Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community (PLC) การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 22564

ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community (PLC) การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 22564

Published by rihannax43, 2022-03-27 13:20:36

Description: ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community (PLC) การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 22564

Search

Read the Text Version

ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PROFESSIONAL LEARNING COMMUNITY : PLC) การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2/2564 โดย นายภาณุพงศ์ พันธะรี นิสิตชั้นปี 4 สาขาวิชาสังคมศึกษา

สรุป PLC การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2/2564 สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ที่มา/ภูมิหลังของวิจัย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ I I = เน้นการพัฒนา K P A 1. แบบสมองเป็นฐาน ร่วมกับมัลติมีเดีย P = เนื้อหาสาระมีจำนวนมาก 2. แบบโยนิโสมนสิกา ร่วมกับมัลติมีเดีย P 3. ตามแนวคิดของกานเย ร่วมกับมัลติมีเดีย 4. แบบเปิด ร่วมกับสื่ออินโฟรกราฟิก E E = สอนแบบบรรยายและใช้สื่อไม่หลากหลาย 5. แบบโยนิโสมนสิกา ร่วมกับมัลติมีเดีย S S = เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 6. ตามแนวคิดของกานเย ร่วมกับมัลติมีเดีย A A = การจัดการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนา K P A แบบแผนการวิจัย วัตถุประสงค์ของวิจัย 1. เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ EX หมายถึง กลุ่มตัวอย่าง 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน TX1 หมายถึง การทดสอบก่อนเรียน 3. เพื่อศึกษาสมรรถนะของนักเรียน T หมายถึง รูปแบบการจัดการเรียนรู้ หมายถึง การทดสอบหลังเรียน - การคิดแก้ไขปัญหา 2 - การคิดวิเคราะห์ สรุปผลการวิจัย 4. เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนชั้น ม.2/1 จำนวน 40 คน 2. สื่อการเรียนรู้ 2. นักเรียนชั้น ม.2/3 จำนวน 40 คน 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3. นักเรียนชั้น ม.2/5 จำนวน 40 คน 4. แบบวัดสมรรถนะ 4. นักเรียนชั้น ม.2/7 จำนวน 40 คน 5. นักเรียนชั้น ม.2/9 จำนวน 40 คน - การคิดแก้ไขปัญหา - การคิดวิเคราะห์ สุ่มอย่างง่าย 5. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (SIMPLE RANDOM SAMPLING) - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อเสนอแนะ 1. ในการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ สิ่งที่มักจะประสบปัญหา คือ 1. ควรเตรียมความพร้อมทางด้านเนื้อหาและสื่อการเรียนการสอน การที่นักเรียนไม่เปิดกล้อง รวมทั้งไม่ให้ความร่วมมือในการทำ ก่อนที่จะจัดการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น มัลติมีเดีย แบบทดสอบ กิจกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ ฉะนั้น ครูผู้สอนจำเป็นต้องหาวิธีการในการแก้ไข การเรียนรู้ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของสื่อในการจัดการเรียนรู้ ปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น 1. การตั้งกฎกติกาในการเรียนร่วมกัน ต่าง ๆ เช่น หากไม่เปิดกล้อง ทุกคนต้องร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะ 2. ควรนำกิจกรรมการเรียนรู้หรือวิธีการสอนไปใช้กับสาระอื่น ๆ เป็นการตอบคำถามและการส่งงานตามเวลาที่กำหนด 2. การใช้การ เพื่อให้ในแต่ละสาระมีวิธีการสอนที่หลากหลาย ที่จะส่งเสริมผู้เรียน เสริมแรงทางบวกเพื่อให้ผู้รียนร่วมทำกิจกรรม เช่น การให้คะแนน ทั้งด้านพุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย การให้ของรางวัล การกล่าวคำชม เป็นต้น 3. ควรมีการประยุกต๋ใช้ร่วมกับสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย ได้แก่ มัลติมีเดียเกม วิดีทัศน์ รวมทั้งกิจกรรมที่มีการลงมือปฏิบัติจริง 2. เนื่องจากเนื้อหาสาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม เป็นเนื้อหาที่มี เพื่อให้ผู้เรียนไม่เกิดความเบื่อหน่ายในเนื้อหาสาระ ซึ่งการลงมือปฏิบัติ จำนวนมาก ทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย และขาดการมุ่งมั่นในการ จะช่วยทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะและคุณลักษณะ ทำงาน ฉะนั้นครูผู้สอนควรที่จะมีการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาประยุกต์ อันพึงประสงต์ ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ มัลติมีเดียเกม วิดีทัศน์ หรือข่าวที่มี ความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระ

สรุป PLC การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2/2564 สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ที่มา/ภูมิหลังของวิจัย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายงานการประเมินผลสัมฤทธิ์ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2563 1. แบบปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับมัลติมีเดีย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนน้อยกว่าระดับ 3 ร้อยละ 22.99 2. แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7ES) ร่วมกับมัลติมีเดีย 3. ตามแนวคิดของสมิทและราแกน ประกอบการใช้เทคนิคผังกราฟิก รายงานผลการประเมินคุณภาพของนักเรียน ด้านการคิดวิเคราะห์ 4. ตามแนวคิดของกานเย 5. แบบปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับมัลติมีเดีย มีค่าอยู่ในระดับต่ำ ร้อยละค่าเฉลี่ยคุณภาพของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ปีการศึกษา 2563 มีด้านมีวินัย, ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน อยู่ในระดับต่ำ แบบแผนการวิจัย วัตถุประสงค์ของวิจัย 2 1. เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน EX หมายถึง กลุ่มตัวอย่าง 3. เพื่อศึกษาสมรรถนะของนักเรียน XT1 หมายถึง การทดสอบก่อนเรียน - การคิดวิเคราะห์ หมายถึง รูปแบบการจัดการเรียนรู้ - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ T2 หมายถึง การทดสอบหลังเรียน 4. เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปผลการวิจัย 1. นักเรียนชั้น ม.2/1 จำนวน 40 คน 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. นักเรียนชั้น ม.2/3 จำนวน 40 คน 2. สื่อการเรียนรู้ 3. นักเรียนชั้น ม.2/5 จำนวน 40 คน 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4. นักเรียนชั้น ม.2/7 จำนวน 40 คน 4. แบบวัดสมรรถนะ 5. นักเรียนชั้น ม.2/9 จำนวน 40 คน - การคิดวิเคราะห์ สุ่มอย่างง่าย - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (SIMPLE RANDOM SAMPLING) 5. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อเสนอแนะ เนื่องจากเนื้อหาของสาระพลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต 1. ควรประยุกต์ใช้กิจกรรมการเรียนรู้หรือวิธีการสอนไปใช้กับนักเรียนใน เป็นทั้งเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตและปัจจุบัน จึงต้องเน้นความจำค่อนข้างมาก ระดับชั้นอื่น ๆ ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะ ทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย และขาดทักษะและคุณลักษณะอันพึง เป็นด้านพุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย ประสงค์ ฉะนั้น ครูควรเน้นการประยุกต์ใช้วิธีการสอนที่เน้นการลงมือ 2. ควรนำวิธีการสอนไปใช้บูรณาการร่วมกับสาระอื่น ๆ นอกเหนือจาก ปฏิบัติ เช่น แบบปัญหาเป็นฐาน แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7ES) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต เพื่อให้ในแต่ละสาระ แบบตามแนวคิดของกานเย แบบตามแนวคิดของสมิทและราแกน มีวิธีการสอนที่หลายหลายมากขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้วิธีการสอนควรมีการประยุกต์ร่วมกับนวัตกรรมที่ทัน สมัย ได้แก่ มัลติมีเดีย ผังกราฟิก เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ 3. สามารถใช้วิธีการสอนต่าง ๆ ของผู้วิจัย ในการศึกษาค้นคว้าตัวแปรอื่น อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว นำมาสู่การเกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะ ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากการคิดวิเคราะห์และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เช่น การคิดสร้างสรรค์ การคิดแก้ไขปัญหา ความพึงพอใจ เป็นต้น

