Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมรวมเล่ม

วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมรวมเล่ม

Published by MI LK, 2021-05-31 13:13:09

Description: วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมรวมเล่ม

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ นางสาว จดั ทาโดย เลขที่ ๒๐ กนั ติชา อุ่นเรือน เสนอ ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พัชรีภรณ์ บางเขียว แผนการจัดการเรยี นร้เู ลม่ นเ้ี ป็นส่วนหนงึ่ ของรายวิชาการจดั การเรียนรแู้ ละการจดั การชั้นเรยี น รหสั วชิ า ๑๑๐๐๓๐๑ คณะครุศาสตร์มหาวทิ ยาลัยบา้ นสมเดจ็ เจ้าพระยา

คำนำ แผนการจัดการการเรียนรู้วชิ าสังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ จัดทาข้นึ เพอื่ ใช้เป็นแนวทางในการ จัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ ตามหลักสตู ร แกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ แผนการจดั การการเรียนรู้ประกอบด้วยเนอื้ หาสาระดังต่อไปน้ี โครงสรา้ งรายวชิ า แผนการ เรียนรูร้ ายคาบทงั้ หมด ๓ แผนการจัดการการเรียนรู้ ซ่งึ แต่ละแผนการจดั การเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั ช้วี ดั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจดั การเรียนรู้ ที่หลากหลาย ซ่งึ แตล่ ะรูปแบบมวี ิธีการจดั การเรยี นการสอนท่แี ตกตา่ งกัน แตท่ ้งั หมดนามาบรรลุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นอกจากน้ยี งั มีกิจกรรมใบงานและเกณฑก์ ารประเมนิ ผล เพอ่ื ใชใ้ นการ เรียนรู้ของนกั เรียนแตล่ ะคนวา่ หลงั เสร็จสิน้ จากการเรียนแลว้ ตัวนกั เรียน มคี วามรู้คความเข้าใจ เน้ือหาสาระมากนอ้ ยเพยี งใด ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ หรือไม่ ผจู้ ัดทา ขอขอบพระคุณ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ดร.พชั รีภรณ์ บางเขียว เป็นอย่างย่ิงทคี่ อยช้แี จง ใหค้ าปรึกษา และคาแนะนาตลอดระยะเวลาการจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ และหวงั เป็นอยา่ งย่ิงวา่ แผนการจัดการเรียนรูเ้ ลม่ น้เี ป็นประโยชนก์ บั การจัดการเรียนรูใ้ นหอ้ งเรียน ทาใหผ้ เู้รียนสามารถ พฒั นาการเรียนรู้ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพตอ่ ไป กันติชา อุ่นเรือน ผจู้ ดั ทา

สำรบัญ เรื่อง หน้ำ โครงสรา้ งรายวชิ า ๑ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑ ๕ ๒๑ ใบงานที่ ๑ ๒๓ ใบงานท่ี ๒ ๒๕ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี๒ ๓๙ ใบงานที่ ๑ ๔๐ ใบงานท่ี ๒ ๔๓ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่๓ ๕๕ ใบงานท่ี ๑ ๕๗ ใบงานท่ี ๒ ๖๓ ใบงานที่ ๓

โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รำยวิชำพ้ืนฐำน รหัสวิชำ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 3 ปีกำรศกึ ษำ 2564 จำนวน 80 ช่วั โมง/..........หน่วยกติ หน่วยท่ี ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน เวลำ กำรเรยี นรู้/ (ชว่ั โมง) ตวั ชว้ี ัด 1 ศำสนำที่เรำนบั ถอื 6 1.1 พระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนบั ถอื ส 1.1 ป.3/1 2 1.2 พุทธประวตั ิ หรือประวตั ิของศาสดาท่ีตนนบั ถือ ส 1.1 ป.3/2 2 1.3 พุทธประวัตแิ ละสาวกของศาสนาไทย ส 1.1 ป.3/3 2 1.3 พทุ ธประวตั แิ ละสาวกของศาสนาไทย ส 1.1 ป.3/3 2 2.1 พระไตรปิฎก หรือคมั ภีร์ของศาสนาทตี่ นนับถือ ส 1.1 ป.3/4 2 2.2 พระรัตนตรยั และปฏิบตั ติ ามหลักธรรมโอวาท๓ ใน ส 1.1 ป.3/5 3 พระพทุ ธศาสนา หรือหลกั ธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถอื 2.3 การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนับถอื ส 1.1 ป.3/6 3 2.4 ศาสนวัตถสุ ถานและศาสนบคุ คลในพระพทุ ธศาสนา ส 1.1 ป.3/7 3 3 ปฏบิ ัติตนตำมศำสนำ 8 3.1 การไหว้ การรับและส่งของแกพ่ ระภิกษุ ส 1.2 ป.3/1 3 3.2 การอาราธนาศีล และการสมาทานศีล ส 1.2 ป.3/2 3 3.3 พทุ ธมามกะ หรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาทตี่ นนบั ส 1.2 ป.3/3 2 ถอื 4 กำรดำเนินชีวิตในท้องถนิ่ ของตน 8 4.1 ประเพณแี ละวัฒนธรรมในครอบครวั และทอ้ งถิ่น ส 2.1 ป.3/1 2 4.2 การดาเนินชวี ติ ของตนเอง และผู้อ่ืนท่ีอยใู่ นกระแสวฒั นธรรมท่ี ส 2.1 ป.3/2 2 หลากหลาย 4.3 วนั หยุดราชการทสี่ าคัญ ส 2.1 ป.3/3 2 4.4 บคุ คลซ่งึ มผี ลงานทเ่ี ป็นประโยชน์แกช่ ุมชนและท้องถิ่นของตน ส 2.1 ป.3/4 2 5 บทบำทหนำ้ ที่ของสมำชิกในชุมชน 7

หนว่ ยที่ ชือ่ หนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน เวลำ กำรเรียนรู้/ (ชั่วโมง) 5.1 หนา้ ทข่ี องสมาชกิ ของชุมชน ตัวช้ีวดั 5.2 การออกเสียงและการเลอื กตวั แทนออกเสยี ง ส 2.2 ป.3/1 2 5.3 การเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนและชมุ ชน ส 2.2 ป.3/2 3 ส 2.2 ป.3/3 2 สอบปลำยภำคภำคเรยี นท่ี 1 1 6 สินค้ำและกำรบรกิ ำร ส 3.1 ป.3/1 8 6.1 สินค้าและบริการ ทม่ี คี วามจาเป็นในการดารงชวี ติ ส 3.1 ป.3/2 3 6.2 บัญชีรายรับรายจ่ายของตนเอง ส 3.1 ป.3/3 3 6.3 การผลติ และบริโภคสินคา้ และบริการ 2 7 ภำษี ส 3.2 ป.3/1 7 7.1 สนิ ค้าและบริการที่รัฐจัดหาและให้บริการแก่ประชาชน ส 3.2 ป.3/2 2 7.2 ภาษแี ละบทบาทของประชาชน ส 3.2 ป.3/3 3 7.3 การแข่งขันทางการค้า 2 8 ปฏทิ นิ กับชวี ติ ประจำวนั ส 4.1 ป.3/1 8.1 ศกั ราชทส่ี าคัญตามปฏิทิน ส 4.1 ป.3/2 4 8.2 เหตุการณส์ าคัญของโรงเรียนและชมุ ชน 2 9 ปจั จัยในกำรตัง้ ถิน่ ฐำน ส 4.2 ป.3/1 2 9.1 ปัจจยั ที่มีอิทธพิ ลตอ่ การต้งั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชน ส 4.2 ป.3/2 6 9.2 ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชมุ ชน ส 4.2 ป.3/3 2 9.3 วฒั นธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอน่ื ๆ 2 10 พระมหำกษัตริยข์ องไทย ส 4.3 ป.3/1 2 10.1 พระมหากษตั ริย์ไทยที่เป็นผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย ส 4.3 ป.3/2 10.2 พระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริย์ 8 3 ในรัชกาลปัจจุบัน 3 10.3 วีรกรรมของบรรพบรุ ุษไทยทมี่ สี ่วนปกปอ้ งประเทศชาติ 11 แผนที่ ภำพถ่ำยและจงั หวดั ของเรำ ส 4.3 ป.3/3 2 7

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน เวลำ กำรเรยี นรู้/ (ชวั่ โมง) 11.1 แผนที่ แผนผัง และภาพถา่ ยในการหาข้อมลู ทางภูมิศาสตร์ใน ตัวช้วี ดั ชมุ ชน ส 5.1 ป.3/1 2 11.2 ตาแหนง่ ทต่ี ั้งโรงเรียนและชุมชน ส 5.1 ป.3/2 3 11.3 ลกั ษณะกายภาพกบั ลกั ษณะทางสงั คมของชมุ ชน ส 5.1 ป.3/3 2 1 สอบปลายภาค ภาคเรียนท่ี 2 80 รวม





แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2564 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 6 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง ศาสนาทีเ่ รานบั ถือ 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนับถอื และศาสนาอน่ื มศี รทั ธาทถ่ี กู ต้อง ยึดม่นั และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมเพือ่ อยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ ตวั ช้วี ัด ส 1.1 ป.3/1 อธบิ ายความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถือในฐานะทเ่ี ป็น รากฐานสาคญั ของวฒั นธรรมไทย ส 1.1 ป.3/2 สรุปพทุ ธประวตั ิตัง้ แต่การบาเพญ็ เพยี รจนถึงปรินิพพาน หรือประวตั ขิ องศาสดา ทีต่ นนบั ถือตามท่กี าหนด ส 1.1 ป.3/3 ชนื่ ชมและบอกแบบอยา่ งการดาเนนิ ชวี ิตและขอ้ คิดจากประวตั สิ าวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามทก่ี าหนด จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะท่เี ป็นรากฐานสาคญั ของวฒั นธรรมไทยได้ 2. สรุปพุทธประวัติตัง้ แต่การบาเพ็ญเพยี รจนถงึ ปรินพิ พานได้ 3. เรียงลาดับเหตุการณ์พุทธประวัติได้ 4. มีความศรัทธาต่อพระพุทธเจา้ สำระสำคัญ พระพทุ ธศาสนามีความสาคัญต่อวิถีชีวติ ของคนไทย เพราะเป็นรากฐานของวฒั นธรรมทเี่ ป็น เอกลักษณ์ ของชาติการศกึ ษาพุทธประวตั จิ ะทาใหเ้ ข้าใจทมี่ าและมีศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนา และจะได้ ขอ้ คดิ สาคญั ในการนาไปประยุกตใ์ ช้ในการดาเนินชวี ิต

การศึกษาประวตั พิ ุทธสาวก ชาดก และศาสนกิ ชนตัวอยา่ งยอ่ มทาใหไ้ ดข้ อ้ คิดและคติธรรมอัน เป็นแบบอย่างที่ดี สามารถนามาประยกุ ต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ิตได้ การศึกษาประวตั ิของพุทธสาวก ศาสนกิ ชนตัวอย่างตลอดจนชาดก ย่อมทาใหเ้ หน็ แบบอย่างท่ี ดี และคติธรรมอนั เป็นแบบอยา่ ง ซ่งึ สามารถนาไปเป็นแนวทางในการดาเนินชีวติ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม สำระกำรเรียนรู้ 1. ความสัมพนั ธข์ องพระพุทธศาสนากบั การดาเนินชวี ติ ประจาวนั เชน่ การสวดมนต์ การทาบุญใส่ บาตร การแสดงความเคารพ การใช้ภาษา 2. พระพทุ ธศาสนามอี ทิ ธิพลต่อการสร้างสรรค์ผลงานทางวัฒนธรรมไทย อนั เกิดจากความศรทั ธา เช่น วัด ภาพวาด พระพทุ ธรปู วรรณคดี สถาปัตยกรรม 3. พทุ ธประวตั ิ 4. พทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ า -สามเณรสังกิจจะ 5. ชาดก -อารามทูสกะชาดก -มหาวาณิชชาดก 6. ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น (เฉพำะท่ีเกดิ ในหน่วยกำรเรียนร้นู ี้)  ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ทกั ษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน)  ทกั ษะการอา่ น (Reading)  ทกั ษะการ เขียน (Writing)

 ทักษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)  ทักษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving)  ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)  ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration ,teamwork and leadership)  ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  ทกั ษะดา้ น การส่อื สาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication information and media literacy)  ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing)  ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance,change)  ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change)  ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills)  ภาวะผนู้ า (Leadership) 7. ชิ้นงำนหรอื ภำระงำน ( หลักฐำน/ ร่องรอยแสดงควำมรู้ ) 1. แผน่ ภาพ เร่ือง ศาสนาของเรา 8. กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1-2 วิธีกำรสอนแบบกระบวนกำรสร้ำงควำมตระหนกั ขั้นที่ 1 สังเกต 1.ครูเปิด PowerPoint /บัตรภาพ เกยี่ วกบั การดาเนนิ ชีวติ ตามหลกั พระพทุ ธศาสนา ให้นกั เรียนสงั เกต ภาพ เช่น ภาพการตักบาตร ภาพเวียนเทยี น ภาพการสวดมนต์ ภาพการแสดงความเคารพพระสงฆ์และภาพเกยี่ วกบั การ สร้างสรรค์ผลงานทางวัฒนธรรมไทยอันเกิดจากความศรัทธาต่อพระพทุ ธศาสนา เชน่ ภาพวัด ภาพ พระพทุ ธรูป ภาพเจดีย์ ภาพโบสถ์ ภาพวหิ าร ภาพศาลาการเปรียญภาพจติ รกรรมฝาผนงั วรรณดไี ทยที่ เก่ียวกบั พระพทุ ธศาสนา

2.ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกบั ลกั ษณะสาคัญของภาพ โดยครตู ้ังคาถามว่า •ภาพที่เหน็ มีลกั ษณะสาคญั อะไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ -ภาพการตกั บาตร มคี นกาลงั นาอาหาร น้าด่มื ท่มี าใส่บาตรพระสงฆ์ ด้วยกริ ิยามารยาททอี่ อ่ นนอ้ ม - ภาพเวียนเทียน มคี นหลายคนพนมมอื ในมือมีธูป เทียน ดอกไม้ กาลังเดนิ เวยี นเทียน ด้วยอาการ สารวม -ภาพการสวดมนต์ มีเด็กกาลังน่งั อย่างเรียบร้อยอยดู่ ้านหลังพระสงฆ์ แต่ละคนกาลังพนมมือพร้อมกับ ทอ่ งบทสวด มนต์ ด้านหนา้ เป็นโตะ๊ หมบู่ ชู า -ภาพวัด เป็นภาพวดั ร่องขนุ่ จงั หวดั เชียงราย ซ่งึ แสดงถึงสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม - ภาพเจดยี ์ เป็นภาพพระปฐมเจดีย์ ซ่งึ เป็นเจดีย์องค์แรกของประเทศไทย และมขี นาดใหญท่ ่ีสุด -ภาพจติ รกรรมฝาผนัง แสดงเร่ืองราวเกี่ยวกับเหตุการณใ์ นชาดก) 3.ครูอธบิ ายเชื่อมโยงให้เห็นความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา ว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสาคัญของ คนไทยมา ตง้ั แตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จุบัน คนไทยจึงมวี ถิ ีชวี ติ ที่เกย่ี วข้องกับพระพทุ ธศาสนาหลายอยา่ ง ขน้ั ที่ 2 ข้นั วิเคราะหว์ จิ ารณ์ 1.นกั เรียนศกึ ษาเกย่ี วกบั ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา จากหนังสือเรียน เพือ่ ทาความเข้าใจเกย่ี วกบั เนอื้ หา 2.นักเรียนจบั คกู่ ัน แลว้ ให้แตล่ ะคผู่ ลัดกันเล่าขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการศึกษาในหนังสอื เรียน 3.นกั เรียนดูภาพจากกิจกรรมขน้ั สังเกตอีกคร้งั จากน้นั ครถู ามคาถามคิดวิเคราะห์จากภาพทไ่ี ด้ดู แล้วให้ นกั เรียนตอบ คาถาม ดังน้ี •จากภาพ นักเรียนคิดวา่ มีความเกยี่ วข้องกบั การดาเนินชวี ิตของชาวพทุ ธอย่างไร (แนวคาตอบ จากภาพ แสดงถึงความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาทม่ี ีต่อวถิ ีการดาเนนิ ชวี ิตของชาวพทุ ธ ท้งั ในด้านการ ดาเนินชวี ติ เชน่ การใสบ่ าตรเพ่อื บารุงพระสงฆ์ในตอนเช้า การนั่งสมาธิเพ่อื ใหจ้ ติ ใจสงบและมีสมาธิจดจอ่ อยู่กบั ส่งิ ทท่ี า การแสดงความเคารพดว้ ยการไหว้ นอกจากน้ี ชาวพุทธมคี วามศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้มีการ สร้างสรรค์ผลงานใน

แขนงตา่ งๆ ท้ังด้านจิตรกรรม เชน่ ภาพ จิตรกรรมฝาผนงั โบสถ์ ประตมิ ากรรม เชน่ พระพทุ ธรปู ปางต่างๆ สถาปัตยกรรม เชน่ โบสถ์ เจดียซ์ ่งึ ผลงานเหล่าน้แี สดงใหเ้ ห็นถงึ ความสวยงาม และเอกลักษณข์ องความเป็นไทยด้วย) •การปฏบิ ตั ขิ องชาวพุทธตามภาพมีผลต่อผปู้ ฏิบัตอิ ย่างไร (แนวคาตอบ การปฏิบัตขิ องชาวพุทธตามภาพส่งผลให้ผู้ปฏบิ ัติเกิดความสขุ ใจ มหี ลักในการ ดาเนินชวี ิต และเป็นผู้ท่มี ีมารยาทอนั ดงี าม) •ภาพดังกลา่ วสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงความศรทั ธาต่อพระพุทธศาสนาอยา่ งไร (แนวคาตอบ ชาวพทุ ธเกิดความเลอ่ื มใสศรทั ธาต่อพระพุทธศาสนา จึงไดท้ มุ่ กาลงั เงนิ กาลงั กาย และกาลังใจ ในการสรา้ งผลงานในแขนงตา่ งๆ ให้มคี วามสวยงาม และมเี อกลักษณ์โดดเด่น) 4.นกั เรียนยกตัวอยา่ งผลงานการสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมไทยทีไ่ ด้รบั อทิ ธิพลจากพระพุทธศาสนา จากนนั้ ครบู นั ทึกผล ลงบนกระดาน (ตวั อย่างผลงาน ประติมากรรม เชน่ พระพทุ ธรูปปางลลี า เป็นศลิ ปะสมัยสุโขทัย ซ่งึ เป็นพระพทุ ธรปู ท่ี ออ่ นชอ้ ย สวยงาม พระพทุ ธชนิ ราช เป็นพระพทุ ธรูปปางมารวชิ ยั ขนาดใหญ่ จิตรกรรม เชน่ ภาพจิตรกรรมฝาผนังรอบ พระระเบียง ทว่ี ัดพระศรีรัตนศาสดารามแสดงเร่ืองราวเกี่ยวกับรามเกียรต์ิ ภาพจิตรกรรมฝาผนงั ทีว่ ัดภูมินทร์ จงั หวดั นา่ น แสดง ชาดกในศาสนา และมีภาพวถิ ชี วี ติ ของคนเมอื งในสมัยนั้นสถาปัตยกรรม เช่น พระปรางคว์ ดั อรุณราชวราราม ฯ เป็นพระ ปรางค์ที่เป็นสญั ลกั ษณข์ องประเทศไทย วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงรายมสี ถาปัตยกรรมทส่ี วยงาม เจดีย์พระบรม ธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎรธ์ านี เป็นสถาปตั ยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียว) 5.ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบของแบบฝึกฯจากนนั้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและแกไ้ ขให้ สมบรู ณ์ถูกต้อง ข้นั ที่ 3 ขนั้ สรุป ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะทเ่ี ป็นรากฐานสาคญั ของ วัฒนธรรมไทย

(พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาท่ีคนไทยส่วนใหญน่ ับถือ มีหลักคาสอนหรือกิจกรรมทางศาสนาท่คี นไทยยดึ ถอื และปฎบิ ตั สิ บื ตอ่ กันมาต้ังแต่อดีตจนถงึ ปัจจบุ นั จึงทาให้วถิ ชี วี ิตของคนไทยส่วนใหญ่เกย่ี วข้องและผูกพันกบั พระพทุ ธศาสนา หลักคาสอนและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้หล่อหลอมใหค้ นไทยมอี ปุ นสิ ยั หรือ พฤติกรรมที่โดดเดน่ เป็นเอกลกั ษณ์ เชน่ ความเอ้อื เฟ้ือเผือ่ แผ่ ความมีน้าใจ ความเป็นมติ ร การยิ้มแยม้ แจ่มใจ การแสดงความเคารพดว้ ยการกราบไหว้การใชภ้ าษา มรรยาทไทย ประเพณตี า่ งๆนอกจากน้พี ระพทุ ธศาสนายงั มอี ิทธพิ ลต่อการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทางวัฒนธรรมไทยทเี่ กิดจากความศรทั ธา เชน่ ภาพจิตรกรรม พระพุทธรปู ปางตา่ งๆ การสรา้ งวดั โบสถ์ วิหาร เจดีย์ การแตง่ วรรณคดที ่มี ีเนอ้ื หาเกี่ยวกับพระพทุ ธศาสนา เช่น ไตรภมู ิพระ ร่วง มหาเวสสนั ดรชาดก พระมหาชนก จึงกล่าวไดว้ า่ พระพุทธศาสนามีความสาคัญในฐานะที่เป็นรากฐาน สาคัญของวฒั นธรรมไทย) ชวั่ โมงที่ 1-2 วิธีกำรสอนรปู แบบกำรสืบเสำะหำควำมรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1. นกั เรียนให้นกั เรียนดภู าพเกี่ยวกับ ประสูติ เหตุการณห์ ลังประสูติ แรกนาขวัญ การศึกษา การอภิเษก สมรส เทวทูต 4 การเสด็จออกผนวช เพอ่ื ทบทวนความรเู้ ดิมที่นกั เรียนไดเ้ คยเรียนมาแล้ว 2. นกั เรียนร่วมกนั เรียงลาดบั เหตุการณ์พทุ ธประวัติตามลาดบั กอ่ นและหลงั ให้ถูกตอ้ ง ดังน้ี 1. ประสูติ 2. เหตุการณ์หลังประสูติ 3. แรกนาขวญั 4. การศึกษา 5. การอภเิ ษกสมรส 6. เทวทตู 4 7. การเสด็จออกผนวช 3. ครูอธบิ ายเช่ือมโยงประสบการณก์ ารเรียนรเู้ ดิมกับประสบการณ์การเรียนรใู้ หม่ว่าหลังจากที่พระพุทธเจา้ เสด็จออก ผนวชแลว้ พระองค์ไดบ้ าเพญ็ เพียรดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ จนสามารถตรัสรู้ไดด้ ว้ ยพระองค์เอง ขั้นท่ี 2 สารวจค้นหา 1. ครกู าหนดประเด็นศกึ ษาให้นกั เรียนค้นคว้าหาความรู้เก่ยี วกับพทุ ธประวัติ ดังน้ี 1)การบาเพญ็ เพยี ร 2)ผจญมาร 3)ตรัสรู้ 4)ปฐมเทศนา 5)ปรินพิ พาน 2.นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ศกึ ษาข้อมูลความรู้จากหนังสอื เรียน สงั คมศึกษาฯ ป.3 หรือหนังสอื การต์ ูนพุทธประวตั ิ หรือวดิ โี อการต์ ูนพุทธประวตั จิ ากแหล่งการเรียนร้ตู า่ งๆ

ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ 1. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ นาข้อมลู ความรู้ท่ไี ด้จากการศกึ ษาคน้ ควา้ มาอภปิ รายแลกเปล่ียนภายในกลุ่มแลว้ สรุป เป็นองค์ความรขู้ องกลมุ่ 2. ครใู หต้ ัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน 3. ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะ ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ 1. ครูแจกบัตรภาพเกี่ยวกับเหตกุ ารณใ์ นพทุ ธประวตั ติ ้ังแต่การบาเพญ็ เพยี รจนถงึ ปรินพิ พาน ได้แก่ภาพ บาเพ็ญเพียร ผจญมาร ตรสั รู้ และปฐมเทศนา ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่ม 2. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั เรียงลาดับเหตกุ ารณพ์ ทุ ธประวัตกิ อ่ นและหลังตามลาดบั ให้ถกู ต้อง ดงั น้ี 1. บาเพ็ญเพยี ร 2. ตรสั รู้ 3. ปฐมเทศนา 3. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ ทาใบงาน เร่ือง พุทธประวัติ โดยดูภาพพุทธประวตั ิ แล้วสรปุ เหตุการณ์ในพทุ ธ ประวัติ โดยสังเขป 4. ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยใบงานและตรวจใบงานใหถ้ ูกต้อง ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 1. ครูใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี •นกั เรียนไดร้ บั ความรู้จากการศกึ ษาเรื่องพทุ ธประวัตอิ ย่างไร (แนวตอบ ได้รปู้ ระวตั ขิ องพระพุทธเจา้ ก่อนทพี่ ระองคจ์ ะตรสั รวู้ ่า พระองค์มีความเพยี รพยายามใน การบาเพ็ญเพียรเพื่อหาหนทางดับทกุ ขโ์ ดยไมย่ อ่ ทอ้ แมจ้ ะมีอุปสรรคต่างๆ เข้ามา) •นกั เรียนไดร้ บั ประโยชน์อยา่ งไรจากการศึกษาพุทธประวตั ิ (แนวตอบ เกิดความซาบซ้งึ และศรทั ธาในพระพุทธศาสนามากข้ึนและจะนาขอ้ คดิ ท่ีได้จากการศึกษา พุทธประวัติ คือ การมคี วามเพยี รพยายามในการทากจิ กรรมตา่ งๆ อยา่ งไมย่ อ่ ท้อ ซ่งึ จะทาใหป้ ระสบความสาเรจ็ ในการดาเนนิ ชวี ิต) 2.ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกับพทุ ธประวตั ิตง้ั แต่การบาเพ็ญเพียรจนถึงปรินิพพาน ชว่ั โมงที่ 1-2 วธิ ีกำรสอนโดยกำรจดั กำรเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนคิ คูค่ ิด ขน้ั ที่ 1 ขนั้ นา 1.ครใู หน้ ักเรียนดูภาพหรือคลปิ วิดีโอเก่ียวกบั การบรรพชาสามเณรภาคฤดูรอ้ น 2.นกั เรียนตอบคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี •นักเรียนดูภาพหรือคลปิ วิดีโอแลว้ รู้สกึ อย่างไร

(คาตอบของนกั เรียนข้นึ อยูก่ ับดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน) •กจิ กรรมการบรรพชาสามเณรภาคฤดูรอ้ นกอ่ ให้เกดิ ผลดตี อ่ ตนเอง ต่อผู้ปกครอง และตอ่ พระพุทธศาสนาอยา่ งไร (แนวคาตอบ เกิดผลดีตอ่ ตนเอง เป็นการฝึกจิตให้สงบ และไดเ้ รียนรู้หลักธรรมเพ่ือนามาปรับใชใ้ น ชีวติ ประจาวัน เกิดผลดีต่อผ้ปู กครอง เกดิ ความสบายใจท่ีบตุ รหลานไดม้ ีการฝึกอบรมตนเองตามหลกั ธรรมเกดิ ผลดีตอ่ พระพุทธศาสนา ทาให้ศาสนกิ ชนเกดิ ความยดึ ม่ันศรทั ธาในพระพุทธศาสนา) 3.ครอู ธบิ ายเช่ือมโยงใหเ้ ห็นว่า การบรรพชาสามเณรภาคฤดูรอ้ นเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีในการดาเนนิ ชวี ติ ซ่งึ ในสมัยพทุ ธกาลมีสามเณรท่ีนักเรียนควรรู้จกั คอื สามเณรสังกจิ จะ ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ สอน 1.นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน แลว้ ร่วมกนั อา่ นประวตั ิของสามเณรสังกจิ จะ จากหนงั สอื เรียน สังคมศึกษาฯ ป.3 2.นักเรียนท้งั ครู่ ่วมกนั สรปุ สาระสาคัญจากเร่ืองทอี่ า่ น แลว้ ทาใบงาน เร่ือง ประวตั พิ ุทธสาวก 3.ครูสมุ่ นกั เรียน 3-4 คู่ นาเสนอผลงานหน้าชั้น 4.ครูอธบิ ายเพ่ิมเติม พรอ้ มท้ังปรบั ปรงุ แก้ไขคาตอบใหถ้ ูกตอ้ ง 5.ครใู หน้ กั เรียนตอบคาถาม ดังน้ี •นักเรียนไดข้ ้อคดิ และคุณธรรมอนั เป็นแบบอย่างของสามเณรสังกจิ จะอยา่ งไรบ้าง (แนวตอบ -ความกล้าหาญและความเสียสละของสามเณรสังกจิ จะที่ยอมสละชีวติ ของตนเพอ่ื เหลา่ ภกิ ษุ -การมีศรัทธามัน่ คงในพระรตั นตรยั และปฏบิ ัตติ นเพือ่ ส่วนรวม ) •นกั เรียนศกึ ษาประวตั ิของสามเณรสังกิจจะแลว้ รู้สึกอย่างไรบา้ ง (คาตอบของนกั เรียนข้นึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) ข้ันท่ี 3 ขัน้ สรุป 1.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ขอ้ คดิ และแบบอยา่ งที่นกั เรียนสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวัน ข้อคิดและแบบอยา่ งทไ่ี ดร้ บั จากการศกึ ษา เรื่องสามเณรสงั กจิ จะ มีดงั น้ี (-การตง้ั ใจศกึ ษาเลา่ เรียนและประพฤตปิ ฏิบัติตามท่คี รไู ดอ้ บรมส่ังสอนไว้จะทาใหเ้ กิดผลดีตอ่ ตนเอง -การมีศรทั ธาในพระรัตนตรยั และปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมจะทาใหแ้ คล้วคลาดปลอดภยั จาก ภัย อันตราย

-การอยู่รว่ มกนั ในสังคมตอ้ งมคี วามกล้าหาญและการเสยี สละเพ่อื ประโยชน์สว่ นรวม) 2.นักเรียนทาแบบฝึกปฏบิ ัติทกั ษะรวบยอดสังคมศกึ ษาฯ ป.3 เป็นการบา้ น แล้วนาส่งครตู าม กาหนดเวลา จากนนั้ ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง ชว่ั โมงที่ 3 วิธีกำรสอนโดยกำรจดั กำรเรยี นร้แู บบร่วมมือ : เทคนคิ คูค่ ดิ 9. ส่ือกำรสอน 1. หนังสอื เรียนวิชา สงั คมศึกษาฯ ป.3 2. บตั รภาพการดาเนินชีวิตตามหลักพระพทุ ธศาสนา เชน่ ภาพการสวดมนต์ ภาพการตกั บาตร ภาพ เวียนเทียน ภาพการกราบ ภาพการไหว้ 3. บตั รภาพผลงานทางวัฒนธรรมอันเกิดจากความศรทั ธา เชน่ โบสถ์ วหิ าร พระพทุ ธรูป จิตรกรรมฝา ผนัง 4. PowerPoint สงั คมศึกษาฯป.3 5. ใบงาน เร่ือง พุทธประวตั ิ 6.ใบงาน เรื่อง สามเณรสังกจิ จะ 10. แหลง่ เรยี นร้ใู นหรอื นอกสถำนที่ -หอ้ งสมุด

11. กำรวดั และประเมนิ ผล จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ำรให้ เกณฑ์กำร หรอื ส่งิ ท่ีต้องกำรจะวัดและ คะแนน ประเมนิ ประเมนิ ผล 1.อธบิ ายความสาคัญของ ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 60 พระพุทธศาสนาหรือศาสนา ผ่านเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ ทตี่ นนบั ถือในฐานะท่เี ป็น รากฐานสาคญั ของวฒั นธรรม ไทย 2.สรปุ พุทธประวตั ติ งั้ แตก่ าร ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 60 บาเพญ็ เพียรจนถงึ ปรินพิ พาน ผ่านเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ หรือประวัตขิ องศาสนาท่ีตน นบั ถอื ตามทีก่ าหนด 3.แผน่ ภาพเรื่องศาสนาของเรา ตรวจชิ้นงาน ชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ2 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ 4.การนาเสนอผลงาน ประเมินการ -ผลงานที่นาเสนอ ระดบั คุณภาพ2 ระดับคุณภาพ 2 นาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ 5.พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม สังเกต แบบสงั เกต ระดบั คุณภาพ 2 ระดบั คุณภาพ 2 พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่

กำรประเมนิ ช้ินงำน/ภำระงำน (รวบยอด) แบบประเมนิ แผ่นภำพ เร่อื ง ศำสนำของเรำ รำยกำรประเมนิ คำอธบิ ำยระดับคณุ ภำพ/ระดับคะแนน 1. การอธบิ าย ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสาคัญของ อธบิ ายความสาคญั ของ ศาสนาในฐานะทเ่ี ป็น อธิบายความสาคญั ของ อธบิ ายความสาคัญของ ศาสนาในฐานะทีเ่ ป็น รากฐานสาคัญของ รากฐานสาคญั ของ วฒั นธรรมไทย ศาสนาในฐานะทีเ่ ป็น ศาสนาในฐานะทีเ่ ป็น วัฒนธรรมไทยไดบ้ าง ประเด็น 2. การสรุปพทุ ธประวตั ิ รากฐานสาคัญของ รากฐานสาคญั ของ สรปุ พุทธประวตั ิต้ังแต่ ต้ังแต่การบาเพญ็ เพียร การบาเพ็ญเพียรจนถงึ จนถงึ ปรินพิ พาน วัฒนธรรมไทยได้ถูกต้อง วฒั นธรรมไทยไดถ้ กู ต้อง ปรินพิ พานไดใ้ จความ ถูกตอ้ งบางเหตุการณ์ สมบรู ณ์ ครบทกุ ประเดน็ สมบูรณ์ สรุปพุทธประวัตติ ้ังแต่ สรุปพุทธประวตั ติ ั้งแต่ การบาเพ็ญเพียรจนถงึ การบาเพญ็ เพียรจนถึง ปรินิพพานไดใ้ จความ ปรินพิ พานได้ใจความ ถกู ต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ครอบคลมุ ทุกเหตุการณ์ เกณฑก์ ำรตดั สินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ 5-6 ดี 3-4 พอใช้ ตา่ กวา่ 3 ปรบั ปรุง

แบบประเมินกำรนำเสนอผลงำน คำชแี้ จง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรียนตามรายการทีก่ าหนด แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 321 1 นาเสนอเนื้อหาในผลงานไดถ้ กู ตอ้ ง 2 การลาดับขัน้ ตอนของเน้ือเร่ือง 3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ 4 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุม่ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบำงส่วน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีขอ้ บกพร่องเป็ นสว่ นใหญ่ เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม ชอ่ื กล่มุ ชั้น คำชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 321 1 การแบ่งหนา้ ท่ีกนั อยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กนั ทางาน 3 การแสดงความคิดเห็น 4 การรบั ฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมีน้าใจช่วยเหลือกัน รวม ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบำงคร้งั เกณฑก์ ำรตัดสนิ คุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

12. กจิ กรรมเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 13. บันทกึ ผลหลังกำรสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนทั้งหมดจานวน.....................คน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวนนักเรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่าน ข้อท่ี จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 1 2 3 15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 16. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................

ลงช่ือ........................................................................ () ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ....................................... ลงชอ่ื ................................................................ หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ () ลงชอ่ื .......................................................... รองผู้อานวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ (………………………………………..) ควำมเห็นของหัวหนำ้ สถำนศึกษำ ไดท้ าการตรวจแผนการเรียนรู้ของ....................................................แลว้ มีความคดิ เหน็ ดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้  เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผูเ้ รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ........................................................................................................................................................ ลงชอ่ื …………………………………………….. ( ………………………………………………… ) ผู้อานวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

ใบงำน เร่ือง สรปุ พุทธประวตั ิ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนดูภาพ แลว้ เขียนสรปุ เหตกุ ารณพ์ ทุ ธประวตั ติ ามภาพท่กี าหนด 1. ภาพน้เี ป็นพทุ ธประวตั ติ อน .................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... 2. ภาพน้เี ป็นพทุ ธประวตั ิตอน .................................... ……………………………………………………… ……………………………………………………… ………………………………………………………. 3. ภาพน้เี ป็นพุทธประวัติตอน ..................................................................................... .....................................................................................

เฉลย ใบงำนเร่ืองสรปุ พทุ ธประวตั ิ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนดภู าพ แลว้ เขยี นสรุปเหตกุ ารณ์พุทธประวตั ิตามภาพท่ีกาหนด 1. ภาพน้เี ป็นพทุ ธประวตั ติ อน ตรสั รู้ เจา้ ชายสิทธตั ถะเสดจ็ ออกผนวช แล้วได้ แสวงหาหนทางดบั ทกุ ข์ เป็นระยะเวลา 6 ปี จนพระองคไ์ ดต้ รสั รเู้ ป็นพระพุทธเจา้ ดว้ ยวธิ ีการบำเพญ็ เพียรทางจิต 2. ภาพน้เี ป็นพทุ ธประวัติตอน แสดงปฐมเทศนา หลังจากท่ีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระองค์ได้ แสดงธรรมแก่ปญั จวคั คีย์ เป็นปฐม เทศนา ช่ือวา่ “ธัมมจกั กัปปวตั ตนสตู ร” หลังจากแสดงธรรมแลว้ เหล่าปัญจวคั คีย์ ไดท้ ูลขออปุ สมบท 3. ภาพน้เี ป็นพทุ ธประวตั ิตอน เสด็จ ปรนิ พิ พาน พระพุทธเจา้ ได้เสดจ็ สัง่ สอนประชาชนเปน็ เวลานาน จนพระองค์ทรงชราภาพแลว้ จึงทรงปลงพระชนมายุ สงั ขาร หลงั จากน้ันอกี 3 เดือน พระองค์ได้เสดจ็ ดับ ขนั ธปรนิ ิพพานในวันขนึ้ 15 คำ่ เดอื น 6

ใบงำน เรื่อง สำมเณรสังกจิ จะ คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. อุปนสิ ยั ของสามเณรสงั กิจจะที่นกั เรียนควรนาไปเป็นแบบอย่าง คืออะไร ............................................................................................................................. ................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................ 2. บรุ ุษเขญ็ ใจมกี ารกระทาท่ไี มด่ อี ย่างไร ................................................................................................................................................ ................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ 3. ใครเป็นตวั อย่างที่ดีของการเป็นผเู้ สียสละ ................................................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................................... ..... ................................................................................................................................................................................................................................ 4. ทาไมพวกโจรจึงขอบวชกบั สามเณรสงั กจิ จะ .................................................................................................................. .............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................................................... 5. ข้อความทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่สามเณร 500 รปู ทาให้ได้ข้อคดิ อยา่ งไรบา้ ง .................................................................................................................... ............................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................. ............................................................................................................................. ..................................................................................................

เฉลย ใบงำนเร่ืองสำมเณรสังกจิ จะ คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. อุปนิสัยของสามเณรสงั กิจจะทีน่ ักเรียนควรนาไปเป็นแบบอยา่ ง คืออะไร ใฝ่เรยี นรธู้ รรมะ และมีศรทั ธาในพระพุทธศาสนา 2. บรุ ษุ เขญ็ ใจมีการกระทาท่ีไมด่ อี ย่างไร ไมส่ ำนึกในบุญคณุ ของผูม้ พี ระคณุ 3. ใครเป็นตวั อยา่ งทด่ี ีของการเป็นผู้เสยี สละ สามเณรสังกิจจะ 4. ทาไมพวกโจรจึงขอบวชกบั สามเณรสงั กจิ จะ มคี วามเลอื่ มใสในปาฏหิ ารยิ ข์ องสามเณรสงั กิจจะ 5. ขอ้ ความทพ่ี ระพุทธเจา้ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่สามเณร 500 รปู ทาให้ได้ข้อคิดอยา่ งไรบา้ ง คนดีมศี ีลแมม้ ชี ีวติ เพียงวันเดียวยงั ดีกวา่ คนไม่มศี ลี (คนไม่ด)ี ที่มีชวี ติ อยู่นานถงึ 100 ปี



แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสงั คมศกึ ษา ปีการศึกษา 2564 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 8 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เร่ืองปฏิบตั ติ นตามศาสนา 3. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.2 เข้าใจ ตระหนกั และปฏิบตั ิตนเป็นศาสนกิ ชนที่ดี และธารงรกั ษาพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ ตนนับถือ ตัวช้วี ดั ส 1.2 ป.3/1 ปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสมต่อสาวก ศาสนสถานศาสนวตั ถขุ องศาสนาท่ีตนนับถือตามที่ กาหนดไดถ้ ูกต้อง ส 1.2 ป.3/2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ีพิธกี รรม และวันสาคัญทางศาสนาตามที่กาหนดได้ ถูกตอ้ ง ส 1.2 ป.3/3 แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนาท่ตี นนบั ถือ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. บอกชือ่ และความสาคญั ของศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคลของศาสนาอื่นๆ ได้ 2. ปฏิบัติตนอยา่ งเหมาะสมต่อสาวก ศาสนสถานและศาสนวัตถุของศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทก่ี าหนด ไดถ้ กู ต้อง 3. ปฏบิ ัตติ นในการอาราธนาศลี และการสมาทานศลี ได้ 4. ปฏบิ ัตติ นในการจดั โตะ๊ หมู่บูชาได้ 5. แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะตามขน้ั ตอนไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม สำระสำคัญ ศาสนกิ ชนที่ดี ควรปฏิบตั ิตนอย่างเหมาะสมตอ่ สาวก ศาสนสถาน ศาสนวตั ถุ ปฏบิ ัตติ นในศา สนพธิ ี พธิ กี รรมของศาสนา และแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาท่ีตน นบั ถือ

สำระกำรเรียนรู้ 1. ชอ่ื และความสาคญั ของศาสนวัตถุ ศาสนสถานและศาสนบคุ คลในพระพุทธศาสนา ศาสนาอสิ ลาม คริสต์ศาสนา ศาสนาฮนิ ดู 2. การปฏิบตั ิตนที่เหมาะสมต่อศาสนวัตถุ ศาสนสถานและศาสนบคุ คลในศาสนาอ่ืนๆ 3. ฝึกปฏบิ ตั มิ รรยาทชาวพทุ ธ -การลุกข้นึ ยนื รับ-การต้อนรับ -การรับ ส่งส่งิ ของแก่พระภกิ ษุ -มรรยาทในการสนทนา -การสารวมกริ ิยามรรยาท -การแต่งกายทีเ่ หมาะสมเม่อื อยู่ในวัดและพทุ ธสถาน -การดแู ลรักษาศาสนวัตถุ และศาสนสถาน 4. ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพิธี -การอาราธนาศีล -การสมาทานศีล -เครื่องประกอบโตะ๊ หมูบ่ ูชา การจัดโตะ๊ หมู่บชู า 5.ความเป็นมาของการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ 6.การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ -ขน้ั เตรียมการ -ข้ันพิธีการ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (เฉพำะทีเ่ กิดในหนว่ ยกำรเรยี นร้นู ้ี)  ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการ เขียน (Writing)  ทกั ษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)  ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving)

 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)  ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผ้นู า (Collaboration ,teamwork and leadership)  ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  ทกั ษะด้าน การสอื่ สาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ (Communication information and media literacy)  ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing)  ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance,change)  ทักษะการเปลยี่ นแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills)  ภาวะผนู้ า (Leadership) 7. ชิ้นงำนหรอื ภำระงำน ( หลักฐำน/ ร่องรอยแสดงควำมรู้ ) 1. ใบงาน เร่ือง ศาสนบคุ คล ศาสนสถาน และศาสนวตั ถุ 8. กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1-3 วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนกำร : กระบวนกำรปฏิบัติ ขั้นท่ี 1 สังเกต รบั รู้ 1.ครูนาภาพสถานทสี่ าคัญทางพระพุทธศาสนา ศาสนวตั ถุ และศาสนบคุ คลทางพระพทุ ธศาสนา มาให้ นกั เรียนดู 2.ครูใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี -นักเรียนมีความประทับใจในภาพดังกล่าวอย่างไรบ้าง -ภาพดังกลา่ วมีความสาคญั อยา่ งไร 3.ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นักเรียนเข้าใจวา่ ภาพดงั กลา่ วจัดเป็น ศาสนสถานศาสนวัตถุ และศาสนบุคคล ทาง พระพุทธศาสนา แลว้ ครูอธิบายความหมาย พรอ้ มยกตัวอย่างประกอบใหน้ ักเรียนเข้าใจมากย่งิ ข้ึน จากนน้ั ให้ นักเรียน ชว่ ยกนั เสนอแนวทางการปฏิบัตติ นต่อศาสนบคุ คล ศาสนสถานศาสนวตั ถขุ องศาสนาอ่นื และการดแู ล รกั ษาศาสนวตั ถุ

และศาสนสถาน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ 4.ครพู านกั เรียนไปยงั ห้องจริยธรรมหรือหอ้ งพุทธศาสน์ แล้วครใู หต้ วั แทนนักเรียนทไี่ ดฝ้ ึกมรรยาทไว้ แล้ว ออกมา สาธติ การปฏบิ ตั ติ นในอิริยาบถตอ่ ไปน้ี 1)การลุกข้ึนยนื รบั พระสงฆ์ 2)การปฏิสนั ถาร (การต้อนรับ) 3)การสนทนา 4)การแต่งกายเหมาะสม 5)การสารวมกิริยามรรยาท 6)การถวายสง่ิ ของท่เี หมาะสมแก่พระสงฆ์ 7)การรับสิง่ ของจากพระภกิ ษุ 5. นักเรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคิด -นกั เรียนสามารถมีสว่ นร่วมในการดูแลรกั ษา ศาสนวัตถแุ ละศาสนสถานได้อย่างไรบ้าง -ถ้านกั เรียนน่ังอย่กู บั พ้นื แล้วมพี ระสงฆ์เดนิ ผา่ นมาควรปฏิบัติตนอย่างไร (ไหว้ หรือกราบตามความเหมาะสม) -เมือ่ นกั เรียนไปวัด นกั เรียนควรแต่งกายอยา่ งไร จึงจะเหมาะสม (แต่งกายสภุ าพ สีไม่ฉดู ฉาดผู้หญิงไม่ควรนุง่ กระโปรงหรือกางเกงขาส้นั ) ขน้ั ท่ี 2 ทาตามแบบ นักเรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 5-7 คน ด้วยวิธีการจบั สลาก แล้วใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนทาตามแบบอย่างผู้ทม่ี า สาธิต มรรยาทในขั้นท่ี 1 หากมขี อ้ สงสยั ให้ศกึ ษาความร้เู พิม่ เติมจากหนังสอื เรียน หรือสอบถามจากครูผสู้ อน ข้ันท่ี 3 ทาเองโดยไม่มแี บบ นกั เรียนแตล่ ะคนฝึกมรรยาทชาวพทุ ธตามขัน้ ตอนดว้ ยตนเอง โดยให้สมาชิกในกล่มุ ร่วมกนั เสนอแนะ และ ครชู ว่ ยตรวจดคู วามถกู ตอ้ ง และให้ข้อแนะนาเพิ่มเตมิ ขน้ั ที่ 4 ฝึกทาให้ชานาญ 1.ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนฝึกปฏิบตั ิมรรยาทชาวพุทธในข้ันท่ี 1 ดว้ ยตนเองนอกเวลาเรียนและ สาธิตการปฏิบัตติ นตอ่ ครผู ูส้ อนในเวลาทก่ี าหนด 2.ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความสาคญั และแนวทางการปฏบิ ตั ติ นตอ่ ศาสนบุคคล ศาสนวตั ถุ และศาสน สถาน ตามมรรยาทไทยอยา่ งเหมาะสม

3. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนทาใบงาน เร่ือง ศาสนบคุ คล ศาสนสถาน และศาสนวัตถุ เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครตู าม กาหนด เวลาทตี่ กลงกัน 4.นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ -นกั เรียนคดิ วา่ จะสามารถปฏบิ ตั ิตนตอ่ พระสงฆ์อย่างเหมาะสมไดอ้ ยา่ งไร ช่ัวโมงที่ 1-3 วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนกำร : กระบวนกำรปฏิบตั ิ ข้ันท่ี 1 สงั เกต รบั รู้ 1.ครูใหน้ กั เรียนดูวดี ทิ ศั น์หรือภาพเกีย่ วกับการทาบุญในโอกาสตา่ งๆ แลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความ คดิ เหน็ เกยี่ วกบั ความสาคญั ในการทาพิธกี รรม 2.ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงให้นักเรียนเห็นถึงความสาคัญของศาสนพิธี และการปฏิบัติตนอย่างถกู ต้อง 3 ครูพานกั เรียนไปยงั หอ้ งจริยธรรมหรือห้องพุทธศาสน์ แล้วครูให้ตวั แทนนกั เรียนออกมาสาธิตการ ปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ ีดังน้ี 1)การอาราธนาศลี 2)การสมาทานศลี 4.นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด -การอาราธนาศีลและการสมาทานศีลมคี วามแตกต่างกันอย่างไร (การอาราธนาศีลเป็นการกลา่ วคาขอใหพ้ ระสงฆใ์ หศ้ ลี แกเ่ รา ส่วนการสมาทานศลี นั้นเป็นการรับเอาศลี ท่ี ขอมาปฏิบตั )ิ ข้ันท่ี 2 ทาตามแบบ นกั เรียนรวมกลุ่ม แลว้ ฝึกปฏิบตั ิตามแบบอยา่ งของตัวแทนนักเรียนท่มี าสาธติ ในข้ันท่ี 1 หากมีขอ้ สงสยั ให้ ศกึ ษาความรเู้ พ่ิมเติมจากหนังสือเรียน หรือสอบถามจากครู ขน้ั ท่ี 3 ทาเองโดยไมม่ ีแบบ สมาชิกแต่ละกล่มุ ร่วมกันฝึกปฏบิ ัตติ นตามศาสนพิธโี ดยไม่มีแบบผลัดกนั เสนอแนะการปฏิบตั ิ ครู ตรวจสอบความถูกต้องและแนะนาเพม่ิ เตมิ ขั้นที่ 4 ฝึกทาใหช้ านาญ 1.สมาชิกแตล่ ะกลุม่ ฝึกปฏบิ ตั ิตนในการอาราธนาศีล และการสมาทานศลี จนมีความชานาญ 2.ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ แนวทางการปฏิบตั ติ นในศาสนพธิ ี 3.นกั เรียนแตล่ ะคนทาแบบฝึกกิจกรรมท่ี 1 จากแบบวัดฯ เป็นการบา้ น เสรจ็ แลว้ นาส่งครู 4.นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด -นกั เรียนเคยเข้ารว่ มพธิ กี ารอาราธนาศีลและการสมาทานศีลทใี่ ดบ้างและมขี ้ันตอนการปฏบิ ัติอยา่ งไร

ชั่วโมงที่ 1-2 วิธสี อนโดยใช้กำร สำธิต ขน้ั ที่ 1 เตรียมการสาธิต 1.ครใู หน้ ักเรียนดูภาพเกี่ยวกับการจดั โตะ๊ หมบู่ ชู า และการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ แลว้ ให้นักเรียน ร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับความสาคญั ในการจัดโตะ๊ หมบู่ ูชา และการทาพธิ กี รรม 2.ครอู ธบิ ายเช่ือมโยงให้นกั เรียนเหน็ ถึงความสาคญั เก่ยี วกบั การจัดโตะ๊ หมูบ่ ชู า และการแสดงตนเป็น พทุ ธมามกะ และการปฏบิ ตั ิตนอยา่ งถูกต้อง 3.ครูพานกั เรียนไปยงั หอ้ งจริยธรรมหรือหอ้ งพทุ ธศาสน์ แล้วครใู ห้ตัวแทนนักเรียนเตรียมการสาธิตการ จดั โต๊ะหม่บู ชู า และการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ 4.นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด -นกั เรียนคิดว่า การจัดโต๊ะหม่บู ชู ามคี วามสาคัญตอ่ พระพุทธศาสนาอยา่ งไร (การจัดโต๊ะหมู่เป็นศลิ ปะของชาวพุทธ ซ่งึ เป็นประเพณที น่ี ิยมมาแตโ่ บราณ อกี ทง้ั ยงั เป็นการแสดงถงึ จิตใจทเี่ คารพบูชาในพระรตั นตรัย) ขั้นท่ี 2 สาธิต 1.นักเรียนรวมกลมุ่ ศกึ ษาความรเู้ รื่อง การจดั โต๊ะหมู่บูชา และการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ จากหนังสอื เรียน 2.ตัวแทนนักเรียนสาธิตการจดั โตะ๊ หมู่บชู า และการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ พร้อมกบั ครูอธบิ าย ประกอบในแต่ละขั้นตอน 3.สมาชิกแต่ละกลมุ่ ฝึกการจดั โตะ๊ หมบู่ ูชา และการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ ตามแบบที่เพื่อนนกั เรียน สาธติ 4.ครูสงั เกตการจัดโตะ๊ หมู่บูชา และการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะของนกั เรียน หากนกั เรียนคนใดทาไม่ ถูกต้องใหเ้ สนอแนะ เพอ่ื แกไ้ ขใหป้ ฏิบัติไดถ้ ูกต้อง ข้นั ที่ 3 สรุปการสาธิต สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รว่ มกันสรปุ ขน้ั ตอนการจัดโตะ๊ หมบู่ ูชา และการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พรอ้ มทัง้ ผลดั กนั เสนอแนะการปฏบิ ตั ิครูตรวจสอบความถูกต้องและแนะนาเพม่ิ เติม ข้นั ที่ 4 วดั ผลประเมินผล 1.ครูสุม่ นักเรียน 2-3 คน สาธติ การจัดโตะ๊ หมบู่ ูชา และการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะหนา้ ชัน้ เรียน ครู ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2.ครูนดั หมายกับนักเรียนแตล่ ะกลมุ่ มาสาธติ การจดั โต๊ะหมู่บูชา และการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ (นอกเวลาเรียน) เพือ่ ให้ครูประเมินผล

3.นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด -นักเรียนเคยเขา้ รว่ มพิธกี ารแสดงตนเป็น พุทธมามกะท่ีใดบา้ ง และมีขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิอย่างไร 9. ส่ือกำรสอน 1. หนังสือเรียนวิชา สงั คมศึกษาฯ ป.3 2. บัตรภาพ 5. ใบงาน เร่ือง ศาสนบคุ คล ศาสนสถาน และศาสนวตั ถุ 10. แหล่งเรยี นร้ใู นหรือนอกสถำนท่ี -หอ้ งสมดุ 11. กำรวดั และประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธวี ดั เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ หรือ สิง่ ท่ตี อ้ งการจะวดั และ คะแนน ประเมิน ตรวจใบงาน ใบงาน ประเมนิ ผล ร้อยละ 60 ร้อยละ 60 1บอกชือ่ และความสาคัญ สงั เกตการสาธติ การ แบบประเมนิ การ ของศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน ปฏบิ ัตติ นเป็น สาธติ การปฏิบตั ิตน ผ่านเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ และศาสนบคุ คลของศาสนา พุทธศาสนิกชนทด่ี ี เป็นพุทธศาสนิกชน อ่นื ๆ ได้ ที่ดี ระดับคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ 2 2แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ ประเมินการนาเสนอ -ผลงานทีน่ าเสนอ 2 ผ่านเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ ตามขนั้ ตอนได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ผลงาน เหมาะสม แบบสังเกต ระดับคณุ ภาพ2 ระดบั คณุ ภาพ 2 สังเกตพฤตกิ รรม พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ 3การนาเสนอผลงาน การทางานกล่มุ การทางานกล่มุ ระดับคุณภาพ ระดบั คุณภาพ 2 4พฤติกรรมการทางานกล่มุ 2 ผา่ นเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์

กำรประเมินชน้ิ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) แบบประเมินกำรสำธิตกำรปฏิบตั ติ นเป็ นพทุ ธศำสนกิ ชนท่ีดี ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 321 1 การปฏบิ ตั ติ นอยา่ งเหมาะสมต่อศาสนบุคคล ศาสนสถาน และศาสนวัตถุ 2 การปฏบิ ัติตนในศาสนพธิ ีเกี่ยวกบั การอาราธนาศลี การสมาทานศลี และการจดั โต๊ะหมู่บูชา 3 การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ รวม ลงชอ่ื ........................................ผูป้ ระเมิน ......./............/..... เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ดี พอใช้ = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรงุ = 2 คะแนน = 1 คะแนน 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ กำรสำธิตกำรปฏบิ ตั ิตนเป็นพทุ ธศำสนิกชนท่ีดี รำยกำรประเมิน คำอธบิ ำยระดับคุณภำพ / ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. กำรปฏิบัตติ นอยำ่ ง สาธิตการปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง สาธิตการปฏิบตั ติ นอย่าง สาธติ การปฏบิ ัติตนอย่าง เหมาะสมต่อศาสนบุคคล เหมาะสมตอ่ ศาสนบุคคล เหมำะสมตอ่ ศำสน- เหมาะสมตอ่ ศาสนบุคคล ศาสนสถาน และศาสน ศาสนสถาน และศาสน บคุ คล ศำสนสถำน ศาสนสถานและศาสน วตั ถุ ได้ถูกตอ้ งตาม วัตถุ ได้ถกู ตอ้ งตาม และศำสนวตั ถุ วัตถุ ได้ถูกต้องตาม ข้ันตอน 3-4 ข้นั ตอน 1-2 อิริยาบถ ขนั้ ตอน 5 สาธิตการปฏบิ ัติตนในศา อริ ิยาบถข้ึนไป อริ ิยาบถ สนพิธีเกีย่ วกับการ อาราธนาศีล 2. กำรปฏบิ ัติตนใน สาธติ การปฏิบัตติ นในศา สาธิตการปฏิบัติตนในศา การสมาทานศลี และการจัด ศำสนพิธเี กย่ี วกับ โต๊ะหมูบ่ ชู าได้ถกู ต้อง กำรอำรำธนำศลี สนพิธเี กย่ี วกับการ สนพธิ ีเกยี่ วกบั การ เป็นบางสว่ น กำรสมำทำนศีล และกำรจัดโตะ๊ อาราธนาศลี อาราธนาศีล การ สาธติ การแสดงตนเป็น หม่บู ูชำ พทุ ธมามกะได้ถกู ตอ้ ง แต่ การสมาทานศลี และการจดั สมาทานศีล และการจัด มจี ดุ บกพร่องเป็นสว่ น ใหญ่ และไมค่ รบทุก โต๊ะหมบู่ ูชาไดถ้ กู ตอ้ ง โต๊ะหมู่บูชาไดถ้ ูกตอ้ ง ขนั้ ตอน เป็นสว่ นใหญ่ 3. กำรแสดงตนเป็น สาธติ การแสดงตนเป็น สาธิตการแสดงตนเป็น พุทธมำมกะ พทุ ธมามกะได้ถกู ตอ้ ง พทุ ธมามกะได้ถกู ต้อง ครบทกุ ขั้นตอน ครบทุกข้ันตอน แต่มี จุดบกพรอ่ งบ้างเลก็ นอ้ ย ช่วงคะแนน เกณฑก์ ำรตดั สนิ คุณภำพ ตา่ กว่า 5 ระดบั คุณภำพ ปรับปรุง 8-9 5-7 ดี พอใช้

แบบประเมินกำรนำเสนอผลงำน คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรียนตามรายการทก่ี าหนด แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 321 1 นาเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถกู ตอ้ ง 2 การลาดับขน้ั ตอนของเน้ือเร่ือง 3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ 4 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมีขอ้ บกพร่องบำงส่วน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมีขอ้ บกพร่องเป็ นส่วนใหญ่ เกณฑก์ ำรตัดสินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนกล่มุ ชื่อกล่มุ ช้นั คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 321 1 การแบ่งหนา้ ท่ีกันอย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กันทางาน 3 การแสดงความคดิ เห็น 4 การรบั ฟงั ความคดิ เห็น 5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชือ่ .................................................... ผ้ปู ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบำงครัง้ เกณฑก์ ำรตดั สนิ คุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ 12. กจิ กรรมเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 13. บนั ทกึ ผลหลงั กำรสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ ม่ผ่าน ข้อที่ จานวนคน ร้อยละ จานวนคน ร้อยละ 1 2 3 15. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................................................... 16. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ลงชือ่ ........................................................................

() ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ....................................... ลงช่ือ................................................................ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ () ลงช่อื .......................................................... รองผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารวิชาการ (………………………………………..) ควำมเห็นของหวั หน้ำสถำนศกึ ษำ ไดท้ าการตรวจแผนการเรียนรู้ของ....................................................แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี 4. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 5. การจดั กจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 6. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................ ............................................ ........................................................................................................................................................ ลงชอื่ ..................................................................... (……………………………… ) ผ้อู านวยการโรงเรียน………………………………………………

ใบงำนเรอ่ื งศำสนบุคคล ศำนสถำน และศำสนวัตถุ คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนพิจารณาภาพ แล้วนาหมายเลขหนา้ ภาพเขยี นด้านล่างใหส้ มั พันธ์กับขอ้ ความ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. ศำสนสถำน ศำสนวัตถุ ศำสนบุคคล

 นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนตอ่ ศาสนบคุ คล ศาสนสถานและศาสนวตั ถขุ องศาสนาอ่นื ได้ดงั น้ี

ใบงำนเรือ่ งศำสนบคุ คล ศำนสถำน และศำสนวัตถุ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนพิจารณาภาพ แล้วนาหมายเลขหนา้ ภาพเขียนด้านลา่ งใหส้ มั พนั ธก์ ับขอ้ ความ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. ศำสนสถำน 1, 3, 4, 7, 10 ศำสนวตั ถุ 2, 5, 8, 12 ศำสนบุคคล 6, 9, 11

 นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนตอ่ ศาสนบคุ คล ศาสนสถานและศาสนวตั ถขุ องศาสนาอน่ื ได้ดังน้ี (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี นโดยให้อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)



แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ปีการศกึ ษา 2564 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 8 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 เรื่องสนิ ค้าและการบริการ 5. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใชท้ รพั ยากรทม่ี อี ยู่ จากัดไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพและค้มุ ค่า รวมทั้งเขา้ ใจหลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพ่อื การดารงชีวิต อย่างมีดุลยภาพ ตวั ช้วี ัด ส 3.1 ป.3/1 จาแนกความตอ้ งการและความจาเป็นในการใชส้ ินค้าและบริการในการดารงชวี ิต ส 3.1 ป.3/2 วเิ คราะห์การใช้จา่ ยของตนเอง ส 3.1 ป.3/3 อธิบายไดว้ า่ ทรพั ยากรทมี่ ีอยูจ่ ากดั มีผลตอ่ การผลิตและการบริโภคสินคา้ และบริการ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของสินค้าทีจ่ าเป็นได้ 2. จาแนกประเภทสินคา้ ท่ีจาเป็นและทเ่ี ป็นความต้องการของมนษุ ยไ์ ด้ 3. บอกประโยชน์และคุณค่าของสนิ ค้าและบริการทส่ี นองความตอ้ งการของมนษุ ยไ์ ด้ สำระสำคัญ สินคา้ และบริการที่ตอบสนองความตอ้ งการของมนษุ ย์มอี ยู่หลายประเภท ซ่งึ จะต้องร้หู ลกั การเลือกซ้อื สินค้าและบริการท่ีจาเป็นก่อนตัดสนิ ใจเลือกซื้อสนิ ค้า สำระกำรเรยี นรู้ 1. สนิ คา้ และบริการ 1) ความหมายและประเภทของสนิ ค้าและบริการ 2) ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าของสนิ คา้ และบริการ

2. หลกั การเลอื กซอื้ สนิ คา้ ทจี่ าเป็น 3. ใชบ้ ญั ชรี บั จา่ ยวเิ คราะห์การใชจ้ า่ ยท่ีจาเป็นและเหมาะสม 4.ความหมายของผผู้ ลิตและผูบ้ ริโภค 5.ความหมายของสนิ ค้าและบริการ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (เฉพำะที่เกิดในหน่วยกำรเรยี นรู้นี้)  ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทกั ษะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน)  ทักษะการอา่ น (Reading)  ทกั ษะการ เขียน (Writing)  ทกั ษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)  ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving)  ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation)  ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration ,teamwork and leadership)  ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  ทกั ษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และร้เู ท่าทนั สอ่ื (Communication information and media literacy)  ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing)  ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance,change)  ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills)  ภาวะผู้นา (Leadership)

7. ชิน้ งำนหรอื ภำระงำน ( หลักฐำน/ ร่องรอยแสดงควำมรู้ ) 1. แผน่ ภาพ เรื่อง สนิ ค้าและบริการกับการดารงชวี ิตประจาวัน 8. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1-3 วธิ กี ำรสอนโดยรปู แบบกำรสืบเสำะหำควำมรู้ 5Es(5Es Instructional Model) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครแู จกภาพสินค้าและบริการใหน้ ักเรียนคนละ 1 ภาพ 2. นกั เรียนจาแนกภาพท่ีได้รับจากครูเป็นสินคา้ และบริการท่ีจาเป็นและสนิ คา้ และบริการท่ไี ม่จาเป็นใน การดารงชวี ิต ลงในกล่อง 2 ใบ 3. ครูเชอื่ มโยงวา่ มนุษยม์ คี วามต้องการสนิ ค้าและบริการเพอื่ การอยรู่ อดปลอดภัยของชีวติ หรือเพ่อื ความ สะดวกสบาย ขนั้ ที่ 2 สารวจและคน้ หา (Exploration) 1. ครแู บง่ นักเรียนศึกษาขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกับสินคา้ และบริการในการดารงชวี ิตและประโยชน์และ คุณค่าของสินคา้ และบริการทเี่ ป็นความต้องการของมนุษย์ ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 1. สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ เล่าเร่ืองท่ีตนไดศ้ ึกษาในกลุ่ม รว่ มกันอภปิ ราย แล้วสรุปเป็นองค์ความรู้ของกลมุ่ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชั้น 3. ครอู ธบิ ายขอ้ มูลความรูเ้ ก่ียวกับสนิ ค้าและบริการในการดารงชีวติ และประโยชน์และคุณคา่ ของ สินคา้ และบริการ ทีเ่ ป็นความตอ้ งการของมนุษย์เพ่ิมเติม 4. นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง สนิ คา้ และบริการ ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันพจิ ารณาความถูกตอ้ งของบตั รภาพในกล่องท่รี ว่ มกนั จาแนกในขั้นกระต้นุ ความสนใจ 2. นักเรียนดูภาพสนิ คา้ และบริการ ใน PowerPoint แลว้ รว่ มกนั วเิ คราะห์ภาพทจี่ าเป็นต่อการดารงชีวติ 3. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมเร่ืองสนิ ค้าและบริการทเ่ี กย่ี วกบั ปัจจยั 4 ที่จาเป็นตอ่ การดารงชีวติ ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook