แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบุคคล เช่น ความตง้ั ใจ ความกระตอื รือรน้ การมสี ่วนรว่ ม ความมีนา้ ใจ ความ รับผดิ ชอบ ความเปน็ ผูน้ าและการใชเ้ ทคโนโลยีในการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลุ่ม เชน่ การทางานรว่ มกัน ความรบั ผดิ ชอบและความมีนา้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เช่น การตรงต่อเวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรียบรอ้ ย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลมุ่ เชน่ ความสามัคคี ทักษะการทางานเป็นกล่มุ ทกั ษะการคิด และวเิ คราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรยี นรู้ 1. ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอพนัสนคิ ม 2. กศน.ตาบลนาวงั หิน 3. แหลง่ เรียนรูเ้ กยี่ วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งในชุมชน จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ายสัปดาหท์ ี่ 15 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เนื้อหาเร่อื ง เรือ่ งของเงนิ จานวน 24 ชว่ั โมง การวางแผนการเงนิ จานวน 30 ชัว่ โมง วนั ท.่ี ..1.เดือน.....มีนาคม....พ.ศ......2564...... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวชิ าการเงนิ เพอ่ื ชีวติ 3 รหัสวิชา สค32029 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เกี่ยวกบั ภมู ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครองในโลก และนามาปรบั ใช้ในการดาเนินชวี ติ เพือ่ ความมัน่ คงของชาติ สาระการเรยี นรู้ สาระการพฒั นาสังคม รายวชิ า รายวิชาการเงินเพอ่ื ชีวิต 3 รหัสวิชา สค32029 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง เพอื่ ให้ผเู้ รียนสามารถ 1. อธบิ ายความหมายและประโยชนข์ องเงนิ ได้ 2. บอกความหมาย และความแตกต่างของการใหเ้ งินและการให้ยมื เงินได้ 3. บอกความหมายของเงนิ เฟูอ เงินฝืดได้ 4. อธบิ ายวิธีการตรวจสอบธนบัตรได้ 5. คานวณอตั ราแลกเปลี่ยนเงนิ ตราตา่ งประเทศได้ 6. บอกช่องทางแลกเปลี่ยนเงนิ ตราต่างประเทศได้ 7. อธิบายเงนิ เสมือนได้ 8. เลือกประเภทเงนิ ฝากที่เหมาะสมกับตนเองได้ 9. คานวณดอกเบ้ยี เงินฝากแบบทบต้นได้ 10. อธบิ ายการคุ้มครองเงนิ ฝากได้ 11. บอกลักษณะการประกันภยั แต่ละประเภทได้ 12. บอกลักษณะการลงทนุ แต่ละประเภทได้ 13. วเิ คราะห์ความแตกต่างของเงินฝาก การประกันภยั และ การลงทุนได้ 14. บอกความหมาย และประโยชนข์ องการชาระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ 15. บอกลกั ษณะของบัตร ATM บตั รเดบติ บตั รเครดติ Internet Banking และ Mobile Banking ได้ 16. บอกกฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั ระบบการชาระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ 17. บอกโครงสร้างระบบสถาบนั การเงินของประเทศไทยได้ 18. บอกบทบาทหน้าทข่ี องสถาบันการเงนิ และหน่วยงานอน่ื ๆ ภายใตก้ ารกากบั ดแู ลของธนาคารแห่งประเทศ ไทยได้ 19. บอกบทบาทหนา้ ท่ขี องผ้ใู หบ้ ริการภายใต้การกากบั ดแู ลของหนว่ ยงานอนื่ ๆ ได้ 20. อธิบายหลกั การประเมนิ ฐานะการเงนิ ได้ 21. คานวณฐานะทางการเงินของตนเองได้ จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกดั สานักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 22. อธิบายลักษณะของการมสี ุขภาพการเงนิ ที่ดีได้ 23. ประเมนิ สขุ ภาพการเงนิ ของตนเองได้ 24. วเิ คราะห์ความแตกตา่ งของ “ความจาเปน็ ” และ “ความตอ้ งการ”ได้ 25. จัดลาดบั ความสาคญั ของรายจา่ ยได้ 26. บอกลกั ษณะของการบันทกึ รายรับ-รายจ่ายได้ 27. บอกประโยชนข์ องการบนั ทกึ รายรับ-รายจ่ายได้ 28. จดบนั ทึกรายรับ-รายจา่ ยได้ 29. วเิ คราะห์บนั ทึกรายรบั -รายจ่ายได้ 30. บอกประโยชนข์ องการมีเปูาหมายการเงินในชีวติ ได้ 31. บอกเปาู หมายการเงนิ ทค่ี วรมใี นชวี ติ ได้ 32. ตัง้ เปาู หมายการเงนิ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวตามหลัก SMART ทเ่ี หมาะสมกบั ตนเองได้ 33. วางแผนการเงนิ ของตนเองทส่ี อดคลอ้ งกับเปูาหมายในชีวิตได้ 34. อธบิ ายความหมายและประโยชนข์ องการออมได้ 35. ตง้ั เปาู หมายการออมที่เหมาะสมกับตนเองได้ 36. อธบิ ายหลักการออมใหส้ าเรจ็ ได้ 37. บอกบทบาทหนา้ ท่ีและหลกั การของกองทนุ การออมแหง่ ชาติ (กอช.) ได้ 38. บอกความหมายและหลกั การของกองทนุ สารองเลยี้ งชพี ได้ ตวั ชี้วัด ความหมายและประโยชน์ 1. อธิบายความหมายและประโยชน์ของเงิน 2. บอกความหมาย และความแตกตา่ งของการใหเ้ งนิ และการให้ยมื เงนิ 3. บอกความหมายของเงนิ เฟูอ เงนิ ฝืด ประเภทของเงนิ 1. อธิบายวิธีการตรวจสอบธนบตั ร 2. คานวณอตั ราแลกเปล่ียนเงนิ ตราต่างประเทศ 3. บอกช่องทางแลกเปลีย่ นเงนิ ตราต่างประเทศ 4. อธบิ ายเงนิ เสมอื น เงินฝาก การประกนั ภยั และการลงทนุ 1. เลือกประเภทเงนิ ฝากทเี่ หมาะสมกับตนเอง 2. คานวณดอกเบีย้ เงินฝากแบบทบตน้ 3. อธิบายการคุ้มครองเงนิ ฝาก 4. บอกลักษณะการประกนั ภยั แต่ละประเภท 5. บอกลกั ษณะการลงทนุ แต่ละประเภท 6. วิเคราะห์ความแตกต่างของเงนิ ฝาก การประกันภัย และ การลงทนุ การชาระเงินทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 1. บอกความหมาย และประโยชน์ของการชาระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 2. บอกลกั ษณะของบตั ร ATM บัตรเดบิต บัตรเครดิต Internet Banking และ Mobile Banking 3. บอกกฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับระบบการชาระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โครงสรา้ งระบบสถาบนั การเงนิ ของประเทศไทย 1. บอกโครงสร้างระบบสถาบันการเงนิ ของประเทศไทย จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 2. บอกบทบาทหนา้ ที่ของสถาบันการเงิน และหน่วยงานอื่น ๆ ภายใต้การกากบั ดแู ลของธนาคารแหง่ ประเทศ ไทย 3. บอกบทบาทหน้าทข่ี องผใู้ ห้บรกิ ารภายใต้การกากับดูแลของหน่วยงานอ่นื ๆ ประเมินฐานะการเงนิ ของตนเอง 1. อธบิ ายหลักการประเมนิ ฐานะการเงิน 2. คานวณฐานะทางการเงนิ ของตนเอง 3. อธบิ ายลักษณะของการมสี ขุ ภาพการเงินท่ีดี 4. ประเมนิ สขุ ภาพการเงินของตนเอง บนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย 1. วิเคราะห์ความแตกต่างของ “ความจาเป็น” และ “ความต้องการ” 2. จัดลาดบั ความสาคัญของรายจา่ ย 3. บอกลกั ษณะของการบนั ทึกรายรับ-รายจ่าย 4. บอกประโยชนข์ องการบันทกึ รายรบั -รายจ่าย 5. จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย 6. วเิ คราะหบ์ ันทึกรายรบั -รายจ่าย เปาู หมายการเงนิ ในชีวติ 1. บอกประโยชนข์ องการมีเปูาหมายการเงินในชีวติ 2. บอกเปูาหมายการเงนิ ท่คี วรมีในชีวติ 3. สามารถต้งั เปูาหมายการเงนิ ระยะส้นั ระยะกลาง และระยะยาวตามหลกั SMART ทเ่ี หมาะสมกับตนเอง 4. วางแผนการเงินของตนเองท่สี อดคล้องกบั เปูาหมายในชีวิต การออม 1. อธิบายความหมายและประโยชน์ของการออม 2. ต้งั เปูาหมายการออมทเี่ หมาะสมกับตนเอง 3. อธิบายหลักการออมให้สาเรจ็ 4. บอกบทบาทหนา้ ทีแ่ ละหลักการของกองทนุ การออมแห่งชาติ (กอช.) 5. บอกความหมายและหลักการของกองทนุ สารองเลี้ยงชพี เน้อื หา ความหมายและประโยชน์ 1. ความหมาย และประโยชนข์ องเงนิ 2. ความหมาย และความแตกตา่ งของการให้เงินและการให้ยมื เงนิ 3. ความหมายของเงนิ เฟอู เงนิ ฝดื ประเภทของเงนิ 1. เงินไทย - ธนบตั ร - เหรยี ญกษาปณ์ 2. เงินตราต่างประเทศ - สกลุ เงนิ ของตา่ งประเทศทสี่ าคัญ - อัตราแลกเปล่ยี นและวิธีการคานวณเงินตราต่างประเทศ - ช่องทางการแลกเปล่ียนเงินตราตา่ งประเทศ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กดั สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 3. เงินเสมอื น (virtual currency) เงินฝาก การประกนั ภยั และการลงทุน 1. ประเภท ลักษณะ ประโยชน์ และข้อจากัดของการฝากเงนิ - บัญชีเงนิ ฝากออมทรพั ย์ - บญั ชีเงินฝากประจา - บญั ชีเงนิ ฝากประจารายเดอื นปลอดภาษี - บญั ชีเงินฝากแบบขน้ั บันได - สลากออมทรพั ย์/สลากออมสนิ - ขอ้ แนะนาในการ ตัดสนิ ใจเลือกประเภทเงินฝาก 2. ความหมายและวิธกี ารคานวณดอกเบ้ียเงนิ ฝากแบบทบต้น 3. การคุ้มครองเงินฝาก 4. การประกนั ภัย และการลงทุน การชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ 1. ความหมาย และประโยชน์ของการชาระเงนิ ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 2. ลักษณะของบัตร ATM บตั รเดบิต บตั รเครดิต Internet Banking และ Mobile Banking 3. กฎหมายพน้ื ฐานท่ีเก่ียวขอ้ งกับระบบการชาระเงินทางอิเลก็ ทรอนิกส์ โครงสรา้ งระบบสถาบันการเงินของประเทศไทย 1. โครงสรา้ งระบบสถาบนั การเงินของประเทศไทย 2. สถาบันการเงินและหน่วยงานอนื่ ๆ ภายใต้การกากับดแู ลของธนาคารแห่งประเทศไทย 3. ผใู้ ห้บรกิ ารภายใต้การกากับดูแลของหน่วยงานอ่ืน ๆ ประเมินฐานะการเงนิ ของตนเอง 1. หลกั การประเมินฐานะการเงนิ ของตนเอง โดยคานวณจานวนและอตั ราสว่ น ดังนี้ - ความม่ังคั่งสทุ ธิ - อตั ราสว่ นภาระหนีส้ ินตอ่ รายได้ (ตอ่ เดือน) - จานวนเงนิ ออมเผอ่ื ฉุกเฉิน - อตั ราส่วนเงนิ ออมต่อรายได้ (ต่อเดือน) 2. การมีสุขภาพการเงินท่ีดี - ความหมาย - ลกั ษณะการมสี ุขภาพการเงนิ ทดี่ ี ได้แก่ - มภี าระชาระหนไี้ ม่เกนิ 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน - ออมอย่างน้อย 1 ใน 4 ของรายไดต้ ่อเดอื น - มีเงินออมเผอื่ ฉุกเฉนิ ประมาณ 6 เท่าของรายจ่ายจาเปน็ ต่อเดอื น บนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย 1. ความแตกต่างของความจาเปน็ และความต้องการ 2. การจัดลาดับความสาคัญของรายจา่ ย 3. ลักษณะและประโยชนข์ องบนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย 4. วธิ บี ันทกึ รายรับ-รายจ่าย เปูาหมายการเงินในชีวติ 1. ประโยชน์ของการมเี ปาู หมายการเงนิ ในชีวิต 2. เปูาหมายการเงนิ ทค่ี วรมีในชีวิต 3. ประเภทของเปาู หมายการเงิน จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกดั สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 - ระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) - ระยะกลาง (1 – 3 ปี) - ระยะยาว (มากกวา่ 3 ปี) 4. วธิ ีการตง้ั เปูาหมายการเงิน ตามหลกั SMART 5. การวางแผนการเงนิ ให้เปน็ ไปตามเปูาหมายที่ตั้งไว้ การออม 1. ความหมายและประโยชนข์ องการออม 2. เปูาหมายการออม เชน่ - ออมอย่างน้อย 1 ใน 4 ของรายได้ตอ่ เดอื น - ควรออมเพื่ออะไรบา้ ง 3. หลักการออมให้สาเรจ็ 4. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั กองทนุ การออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนสารองเลีย้ งชีพ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏิบัตติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหนา้ กากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่าง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผู้เรยี นในการพบกลุม่ ครง้ั น้ี 3. ครูพูดคยุ กบั ผ้เู รียนเกี่ยวกับลักษณะการใช้บริการทางการเงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ และลกั ษณะการออม เงนิ ของผู้เรียน ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู (N:New way of learning) 1. ครแู บ่งกล่มุ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ โดยใหแ้ ตล่ ะกลุ่มศึกษาใบความรู้ ดังนี้ เร่ืองท่ี 1 ความหมายและประโยชนข์ องเงนิ เร่ืองที่ 2 ประเภทของเงนิ เรื่องท่ี 3 เงนิ ฝาก การประกนั ภยั และการลงทุน เรอ่ื งที่ 4 การชาระเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์ เรือ่ งที่ 5 โครงสรา้ งระบบสถาบันการเงินของไทย เรือ่ งที่ 6 การประเมินฐานะการเงนิ ของตนเอง เรื่องท่ี 7 การบันทึกรายรบั -รายจา่ ย เรือ่ งท่ี 8 เปาู หมายการเงินในชีวิต เรอ่ื งที่ 9 การออม 2. ครูให้ผเู้ รยี นกลุม่ ที่ 1 ออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรยี น เมื่อนาเสนอเสร็จสิน้ แล้ว ใหท้ าการสรุปร่วมกันเปน็ องค์ ความรู้ 3. ครูให้ผูเ้ รยี นกลมุ่ ท่ี 2 ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี น เมอ่ื นาเสนอเสรจ็ ส้ินแลว้ ให้ทาการสรุปรว่ มกันเป็นองค์ ความรู้ 4. ครูให้ผเู้ รียนกลุ่มที่ 3 ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น เมือ่ นาเสนอเสร็จสน้ิ แลว้ ให้ทาการสรปุ ร่วมกัน 5. ครใู ห้ผูเ้ รยี นทกุ คนฝกึ ทกั ษะในการคานวณดอกเบ้ียแบบทบตน้ 6. ครใู ห้ผเู้ รียนกลุ่มที่ 4 ออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน เมือ่ นาเสนอเสร็จสิ้นแล้ว ใหท้ าการสรปุ ร่วมกนั 7. ครูให้ผู้เรยี นที่มีประสบการณ์เกี่ยวกบั การใชบ้ ริการบัตร ATM บัตรเดบิต บตั รเครดิต Internet Banking และ Mobile Banking ออกมาเล่าประสบการณ์ของตนเองใหเ้ พอ่ื นร่วมชั้นเรียนไดร้ บั ฟัง โดยเนน้ เกีย่ วกบั ประโยชนแ์ ละ โทษ ขอ้ ควรระวงั ของการใชบ้ รกิ ารดงั กลา่ ว จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกดั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 8. ครูและผู้เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ถงึ ขอ้ ดีและขอ้ เสียของกฎหมายพ้ืนฐานทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั ระบบการชาระเงนิ ทาง อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 9. ครูให้ผู้เรยี นกลุ่มที่ 5 ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน เม่อื นาเสนอเสร็จสิน้ แล้ว ให้ทาการสรุปรว่ มกนั 10. ครใู ห้ผูเ้ รียนกลมุ่ ที่ 6 ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน เม่ือนาเสนอเสรจ็ สิ้นแล้ว ใหท้ าการสรุปรว่ มกัน 11. ครใู ห้ผู้เรยี นทุกคนประเมนิ ฐานะทางการเงินของตนเอง และทาการสุ่มตวั อย่าง 10 ตวั อยา่ ง ออกมา นาเสนอหน้าชั้นเรยี น โดยทาการเลือกตวั อย่างทด่ี ีน้อยทส่ี ดุ และดีมากท่ีสุดอย่างละ 5 ตัวอย่าง 12. ครใู ห้ผู้เรียนกลุ่มท่ี 7 ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน เมือ่ นาเสนอเสรจ็ ส้ินแล้ว ให้ทาการสรปุ รว่ มกนั 13. ครูให้ผูเ้ รียนทุกคนนาสมุดบญั ชีครัวเรอื นของตนเองมานาเสนอ และร่วมกนั จดั ความสาคัญของรายจ่าย เพ่ือทาการลดรายจ่ายทไ่ี มจ่ าเป็นออก 14. ครูให้ผเู้ รียนกล่มุ ที่ 8 ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น เมือ่ นาเสนอเสรจ็ สิ้นแลว้ ให้ทาการสรุปร่วมกนั 15. ครูให้ผ้เู รยี นทุกคนฝึกต้งั เปาู หมายทางการเงนิ ของตนเอง และทาการสมุ่ ตัวอยา่ งออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี นจานวน 10 ตัวอยา่ ง และใหเ้ พือ่ นรว่ มชัน้ เรยี นช่วยกนั แสดงความคิดเห็นเพิม่ เติมและสรุปรว่ มกนั 16. ครูให้ผเู้ รียนกลมุ่ ท่ี 9 ออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น เม่อื นาเสนอเสร็จสน้ิ แลว้ ให้ทาการสรปุ ร่วมกัน 17. ครูพูดคยุ กบั ผูเ้ รียนถึงวิธกี ารออมเงนิ ของผเู้ รยี นแตล่ ะคน 18. ครใู ห้ผู้เรียนท่มี กี ารออมเงนิ ออกมาเล่าถงึ วิธีการออมเงินของตนเองใหเ้ พอ่ื นร่วมชนั้ เรยี นฟงั เพือ่ เปน็ ตวั อยา่ ง 19. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ถึงขอ้ ดีและข้อเสียของออมเงินในกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ กองทนุ สารองเลยี้ งชพี 20. ครแู นะนาใหผ้ ู้เรยี นรูจ้ ักออมเงนิ เพ่อื เกบ็ ไวใ้ ชใ้ นอนาคตของตนเอง 21. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนดาเนินการเรยี นรู้ด้วยตนเองและศกึ ษาคน้ คว้าเพ่มิ เติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ทิ ลั ทวี ี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ชอ่ ง 110 - True ชอ่ ง 371 - รับชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ทม์ ือถือ Smartphone ท่ี www.etvthai.tv/m ข้นั ท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผู้เรยี นสามารถใช้บรกิ ารบตั ร ATM บตั รเดบิต บตั รเครดิต Internet Banking และ Mobile Bankingด้วย ความปลอดภยั 2. ผู้เรียนสามารถจดั ทาบัญชรี ายรับ-รายจา่ ยและรู้จักการออมเงิน ข้ันที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับเงนิ และการวางแผนการเงนิ 2. ครูประเมนิ ผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผูเ้ รียนทาใบงาน สอื่ ประกอบการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนรู้รายวชิ าการเงนิ เพ่ือชีวติ 3 2 ใบงาน 3. สื่อ Internet 4. สมุดบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤติกรรมรายบคุ คล เช่น ความตงั้ ใจ ความกระตอื รือร้น การมสี ่วนร่วม ความมนี ้าใจ ความ รบั ผิดชอบ ความเปน็ ผูน้ าและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลุม่ เช่น การทางานร่วมกนั ความรับผดิ ชอบและความมนี ้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรียบรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ เช่น ความสามัคคี ทักษะการทางานเปน็ กลุ่ม ทักษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหิน 3. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูร้ ายสปั ดาห์ที่ 16 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เนือ้ หาเรื่อง สนิ เชอื่ จานวน 36 ช่ัวโมง สิทธิและหน้าท่ีของผู้ใช้บริการทางการเงนิ จานวน 10 ชัว่ โมง ภยั ทางการเงิน จานวน 20 ชั่วโมง วันท.่ี .14...เดือน......มีนาคม.....พ.ศ......2564.... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวชิ าการเงินเพ่อื ชีวติ 3 รหสั วิชา สค32029 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เกี่ยวกับภูมศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครองในโลก และนามาปรบั ใช้ในการดาเนินชีวติ เพื่อความม่นั คงของชาติ สาระการเรียนรู้ สาระการพฒั นาสังคม รายวิชา รายวชิ าการเงินเพอ่ื ชวี ิต 3 รหสั วิชา สค32029 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง เพอ่ื ให้ผเู้ รียนสามารถ 1. บอกลกั ษณะที่สาคญั ของสินเชื่อประเภทตา่ ง ๆ ได้ 2. บอกความหมาย บทบาทหนา้ ท่ี และขอ้ มลู ต่าง ๆ ที่สาคัญเกยี่ วกับเครดิตบโู รได้ 3. บอกวธิ กี ารปูองกนั ปัญหาหน้ีได้ 4. บอกวิธีการแกไ้ ขปัญหาหนี้ได้ 5. บอกชอ่ งทางในการใหค้ าปรึกษาวิธีแก้ไขปัญหาหน้ีได้ 6. บอกสทิ ธขิ องผู้ใช้บริการทางการเงนิ ได้ 7. บอกหน้าทีข่ องผู้ใช้บริการทางการเงนิ ได้ 8. บอกบทบาทหน้าทีข่ องศูนย์คมุ้ ครองผใู้ ช้บริการทางการเงนิ (ศคง.) และหนว่ ยงานทีร่ ับเรอื่ งรอ้ งเรียนอน่ื ๆ ได้ 9. บอกขั้นตอนการร้องเรยี นได้ 10. บอกหลกั การเขยี นหนังสือรอ้ งเรยี นได้ 11. บอกประเภทและลักษณะของภยั ทางการเงิน และยกตวั อยา่ งภยั ทางการเงนิ ที่มีในชุมชนได้ 12. บอกวิธีการปูองกนั ตนเองจากภยั ทางการเงินได้ 13. บอกวิธีแกป้ ัญหาท่ีเกิดจากภยั ทางการเงินได้ ตัวชี้วัด สนิ เชื่อ 1. บอกลักษณะท่ีสาคญั ของสินเชือ่ ประเภทต่าง ๆ 2. บอกความหมาย บทบาทหนา้ ที่ และข้อมลู ต่าง ๆ ทส่ี าคัญเกย่ี วกับเครดิตบูโร 3. บอกวธิ ีการปูองกนั ปัญหาหนี้ 4. บอกวิธกี ารแกไ้ ขปญั หาหนี้ 5. บอกชอ่ งทางในการใหค้ าปรกึ ษาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้ จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกดั สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สทิ ธิและหนา้ ที่ของผู้ใช้บริการทางการเงิน 1. บอกสทิ ธิของผู้ใช้บรกิ ารทางการเงิน 2. บอกหนา้ ท่ขี องผู้ใช้บรกิ ารทางการเงิน 3. บอกบทบาทหนา้ ทข่ี องศูนยค์ ุม้ ครองผ้ใู ช้บริการทางการเงิน (ศคง.) และหน่วยงานทีร่ ับเร่อื งรอ้ งเรยี นอื่น ๆ 4. บอกข้นั ตอนการรอ้ งเรยี น 5. บอกหลกั การเขียนหนังสือรอ้ งเรียน ภยั ทางการเงนิ 1. บอกประเภทและลกั ษณะของภยั ทางการเงนิ และยกตวั อย่างภัยทางการเงนิ ทม่ี ใี นชมุ ชน 2. บอกวิธีการปอู งกันตนเองจากภยั ทางการเงิน 3. บอกวิธีแก้ปัญหาท่ีเกดิ จากภยั ทางการเงิน เนื้อหา สินเชอื่ 1. การประเมนิ ความเหมาะสมก่อนตดั สินใจก่อหนี้ 2. ลักษณะของสนิ เชือ่ รายย่อยและการคานวณดอกเบยี้ 3. เครดติ บโู ร 4. วธิ กี ารปอู งกนั ปญั หาหน้ี 5. วธิ ีการแก้ไขปัญหาหนี้ 6. หนว่ ยงานทใี่ หค้ าปรกึ ษาเกย่ี วกบั วธิ กี ารแกไ้ ขปัญหาหน้ี สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของผ้ใู ช้บรกิ ารทางการเงนิ 1. สิทธขิ องผู้ใช้บริการทางการเงิน - ได้รับขอ้ มลู ที่ถกู ตอ้ ง - เลอื กใช้ผลิตภัณฑ์และบริการไดอ้ ย่างอสิ ระ - รอ้ งเรียนเพ่ือความเปน็ ธรรม - ไดร้ บั การพจิ ารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย 2. หน้าทีข่ องผู้ใชบ้ รกิ ารทางการเงนิ - วางแผนการเงนิ - ตดิ ตามขอ้ มูลขา่ วสารทางการเงนิ อย่างสมา่ เสมอ - เขา้ ใจรายละเอยี ดและเปรยี บเทยี บขอ้ มูลก่อนเลือกใช้ - ตรวจทานความถกู ตอ้ งของธรุ กรรมทางการเงนิ ทุกคร้ัง - เม่ือเปน็ หนีต้ ้องชาระหนี้ 3. บทบาทศนู ย์คุ้มครองผ้ใู ช้บริการทางการเงิน (ศคง.) และหนว่ ยงานท่ีรบั เรือ่ งรอ้ งเรยี นอนื่ ๆ 4. ขั้นตอนการร้องเรยี นและการเขยี นหนงั สอื รอ้ งเรียน ภยั ทางการเงิน 1. ประเภท ลักษณะ การปูองกนั ตนเอง และการแกป้ ญั หาในเรือ่ งภยั ทางการเงนิ - หนีน้ อกระบบ - แชรล์ ูกโซ่ - ภัยใกล้ตวั เชน่ การหลอกลวงใหจ้ ่ายเบย้ี ประกนั งวดสุดทา้ ย ตกทอง/ ล็อตเตอรป่ี ลอม - ภยั ออนไลน์ - ภัยธนาคารออนไลน์ - ภยั บตั รอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กดั สานกั งาน กศน.จงั หวัดชลบุรี
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครูและผู้เรยี นปฏิบตั ติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหนา้ กากอนามัย รกั ษาระยะหา่ งระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกลมุ่ ครั้งน้ี 3. ครพู ดู คยุ กบั ผู้เรยี นเกี่ยวกับประสบการณ์ในการเปน็ หนี้ของผูเ้ รียน ขั้นท่ี 2 แสวงหาข้อมูล (N:New way of learning) 1. ครูแบง่ กลมุ่ ผู้เรียนออกเปน็ กลมุ่ โดยให้ทกุ กลุ่มศึกษาใบความรู้ เร่ือง สนิ เช่ือ หลังจากนนั้ ทาการสุ่ม ตวั อยา่ งใหอ้ อกมานาเสนอหน้าชั้นเรยี น จานวน 3 กล่มุ เมื่อนาเสนอเสร็จส้นิ แลว้ ใหท้ าการสรปุ ร่วมกัน 2. ครูพดู คุยกับผู้เรยี นถงึ ขา่ วทม่ี ีตามหน้าหนงั สือพิมพ์ ทเ่ี กดิ จากการไมช่ าระหนีต้ ามกาหนดเวลา สว่ นมากจะ เกิดกบั หนี้นอกระบบ 3. ครูให้ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ดูคลิปวดี โี อ เกีย่ วกับปัญหาทเ่ี กิดจากการเปน็ หน้ที งั้ ในระบบและนอกระบบ และให้ ทุกกลุม่ สรปุ ใจความสาคัญทไี่ ดจ้ ากคลิปวดี โี อนัน้ หลงั จากน้ันและให้แต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น พร้อมทา การสรปุ รว่ มกัน 4. ครูให้ผเู้ รียนท่ีมีประสบการณ์ในการก่อหนี้ของตนเองมาเลา่ ประสบการณ์ของตนเองใหเ้ พื่อนร่วมชัน้ เรียนฟัง 5. ครใู ห้ผเู้ รียนทุกกลุม่ รว่ มกนั วเิ คราะห์ถึงวิธีการปูองกนั และแก้ไขปญั หาในการกอ่ หนี้ของคนไทย และให้ ออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 6. ครูแนะนาหนว่ ยงานทีใ่ หค้ าปรกึ ษาเกย่ี วกับวิธีการแก้ไขปญั หาหน้ีของผู้เรยี นได้ 7. ครูให้ผู้เรียนแตล่ ะกลุม่ ศึกษาใบความรู้เก่ยี วกบั สทิ ธิและหนา้ ทีข่ องผใู้ ช้บริการทางการเงนิ และให้ทุกกลุ่มสรุป ใจความสาคญั ท่ไี ด้จากใบความรนู้ นั้ หลงั จากน้นั ทาการสมุ่ ตวั อย่างให้ออกมานาเสนอหน้าช้นั เรียน จานวน 2 กล่มุ เมื่อ นาเสนอเสรจ็ ส้ินแล้ว ใหท้ าการสรุปร่วมกัน 8. ครใู ห้ผู้เรยี นทุกกลุ่มศกึ ษาใบความรูเ้ ก่ียวกับประเภท ลักษณะ การปอู งกนั ตนเอง และการแกป้ ญั หาในเรือ่ ง ภยั ทางการเงิน 9. ครใู ห้ผู้เรยี นกลุ่มทเ่ี หลอื ออกมาเสนอหนา้ ช้ันเรียน ในหัวขอ้ การปูองกันตนเองและแกป้ ัญหาในเรื่องภยั ทาง การเงินที่เกิดจาก - หนน้ี อกระบบ - แชร์ลูกโซ่ - ภัยใกล้ตวั เชน่ การหลอกลวงให้จ่ายเบยี้ ประกันงวดสดุ ท้าย ตกทอง/ ลอ็ ตเตอรปี่ ลอม - ภัยออนไลน์ - ภัยธนาคารออนไลน์ - ภัยบตั รอิเล็กทรอนิกส์ 10. ครใู ห้ผูเ้ รียนทเ่ี คยมีประสบการณ์ทางดา้ นภยั ทางการเงินมาเลา่ ประสบการณ์ของตนเองใหเ้ พอ่ื นรว่ มช้นั เรียนฟัง พร้อมท้งั การแกไ้ ขปัญหาดงั กล่าวของตนเอง 11. ครูมอบหมายให้ผู้เรียนดาเนินการเรียนรดู้ ้วยตนเองและศึกษาค้นควา้ เพม่ิ เติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ลั ทวี ี จาก ETV ชอ่ ง 52 - PSI ช่อง 110 - True ช่อง 371 - รบั ชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ท์มือถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ขัน้ ท่ี 3 การปฏิบัติและนาไปประยุกตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผเู้ รียนสามารถหลีกเลี่ยงการก่อหน้ีได้ 2. ผเู้ รยี นสามารถปฏบิ ัติตนในฐานะทเ่ี ป็นผใู้ ช้บริการทางการเงนิ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรียนร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกบั สินเช่ือ สิทธิและหน้าท่ขี องผู้ใช้บริการทางการเงินและภัยทางการเงิน 2. ครปู ระเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผ้เู รยี นทาใบงาน สอื่ ประกอบการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรรู้ ายวชิ าการเงนิ เพือ่ ชีวติ 3 2 ใบงาน 3. สอ่ื Internet 4. คลิปวีดโี อ เร่ืองปัญหาท่ีเกิดจากการเปน็ หนีท้ ัง้ ในระบบและนอกระบบ การวดั ผลประเมินผล 1. การสังเกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบคุ คล เช่น ความตัง้ ใจ ความกระตือรือรน้ การมีส่วนร่วม ความมีน้าใจ ความ รบั ผดิ ชอบ ความเป็นผ้นู าและการใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ 1.2 พฤติกรรมกลุม่ เช่น การทางานร่วมกนั ความรบั ผดิ ชอบและความมนี า้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงตอ่ เวลา ความถกู ตอ้ ง ความสะอาดเรียบรอ้ ย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่ เช่น ความสามคั คี ทกั ษะการทางานเป็นกลุม่ ทักษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรียนรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอพนัสนคิ ม 2. กศน.ตาบลนามะตูม 3. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กดั สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นร้รู ายสัปดาห์ท่ี 17 แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เน้อื หาเร่อื ง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ จานวน 20 ชวั่ โมง ชีวติ และครอบครวั จานวน 15 ชั่วโมง เพศศกึ ษา จานวน 20 ช่ัวโมง วนั ท่ี....21..เดอื น....มนี าคม......พ.ศ.....2564....... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวชิ าชีวิตและครอบครัว รหัสวิชา ทช32004 รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม เจตคตทิ ีด่ ี มที กั ษะในการดแู ลและสร้างเสรมิ การมพี ฤตกิ รรมสุขภาพท่ีดีปฏบิ ัติจน เปน็ กิจนิสัย วางแผนพฒั นาสุขภาพ ดารงสขุ ภาพของตนเอง และครอบครวั ตลอดจนสนับสนนุ ใหช้ ุมชนมสี ว่ นรว่ มในการ สง่ เสริมด้านสขุ ภาพพลานามยั และพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดี สาระการเรียนรู้ สาระทกั ษะการดาเนนิ ชีวิต รายวิชา รายวชิ าชีวติ และครอบครัว รหัสวิชา ทช32004 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถ 1. อธิบายกระบวนการสรา้ งเสรมิ และดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบอวยั วะต่างๆ ได้ 2. อธิบายวิธีวางแผนการดูแลสขุ ภาพ และปฏบิ ัติตนตามแผนใหเ้ หมาะสมตามภาวการณเ์ จรญิ เตบิ โตและ พัฒนาการของตนเองและครอบครวั ได้ 3. อธิบายของครอบครัว เพ่อื น สงั คมและวัฒนธรรมที่มีตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศ และการดาเนนิ ชวี ิตได้ 4. มีทกั ษะในการสรา้ งเสรมิ สัมพันธภาพท่ีดีตอ่ กันได้ 5. มคี ่านยิ มท่ีดีในเรื่องเพศและเขา้ ใจในธรรมชาติของการเกดิ อารมณ์ทางเพศได้ 6. อธบิ ายวัฒนธรรมทม่ี ผี ลตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศและสามารถจัดการได้ถูกต้องเหมาะสมได้ 7. หลีกเลี่ยงและปูองกนั ตนเองจากความเสีย่ งตอ่ การติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ ตัวชว้ี ัด การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ 1. อธิบายกระบวนการสรา้ งเสรมิ และดารงประสทิ ธิภาพการทางานของระบบอวัยวะต่างๆ 2. อธิบายวธิ ีวางแผนการดูแลสขุ ภาพ และปฏิบัติตนตามแผนให้เหมาะสมตามภาวการณเ์ จรญิ เติบโตและ พัฒนาการของตนเองและครอบครัว ชีวติ และครอบครัว 1. อธบิ ายของครอบครัว เพอื่ น สังคมและวัฒนธรรมทมี่ ตี ่อพฤติกรรมทางเพศ และการดาเนนิ ชีวิต 2. มที กั ษะในการสรา้ งเสรมิ สัมพนั ธภาพทด่ี ีตอ่ กัน เพศศกึ ษา 1. มคี า่ นยิ มทีด่ ีในเรื่องเพศและเข้าใจในธรรมชาติของการเกิดอารมณท์ างเพศ 2. อธบิ ายวฒั นธรรมทม่ี ีผลตอ่ พฤติกรรมทางเพศและสามารถจัดการไดถ้ ูกต้องเหมาะสม จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวดั ชลบุรี
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 3. หลีกเล่ียงและปอู งกันตนเองจากความเสยี่ งตอ่ การตดิ โรคทางเพศสมั พันธ์ เน้ือหา การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ 1. การสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบต่างๆ 1.1 อวยั วะภายนอก 1.2 อวยั วะภายใน 2. พัฒนาการตามวัยของมนุษย์ 3. ปัจจัยท่มี ผี ลต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ 4. การวางแผนการดุแลสุขภาพ 1.1 การออกกาลงั กายสม่าเสมอ 1.2 ตรวจสขุ ภาพประจาปี ชวี ติ และครอบครวั 1. ทกั ษะทีจ่ าเป็นต่อชวี ติ 2. บทบาทและหน้าที่ของตนเองท่ีมตี อ่ ชุมนและสังคม 3. การส่งเสรมิ สัมพนั ธภาพที่ดใี นชีวิต ครอบครัวและชุมชน 4. วางวางแผนชวี ติ และครอบครวั 5. การตัง้ ครรภ์ และการดแู ล 6. ทกั ษะทีจ่ าเป็นต่อชีวติ 7. ค่านยิ มเกยี่ วกบั ชวี ติ ครอบครัวและพฤตกิ รรมทางเพศ 7.1 การสรา้ งค่านยิ ม โดยยึดถอื วัฒนธรรมตามประเพณที ด่ี งี าม 8. การจัดการกับปญั หาชีวิตและครอบครัว เพศศึกษา 1. พฤตกิ รรมเบี่ยงเบนทางเพศ 2. อทิ ธิพลของสังคมและวฒั นธรรมต่อพฤตกิ รรมทางเพศ 3. โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์ 1. เอดส์ 2. กามโรค ฯลฯ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรยี นปฏิบตั ิตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหนา้ กากอนามยั รกั ษาระยะห่างระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกลุม่ ครัง้ นี้ 3. ครูพดู คุยกบั ผู้เรียนเกย่ี วกบั พัฒนาการของเพศหญงิ และเพศชาย ข้ันท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู (N:New way of learning) 1. ครูแบง่ กลมุ่ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ และให้แตล่ ะกลมุ่ ศึกษาใบความรู้ ดังน้ี เรอ่ื งที่ 1 การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ เรื่องที่ 2 ชีวิตและครอบครวั เรอื่ งท่ี 3 เพศศึกษา จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 2. ครใู ห้ผู้เรยี นท่ีศึกษาใบความรู้เรอื่ ง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดยใหผ้ ูเ้ รยี นรว่ มกันบอกตาแหน่งของระบบอวยั วะ จากแผนภาพ “อวยั วะของร่างกาย” ประกอบการนาเสนอหนา้ ชั้น เรียน 3. ครูให้ผู้เรยี นทุกคนทาแบบประเมินสขุ ภาพ เพื่อดูว่าสุขภาพของตนเองดีพอหรือยัง 4. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาวธิ กี ารดูแลสุขภาพของตนเองจากโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบลบา้ นช้าง โรงพยาบาลพนัสนิคม ภมู ปิ ัญญาด้านการนวดแผนไทย ฯลฯ 5. ครใู ห้ผูเ้ รียนทศี่ ึกษาใบความรเู้ รอ่ื ง ชวี ิตและครอบครวั ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 6. ครใู ห้ผู้เรียนรว่ มกันวิเคราะห์เกยี่ วกับกจิ กรรมทส่ี ่งเสริมสมั พันธภาพทด่ี ขี องบุคคลในครอบครวั พร้อมทั้ง ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรยี น 7. ครูพูดคยุ กับผเู้ รียนเก่ยี วกบั ทกั ษะทีจ่ าเปน็ ในการดาเนนิ ชวี ติ ของผู้เรียน 8. ครใู ห้ผเู้ รยี นทุกกลุ่มรว่ มกนั อภิปรายในหวั ขอ้ “ผูเ้ รียนสามารถประยกุ ต์ใช้ทกั ษะชีวติ ในการทางาน การ ปรับตวั และการแกป้ ัญหาชีวติ ของตนเองและเพอื่ นได้อย่างไร” พรอ้ มให้ทกุ กลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น หลงั จาก นาเสนอเสร็จทุกกลมุ่ แล้ว ใหร้ ว่ มกันสรุปเปน็ องค์ความรู้ 9. ครูให้ผู้เรียนท่ศี กึ ษาใบความรเู้ รือ่ ง เพศศึกษา ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน 10. ครพู ดู คุยกบั ผเู้ รยี นเกย่ี วกับขา่ วท่ปี รากฏอยู่ตามหน้าหนังสือพมิ พเ์ กี่ยวกับคดีท่เี กย่ี วขอ้ งกับเพศสมั พันธ์ 11. ครูให้ผเู้ รยี นเลือกเหตุการณ์ท่ีเก่ยี วขอ้ งกับปัญหาทางเพศ กลุม่ ละ 1 เหตุการณจ์ ากหนังสือพมิ พร์ ายวนั พรอ้ มท้ังใหร้ ว่ มกนั วิเคราะห์ในหวั ข้อต่อไปน้ี - การส่ือสาร/การต่อรองและการขอความช่วยเหลือเมอื่ เกดิ เหตกุ ารณด์ ังกลา่ ว - การจดั การกบั อารมณ์และความต้องการเมือ่ เกิดเหตุการณ์ดงั กล่าว - ความเช่ือผิดๆ เรอ่ื งเพศท่ีสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพทางเพศเมือ่ เกดิ เหตุการณ์ดงั กล่าว - อิทธิพลของสอ่ื ต่าง ๆ ท่ีสง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาทางเพศเมื่อเกิดเหตกุ ารณด์ ังกล่าว - กฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การล่วงละเมิดทางเพศเมื่อเกดิ เหตุการณ์ดังกล่าว หลงั จากนน้ั และใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน พรอ้ มทง้ั ให้เพ่อื นร่วมชัน้ รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เพิ่มเตมิ ขั้นที่ 3 การปฏิบัติและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผูเ้ รยี นสามารถปฏิบตั ิตนได้อยา่ งเหมาะสม ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สรุปเกย่ี วกับ - การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ - ชีวติ และครอบครัว - เพศศึกษา 2. ครปู ระเมนิ ผลการจัดกจิ กรรม 3. ครใู ห้ผู้เรียนทาใบงาน จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สงั กดั สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สอื่ ประกอบการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนรู้รายวิชาชวี ติ และครอบครัว 2. สือ่ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. แผนภาพระบบตา่ ง ๆ ของร่างกาย 6. แบบประเมินสขุ ภาพ 7. youtube เรือ่ งการทางานของระบบอวัยวะตา่ งๆ ของร่างกาย 8. หนังสอื พมิ พ์รายวันตา่ ง ๆ การวดั ผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤติกรรมรายบคุ คล เชน่ ความตัง้ ใจ ความกระตอื รอื ร้น การมีสว่ นรว่ ม ความมนี ้าใจ ความ รับผดิ ชอบ ความเป็นผู้นาและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤติกรรมกล่มุ เชน่ การทางานรว่ มกนั ความรบั ผิดชอบและความมนี า้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรยี บร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกล่มุ เช่น ความสามคั คี ทกั ษะการทางานเปน็ กล่มุ ทกั ษะการคิด และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนัสนคิ ม 2. กศน.ตาบลนาวังหนิ 3. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สังกดั สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรรู้ ายสัปดาหท์ ่ี 18 แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เน้อื หาเรอื่ ง การออกกาลังกาย และเลน่ กีฬาทั้งประเภทบคุ คล ประเภททีม กีฬาไทยและกีฬาสากล จานวน 30 ชวั่ โมง การประยุกต์หลกั วิทยาศาสตร์การเคล่อื นไหว ในการเล่นกีฬา จานวน 10 ช่ัวโมง การทดสอบและสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย เพอื่ การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬา จานวน 15 ชัว่ โมง การออกแบบโปรแกรม สรา้ งเสริมสมรรถภาพกลไก และสมรรถภาพทางกายของตนเองและผอู้ ื่น จานวน 10 ช่วั โมง วนั ท.ี่ ..28..เดือน....มนี าคม..พ.ศ.......2564..... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวิชาชีวิตและครอบครวั รหัสวิชา ทช32004 รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม เจตคติท่ีดี มีทักษะในการดแู ลและสร้างเสริมการมพี ฤตกิ รรมสขุ ภาพที่ดีปฏิบตั ิจน เป็นกจิ นิสยั วางแผนพัฒนาสขุ ภาพ ดารงสขุ ภาพของตนเอง และครอบครัวตลอดจนสนับสนนุ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการ สง่ เสริมด้านสุขภาพพลานามัยและพฒั นาสภาพแวดลอ้ มทดี่ ี สาระการเรียนรู้ สาระทกั ษะการดาเนนิ ชวี ิต รายวิชา รายวชิ าชีวิตและครอบครัว รหัสวิชา ทช32004 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวัง เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถ 1. เลน่ กีฬาประเภทบุคคล กฬี าประเภททมี การเคล่ือนไหว ทสี่ ร้างสรรค์ ในการเข้าร่วมกิจกรรมนนั ทนาการ และการทางานต่างๆ ได้ 2. สรุปความคิดรวบยอดและการเปรยี บเทยี บเก่ียวกบั การเคลอ่ื นไหวแบบต่างๆ และนาไปใช้ในการเล่นกฬี าได้ 3. ยอมรับและเห็นคุณคา่ การสรา้ งเสริมวถิ ชี วี ติ ที่มสี ขุ ภาพดี โดยการออกกาลังกายและเล่นกีฬาเป็นประจา สม่าเสมอได้ 4. ถา่ ยทอดความรู้เกีย่ วกบั สิทธิ กฎ กติกา ความปลอดภยั และกลวธิ ใี นการเลน่ การแข่งขันแกผ่ อู้ นื่ และนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ 5. แสดงความรับผิดชอบของตนเอง ทกั ษะและให้ความร่วมมอื ประยกุ ต์หลกั การรกุ การปอู งกนั และการให้ ความรว่ มมือในการเข้าร่วมกิจกรรม การเล่นกีฬาเปน็ กลุม่ ได้ 6. แสดงความมนี า้ ใจนกั กีฬา มจี ติ วญิ ญาณ ชื่นชมในสนุ ทรยี ภาพของการเล่น การชม และการแข่งขนั กฬี าได้ 7. ประยกุ ตค์ วามคดิ รวบยอด จากหลักวิทยาศาสตร์การเคลอ่ื นไหวในการออกกาลงั กายและการเล่นกีฬาได้อย่าง มีประสิทธิภาพได้ 8. ทดสอบและสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย เพื่อการออกกาลังกายและเลน่ กีฬาของตนเองและผู้อน่ื ได้ 9. ประยุกตห์ ลักการรุก การปูองกัน และการให้ความรว่ มมอื ในการเล่นการแขง่ ขันกฬี าและการทางานเป็นกลุ่ม ได้อยา่ งเหมาะสม จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กดั สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ตัวชี้วัด การออกกาลังกาย และเล่นกฬี าทง้ั ประเภทบคุ คล ประเภททีม กีฬาไทยและกฬี าสากล 1. เล่นกีฬาประเภทบุคคล กฬี าประเภททีม การเคล่ือนไหว ทส่ี รา้ งสรรค์ ในการเขา้ รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการ และการทางานตา่ งๆ 2. สรุปความคิดรวบยอดและการเปรยี บเทียบเกยี่ วกับการเคลือ่ นไหวแบบตา่ งๆ และนาไปใชใ้ นการเล่นกีฬา 3. ยอมรับและเห็นคณุ คา่ การสร้างเสรมิ วิถชี ีวติ ท่ีมสี ุขภาพดี โดยการออกกาลงั กายและเลน่ กฬี าเป็นประจา สม่าเสมอ 4. ถ่ายทอดความร้เู กี่ยวกับสิทธิ กฎ กติกา ความปลอดภัยและกลวิธีในการเลน่ การแขง่ ขันแกผ่ ้อู น่ื และนาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน 5. แสดงความรับผดิ ชอบของตนเอง ทกั ษะและให้ความรว่ มมอื ประยกุ ต์หลกั การรกุ การปอู งกัน และการให้ ความรว่ มมือในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม การเลน่ กฬี าเป็นกล่มุ 6. แสดงความมนี ้าใจนักกฬี า มจี ติ วิญญาณ ช่นื ชมในสุนทรียภาพของการเล่น การชม และการแขง่ ขันกีฬา การประยกุ ต์หลักวิทยาศาสตร์การเคลือ่ นไหวในการเล่นกีฬา ประยกุ ต์ความคิดรวบยอด จากหลกั วิทยาศาสตร์การเคลอ่ื นไหวในการออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ การทดสอบและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพ่ือการออกกาลังกายและการเล่นกฬี า ทดสอบและสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย เพื่อการออกกาลังกาย และเลน่ กฬี า ของตนเองและผอู้ น่ื การออกแบบโปรแกรม สร้างเสริมสมรรถภาพกลไกและสมรรถภาพทางกายของตนเองและผ้อู ่ืน ประยกุ ต์หลกั การรุก การปูองกัน และการให้ความร่วมมอื ในการเล่นการแขง่ ขันกีฬาและการทางานเปน็ กลุม่ ได้อยา่ งเหมาะสม เนื้อหา การออกกาลังกาย และเลน่ กฬี าทั้งประเภทบคุ คล ประเภททมี กีฬาไทยและกีฬาสากล 1. หลกั การ รูปแบบวธิ กี ารออกกาลงั กาย 2. ประเภทของกจิ กรรมพลศกึ ษา เกม และชนิดของกีฬา 2.1 ประเภทบุคคลกฬี าไทย เชน่ หมากรกุ หมากฮอส เป็นตน้ 2.2 ประเภททมี เช่น ตะกร้อลอดบว่ ง เซปกั ตะกรอ้ เป็นต้น 2.3 กีฬาสากล ฟุตบอล วอลเลย์บอล เทเบิลเทนนสิ ว่ายนา้ ฯลฯ 2.4 กฬี าพนื้ บ้าน กฬี าพน้ื เมือง 3. ทักษะการเคลื่อนไหวเฉพาะประเภทกฬี า 3.1 ว่ายนา้ 3.2 กรฑี า 4. ประโยชนข์ องการออกกาลังกายและการเล่นกีฬา 5. กฎ กติกา และมารยาทในการเลน่ เกมและกีฬาประเภทต่างๆ 6. ออกกาลังกาย โดยการเลน่ เกม และเลน่ กฬี าเป็นกล่มุ การประยกุ ต์หลกั วทิ ยาศาสตร์การเคล่ือนไหวในการเล่นกีฬา การประยุกต์หลักวิทยาศาสตร์การเคล่อื นไหวในการออกกาลังกายและการเล่นกฬี า การทดสอบและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพ่ือการออกกาลงั กายและการเล่นกฬี า 1. ความหมาย ความสาคญั ของสมรรถภาพทางกาย 2. สมรรถภาพทางกายทีเ่ หมาะสมตามเกณฑ์มาตรฐานของเพศและระดับอายุ 3. การทดสอบสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กดั สานกั งาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 4. หลักและวธิ กี ารสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย การออกแบบโปรแกรม สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพกลไกและสมรรถภาพทางกายของตนเองและผ้อู ่ืน การออกแบบโปรแกรม สรา้ งเสริมสมรรถภาพกลไก และสมรรถภาพทางกายของตนเองและผู้อนื่ กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรยี นปฏบิ ตั ติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหนา้ กากอนามยั รักษาระยะห่างระหวา่ ง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผ้เู รียนในการพบกลมุ่ ครัง้ นี้ ขัน้ ที่ 2 แสวงหาข้อมลู (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเปน็ กลมุ่ และให้แต่ละกลมุ่ ศกึ ษาใบความรู้ ดังนี้ เรอ่ื งท่ี 1 การออกกาลงั กาย และเล่นกีฬาท้ังประเภทบคุ คล ประเภททมี กีฬาไทยและกีฬาสากล เรอ่ื งที่ 2 การประยุกตห์ ลกั วิทยาศาสตรก์ ารเคลื่อนไหวในการเลน่ กีฬา เรื่องที่ 3 การทดสอบและสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพื่อการออกกาลงั กายและการเล่นกีฬา เร่ืองท่ี 4 การออกแบบโปรแกรม สร้างเสริมสมรรถภาพกลไกและสมรรถภาพทางกายของตนเองและ ผอู้ ื่น 2. ครพู ูดคยุ กับผูเ้ รียนเก่ียวกับพฤตกิ รรมในการออกกาลงั กายของผู้เรยี น 3. ครู ให้ช่วยกนั วเิ คราะห์เพือ่ นในห้องเรียนว่า บุคคลใดมสี ุขภาพแข็งแรงหรอื ออ่ นแอ แล้วแบง่ กลุ่มตามความ แขง็ แรง 4. ครใู ห้ผเู้ รยี นทกุ กลุ่มเลอื กกจิ กรรมการออกกาลังกาย กลุม่ ละ 1 กิจกรรม โดยตอ้ งไมซ่ า้ กัน แลว้ ให้ร่วมกนั วิเคราะห์ในหัวข้อตอ่ ไปนี้ - เหตุผลทเ่ี ลอื กกิจกรรมการออกกาลงั กายนี้ - แนวทางในการปฏบิ ัติที่สาคัญ - ประโยชนท์ ่ีได้รับจากการออกกาลงั กายน้ี และใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น พรอ้ มท้ังใหเ้ พ่อื นร่วมชน้ั เรยี นชว่ ยกันวเิ คราะห์เพม่ิ เติม 5. ครใู ห้ผ้เู รยี นสาธติ การออกกาลงั กายของทกุ กลุ่ม พรอ้ มอธบิ ายถงึ ประโยชนแ์ ละความเหมาะสมกับวธิ ีการที่ สาธติ ว่า เหมาะสมอยา่ งไร มีประโยชนอ์ ย่างไร 6. ครใู ห้ผเู้ รียนทุกคนออกแบบโปรแกรมสาหรับการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพกลไกและสมรรถภาพทางกายของ ตนเอง พรอ้ มทั้งสมุ่ ตวั อย่างออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรียน และให้เพอื่ นรว่ มช้ันเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ 7. ครูอธบิ ายให้ผเู้ รียนทราบกาหนดการสอบปลายภาคเรียน สถานท่สี อบ วิธกี ารเขา้ สอบ อปุ กรณท์ ีจ่ ะตอ้ ง เตรียมสาหรับการสอบ การปฏิบตั ิตนสาหรับการเข้าสอบ การอา่ นหนังสือสอบ และนัดหมายการลงทะเบียนเรียนใน ภาคเรยี นตอ่ ไป ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผเู้ รียนสามารถปฏบิ ตั ิตนได้อย่างเหมาะสม 2. ผู้เรียนออกกาลงั กายเป็นประจาเพอ่ื ใหม้ ีสุขภาพร่างกายท่แี ข็งแรง ข้ันที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันสรุปเกีย่ วกับการออกกาลังกาย และเลน่ กีฬาท้ังประเภทบคุ คล ประเภททีม กีฬาไทย และกฬี าสากล 2. ครปู ระเมนิ ผลการจัดกจิ กรรม 3. ครใู ห้ผเู้ รยี นทาใบงาน จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สือ่ ประกอบการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนรรู้ ายวชิ าชีวิตและครอบครัว 2. สอ่ื Internet 3. ใบความรู้ 4. Youtube เร่อื ง การออกกาลงั กายลกั ษณะต่าง ๆ การวดั ผลประเมนิ ผล 1. การสงั เกต 1.1 พฤติกรรมรายบุคคล เช่น ความตง้ั ใจ ความกระตอื รือรน้ การมีส่วนร่วม ความมนี ้าใจ ความ รับผิดชอบ ความเป็นผู้นาและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤติกรรมกลุ่ม เช่น การทางานรว่ มกนั ความรับผิดชอบและความมีนา้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เช่น การตรงตอ่ เวลา ความถกู ต้อง ความสะอาดเรยี บร้อย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกล่มุ เช่น ความสามัคคี ทกั ษะการทางานเปน็ กลุม่ ทกั ษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวงั หิน 3. สถานท่ีตา่ ง ๆ 4. Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
Search