Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปและอภิปรายบทความวิชาการภาวะผู้นำยุคใหม่และทักษะการบริหารองค์กร

สรุปและอภิปรายบทความวิชาการภาวะผู้นำยุคใหม่และทักษะการบริหารองค์กร

Published by ศุภเชษฐ์ กาญจนมณี, 2022-01-06 15:05:18

Description: สรุปและอภิปรายบทความวิชาการภาวะผู้นำยุคใหม่และทักษะการบริหารองค์กร

Search

Read the Text Version

ภาวะผนู้ ายคุ ใหม่และทักษะในการ บริหารงานในองค์กร นายศภุ เชษฐ์ กาญจนมณี รหัสนักศึกษา 6419060003 เสนอ รศ.ดร.นริ นั ดร์ จุลทรัพย์ รหัสวชิ า 906-629 รายวชิ าภาวะผู้นา ทางวชิ าการ การพัฒนาวชิ าชพี และ คุณธรรม จรยิ ธรรมทางการบริหาร มหาวิทยาลัยหาดใหญ่



ภาวะผนู้ ายุคใหมแ่ ละทกั ษะ ในการบริหารงานในองค์กร ผแู้ ตง่ ทวีสนั ต์ วิชยั วงษ์ คณะรฐั ศาสตรแ์ ละรฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏมหาสารคาม วารสารแสงอีสาน มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตอีสาน

บทคดั ยอ่ บทความนี้ มีวัตถุประสงค์ เพ่ือเล็งเห็นความสาคัญ ของภาวะผนู้ ายุคใหม่ และทักษะในการบริหารงานในองค์กร และเพ่ือให้ตระหนักถึงภาวะผู้นายุคใหม่ และทักษะในการ บริหารงานในองค์กร ผลการศึกษา พบว่า ปัจจุบันมีการ เปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามลาดับ ผู้บริหารต่างก็มี เทคนิคในการบริหารงานท่ีเก่ง ดูทันสมัยขึ้นเพ่ือให้เกิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผลย่ิงขึ้น ส่งผลทั้งทางตรง และ ทางอ้อมสาหรับประเทศไทย ทั้งในระดับองค์กรทุกภาคส่วน ทั้งภาครฐั ภาคเอกชน รฐั วิสาหกิจ ซึง่ ในความเป็นภาวะผู้นา ยุคใหม่เป็นหน้าท่ีหนึ่งในหลาย ๆ หน้าที่ของผู้บริหาร และ ผู้บริหารจะต้องมีลักษณะท่ีดีครบองค์ประกอบของผู้นา องค์กรทุก ๆ ดา้ น สรุปได้ว่า ภาวะผู้นายุคใหม่และทักษะในการ บริหารงานในองค์กร คือ ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารงานของ ผู้นาหรือผู้บริหารควรพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง ศึกษาหา ความรู้ใหม่ ๆ รวมท้ังปรับปรุงตัวเองและองค์กรให้ดีย่ิงขึ้น ต้องสามารถโน้มน้าวผตู้ ามใหล้ งมอื ทางานจนบรรลเุ ป้าหมายที่ ได้ตกลงกันด้วย ความเต็มใจ ซ่ึงต้องอาศัยเทคนิคการมีส่วน ร่วมของคนในองคก์ รเป็นสาคัญ

บทนา เนื่องจากสังคมไทยยุคปัจจุบันท่ีมีการแข่งขันสูง ภาวะผู้นาถือเป็นกาลังสาคัญท่ีจะช่วยผลักดันให้องค์กร ประสบความสาเร็จ ดังน้ัน ภาวะผู้นาจึงต้องได้รับการ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จากเดิมท่ีผู้นามีหน้าที่วางแผนและ บริหารเพ่ือให้องค์กรประสบความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ แต่สาหรับในปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม มี ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ ต่อเนื่อง ดังนั้น นอกจากความสามารถในการบริหารอย่างมี ประสิทธิภาพแล้ว ผู้นายังต้องมีวิสัยทัศน์ท่ีกว้างไกล เพื่อนามาใช้ในการวางแผนและดาเนินงานในองค์กร ได้อย่างมีประสิทธิผลและเพ่ือใช้ในการวางแผนและ ดาเนินการภายใต้กรอบทางด้านคุณภาพและความพึงพอใจ เปน็ หลกั โดยพิจารณาจาก สงิ่ สาคญั 2 ประการ คือ 1. ภาวะผู้นา ที่จะมีส่วนช่วยในการเพมิ่ ขีดความสามารถ ขององค์กร การสื่อสารภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพให้ มากย่ิงขึ้น โดยการสร้างภาวะผู้นาน้ันต้องอาศัยความตั้งใจ ความพยายาม รวมถงึ ประสบการณ์ของตัวผนู้ าเอง

บทนา (ตอ่ ) 2. การใช้ระบบการรวบรวมข้อมูลสาคัญ ๆ ตา่ ง ๆ ท้ังจากภายในและภายนอกองค์กร เพ่ือนามาใช้ในการ บริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วน้ี ทาให้บทบาทผู้นาในอดีต หรือบุคคล เพียงคนเดียว ไม่สามารถรับผิดชอบได้ ในยุคนี้จึงเน้นการ พัฒนาภาวะผู้นายุคใหม่ควบคู่กับการทางานเป็นทีมเป็นสาคัญ และในขณะเดียวกัน การติดต่อส่ือสารเป็นสิ่งสาคัญ โดยเฉพาะการส่ือสารในเรื่องของภารกิจ วิสัยทัศน์ และ ค่านยิ มต่าง ๆ ขององค์กรไปสู่พนักงานขององค์กร หากพนักงาน มีความเข้าใจ และรับรู้ไปในทิศทางเดียวกันประสิทธิภาพ ขององค์กรก็จะเพิ่มมากข้ึนและช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ในองค์กร ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการกระจายอานาจให้เหมาะสมกับ ความรับผิดชอบ ช่วยในการพัฒนาภาวะผู้นาของผู้นาในองค์กร เป็นการช่วยผลักดันให้องค์กรพัฒนาประสิทธิภาพ คนในองค์กร จะให้การยอมรับในตัวผู้นาและเต็มใจท่ีจะทางานให้องค์กร ท่ีเขาอยู่อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ และทาให้ผู้นา ไดท้ ราบถงึ ความเปน็ ไปภายในองคก์ ร ทราบถึงความคิด และ ปัญหาของผู้ที่อยู่ภายในองค์กร เพ่ือที่จะได้กาหนดกลยุทธ์ในการ ดาเนนิ การ และการแกไ้ ขได้อยา่ งถกู ต้อง

ทกั ษะในการบริหารงานในองค์กรควรมีคุณสมบัตดิ ังน้ี 1. ความรู้ 2. ความรเิ รมิ่ 3. มีความกล้าหาญและความเดด็ ขาด 4. การมมี นุษยสัมพนั ธ์ 5. มคี วามยตุ ธิ รรมและซ่อื สัตยส์ จุ ริต 6. มคี วามอดทน 7. มคี วามต่นื ตวั แตไ่ ม่ต่นื ตมู 8. มคี วามภักดี 9. มีความสงบเสงีย่ มไมถ่ อื ตัว

ความหมายของผูน้ าและภาวะผู้นา กวี วงศ์พฒุ อ้างใน ขวญั เรือง โพงขุนทด (2557 : 14-15) ได้สรปุ แนวคดิ เกยี่ วกบั ผ้นู าไว้ 5 ประการ ดงั น้ี 1. ผู้นา หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นศูนย์กลางหรือจุดรวมของ กจิ กรรมภายในกล่มุ เปรยี บเสมอื นแกนของกลมุ่ เปน็ ผมู้ ีโอกาส ติดต่อสื่อสารกับผู้อ่ืนมากกว่าทุกคนในกลุ่ม มีอิทธิพลต่อ การตดั สนิ ใจ 2. ผู้นา หมายถึง บุคคลซึ่งนากลุ่มหรือพากลุ่มไปสู่ วัตถุประสงค์หรือจุดหมายที่วางไว้ เพียงแต่ช้ีแนะให้กลุ่ม ไปสู่จุดหมายปลายทางก็ถือว่าเป็นผู้นา ท้ังน้ีรวมถึงผู้นาท่ี นากลุม่ ออกนอกล่นู อกทางด้วย 3. ผู้นา หมายถึง บุคคลที่สมาชิกส่วนใหญ่คัดเลือก หรือยกให้เขาเป็นผู้นาของกลุ่ม ซึ่งเป็นไปโดยอาศัยลักษณะ ทางสังคม มิติของบุคคลเป็นฐาน และสามารถแสดง พฤตกิ รรมของผนู้ าได้ 4. ผูน้ า หมายถงึ บคุ คลซ่ึงมีคุณสมบัติเฉพาะอย่าง คือ สามารถสอดแทรกอิทธิพลบางประการอันก่อให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงของกลุ่มไดม้ ากท่สี ุด

ความหมายของผู้นาและภาวะผนู้ า 5. ผู้นา หมายถึง บุคคลซึ่งสามารถนากลุ่มไปในทาง ท่ีต้องการ เป็นบุคคลท่ีมีส่วนร่วม และเก่ียวข้องโดยตรงต่อ การแสดงบทบาทหรือพฤตกิ รรมการเปน็ ผูน้ า ภาวะผูน้ ายคุ ใหม่ หมายถงึ นักฟังและผู้สนับสนุนท่ีดี การเปน็ ผนู้ าสมยั น้ี จึงตอ้ งเปล่ียนจาก “ผบู้ ังคับบัญชา” มาเป็น “ผู้สนับสนุน” ผู้นาแบบเก่าเคยชินกับการบอกหรือส่ังงาน เพียงอย่างเดียว ในขณะท่ี ผู้นาแบบใหม่ใช้วิธีตั้งคาถาม เปิดกว้างต่อความคิดและข้อเสนอใหม่ ๆ การสื่อสารกับ ลูกน้องในโลกยุคข้อมูลข่าวสารทาให้รู้สึกดีว่า โลกน้ี ไร้พรมแดนจริง ๆ ไม่มีกาแพงใด ๆ มาขวางก้ันความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้อีกต่อไป การท่ีผู้นาพูดคุยกับลูกน้องในลักษณะของการรู้จักป้อนคาถาม ให้ถูกจุด จับประเด็นสาคัญได้ ให้การสนับสนุน ทาให้พนักงาน รสู้ ึกมีส่วนร่วม ขยังรู้สึกวา่ ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ การบริหารองค์กรอีกด้วย พร้อมกับมีความรู้ความเข้าใจ กระบวนการหรอื กฎเกณฑ์การเปล่ียนแปลงของโลกแล้วเรา คงตอ้ งปรบั ภาวะผนู้ าของเราเองให้เป็นภาวะผ้นู ายคุ ใหม่

แนวคิดภาวะผนู้ าสมยั ใหม่ ในปัจจุบันยังมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง แนวคิดเกี่ยวกับภาวะผู้นาอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดเป็น แนวคดิ ท่สี าคัญ ๆ ดังนี้ ภาวะผู้นาแบบแลกเปลี่ยนและ แบบเปล่ยี นแปลง (มัลลกิ า ตน้ สอน , 2544 : 54) ภาวะผูน้ าแบบแลกเปลยี่ น ภาวะผนู้ าแบบเปล่ียนแปลง ภาวะผนู้ าแบบแลกเปลยี่ น ภาวะผู้นาแบบเปล่ียนแปลง คือ ผู้นาแบบเดิมที่ใช้การ คือ จะใช้ความสามารถเปล่ียน แลกเปลี่ยนโดยรางวัล ความเช่ือ ทัศนคติของสมาชิก ต่าง ๆ เป็นเครื่องมือใน เพ่ือให้สมาชิกทางานได้บรรลุ 4การชักจูงให้ผบู้ ังคับบัญชา เหนือกว่าเป้าหมายท่ีต้องการ ป ฏิ บั ติ ง า น ใ ห้ ไ ด้ ต า ม โดยผู้นาจะถ่ายทอดความคิด เป้าหมายที่ต้องการ ซึ่ง ประสบการณ์ และกระตุ้น ต่ า ง ฝ่ า ย ต่ า ง ก็ ไ ด้ รั บ ทางด้านความคิดต่าง ๆ ให้แก่ ผลประโยชน์ท่ีแลกเปล่ียน สมาชิกอย่างต่อเนื่องและเป็น กนั ระบบ

ความหมายของทกั ษะและทักษะในการบรหิ ารงาน ภายในองค์กร 1. ทักษะ หมายถึง ความสามารถในการทางาน ได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยา และ ความชานาญในการปฏิบัติจนเป็นที่เช่ือถือและยอมรับของ บคุ คลท่วั ไป 2. การบริหาร หมายถึง การยอมรับของบุคคลทั่วไป ดาเนินงานตามภารกิจท่ีไดร้ ับมอบหมายจากองค์กร โดยใช้ ทรัพยากรบุคคลและอื่น ๆ ที่มีอยู่โดยผ่านกระบวนการทางการ บริหารอย่างมีระบบเพ่ือให้การดาเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3. ทักษะการบริหาร หมายถึง ความสามารถใน การบริหารงานของผู้บริหารตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย จากองค์กรอย่างรวดเร็วและถูกต้อง โดยใช้ทรัพยากรบุคคล และอ่นื ๆ ท่ีมีอยู่โดยผา่ นกระบวนการทางการบริหารอย่าง มีระบบ เพ่ือให้การปฏิบัติงานบรรลุตามวัตถุประสงค์อย่าง มีประสิทธภิ าพและเป็นที่ยอมรับของคนท่วั ไป 4. ทักษะในการบริหารงานในองค์กร หมายถึง การท่ีผู้บริหารจะสามารถทาหน้าที่เก่ียวกับการบริหาร จัดการได้ประสบผลสาเร็จน้ัน ต้องมีทักษะท่ีดีด้านการ จดั การ ทักษะทีส่ าคัญในเบอื้ งต้นทผี่ บู้ ริหารควรมี ดงั นี้

ทักษะท่ี ทกั ษะดา้ นเทคนิค สาคัญ เบอื้ งตน้ เป็นความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ ของ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับงาน ผบู้ รหิ าร จะเป็นทักษะความสามารถเฉพาะด้านในงาน ทีท่ า เชน่ การเงิน ทรัพยากรบคุ คล เทคโนโลยี สารสนเทศ ระบบคอมพิวเตอร์ กฎหมาย การตลาด เป็นต้น ทักษะด้านเทคนิคมักเป็น ความสามารถเกย่ี วกับตวั งาน ทกั ษะด้านคน เป็นทักษะในการทาให้เกิดการประสานงานกัน ของกลุ่มท่ีผู้บริหารนั้นรับผิดชอบ เป็นการ ทางานที่เกี่ยวข้องกับเร่ืองทัศนคติ การส่ือสาร และผลประโยชน์ของบุคคลรวมทั้งเป็นทักษะ การทางานกบั คน ทกั ษะด้านความคิด เ ป็ น ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น อ ง ค์ ก ร ใ น ภ า พ ร ว ม ผู้บริหารที่มีทักษะด้านความคิดจะสามารถ เข้าใจความสัมพันธ์ของหน่วยงานต่าง ๆ ในองค์กร ว่ามีผลต่อกันอย่างไร และเข้าใจความสัมพันธ์ ระหว่างองค์กรกับปัจจัยแวดล้อมองค์กร รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในส่วนหนงึ่ ขององค์กร มีผลกระทบกับส่วนอื่น ๆ อย่างไร ทักษะด้าน ความคิดน้ีจะย่ิงมีความสาคัญมากขึ้น เมื่ออยู่ ในระดบั บริหารทีส่ ูงขนึ้

แนวคดิ ในการบริหารงานในองคก์ ร แนวคิดว่ายุคท่ีมีการเปลี่ยนแปลงสูง องค์กรต้อง สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้นได้ ส่ิงสาคัญท่ี องค์กรปัจจุบันตอ้ งการมาก คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ เกื้อหนุนการใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการแก้ปํญหา การสร้างทีมงาน และการกระจายหน่วยงานที่ใหญ่และซับซ้อนออกเป็น หน่วยงานย่อย สร้างวัฒนธรรมมุ่งเน้นการแก้ปัญหาอย่าง เป็นธรรมชาติ โธมัส เจ ปีเตอร์ส (Thomas J. Peters) และโรเบิร์ต เอช วอเตอร์แมน จูเนียร์ (Robert H.Waterman, Jr.) ในการค้นหาความเป็นเลิศในช่วงตน้ ปี 1977 พบวา่ ปัจจัย ท่ีมีผลต่อความสาเร็จในการดาเนินงานนอกจากกลยุทธ์ และโครงสร้าง ยังมีปัจจัยอื่นท่ีเก่ียวข้องสัมพันธ์เชื่อมโยง กันทง้ั หมด 7 ปัจจยั ไดแ้ ก่ 1. โครงสร้าง (structure) 2. กลยุทธ์ (strategy) 3. บคุ ลากร (staff) 4. สไตล์การจดั การ (style) 5. ระบบ (systems) 6. คา่ นยิ มร่วม (sharedvalue) 7. ทกั ษะ (skills)

แนวคดิ การจดั การในองค์กรยุคใหม่ เร่ิมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950-ปัจจุบัน เป็นยุคของการ เปลี่ยนแปลงด้านสังคมและเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และมี ความสลับซับซ้อนในองค์กรมากข้ึน จึงต้องใช้หลักทาง คณิตศาสตร์และการจัดการเชิงระบบที่มีความสัมพันธ์ซ่ึง กันและกนั โดยทฤษฎกี ารจัดการสมยั ใหม่ 3 แนวคดิ ไดแ้ ก่ 1. แนวคิดการจัดการเชิงระบบ เป็นแนวคิดท่ีมอง องค์กรเปรียบเสมือนร่างกาย กลไก และทุกภาคส่วนในองค์กร นั้นทางานต่างกันแต่ต้องพ่ึงพาอาศัยกันอยู่เสมอ ๆ โดยมี องค์ประกอบ 5 ส่วน คือ 1.Input ได้แก่ ปัจจัยนาเข้าต่าง ๆ 2.Process คือ ผ่านกระบวนการและกิจกรรมทางการบริหาร 3.Output คือ สินค้าหรือบริหาร 4.Feedback คือ ข้อมูล ป้อนกลับ และ 5.Environment คือ สภาพแวดล้อมท้ังภายใน และภายนอก ดังนั้นองค์กรจึงตอ้ งมีการปรับตวั ตามตัวแปร ทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา 2. การบริหารท่ีจาเป็นตอ้ งพง่ึ การคิดคานวณและ สถิติมาช่วยในการตัดสินใจในงานบริหาร เพ่ือป้องกันการ ผิดพลาดในการตดั สินใจ 3. เป็นวิธีการบริหารที่พัฒนามาจาก Systems Approach โดยมองว่าทุกแผนกในองค์กรมีความเกี่ยวพันกัน ต้องสอื่ สาร และพ่ึงพาอาศยั กนั

การบริหารจัดการองคก์ รใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ โธมัส เจ ปีเตอร์ส (Thomas J. Peters) และโรเบิร์ต เอช วอเตอร์แมน จูเนียร์ (Robert H.Waterman, Jr.) เขยี นในหนังสือชอ่ื In Search of Excellence. เรยี บเรียง เป็นไทยโดย วีรชัย ตนั ติวรี ะวทิ ยา (2530) คุณลักษณะ 8 ประการของเชิงการบริหารของบริษัทอเมริกันที่ประสบ ความสาเรจ็ คอื 1. มุ่งเน้นการปฏบิ ัติ 2. มีความใกล้ชิดกับลูกคา้ 3. มีความอิสระในการทางานและความรู้สึกเป็น เจา้ ของกจิ การ 4. เพมิ่ ผลผลิตโดยอาศัยพนกั งาน 5. สัมผัสกับงานอย่างใกล้ชิดและความเชื่อม่ันใน คุณค่าเป็นแรงผลักดนั 6. ทาแต่ธรุ กิจที่มีความเช่ยี วชาญและเกีย่ วเน่ือง 7. รปู แบบเรียบง่ายธรรมดา พนักงานอานวยการ หรือส่วนกลางมีจากัด 8. เขม้ งวดและผ่อนปรนในเวลาเดียวกัน

ความเปลย่ี นแปลงของภาวะผนู้ ายุคใหมก่ บั การบรหิ ารงานในองคก์ ร ในสภาวะที่มีการแข่งขันสูง ภาวะผู้นายุคใหม่ถือเป็น กาลังสาคัญท่ีจะช่วยผลักดันให้องค์กรประสบความสาเร็จ ดังนั้นภาวะผู้นาจงึ ตอ้ งได้รับการปรบั ปรุงเปลีย่ นแปลง นอกจาก ความสามารถในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ผู้นา ยงั ตอ้ งมีวสิ ยั ทัศน์ท่กี วา้ งไกลโดยอาศัยเทคโนโลยที างด้านขอ้ มลู ข่าวสารต่าง ๆ เป็นเครื่องมือในการที่จะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ โดยเน้นไปที่กระบวนการพฒั นาอย่างต่อเนื่อง โดยพจิ ารณาจาก สิ่งสาคัญ 2 ประการ คือ 1. ภาวะผู้นา ท่ีจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มขีด ความสามารถขององค์กร การสื่อสารภายในองค์กรให้มี ประสิทธิภาพให้มากยิ่งข้ึน โดยการสร้างภาวะผู้นานั้นต้อง อาศัยความตั้งใจ ความพยายาม รวมถึงประสบการณ์ของ ตวั ผ้นู าเอง 2. การใช้ระบบการรวบรวมข้อมูลสาคัญ ๆ ต่าง ๆ ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กรเพ่ือนามาใช้ในการ พัฒนาองค์กรอย่างต่อเน่ืองและมีประสิทธิภาพมากขึ้นใน สภาพแวดล้อมที่เปล่ียนแปลงรวดเร็วนี้ ในยุคน้ีจึงเน้นการ พัฒนาภาวะผู้นาควบคไู่ ปกับการทางานเป็นทีมเป็นสาคญั

ความเปล่ียนแปลงของภาวะผนู้ ายคุ ใหม่กับ การบรหิ ารงานในองค์กร ดังนั้น การท่ีภาวะผู้นาจะเกิดข้ึนได้นั้นต้องเกิด จากสภาพแวดล้อมในองค์กรมีส่วนช่วยสนับสนุน ผู้นาท่ี ต้องการพัฒนาภาวะผู้นาของตนเองจึงจาเป็นต้องให้ ความสาคญั ในเร่อื งต่อไปน้ี -ผนู้ าควรจะวางตัวให้เสมอตน้ เสมอปลาย ไม่มาก ไมน่ ้อยจนเกนิ ไป -ต้องส่ือสารความสาคัญของวิสัยทัศน์ให้แก่ พนกั งานทกุ คน -ให้ความเคารพทุกคนในองค์กรอยา่ งเทา่ เทยี มกัน -ใหค้ วามสาคญั และเปิดกว้างต่อความคิดของผู้อนื่ -ตอ้ งโปร่งใส -พยายามทาให้คนในองค์กรยอมรบั -ช่วยผลักดันและแก้ไขเพ่ือให้พนักงานประสบ ความสาเร็จในงานของเขา -กระจายอานาจแกพ่ นักงานให้เหมาะสมกับความ รบั ผดิ ชอบของเขา ซึ่งสิ่งเหล่าน้ีจะช่วยในการพัฒนาภาวะผู้นาของ ผู้นาในองค์กรและยงั ช่วยพัฒนาประสิทธภิ าพขององคก์ รด้วย

ความเปลยี่ นแปลงของภาวะผนู้ ายคุ ใหม่กับ การบริหารงานในองค์กร บทบาทของภาวะผู้นาในการบริหารงานในยุคท่ี ผ่าน ๆ มานั้น ถือว่าไม่มีบทบาทสาคัญ โดยถือว่าผู้นาเกิดข้ึน โดยกาเนิดหรือเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่ในสภาวะปัจจุบันน้ี ผู้นาสามารถเรียนรู้ ฝึกอบรม และเสริมสร้างข้ึนมาได้ ลักษณะ ของผู้นาก็แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ซ่ึงทาให้เกิดผู้นาใน แบบต่าง ๆ แต่ลักษณะของผู้นาที่เป็นท่ียอมรับ คือ ผู้นาใน ฐานะผูน้ าทาง สามารถชกั จงู ใหผ้ ้ปู ฏบิ ตั งิ านดาเนนิ งานไปพรอ้ ม ๆ กันอย่างมปี ระสิทธิภาพ ผ้นู าจะต้องเรียนรู้ส่ิงตา่ ง ๆ มากกวา่ คนอนื่ แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ได้ ดังน้ัน ผู้นาในทศวรรษหน้าจะต้องเป็นนักพัฒนาให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ละคนสามารถทางานได้เองทุกอย่าง ทั้งใน งานท่ีทาร่วมกันและงานที่ทาเฉพาะตัว จะต้องพัฒนา ผู้ใต้บังคับบัญชาให้มีความสามารถท่ีจะทางานได้เองไม่ได้ ขน้ึ อยู่กับผู้นาองค์กรหรอื หัวหน้างาน

ภาวะผูน้ ายคุ ใหม่แห่งความสาเร็จ 1. ตัดสินใจเด็ดขาด รู้จักตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ตดั สนิ ใจเร็ว ถกู ตอ้ ง และมีเหตผุ ล 2. มเี ปา้ หมายชดั เจน มีจุดยืน มีอดุ มการณ์ 3. รู้จักใช้คน ต้องรู้จักลูกน้องของตนว่าใครเหมาะ จะทาอะไร คนไหนเกง่ อะไร บกพร่องด้านใด 4. ซ่ือสัตย์ มคี วามซือ่ สัตยต์ ่อองค์กร 5. สนับสนุนลูกน้อง ต้องเปิดโอกาสให้ลูกน้องพิสูจน์ ความสามารถ และสร้างเสรมิ ความสามารถให้ลกู น้องเก่งขึ้น 6. มีมนุษยสัมพันธ์ดี รู้จักยืดหยุ่น มีอารมณ์ขัน มกี ารพบปะสังสรรคก์ นั นอกเวลางานบา้ ง เพือ่ สรา้ งสมั พันธท์ ี่ดี 7. รู้จักรับฟังความคิดเห็นของลูกน้อง ไม่ปิดก้ัน ความคิดของลูกนอ้ ง 8. บุคลิกภาพต้องดีเย่ียม เป็นผู้มีบุคลิกดี แต่งกาย เหมาะสม ดูสะอาดสะอ้าน สุภาพ น่าเช่อื ถอื และเป็นที่ยอมรับ 9. มีศิลปะในการเจรจา พูดอย่างไตร่ตรอง รู้คิด รู้สถานการณ์ รู้กาลเทศะ พดู อย่างส้ัน กระชับ ตรงประเดน็ จริงใจ 10. มีความเป็นผูน้ า ต้องมีความคิดที่เฉยี บคม ลงมือ ที่เฉียบขาด และประสานงานท่ีเฉียบแหลม ปรับตัวเข้ากับทุก สถานการณ์ เข้าใจองค์กรและเหน็ ใจผู้ร่วมงาน

สรปุ จากบทความ จากบทความจะเห็นได้ว่า ภาวะผู้นายุคใหม่ท่ีนาทักษะ การบริหารภายในองค์กร และการบริหารท่ีส่งผลไปสู่ความสาเร็จ ของการบริหารงานในองค์กร คือ ความสามารถของผู้นาท่ีจะให้ ผู้อ่ืนมีส่วนร่วมในการสร้างพันธกิจแรงจูงใจวิสัยทัศน์ การสร้าง ระบบการทางานที่มีประสิทธิผลไปในทิศทางเดียวกันเพื่อบรรลุ วัตถุประสงค์ร่วมกัน ผู้นาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นผู้นาที่มุ่งท้ัง งานและคน การเป็นผู้นาจึงเป็นศิลปะของการบริหารภายใน องค์กร มีความม่ันใจในตัวผูน้ า มีความเคารพนับถือ และให้ความ ร่วมมือกับผู้นาด้วยความจริงใจเพื่อจะได้ปฏิบัติภารกิจได้สาเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี ภาวะผู้นาย่อมเป็นปัจจัยสาคัญในการบริหารงาน ยุคใหม่ และเป็นจุดรวมพลังของทุกคนในองค์กร ส่งผลต่อ ผู้ใต้บังคับบัญชาและต่อผลงานขององค์กร คุณภาพและ คุณลักษณะของผู้นาย่อมจะมีผลสะท้อนต่อวิธีปฏิบัติงานและ ผลงานซงึ่ นาพาองค์กรไปสคู่ วามสาเร็จต่อไป

สงั เคราะหจ์ ากบทความ ภาวะผู้นายุคใหม่กับทักษะในการบริหารงานในองค์กร ซ่ึ ง มี ค ว า ม จ า เ ป็ น เ ร่ ง ด่ ว น ใ น ก า ร ท่ี จ ะ ต้ อ ง ป รั บ เ ป ลี่ ย น ห รื อ เปล่ียนแปลงตนเองเพ่ือให้ตระหนักถึงภาวะผู้นายุคใหม่และ ทกั ษะในการบรหิ ารงานในองคก์ ร รวมถงึ การบริหารจัดการยุคใหม่ ทุกวันน้ีมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้บริหารต่างก็มีเทคนิคในการ บริหารงานที่เก่ง ดูทันสมัยข้ึน และงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการจุดประกายในองค์กรก่อให้เกิด การประสบความสาเร็จในทกุ ดา้ น ภาวะผู้นายุคใหม่กับทักษะในการบริหารงานในองค์กรน้ัน คือ การเป็นผู้นาท่ีมีทักษะผู้นาเพ่ือทาตัวเองกลายเป็นผู้นาที่ดี ซ่ึงจะต้อง เก่งคน เก่งงาน และสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้า ในอาชีพนักบริหารได้ ผู้นาจะต้องมีความสามารถมากกว่าผู้ตามเสมอ ถึงจะไดร้ ับการยอมรับและไดร้ ับความศรัทธาจากผตู้ าม ดังน้ันผู้นาที่ดีหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ พัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง รวมท้ังปรับปรุงภาวะความเป็นผู้นาให้ดียิ่งข้ึน ทักษะผู้นาท่ีดีต้องสามารถโน้มน้าวผู้ตามให้ลงมือทางานจนบรรลุ ผลสาเร็จได้ตามเป้าหมายที่ได้ตกลงร่วมกันด้วยความเต็มใจ ซง่ึ อาศยั เทคนิคการมีสว่ นรว่ มของคนในองคก์ รเป็นสาคญั

บรรณานุกรม กวี วงศพ์ ุฒ อา้ งใน ขวัญเรอื ง โพงขนุ ทด. (2557). แนวคิดเกีย่ วกับ . กา รเรี ยนกา รสอนวิ ช า กา รบริ หา รจั ดกา รทา ง กา รศึ กษา . มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครราชสีมา. นครราชสมี า: 14-15. จิณณ์ณัฎ์์ พรหมนุรักษ์. (2562). Executives Communication: ทกั ษะการสื่อสาร สาหรับผู้บริหารยุคใหม.่ การอบรม. รุ่นที่ 13 วนั ศกุ ร์ ท่ี 22 มีนาคม, Learning Hub Space ถ.นางลิน้ จ่ี. ธรรมนิติ. (2560). เรื่อง ดร.ณั์วุฒิ พงศ์สิริ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายทรัพยากร บุคคลและพัฒนาองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย, นายก สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย. วารสาร HR Society Magazine กรุงเทพฯ: เมษายน. มลั ลกิ า ตน้ สอน. (2544). พฤตกิ รรมองคก์ าร. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพมิ พ.์ ยาเบ็น เรืองจรูญศรี. (2552). ภาวะผู้นาทางการศึกษา. [ออนไลน์]. http://www.kroobannok.com/blog/20426. [สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มถิ นุ ายน 2562]. วีรชัย ตันติวีระวิทยา. (2530). In Search of Excellence. กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชั่น. สถาบันฝึกอบรมแฮปปี้เทรนนิ่ง. (2562). ภาวะผู้นากับการเปลี่ยนแปลงและ การสร้างนวตั กรรม. [ออนไลน์]. ://www.happy-training.com [สืบคน้ เม่ือวนั ที่ 18 มถิ ุนายน 2562].

บรรณานุกรม (ต่อ) ส่ือสอนออนไลน์. (ม.ป.ป.). การจัดการองค์กร. [ออนไลน์]. https://sites.google.com/site/karpenphuprakxbkarlpe/hnwy-thi-3. [สบื ค้นเมอ่ื วนั ท่ี 20 มถิ ุนายน 2562]. Thomas J. Peters & Robert H. Waterman, Jr. (1985). The American Heritage Dictionary. American : 719.