สรุป PLC การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2/2564 สาระเศรษฐศาสตร์ ที่มา/ภูมิหลังของวิจัย ครูเน้นการสอนจากหนังสือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ไม่ได้เน้นกระบวนการเรียนรู้ มีผลคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 31.45 1. แบบ4MAT ร่วมกับอินโฟรกราฟิก ต่ำกว่าระดับสังกัด (รัอยละ 40.70) 2. แบบปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับมัลติมีเดีย 3. แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) ร่วมกับอินโฟรกราฟิก 4. แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) ร่วมกับบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ 5. แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) ร่วมกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ครูไม่ส่งเสริมให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้ ครูเน้นท่องจำ และสร้างความคิดรวบยอด ไม่มีการปฏิบัติ วัตถุประสงค์ของวิจัย แบบแผนการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน EX หมายถึง กลุ่มตัวอย่าง 3. เพื่อศึกษาสมรรถนะของนักเรียน TX1 หมายถึง การทดสอบก่อนเรียน หมายถึง รูปแบบการจัดการเรียนรู้ - การคิดวิเคราะห์ T2 หมายถึง การทดสอบหลังเรียน - การคิดสร้างสรรค์ 4. เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน สรุปผลการวิจัย - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. นักเรียนชั้น ม.3/3 จำนวน 27 คน 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. นักเรียนชั้น ม.4/1 จำนวน 23 คน 2. สื่อการเรียนรู้ 3. นักเรียนชั้น ม.5/2 จำนวน 19 คน 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4. นักเรียนชั้น ม.5/3 จำนวน 15 คน 4. แบบวัดสมรรถนะ 5. นักเรียนชั้น ม.6/1 จำนวน 20 คน - การคิดวิเคราะห์ สุ่มอย่างง่าย - การคิดสร้างสรรค์ (SIMPLE RANDOM SAMPLING) 5. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อเสนอแนะ เนื่องจากเนื้อหาของสาระเศรษฐศาสตร์ ค่อนข้างจำเป็นต้องมี 1. ควรนำวิธีการสอนไปใช้ในการพัฒนาการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ในเรื่องอื่น ๆ องค์ความรู้พื้นฐานและต้องอาศัยความจำ หากผู้เรียนไม่มีความ เช่น เงินเฟ้อเงินฝืด ระบบเศรษฐกิจ สถาบันการเงิน เป็นต้น เข้าใจในเนื้อหาสาระอาจเกิดความเบื่อหน่าย นำมาสู่การขาดความ 2. ควรนำกิจกรรมการเรียนรู้และวิธีการสอนต่าง ๆ ของผู้วิจัย ไปใช้กับสาระ มุ่งมั่นในการทำงาน ฉะนั้น ครูควรที่จะเน้นการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ การเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อให้แต่ละสาระการเรียนรู้มีความหลากหลายทางวิธีการสอน ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงด้วยวิธีการสอนต่าง ๆ เช่น แบบสืบเสาะ เพื่อที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพ หาความรู้ 5 ขั้น (5ES) แบบ4MAT แบบปัญหาเป็นฐาน เป็นต้น 3. ในการใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) แบบ4MAT ผนวกกับควรอธิบายและยกตัวอย่างเนื้อหาสาระที่สามารถพบเห็นได้ และแบบปัญหาเป็นฐาน ครูผู้สอนควรศึกษาระยะเวลาที่เหมาะสมในการจัด ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในและเห็นความ กิจกรรม และรูปแบบกิจกรรมที่ใช้ควรมีความหลากหลายตามวัยและระดับสติ สำคัญของเนื้อหาสาระเศรษฐศาสตร์ ปัญญาของผู้เรียนด้วย

สรุป PLC การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2/2564 สาระประวัติศาสตร์ ที่มา/ภูมิหลังของวิจัย การจัดกิจกรรมไม่หลากหลาย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และไม่เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน ครูขาดความรู้ ทักษะ 1. วิธีการทางประวัติศาสตร์ ร่วมกับมัลติมีเดีย และเทคนิคการสอน 2. ตามแนวคิดของกานเย ร่วมกับมัลติมีเดีย 3. แบบคิดอุปนัยร่วมกับมัลติมีเดีย นำเทคนิควิธีการสอนใหม่ ๆ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอน เทคนิค 4. แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) ร่วมกับอินโฟรกราฟิก มาใช้ และหานวัติกรรมการสอนที่ทันสมัย 5. แบบห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับอินโฟรกราฟิก 6. แบบห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับมัลติมีเดีย วัตถุประสงค์ของวิจัย 1. เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ แบบแผนการวิจัย 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3. เพื่อศึกษาสมรรถนะของนักเรียน EX หมายถึง กลุ่มตัวอย่าง - การคิดวิเคราะห์ XT1 หมายถึง การทดสอบก่อนเรียน - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ หมายถึง รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 4. เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน T2 หมายถึง การทดสอบหลังเรียน - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปผลการวิจัย 1. นักเรียนชั้น ม.2/9 จำนวน 46 คน 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. นักเรียนชั้น ม.2/15 จำนวน 28 คน 2. สื่อการเรียนรู้ 3. นักเรียนชั้น ม.3/6 จำนวน 42 คน 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4. นักเรียนชั้น ม.3/13 จำนวน 26 คน 4. แบบวัดสมรรถนะ 5. นักเรียนชั้น ม.5/3 จำนวน 45 คน 6. นักเรียนชั้น ม.5/5 จำนวน 47 คน - การคิดวิเคราะห์ - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ สุ่มอย่างง่าย 5. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (SIMPLE RANDOM SAMPLING) - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อเสนอแนะ 1. เนื่องจากเนื้อหาสาระประวัติศาสตร์ เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับอดีต 1. ในการจัดการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ ควรนำกิจกรรมการเรียนรู้และ ซึ่งจะต้องเน้นความจำ ทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย และขาดการ วิธีการสอนต่าง ๆ ของผู้วิจัย ไปใช้กับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อให้ที่จะส่ง มุ่งมั่นในการทำงาน ฉะนั้น ครูผู้สอนควรที่จะมีการนำนวัตกรรมที่ทัน เสริมให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่าน สมัยมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ มัลติมีเดียเกม วิดีทัศน์ การลงมือปฏิบัติ รวมทั้งควรเลือกรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ 2. ควรใช้วิธีการสอนของผู้วิจัย ในการศึกษาค้นคว้าตัวแปรอื่น ๆ เพิ่มเติม จริงด้วยตนเอง เช่น แบบวิธีการทางประวัติศาสตร์ การจัดการเรียนรู้ นอกเหนือจากการคิดวิเคราะห์และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เช่น ตามแนวคิดของกานเย แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) แบบ การคิดแก้ไขปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การคิดสังเคราะห์ เป็นต้น ห้องเรียนกลับด้าน เป็นต้น 2. ในการจัดกาเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ มีสื่อการเรียนรู้ค่อนข้าง 3. การจัดการเรียนรู้ตามวิธีการสอนของผู้วิจัยในรูปแบบออนไลน์ ครูควร น้อยและไม่มีความหลากหลาย ฉะนั้น ครูควรที่จะสร้างสื่อการเรียนรู้ จัดการระยะเวลาในการทำกิจกรรมของผู้เรียนให้มีความเหมาะสม เนื่องจาก ให้มีความหลากหลาย ได้แก่ มัลติมีเดีย แหล่งข้อมูลออนไลน์ เพื่อให้ การลงมือปฏิบัติของนักเรียนจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานเพื่อให้ผู้เรียนได้คิด ผู้เรียนได้ศึกษาและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบคำถามมีประสิทธิภาพ

สรุป PLC การวิจัยในชั้นเรียนของนิสิตสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2/2564 สาระภูมิศาสตร์ ที่มา/ภูมิหลังของวิจัย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปีการศึกษา 2563 1. แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7ES) ร่วมกับอินโฟรกราฟิก มีผลการประเมิน ด้านการคิดวิเคราะห์ต่ำ 2. แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) ร่วมกับมัลติมีเดีย และมีข้อเสนอแนะครูควรจัดกิจกรรมเน้นการวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ 3. ตามแนวคิดของกานเยร่วมกับมัลติมีเดีย 4. แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5ES) ร่วมกับบทเรียนวีดิทัศน์ช่วยสอน รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 5. แบบสมองเป็นฐานร่วมกับมัลติมีเดีย มีค่าอยู่ในระดับต่ำ และไม่ผ่านเกณฑ์การขั้นต่ำที่กำหนดไว้ แบบแผนการวิจัย วัตถุประสงค์ของวิจัย 1. เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ EX หมายถึง กลุ่มตัวอย่าง 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน XT1 หมายถึง การทดสอบก่อนเรียน 3. เพื่อศึกษาสมรรถนะของนักเรียน หมายถึง รูปแบบการจัดการเรียนรู้ - การคิดวิเคราะห์ T2 หมายถึง การทดสอบหลังเรียน 4. เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปผลการวิจัย 1. นักเรียนชั้น ม.1/4 จำนวน 44 คน 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. นักเรียนชั้น ม.1/10 จำนวน 44 คน 2. สื่อการเรียนรู้ 3. นักเรียนชั้น ม.1/13 จำนวน 36 คน 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4. นักเรียนชั้น ม.2/8 จำนวน 44 คน 4. แบบวัดสมรรถนะ 5. นักเรียนชั้น ม.2/10 จำนวน 41 คน - การคิดวิเคราะห์ สุ่มอย่างง่าย 5. แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (SIMPLE RANDOM SAMPLING) - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน สิ่งที่ได้เรียนรู้ ข้อเสนอแนะ 1. เมื่อประสบปัญหาในการเก็บรวบรวมข้อมูล อันได้แก่ นักเรียนไม่ 1. ในการจัดการเรียนรู้สาระภูมิศาสตร์ ครูควรนำวิธีการสอนที่หลากหลายที่เน้น ให้ความร่วมมือในการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หนึ่งในวิธีการ ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผนวกกับการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ แก้ไขปัญหา คือ การเสริมแรงทางบวกที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนทำ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะมัลติมีเดีย ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถเห็นภาพ กิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เช่น การให้คะแนน การให้ของรางวัล เสียง และข้อความที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระได้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น 2. หากเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ครูควรมีการนำสื่อการเรียนรู้ใน รูปแบบที่ผู้เรียนสามารถจับต้องได้ อันได้แก่ แผนที่ สื่อทำมือ มาประยุกต์ใช้ร่วม 1. เมื่อได้ไปจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนที่ไม่มีสื่อการเรียนรู้มากเท่าที่ กับการจัดการเรียนรู้ ควร อันได้แก่ โปรเจคเตอร์ ทีวี ครูผู้สอนควรที่จะจัดทำหรือนำสื่อ 3. ควรนำวิธีการสอนของผู้วิจัยที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ ไปประยุกต์ใช้ใน การเรียนรู้ที่เป็นสื่อทำมือ เช่น แผนที่ เข็มทิศ หรือสื่งทำมือ มา การจัดการเรียนรู้กับสาระการเรียนรู้และผู้เรียนในระดับชั้นต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียน ประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นภาพและข้อความ ได้และเกิดความรู้ ทักษะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านการลงมือปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระ

\" รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา \"

REWARD $700