สัญญากู้ยืมเงิน

วิชา กฎหมายท่ปี ระชาชนควรรู้ ส 33201 ชั้นมธั ยมศึ กษาปีท่ี 6 คุณครูศิ รพิ รรณ ธรรมานิตยก์ ุล กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึ กษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นรัตนบรุ ี

เร่อื ง สัญญาก้ยู ืมเงนิ

เร่อื ง สัญญาก้ยู ืมเงิน หลกั เกณฑ์ >> 1. กู้ยมื เงนิ เกนิ กว่า 2,000 ข้ึนไป 2. ถ้าไม่ทาํ หลักฐานเป็นหนังสือ 3. ลงลายมือชื่อผยู้ ืมเป็นสําคัญ 4. จะฟ้องรอ้ งบังคับคดไี ม่ได้

1.หลกั ฐานเป็นหนังสือ >> ไมจ่ าํ เป็นท่ผี ู้กูต้ อ้ งกระทาํ โดยเจตนา จะใช้เป็นหลัก ฐานแห่งการกกู้ ไ็ ด้ เช่น อาจเป็นเอกสาร หรอื จดหมายท่ผี กู้ ูม้ ีไปถึงผู้ให้กู้ แชทการสนทนา 2. ผูก้ ู้ตอ้ งลงลายมอื ชื่อในหนังสือนั้น >> เช่น เซ็นช่ือ หากเป็นลายพิมพ์น้ิวมอื แกงได หรอื ตราประทบั กไ็ ด้ (ตอ้ งมพี ยาน 2 คน) 3. ตอ้ งมหี ลักฐานเป็นหนังสือก่อนการฟ้อง 4. ไม่มีหลกั ฐานเป็นหนังสือ ฟ้องร้องบงั คับคดไี มไ่ ด้

ชนิ ดของสั ญญากู้ 1. สัญญากู้ยืมเงนิ ท่ไี ม่คิดดอกเบ้ยี 2. สัญญากยู้ มื เงินท่คี ิดดอกเบ้ยี

ดอกเบ้ีย คือ ค่าตอบแทนท่ผี ูย้ มื เงนิ ให้แกผ่ ้ใู ห้ยืมเงิน เพื่อตอบแทน การท่ีตนไดใ้ ช้หรอื ได้รับประโยชน์จากเงินท่ไี ดย้ ืมไป >> ดอกเบ้ียเป็นเงิน หรอื ทรพั ย์สินอนื่ กไ็ ด้ >> ไม่เกินร้อยละ 15 ตอ่ ปี >> ฝ่าฝืนดอกเบ้ยี ส่วนท่เี กินตกเป็นโมฆะ >> ในสัญญากาํ หนดให้คิดดอกเบ้ยี แตไ่ ม่ไดก้ าํ หนดอตั ราดอกเบ้ยี ไว้ กฎหมายให้คิดไดร้ อ้ ยละ 7.5 ตอ่ ปี

เกรด็ ความรู้ การคิดดอกเบ้ยี ทบตน้ ทบดอก หมายความว่า นอกจากจะคิดดอกเบ้ียในตน้ เงนิ กทู้ ่ี ยืมกนั แลว้ ยงั คิดดอกเบ้ยี ในดอกเบ้ยี ท่คี ้างชําระได้อีก ซ่ึงมี ผลทําให้ดอกเบ้ยี เพ่ิมจํานวนอย่างรวดเร็ว ซ่ึงไม่เป็นธรรม แกผ่ ู้ก้นู ัก กฎหมายจึงกาํ หนดห้ามคิด ดอกเบ้ยี ทบตน้ ทบดอก ยกเว้น >> คู่สัญญาตกลงกนั ไว้ >> ประเพณีการค้าขายให้คิดดอกเบ้ียได้ เช่น กรณีกเู้ งนิ จากธนาคาร

การนําสืบการกูย้ มื เงนิ 1. หลกั ฐานเป็นหนังสือลงลายมอื ช่ือผู้ให้กู้ 2. มกี ารแทงเพิกถอนในเอกสาร 3. ไดเ้ วนคืนเอกสารหลกั ฐานการกู้ การนํ าสื บการชําระดอกเบ้ยี หากไม่มีหลกั ฐานเป็นหนังสือ ใช้พยานบคุ คลได้