Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปผลการจัดกิจกรรม เศรษฐกิจพอเพียง

สรุปผลการจัดกิจกรรม เศรษฐกิจพอเพียง

Published by Yuthika Kantho, 2021-04-12 14:19:17

Description: สรุปผลการจัดกิจกรรม เศรษฐกิจพอเพียง

Search

Read the Text Version

สรุปผลการจัดกิจกรรม ก โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี วี ติ ทย่ี ง่ั ยืน สรุปผลการจดั กจิ กรรม การเรียนรหู้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปีงบประมาณ 2564 (ไตรมาส1-2) โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี ีวติ ทีย่ ่งั ยนื ในวนั ที่ 25 กุมภาพนั ธ์ 2564 ณ ศนู ย์การเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง หมู่ท่ี1 ตาบลบา้ นบงึ อาเภอบ้านบงึ จงั หวดั ชลบุรี วิทยากรใหค้ วามรู้ โดยนายเฉลมิ พล สถาวร กศน.ตาบลโคกเพลาะ กศน.ตาบลไรห่ ลักทองและกศน.ตาบลนาวังหนิ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอพนสั นคิ ม สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวดั ชลบุรี กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม ข โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ีชีวติ ทย่ี ั่งยนื คานา กศน.ตาํ บลโคกเพลาะ กศน.ตําบลไร่หลกั ทองและกศน.ตําบลนาวังหิน สงั กดั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั อําเภอพนสั นคิ ม ได้จัดทําโครงการอบรมใหค้ วามรูแ้ ละฝึกปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดลสร้างวถิ ีชีวิตท่ีย่งั ยืน โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ใหผ้ ู้เข้าร่วมกิจกรรมรู้จกั การใชพ้ ้นื ทอ่ี ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพสูงสดุ พร้อมทั้งส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมตามแนวทาง ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซ่งึ มีการสรุปผลการจดั กจิ กรรมโครงการดงั กล่าวเพ่อื ต้องการทราบว่าการดาํ เนิน โครงการบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงคท์ ่ีกําหนดไวห้ รอื ไม่ บรรลใุ นระดบั ใดและได้จัดทําเอกสารสรปุ ผลการจดั กจิ กรรมการ เรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเสนอต่อผู้บริหาร ผเู้ ก่ียวข้องเพ่อื นาํ ข้อมลู ไปใชใ้ นการปรับปรุงและ พฒั นาการดําเนินโครงการให้ดีย่ิงขึน้ คณะผูจ้ ัดทาํ ขอขอบคณุ ผูอ้ ํานวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อําเภอ พนัสนิคม ที่ให้คาํ แนะนาํ คาํ ปรกึ ษา ในการจดั ทําสรุปผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในครงั้ น้ี หวงั เป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ฉบบั นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผ้ปู ฏบิ ัตงิ านโครงการและหนว่ ยงานท่เี กีย่ วข้องในการนําไปใชใ้ นการจัดกิจกรรม การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ต่อไป ยถู ิกา คนั โธ ครู กศน.ตาํ บล กุมภาพนั ธ์ 2564 กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม ก โครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี วี ติ ทยี่ ัง่ ยนื สารบญั หนา้ ก หวั เร่ือง คาํ นาํ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง บทที่ 1 บทนํา 1 1 - หลกั การและเหตุผล 1 - วตั ถปุ ระสงค์ - เปูาหมายการดําเนนิ งาน 1 - ผลลัพธ์ 2 - ตัวชีว้ ัดผลสาํ เร็จของโครงการ บทที่ 2 เอกสารการศกึ ษาและงานวจิ ัยท่ีเกีย่ วขอ้ ง 2 - กรอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 - เอกสาร/งานที่เกยี่ วข้อง 3 บทท่ี 3 วธิ ดี าํ เนนิ งาน บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 3 บทที่ 5 อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 10 ภาคผนวก - แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรูต้ ามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 13 - โครงการอบรมให้ความรแู้ ละฝกึ ปฏิบัติการ “โคก หนอง นา โมเดล” 18 - แบบประเมนิ ผรู้ ับบรกิ าร - ภาพประกอบการจดั กจิ กรรม - หนังสือเชญิ วิทยากร คณะผจู้ ัดทํา กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กิจกรรม ข โครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี ีวติ ที่ยั่งยืน สารบัญตาราง ตารางที่ รายละเอยี ด หน้า 1 ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ํามาจําแนกตามเพศ 13 2 13 3 ผ้เู ข้าร่วมโครงการทต่ี อบแบบสอบถามไดน้ าํ มาจําแนกตามอายุ 14 4 ผู้เขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ าํ มาจําแนกตามอาชพี 14 5 14 6 ผู้เขา้ ร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ํามาจําแนกตามระดบั การศกึ ษา 15 7 แสดงคา่ ร้อยละเฉล่ียความสําเรจ็ ของตัวชี้วัด ผลผลิต ประชาชนทว่ั ไป 15 คา่ เฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 8 16 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ 9 ด้านการบริหารจดั การ 16 ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้/การอบรม ค่าเฉลย่ี และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ด้านประโยชน์ท่ไี ด้รบั กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 1 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี วี ติ ท่ีย่งั ยืน บทท่ี 1 บทนา หลกั การและเหตุผล ท่ามกลางปญั หาการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ ทม่ี ีสาเหตุหลักมาจากการใช้ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งไร้ ขอบเขตของมนษุ ย์ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างตอ่ สมดุลระบบนิเวศและสิง่ แวดล้อม การเกิดปรากฏการณ์ตา่ งๆ ท่ี เป็นภยั คกุ คามต่อแหล่งผลิตอาหาร เช่น ความแห้งแลง้ น้ําทว่ ม โรคระบาดศตั รูพืช และอน่ื ๆ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง ภาวะวิกฤตที่ส่งผลกระทบตอ่ ภาคการเกษตรอยา่ งมาก คอื การเกิดภัยแลง้ ทนี่ ับวันจะมีความรนุ แรงเพิ่มขึน้ ในทกุ ปีท่ี ผา่ นมา ประเทศไทยรบั มอื กับปญั หาภยั แล้งในหลากหลาย รูปแบบ เชน่ การสร้างอา่ งเกบ็ น้ํา การสร้างเขื่อน หรือ การจัดทาํ ระบบชลประทาน ซ่งึ รปู แบบเหลา่ น้ีสามารถใชแ้ กไ้ ขปัญหาไดใ้ นบางพ้ืนทีข่ องประเทศไทยเท่าน้นั สาํ หรบั พื้นที่หา่ งไกลนอกเขตชลประทานที่มพี ืน้ ท่ี ถงึ 121,200,000 ไร่ ยงั คงตอ้ งประสบกับปญั หาการขาดแคลนน้ํา เพือ่ ใชใ้ นการเกษตร รปู แบบ โคก หนอง นา โมเดล จึงเป็นรปู แบบหน่ึงของการแกไ้ ขปัญหาเรือ่ งการจัดการนํ้า ท่สี ถาบัน เศรษฐกิจพอเพยี งและมูลนธิ ิกสิกรรมธรรมชาติ ได้น้อมนาํ พระราชดํารัสในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอ ดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ดา้ นการทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชบ้ ริหารจดั การนํา้ และพ้ืนท่ี การเกษตร โดยมกี ารผสมผสานกบั ภมู ิปญั ญาพน้ื บา้ นใหส้ อดคล้องกัน โดยแบง่ พื้นท่เี ป็นสัดสว่ น 30 : 30 : 30 : 10 ดังนี้ 30% สําหรบั แหลง่ น้ํา โดยการขุดบอ่ ทําหนองและคลองไส้ไก่ 30% สําหรบั ทาํ นา ปลกู ข้าว 30% สําหรบั ทํา โคกหรอื ปุา ปลกู ปาุ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อยา่ ง ก็คอื ปลูกไม้ใช้สอย ไม้กนิ ไดแ้ ละไมเ้ ศรษฐกจิ เพื่อให้ได้ประโยชน์ คอื มกี นิ มีอยู่ มใี ช้ มคี วามสมบูรณ์ และความร่มเยน็ และ 10% สาํ หรับท่ีอยู่อาศัย และเลย้ี งสตั ว์ เชน่ ไก่ ปลา ววั และควาย เป็นตน้ ซึ่งเป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพน้ื บ้านท่อี ยอู่ ย่างสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาตใิ น พน้ื ท่ีน้นั ๆ โคก หนอง นา โมเดล เปน็ การทใี่ หธ้ รรมชาติจัดการตวั เองโดยมี มนุษย์เปน็ ส่วนส่งเสรมิ ให้สาํ เรจ็ เรว็ ข้นึ อย่างเป็นระบบ จากเหตุผลดังกล่าว กศน.ตาํ บลโคกเพลาะ กศน.ตําบลไรห่ ลกั ทองและกศน.ตําบลนาวังหิน สงั กัดศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอําเภอพนสั นิคม จงั หวัดชลบุรี ไดเ้ ลง็ เห็นความสาํ คัญ จงึ ไดจ้ ัดทํา โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี ีวติ ทย่ี ัง่ ยืน ขึน้ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ ้เู ข้ารับการอบรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับโคก หนอง นา โมเดล ทีส่ ร้างวิถชี ีวิตทีย่ งั่ ยนื 2. เพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนาํ ความรู้ไปปรับใช้ในชวี ิตประจาํ วันได้ เป้าหมาย ด้านปรมิ าณ 1.ประชาชนตําบลโคกเพลาะ จาํ นวน 5 คน 2.ประชาชนตาํ บลไร่หลักทอง จํานวน 5 คน 3.ประชาชนตําบลนาวงั หิน จาํ นวน 5 คน รวมทั้งสิ้น 15 คน ด้านคุณภาพ - ผู้เขา้ รับการอบรมมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับโคก หนอง นา โมเดล ทส่ี ร้างวถิ ีชีวติ ที่ยัง่ ยืนและ สามารถนําความร้ไู ปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ได้ กศน.ตาบล สังกดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 2 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถชี วี ติ ทีย่ ่งั ยนื ผลลพั ธ์ - ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมรจู้ ักการใชพ้ น้ื ที่อย่างมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด อีกทงั้ มีการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ตลอดจนทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดัชนชี ี้วัดผลสาเร็จของโครงการ ตัวช้ีวัดผลผลติ - ประชาชนเข้าร่วมกจิ กรรมไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ตวั ชี้วัดผลลัพธ์ - ผูเ้ ข้าร่วมโครงการมคี วามพงึ พอใจต่อโครงการ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 - ผ้เู ข้ารว่ มโครงการสามารถนําความรไู้ ปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจําวนั ได้ ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 3 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี วี ติ ท่ยี ่ังยืน บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ยี วข้อง ในการจดั ทาํ สรปุ ผลโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ิตที่ยั่งยนื คร้ังน้ี คณะผู้จัดทาํ โครงการไดท้ ําการคน้ ควา้ เน้ือหาเอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่เกีย่ วข้อง ดงั นี้ 1. กรอบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. เอกสาร/งานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 1. กรอบการจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จุดเนน้ การดาเนินงานประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. นอ้ มนําพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาสกู่ ารปฏิบัติ 1.1 สบื สานศาสตรพ์ ระราชา โดยการสร้างและพฒั นาศนู ยส์ าธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพือ่ เป็นแนวทางในการจดั การบริหารทรัพยากรรปู แบบต่าง ๆ ทั้งดิน นา้ ลม แดด รวมถึงพืชพันธต์ุ ่าง ๆ และสง่ เสริม การใชพ้ ลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ ภารกิจตอ่ เนื่อง 1. ดา้ นการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.3 การศึกษาตอ่ เนอื่ ง 4) การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงผา่ นกระบวนการเรยี นรู้ ตลอดชีวติ ในรปู แบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพือ่ เสริมสรา้ งภมู คิ ้มุ กัน สามารถยืนหยัดอยไู่ ดอ้ ย่างมัน่ คง และมกี าร บรหิ ารจดั การความเส่ียงอยา่ งเหมาะสม ตามทิศทางการพฒั นาประเทศสคู่ วามสมดุลและย่ังยนื 2. เอกสาร/งานวิจยั ทเี่ ก่ยี วข้อง เกษตรทฤษฎใี หม่ หลกั การออกแบบดว้ ยพ้ืนท่ดี ้วย ภมู ิสังคม หลมุ ขนมครก ก็คอื เกษตรทฤษฎีใหมข่ องพระองค์ท่านนแี่ หละ ถา้ จะใหน้ ยิ าม เรามาใช้คํา ให้เปน็ ภาษา ชาวบ้านแคน่ ้ันเอง 1. โคก หนอง นาโมเดล ก็ถอื เป็น ๑ หลมุ พืน้ ทล่ี ุ่มนา้ํ น้ันเปรียบเหมือนถาดขนมครก ถาด 1 ถาด ถ้าไมม่ ี หลุมเลย ก็จะเปน็ ถาดเรียบ ๆ ทนี่ ํา้ ลากมาก็จะไหลผ่านหมด การทําหลมุ ขนมครกกค็ ือการทํา โคก หนอง นา เปน็ หลุมๆ อยู่ในถาดน้ัน ให้เป็นจุด ๆ ให้เตม็ ถาด เพือ่ ใหแ้ ทนทน่ี ํา้ ท่อี าจจะไหลผ่านทง้ั หมดทีเดยี ว น้าํ ก็จะได้ขังอยใู่ น หลุมขนมครก เพราะนํ้าฝนทงั้ หมดทตี่ กมา แทนที่จะทะลกั ล้นทําใหเ้ กดิ นาํ้ ทว่ มแบบน้มี ันก็จะโดนเกบ็ ไวก้ อ่ นแล้ว อยา่ งเชน่ ทน่ี ่านถ้าเราไปทําอย่างนี้ ทกุ ภเู ขาทก่ี ําลังหวั โล้นอยู่ ไปทาํ ท้งั ระบบเก็บนํา้ บนภูเขา มปี ลกู ปุาเพิ่มเพือ่ จะ เก็บน้ําไว้ในดิน เช่นการขดุ หนองบนเขา ทํานาบนเขา เปน็ นาข้ันบันได กจ็ ะสามารถชะลอน้ําไมใ่ หล้ ากลงมาได้ เพราะว่าระบบน้ําทีฝ่ นตก นํ้าจากนํา้ ฝนนีเ้ วลาตกจะโดนชะลออยใู่ นพ้ืนท่กี ่อนไม่ใชต่ กแลว้ หลากดงิ่ มาเลย เพราะถ้า ดงิ่ ลงมารวมกันหมด ก็จะทําใหเ้ กดิ การทะลักกลายเปน็ นํา้ ปุา แต่ถ้าทําอย่างนม้ี ันจะชะลออยู่เปน็ จุด ๆ หลมุ ขนมครก น้ี นอกจากจะชว่ ยชะลอน้าํ ท่วมแล้ว กย็ งั ทาํ ใหม้ นี ํา้ เก็บอยใู่ นทดี่ ินซง่ึ สามารถนํามาใช้ตลอดทงั้ ปไี ด้ ซึ่งหลกั การออกแบบ คอื ตอ้ งคาํ นวณวา่ ใน ๑ ปี จะใชน้ ้ําอยู่ก่ลี กู บาศก์เมตร แล้วจะต้องเก็บน้าํ ให้พอใช้ใน ๑ ปี โดยท่ไี มต่ อ้ งรอนํ้าจากระบบชลประทาน และต้องพงึ่ ตนเองเรอ่ื งนาํ้ ให้ได้ ๑๐๐% หรอื ๑๒๐% เพ่อื จะเผอื่ ชาวบ้านที่เขาไม่มีพอ หลกั สาคัญท่ีสดุ ในการออกแบบพ้ืนทจ่ี รงิ ๆ เราจะใชค้ ําว่าการออกแบบเชิงภมู ิสังคมไทย ซ่ึงคําว่าภมู ิ สังคมนี้ เป็นคาํ ทีใ่ นหลวงท่านพระราชทานให้ และคาํ นกี้ ็เป็นคาํ ทท่ี างมหาวิทยาลัยแมโ่ จ้ นาํ ไปเปิดเป็นหลักสตู ร ชอ่ื กศน.ตาบล สังกดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 4 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ติ ท่ียงั่ ยืน ว่าหลกั สูตรการพัฒนาภมู สิ ังคมอย่างยงั่ ยนื ซึง่ สามารถนาํ มาเชอ่ื มโยงกับ ความเขา้ ใจของสงิ่ ท่ีพระองค์ท่านทรงคดิ และปรชั ญาของพระองคท์ า่ น ว่าพระองคท์ า่ นอยากจะทาํ อย่างไร ท่ีสําคญั จริง ๆ น้ัน มปี จั จัยคอื เรอื่ งของคาํ ว่าภูมิ สังคมนน้ั ภูมิ คือ กายภาพ สภาพดิน นํ้า ลม ไฟ และสังคม คือ วฒั นธรรม ความเชือ่ ภมู ิปัญญาดัง่ เดมิ ท่อี ยใู่ นพืน้ ที่ นัน้ เพราะฉะน้ันปจั จยั ๒ ตวั น้คี อื ปัจจัยหลกั ท่ีสาํ คัญ ซ่งึ การออกแบบจริง ๆ น้ัน สังคมจะสําคัญกวา่ ภมู ิ เพราะตอ้ งออกแบบตามคนทอี่ ยู่ เปรยี บเสมอื นศัพท์ทาง สถาปนิกทเ่ี รามักจะใชค้ ือปลูกเรอื นตามใจผู้อยู่ เช่น การออกแบบพื้นทห่ี น่งึ ใน จังหวัดลาํ ปาง ถึงแม้จะเป็นภูเขาดา้ น เดยี วกนั แตค่ นที่อย่อู าศัยนนั้ เปน็ คนเผา่ กระเหร่ยี งและเผ่าอาขา่ ซึ่งเป็นคนละชนเผ่า ฉะนน้ั การออกแบบก็จะใช้คนละรูปแบบ เพราะวฒั นธรรมการกนิ อยูข่ องทงั้ ๒ เผ่า นั้น ไมเ่ หมือนกนั พชื ผกั ทเี่ ขาปลูกกไ็ มเ่ หมอื นกัน เพราะฉะนน้ั ความตอ้ งการน้ําของพชื ผักแตล่ ะชนิด จึงไม่เหมือนกัน ฉะนน้ั ภูมิประเทศ เหมอื นกนั กจ็ ริงแต่ถ้าสงั คมไม่เหมือนกันการออกแบบก็จะเปลยี่ นไปทันที ดงั น้ันสงั คมจึงจะมาก่อนภมู ิ ภูมิ จะเป็นบรรทัดฐานท่งี ่าย ๆ คอื หลกั ของภมู นิ ี้จะใช้หลกั เดียวกันท้งั ประเทศ เช่น ปริมาณนํา้ ฝนในพื้นที่ แต่ละพื้นที่น้นั ตกตา่ งกนั เทา่ ไหร่ กเ็ อาปรมิ าณน้าํ ฝนมาเป็นตวั คํานวณ ทิศทางลมของพื้นท่ี ส่วนใหญ่ในประเทศไทย จะเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อยู่แลว้ แต่ถ้าในพื้นท่ที ่ีเปน็ รอ่ งเขากอ็ าจจะต้องดูวา่ ลมมาจากร่องเขาไหน ทิศทาง แดด แดดชว่ งหนา้ หนาวตะวนั ออ้ มใต้ แดดกค็ อื ความร้อน การวางผงั อะไรกต็ าม จงึ ต้องคดิ ถึงเรือ่ งอะไรพวกนี้ ทัง้ หมด การออกแบบหลมุ ขนมครก หรอื กค็ ือ โคก หนอง นา ในพืน้ ทขี่ องเรา จะต้องคํานงึ ถงึ ตัวแปลสําคัญนน่ั คอื “ดนิ นํ้า ลม ไฟ และคน” ลกั ษณะความอมุ้ น้าํ ของดนิ ท่ตี า่ งกนั มผี ลตอ่ การออกแบบพื้นที่ เพราะจะต้องมกี าร วางแผนเพื่อขุดหนองนา้ํ และสงิ่ สําคญั อีกอยา่ งหนึง่ คอื การปรับปรงุ ดินโดยใช้หลักการฟื้นฟู รกั ษาความสมบูรณ์ของ หน้าดนิ โดยการหม่ ดินดว้ ยฟาง ใบไม้ หรอื หญ้า แลว้ ใชป้ ุ๋ยอินทรีย์ใหเ้ หมาะสม กบั คุณลกั ษณะของดินจะชว่ ย แก้ปญั หาดนิ ได้ มองให้เห็นคุณค่าของน้าํ ฝนท่ีตกลงมาโดยการเก็บไวใ้ หไ้ ดม้ ากที่สุด การขุดหนองน้ํา โดยดู ทางไหลของนํ้า เข้าและออกจากพ้นื ทีเ่ ปน็ ส่วนสาํ คัญส่วนหน่งึ หากวางตาํ แหน่องของหนองน้าํ ในทศิ ทางท่ใี ห้ ลมรอ้ นพดั ผา่ นก็จะทาํ ให้บ้านเยน็ ข้นึ การขดุ หนองนาํ้ ต้องขุดใหค้ ดเค้ยี ว ใหม้ ีระดบั ความสูงในหนองนา้ํ ไมเ่ ท่ากันแลว้ ปลูกพชื นํ้าเพ่อื ใหป้ ลา อาศยั และวางไขไ่ ด้ รวมทั้ง การทาแซนวิชดป์ ลา คือการนาํ หญ้าและฟางกองสลบั กับปุ๋ยหมกั ไวท้ ตี่ น้ นา้ํ เพ่ือสรา้ งแพลงตอนเพ่มิ อาหารให้กบั สัตวน์ าํ้ นัน่ เอง ตัวแปลสาคญั ของการออกแบบหลุมขนมครก หรือกค็ ือ โคก หนอง นา ในพน้ื ทขี่ องเรา คอื “ดิน น้าํ ลม ไฟ และคน” ลมจะหอบท้งั ความร้อนและฝนเข้ามาในพ้นื ท่ี จึงต้องร้วู ่าลมพัดเข้ามาทางไหน ตามปกติแลว้ ลมฝนจะพดั มา ทางทศิ ตะวันตกเฉยี งใต้ ส่วนลมหนาวจะพัดมาทางทศิ ตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนัน้ จงึ ควรวางตาํ แหนง่ บ้านและลาน ตากขา้ วไมใ่ ห้ขวางทศิ ทางลมหนาว การออกแบบบ้านก็ควรใหม้ ชี ่องลมสอดรับกบั ทิศทางลมทพี่ ดั มาในแตล่ ะฤดกู าล เพอ่ื ทาํ ให้บ้านเยน็ ลดการใชพ้ ลังงานได้ ไฟกค็ อื แสงจากดวงอาทิตย์ซ่งึ ก่อใหเ้ กิดความรอ้ นไปดว้ ย เราจะต้องสาํ รวจทิศทางขึ้นและ ตกของดวง อาทิตยโ์ ดยควรจะสังเกตหลายๆ คร้ังในทกุ ฤดู เพราะในแตล่ ะฤดมู ที ิศทาง และช่วงเวลาทไี่ มเ่ หมอื นกนั หวั ใจสาํ คญั ของการออกแบบกค็ อื ความต้องการของคน คนคิดอยา่ งไร คนอยอู่ ยา่ งไร ออกแบบใหเ้ หมาะสมกบั การดาํ รงชวี ิต ของผอู้ ยทู่ ีน่ ่นั จึงจะเรียกว่าดที ่สี ุด อ.ยกั ษ์ จะสอนเสมอวา่ ทํางานใหไ้ ด้ ๓ อย่าง ในการทาํ งานของพวกเรา โคก หนอง นา ก็เหมือนกัน เวลา ออกแบบ เราก็ตอ้ งคดิ ใหเ้ ขาทําใหไ้ ด้ ๓ อยา่ งเหมือนกนั คือ 1. ทํางานต้องไดง้ าน โคก หนอง นา เวลาเราทําเราตอ้ งไดแ้ บบของโคก หนอง นา กศน.ตาบล สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 5 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี วี ติ ทย่ี ง่ั ยนื 2. ทํางานตอ้ งได้เพ่อื น คือ ได้เพ่ือนมาช่วยกันทาํ งาน 3. เรือ่ งนเ้ี ปน็ เร่อื งใหญ่เลยและคนมกั จะลืมกนั ไปก็คือ ทาํ งานตอ้ งได้พฒั นาตนเอง ทงั้ จติ ใจ และกาํ ลังกาย ท้งั สุขภาพ เพราะฉะน้นั หลักในการออกแบบโคก หนอง นา ส่วนใหญจ่ ะเน้นในเร่ืองของการออกแบบอย่างไรใหเ้ กดิ กิจกรรม ๓ กิจกรรมนี้ เพราะ 3 กจิ กรรมน้ี จะเป็นตัวทาํ ให้งานสําเร็จ สาํ เร็จและมันย่งั ยนื ตอ่ ไปและเขาก็จะแบบมี ความภมู ใิ จคอื หลกั ๆในการออกแบบ เกษตรทฤษฎใี หม่ การข้นึ รูปแปลงนา เวลาเราจะกนิ ขา้ วมีทางเลือกเยอะแยะเลย ไปซือ้ เอากไ็ ด้ เพราะมนั ถกู ข้าวมันราคาถกู แต่ว่า ปลกู กินเองนี้ กบั ไปซ้อื เขาอันไหนมันจะอร่อยกว่ากัน การยกคันนา บ้านเรานี้มีปริมาณนํ้าฝนตกลงมาใส่ไร่หนึ่ง ๒,๐๐๐ ตันขึ้นไป ๒,๐๐๐ ตัน ก็คอื ๒,๐๐๐ คิว นน่ั เอง เพราะฉะนน้ั เกนิ กบั ปริมาณที่ข้าวต้องการ วธิ ีทีจ่ ะเกบ็ น้ําไวด้ ที ส่ี ดุ คือ ชาวนา ตอ้ งทําเขื่อนของตวั เองขนาด ใหญ่หรอื ทเี่ รยี กวา่ คนั นา อีสานเรียกวา่ คันแคนา คนั นาขนาดใหญ่ ๑ - ๒ เมตร บางบ้านทาํ ถึง ๕ – ๖ เมตร คันนาน้ี เรมิ่ ตน้ กต็ อ้ งยกคันนา เชค็ ระดบั แล้วกย็ กคันนา ยกคนั นาให้สามารถ เก็บนํ้าไว้ในนาได้แล้วปรบั พื้นนาใหเ้ สมอกัน ถา้ ปริมาณนํา้ ไม่แนใ่ จวา่ มนั จะเกบ็ ไดม้ ากกข็ ุดร่องริมคันนา การขดุ รอ่ ง ก็เพือ่ ที่จะเอาดินนนั้ ยกขน้ึ มาปน้ั คนั นาเมือ่ ไดค้ นั นาใหญๆ่ สูงๆ ก็ทําให้ต้องการ ดนิ มาก ดินตรง นน้ั กจ็ ะกลายเป็นร่องไป ร่องนนั่ ก็จะกลายเป็นท่ีอยขู่ องปลาอยา่ งดี เพราะปลาชอบอยทู่ ั้งในนํ้าลึกและหากนิ ในน้าํ ต้นื จึงต้องมีรอ่ งให้ ปลาอยอู่ ย่างมีความสุขในนํ้าลึก ขณะเดียวกนั ปลาก็จะขนึ้ ไปหากนิ ในท่ีแดดส่องถึง ซง่ึ ก็จะ มแี พลงตอนพืช แพลง ตอนสตั ว์ มีส่ิงมชี ีวติ ต่าง ๆ เยอะ เปน็ อาหารของปลา ปลากจ็ ะอยู่ได้อย่างมคี วามสุข นอกจากน้กี ารขดุ คนั นาแบบไลร่ ะดับหรือที่เรียกว่าทําเปน็ ตะพัก ยงั ช่วยไมใ่ ห้ดินจากบนคันนาไหลลงส่พู ้นื นาดา้ นล่าง โดยจะถูกดกั ไวบ้ นตะพกั นก้ี ่อน และยงั สามารถปลกู พชื บนจะพกั ไดอ้ ีกด้วย กอ่ นจะหว่านเมลด็ ไมว่ า่ จะตกกล้าเพ่อื จะถอนเอาไปดําหรือหว่านสําหรบั ทจ่ี ะเปน็ นาหว่าน ก็ควรจะทาํ เทอื ก ก่อน การทาเทอื ก ก็คอื ทาํ เลนให้มันเรียบสนทิ ใหเ้ สมอกนั นน่ั เอง เขามักจะให้คนลงไปทุบไปย้าํ หรอื ใชเ้ ครอ่ื งลง ไปยํ้าหรือเคร่ืองลงไปทุบ แลว้ ก็จะเอาไม้กระดานหรือเหลก็ หรืออะไรก็ไดป้ าดมนั ใหม้ ันเรียบ เป็นเทือกก็คือให้เปน็ เลนเปน็ เทือกเลย เรียบเพอื่ ให้นาํ้ มันขังเทา่ กนั ขา้ วกจ็ ะโตในลักษณะเท่าเทยี มกัน ฉะนั้นจาํ เปน็ ต้องปรบั ใหเ้ สมอกัน เพอ่ื ใหน้ ํ้าขงั ความลกึ ของน้าํ เท่ากันตลอดทง้ั แปลง ถา้ สมมตแิ ปรงถดั ไปมพี ้ืนทตี่ ํ่ากวา่ เราก็ต้องกดปรบั ขนึ้ อีกแปลง เพอ่ื ทจี่ ะยกคันนาเปน็ ขน้ั ขน้ั ถา้ เปน็ ภเู ขากป็ รับเป็นข้ัน ขน้ั ท้องหรือพ้ืนต้องเสมอกนั เพ่อื ให้ในทอ้ งนามคี วามลึก เทา่ กันนน่ั เอง นอกจากน้นั จะตอ้ งบํารุงดนิ ในพ้นื นาดว้ ยการดองเอาไวเ้ ราจะตอ้ งไปจดั การพ้ืนนาที่จะเปน็ ทีอ่ ยู่ของรากคือ ท้งั หมกั ทัง้ ดอง ถูกไหมทาํ ได้ท้งั 2 แบบ โดยมวี ตั ถุประสงคอ์ ะไร ให้จลุ ินทรีย์มนั เพ่มิ ปรมิ าณหรอื ชกั ชวนแมธ่ รณมี าอยู่ กบั เราจาํ นวนมาก ๆ เมอ่ื เราหมักเม่ือเราดองจุลนิ ทรีย์จะบมู มมี หาศาล วิธีหมกั ก็คอื เอาพืช ไมว่ า่ จะตอซังของมันเอง รากของมนั เอง หญ้าหรอื ถ่วั เราตอ้ งรวู้ า่ ดินที่ดเี หมาะสาํ หรับ ข้าวมากที่สุดคอื ดนิ ทีม่ อี นิ ทรียวตั ถุประมาณ ๕% สมยั โบราณ เขากไ็ ถหมกั พลกิ หญ้า จะได้ ท้งั ต้นหญ้า ดอกหญ้า ใบ หญา้ รากหญา้ หมกั กจ็ ะไดจ้ ุลนิ ทรยี ์ขน้ึ มา แลว้ เอานํ้าใส่ เอาป๋ยุ ชีวภาพ ทัง้ ปยุ๋ แหง้ ท้ังปยุ๋ น้ําใสล่ งไป หรือไม่อาจใช้ ปยุ๋ ชวี ภาพธรรมดาเลย ก็คือเอาข้วี วั นแ่ี หละใสล่ งไปงา่ ย ๆ กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 6 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชีวติ ท่ยี ั่งยนื แล้วกป็ ุ๋ยน้ําหมักชีวภาพใส่ลงไปไรล่ ะลิตร ใจร้อนบางคนใสท่ ่ีเดียวตงั้ ๒๐ ลิตร ก็ได้ ขา้ วก็จะ งามมาก แลว้ ก็ ยํา้ ลงไป ทบุ แลว้ ก็หมกั ท้ิงเอาไว้ ๗ วัน มันกจ็ ะยอ่ ยสลาย ถ้ามีเมล็ดตกค้างมนั กจ็ ะแตกออกมาเลย แลว้ ยาํ้ ทําอกี ซาํ้ ลง ไปอีกรอบหน่งึ กจ็ ะใชเ้ ครือ่ งกไ็ ดก้ ็ทบุ ลงไป จากน้นั กห็ มกั ทิง้ เอาไว้ วิธีดองดนิ หมายถึงวา่ เอานา้ํ ขงั ใหม้ ันแช่น้าํ แล้วก็ดองท้ิงเอาไว้ใหไ้ ดส้ ัก ๗ วนั รวมเปน็ ๒ ครั้ง ก็ ๑๔ วนั โดยประมาณ แล้วหลังจากน้ันกด็ าํ ไดเ้ ลย หรอื จะโยนกล้ากไ็ ด้ หรอื จะดําก็ได้ ข้าวก็จะงามโตเร็ว ให้ผลผลิตดี ขวี้ ัวผสมฟางท่ใี ช้หมกั ดองดนิ สามารถนํามาฉาบไปบนขอบตลิ่ง บนตะพกั รวมท้งั บนคนั นา เพราะจะได้ ประโยชนท์ ง้ั การบาํ รงุ ดนิ และเปน็ การทาํ ให้ผนงั คันนาแขง็ แรงขนึ้ ด้วย การหม่ ดินบนคันนา คอื ธรรมชาติของบา้ นเราเป็นเขตรอ้ นชน้ื สังเกตจากในปุาจะมใี บไม้สลดั หม่ ดนิ ไว้หนา บางทีเดินลงไปยุบลงไปหนาถึงเขา่ ฉะน้นั จะทําให้ดินเกิดความอดุ มสมบรู ณเ์ หมือนดนิ ปาุ ตามธรรมชาติ ก็ไปหาใบไม้ หญา้ หรอื ฟางกไ็ ด้ เอามาห่มเอาไว้ให้หนา อยา่ งนอ้ ยสกั ฝาุ มอื โดยวัตถุประสงคข์ องการห่มดิน ก็คือ ต้องการให้ดินเกดิ ทั้งความรอ้ นท้ังความชืน้ สภาวะบ้านเราเปน็ เขต ร้อนชื้น ถ้าเราไปกวาดใบไม้ออกหมดปลอ่ ยให้ดินเปลอื ย ดนิ กจ็ ะไมช่ ้นื และกไ็ มร่ อ้ น อยากทําใหด้ นิ มสี ภาพเปน็ รอ้ น ช้นื กไ็ ปหามาห่มเอาไว้ ก็จะได้ความชื้นอยใู่ นดินพอเหมาะ อย่างนอ้ ยประมาณสกั ๒๕% และกม็ ีความร้อนในสภาวะ ความร้อนความชน้ื จุลินทรยี ์จะทาํ งานเร็วมาก นัน่ กแ็ ปลว่ารากก็จะทํางานเรว็ มาก จึงทาํ ใหร้ ากยาวและกจ็ ะปรมิ าณ มาก ทําให้หาอาหารได้เกง่ ต้นไม้ก็จะโตให้ผลผลิตดี เทคนิคการหม่ ดนิ มดี งั นี้ 1. อยา่ ให้แสงส่องถงึ พืน้ 2. ให้ความร้อนชดั เจน เมือ่ ความรอ้ นนี้ถกู จุลินทรีย์บวกกับความชืน้ จะย่อยสลายใบไมก้ ลายเป็นฮวิ มสั ซ่ึง เป็นปยุ๋ ทีด่ ที ี่สดุ สําหรับพชื ทกุ ชนิด ทบทวนการขน้ึ รูปแปลงนา เร่ิมจากการทําคันนาสงู ประมาณ ๑ เมตร กวา้ งประมาณ ๒ เมตร จากนน้ั ขดุ ร่องน้ําโดยรอบรวมทง้ั ขดุ ไล่ ระดับคนั นาเปน็ ตะพัก แลว้ นาํ ดินท่ีขดุ ไปเพิม่ ความสูง ของคันนาไดอ้ ีก ดา้ นบนคนั นาให้ขดุ คลองไส้ไก่ไว้ด้วยจะดีมาก ต่อไปเปน็ การปรับระดบั พน้ื นา โดยอาจนาํ น้ําเข้าแปลง นาเล็กนอ้ ย เพอ่ื ใหก้ ารปรบั ระดบั ง่ายขน้ึ แล้วทําการย้าํ โดยคน หรอื ใช้รถไถปรบั ระดบั เพื่อใหพ้ ้ืนนาเรยี บเท่ากัน ท้ังแปลง หรือปุ๋ยชวี ภาพ นาํ นาํ้ เข้าแปลงนาพอทว่ ม แลว้ ยาํ่ ใหผ้ สมกนั จากนน้ั นําข้ีผสมฟางบางสว่ นข้ึนมาฉาบไว้ตามคันนา หมักดองไวป้ ระมาณ ๗ วัน ชว่ งเวลาน้ี ถา้ มีเมล็ดพชื ตกค้างก็อาจจะงอกขึ้นมาได้ เม่ือครบ ๗ วนั ก็ให้ย้ําลงไปอีกครั้งและทง้ิ ไว้อกี ๗ วัน รวมเปน็ ๑๔ วนั จากนนั้ ห่มดินเพม่ิ โดยใชฟ้ าง แล้วก็สามารถปลูกข้าวและพืชผักตา่ ง ๆ ตามคันนาได้เลย กศน.ตาบล สังกดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 7 โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชีวติ ท่ยี ่ังยนื เกษตรทฤษฎีใหม่ การบรหิ ารจดั การน้าด้วย โคก หนอง นา โมเดล บรรดาศาสตร์ต่าง ๆ ในโลก สว่ นใหญจ่ ะเกดิ จากปญั ญาชน เกิดจากพระ หรอื เกดิ จากเกษตรกร น้อยนกั ท่ี จะเกิดจากคนท่ีเปน็ พระราชา แต่บ้านเราโชคดีที่เรามีพระราชาท่นี อกจากจะทรงธรรม และยังเปน็ นักวทิ ยาศาสตร์ เปน็ นกั สรา้ งนวัตกรรม เปน็ นักเกษตร เป็นผเู้ ชย่ี วชาญมากมาย ศาสตร์คือองคค์ วามรูท้ ี่ถูกพฒั นา ถกู ทดลองมาแล้วอยา่ งเป็นระบบ เรยี กวา่ science หรอื ศาสตร์ ซึ่งได้ ทดลองทํามา ๔,๐๐๐ กวา่ แห่ง เรียกว่าทฤษฎใี หม่ สว่ นทฤษฎเี กา่ คอื การสบู นาํ้ จากคลองชลประทาน การเกบ็ นํ้าไว้ในอา่ งเกบ็ นา้ํ แลว้ กป็ ล่อยนํ้ามาในคลอง ชลประทานหรอื ปลอ่ ยมาจากทอ่ และสูบใส่นา แล้วกท็ ํานา เม่ือน้ําหมดกจ็ ะนาํ นํา้ จากคลองชลประทานมาเติม อย่าง นี้เรยี กวา่ ทฤษฎเี ก่า . สว่ นทฤษฎีใหมน่ ้ัน นอกจากเขื่อนทสี่ ร้างไว้แล้วควรสร้างเข่ือนขนาดกลาง เช่น เขื่อนปุาสัก ซ่งึ พระองคท์ า่ น ได้สรา้ งไว้ให้ และทา่ นไดส้ ร้างเพม่ิ ขึ้นอกี เชน่ อา่ งห้วยหินขาว ซ่งึ สามารถจุนํา้ ได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศกเ์ มตร จาก ห้วยหนิ ขาวกต็ ่อมาที่ชาวบา้ น ซึง่ ชาวบา้ นแทนที่จะรอน้ําจากอ่างห้วยหินขาว หรอื จากอา่ งเกบ็ นํ้าปาุ สัก กม็ าทําอ่าง ของตัวเองไวใ้ นบ้านของตนเอง ชาวบ้านก็จะมีหนองนาํ้ สระน้ํา อา่ งน้าํ ฝาย เพ่อื จะเก็บนํ้าไวใ้ นทข่ี องตนเอง นีเ่ ป็น ทฤษฎีใหม่ วธิ ีการเกบ็ น้าเหล่านี้ คือที่ใหญก่ ็เก็บ ท่ีขนาดกลางก็เกบ็ ทบี่ ้านใครบ้านมนั ก็เก็บ รวม ๓ ระดบั อย่างนี้ จะ สามารถเกบ็ นํา้ ไดม้ ากกวา่ เดิมถึง ๕ เทา่ และหากชาวบ้านยอมเสยี ที่นาของตวั เองลงไปสัก ๒๐ – ๓๐ เปอรเ์ ซ็นต์ ก็ จะมนี ้ําไวป้ ระจาํ บา้ นตนเอง ระบบจดั การอย่างนี้ ทรงเรยี กว่าทฤษฎใี หม่ การจดั ประชุมกนั ในเครือขา่ ยชาวบา้ น ชาวบ้านก็เห็นวา่ ตอ้ งใชภ้ าษาชาวบา้ น เมอ่ื ขุดหนองจะเอาดินไป ไหน ก็เอาไปทําโคก ปลูกโคกก็ปลูกปาุ สว่ นตรงไหนทม่ี คี ลอง ก็ขุดคลองไส้ไก่ ตรงไหนที่มีระดบั ต่างกนั ก็กั้นฝาย แล้วในนาก็ป้นั คนั นาใหม้ ขี นาดใหญ่ เหมือนคนโบราณ ซึง่ บนหัวคนั นาของ คนโบราณเขามักจะปลูกพริก ปลูกผกั ปลกู กล้วย ปลูกโน่นปลูกน่ไี ว้กนิ เพราะบนคนั นามีขนาดสงู ใหญ่ เม่ือนาํ้ หลากมาก็จะไม่ท่วม ฉะน้ันตน้ ไมท้ ปี่ ลกู ไว้ อย่บู นคนั นากไ็ ม่ตาย เราเรียกว่าคันนาทองคาํ เพราะบนคันนาจะมผี ลผลติ มงั่ คงั่ ยง่ิ กวา่ ทองคาํ ในนาก็มีปลาด้วยเพราะถ้าคนั นามีขนาดใหญ่ เก็บนํ้าได้ เยอะ นํา้ สูงก็จะมีความลกึ ปลาก็จะมาอยู่ มาวางไข่ ปลาจะมาอยู่เอง เพราะน้าํ มีความลกึ มีความปลอดภยั ปลาก็ มาอยู่ ขา้ วกไ็ ด้ดี เพราะมขี ี้ปลา ข้กี งุ้ จึงไม่ตอ้ งไปซอ้ื ปุ๋ย พอมปี ลามีก้งุ อยู่ หญ้าก็ไม่ขึ้น นาํ้ ขงั มากหญ้าก็ไมข่ ึ้น กท็ าํ ใหป้ ระหยัดท้ังยาฆา่ หญา้ ปุ๋ยไม่ต้องใส่ แมลงไม่ ตอ้ งฉีด มกี ้งุ หอย ปู ปลาอยู่ ทําให้ไมป่ วุ ย โรคแมลงมาปลากโ็ ดดจับกิน มนั เป็นธรรมชาติ อยู่ ๆ กันมาอย่างนเี้ ป็น พนั ๆ ปแี ลว้ จงึ เป็นภาษาง่ายๆ ท่ีเรียกว่า โคก หนอง นาโมเดล ซึง่ ไดป้ ระยุกตม์ าจากทฤษฎีใหม่ที่พระองคท์ า่ น คาํ นวณ นี่คอื ศาสตรข์ องพระราชา ของรัชกาลท่ี ๙ ซึง่ ทา่ นสรปุ ไว้ง่ายๆ ท่านจะบอกวา่ ได้พฒั นามาจากบรรพบุรษุ ของเรา ซึ่งเราอย่ทู น่ี ่ีกนั มา ๕,๐๐๐ กว่าปี บรรพบรุ ษุ ทา่ นพฒั นากันมาทีละนดิ ทาํ แบบอะลุ่มอล่วยกันมา ไม่ได้ติด ตําราว่าตอ้ งไปลอกประเทศโน่นประเทศนมี้ า พฒั นาจากฐาน จากดิน จากอารยธรรมของเราเองเร่อื ย ๆ ๕,๐๐๐ ปี ทา่ นบอกตาํ ราแบบน้ไี ม่จบ ทฤษฎบี ันได 9 ข้ัน สู่ความยงั่ ยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จากทฤษฎนี ้แี ปลไปสู่การปฏบิ ัติเป็น ๓ ระดบั ปรัชญา แปลงมาเป็นทฤษฎีบันได ๙ ขน้ั จากทฤษฎีแปลง ไปสู่การปฏบิ ัติ ทฤษฎีบนั ได ๙ ขนั้ สคู่ วามยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เรมิ่ ต้นจากข้นั พืน้ ฐาน ๔ ขน้ั แรก นัน่ คือ พอกนิ พอใช้ พออยู่ พอรม่ เยน็ ซ่ึงสรา้ งไดด้ ้วยการปลูกปาุ ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 8 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถชี ีวติ ท่ียัง่ ยนื บันไดขน้ั ท่ี ๑ พอกนิ “เงนิ ทองเปน็ ของมายา ขา้ วปลาสิของจรงิ ” ตอ้ งเรมิ่ จากการอยใู่ ห้ได้ โดยให้ ความสาํ คัญกับขา้ วปลาอาหารท่สี รา้ งได้จากพนื้ ท่ีของตัวเอง พอมีพอกินด้วยการปลกู พชื ผกั ผลไม้ ใหพ้ อกนิ ก่อน สว่ นบันไดขน้ั ที่ ๒ ๓ และ ๔ พอใช้ พออยู่ พอร่มเยน็ ปลกู ไมใ้ ห้พอใช้ ทัง้ ทาํ เครือ่ งน่งุ ห่ม มสี มุนไพร เพอ่ื รกั ษาโรค ปลกู ไมใ้ ห้พออยู่ คอื มไี ม้สําหรบั สร้างท่ีอย่อู าศัย ให้ร่มเงา ประโยชนข์ องปุาเหลา่ น้ที ําให้เกิดบันไดขน้ั ท่ี ๔ พอรม่ เยน็ แนวทางนี้สามารถแก้ไขปญั หาความยากจนของเกษตรกรไทย และปญั หาหนีส้ นิ ท่พี อกพูนจากการทาํ เกษตรเชงิ เดี่ยว ปญั หาความเส่ือมโทรมของทรพั ยากร ปญั หา ความขาดแคลนน้ํา และภัยแล้ง ได้ดว้ ย บันไดขัน้ ที่ ๕ และ ๖ บญุ และทาน “ย่งิ ทาํ ยิ่งได้ ยิ่งใหย้ ิง่ มี” เมอื่ ทําในขั้นที่ ๑ ถึง ๔ ได้ คนเรามีพอแล้วท่ี เหลือกน็ าํ มาแบง่ ปนั เปน็ การฝึกจิตใจใหล้ ะซึ่งความโลภ เช่อื มั่นในฤทธ์ิของทานคอื การให้ ด่งั ทพ่ี ระเจา้ อย่หู วั สอนไว้ ว่า Our Loss is Our Gain การขาดทนุ นนั่ คือกําไร บันไดข้ันท่ี ๗ เก็บรกั ษา เมือ่ เรามีพอและไดแ้ บ่งปนั แล้ว ขน้ั ตอ่ ไปคอื การรูจ้ ักเกบ็ รกั ษา ใช้ภูมิปัญญาในการ แปลรูปอาหารทยี่ งั มอี ยู่ เพอื่ ใหม้ อี าหารกนิ ท้ังปหี รอื วา่ ขา้ มปี และยงั เป็นการสร้างมลู ค่าเพม่ิ ให้สิ่งท่เี ราปลกู เอง บันได ข้นั ท่ี ๗ น้ียงั เปน็ ส่งิ ที่เกษตรกรจะตอ้ งทาํ ใหไ้ ด้กอ่ นจะไปสู่ข้ันที่ ๘ ตอ่ ไป บนั ไดข้ันที่ ๘ ขาย เน่อื งจากเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เศรษฐกิจการคา้ แต่ไม่ใช่เศรษฐกิจหลงั เขา การคา้ ขาย สามารถทําได้แต่ทําภายใตก้ ารรู้จกั พอประมาณ และทาํ ไปตามลําดบั โดยของทขี่ ายคือของที่เหลอื จากทกุ ข้ัน แลว้ จงึ นํามาขาย ขายด้วยความรสู้ ึกของการให้ เพ่อื อุ้มชู เผือ่ แผ่ แบง่ ปันไปดว้ ยกัน สุดทา้ ยบนั ไดขั้นที่ ๙ กองกําลงั เกษตรโยธนิ หรือการสร้างเครอื ขา่ ยเชือ่ มโยงทงั้ ประเทศ เพ่ือขยายผลสําเร็จ ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งส่กู ารปฏวิ ัติแนวคดิ และวิธีการดําเนินชีวติ ของคนในสังคมในชุมชน ประเทศเราเป็นประเทศยากจนมาก่อน แลว้ พฒั นามาเป็นประเทศปานกลาง กอ็ ยากไปเปน็ ประเทศร่ํารวย เหมอื นประเทศอื่น ทา่ นก็บอกไมเ่ อาแบบนนั้ เพราะว่าถ้าตดิ ตําราเด๋ียวพอถึงหนา้ สดุ ท้ายไปต่อไมไ่ ด้ ก็ต้องเปดิ หนา้ หนึง่ ใหม่ เพราะวา่ ถงึ หนา้ สดุ ทา้ ยแลว้ พอตดิ เพดานบนิ แล้ว สดุ ท้ายกต็ กหัวปกั ลงมาอย่างเช่นปี ๔๐ เศรษฐกิจเรามนั หวั ปักลงมา ท่านบอก เราไม่อยากกา้ วหนา้ อยา่ งมากแบบประเทศเหล่านน้ั แบบประเทศก้าวหนา้ อย่างมาก เรากเ็ ปน็ ประเทศก้าวหน้าเหมือนกัน แต่เราไมใ่ ช่ก้าวหนา้ อย่างมาก เราไม่อยากเปน็ อย่างนัน้ เราก็เป็นประเทศทีม่ ่งั คง่ั รํา่ รวย เหมอื นกนั เรามีนาํ้ มีดิน มีอากาศ มีน้าํ ใจทยี่ งิ่ กวา่ นน้ั คอื สังคมเราเปน็ สังคมมีนํา้ ใจทม่ี งั่ คั่งที่สุดในโลก เราเปน็ เมือง ย้ิม ทวั่ โลกก็รจู้ กั เรา คราวนก้ี พ็ ัฒนากันมาอย่างน้ี อย่างอะลมุ่ อลว่ ยกนั มา เป็นพันปีอยา่ งน้ี เรยี กวา่ ตาํ ราแบบนีไ้ ม่จบ แล้วกจ็ ะพฒั นาไปเร่ือย ๆ เราก็จะคอ่ ย ๆ ก้าวหน้าไป อย่างไร ทา่ นกร็ บั ส่ังว่า ตอ้ งมพี อกิน พออยู่ พอใช้ ต้องมี สภาพแวดลอ้ มทีด่ ี ตอ้ งอย่าทาํ ลายปุา ตอ้ งฟน้ื ฟปู าุ ตอ้ งจดั การนา้ํ จัดการดนิ ฝนตกมาใหเ้ กบ็ นาํ้ เอาไว้ อยา่ ปล่อยให้ น้ําไปชะ พังทลายหน้าดนิ ลงมา มวี ธิ ีเก็บ และทา่ นกบ็ อกว่าบรรพบุรษุ ท่านร้วู า่ ทาํ อย่างไง พ้ืนท่ีไหนควรทาํ อะไร พนื้ ทีไ่ หนไมค่ วรทาํ อะไร เวลาไหนควรทาํ อะไร เวลาไหนไมค่ วรทําอะไร เค้ารกู้ นั มาดอี ยู่แลว้ น่คี ือส่ิงท่พี ระเจา้ อยหู่ ัว เลา่ ใหฟ้ ัง อนั นี้ทรงเรียกว่าพอเพียง เราก็จะเรียกงา่ ย ๆ วา่ ศาสตรข์ องพระราชาองคน์ ้ี เกษตรทฤษฎีใหม่ โคก หนอง นา โมเดล เพอื่ การจัดการน้าอยา่ งยัง่ ยนื ถา้ เราสนใจ เรามีทีด่ ิน และสนใจอยากจะทําเปน็ การประยกุ ต์ทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเปน็ โคก หนอง นา โมเดลแบบชาวบา้ นน้นั วิธที ี่ต้องทําคร้งั แรกคอื การสารวจที่ดินของตนเองวา่ เราอยใู่ นทที่ ่ี ตื้น ลกึ ขนาดไหน ปรมิ าณนํ้าฝนทีต่ กลงแตล่ ะปีเทา่ ไหร่ ต้อง เร่มิ ทําการสํารวจรอบ ๆ น้นั ว่าอะไรบา้ ง ลมพดั ทางไหน แสงข้ึนทางไหน ทิศเป็นอย่างไง ตอ้ งศึกษาภูมิประเทศ ดนิ นา้ํ ลม ไฟ กอ่ น เรากต็ ้องเขา้ ใจสงั คมของคนที่จะเป็นเจ้าของที่ดิน คยุ กับเจ้าของท่ีดินวา่ ชอบอะไร ไมช่ อบอะไร อย่างนเี้ รียกวา่ สังคม คือนําทง้ั ภมู ศิ าสตร์ ดิน น้ํา ลม ไฟ ทงั้ สงั คม มาคาํ นวณภายใต้เง่ือนไข นาํ้ กอ่ น สมมตวิ ่ามที ีอ่ ยู่ ๔ ไร่ ฝนตกลงมาในไร่ ไร่หนงึ่ ปรมิ าณ ๒,๕๐๐ ควิ สมมติ ๔ ไร่ ก็หมนื่ ควิ ควิ ละตัน หมื่นตนั นจี่ ะเก็บอยา่ งไรบา้ ง จะ กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 9 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชวี ติ ทย่ี ่งั ยืน เก็บซับลงใต้ดินดว้ ยวธิ อี ะไร จะใช้ต้นไม้อะไรปลูกบนโคก ซง่ึ โคกนน้ั อุม้ น้าํ ไมไ่ ด้ ก็ต้องซับบนโคกลงดิน วางแผนใหไ้ ด้ สักคร่งึ หนง่ึ ซบั ลงมาในโคก การขดุ หนองจะเกบ็ ไดส้ กั เทา่ ไหร่ ต้องลกึ เท่าไหร่ ต้องใชพ้ ้นื ทีเ่ ทา่ ไหร่ กต็ อ้ งคาํ นวณออกมา เสร็จและจะขุด คลอง คลองเกบ็ ได้เทา่ ไหร่ จะมีอะไรอีกบ้างก็ตอ้ งวางผงั การใชท้ ่ีดิน เสร็จแล้วดูทศิ ทาง จะวางบา้ นอยตู่ รงไหน ถา้ เพอื่ ความไม่เสี่ยงภัยต้องมียงุ้ ข้าว สต๊อกเอาไว้ ตอ้ งมีเครื่องสขี ้าวเองบนโคก จงึ ตอ้ งออกแบบก่อนแลว้ คอ่ ยลงมอื ขดุ ลงมือทํา ถา้ ไม่ได้คดิ ไม่ได้คํานวณเลยตงั้ ไปสง่ เดช พอถึงหนา้ น้นั ก็เกดิ ปญั หา หนา้ นก้ี ็เกิดปญั หา เพราะฉะนน้ั การ วางแผนล่วงหน้า ออกแบบบนท่ีดนิ ของเราเองจึงเปน็ เรอ่ื งท่ีจาํ เปน็ ซงึ่ ก็ทาํ ไดง้ ่าย และยืนยัน โคก หนอง นา โมเดล เปน็ วธิ ีบรหิ ารน้ําอย่างย่ังยืนในพื้นทขี่ องตนเอง เร่มิ ต้นดว้ ยการขุดหนอง เพื่อเกบ็ กกั นา้ํ ไว้ใช้ในยามแล้ง โดยจะขดุ แบบ Free Form ใหม้ ีสว่ นเวา้ สว่ นโค้ง เลียนแบบธรรมชาติ ความลึกของหนองควร มากกว่า ๓.๖๕ เมตร ตามองค์ความรทู้ ี่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไวว้ า่ ในแต่ละวนั น้ําจะละเหยไป ๑ เซนติเมตร หากเราขุดบอ่ ลึกมากกวา่ ๓.๖๕ เมตร ใน ๑ ปี ต่อใหฝ้ นทิ้งชว่ งไปกย็ งั มนี ํ้าใช้อยู่นน่ั เอง การขุดหนอง จะตอ้ งขดุ เป็นขนั้ หรอื เป็นตะพกั ๆ เพื่อใหแ้ สงแดดส่องถงึ พืน้ หนองบางสว่ นชว่ ยให้พชื นํ้า เจรญิ เตบิ โตเป็นที่อย่อู าศัยของแพลนตอนพชื และเป็นแหล่งอาหารของเหล่าสัตว์น้าํ ดินจากการขุดหนองเอามาถม เปน็ โคก บนโคกปลกู ทอี่ ย่อู าศัย เลย้ี งสัตว์ และปลูกปุา ๓ อยา่ ง ประโยชน์ ๔ อย่าง นั่นคือ ปลกู ไมก้ ิน ไมใ้ ชส้ อย ไม้ สาํ หรับสร้างทอี่ ยูอ่ าศยั ซ่ึงจะใหป้ ระโยชนเ์ ป็นความพอกนิ พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น ตน้ ไม้ทีป่ ลกู มีท้ังหมด ๕ ระดับ ไดแ้ ก่ ไมส้ งู ไมก้ ลาง ไม้เตยี้ ไมเ้ ร่ยี ดนิ และพชื หัว เพ่อื รักษาความช่มุ ชนื้ ในดนิ การเก็บกกั น้ําอีกวิธหี นึ่ง คอื ขุดคลองไสไ้ ก่ใหท้ วั่ พ้ืนที่ ขดุ ให้คดเคยี้ วเพื่อใหใ้ ชเ้ ปน็ ทางน้าํ บนดนิ เพ่ิมความชมุ่ ช้นื โดยไม่ต้องวางทอ่ หรือสปรงิ เกอร์ สร้างฝายชะลอนา้ํ กน้ั เพอ่ื ลดความเรว็ ของนํา้ ท่ีไหลไปตามคลอง ปลกู หญา้ แฝก โดยรอบหนองและคลองไสไ้ ก่ ป้ันหวั คันนาใหม้ ีความสูงอย่างน้อย ๑ เมตร บนคันนา กวา้ ง ๑ เมตร และฐานกวา้ ง ๒ เมตร ปลูกพืชผกั โดยรอบ ทง้ั ไมผ้ ล พืชผกั สวนครัว พืชสมุนไพร จนกลายเป็นหัวคันนาทองคํา เพราะปนั้ หัวคันนาสงู ในคันนาจึง เปรยี บเสมือนเขือ่ นขนาดย่อม สามารถเก็บกักนํ้าไวใ้ ช้ในชว่ งปลกู ขา้ ว และยงั เปน็ ท่ีอย่อู าศัยเหลา่ บรรดาสตั ว์นา้ํ อกี ด้วย เรอ่ื งนวัตกรรมเรื่องอะไรใหมๆ่ ทีท่ รงทําให้ดู ก็ทรงบอกกบั พวกเรา ให้กาํ ลังใจเสมอวา่ ทําตวั อยา่ งของ ความสําเร็จไปเรอื่ ย ๆ เถอะ ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี นน่ั แหละ กว่าคนเขาจะมาเห็น มาจํา มาเข้าใจ และเขาก็จะเอาไป เปน็ ประโยชน์ โดยเฉพาะเมือ่ เขาถึงทางตันแลว้ เม่ือถงึ วนั นนั้ ๒๐ ปี ๓๐ ปี ขา้ งหน้า มันกจ็ ะเป็นตัวอยา่ ง เปน็ ที่พึง่ ให้ชาวบ้านได้ ใครที่ทําใหม่ๆ น่ีมกั จะเจอคนมองด้วยหางตา หาวา่ เพ้ียน และกม็ กั จะต่อตา้ น สุดท้ายกเ็ ริ่มจาํ นน เพราะไดเ้ พง่ิ จรงิ ๆ หลายคนพอทํา อดทนไปจนถึงทส่ี ุดก็จะได้รบั การยอมรับ ยิง่ แนวโน้มโลกกาํ ลังวกิ ฤตขึน้ เรื่อย ๆ เร่ือง โคก หนอง นา โมเดล น้แี หละทีจ่ ะเปน็ ท่พี ง่ึ ให้กบั คน ได้ กล็ องมาศกึ ษากันดูก่อน จากศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏิบัติอย่างเปน็ รูปธรรม วกิ ฤตนาํ้ ของไทย จะถูกแกไ้ ขได้ดว้ ย การบรหิ ารจดั การ น้ําอยา่ งยัง่ ยนื ในรปู แบบของ โคก หนอง นา กศน.ตาบล สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 10 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชวี ติ ทย่ี ่งั ยืน บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินงาน การดําเนนิ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ิตทีย่ ั่งยนื ได้ดําเนินการตาม ขัน้ ตอนตา่ ง ๆ ดังน้ี 1. ขน้ั เตรียมการ  การศกึ ษาเอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกับโครงการอบรมเชิงปฏิบตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี ีวติ ที่ ยง่ั ยนื ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ เอกสารท่ีเก่ยี วข้องเพื่อเป็นขอ้ มูลและแนวทางในการดําเนนิ การ โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี ีวิตทีย่ ัง่ ยืน ดงั น้ี 1. ศกึ ษาเอกสาร / คู่มือ ข้อมลู จากหนังสอื เก่ียวกับการดาํ เนนิ ชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อเปน็ แนวทางเกย่ี วกับการจดั โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี ีวติ ที่ยงั่ ยืน 2. ศึกษาข้นั ตอนการดําเนินโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชีวติ ทย่ี ั่งยืน เพ่อื เป็นแนวทางในการจดั เตรยี มงาน วสั ดอุ ุปกรณ์ และบุคลากรใหเ้ หมาะสม  การสารวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ (ตามนโยบายของรฐั บาล) กลุม่ ภารกจิ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตาํ บล สํารวจความตอ้ งการของ กลมุ่ เปาู หมายเพ่ือทราบความตอ้ งการทแ่ี ท้จรงิ ของประชาชนในตําบล และมขี ้อมูลในการจัดกิจกรรมที่ตรงกับความ ตอ้ งการของชมุ ชน  การประสานงานผูน้ าชุมชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตําบล ได้ประสานงานกับหัวหน้า/ผู้นาํ ชุมชนและประชาชนในตาํ บลเพอ่ื ร่วมกัน ปรึกษาหารือในกลมุ่ เกย่ี วกบั การดาํ เนินการจัดโครงการให้ตรงกับความต้องการของชุมชน 2. ครู กศน.ตาํ บล ได้ประสานงานกบั หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งเพอ่ื จัดหาวทิ ยากร  การประชาสมั พนั ธ์โครงการฯ ครู กศน.ตาํ บล ได้ดาํ เนินการประชาสมั พันธก์ ารจดั โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี วี ิตที่ยงั่ ยืน เพอื่ ให้ประชาชนทราบข้อมูลการจัดกิจกรรมดงั กลา่ วผา่ นผนู้ ําชมุ ชน  ประชมุ เตรียมการ / วางแผน 1) ประชุมปรกึ ษาหารือผู้ทเ่ี กย่ี วข้อง 2) เขยี นโครงการ วางแผนมอบหมายงานใหฝ้ ุายต่าง ๆ เตรียมดําเนินการ 3) มอบหมายหน้าท่ี แต่งตง้ั คณะทาํ งาน  การรับสมัครผู้เขา้ ร่วมโครงการฯ ครู กศน.ตําบล ได้รับสมัครผเู้ ข้าร่วมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถี ชวี ติ ทย่ี ั่งยืน โดยให้ประชาชนท่ัวไปท่ีอาศยั อยู่ในพื้นที่ 3 ตําบล ๆ 6 คน ได้แก่ ตําบลโคกเพลาะ ตําบลไร่หลกั ทอง และตําบลนาวังหนิ รวมทงั้ ส้นิ 18 คน  การกาหนดสถานทแี่ ละระยะเวลาดาเนินการ ครู กศน.ตาํ บล ได้กาํ หนดสถานทใ่ี นการจดั อบรม ณ ศนู ยก์ ารเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง หมู่ท1ี่ ตาํ บลบ้านบึง อาํ เภอบา้ นบงึ จงั หวัดชลบุรี 25 กุมภาพนั ธ์ 2564 จํานวน 1 วนั เวลา 09.00-15.00 น. กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 11 โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ีชวี ติ ท่ยี ง่ั ยนื 2. ขน้ั ดาเนินงาน  กล่มุ เป้าหมาย กลมุ่ เปูาหมายของโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชวี ิตท่ียัง่ ยนื 1.ประชาชนตําบลโคกเพลาะ จาํ นวน 6 คน 2.ประชาชนตําบลไรห่ ลักทอง จํานวน 6 คน 3.ประชาชนตาํ บลนาวังหนิ จํานวน 6 คน  สถานทด่ี าเนินงาน รวมท้ังสิ้น 18 คน ครู กศน.ตาํ บลโคกเพลาะ ครู กศน.ตําบลไรห่ ลกั ทองและครู กศน.ตาํ บลนาวังหิน จดั กจิ กรรม โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี ีวติ ท่ีย่ังยืน โดยจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ในวันที่ 25 กมุ ภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หมู่ท่ี1 ตาํ บลบ้านบึง อาํ เภอบ้านบึง จังหวดั ชลบรุ ี  การขออนมุ ัติแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กศน.ตําบลโคกพลาะ ได้ดาํ เนนิ การขออนุมัติแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดลสรา้ งวถิ ชี ีวติ ทยี่ ัง่ ยืน ต่อสาํ นกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี เพอื่ ใหต้ ้นสังกดั อนุมตั ิแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรูต้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  การจดั ทาเคร่ืองมอื การวดั ความพึงพอใจของผู้รว่ มกิจกรรม เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการตดิ ตามประเมนิ ผลโครงการ ได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจ  ขนั้ ดาเนนิ การ / ปฏบิ ตั ิ 1. เสนอโครงการเพอ่ื ขอความเหน็ ชอบ/อนมุ ตั ิจากตน้ สังกัด 2. วางแผนการจัดกิจกรรมในโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดลสร้างวิถีชวี ติ - ที่ยั่งยนื โดยกําหนดตารางกจิ กรรมที่กาํ หนดการ 3. มอบหมายงานให้แก่ผ้รู บั ผดิ ชอบฝาุ ยตา่ ง ๆ 4. แตง่ ต้ังคณะกรมการดาํ เนนิ งาน 5. ประชาสัมพันธ์โครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดลสรา้ งวถิ ีชีวติ ทย่ี ่งั ยืน 6. จดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดลสรา้ งวิถชี วี ิตท่ียั่งยืน ตามตาราง กจิ กรรมทีก่ าํ หนดการ 7. ติดตามและประเมินผลโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดลสรา้ งวถิ ชี ีวิตทีย่ ่งั ยนื กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจดั กจิ กรรม 12 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี วี ติ ท่ยี ง่ั ยืน 3. การประเมนิ ผล  วเิ คราะหข์ อ้ มูล 1. บนั ทึกผลการสงั เกตจากผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม 2. วิเคราะหผ์ ลจากการประเมินในแบบประเมินความพึงพอใจ 3. รายงานผลการปฏบิ ัติงาน รวบรวมสรุปผลการปฏบิ ัตงิ านของโครงการนําเสนอตอ่ ผูบ้ ริหาร นาํ ปัญหา ข้อบกพรอ่ งไปแก้ไขคร้งั ต่อไป  ค่าสถิติที่ใช้ การวิเคราะห์ขอ้ มูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวช้ีวัดความสําเร็จของ โครงการตามแบบสอบถามคิดเป็นรายข้อ โดยแปลความหมายคา่ สถิตริ ้อยละออกมาไดด้ ังน้ี คา่ สถติ ริ อ้ ยละ 90 ขนึ้ ไป ดีมาก คา่ สถิตริ ้อยละ 75 – 89.99 ดี คา่ สถติ ิร้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ ค่าสถติ ริ อ้ ยละ 50 – 59.99 ปรับปรุง คา่ สถิตริ ้อยละ 0 – 49.99 ปรบั ปรุงเร่งดว่ น ส่วนการวเิ คราะหข์ ้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึ่งมีลักษณะเป็นค่านํ้าหนักคะแนน และนํามาเปรยี บเทียบ ไดร้ ะดบั คุณภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ดังนี้ เกณฑ์การประเมนิ (X) คา่ น้ําหนักคะแนน 4.50 – 5.00 ระดับคุณภาพ คือ ดมี าก คา่ นํ้าหนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดับคณุ ภาพ คอื ดี ค่านา้ํ หนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคุณภาพ คือ พอใช้ คา่ น้ําหนกั คะแนน 2.50 – 2.99 ระดบั คุณภาพ คอื ตอ้ งปรับปรุง คา่ น้ําหนักคะแนน 0.00 – 2.49 ระดบั คุณภาพ คือ ต้องปรับปรงุ เรง่ ด่วน กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 13 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชีวติ ท่ียัง่ ยืน บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งานและการวเิ คราะหข์ ้อมูล ตอนที่ 1 รายงานผลการจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี ีวติ ที่ยัง่ ยนื การจัดกิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชีวติ ทีย่ ่ังยนื สรปุ รายงานผลการจดั กิจกรรมไดด้ ังน้ี ในการจดั กจิ กรรมอบรมใหค้ วามร้ตู ามโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถชี ีวติ ทยี่ ง่ั ยืน เป็นการอบรมให้ความรู้ โดยมี นายเฉลมิ พล สถาวร เปน็ วทิ ยากรในการบรรยายใหค้ วามรู้ เร่ือง ศาสตร์ พระราชา หลักการสร้าง โคก หนอง นา โมเดล ปาุ ให้อะไรมากกวา่ ท่ีคิด เครือ่ งมือการเกษตรน่ารู้ การเพ่มิ มลู ค่า ผลผลิตทางการเกษตรและรบั ฟังการบรรยายและฝึกปฏิบตั ิการ “การทาํ สบ”ู่ ตอนท่ี 2 รายงานผลความพงึ พอใจของโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถชี วี ติ ท่ียง่ั ยนื การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ติ ทย่ี ั่งยนื ซ่งึ สรปุ รายงานผลจากแบบสอบถามความคิดเห็น ข้อมูลทไ่ี ด้สามารถวเิ คราะหแ์ ละแสดงค่าสถิติ ดงั นี้ ตารางที่ 1 ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นํามาจําแนกตามเพศ รอ้ ยละ เพศ จํานวน ชาย - - หญิง 18 100.00 รวม 18 100.00 จากตารางท่ี 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามท่เี ข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรูต้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี วี ติ ทย่ี ัง่ ยืน จํานวน 18 คน ส่วนใหญ่เปน็ เพศหญิง จํานวน 18 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 และเพศชาย จํานวน - คน คดิ เปน็ ร้อยละ - ตารางที่ 2 ผู้เข้าร่วมโครงการทต่ี อบแบบสอบถามได้นาํ มาจาํ แนกตามอายุ อายุ จาํ นวน ร้อยละ ตา่ํ กวา 15 ปี - - - 15 – 39 ปี - 55.55 44.44 40 – 59 ปี 10 100.00 60 ปีขึน้ ไป 8 รวม 18 จากตารางท่ี 2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทีเ่ ข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี วี ิตทีย่ งั่ ยืน จํานวน 18 คน ส่วนใหญ่มีอายุ 40 – 59 ปี จํานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 55.55 รองลงมาคืออายุ60 ปีข้นึ ไป จาํ นวน 8 คน คดิ เป็นร้อยละ 44.44 กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 14 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี วี ติ ที่ยั่งยนื ตารางท่ี 3 ผู้เข้าร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ํามาจําแนกตามอาชพี ประกอบอาชีพ จํานวน รอ้ ยละ รับจา้ ง 7 38.88 5.55 คา้ ขาย 1 27.77 เกษตรกร 5 - 27.77 ลกู จา้ ง/ขา้ ราชการหนว่ ยงานภาครัฐหรอื เอกชน - 100.00 อน่ื ๆ 5 รวม 18 จากตารางที่ 3 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามทเ่ี ข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ีชวี ิตทีย่ ่งั ยืน จํานวน 18 คน ส่วนใหญ่ ประกอบอาชพี รับจ้าง จํานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 38.88 รองลงมาคอื อาชีพรบั จ้าง จาํ นวน 5 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 27.77 อาชีพอืน่ ๆ จาํ นวน 5 คน คิดเปน็ ร้อยละ 27.77 และสุดทา้ ยประกอบอาชีพค้าขาย จาํ นวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.55 ตารางที่ 4 ผูเ้ ข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ าํ มาจําแนกตามระดับการศึกษา ระดบั การศึกษา จาํ นวน รอ้ ยละ ตาํ่ กว่า ป.4 - - 44.44 ป.4 8 27.27 22.22 ประถมศกึ ษา 5 5.55 มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 4 - - มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1 - อนุปรญิ ญา - 100.00 ปริญญาตรี - สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี - รวม 18 จากตารางท่ี 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่เี ข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชีวิตทย่ี ัง่ ยนื จํานวน 18 คน ส่วนใหญม่ ี การศึกษาประถมศกึ ษาปีที่ 4 จาํ นวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 44.44 รองลงมาคือระดับประถมศึกษา จาํ นวน 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 27.27 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ จาํ นวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 22.22 สุดท้ายคอื ระดบั มัธยมศกึ ษา ตอนปลาย จาํ นวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.55 ตารางท่ี 5 แสดงค่ารอ้ ยละเฉล่ยี ความสาํ เร็จของตัวชี้วดั ผลผลิต ประชาชนทว่ั ไปเข้าร่วมโครงการจํานวน 35 คน ผลสําเรจ็ ของโครงการ จาํ นวน ร้อยละ เปาู หมายโครงการ 15 100.00 ผู้เข้ารว่ มโครงการ 18 100.00 กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 15 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ชี วี ติ ท่ีย่ังยืน จากตารางที่ 5 พบว่าผลสาํ เรจ็ ของตัวชวี้ ดั ผลผลติ กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี วี ติ ทยี่ ง่ั ยนื มีผ้เู ข้าร่วมโครงการ จํานวน 35 คน คิด เปน็ ร้อยละ 100 ซงึ่ บรรลเุ ปูาหมายด้านตัวช้ีวัด ผลผลิต ตารางที่ 6 ค่าเฉล่ียและส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมทีม่ ีความพึงพอใจตอ่ โครงการ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ีชีวติ ที่ย่ังยนื ในภาพรวม รายการ คา่ เฉลยี่ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ระดับ () ความพงึ พอใจ ดา้ นการบรหิ ารจดั การ 4.65 () ความพึงพอใจดา้ นกระบวน 4.67 0.50 ดมี าก การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้/การอบรม 0.50 ดีมาก ดา้ นประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 4.69 รวมทุกดา้ น 4.67 0.53 ดมี าก 0.51 ดีมาก จากตารางท่ี 6 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทมี่ ีความพงึ พอใจตอ่ โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ติ ที่ยง่ั ยนื ในภาพรวม จํานวน 18 คน อยู่ในระดบั ดมี าก (=4.67) เมื่อพิจารณาเปน็ รายดา้ น พบวา่ ด้านประโยชนท์ ไี่ ด้รับ อยใู่ นระดับมากทสี่ ุด มคี ่าเฉล่ีย (= 4.69) รองลงมาคือ ความพึงพอใจด้าน กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้/การอบรม มอี ยู่ในระดับดมี าก มีค่าเฉลย่ี (= 4.67) และสุดทา้ ยด้านการ บรหิ ารจัดการ อยใู่ นระดับดีมาก มีค่าเฉล่ยี (= 4.65) ตามลาํ ดับ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.50 - 0.53 แสดงว่า ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมคี วามพึงพอใจสอดคลอ้ งกนั ตารางท่ี 7 ค่าเฉล่ยี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมท่มี คี วามพึงพอใจต่อ โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชีวิตท่ียง่ั ยืน ดา้ นการบริหารจัดการ รายการ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบน ระดบั ความพึงพอใจ 1. อาคารสถานที่ () มาตรฐาน () 2. ส่งิ อาํ นวยความสะดวก 4.63 0.55 ดมี าก 3. กาํ หนดการและระยะเวลาในการดําเนนิ โครงการ 4.69 0.47 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.66 0.54 5. วทิ ยากรผูใ้ ห้การอบรม 4.51 0.51 ดีมาก 4.74 0.44 ดมี าก รวม 4.65 0.50 ดี ดีมาก จากตารางที่ 7 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชีวิตที่ย่ังยืน ด้านการบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉล่ีย (= 4.65) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า วิทยากรผใู้ หก้ ารอบรม มีคา่ เฉลี่ย (= 4.74) รองลงมา คือ ส่ิงอาํ นวยความสะดวก มีค่าเฉล่ีย (= 4.69) กําหนดการและระยะเวลาในการดําเนินโครงการ ค่าเฉลี่ย (= 4.66) อาคารสถานที่ ค่าเฉลี่ย (= 4.63) และสุดท้าย เอกสารการอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.51) ตามลําดับ โดยมีส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน () อย่รู ะหว่าง 0.44 - 0.55 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามคิดเห็นไปในทศิ ทางเดียวกัน กศน.ตาบล สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 16 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชวี ติ ทีย่ ง่ั ยนื ตารางที่ 8 ค่าเฉลย่ี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมทม่ี คี วามพงึ พอใจตอ่ โครงการ อบรมเชิงปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชีวติ ทย่ี ั่งยืน ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้/การอบรม รายการ คา่ เฉล่ยี ส่วนเบยี่ งเบน ระดับ () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 6. การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชีวติ ทีย่ ั่งยนื 4.60 0.55 ดีมาก 7. การใหค้ วามรเู้ รอ่ื ง “โคก หนอง นา โมเดล” 8. การตอบข้อซกั ถามของวิทยากร 4.57 0.56 ดีมาก 4.83 0.38 ดีมาก 9. การแลกเปลี่ยนเรยี นร้ขู องผเู้ ข้ารับการอบรม 10. การสรปุ องค์ความรรู้ ่วมกนั 4.80 0.41 ดีมาก 11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม 4.66 0.54 ดีมาก 4.54 0.51 ดีมาก รวม 4.67 0.50 ดมี าก จากตารางท่ี 8 พบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชีวิตทยี่ ง่ั ยืน ด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม ในภาพรวมอยู่ในระดบั ดมี าก มีค่าเฉลีย่ (= 4.79) เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบวา่ การตอบขอ้ ซักถามของวทิ ยากร มคี ่าเฉลี่ย (= 4.83) รองลงมาคือ การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ของผู้เขา้ รบั การอบรม มคี ่าเฉลีย่ (= 4.80) การสรุปองค์ความรูร้ ่วมกัน มีคา่ เฉลี่ย (= 4.66) การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชีวิตที่ยงั่ ยืน มีค่าเฉลยี่ (= 4.60) การให้ความรู้เรอ่ื ง “โคก หนอง นา โมเดล” มคี า่ เฉลยี่ (= 4.57) และสดุ ทา้ ยการวัดผล ประเมินผล การฝกึ อบรม มีคา่ เฉลย่ี (= 4.54) ตามลําดับ โดยมสี ว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหว่าง 0.38 - 0.56 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามคิดเห็นสอดคลอ้ งกัน ตารางท่ี 9 คา่ เฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมทมี่ คี วามพึงพอใจต่อโครงการ อบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถชี วี ิตที่ย่งั ยืน ด้านประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั รายการ ค่าเฉลย่ี ส่วนเบยี่ งเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พงึ พอใจ 12. การเรยี นรแู้ ละฝกึ ตนเองเก่ยี วกบั “โคก หนอง นา 4.63 ดีมาก โมเดล” 0.60 13. การนาํ ความรูท้ ่ไี ด้รับมาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั 4.74 ดีมาก 4.69 0.44 ดีมาก รวม 0.53 จากตารางที่ 9 พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.69) เมื่อ พจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบว่า การนําความรทู้ ่ไี ดร้ ับมาปรบั ใช้ในชีวติ ประจําวนั มคี า่ เฉลย่ี (= 4.74) และการเรียนรู้ และฝกึ ตนเองเก่ยี วกบั “โคก หนอง นา โมเดล” มีค่าเฉล่ยี (= 4.63) โดยมสี ่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.44 - 0.60 แสดงว่าผูต้ อบแบบสอบถามมคี วามคิดเหน็ ไปในทิศทางเดียวกนั กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 17 โครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชวี ติ ทยี่ งั่ ยนื สรุปในภาพรวมของกิจกรรมคิดเปน็ รอ้ ยละ 93.40 มีคา่ น้าหนกั คะแนน 4.67 ถือว่าผ้รู ับบริการ มีความพงึ พอใจทางดา้ นตา่ ง ๆ อยูใ่ นระดับดีมาก โดยเรยี งลาดับดังนี้  อันดับแรก ด้านประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ คิดเป็นรอ้ ยละ 93.80 มคี า่ นํ้าหนักคะแนน 4.69 อยู่ในระดับ คณุ ภาพดมี าก  อนั ดับสอง ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนร/ู้ การอบรม คิดเป็นรอ้ ยละ 93.40 มคี ่านํ้าหนกั คะแนน 4.67 อยูใ่ นระดับคณุ ภาพดี  อนั ดบั สาม ด้านการบริหารจัดการ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 93.00 มคี า่ นํา้ หนกั คะแนน 4.65 อย่ใู นระดับ คุณภาพดี กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 18 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชวี ติ ทยี่ ัง่ ยืน บทที่ 5 อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ ผลการจัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ีชวี ิตท่ยี ง่ั ยืน ไดผ้ ลสรปุ ดงั น้ี วัตถุประสงค์ 1. เพอื่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั โคก หนอง นา โมเดล ที่สร้างวถิ ีชวี ติ ทย่ี ง่ั ยนื 2. เพ่ือใหผ้ เู้ ข้ารับการอบรมสามารถนาํ ความรไู้ ปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจําวันได้ เป้าหมาย (Outputs) เปา้ หมายเชงิ ปริมาณ ประชาชน 5 ตาํ บล ๆ ละ 6 คน ไดแ้ ก่ กศน.ตาํ บลโคกเพลาะ, กศน.ตาํ บลไรห่ ลกั ทอง และ กศน.ตาํ บลนาวังหนิ รวมทัง้ สิ้น 18 คน เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ - เขา้ รับการอบรมมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกยี่ วกับโคก หนอง นา โมเดล ที่สร้างวิถชี วี ิตท่ยี ง่ั ยืนและ สามารถนาํ ความรไู้ ปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจําวนั ได้ เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในครัง้ นี้ คอื แบบประเมินความพึงพอใจ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ได้มอบหมายให้ ครู กศน.ตําบลท่รี ับผิดชอบกิจกรรมแจกแบบสอบถามความ พึงพอใจให้กับผู้รว่ มกจิ กรรม โดยให้ผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมประเมนิ ผลการจดั กิจกรรมตา่ ง ๆ ตามโครงการอบรมเชิง ปฏบิ ัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชวี ติ ท่ีย่ังยนื สรุปผลการดาเนนิ งาน กศน.ตําบลโคกเพลาะ, กศน.ตําบลไรห่ ลกั ทอง และ กศน.ตาํ บลนาวงั หิน ไดด้ ําเนนิ การจดั กิจกรรม โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวถิ ีชวี ิตทยี่ ั่งยนื โดยดําเนนิ การเสร็จส้ินลงแลว้ และสรุปรายงานผลการดําเนนิ งานได้ดังน้ี 1. ผรู้ ่วมกิจกรรมจํานวน 18 คน รู้จกั การใช้พื้นท่ีอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพสงู สุด อกี ทัง้ มีการพฒั นาคุณภาพชีวิต ทด่ี ขี ึน้ ตลอดจนสามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมของตนเองได้อยา่ งเหมาะสมตาม แนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ผูร้ ่วมกิจกรรมร้อยละ 93.80 นาํ ความรูท้ ไ่ี ด้รับมาปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาํ วนั 3. จากการดําเนนิ กิจกรรมตามโครงการดังกล่าว สรุปโดยภาพรวมพบวา่ ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมสว่ นใหญม่ ีความ พึงพอใจต่อโครงการ อยู่ในระดับ “ดมี าก ” และบรรลคุ วามสําเร็จตามเปาู หมายตัวชว้ี ดั ผลลัพธท์ ต่ี ั้งไว้ โดยมี ค่าเฉลยี่ รอ้ ยละภาพรวมของกจิ กรรม 93.40 และค่าการบรรลเุ ปูาหมายคา่ เฉลยี่ 4.67 ขอ้ เสนอแนะ - อยากใหม้ ีการจัดกิจกรรมนอี้ กี ประชาชนสามารถนาํ ความรทู้ ่ีได้รบั ไปปรับใช้ในชวี ิตประจาํ วัน รวมทั้ง สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองใหด้ ียิ่งขึ้น ตลอดจนใช้ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมท่ีตนเองมีไดอ้ ยา่ ง เหมาะสมตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กศน.ตาบล สังกดั กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจัดกจิ กรรม 19 โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชีวติ ท่ียั่งยนื บรรณานุกรม ทีม่ า กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น (2546) กระทรวงศึกษาธิการ . (2543). https://www.baanlaesuan.com/224839/garden-farm/farm-guru/kok-nhong-na-model ภาคผนวก กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 20 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ติ ท่ยี ่งั ยนื ภาพประกอบการจัดกจิ กรรม โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถชี ีวิตท่ียงั่ ยืน ในวันที่ 25 กุมภาพนั ธ์ 2564 ณ ศนู ยก์ ารเรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที1่ ตาํ บลบา้ นบงึ อําเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี วิทยากรให้ความรู้ โดยนายเฉลิมพล สถาวร มีผู้ขา้ รบั การอบรม 18 คน กศน.ตาบล สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรุปผลการจดั กิจกรรม 21 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวถิ ชี ีวติ ท่ีย่ังยืน แบบประเมินผรู้ ับบรกิ าร โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชวี ิตทย่ี ่งั ยืน สถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอพนัสนคิ ม กิจกรรม การศกึ ษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาทักษะชีวิต การศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชมุ ชน เศรษฐกจิ พอเพยี ง ************************************************************************************** ส่วนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไป คําชี้แจง ใสเ่ คร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับขอ้ มูลของท่านเพยี งชอ่ งเดยี ว เพศ  ชาย  หญิง อายุ  15 - 25 ปี  26 – 39 ปี  40 – 49 ปี  50 – 59 ปี  60 ปีขึน้ ไป อาชพี  รบั จ้าง  ค้าขาย  เกษตรกรรม  ลกู จ้าง/ขา้ ราชการหนว่ ยงาน อนื่ ๆ ระบุ การศึกษา  ตํ่ากว่า ป.4  ป.4  ประถมศึกษา  ม.ต้น  ม.ปลาย  อนปุ ริญญา  ปริญญาตรี  สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี ส่วนที่ 2 ด้านความพงึ พอใจของผู้รบั บริการ คาํ ชี้แจง ใสเ่ ครอื่ งหมาย  ลงในช่องทีต่ รงกับขอ้ มลู ของท่านเพยี งช่องเดยี ว ขอ้ รายการประเมนิ ความพงึ พอใจ ระดับความพงึ พอใจ หมาย เหตุ มาก มาก ปาน น้อย น้อย ทส่ี ุด กลาง ท่ีสดุ ตอนที่ 1 ความพึงพอใจดา้ นการบรหิ ารจัดการ 1 อาคารสถานท่ี 2 สง่ิ อาํ นวยความสะดวก 3 กาํ หนดการและระยะเวลาในการดาํ เนนิ โครงการ 4 เอกสารประกอบการอบรม 5 วิทยากรผใู้ หก้ ารอบรม ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม 6 การจัดกิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ โคก หนอง นา โมเดล สร้างวิถีชีวิตทยี่ ่ังยนื 7 การให้ความรเู้ รอ่ื ง “โคก หนอง นา โมเดล” 8 การตอบข้อซักถามของวิทยากร 9 การแลกเปลยี่ นเรียนรขู้ องผู้เขา้ รับการอบรม 10 การสรปุ องค์ความรรู้ ่วมกัน 11 การวัดผลและประเมินผลการฝึกอบรม ตอนที่ 3 ความพึงพอใจด้านประโยชน์ทไี่ ด้รบั 12 การเรียนรู้และฝึกตนเองเกีย่ วกับ“โคก หนอง นา โมเดล” 13 การนําความรทู้ ่ไี ดร้ ับมาปรบั ใช้ในชีวิตประจาํ วนั ผผู้ ่านการฝกึ อบรมได้นําความรู้ไปใช้จริง เพมิ่ รายได้ ลดรายจา่ ย นาํ ไปประกอบอาชีพ พัฒนาคุณภาพชวี ิต ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ อนื่ ๆ ระบุ………………………. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ ............................................................................................................................. .................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................... ....................... ขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณาตอบแบบประเมนิ : จาก กศน.ตาํ บล กศน.ตาบล สงั กัด กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรุปผลการจัดกิจกรรม 22 โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร โคก หนอง นา โมเดล สรา้ งวิถีชีวติ ทยี่ งั่ ยนื คณะผู้จัดทา ท่ปี รึกษา หม่นื สา ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอพนสั นิคม 1. นางณชั ธกัญ การงานดี ครู 2. นางสาวมทุ ิกา ครู กศน.ไรห่ ลักทอง คณะทางาน ครู กศน.ตําบลโคกเพลาะ ครู กศน.ตําบลนาวังหนิ 1. นางสาวจันทกานต์ ทาํ เนาว์ 2. นางสาวเนตรณภษิ พยุงวงษ์ ครูผชู้ ว่ ย 3. นางสาวยูถกิ า คนั โธ ครอู าสาสมคั รฯ บรรณาธิการ ศรีบุณยะแกว้ 1. นางสาวณภษร คลงั สินธ์ 2. นางสาวเฟื่องฟาู กศน.ตาบล สังกดั กศน.อาเภอพนัสนิคม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook