การพัฒนา ทางการ เศรษฐกิจ สังคม เมือง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศอาเซียน
สารบัญ ประเทศเมียนมาร์ 1 การเมืองการปกครอง 1 เศรษฐกิจ 2 สังคมและวัฒนธรรม 3 สิ่งแวดล้อม 3 ประเทศฟิลิปปินส์ 4 การเมืองการปกครอง 4 เศรษฐกิจ 5 สังคมและวัฒนธรรม 6 สิ่งแวดล้อม 8 ประเทศอินโดนีเซีย 9 การเมืองการปกครอง 9 เศรษฐกิจ 9 สังคมและวัฒนธรรม 10 สิ่งแวดล้อม 11 ประเทศบรูไน 12 การเมืองการปกครอง 12 เศรษฐกิจ 13 สังคมและวัฒนธรรม 14 สิ่งแวดล้อม 14 ประเทศเวียดนาม 16 การเมืองการปกครอง 16 เศรษฐกิจ 17 สังคมและวัฒนธรรม 18 สิ่งแวดล้อม 18
MYANMAR การเมือง การปกครอง พม่ามีรูปแบบการปกครองแบบสาธารณรัฐ โดย มีรัฐสภาซึ่งประกอบด้วยสภาประชาชน สภาชาติ พันธ์และสภาท้องถิ่น ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยมี ประธานาธิบดีเป็ นประมุขและหัวหน้ารัฐบาล ก่อนปี พ.ศ. 2554 พม่ามีระบอบการปกครอง โดยรัฐบาลทหาร ภายใต้สภาสันติภาพและและ การพัฒนาแห่งรัฐ(SPDC) โดยมีประธาน SPDC เป็ นประมุขของประเทศ และมีนายกรัฐมนตรี เป็ นหัวหน้าคณะรัฐบาล ทำให้พม่ามักถูก ประชาคมโลกตำหนิเกี่ยวกับระบบการปกครอง แบบเผด็จการทหาร อย่างไรก็ตาม พม่ามีความพยายามที่จะดำเนินการ ให้ประเทศก้าวไปสู่ ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยในเร็ววัน ซึ่งนับว่าเป็ นความพยายาม อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เห็นได้จากพลเอกขิ่น ยุ้น นายกรัฐมนตรีของ ประเทศในขณะนั้นได้ประกาศ นโยบายการดำเนินการไปสู่ กระบวนการ ปรองดองแห่งชาติและประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2546 ถึงแม้ พม่าจะได้จัดให้มีการเลือกตั้งในปี 2553 ตามระบอบประชาธิปไตยทั่วไป แต่ก็ ยังไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ เนื่องจากคณะรัฐบาลทหารของ พม่ายังไม่ได้ลงจากอำนาจอย่างแท้จริง เป็ นเพียงการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ จากรัฐบาลทหารมาเป็ นรัฐบาลพลเรือน โดยคณะผู้บริหารระดับสูง ยังคง เป็ นนายทหารนอกราชการนั่นเอง พม่าแบ่งการปกครองเป็ น 7 รัฐ ตามกลุ่ม เชื้อชาติที่เป็ น ชนกลุ่มใหญ่ในแต่ละรัฐ (รัฐชิน รัฐกะฉิ่น รัฐกะเหรี่ยง รัฐกะยา รัฐมอญ รัฐยะไข่ และรัฐชาน) และแบ่งเป็ น 7 ภาค ได้แก่ อิรวดี พะโค มาเกว มัณฑะเลย์ สะกาย ตะนาวศรี (นานินตายี) และ ย่างกุ้ง ในเขตพื้นที่ราบลุ่มที่ ประชากรเชื้อสายเมียนมาร์อาศัยเป็ นส่วนใหญ่ ผู้นำรัฐบาล : พลเอก อาวุโส มิน อ่อง หล่าย (รัฐประหาร ปี 2564) 1
MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR เศรษฐกิจ เศรษฐกิจ : เกษตรกรรม เป็ นอาชีพ หลัก เขตเกษตรกรรมคือบริเวณ - ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี แม่น้ำสะโตง แม่น้ำทวาย-มะริด ปลูก ข้าวเจ้า ปอกระเจา อ้อย และพืช เมืองร้อนอื่น ๆ - เขตฉาน อยู่ติดแม่น้ำโขงปลูกพืช ผักจำนวนมาก ทำเหมืองแร่ - ภาคกลางตอนบนมีน้ำมัน ปิ โตรเลียม - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขุดแร่ หิน สังกะสี - ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ทำเหมือง ดีบุกทางตอนใต้เมืองมะริดมีเพชร และหยกจำนวนมาก - ภาคเหนือ มีการทำป่ าไม้สักส่งออก ขายและล่องมาตามแม่น้ำอิรวดีเข้าสู่ ย่างกุ้ง อุ - บริเวณตอนล่างของประเทศ เช่น ย่างกุ้ง มะริด และทวาย มีการทำ อุตสาหกรรมต่อเรือเดินสมุทรที่ใหญ่ (อุตสาหกรรมกำลังพัฒนา) MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR MYANMAR 2 MYANMAR
สังคมและวัฒนธรรม สังคมเเละวัฒนธรรม : พม่ามีวัฒนธรรม ร่วมที่ เหมือนกับไทย คือ การนับถือพุทธศาสนา สังคม ของเมียนมาร์ มีลักษณะค่านิยมเช่นเดียวกับสังคม ชาวเอเชีย คือการให้ความสำคัญกับระบบอาวุโส ระบบเครือญาติ และมีลักษณะคล้ายกับคนไทยคือมี คำว่า \"เกรงใจ\" และ \"การรักษาหน้า\" สำหรับศิลปะ ของพม่านั้นได้รับอิทธิพลจากวรรณคดีและ พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท มาตั้งแต่ครั้งโบราณ ในปั จจุบันนี้วัฒนธรรมพม่ายังได้รับอิทธิพลจาก ตะวันตกมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากเขตชนบทของ ประเทศ ด้านการแต่งกาย ชาวพม่าทั้งหญิงและ ชายนิยมนุ่งโสร่ง เรียกว่า ลองยี ส่วนการแต่งกาย แบบโบราณเรียกว่า ลุนตยาอชิก ส่วนในด้านของ ประเพณีก็จะเป็ น ประเพณี ปอยส่างลอง หรือที่ เรียกว่า“งานบวชลูกแก้ว” เป็ นงานเตรียมบวชเป็ น พระเณรของเด็กที่แต่งดาเป็ นกษัตริย์หรือราชา ซึ่ง เป็ นประเพณีประจำของชาวไต หรือไทยใหญ่ ที่ได้มี การจัดสืบทอดกันมายาวนาน สิ่งแวดล้อม สิ่งเเวดล้อม : มีน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ไม้สัก แหล่ง พลังงานเชื้อเพลิงและ แหล่งพลังงานไฟฟ้ าพลังน้ำ เช่น แม่น้ำสาละวิน และแร่ต่าง ๆ ผลผลิตการเกษตรหลัก ได้แก่ ข้าว เมล็ดพืช ถั่ว งา อ้อย ไม้เนื้อแข็งและปลา เป็ นต้น ผลผลิตทางอุตสาหกรรม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จาก ไม้ แร่ต่าง ๆ เช่น ดีบุก ทองแดง เหล็ก น้ำมัน ก๊าซ ธรรมชาติ เสื้อผ้า อัญมณี และหยก 3
Philippines การเมือง การปกครอง ฟิ ลิปปิ นส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในรูปแบบ สาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็ นประมุข มาจากการ เลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน อยู่ในตำแหน่งคราวละ 6 ปี ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 วาระ วุฒิสภามีสมาชิก 24 คน มาจากการเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิออกเสียงทั่ว ประเทศ มีวาระ 6 ปี และรัฐบาลจะจัดให้มีการเลือก ตั้งวุฒิสภาจำนวน 12 คน ทุก 3 ปี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 นายเบนิกโน เอส อาคีโน ที่สาม (BENIGNO S. AQUINO III) ได้รับเลือกตั้งเป็ นประธานาธิบดีจากพรรค LIBERAL (LP) และนายเจ โจมาร์ บิไน (JEJOMAR BINAY) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมากาติ (MAKATI) ได้ รับเลือกตั้งเป็ นรองประธานาธิบดี รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดี อาคีโน ที่สาม มุ่งให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบบริหารประเทศเพื่อปราบปราม การฉ้อราษฎร์บังหลวงและขจัดความยากจน จึงได้รับความนิยมจากประชาชนและ มีสถานะความมั่นคงทางการเมืองสูง ทั้งนี้ รัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วน ได้แก่ การส่ง เสริมการลงทุนจากต่างประเทศ การสร้างมาตรฐานกฎระเบียบด้านงบประมาณ การปรับปรุงระบบข้าราชการพลเรือน และการปรับปรุงระบบการศึกษา ส่วน ประเด็นด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลฟิ ลิปปิ นส์เน้นการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นท้าทายต่าง ๆ เช่น การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การ ระบาดของโรคติดต่อ การฟื้ นฟูสภาพเศรษฐกิจ และการสร้างพลังประชาคม ระหว่างประเทศในทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้ าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MILLENNIUM DEVELOPMENT GOALS MDG) ภายในปี 2558 4
เศรษฐกิจ ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศเกษตรกรรม ประชากร ร้อยละ 60 ประกอบอาชีพ เกษตรกร สภาพภูมิประเทศที่เป็ นหมู่เกาะส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกมีน้อย โดย ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณที่ราบต่ำและเนินเขาที่ปรับให้เป็ นขั้นบันไดในบริเวณ เกาะลูซอน ขณะเดียวกันประชากรฟิ ลิปปิ นส์ส่วนใหญ่นิยมประกอบอาชีพใน ต่างประเทศ ฟิ ลิปปิ นส์จึงพึ่งพารายได้จากแรงงานฟิ ลิปปิ นส์ในต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาประเทศเป็ นส่วนใหญ่ รัฐบาลภายใต้การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีอาคีโน ที่สาม เน้นนโยบายสร้างวินัยทางการคลัง โดยการบริหารงบประมาณแบบสมดุล (zero - budgeting policy) เพื่อแก้ไขภาวะงบประมาณขาดดุล อันเป็ นปั ญหา สืบเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อน ในปี 2553 รัฐบาลได้กำหนดงบประมาณขาดดุล อัตราร้อยละ 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หรือประมาณ 625 พันล้านเปโซ เนื่องจากความจำเป็ นในการจัดสรรงบประมาณเพื่อเร่ง พัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค และอัดฉีดเม็ดเงินให้กับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการ ลงทุนโดยสนับสนุนการสร้างกลไกความเป็ นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐ - เอกชน (public - private partnerships) และเร่งแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็ น อุปสรรคต่อการลงทุนของต่างชาติ ผลักดันกฎหมายป้ องกันการผูกขาด (anti - trust law) เพื่อส่งเสริมการแข่งขันอย่างเท่าเทียม รวมทั้งให้ความสำคัญกับ การส่งเสริมการลงทุนในสาขาสาธารณูปโภค การท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เหมืองแร่ และเกษตรกรรม 5
สังคม สังคมฟิ ลิปปิ นส์เป็ นสังคมที่มีความ หลากหลายของชาติพันธ์ุโดยชาติพันธ์ุ หลัก คือ มาเลย์ กับชาติพันธ์ุอื่นๆ ได้แก่ จีน อเมริกา สเปน อินเดีย ฟิ ลิปปิ นส์เป็ น ประเทศที่ประชาชนใช้ภาษาอังกฤษเป็ น ส่วนใหญ่ สาเหตุสืบเนื่องมาจากในยุค อาณานิคม ศาสนาเป็ นจุดศูนย์กลางของชาวฟิ ลิปปิ นส์ส่วนใหญ่ องค์กรศาสนา โดยเฉพาะศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกซึ่งมีผู้นับถืออยู่ 82 เปอร์เซ็นต์ จากการ พัฒนาของสังคมดังเดิมสู่สังคมภายใต้สเปนและสหรัฐฯ ทําให้สังคมฟิ ลิปปิ นส์มี การผสมผสานกันระหว่างสองวัฒนธรรม คือ มีลักษณะครอบครัวที่ใกล้ชิด แบบ สเปนแต่มีความทันสมัยแบบอเมริกันโดยเฉพาะในสังคมเมือง วัฒนธรรม วัฒนธรรมของฟิ ลิปปิ นส์เป็ นลักษณะวัฒนธรรมลูกประสมที่ได้รับอิทธิพลจาก สเปน จีน เมกซิกัน อเมริกา อาหรับ และมาเลเซีย ในปั จจุบัน อิทธิพลหลักๆ ของ ฟิ ลิปปิ นส์น่าจะมีด้วยกันอย่างน้อย 3 สาย คือพวกสเปน จีน และอเมริกัน 1. อิทธิพลจากสเปน อิทธิพลวัฒนธรรมจากสเปนและเมกซิโก เรียกว่า Hispanic Influences งานประเพณีทางศาสนาใน ทุกปี ฟิ ลิปปิ นส์จะมีงานรื่นเริงเรียกว่า Barrio Fiesta เป็ นการฉลองนักบุญของเมือง หมู่บ้าน และเขตการปกครองต่างๆ มีการประกอบพิธีทาง ศาสนา การเดินขบวนในเมืองฉลองนักบุญ การจุด พลุไฟ การประกวดความงามและการเต้นรำ 2. อิทธิพลจากจีน พบได้จากอาหาร ซึ่งอาหารของฟิ ลิปปิ นส์นั้น จัดได้ว่าเป็ นเหมือนอาหารจีน มีรสชาติไม่เผ็ด ร้อน นิยมกินก๋วยเตี๋ยวที่เป็ นเส้น เรียกว่า Mami เช่นเดียวกับอาหารจานเนื้ออื่นๆ 6
3. อิทธิพลจากอเมริกัน สหรัฐอเมริกาเป็ นแหล่งที่คนมีการศึกษาใน ฟิ ลิปปิ นส์นิยมไปแสวงหาโชค การหางานทำมาก ที่สุด อิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอเมริกัน นับว่ามี การแพร่หลาย เช่น การพูดและใช้ภาษาอังกฤษ 4. ด้านกีฬา กีฬาบาสเก็ตบอล (basketball) จัดเป็ นกีฬายอดนิยม ของชาติ กีฬาทำชื่อเสียงให้กับฟิ ลิปปิ นส์อื่นๆ ได้แก่ ชกมวย ว่ายน้ำ ศิลปะการต่อสู้ นักมวยของฟิ ลิปปิ นส์ ที่ทำชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เช่น Manny Pacquiao แชมเปี้ ยนบิลเลียด ได้แก่ Efren Reyes, แชมเปี้ ยนหมากรุกได้แก่ Eugene Torre วัฒนธรรมของฟิ ลิปปิ นส์มีความหลากหลายมาก มีวัฒนธรรมพื้นเมืองของ เมลานีเซียนและออสโตรนีเซียนซึ่งเห็นได้ชัดที่สุดในภาษาชาติพันธุ์ สถาปั ตยกรรมพื้นเมืองอาหารและการเต้นรำ นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลบาง ส่วนจากญี่ปุ่ นจีนอินเดียอาระเบียและบอร์เนียว นอกจากนี้ยังมีอิทธิพล ของฮิสแปนิกในยุคอาณานิคมอย่างหนักจากเม็กซิโกและสเปนเช่นในด้าน ศาสนาอาหารการเต้นรำภาษาเทศกาลสถาปั ตยกรรมและชาติพันธุ์ อิทธิพลจากสหรัฐอเมริกาในภายหลังสามารถเห็นได้ในวัฒนธรรม 7
สิ่งแวดล้อม ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยเกาะจำนวนมาก และเป็ นอีกหนึ่ง ประเทศที่กำลังเผชิญกับปั ญหาการตัดไม้ทำลายป่ าอย่างรุนแรง เพื่อสร้าง โครงการสาธารณูปโภค ระบบนิเวศถูกคุกคาม หลายพื้นที่ถูกรุกล้ำพื้นที่ป่ าเพื่อ ทำการเกษตรในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เหตุนี้ ฟิ ลิปปิ นส์จึงตระหนักถึงความสำคัญ ของการปลูกฝั งการรักษาป่ าและสิ่งแวดล้อม ทำให้เมื่อไม่นานมานี้ ฟิ ลิปปิ นส์ได้ ออกกฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับหนึ่ง เรียกว่า “the Graduation Legacy for the Environment Act” กำหนดวางรากฐานให้นักเรียนต้องปลูกต้นไม้ก่อนที่จะสำเร็จ การศึกษา หากดำเนินการอย่างแข็งขันภายใต้มาตรการนี้ จำนวนเด็กในหนึ่ง generation จะสามารถปลูกต้นไม้ได้ไม่ต่ำกว่า 525 พันล้านต้น การออกกฎหมาย ฉบับนี้นอกจากจะสร้างกรอบความคิดรักษาระบบนิเวศแก่เยาวชนอย่างยั่งยืนแล้ว ยังจะช่วยสร้างความมั่นคงทางธรรมชาติให้กับคนฟิ ลิปปิ นส์รุ่นต่อไป รวมถึงเป็ น มาตรการที่มีส่วนช่วยป้ องกัน การเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในอีกหลากหลายรูปแบบ 8
Indonesia การเมือง การปกครอง นโยบายด้านความมั่นคงของอินโดนีเซีย 1) นโยบายการต่อต้านกระบวนการก่อการร้าย รัฐบาลอินโดนีเซียให้ความ สำคัญต่อการดำเนินนโยบายลดแนวความคิดนิยมความรุนแรง (de- radicalization) เพื่อปรับแนวคิดของกลุ่มหัวรุนแรง มีการรณรงค์ให้ต่อต้าน การโฆษณาชวนเชื่อ ให้ก่อการร้ายและส่งเสริมการประสานงานอย่างใกล้ชิด ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ การมีส่วนร่วม ของภาคเอกชนและประชาชน 2) นโยบายด้านความมั่นคงชายแดน 3) นโยบายแก้ไขปั ญหาการทาประมงผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศ อินโดนีเซียถูกกลุ่มสหภาพยุโรปใช้นโยบายกีดกั้นทางการค้า โดยอ้างปั ญหา การทาประมงผิดกฎหมาย ที่จะไม่ให้นำเข้าสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลสำเร็จรูปเข้าไปยังกลุ่มประเทศสมาชิก 4) นโยบายการแก้ไขปั ญหาการปล้นเรือเดินทะเลและโจรสลัด 5) นโยบายการแก้ไขปั ญหาการค้ามนุษย์ นอกจากนโยบายการป้ องกันและแก้ ปั ญหาแล้วนั้น ประเทศอินโดนีเซียยังมี นโยบายการให้ความช่วยเหลือดูแลและ ฟื้ นฟูเหยื่ออีกด้วย เศรษฐกิจ เพิ่มและขยายการพัฒนาเศรษฐกิจอินโดนีเซียให้สามารถ พึ่งพาตนเองได้จึงมีการสนับสนุน MP3EI (MASTER PLAN FOR ACCELERATION AND EXPANSION OF INDONESIA ECONOMIC DEVELOPMENT : MP3EI) โดยมีการออกมาตรการภาษีเพื่อเอื้อและจูงใจนักลงทุน ต่างชาติ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความ มั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงด้านพลังงาน และส่งเสริมการท่องเที่ยว 9
เพิ่มและขยายการพัฒนาเศรษฐกิจอินโดนีเซียให้สามารถพึ่งพาตนเองได้จึง มีการสนับสนุน MP3EI (Master Plan for Acceleration and Expansion of Indonesia Economic Development : MP3EI) โดยมีการ ออกมาตรการภาษีเพื่อเอื้อและจูงใจนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งให้ความ สำคัญกับการส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงด้านพลังงาน และ ส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ Indonesia Investment Coordinating Board (BKPM) ซึ่งมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนด้วยการปรับปรุงกฎ ระเบียบและข้อบังคับให้โปร่งใสและรวดเร็วมากขึ้น ทั้งยังเน้นการปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐาน โครงการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การฟื้ นฟูอุตสาหกรรม เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงการขนส่ง และมุ่งรักษา ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ ง โดยเฉพาะประมงพื้นบ้าน สังคมและวัฒนธรรม การส่งเสริมในด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้จัดตั้งกระทรวงพัฒนาถิ่น แดนที่ด้อยโอกาส (Ministry for Development of Disadvantaged Regions: KPDT) เพื่อสร้าง และพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค ปรับปรุงการให้บริการภาครัฐในท้องถิ่นทุรกันดาร พร้อม มาตรการ จัดการจากภัยธรรมชาติและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งมีการรณรงค์ ให้มีการเพิ่มความ เสมอภาคทางเพศในเรื่องโอกาสทางการศึกษาดังนั้น นโยบายหลักด้านสังคมและ วัฒนธรรมของประเทศอินโดนีเซีย จึงมุ่งเน้น ไปที่การเสริมสร้างความเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนชาว อินโดนีเซีย ซึ่งมี ความแตกต่างด้านเชื้อชาติและศาสนา อีกทั้งประเทศ อินโดนีเซียยังให้ความสาคัญต่อการนับถือ ศาสนา โดยกำหนดหลักการ ปกป้ องสิทธิในการเคารพและประกอบพิธีทางศาสนา 10
นอกจากนี้ ประเทศอินโดนีเซียยังกำหนดหลักปรัชญาในวิถีชีวิต ของประชาชนเพื่อสร้างความ ปรองดองและรักษาเอกลักษณ์ ความเป็ นชาติอินโดนีเซีย เช่น หลักปั ญจศีล (Pancasila) เอาไว้ ใน รัฐธรรมนูญอันเป็ นกฎหมายสูงสุดของประเทศอีกด้วย สิ่งแวดล้อม มาตรการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น ให้ภาครัฐ เลือกใช้ ธุรกิจและบริการที่เป็ นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้มีการดำเนินธุรกิจการค้าเกี่ยวกับ การกำจัดขยะหรือกำจัดมลพิษ พร้อมทั้งให้ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีค่าธรรมเนียม และ ให้เงินสนับสนุนเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริม สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แล้วยังมีการออก กฎหมายในการบริหารจัดการขยะอันตราย และขยะมีพิษ โดยสำหรับการ ทิ้ง(dumping) ขยะอันตรายหรือขยะมีพิษ นั้น กฎหมายห้ามมิให้บุคคลใด ทิ้งขยะ อันตรายหรือขยะมีพิษสู่สิ่งแวดล้อมเว้นแต่ จะได้รับอนุญาต การทิ้งขยะดังกล่าว อาจ ดำเนินการได้โดยต้องได้รับใบอนุญาตจาก หน่วยงานที่มีอำนาจและต้องทิ้งขยะเฉพาะ ในบริเวณ ที่มีประกาศกำหนดไว้เท่านั้น เป็ นต้น หรือ กฎหมายที่ว่าด้วย ผู้ที่ก่อ มลภาวะต้องเป็ นผู้จ่าย โดยบุคคลดังกล่าว ต้องมีหน้าที่ฟื้ นฟู สภาพสิ่งแวดล้อมอีกและ ต้องดำเนินมาตรการป้ องกันการปล่อย มลภาวะ หรือการทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น การให้ข้อมูลแก่ประชาชน 11
Brunei Darussalam การเมือง การปกครอง ในอดีตสถานภาพของประเทศบรูไนเป็ นเพียง รัฐเล็กๆที่มีอิสระในการปกครองตนเอง แต่ เพื่อความอยู่รอดทำให้บรูไนต้องยอมให้การ ยอมรับอำนาจของรัฐหรือประเทศต่างๆที่ผลัด เปลี่ยนกันขึ้นมาครองอำนาจ แม้จะตกอยู่ภาย ใต้อำนาจของรัฐต่างๆแต่บรูไนก็ยังคงรักษา สถานภาพทางการเมืองไว้ได้เป็ นอย่างดี เพราะผู้ปกครองหรือสุลต่านของบรูไน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง ของรัฐต่างๆ ปั จจุบันประเทศบรูไนเป็ น ประเทศที่มีการปกครองแบบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ หรือองค์สุลต่านมีอำนาจเด็ดขาดเพียงผู้เดียว และเป็ นประมุขสูงสุดของประเทศ และองค์ สุลต่านยังมีอัครเสนาบดีเป็ นผู้ช่วยซึ่งพระองค์ จะเป็ นผู้แต่งตั้ง ลักษณะเด่นของความเป็ น อธิปไตยของสุลต่านบรูไนคือ ความเป็ น เอกภาพและภราดรภาพของอาณา ประชาราษฎร์ ประชาชนจะเคารพต่อสุลต่าน ผู้ทรงธรรม ซึ่งสอดคล้องกับหลักของศาสนา อิสลามที่ให้ความเคารพเชื่อฟั งผู้นำ 12
เศรษฐกิจ ปั จจุบันบรูไนกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาน้ำมันเป็ นหลัก ไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากมีการคาด การณ์ว่าปริมาณน้ำมันสำรองที่ยืนยันแล้ว ของบรูไนจะหมดลงในราวปี พ.ศ. 2558 ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเอเชีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ทำให้ บรูไนเร่งปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้าง ความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.จัดตั้งสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ นำโดยเจ้าชายโมฮาเหม็ด โบลเกียห์ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของบรูไน) ซึ่งมีแนวทางส่งเสริม ภาคเอกชน ให้มีบทบาทมากขึ้น ในการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ปรับ โครงสร้างทางเศรษฐกิจ จากเดิมที่เน้นนโยบายให้สวัสดิการ มาเป็ นการส่ง เสริมการลงทุนจากต่างประเทศ และแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ โดยให้เอกชน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ขยายฐานการจัดเก็บภาษี 2.ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนในต่างประเทศของ BIA โดยหันมาลงทุนใน ธุรกิจด้านใหม่ ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ เช่น การซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี สารสนเทศและโทรคมนาคม หรือธุรกิจสายการบินต่าง ๆ 13
วัฒนธรรม วัฒนธรรมของบรูไนเป็ นวัฒนธรรมของอิสลาม ซึ่งมีความเคร่งครัดค่อนข้างสูง มากโดยสูงกว่าอินโดนีเซีย ตอนนี้ที่เห็นได้ชัดคือการพัฒนาทางวรรณกรรม วรรณกรรมสมัยใหม่ของบรูไนมีหลายประเภท เช่น กวีนิพนธ์ ซึ่งมีทั้งชะอีร์ (Shair) และซายัค (Sajak) เรื่องสั้น ละคร และนวนิยาย เป็ นต้น แตกต่างจากเดิม วรรณกรรมสมัยเก่า เป็ นวรรณกรรมมุขปาฐะ หรือวรรณกรรมมรดก หรือ วรรณกรรมประชาชน เพราะแรกเร่ิมทีเดียว ซึ่งการบรรยายถึงความเชื่อ ต่างๆ ของคนสมัยก่อน บรรยายถึงความสำคัญของ บุคคลสำคัญๆ เช่น กษัตริย์ ราชบุตร ราชธิดา นอกจากนั้นยัง บรรยายสถานที่ที่สำคัญ ความเชื่อเก่ียวกับ สถานท่ี่นั้นๆ ที่สำคัญคือเน้นคติเตือนใจแก่ผู้ฟั ง สิ่งแวดล้อม •เป็ น1ใน8ของWawasan Brunei 2035 (ยุทธศาสตร์แผนพัฒนาประเทศ) •เป้ าหมายเพื่ออนุรักษ์สภาพสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน •นโยบายของรัฐ คือ KNK เพื่อสร้างจุดเด่น ด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ •มาตรการเชิงรณรงค์ให้ประชาชน ตระหนักถึงการอนุรักษ์ที่เป็ นรูปธรรม เช่น การงดใช้ถุงพลาสติกวันเสาร์อาทิตย์ •หัวใจแห่งบอร์เนียว (HOB) เป็ นโครงการ ที่มีเป้ าหมายหลักเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ป่ า บนเกาะบอร์เนียว 14
สังคม สังคมค่อนข้างอนุรักษ์นิยมและ ศาสนาอิสลามมีบทบาทอย่างมาก ภาษาราชการ:ภาษามาเลย์ ภาษาอื่นๆ:ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ดอกไม้ประจำชาติ:ดอกชิมปอร์ •การแต่งกายของผู้ชาย: บาจู มลายู •การแต่งกายของผู้หญิง: บาจูกุรุง และต้องสวม ฮิญาบคลุมศีรษะตลอด 15
Vietnam การเมืองการปกครอง การเมืองของเวียดนามมีเสถียรภาพและเอกภาพสูง อีกทั้งมี การกระจายอำนาจการบริหารในทางเศรษฐกิจแก่แต่ละจังหวัดเพื่อ พัฒนา และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเวียดนามปกครองด้วย ระบอบสังคมนิยม โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็ น พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวของประเทศโครงสร้างการปกครอง แบ่งออกเป็ น 3 ระดับคือ 1. ฝ่ ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่เป็ นฝ่ ายนิติบัญญัติ มีอำนาจสูงสุด ในการกำหนดนโยบายทั้งภายในและต่างประเทศ 2. ฝ่ ายบริหาร ทำหน้าที่พิจารณา ให้ความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงาน ขององค์กรบริหารระดับสูง 3. การปกครองท้องถิ่น ทำหน้าที่บริหารงานภายในท้องถิ่นให้เป็ นไป ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ นโยบายและกฎระเบียบต่างๆ ที่บัญญัติโดย องค์กรของรัฐที่อยู่ในระดับสูงกว่า 16
เศรษฐกิจ เวียดนามเป็ นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างรวดเร็ว และมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การส่งออก มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ จากระบบการวางแผนจากส่วนกลางไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบกลไกตลาด ภาย ใต้นโยบาย \"โด่ยเหมย” นอกจากนี้ รัฐบาลชุดปั จจุบันยังมีนโยบายกระตุ้นการขยายตัว ด้านเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับสูงควบคู่กับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่แผนพัฒนาประเทศระยะ 5 ปี สิ่งแวดล้อม รัฐบาลเวียดนามเผยแพร่ยุทธศาสตร์ชาติ Decision 450/QD-TTg มุ่งเน้นการสร้างหลักประกันว่าจะมีการปกป้ องและฟื้ นฟูสิ่งแวดล้อมและ อากาศ เพื่อขับเคลื่อนให้เป็ นสังคมที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน โดยเน้นไปกับการขับเคลื่อนประเด็นหลัก 6 ประเด็น คือ 1. พัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน 2. เสริมประสิทธิภาพในการจัดการขยะ 3. สนับสนุนพลังงานหมุนเวียนและจำกัดการแสวงหาประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติ 4. การดำเนินการเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในเมืองหลวงและปริมณฑล 5. ฟื้ นฟูพื้นที่ที่ปนเปื้ อนสารเคมีและสิ่งแวดล้อมในดิน 6. ควบคุมมลพิษในสิ่งแวดล้อมทางทะเลและเกาะ 17
สังคม เวียดนามสามารถบรรลุเป้ าหมายแห่งสหัสวรรษหลายรายการ รวมถึงชีวิตความเป็ นอยู่ทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชน ระบบนโยบายทางสังคมมีความพร้อมเพรียง ครอบคลุมในหลายด้านเพื่อ ค้ำประกันสิทธิด้านสวัสดิการสังคมของประชาชน ส่วนผู้ที่มี ฐานะยากจนและกลุ่มเสี่ยงในสังคมได้รับการช่วยเหลือ อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบบริการสังคมได้รับการปรับปรุง เพื่อค้ำประกันสิทธิของประชาชน วัฒนธรรม เวียดนามมีมรดกรูปธรรมทาง วัฒนธรรมและมรดกธรรมชาติของโลก ที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก้ เช่น อ่า ฮาลอง วันเมี๊ยวก๊วกตื๋อย้าม กำแพง พระราชวังหว่างแถ่งทังลอง จ่างอาน ฟองญา แก๋บ่าง กรุงเก่าเว้ เมืองเก่าฮอ ยอันและกลุ่มปราสาทหมีเซิน ซึ่งเป็ น แหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและ ต่างประเทศและทำรายได้ให้แก่การ พัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการ ดึงดูดการลงทุน การเปิ ดให้นักท่อง เที่ยวเข้ามาชมช่วยให้โบราณสถานเหล่า นี้เป็ นที่รู้จัก และรายได้จากการท่อง เที่ยวก็จะถูกนำกลับมาใช้อนุรักษ์มรดก ให้คงอยู่ตลอดไป 18
แหล่งอ้างอิง 27.145.148.185 //(2566) //ประเทศบรูไน //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8% ดลมนธรรจ์ บากา //(2558) //วรรณกรรมประเทศบรูไน //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/rusamelae/article/download/43349/35797/0 สำนักงานแรงงานประเทศบรูไน //(2565) //เศรษฐกิจของประเทศบรูไน //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://brunei.mol.go.th/info/economic-situation asean-info //(2556) //การเมืองการปกครองเวียดนาม //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://www.asean-info.com/asean_members/vietnam_politics.html HONG BAC - VAN THIENG - VINH PHONG - VOV //(2560) //วัฒนธรรมเวียดนาม //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://vovworld.vn/th-TH/วเคราะหสถานการณ/ขยายระบบสวสดการสงคมเพอการพฒนา มนษย-1169644.vov nia //(2565) //ประเทศเวียดนาม //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://www.nia.go.th/media/almanac/2022/01/เวยดนาม_2565.pdf สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย //(2560) //เศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://www.asean-info.com/asean_members/vietnam_politics.html กระทรวงการต่างประเทศ //(2565) //สาธารณรัฐอินโดนีเซีย //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c306000a024 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ //(2562) //กฎหมายเกี่ยวกับสังคม วัฒนธรรม การเมืองและความมั่นคงของประเทศ อินโดนีเซีย // สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://lawforasean.krisdika.go.th/File/files/.pdf กระทรวงการต่างประเทศ //(2556) //สาธารณรัฐฟิ ลิปปิ นส์ //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009fe3? cate=5d5bcb4e15e39c3060006870 เจตนิพัทธ์ //(2559) //วัฒนธรรมประเทศฟิ ลิปปิ นส์ //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://cultureofaec.wordpress.com/วัฒนธรรมประเทศฟิ ลิปปิ น/ ประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน //(2562) //การปลูกสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชนฟิ ลิปปิ นส์ด้วยกฎหมาย ปลูกต้นไม้ก่อนสำเร็จการศึกษา //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://lawforasean.krisdika.go.th/Content/View?Id=619&Type=1 บริษัท มิราม่า เซอร์วิส จำกัด //(2566) //เศรษฐกิจพม่า //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://www.wonderfulpackage.com/article/v/447/ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร แม่สอด //(2560) //ทรัพยากรธรรมชาติ //สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2566, จาก https://myanmarcenter.kpru.ac.th/myanmar/index.php/2017-07-27-15-10-14
รายชื่อสมาชิก ม.6/2 1.ศจีลักษมิ์ อิงสกุลรุ่งเรือง เลขที่ 4 (ค้นหาข้อมูลประเทศฟิลิปปินส์) 2.ปริณดา เบญจธนะฉัตร์ เลขที่ 5 (ค้นหาข้อมูลประเทศเมียนมา) 3.ศุภิสรา ฉายชนะบุญมี เลขที่ 7 (ค้นหาข้อมูลประเทศฟิลิปปินส์) 4.รัญชิดา รัตนเดชน์รังสี เลขที่ 9 (ค้นหาข้อมูลประเทศอินโดนีเชีย) 5.รวินท์นิภา เรียงเพชร เลขที่ 10 6.รัมภ์รดา ประชากริช เลขที่ 11 (ตกแต่งและจัดวาง) 7.อัยย์วรัน ทองธรรมศิริ เลขที่ 12 (ค้นหาข้อมูลประเทศบรูไน) 8.นภชนก โชติจำรัสชัย เลขที่ 13 9.ปุญญิศา โรจนพงศ์สถาพร เลขที่ 14 (ตกแต่งและจัดวาง) 10.ณัชชา สระเงิน เลขที่ 19 (ค้นหาข้อมูลประเทศบรูไน) 11.ปุณยนุช ชัยรัตน์อาภาพันธ์ เลขที่ 22 (ค้นหาข้อมูลประเทศอินโดนีเชีย) 12.ธันยนันท์ ปภาวินรัตนสิริ เลขที่ 23 (รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูล) 13.ศิรประภา ลิมปตานนท์ เลขที่ 24 (รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูล) 14.ธรรมพร กริชจนรัช เลขที่ 28 (ค้นหาข้อมูลประเทศเวียดนาม) 15.ชุติสา ประทุมเพ็ชร เลขที่ 32 (ค้นหาข้อมูลประเทศเวียดนาม) 16.ณภัทร สุวรรณนทีรักษ์ เลขที่ 34 (รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูล) 17.ณัฐณิชา โจ เลขที่ 35 (ค้นหาข้อมูลประเทศบรูไน) 18.ญดา กลิ่นจันทร์ เลขที่ 37 (ค้นหาข้อมูลประเทศฟิลิปปินส์) 19.ภูษณดา จันทรแสงเจริญ เลขที่ 38 (ค้นหาข้อมูลประเทศเมียนมา) 20.ภรกัญ ตรีสิริเกษม เลขที่ เลขที่ 41 (ค้นหาข้อมูลประเทศเวียดนาม) (ค้นหาข้อมูลประเทศเมียนมา) (ค้นหาข้อมูลประเทศอินโดนีเชีย)
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: