การประเมินความตอ้ งการจาเป็นในการบรหิ าร ทรพั ยากรมนษุ ยต์ ามแนวคิดการเสรมิ สรา้ ง ความเป็นธรรมทางการศกึ ษาของโรงเรยี นขนาดเลก็ นวพร กาญจนศร*ี นายศภุ เชษฐ์ กาญจนมณี รหสั นักศกึ ษา 6419060003 มหาวทิ ยาลัยหาดใหญ่
บทนำ เป้าหมายในการพัฒนาที่ย่ังยืนของโลก ตั้งแต่ปี 2558 ขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และ วฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ระบวุ ่า “การสรา้ งหลกั ประกันเก่ยี วกับความเปน็ ธรรมของคณุ ภาพการศึกษาและ สง่ เสริมโอกาสในการเรียนรตู้ ลอดชีวิตสาหรับปวงชน ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั เป้าหมายของยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี คือ การ สรา้ งโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกนั ทางสงั คม เพ่ือเรง่ กระจายโอกาสและลดความเหลอ่ื มลา้ ไปสู่สงั คมทีเ่ สมอภาคและ เปน็ ธรรม ความเปน็ ธรรมทางการศกึ ษาเป็นหลักการที่วา่ ดว้ ยลักษณะของความยุติธรรมและประสทิ ธภิ าพของระบบการศึกษา ความเป็นธรรมแบง่ ออกเปน็ 2 มิติ คือ 1) ความเปน็ ธรรมในแนวนอน หมายถงึ หลกั การปฏบิ ัตอิ ยา่ งเดยี วกันตอ่ บุคคลทีม่ ี ลกั ษณะหรือความต้องการแบบเดียวกนั และ 2) ความเป็นธรรมในแนวต้ัง หมายถึง หลักการปฏบิ ตั ทิ แ่ี ตกต่างกันต่อบคุ คลทม่ี ี ลักษณะแตกตา่ งกนั โรงเรียนขนาดเล็กหรือโรงเรียนทมี่ จี านวนนักเรยี นนอ้ ยกวา่ 120 คน มีแนวโน้มเพิ่มข้ึนทุกปี โดยในปีการศึกษา 2562 มีจานวน 15,158 แห่ง คดิ เปน็ ร้อยละ 50.74 ท้ังนหี้ นึง่ ในปญั หาสาคัญของโรงเรียนขนาดเล็ก คอื ปญั หาเกย่ี วกบั
บทนำ (ตอ่ ) ทรัพยากรครู ท้ังเร่ืองอัตรากาลัง ประกอบด้วย การขาดแคลนครู ครูไม่ครบช้ัน ครูไม่ตรงตามวิชาเอก อันเน่ืองมาจาก เกณฑ์ท่ีกาหนดจานวนครูต่อจานวนนักเรียน ทาให้โรงเรียนมีครูน้อยตามไปด้วย นอกจากนั้นยังประสบปัญหาครูขาด ขวัญกาลงั ใจ มภี าระงานท่ีเยอะ ครูย้ายบ่อย ส่งผลให้ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่า ขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ การยกระดับคุณภาพของโรงเรียนขนาดเล็กให้เกิดความเป็นธรรมทางการศึกษา จึงจาเป็นที่จะต้อง คานึงถึงคุณภาพครู ถ้านักเรียนได้รับการสอนจากครูที่มีคุณภาพจะช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้น ปจั จยั สาคัญทีจ่ ะชว่ ยดงึ ดูดครทู ม่ี ีคณุ ภาพเลอื กบรรจใุ นโรงเรยี นขนาดเล็ก คอื การสรา้ งแรงจงู ใจซึ่งเปน็ กลไกสาคัญ แต่ สาหรบั ประเทศไทย พบวา่ ยงั ขาดกลไกดังกลา่ วในการดึงดูดครูที่มคี ุณภาพ จากปัญหาการบรหิ ารทรัพยากรของครูโรงเรียนขนาดเล็ก จงึ จาเปน็ ท่จี ะต้องมีการประเมินความต้องการ จาเป็นและนามากาหนดวธิ กี ารดาเนินงานในการพัฒนาและปรับปรุงได้ตรงจุดท่ีเป็นไปตามความตอ้ งการ โดยการใช้วธิ ี
บทนำ (ตอ่ ) Priority Needs Index เพ่ือจัดเรียงลาดับความสาคัญของความต้องการจาเป็นในการพัฒนาทรัพยากรครู ทาให้ทราบ ความต้องการจาเป็นเพ่ือนาไปกาหนดกลยุทธ์ แนวทาง หรือวิธีการในการพัฒนาให้โรงเรียนขนาดเล็กได้รับการจัดสรร ทรัพยากรครูที่มีคุณภาพและมีจานวนที่เพียงพอเหมาะสมกับการปฏิบัติงานของโรงเรียน และสามารถพัฒนาครูให้มี ศกั ยภาพเพม่ิ ขนึ้ ทาใหโ้ รงเรยี นขนาดเล็กสามารถจัดการเรียนการสอนพัฒนาผเู้ รียนไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพเพิม่ ขึน้
วตั ถุประสงคข์ องกำรวิจยั 1. เพื่อศึกษากรอบแนวคิดการบริหารทรัพยากรมนุษย์และกรอบแนวคิดความเป็น ธรรมทางการศึกษา 2. เพื่อประเมินความต้องการจาเป็นในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดการ เสริมสรา้ งความเป็นธรรมทางการศกึ ษาของโรงเรียนขนาดเลก็
วธิ ีดำเนนิ กำรวจิ ยั การศึกษาครั้งนี้ดาเนินการวิจัยโดยใช้ระเบียบการวิจัยแบบผสม (Mixed Method Research) ทัง้ การวจิ ัยเชงิ คณุ ภาพและการวิจยั เชงิ ปรมิ าณ โดยมีรายละเอยี ดขนั้ ตอนการวิจัยตามวตั ถปุ ระสงค์ ดงั นี้ 01 02 ศึกษากรอบแนวคดิ การบริหารทรพั ยากร ศกึ ษาความต้องการจาเปน็ ในการบรหิ าร มนษุ ย์และกรอบแนวคิดความเปน็ ธรรม ทรพั ยากรมนษุ ยต์ ามแนวคดิ การเสริมสรา้ ง ทางการศกึ ษา ความเป็นธรรมทางการศกึ ษาของโรงเรียน ขนาดเล็ก
1 วิธกี าร : 1) ศกึ ษากรอบแนวคิดจากเอกสารและงานวิจัยทเ่ี กีย่ วข้องนามา สงั เคราะห์เป็นกรอบแนวคิดเบือ้ งต้น ศกึ ษากรอบแนวคดิ การบรหิ าร ทรัพยากรมนษุ ยแ์ ละกรอบ 2) ใหผ้ ู้ทรงคณุ วุฒปิ ระเมินความเหมาะสมของกรอบแนวคิด แนวคิดความเปน็ ธรรมทาง 3) ปรบั ปรงุ ตามขอ้ เสนอแนะของผทู้ รงคุณวฒุ ิ การศกึ ษา เครื่องมอื : แบบประเมินความเหมาะสมของกรอบแนวคดิ แหลง่ ขอ้ มูล : 1) เอกสารและงานวิจัยที่เกยี่ วขอ้ ง 2) ผทู้ รงคุณวุฒิประเมินความเหมาะสมของกรอบแนวคิด จานวน 7 คน ประกอบดว้ ย ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ ้านนโยบายการศึกษา/ด้านการ บรหิ ารการศึกษา 2 คน ผู้ทรงคณุ วุฒิด้านวิจยั /การวัดและประเมินผล 1 คน ผู้ทรงคุณวุฒดิ า้ นการบริหารทรพั ยากรมนุษย์ 1 คน และผทู้ รงคณุ วุฒิดา้ นการ บริหารสถานศกึ ษา 3 คน การวเิ คราะหข์ อ้ มูล : วเิ คราะห์ความตรงเชิงเนือ้ หา โดยใช้ความถี่ ซึ่งกาหนด เกณฑ์การยอมรับผลการประเมินกรอบแนวคิดไว้ที่ ≥ รอ้ ยละ 80 และการ วิเคราะหเ์ นอื้ หา
2 วธิ ีการ : 1) นาผลการประเมินกรอบแนวคดิ ในการวิจัยทผี่ า่ นการประเมินจาก ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ มาพฒั นาเป็นแบบสอบถาม ศกึ ษาความตอ้ งการจาเปน็ ใน การบริหารทรัพยากรมนุษยต์ าม 2) ตรวจสอบคุณภาพเครอื่ งมอื แนวคิดการเสรมิ สรา้ งความเป็น 3) เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากกลุ่มตัวอยา่ ง ธรรมทางการศึกษาของโรงเรียน เครือ่ งมือ : แบบประเมนิ ความตอ้ งการจาเป็นในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ขนาดเล็ก ตามแนวคิดการเสริมสรา้ งความเปน็ ธรรมทางการศึกษาของโรงเรยี นขนาดเลก็ แหล่งข้อมลู : กลมุ่ ตัวอย่าง คือ โรงเรยี นขนาดเล็ก สังกัดสานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน จานวน 390 แหง่ ได้จากการสุ่มแบบ หลายข้ันตอน 1) กาหนดขนาดกลุม่ ตวั อยา่ ง 2) แบง่ ภาคทโ่ี รงเรยี นตง้ั อยู่ 3) กาหนดกลุ่มจงั หวดั 4) กาหนดจังหวัด 5) กาหนดเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา และ 6) กาหนดโรงเรยี น การวิเคราะห์ข้อมูล :สถิตเิ ชิงพรรณนาและค่าดัชนคี วามต้องการจาเป็น PNImodified โดยการวเิ คราะหร์ วมท้งั ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากผู้อานวยการและครู
ผลกำรวจิ ัย 1. กรอบแนวคดิ เกี่ยวกบั การบริหารทรัพยากรมนษุ ย์ และกรอบแนวคิดความเปน็ ธรรมทางการศึกษาของโรงเรียนขนาดเลก็ ผลการประเมินกรอบแนวคิดด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 กระบวนการหลัก และ กรอบแนวคดิ ความเป็นธรรมทางการศกึ ษาของโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งประกอบไปด้วย 2 มิติ โดยภาพรวมผู้ทรงคณุ วุฒทิ งั้ 7 คน มคี วามเหน็ สอดคลอ้ งกนั ว่ามคี วามเหมาะสม คดิ เป็นร้อยละ 100 โดยมรี ายละเอียด ดงั นี้ 1.1 กรอบแนวคดิ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ประกอบไปดว้ ย 3 องคป์ ระกอบหลัก ประกอบด้วย 1) การได้มาซง่ึ ทรพั ยากรมนุษย์ 2) การประเมินผลและพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ และ 3) การธารงรักษาทรพั ยากรมนษุ ย์ 1.2 กรอบแนวคดิ ความเป็นธรรมทางการศึกษา ประกอบดว้ ย ความเปน็ ธรรมทางการศึกษา 2 มติ ิ ดงั นี้ 1) ความเป็นธรรมทางการศึกษาในแนวนอน 2) ความเปน็ ธรรมทางการศึกษาในแนวตั้ง
ผลกำรวจิ ยั สามารถสรปุ ผลการประเมนิ กรอบแนวคิดการวิจยั ได้ดังน้ี การบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ย์ ความเป็นธรรมทางการศกึ ษา 1. การไดม้ าซงึ่ ทรัพยากรมนษุ ย์ 1. ความเปน็ ธรรมทางการศกึ ษาในแนวนอน 1.1 การวางแผนทรพั ยากรมนุษย์ 2. ความเป็นธรรมทางการศึกษาในแนวต้งั 1.2 การกาหนดคณุ สมบัตขิ องงาน 1.3 การสรรหาและคัดเลอื ก บริบททใ่ี ชจ้ าแนกความแตกต่างของโรงเรยี น 1. จานวนครตู ่อนกั เรียน 2. การประเมนิ ผลและการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์ 2. คณุ ภาพครู 2.1 การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน 3. รูปแบบการจัดการเรยี นการสอน 2.2 การฝกึ อบรมและพัฒนา 4. แรงจงู ใจในการทางานของครู 3. การธารงรักษาทรัพยากรมนษุ ย์ 3.1 การให้รางวลั 3.2 การบริหารเสน้ ทางอาชพี การบรหิ ารทรัพยากรมนษุ ย์ตามแนวคดิ การเสรมิ สร้างความเปน็ ธรรมทางการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก
ผลกำรวจิ ยั 2. ความต้องการจาเปน็ ในการบริหารทรัพยากรมนษุ ย์ตามแนวคิดการเสริมสร้างความเป็นธรรมทางการศึกษาของโรงเรียน ขนาดเล็ก ผลการศกึ ษา เปน็ ดงั นี้ 2.1 ความต้องการจาเป็นในการบรหิ ารทรัพยากรมนษุ ย์ตามแนวคิดการเสริมสร้างความเปน็ ธรรมทาง การศกึ ษาของโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยภาพรวมพบว่า การธารงรักษาทรัพยากรมนษุ ย์ มคี า่ ความจาเปน็ ลาดับท่ี 1 รองลงมา คอื การไดม้ าซึง่ ทรัพยากรมนษุ ย์ และการประเมินผลและพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ มีค่าความต้องการจาเป็นลาดับสุดท้าย 2.2 ความต้องการจาเปน็ ในการบรหิ ารทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดการเสรมิ สร้างความเป็นธรรมทาง การศกึ ษาของโรงเรยี นขนาดเล็ก จาแนกตามแนวคิดความเป็นธรรมทางการศึกษา โดยเมือ่ พิจารณาความเปน็ ธรรมทางการศกึ ษาในแนวนอน พบวา่ การได้มาซง่ึ ทรพั ยากรมนุษย์ มีค่าความ จาเปน็ ลาดบั ท่ี 1 รองลงมา คอื การธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ และการประเมนิ ผลและพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ มคี ่าความ ต้องการจาเป็นลาดับสดุ ท้าย
ผลกำรวจิ ัย ในขณะที่ เมอื่ พจิ ารณาความเปน็ ธรรมทางการศกึ ษาในแนวต้ัง พบว่า การธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ มีค่า ความจาเปน็ ลาดับที่ 1 รองลงมา คอื การไดม้ าซึ่งทรัพยากรมนษุ ย์ และการประเมนิ ผลและพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์ มคี ่า ความตอ้ งการจาเปน็ ลาดับสุดท้าย ทงั้ นี้ จะเห็นไดว้ า่ ความต้องการจาเปน็ ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดการเสรมิ สรา้ งความเป็น ธรรมทางการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก ตามความเป็นธรรมทางการศึกษาในแนวตง้ั มีค่าความต้องการจาเปน็ สูงกวา่ ความ เป็นธรรมทางการศึกษาในแนวนอนในทุกด้านและทุกกระบวนการย่อย สว่ นความตอ้ งการจาเป็นในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดการเสริมสร้างความเป็นธรรมทางการศึกษา ของโรงเรียนขนาดเล็ก จาแนกตามท่ีต้ัง พบวา่ โรงเรยี นทต่ี งั้ ในเขตนอกเมอื งมคี า่ ความต้องการจาเป็นในลาดับที่ 1 และ โรงเรยี นที่ตั้งในเขตในเมอื งมีค่าความตอ้ งการจาเป็นในลาดบั ที่ 2 และเมอ่ื พจิ ารณารายดา้ น พบวา่ มลี ักษณะเดยี วกนั คือ การธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ มีความต้องการจาเปน็ สูงสุด รองลงมา คือ การได้มาซึ่งทรพั ยากรมนุษย์ และการประเมินผล และพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ ตามลาดบั
สรุปผลกำรวิจัย กรอบแนวคดิ การบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ย์ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ - การได้มาซึง่ ทรพั ยากรมนุษย์ - การประเมนิ ผลและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ - การธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ กรอบแนวคดิ ความเปน็ ธรรมทางการศึกษา ประกอบดว้ ย 2 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ - ความเป็นธรรมทางการศกึ ษาในแนวนอน - ความเปน็ ธรรมทางการศึกษาในแนวต้ัง
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดการเสริมสร้างความเป็นธรรมทางการศึกษาใน ภาพรวม พบว่า การบริหารทรัพยากรมนุษย์ตามความเป็นธรรมทางการศึกษาในแนวต้ังมีค่า ความต้องการจาเป็นสูงกว่าความเป็นธรรมทางการศึกษาในแนวนอนในทุกด้านและทุก กระบวนการย่อย ซ่ึงด้านท่ีมีความต้องการจาเป็นสูงสุด คือ การธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ มีความต้องการจาเป็นสูงสุด รองลงมา คือ การได้มาซึ่งทรัพยากรมนุษย์ และการประเมินผล และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตามลาดับ นอกจากน้ีโรงเรียนขนาดเล็กทั้งที่ตั้งในเขตในเมือง และนอกเมืองมีความต้องการจาเป็นในลักษณะเดียวกัน โดยการธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ มีความตอ้ งการจาเป็นสูงสุด รองลงมา คือ การได้มาซึ่งทรัพยากรมนุษย์ และการประเมินผล และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตามลาดบั
ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะในการนาผลการวิจยั ไปใช้ 1.1 กระทรวงศึกษาธิการควรกาหนดนโยบายในการธารงรักษาครูให้มีความเหมาะสมกบั การ ปฏิบตั ิงานของโรงเรียนขนาดเลก็ 1.2 สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาควรพจิ ารณาปรบั ปรุงการไดม้ าซึ่งทรัพยากรมนษุ ย์ 1.3 ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นขนาดเลก็ ควรใหค้ วามสาคัญกบั การประเมนิ ผลและพัฒนาครู 2. ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ัยคร้งั ตอ่ ไป 2.1 ควรมีการศกึ ษาวจิ ัยเรือ่ ง ข้อเสนอเชิงนโยบายหรอื กลยุทธใ์ นการบรหิ ารทรัพยากรมนษุ ย์ ของโรงเรยี นขนาดเลก็ เพือ่ ให้เกิดความเปน็ ธรรมทางการศกึ ษา 2.2 ควรมีการศกึ ษาวจิ ยั เรือ่ ง การธารงรักษาครโู รงเรียนขนาดเลก็
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: