู้ รยี น ๓) การบริหารจัดการโดยสร้าง 2.85 0.54 ปานกลาง 4.71 0.46 ดมี าก กระบวนการแลกเปล่ียนเรียนรู้เป็นทีม เพ่ือให้เกิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู 4.60 0.49 ดมี าก โดย ผู้บริหารและครูได้พูดคุยเกี่ยวกับการ 4.60 0.49 ดีมาก เรยี นการสอน ในทกุ สปั ดาห์ 4.73 0.45 ดมี าก ๔) มีการบริหารองค์กรแบบมีส่วน 2.86 0.61 ปานกลาง 4.51 0.50 ดมี าก ร่วม โดยทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องร่วมกาหนด 4.53 0.53 ดมี าก วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ แผนพัฒนา 4.64 0.48 ดมี าก ก ล ยุ ท ธ์ แ ล ะ แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร ท่ี มุ่ ง ไ ป สู่ โรงเรียนสุขภาวะ และร่วมรับผิดชอบต่อผล 4.79 0.41 ดีมาก การบริหาร 4.79 0.41 ดมี าก ๒.๒ การพัฒนาครูประกอบดว้ ย ๕ ตวั บง่ ช้ี 2.83 0.54 ปานกลาง ๑) สร้างวุฒิภาวะความเป็นครู 2.96 0.56 ปานกลาง ส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม แสวงหา ความรู้ เพ่ือพัฒนาศักยภาพของตนเอง ๒) ส่งเสริมให้ครูมีการออกแบบและ 2.82 0.39 ปานกลาง จัดการเรียนรู้บูรณาการแบบมีส่วนร่วม 4.51อย่างหลากหลาย ใช้จิตวิทยาเชิงบวก ในการพฒั นากระบวนการเรยี นรมู้ ุ่งสู่ผู้เรยี น ๓) ส่งเสริมและพัฒนาครูเพื่อสร้าง 2.73 0.48 ปานกลาง นวัตกรรม ที่สามารถนาไปใช้สาหรับการ วดั ผล ประเมินผลตามสภาพจรงิ ๔) ส่งเสริมให้ครูมีทักษะความรู้ 2.66 0.48 ปานกลาง ความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี เพ่ือเกิด ประโยชนแ์ ก่ผูเ้ รยี น ๕) สร้างให้ครูเป็นผูท้ ี่มมี นุษยส์ ัมพนั ธ์ 2.96 0.79 ปานกลาง และส่ือสารท่ีดี มีทักษะการทางานเป็นทีม แบบกัลยาณมิตร สามารถทางานร่วมกับ ผอู้ ่ืนได้เปน็ อยา่ งดี ๒ . ๓ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ประกอบดว้ ย ๕ ตัวบง่ ชี้ 2.79 0.48 ปานกลาง ๑) ออกแบบการเรียนรู้บูรณาการ 2.79 0.41 ปานกลาง แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาปัญญาภายใน และภายนอก

สขุ ภาวะเปา้ หมาย/ กอ่ นใช้นวัตกรรม หลังใช้นวตั กรรม พฤตกิ รรมบ่งช้ี TEAM+ Model TEAM+ Model ๒) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก X S.D แปรผล X S.D แปรผล (Active Learning) เพื่อให้ผ้เู รยี นเกิดทักษะ ในศตวรรษที่ ๒๑ 2.68 0.64 ปานกลาง 4.85 0.36 ดมี าก ๓) จัดบรรยากาศและสื่อที่เอ้ือต่อ 2.85 0.36 ปานกลาง 4.78 0.42 ดีมาก การเรยี นรู้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2.81 0.52 ปานกลาง 2.82 0.48 ปานกลาง 4.70 0.46 ดีมาก ๔) จัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้ 2.83 0.52 ปานกลาง อยา่ งเปน็ วิถี 2.78 0.50 ปานกลาง 4.82 0.39 ดีมาก 2.88 0.37 ปานกลาง ๕) วัดและประเมินผลตามสภาพจริง 2.64 0.48 ปานกลาง 4.71 0.45 ดมี าก ด้วยวธิ ีการที่หลากหลาย 2.70 0.59 ปานกลาง 4.76 0.41 ดีมาก รวมเฉล่ีย 2.74 0.50 ปานกลาง 4.81 0.40 ดมี าก ด้านท่ี ๓ สภาพแวดลอ้ มเป็นสขุ 2.93 0.54 ปานกลาง 2.78 0.50 ปานกลาง 4.71 0.46 ดีมาก 3.1 โรงเรยี นบรู ณาการระบบบริหาร 2.81 0.48 ปานกลาง จดั การสภาพแวดล้อมอยา่ งเป็นองค์รวม 2.92 0.28 ปานกลาง 4.64 0.48 ดีมาก 3.2 โรงเรยี นพฒั นาระบบป้องกันภยั และ 2.89 0.43 ปานกลาง 4.73 0.45 ดมี าก ตรวจสอบสมา่ เสมออย่างต่อเนื่อง 2.62 0.74 ปานกลาง 4.92 0.28 ดมี าก 3.3 โรงเรยี นสรา้ งบรรยากาศสภาพ- 2.81 0.48 ปานกลาง แวดลอ้ มทีส่ ะอาด ปลอดภัย ปลอด 2.58 0.60 ปานกลาง 4.76 0.41 ดีมาก อบายมุขส่ิงเสพติด เอื้อตอ่ การเรยี นรู้ 2.58 0.50 ปานกลาง 4.45 0.54 ดมี าก 3.4 โรงเรียนเป็นต้นแบบในการจัด 4.36 0.59 ดมี าก สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้ือตอ่ การจัดการเรยี นรู้ 4.59 0.50 ดีมาก 3.5 โรงเรียนบรหิ ารจัดการสภาวะ 4.41 0.52 ดมี าก โภชนาการไดอ้ ย่างเป็นระบบตามมาตรฐาน 4.45 0.53 ดี รวมเฉลี่ย ดา้ นท่ี ๔ ครอบครวั เปน็ สขุ 4.57 0.47 ดมี าก 4.38 0.57 ดีมาก 4.1 สร้างความรู้ความเข้าใจของ ครอบครวั เกีย่ วกับแนวคดิ โรงเรยี นและ ครอบครวั สุขภาวะ 4.2 พฒั นาความสัมพนั ธ์ที่ดรี ะหว่าง ผู้ปกครองกบั โรงเรยี น 4.3 ส่งเสริมใหค้ รอบครวั มีสว่ นรว่ มใน การจัดการเรียนร้แู ละดูแลช่วยเหลือผเู้ รยี น ใหม้ ีสขุ ภาวะ เชน่ การอาสาเป็นวทิ ยากร ท้องถ่ิน การอาสาเปน็ กรรมการสถานศกึ ษา เป็นต้น รวมเฉล่ีย ด้านท่ี ๕ ชุมชนเป็นสขุ 5.1 ชุมชนและโรงเรยี นดาเนนิ การ ร่วมกันสเู่ ป้าหมายโรงเรยี นสขุ ภาวะ

สุขภาวะเปา้ หมาย/ กอ่ นใช้นวัตกรรม หลงั ใช้นวตั กรรม พฤติกรรมบ่งช้ี TEAM+ Model TEAM+ Model X S.D แปรผล X S.D แปรผล 5.2 ชุมชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริม 2.64 0.54 ปานกลาง 4.88 0.33 ดมี าก สนับสนุนการจัดการศึกษา เช่น การ ถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวบ้านให้แก่ผู้เรียน การสนบั สนนุ ทรพั ยากร เปน็ ต้น 5.3 สรา้ งเครอื ข่ายความร่วมมือในการ 2.52 0.75 ปานกลาง 4.45 0.50 ดมี าก จัดการศึกษาด้านต่างๆ อย่างหลากหลาย รวมเฉลีย่ 2.58 0.59 ปานกลาง 4.57 0.47 ดีมาก ภาพรวม เฉล่ยี ทงั้ 5 ดา้ น 2.87 0.52 ปานกลาง 4.68 0.45 ดมี าก จากตารางที่ 3 พบว่าโดยภาพรวมผลการประเมินสุขภาวะรวมเฉล่ียอยู่ในระดับดีมาก ( X = 4.68,S.D. = 0.45) สูงกว่าผลการประเมินสุขภาวะก่อนใช้นวัตกรรมที่มีผลการประเมินอยู่ในระดบั ปานกลาง ( X = 2.87,S.D. = 0.52) เม่ือพิจารณารายด้าน พบว่าหลังใช้นวัตกรรมผู้เรียนมีสุขภาวะจากระดับมากไป น้อยได้ดังนี้ คือ ด้านที่ 3 สภาพแวดล้อมเป็นสุข ( X =4.76,S.D. = 0.41) ด้านท่ี 2 โรงเรียนเป็นสุข ( X = 4.71,S.D. = 0.45) ด้านท่ี 1 ผู้เรียนเป็นสุข ( X =4.69,S.D. = 0.45) ด้านที่ 5 ชุมชนเป็นสุข ( X = 4.52,S.D. = 0.67) และด้านท่ี 4 ครอบครวั เป็นสุข ( X = 4.57,S.D.= 0.53) ความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่ ตารางท่ี 4 ความพงึ พอใจของผูม้ ีสว่ นเก่ียวข้องที่มตี อ่ การพัฒนาโรงเรยี นสขุ ภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ประเด็นการประเมิน ผบู้ รหิ ารและครู คณะกรรมการ ผูป้ กครอง ความพงึ พอใจการใช้นวัตกรรม สถานศกึ ษา ตามตัวบ่งช้ี X S.D แปรผล X S.D แปรผล X S.D แปรผล 1. นวัตกรรมน้ีมีความสอดคล้องกับ 4.63 0.51 มากที่สดุ 4.70 0.48 มากท่สี ุด 4.77 0.47 มากทส่ี ุด สภาพปัญหาและความจาเป็นของ สถานศกึ ษา 2. นวัตกรรมน้ีมีการพัฒนาโดย 4.71 0.46 มากที่สุด 4.60 0.52 มากที่สดุ 4.59 3.19 มากที่สุด อาศัยแนวคิดและหลักการรองรับ อยา่ งสมเหตุสมผล 3. มีการกาหนดเปา้ หมายของการ 4.81 0.40 มากทีส่ ดุ 4.80 0.42 มากท่ีสุด 4.66 0.56 มากทีส่ ุด พัฒนานวตั กรรมท่ีชัดเจน 4. การออกแบบกิจกรรมทุก 4.82 0.39 มากที่สดุ 4.30 0.67 มาก 4.57 0.55 มากท่สี ดุ กจิ กรรมมีความสอดคลอ้ งกัน 5. มีการดาเนินงานตามกิจกรรม 4.60 0.52 มากที่สุด 4.50 0.71 มากท่สี ดุ 4.26 0.63 มาก ครบทกุ ข้นั ตอน 6. มกี ารส่งเสริมด้านการมีส่วนร่วม 4.73 0.45 มากที่สุด 4.20 0.79 มาก 4.70 0.46 มากท่สี ุด ใน การวางแผนทง้ั ภายในและ ภายนอก

ประเด็นการประเมิน ผบู้ รหิ ารและครู คณะกรรมการ ผู้ปกครอง ความพงึ พอใจการใชน้ วตั กรรม สถานศึกษา ตามตัวบ่งชี้ X S.D แปรผล X S.D แปรผล X S.D แปรผล 7. มีการกากับตดิ ตามการทางาน 4.70 0.46 มากทส่ี ดุ 4.40 0.70 มาก 4.77 0.42 มากทส่ี ดุ อยา่ งเปน็ ระบบ และต่อเนื่อง 8. นวตั กรรมสามารถพฒั นา 4.64 0.51 มากท่สี ุด 4.80 0.42 มากทส่ี ดุ 4.81 0.40 มากท่ีสุด กลุม่ เป้าหมายไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ และครบถ้วน 9. มกี ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากร 4.68 0.50 มากที่สดุ 4.60 0.52 มากทีส่ ดุ 4.57 0.57 มากทีส่ ุด ตามกจิ กรรมทว่ี างไว้อย่างคุ้มคา่ เหมาะสม และสอดคล้องกับบรบิ ท ของสถานศกึ ษา 10. กระบวนการในการพัฒนา 4.41 0.68 มาก 4.30 0.67 มาก 4.61 0.53 มากท่ีสุด นวัตกรรม กระตุ้นใหบ้ คุ ลากรใน สถานศกึ ษาได้ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ร่วมกัน 11. มกี ารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 4.67 0.47 มากท่ีสุด 4.30 0.48 มาก 4.69 0.46 มากทส่ี ดุ นวัตกรรมท้ังภายในและภายนอก และสามารถเปน็ แบบอยา่ งที่ดไี ด้ 12.ความพงึ พอใจต่อนวตั กรรมใน 4.84 0.37 มากที่สดุ 4.80 0.42 มากที่สดุ 4.82 0.39 มากท่ีสุด ภาพรวม รวมเฉลย่ี 4.69 0.48 มากทส่ี ุด 4.53 0.57 มากทส่ี ุด 4.65 0.72 มากที่สุด จากตารางที่ 4 พบว่า เม่ือพิจารณาจากรายด้านทุกด้านมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดย เรียงลาดับคา่ เฉลย่ี ระดับความพึงพอใจมากที่สุด คือ ความพึงพอใจของผู้บริหารและครู ( X = ๔.69, S.D. = ๐. 48) รองลงมา คือ ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ( X = ๔.65, S.D. = ๐.72) และความพึงพอใจ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ( X = 4.53, S.D. = ๐.57)

บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผล การสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ของโรงเรียนราชประชานุ เคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่ ผลการดาเนินงานพบวา่ นวัตกรรม TEAM+ Model สามารถนาไปใช้ในการสรา้ ง สขุ ภาวะของผู้เรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ได้ตามวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ จึงขอ นาเสนอผลการนานวัตกรรมไปใช้ในการพฒั นาโรงเรยี นสขุ ภาวะ ตามวัตถุประสงคข์ องการสร้างนวตั กรรม ดังน้ี 1. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 เชียงใหม่ เกิดนวัตกรรมในการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ โดยใช้ TEAM+ Model ตามเป้าหมายของโรงเรียน 5 สุข คือ “นักเรียนเป็นสุข โรงเรียนเป็นสุข สภาพแวดล้อมเป็นสุข ครอบครัวเป็นสุข และชุมชนเป็นสุข ” โดยใช้ TEAM+ Model เป็น กระบวนการขับเคลือ่ นสู่เป้าหมายที่กาหนด เปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ัยท่ีกาหนดไว้ 2. ผลการประเมินสุขภาวะของผู้เรียนก่อนและหลังการใช้นวัตกรรม ค่าเฉล่ีย 5 ด้าน พบว่าโดย ภาพรวมผลการประเมินสุขภาวะรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก ( X =4.68,S.D. = 0.45) สูงกว่า ผลการประเมินสุขภาวะก่อนใช้นวัตกรรมท่ีมีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.87,S.D. = 0.52) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าหลังใช้นวัตกรรมผู้เรียนมีสุขภาวะจากระดับ มากไปน้อยได้ดังน้ี คือ ด้านท่ี 3 สภาพแวดล้อมเป็นสุข ( X =4.76,S.D. = 0.41) ด้านที่ 2 โรงเรียนเป็นสุข ( X =4.71,S.D. = 0.45) ด้านท่ี 1 ผู้เรียนเป็นสุข ( X =4.69,S.D. = 0.45) ด้านที่ 5 ชุมชนเป็นสุข ( X = 4.52,S.D. = 0.67) และด้านที่ 4 ครอบครัวเป็นสุข ( X = 4.57,S.D.= 0.53) ซง่ึ เปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ัยท่กี าหนดไว้ 3. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผ้มู ีสว่ นได้ส่วนเสียในการนา TEAM+ Model ไปใช้ในการ สร้างสุขภาวะของผู้เรียนพบว่าทุกด้านมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดยเรียงลาดับ ค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจมากที่สุด คือ ความพึงพอใจของผู้บริหารและครู ( X = ๔.69, S.D. = ๐.48) รองลงมา คือ ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ( X = ๔.65, S.D. = ๐.72) และความ พึงพอใจคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ( X = 4.53, S.D. = ๐.57) ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ยั ตอ่ ไป 1. นาผลการวิจัยไปวางแผนเพ่ือกาหนดโครงการกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตอ่ ไป 2. มีการตรวจสอบระดับความสุขของผู้เรียนอย่างสม่าเสมอ โดยการนาแบบทดสอบทางจิตวิทยา อืน่ ๆมารว่ มในการประเมนิ ผเู้ รียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook